txt
stringlengths
202
53.1k
# เผย ChatGPT มีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 100 ล้านคนแล้ว เป็นแอปที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ข้อมูลนี้ไม่ได้มาจากทาง OpenAI เอง แต่เป็นการวิเคราะห์ของ UBS วาณิชธนกิจรายใหญ่ ประเมินว่า ChatGPT บริการแชตบอต AI ของ OpenAI มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 100 ล้านคน ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยตัวบริการเปิดให้ใช้งานได้ทั่วไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา UBS บอกว่าในเดือนแรกของการให้บริการ จำนวน MAUs มีประมาณ 57 ล้านคน เฉพาะวันแรกที่เปิดให้ใช้งานมีคนมาใช้ประมาณ 13 ล้านคน ด้วยอัตราดังกล่าวจึงกล่าวได้ว่า ChatGPT เป็นแอปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่มีผู้ใช้เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 100 ล้านคน ภายใน 2 เดือน เทียบกับ TikTok ใช้เวลา 9 เดือน และ Instagram ใช้เวลา 2 ปีครึ่ง คำถามต่อมาก็คือ ChatGPT จะยังเติบโตด้วยอัตราเร่งนี้ไปอีกนานแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อบริการประกาศแผนใช้งานแบบเสียเงินออกมาแล้วที่ราคา 20 ดอลลาร์ต่อเดือน ที่มา: Engadget
# อวสานบอต? Twitter ประกาศยกเลิกให้บริการใช้ API แบบฟรี โดยจะเพิ่มแผนจ่ายเงินราคาถูกมาแทน Twitter ประกาศหยุดให้บริการ Twitter API แบบฟรี มีผลทั้ง API v2 และ API v1.1 ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ทั้งนี้ Twitter บอกว่าจะออกแผนใช้งานแบบ Paid Basic มาแทนในภายหลัง แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะคิดราคาเท่าใด โดยจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า Twitter บอกว่าที่ผ่านมาหลายปี ผู้ใช้งานหลายร้อยล้านคน ได้ส่งทวีตรวมแล้วมากกว่าล้านล้านทวีต และคิดเป็นหลายพันล้านทวีตต่อสัปดาห์ ข้อมูลใน Twitter เป็นหนึ่งในชุดข้อมูลที่ทรงพลังมากที่สุด และ Twitter ก็ต้องการให้บริการเข้าถึงที่รวดเร็วและครบครัน ฉะนั้นผู้ใช้งานจะยังคงสามารถเชื่อมต่อแอปกับแพลตฟอร์มได้ ทั้งนี้การตัดสินใจปิดการใช้งาน API แบบฟรี อาจมองเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากการสั่งแบนแอป 3rd Party ก็ได้ ตามแนวทางที่ซีอีโอ Elon Musk หาวิธีการเพิ่มรายได้ Twitter รูปแบบต่าง ๆ การประกาศปิด API แบบฟรี น่าจะเห็นผลกระทบมากที่สุดกับบรรดาบอต Twitter ต่าง ๆ ซึ่งหลายบัญชีเป็นการอัพเดตข้อมูลต่าง ๆ อัตโนมัติ ซึ่งต้องดูว่าจากนี้ผู้พัฒนาเหล่านั้นจะเลือกทางใด ที่มา: The Verge
# EA ไตรมาส 4/2022 รายได้ลดลงเล็กน้อยเพราะเกมออกน้อย แต่ FIFA ยังแข็งแกร่งมาก EA เผยผลประกอบการไตรมาส 4/2022 ภาพรวมรายได้ลดลง 1% จากปัจจัยมีเกมใหญ่ออกน้อย (มีแค่ NFS Unbound และ NHL 23) แต่ธุรกิจยังแข็งแกร่งมากจากแฟรนไชส์ FIFA FIFA 23 ขายดี และกำลังจะทำสถิติยอดขายสูงสุดของซีรีส์ FIFA ทุกภาค (ไม่ได้เปิดเผยตัวเลข) แม้เป็นภาคสุดท้ายที่จะใช้ชื่อ FIFA ก็ตาม FIFA Mobile มีรายได้เพิ่มขึ้น 91%, FIFA Online 4 มีรายได้เพิ่มขึ้น 112% The Sims มีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่ม 10 ล้านคน จากการปรับ The Sims 4 มาเป็นเกมเล่นฟรี ฐานผู้เล่นเกมรวมของ EA ขยายเป็น 650 ล้านคนแล้ว ไตรมาสนี้ EA ยังประกาศปิดโครงการเกม Apex Legends Mobile, Battlefield Mobile, เลื่อนขายเกม Star Wars Jedi: Survivor ไปไตรมาสหน้า และมีข่าวลือว่ายุติโครงการ Titanfall Legends ที่มา - EA (PDF), EA
# PS5 เริ่มรองรับการคุยเสียงผ่าน Discord แล้ว ยังเปิดทดสอบเฉพาะเฟิร์มแวร์ Beta โซนี่เริ่มปล่อยอัพเดตเฟิร์มแวร์ PS5 เวอร์ชัน Beta มีของใหม่ที่สำคัญคือรองรับการคุยเสียง Discord จากเครื่อง PS5 โดยตรงแล้ว (หลังปล่อยให้ฝั่ง Xbox ทำเสร็จไปก่อนครึ่งปี) ของใหม่อย่างอื่นได้แก่ รองรับ Variable Refresh Rate (VRR) สำหรับความละเอียด 1440p, แชร์คลิปหรือภาพที่แคปบน PS5 ไปยังแอพ PlayStation บนมือถือ เพื่อให้แชร์ลงโซเชียลง่ายขึ้น, ฟีเจอร์สั่งจับภาพด้วยเสียงพูด (“Hey PlayStation, capture that!”) เป็นต้น ที่มา - PlayStation Blog, Discord
# God of War Ragnarok มียอดขาย 11 ล้านชุดแล้ว Santa Monica Studio ผู้สร้างเกมซีรีส์ God of War เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่าเกมภาคล่าสุด God of War Ragnarok มียอดขายแตะ 11 ล้านชุดแล้ว (นับรวมทั้งเวอร์ชัน PS4 และ PS5) เกมภาคก่อนหน้านี้ God of War ฉบับปี 2019 ถือเป็นเกมยอดขายสูงสุดอันดับหนึ่งของยุค PS4 และถ้านับรวมเกมเวอร์ชันพีซีด้วย ตอนนี้มียอดขายรวม 23 ล้านชุด ที่มา - Gamespot
# NASA จับมือ IBM ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศและภาวะโลกร้อน IBM ประกาศความร่วมมือกับ NASA โดยจะให้ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับโลกและข้อมูลภูมิสารสนเทศอื่น ๆ โดยจะใช้ AI ทำงานร่วมกับข้อมูลดาวเทียมสำรวจโลกของ NASA โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์แบบ Foundation Model เป็นครั้งแรก โมเดลปัญญาประดิษฐ์ของ IBM ที่ใช้ในความร่วมมือครั้งนี้ คือ Foundation Model จะถูกเทรนด้วยชุดข้อมูลจำนวนมากที่ไม่ได้จัดรูปแบบข้อมูลไว้ล่วงหน้า (unlabeled data) และสามารถจะสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปประยุกต์กับงานรูปแบบอื่นๆ ทำให้ NASA สามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นเพื่อศึกษาและจัดการกับผลกระทบของภาวะโลกร้อน ทั้ง 2 จะร่วมมือกับพัฒนาเทคโนโลยีอื่นอีก โครงการหนึ่งคือ IBM จะเทรนโมเดลปัญญาประดิษฐ์ด้วยชุดข้อมูล Harmonized Landsat Sentinel-2 (HLS) ของ NASA ที่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับพื้นดินและการใช้ที่ดิน เพื่อใช้วิเคราะห์ร่องรอยการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ อย่างภัยธรรมชาติ ผลผลิตทางการเกษตร ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเพื่อใช้ศึกษาระบบนิเวศของโลก อีกโครงการหนึ่งคือการจัดทำคลังข้อมูลเรื่องโลกและวิทยาศาสตร์ โดย IBM ได้พัฒนาโมเดล NLP ที่ได้รับการเทรนโดยใช้บทความที่ให้ความรู้เรื่องโลกเกือบ 300,000 ชิ้น เพื่อให้สามารถค้นหาข้อมูลง่ายขึ้น และโมเดลตัวเต็มได้รับการเทรนจาก PrimeQA ซึ่งเป็นระบบถาม-ตอบได้หลายภาษาของ IBM นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับสร้างโมเดลพื้นฐานเพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์สภาพอากาศโดยใช้ MERRA-2 ซึ่งเป็นชุดข้อมูลการสังเกตุการณ์สภาพบรรยากาศ โมเดลนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Open-Source Science Initiative ของ NASA ที่มุ่งแหล่งข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้ที่ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนอื่น ๆ ในอนาคต ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
# AMD เปิดราคา Ryzen 7000X3D แบบเพิ่ม V-Cache เน้นเล่นเกม ราคาเริ่มต้น 449 ดอลลาร์ AMD ประกาศราคาซีพียู Ryzen 7000X3D เวอร์ชันเพิ่มแคช L3 แบบ 3D V-Cache วางเป็นเลเยอร์ เพื่อให้แคชใหญ่ขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมมากขึ้น ซีพียูทั้ง 3 รุ่นเปิดตัวตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่ แต่เพิ่งประกาศราคา ก่อนเริ่มวางขายรุ่น Ryzen 9 สองตัวในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ และรุ่น Ryzen 7 จะตามมาในเดือนเมษายน Ryzen 7 7800X3D 8 คอร์ 16 เธร็ด, แคช 104MB, ราคา 449 ดอลลาร์ Ryzen 9 7900X3D 12 คอร์ 24 เธร็ด, แคช 140MB, ราคา 599 ดอลลาร์ Ryzen 9 7950X3D 16 คอร์ 32 เธร็ด, แคช 144MB, ราคา 699 ดอลลาร์ กรณีของรุ่น 7800X3D ไม่มีตัวเทียบตรงๆ แต่ตัวที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Ryzen 7 7700X ที่จำนวนคอร์เท่ากัน ราคา 399 ดอลลาร์ (แพงขึ้น 50 ดอลลาร์), รุ่น 7900X3D เพิ่มขึ้นมา 50 ดอลลาร์จากรุ่น 7900X ที่ราคา 549 ดอลลาร์ และรุ่นสูงสุดคือ 7950X3D ราคา 699 ดอลลาร์เท่ากับ 7950X เลย ราคาของ Ryzen 7000 รุ่นไม่มี 3D ที่เปิดตัวเดือนสิงหาคม 2022 ที่มา - Notebookcheck
# Netflix เพิ่มฟีเจอร์ Spatial Audio ให้ฟรี แต่เฉพาะสมาชิกระดับ Premium เท่านั้น Netflix ประกาศเพิ่มฟีเจอร์เสียงรอบทิศทาง Spatial Sound แบบไม่ต้องมีอุปกรณ์ช่วย ให้สมาชิกใช้งานกับหนัง-ซีรีส์กว่า 700 เรื่องที่รองรับ แต่จำกัดเฉพาะแพ็กเกจสูงสุด Premium เท่านั้น (สมาชิกระดับ Basic หรือ Standard คืออด) Netflix ใช้เทคโนโลยีจาก Sennheiser ที่ใช้กับลำโพงหรือหูฟังทั่วไปได้ ตัวอย่างหนังและซีรีส์ที่รองรับคือ Stranger Things, The Watcher, Wednesday, Knives Out: Glass Onion, You, Your Place or Mine, Luther: The Fallen Sun, Tour de France เป็นต้น นอกจากนี้ สมาชิกระดับ Premium ยังได้สิทธิเพิ่มคือขยายจำนวนอุปกรณ์ที่ดาวน์โหลดหนังแบบออฟไลน์เก็บไว้ จากเดิม 4 เพิ่มเป็น 6 อุปกรณ์ ถือเป็นอีกแรงจูงใจให้คนขยับเป็นแพ็กเกจ Premium ด้วย ที่มา - Netflix
# [ข่าวลือ] EA ยกเลิกโครงการ Titanfall Legends เกมใหม่ในซีรีส์ Titanfall เมื่อวานนี้เราเห็น EA ยกเลิกโครงการพัฒนาเกม 2 เกมคือ Apex Legends Mobile และ Battlefield Mobile แต่จริงๆ แล้วอาจยังไม่จบแค่นั้น เพราะมีข่าวไม่ยืนยันจาก Bloomberg ว่ามีโปรเจคเกม Titanfall ถูกยกเลิกอีกหนึ่งเกม โปรเจคเกมนี้เป็นผลงานของสตูดิโอ Respawn Entertainment อีกเช่นกัน ตามข่าวบอกว่าโค้ดเนมของเกมคือ Titanfall Legends ตัวย่อ TFL เป็นเกมแบบเล่นคนเดียว เนื้อเรื่องอยู่ในจักรวาล Apex Legends และ Titanfall มีทีมพัฒนาราว 50 คน หัวหน้าโปรเจคนี้คือ Mohammad Alavi หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Respawn และทีม Titanfall ตั้งแต่ภาคแรก แต่เขาลาออกไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2022 ทีมพัฒนา Titanfall Legends จะถูกย้ายไปตำแหน่งอื่นในบริษัท ส่วนคนที่ไม่สามารถหาตำแหน่งใหม่ได้จะถูกปลดออก โดยได้รับแพ็กเกจชดเชย หากข่าวนี้เป็นจริง เท่ากับว่าตอนนี้สตูดิโอ Respawn จะเหลือแต่โครงการเกม Star Wars จำนวน 3 เกมที่ประกาศไว้ โดยหนึ่งในนั้นคือ Star Wars Jedi: Survivor ที่เพิ่งเลื่อนวันขายเป็นเดือนเมษายน 2023 ที่มา - Bloomberg, VGC
# ซัมซุงเปิดตัวโน้ตบุ๊ก Galaxy Book 3 รอบนี้มีเวอร์ชัน Ultra เน้นสเปกแรง จีพียู 4070 นอกเหนือจากซีรีส์ Galaxy S23 เมื่อคืนนี้ซัมซุงยังเปิดตัวสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊ก Galaxy Book 3 ออกมารวดเดียว 3 รุ่นย่อย โดยมี Galaxy Book 3 Pro และ Pro 360 ที่เป็นเวอร์ชันอัพเกรดจากปี 2022 แล้วรอบนี้เพิ่มรุ่นย่อย Galaxy Book 3 Ultra เข้ามา Galaxy Book 3 Pro โน้ตบุ๊กสายบางเบา หน้าจอสองขนาด 14" และ 16", ซีพียู 13th Gen Core i5/i7, จีพียู Iris Xe Galaxy Book 3 Pro 360 อุปกรณ์ 2-in-1 หน้าจอ 16" พับจอได้ 360 องศา พร้อมปากกา S Pen, สเปกเหมือนรุ่น Pro, มีรุ่นย่อย 5G Galaxy Book 3 Ultra เน้นสมรรถนะสูง สเปกแรง หน้าจอ 16", ซีพียู 13th Gen Core i7/i9, จีพียู GeForce 4050/4070, แบตเตอรี่ 76Wh​ ชาร์จเร็ว 100W โน้ตบุ๊กทั้งสามรุ่นย่อยใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2x ความสว่าง 400nits, อัตรารีเฟรช 48-120Hz, ความละเอียด 3K (2880x1800) สัดส่วน 16:10 เท่ากันหมด ฟีเจอร์ฝั่งซอฟต์แวร์มี Samsung Multi Control ที่เชื่อมต่อพีซี Galaxy Book, มือถือ Galaxy, แท็บเล็ต Galaxy Tab เข้าด้วยกัน ใช้แท็บเล็ตต่อเป็นจอที่สองได้ และดึงภาพ RAW จากมือถือมายังโน้ตบุ๊กได้ทันที เป็นต้น สินค้าเริ่มขายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยังไม่ระบุราคา ที่มา - Samsung
# ChatGPT ประกาศแพ็คเกจรายเดือน ChatGPT Plus ราคา 20 ดอลลาร์ต่อเดือน ได้สิทธิเพิ่มจากแบบฟรี OpenAI เปิดบริการ subscription สำหรับการใช้งาน ChatGPT อย่างเป็นทางการในชื่อ ChatGPT Plus โดยคิดราคาที่ 20 ดอลลาร์ต่อเดือน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ChatGPT จะเปิด subscription ในชื่อ Professional Plan ที่ราคา 42 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ยังเป็นระบบรอคิวหรือ waitlist จนเปลี่ยนมาเป็น ChatGPT Plus นั่นเอง ซึ่งในตอนนั้น ChatGPT เองก็บอกว่า 42 ดอลลาร์ เป็นราคาที่สูง ผู้สมัคร ChatGPT Plus จะได้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ทั้งสามารถเข้าใช้งานได้เป็นปกติ แม้เวลานั้นจะมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก, ได้รับคำตอบที่รวดเร็วมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป และได้สิทธิเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร ChatGPT Plus จะเปิดให้สมัครใช้งานเฉพาะผู้ใช้ในอเมริกาก่อน รวมถึงผู้ที่สมัครรอใน waitlist และจะเพิ่มประเทศเร็ว ๆ นี้ ที่มา: OpenAI
# Apple TV ประกาศราคาแพ็คเกจชมฟุตบอล Major League Soccer ราคาปกติ 549 บาทต่อเดือน Apple TV ประกาศเพิ่มบริการ MLS Season Pass สำหรับรับชมการถ่ายทอดสดลีกฟุตบอล Major League Soccer ของอเมริกาและแคนาดา เริ่มต้นในฤดูกาล 2023 วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ตามที่ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์ระยะเวลา 10 ปี ก่อนหน้านี้ ผู้สมัคร MLS Season Pass จะสามารถรับชมได้ทั้งลีก MLS ฤดูกาลปกติ, Audi MLS Cup Playoffs และ Leagues Cup ครบทุกแมตช์ ตลอดจนคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง MLS Season Pass สามารถสมัครได้ผ่านแอป Apple TV ราคาอยู่ที่ 549 บาทต่อเดือนในช่วงระหว่างฤดูกาล หรือราคา 3,490 บาทต่อฤดูกาล หากเป็นสมาชิก Apple TV+ อยู่แล้ว สามารถสมัครได้ในราคาพิเศษที่ 499 ต่อเดือน หรือ 2,990 บาทต่อฤดูกาล ที่มา: แอปเปิล
# Meta รายงานผลประกอบการ: Facebook ผู้ใช้ DAUs แตะ 2 พันล้าน, ธุรกิจ Metaverse ขาดทุนมากขึ้น Meta รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2022 รายได้รวม 32,165 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,652 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขผู้ใช้งานรวมทุกแพลตฟอร์ม (Family Monthly Active People) เพิ่มเป็น 3.74 ล้านคน ขณะที่ผู้ใช้งาน Facebook แบบเป็นประจำทุกวัน (DAUs) แตะ 2,000 ล้านบัญชีเป็นครั้งแรก โดยมีการเติบโตในทุกภูมิภาค รายได้จากธุรกิจแอปดั้งเดิมยังเป็นรายได้หลักของ Meta ขณะที่กลุ่มธุรกิจใหม่ Reality Labs มีรายได้ 727 ล้านดอลลาร์ ลดลง 17% และขาดทุนจากการดำเนินงานเฉพาะส่วนธุรกิจนี้มากขึ้นเป็น 4,279 ล้านดอลลาร์ ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าเขาพอใจกับการเติบโต และจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น ในปี 2023 นี้ ธีมของการบริหารจัดการเน้นเรื่องประสิทธิภาพ เพื่อให้องค์กรแข็งแกร่งและคล่องแคล่วมากขึ้น ที่มา: Meta และ CNBC
# Galaxy S23 ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 รุ่นพิเศษ "for Galaxy" เพิ่มคล็อคจากปกติ Qualcomm ยืนยันชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่ใช้ใน Galaxy S23 เป็นรุ่นพิเศษที่เรียกว่า "Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform for Galaxy" เพิ่มคล็อคซีพียู-จีพียูให้แรงขึ้นกว่าเดิม ซีพียู Kryo เพิ่มคล็อคจาก 3.2GHz เป็น 3.36GHz จีพียู Adreno เพิ่มคล็อคจาก 680MHz เป็น 719MHz นอกจากคล็อคแล้ว ซัมซุงบอกว่าปรับแต่งชิป NPU ให้มีประสิทธิภาพต่อพลังงานดีขึ้น ปรับแต่งชิปเซ็ตในภาพรวมให้ประหยัดแบตเตอรี่ขึ้น และ Galaxy S23 เป็นมือถือตัวแรกที่เปิดใช้ฟีเจอร์ Semantic Segmentation ในชิปประมวลผลภาพ (ISP) ของ Snapdragon 8 Gen 2 ช่วยให้แยกแยะประเภทของวัตถุที่มองเห็นในกล้องได้ดีขึ้นด้วย ซัมซุงยังบอกว่าได้นำระบบระบายความร้อน vapor chamber ที่เดิมทีมีเฉพาะในรุ่น S22 Ultra ขยายมาใช้กับ Galaxy S23 ทุกรุ่นย่อย และขยายขนาดให้กว้างขึ้นเพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้น ตามธรรมเนียมของ Qualcomm จะออกชิปรุ่น Plus ที่เพิ่มคล็อคจากรุ่นปกติตามมาทีหลังอยู่แล้ว ดังนั้นชิป Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy น่าจะเดินตามแนวทางเดียวกัน ต้องรอดูกันว่าปีนี้เราจะเห็นชิปรุ่นเพิ่มคล็อคเฉพาะของซัมซุง หรือจะเห็น Snapdragon 8+ Gen 2 ตามมาภายหลังด้วย ที่มา - ZDNet, Samsung
# เปิดตัว Galaxy S23 Ultra กล้องมุมกว้าง 200 ล้านพิกเซล กล้องเทเลซูมออปติคัล 10 เท่า ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S23 Ultra โทรศัพท์รุ่นสูงสุดโดยเน้นฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพเป็นหลัก ทั้งการถ่ายภาพกลางคืนและวิดีโอความละเอียดสูง และเป็นรุ่นเดียวในกลุ่ม S23 ที่รองรับปากกา S Pen สเปครวมของ Galaxy S23 Ultra ได้แก่ ซีพียู Snapdragon 8 Gen 2 หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด QHD+ (3088x1440) รีเฟรชเรต 1-120Hz แรม 8GB หรือ 12GB กล้องหลัง 4 ตัว กล้องมุมกว้างพิเศษ 12 ล้านพิกเซล F2.2 มุมภาพ 120 องศา กล้องมุมกว้าง 200 ล้านพิกเซล F1.7 มุมภาพ 85 องศา กล้องเทเล ซูม 3 เท่า F2.4 มุมภาพ 36 องศา กล้องเทเล ซูม 10 เท่า F4.9 มุมภาพ 11 องศา ระบบกันภาพสั่นไหวมุมกว้างพิเศษ ทำให้ลดการสั่นได้ดีขึ้น เชื่อมต่อ Bluetooth 5.3, Wi-Fi 6E, และ UWB กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล F2.2 มุมภาพ 80 องศา ซอฟต์แวร์ Android 13 พร้อม One UI 5.1 แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับการชาร์จ 45W, Fast Wireless Charging 2.0, และ Wireless PowerShare กันน้ำ IP68 น้ำหนักเครื่อง 234 กรัม เปิดจองในประเทศไทยแล้ว ราคาเริ่มต้นรุ่นแรม 12GB และสตอเรจ 512GB ราคา 49,900 บาท รุ่นแรม 12GB สตอเรจ 1TB ราคา 59,900 บาท เริ่มจำหน่ายจริงวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนรุ่นแรม 8GB และสตอเรจ 256GB ยังไม่มีราคาแสดงบนหน้าเว็บ ที่มา - Samsung
# เปิดตัว Galaxy S23/S23+ ชิป Snapdragon 8 Gen 2 กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S23 และ S23+ ชูจุดเด่นกล้องคุณภาพสูงขึ้น พร้อมใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 และแรม 8GB โดยทั้งสองรุ่นขนาดเครื่องต่างกันเล็กน้อยแต่หน้าจอความละเอียดเท่ากัน Galaxy S23 ทั้งสองรุ่น หน้าจอ Flat FHD+ (2340x1080) อัตรารีเฟรช 48-120Hz ความสว่าง 1,750 nits กระจก Gorilla Glass Victus 2 กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 3 ตัว เลนส์มุมกว้างพิเศษ 12 ล้านพิกเซล F2.2, เลนส์มุมกว้าง 50 ล้านพิกเซล F1.8, และกล้องเทเลโฟโต้ 10 ล้านพิกเซล F2.4 พร้อมออปติคัลซูม 3 เท่า ตัวเครื่องกันน้ำ IP68 (ทดสอบใต้น้ำจืด 1.5 เมตร 30 นาที) เชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 และ Wi-Fi 6E รองรับการชาร์จไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 และ Wireless PowerShare ซอฟต์แวร์เป็น Android 13 พร้อม One UI 5.1 รองรับโหมดส่งเครื่องซ่อมตั้งแต่แรก พร้อมอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยนาน 5 ปี กล้องหน้ามีโหมดเซลฟี่กลางคืน, กล้องหลังรองรับทั้งการถ่ายพอเทรตกลางคืนและการถ่ายวิดีโอในที่มืด Galaxy S23 หน้าจอ 6.1 นิ้ว มีความจุให้เลือกคือ 128GB และ 256GB แบตเตอรี่ 3,900mAh รองรับ Super Fast Charging (25W) น้ำหนัก 168 กรัม ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท Galaxy S23+ หน้าจอ 6.6 นิ้ว ความจุให้เลือก 256GB และ 512GB แบตเตอรี่ 4,700mAh รองรับ Super Fast Charging 2.0 (45W) น้ำหนัก 196 กรัม ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท ทั้งสองรุ่นเปิดจองในประเทศไทยแล้ว มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Cream, Phantom Black, Green, Lavendor, Graphite, และ Lime ที่มา - Samsung
# กฎซับซ้อนไม่ช่วยอะไร พบรหัสผ่านยอดนิยมกระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯ คือ "Password-1234" สำนักงานผู้ตรวจการกระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯ (Department of Interior - DOI) รายงานถึงการตรวจสอบรหัสผ่านในระบบพบว่ามีการใช้รหัสผ่านที่อ่อนแอจำนวนมาก และผู้ตรวจสอบสามารถหารหัสผ่านจากค่าแฮชได้ถึง 16% ของผู้ใช้ทั้งหมดที่มีอยู่ 85,944 คนได้ภายใน 90 นาที และเมื่อหารหัสต่อไปก็สามารถหารหัสผ่านเจอถึง 21% ของผู้ใช้ทั้งหมด รหัสผ่านยอดนิยมมักเป็นคำว่า "password" ผสมกับ "1234" ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ผ่านกฎความซับซ้อนรหัสผ่านไปเรื่อยๆ เฉพาะ "Password-1234" (มีตัวใหญ่, ตัวเล็ก, เครื่องหมาย, และตัวเลข) มีการใช้งานถึง 478 ครั้ง ทาง DOI มีมาตรฐานภายในกระทรวงระบุให้รหัสผ่านต้องยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร ต้องประกอบตัวประเภทตัวอักขระตัวเล็ก, ตัวใหญ่, ตัวเลข, และเครื่องหมาย อย่างน้อย 3 ใน 4 ประเภท พร้อมกับบังคับเปลี่ยนรหัสผ่านทุก 60 วัน การตรวจสอบก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถหารหัสผ่านเจอสูงถึง 20-40% รอบนี้จึงอาจจะพอถือว่าได้มีการปรับปรุงขึ้นแต่ก็ยังนับว่ามีรหัสผ่านอ่อนแอจำนวนมาก แต่ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือมีบัญชีจำนวนมากที่ไม่มีการใช้งาน ไม่ได้ล็อกอินนานเกิน 45 วันแต่ไม่ถูกปิดบัญชีตามมาตรฐานความปลอดภัย รายงานแนะนำให้บังคับใช้การล็อกอินแบบ MFA ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ปรับนโยบายเป็นตามมาตรฐาน NIST SP800-63 ที่ระบุว่าให้เลิกกำหนดความซับซ้อนรหัสผ่าน แต่ให้ไปตรวจสอบเอาว่าผู้ใช้ได้ใช้รหัสผ่านที่เคยหลุดออกไปมาก่อนหรือไม่ ที่มา - DOI-OIG
# Netflix ให้ข้อมูลเพิ่มเติมระบบป้องกันหารบัญชี ตรวจสอบยังไง และต้องทำอะไรบ้าง Netflix พูดเรื่องระบบป้องกันการหารบัญชี มาระยะหนึ่งแล้ว และบอกว่าจะมีผลภายในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ โดยทางเลือกที่ให้คือผู้ใช้ต้องสร้างบัญชีแยก แล้วจ่ายเงินรวมกันเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ระบบดังกล่าว Netflix ทดสอบมาระยะหนึ่งแล้วในประเทศกลุ่มลาตินอเมริกา แต่คราวนี้ Netflix ให้รายละเอียดที่มากขึ้น ว่าแบบไหนเรียกว่าบัญชีหาร และตรวจสอบอย่างไร โดย Netflix อัพเดตรายละเอียดกฎการใช้งาน ในกลุ่มประเทศที่เริ่มเปิดใช้ระบบป้องกันการหารบัญชีแล้ว เช่น เปรู ชิลี ซึ่งทำให้เห็นภาพมากขึ้น รายละเอียดดังนี้ Netflix อนุญาตให้หารบัญชีได้ แต่การรับชมต้องอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกัน ผู้ใช้งานต้องกำหนดจุดรับชมหลัก (Primary Location) โดยแนะนำเป็นทีวีที่ต่อ Wi-Fi และล็อกอิน Netflix ไว้ ระบบจะใช้ IP นี้เป็นหลักในการตรวจสอบ ถ้าไม่มีทีวีก็จะดูข้อมูล IP แต่ละอุปกรณ์แทน อุปกรณ์ที่ชม Netflix ต้องเคยดูผ่าน Wi-Fi ที่เป็น IP เดียวกับจุดรับชมหลัก อย่างน้อยทุก 31 วัน เพื่อให้เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ (Trusted Devices) แต่หากถูกบล็อกด้วยเหตุผลใด จะต้องติดต่อ Netflix เพื่อขอปลดบล็อก การรับชมนอกบ้านขณะเดินทาง ผ่านอุปกรณ์ที่แตกต่าง หรือไม่เคยต่อ Wi-Fi ที่จุดรับชมหลักมาก่อน เช่น ทีวีในโรงแรม ก็สามารถทำได้ โดยขอรหัสผ่านชั่วคราวเพิ่มเติม ใช้ดูได้เป็นเวลา 7 วัน กรณีอยู่บ้านคนละหลัง แต่ยังต้องการแชร์ค่าใช้จ่ายกัน ให้ใช้วิธีสร้างบัญชีใหม่แยก และ Netflix จะคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากเดิมอีกเล็กน้อย (ประมาณ 3 ดอลลาร์ต่อเดือน) อัพเดต: Netflix ปรับปรุงเนื้อหาใน Help Center โดยลบ รายละเอียดการเชื่อมต่อทุก 31 วัน ขณะที่ตัวแทนของ Netflix ชี้แจงว่าการเปิดใช้ระบบป้องกันหารบัญชีจะเริ่มภายในไตรมาสนี้ (ที่มา: The Verge) ที่มา: TechCrunch
# อินเทลลดค่าใช้จ่าย หั่นค่าตอบแทนผู้บริหารตั้งแต่ 5%, ซีอีโอ Pat Gelsinger ยอมลด 25% อินเทลประกาศลดค่าตอบแทนพนักงานระดับผู้จัดการ โดยผู้จัดการระดับกลาง (mid-level) ลด 5%, ผู้จัดการอาวุโส 10%, ผู้บริหารระดับสูงลด 15% และซีอีโอ Pat Gelsinger ลด 25% เหตุผลของการลดค่าตอบแทนก็เพื่อลดค่าใช้จ่าย เตรียมพร้อมต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย อินเทลเพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2022 ที่รายได้ลดลงจากปีก่อนถึง 32% จนทำให้บริษัทขาดทุน 661 ล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ Tim Cook เพิ่งประกาศขอรับค่าตอบแทนในปี 2023 ลดลงจากเดิม 40% และมีบริษัทใหญ่ในธุรกิจอื่นๆ ประกาศลดค่าตอบแทนของซีอีโอ เช่น Goldman Sachs ลดค่าตอบแทนลง 30% ที่มา - Bloomberg
# ไปอีกเกม Rumbleverse เกมต่อสู้ Battle Royale แนวการ์ตูน ปิดบริการหลังเปิดมาแค่ 6 เดือน ปิดตัวไปอีกเกมกับ Rumbleverse เกมแนว Battle Royale ภาพสไตล์การ์ตูน ที่พัฒนาโดย Iron Galaxy และจัดจำหน่ายโดย Epic Games หลังจากเปิดบริการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2022 หรือประมาณ 6 เดือนเท่านั้น Rumbleverse เป็นเกมมัลติเพลเยอร์แบบ free-to-play ผู้เล่น 40 คนต่อหนึ่งแผนที่ ต้องต่อสู้กันเพื่อหาผู้ชนะคนสุดท้าย จุดต่างสำคัญกับเกม Battle Royale อื่นในตลาดคือไม่มีอาวุธปืน ต้องต่อสู้ระยะประชิดตัวเท่านั้น เกมจะปิดบริการในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2023 โดยผู้เล่นที่มีเงินค้างอยู่ในระบบสามารถขอคืนเงินได้ ที่มา - Rumbleverse via Gamespot
# [ลือ] Acer จะทำการ์ดจอ Radeon ขายใต้แบรนด์ Predator มีข่าวลือจากวงการฮาร์ดแวร์ฝั่งจีนว่า Acer เตรียมบุกตลาดการ์ดจอ โดยจะผลิตการ์ด AMD Radeon ขายในแบรนด์ Predator เอาเข้าจริง Acer อยู่ในธุรกิจการ์ดจอตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังมีเฉพาะการ์ด Intel Arc เพียงสองรุ่น (A770 และ A380) เท่านั้น ข่าวล่าสุดคือจะหันมาผลิตการ์ด Radeon ที่น่าจะมีฐานลูกค้ากว้างขึ้นกว่าเดิม (แต่ยังไม่มีฝั่ง GeForce) โดยคาดกันว่าน่าจะทำตลาดการ์ดระดับกลาง Radeon 7700/7800 ก่อน ที่มา - Videocardz via Notebookcheck ภาพการ์ด Intel Arc ของ Acer Predator
# [ลือ] Halo จะย้ายไปใช้ Unreal แทนเอนจินเดิมที่บั๊กเยอะ, กำลังทำเกมใหม่เน้นมัลติเพลเยอร์ Jason Schreier นักข่าวสายเกมของ Bloomberg ให้ข้อมูลวงในของสตูดิโอ 343 Industries ผู้รับผิดชอบซีรีส์ Halo ที่กำลังประสบปัญหาในช่วงนี้ ทั้งปัญหาความล่าช้าของการพัฒนาเกม Halo Infinite หลังวางขาย, โดนปลดพนักงาน และข่าวลือว่าถูกปรับโครงสร้างหน้าที่การพัฒนา Halo (ไมโครซอฟท์ยืนยันว่ายังให้ทำ Halo ต่อ) Schreier ระบุว่าต้นตอหลักของปัญหามาจากเอนจิน Slipspace ของสตูดิโอเองที่ใช้โค้ดเก่าสะสมมาตั้งแต่ยุค 90s ทำให้ตอนนี้ล้าสมัย ใช้งานยาก เต็มไปด้วยบั๊ก และทำให้เกม Halo Infinite ล่าช้า ตอนนี้บางโหมดของเกม Halo Infinite อย่าง Extraction และ Assault ที่เคยมีในภาคก่อนๆ พัฒนาจนเกือบเสร็จแล้ว แต่ออกไม่ได้เพราะปัญหาบั๊กที่ระดับเอนจิน ทางแก้ของ 343 Industries ที่พูดคุยกันมานานแล้วคือการเปลี่ยนมาใช้เอนจิน Unreal ซึ่งกำลังเกิดขึ้นแล้วในโปรเจคใหม่โค้ดเนม Tatanka เป็นเกมมัลติเพลเยอร์แนว Battle Royale ที่กำลังพัฒนาร่วมกับสตูดิโอภายนอก Certain Affinity อยู่ในตอนนี้ และอนาคตเราอาจเห็นเกมอื่นๆ ในซีรีส์ Halo ตามมาใช้เอนจิน Unreal ด้วย Schreier ยังบอกว่าเดิมทีไมโครซอฟท์วางแผนอัพเดตเนื้อเรื่องให้ Halo Infinite ต่อไปอีกนาน แต่หลังปัญหาในกระบวนการพัฒนาและการบริหารสตูดิโอ เราอาจได้เห็นอายุของ Halo Infinite ที่สั้นลงกว่าแผนเดิม เพราะสตูดิโอหันไปโฟกัส Halo ภาคใหม่ที่ใช้เอนจินใหม่แทน ที่มา - Bloomberg
# รู้จักวัฒนธรรมการทำงานของ SkillLane เบื้องหลังความสำเร็จธุรกิจเรียนออนไลน์ที่โตได้เร็วมาก การเรียนออนไลน์เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวกับชีวิตของคนทั่วไปมากขึ้น ความรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยระบบการศึกษาแบบเดิมที่ต้องเรียนผ่านห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังมีช่องทางอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน ความนิยมในการเรียนออนไลน์นี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก เช่นเดียวกับในประเทศไทย ที่มี SkillLane เป็น Online Learning Platform อันดับ 1 ของประเทศ SkillLane เป็นบริษัท Online Learning Platform อันดับ 1 ของไทย ให้บริการกับผู้เรียนมากกว่า 600,000 คน ด้วยคอร์สเรียนออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ มากกว่า 2,000 คอร์ส ใน 14 หมวดหมู่ จากผู้สอนมากกว่า 500 คน ซึ่งหากเจาะลึกลงไปจะพบว่า SkillLane เป็นธุรกิจ EdTech ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยรายได้เกิน 100 ล้านบาท และทำกำไรเติบโตเกิน 100% ในปี 2563 ที่ผ่านมา สตาร์ทอัพการศึกษาจากไทย ที่เติบโตมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก นอกจากการเติบใตในรายได้และกำไรแล้ว SkillLane ยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 36 จาก 500 บริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2021 ด้วยอัตราการเติบโต 1,231.9% โดย Financial Times และ Nikkei Asia การเติบโตของ SkillLane นี้ มีฐานสำคัญจากบริการเรียนออนไลน์ที่ครอบคลุม 4 รูปแบบ คือ SkillLane for Public คอร์สเรียนออนไลน์สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการเพิ่มความรู้ หรือทักษะตามความสนใจ โดยในปัจจุบันมีคอร์สเรียนในลักษณะนี้มากกว่า 2,000 คอร์สแล้ว SkillLane for Business คอร์สเรียนออนไลน์สำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มความรู้ หรือทักษะของพนักงาน ให้บริการแก่องค์กรที่มีชื่อเสียงในตลาดหลักทรัพย์ (SET100), หน่วยงานรัฐ รวมถึงบริษัทข้ามชาติ TUXSA หลักสูตรปริญญาโทออนไลน์ที่ SkillLane ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอบโจทย์ผู้เรียนในยุคสมัยใหม่ และนับว่าเป็นหลักสูตรปริญญาโทออนไลน์ครั้งแรกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกด้วย SkillLane CPD คอร์สเรียนออนไลน์ สำหรับการอบรมเก็บชั่วโมงวิชาชีพ เป้าหมายสำคัญของ SkillLane คือ ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างสะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าที่ไหน และเมื่อไหร่ เพื่อพัฒนา และดึงศักยภาพของคนทำงานออกมาอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าด้วยเป้าหมาย และบริการเรียนออนไลน์ทั้ง 4 รูปแบบนี้ รวมถึงความต้องการเรียนออนไลน์ในปัจจุบันที่กลายเป็นเทรนด์ในระดับโลก ทำให้ SkillLane กลายเป็นบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทยเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถสร้างรายได้ในระดับ 100 ล้านบาท และสามารถทำกำไรต่อเนื่องนานหลายปีติดต่อกัน แม้ในปัจจุบัน SkillLane กำลังอยู่ในช่วงสร้างทีม และมีจำนวนพนักงานไม่มากก็ตาม คำถามที่เกิดขึ้นคือ ด้วยอัตราการเติบโตที่สูงจนติดอันดับของ Financial Times และ Nikkei Asia SkillLane มีวัฒนธรรมแบบไหน ถึงสามารถสร้างธุรกิจที่ครอบคลุมในตลาดการเรียนออนไลน์ และเติบโตได้เร็วมากขนาดนี้ การจะตอบคำถามนี้ได้ต้องพาไปรู้จักกับวัฒนธรรมการทำงานของ SkillLane ที่เรียกทีมงานของตัวเองว่า SkillLers คำว่า SkillLers นี้ เป็นคำที่ SkillLane ใช้เรียกทีมงานของตัวเอง ซึ่งเป็น กลุ่มคนที่มีวัฒนธรรมการทำงานแบบ กล้า พร้อมลุย และสนุกไปกับสิ่งที่ทำ กล้า ลุย สนุก วิธีการทำงานแบบ SkillLers ของ SkillLane หากต้องการเข้าใจความเป็น SkillLers ให้ชัดเจนมากขึ้น ก็ต้องเปรียบเทียบว่า SkillLers เป็นคนทำงานที่ กล้า ชอบลุย และสนุก กล้า สามารถทำเรื่องที่คนอื่นมองว่ายาก จนไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ให้สำเร็จ ชอบคิดค้น ชอบทดลอง ชอบความท้าทาย และตื่นเต้นไปกับการทำงาน ตัวอย่างความกล้าของ SkillLane ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือความกล้าในการเริ่มต้นทำหลักสูตรเรียนปริญญาโทออนไลน์ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ในขณะที่ SkillLane เป็นบริษัทเล็กๆ มีพนักงานจำนวนไม่มาก แต่ก็ใช้ความกล้าที่มีเป็นแรงผลักดันจนเกิดเป็น TUXSA ขึ้นมาได้จริง เพราะต้องการทำให้คนไทยเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา และองค์ความรู้ใหม่ๆ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ และเวลา รวมถึงใครๆ ก็เรียนได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น ชอบลุย ไม่กลัวที่จะทำอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ผ่านอุปสรรคในการทำงานไปพร้อมๆ กับทีม ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ในวันที่ SkillLane for Business มีลูกค้ารายแรกซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก เคล็ดลับความสำเร็จของ SkillLane ที่ตัวเล็กกว่า คือต้องลุยกว่าคนอื่น ซึ่งลุยในที่นี้หมายถึงการมอบความใส่ใจ จริงใจ และเข้าใจลูกค้ามากกว่าคนอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ของลูกค้าองค์กร ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ลูกค้ารายแรกนั้นก็นำ Learning Platform ของ SkillLane ไปใช้กับพนักงานทั้งองค์กร สนุก ไปกับสิ่งที่ทำ ให้คุณค่ากับความสำเร็จ ฉลองให้กับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ในการทำงานอยู่เสมอ ไม่มีวันทำงานวันไหนไม่มีเรื่องสนุก ทีมของ SkillLane ยกตัวอย่างว่าการทำงานมีเรื่องสนุกได้ทุกวัน โดยเฉพาะการฉลองให้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น มีเพื่อนร่วมงานใหม่ หรือมีใครทำงานครบรอบปีก็ฉลองกันได้ นอกเหนือจากความสำเร็จเรื่องงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งในยุคก่อนโควิด-19 ระบาด จะมีการนัดออกไปกินข้าวด้วยกัน หรือสั่งอาหารเข้ามาที่สำนักงาน ส่วนในช่วง Work From Home SkillLane ก็สั่งอาหารส่งตรงถึงบ้านทีมงานแต่ละคนเลยทีเดียว นอกจากการทำงานแบบ กล้า ชอบลุย และสนุกไปกับสิ่งที่ทำแล้ว แน่นอนว่า SkillLers จะต้องเป็นคนที่ทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี รวมถึงทำงานกันแบบ Agile มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมๆ กับการรับฟังความเห็นของพนักงานทุกคน ที่สามารถพูดคุย และแชร์ความเห็นกันได้แบบสบายๆ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ SkillLers จะได้คือการเติบโตไปพร้อมๆ กัน ทั้งจากการทำงาน และการเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ สรุป SkillLane Online Learning Platform อันดับ 1 ของไทย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง กับเป้าหมายที่ต้องการพัฒนา และดึงศักยภาพของคนทำงานออกมาอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าเมื่อไหร่ และที่ไหนก็ตาม การจะทำตามเป้าหมายนี้ SkillLers จึงกลายเป็นคนทำงานที่ SkillLane มองหา ด้วยวัฒนธรรมการทำงานแบบ กล้า ชอบลุย และสนุก รวมถึงต้องมีความยืดหยุ่น และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อสร้างความคิดที่กลายเป็นจริง และส่งผล Impact ทำให้การเรียนออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้น และดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของผู้เรียนออกมาได้จริง หากใครสนใจเรื่องราวของ SkillLane และชีวิตการทำงานของ SkillLers รวมไปถึงตำแหน่งงานที่น่าสนใจในบริษัท Tech ชั้นนำของคนไทย สามารถติดตามได้ที่ Life at SkillLane https://www.facebook.com/LifeatSkillLane https://www.skilllane.com/career #SkillLane #SkillLers #LifeAtSkillLane
# ฟอนต์ Noto ของกูเกิล รองรับเกิน 1,000 ภาษาแล้ว เกือบครบทุกภาษาที่มนุษย์ใช้เขียนกัน กูเกิลประกาศว่าโครงการฟอนต์โอเพนซอร์ส Noto ที่ริเริ่มในปี 2012 ออกตัวเต็มในปี 2016 และมีภาษาไทยในปี 2018 รองรับภาษาเขียนมากกว่า 1,000 ภาษาแล้ว เรียกได้ว่าครอบคลุมเกือบทุกภาษาในโลก ชื่อฟอนต์ Noto มาจากคำว่า "No Tofu" หมายถึงเป้าหมายของฟอนต์ที่ครอบคลุมอักขระทุกตัวในโลก ไม่มีอักขระว่างที่แสดงผลไม่ได้เป็นกล่องสี่เหลี่ยม (เหมือนเต้าหู้) อีกต่อไป ตอนนี้ Noto มีฟอนต์ครอบคลุมระบบการเขียน (writing system) จำนวน 151 ระบบ เกือบครบทั้งหมดตามที่ระบุใน Unicode 160 ระบบแล้ว ผลของการที่ Noto ครอบคลุมภาษาจำนวนมาก ทำให้กูเกิลโฆษณาว่าบริการในเครือ Google Workspace (Docs, Sheets, Slides) ก็รองรับการพิมพ์เกือบทุกภาษาในโลกแล้วเช่นกัน (ต้องเลือกเพิ่มฟอนต์ Noto ที่ต้องการในเอกสารก่อน ตามภาพ) นอกจากใน Google Workspace แล้ว ฟอนต์ยังสามารถเรียกได้จาก Google Fonts (ตัวอย่าง) หรือดาวน์โหลดไฟล์ฟอนต์ไปใช้แบบออฟไลน์ได้จาก GitHub ที่มา - Google
# EA ยกเลิกโครงการ Battlefield Mobile, ยุบสตูดิโอ Industrial Toys ที่พัฒนาเกม นอกจากการปิดบริการเกมมือถือ Apex Legends EA ยังประกาศปิดโครงการ Battlefield Mobile ที่ยังไม่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมยุบสตูดิโอผู้พัฒนา Industrial Toys ที่ EA ซื้อกิจการมาในปี 2018 ด้วย Industrial Toys เป็นสตูดิโอที่ก่อตั้งเมื่อปี 2012 โดย Alex Seropian, Tim Harris, Brent Pease ทีมผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Bungie และผู้สร้าง Halo ยุคแรก สตูดิโอแห่งนี้มีผลงานเกมมือถือ Midnight Star ออกในปี 2015 หลังจากนั้นโดน EA ซื้อแล้วมอบหมายให้ทำ Battlefield Mobile จากนั้นก็โดนปิดในที่สุด EA ระบุว่าปรับยุทธศาสตร์ใหม่ของ Battlefield ให้ ecosystem เชื่อมต่อกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งเว็บไซต์ VentureBeat วิเคราะห์ว่าหมายถึงการรวมเอนจินของเกม Battlefield เวอร์ชันพีซี คอนโซล มือถือ ให้เป็นเอนจินเดียวกัน (ไม่แยกเป็นเวอร์ชันมือถือเฉพาะ) และเล่นร่วมกันได้ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์เดียวกับที่คู่แข่งฝั่ง Call of Duty กำลังเริ่มทำอยู่เช่นกัน ที่มา - EA, VentureBeat
# Twitter ประกาศปิดฟีเจอร์ CoTweets ที่ 1 ทวีต แสดงข้อมูลว่าทวีตร่วมกันโดย 2 บัญชี Twitter อัพเดตข้อมูลในหน้า Help Center ระบุว่าฟีเจอร์ CoTweets ที่ผู้ใช้งานสามารถทวีตข้อความเดียวกัน แล้วให้แสดงผลได้ใน 2 บัญชี พร้อมระบุว่าเป็นการร่วมกันทวีต จะปิดการทำงานมีผลทันที ทั้งนี้ CoTweets ยังมีสถานะเป็นฟีเจอร์ทดสอบ จำกัดกลุ่มผู้ใช้งาน แต่ได้รับความสนใจเพราะมีลักษณะคล้ายกับ Instagram ที่แบรนด์จะทำร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่เปิดตัวก่อนที่ Elon Musk จะมาซื้อกิจการ Twitter Twitter บอกว่าการปิดฟีเจอร์นี้ มีผลกับทวีตที่เดิมเป็น CoTweets ด้วย โดยจะเปลี่ยนมาแสดงผลแบบปกติ คือทวีตโดยบัญชีเดียว ที่มา: The Verge
# PayPal ประกาศปลดพนักงาน 2,000 คน ระบุจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย Dan Schulman ซีอีโอ PayPal ส่งอีเมลถึงพนักงานทุกคน แจ้งว่าบริษัทจะปลดพนักงานประมาณ 2,000 คน คิดเป็น 7% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก โดยแต่ละฝ่ายจะได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน บริษัทบอกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา PayPal ได้ปรับโครงสร้างองค์กรให้พร้อมรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่มีความท้าทายมากขึ้นมาตลอด ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังลงทุนในสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ที่มา: PayPal
# OpenAI เปิดตัวเครื่องมือ สำหรับแยกแยะว่าบทความนี้ เขียนด้วย AI หรือเขียนด้วยมนุษย์ หลังจากหลายคนแสดงความกังวล OpenAI ก็ไม่รอช้า เปิดตัวเครื่องมือสำหรับจำแนก (Classifier) ว่าข้อความตัวหนังสือนั้น เขียนโดยมนุษย์ หรือใช้เครื่องมือ AI ช่วยในการเขียน (รวมทั้ง ChatGPT ด้วย) ซึ่ง OpenAI ก็ยอมรับว่าไม่มีทางตรวจสอบได้ครบทุกกรณี แต่น่าจะช่วยลดปัญหาบทความที่เขียนด้วย AI แต่บอกว่าใช้คนเขียน ซึ่งสามารถส่งผลรุนแรงได้ในบางกรณี OpenAI ย้ำอีกครั้งว่าเครื่องมือนี้ยังไม่สามารถเชื่อถือได้เต็มรูปแบบ (Fully Reliable) ผลทดสอบด้วยชุดข้อมูลภาษาอังกฤษ พบว่าตรวจจับบทความที่ใช้ AI เขียน ได้ถูกต้อง 26% ขณะที่มีความผิดพลาด ระบุว่าบทความใช้ AI เขียนทั้งที่ใช้คนเขียน 9% (False Positive) จึงยังไม่แนะนำให้ใช้เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือหลักในการทำข้อสรุป ว่าบทความนั้น ๆ ใช้ AI เขียนหรือไม่ นอกจากนี้ OpenAI บอกว่าเครื่องมือดังกล่าวมีข้อจำกัดหลายอย่างที่พบ เช่น เมื่อบทความสั้นมาก (น้อยกว่า 1,000 ตัวอักษร) จะแยกแยะไม่ถูกต้องบ่อยครั้ง, ตอนนี้รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ, บทความที่สามารถระบุเนื้อหาชัดเจน เช่น จำนวนเฉพาะ 1,000 ตัวแรก ต่อให้เป็น AI หรือคนเขียน เนื้อหาก็จะออกมาเหมือนกัน จึงแทบจะจำแนกไม่ได้เลย และอนาคต AI ก็ยังสามารถเรียนรู้เพื่อปรับคำหลบเลี่ยงการตรวจจับได้ ซึ่งชุดข้อมูลที่ใช้เทรนก็ต้องปรับตามให้ทัน สามารถทดลองใช้งาน Classifier ของ OpenAI ได้ที่นี่ (ต้องล็อกอินบัญชี OpenAI) ที่มา: OpenAI
# AMD ไตรมาส 4/2022 รายได้รวมโต 16% - กลุ่มพีซีรายได้ลดมาก แต่ Data Center ยังเติบโต AMD รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2022 รายได้รวมตามบัญชี GAAP 5,599 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 21 ล้านดอลลาร์ สาเหตุที่กำไรลดลงมากเนื่องจากมีรายการตัดขาดทุนสินทรัพย์ ที่มาจากการซื้อกิจการ Xilinx รายได้จากกลุ่มธุรกิจ Data Center เพิ่มขึ้น 42% เป็น จากยอดขายกลุ่ม EPYC สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ส่วนกลุ่ม Client รายได้ลดลงถึง 51% เป็น 903 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง AMD ระบุว่ามาจากความต้องการพีซีในตลาดที่ลดลง กลุ่มเกมมิ่งรายได้ลดลง 7% เป็น และกลุ่ม Embedded รายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเป็น เนื่องจากรวมรายได้ของ Xilinx เข้ามา Lisa Su ซีอีโอ AMD ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการ บอกว่าบริษัทประเมินภาพรวมตลาดพีซีปีนี้จะลดลง 10% พร้อมบอกว่าภาพรวมตลาดตอนนี้ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตามเนื่องจากความต้องการแต่ละกลุ่มแตกต่างกัน บริษัทจึงมั่นใจว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มอีกในปีนี้ โดยเฉพาะจากกลุ่ม Data Center และ Embedded ที่มา: AMD และ CNBC
# สองผู้ก่อตั้ง Instagram กลับมาแล้ว เปิดตัวแอพอ่านข่าว Artifact ใช้ AI คัดเลือกข่าว Kevin Systrom กับ Mike Krieger สองผู้ก่อตั้ง Instagram ที่ลาออกจาก Facebook ในปี 2018 แล้วเงียบหายไปสักพักใหญ่ๆ กลับคืนสู่วงการอีกครั้ง เปิดตัวแอพใหม่ชื่อ Artifact เป็นแอพอ่านข่าวที่คัดเลือกเนื้อหาด้วยพลัง AI ชื่อ Artifact มาจากการผสมของคำว่า articles, facts, artificial intelligence โดยตอนนี้ยังเปิดทดสอบในวงปิด (private beta) แนวคิดของ Artifact คือผู้ใช้เลือกหัวข้อข่าว (topic) ที่ตัวเองสนใจ จากนั้นแอพจะใช้อัลกอริทึมคัดเลือกข่าวที่น่าสนใจมานำเสนอ และพยายามเรียนรู้พฤติกรรมการอ่านข่าวของผู้ใช้ไปเรื่อยๆ ในอนาคตยังจะมีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข่าวพร้อมความเห็นได้ และมีระบบโซเชียลติดตามผู้ใช้คนอื่นๆ ว่าแชร์ข่าวอะไรได้ด้วย มีความเป็นโซเชียลตามที่สองผู้ก่อตั้งถนัดและมีประสบการณ์มาจากยุค Instagram Kevin Systrom ให้สัมภาษณ์ว่ามาทำแอพที่ใช้อัลกอริทึม AI เป็นแกนหลัก หลังเทคโนโลยีมีความพร้อมมากพอ โดยนับจากกูเกิลเผยแพร่อัลกอริทึม Transformer ครั้งแรกในปี 2017 (และกลายเป็นรากฐานสำคัญของโมเดล AI หลายตัว รวมถึง GPT ของ OpenAI ด้วย T = Transformer) ที่มา - Platformers
# Spotify ไตรมาส 4/2022 จำนวนผู้ใช้งานเติบโตเพิ่มเป็น 489 ล้านบัญชี ทั่วโลก Spotify รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2022 จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 489 ล้านบัญชี แบ่งเป็นผู้ใช้งานพรีเมียม 205 ล้านบัญชี และแบบมีโฆษณา 295 ล้านบัญชี Spotify บอกว่าฐานผู้ใช้งานมีการเติบโตสูงในอินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผลจากการทำแคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จ และพบว่าภาพรวมมีการเติบโตดีจากกลุ่มผู้ใช้งาน Gen Z ขณะที่เฉพาะกลุ่มผู้ใช้พรีเมียม มีการเติบโตมากในภูมิภาคละตินอเมริกา ตัวเลขทางการเงินเป็นดังนี้ รายได้รวมในไตรมาสเพิ่มขึ้น 18% เป็น 3,166 ล้านยูโร มาจากค่าสมาชิกแบบพรีเมียม 2,717 ล้านยูโร และจากโฆษณา 449 ล้านยูโร สุทธิแล้วขาดทุน 270 ล้านยูโร Spotify ยังให้ข้อมูลว่าวันที่ 21 ตุลาคม 2022 ซึ่ง Taylor Swift ออกอัลบั้มใหม่ Midnights ได้ทำสถิติใหม่สองอย่าง หนึ่งเป็นอัลบั้มที่ถูกสตรีมในวันเดียวมากที่สุด และสองเป็นศิลปินที่ถูกสตรีมภายในวันเดียวมากที่สุด ที่มา: Spotify (pdf)
# EA ประกาศปิดตัว Apex Legends Mobile เวอร์ชันมือถือ หลังเกมไม่ได้คุณภาพมากพอ EA และ Respawn Entertainment ประกาศปิดบริการ Apex Legends Mobile เกมเวอร์ชันมือถือที่เริ่มเปิดให้เล่นมาตั้งแต่ปี 2022 ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2023 โดยให้เหตุผลว่าเกมไม่ได้คุณภาพในระดับที่ควรจะเป็น Apex Legends Mobile เวอร์ชันมือถือเป็นภาคแยกจาก Apex Legends เวอร์ชันพีซี-คอนโซล เกมพัฒนาโดย Lightspeed & Quantum Studios สตูดิโอเกมจากจีนที่เคยมีผลงานทำเกม PUBG Mobile มาก่อน (Respawn ไม่ได้ทำเอง) ซึ่งความร่วมมือนี้ส่งผลต่อคุณภาพของเกม โดยต้นสังกัด Respawn ระบุว่าพยายามแก้ปัญหามาหลายเดือนแต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจหยุดพัฒนาโปรเจคนี้ Respawn ยังทิ้งทวนไว้ว่าสนใจตลาดเกมบนมือถืออยู่ และจะหาโอกาสกลับมาอีกในอนาคต (Respawn and the Apex Legends team remain excited about mobile as a platform and look forward to new opportunities to serve players there in the future.) ที่มา - EA
# EA เลื่อนวันขาย Star Wars Jedi: Survivor เป็น 28 เมษายน 2023 EA ประกาศเลื่อนวันวางขายเกมใหญ่ประจำปี Star Wars Jedi: Survivor เล็กน้อย จากเดิม 17 มีนาคม 2023 เป็น 28 เมษายน 2023 (เลื่อนออก 6 สัปดาห์) เพื่อใช้เวลาขัดเกลาคุณภาพของเกมให้ได้ตามมาตรฐานของบริษัท Star Wars Jedi: Survivor เป็นภาคต่อของเกม Star Wars Jedi: Fallen Order ที่ออกในปี 2019 และพัฒนาโดยสตูดิโอ Respawn Entertainment
# dtac ไตรมาส 4/2565 ผู้ใช้บริการเพิ่มเป็น 21.16 ล้านเลขหมาย ดีแทครายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการรวม 21.16 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นประมาณ 1 แสนเลขหมาย จากไตรมาสก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นผู้ใช้รายเดือนลดลง 3.9 หมื่นเลขหมาย และระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น 1.46 แสนเลขหมาย และมีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (APRU) 217 บาทต่อเดือน รายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 20,480 ล้านบาท ลดลง 5.1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 901 ล้านบาท ซึ่งดีแทคบอกว่ามาจากการได้รับค่าสินไหมทดแทนบางส่วน และค่าเสื่อมราคาที่ลดลง ดีแทคคาดว่าจะควบรวมกิจการกับกลุ่มทรูเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ที่มา: ดีแทค (pdf)
# [ลือ] โซนี่ปรับเป้ายอดขาย PSVR2 ช่วงเปิดตัว จาก 2 ล้านเหลือ 1 ล้านชุด หลังพรีออเดอร์ไม่เข้าเป้า Bloomberg รายงานข่าวไม่ยืนยันว่า โซนี่ปรับลดเป้ายอดขาย PSVR2 ลงจากเดิมตั้งเป้า 2 ล้านชุดในไตรมาสแรก ลงมาเหลือเพียง 1 ล้านชุด หลังยอดพรีออเดอร์ไม่เข้าเป้า นอกจากนี้ โซนี่ยังปรับเป้ายอดขายในรอบ 1 ปีแรกลงเหลือ 1.5 ล้านชุดด้วย (นับระหว่างเมษายน 2023 ถึงมีนาคม 2024) PSVR2 มีกำหนดวางขาย 22 กุมภาพันธ์นี้ ในราคา 549 ดอลลาร์ ที่มา - Bloomberg
# Square Enix จดทะเบียนวันที่ 31 มกราคม เป็น Final Fantasy VII Day ฉลองการออกเกมต้นฉบับ Square Enix ประกาศจดทะเบียนวันที่ 31 มกราคม เป็นวัน Final Fantasy VII Day ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อฉลองการวางขายเกมครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 1997 Final Fantasy VII ถือเป็นก้าวสำคัญของซีรีส์ Final Fantasy เพราะเป็นภาคที่เปลี่ยนผ่านกราฟิกจาก 2D มาเป็น 3D ครั้งแรก ซึ่งผู้กำกับเกมต้นฉบับ Yoshinori Kitase ก็ระบุว่าช่วงนั้นเทคโนโลยีเกมพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วมากจริงๆ เกม FFVII ภาคต้นฉบับทำยอดขายได้ถึง 2.3 ล้านชุดใน 3 วันแรก (เฉพาะในญี่ปุ่น) และมียอดขายรวม 13.9 ล้านชุดในปัจจุบัน (นับรวมทุกแพลตฟอร์ม แต่ไม่รวม Remake ที่ถือเป็นอีกเกม)
# Samsung ไตรมาส 4/2022 รายได้-กำไร ลดลงมาก จากธุรกิจชิปหน่วยความจำ ซัมซุงรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2022 มีรายได้รวม 70.46 ล้านล้านวอน ลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 4.31 ล้านล้านวอน ลดลง 69% ซัมซุงให้เหตุผลของรายได้และกำไรที่ลดลง มาจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะจากธุรกิจหน่วยความจำและ LSI ขณะที่ธุรกิจ Foundry มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่สูงสุด เนื่องจากความต้องการของลูกค้ายังเพิ่มสูง ในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงล่างมียอดขายลดลง รวมไปถึงธุรกิจชิ้นส่วนหน้าจอที่ได้รับผลข้างเคียงจากความต้องการสมาร์ทโฟนลดลง ซัมซุงประเมินภาพรวมในปี 2023 ว่าปัญหาเศรษฐกิจยังส่งผลต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นสถานการณ์ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ยังใช้กลยุทธ์ผู้นำเทคโนโลยี ทั้ง DDR5, LPDDR5x และ GAA ขณะที่สมาร์ทโฟนจะเพิ่มจุดแข็งในกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น ที่มา: ซัมซุง
# ทันช้อปดีมีคืน แอปเปิลเริ่มขาย MacBook Pro และ Mac Mini รุ่นชิป M2 Pro/Max ในไทยแล้ว แอปเปิลเริ่มวางขายเครื่อง Mac Mini และ MacBook Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา นับว่าทันพอดีกับช่วงช้อปดีมีคืนของไทย ตอนนี้หน้าเว็บแอปเปิลระบุว่าสินค้าใช้เวลาจัดส่ง 2-4 วัน หากใครกำลังเตรียมอัพเดตเครื่องก็น่าจะเป็นจังหวะพอดี
# GitHub ถูกแฮกเกอร์ขโมยกุญแจเซ็นรับรองโค้ด เตรียมประกาศยกเลิก แนะนำอัพเดต GitHub Desktop โดยเร็ว GitHub ประกาศว่าต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาโค้ดของบริษัทถูกแฮกเกอร์ดาวน์โหลดออกไป แม้โดยรวมแล้วจะไม่มีความเสี่ยงต่อผู้ใช้เป็นพิเศษ แต่ไฟล์กุญแจเซ็นรับรองโค้ด (code signing) ก็ถูกดาวน์โหลดออกไปด้วย ทำให้มีความเสี่ยงว่าคนร้ายอาจจะสร้างโปรแกรมโดยปลอมตัวเป็น GitHub ได้ แม้ว่าตัวกุญแจจะเข้ารหัสไว้และคนร้ายไม่น่าจะถอดรหัสได้ก็ตาม ทาง GitHub เตรียมประกาศยกเลิกใบรับรองในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เมื่อยกเลิกแล้วจะทำให้ GitHub Desktop for Mac และ Atom เวอร์ชั่นที่ได้รับผลกระทบหยุดทำงาน GitHub เปลี่ยนใบรับรองใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้ว ทำให้เวอร์ชั่นใหม่ๆ เช่น 3.1.5 ไม่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใบรับรองแต่อย่างใด แต่สำหรับ Atom ทาง GitHub ไม่ได้ออกเวอร์ชั่นใหม่ให้ ทำให้เวอร์ชั่นล่าสุดสองตัว คือ 1.63.0 และ 1.63.1 ได้รับผลกระทบ ผู้ใช้ต้องดาวน์เกรดไปใช้เวอร์ชั่นเก่าเอง ที่มา - GitHub
# Premier League เซ็นสัญญา Sorare ขายการ์ดนักเตะเป็น NFT จัดลีกแข่ง Fantasy ได้ ลีกฟุตบอล Premier League ของอังกฤษ เซ็นสัญญากับ Sorare บริษัทเกมกีฬา web3/blockchain เป็นระยะเวลานาน 4 ปี ให้อนุญาตนำข้อมูลนักเตะและการแข่งขันไปขายเป็นการ์ดดิจิทัลได้ เกมของ Sorare เหมือนกับเกมจัดตัวนักเตะจำพวก Fantasy Football ทั่วไป ที่นำนักเตะมาจัดทีมและคิดคะแนนตามผลการแข่งขันจริง จุดต่างสำคัญคือ Sorare ขายเป็นการ์ดนักเตะที่ใช้เทคโนโลยี NFT ยืนยันการเป็นเจ้าของการ์ด เพื่อให้ซื้อขายเปลี่ยนมือการ์ดกันได้ ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รางวัลเป็นการ์ดรุ่นพิเศษ หรืออาจเป็นเหรียญ ETH ก็ได้เช่นกัน บริษัท Sorare เป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งในปี 2018 โดยเริ่มธุรกิจขายการ์ดนักเตะจากลีกฟุตบอลอื่นๆ ของยุโรป ทั้งสเปน อิตาลี เยอรมนี มาก่อนแล้ว (เพิ่งมาเซ็นสัญญากับ Premier League สำเร็จในปีนี้) รวมถึงกีฬาฝั่งอเมริกาอย่างบาสเก็ตบอล NBA และเบสบอล MLS ด้วย Financial Times รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า Sorare ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ Premier League ปีละ "หลายสิบล้านปอนด์" (tens of millions of pounds) ที่มา - Premier League, Financial Times
# Baidu เตรียมตัวบริการแชตบอต AI ภาษาจีน แบบเดียวกับ ChatGPT สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า Baidu ผู้ให้บริการเสิร์ชรายใหญ่ของจีน เตรียมเปิดตัวบริการแชตบอต AI แนวเดียวกับ ChatGPT ในเดือนมีนาคมนี้ โดยจะเริ่มต้นให้บริการเป็นแอปแยกก่อน จากนั้นจึงนำมารวมกับบริการเสิร์ชหลัก ตามแผนงานนั้น Baidu คาดจะนำผลการค้นหาที่ออกมาจากแชตบอตนี้ แสดงผลรวมเข้ากับผลการค้นหาที่เป็นลิงก์ต่าง ๆ ในระบบเสิร์ชดั้งเดิม ซึ่งอาจทำให้เห็นแนวทางว่าผู้ให้บริการเสิร์ชจะปรับตัวอย่างไรกับแชตบอตแนว ChatGPT นี้ Baidu เป็นบริษัทที่ประกาศลงทุนด้านธุรกิจเกี่ยวกับ AI และที่เกี่ยวข้องมานาน ทั้งบริการคลาวด์ ชิป ตลอดจนรถยนต์ไร้คนขับ ที่มา: Reuters
# [ไม่ยืนยัน] ทั้ง Xbox, Nintendo และ Sony จะไม่เข้าร่วมงาน E3 ประจำปีนี้ IGN อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องหลายราย เผยว่างาน E3 หรือ Electronic Entertainment Expo นิทรรศการเกมงานใหญ่ประจำปี ที่กำหนดจัดในเดือนมิถุนายนที่ Los Angeles จะไม่มี 3 บริษัทเกมคอนโซลรายใหญ่คือ ไมโครซอฟท์ (Xbox) โซนี่ และนินเทนโด เข้าร่วมงาน ทั้งนี้งาน E3 2023 เป็นการกลับมาจัดงานในรูปแบบในสถานที่หรือ In-Person ครั้งแรก หลังจากต้องงดจัดงานในสถานที่ไป 3 ปี เปลี่ยนมาใช้รูปแบบออนไลน์ เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 โดยงานปีนี้กำหนดจัดระหว่าง 13-16 มิถุนายน 2023 ก่อนหน้านี้ท่าทีจาก 3 ค่ายเกม เริ่มลดความสำคัญกับงาน E3 น้อยลง โซนี่ประกาศเลิกเข้าร่วมตั้งแต่ปี 2020 โดยให้เหตุผลว่ามีวิสัยทัศน์ไม่ตรงกัน ส่วนนินเทนโดเปลี่ยนมาใช้การประกาศผ่านไลฟ์ Direct ซึ่งสร้างกระแสได้เหมือนกัน อีกทั้งเกมใหญ่ประจำปี The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom ก็กำหนดวางขายเดือนพฤษภาคม ก่อนงาน E3 หนึ่งเดือน ไมโครซอฟท์เข้าร่วมงาน E3 ครั้งล่าสุด แต่สำหรับปีนี้ไมโครซอฟท์ประกาศเพียงจะมีการจัดงาน Xbox ในฤดูร้อนที่ Los Angeles แต่ไม่ได้บอกว่าจะร่วมกับ E3 หรือไม่ ที่มา: IGN
# เผย Elon Musk เดินหน้าให้ Twitter เป็น Super App โอนเงินระหว่างผู้ใช้หากันได้ มีรายงานว่า Twitter ได้ยื่นขอใบอนุญาตเพื่อให้บริการเป็นแพลตฟอร์ม สำหรับจ่ายเงินในอเมริกา โดยระบุว่า Esther Crawford ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ของ Twitter กำลังอยู่ในขั้นตอนจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริการจ่ายเงินตัวนี้ เพื่อให้ Twitter เป็นแอปที่รวมทุกอย่างเข้ามาจบในแอปเดียว หรือที่เรียกกันว่า Super App ตั้งแต่ Elon Musk ซื้อกิจการ Twitter แนวทางหนึ่งที่เขาพูดอยู่หลายครั้ง คือการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้กับแพลตฟอร์ม และการเป็น Super App ก็เป็นหัวข้อที่ Musk เคยพูดถึง โดยให้รองรับทุกธุรกรรมในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการจ่ายเงิน และโอนเงินระหว่างผู้ใช้ Musk เองมีประสบการณ์เรื่องแพลตฟอร์มการเงินดีอยู่แล้ว เขาก่อตั้งธนาคารออนไลน์ X.com ในปี 1999 ซึ่งต่อมารวมเข้ากับ PayPal แต่เขาได้ซื้อโดเมนเนมนี้คืนเมื่อปี 2017 ที่มา: 9to5Mac
# Carl Pei บอกจะออกมือถือ Nothing Phone (2) ในปี 2023 พร้อมทำตลาดสหรัฐแล้ว Carl Pei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Nothing ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Inverse ว่าบริษัทของเขาไปได้สวย และเตรียมขายสมาร์ทโฟนรุ่นที่สอง Phone (2) ในสหรัฐอเมริกาด้วย หลังจาก Phone (1) ไม่ได้ทำตลาดสหรัฐ ด้วยข้อจำกัดเรื่องทรัพยากรไม่พอ เพราะต้องเจรจากับโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐที่ต้องการให้เพิ่มฟีเจอร์เฉพาะเข้ามา Pei บอกว่า Nothing มีรายได้ในปี 2022 มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากรายได้ปี 2021 ซึ่งเป็นปีแรกที่ก่อตั้งบริษัท เขาบอกว่ายอดขายที่เติบโตเป็นสิ่งยืนยันว่าสินค้าของบริษัทมีคนต้องการซื้อ และช่วยให้บริษัทมีอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน-โรงงานผลิตมากขึ้นด้วย ตอนนี้ Nothing มีพนักงาน 400 คน เพิ่มขึ้นจาก 200 คนเมื่อปี 2021 และพร้อมแล้วสำหรับบุกตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐ ก่อนหน้านี้บริษัทวางขายหูฟัง Ear (1) ในสหรัฐเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ยอดขายหูฟัง 1/3 มาจากในสหรัฐ เขายังชี้ว่าพฤติกรรมลูกค้าในสหรัฐตอนนี้เบื่อกับตัวเลือกมือถือในตลาดที่เหมือนๆ กันหมด ผู้นำตลาดทั้งแอปเปิลและซัมซุงไม่กล้าทำอะไรแปลกใหม่ เพราะกลัวเสียฐานลูกค้าเดิม ดังนั้นหาก Nothing สามารถสร้างมือถือที่แตกต่าง น่าสนใจ ในราคาที่แข่งขันได้ ก็มีโอกาสเจาะตลาดสหรัฐได้ Pei บอกว่า Phone (2) จะมีความพรีเมียมมากกว่า Phone (1) แต่ยังไม่เรียกมันว่า "เรือธง" (flagship) โดยจะโฟกัสที่ซอฟต์แวร์มากขึ้น เพราะตอนนี้มีทีมซอฟต์แวร์มากกว่า 100 คนแล้ว จากเดิมที่ตอนเริ่มทำ Phone (1) มีเพียง 5 คนและต้องจ้างเอาท์ซอร์สข้างนอก โดยรอม Android 13 ของ Phone (1) (ที่ตอนนี้ออก Beta) ก็ใช้ทีมภายในพัฒนาทั้งหมดแล้ว เขายังไม่บอกช่วงเวลาเปิดตัว บอกเพียงว่าจะออกภายในปี 2023 ที่มา - Inverse
# [ลือ] iPad mini รุ่นใหม่ มาปีหน้า ดีไซน์เดิม เน้นอัพสเป็ก Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิลขาประจำ ทวีตอัพเดตข้อมูล iPad รุ่นใหม่ที่เขาได้มา ระบุว่าไม่น่ามี iPad รุ่นใหม่ออกมาในระยะเวลา 9-12 เดือนจากนี้ โดย iPad ตัวใหม่ที่จะออกมาในระยะใกล้สุดคือ iPad mini ใหม่ เริ่มผลิตช่วงต้นปี 2024 ทั้งนี้ไม่ชัดเจนว่า Kuo หมายถึงเฉพาะ iPad mini หรือหมายถึง iPad ทั้งหมดทุกรุ่น ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมของ iPad mini เขาบอกว่าการออกแบบน่าจะใช้ตัวเดิม แต่เพิ่มสเป็กเช่นชิปรุ่นใหม่เข้าไป ทั้งนี้ iPad mini รุ่นที่ขายปัจจุบัน เปิดตัวมาตั้งแต่กันยายนปี 2021 จุดขายคือชิป A15 ใช้พอร์ต USB-C รองรับ Touch ID ที่ปุ่ม Power ด้านข้าง Kuo ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ iPad จอพับได้รุ่นแรก ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้จะไม่มี iPad ใหม่ออกมาช่วงนี้ โดยบอกว่าอาจออกมาได้เร็วที่สุดภายในปี 2024 อย่างไรก็ตาม Ross Young ที่ปรึกษาด้านการผลิตชิ้นส่วนจอภาพ ได้มาตอบทวีตของ Kuo บอกว่าเขาได้ข้อมูลเรื่อง iPad รุ่นใหม่ปี 2024 ใช้จอ OLED เหมือนกัน แต่ไม่ได้ยินข้อมูลเรื่องจอพับได้ ที่มา: MacRumors [1], [2]
# JD Central ประกาศปิดให้บริการในประเทศไทย ตั้งแต่ 3 มีนาคม เป็นต้นไป JD Central ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ออกประกาศยุติการให้บริการ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยระบุสาเหตุว่าเป็นไปตามนโยบายของบริษัทแม่ JD.com ที่เน้นการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยสร้างเครือข่ายซัพพลายเชนสำหรับการกระจายสินค้า และขนส่งสินค้าเป็นหลัก สำหรับผลกระทบในส่วนลูกค้า ตัวแพลตฟอร์มจะหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป การสั่งซื้อสินค้าผ่านร้านค้าทางการของ JD Central หรือ JD Central Official Store จะปิดให้บริการตั้งแต่ 23.59น. ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตลาดกลางร้านค้าอื่น ๆ จะปิดให้บริการตั้งแต่ 23.59น. ของวันที่ 3 มีนาคม 2566 การจัดส่งสินค้าที่ทำคำสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์ ก่อนและภายในวันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่มา: JD Central ผ่าน Brand Inside
# เมืองซานฟรานซิสโกเสนอ "ชะลอ" บริการรถยนต์ไร้คนขับ เพราะเจอรถขวางถนน ทำจราจรติดขัด หน่วยงานด้านการขนส่งของเทศบาลนครซานฟรานซิสโก เขียนจดหมายถึงคณะกรรมการด้านการขนส่งระดับรัฐแคลิฟอร์เนีย ขอให้ "ชะลอ" การขยายบริการรถยนต์ไร้คนขับของบริษัท Cruise และ Waymo ออกไปก่อน ด้วยเหตุผลว่ารถยนต์ไร้คนขับเหล่านี้ถึงแม้ไม่อันตราย แต่มีพฤติกรรมกีดขวางการจราจรบนท้องถนน ทำให้การจราจรติดขัด และพนักงานดับเพลิงปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ในจดหมายยกกรณีรถยนต์ของ Cruise จำนวน 5 คัน จอดขวางถนนจนทำให้รถเมล์ของเมืองล่าช้า, กรณีรถยนต์ Cruise ชนกับรถบัส และขวางทางรถราง, กรณี Cruise รบกวนการทำงานของพนักงานดับเพลิง เพราะวิ่งไปทับสายยางฉีดน้ำ (ข่าวที่เกี่ยวข้อง ตำรวจซานฟรานซิสโกเรียกรถหยุด แต่พบว่าไม่มีคนในรถ เพราะเป็นรถไร้คนขับของ Cruise) เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เมืองซานฟรานซิสโกมองว่า ยังไม่ควรขยายพื้นที่บริการรถยนต์ไร้คนขับมากไปกว่านี้ กรณีของบริษัท Waymo ยังมีมนุษย์นั่งอยู่หลังพวงมาลัยตลอดเวลา ทำให้มีปัญหาน้อยกว่า Cruise แต่ก็เคยมีเหตุการณ์เข้าไปจอดคาในถนนที่เป็นทางตันอยู่บ้างเช่นกัน เมืองซานฟรานซิสโกระบุว่าไม่ต้องการให้ยกเลิกการทดลองรถยนต์ไร้คนขับ แต่อยากให้บริษัทเหล่านี้ขยายพื้นที่และเวลาให้บริการอย่างช้าๆ พัฒนาอัลกอริทึมและตรวจสอบจนมั่นใจจริงๆ ว่าไม่มีปัญหา แล้วค่อยขยายต่อไป ที่มา - NBC, ภาพจาก Cruise คลิปโฆษณาของ Cruise ในซานฟรานซิสโก
# [ไม่ยืนยัน] โรงงานส่วนประกอบ AirPods ในอินเดียเริ่มเดินสายการผลิตแล้ว สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่าโรงงานผลิตชิ้นส่วน AirPods ในอินเดียเริ่มเดินสายการผลิตแล้ว นับว่าเป็นโรงงานล่าสุด หลังจากแอปเปิลในแนวทางกระจายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังอินเดียและเวียดนาม ก่อนหน้านี้โรงงานในอินเดียผลิตไอโฟนเป็นหลัก แม้ช่วงหลังจะได้ผลิตรุ่นใหม่เร็วขึ้น และเคยมีข่าวว่ารัฐบาลอินเดียพยายามเจรจาเพื่อให้แอปเปิลย้ายฐานการผลิตไอแพดมาด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะย้ายฐานการผลิตข้ามประเทศ แต่ตัวบริษัทซัพพลายเออร์ก็ยังเป็นบริษัทกลุ่มเดิมที่แอปเปิลเคยทำงานด้วย เช่น โรงงาน iPhone 14 นั้นก็เป็นบริษัท Hon Hai หรือ Foxconn ส่วนโรงงานที่เปิดเพิ่มก็เป็นกลุ่มทุนจีนที่ทำงานร่วมกับแอปเปิลอยู่เดิมไปร่วมทุนกับทุนท้องถิ่น ที่มา - The Strait Times
# Seagate จะวางขายฮาร์ดดิสก์ 30TB ใช้เทคโนโลยีใหม่ HAMR ช่วงไตรมาส 3/2023 Seagate ประกาศว่าจะวางขายฮาร์ดดิสก์ขนาดความจุ 30TB ในช่วงไตรมาส 3/2023 โดยจะออกฮาร์ดดิสก์ความจุ 22TB และ 24TB มาก่อนหน้า ฮาร์ดดิสก์แต่ละขนาดจะใช้เทคโนโลยีจานแม่เหล็กที่แตกต่างกัน ฮาร์ดดิสก์ขนาด 22TB ใช้ perpendicular magnetic recording (PMR) แบบดั้งเดิม ฮาร์ดดิสก์ขนาด 24TB ใช้ shingled magnetic recording (SMR) เป็นขั้นกว่าของ PMR แต่เรียงแผ่นจานแม่เหล็กให้เหลื่อมกัน เพิ่มความจุได้อีกนิด ฮาร์ดดิสก์ขนาด 30TB ใช้ heat assisted magnetic recording (HAMR) เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ความร้อนเข้าช่วย และจะนำไปสู่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 50TB ตามแผนในปี 2026 แผนการเดิมของ Seagate ที่ประกาศไว้เมื่อปี 2021 ภาพประกอบจาก Seagate ที่มา - AnandTech
# รอนานหน่อยนะ Tesla จะเริ่มผลิตรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ในปี 2024 โน่นเลย รายละเอียดเล็กๆ ในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 4/2022 ของ Tesla คือ Elon Musk ตอบคำถามนักลงทุนว่ารถกระบะ Cybertruck จะเริ่มผลิตเป็นจำนวนมาก (mass production) ในปีหน้า 2024 เลย เท่ากับว่าปีนี้อาจยังมีรถต้นแบบที่ผลิตจำนวนน้อย ส่งมอบเพียงไม่กี่คันเท่านั้น รถกระบะ Cybertruck เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 หากเริ่มผลิตจริงในปี 2024 เท่ากับว่าใช้เวลานานถึง 5 ปี ในขณะที่ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังแข่งขันสูง มีคู่แข่งหลายรายทั้ง Ford F-150 Lightning ที่เริ่มผลิตและส่งมอบแล้วตั้งแต่กลางปี 2022, Rivian R1T ที่เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2021 รวมถึงรถกระบะอื่นๆ ที่เพิ่งเปิดตัว เช่น Chevrolet Silverado EV ที่จะเริ่มผลิตและส่งมอบในปี 2023 นี้ สถานะของ Cybertruck ยังเป็น tooling คือเตรียมเครื่องมือผลิต ที่มา - Autoblog
# Alphacool ขายบล็อคระบายความร้อน 4090 ด้วยน้ำ ลดความหนาจาก 3 สล็อตเหลือ 1 สล็อต การ์ดจอยุคหลังๆ มีประสิทธิภาพแรงขึ้นมาก แลกมากับการกินไฟที่เพิ่มขึ้น และชุดระบายความร้อนที่ขนาดใหญ่ขึ้นจนกินพื้นที่ 3 สล็อต PCIe แล้ว (พร้อมข่าวลือ GeForce Titan หนา 4 สล็อต) ทางออกของปัญหาการ์ดจอหนาเกินจนกินพื้นที่ภายในพีซี อาจต้องแก้ด้วยการใช้ชุดระบายความร้อนด้วยน้ำแทนพัดลม Alphacool ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมจากเยอรมนี ออกบล็อคระบายความร้อนด้วยน้ำให้ GeForce ซีรีส์ 40 จนสามารถลดขนาดของการ์ด Geforce RTX 4090 ลงมาเหลือสล็อตเดียวได้สำเร็จ บล็อคระบายความร้อนด้วยน้ำของ Alphacool จำเป็นต้องใช้ร่วมกับการ์ด 4090 ยี่ห้อ INNO3D เท่านั้น (เพราะแผ่น PCB แต่ละยี่ห้อขนาดไม่เท่ากัน) เมื่อแกะชุดฮีตซิงก์-พัดลมของเดิมออก แปะบล็อคน้ำระบายความร้อนเข้าไปแทน ก็ช่วยให้ขนาดและความหนาของการ์ดทั้งชุดกลับมาเล็กลงมาก ราคาขายบล็อคน้ำระบายความร้อน ตัวละ 166 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าการ์ดจอ ที่มา - Notebookcheck
# Capcom เปลี่ยนมาจัดแข่ง Street Fighter 5 บนพีซีแทน PS4 เพราะปัญหา Input Lag Capcom เปลี่ยนกฎของทัวร์นาเมนต์เกม Street Fighter 5 รายการ Capcom Cup จากเดิมที่เล่นกันบน PS4 มาเป็นพีซี ด้วยเหตุผลเรื่อง input lag ของ PS4 ที่ส่งผลต่อผู้แข่งขัน ปัญหา input lag ของเกม Street Fighter 5 เวอร์ชัน PS4 เกิดขึ้นมายาวนาน และเกมเวอร์ชัน PS5 ก็ไม่ได้แก้ปัญหานี้ได้มากนัก ทำให้ผู้เล่นกลุ่มโปรต้องหันมาเล่นบนพีซีกันมาหลายปีแล้ว และสุดท้าย Capcom ก็ถูกกดดันจนต้องยอมเปลี่ยนมาจัดแข่งด้วยเกมเวอร์ชันพีซีแทน (Capcom ระบุแค่ใช้จอ 144Hz แต่ไม่บอกสเปกเครื่อง) อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาแข่งบนพีซีอาจเกิดขึ้นเฉพาะทัวร์นาเมนต์ของปีนี้เท่านั้น เพราะเกมภาคใหม่ Street Fighter 6 จะวางขายเดือนมิถุนายน 2023 ซึ่งฟีเจอร์ Input Delay Reduction ที่ช่วยแก้ปัญหา input lag บนคอนโซลได้มากแล้ว ต้องรอดูนโยบายของ Capcom กันว่าทัวร์นาเมนต์ปีหน้าจะกลับไปแข่งบน PS5 หรือยังเป็นพีซีต่อไป (ส่วนทัวร์นาเมนต์ใหญ่ Evo ที่โดนโซนี่ซื้อกิจการไปแล้ว ยังไงก็คงต้องเป็น PS5) ที่มา - The Verge
# เผย 3 โครงการของ Area 120 ที่ได้ไปต่อ: โครงการหนึ่งระบุว่า ทำผลิตภัณฑ์สำหรับ Gen Z มีรายงานเพิ่มเติมจาก TechCrunch หลังกูเกิลประกาศปลดพนักงาน 12,000 คน และโครงการบ่มเพาะนวัตกรรม Area 120 ก็มีรายงานว่าถูกปรับลดขนาดให้เหลือเพียง 3 โครงการเท่านั้น และทั้งหมดต้องถูกนำมารวมกับผลิตภัณฑ์หลักกูเกิลให้ได้ภายในสิ้นปี แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าโครงการใดที่กูเกิลตัดสินใจให้อยู่ต่อ 3 โครงการที่ยังอยู่ต่อ ซึ่งเกี่ยวข้องการผลักดัน AI ของกูเกิลได้แก่ Aloud โซลูชันสำหรับพากย์เสียงทับในวิดีโอเป็นภาษาต่าง ๆ, Checks แพลตฟอร์มตรวจสอบความปลอดภัยของแอป สำหรับนักพัฒนา และ Liist เครื่องมือเซฟคอนเทนต์ที่สนใจในอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาจัดเรียงร้อยเนื้อหาใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีสถานะถูกกูเกิลซื้อกิจการไป กรณีของ Liist นั้นพบความน่าสนใจ เนื่องจาก David Friedl ผู้ร่วมก่อตั้ง ระบุรายละเอียดงานที่ทำที่กูเกิลใน LinkedIn ว่าเป็นงานพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับ Gen Z จึงเป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีของ Liist จะถูกนำมาพัฒนาเพื่อใช้ทั้งค้นหา แนะนำ เนื้อหาต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานแต่ละคนสนใจ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ TikTok หรือ Instagram ใช้ในการเลือกคอนเทนต์นั่นเอง ที่มา: TechCrunch
# เฟรมเวิร์ค Astro ออกรุ่น 2.0 เร่งความเร็วการเรนเดอร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ Astro เว็บเฟรมเวิร์คคู่แข่ง NextJS แต่เน้นเว็บโหลดเร็ว ออกเวอร์ชั่น 2.0 โดยเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น Content Collection API: สำหรับการอ่านไฟล์ Markdown/MDX ว่ามีข้อมูลอะไรอยู่ภายในบ้าง เข่น หมวดหมู่ หรือ slug สามารถกำหนด schema ของข้อมูลแต่ละหมวดได้ว่าฟิลด์ต่างกันอย่างไร Hybrid Rendering: สามารถผสมระหว่างหน้าแบบ static (SSG) และแบบเรนเดอร์ทุกครั้ง (SSR) เข้าด้วยกัน ทำให้หน้าที่มีข้อมูลเปลี่ยนแปลงบ่อยยังมีประสิทธิภาพดีขึ้น หน้าจอ error ใหม่: แสดงข้อมูลชัดเจนขึ้น พร้อมปุ่ม Open in editor เปิดไฟล์ที่ทำให้เกิด error ได้ทันที ปรับมาใช้เอนจิน Vite 4.0 ที่เพิ่งออกมาปลายปี 2022 โดยทีม Astro เองก็ส่งโค้ดเข้า Vite ด้วยชุดหนึ่ง ทาง Astro ยังระบุว่าจะเปิดเผยแผนการพัฒนาลง GitHub ให้ชุมชนมองเห็นว่าทีมงานกำลังทำอะไร พร้อมกับแสดงตัวว่าเปิดกว้างให้ชุมชนเสนอไอเดียกันเข้ามาได้โดยไม่ต้องรอเขียนเอกสารจริงจัง ที่มา - Astro
# YouTube ร่วมมือมหาวิทยาลัย Arizona เปิดโครงการเรียนมหาวิทยาลัยราคาประหยัด YouTube ร่วมมือกับ Arizona State University (ASU) เปิดโครงการ Study Hall เรียนมหาวิทยาลัยจริงผ่าน YouTube ในราคาประหยัด ตอนนี้ยังมีวิชาเปิดในโครงการนี้เพียง 4 วิชา ได้แก่ English Composition, College Math (คณิตศาสตร์พื้นฐาน), US History (ประวัติศาสตร์สหรัฐฯ), และ Human Communication วิชาเหล่านี้เป็นวิชาปีหนึ่งทั้งหมด และคาดว่าจะเพิ่มวิชาไปจนถึง 12 วิชาภายในปี 2025 ซึ่งจะทำให้สามารถเก็บหน่วยกิตปีหนึ่งทั้งปีได้ใน YouTube ค่าลงเรียนอยู่ที่ 25 ดอลลาร์ เมื่อลงทะเบียนเรียนแล้วจะสามารถเรียนได้เรื่อยๆ จนกว่าจะได้เกรดที่พอใจ จากนั้นสามารถจ่ายเพิ่ม 400 ดอลลาร์เพื่อนำวิชาใส่ในทรานสคริปต์ตัวจริงเพื่อไปเรียนที่ ASU หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ยอมรับเกรดของ ASU ได้ทั้งสิ้น ASU มีโครงการ Universal Learner Courses ของตัวเองที่รูปแบบคล้ายกับโครงการนี้อยู่ก่อนแล้ว และก็สามารถนำเกรดไปใช้ได้จริงเหมือนกัน ที่มา - YouTube
# Ubisoft ส่งเกมผจญภัย Valiant Hearts: Coming Home เล่าเรื่องสงครามโลก ลง Netflix เมื่อเดือนกันยายน 2022 Ubisoft ประกาศความร่วมมือกับ Netflix ทำเกมมือถือให้เป็นเอ็กซ์คลูซีฟของ Netflix ทั้งหมด 3 เกม ตอนนี้เกมแรก Valiant Hearts: Coming Home กำลังจะเปิดให้เล่นกันแล้วในวันที่ 31 มกราคม 2023 Valiant Hearts: Coming Home เป็นเกมผจญภัยกึ่งพัซเซิล กราฟิกแนวการ์ตูน เล่าเรื่องความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกมภาคนี้เป็นภาคต่อของ Valiant Hearts: The Great War ที่ออกในปี 2014 พัฒนาโดย Ubisoft Montpellier สตูดิโอเดียวกับที่ทำ Rayman ซึ่งเกมภาคแรกได้รับการยกย่องในแง่การเล่าเรื่อง แง่มุมต่างๆ ของสงครามได้อย่างดีเยี่ยม เกมภาคแรก The Great War มีให้เล่นทั้งบนพีซี คอนโซล และมือถือ (Steam) แต่ภาคสอง Coming Home จะมีเฉพาะบนมือถือเท่านั้น (อย่างน้อยก็ในตอนนี้) และยังไม่ชัดเจนว่าจะลงแพลตฟอร์มอื่นๆ ในอนาคตด้วยหรือไม่ อีกสองเกมที่ Ubisoft มีสัญญากับ Netflix คือ ภาคต่อของเกม Mighty Quest for Epic Loot เกมแฟนตาซีแนว hack and slash บนมือถือ และ Assassin's Creed ภาคใหม่บนมือถือ ที่มา - Ubisoft, VentureBeat
# Phil Spencer ยอมรับผิด Xbox ออกเกมน้อยไปในปี 2022, จะแก้ปัญหานี้ในปี 2023 Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ให้สัมภาษณ์กับ IGN ยอมรับว่าสถานการณ์เกมปี 2022 ไมโครซอฟท์ออกเกมใหม่น้อยเกินไป (เป็นผลจากหลายเกมที่ต้องเลื่อน เช่น Starfield และ Redfall) ซึ่งเขายอมรับผิดแต่โดยดีในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของแพลตฟอร์ม Spencer บอกว่าสถานการณ์เรื่องเกมจะดีขึ้นในปี 2023 เพราะไมโครซอฟท์มีคิวออกเกมใหม่หลายเกม ที่ออกไปแล้วคือ Hi-Fi Rush แล้วจะตามด้วย Minecraft Legends (เมษายน) และ Redfall (พฤษภาคม) รวมถึงยังมี Forza Motorsport กับ Starfield ที่ยังไม่ประกาศวันวางขายที่แน่นอนด้วย Spencer ยอมรับว่าการเอาแต่บอกแฟนๆ ขอให้ "รอหน่อย" เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ สิ่งสำคัญคือต้องโชว์เกมจริงๆ โชว์วันวางขายจริงๆ ให้เห็นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์ต้องทำให้ได้อย่างจริงจังในปี 2023 นี้ นอกจากนี้ Spencer ยังพูดถึงแนวทางการพัฒนาเกมที่มีขนาดเล็กลงอย่าง Pentiment ของ Obsidian หรือ Hi-Fi Rush ของ Tango Gameworks ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมพัฒนาได้ลองไอเดียแปลกใหม่จากเกมปกติ ช่วยสร้างฐานเกมเมอร์รายใหม่ๆ แนวทางนี้เกิดได้เพราะมี Game Pass เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีโอกาสลองเกมเหล่านี้ด้วย อีกคำถามที่ Spencer ถูกถามคืออนาคตของ Halo หลังข่าวลือของสตูดิโอ 343 Industries เขาบอกว่า Halo คือไอคอนของ Xbox และ 343 เป็นปัจจัยสำคัญของ Halo ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ต่อไป เขายอมรับว่าเกมมีปัญหาคุณภาพจริงๆ ไม่สามารถออกอัพเดตเนื้อหาได้ดีตามที่สัญญากับแฟนๆ เอาไว้ ซึ่งทีมรับทราบและกำลังแก้ไข เขาขอให้เชื่อมือหัวหน้าสตูดิโอคนปัจจุบัน Pierre Hintze อยู่กับ Halo มานาน ส่วนรายละเอียดขอให้รอ 343 เป็นผู้แถลงเองดีกว่า สุดท้าย Spencer ชื่นชมซีรีส์ The Last of Us ว่าทำออกมาได้ดีมาก (it's fantastic) และบอกว่าปัจจัยสำคัญมาจาก Neil Druckmann ที่ใช้ความสามารถในฐานะผู้สร้างเกม ไปต่อยอดเป็นซีรีส์ทางทีวีได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้แบบนี้ ที่มา - IGN
# Bondee ปฏิเสธข่าวข้อมูลบัตรเครดิตผู้ใช้งานรั่วไหล - ยืนยันไม่มีการขอข้อมูลเหล่านี้ Metadream บริษัทผู้พัฒนา Bondee แอปโซเชียลแนวโลกเสมือน ที่กำลังมาแรงในไทยและหลายประเทศในเอเชีย ออกมาปฏิเสธหลังมีรายงานข่าว ว่ามีข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้งานบางคนหลุดรั่วออกไปจากแพลตฟอร์ม Metadream ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นเท็จ ไม่มีมูลความจริง เนื่องจากแพลตฟอร์มเองไม่มีการขอเก็บข้อมูลบัตรเครดิต หรือข้อมูลทางการเงินใด ๆ จากผู้ใช้งาน รวมทั้งบอกว่าระบบออกแบบมาควบคุมข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานเป็นอย่างดี มีความปลอดภัย ทั้งนี้ข้อมูลที่ Bondee เก็บในการสมัครใช้งานได้แก่ เบอร์โทรศัพท์ เพื่อใช้ยืนยันตัวตน และข้อมูลวันเกิดเท่านั้น ปัจจุบันการซื้อไอเท็มต่าง ๆ ใน Bondee ยังใช้คำว่าฟรีแบบจำกัดช่วงเวลา แต่ในข้อมูลของ App Store ระบุว่าตัวแพลตฟอร์มมี In-App Purchase สำหรับซื้อเงินเสมือนเรียกว่า B-Bean โดยมีราคาแตกต่างกันไป ทั้งนี้ข้อมูลในข้อกำหนดการใช้งานก็บอกว่า ผู้ใช้งานสามารถสร้างวอลเลตบนบล็อกเชน เพื่อใช้เงิน B-Beans ในการซื้อ NFT บนแพลตฟอร์ม ที่มา: Bondee TH ผ่าน CNA
# ทีมวิจัยจากสแตนฟอร์ด คิดค้นอัลกอริทึม DetectGPT ดักจับข้อความที่สร้างจาก AI ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นำโดย Eric Anthony Mitchell นักศึกษาปริญญาเอกด้าน AI ประกาศว่าประสบความสำเร็จในการดักจับข้อความที่สร้างจาก ChatGPT หรือโมเดลสร้างข้อความ large language models (LLMs) แบบเดียวกัน อัลกอริทึมนี้ถูกตั้งชื่อว่า DetectGPT ใช้เทคนิคประเมินความเป็นไปได้ของข้อความจาก AI ว่าจะถูกสร้างขึ้นจากพื้นที่เฉพาะของโมเดล ซึ่งสามารถคำนวณได้จากฟังก์ชันคณิตศาสตร์ (log probability function) ทีมผู้สร้างบอกว่าอัลกอริทึม DetectGPT สามารถตรวจจับข้อความจาก AI โดยไม่จำเป็นต้องถูกเทรนมาก่อนว่าข้อความจาก ChatGPT เป็นอย่างไร และไม่จำเป็นว่าข้อความจะถูกใส่เทคนิค watermark ระบุว่ามาจาก AI ด้วย ตอนนี้ตัวเปเปอร์ฉบับเต็มยังไม่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ใครอยากอ่าน abstract ดูได้จากที่มา ที่มา - DetectGPT via Neowin
# [ไม่ยืนยัน] สหรัฐกดดันเนเธอร์แลนด์-ญี่ปุ่น ห้ามส่งเครื่องจักรผลิตชิปให้จีนสำเร็จแล้ว Financial Times รายงานข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา บรรลุข้อตกลงร่วม 3 ฝ่าย กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์และรัฐบาลญี่ปุ่น ไม่ให้ส่งออกเครื่องมือที่ใช้ผลิตชิปไปยังประเทศจีนแล้ว ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวสหรัฐพยายามกดดันไม่ให้ ASML ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ส่งเครื่องจักรผลิตชิปไปยังจีน แม้ภายหลังรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ออกมาบอกว่าจะยังไม่ทำตามคำขอของสหรัฐ แต่จากข่าวล่าสุด รัฐบาลเนเธอร์แลนด์อาจเปลี่ยนใจในการเจรจาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่มีบริษัทด้านเครื่องจักรที่เกี่ยวกับแสงเลเซอร์ (แม้ไม่ได้ก้าวหน้าระดับ ASML) เช่น Nikon, Canon, Tokyo Electron จึงอยู่ในข่ายของสหรัฐที่ต้องกดดันเช่นกัน สหรัฐอเมริกาเองก็มีบริษัทด้านเครื่องจักรผลิตชิปหลายราย เช่น Applied Materials, Lam Research, KLA รัฐบาลสหรัฐอเมริกาปฏิเสธไม่แสดงความเห็นต่อข่าวนี้ ที่มา - Financial Times
# Google Doodle วันนี้ มินิเกมชาไข่มุก เพื่อฉลองชาไข่มุกถูกบรรจุใน Emoji กูเกิลอัพเดต Google Doodle ประจำวันที่ 29 มกราคม ด้วยมินิเกมเพื่อฉลองให้กับชาไข่มุก เครื่องดื่มจากไต้หวันที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งกูเกิลเลือกวันที่ 29 มกราคม เนื่องจากชาไข่มุกถูกประกาศเพิ่มในอีโมจิ ซึ่งสะท้อนความนิยมแพร่หลายนั่นเอง ตัวเกมให้เรารับบทบาทเป็นสุนัขภูเขา Formosan หรือสุนัขไต้หวัน ที่เสิร์ฟชานมไข่มุกตามสเป็กของลูกค้าแต่ละคน ผู้เล่นต้องพยายามเติมส่วนผสมทั้งไข่มุก ชา และไซรัปให้พอดีกับตำแหน่งเส้น และได้ดาวสูงสุด 3 ดาวต่อแก้ว กูเกิลยังเผยแพร่คลิปรายละเอียดการออกแบบเกมนี้ด้วย ดูได้ที่ท้ายข่าว ที่มา: 9to5Google
# หลุดภาพ Project Phoenix หน้าตาใหม่ของ Microsoft Edge พร้อมฟีเจอร์ Split Screen จากข่าว พบฟีเจอร์ split screen ของ Microsoft Edge ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมจาก WalkingCat นักปล่อยข่าวหลุดสายไมโครซอฟท์ชื่อดัง ว่าฟีเจอร์ split screen เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการภายใน Project Phoenix ที่ไมโครซอฟท์พยายามสร้าง UI ใหม่ของ Edge WalkingCat ยังโชว์ภาพหน้าตาของ Project Phoenix ทำให้เราเห็นหน้าตาใหม่ของ Edge ที่ใช้แท็บโค้งมนกว่าเวอร์ชันปัจจุบัน ธีมแนวโปร่งแสงเข้าชุดกับ Fluent Design ของ Windows 11 มากขึ้น และรวมถึงฟีเจอร์ split screen ด้วย ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า Project Phoenix เป็นการทดสอบหน้าตาใหม่ของเบราว์เซอร์ทั้งตัว หรือเป็นการทดลองเพื่อเก็บข้อมูลแล้วทยอยปล่อยออกมาทีละส่วนกันแน่ ที่มา - Windows Central
# อินเทลถอนตัวจากธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย Tofino หลังผลประกอบการออกมาไม่ดี อินเทลถอนตัวจากธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย (ที่หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่) หลังประสบปัญหารายได้ลดลงหนักในไตรมาสล่าสุด อินเทลมีธุรกิจขาย Ethernet Switch จากการซื้อบริษัท Barefoot Networks ในปี 2019 ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า Tofino เป็นสวิตช์ที่โปรแกรมได้ด้วย ASIC แต่สุดท้ายก็เป็นธุรกิจที่ถูกหั่นทิ้ง เพราะไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท Pat Gelsinger ซีอีโอของอินเทลบอกว่าหลังเข้ามารับตำแหน่ง เขาสั่งปิดธุรกิจที่ไม่ทำเงินออกไปแล้ว 7 อย่าง (หนึ่งในนั้นคือ Optane และ ขายธุรกิจ NAND/SSD ให้ SK hynix) ช่วยประหยัดเงินได้ 1.5 พันล้านดอลลาร์ และบอกว่ากำลังพิจารณาดูอีกว่ามีส่วนไหนปรับลดหรือตัดทิ้งได้บ้าง นอกจากนี้ อินเทลยังประกาศยุติโครงการ Parthfinder for RISC-V ที่สนับสนุนให้บริษัทออกแบบชิป RISC-V รายเล็กๆ มาใช้ IDE และซอฟต์แวร์ของอินเทลด้วย ที่มา - Tom's Hardware
# Oracle เปลี่ยนวิธีคิดค่าไลเซนส์ Java ใหม่ นับตามจำนวนพนักงานของทั้งองค์กร Oracle ออกแพ็กเกจการคิดค่าไลเซนส์ Java สำหรับลูกค้าองค์กรที่เรียกว่า Java SE Universal Subscription บังคับคิดเงินตามจำนวนพนักงานของทั้งองค์กร (per employees) แม้พนักงานกลุ่มนั้นไม่ใช่สายไอที และไม่ได้ใช้ Java เลยก็ตาม เดิมที Oracle มีแพ็กเกจคิดค่าไลเซนส์ Java เรียกว่า Java SE Subscription และ Java SE Desktop Subscription ซึ่งคิดเงินตามจำนวนผู้ใช้ (per users) หรือจำนวนซีพียู (per processors) แต่แพ็กเกจเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยแพ็กเกจใหม่ Universal Subscription แทน ราคาของ Universal Subscription เริ่มต้นที่ 15 ดอลลาร์ต่อพนักงานต่อเดือน สำหรับองค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 999 คน หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่มากๆ (พนักงานมากกว่า 40,000 คน) จะลดให้เหลือหัวละ 5.25 ดอลลาร์ต่อเดือน การคิดค่าไลเซนส์ตามจำนวนพนักงาน "ทั้งหมด" (นับรวมพาร์ทไทม์ พนักงานชั่วคราว เอาท์ซอร์ส ฯลฯ ด้วย) ทำให้ Oracle ถูกวิจารณ์ เพราะหลายองค์กรต้องจ่ายค่าไลเซนส์ Java ที่แพงขึ้นมาก บางรายอาจต้องจ่ายเพิ่มถึง 10 เท่าเลยทีเดียว ค่าไลเซนส์เหล่านี้มีผลเฉพาะกับ Oracle Java เท่านั้น หากใช้ OpenJDK เวอร์ชันโอเพนซอร์สก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ที่มา - Oracle, The Register, InfoWorld
# [ลือ] เฮดเซต AR/VR ของ Apple จะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปสร้าง App ได้เอง ผ่านการสั่ง Siri มีรายงานล่าสุดเกี่ยวกับเฮดเซต AR/VR ของแอปเปิล คราวนี้ The Information ระบุว่า ซอฟต์แวร์ที่แอปเปิลพัฒนาอยู่ จะทำให้การสร้างแอป AR ไม่จำกัดเฉพาะนักพัฒนาเท่านั้น แต่ผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถสร้างแอปได้แบบไม่ต้องอาศัยการเขียนโค้ด ยิ่งไปกว่านั้นรายงานบอกว่าวิธีสร้างแอป AR สำหรับเฮดเซต ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสั่งให้ Siri สร้างแอป AR ที่ต้องการออกมาได้เลย และแอปดังกล่าวยังสามารถเผยแพร่ผ่าน App Store ตัวอย่างคำสั่งเช่นให้สร้างแอป AR ที่มีสัตว์เลี้ยงเสมือนเดินไปรอบห้อง เป็นต้น นอกจากเครื่องมือสำหรับสร้างแอป รายงานยังบอกว่าแอปเปิลเริ่มการผลิตคอนเทนต์ AR/VR สำหรับใช้งานในเฮดเซตแล้ว โดยเน้นไปที่แอปสุขภาพกับแอปออกกำลังกาย ที่มา: MacRumors
# สรุปประเด็นน่าสนใจ จากรายงานเทรนด์อินเทอร์เน็ตโลกปี 2023 ของ We Are Social We Are Social ดิจิทัลเอเจนซี่ เผยแพร่รายงานประจำปี Digital 2023 รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก โซเชียลมีเดีย สื่อโฆษณาออนไลน์ ตลอดจนประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากการรวบรวมของ We Are Social เอง และผ่านพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ รายงานฉบับเต็มมี 465 หน้า และเป็นการนำเสนอภาพรวมทั่วโลก ซึ่ง We Are Social ได้สรุปประเด็นที่น่าสนใจมาบางส่วนดังนี้ ประชากรโลกมี 8.01 พันล้านคน มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 5.44 พันล้านคน (68.0%) เข้าถึงอินเทอร์เน็ต 5.16 พันล้านคน (64.4%) มีการใช้งานโซเชียลมีเดีย 4.76 พันล้านคน (59.4%) เฉพาะประเทศไทย อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 85.3% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ระยะเวลาการใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยต่อวันลดลงจากปีก่อน เป็น 6 ชั่วโมง 37 นาที ซึ่งหากดูจากกราฟเทียบปี 2019-2020-2021 คำอธิบายคือโควิด 19 ทำให้คนใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นนั่นเอง เมื่อเข้าสู่ปลายปี 2022 ตัวเลขจึงกลับสู่ระดับที่ก่อนโควิด คนไทยใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตต่อวันเฉลี่ย 8 ชั่วโมง 6 นาที ส่วนแบ่งเวลาที่ใช้ดูทีวีสำหรับการชมรายการสตรีมมิ่ง เทียบกับการดูทีวีอื่นเช่น รายการโทรทัศน์ปกติ ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่ 45.3% ซึ่งยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเวลาในการดูทีวีทั้งหมด เมื่อสอบถามว่ารับชมรายการแบบสตรีมมิ่งบ้างไหมในแต่ละเดือน คนไทยที่ใช้อินเทอร์เน็ต 95.4% ตอบว่าเคย ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา เพิ่มน้ำหนักมาที่ดิจิทัลมากขึ้นนับตั้งแต่มีโควิด ตัวเลขในปี 2022 อยู่ที่ 73.3% ของงบประมาณโฆษณารวมทั้งหมด และเพิ่มเป็น 6.67 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนแบ่งงบโฆษณาแบบดิจิทัล เพื่อลงในโซเชียลมีเดียก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตัวเลขปีที่ผ่านมาคือ 33.9% โซเชียลมีเดียที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ยังเป็น Facebook ตามด้วย YouTube และ WhatsApp ทั้งนี้ตัวเลขในกราฟ TikTok นับแยกกับ Douyin แอปเวอร์ชันจีน ถ้าหากรวมกัน จะเป็นอันดับที่ 5 อย่างไรก็ตาม เมื่อวัดระยะเวลาใช้งานแต่ละแอป เฉลี่ยต่อเดือน พบว่า TikTok มีเวลาใช้งานมากที่สุดคือ 23 ชั่วโมง 28 นาที รองลงมาคือ YouTube ที่ 23 ชั่วโมง 9 นาที Facebook 19 ชั่วโมง 43 นาที ขณะที่ LINE แม้ตัวเลขจำนวนผู้ใช้ไม่ติดอันดับ แต่เวลาใช้งานก็สูงถึง 10 ชั่วโมง 59 นาที มีข้อมูลเพิ่มเติมของ Instagram แม้เวลาใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนทั่วโลกอยู่ที่ 12 ชั่วโมง น้อยกว่า TikTok ครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อลงรายละเอียดรายประเทศ พบว่าประเทศตุรกี มีการใช้ Instagram สูงถึง 21.4 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ ตัวเลขน้อยกว่าค่าเฉลี่ยอยู่มากเป็น 6.1 ชั่วโมง (รายงานนี้ไม่มีข้อมูลของไทย) ต้นทุนค่าใช้จ่ายโฆษณาเฉลี่ย สำหรับการแสดงผลบนโซเชียลมีเดียต่อ 1,000 ครั้ง (CPM) ลดลงมาที่ 6.67 ดอลลาร์ เป็นผลตามภาวะเศรษฐกิจ เช่นเดียวกันโฆษณาบนเสิร์ช CPC ลดลงมาที่ 0.60 ดอลลาร์ ตัวเลขพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตแบ่งตามอุปกรณ์ พบว่าเฉลี่ยทั่วโลกใช้โทรศัพท์มือถือ 56.9% และคอมพิวเตอร์ 43.1% ขณะที่ประเทศไทย เป็นโทรศัพท์มือถือ 62.8% และคอมพิวเตอร์ 37.2% ในรายงานฉบับเต็มยังมีรายละเอียดอื่นอีกมาก สามารถดูได้จากที่มา ส่วนข้อมูลลงลึกเฉพาะส่วนประเทศไทยยังไม่เผยแพร่ออกมา ที่มา: We Are Social We Are Social แถมท้ายด้วยสถิติ หมา-แมว บนโลกอินเทอร์เน็ต โดยแม้ปริมาณเนื้อหาเกี่ยวกับหมาจะเยอะกว่าแมว ในเกือบทุกแพลตฟอร์ม แต่มีจำนวนวิวหน้า Wikipedia ของแมว ที่มากกว่าหมาถึง 3 เท่าตัว
# Google Research เปิดตัวงานวิจัย AI สร้างดนตรีขึ้นจากคำบรรยายที่ต้องการ กูเกิลเปิดตัวงานวิจัย MusicLM ซึ่งเป็น AI สำหรับสร้างดนตรีขึ้นจากการใส่แคปชั่นอธิบายรายละเอียดของเพลง โมเดลนี้เทรนด้วยชุดข้อมูลเพลงกว่า 280,000 ชั่วโมง พร้อมกับรายละเอียดประกอบในแต่ละเพลง เสียงดนตรีผลลัพธ์ที่ได้มีความละเอียดระดับ 24 kHz งานวิจัยนี้ยังทดสอบในระดับรายละเอียดมากขึ้น เช่น รองรับแคปชันแบบเล่าเรื่อง ให้ดนตรีมีรูปแบบตามจังหวะเวลานั้น สร้างชุดเพลงแยกทั้งเสียงร้อง เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น หรือใช้อินพุทเป็นรูปภาพประกอบคำบรรยาย แล้วสร้างดนตรีประกอบได้ด้วย งานวิจัยนี้ย่อมเกิดคำถามเรื่องปัญหาลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งกูเกิลก็เข้าใจส่วนนี้ บอกว่าปัจจุบันพบว่ามีเพลงที่สร้างขึ้นจาก MusicLM ประมาณ 1% ที่ลอกรูปแบบจากเพลงต้นฉบับมาตรง ๆ ซึ่งก็มากพอที่ MusicLM ยังไม่สามารถนำออกเผยแพร่ให้ใช้งานทั่วไปได้ตอนนี้ ตัวอย่างเพลงที่สร้างจาก MusicLM สามารถดูได้จากที่มา ที่มา: Google Research
# [IDC] ยอดขายสมาร์ทโฟนปี 2022 หดตัวหนัก 11.3% ทุกแบรนด์ยอดขายลดลงถ้วนหน้า IDC ประกาศยอดขายสมาร์ทโฟนไตรมาส 4/2022 ภาพรวมยอดขายลดลง 18.3% จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อ ทุกแบรนด์ล้วนยอดขายลดกันถ้วนหน้า โดย Xiaomi เป็นบริษัทที่ยอดขายลดลงเป็นเปอร์เซนต์สูงที่สุด 26.3% อันดับหนึ่งแอปเปิล ได้แรงช่วยจาก iPhone 14 ทำให้ขึ้นอันดับหนึ่งในไตรมาส 4 ตามธรรมเนียม ยอดขาย 72.3 ล้านเครื่อง ลดลง 14.9% จากยอดขายไตรมาส 4/2021 ที่ขายได้ 85 ล้านเครื่อง อันดับสองซัมซุง 58.2 ล้านเครื่อง (-15.6%) อันดับสาม Xiaomi 33.2 ล้านเครื่อง (-26.3%) อันดับสี่ Oppo 25.3 ล้านเครื่อง (-18.9%) อันดับห้า Vivo 22.9 ล้านเครื่อง (-18.9%) หากคิดยอดขายรวมตลอดปี 2022 ภาพรวมขายได้ 1.205 พันล้านเครื่อง ลดลง 11.3% ถือว่าลดระดับกลับลงไปอยู่เท่ากับยอดขายปี 2013 โน่นเลย อันดับหนึ่งซัมซุง 260.9 ล้านเครื่อง (-4.1%) อันดับสองแอปเปิล 226.4 ล้านเครื่อง (-4%) อันดับสาม Xiaomi 153.1 ล้านเครื่อง (019.8%) อันดับสี่ Oppo 103.3 ล้านเครื่อง (-22.7%) อันดับห้า Vivo 99 ล้านเครื่อง (-22.8%) IDC ประเมินว่ายอดขายปี 2023 จะยังแย่ต่อไป และน่าจะเริ่มฟื้นกลับมาได้ อาจต้องรอช่วงปลายปี 2023 เลย ปีนี้เราจะเห็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนปรับยุทธศาสตร์สินค้ากันใหม่ และปรับปรุงเรื่องสต๊อกสินค้าไม่ให้มีส่วนเกินมากเกินไป ฝั่งของผู้บริโภคน่าจะเห็นโปรโมชั่นจูงใจ รวมถึงแคมเปญเครื่องเก่ามาแลกซื้อเครื่องใหม่กันมากขึ้นด้วย ที่มา - IDC
# Google Meet เพิ่มปุ่มแชร์สไลด์ที่กำลังพรีเซนต์ให้ทุกคนในห้องประชุม Google Meet เพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ แต่น่าจะมีประโยชน์ในวงกว้าง นั่นคือปุ่ม Share เพื่อแชร์ลิงก์สไลด์ที่กำลังพรีเซนต์อยู่บนหน้าจอให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ไม่ต้องมาตามทวงไฟล์สไลด์กันอีกในภายหลัง รูปแบบการทำงานคือคนพรีเซนต์จะเห็นปุ่ม Share ขึ้นมาบนหน้าจอ กดแล้วจะเป็นการโพสต์ลิงก์ลงในห้องแชทของการประชุมนั้นๆ พร้อมภาพพรีวิวสไลด์ ผู้เข้าประชุมคนอื่นๆ สามารถเข้าไปดูสไลด์เองได้ทันที (หากไม่ได้ตั้งสิทธิการเข้าถึงไว้ จะขึ้นหน้าจอถามว่าต้องการเปิดสิทธิให้คนที่อยู่ในห้องประชุมหรือไม่) ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานเป็นค่าดีฟอลต์ และทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Google Workspace บางกลุ่มแล้ว ที่มา - Google Workspace Updates
# ไมโครซอฟท์ปล่อย TypeScript 5.0 Beta รองรับ Decorators เต็มตัว ทำงานเร็วขึ้น ไมโครซอฟท์ปล่อย TypeScript 5.0 ตัวทดสอบแรก ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือการทำงานเร็วขึ้น และโค้ดที่ได้มีขนาดเล็กลงมาก และในเวอร์ชั่นหลักนี้ยังถอด flag ต่างๆ ที่มีการใช้งานน้อยๆ ออกไป ฟีเจอร์สำคัญคือ Decorators ที่ ECMAScript กำลังจะรองรับเช่นกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้ TypeScript จะมี Decorators อยู่ก่อนแล้ว แต่เป็นฟีเจอร์ระดับทดลองเท่านั้นและผู้ใช้ต้องเปิด flag --experimentalDecorators เอง การทำงานของเวอร์ชั่นทดลองกับเวอร์ชั่นมาตรฐานนี้ทำงานไม่เหมือนกัน การทำงานโดยรวมเร็วขึ้น tsc ใช้เวลาเริ่มต้นเหลือ 89% ของเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ระยะเวลา build ใช้เวลา 86% และแพ็กเกจรวมมีขนาดเหลือเพียง 58% เทียบกับ TypeScript 4.9 ฟีเจอร์บางตัวถูกถอดออก แต่คอนฟิกหลายตัวจะรันได้ต่อไปเพียงแค่ขึ้นคำเตือนว่าจะถอดจริงใน TypeScript 5.5 ที่มา - Microsoft
# สิงคโปร์บังคับองค์กรต้องลงทะเบียนก่อนส่ง SMS แบบมีชื่อผู้ส่ง ไม่เช่นนั้นจะแสดงชื่อว่า likely-scam สิงคโปร์ขีดเส้นตายว่าทุกองค์กรที่ต้องการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือโดยชื่อผู้ส่งเป็นข้อความ ดังเช่นที่เราเห็นข้อความจากธนาคารต่างๆ จะต้องลงทะเบียนในฐานข้อมูลผู้ส่ง SMS แห่งชาติ (Singapore SMS Sender ID Registry - SSIR) ไม่เช่นนั้นเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจะแสดงชื่อผู้ส่งว่าต้องสงสัยว่าจะเป็นข้อความหลอกลวง หรือ likely-scam แทน มาตรการนี้มีผลวันที่ 31 มกราคมนี้ ตอนนี้มีองค์กรลงทะเบียน SSIR แล้วกว่า 1,200 องค์กร รวมชื่อผู้ส่ง 2,600 ราย โดยก่อนหน้านี้ระบบ SSIR เป็นทางเลือกสำหรับการจองชื่อผู้ส่งเป็นหลัก ทำให้สามารถบล็อค SMS หลอกลวงได้บางส่วนเพราะพยายามใช้ชื่อตรงกับองค์กรในประเทศ และทาง IMDA ระบุว่ากำลังพิจารณาว่าจะเปิดตัวเลือกให้ประชาชนปิดรับ SMS จากต่างประเทศไปทั้งหมดเลยหรือไม่ แนวทางการเปลี่ยนชื่อผู้ส่ง SMS ของสิงคโปร์ คล้ายกับการเติมเลข 697 สำหรับเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศในไทย อย่างไรก็ดีคนร้ายมักจะเปลี่ยนเทคนิคเพื่อให้หลองลวงได้แนบเนียนยิ่งขึ้น เช่นในไทยเองโทรศัพท์หลอกลวงจำนวนมากก็เป็นเลขหมายในประเทศแล้ว ที่มา - Channel News Asia หน้าจอจำลองข้อความที่พยายามปลอมชื่อผู้ส่งเพื่อส่งข้อความหลอกลวง
# เพราะ CEO ไปโฟกัสอย่างอื่น? รายงานระบุ Tesla Autopilot แพ้ Toyota Safety Sense 3.0 แล้ว หลายคนอาจมีภาพจำว่าระบบช่วยขับของ Tesla หรือที่รู้จักกันในชื่อ Autopilot นั้นเป็นผู้นำตลาดเพราะบุกเบิกมาก่อนและสร้างชื่อเสียงมานาน แต่รายงานล่าสุดของ Consumer Reports กลับพบว่าไม่ใช่แบบนั้นแล้ว Consumer Reports (CR) ได้ทดสอบระบบช่วยขับขี่ 12 ระบบทั้งในสนามปิดและบนถนนจริง และแบ่งเกณฑ์ออกเป็น 5 ประเภทคือความสามารถและประสิทธิภาพ, การกระตุ้นผู้ขับขี่, ความง่ายในการใช้งาน, การใช้งานเมื่อปลอดภัย และปฏิกิริยาเมื่อคนขับไม่ตอบสนอง ผลการทดสอบสรุปออกมาว่าระบบ BlueCruise ของ Ford ได้คะแนนรวมสูงที่สุด 84 คะแนน ตามมาด้วย Super Cruise ของ GM (75 คะแนน) และ Driver Assistance ของ Mercedes-Benz (72 คะแนน) ส่วน Tesla Autopilot นั้นรูดไปอยู่อันดับ 7 ได้เพียง 61 คะแนน แพ้แม้กระทั่งระบบ Safety Sense 3.0 ของ Toyota ที่ได้ 65 คะแนน โดยเมื่อปี 2020 Tesla เคยอยู่อันดับ 2 Consumer Reports ระบุว่า Autopilot ไม่ค่อยมีการพัฒนาเพิ่ม เพราะ Tesla มัวแต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่แทนที่จะปรับปรุงของเดิมด้วย โดย CR บอกว่า Autopilot ยังไม่มีการตรวจจับว่าผู้ขับขี่ตื่นตัวหรือไม่ คือเช็คจากการแตะพวงมาลัยอย่างเดียว ไม่มีการตรวจจับใบหน้าและดวงตาของคนขับ แถมยังรอถึง 30 วินาทีกว่าจะเริ่มเตือน ทำให้รถอาจแล่นไปไกลกว่าครึ่งไมล์ นับว่าอันตราย ในขณะที่ระบบ BlueCruise ของ Ford ใช้กล้องอินฟราเรดตรวจจับดวงตาของผู้ขับและเตือนภายใน 5 วินาทีหากไม่มองถนน นอกจากนี้ Autopilot ยังอนุญาตให้ผู้ขับเปิดใช้งานระบบได้แม้เส้นบนถนนจะมีเพียงเส้นเดียว ในบางสถานการณ์อาจทำให้รถแล่นใกล้ขอบถนนมากเกินไป อย่างไรก็ดี จุดเด่นของ Autopilot ที่ CR ชมคือมันหมุนพวงมาลัยได้นุ่มนวลและรักษารถให้อยู่กลางเลนได้ดีทั้งบนทางตรงและโค้ง Jake Fisher ผู้เชี่ยวชาญจาก CR ระบุว่าระบบช่วยขับขี่แต่ละยี่ห้อนั้นถูกสร้างมาไม่เท่ากัน และ "บางยี่ห้อ" อาจทำให้ผู้ขับเข้าใจผิดว่ารถกำลังควบคุมทุกอย่างเองเบ็ดเสร็จ และ Autopilot ไม่ได้แปลว่ารถจะ "ขับเอง" ได้แม้แต่นิดเดียว เขาทิ้งท้ายว่าระบบช่วยขับเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้ถ้าใช้งานอย่างถูกต้อง แต่หากใช้งานผิดก็จะทำให้เกิดอันตราย สำหรับรายงานฉบับเต็ม และคะแนนของระบบต่างๆ ดูได้จากที่มา ที่มา - Consumer Reports via The Register
# Dead Space Remake คะแนนรีวิวออกมาดี คะแนนเฉลี่ย 87/100 เกม Dead Space Remake มีกำหนดวางขายวันนี้ (27 มกราคม 2023) เว็บเกมสำนักต่างๆ เผยแพร่ผลการรีวิว ซึ่งออกมาดี สื่อใหญ่หลายค่ายให้คะแนน 9/10 และตอนนี้มีคะแนนเฉลี่ย Metacritic อยู่ที่ 87/100 สำหรับเวอร์ชันพีซี สื่อส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เกมภาครีเมคยังใช้โครงเรื่องแบบต้นฉบับ แต่ปรับปรุงเกมเพลย์ ระบบอาวุธ ระบบต่อสู้ ให้ทันสมัย ปรับปรุงกราฟิกให้สมจริงขึ้นมาก อีกอย่างที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือตัวเอก Isaac ที่เกมต้นฉบับไม่มีเสียงพูดเลย ก็มีบทพูดแล้ว (ด้วยนักพากย์คนเดิมกับเกมภาค 2-3) สื่อบางค่ายบอกว่านี่เป็นตัวอย่างของการรีเมคเกมที่ดี และบางรายถึงขั้นบอกว่าเป็นเกมตัวเต็ง Game of the Year เกมแรกของปี 2023 ด้วยเลย ในทางตรงข้าม เกม The Callisto Protocol ที่สร้างโดย Glen Schofield ผู้กำกับเกม Dead Space ภาคต้นฉบับ ภายใต้สังกัดใหม่ Krafton กลับทำผลงานได้ไม่ดี และได้คะแนนเฉลี่ย 68/100 คะแนนจากสื่อสำนักต่างๆ IGN 9/10 Gamespot 9/10 PCMag 4/5 Inverse 10/10 DualShockers 8.9/10 PC Gamer 84/100 PCGamesN 9/10 VG247 5/5 Games Radar+ 4.5/5 GamesInformer 9/10
# เผย BuzzFeed ได้ดีลกับ Meta ทำคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์ม - เตรียมใช้ OpenAI ช่วยสร้างคอนเทนต์ The Wall Street Journal รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Meta ได้ทำข้อตกลงพิเศษมูลค่าราว 10 ล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมากับ BuzzFeed เว็บคอนเทนต์ชื่อดัง เพื่อสร้างคอนเทนต์ลง Facebook และ Instagram รวมทั้งร่วมในการสอนครีเอเตอร์เพื่อพัฒนาคอนเทนต์อีกด้วย รายงานดังกล่าวสะท้อนว่าแม้ท่าที Facebook จะลดความสำคัญกับเว็บคอนเทนต์ เช่น การหยุดสนับสนุน Instant Articles แต่บริษัทก็ยังร่วมมือกับผู้ผลิตเนื้อหาในรูปแบบอื่นต่อไป นอกจากนี้ Jonah Peretti ซีอีโอ BuzzFeed ยังอีเมลถึงพนักงานทุกคน โดยบอกว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาคอนเทนต์ของบริษัทมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งบริษัทได้ใช้บริการ API ของ OpenAI เจ้าของ ChatGPT (แต่ BuzzFeed ไม่ได้ใช้ ChatGPT) สำหรับพัฒนาเนื้อหาเช่น Quiz ถามตอบ ที่สามารถออกแบบให้เข้ากับผู้อ่านแต่ละคน, นำ AI มาช่วยสร้างไอเดียการเชื่อมต่อเนื้อหาต่าง ๆ ทั้งนี้มีพนักงานแสดงความกังวลว่า AI จะเข้ามาแย่งงาน แต่ Jonah บอกว่า AI จะช่วยให้ครีเอเตอร์ได้ประสิทธิภาพทำงานมากขึ้น และเพิ่มไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มากกว่า ที่มา: The Wall Street Journal [1], [2]
# Intel รายงานผลประกอบการไตรมาส รายได้ลดลง 32% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน อินเทลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2022 มีรายได้รวมตามบัญชี GAAP ที่ 14,042 ล้านดอลลาร์ ลดลง 32% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และขาดทุน 661 ล้านดอลลาร์ Pat Gelsinger ซีอีโออินเทลกล่าวว่าบริษัทยังดำเนินงานได้ดี ตามแผนกลยุทธ์เปลี่ยนผ่านในไตรมาสที่ผ่านมา แม้ในปี 2023 ยังมีความท้าทายระยะสั้นสำหรับบริษัท แต่ขณะเดียวกันก็เดินหน้าตามแผนระยะยาว ทั้งการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความสามารถการผลิต รายได้จากกลุ่ม Client Computing ซึ่งรวมทั้งสินค้าพีซี ลดลง 36% เป็น 6,625 ล้านดอลลาร์ ผลกระทบจากลูกค้ากลุ่มการศึกษา และลูกค้าทั่วไปที่ลดคำสั่งซื้อ ส่วนกลุ่มธุรกิจ Datacenter และ AI ลดลง 33% เป็น 4,304 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากสภาพการแข่งขันสูงในตลาด ส่วนธุรกิจอื่น Network และ Edge 2,061 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับปีก่อน และ Mobileye ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้น บันทึกรายได้ 565 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส ที่มา: อินเทล
# ประธาน Naughty Dog บอกไม่ทำเกม Uncharted ต่อแล้วเพราะไม่มีเรื่องเล่าอีก Neil Druckmann ประธานร่วมของค่ายเกม Naughty Dog ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ในโอกาสซีรีส์ The Last of Us ฉบับคนแสดงกำลังเริ่มฉาย เขาให้ข้อมูลว่า Naughty Dog จะไม่ทำเกมซีรีส์ Uncharted ต่อแล้ว เกมภาค 4 ประสบความสำเร็จมากในแง่ยอดขาย และสตูดิโอไม่มีเรื่องจะเล่าต่อแล้ว จากนี้ไปจะหันไปทำเกมอื่นแทน (we're done. we're moving on.) ส่วนคำถามว่าจะมี The Last of Us Part 3 หรือไม่ ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันว่าหากไม่มีเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าต่อ จะถือว่าจบที่ Part 2 ซึ่งเป็นฉากจบที่แข็งแรงมากแล้ว (a very strong ending) (หมายเหตุ: Naughty Dog กำลังทำเกม The Last of Us Multiplayer อยู่ แต่เป็นการเล่าเรื่องในโลกเดียวกัน ไม่ใช่ตัวละครหลักของเกมภาค 1-2) Druckmann ยังตอบคำถามเรื่องซีรีส์ The Last of Us ว่าจะทำซีซัน 2 ต่อหรือไม่ คำตอบคือยังไม่มีอะไรแน่นอนในตอนนี้ แต่จากเสียงตอบรับที่ดีมาก เขาก็หวังว่าแฟนๆ จะชมกันเยอะๆ เพื่อให้มีโอกาสทำกันต่อไป ส่วนเนื้อเรื่องของซีรีส์จะมีเท่ากับในเกม ไม่มีแต่งเพิ่มแล้ว ที่มา - BuzzFeed
# SAP ประกาศปลดพนักงานราว 3,000 คน คิดเป็น 2.5% ของพนักงานทั่วโลก SAP ประกาศปลดพนักงานราว 3,000 คน คิดเป็น 2.5% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก หลังรายงานผลประกอบการประจำปีมีกำไรลดลง โดยการปลดพนักงานนี้มีผลทั่วโลก คาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายได้ราว 350 ล้านยูโรต่อปี SAP บอกว่าจากนี้บริษัทจะเน้นไปที่ธุรกิจตามกลยุทธ์เพื่อเสริมการเติบโต โดยผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจคลาวด์เพิ่มขึ้นเป็น 3.39 พันล้านยูโร ขณะที่ธุรกิจขายไลเซนส์ซอฟต์แวร์ลดลงเหลือ 907 ล้านยูโร นอกจากนี้ SAP ยังประกาศว่าบริษัทกำลังหาผู้มาซื้อต่อกิจการ Qualtrics XM บริษัทซอฟต์แวร์ด้านบริหารประสบการณ์ หรือ Experience Management ที่ซื้อกิจการมา 8,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2019 โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ในตลาดหุ้นแนสแดค และมีมูลค่ากิจการราว 6-7 พันล้านดอลลาร์ ตามราคาหุ้น Tech ที่ปรับลดลง ที่มา: The Wall Street Journal
# มหาวิทยาลัยระดับท็อป UT Austin เปิด ป.โท สาขา AI เรียนออนไลน์ ราคาถูกกว่าที่อื่น 5-10 เท่า University of Texas at Austin (UT Austin) เปิดหลักสูตรปริญญาโทด้าน AI เป็นหลักสูตรออนไลน์ 100% ผ่านแพลตฟอร์ม EdX ด้วยค่าเรียนประมาณ 10,000 ดอลลาร์ (ราว 3.3 แสนบาท) ต่อระยะเวลา 2 ปี ถือเป็นมหาวิทยาลัยระดับท็อปด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์รายแรกๆ ที่เปิดคอร์ส AI แบบออนไลน์ราคาถูกขนาดนี้ University of Texas at Austin เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน Top 10 ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ของสหรัฐอเมริกา (อ้างอิงจากอันดับ US News) ตัวอย่างศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงในวงการไอทีคือ Michael Dell (เรียนไม่จบ) และ John Hanke ผู้สร้าง Google Earth หลักสูตรนี้เป็นความร่วมมือของ 3 หน่วยงานภายในคือ Department of Computer Science, Machine Learning Laboratory, the Master of Science in Artificial Intelligence (MSAI) เนื้อหาที่สอนครอบคลุมเรื่อง machine learning, deep learning, natural language processing, optimization, reinforcement learning ค่าเรียนประมาณ 10,000 ดอลลาร์ ถูกกว่าคอร์สปริญญาโทออนไลน์ของสถาบันระดับเดียวกัน 5-10 เท่า (คอร์สปริญญาโท AI แบบออนไลน์ของ Johns Hopkins University ราคา 45,000 ดอลลาร์) ก่อนหน้านี้ University of Texas at Austin เปิดคอร์สปริญญาโทออนไลน์สาขา Computer Science และ Data Science มาแล้ว ใช้โมเดลคอร์สราคาถูกลักษณะเดียวกัน และมีผู้เรียนรวม 2,500 รายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นแนวทางการผลิตบุคลากรในสาขาที่มีความต้องการสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ คอร์สจะเปิดรับสมัครเดือนมิถุนายน 2023 และเริ่มเรียนช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นปี 2024 รายละเอียดคอร์สและหลักสูตร ที่มา - University of Texas at Austin
# GitHub มีบัญชีนักพัฒนาแตะ 100 ล้านบัญชีแล้ว เติบโต 4 เท่าหลังไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ GitHub เผยสถิติว่ามีบัญชีนักพัฒนาในระบบเกิน 100 ล้านบัญชีแล้ว ทำได้เร็วกว่าเป้าหมายเดิมเมื่อปี 2019 ที่ตั้งเป้าแตะ 100 ล้านบัญชีในปี 2025 ฐานนักพัฒนาจำนวนมหาศาลของ GitHub เป็นเหตุผลสำคัญที่ไมโครซอฟท์เข้าซื้อกิจการในปี 2018 ตอนนั้นมีบัญชีนักพัฒนา 28 ล้านราย หรือเติบโตประมาณ 4 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สถิติอื่นที่น่าสนใจคือ บัญชีนักพัฒนาใหม่เพิ่มถึง 20.5 ล้านบัญชีในปี 2022 โดยการเติบโตมาจากประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐ เช่น อินเดียมีนักพัฒนา 10 ล้านราย, บราซิลมี 3 ล้านราย ซึ่ง GitHub ประเมินว่าหากอินเดียยังเติบโตด้วยอัตราแบบนี้ต่อไป ตัวเลขนักพัฒนาจะแซงสหรัฐอเมริกาได้ในปี 2025 ตัวเลขนักพัฒนาของประเทศไทยที่ GitHub เคยเปิดเผยเมื่อปี 2022 คือมีนักพัฒนาใหม่มากกว่า 6.8 แสนราย (นับเฉพาะปี 2022) เติบโต 43% จากปี 2021 แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขรวมของประเทศไทยว่ามีเท่าไร ที่มา - GitHub Blog
# เนเธอร์แลนด์สั่งปรับ Coinbase 120 ล้านบาทฐานให้บริการไม่ได้รับอนุญาต ธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์สั่งปรับ Coinbase เป็นเงิน 3.3 ล้านยูโร หรือประมาณ 120 ล้านบาทฐานให้บริการลูกค้าชาวเนเธอร์แลนด์จำนวนมากโดยไม่ได้รับอนุญาต Coinbase เพิ่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการซื้อขายเงินคริปโตในเนเธอร์แลนด์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์จึงคิดค่าปรับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2022 แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตจำนวนมากเปิดบริการโดยรับลูกค้าต่างชาตินอกเหนือจากชาติที่ได้รับใบอนุญาตกันบ่อยครั้งจนทำให้หน่วยงานกำกับดูแลชาติต่างๆ ไม่พอใจและดำเนินคดี ในไทยเองก.ล.ต. ก็ดำเนินคดีกับ Binance เมื่อปี 2021 ที่มา - Reuters
# Minecraft Legends เกมวางแผนการรบจากผู้สร้าง Homeworld ได้วันวางขาย 18 เม.ย. 2023 Minecraft Legends เกมวางแผนการรบในจักรวาล Minecraft ที่พัฒนาโดย Blackbird Interactive สตูดิโอเกมที่ทำเกม Homeworld 3 ประกาศวันวางขาย 18 เมษายน 2023 Minecraft Legends เป็นการนำเอากราฟิกบล็อคแบบ Minecraft มาทำเป็นเกมแอคชั่นกึ่งวางแผนการรบ เอาตัวละครใน Minecraft มาสร้างกองทัพต่อสู้กัน สามารถเล่นได้แบบ 4v4 ในแผนที่เดียวกัน ถือเป็นความพยายามต่อยอดจักรวาล Minecraft จากที่ก่อนหน้านี้มี Minecraft Dungeons เป็นเกม RPG ตะลุยดันเจี้ยน มาก่อนแล้ว พอเป็นเกมชื่อ Minecraft แนวทางของไมโครซอฟท์จึงเป็นการลงทุกแพลตฟอร์ม ได้แก่ Xbox, PlayStation, Switch, PC ที่มา - Xbox
# ก.ล.ต. เตรียมกำกับดูแล NFT / Utility Token ทำได้หากไม่นำเข้าตลาดซื้อขาย ไม่ใช้เป็นเงิน ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นร่างประกาศกำกับดูแลโทเค็นดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ที่มีลักษณะพร้อมใช้ (ก.ล.ต. เรียกว่า “utility token พร้อมใช้”) โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ NFT และใบรับรองต่างๆ เช่น ภาพ, เพลง, ตั๋วคอนเสิร์ต, โฉนดที่ดิน สามารถนำออกขายต่อประชาชนได้โดยได้รับยกเว้นการกำกับดูแล แต่ห้ามทำเป็นสื่อกลางในการรับชำระค่าสินค้า (mean of payment), ห้ามมีผลตอบแทนจากการฝาก (staking), และไม่อนุญาตให้จดทะเบียนซื้อขายในกระดานซื้อขาย token อื่นๆ ที่มีผลประโยชน์ตามมา เช่น token เพื่อใช้บริการบน DeFi, token ส่วนลดค่าธรรมเนียม, หรือ token เพื่อสิทธิ์ตัดสินใจทางธุรกิจ (governance token) กลุ่มนี้สามารถทำได้แต่หากจะนำ token เข้าซื้อขายในกระดานซื้อขายต้องขออนุญาตล่วงหน้า ทางก.ล.ต. รับฟังความเห็นถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ที่มา - SEC.or.th
# เปิดตัว Hi-Fi Rush เกมใหม่แนวกดจังหวะ โดย Tango Gameworks ผู้สร้าง The Evil Within Tango Gameworks สตูดิโอฝั่งญี่ปุ่นของ Bethesda (ก่อตั้งโดย Shinji Mikami ผู้สร้าง Resident Evil หลังลาออกจาก Capcom) สร้างเซอร์ไพร์สเปิดตัวเกมใหม่ Hi-Fi Rush พร้อมวางขายทันทีวันนี้ Hi-Fi Rush เป็นเกมแอคชั่นแนวเข้าจังหวะ (rhythm-action game) ใช้กราฟิกแนวการ์ตูนสีสันฉูดฉาด แตกต่างจากเกมอื่นๆ ของค่ายที่เป็นเกมแนวสยองขวัญ (The Evil Within และ Ghostwire: Tokyo) ผู้เล่นต้องรับบทเป็น Chai มนุษย์ที่มีแขนกลไซบอร์ก พร้อมกีตาร์คู่ใจ ต่อสู้กับเหล่าหุ่นยนต์ด้วยการเอากีตาร์ฟาด (!) รูปแบบเกมเพลย์เป็นแนวกดคอมโบตามจังหวะดนตรี เกมตั้งราคาขายถูกหน่อยคือ 29.99 ดอลลาร์ และมีให้เล่นบน Game Pass ทั้งบนพีซีและ Xbox Series X|S ที่มา - Xbox
# Netflix เตรียมใช้ระบบป้องกันการหารบัญชีภายในเดือนมีนาคมนี้ Netflix ส่งจดหมายถึงผู้ถือหุ้นบริษัทว่าจะใช้ระบบป้องกันการหารบัญชีของผู้ที่ไม่ได้อยู่ในที่อยู่อาศัยเดียวกันภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ในเรื่องรายได้ Netflix คาดว่าหลังจากระบบป้องกันมีผลแล้ว ก็จะมีผู้ใช้ที่ยกเลิกสมาชิกรายเดือน ทำให้ตัวเลขการเติบโตของผู้ใช้ลดลง แต่เมื่อผู้ใช้ที่เคยหารบัญชีกันเริ่มแยกออกมาใช้บัญชีของตนเอง ก็คาดว่าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้นและรายได้ในภาพรวมก็จะดีขึ้น Netflix มีแผนการใช้ระบบป้องกันการหารบัญชีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้ลองใช้ระบบป้องกันโดยให้ผู้ใช้สร้างบัญชีแยกหรือ sub-account และจ่ายเงินเพิ่มเติมเล็กน้อย (3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน) ในประเทศกลุ่มลาตินอเมริกา ส่วนเรื่องวิธีการตรวจสอบการหารบัญชี Netflix กล่าวว่าจะตรวจสอบจากเลข IP Address เลขรหัสอุปกรณ์และความเคลื่อนไหวของบัญชี ที่มา - USA Today
# SK hynix เปิดตัวแรม LPDDR5T (Turbo) ส่งข้อมูลเร็วขึ้นจาก LPDDR5X อีก 13% SK hynix เปิดตัวแรมรุ่นใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน LPDDR5T ที่แรงขึ้นจากแรม LPDDR5X รุ่นล่าสุดในปัจจุบันอีก 13% LPDDR5T ย่อมาจาก Low Power Double Data Rate 5 Turbo เป็นแรมที่ต่อยอดจาก LPDDR5X โดยเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลเป็น 9.6 Gbps หรือเพิ่มขึ้น 13% จาก 8.5 Gbps ของแรมรุ่นเดิม และน่าจะเป็นการอัพเกรดครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นเลขใหม่เป็น LPDDR6 ในอนาคตต่อไป จุดที่น่าสนใจคือ LPDDR5T เป็นสเปกที่ SK hynix พัฒนาขึ้นเอง ไม่ได้อิงกับมาตรฐานแรมของ JEDEC (Joint Electron Device Engineering Council) แต่ SK hynix ก็บอกว่าจะผลักดันให้เป็นมาตรฐานของ JEDEC ด้วย แรมของ SK hynix จะใช้กระบวนการผลิตระดับ 10 นาโนเมตร เริ่มผลิตเป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ที่มา - SK hynix via AnandTech
# Redfall เกมยิงแวมไพร์จาก Arkane ได้วันวางขายใหม่ 2 พฤษภาคม 2023 Bethesda ประกาศวันวางขาย Redfall เกมยิงแวมไพร์แบบ co-op เป็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2023 ทั้งบน Xbox และพีซี หลังต้องเลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2022 Redfall เป็นผลงานใหม่ล่าสุดของ Arkane Studios เจ้าของผลงาน Dishonored, Prey, Deathloop และถือเป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟที่ฝั่ง Xbox หวังใช้ดึงดูดผู้เล่นเข้าแพลตฟอร์ม เนื้อเรื่องของเกมคือเมืองเล็กๆ บนเกาะในสหรัฐถูกยึดโดยเหล่าแวมไพร์ ผู้เล่นจึงต้องมาต่อสู้เพื่อขับไล่แวมไพร์ออกไป สามารถเล่นได้ทั้งแบบคนเดียวและมัลติเพลเยอร์สูงสุด 4 คน เกมมีระบบอัพเกรดสกิล อัพเกรดอาวุธ ตกแต่งชุดตามแนวทางเกมสมัยใหม่ ที่มา - Xbox
# กูเกิลยอมรัฐบาลอินเดีย คลายเงื่อนไขการใช้ Android, เปิดใช้ระบบจ่ายเงินภายนอก กูเกิลยอมถอย หลังโดนคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าของอินเดีย (CCI) สั่งปรับเงินรวม 10.4 พันล้านบาทในเดือนตุลาคม 2022 ในข้อหา Android มีพฤติกรรมผูกขาด กีดกันการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน สิ่งที่กูเกิลจะปรับตามคำสั่งของ CCI มีดังนี้ ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ OEM สามารถเลือกซื้อไลเซนส์แอพของกูเกิลแยกเป็นรายตัว เพื่อไปพรีโหลดในสมาร์ทโฟนได้แล้ว จากเดิมที่ต้องซื้อทั้งชุด ผู้ใช้ Android ในอินเดียจะสามารถเลือก default search engine ได้เอง โดยจะขึ้นถามเมื่อเปิดเครื่องมาเป็นครั้งแรก กูเกิลจะปรับแก้เงื่อนไขการใช้งานกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ OEM อนุญาตให้ผู้ผลิตสามารถออกสินค้าที่ใช้ Android fork ได้ด้วย ผู้ใช้ Android จะสามารถจ่ายเงินซื้อแอพหรือสินค้าในแอพ ผ่านระบบจ่ายเงินอื่น (alternative billing) นอกเหนือจาก Google Play billing (นักพัฒนาแอพต้องซัพพอร์ตด้วย) กูเกิลจะปรับวิธีการอัพเดตแอพแบบ sideload ให้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้เข้าใจความเสี่ยงของการติดตั้งแอพนอกสโตร์ มาตรการบางอย่างของกูเกิลเป็นสิ่งที่ทำมาก่อนแล้วในประเทศอื่นๆ เช่น การเลือก default search engine ตามคำสั่ง EU ในปี 2019 และ alternative billing ที่ทำตามคำสั่งของรัฐบาลเกาหลีใต้ในปี 2021 ที่มา - Google
# Meta ปลดแบน Donald Trump ทั้งบน Facebook และ Instagram หลังแบนครบ 2 ปี บริษัท Meta ประกาศคืนบัญชีให้ Donald Trump ทั้งบน Facebook และ Instagram หลังโดนแบนเมื่อ 2 ปีก่อน ในเหตุการณ์ม็อบผู้สนับสนุน Trump บุกอาคารรัฐสภาของสหรัฐ กระบวนการแบนบัญชีของ Meta พิจารณาโดยคณะกรรมการคนนอกที่เรียกว่า Oversight Board เพื่อเพิ่มความโปร่งใสให้บริษัท กรณีของ Trump นั้น บอร์ดเห็นชอบกับการแบน แต่เสนอให้กำหนดขอบเขตระยะเวลาของการแบนด้วย ซึ่ง Meta เพิ่มนโยบายแบน 2 ปีเข้ามา ตอนนี้เวลาผ่านมาครบ 2 ปีแล้ว Meta จึงมาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง และตัดสินใจปลดแบน Trump ด้วยเหตุผลว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป สหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบการบุกรัฐสภาแล้ว อีกทั้ง Trump ยังประกาศตัวชิงชัยประธานาธิบดีอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2024 ก็ควรให้มีพื้นที่หาเสียงเหมือนผู้สมัครคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาอีก Meta จึงเพิ่มมาตรการว่า หาก Trump ทำผิดเงื่อนไขการใช้งานแพลตฟอร์มซ้ำอีก โพสต์ของเขาจะถูกลบ และเขาจะถูกแบนซ้ำ 1 เดือน-2 ปี (ขึ้นกับระดับความรุนแรงในการละเมิด) และถ้าโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องกับเหตุการณ์บุกรัฐสภา (เช่น เกี่ยวกับกลุ่ม QAnon) โพสต์ของเขาจะถูกจำกัดการเผยแพร่ใน News Feed ของผู้ใช้ แต่ยังสามารถดูได้จากหน้าบัญชีของ Trump อยู่ รวมถึงโพสต์อาจไม่มีปุ่ม Share ให้ด้วย Meta บอกว่าการปลดแบน Trump จะมีผลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า (coming weeks) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 Twitter เพิ่งปลดแบน Trump เช่นกัน (จากการตั้งโพลของ Elon Musk) แต่ Trump ก็บอกว่าไม่กลับมาใช้ Twitter อีกแล้ว เพราะเขาตั้งโซเชียล Truth Social ของตัวเองแล้ว จึงเป็นไปได้สูงว่า Trump จะไม่กลับมาใช้ Facebook/Instagram อีกแม้ได้ปลดแบนแล้ว ที่มา - Meta
# LG เปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นพิเศษ LG gram ที่คอลแลบส์กับ NewJeans LG เปิดตัวโน้ตบุ๊ก LG gram รุ่นพิเศษ LG gram Style NewJeans Limited Edition Big Bunny ซึ่งเป็นการคอลแลบส์กับกลุ่มศิลปินหญิง NewJeans พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณาใหม่เพื่อประชาสัมพันธ์โน้ตบุ๊กรุ่นพิเศษนี้ LG gram รุ่นพิเศษนี้ดีไซน์ภายนอกด้วยลายกระต่ายสัญลักษณ์ของวง ประสานไปกับพื้นผิวที่สะท้อนสีสันได้หลากหลาย แพ็คเกจการซื้อยังมีของแถมเป็นเซต Limited ธีม Bunny ทั้งเมาส์, แผ่นรองเมาส์, สติกเกอร์ DIY, โปสเตอร์ และวอลล์เปเปอร์ติดตั้งมาให้พร้อม LG จะเปิดให้สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ LGE.COM ตั้งแต่สองทุ่มตามเวลาในเกาหลีใต้ สินค้ามีจำนวนจำกัด ชมหนังโฆษณาได้ท้ายข่าว ที่มา: K Bizroom
# IBM รายงานผลประกอบการไตรมาส ใกล้เคียงกับปีก่อน - ประกาศปลดพนักงาน 3,900 คน ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2022 รายได้รวมใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 16,690 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,711 ล้านดอลลาร์ รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจ เป็นดังนี้ ธุรกิจซอฟต์แวร์รายได้เพิ่มขึ้น 3% เป็น 7,288 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจให้คำปรึกษาเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 4,770 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจ Infrastructure เพิ่มขึ้น 2% เป็น 4,483 ล้านดอลลาร์ เฉพาะไลน์สินค้าเมนเฟรม IBM Z เพิ่มขึ้น 16% Arvind Krishna ซีอีโอไอบีเอ็มกล่าวว่าในไตรมาสที่ผ่านมา ลูกค้าต่างเพิ่มความสนใจในโซลูชันไฮบริดคลาวด์ และ AI ซึ่งช่วยเสริมความแตกต่างให้กับธุรกิจ และเสริมให้ไอบีเอ็มมีการเติบโต ไอบีเอ็มยังยืนยันข่าวการปลดพนักงาน 3,900 คน คิดเป็น 1.5% ของพนักงานทั้งหมด โดยพนักงานกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ เป็นพนักงานที่เกี่ยวข้องกับ Kyndryl ธุรกิจ Infrastructure ที่แยกออกจากไอบีเอ็ม และ Watson Health ที่ขายออกไปเมื่อปีที่แล้ว ที่มา: ไอบีเอ็ม และ CNBC
# Tesla รายงานผลประกอบการ รายได้-กำไร เติบโตทำสถิติสูงสุดอีกไตรมาส Tesla รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2022 รายได้รวม 24,318 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกระแสเงินสดอิสระ 1,420 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิแบบ non-GAAP เพิ่มขึ้นเป็น 4,106 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดของบริษัททั้งรายได้และกำไร อัตรากำไร Gross Margin อยู่ที่ 25.9% ต่ำที่สุดใน 5 ไตรมาสย้อนหลัง ซึ่ง Tesla ให้ข้อมูลประกอบว่ามาจากราคาขายเฉลี่ยรถต่อคัน ที่มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับหลายล้านคันต่อปี อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าแผนลดค่าใช้จ่ายที่ทำมาตลอด ซีอีโอ Elon Musk ให้ข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการว่าคำสั่งซื้อในเดือนมกราคม ยังคงเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา และจำนวนคำสั่งซื้อก็ยังอยู่ในระดับเกือบสองเท่าของกำลังการผลิตที่มี เขายังตอบคำถามเรื่องการต่อยอดการทำการตลาด Tesla ผ่าน Twitter ที่เขาซื้อกิจการมา โดยบอกว่าตอนนี้เขามีผู้ติดตามอยู่ 127 ล้านคน ซึ่งก็ถือว่าเป็นคนดังพอสมควร แต่อาจไม่ใช่คนดังของทุกคน ด้วยปัจจัยดังกล่าว Twitter ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยทำให้คนสนใจซื้อ Tesla และเขาเองก็แนะนำให้บริษัทรถยนต์ หรืออุตสาหกรรมอื่น หันมาใช้ Twitter ในการประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูล ทำให้เรื่องต่าง ๆ สนุกบนแพลตฟอร์ม ที่มา: Tesla (pdf) และ CNBC หัวรถบรรทุก Tesla Semi ข้อมูลกำลังการผลิต
# Replit บริการ IDE ออนไลน์ เพิ่มฐานข้อมูล PostgreSQL คิดค่าใช้วันละ 1 ดอลลาร์ Replit บริการ IDE สำหรับพัฒนาเว็บบนเว็บ ประกาศร่วมมือกับ Neon ผู้ให้บริการ PostgreSQL แบบ Serverless ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างฐานข้อมูลออนไลน์ไปด้วย เปิดทางพัฒนาเว็บเต็มรูปแบบบน Replit ตัวเซิร์ฟเวอร์มีขนาดเดียวคือแรม 4GB และสตอเรจ 10GB คิดค่าใช้งาน 100 Cycle ต่อวัน หรือวันละ 1 ดอลลาร์ เทียบกับค่าบริการอื่นๆ เช่น การพัฒนาโครงการแบบเป็นส่วนตัวเดือนละ 500 Cycle, ค่ารันเซิร์ฟเวอร์ต่อเนื่องวันละ 20 Cycle, เซิร์ฟเวอร์แรงพิเศษวันละ 350 Cycle หรือค่าปัญญาประดิษฐ์ช่วยเขียนโค้ด 1,000 Cycle ต่อเดือน ตอนนี้บริการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทาง Replit ระบุว่าฐานข้อมูลจะปิดเองหากไม่ได้ใช้งานนาน 5 นาที และเปิดกลับมาในเวลาไม่กี่วินาที ในอนาคตจะเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ให้ใช้งานด้วย ที่มา - Replit
# สื่อรัฐบาลจีนยืนยัน Sinovac สามเข็มพอๆ กับ Pfizer แม้รายงานจะแสดงให้เห็นว่าบางอย่างแย่กว่า หลังจากรัฐบาลจีนเปิดประเทศและหลายชาติเลือกที่จะวางมาตรการ COVID-19 กับประชาชนจีนที่เดินทางออกนอกประเทศเพิ่มเติมจนรัฐบาลจีนแสดงความไม่พอใจ ล่าสุด CGTN สื่อรัฐบาลจีนภาษาอังกฤษก็เผยแพร่งานวิจัยโดยสื่อว่าผลการศึกษาในฮ่องกงแสดงให้เห็นว่าหากฉีดสามเข็มจะป้องกันได้ที่ 98% เท่ากัน พร้อมกับทำภาพเปรียบเทียบระหว่าง Sinovac สามเข็มว่าป้องกันอาการรุนแรงได้ 97.9% และ Pfizer สองเข็มที่ป้องกันอาการรุนแรงได้ 89.3% รายงานการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนในฮ่องกงนั้นเปรียบเทียบทั้ง BNT162b2 (Pfizer) และ CoronaVac (Sinovac) โดยมีข้อมูลสามเข็มทั้งสองตัว หากเทียบวัคซีนสามเข็มเท่าๆ กันแล้ว ผลที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกันในกรณีอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต แต่เมื่อเทียบประสิทธิภาพการป้องกันอาการเล็กน้อยถึงปานกลางแล้วจะพบว่าประสิทธิภาพของ BNT162b2 ดีกว่าชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ รายงานวิจัยระบุว่าผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ได้รับวัคซีนเชื้อตายสองเข็มควรรีบไปรับวัคซีนเชื้อตายหรือ mRNA เพิ่มเติมโดยเร็วเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต หลังจีนเปิดประเทศโดยลดเงื่อนไขการเดินทาง สถานพยาบาลในฮ่องกงก็เปิดบริการฉีดวัคซีนให้กับชาวจีนแผ่นดินใหญ่โดยคิดค่าบริการระหว่าง 1,300 จนถึง 2,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 5,500 ถึง 8,400 บาท ที่มา - CGTN
# ซีอีโอ Netflix บอก ไม่เคยยกเลิกซีรีส์หรือหนังที่ประสบความสำเร็จ Greg Peters และ Ted Sarandos ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องทิศทางและแผนการทำธุรกิจสตรีมมิง การต่อสู้กับคู่แข่ง และการทำแพ็คเกจมีโฆษณา หลังเพิ่งก้าวขึ้นเป็นซีอีโอร่วมของ Netflix หลังจาก Reed Hastings ลงจากเก้าอี้ จุดที่น่าสนใจอยู่ที่ว่าเมื่อซีอีโอทั้ง 2 ถูกถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ Netflix และผู้สร้างผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะผู้ใช้ Netflix ไม่พึงพอใจที่ภาพยนตร์หรือซีรีส์หลายเรื่องถูกยกเลิกกลางคันไม่ให้ทำภาคต่อ Ted Sarandos กล่าวว่า Netflix ไม่เคยยกเลิกการสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จ หลายเรื่องที่ถูกแคนเซิลทำได้ดีแต่มีผู้ชมน้อยหากเทียบกับงบประมาณในการสร้างที่ใช้เงินมหาศาล เพราะฉะนั้นหากผู้ผลิตภาพยนตร์สามารถใช้งบน้อยแล้วมีคนดูน้อย หรือใช้งบมากแต่ก็มีคนดูมาก ทาง Netflix ก็จะไม่ยกเลิกภาคต่อ ๆ ไปของเรื่องนั้น ๆ นอกจากเรื่องยกเลิกสร้างหนังกลางคันที่เป็นประเด็นให้ผู้ชมไม่พอใจมาตลอด ซีอีโอทั้ง 2 คนเผยว่ายังมองเห็นโอกาสของธุรกิจสตรีมมิงโดยเฉพาะกับประเทศในแถบเอเชียที่ Netflix พยายามจะเผยแพร่ภาพยนตร์ที่เข้าถึงตลาดเหล่านี้มากขึ้นทั้งในอินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ พร้อมทั้งเห็นโอกาสจากแพ็คเกจใหม่แบบมีโฆษณา ว่าจะสามารถทำรายได้หลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีก 3 ปี ที่มา - Bloomberg
# บริการหลายตัวของไมโครซอฟท์มีปัญหาทั้ง Teams, Outlook, 365, Xbox Live บริการจำนวนมากของไมโครซอฟท์มีปัญหาพร้อมๆ กันโดยไม่ได้ดับไปทั้งหมด แต่มีผู้ใช้เจอปัญหาใช้งานบางอย่างไม่ได้เป็นระยะ เว็บ Down Detector รายงานว่าบริการของไมโครซอฟท์หลายตัวมีปัญหาใกล้ๆ กัน รวมถึงขณะนี้เองก็เข้าหน้า Status ของไมโครซอฟท์ไม่ได้ทั้ง Azure Status และ Office 365 Status อัพเดต: ไมโครซอฟท์รายงานว่าบริการทั้งหมดกลับมาเป็นปกติ ตั้งแต่ 21:47น.
# รู้จัก Bondee แอปโซเชียลมีเดียที่ขึ้นอันดับ 1 ในไทยหลังเปิดตัวได้แค่ 1 วัน แอปพลิเคชัน Bondee กำลังได้รับความนิยมบนอินเทอร์เน็ตจนขึ้นอันดับ 1 ในหมวดแอปฟรีในไทย ทั้ง iOS และ Android หลังเพิ่งปล่อยให้ดาวน์โหลดบน App Store และ Play Store ของประเทศในเอเชียวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา Bondee เป็นแอปโซเชียลมีเดียจากบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ Metadream ที่ผู้ใช้สามารถสร้างตัวอวตารในโลกเสมือนจริงที่ให้ผู้ใช้ได้ออกแบบและแต่งตัวอวตารตามหน้าตา เสื้อผ้า เครื่องประดับที่มีหลากหลายแบบ เมื่อสร้างตัวละครเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถสร้างห้องพักของตัวเองได้ โดยมีลูกเล่นมากมายให้เล่น ทั้งสร้างกรอบรูปจากภาพที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ ให้คนที่มาเยี่ยมบ้านสามารถแปะโพสต์อิทได้ สร้างบรรยากาศรอบห้องได้เองทั้งภาพและเสียง แอป Bondee ไม่ใช่แค่สร้างตัวอวตารหรือตกแต่งบ้านเหมือน The Sims แต่ยังสามารถกดเพิ่มเพื่อน แชทกับเพื่อน แชร์สถานะ ส่งรูปภาพหรือโพสต์สตอรี่ เหมือนแอปโซเชียลมีเดียหลายแอป นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกสถานะของอวตารได้ เช่น ทำงาน ฟังเพลง นอน ทานอาหาร จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งยังอยู่ที่ฟีเจอร์ “Floating” ที่ผู้ใช้สามารถทิ้งข้อความไว้ในขวดกลางทะเลให้ใครก็ได้ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรู้จักเพื่อทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ และลุ้นรับรางวัลในเกมอีกด้วย ที่มา: Business Wire
# รัฐบาลอินเดียเปิดตัวระบบปฏิบัติการ BharOS ที่แท้คือ Android Fork ตามคาด รัฐบาลอินเดียเปิดตัวระบบปฏิบัติการแห่งชาติ BharOS ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ มันเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟน ที่พัฒนาโดยอิงจาก Android Open Source Project (AOSP) ตามที่คาดกัน ความแตกต่างสำคัญคือ BharOS ไม่มีแอพใดๆ ติดตั้งมาให้ตั้งแต่แรก ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอพมาติดตั้งเองทั้งหมด โดยจะเปิดให้มีสโตร์แยกขององค์กร เรียกว่า Private App Store Services (PASS) และแน่นอนว่าไม่มี Google Play Services มาให้ด้วย ทีมพัฒนา BharOS คือบริษัท JandKops ในเครือข่ายของสถาบัน Indian Institute of Technology, Madras แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่า BharOS จะถูกนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างไร และอะไรคือเหตุผลในการใช้งาน นอกเหนือจากการการันตีว่าไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลถูกส่งกลับไปให้กูเกิล คลิปเปิดตัว BharOS ที่มา - Times of India
# Tesla เตรียมลงทุนในโรงงาน Giga Nevada เพิ่มอีก 3.6 พันล้านดอลลาร์ ตั้งโรงงานเพิ่ม 2 โรง Tesla เดินหน้าขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศลงทุนในโรงงาน Giga Nevada เพิ่มอีก 3.6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.18 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นการจ้างงานเพิ่ม 3,000 ตำแหน่ง และตั้งโรงงานเพิ่มอีก 2 โรงคือโรงผลิตเซลล์แบตเตอรี่ 4680 มีกำลังการผลิต 100 GWh ซึ่ง Tesla ระบุว่าเพียงพอต่อการประกอบแบตเตอรี่ให้รถยนต์นั่งขนาดเล็กได้ 1.5 ล้านคันต่อปี รวมถึงจะตั้งโรงงานประกอบรถหัวลาก (Tesla Semi) เพื่อผลิตจำนวนมาก (สักที) โดยพื้นที่การผลิตที่จะตั้งใหม่จะใหญ่ถึง 4 ล้านตารางฟุต หรือราว 371,000 ตารางเมตร Tesla ตั้งโรงงาน Giga Nevada ในปี 2014 โดยตอนนั้นใช้เงินลงทุน 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาถึงตอนนี้ผลิตเซลล์แบตเตอรี่ไปแล้ว 7.3 ล้านเซลล์ (37 GWh ต่อปี), แบตเตอรี่แพ็ค 1.5 ล้านชิ้น, ระบบขับเคลื่อนรถ 3.6 ล้านชุด และโมดูลเก็บพลังงาน (กลุ่ม Powerwall) 1 ล้านชิ้น จ้างงานไปแล้วกว่า 11,000 ตำแหน่ง ที่มา - Tesla ภาพโดย Tesla
# Riot Games ยอมรับโดนแฮ็ก แฮ็กเกอร์เรียกค่าไถ่หลังได้ซอร์สโค้ด League of Legends Riot Games เผยรายละเอียดการถูกแฮ็กระบบ จนทำให้ซอร์สโค้ดของเกมดังอย่าง League of Legends, Teamfight Tactics และระบบป้องกันการโกง (ตัวเก่า) รั่วไหลออกไปสู่มือแฮ็กเกอร์ แฮ็กเกอร์ยังส่งอีเมลมาเรียกค่าไถ่แลกกับซอร์สโค้ดชุดนี้ ซึ่ง Riot Games ประกาศชัดว่าจะไม่จ่ายเงิน ด้วยเหตุผลว่าไม่มีข้อมูลผู้เล่นรั่วไหล ผลกระทบมีเพียงแค่กลุ่มผู้โกงเกมอาจสร้างระบบโกงที่ดีขึ้นจากการเห็นซอร์สโค้ดของเกม ซึ่งทีมงานฝั่ง anticheat จะเตรียมมาตรการต่างๆ ไว้รับมือ หากเจอการโกงแบบใหม่ๆ ก็พร้อมเข้าไปจัดการทันที Riot Games ยังบอกว่าในซอร์สโค้ดที่หลุดออกไป อาจมีฟีเจอร์หรือโหมดเกมใหม่ๆ ที่ทดลองทำอยู่ และอาจไม่ถูกนำมาใช้จริงเสมอไป ดังนั้นหากแฟนๆ เห็นข่าวฟีเจอร์หลุดเหล่านี้ก็ไม่ควรคาดหวังว่าจะได้ใช้งานกัน
# Strava ซื้อกิจการ Fatmap ผู้พัฒนาแผนที่ 3D สำหรับกิจกรรมผจญภัย Strava ประกาศซื้อกิจการ Fatmap แพลตฟอร์มสำหรับกิจกรรมผจญภัยนอกบ้าน ซึ่งมีจุดเด่นคือเทคโนโลยีแผนที่ 3D สำหรับกีฬานอกบ้านอย่าง ปีนเขา วิ่งเทรล สกี หรือจักรยานภูเขา โดยดีลดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยมูลค่า Michael Horvath ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Strava บอกว่าการซื้อกิจการ Fatmap ทำให้แพลตฟอร์มช่วยสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับผู้ต้องการออกไปหาประสบการณ์ใหม่ในกิจกรรมกลางแจ้ง เทคโนโลยีแผนที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานค้นพบสิ่งใหม่ได้อีกด้วย ตัวแทนของ Strava บอกว่าระบบแผนที่ 3D ของ Fatmap จะนำเข้ามารวมกับบริการของ Strava ใช้งานได้ทั้งผู้ใช้แบบฟรีและผู้ใช้รายเดือนที่เสียเงิน โดยผู้ใช้แบบเสียเงินจะเข้าถึงฟีเจอร์ที่มากกว่า เช่น แผนที่เพิ่มเติม คำแนะนำเส้นทาง เป็นต้น ที่มา: The Verge