NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงยกยอดปลีฉัตรองค์พระธาตุเจดีย์ ณ วัดผาลาด จังหวัดเชียงใหม่
วันนี้ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16 นาฬิกา 17 นาที พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จไปยังวัดผาลาด อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมา พระประธานอุโบสถ จากนั้น ทรงเป็นประธานในพิธียกยอดปลีฉัตรองค์พระธาตุเจดีย์วัดผาลาด ทําจากแก้วเลม่อนควอตซ์ ความสูง 39 เซนติเมตร หุ้มทองคําน้ําหนักรวมทั้งสิ้น 32 บาท สําหรับ องค์พระธาตุเจดีย์ เป็นทรงระฆังกลมแบบพุกาม แต่เดิมมีสภาพทรุดโทรมอย่างมาก ทางกรมศิลปากรและวัดผาลาด ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนเพื่อทําการบูรณะ เสริมความแข็งแรงให้กับองค์พระธาตุฯ แล้วเสร็จในปีพุทธศักราช 2564 วัดผาลาด จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า ก่อสร้างขึ้นประมาณปีพุทธศักราช 1916 ตั้งแต่สมัยพญากือนา แห่งอาณาจักรล้านนา ภายหลังจากที่สร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพได้ 2 ปี เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่พระมหาสุมณเถระ (สุ-มะ-นะ-เถ-ระ) เชิญมาจากสุโขทัย ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช 2505 หลวงพ่อสวัสดิ์ สุขกาโม นิมนต์พระจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ มาจําพรรษา ณ วัดผาลาด ทําให้มีพุทธศาสนิกชน อุบาสก อุบาสิกา เดินทางมาฟังธรรมและร่วมสมทบทุนสร้างเสนาสนะ และพัฒนา อนุรักษ์รักษาความเป็นธรรมชาติของป่าต้นน้ํา และสภาพดั้งเดิมของโบราณสถานภายในวัดให้มีความงดงาม โดยวัดผาลาด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ประกอบด้วย หอพระเจ้าริมน้ําตกผาลาด, บ่อน้ําศักดิ์สิทธิ์, วิหาร และพระเจดีย์ ปัจจุบัน มีพระครูธีรสุตพจน์ (พระ-ครู-ที-ระ-สุ-ตะ-พจ) เป็นเจ้าอาวาส, มีพระสงฆ์จํานวน 7 รูป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
16/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220217153615185
700
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ ไปในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปีการศึกษา 2562 และ 2563 เป็นวันแรก
วันนี้ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14 นาฬิกา 19 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ ไปยังศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจําปีการศึกษา 2562 และ 2563 เป็นวันแรก ในการนี้ พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 8 คน พระราชทานปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 2 คน พระราชทานโล่ศิษย์เก่าแม่โจ้ดีเด่น ประจําปี 2563 แก่ศิษย์เก่า จํานวน 6 คน พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี รวมจํานวน 1,523 คน โอกาสนี้ พระราชทานพระโอวาท ความสําคัญตอนหนึ่งว่า "ประเทศไทยเราผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ของโลกมาได้ ก็เพราะมีเกษตรกรรมเป็นรากฐานสําคัญของชาติ สภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการเกษตร ทําให้ประเทศไทยบริบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร จนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ จึงควรให้ภาคการเกษตรเป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อน โดยใช้องค์ความรู้สมัยใหม่ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และการวิจัย เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมอย่างทันท่วงที ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง หากบัณฑิตทั้งหลายจะได้นําสิ่งที่พูดนี้ไปเป็นแนวทางปฏิบัติ ก็จะสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทย ให้เจริญวัฒนาได้อย่างแน่นอน" ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
16/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220217153949189
701
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2565
วันนี้ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17 นาฬิกา 50 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดําเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2565 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย เมื่อเสด็จพระราชดําเนินเข้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนรุ่ง ทรงรับกระทงดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางบนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ จากนั้น พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทนผู้อํานวยการกองพระราชพิธี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนชนวน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหยิบเทียนชนวนจุดไฟที่โคมไฟฟ้า ซึ่งเจ้าพนักงานพระราชพิธีถือถวาย และพระราชทานเทียนชนวนที่ทรงจุดให้ รักษาราชการแทนผู้อํานวยการกองพระราชพิธี เชิญไปถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จุดเทียนรุ่งที่ทรงพระราชอุทิศพระราชทานไปจุดเป็นพุทธบูชา 5 พระอาราม ได้แก่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร และวัดนิเวศธรรมประวัติ อําเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันมาฆบูชา เป็นวันสําคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง ตามปฏิทินจันทรคติของไทยนั้น ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ํา เดือน 3 แต่ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน, วันมาฆบูชา ก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ํา เดือน 4 ในปีนี้ ตรงกับที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 วันมาฆบูชา ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่ วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ํา เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ มีพระสงฆ์จํานวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" เหตุอัศจรรย์ 4 ประการดังกล่าว จึงเรียกวันมาฆบูชา อีกชื่อหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" ในวันมาฆบูชา นี้ พระพุทธเจ้า ได้ทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคําสอน สรุปเนื้อหาสําคัญได้ว่า "ทําความดี ละเว้นความชั่ว ทําจิตใจให้บริสุทธิ์" ทั้งนี้ ในหนังสือ "พระราชพิธีสิบสองเดือน" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเรื่องราวเกี่ยวกับการพระราชกุศลมาฆบูชา ไว้ว่า "การมาฆบูชานี้ แต่เดิมก็ไม่ได้เคยทํามา พึ่งเกิดขึ้นเมื่อแผ่นดิน รัชกาลที่ 4" ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
16/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220217154231193
702
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์น ทรงอำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย ในโอกาสวันฟื้นฟูรัฐลิทัวเนียของสาธารณรัฐลิทัวเนีย ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ ฯพณฯ นายกีตานัส นูเซดา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย กรุงวิลนีอุส ในโอกาสวันฟื้นฟูรัฐลิทัวเนีย ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดี เพื่อท่านประธานาธิบดี มีพลานามัยสมบูรณ์และประสบความสุขสวัสดิ์ ทั้งเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวลิทัวเนีย ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นว่าสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐลิทัวเนียได้เจริญงอกงามต่อเนื่องมาด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนาดีต่อกัน ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ความสัมพันธ์อันน่ายินดีนี้จะช่วยสร้างโอกาสในการขยายความร่วมมือทั้งในบริบททวิภาคีและภูมิภาค อันจะนําพาประโยชน์สุขมาสู่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายในภายภาคหน้า พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
16/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220217154531197
703
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดพะเยาและจังหวัดเชียงราย
วันนี้ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 15 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ แทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพะเยา ประจําปีการศึกษา 2562 ณ หอประชุมพญางําเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา อําเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ซึ่งปีนี้ มีพระสงฆ์ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 1 รูป, พระสงฆ์สําเร็จการศึกษา 4 รูป, อาจารย์ดีเด่นด้านการสอนประจําปี 2563 ได้รับโล่รางวัล 1 คน, นักวิจัยดีเด่น ได้รับโล่รางวัล 4 คน มีผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จากคณะต่างๆ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวม 2,736 คน โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความสําคัญตอนหนึ่งว่า "บัณฑิตทั้งหลายที่มาประชุมอยู่ ณ ที่นี้ นับว่าเป็นผู้มีศักยภาพทางวิชาการ โดยมีปริญญาบัตรเป็นเครื่องรับรองความรู้ความสามารถ แต่ในการดําเนินชีวิตและประกอบกิจการงานซึ่งบัณฑิตจะต้องกระทําต่อไปนั้น จะอาศัยเพียงวิชาการที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัย ยังไม่เพียงพอ เพราะในวันข้างหน้า แต่ละคนอาจจะได้ประสบพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ ในสถานการณ์หรือสังคมที่แตกต่างหลากหลาย ทุกคนจึงจําเป็นต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความรอบรู้และประสบการณ์ที่กว้างขวาง ทั้งต้องฝึกฝนอบรมจิตใจให้ประณีต เข้มแข็ง และมั่นคงในคุณธรรม จะได้สามารถดําเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้ดีให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นได้ ไม่ตกไปในทางเสื่อม บัณฑิตมีความรู้ความสามารถเป็นพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว หากแต่ละคนจะได้นําแนวทางนี้ไปปฏิบัติ ก็เชื่อว่าจะประสบผลสําเร็จได้ไม่ยากนัก" เวลา 13 นาฬิกา 18 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปทรงเปิด "ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง" ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยพะเยา บริเวณด้านหน้าของอ่างหลวง (อ่างเก็บน้ําแห่งที่ 1) เป็นหน่วยงานภายใต้คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ จัดตั้งเมื่อปี 2561 เพื่อน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นต้นแบบทางการเกษตร ให้แก่เกษตรกรและประชาชน ตลอดจนเป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติการของนิสิต, การวิจัยและพัฒนา, ให้บริการทางวิชาการ, อบรมถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรเพื่อชุมชน และสร้างองค์ความรู้เพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชน เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพและหารายได้จากการจําหน่ายผลผลิต เป็นไปตามปณิธานของมหาวิทยาลัยที่ว่า "ปัญญาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน" ภายในศูนย์ฯ มีพื้นที่ดําเนินการจํานวน 150 ไร่ กิจกรรมประกอบด้วย 7 ด้าน ได้แก่ ด้านพืชและการเขตกรรม อาทิ แปลงไม้ผล การผลิตผักไร้ดิน การผลิตไม้ผลมูลค่าสูงในระบบโรงเรือน ด้านการผลิตปศุสัตว์ ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา ด้านการแปรรูป ด้านการวิจัยและฝึกอบรมวิชาชีพ กิจกรรมร้านค้าจําหน่ายผลิตภัณฑ์ของศูนย์ฯ และนิทรรศการ ทั้งมีหน่วยวิจัยและบริการวิชาการ เวลา 14 นาฬิกา 22 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ที่กองบินตํารวจ สํานักงานตํารวจแห่งชาติจัดถวาย เสด็จพระราชดําเนินไปทรงติดตามการดําเนินงานของศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านฟ้าไทยงาม ตั้งอยู่หมู่ 1 ตําบลปอ อําเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย มีหมู่บ้านในเขตบริการ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านฟ้าไทยงาม, บ้านร่มโพธิ์เงิน, บ้านร่มฟ้าหลวง, และบ้านร่มฟ้าผาหม่น ปัจจุบัน มีครู ตชด. 9 นาย, ครูอัตราจ้าง 3 คน, และมีนักเรียน 100 คน เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ทุกคนสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีการศึกษา 2564 ทางศูนย์การเรียนฯ เปิดสอนปกติ เนื่องจากพื้นที่ห่างไกล เป็นหมู่บ้านปิด ไม่พบการแพร่ระบาด โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จํากัด พร้อมคณะผู้บริหาร และคณะทํางาน "โครงการเซ็นทรัลทํา เพื่อการศึกษา" เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานแผนการก่อสร้างอาคารเรียน "จิราธิวัฒน์" ขนาด 3 ห้องเรียน เพื่อรองรับจํานวนนักเรียนที่มีเพิ่มขึ้นทุกปี ที่ห้องสาธิตการสอนวิชาภาษาอังกฤษ วันนี้สอนเรื่อง "การอ่านและการฟังเพื่อความเข้าใจ" ฝึกให้เด็กอ่านออกเสียง ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ฝึกการฟัง จับใจความ ช่วยให้เด็กกล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น กิจกรรมห้องสมุด มีหนังสือมากถึง 5,960 เล่ม ส่วนใหญ่เป็นหนังสือนิทานและหนังสือเสริมความรู้ด้านต่างๆ นักเรียนรุ่นพี่จะสอนให้น้องทําหนังสือเล่มเล็ก ได้วาดภาพระบายสี ช่วยฝึกความคิดสร้างสรรค์ และฝึกสรุปความจากหนังสือที่สนใจเลือกอ่าน ด้านผลการศึกษา ยังต้องปรับปรุงแก้ไข ด้วยการส่งครูไปฝึกอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพและเทคนิคการสอน กิจกรรมห้องพยาบาล พยายามสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ปกครองนักเรียน เห็นความสําคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน แบ่งพื้นที่ทําแปลงปลูกผักแบบยกร่องขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มเติม สอนให้นักเรียน เรียนรู้วิธีการเสียบยอดมะม่วง เพื่อขยายพันธุ์ รวมทั้งขยายผลสู่ชุมชน เพื่อให้มีผลผลิตบริโภคในครัวเรือน ส่วนการฝึกทักษะอาชีพ สอนแปรรูปกล้วยน้ําว้า ซึ่งมีมากในพื้นที่ ทําเป็นกล้วยตาก กล้วยฉาบ กล้วยทอด กรรมวิธีในการทําจะใช้วิธีธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งสีหรือใช้วัตถุกันเสีย ด้านการดําเนินงานสนองพระราชดําริ ที่พระราชทานไว้ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดําเนินไปทรงเยี่ยมศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านฟ้าไทย วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 มีพระราชดําริให้ส่งเสริมชาวบ้านปลูกต้นไม้ที่ดูแลง่าย โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้นําพันธุ์กล้าไม้ผล "อาโวคาโด" ไปให้ชาวบ้านปลูกรอบบริเวณพื้นที่ ปัจจุบันต้นอาโวคาโด มีอายุ 5 ปี เริ่มให้ผลผลิต ส่วนศูนย์การเรียนฯ ช่วยแนะนําเรื่องการดูแลรักษาและการนําผลผลิตออกจําหน่าย นอกจากนี้ ยังมีพระราชดําริให้ปลูกต้นไม้ยืนต้นบริเวณเนินภูเขาด้านหลังศูนย์การเรียนฯ จะได้มีป่าไม้ร่มรื่น ซึ่งกรมป่าไม้ ได้ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ เช่น อาโวคาโด กาแฟ ผสมผสานกับการอนุรักษ์สภาพพื้นที่ป่าต้นน้ํา ด้านการพัฒนาแหล่งน้ํา มีสํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร. สนับสนุนงบประมาณให้กรมชลประทาน จัดสร้างฝายบ้านฟ้าไทยและฝายขนาดเล็กตามหย่อมบ้านต่างๆ เมื่อมีฝาย ทําให้ป่าไม้สมบูรณ์ เกิดน้ําซึมน้ําซับ คนในชุมชนช่วยกันรักษา ดูแล จึงทําให้มีน้ําใช้เพียงพอตลอดทั้งปี แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กันของคนกับป่าอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
16/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220217155056201
704
พระราชสาส์นทรงอำนวยพรในโอกาสวันฟื้นฟูรัฐลิทัวเนียของสาธารณรัฐลิทัวเนีย
ด้วยวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันฟื้นฟูรัฐลิทัวเนียของสาธารณรัฐลิทัวเนีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นทรงอํานวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย ในโอกาสวันฟื้นฟูรัฐลิทัวเนีย ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดี เพื่อท่านประธานาธิบดีมีพลานามัยสมบูรณ์และประสบความสุขสวัสดิ์ ทั้งเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวลิทัวเนีย ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นว่าสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐลิทัวเนียได้เจริญงอกงามต่อเนื่องมาด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนาดีต่อกัน ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าความสัมพันธ์อันน่ายินดีนี้จะช่วยสร้างโอกาสในการขยายความร่วมมือทั้งในบริบททวิภาคีและภูมิภาค อันจะนําพาประโยชน์สุขมาสู่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายในภายภาคหน้า (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
16/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220216193708932
705
พระราชสาส์นอำนวยพรในโอกาสวันเอกราชของสาธารณรัฐคอซอวอ
ด้วยวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันเอกราชของสาธารณรัฐคอซอวอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอํานวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐคอซอวอ ในโอกาสวันเอกราชของสาธารณรัฐคอซอวอ ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อท่านประธานาธิบดีมีพลานามัยสมบูรณ์และประสบความสุขสวัสดี ทั้งเพื่อความสําเร็จและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวคอซอวอ ข้าพเจ้าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยและสาธารณรัฐคอซอวอจะได้รับประโยชน์จากโอกาสต่างๆ ที่มีร่วมกันอย่างกว้างขวาง เพื่อส่งเสริมและเพิ่มพูนความร่วมมือกัน โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุนเพื่อประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
17/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220217183030297
706
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พื้นที่จังหวัดเชียงราย
วันนี้ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 4 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย อําเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดําริ นับเป็นครั้งที่ 1,070 ของการทรงงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โรงเรียนนี้ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2517 สังกัดกองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 32 โดยได้รับการสนับสนุนการจัดสร้างอาคารเรียน 4 หลัง จากท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย น้อมเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปัจจุบันเปิดสอนระดับชั้นอนุบาลถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีครู ตชด. 7 นาย ครูอัตราจ้าง 2 คน และนักเรียน 82 คน ภาษาที่ใช้ในชีวิตประจําวันคือ ภาษาม้งและภาษาไทย ในการนี้ ทรงเปิดอาคาร "ท่านผู้หญิงชนัตถ์ปิยะอุย" เป็นอาคารสองชั้น ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2564 เพื่อทดแทนอาคารเรียนระดับชั้นอนุบาลและบ้านพักครูหลังเดิม ที่มีสภาพทรุดโทรม โอกาสนี้ ครูใหญ่กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าการดําเนินงานของโรงเรียน ซึ่งผลการประเมินคะแนน NT ปีการศึกษา 2563 พบว่า วิชาคณิตศาสตร์ สูงกว่าระดับประเทศ วิชาภาษาไทย สูงกว่าระดับสังกัด ส่วนคะแนน O-net คะแนนเฉลี่ยทุกวิชา น้อยกว่าระดับประเทศ แก้ไขโดย วิเคราะห์ผลการสอบ เพื่อออกแบบจัดการเรียนการสอนตัวชี้วัดที่ไม่ผ่านเกณฑ์และให้ครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษจากมูลนิธิพุทธรักษา ปูพื้นฐาน ตั้งแต่อนุบาล จัดเพิ่มชั่วโมงเรียนวันละ 1 ชั่วโมง ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรการสาธิตการเรียนการสอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิชาวิทยาการคํานวณ "เรื่องการเขียนโปรแกรม แบบมีเงื่อนไข" ทั้งนี้ ทางโรงเรียนได้ดําเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะผู้เรียนด้านต่างๆ อาทิ ด้านการฝึกทักษะอาชีพ มีครูจากวิทยาลัยเทคนิคเทิง เข้าไปสอนการทําพรมเช็ดเท้าจากเศษผ้าและการทําไม้กวาดดอกหญ้า นําไปวางจําหน่ายตามตลาดของชุมชน ช่วยให้นักเรียนมีรายได้เสริม ด้านการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น จัดกิจกรรมสอนปักผ้าม้งลวดลายต่างๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าม้ง ที่สืบทอดลายผ้ามาตั้งแต่บรรพบุรุษ ให้สามารถปักผ้าม้งไว้สวมใส่เอง และจัดทําเป็นผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกพร้อมปักชื่อของโรงเรียนไว้ที่กระเป๋าทุกใบ ตามที่ได้พระราชทานคําแนะนํา เพื่อให้ผู้รับได้ทราบถึงแหล่งที่มา โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการเลี้ยงสุกร ไก่ไข่และไก่พื้นเมือง เลี้ยงปลาดุกอุย ปลานิล ปลาตะเพียน ปลูกผักสวนครัว ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ซึ่งผลผลิตเพียงพอต่อการประกอบอาหารกลางวัน ทั้งได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับชุมชนและผู้สนใจที่เข้าไปเยี่ยมชม โดยในปี 2563 ได้รับรางวัล โรงเรียนกิจกรรมปศุสัตว์ดีเด่น จากสํานักงานปศุสัตว์เขต 5 จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีพื้นบ้าน "เป่าแคนม้ง" นิยมละเล่นตามประเพณีสําคัญต่างๆ ของชาวม้ง โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้มูลนิธิโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อสมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร นอกจากนี้ โรงเรียนได้ฝึกทักษะการแปรรูปและถนอมอาหาร อาทิ การทําไข่เค็มดินสอพอง และการทําผักกาดดองสูตรม้งขาว เพื่อนําไปประกอบอาหารกลางวัน ส่วนกิจกรรมสหกรณ์ ปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักการออม โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าไปให้ความรู้เรื่องการทําบัญชี การจดบันทึก รายรับ-รายจ่ายในครัวเรือน เวลา 12 นาฬิกา 59 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปยังโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านดอยล้าน ตําบลวาวี อําเภอแม่สรวย สําหรับโรงเรียนนี้ ที่มีครู ตชด. 5 นาย มีบุคลากรทางการศึกษา 4 คน มีนักเรียนชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จํานวน 89 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนตามปกติ เนื่องจากในพื้นที่ไม่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงเรียนฯ มีการดําเนินงานตามแผนพัฒนาเด็กและเยาชนในถิ่นทุรกันดารฉบับที่ 5 พุทธศักราช 2560 ถึง 2569 ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของนักเรียนดีขึ้น เช่น นักเรียนได้รับการส่งเสริมด้านโภชนาการ บริโภคอาหารครบ 5 หมู่ และออกกําลังกาย โดยนักเรียนส่วนใหญ่มีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ มีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ 5 คน กําลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงและปริญญาตรี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสอบ ONET ปีการศึกษา 2563 วิชาภาษาไทยและวิทยาศาสตร์ดีขึ้น โดยครูวิเคราะห์เป็นรายบุคคลเพื่อออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ปรับรูปแบบการสอนด้วยการใช้เทคนิคการสาธิตและทดลองร่วมกับสื่อ DLTV นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และปีที่ 6 ได้ฝึกอาชีพ การเดินสายไฟเบื้องต้นและการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเบื้องต้น โดยมีวิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้า เข้าไปให้ความรู้นักเรียนให้สามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าง่ายๆ ด้วยตนเอง เช่น การซ่อมพัดลม หม้อหุงข้าว นอกจากนี้ สํานักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย เข้าไปสอนการแปรรูปอาหารและถนอมอาหาร โดยให้นักเรียนนําปลานิลที่เลี้ยงไว้มาแปรรูปเป็นปลาหยอง แซนวิชปลาหยอง เพื่อบริโภคเป็นอาหารกลางวัน ทั้งให้ความรู้การแปรรูปอาหารที่สามารถนําไปประกอบอาชีพได้ โอกาสนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดอยล้าน สังกัดองค์การบริหารส่วนตําบลวาวี ซึ่งได้รับเด็กอายุ 2 ถึง 5 ปี ในชุมชนมาดูแลและเสริมสร้างพัฒนาการ เตรียมพร้อมก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา โดยจัดกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม รวมถึงด้านสติปัญญา โรงเรียน ยังได้สนับสนุนให้นักเรียน ร่วมกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้า ที่ได้รับซื้อผลผลิตจากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันมาจําหน่าย นักเรียนได้ฝึกการบันทึกบัญชีและกิจกรรมสหกรณ์ออมทรัพย์ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันของโรงเรียน ได้ให้นักเรียนทําการเกษตร ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา เลี้ยงสุกร ได้ผลผลิตมาประกอบอาหารกลางวันอย่างเพียงพอ เวลา 15 นาฬิกา 5 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ที่กองบินตํารวจ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จัดถวาย เสด็จพระราชดําเนินไปยังศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนอินทรีอาสา (บ้านห้วยน้ํากืน) ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยน้ํากืน ตําบลวาวี อําเภอแม่สรวย เดิมบริเวณนี้ มีเด็กวัยเรียนจํานวนมาก แต่ไม่มีสถานศึกษา เด็กต้องเดินเท้าไปเรียนต่างหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างออกไป 6 กิโลเมตร กองกํากับการตํารวจตระเวรชายแดนที่ 32 จึงเข้าช่วยเหลือ จัดตั้งศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยน้ํากืน ขึ้นในปี 2558 ภายหลังมีหน่วยงานต่างๆ ช่วยสร้างอาคารเรียนและเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนอินทรีอาสา (บ้านห้วยน้ํากืน) สําหรับความก้าวหน้าด้านการเรียนการสอน พบว่า วิชาภาษาไทย มีแนวโน้มดีขึ้น ครูได้สอนนักเรียนฝึกสะกดคํา อ่านออกเสียง แต่งเรื่องจากภาพและเขียนตามคําบอก ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ยังต้องปรับปรุง เนื่องจากเด็กเล็กยังอ่านและเขียนภาษาไทยไม่ได้ จึงอ่านโจทย์ปัญหาไม่เข้าใจ แก้ไขด้วยการให้นักเรียนฝึกท่องสูตรคูณและสอนเสริมในรายที่มีพัฒนาการช้า ด้านโครงการฝึกอาชีพ นักเรียนชาย สนใจวิชา ซ่อมจักรยานและตัดผม ส่วนนักเรียนหญิง สนใจเรื่องการทําอาหารและขนม ที่ห้องพยาบาล มีครูพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้ความรู้เรื่องการรักษาความสะอาดและสภาพแวดล้อมในบ้าน ซึ่งราษฎรหมู่บ้านห้วยน้ํากืน สามารถดูแลบ้านเรือนได้สะอาด ส่งผลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย, ทุกครัวเรือนดําเนินการอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีผู้นําชุมชนเข้มแข็ง คอยตรวจสอบการเดินทางเข้าออกของคนต่างถิ่นอยู่เสมอ ทําให้พื้นที่บริเวณนี้ ไม่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นักเรียนและผู้ปกครองส่วนใหญ่ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ร้อยละ 96.54 ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น มีปราชญ์ชาวบ้าน สอน "ปักผ้าลายอาข่า" และสอนงานจักสานตะกร้า ซึ่งมีพระราชดําริให้ช่วยกันสืบสานรักษาไว้ จะได้ไม่สูญหาย ใช้ประโยชน์ได้จริง ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เนื้อสัตว์และพืชผักมีเพียงพอ ปีที่ผ่านมาได้เพิ่มพื้นที่ปลูกถั่วลิสง เพาะต้นอ่อนทานตะวัน รวมทั้งปลูกไม้ผลเพิ่มเติม มีวิทยากรช่วยสอนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น กล้วยฉาบ ไข่เค็มและผักกาดดอง เป็นการถนอมอาหาร เก็บไว้บริโภคได้นาน ปัจจุบันศูนย์การเรียนนี้ สามารถพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นศูนย์บริการความรู้ด้านการเกษตร มีหน่วยงาน โรงเรียนและคนในชุมชน ใช้บริการมากกว่า 270 คน ส่วนสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ําบริโภคในโรงเรียนและชุมชน กรมชลประทาน กรมป่าไม้ และสํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร. ร่วมกันสนองพระราชดําริ สร้างฝายทดน้ํา ได้แก่ ฝายห้วยน้ํากืน และฝายห้วยผาแดง พร้อมระบบส่งน้ําและถังพักน้ํา แล้วเสร็จเมื่อปี 2562 ส่งผลให้มีน้ําใช้เพียงพอตลอดทั้งปี ด้านการพัฒนาเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ยังคงยากลําบาก เนื่องจากเป็นทางแคบตามไหล่เขา การเสด็จพระราชดําเนินไปทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตลอดทั้ง 5 วันที่ผ่านมา เป็นการทรงงานเพื่อขับเคลื่อนให้เยาวชนและคนในชุมชนพื้นที่ห่างไกล ได้มีโอกาสทางการศึกษา ฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทยได้ มีอาหารเพียงพอบริโภคและดีต่อสุขภาพ เมื่อร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย สมองแจ่มใส จะได้มีกําลังปัญญา คิดสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อตนเอง เพื่อครอบครัว ชุมชนและประเทศชาติต่อไป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
18/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220219133002918
707
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทอดพระเนตรนิทรรศการการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา
วันนี้ 19 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12 นาฬิกา 5 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จโดยเครื่องบินที่นั่ง ถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ อําเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เฝ้ารับเสด็จ โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงมโนราห์ขององค์กรเครือข่ายศูนย์ฝึกมโนราห์ ส.จอมหรําพัฒนาศิลป์ จํานวน 30 คน เป็นการร่ายรําในท่าแม่บท 12 ท่า ซึ่งเป็นท่ารําพื้นฐานดั้งเดิม หรือท่ารําแบบฉบับของโนราที่ผู้ร่ายรําทุกคนจะต้องฝึกหัดรํา เพื่อเคารพบูชาและแสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เวลา 12 นาฬิกา 41 นาที เสด็จไปยังศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อําเภอหาดใหญ่ ทอดพระเนตรนิทรรศการการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคใต้ จํานวน 50 กลุ่ม ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดขึ้น ตามโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทย และงานหัตถกรรมชุมชนภาคใต้ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาหัตถกรรมทอผ้าในแต่ละท้องถิ่น ตลอดจนยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อัตลักษณ์ศิลปะภูมิปัญญาไทย สร้างความเชื่อมโยงในจังหวัดภาคใต้และประชาสัมพันธ์ผลงานของกลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP ภาคใต้ ภายในงานฯ จัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้า ของผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย รวมทั้งเครื่องจักสาน 14 จังหวัดภาคใต้ อาทิ บาติกยางกล้วยของกลุ่มกะลามะพร้าว บ้านหน้าถ้ํา อําเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น นํายางกล้วยมาพัฒนาให้เป็นอัตลักษณ์ของผ้ายางกล้วย โทนสีน้ําตาล และกระเป๋าเตยปาหนัน ของกลุ่มหัตถกรรมเตยปาหนันบ้านวังหิน อําเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ในการนี้ ได้พระราชทานลายผ้า "ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา", หนังสือดอนกอยโมเดล, หนังสือผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ รวมทั้งกลุ่มสีจากหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 2 แก่ช่างทอผ้า และผู้ประกอบการ OTOP จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการสีธรรมชาติผ้าย้อมครามน้ําทะเล ผลงานของอาจารย์และนักศึกษาหลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จังหวัดสงขลา ที่ออกแบบลวดลายผ้าทอสงขลา กับ ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานตามแนวทาง Thai Textile Trend Book ทั้งยังได้พัฒนาผ้าสงขลา ร่วมกับสามเณรวัดโคกเปี้ยว ตําบลเกาะยอ ด้วยการนําพืชธรรมชาติมาย้อมผ้า ผ้าทอยกดอกของกลุ่มผ้าทอวัดโคกเปี้ยว ตําบลเกาะยอ ซึ่งเริ่มจากสามเณรชื่อ ปัณณธร สวัสดี เห็นชาวบ้านกลุ่มราชวัตรทอผ้า จึงเกิดความสนใจและศึกษาการทอผ้ามาจนถึงปัจจุบัน ลายแรกที่ทอสําเร็จคือ ลายดอกพะยอม 4 ตะกอ 4 เท้าเหยียบ ทอด้วยวิธีโบราณ เรียกว่า "ทอขัดเส้น" เมื่อวันมาฆบูชา ปี 2564 ผ้าโบราณภาคใต้ของนายปัญญา พูลศิลป์ นักสะสมผ้าโบราณกว่า 1 พันผืน ผืนที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุไม่น้อยกว่า 140 ปี นอกจากนี้ ยังมีผ้าปะรางิง ผ้าจากประเทศอินเดีย นํามาปรับใช้เทคนิค เกิดเป็นลวดลายที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวไทยมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โอกาสนี้ ทรงติดตามการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าตามพระวินิจฉัย เมื่อครั้งเสด็จไปทอดพระเนตรการจัดแสดงและสาธิตผลิตภัณฑ์ผ้าทอประจําถิ่นลวดลายต่างๆ และหัตถกรรมชุมชนภาคใต้ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 และมีพระวินิจฉัยพัฒนายกระดับผ้าไทยแก่กลุ่มทอผ้า กลุ่มผ้าบาติกให้มีความร่วมสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์ของภูมิภาค ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ พร้อมพระราชทานคําแนะนําแก่กลุ่มทอผ้า รวม 37 กลุ่ม และมีกลุ่มกราบทูลรายงานส่งการบ้านผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาตามพระวินิจฉัย จํานวน 13 กลุ่ม โดยทรงชี้ให้เห็นถึงรายละเอียดของงานแต่ละชิ้น พร้อมมีพระวินิจฉัยและพระราชทานคําแนะนําแก่ทุกชิ้นงาน พร้อมกับโปรดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าและออกแบบแฟชั่น มาให้คําแนะนําแก่สมาชิกกลุ่มทอผ้าจังหวัดต่างๆ เพื่อยกระดับพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น ก่อนเสด็จกลับ ทอดพระเนตรการแสดง "รําตารีกีปัส" ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และโรงเรียนแจ้งวิทยา จํานวน 100 คน เป็นศิลปะการแสดงของชาวไทยมุสลิมทางใต้ คําว่า "ตารีกีปัส" เป็นภาษามลายูท้องถิ่น หมายถึง การฟ้อนรําที่ใช้พัดเป็นส่วนประกอบ เป็นการเต้นรําเกี้ยวพาราสีของชายหญิง การแสดงครั้งนี้ ได้จัดทําพัดขึ้นมาใหม่ ด้วยการนําผ้าพิมพ์ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ตกแต่งให้เกิดความสวยงาม สําหรับเป็นอุปกรณ์ประกอบการร่ายรํา ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
19/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220220210245201
708
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงติดตามการดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ของศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 จังหวัดอุดรธานี
วันนี้ 19 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 59 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังค่ายยุทธศิลป์ประสิทธิ์ อําเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ทรงติดตามการดําเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ของศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 ซึ่งจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ สนองพระดําริ ในการหาที่พักพิงให้กับสุนัขจรจัดไร้ที่พึ่ง รวมถึงป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดสิ้นไป โดยได้รับความอนุเคราะห์จากกองทัพบก ให้ใช้พื้นที่ของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 จํานวน 20 ไร่ จัดตั้งเป็นศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด เพื่อรองรับสุนัขไร้บ้านและขาดที่พึ่งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง เริ่มดําเนินงานตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2561 เป็นต้นมา ในการนี้ ได้ทอดพระเนตรสุนัขภายในศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดฯ ที่จัดสรรพื้นที่ในการดูแล เป็นโรงเรือน 3 โรง แต่ละโรงมีการคัดแยกสุนัขให้มีความเป็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม มีสุขอนามัยที่ดี มีที่อยู่สะดวกสบายไม่แออัด ได้รับอาหารและน้ําอย่างเพียงพอ ปัจจุบันมีสุนัขเพศผู้และเพศเมีย รวมจํานวน 119 ตัว ทุกตัวได้รับการผ่าตัดทําหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ครบตามกําหนดและมีสุขภาพแข็งแรงตามเกณฑ์ทุกตัว ที่ผ่านมามีผู้สนใจขอนําไปเลี้ยงดูต่อ จํานวน 16 ราย แบ่งเป็นเพศผู้ 7 ตัว และเพศเมีย 22 ตัว สุนัขที่ผู้สนใจนําไปเลี้ยง, ทางศูนย์ฯ มีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โอกาสนี้ ทรงนําทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ จากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลสัตว์ทิพย์พิมาน และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สุนัขของศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดฯ ที่ผ่านมา ศูนย์แห่งนี้ มีการดูแลสุขภาพสุนัข พร้อมทั้งผ่าตัดทําหมัน รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และวัคซีนโรคติดเชื้ออื่นๆ อย่างสม่ําเสมอ อาทิ โรคไวรัสไข้หัดสุนัข โรคไวรัสลําไส้อักเสบ ไวรัสโรคหลอดลมอักเสบ ไวรัสโรคตับอักเสบ และโรคเล็ปโตสไปโรซิส ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2564 ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เพื่อฉีดวัคซีนให้แก่สุนัขและแมว จํานวน 366 ตัว และผ่าตัดทําหมันไปแล้ว 554 ตัว สําหรับ ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 เป็นหนึ่งในศูนย์ต้นแบบการบริหารจัดการจํานวนประชากรสุนัขในประเทศ ดําเนินงานรูปแบบรับเลี้ยงและช่วยเหลือดูแลสุนัขตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ภายในศูนย์ฯ ได้ออกแบบให้รองรับกับสิ่งจําเป็นของสุนัข ประกอบด้วย อาคารสํานักงานพร้อมห้องผ่าตัดทําหมัน โรงเรือนสุนัข โรงเรือนเก็บอาหารสัตว์ อาคารเตาเผาซากสุนัขและอาคารที่พักเจ้าหน้าที่ ปัจจุบัน มีจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ และจัดตั้งศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดนําร่อง จํานวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเป็นจุดเริ่มต้นการขยายพื้นที่ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยต่อไปในอนาคต ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
19/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220220210432202
709
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ภาษาฝรั่งเศส
วันนี้ 19 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15 นาฬิกา 15 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจําประเทศไทย เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานรางวัลผู้ชนะการประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ภาษาฝรั่งเศส แก่เยาวชนที่ชนะการประกวด จํานวน 12 คน จากการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ภาษาฝรั่งเศสและการตอบปัญหาภาษาฝรั่งเศส ซึ่งสมาคมสมาชิกอิสริยาภรณ์ เลฌียง ดอเนอร์ ประเทศไทย, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจําประเทศไทย, และสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมเยาวชนไทยด้านการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาวัฒนธรรมฝรั่งเศส และการแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาฝรั่งเศส รวมทั้งเผยแพร่เกียรติภูมิแห่งอิสริยาภรณ์ เลฌียง ดอเนอร์ เครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของประเทศฝรั่งเศส โอกาสนี้ ทรงฟังการกล่าวสุนทรพจน์ภาษาฝรั่งเศสจากผู้ชนะการประกวดฯ ในระดับอุดมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ในหัวข้อ "อิสริยาภรณ์ เลฌียง ดอเนอร์ เป็นเครื่องหมายแห่งการเชิดชูค่านิยมที่เป็นสากล" และ หัวข้อ "คุณมองเห็นภาพตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้าอย่างไร" จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ ประวัติความเป็นมาและกระบวนการทํางานของโครงการผลงานศิลปะรอบกําแพงสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจําประเทศไทย จากความคิดริเริ่มของนายตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจําประเทศไทย ที่ประสงค์ให้กําแพงสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ณ กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่แสดงสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ฉันมิตรที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศไทย โครงการนี้ เริ่มเมื่อเดือนกันยายน 2564 แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้รับความร่วมมือจากคณะทํางานขององค์กรอนุรักษ์ไร้พรมแดน นักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง และนักเรียนโรงเรียนฝรั่งเศสนานาชาติ กรุงเทพฯ ในการรังสรรค์ภาพจิตรกรรมพร้อมคําอธิบายด้วยการสแกน QR CODE ด้านข้างผลงาน ผู้สนใจสามารถไปชมผลงานศิลปะรอบกําแพงสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจําประเทศไทย ซอยเจริญกรุง 36 เขตบางรัก ได้ทุกวัน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
19/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220220210604203
710
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัตพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 21 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2565
วันนี้ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 45 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังโรงเรียนตํารวจตระเวณชายแดนบ้านต้นมะม่วง ตําบลวังกระแจะ อําเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อทรงติดตามการดําเนินกิจกรรม ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดําริฯ ในการนี้ ได้พระราชทานพระราชดําริให้กรมชลประทาน ร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร. พิจารณาสนับสนุนแหล่งน้ําสําหรับพื้นที่การเกษตรของราษฎรในเขตบริการของโรงเรียนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา กรมชลประทานได้สนองพระราชดําริในการปรับปรุงแหล่งน้ําให้แก่โรงเรียนและพื้นที่การเกษตร จํานวน 430 ไร่ เช่น ระบบประปาภูเขา สระเก็บน้ําในโรงเรียน และก่อสร้างแพสูบน้ําจากอ่างเก็บน้ําพุหว้า โรงเรียนนี้ มีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ จบการศึกษาแล้ว 16 คน กําลังศึกษาอยู่ 7 คน เช่น ที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร โอกาสนี้ ชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนตํารวจตระเวณชายแดนบ้านต้นมะม่วง เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานการดําเนินงานของชมรม จากนั้น ทอดพระเนตรการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่องการออกแบบกล่องผลิตภัณฑ์กล้วยตาก มีวิทยาลัยการอาชีพแม่น้ําแคว เข้าไปช่วยฝึกอาชีพให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และปีที่ 6 รู้จักการติดตั้งแผงโซลาร์เซลขนาดเล็กที่บ้าน ตามทิศทางที่ถูกต้อง เรียนรู้การใช้เครื่องมือวัดแรงดันไฟฟ้า การเดินสายไฟและความปลอดภัยในการทํางานบนพื้นที่สูง สอนให้นักเรียนและคนในชุมชน สานกระเป๋าพลาสติก ทําสายคล้องแมส ทําน้ําพริกกล้วย กล้วยชอคโกแลต จําหน่ายในสหกรณ์โรงเรียน โรงเรียนตํารวจตระเวณชายแดน หรือโรงเรียน ตชด.บ้านต้นมะม่วง เป็นโรงเรียน 1 ใน 4 แห่งของโรงเรียน ตชด. ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้ดําเนินโครงการทายาทหม่อนไหมในโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาตั้งแต่ปี 2559 โดยมีศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เข้าไปช่วยสอนการทอผ้าไหมและได้นําผลงานของนักเรียนไปทํากระเป๋าและผ้าพันคอ ทั้งยังได้สอนให้นักเรียนสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อขายผ้าไหมออนไลน์ ช่วยให้นักเรียนมีรายได้และมีกําลังใจในการทําผลงาน โดยผลงานทอผ้าไหมได้รับการรับรองมาตรฐานตรานกยูงพระราชทานสีน้ําเงิน เนื่องจากใช้กรรมวิธีทอผ้าไหมแท้เส้นพุ่งและเส้นยืน สีไม่ตก นอกจากนี้ ยังเชิญผู้เชี่ยวชาญไปสอนชาวบ้านในชุมชนและนักเรียน ทําลูกประคบสมุนไพร สเปรย์กันยุงและทําน้ําสมุนไพรต้านโควิด ส่งให้กับศูนย์พักคอยกักตัวผู้ป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านวิชาการ นักเรียนมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์พอใช้ โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เข้าไปช่วยอบรมครู ช่วยให้ครูรู้หลักในการสอนมากขึ้น ปัจจุบันโรงเรียนดําเนินการสอนแบบ on site โรงเรียน มีความภาคภูมิใจในการดําเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ และประชาชน เข้าไปศึกษาดูงาน เช่น การก่ออิฐบล๊อกเพื่อป้องกันน้ําฝนเซาะพังทลายและควบคุมน้ําให้อยู่ในแปลงผัก ทั้งจัดให้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ดบาร์บารี่ (Barbary) เป็ดกากีแคมเบล เป็ดปักกิ่ง โดยได้แจกจ่ายพันธุ์เป็ด พันธุ์ไก่และเมล็ดพันธุ์พืช ให้คนในชุมชนไปเลี้ยงและเพาะปลูกที่บ้าน ในการนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมโครงการนําร่องการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรในโรงเรียน ตชด. ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชทรัพย์ เพื่อซื้อเครื่องอบกล้วยให้แก่โรงเรียน นําไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับกล้วยน้ําว้าซึ่งมีอยู่มากในโรงเรียน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มแม่บ้านกับเกษตรจังหวัด สอนให้นักเรียนทํามะขามแช่อิ่มจากต้นมะขามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกเมื่อปี 2545 ทางโรงเรียน ยังได้สาธิตการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล เรื่องการจําแนกรูปพรรณและสี ส่วนกิจกรรมสหกรณ์ มีการจัดกิจกรรมออมทรัพย์ การทําบัญชี เป็นต้น เวลา 14 นาฬิกา 22 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปทรงติดตามการดําเนินกิจกรรม ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดําริฯ ที่โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช บ้านสะเนพ่อง หมู่ 1 ตําบลไล่โว่ อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โรงเรียนฯ นี้ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2505 ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 223 คน มีครู ตชด.6 นาย และครูอัตราจ้าง 3 คน ในปีการศึกษา 2563 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา O-NET มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในทุกรายวิชา ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 ทางโรงเรียนฯ ได้จัดการเรียนการสอนรูปแบบ On Site และผ่านการประเมินตนเองในระบบ Thai Stop Covid Plus (TSC+) ตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข สําหรับบ้านสะเนพ่อง ราษฎรในพื้นที่เข้าเกณฑ์การรับวัคซีนโควิด-19 มีจํานวน 707 คน ได้รับวัคซีนฯ ครบ 2 เข็ม จํานวน 444 คน ที่ผ่านมา พบราษฎรติดเชื้อโรคโควิด-19 จํานวน 19 คน รักษาหายหมดแล้ว โอกาสนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ที่นําวัตถุดิบในท้องถิ่นมาสอนนักเรียน เพื่อเป็นการถนอมอาหาร เช่น การทําหน่อไม้ดองและการทําเค้กกล้วยหอมนึ่ง มีศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดกาญจนบุรี และสํานักงานเกษตร จังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปส่งเสริมให้ความรู้แก่ชุมชน เรื่องการปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้าและขั้นตอนการผลิตเมล็ดกาแฟให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ซึ่งในพื้นที่แห่งนี้ มีการปลูกกาแฟจํานวนมาก อีกทั้งให้ความรู้ เรื่องการเก็บเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อขยายพันธุ์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ เมล็ดแห้ง เช่น บวบ ถั่วฝักยาว ผักกาด ผักคะน้า ข้าว เมล็ดเปียก ได้แก่ พริก มะเขือ ฟักทอง แตงโม เมล็ดที่มีเมือก เช่น มะละกอ มะเขือเทศ เสาวรส โดยสามารถนําไปเป็นเมล็ดพันธุ์ในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันและแจกจ่ายให้แก่ชุมชน กิจกรรมห้องสมุด มีหนังสือพระราชทานแบบเรียน หนังสือพระราชทานระดับมัธยมศึกษา หนังสือพระราชทานสื่อ 60 พรรษา มีการเล่านิทานให้น้องฟัง โดยพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เล่านิทานให้น้องอนุบาลฟังและเกมส์คําศัพท์ในหนังสือ กิจกรรมฝึกวิชาชีพนักเรียน ได้สนองพระราชกระแสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่องฝึกให้นักเรียนทอผ้ากะเหรี่ยงในลวดลายที่ยากขึ้นและฝึกการเย็บผ้า เพื่อเป็นการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ปัจจุบันนักเรียนสามารถทอผ้าลายข้าวโพด ซึ่งเป็นลายที่ทอยากได้สวยงาม สามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียนได้อีกด้วย ทั้งมีปราญช์ชาวบ้านไปให้ความรู้การจักสานไม้ไผ่ สําหรับใช้ในครัวเรือน เช่น คุมุ หรือหมวก และไหน่ หรือกระเป๋า นอกจากนี้ วิทยาลัยการอาชีพกาญจนบุรี ได้สอนวิชาชีพระยะสั้นให้แก่นักเรียน ในการบํารุงรักษาและติดตั้งระบบโซลาเซลล์ เพื่อนําไปปรับใช้ที่บ้าน โรงเรียนและชุมชน เนื่องจากบ้านสะเนพ่องไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนใหญ่ใช้โซล่าเซลล์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดง "เมืองมนต์ขลัง ดินแดนสังขละบุรี" โดยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงปีที่ 6 เป็นการรําตงประยุกต์ ใช้ท่ารําตงของชาวไทยภูเขาเผ่ากระเหรี่ยง ประยุกต์กับดนตรีสมัยใหม่ เนื้อหาของเพลงบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่สําคัญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอําเภอสังขละบุรี เช่น พระแก้วขาว หรือพระพุทธรัตนสังขละบุรีศรีสุวรรณ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของอําเภอสังขละบุรี ปัจจุบันประดิษฐานที่วัดสเนพ่อง ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรต่างๆ อาทิ การตอนกิ่ง การทําฮอร์โมนไข่และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา ให้แก่ครู นักเรียนและยังขยายผลไปสู่ชุมชน ทําให้โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร มีกิจกรรม ต่างๆ ให้ราษฎรเข้าไปเรียนรู้ เช่น การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ การเลี้ยงไก่ไข่และการปลูกผักสวนครัวแบบอินทรีย์ ปัจจุบันมีชาวบ้านเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 80 ครัวเรือน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
21/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220222193620098
711
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ภายใต้การดำเนินงานโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ
วันนี้ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13 นาฬิกา สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ภายใต้การดําเนินงาน โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ณ วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อําเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เป็นวันที่ 2 ในการนี้ ทอดพระเนตรการเตรียมสุนัข สําหรับการผ่าตัดทําหมัน ของทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลสัตว์ทิพย์พิมาน ซึ่งร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ออกหน่วยให้บริการประชาชนชาวอุดรธานี โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมประชาชนที่นําสุนัขและแมว ไปรับบริการฉีดวัคป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและทําหมัน เพื่อควบคุมการขยายพันธุ์ประชากรสุนัขอันเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ให้หมดสิ้นไป จากนั้น ทรงเยี่ยมทีมสัตวแพทย์อาสาของจังหวัดอุดรธานี ที่ไปร่วมออกหน่วยด้วย โดยมีสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จากมณฑลทหารบกที่ 24 มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดอุดรธานีและสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น ให้บริการฉีดวัคซีน ผ่าตัดทําหมันให้กับสุนัขและแมว เป็นการแสดงให้เห็นถึงการร่วมมือและมุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สําคัญของประเทศอย่างตรงจุด โอกาสนี้ ทรงร่วมกับทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ทําหมันให้กับสุนัขภายในรถผ่าตัดทําหมันเคลื่อนที่ ของโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ที่นํามาเสริมศักยภาพการผ่าตัด เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงตระหนักถึงความสําคัญของการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจากสัตว์มาสู่คนที่มีอันตรายถึงชีวิตและมีความจําเป็นต้องควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดอย่างจริงจังให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จิตอาสาทุกคน ต่างปฏิบัติหน้าที่สนองพระปณิธานอย่างเต็มกําลังความสามารถ โดยในวันนี้ มีประชาชนนําสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จํานวน 215 ตัว และทําหมันให้กับสุนัขและแมว รวม 135 ตัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
21/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220222193743100
712
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน กรุงทิมพู ในโอกาสอันเป็นมงคลแห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าพระบาท หม่อมฉันและพระราชินี ขอถวายพระพรชัยมงคลและความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาทมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวภูฏานมีความร่มเย็นเป็นสุขและเจริญรุ่งเรืองสืบไป ประเทศและประชาชนของเราทั้งสองมีสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดสนิทสนมมายาวนาน ด้วยความเข้าใจอันดียิ่งต่อกัน หม่อมฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่า มิตรภาพดังกล่าวจะเป็นรากฐานอันมั่นคง ในการส่งเสริมความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปในภายภาคหน้า พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
21/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220222192914089
713
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์ ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์ ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ กรุงออสโล ในโอกาสอันเป็นมงคลแห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าพระบาท หม่อมฉันขอถวายพระพรชัยมงคลด้วยความยินดีอย่างยิ่ง เพื่อฝ่าพระบาทมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวนอร์เวย์ประสบความสําเร็จและความเจริญรุ่งเรืองสืบไป หม่อมฉันเชื่อมั่นอย่างแน่แท้ว่า สัมพันธไมตรีอันดีที่มีมายาวนานระหว่างประเทศไทยและราชอาณาจักรนอร์เวย์ จะเจริญงอกงามและกระชับแน่นแฟ้น อันนําไปสู่การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองฝ่าย พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
21/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220222193043093
714
ข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน
ด้วยวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน ในโอกาสอันเป็นมงคลแห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าพระบาท หม่อมฉัน และพระราชินีขอถวายพระพรชัยมงคลและความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาททรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวภูฏานมีความร่มเย็นเป็นสุขและเจริญรุ่งเรืองสืบไป ประเทศและประชาชนของเราทั้งสองมีสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดสนิทสนมมายาวนาน ด้วยความเข้าใจอันดียิ่งต่อกัน หม่อมฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่า มิตรภาพดังกล่าวจะเป็นรากฐานอันมั่นคง ในการส่งเสริมความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปในภายภาคหน้า (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
21/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220221200218617
715
ข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์
ด้วยวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์ ในโอกาสอันเป็นมงคลแห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าพระบาท หม่อมฉันขอถวายพระพรชัยมงคลด้วยความยินดีอย่างยิ่ง เพื่อฝ่าพระบาททรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวนอร์เวย์ประสบความสําเร็จและความเจริญรุ่งเรืองสืบไป หม่อมฉันเชื่อมั่นอย่างแน่แท้ว่า สัมพันธไมตรีอันดีที่มีมายาวนานระหว่างประเทศไทยและราชอาณาจักรนอร์เวย์จะเจริญงอกงามและกระชับแน่นแฟ้น อันนําไปสู่การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือระหว่างกันเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองฝ่าย (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
21/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220221200419619
716
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
วันนี้ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ซึ่งกองบินตํารวจ สํานักงานตํารวจแห่งชาติจัดถวาย เสด็จพระราชดําเนินไปยัง "ศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค" บ้านปางสนุก หมู่ 6 ตําบลไล่โว่ อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ทรงติดตามการดําเนินกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดําริฯ ศูนย์การเรียนฯ นี้ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 พื้นที่รับผิดชอบของกองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 13 จังหวัดกาญจนบุรี เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมี ครู ตชด. 6 นาย ครูอัตราจ้าง 3 คน และครูจิตอาสา 1 คน มีดาบตํารวจพระนาย ขาวบาง เป็นครูใหญ่ ซึ่งเป็นครูในโครงการคุรุทายาท รุ่นที่ 4 มีนักเรียน 135 คน ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและกะหร่าง โดยนักเรียนได้รับสัญชาติไทยแล้ว 26 คน ยังไม่ได้สัญชาติไทย 109 คน ทั้งนี้ ทางศูนย์การเรียนฯ ยังมีหอพักสําหรับนักเรียนบ้านไกลด้วย คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 ต่ํากว่าระดับประเทศ จึงวางแผนและประเมินนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อทราบจุดอ่อนของนักเรียน จากนั้นสอนเพิ่มเติมในเนื้อหาและตัวชี้วัดที่ยังอ่อนอยู่ มีการวิเคราะห์ข้อสอบ และครูประจําชั้นสอนพิเศษในช่วงหลังเลิกเรียนและวันหยุด มีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ไปช่วยติวข้อสอบและสอนพิเศษให้แก่นักเรียน ในช่วงการแพระระบาดของโรคโควิด-19 จัดการเรียนการสอนแบบ On Site เรียนปกติทุกชั้นปี โดยปฏิบัติตามมาตราการของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ อย่างเคร่งครัด กิจกรรมฝึกวิชาชีพนักเรียน มีปราชญ์ชาวบ้านเข้าไปสอนการจักสานไม้ไผ่ เป็นภาชนะ ต่างๆ ในคาบเรียนสุดท้ายของแต่ละสัปดาห์ ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงปีที่ 6 เพื่อสืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาและสามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียนด้วย กิจกรรมห้องสมุด มีการส่งเสริมรักษ์การอ่านในกิจกรรม ฟังนิทานแสนสนุก โดยบรรณารักษ์ห้องสมุด เป็นผู้เล่านิทานในช่วงพักกลางวัน นอกจากนี้ มีบริการห้องสมุดเคลื่อนที่ไปยังชุมชนด้วย สัปดาห์ละครั้ง โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีพื้นที่การเกษตร จํานวน 9 ไร่ แบ่งกิจกรรมออกเป็นเป็นพื้นที่ปลูกพืชผัก ไม้ผล พื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่ประมง โดยแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มร่วมกับครู อาทิ กลุ่มปลูกผักกินใบ เช่น ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง กะหล่ําปลี จํานวน 16 แปลง กลุ่มหลูกผักเถาเครือ เช่น บวบ น้ําเต้า ฟักทอง ถั่วฝักยาว มะระแม้ว จํานวน 70 หลุม กลุ่มปลูกผักเครื่องปรุง เช่น ผักชี ข่า ตะไคร้ กระเพรา โหระพา จํานวน 145 ต้น กลุ่มปลูกผักอายุยืน เช่น มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือพวง จํานวน 95 ต้น และกลุ่มปลูกไม้ผล เช่น มะละกอ กล้วยน้ําว้า ฝรั่ง ชมพู่ แก้วมังกร หม่อน จํานวน 470 ต้น กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน มีสํานักงานสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรีและสํานักงานตรวจบัญชีสหกรณ์กาญจนบุรี เป็นผู้ให้คําแนะนําและความรู้เรื่องสหกรณ์ ปัจจุบันมีสมาชิกสหกรณ์ จํานวน 84 คน โอกาสนี้ ทรงพระดําเนินไปยัง "สุขศาลาพระราชทาน ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงมณีรัตน์บุนนาค เปิดให้บริการเมื่อปี 2562 ในการรักษาพยาบาล การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การทําคลอดฉุกเฉินและการส่งต่อผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพและทันเหตุการณ์ เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้อย่างเหมาะสม โดยมีพื้นที่ให้บริการ 3 หมู่บ้านคือ บ้านปางสนุก บ้านพุหน่องและบ้านพุจือ หมู่ 6 ตําบลไล่โว่ อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี รวม 100 หลังคาเรือน ประชากร 510 คน สําหรับบ้านปางสนุกมี 40 ครัวเรือน ประชากร 218 คน ประชาชนที่เข้าเกณฑ์การรับวัคซีนโควิด-19 มีจํานวน 122 คน ได้รับวัคซีนฯ เข็มแรก จํานวน 27 คน ที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จํานวน 29 คน รักษาหายหมดแล้ว เวลา 11 นาฬิกา 27 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปทรงติดตามการดําเนินกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดําริฯ ที่โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนสหธนาคารกรุงเทพ บ้านเวียคะดี้ ตําบลหนองลู อําเภอสังขละบุรี โรงเรียนแห่งนี้ สังกัดกองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 13 เปิดสอนระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจบุันมีนักเรียน 248 คน ครู ตชด. 8 นาย และครูอัตราจ้าง 4 คน สําหรับคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (O-NET) ปีการศึกษา 2563 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นในทุกกลุ่มสาระ ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดําริให้กรมชลประทาน ร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร. พิจารณาแนวทางการปรับปรุงและกระจายระบบประปาภูเขาเพิ่มเติมให้กับชุมชนด้วย ด้านการเรียนการสอน เนื่องจากช่วงนี้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางโรงเรียนได้จัดการเรียนแบบ on site ให้นักเรียนสลับกันไปเรียนที่โรงเรียน โดยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 ไปเรียนในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ส่วนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงปีที่ 6 ให้ไปเรียนในวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เพื่อลดการแออัดและปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โอกาสนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมฝึกวิชาชีพนักเรียน ซึ่งมีวิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี เข้าไปสอนการทําไม้กวาดดอกหญ้าและผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ เช่น ตุ๊กตาอเนกประสงค์จากไผ่ตง กระถางต้นไม้จากไผ่ตงและที่ดริปกาแฟจากไผ่ตง ซึ่งเป็นการนําวัตถุดิบที่มีมากในพื้นที่คือ ต้นไผ่มาผลิตเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่มีมูลค่า ทําให้นักเรียนมีความรู้และสามารถนําไปประกอบอาชีพได้ต่อไป กิจกรรมประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน มีเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปส่งเสริมการทําถั่วทอง โดยนําถั่วเหลืองที่นักเรียนปลูกในโรงเรียนมาแปรรูป เพื่อเป็นขนมที่อุดมไปด้วยโปรตีน นอกจากนี้ มีการทําผักเหลียงปลารมควันสําเร็จรูป เพียงใส่น้ําร้อนก็สามารถรับประทานได้และการทําน้ํามันมะพร้าวสกัดเย็น ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ที่ผ่านมาประสบปัญหา ผลผลิตไม่เพียงพอต่อการประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน เนื่องจากโรงเรียนมีพื้นที่จํากัด ไม่สามารถปลูกพืชผักได้มาก ได้แก้ไขด้วยการทํากิจกรรมขยายผลสู่ชุมชน โดยแจกเมล็ดพันธุ์ข้าว พันธุ์ กข.79 ให้กับชุมชนนําไปปลูก แล้วนําผลผลิตมาให้กับโรงเรียน ที่ผ่านมามีชาวบ้านในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมนี้ 7 ครัวเรือน สามารถผลิตข้าวให้กับโรงเรียนได้ครัวเรือนละ 150 กิโลกรัม อีกทั้งแจกพันธุ์กบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ให้กับชุมชนๆ ละ 3 ครัวเรือนๆ ละ 5 คู่ เมื่อได้กบโตเต็มวัยก็นํามาให้กับโรงเรียน เพื่อนํามาประกอบอาหารกลางวัน โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการสีข้าวและการตําข้าวแบบเหยียบและการฝัดข้าว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ข้าวสารที่ได้นําไปประกอบอาหารกลางวันและจําหน่ายในชุมชน ทั้งนี้ จากการดําเนินงานตามพระราชดําริฯ ในโรงเรียนนี้ ทําให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างสมดุล ด้วยกระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ มีความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ โดยโรงเรียนได้รับคัดเลือกเป็นสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ได้รับการนิเทศเสริมพลัง "ดี" ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กปฐมวัย จังหวัดกาญจนบุรี ปีการศึกษา 2562 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
22/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220223203357543
717
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อทรงขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ เป็นวันที่ 3
วันนี้ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12 นาฬิกา 2 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อําเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ทรงออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อทรงขับเคลื่อนการดําเนินงานโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ด้วยทรงห่วงใยในสุขภาพอนามัยของประชาชนและสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ร่วมกันให้มีความปลอดภัย ห่างไกลจากโรคพิษสุนัขบ้า และทรงให้ความสําคัญกับการแก้ไขปัญหาโรคดังกล่าวอย่างจริงจังทั้งในคนและสัตว์ จากการดําเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ส่งผลให้สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุดรธานี ขณะนี้ได้ดําเนินงานตาม 8 ยุทธศาสตร์ ของโครงการฯ เพื่อสนองพระปณิธาน ด้วยการจัดตั้งเป็นศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด จังหวัดอุดรธานี และปฏิบัติงานออกให้บริการเคลื่อนที่ ฉีดวัคซีน ทําหมันให้กับสุนัขและแมวเพื่อควบคุมจํานวนประชากรในสัตว์ โดยในปี 2564 ถึง 2565 ได้มีการเฝ้าระวังและฝึกอบรมอาสาปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้านและผู้นําชุมชน ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งผลจากการดําเนินงานส่วนท้องถิ่น สามารถสร้างพื้นที่ควบคุมระดับ A ให้ปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้า ได้ถึง 180 ท้องถิ่น โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการออกโรงทาน ซึ่งจังหวัดอุดรธานี นําร้านอาหารคาวหวานในพื้นที่ มาร่วมการกุศลตั้งโรงทาน สนับสนุนการออกหน่วยสัตวแพทย์อาสา เพื่อเป็นขวัญกําลังใจในการปฏิบัติงานของทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จิตอาสา รวมถึงให้บริการอาหารและน้ําดื่มแก่ประชาชนที่นําสุนัขและแมวไปรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและทําหมันด้วย ซึ่งเมนูได้แก่ ข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวและผลไม้ เป็นต้น ในการนี้ โปรดให้ร้านกาแฟทิพย์พิมาน ร่วมออกโรงทานด้วย จากนั้น ทรงนําทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลสัตว์ทิพย์พิมาน ร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ผ่าตัดทําหมันให้กับสุนัขของประชาชน จํานวน 3 ตัว มีชื่อว่าลาเต้ ช๊อกโกแลตและราดหน้า สําหรับการออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาได้รับการสนับสนุน ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จิตอาสาจากสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดอุดรธานี และมณฑลทหารบกที่ 24 ร่วมออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาภายใต้ การดําเนินงานโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ โดยวันนี้ มีประชาชนชาวอุดรธานีและจังหวัดข้างเคียง นําสุนัขและแมวไปรับบริการฉีดวัคซีนรวมจํานวน 297 ตัว และทําหมันให้กับสุนัขและแมวจํานวน 203 ตัว การออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ได้แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือและมุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สําคัญของประเทศอย่างตรงจุด นับเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่สําคัญ ที่ต้องดําเนินการฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมวไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจํานวนประชากรทั้งหมด รวมถึงการทําหมันจะเป็นการลดจํานวนประชากรเสี่ยงไม่ให้แพร่กระจาย และตัดวงจรโรคพิษสุนัขบ้า ไม่ให้ก่ออันตรายมาสู่คนได้ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
22/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220223203601544
718
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วัน และศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วันในสถานศึกษา และทรงติดตามการดำเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดศรีสะเกษ
วานนี้ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 18 นาฬิกา 50 นาที ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังโรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วันและศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน โรงเรียนนี้มีพื้นที่ติดกับชายแดนกัมพูชา เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันมีนักเรียน 3,570 คน โรงเรียนได้น้อมนําหลักการดําเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วัน มาเป็นแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จัดกิจกรรมภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลักของโครงการ โดยจัดตั้งชมรมทูบีนัมเบอร์วัน ในปี 2546 มีกิจกรรมเด่น อาทิ จัดมหกรรมเยาวชนคนดีกันทรลักษ์วิทยา มีการประกวดดนตรี แข่งขันกีฬา ประกวดทูบีนัมเบอร์วันไอดอลและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะทุกปี นอกจากนั้น ยังจัดรายการวิทยุเสียงตามสายกระจายข่าวทูบีนัมเบอร์วันทุกสัปดาห์ จากการดําเนินงานต่างๆ ทําให้ได้รับรางวัลชมรมทูบีนัมเบอร์วันดีเด่นระดับประเทศ และรางวัลที่ 5 จากการประกวดทูบีนัมเบอร์วัน ทีนแดนเซอร์ไซส์ (TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE) ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2564 ด้านศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน เปิดบริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ ในช่วงเช้า พักกลางวัน และหลังเลิกเรียน มีอาสาสมัครประจําศูนย์เพื่อนใจฯ รวม 18 คน มีหลักในการทํางานคือ เพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง จัดกิจกรรมสร้างสุขตามความสนใจของสมาชิก จัดกิจกรรมการพัฒนาอีคิวด้วยการร้อง เต้น เล่นเกมฝึกสมอง และศิลปะ ทั้งมีบริการให้คําปรึกษา 2 ช่องทางคือ Walk in และ Phone in จากนั้น ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือ โครงการทูบีนัมเบอร์วัน ของจังหวัดศรีสะเกษ มีสมาชิกทูบีนัมเบอร์วันกว่า 350,000 คน ชมรมทูบีนัมเบอร์วัน จํานวน 701 ชมรม และศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน จํานวน 387 แห่ง จังหวัดกําหนดให้โครงการทูบีนัมเบอร์วันเป็นวาระของจังหวัด ขับเคลื่อนนโยบายการดําเนินงานคือ "อะไร อะไรก็ดี ทูบีนัมเบอร์วันศรีสะเกษ" รณรงค์สร้างกระแส เช่น ให้ข้าราชการ และประชาชนสวมเสื้อทูบีนัมเบอร์วันจังหวัดศรีสะเกษทุกวันพฤหัสบดี ในการนี้ พระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ถวายเงินสมทบโครงการทูบีนัมเบอร์วัน แล้วพระราชทานเงินแก่เลขาธิการมูลนิธิโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ต่อจากนั้น พระราชทานคําแนะนําในการปฏิบัติตนแก่สมาชิกโครงการใครติดยายกมือขึ้น จากสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดศรีสะเกษ สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดศรีสะเกษ สาขากันทรลักษ์ และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยบิดามารดา โดยหลังจากเป็นสมาชิกแล้ว ได้ทํากิจกรรมต่างๆ รวมถึงฝึกอาชีพ เข้าค่ายอบรมธรรมะ เรียนหนังสือต่อ มีความคิดไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและตั้งใจจะประกอบอาชีพ เช่น ผู้ช่วยพยาบาล, ครูสอนดนตรีและเปิดร้านซ่อมรถ ทั้งได้พระราชทานคําปรึกษาแก่สมาชิกทูบีนัมเบอร์วันของโรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา และสถานศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ โอกาสนี้ ทรงเป็นประธานการแสดงคอนเสิร์ต ร่วมกับทูบีนัมเบอร์วันไอดอล ทั้งนี้ จากการดําเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดศรีสะเกษ ทําให้ได้รับรางวัลต่างๆ เช่น เป็นจังหวัดทูบีนัมเบอร์วันต้นแบบระดับเงิน ได้รับคัดเลือกเป็นเยาวชนต้นแบบเก่งและดี ทูบีนัมเบอร์วัน ไอดอล ระดับประเทศ จํานวน 4 คน และได้รับรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัดทูบีนัมเบอร์วันดีเด่น ปี 2561 และ 2564 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
22/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220223203846545
719
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2563 และ 2564
เวลา 17 นาฬิกา วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2565 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยัง ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานรางวัล เสาเสมาธรรมจักร แก่ผู้ทําคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา พระราชทานโล่รางวัลชนะเลิศการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทํานองสรภัญญะประเภททีม ประเภททีมโรงเรียน และนักเรียนที่ชนะเลิศการประกวดบรรยายธรรม ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสําคัญสากลของโลก ประจําปี 2563 และ 2564 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดงานนี้ขึ้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีเทศกาลวิสาขบูชาให้ยั่งยืนถาวร สําหรับการคัดเลือกผู้ทําคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ได้เริ่มดําเนินการมาตั้งแต่ปี 2525 เพื่อทํานุบํารุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสถาพรและเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม สร้างคนดี สังคมดี นําความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีบุคคลและหน่วยงานได้รับการยกย่อง รวม 5,377 คน สําหรับปี 2563 และ 2564 มีผู้ได้รับคัดเลือก ในฐานะผู้ทําคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จํานวน 320 ราย เป็นบรรพชิต จํานวน 167 รูป คฤหัสถ์ จํานวน 134 คน และหน่วยงาน จํานวน 19 แห่ง ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
23/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220224155130846
720
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 18 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังโรงพยาบาลสังขละบุรี ตําบลหนองลู่ อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ทรงเปิดอาคารพระราชทาน 26 (ยี่สิบหก) สําหรับรองรับผู้ป่วยใน "อาคารพระราชทาน 26 (ยี่สิบหก)" นี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จํานวนกว่า 29,550,000 บาท เพื่อสร้างทดแทนอาคารผู้ป่วยในหลังเก่าที่เกิดการทรุดตัว จากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่อําเภอสังขละบุรี เมื่อปี 2558 เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนธันวาคม 2563 แล้วเสร็จเมื่อเดือนมกราคม 2565 เป็นอาคารขนาด 2 ชั้น จํานวน 67 เตียง ทั้งยังมีห้องความดันลบ เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 จํานวน 1 ห้อง ทั้งนี้ สํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร. และกรมชลประทาน ได้ดําเนิน "โครงการจัดหาน้ําสนับสนุนโรงพยาบาลสังขละบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดําริ" โดยก่อสร้างสถานีสูบน้ําด้วยไฟฟ้าชนิดแพลอย จํานวน 1 แห่ง สูบน้ําจากลําห้วยซองกาเรีย พร้อมระบบท่อส่งน้ําความยาว 1,950 เมตร รวมทั้งก่อสร้างถังพักน้ําคอนกรีต ขนาด 500 ลูกบาศก์เมตร จํานวน 1 แห่ง และถังพักน้ําคอนกรีต ขนาด 100 ลูกบาศก์เมตร จํานวน 2 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคม 2565 สําหรับ โรงพยาบาลสังขละบุรี สร้างขึ้นจากดําริของพระราชอุดมมงคล หรือหลวงพ่ออุตตมะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2528 เป็นโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย รับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลต่างๆ และผู้ป่วยจากประเทศเมียนมา โดยมีผู้เจ็บป่วยเข้ารับการรักษา วันละ 250 คน ปัจจุบันให้บริการด้านสาธารณสุขชายแดนในอําเภอสังขละบุรี ประกอบด้วย 3 ตําบล ได้แก่ ตําบลหนองลู่ ตําบลไล่โว่ และตําบลปรังเผล รวม 20 หมู่บ้าน, ประชากร (คนไทย) 23,229 คน และผู้ไร้สัญชาติ 23,581 คน รวมจํานวน 46,810 คน เวลา 12 นาฬิกา 23 นาที ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ซึ่งกองบินตํารวจ สํานักงานตํารวจแห่งชาติจัดถวาย เสด็จพระราชดําเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเฮงเค็ลไทย บ้านทุ่งมะเซอย่อ ตําบลบ้องตี้ อําเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ที่จัดตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2526 ทั้งนี้ โรงเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมมาตรฐานตรวจสอบความปลอดภัย ป้องกันโรคโควิด-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จึงได้เปิดการเรียนภาคเรียนที่ 2 ในปีการศึกษา 2564 ในการนี้ ทรงติดตามการแก้ไขปัญหาน้ําอุปโภคบริโภคในโรงเรียน ซึ่งพบเชื้อแบคทีเรียโดยกรมอนามัย ได้แนะนําให้ล้างบ่อน้ําตื้นและเติมคอลรีนร้อยละ 10 เปลี่ยนไส้กรองเครื่องกรองน้ํา โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ในการดูแลโครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษาตามพระราชดําริ โดยเข้าไปช่วยสอนด้านทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดห้องสมุด รวมทั้งช่วยด้านการเรียนการสอนด้วย ด้านสุขภาพอนามัย ได้ดําเนินการแก้ไขนักเรียนอนุบาลและนักเรียนประถมศึกษา ที่มีน้ําหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ภาวะเตี้ยและภาวะผอม รวม 24 คน โดยจัดให้นักเรียนรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เสริมนมผักผลไม้ทุกวัน ส่วนนักเรียนที่มีภาวะเริ่มอ้วน 26 คน จัดกิจกรรมออกกําลังกายวันละ 30 นาที ควบคุมอาหารหวาน มัน เค็ม การแปรรูปและการถนอมอาหาร มีสํานักงานเกษตรอําเภอไทรโยค ไปสอนนักเรียนทําแหนมเห็ดนางฟ้า การทําส้มโอเชื่อมและขนมถั่วแปป กิจกรรมฝึกวิชาชีพนักเรียน อาทิ การทอผ้าไหม มีสมาชิก 10 คน ซึ่งนักเรียนมีความสามารถในการทอผ้าพันคอ ออกจําหน่าย เพื่อนํามาเป็นเงินทุนหมุนเวียน โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแปรรูปมะขามยักษ์แช่อิ่มและมะขามแช่อิ่มตากแห้ง โดยกลุ่มแม่บ้านตําบลบ้องตี้ จากต้นมะขามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกไว้ในโรงเรียน สําหรับโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โรงเรียนได้ดําเนินงานตามพระราชกระแส อาทิ การปลูกมะนาวเพิ่มในแปลงเกษตร ปัจจุบันกําลังให้ผลผลิต ดูแลรักษาส้มโอ ใส่ปุ๋ยคอกจนสามารถเก็บผลผลิตได้ เลี้ยงไก่ไข่ หมู เป็ด กบ ปลาดุก ปลากินพืช ทําให้มีผลผลิตเนื้อสัตว์อย่างเพียงพอ ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีสากล ผสมผสานกับดนตรีพื้นบ้าน โปงลางประยุกต์ ซึ่งนักเรียนรับการแสดงตามงานวัดและตามงานของโรงเรียน ตชด. จากการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดําริ ในโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเฮงเค็ลไทย โรงเรียนมีการพัฒนามาโดยตลอด ทั้งด้านการเรียนการสอน นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตอาสา รวมถึงคนในชุมชนได้รับการส่งเสริมอาชีพในการขยายพันธุ์เป็ดบาร์บารี่ (Barbary) จํานวน 20 ครัวเรือน ทั้งได้รับความรู้ด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม โดยมีหลายหน่วยงานร่วมกันสนองพระราชดําริ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
23/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220224155423848
721
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคล ไปยังสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ในโอกาสวันชาติของญี่ปุ่นและวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น กรุงโตเกียว ในโอกาสวันชาติของญี่ปุ่นและวันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าพระบาท หม่อมฉันขอถวายพระพรด้วยความปรารถนาดีและความยินดีอย่างยิ่ง เพื่อฝ่าพระบาทและพระราชวงศ์ ทรงพระเกษมสําราญ มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งเพื่อความสําเร็จและความรุ่งเรืองอันวัฒนาสถาพร ของประเทศและประชาชนชาวญี่ปุ่น ความสัมพันธ์ฉันมิตร ที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างประเทศและประชาชนของเราเจริญงอกงามมาโดยตลอด ทั้งดํารงมั่นคง ส่วนหนึ่งที่สําคัญก็ด้วยไมตรีอันอบอุ่นและมิตรภาพอันพิเศษระหว่างพระราชวงศ์ทั้งสอง หม่อมฉันขอขอบพระทัยฝ่าพระบาท ที่ทรงส่งเสริมหนุนนําสัมพันธไมตรีอันยืนยงของเราตลอดมา ขอฝ่าพระบาทมั่นพระทัยได้ว่า หม่อมฉันจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งนั้นอย่างเต็มที่ เพื่อสนองพระราชไมตรีและน้ําพระราชหฤทัยอันงดงาม พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
23/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220224155714851
722
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคล ไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ในโอกาสวันชาติของบรูไนดารุสซาลาม ซึ่งตรงกับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม บันดาร์เสรีเบกาวัน ในโอกาสวันชาติของบรูไนดารุสซาลาม หม่อมฉันขอถวายพระพรชัยมงคลและความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาทและพระราชวงศ์ มีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวบรูไน ประสบแต่ความสําเร็จและความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป หม่อมฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยการนําและการสนับสนุนอันเข้มแข็งของฝ่าพระบาท ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดสนิทสนมและความร่วมมือในกิจการทุกด้านระหว่างประเทศและประชาชนของเราทั้งสองจะกระชับแน่นแฟ้นและเจริญงอกงามต่อไปในภายภาคหน้า พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
23/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220224155929853
723
ข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลในโอกาสวันชาติของบรูไนดารุสซาลาม
ด้วยวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันชาติของบรูไนดารุสซาลาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ในโอกาสวันชาติของบรูไนดารุสซาลาม หม่อมฉันขอถวายพระพรชัยมงคลและความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาทและพระราชวงศ์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวบรูไนประสบแต่ความสําเร็จและความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป หม่อมฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยการนําและการสนับสนุนอันเข้มแข็งของฝ่าพระบาท ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดสนิทสนมและความร่วมมือในกิจการทุกด้านระหว่างประเทศและประชาชนของเราทั้งสองจะกระชับแน่นแฟ้นและเจริญงอกงามต่อไปในภายภาคหน้า (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
23/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220223200601534
724
ข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันชาติของญี่ปุ่นและวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น
ด้วยวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันชาติของญี่ปุ่นและวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยังสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ในโอกาสวันชาติของญี่ปุ่นและวันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าพระบาท หม่อมฉันขอถวายพระพรด้วยความปรารถนาดีและความยินดีอย่างยิ่ง เพื่อฝ่าพระบาทและพระราชวงศ์ ทรงพระเกษมสําราญ มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งเพื่อความสําเร็จและความรุ่งเรืองอันวัฒนาสถาพรของประเทศและประชาชนชาวญี่ปุ่น ความสัมพันธ์ฉันมิตรที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างประเทศและประชาชนของเรา เจริญงอกงามมาโดยตลอด ทั้งดํารงมั่นคงส่วนหนึ่งที่สําคัญก็ด้วยไมตรีอันอบอุ่นและมิตรภาพอันพิเศษ ระหว่างพระราชวงศ์ทั้งสอง หม่อมฉันขอขอบพระทัยฝ่าพระบาทที่ทรงส่งเสริมหนุนนําสัมพันธไมตรี อันยืนยงของเราตลอดมา ขอฝ่าพระบาทมั่นพระทัยได้ว่า หม่อมฉันจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งนั้นอย่างเต็มที่ เพื่อสนองพระราชไมตรีและน้ําพระราชหฤทัยอันงดงาม (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
23/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220223200827535
725
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงเปิดงาน "100 ปี ราชภัฏพิบูลสงคราม เทิดไท้องค์ราชัน" ที่จังหวัดพิษณุโลก
วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17 นาฬิกา 49 นาที พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จไปยังศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่าง วังจันทน์ริเวอร์วิว มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อําเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ทรงเปิดงาน "100 ปี ราชภัฏพิบูลสงคราม เทิดไท้องค์ราชัน" เพื่อน้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการนี้ ประทานพระวโรกาสให้ ผู้สนับสนุนการจัดงานและผู้มีจิตศรัทธา เฝ้า ถวายเงินโดยเสด็จพระกุศล เพื่อจัดตั้งกองทุนนักศึกษาเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2464 เพื่อดําเนินการฝึกหัดครู โดยมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2538 รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานนาม "สถาบันราชภัฏ" และพระราชทานตราพระราชลัญจกร เป็นตราประจําสถานศึกษา ต่อมาในปี 2547 ได้ยกฐานะเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม" มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสําคัญกับการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ได้พระราชทานพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ที่มุ่งสร้างคน ให้มีคุณลักษณะ 4 ประการ ได้แก่ มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง มีอาชีพมีงานทําและเป็นพลเมืองที่ดีมีระเบียบวินัย อันเป็นส่วนสําคัญในการสร้างความเจริญมั่นคงให้กับประเทศ ภายในงานฯ มีนิทรรศการวิชาการแสดงผลงานของนักศึกษาและบุคลากร ที่บูรณาการความรู้สู่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ นิทรรศการผ้าถิ่นไทยผ้าพื้นเมือง ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่ง ได้อนุรักษ์ สืบสาน ต่อยอดภูมิปัญญาสิ่งทอ ที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นและ OTOP ของดีกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ผู้สนใจเข้าร่วมงานได้ถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225111302117
726
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วัน และศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วันในสถานศึกษา และทรงติดตามการดำเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดสุรินทร์
วานนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 18 นาฬิกา 5 นาที ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังโรงเรียนสุรวิทยาคาร อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันเปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 มีนักเรียน 3 พัน 382 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 212 คน ในการนี้ ทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วันและศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน โดยโรงเรียนน้อมนําหลักการดําเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วัน มาเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลที่สมบูรณ์ ในด้านจิตใจ อารมณ์ สังคม ร่างกาย มีคุณธรรมและจริยธรรม "เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" ชมรมทูบีนัมเบอร์วันจัดตั้งเมื่อปี 2549 จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันยาเสพติด ให้สมาชิกกล้าคิด กล้าทํา กล้าแสดงออก ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติดและสามารถนําไปหารายได้ระหว่างเรียน ส่วนศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน เปิดบริการทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ มีบริการให้คําปรึกษา มีกิจกรรมพัฒนา EQ และจัดกิจกรรมสร้างสุข เช่น ผลิตเครื่องประดับจากเส้นไหม ผลิตสายคล้องแมส การเพ้นท์กระเป๋า การเต้น cover dance จากนั้น ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดสุรินทร์ ตลอด 19 ปี มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นําขับเคลื่อนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ปัจจุบันมีสมาชิกทูบีนัมเบอร์วัน อายุระหว่าง 6 ถึง 24 ปี จํานวนกว่า 6 แสน 6 หมื่นคน มีชมรมทูบีนัมเบอร์วันในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ เรือนจํา และสํานักงานคุมประพฤติ รวม 706 ชมรม และมีศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน รวม 101 แห่ง โดยเป็นจังหวัดรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเพชร ปีที่ 1 และโรงเรียนมัธยมศรีสําเภาลูน เป็นชมรมรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับทอง ปีที่ 2 ในการนี้ พระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ถวายเงินเข้าโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ต่อจากนั้น พระราชทานพระวโรกาสให้ สมาชิกใครติดยายกมือขึ้นจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุรินทร์ และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ พร้อมครอบครัว เฝ้า มีตัวแทนสมาชิกฯ กราบทูลเกี่ยวกับประวัติครอบครัว การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและได้รับการให้อภัยจากครอบครัว เช่น รู้ถึงโทษของยาเสพติด ได้กลับไปศึกษาต่อที่โรงเรียน เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว บางคนตั้งใจจะเรียนต่อระดับปริญญาตรี ด้านเทคโนโลยีการเกษตร ส่วนบางคนแม้ออกจากโรงเรียน แต่ได้สมัครเรียนหลักสูตรการศึกษานอกระบบฯ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายควบคู่กับการทํางานรับจ้าง ตั้งใจเก็บเงินเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ทั้งได้พระราชทานพระวโรกาสให้ สมาชิกทูบีนัมเบอร์วันโรงเรียนสุรวิทยาคาร และโรงเรียนเครือข่ายในจังหวัดสุรินทร์ เฝ้า ด้วย ก่อนเสด็จกลับ ทรงเป็นประธานการแสดงคอนเสิร์ต ร่วมกับทูบีนัมเบอร์วันไอดอล ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225111531119
727
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานการประชุมสภาสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย
เวลา 14 นาฬิกา วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2565 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังอาคารสิรินธรานุสรณ์ 60 พรรษา สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานการประชุมสภาสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ครั้งที่ 38 โดยมีระเบียบวาระการประชุมเรื่องต่างๆ อาทิ รายงานผลการสอบบัญชีและการเงิน ประจําปีงบประมาณ 2564 และ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์สํานักงานสถาบันฯ พุทธศักราช 2565 ถึง 2568 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225111629120
728
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์
วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 5 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปทรงเปิดงาน "เทศกาลน้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์" ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งมูลนิธิชัยพัฒนา และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จํากัด ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 โอกาสนี้ พระราชทานเรื่องเล่า "น้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์" แก่ผู้ร่วมงาน ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ "น้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์" บอกเล่าพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถึงเส้นทางของน้ํามันเมล็ดคามีเลีย ในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในพระราชดําริให้มูลนิธิชัยพัฒนา นําเมล็ดต้นชาน้ํามันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า(Camellia oleifera) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาศึกษาและทดลองปลูกในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2547 ในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ก่อนจะขยายไปในพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 3,600 ไร่ กว่า 900,000 ต้น เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมและทดแทนป่าไม้ที่ถูกทําลาย ขณะเดียวกันได้สร้างรายได้ให้กับราษฎรในพื้นที่ ทําให้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการรักษาป่า อยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเข้าใจและพึ่งพิงกัน ตามพระราชดําริ "คนอยู่ร่วมกับป่า" ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเป็นวิถีแห่งความสุข ความสมดุลและความยั่งยืน ทั้งยังมีพระราชดําริให้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ํามันและพืชน้ํามัน อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อผลิตน้ํามันจากเมล็ดชาน้ํามันคุณภาพสูงชนิดต่างๆ สําหรับการบริโภคและนําไปเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง เช่น เครื่องสําอาง เป็นต้น โอกาสนี้ ทรงปรุงอาหารโดยใช้น้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ เป็นส่วนประกอบ ในเมนู "ทอดมันข้าวโพด" และทรงจําหน่ายน้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ แก่ผู้ร่วมงานและผู้แทนร้านค้าที่ใช้น้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ เนื่องจากมีประโยชน์ไม่ด้อยกว่าน้ํามันมะกอก จนได้ชื่อว่าเป็นน้ํามันมะกอกแห่งโลกตะวันออก ไม่มีกรดไขมันทรานส์, มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน โรคอัมพาต โรคความดันโลหิต โรคเบาหวานและโรคหัวใจ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีจุดเดือดสูงมากกว่า 250 องศาเซลเซียส จึงประกอบอาหารได้ทั้งทอด ผัด หมัก หรือใช้เป็นส่วนผสมของน้ําสลัด ถือเป็นน้ํามันที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย ผู้สนใจเข้าชมงาน "เทศกาลน้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์" ได้ที่ควอเทียร์ แกลลอรี่ ชั้น M เป็นโซนนิทรรศการร้านค้าในเครือมูลนิธิชัยพัฒนาและร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังและ ควอเทียร์ อเวนิว ชั้น G เป็นโซน Food Expo มีร้านอาหารและเชฟดัง ที่ใช้น้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ รังสรรค์เมนูอร่อย สามารถซื้อน้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ในราคาพิเศษและเมื่อซื้อครบ 1,500 บาท รับกระเป๋าผ้าซึ่งเป็นกระเป๋าที่ออกแบบและสั่งทําพิเศษเฉพาะงานนี้ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225111914125
729
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์น ทรงอำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย ในโอกาสวันเอกราชของสาธารณรัฐเอสโตเนีย ซึ่งตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ ฯพณฯ นายอาลาร์ การิส ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย กรุงทาลลินน์ ในโอกาสวันเอกราชของสาธารณรัฐเอสโตเนีย ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อท่านประธานาธิบดีมีพลานามัยสมบูรณ์และประสบความสุขสวัสดิ์ ทั้งเพื่อความผาสุกและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวเอสโตเนีย ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ไมตรีจิตมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศของเราทั้งสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล จะเจริญงอกงามยิ่งขึ้นไปในภายภาคหน้า พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225112130126
730
พระราชสาส์นอำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย
ด้วยวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันเอกราชของสาธารณรัฐเอสโตเนีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอํานวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย ดังนี้ ในโอกาสวันเอกราชของสาธารณรัฐเอสโตเนีย ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อท่านประธานาธิบดีมีพลานามัยสมบูรณ์และประสบความสุขสวัสดิ์ ทั้งเพื่อความผาสุกและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวเอสโตเนีย ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ไมตรีจิตมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศของเราทั้งสองโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล จะเจริญงอกงามยิ่งขึ้นไปในภายภาคหน้า (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
24/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220224154136829
731
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว
วันนี้ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 40 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว อําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อทรงเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติของสมาชิกองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ อกท. ครั้งที่ 42 ปีการศึกษา 2564 ซึ่งองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดขึ้น เพื่อจัดแสดงผลสําเร็จของการพัฒนาศักยภาพสมาชิก ซึ่งเป็นนักเรียนนักศึกษาและศิษย์เก่าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศ ในการนี้ มีพระราชดํารัสเปิดการประชุมฯ ความสําคัญตอนหนึ่ง จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการผลงานการประกวดสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ เช่น สครับผิวจากเปลือกสับปะรดของหน่วยลําพูน/ นิทรรศการทางการเกษตร เช่น การเพาะพันธุ์ปลากัดหงส์สุพรรณ อัญมณีแห่งสายน้ําของหน่วยสุพรรณบุรีและไก่เขียวห้วยทรายของหน่วยเพชรบุรี นิทรรศการโครงการบริหารจัดการน้ําโดยชุมชน ตามแนวพระราชดําริ รัชกาลที่ 9 เปิดสอนหลักสูตรชลกรในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ ปวส. รุ่นที่ 1 ในวิทยาลัยของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 แห่ง โครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ นิทรรศการระบบควบคุมสภาพอากาศ ในการเลี้ยงจิ้งหรีดอัจฉริยะของโรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา นิทรรศการทักษะการจัดสวนหย่อม และทักษะการจัดสวนในภาชนะแก้วใส อกท. จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพสมาชิก ให้เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง โดยเชื่อมโยงและบูรณาการองค์ความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพ ภายใต้การจัดการศึกษาของสถานศึกษา ประเภทวิชาเกษตรกรรม ประมงและที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกําลังคนที่มีสมรรถนะ มีขีดความสามารถ แข่งขันในระดับสากลได้ สําหรับการประชุมครั้งนี้ จะจัดจนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ต่อจากนั้น ทรงเปิด "อาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2564 เพื่อเป็นอาคารทรงงานในโอกาสเสด็จพระราชดําเนินไปทรงเปิดการประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรแก่ประชาชน ในการนี้ ทรงฟังการสัมมนาผลงานวิจัย สาขาทั่วไป เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เจลบํารุงผิวรอบดวงตาจากสารสกัดบัวบกของหน่วยลําพูน ซึ่ง "บัวบก" มีสารประกอบสําคัญที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาคือ สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และไทรเทอพินอยด์ (Triterpenoid) ช่วยรักษาสภาพผิวหนัง เช่น กระตุ้น สร้างและลดการสลายคอลลาเจน จึงสกัดสารสําคัญและตรวจสอบฤทธิ์ทางชีวภาพ แล้วนํามาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เจลบํารุงผิวรอบดวงตา ภายใต้ชื่อการค้า "ทา ดี เซนเทลล่า อาย เจล" (Tha Dee Centella Eye Gel) ปัจจุบันยังนําสารสกัดบัวบกมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เวลา 13 นาฬิกา 38 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปทรงติดตามการดําเนินงานโครงการตามพระราชดําริ ในโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านเขาสารภี อําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเปิดทําการเรียนการสอนตั้งแต่ปี 2513 ในระดับชั้นปฐมวัย ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในความรับผิดชอบของกองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 12 จังหวัดสระแก้ว ปัจจุบันมีครู ตชด. 7 นาย ครูอัตราจ้าง 6 คน มีนักเรียน 68 คน ในจํานวนนี้เป็นนักเรียนชาวกัมพูชา 28 คน สําหรับคะแนนสอบ NT ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และคะแนนสอบ O-net ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีการวางแผนและประเมินนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อทราบจุดแข็งและจุดอ่อนของนักเรียน เพื่อทําการสอนเสริมหลังเลิกเรียนและฝึกให้มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษาหาความรู้ เพื่อให้วิชาที่นักเรียนไม่ถนัดมีผลคะแนนที่ดีขึ้น โอกาสนี้ ทรงติดตามการดําเนินโครงการต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 12 อาทิ โครงการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย มีทั้งนักเรียนที่มีผลการประเมินความสามารถด้านการฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาไทย ที่ผ่านเกณฑ์ ส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ จะทําการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละด้านต่ไป สําหรับโครงการเพิ่มผลผลิตไม้ผลและถั่วเมล็ดแห้ง ในโรงเรียนที่มีผลผลิตไม่เพียงพอ ได้ทําการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก ส่วนด้านแหล่งน้ํา โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนทุกโรงมีแหล่งน้ําสําหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตร เพียงพอตลอดทั้งปี จากนั้น ทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ในการสร้างผลงานด้วย Microsoft Power Point การสอนวิชาภาษาอังกฤษ การทําสมุดฉีกจากกระดาษเหลือใช้ เป็นการฝึกสมาธิ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ ชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนฯ ได้เข้าไปช่วยซ่อมแซม ดูแลอาคาร สถานที่และช่วยสนับสนุนทุนการศึกษา ด้วย กิจกรรมห้องสมุด ส่งเสริมนักเรียนให้รู้จักค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง สร้างเสริมนิสัยรักการอ่าน กิจกรรมแปรรูปอาหาร มีวิทยาลัยชุมชนสระแก้ว เข้าไปสอนทําไส้อั่วกล้วย โดยใช้กล้วยดิบและหัวปลีเป็นส่วนประกอบและสอนทําขนมเปี๊ยะถั่วมะแฮะ วางจําหน่ายในสหกรณ์โรงเรียน กิจกรรมการฝึกอาชีพ การทําไม้กวาดทางมะพร้าวจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่วนวิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว เข้าไปสอนการต่อปลั๊กไฟฟ้าเบื้องต้น โรงเรียนฯ ยังดําเนินการตามพระราชกระแส ในการฝึกทักษะด้านอาชีพที่เหมาะสมให้แก่นักเรียนชาวกัมพูชา เพื่อให้มีอาชีพติดตัว เช่น การตัดผม โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ดําเนินการปลูกไม้ผล ปศุสัตว์ ประมงและการปลูกผักปลอดภัยโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภคภายในโรงเรียนและขยายองค์ความรู้ด้านการเกษตรไปสู่ชุมชน ทั้งได้แจกเมล็ดพันธุ์และพันธุ์สัตว์ ไปดําเนินการในแต่ละครัวเรือน ในการนี้ ผู้บัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน นําอธิบดีกรมพลศึกษา เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลการสนับสนุนกิจกรรมของนักเรียนโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน โดยดําเนินการปรับปรุงสภาพสนามกีฬาพระราชนิเวศน์กรีฑาสถาน กองกํากับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี แล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เพื่อยกระดับให้มีมาตรฐาน เป็นสนามกีฬาหลักในการส่งเสริมและจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาของโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ รวมทั้งให้บริการแก่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการออกกําลังกาย เล่นกีฬาและกิจกรรมนันทนาการ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
25/2/2022
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226130700582
732
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคล ไปยังเจ้าผู้ครองรัฐคูเวต ในโอกาสวันชาติของรัฐคูเวต ซึ่งตรงกับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ เชค นาวัฟ อัลอะห์มัด อัลญาบิร อัศเศาะบาฮ์ เจ้าผู้ครองรัฐคูเวต กรุงคูเวตซิตี ในโอกาสวันชาติของรัฐคูเวต หม่อมฉันมีความยินดี ขอถวายพระพรชัยมงคลและ ความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาท มีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวคูเวต มีความร่มเย็นเป็นสุขและเจริญรุ่งเรืองสืบไป หม่อมฉันเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรอันมั่นคงและความร่วมมือในกิจการด้านต่างๆ ระหว่างประเทศของเราทั้งสอง จะดําเนินก้าวหน้าต่อไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองฝ่าย พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
25/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226130906583
733
ข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันชาติของรัฐคูเวต
ด้วยวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันชาติของรัฐคูเวต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ส่งข้อความพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยังเจ้าผู้ครองรัฐคูเวต ในโอกาสวันชาติของรัฐคูเวต หม่อมฉันมีความยินดีขอถวายพระพรชัยมงคลและความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาททรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์และทรงพระเกษมสําราญ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวคูเวตมีความร่มเย็นเป็นสุขและเจริญรุ่งเรืองสืบไป หม่อมฉันเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรอันมั่นคงและความร่วมมือในกิจการด้านต่างๆ ระหว่างประเทศของเราทั้งสอง จะดําเนินก้าวหน้าต่อไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองฝ่าย (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
25/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225210910442
734
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วันและศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน ของโรงเรียนหนองกี่พิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ และทรงติดตามการดำเนินโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดบุรีรัมย์
วานนี้ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 18 นาฬิกา 15 นาที ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังโรงเรียนหนองกี่พิทยาคม อําเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ในการนี้ ทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วันและศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน ของโรงเรียนหนองกี่พิทยาคม เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีนักเรียนอยู่ในช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่ทางที่ถูกต้องหรือทางที่ไม่ถูกต้องได้เสมอ โรงเรียนฯ จึงได้น้อมนําโครงการทูบีนัมเบอร์วันมาเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจัดตั้งชมรมทูบีนัมเบอร์วันและสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียน อาทิ กิจกรรมต่อต้านยาเสพติด, กิจกรรม TO BE วิชาการ, ศิลปะการแสดง กีฬา ดนตรี เน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิก ส่งผลให้เกิดการพัฒนา รู้จัก และเห็นคุณค่าของตนเองมากขึ้น มีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ การวางแผน การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การเป็นจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น สามารถต่อยอดในระดับมหาวิทยาลัย สร้างอาชีพที่เกิดจากทักษะความสามารถและเลี้ยงดูครอบครัวได้ อีกทั้งจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน ที่มีอาสาสมัครประจําศูนย์ จํานวน 30 คน ดําเนินกิจกรรมภายในศูนย์ฯ เช่น การให้คําปรึกษาแบบเพื่อนช่วยเพื่อน การพัฒนา EQ กิจกรรมสร้างสุขที่เป็นแบบพี่สอนน้อง เพื่อนสอนเพื่อน กิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากสมาชิกคือ กิจกรรมวาดฝันปั้นจินตนาการ กิจกรรม Knit with Love กิจกรรมคณิตศิลป์กระดาษแสนสนุกและกิจกรรม Digital Book จากนั้น ทรงติดตามการดําเนินโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีองค์กรภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมสนับสนุนโครงการฯ เพื่อพัฒนาเยาวชนสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่เยาวชนให้รู้จักหลีกเลี่ยงและห่างไกลจากยาเสพติด ภายใต้แนวคิดเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด จากดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทําให้ได้รับรางวัลจากการประกวดการดําเนินโครงการทูบีนัมเบอร์วันฯ ได้แก่ ชมรมทูบีนัมเบอร์วันโรงเรียนห้วยราชพิทยาคม และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ในกลุ่มรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงิน ปีที่ 2 โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม และศูนย์กระจายสินค้า ซีพีออลล์ จํากัด มหาชน จังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ในกลุ่มรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบเงิน ปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เป็นชมรมระดับดีเด่น และมีสมาชิกได้รับคัดเลือกเป็นเยาวชนต้นแบบเก่งและดี ระดับประเทศ จํานวน 2 คน โอกาสนี้ พระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ถวายเงินเข้าโครงการทูบีนัมเบอร์วัน แล้วพระราชทานเงินแก่ผู้แทนเลขาธิการมูลนิธิโครงการทูบีนัมเบอร์วัน จากนั้น มีพระปฏิสันถารและพระราชทานกําลังใจ แก่สมาชิกใครติดยายกมือขึ้น จํานวน 30 คน จากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยกล่าวคําปฏิญาณตน ให้คําสัญญาว่าจะเป็นคนดีต่อตนเอง ต่อครอบครัวและสังคม จะไม่ทําให้ครอบครัวและสังคมเดือดร้อน จะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี ต่อจากนั้น พระราชทานคําปรึกษาแก่สมาชิกทูบีนัมเบอร์วันจากสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ไปเฝ้า โดยจังหวัดบุรีรัมย์ มีสมาชิกทูบีนัมเบอร์วันอายุ 6 ถึง 24 ปี จํานวน 293,424 คน คิดเป็นร้อยละ 100 มีอําเภอและชมรมทูบีนัมเบอร์วัน ในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ เรือนจํา สถานพินิจฯ และสํานักงานคุมประพฤติ ครอบคลุมทุกประเภท รวม 1,215 แห่ง โอกาสนี้ ทรงเป็นประธานการแสดงคอนเสริต์ทูบีนัมเบอร์วัน ทั้งนี้ การดําเนินโครงการทูบีนัมเบอร์วันได้มุ่งเน้นการให้โอกาส โดยให้เยาวชนที่เสพยาได้รับการบําบัดและให้เยาวชนทั่วไป ได้พัฒนาตนเองและแสดงความสามารถที่หลากหลายโดยใช้กิจกรรมเป็นสื่อเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227143216899
735
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดระนอง
วันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15 นาฬิกา 30 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปทรงเปิดห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" ตําบลบางริ้น อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ซึ่งสํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดระนอง ร่วมกับประชาชนจังหวัดระนองและผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันจัดสร้างขึ้น บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ 3 งาน ตามโครงการห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นการสนองพระราชดําริในการส่งเสริมการศึกษาในรูปแบบห้องสมุดประชาชน เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน นับเป็นลําดับที่ 109 ของโครงการฯ ในโอกาสนี้ ทอดพระเนตรการทําดิ้นโบราณเครื่องประดับและดอกไม้ประดิษฐ์ โดยกลุ่มหัตถศิลป์ดิ้นโบราณ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาติพันธุ์บาบ๋า การทําน้ําอบไทย จากดอกกล้วยไม้พันธุ์โกมาซุม เป็นดอกไม้ประจําจังหวัดระนอง มีน้ําแร่จากบ่อน้ําร้อนรักษะวารินเป็นส่วนผสม โดยชมรมแม่บ้านตํารวจภูธรจังหวัดระนอง ห้องสมุดประชาชนแห่งนี้ เป็นอาคาร 2 ชั้น ภายใต้การดําเนินงานในรูปแบบ Digital Library และ Co-Learning Space มีบริการ Internet และสื่อ E-Book มีการรวบรวมสารสนเทศออนไลน์ไว้ให้บริการ เพื่อความสะดวกในการสืบคันข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมการเรียนรู้เคลื่อนที่สู่ชุมชนอย่างต่อเนื่องเป็นประจําทุกเดือน ชั้นล่าง แบ่งพื้นที่เป็นมุมต่างๆ อาทิ มุมอ่านหนังสือทั่วไป มุมเด็ก มุม ICT ทั้งมีการจัดการศึกษาให้กับนักศึกษากลุ่มเป้าหมายพิเศษ ที่มีความบกพร่องทางร่างกายและการเรียนรู้ ของสํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. โดยมีครู กศน. เป็นผู้สอนและจัดการสอนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล บริเวณชั้นสอง จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ อาทิ การจัดแสดงเรื่องราวด้านต่างๆ ของจังหวัดระนอง ทั้งด้านภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ โบราณคตี ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ชาติพันธุ์วิทยา ศาสนาและการปกครอง เช่น คําจารึกประวัติพระยาดํารงสุจริตมหิศรภักดี (คอซูเจียง) จางวางเมืองระนอง สุสานเมืองระนอง ภูเขาหญ้า สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ คอคอดกระ หรือกิ่วกระ อําเภอกระบุรี เป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายูและบ่อน้ําพุร้อนรักษะวาริน อําเภอเมืองระนอง นิทรรศการโมเดลจําลอง ทั้ง 5 อําเภอของจังหวัดระนอง บอกเล่าสถานที่สําคัญและวัฒนธรรมประจําถิ่น และโมเดลจําลองวิถีชีวิตของชาวระนอง ในการทําเหมืองแร่ โอกาสนี้ ทอดพระเนตรห้องนิทรรศการจัดแสดงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ทรงมีต่อจังหวัดระนองและพระราชกรณียกิจต่างๆ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่จังหวัดระนอง ทั้งนี้ บริเวณด้านหลังห้องสมุดประชาชนฯ ได้จัดสวนพฤกษศาสตร์ เพื่อเป็นฐานการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของชุมชน มีการปลูกพืชหลากหลายชนิดให้เหมาะกับพื้นที่ เป็นการผสมผสานระหว่างพืชเศรษฐกิจและพันธุ์ไม้พื้นเมืองของจังหวัดระนอง โดยมีป้ายคิวอาร์โค้ด บอกข้อมูลพื้นฐานของพืชแต่ละชนิด เช่น ต้นกาหยู หรือต้นมะม่วงหิมพานต์ ต้นขุนไม้ พันธุ์ไม้พื้นเมืองหายาก ส่วนใหญ่พบในพื้นที่จังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร ต้นหลุมพอ เป็นต้นไม้ที่มักจะขึ้นอยู่ในป่าดงดิบชื้นตามที่ราบทางภาคใต้ เชื่อว่าถ้าปลูกไว้ในบริเวณบ้าน จะช่วยดูดเงินทองและต้นบริแวง หรือ ต้นอบเชย พันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจําจังหวัดระนอง ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227143503900
736
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานในพิธีการบำเพ็ญกุศลถวายแด่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ
วันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 15 นาที สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานในพิธีการบําเพ็ญกุศลถวายแด่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ พระราชอุปัธยาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระอุปัชฌายะของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ปัจจุบัน ซึ่งทางวัดและคณะศิษยานุศิษย์ จัดพิธีบําเพ็ญกุศลถวายแด่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เป็นประจําทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน นับแต่สิ้นพระชนม์ เมื่อวันเสาร์ ที่ 27 สิงหาคม พุทธศักราช 2531 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรงบําเพ็ญพระกรณียกิจไว้เป็นอเนกประการ ทั้งต่อกิจการพระพุทธศาสนา ทั้งเพื่อเกื้อกูลประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชน อาทิ ทรงก่อตั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) ซึ่งปัจจุบัน ชื่อว่า โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถระ) และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ ณ อําเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกทั้งยังประทานพระอุปถัมภ์การสร้างโรงเรียนวัดราชบพิธ เพื่ออบรมบ่มเพาะเด็กและเยาวชนให้เติบใหญ่เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพตราบจนปัจจุบัน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227142935897
737
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมปริม บุนนาค และศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ จุลชีพ ชินวรรโณ
วันนี้ 27 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17 นาฬิกา 10 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยัง เมรุวัดประยุรวงศาวาส เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมปริม บุนนาค ในพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ซึ่งถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 สิริรวม 97 ปี หม่อมปริม บุนนาค เกิดวันที่ 13 กันยายน 2466 บิดาและมารดา คือ พระยานิพัทธ์กุลพงศ์ (ชิน บุนนาค) กับคุณหญิงเปลื้อง บุนนาค ด้านการศึกษา จบระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนผดุงดรุณี ศึกษาต่อที่โรงเรียนมิชชันนารีพระคริสต์ธรรม เมื่อเรียนถึงชั้นมัธยมปีที่ 5 บิดาให้ออกมาอยู่บ้านและเป็นครูสอนวิชาต่างๆ ให้เอง โดยเริ่มหัดพิมพ์ดีดตั้งแต่เด็กจนพิมพ์ภาษาอังกฤษได้ ช่วยบิดาพิมพ์จดหมายโต้ตอบกับชาวต่างประเทศ สอนให้รู้จักใช้คีมเย็นดัดผมและให้หม่อมปริมเป็นลูกมือ สอนให้รู้จักการทําบัญชีรายรับ-รายจ่าย และเรียนการปรุงอาหารจากมารดา เรียนการทําขนมลูกชุบจากย่าแฝด บุนนาค ซึ่งสามารถปั้นและทาสีได้เสมือนผลไม้จริงที่ย่อส่วนเล็กกว่าและได้สัดส่วนสวยงาม โดยเคยส่งขนมลูกชุบเข้าประกวดในงานเคหศิลป์ ของการเคหะแห่งชาติ และได้รับรางวัลชนะเลิศ ในช่วงปั้นปลายชีวิต รับทําขนมลูกชุบตามที่มีผู้ต้องการและในเทศกาลสําคัญ หม่อมปริมฯ เริ่มเข้าสู่วงการแสดงเมื่ออายุประมาณ 16 ปี รับบทเป็นนางเอกในภาพยนตร์เรื่องวันเพ็ญ เป็นภาพยนตร์ขาวดํา 35 ม.ม. ที่มีพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ทรงเป็นผู้กํากับการแสดง ออกฉายเมื่อ ปี 2481 หลังจากนั้น ทรงรับให้เป็นหม่อมในพระองค์ จึงไม่ได้แสดงภาพยนตร์อีกเลย โดยหม่อมปริมฯ ได้ถวายงานรับใช้ส่วนพระองค์ ทั้งช่วยดูแลผู้คนและนักแสดงในกองละครเวทีคณะอัศวินการละคร นับแต่นั้นเป็นต้นมา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ทรงตั้งบริษัทขึ้นใหม่ชื่อ บริษัท อัศวินภาพยนตร์ ซึ่งภาพยนตร์ทุกเรื่องมีผู้อํานวยการสร้างชื่อ "ปริม บุนนาค" อาทิ นเรศวรมหาราช, พันท้ายนรสิงห์, สุดชีวิต, เรือนแพ, จําปูน, เป็ดน้อย, และน้ําผึ้งขม ทั้งเคยตามเสด็จพระองค์ ไปขยายตลาดภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศ หม่อมปริมฯ เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้าง รู้จักธรรมเนียมการแต่งกายในโอกาสต่างๆ เป็นอย่างดี มีวาจาไพเราะ อ่อนน้อมถ่อมตนและรู้จักใช้คนให้ตรงกับงาน เวลา 17 นาฬิกา 40 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยัง เมรุวัดธาตุทอง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานเพลิงศพ ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ จุลชีพ ชินวรรโณ ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคเนื้องอกในสมอง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 สิริอายุ 71 ปี ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ จุลชีพ ชินวรรโณ เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 2493 ที่กรุงเทพมหานคร บิดาและมารดา ชื่อ ร้อยตํารวจตรี ชีวิต และนางจงจิตต์ ชินวรรโณ สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท จากนั้น ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง (King Scholarship) ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์ ที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 2511 ถึง 2515 และทุนมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ (Rockefeller) ศึกษาต่อระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านเอเชียตะวันออกศึกษาและด้านรัฐศาสตร์ ที่สหรัฐอเมริกา ระหว่าง ปี 2515 ถึง 2521 เริ่มทํางานเป็นอาจารย์คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี 2531 เป็นผู้อํานวยการสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้ดํารงตําแหน่งสําคัญๆ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาทิ ผู้อํานวยการสถาบันทรัพยากรมนุษย์ หัวหน้าสาขาวิชาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ และรองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ โดยในปี 2554 สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยกย่องให้เป็นกีรตยาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์ ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ จุลชีพฯ เป็นหนึ่งในนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ที่เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเมืองและการต่างประเทศของจีน ทั้งเป็นผู้บรรยายพิเศษในสถาบันการศึกษาหลายแห่งและมีผลงานตีพิมพ์ทั้งงานวิจัย งานเขียนเชิงวิชาการเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์ความรู้เกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศของไทย ด้านครอบครัว สมรสกับศาสตราจารย์เกียรติคุณ ด็อกเตอร์ วริยา ชินวรรโณ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
27/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228111517085
738
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทอดพระเนตรการส่งเสริมอาชีพการทอผ้าท้องถิ่น ของกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก จังหวัดอุดรธานี
วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17 นาฬิกา 21 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทอดพระเนตรการส่งเสริมอาชีพการทอผ้าท้องถิ่น ของกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ตําบลหนองนาคํา อําเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ในรูปแบบการรวมกลุ่มส่งเสริมศักยภาพอาชีพดั้งเดิมแก่ชาวบ้านให้มีโอกาสต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างรายได้ในชุมชน เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูการทอผ้าโบราณไม่ให้สูญหายไปจากประเทศไทย เริ่มจากการนําชาวบ้านที่มีความชํานาญด้านการทอผ้าโบราณ ร่วมบูรณาการความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ มาพัฒนากรรมวิธีย้อมผ้าในแบบเฉพาะตัว โดยไม่พึ่งสารเคมี จนสามารถคิดค้นวิธีการย้อมผ้าด้วยบัวแดง ซึ่งเป็นพืชประจําถิ่นที่หาได้ง่าย มีสีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถนําสีธรรมชาติที่ได้จากบัวแดงมาสกัดและย้อมเข้ากับผ้าได้ถึง 3 เฉดสี อีกทั้งได้ปรับปรุงการออกแบบลายผ้าทอดั้งเดิม ให้มีเอกลักษณ์ความสวยงามเฉพาะตัว ด้วยการนําเอาศิลปะที่ได้จากลวดลายสิ่งต่างๆ ของท้องถิ่น เช่น ลายหมอนขิดอีสานและลายกนกประตูโบสถ์ มาประยุกต์ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ คติความเชื่อพื้นบ้าน สร้างเป็นอัตลักษณ์ให้แก่ผ้าทอได้อย่างชัดเจน การดําเนินงานตามภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จไปทอดพระเนตรการดําเนินงานด้วยความสนพระทัยอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสร้างขวัญกําลังใจแก่ช่างทอผ้าเป็นล้นพ้น โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการส่งเสริมอาชีพภายในโรงเรียนบ้านโนนกอก ซึ่งกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ได้ร่วมกับโรงเรียน เชิญปราชญ์ชาวบ้าน เข้าไปให้ความรู้ช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์จากเศษผ้า เช่น พวงกุญแจและกระเป๋าสตางค์ แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในรายวิชาทักษะอาชีพ และรับไปจําหน่ายยังกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก เพื่อสร้างรายได้ระหว่างเรียนให้แก่นักเรียนและครอบครัว โดยบ้านโนนกอกนี้ ยังได้น้อมนําแนวพระราชดําริเกษตรทฤษฎีใหม่ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปปรับใช้ในพื้นที่ขนาดเล็ก ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรได้ผลดี จากนั้น ทอดพระเนตรการทอผ้า ของกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ซึ่งได้สืบสานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในทุกขั้นตอนของการสร้างผืนผ้า โดยเฉพาะการทอผ้าจาก "กี่" แทนการใช้เครื่องจักร โดยอุปกรณ์ทุกชิ้นภายในโรงทอผ้าแห่งนี้ เป็นเครื่องทอที่สร้างขึ้นจากไม้มาประกอบเข้าด้วยกันเป็นเครื่องทอผ้า คงความมีเอกลักษณ์ของการทอด้วยมือแบบดั้งเดิม ถือเป็นศิลปะหัตถกรรม ประเภททัศนศิลป์ หรืองานฝีมือที่น่ายกยองชื่นชม เนื่องจากต้องใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างสีสัน ลวดลายต่างๆ อย่างวิจิตรบรรจงให้เกิดความงดงามภายในชิ้นงานแต่ละชิ้น ส่วนสําคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง สําหรับการสร้างผืนผ้าของกลุ่มนี้ คือขั้นตอนการยอมผ้าที่มีวิธีการย้อม 2 แบบ ได้แก่ "การย้อมเย็น" คือ การย้อมด้วยกลีบบัวสด โดยนํากลีบส่วนกลางของดอกมาปั่นและผสมกับน้ํามะนาวสด เพื่อทําให้สีติดดีขึ้น แล้วนําฝ้ายหรือไหมมาย้อมด้วยการขยี้ จะได้เป็นสีชมพู หรือสีม่วง และ "การย้อมร้อน" คือ การนําส่วนของดอกบัวสดหรือแห้งไปต้มในน้ําสะอาด จะได้สีน้ําตาลทอง, ส่วนสายบัวตากแห้ง จะได้สีเทาหรือสีเงิน ผืนผ้าที่ได้จากการย้อมในทุกส่วนของบัวแดง, สีจะมีความติดทนนานและสีไม่ตก ซึ่งนวัตกรรมนี้ ได้ผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์ของสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กําหนดแล้ว ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ได้รับการยอมรับให้เป็นสินค้า OTOP อันดับหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่ใช้เส้นไหมและวัตถุดิบที่เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านดั้งเดิม ผสมผสานกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เข้ากับสมัยนิยมและเชิงธุรกิจ จนประสบความสําเร็จ ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนการดําเนินงานจากหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชนและศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อุดรธานี ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ได้รับเครื่องหมายการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย "ตรานกยูงพระราชทาน" จากกรมหม่อนไหม ครบทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ นกยูงสีทอง นกยูงสีเงิน นกยูงสีน้ําเงินและนกยูงสีเขียว โดยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ได้รับพระราชทานลายผ้ามัดหมี่ "ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความร่วมสมัยสามารถก้าวสู่ระดับ สากล จนได้รับรางชนะเลิศอันดับ 1 ระดับประเทศจากกรมการพัฒนาชุมชน ขณะนี้ทางกลุ่มฯ กําลังพัฒนาชุมชนแห่งนี้ ให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อีกหนึ่งแห่งของจังหวัดอุดรธานี เพื่อนําเสนอวัฒนธรรมของชุมชนอย่างยั่งยืน ในการนี้ นายชัยพงษ์ บริวาร และนางประยงค์ พลอยพุด ตัวแทนสมาชิกกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ขอพระราชทานถวายผ้าไหม แด่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ด้วยสํานึกในพระกรุณาธิคุณ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220301140829160
739
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 8 นาฬิกา 59 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นําพยาบาลดีเด่นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล "ศรีสังวาลย์" ประจําปี 2563 เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัล "ศรีสังวาลย์" ดังนี้ นางกฤษดา แสวงดี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ (ระดับ 11) ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุขด้านแผนยุทธศาสตร์สาธารณสุข กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัล "ศรีสังวาลย์" ประเภทรางวัล สาขาผู้นําการพยาบาลระดับนโยบาย นางสาวเอื้อมพร กาญจนรังสิชัย พยาบาลวิชาชีพเชี่ยวชาญ (หัวหน้าพยาบาล) โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัล "ศรีสังวาลย์" ประเภทรางวัล สาขาการพยาบาลในสถานบริการ ในโอกาสนี้ คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการรางวัลศรีสังวาลย์ และผู้เกี่ยวข้องในการดําเนินการสรรหาและคัดเลือกพยาบาลดีเด่นผู้สมควรได้รับรางวัลดังกล่าว ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย ต่อจากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายอําพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นําคณะข้าราชการและเกษตรกรผู้ปลูกมะยงชิดของจังหวัดนครนายก เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผลมะยงชิด ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220301140959162
740
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2563 ที่จังหวัดเชียงราย
เวลา 15 นาฬิกา 8 นาที วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจําปีการศึกษา 2563 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตําบลท่าสุด อําเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โอกาสนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จากนั้น พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 1 คน พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จํานวน 3,034 คน ประกอบด้วย ผู้สําเร็จการศึกษาจากสํานักวิชาต่างๆ ได้แก่ สํานักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ, พยาบาลศาสตร์, แพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์, นวัตกรรมสังคม, จีนวิทยา, การแพทย์บูรณาการ, ศิลปศาสตร์, วิทยาศาสตร์, การจัดการ, เทคโนโลยีสารสนเทศ, อุตสาหกรรมเกษตร, นิติศาสตร์, วิทยาศาสตร์เครื่องสําอาง และเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ในจํานวนนั้น มีนายวุฒิชัย แซ่ลี้ ผู้สําเร็จการศึกษาที่พิการการมองเห็น ใช้อักษรเบรลล์ภาษาจีนเป็นสื่อหลักในการเรียนการสอน เป็นรายที่ 2 ของมหาวิทยาลัยและของประเทศ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน ในการนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความสําคัญตอนหนึ่งว่า "บัณฑิตทั้งหลายต่างก็สําเร็จการศึกษา สมกับที่ได้ตั้งใจพากเพียรมาโดยตลอดแล้ว ต่อไปก็ถึงวาระที่จะต้องออกไปทํางาน เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตนเองและส่วนรวม ในการทํางานนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานใด ในสาขาใดก็ตาม หากมุ่งหวังความสําเร็จและความเจริญก้าวหน้า ก็ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสมอยู่เสมอ การจะทําให้ได้ดังที่กล่าว บัณฑิตต้องศึกษาพื้นฐานของงาน และปัจจัยแวดล้อมทุกอย่าง ให้เข้าใจกระจ่างและทั่วถึงตามเป็นจริง แล้วเลือกสรรหลักวิชาและวิธีการปฏิบัติให้ถูกตรง พอเพมาะพอดีกับงาน กับสถานการณ์และความจําเป็น เพื่อให้งานที่ทําดําเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ จนสําเร็จผลที่ดีที่ถูกต้อง เป็นคุณเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและส่วนรวมพร้อมทุกส่วน ถ้าทําได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะได้รับความสําเร็จและความเจริญก้าวหน้าในงาน สมดังที่มุ่งหวังตั้งใจ" ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220301141213165
741
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้ ตชด.บ้านภักดี อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อติดตามความก้าวหน้าการเรียนการสอน และโครงการพระราชดำริฯ
วานนี้ (31 มกราคม 2565) เวลา 13.05 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านภักดี หมู่ที่ 5 บ้านภักดี ตําบลเขื่อนบางลาง อําเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เพื่อทรงเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน และโครงการพระราชดําริฯ โดยมี นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รศ.ดร.บดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการ ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หัวหน้าส่วนราชการ คณะครู บุคลากรตลอดจน นักเรียน ร่วมเข้าเฝ้ารับเสด็จฯ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัดทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2560 ศอ.บต.ได้มีการสนับสนุนกระบวนการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ในโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน 18 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสนับสนุนครูสอนภาษาไทย 38 อัตรา เพื่อยกระดับการอ่านเขียนภาษาไทยของนักเรียน ซึ่งในภาพรวมมีนักเรียนในโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน ที่มีทักษะการอ่านเขียนภาษาไทยดีขึ้นตามลําดับในส่วนของศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านภักดี มีผลการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๒ เปรียบเทียบ ระหว่างปีการศึกษาที่ 2/2561 กับปีการศึกษา 2/2563 ระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีการพัฒนาศักยภาพของวิทยากรผู้สอนภาษาไทยในทุกมิติ อย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษาที่ 2/2563 มีผลการเรียนดีขึ้น คิดเป็นร้อยละ 22.73 ระดับดี เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 50.00 และประถมศึกษา ชั้นปีที่ 2 มีผลการประเมินอยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ ดีขึ้น คิดเป็นร้อยละ 36.36 ระดับดี ยังคงมีผลการประเมินคงเดิม คิดเป็นร้อยละ 45.45นอกจากนี้ ศอ.บต.ส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์ การสืบสาน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เกิดเป็นความภาคภูมิใจของคนในท้องถิ่น เป็นมรดกอันล้ําค่าที่ควรแก่การอนุรักษ์ เป็นการปลุกจิตสํานึกให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ได้รับรู้ เกิดความเข้าใจ ตระหนักในคุณค่า คุณประโยชน์ ที่ต้องร่วมกันอนุรักษ์ให้คงอยู่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น โดยใช้กระบวนการถ่ายทอดจากผู้รู้ ผู้สูงอายุหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนสู่เยาวชน คนรุ่นใหม่ ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้การฝึกอาชีพเป็นไปอย่างเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ อาทิ กิจกรรมฝึกอาชีพหลักสูตรท้องถิ่น กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพศิษย์เก่าโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียน ชุมชน และศอ.บต. กิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการเพาะเห็ดฟางในตะกร้าของโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้วิถี ตชด. สู้ภัยโควิด กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และความเป็นไทย ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม (ค่ายเด็ก ตชด. Camping 2) และกิจกรรมโครงการฝึกอบรมเพาะเลี้ยงไส้เดือน เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรด้วยในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดพระเนตรการสาธิตการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในเรื่องสระเอีย รวมถึงกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งยังได้ทรงพระราชทาน เข็มเชิดชูเกียรติชั้นที่ 1 แก่ผู้ปฏิบัติงานตามโครงการพระราชดําริ จํานวน 21 ราย เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานต่อไปขณะที่ในช่วงเช้าของวันที่ 31 มกราคม 2565) เวลา 09.55 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตําบลโคกเคียน อําเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ร่วมเข้าเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ประจําปีการศึกษา 2562 - 2563 ซึ่งในปีนี้มีบัณฑิตเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรทั้งหมด 1,074 ราย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201104727049
742
จ.ลำปาง มอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทานแก่ชุมชนพื้นที่ป่า เสริมความเข้มแข็งด้านอาหาร
ผวจ.ลําปาง นําคณะตัวแทนข้าราชการ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง และผู้แทนชุมชนหมู่บ้าน ตําบลพื้นที่เป้าหมายในจังหวัดลําปาง ร่วมแสดงความน้อมสํานึกในพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกอบพิธีรับมอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน สานต่อโครงการปลูกผักไว้กินเอง เสริมความเข้มแข็งด้านอาหารและเศรษฐกิจฐานราก ที่บริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง ตําบลเวียงเหนือ อําเภอเมืองลําปาง นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เป็นประธานพิธี นําตัวแทนข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จากสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง และตัวแทนผู้นําชุมชนหมู่บ้าน ตําบลพื้นที่เป้าหมายในเขตท้องที่ทั้ง 13 อําเภอ ของจังหวัดลําปาง ร่วมกล่าวแสดงความน้อมสํานึกในพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมน้อมรับพระกรุณาธิคุณ เข้ารับมอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน ต่อเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ด้วยน้อมสํานึกในพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้โดยเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทานดังกล่าว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระกรุณาธิคุณ พระราชทานเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้ จาก “ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืช จักรพันธ์เพ็ญศิริ” มอบให้แก่สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง รวมจํานวน 2,000 ชุด ทั้งนี้เพื่อให้ทางหน่วยงานได้นําเมล็ดพันธุ์พืชผักที่ได้รับส่งมอบต่อไปยังบุคลากรในสังกัด เพื่อสําหรับใช้เพาะปลูกดํารงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงนํามอบให้แก่พี่น้องเกษตรกรชาวบ้านกลุ่มเป้าหมาย ที่มีที่อาศัยและที่ทํากินอยู่ติดกับเขตพื้นที่ป่า ตามชุมชนหมู่บ้านในตําบลต่างๆ ที่มีความพร้อมและสมัครใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย ผลิตและขยายเมล็ดพันธุ์พระราชทานในระยะนําร่อง โดยเพื่อจะให้เกษตรกรเครือข่ายได้นําเมล็ดพันธุ์พืชผักดังกล่าว ไปต่อยอดและขยายผลการดําเนินงานโครงการ ปลูกผักสวนครัวไว้กินเองสร้างความมั่นคงทางอาหาร ในระดับชุมชน/หมู่บ้าน ด้วยการนําเมล็ดพันธุ์ไปเพาะปลูก ผลิตเมล็ดพันธุ์เพิ่มเพื่อจะได้มีเมล็ดพันธุ์ที่มากพอ สามารถจะนําแจกจ่ายแบ่งปันไปยังเกษตรกรรายอื่นๆ ซึ่งจะได้นําไปเพาะปลูกสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ให้ทุกครัวเรือนได้มีผลผลิตพืชผักที่ดีไว้สําหรับรับประทานภายในครอบครัวเพื่อลดค่าใช้จ่าย และทั้งเพื่อเป็นปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนด้านอาชีพแก่ชุมชนฐานราก ให้ครัวเรือนเกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการจําหน่ายพืชผัก รวมถึงมีแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์สายพันธุ์ดี ที่จะสามารถเก็บสํารองไว้ปลูกในรุ่นต่อๆ ไป ช่วยให้เกษตรกรชาวบ้านสามารถที่จะปรับตัวเข้ากับชีวิตวิถีใหม่ New Normal และสามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการขยายพื้นที่ทํากินรุกเขตป่า ให้เกษตรกรได้เป็นกําลังเสริมที่จะช่วยสนับสนุนการทํางานของเจ้าหน้าที่ในด้านการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนพื้นที่ให้เกิดความอย่างยั่งยืนโดยเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน ที่ได้นํามอบให้แก่ตัวแทนข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง และตัวแทนผู้นําชุมชนหมู่บ้านในพื้นที่ตําบลเป้าหมายครั้งนี้ ประกอบไปด้วยเมล็ดพันธุ์พืชผักต่างๆ หลากหลายชนิด ทั้งคะน้า ฟักเขียว ดอกแคบ้าน ถั่วพู มะเขือเปราะ กระเจี๊ยบ มะเขือยาว ฟักทอง มะระ ถั่วฝักยาว โหระพา กะเพรา แมงลัก และพริกขี้หนู เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201100300021
743
จ.อุบลฯ เตรียมข้อมูลอย่างรอบด้านในการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า
ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ําเขื่อนปากมูล เพื่อพิจารณาบริหารจัดการน้ําเขื่อนปากมูล ครั้งที่ 2/2565 เกี่ยวกับสถานการณ์ลําน้ํามูลตอนล่าง สภาพอากาศ สถานการณ์น้ําเขื่อนปากมูล สถานการณ์น้ําประปาของจังหวัดอุบลราชธานี พิจารณา โครงการจ้างปรับปรุงเขื่อนป้องกันตลิ่งพื้นที่ชุมชนวารินชําราบ และลดระดับน้ําที่สถานีวัดน้ําสะพานเสรีประชาธิปไตย M7 ที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อมูลเพิ่มเติม ให้ครอบคลุมทุก ๆ ด้าน เช่น ข้อมูลการส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่งสะพือ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ข้อมูลเปิดประตูระบายน้ําเขื่อนปากมูลเพื่อซ่อมแซมผนังกั้นน้ําป้องกันตลิ่งชุมชนวารินชําราบ ข้อมูลการผลิตน้ําประปาสถานีท่าวังหิน อําเภอเมืองอุบลราชธานี สถานีผลิตน้ําประปากุดลาด อําเภอสว่างวีระวงศ์ และสถานีผลิตน้ําโพธิ์มูล อําเภอวารินชําราบ ซึ่งข้อมูลดังกล่าว จะนํามาประกอบการพิจารณาเปิดประตูระบายน้ําเขื่อนปากมูลครั้งต่อไปเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าอย่างรอบด้าน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201153026227
744
จังหวัดพิษณุโลกบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จับกุมแรงงานต่างด้าว จำนวน 21 คน ฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย
นายบุญเหลือ บารมี ปลัดจังหวัดพิษณุโลก ได้นําทีมเจ้าหน้าที่ปกครองอําเภอเมืองพิษณุโลก บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จับกุมแรงงานต่างด้าว จํานวน 21 คน ฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อเดินทางมาทํางานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ตําบลดอนทอง อําเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ว่ามีการลักลอบขนและพักต่างด้าวไว้ที่บ้านเช่าตําบลดอนทอง อําเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เบื้องต้นทีมสหวิชาชีพของ พมจ.พิษณุโลก ได้ทําการสอบประวัติการเดินทางของแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานหญิง ปรากฎว่า ไม่พบองค์ประกอบว่าบุคคลต่างด้าว เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 แต่อย่างใด ทางสํานักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ดําเนินการนําตัวบุคคลต่างด้าวจํานวนทั้งหมดฝากขัง ณ สถานีตํารวจภูธรเมืองพิษณุโลกด้านนายบุญเหลือ เปิดเผยว่า การจับกุมต่างด้าวในครั้งนี้ได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ว่ามีการลักลอบขนและพักต่างด้าวไว้ที่บ้านเช่าใน ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงได้นํากําลังเข้าจับกุม โดยพบต่างด้าวเป็นชาย 7 คน หญิง 14 คน พร้อมนําตัวมาที่ว่าการอําเภอเมืองพิษณุโลก ตรวจ ATK เพื่อหาเชื้อโควิด-19 ในเบื้องต้น พร้อมนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก โดยกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (หลบหนีเข้าเมือง) เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
พิษณุโลก
สวท.พิษณุโลก
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201104904050
745
จ.อุบลฯ เตรียมข้อมูลอย่างรอบด้านในการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า
ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ําเขื่อนปากมูล เพื่อพิจารณาบริหารจัดการน้ําเขื่อนปากมูล ครั้งที่ 2/2565 เกี่ยวกับสถานการณ์ลําน้ํามูลตอนล่าง สภาพอากาศ สถานการณ์น้ําเขื่อนปากมูล สถานการณ์น้ําประปาของจังหวัดอุบลราชธานี พิจารณา โครงการจ้างปรับปรุงเขื่อนป้องกันตลิ่งพื้นที่ชุมชนวารินชําราบ และลดระดับน้ําที่สถานีวัดน้ําสะพานเสรีประชาธิปไตย M7ที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อมูลเพิ่มเติม ให้ครอบคลุมทุก ๆ ด้าน เช่น ข้อมูลการส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่งสะพือ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ข้อมูลเปิดประตูระบายน้ําเขื่อนปากมูลเพื่อซ่อมแซมผนังกั้นน้ําป้องกันตลิ่งชุมชนวารินชําราบ ข้อมูลการผลิตน้ําประปาสถานีท่าวังหิน อําเภอเมืองอุบลราชธานี สถานีผลิตน้ําประปากุดลาด อําเภอสว่างวีระวงศ์ และสถานีผลิตน้ําโพธิ์มูล อําเภอวารินชําราบ ซึ่งข้อมูลดังกล่าว จะนํามาประกอบการพิจารณาเปิดประตูระบายน้ําเขื่อนปากมูลครั้งต่อไปเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าอย่างรอบด้าน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201155019253
746
อบจ.อุบลราชธานี ประชุมเกี่ยวกับ การรับโอน ให้โอน การย้าย
นายกานต์ กัลป์ตินันท์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมประทุมมาศ ชั้น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี การประชุมครั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี มีวาระที่นําเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี (ก.จ.จ.) เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด การรับโอน ให้โอน การย้าย เพื่อเสนอให้คณะกรรมการฯได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 15 โดยคณะกรรมการฯพิจารณาให้ความเห็นชอบตามวาระ ต่าง ๆเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติ ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201154936252
747
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ เขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยแถลงข่าวกิจกรรมเสนอขาย Let’s Go อีสาน In Love ภายใต้โครงการ "เมืองรองต้องไป @ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ"
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อํานวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายอาทิตย์ พรคุณา วิศวกรระดับ 10 ทําการแทนหัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แถลงข่าวกิจกรรมเสนอขาย Let’s Go อีสาน In Love ภายใต้โครงการ "เมืองรองต้องไป @ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" จัดขึ้นที่ บริเวณเส้นทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) เขื่อนสิรินธร อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดโขง ชี มูล และเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การแถลงข่าวครั้งนี้ มีการจัดการแสดงดนตรีพื้นบ้าน การจัดแสดงและจําหน่ายสินค้าโอทอป วิสาหกิจชุมชน จากประชาชนเขตพื้นที่อําเภอสิรินธร หรือภายในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง มีส่วนราชการ , ภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการสินค้า OTOP ที่เข้าร่วมแถลงข่าว เยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้า พร้อมนําข้อมูลของสินค้าไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เป็นการเพิ่มช่องทางการจําหน่าย สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201154831251
748
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนช่วงตรุษจีน 2565
นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 1 ก.พ. 65 เป็นช่วงวันตรุษจีน ซึ่งตามประเพณีปฏิบัติของชาวไทยเชื้อสายจีน จะมีการจุดธูปเทียนบูชาเซ่นไหว้ เผากระดาษเงิน กระดาษทอง จุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ที่อาจเป็นสาเหตุการเกิดอัคคีภัย รวมถึงอุบัติภัยขนาดใหญ่ได้ นอกจากนี้ ในช่วงวันตรุษจีนยังเป็นช่วงวันหยุดพักผ่อนของชาวไทยเชื้อสายจีน จึงมักจะมีการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจากการจราจร สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเป็นเทศกาลที่อาจมีคนมารวมตัวกันและทํากิจกรรมเป็นจํานวนมาก เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากอัคคีภัยและอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงวันตรุษจีน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการด้านเตรียมความพร้อม โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่สํารวจ ตรวจสอบ และปรับปรุงข้อมูลพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยให้เป็นปัจจุบัน พร้อมกําชับให้เจ้าหน้าที่ เฝ้าระวัง ตรวจตรา โดยเฉพาะสถานที่ที่มีการจัดงาน และมีการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ในการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201154733250
749
แจ้งข่าวดี นายจ้างประกาศขยายกำหนดเวลายื่นแบบและการนำส่งเงินสมทบ ออกไปอีก 7 วันทำการ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงแรงงานจากการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เรื่อง ขยายกําหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนําส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e - Payment) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอและให้ดําเนินการต่อไปได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนและรองรับความสะดวกในการประกอบธุรกิจของนายจ้างและเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตนให้ได้รับความคุ้มครองประกอบกับเพื่อบรรเทาและเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และส่งเสริมการคงระยะห่างทางสังคม โดยสนับสนุนให้นายจ้างทําธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงแรงงานได้ออกประกาศดังกล่าว ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2565 เป็นต้นไป สาระสําคัญของประกาศดังกล่าว สํานักงานประกันสังคมจะขยายกําหนดเวลาในกรณีนายจ้างยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนําส่งเงินสมทบตามมาตรา 47แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยวิธีการนําส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ออกไปอีก 7 วันทําการนับแต่วันที่พ้นกําหนดวันที่สิบห้าของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เงินสมทบงวดเดือนมกราคม 2565 ถึงเดือนธันวาคม 2566 รวม 24 เดือนนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม กล่าวถึงประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การขยายกําหนดเวลาให้นายจ้างยื่นแบบและนําส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ในครั้งนี้ว่า นายจ้างจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก จึงขอเชิญชวนสถานประกอบการทําธุรกรรมนําส่งข้อมูลสมทบผ่านระบบ (e-Service) และชําระเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพื่อความสะดวก ลดขั้นตอน ระยะเวลาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นายจ้างสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สํานักเงินสมทบ โทร.0 2956 2269-73 หรือที่สํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุก แห่งทั่วประเทศ
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201105420056
750
อบจ.ลำปาง จับมือ พม. มอบเครื่องอุปโภคบริโภคผ้าห่มกลุ่มคนเปาะบาง สตรี คนชรา ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส
นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง นายณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อํานวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลําปางในนามกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ร่วมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคตามโครงการสังคมสงเคราะห์และเยี่ยมเยือนราษฎรจังหวัดลําปาง จํานวน 26 ชุด และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ร่วมกับ กฟผ.แม่เมาะ มอบผ้าห่มจํานวน 26 ผืน โดยมีนางยุวดี วงศ์สวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตําบลห้างฉัตร นายประหยัด แลสันกลาง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง อําเภอห้างฉัตร เขต 1 และนายบุญเนตร เตชะอุ่น สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง อําเภอห้างฉัตร เขต 2 ให้การต้อนรับ ณ เทศบาลตําบลห้างฉัตร พร้อมกันนี้ คณะได้เดินทางไปเยี่ยมราษฎรที่ประสบภาวะความลําบากในการดํารงชีวิตเขตพื้นที่เทศบาลตําบลห้างฉัตร จํานวน 2 ราย โดยหน่วยงานศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลําปางมอบเงินสงเคราะห์รายได้น้อยคนไร้ที่พึ่ง 3,000 บาท จํานวน 1 ครอบครัว พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและได้สอบถามสภาพความเป็นอยู่ รวมทั้งได้หารือกับเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ พิจารณาหาแนวทางให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อเป็นการบูรณาการทํางานเพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตและการแลผู้สูงอายุอย่างมีส่วนร่วมต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201100448025
751
สธ.แม่ฮ่องสอน เตือนอย่ากินไส้กรอกจากแหล่งที่ไม่แน่ชัดหรือไม่น่าเชื่อถือ
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยข้อมูลว่า สัปดาห์ที่ผ่านมีเด็กป่วยด้วยภาวะ เมทฮีโมโกลบิน (Methemoglobin) จํานวน 6 ราย ใน 5 จังหวัด (เชียงใหม่ 2 ราย/เพชรบุรี 1 ราย/สระบุรี 1 ราย/ตรัง 1 ราย/กาญจนบุรี 1 ราย) โดยทั้ง 6 รายมีประวัติกินไส้กรอกซึ่งไม่มียี่ห้อ ไม่มีเอกสารกํากับอาการของผู้ป่วยคือ คลื่นไส้ เวียนศีรษะ อาจหมดสติได้ เหนื่อย หายใจเร็ว ตัวเขียว ระดับออกซิเจนที่วัดปลายนิ้วต่ํา ในขณะนี้ยังไม่มีรายใดที่รุนแรงถึงแก่ชีวิตภาวะ Methemoglobin เป็นภาวะที่ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงถูกออกซิไดซ์โดยสารออกซิแดนท์ต่างๆ กลายเป็น methemoglobin ทําให้สูญเสียความสามารถในการขนส่งออกซิเจน และสีของเม็ดเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ําตาลดํา ผู้ป่วยจะมีอาการของการขาดออกซิเจน เช่น มึนศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หายใจเร็ว ตัวเขียว หากรุนแรงจะมีอาการหอบเหนื่อยมาก เลือดเป็นกรด ความดันโลหิตต่ําและเสียชีวิตได้ โดยสารออกซิแดนท์ที่อาจมีการเติมในไส้กรอกหรืออาหารแปรรูปคือสารตระกูลไนเตรท และไนไตรท ซึ่งเป็นวัตถุกันเสียประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ. 2547) ได้กําหนดปริมาณที่อนุญาตให้ใช้โซเดียมไนไตรท์และโซเดียมไนเตรทในอาหารได้ไม่เกิน 125 และ 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลําดับ กรณีที่ใช้ทั้งโซเดียมไนไตรท์และโซเดียมไนเตรตให้มีปริมาณรวมกันได้ไม่เกิน 125 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีการเติมสารไนเตรต-ไนไตรต์ เยอะกว่าปกติ หรืออาจผสมไม่ดีทําให้มีบางส่วนมีปริมาณสารสูงเกินกว่าที่ควรได้ โปรดเฝ้าระวังการบริโภคไส้กรอกจากแหล่งที่ไม่แน่ชัด/ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในเด็ก เนื่องจากเด็กจะไวต่อสารกลุ่มนี้มากกว่าผู้ใหญ่ หากมีอาการผิดปกติ ควรไปตรวจที่โรงพยาบาล หากทาง รพ.สงสัยภาวะ methemoglobinemia สามารถปรึกษา ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีได้ที่ 1367 ตลอด 24 ชั่วโมง
1/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201103347032
752
จ.ลำปาง พบคลัสเตอร์ผู้ป่วยโควิด-19 โรงเรียนอนุบาลลำปาง แนะผู้ปกครองเตรียมพร้อมบุตรหลานรับวัคซีนโควิด-19
นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําปางได้เผยสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดลําปาง กรณีพบคลัสเตอร์ผู้ป่วยโควิด-19 โรงเรียนอนุบาลลําปาง อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง โดยเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จํานวน 2 ราย ซึ่งรายแรกเป็นนักเรียนชาย โดยเดินทางไปโรงเรียนแล้วพบว่ามีอาการไข้ จึงได้เข้ารับการตรวจรักษาที่ AR Clinic โรงพยาบาลลําปาง เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ ATK พบว่าผลเป็นบวก และรายที่ 2 เป็นนักเรียนชาย เป็นเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกับผู้ป่วยรายแรก ผู้ปกครองทราบข่าวจึงพาผู้ป่วยไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ ATK ที่โรงพยาบาลลําปาง พบผลเป็นบวกจากการสอบสวนโรคได้ดําเนินการคัดกรอง พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 71 ราย ตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่พบผู้ติดเชื้ออีกจํานวน 9 ราย รวมทั้งหมดจํานวน 11 ราย ซึ่งผู้ป่วยทุกรายได้เข้ารับการรักษาแบบ Home Isolation (การดูแลด้วยตนเองที่บ้านภายใต้การดูแลตามมาตรฐานทางการแพทย์) ทุกรายได้ดําเนินการควบคุมและป้องกันโรค โดยให้กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแยกกักตัวอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 14 วัน และนัดตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ในครั้งที่ 2 ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 และครั้งที่ 3 วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ ทางโรงเรียนได้ทําความสะอาดห้องเรียนและปิดห้องเรียนดังกล่าว ส่วนนักเรียนในห้องให้เรียนผ่านระบบออนไลน์ที่บ้าน รวมทั้งได้ให้ครูประจําชั้นเรียนได้เฝ้าระวังอาการนักเรียนในห้องเรียนของตนเองด้วย หากพบว่ามีอาการให้รีบไปพบแพทย์ทันทีจังหวัดลําปาง จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความปลอดภัย DMHTT โดยเคร่งครัด และเชิญชวนพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ซึ่งมีบุตร-หลาน อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป เตรียมความพร้อมให้กับบุตรหลานในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยสามารถแจ้งชื่อบุตร หลานที่ประสงค์จะรับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน และเชิญชวนประชาชนชาวลําปางที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 และในส่วนผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว สามารถเข้ารับบริการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
null
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201101732027
753
นายกรัฐมนตรี อวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ขอให้ทุกคน สุข สมหวัง สุขภาพแข็งแรง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวอวยพรให้พี่น้องคนไทยเชื้อสายจีนและประชาชนคนไทยทุกคน เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ขอให้ทุกคนมีความสุข สมหวังและสุขภาพแข็งแรง พร้อมยังฝากกําชับว่า ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่ต้องให้ความสําคัญคือ สวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือและควรตรวจ ATK ทั้งก่อนและหลังการรวมตัว หรือพบปะสังสรรค์ในครอบครัว ย้ําต้องระมัดระวังขณะทานอาหารร่วมกัน เนื่องจากโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนสามารถติดเชื้อได้ค่อนข้างง่าย อาจทําให้เกิดความเสี่ยงในการรับ/แพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ จึงหวังว่าทุกคนจะเฉลิมฉลองทุกเทศกาล อย่างมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมด้วยสําหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 7,422 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 7,161 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 261 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 12 ราย กําลังรักษาตัว 83,014 ราย ผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 8,715 ราย ทําให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 จํานวน 224,529 ราย จํานวนผู้ที่หายป่วยสะสมจํานวน 174,271 ราย ขณะที่รายงานภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจํานวนผู้ที่ได้รับได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ 2564- 30 มกราคม 2565 รวม 116,002,932 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 52,290,140 ราย ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 48,582,903 ราย ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม 14,141,210 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 สะสม 988,679 ราย
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201104130038
754
กธอ-ฟ. ลงพื้นที่ติดตามงานการติดตั้งป้ายทางเข้า ทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) เขื่อนสิรินธร
นายสังวาล พรมสําลี (กธอ-ฟ.) พร้อมด้วย นายอาทิตย์ พรคุณา (วศ.10 ทกท.กธอ-ฟ.) , นายโรจนินทร์ กิตติยศอานันต์ (หธธอ-ฟ.) ร่วมลงพื้นที่ติดตามงานการติดตั้งป้ายบอกเส้นทางเข้า แหล่งท่องเที่ยวทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) เขื่อนสิรินธร เพื่อเป็นการชี้นําเส้นทางเข้าไปเยี่ยมชมทางเดินชมธรรมชาติเขื่อนสิรินธร ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกด้วย ณ ประตู 3 ทางเข้าชมทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) เขื่อนสิรินธร อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201154650249
755
พาณิชย์ขอนแก่น ออกสำรวจและเขิญชวนร้านค้าธงฟ้าสมัครเข้าร่วมโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565
นายสุระชัย วิชาชัย หัวหน้ากลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ได้ออกสํารวจร้านค้าธงฟ้าสมัครเข้าร่วมโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 เพื่อเชิญชวนให้ร้านธงฟ้าที่สนใจและมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดเข้าร่วมโครงการฯ พร้อมทั้งออกตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 3 ซึ่งได้จัดจําหน่ายระหว่างวันที่ 17-31 มกราคม 2565 ซึ่งประชาชนได้ให้ความสนใจและตอบรับโครงการฯ เป็นอย่างดีโดยมีจุดจําหน่ายจํานวน 7 จุด ดังนี้1) ร้านศักดาหมูสด ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น2) ร้านศักดาหมูสด หน้าโรงงาน ซีเค ซูส์ ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น3) ร้าน New year หมูสด ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น4) ร้านเศรษฐพงษ์ หมูสด ตลาดบ้านแดงใหญ่ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น5) ร้านเฉลิมพลหมูสด ต.บ้านแฮด อ.เมือง จ.ขอนแก่น6) ร้าน 97 เฟรชมาร์ท บ้านกุดกว้าง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น7) ตลาดบางลําภู ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201135913130
756
อฟอ. เป็นประธานเปิดร้านกาแฟคุณสายชล สาขาที่ 2 เขื่อนสิรินธร
นายพิพัทต์ คงสินทวีสุข ผู้อํานวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ําภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อฟอ.) เป็นประธานเปิดฯ ร้านกาแฟคุณสายชล พร้อมด้วยผู้บริหาร-ผู้ปฏิบัติงานเขื่อนสิรินธร / อฟอ. ร่วมเปิดร้านกาแฟคุณสายชล สาขาที่ 2 ของเขื่อนสิรินธร ณ อาคารสิรินธารประภากร เพื่อเป็นการเพิ่มจุดขายให้กับนักท่องเที่ยวในเขื่อนสิรินธร อีกด้วย โดยมี นายธนกร สอนอาจ พลังงานจังหวัดอุบลราชธานี และคณะฯ ร่วมเปิดร้านกาแฟ ในครั้งนี้ด้วย ณ อาคารสิรินธารประภากร ทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) เขื่อนสิรินธร อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานีทั้งนี้ นายพิพัทต์ คงสินทวีสุข (อฟอ.) และคณะฯ ได้ร่วมเดินทางมาสักการะพระพุทธสิริสัตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนไปเปิดร้านกาแฟ อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201154617248
757
คปภ.เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อ - แชร์ “ข้อมูล Blacklist บริษัทประกันภัย” ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง
สํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวและการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูก Blacklist เกี่ยวกับสถานะทางการเงินและการไม่ปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ข้อความดังกล่าวมีการส่งต่อกันมาโดยไม่ปรากฏแหล่งที่มาของข้อมูลและมีเนื้อหาที่ไม่เป็นความจริง หากประชาชนได้รับข้อความดังกล่าวสามารถตรวจสอบเบื้องต้น ได้จากชื่อของบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่งข้อความดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่อภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย รวมถึงทําลายความเชื่อมั่นของผู้ทําประกันภัยและประชาชนทั่วไป ที่ผ่านมา บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับความเสียหายจากข่าวลืออันเป็นเท็จ ได้มีการดําเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่สร้างข่าวลือจนนําไปสู่การออกมาแถลงข่าวและขอโทษ ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว แต่ในปัจจุบัน ยังคงมีผู้ส่งต่อข้อความดังกล่าวอยู่ สํานักงาน คปภ. ขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อข้อมูลที่มีการส่งต่อกันมาดังกล่าว โดยสามารถสืบค้นข้อมูลด้านการประกันภัยได้ที่เว็บไซต์ของสํานักงาน คปภ. www.oic.or.th ทั้งนี้ สํานักงาน คปภ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่กํากับดูแลบริษัทประกันภัยให้มีความมั่นคงและปฏิบัติงานตามที่กฎหมายกําหนด รวมถึงให้ความสําคัญกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยจะติดตามการดําเนินงานของบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยอย่างเต็มที่
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201210108340
758
เตือนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประจำ เสี่ยงเกิดโรคความดันโลหิตสูง หัวใจทำงานหนักขึ้น หัวใจวายได้
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีมีการโพสต์ภาพ บะหมี่กึ่งสําเร็จรูปนําเข้าจากต่างประเทศยี่ห้อหนึ่ง พบปริมาณโซเดียมระบุบนซองสูงถึง 26,240 มิลลิกรัม เกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนําต่อวันที่ไม่ควรเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม หรือเท่ากับเกลือ 4 ช้อนชา การกินบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปจึงต้องคํานึงถึงปริมาณโซเดียมด้วย เนื่องจากบะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ส่วนใหญ่ห่อละประมาณ 60 กรัม หากกินหมดห่อจะได้รับโซเดียม 1,400 - 2,600 มิลลิกรัม ถ้าเป็นห่อใหญ่ขึ้น ปริมาณผงปรุงรสหรือเครื่องปรุงยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามขนาดผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้ร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณมากเกินความต้องการส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะเมื่อร่างกายไม่สามารถกําจัดเกลือและน้ําส่วนเกินในร่างกาย จะทําให้เกิดการคั่งของเกลือและน้ําในอวัยวะต่างๆ ทําให้แขน ขา บวม เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หากร่างกายไม่สามารถขับโซเดียมออกได้ทัน จะเกิดการสะสมในร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวใจทํางานหนักขึ้น ทําให้เกิดหัวใจโตและหัวใจวายได้ในที่สุด ทั้งนี้ ไม่แนะนําให้กินบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปอย่างเดียว เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน เนื่องจากสารอาหารหลักในบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปคือ คาร์โบไฮเดรต ไขมันอิ่มตัว และโซเดียม จึงควรต้มเพิ่มเนื้อสัตว์ ไข่ และผัก เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน เลี่ยงการกินดิบ เติมผงปรุงรสหมดซอง เลี่ยงกินน้ําซุปหมดถ้วย ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ “ทางเลือกเพื่อสุขภาพ” ทั้งนี้ บะหมี่กึ่งสําเร็จรูปไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เดียวที่อาจทําให้ร่างกายได้รับโซเดียมเกินความจําเป็น แต่เครื่องปรุงรสประเภท น้ําปลา กะปิ เกลือ ซอสปรุงรส ซุปก้อน น้ําจิ้ม ยังแฝงไปด้วยโซเดียม รวมทั้งอาหารอื่นที่ไม่มีรสชาติ เช่น ผงชูรส ผงฟู ด้วย
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201110445066
759
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลื้ม กศน.ย่านตาขาวฝึกอาชีพให้ประชาชน ปักหมุดเพื่อโอกาสทางการศึกษาให้กลุ่มเปราะบางทางสังคม ระดมช่วยเหลือหลังเกิดภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลาก
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะ ตรวจราจการติดตามการบูรณาการให้การช่วยประชาชนหลังเกิดภัยพิบัติน้ําป่าไหลหลาก ที่โรงเรียนบ้านโคกทราย ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง โดยมีพระครูภัทรธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขาเหล็ก อ.นบพิตํา จ.นครศรีธรรมราช รายงานผลการดําเนินงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยการดําเนินงานจากทุกภาคส่วน อาทิเช่น ทหาร ผู้นําท้องถิ่น ส่วนราชการทุกกภาคส่วน รวมถึง สํานักงาน กศน.จังหวัดตรังที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยการเปิด กศน.ตําบลโพรงจระเข้ เป็นศูนย์พักคอย และรับบริจาคสิ่งของเพื่อนําไปช่วยเหลือประชาชน และดําเนินการส่งมอบ เครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์กีฬา ตามโครงการ “ศคส.ศึกษาธิการส่งความสุขปี 3 ” นําครู นักศึกษา จิตอาสาช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือน รวมทั้งการนําจิตอาสาร่วมบูรณาการปลูกต้นไม้ และที่สําคัญคือการปักหมุดสร้างโอกาสทางการศึกษา ให้กับผู้พิการเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา และมีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ จํานวน 10 ทุน ด้วยกันทั้งนี้ กศน.อําเภอย่านตาขาวได้นํากลุ่มแม่บ้าน กลุ่มอาชีพ และนักศึกษาจัดแสดงผลงานที่เป็นผลสําเร็จจากการจัดการเรียนการสอนทั้งอาชีพ นวัตกรรม โครงการ งานประดิษฐ์ อาหาคาวหวาน แต่มีอยู่หนึ่งอย่างที่ทําให้ทุกคนต้องสะดุดและแวะชมแวะชิม คือ การชงชาย่านตาขาว ซึ่งเป็นชาที่ได้จากต้นย่านตาขาว ซึ่งเป็นเถาวัลย์มีใบเลี้ยงคู่ ดอกสีขาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อนํามาชงชาแล้วจะให้รสสัมผัสที่หอมละมุน ไม่ขม ดื่มแล้วสดชื่น ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะเป็นอย่างยิ่ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201111131073
760
จ.ลำปางพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 56 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจําวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 09.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่ 56 ราย เป็นผู้ติดเชื้อยืนยันตรวจด้วยวิธี RT-PCR 13 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจด้วยวิธี ATK 43 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสม 2,312 ราย อยู่ระหว่างรักษา 308 ราย รักษาหายกลับบ้านสะสม 2,002 ราย และเสียชีวิตสะสม 2 รายสําหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ เวลา 09.00 น. ของวันเดียวกัน จังหวัดลําปางวัคซีนไปแล้ว 1,072,828 เข็ม จําแนกเป็นเข็มที่ 1 จํานวน 477,712 คน เข็มที่ 2 จํานวน 451,096 คน เข็มที่ 3 จํานวน 140,088 คน และเข็มที่ 4 จํานวน 3,932 คนจังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรค DMHTTA ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิด-19 ลําปาง โทร. 093 140 8023 ในวันเวลาราชการ และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือสอบถามที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201103922035
761
จังหวัดแพร่ จัดกิจกรรมเนื่องในวาระครบรอบ 53 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วันนี้ (1 ก.พ.65) เวลา 09.00 น. ที่วัดดงเจริญ หมู่ที่ 10 ตําบลหัวเมือง อําเภอสอง จังหวัดแพร่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธานเปิดกิจกรรมเนื่องในวาระครบรอบ 53 ปี โครงการพัฒนาผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน ซึ่งทางสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ร่วมกับชมรมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ ได้ดําเนินโครงการพัฒนาผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน ภายใต้แนวคิด “รวมพลัง อช. แก้จน พัฒนาคน สร้างชุมชนพอเพียง” เนื่องในวาระครบรอบ 53 ปีโดยมีการจัดกิจกรมทางศาสนา กิจกรรมแสดงพลังอาสาพัฒนาชุมชน การอ่านสารของ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การกล่าวคําปฏิญาณตนเพื่อสืบสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว การมอบเกียรติบัตรให้กับ อช/ผู้นํา อช. ที่มีผลงานดีเด่น ประจําปี 2564 จํานวน 16 ราย การมอบถุงยังชีพและเสื้อกันหนาว ให้ครัวเรือนในระบบ TPMAP ที่ตกเกณฑ์และประสงค์ให้ช่วยเหลือ จํานวน 5 รายคือ นางสาวละมุด อาณาเขตต์ ตําบลหัวเมือง อําเภอสอง/นายสมนึก สุทธิ ตําบลหัวเมือง อําเภอสอง/นายเฉลิมชาติ สีใจอินทร์ ตําบลหัวเมือง อําเภอสอง/นางหอม สุวรรณ ตําบลหัวเมือง อําเภอสอง และนางขันแก้ว สะสม ตําบลหัวเมือง อําเภอสองนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในพื้นที่เป้าหมาย ปลูกผักสวนครัว และกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ทําความสะอาดบริเวณวัดดงเจริญ ตําบลหัวเมือง อําเภอสอง การเยี่ยมบ้านครัวเรือนยากจน 2 ครัวเรือน คือ นายเจริญ ยอดชอนจันทร์ พร้อมมอบถุงยังชีพและเสื้อกันหนาว และนางอําพัน เมืองมูล พร้อมมอบถุงยังชีพและเสื้อกันหนาว #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201103718034
762
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ย้ายจุดตรวจค้นฯ Fast Track ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศจากโซน 2 มาอยู่ที่จุดตรวจค้นโซน 1 หลัง Row A เพิ่มพื้นที่และศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อํานวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. ทสภ. จะเปิดจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน 1 ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row A ให้กลับมาใช้งานได้ใหม่หลังจากปิดปรับปรุงพื้นที่จากเดิมที่ให้บริการเฉพาะผู้โดยสาร First Class และ Business Class ของสายการบินไทย เป็นการให้บริการจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศช่องทางพิเศษ (Fast Track) แทน โดย ทสภ. ได้ทําการขยายพื้นที่รอรับการตรวจค้นให้กว้างขวางขึ้น และติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์เพิ่มเป็น 5 เครื่อง จากเดิม 2 เครื่อง นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเป็น 7 เคาน์เตอร์ ทําให้มีช่องตรวจหนังสือเดินทางรวมเป็น 13 ช่องตรวจ จากเดิมมี 3 เคาน์เตอร์ 6 ช่องตรวจ ทําให้ขีดความสามารถในการตรวจหนังสือเดินทางเพิ่มขึ้นเป็น 780 คนต่อชั่วโมง จากเดิม 232 คนต่อชั่วโมง สําหรับผู้โดยสารที่สามารถใช้บริการช่องทาง Fast Track ได้ จะประกอบด้วย ผู้โดยสาร First Class Business Class ลูกเรือ ผู้โดยสารที่ถือเอกสิทธ์ทางการทูต ผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (Wheelchair) ผู้โดยสารสูงอายุ ผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์ เป็นต้น นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อไปว่า สําหรับจุดตรวจค้นฯ Fast Track โซน 2 เดิมจะถูกยกเลิกการใช้งานและปรับเพิ่มพื้นที่ให้บริการตรวจหนังสือเดินทางสําหรับผู้โดยสารทั่วไปประเภทชั้นประหยัด (Economy) เต็มรูปแบบแทน โดยจะติดตั้งเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางเพิ่มขึ้น ทําให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการและแก้ไขปัญหาความคับคั่งบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น และด้วยศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นหลังการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร โดยสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทําให้เชื่อมั่นว่า ทสภ. จะรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ภายหลังจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะผ่อนปรนมาตรการเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
null
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201105739062
763
ตำรวจเตือนประชาชน หากได้รับ SMS อวยพรวันตรุษจีน โดยแนบลิงก์ให้กด อ้างว่าจะมีการแจกเงิน อย่ากรอกข้อมูลเด็ดขาด
พันตํารวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวเตือนประชาชน ระวังกลุ่มมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสในช่วงเทศกาลตรุษจีน แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หลังพบว่าปัจจุบันมีคนร้ายใช้วิธีการส่ง SMS อวยพรวันตรุษจีน และอ้างว่าจะมีการแจกของ หรือแจกเงิน เนื่องในช่วงเทศกาล พร้อมแนบลิงก์ อ้างว่า ใช้สําหรับกดรับเงิน ซึ่งเมื่อกดลิงก์ดังกล่าวไปแล้ว ก็จะนําไปสู่หน้าเว็บไซต์ให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือรหัสผ่านต่างๆ หรือให้ลงแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย ซึ่งหากประชาชนหลงเชื่อกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว อาจทําให้ถูกนําข้อมูลส่วนบุคคล บัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หรือถูกเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ไปใช้ในการกระทําผิดกฎหมายได้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังการกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS โดยเฉพาะจากบุคคลที่ไม่รู้จัก เพราะอาจถูกหลอกเอาข้อมูลและทําให้ได้รับความเสียหายได้ ซึ่งลิงก์ที่คนร้ายส่งมานั้นมักจะเป็นลิงก์ในลักษณะชักชวนรับเงิน โฆษณาส่งเสริมการขาย หลอกให้ลงทะเบียนรับของรางวัล หลอกว่าบัญชีธนาคารของท่านมีปัญหา เป็นต้น เพื่อให้หลงเชื่อ กรอกข้อมูลให้กับคนร้าย หากประชาชนพบเห็น SMS ในลักษณะที่หลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล หรือน่าสงสัยว่าอาจหลอกเอาข้อมูลรหัสผ่าน สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสํานักงานตํารวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201154153241
764
ผู้ใหญ่บ้าน และผู้อำนวยการโรงเรียน ยืนยันไม่พบข้อมูลเด็กนักเรียน ป.5 ตั้งแก๊งขโมยของชาวบ้านนำเงินไปซื้อยาเสพติดแต่อย่างใด
ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อโซเซียลหลายสํานักว่า มีเด็กนักเรียนชั้น ป.5 ในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ ตั้งแก๊งขโมยทรัพย์สินของชาวบ้าน เพื่อนําเงินไปซื้อยามาเสพ จนชาวบ้านสุดทนเข้าแจ้งตํารวจ นั้น นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 18.00 น. ณ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนบ้านคําแก้ว – เมืองเก่า ตําบลคําเขื่อนแก้ว อําเภอชานุมาน นายเฉลิมพล ทองเหลา ปลัดอําเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายสมุทร บุตรสมศรี ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง อําเภอชานุมาน พ.ต.อ.นิยม สีหาวัฒน์ ผู้กํากับการตํารวจภูธรชานุมาน นายวิฑูรย์ ณ หนองคาย ผู้อํานวยการโรงเรียนบ้านคําแก้ว-เมืองเก่า นายบํารุง พาหา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านคําแก้ว นายพรอย พุทธรักษา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านเมืองเก่า คณะครูโรงเรียนบ้านคําแก้ว-เมืองเก่า ผอ.รพ.สต.คําเขื่อนแก้ว และคณะกรรมการหมู่บ้านเมืองเก่าและบ้านคําแก้ว พร้อมทั้งผู้เสียหายที่ตกเป็นข่าว ได้ร่วมประชุมเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และหาแนวทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับข่าวที่ปรากฎบนสื่อโซเชียล ผลสรุปจากการประชุมตามข้อเท็จจริงคือ โรงเรียนแห่งนี้ ไม่มีเด็กนักเรียนชั้น ป.5 ตั้งแก๊ง หรือมีการโจรกรรมทรัพย์สิน หรือมีเด็กติดยาเสพติดแต่อย่างใด เนื่องจากโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนสีขาว ข่าวที่เกิดขึ้นดังกล่าว จึงคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ส่วนการลักทรัพย์สินของสหกรณ์โรงเรียน มีเพียงสิ่งของเล็กๆน้อยๆ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาเรียนตั้งแต่เทอมที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ และทางโรงเรียนได้ดําเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้ว ในส่วนของนางกัญญาภัทรฯ ผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้ได้รับความเสียหาย ได้ชี้แจงและยืนยันในที่ประชุมว่า คนที่ลักทรัพย์สินของตนไปนั้น เป็นญาติของตน มีการไกล่เกลี่ยและชดใช้ค่าเสียหายไปเรียบร้อยแล้ว และเรื่องดังกล่าวก็เกิดขึ้นมานานแล้ว นายเฉลิ่มพล ทองเหลา ปลัดอําเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย นายสมุทร บุตรสมศรี ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง อําเภอชานุมาน ได้ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านคําแก้ว – เมืองเก่า ตําบลคําเขื่อนแก้ว อําเภอชานุมาน เพื่อร่วมประชุมติดตามสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยมี นายวิฑูรย์ ณ หนองคาย ผู้อํานวยการโรงเรียนบ้านคําแก้ว-เมืองเก่า นายบํารุง พาหา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านคําแก้ว นายพรอย พุทธรักษา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านเมืองเก่า และนางสาวบรรณวัลลิ์ มณีพันธ์ นางสาวขนิษฐา ภูแล่นคู่ ครูประจําชั้นของนักเรียนชั้น ป.5 ที่ตกเป็นข่าวดังกล่าว ร่วมให้ข้อมูลทั้งนี้ นายวิฑูรย์ ณ หนองคาย ผู้อํานวยการโรงเรียนบ้านคําแก้ว-เมืองเก่า ยืนยันว่าข่าวที่ปรากฏนั้นไม่เป็นความจริง เพราะนักเรียนที่ตกเป็นข่าวก็เดินทางมาโรงเรียนเป็นประจํา แต่ไม่เข้าเรียน จะชวนเพื่อน 1-2 คน เที่ยวเล่นอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้มีการอบรมมาโดยตลอด และในส่วนของการลักขโมยของในสหกรณ์โรงเรียนนั้น เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นมานานตั้งแต่ภาคเรียนที่แล้ว ความเสียหายก็เป็นสิ่งของเล็ก ๆ น้อยๆ ประเภทขนม เป็นต้น ซึ่งทางโรงเรียนได้มีการจัดการแก้ไขปัญหา โดยได้แจ้งผู้ปกครองของเด็กที่เกี่ยวข้องมาประชุมรับทราบ และผู้ปกครองยินดีจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับทางสหกรณ์โรงเรียนไปแล้ว ปัญหาทุกอย่างจบลงไปแล้วด้วยดี ซึ่งทางโรงเรียนจะมีการประชุมผู้ปกครองนักเรียนเป็นประจํา หากมีปัญหาอะไรผู้ปกครองก็จะรับทราบและหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด จะมีการตรวจสารเสพติดเป็นประจํา ซึ่งไม่พบข้อมูลว่ามีนักเรียนในโรงเรียนเสพยาเสพติดแต่อย่างใด และกรณีที่มีข่าวมีคนไปขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านในหมู่บ้านนั้น ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนนี้เลยด้านนางสาว บรรณวัลลิ์ มณีพันธ์ และนางสาวขนิษฐา ภูแล่นคู่ ครูประจําชั้นนักเรียนชั้น ป.5 ที่ตกเป็นข่าว ได้เล่าถึงพฤติกรรมของเด็กคนนี้ว่า เป็นเด็กที่พ่อแม่แยกทางกัน เด็กขาดความอบอุ่น ก็อาจจะมีนิสัยก้าวร้าวบ้าง ให้ทําการบ้านหรืองานส่งครู บางทีอารมณ์ดีเขาก็ตั้งใจทํา บางทีก็ทําไม่เสร็จ หรือทําบ้างไม่ทําบ้าง โดยปกติจะมาเรียนเป็นประจํา แต่ก็มีบ้างที่ไม่มา โดยเฉพาะช่วงหลังที่มีเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การเรียนการสอนไม่เหมือนเดิม เด็กก็จะไม่มา ในส่วนของพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็ไม่พบแต่อย่างใด หากมีการเสพยาเสพติดจริงตามที่เป็นข่าว สภาพร่างกายและพฤติกรรม ลักษณะนิสัยต่างๆ ก็ต้องเปลี่ยนไป แต่นักเรียนคนดังกล่าวยังปกติดี ในส่วนของนายบํารุง พาหา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านคําแก้ว และนายพรอย พุทธรักษา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านเมืองเก่า ได้ยืนยันข้อมูลว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเด็กนักเรียนชั้น ป. 5 ตั้งแก๊งขโมยทรัพย์สินของชาวบ้าน หรือแม้แต่แก๊งภายนอกโรงเรียนก็ไม่เคยมีในหมู่บ้าน ส่วนกรณีที่มีเหตุลักทรัพย์ในหมู่บ้านตามที่เป็นข่าวก็เกิดขึ้นมานานแล้ว คนที่ขโมยก็เป็นญาติๆกัน ซึ่งได้ยอมรับและเคลียร์ปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับกรณีที่เด็กตั้งแก๊งขโมยทรัพย์สินตามที่เป็นข่าว ซึ่งตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านเองก็ได้รับผลกระทบจากข่าวดังกล่าว รวมไปถึงหมู่บ้าน และสถาบันการศึกษาก็ได้รับความเสียหายไปด้วย สําหรับเด็กนักเรียนที่ตกเป็นข่าว ปัจจุบันได้ไปอาศัยอยู่กับญาติของพ่อเลี้ยงในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ตําบลคําเขื่อนแก้ว ซึ่งทางอําเภอชานุมาน และผู้อํานวยการโรงเรียนและครูประจําชั้น ได้ไปติดตามพบว่าเด็กสามารถเข้ากับครอบครัวใหม่ของมารดาและได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ในส่วนของการเรียน ครูประจําชั้นจะติดตามการเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และจะทําเรื่องย้ายไปโรงเรียนใกล้กับที่อยู่ปัจจุบัน ซึ่งจะสะดวกในการดูแลเด็กตามความต้องการของมารดา ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ ได้กําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามดูแลและดําเนินการช่วยเหลือในเรื่องความเป็นอยู่และการศึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เด็กมีความเป็นอยู่และมีอนาคตที่ดี เพื่อเติบโตขึ้นเป็นคนดีมีคุณภาพของสังคมต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201153838239
765
จัดพิธีรับมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่ จังหวัดอำนาจเจริญ
พ่อเมืองอํานาจเจริญ เป็นประธานในพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้แก่นายธนูสินธ์ ไชยสิริ และนายศิริพันธ์ ขุ่มด้วง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ ณ ห้องอํานาจเจริญ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดอํานาจเจริญ สําหรับปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 เป็นสมุดปกหนังสีเหลือง อันเป็นสีประจําวันพระราชสมภพ มีตราพระปรมาภิไธยย่อ วปร. ระบุข้อความ "ปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่" รวมมีเนื้อหา อาทิ พระปฐมบรมราชโองการ ปีและศักราชทางจันทรคตินิยมอย่างไทย ประกาศสงกรานต์ วันกําหนดการ การชักและประดับธงชาติในวันสําคัญ วันพระราชสมภพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ และวันสําคัญของประเทศที่มีสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย วันสําคัญทางศาสนา วันสําคัญทางวัฒนธรรมและประเพณีจีน เป็นต้นทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เป็นผู้แทนรับมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมีพลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุม 3 อาคารสํานักพระราชวัง หน่วยงานราชการในพระองค์ 904 เพื่อมอบให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด จํานวน 1 เล่ม และข้าราชการในจังหวัด จํานวน 2 เล่ม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201152846226
766
วันแรก ยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 เริ่มวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (โครงการฯระยะที่ 4) จะเริ่มให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (โครงการคนละครึ่งที่สิ้นสุดไปเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2564) จํานวน 27.98 ล้านคน ยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 วันแรกในวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ทันทีหลังการกดยืนยันสิทธิเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้รับสนับสนุนวงเงินค่าสินค้าหรือบริการที่กําหนดในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการฯ ระยะที่ 4ช่วงระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565โดยมีขั้นตอนการยืนยันสิทธิ ดังนี้1. กดแถบแบนเนอร์ (Banner) โครงการคนละครึ่ง ที่ปรากฏในหน้าg-Wallet ของแอปพลิเคชัน“เป๋าตัง”ตั้งแต่ เวลา 06.00 – 22.00 น. ของทุกวัน2. ระบบจะแสดงหน้าต่างเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 โดยขอให้ประชาชนอ่านเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 เมื่ออ่านเสร็จเรียบร้อยแล้วและยอมรับตามเงื่อนไขสามารถกดที่แถบ “ยอมรับเงื่อนไขและการใช้สิทธิ”ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกําหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ โดยสิทธิที่เหลืออาจจะนํามาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งสําหรับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจะเป็นวันแรกของการกดรับยืนยันและการใช้จ่ายสิทธิโครงการฯ ทางธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) ผู้ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ให้จัดทําโครงการฯ ได้เตรียมความพร้อมสําหรับระบบการโอนเงินต่างธนาคารเพื่อโอนเข้า g-Walletแล้ว อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงหรือลดความแออัดในช่วงเวลาการใช้สิทธิผ่าน “เป๋าตัง” พร้อมกันในวันแรก ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่พร้อมจะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 สามารถโอนเงินเข้า g-Wallet ล่วงหน้าก่อนเริ่มการใช้จ่ายทั้งนี้ในส่วนของประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3จะสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.comได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565จนกว่าจะครบจํานวนประมาณ1 ล้านสิทธิโดยสามารถเริ่มใช้จ่ายวันแรกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565สําหรับผู้ประกอบการร้านค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 ได้วันแรกในวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น. ของทุกวันจนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศปิดรับสมัครผ่าน www.คนละครึ่http://xn--72c.com/ โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.คนละครึ่http://xn--72c.com/ หรือสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯโฆษกกระทรวงการคลัง ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามโครงการเพิ่มกําลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 4และผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกําลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2จะได้รับเงินช่วยเหลือวงเงิน 200 บาทต่อคนสําหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ในวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เช่นเดียวกัน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201152644222
767
มท.1 สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ กำหนดเนื้อหมู-โภคภัณฑ์อื่นที่ขาดแคลนผิดปกติ เป็นโภคภัณฑ์ที่ต้องทำการสำรวจในท้องที่จังหวัด
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันราคาเนื้อสุกรและโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างผิดปกติ นายกฯ มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวกระทรวงมหาดไทย ได้แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์แล้ว และเพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพ จึงสั่งการไปยังผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด และผู้ว่า กทม. ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกประกาศกําหนดให้เนื้อสุกร หรือโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น ไข่ไก่ น้ํามันพืช ยารักษาโรค เวชภัณฑ์เกี่ยวกับการรักษาโรค ฯลฯ เป็นโภคภัณฑ์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประสงค์จะทําการสํารวจฯ ตามกฎหมายว่าด้วยการสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ในเขตท้องที่จังหวัดนั้นๆ และดําเนินการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายหากพบผู้ฝ่าฝืน หรือกระทําความผิดให้ดําเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยผู้ประกอบการ หรือผู้ใดไม่ยอมชี้แจงข้อเท็จจริง หรือฝ่าฝืนคําสั่งหรือประกาศ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจําผู้ใดขัดขวางการกระทําของคณะกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือไม่ให้ความสะดวกในการดําเนินการ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจําผู้ใดให้ถ้อยคําเท็จในการแจ้งปริมาณ หรือสถานที่เก็บโภคภัณฑ์ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจําหากพบเห็นการกระทําที่อาจเข้าข่ายความผิด แจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดํารงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201152531221
768
จ.ลำพูน จัดประชุม อ.ก.พ. จังหวัดลำพูน ครั้งที่ 1/2565
วันนี้ (1 ก.พ.65) ที่ห้องประชุมหริภุญชัย ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานการประชุม อ.ก.พ.จังหวัดลําพูน ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลําพูน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนองค์กรภาคประชาชน ผู้แทนองค์กรภาคเอกชน ผู้แทนสํานักงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม สําหรับวาระการประชุมที่สําคัญประกอบด้วย การแต่งตั้งรองประธานอนุกรรมการ อ.ก.พ.จังหวัดลําพูน และกรรมการ อ.ก.พ. จังหวัดลําพูนแทนตําแหน่งที่ว่าง เรื่องรับรองการประชุม อ.ก.พ.จังหวัดลําพูน ในครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เรื่องสืบเนื่องจากการประชุม ได้แก่การแต่งตั้งเลขานุการ อ.ก.พ. จังหวัดลําพูน การรายงานผลการดําเนินงาน กรณีข้าราชการพลเรือนสามัญกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง สังกัดสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําพูน และการรายงานผลการดําเนินงาน กรณีข้าราชการพลเรือนสามัญกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง สังกัดที่ทําการปกครองจังหวัดลําพูน และวาระการประชุมเรื่องเพื่อพิจารณา คือการพิจารณากรณีข้าราชการพลเรือนสามัญกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุอันสมควร สังกัดสํานักงานที่ดินจังหวัดลําพูน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201105331055
769
เชฟรอนสานต่อโครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียนในจังหวัดสงขลา ปลูกฝังวินัยจราจรให้เยาวชนใช้ถนนอย่างปลอดภัย
นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสํารวจและผลิต จํากัด เป็นตัวแทนบริษัทฯ มอบงบประมาณสนับสนุนจํานวน 3 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย โดยมี นางสาวชบา ไชยจารีย์ เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อสนับสนุนการดําเนิน โครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน ระยะที่ 6 ในการให้ความรู้และเสริมสร้างจิตสํานึกด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้แก่เยาวชน ครู และผู้ปกครอง ทั้งในจังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสํารวจและผลิต จํากัด และบริษัทผู้ร่วมทุน ประกอบด้วย บริษัท มิตซุย ออยล์เอ็กซโปลเรชั่น จํากัด บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) และบริษัท พลังโสภณ จํากัด ได้มอบงบประมาณสนับสนุนงวดที่ 1 จํานวน 3 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย เพื่อสานต่อโครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน หรือ Chevron Streetwise ระยะที่ 6 ซึ่งมีระยะเวลาดําเนินงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 – เดือนสิงหาคม 2566เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และการใช้หมวกนิรภัยที่ถูกวิธี ตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยทางท้องถนนให้กับนักเรียน คณะครูอาจารย์ และผู้ปกครองของโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช อันจะเป็นการช่วยป้องกันอุบัติเหตุจราจรได้อย่างยั่งยืนพร้อมกันนั้น นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสํารวจและผลิต จํากัด ยังให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด “ห้องเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Corner)” ณ โรงเรียนบ้านเขาแดง อําเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และจัดสื่อการเรียนการสอนด้านวินัยจราจรบนท้องถนนให้แก่โรงเรียนในเครือข่ายต่อไปทั้งนี้ โครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน ระยะที่ 6 มีระยะเวลาดําเนินงานระหว่างเดือนธันวาคม 2564 – เดือนสิงหาคม 2566 ภายใต้งบประมาณทั้งหมด 5 ล้านบาท ครอบคลุมโรงเรียนในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาทั้งในจังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช จํานวนทั้งสิ้น 17โรงเรียน แบ่งเป็น 12 โรงเรียนในพื้นที่อําเภอเมืองและอําเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ได้แก่ โรงเรียนวัดเปรมศรัทธา โรงเรียนบ้านหัวเขา โรงเรียนบ้านเขาแดง โรงเรียนวัดบ่อทรัพย์ โรงเรียนวัดบ่อปาบ โรงเรียนวัดสถิตย์ชลธาร โรงเรียนเทศบาลเมือง สิงหนคร (บ้านยางงาม) โรงเรียนวัดโลกา โรงเรียนวัดธรรมโฆษณ์ โรงเรียนวัดตาหลวงคง โรงเรียนวิเชียรชม และโรงเรียนวรนารีเฉลิม และ 5 โรงเรียนในพื้นที่อําเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลตําบลท่าแพ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 4 โรงเรียนเทศบาลเมืองปากพูน โรงเรียนวัดท่าแพ และโรงเรียนวัดวิสุทธิยาราม อนึ่ง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสํารวจและผลิต จํากัด และบริษัทร่วมทุน ร่วมกับ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ได้ดําเนินโครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน2557 และมีแผนดําเนินงานอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนสิงหาคม 2566 ด้วยงบประมาณสนับสนุนจํานวนทั้งสิ้นกว่า 20,000,000 บาท เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ผ่านการอบรมให้ความรู้ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และการทํางานร่วมกับชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยในปัจจุบัน มีเด็ก ผู้ปกครอง ครู และคนในชุมชน เข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 30,000 คน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201111305074
770
ย้ำเตือนนายจ้างกำชับแรงงานเมียนมาที่เอกสารรับรองบุคคลทยอยหมดอายุ วางแผนขอเอกสารฉบับใหม่
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ต้องออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) เดิมเป็นแรงงานผิดกฎหมายและได้ขึ้นทะเบียนทํางานอย่างถูกต้องตามมติ ครม. ซึ่งก็จะได้รับบัตรสีชมพู รัฐบาลไทยได้ประสานประเทศต้นทางของแรงงานเข้ามาพิสูจน์สัญชาติเพื่อออกเอกสารรับรองบุคคลหรือ CI ให้กับแรงงานของประเทศตนเอง ซึ่งเอกสารรับรองบุคคลคล้ายกับพาสปอร์ต แต่ใช้ได้ เฉพาะประเทศไทยกับประเทศต้นทางของแรงงานสัญชาติเมียนมา กัมพูชา และลาวขณะนี้เอกสารรับรองบุคคลของแรงงานสัญชาติเมียนมาที่ทํางานในประเทศไทยทยอยหมดอายุ ทําให้แรงงานต่างด้าวไม่สามารถทํางานอยู่ในประเทศไทยต่อไปมีจํานวนประมาณ 8-9 แสนคน เพื่อไม่ให้แรงงานต่างด้าวกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมายโดยผลของกฎหมาย และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน กระทรวงแรงงานได้เจรจากับประเทศเมียนมาส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดําเนินการออกเอกสารรับรองบุคคล เพื่อลดการเดินทางเคลื่อนย้ายที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอํานวยความสะดวกให้นายจ้าง/ผู้ประกอบการมีแรงงานที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้ต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งศูนย์พิจารณาอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร อนุญาตให้ทํางานและออกเอกสารรับรองบุคคล ในประเทศไทยทั้งหมด 5 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ ระนอง สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เพื่อจัดทําเอกสารประจําตัวฉบับใหม่ และการขอตรวจลงตราวีซ่ากับสํานักงานตรวจคนเข้าเมืองภายในกําหนดเวลา สําหรับภาพรวมผลการเปิดศูนย์ตั้งแต่วันที่ 10-30 มกราคม 2565 ออกเอกสารรับรองบุคคลฉบับใหม่แล้วเกือบ 20,000 คน ถือว่ามาดําเนินการน้อย หากเทียบกับจํานวนแรงงานสัญชาติเมียนมาที่ต้องขอเอกสารฉบับใหม่เกือบ 1 ล้านคน ให้แล้วเสร็จก่อน 31 กรกฎาคม 2565 ดังนั้น ขอความร่วมมือนายจ้างวางแผนนําแรงงานสัญชาติเมียนมาไปดําเนินการตามขั้นตอน ณ ศูนย์ CI ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ทํางานของแรงงาน ที่สามารถเดินทางได้สะดวก เพื่อให้มีเอกสารประจําตัวฉบับใหม่ในการขออยู่ต่อและทํางานต่อไปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมเน้นย้ําให้วางแผนดําเนินการแต่เนิ่นๆ หลีกเลี่ยงความแออัดในช่วงใกล้สิ้นสุดระยะเวลาอธิบดีกรมการจัดหางาน ยังเน้นย้ําว่า แรงงานสัญชาติเมียนมาที่มาดําเนินการออกเอกสารรับรองบุคคล ณ ศูนย์ CI จะต้องตรวจคัดกรองเชื้อโควิค-19 ด้วยการตรวจ ATK โดยจะมีสถานพยาบาลมาคอยให้บริการที่ศูนย์ฯ ค่าใช้จ่าย 450 บาทต่อคน พร้อมออกเอกสารรับรองผลการตรวจ ขอชี้แจงนายจ้างและแรงงานต่างด้าวถึงความจําเป็นที่จะต้องดําเนินการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรค ทั้งนั้ ศูนย์ CI จะเปิดดําเนินการไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2565 โดยเปิดทําการในวันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 09.00 น.– 17.30 น. และหยุดทําการในวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201210256341
771
จ.สมุทรปราการ จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีผู้เข้ารับมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในครั้งนี้ จํานวน 2 ราย ประกอบด้วย นายศุภมิตร ชิณศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ,นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการสําหรับปฏิทินหลวง รูปเล่มเป็นหน้าปกสีเหลือง ด้านบนมีพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และมีข้อความว่า “ปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่” ด้านในประกอบด้วย เนื้อหาสาระที่เต็มไปด้วยประโยชน์และความรู้ อาทิ พระปฐมบรมราชโองการ ปีและศักราชทางจันทรคตินิยมอย่างไทย ประกาศสงกรานต์ ตารางปฏิทินย่อ ตารางวันเดือนปี อุปราคา วันพระราชสมภพพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระบรมราชินี วันสําคัญของประเทศที่มีความสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย วันพระบรมราชสมภพและวันพระราชสมภพพระบรมวงศ์ วันประสูติพระบรมวงศ์ พระอนุวงศ์ วันสําคัญทางศาสนาต่างๆ และวันสําคัญทางวัฒนธรรมประเพณีจีน เป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201112312083
772
สธ.สงขลา แนะประชาชนฉลองเทศกาลตรุษจีนปลอดภัย ห่างไกลโควิด -19
นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลที่รวมญาติจากหลายที่เพื่อการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ พบปะสังสรรค์ และการเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีโอกาสรวมกลุ่มและใกล้ชิดกับคนจํานวนมาก ทั้งเดินทางไปร้านอาหาร เพื่อรับประทานอาหารและพบปะสังสรรค์ในครอบครัว การเดินทางไปศาลเจ้าเพื่อไปไหว้พระขอพรหรือการไหว้เจ้า สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ขอแนะวิธีปฏิบัติ “วันเที่ยว” ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ดังนี้ข้อปฏิบัติสําหรับ “วันเที่ยว”• ใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น สวมหน้ากากอนามัย และพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วยเสมอ• เลือกใช้บริการจากสถานประกอบการ หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีสัญลักษณ์ของมาตรการความปลอดภัยสําหรับองค์กร หรือ COVID Free Setting• รักษาระยะห่างระหว่างกันขณะใช้บริการ หรือควรหลีกเลี่ยงสถานที่มีผู้คนแออัด• หากมีการใช้จ่ายควรเลือกใช้ระบบออนไลน์• กลับถึงบ้านให้เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ําทันทีทั้งนี้ หากมีอาการเจ็บป่วยไข้ ไอ จาม งดหรือเลี่ยงการร่วมกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ สําหรับสถานที่จัดงาน จะต้องมีมาตรการความปลอดภัย อาทิ ผู้จัดงาน เจ้าหน้าที่ทุกคน ต้องฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ที่กําหนด , ตรวจคัดกรองพนักงาน เจ้าหน้าที่ด้วย ATK ก่อนจัดงานภายใน 72 ชั่วโมง , ผู้ร่วมงานต้องลงทะเบียนแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ ATK เป็นลบก่อนเข้างานภายใน 72 ชั่วโมง , ต้องมีการกําหนดทางเข้าออกจุดคัดกรองให้ชัดเจน , ทําความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ มีจุดบริการล้างมือ , ควบคุมจํานวนผู้ร่วมงานไม่ให้แออัด , จัดให้มีการระบายอากาศที่เพียงพอ , งดกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิด เช่น การเต้นรํา มหรสพ , จัดสิ่งแวดล้อมในสถานที่จัดงานให้เป็นระเบียบ เป็นต้นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19 ยังเป็นปัจจัยสําคัญในการป้องกันการติดเชื้อ ลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด – 19 จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ฯ และขอให้ผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และครบระยะเวลารับวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 สามารถติดต่อขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ได้ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทุกแห่ง หรือสอบถามสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา โทร. 093-5766411 , 063-4941577 (ในวันและเวลาราชการ)#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201111442077
773
เริ่ม 1 ก.พ.นี้ คนละครึ่งเฟส 4 สำหรับคนเก่า ยืนยันสิทธิ์และเริ่มใช้สิทธิ์ รับ 1,200 บาท รวม 3 เดือน เริ่มใช้สิทธิ์ครั้งแรก ไม่เกิน 28 กุมภาพันธ์ นี้ สำหรับผู้ยังไม่เคยรับสิทธิ์ เริ่มเปิดลงทะเบียน 10 ก.พ. 65 นี้
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า กระทรวงการคลังเปิดให้ใช้สิทธิ์คนละครึ่งเฟส 4 โดยเปิดให้ลงทะเบียนยืนยันในวันนี้ (1 ก.พ.65) สําหรับผู้ที่เคยใช้สิทธิ์คนละครึ่งเฟส 3 สามารถกดยืนยันสิทธิ์ได้ที่แอปฯ เป๋าตัง รับสิทธิ์คนละ 1,200 บาท สามารถใช้สิทธิ์ได้ในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.พ. ถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 โดยผู้ที่ยืนยันสิทธิ์คนละครึ่งเฟส 4 ต้องเริ่มใช้สิทธิ์ครั้งแรกภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2565 นี้ หากไม่ใช้ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ สิทธิ์จะถูกตัดและนําเอาไปให้กับรายใหม่ที่จะลงทะเบียนต่อไปสําหรับรายใหม่ หรือผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ์คนละครึ่ง ทางรัฐจะเปิดโอกาสให้สมัครใหม่ได้ โดยให้เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดยให้สิทธิ์จํานวน 1 ล้านคน สําหรับเงื่อนไขสําหรับผู้ที่จะสมัครใช้สิทธิ์รายใหม่ ต้องเป็นคนไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และต้องไม่เป็นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งโครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่รัฐบาลเห็นถึงความสําคัญ เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นกําลังซื้อให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้มีรายได้จากการขายสินค้า หรือบริการ และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายประจําของประชาชนทั่วไป ที่สามารถใช้สิทธิ์ซื้อของในร้านค้า ทั้งบริการ สินค้าอุปโภคบริโภค ยกเว้น ลอสเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ของโครงการของรัฐบาล ที่เป็นการเยียวยา และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบและให้กระทรวงการคลังดําเนินการ เพิ่มเติมการเพิ่มกําลังซื้อให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 จํานวน 200 บาท 1 คน/เดือน ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน (ก.พ. – เม.ย. 65) โดยสามารถซื้อของได้จากร้านธงฟ้า และร้านคนละครึ่งได้ ซึ่งวงเงินที่ให้ในแต่ละเดือนสําหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเฟสที่ 4 โดยไม่มีการสะสม หากใช้ไม่หมด 200 บาทภายในเดือนนั้น จะไม่สามารถยกยอดไปในเดือนถัดไปได้ ซึ่งมีผู้ถือบัตรที่ได้รับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ จํานวนประมาณ 13 ล้านคนทั่วประเทศ และในส่วนโครงการที่ 3 เป็นโครงการเพิ่มกําลังซื้อให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือระยะที่ 2 ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว ตามโครงการเราชนะ กลุ่มที่ 4 จํานวนประมาณ 2,200,000 ( สองล้านสองแสนคน) ทั่วประเทศ ซึ่งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรับ สามารถซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า หรือร้านโครงการคนละครึ่ง เป็นเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 3 เดือนเช่นเดียวกันกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งทั้งสามโครงการที่รัฐอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยา และได้เริ่มดําเนินการ ใช้วงเงินช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นกําลังซื้อ ลดค่าใช้จ่าย รวม 44,000 ล้านบาท กลุ่มต่างๆรวม 45 ล้านคน ทั่วประเทศ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201152402220
774
ร้อยเอ็ดประชุมปรึกษาหารือ ติดตามข้อราชการสำคัญ ( Morning Brief )
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 07.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือ ติดตามข้อราชการสําคัญ ( Morning Brief ) ครั้งที่ 2/2565 ณ ห้อง SMART ROOM ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชนาส ชัชวาลวงศ์ , นายเชวงศักดิ์ พลเยี่ยม , นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด , นายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด , หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม เพื่อเป็นเวทีในการพบปะ หารือ ติดตามนโยบายรัฐบาล ภารกิจ และข้อราชการสําคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดได้กําหนดประชุมติดตามข้อราชการสําคัญ (Morning Brief) อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกส่วนราชการได้เวียนมาพบปะแลกเปลี่ยนประสานการทํางานร่วมกัน ตลอดจนปรึกษาหารือข้อราชการระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับฟ้งข้อมูลประเด็นของหน่วยต่างๆ จํานวน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การดําเนินงานของศูนย์อํานวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ประกอบด้วย การส่งมอบรถวีลแชร์ผู้พิการ การสนับสนุนถังน้ํา เครื่องอุปโภค สุขาเคลื่อนที่ 2. การเตรียมการรับภัยแล้ง ปี 2565 ประกอบด้วย จิตอาสาภัยแล้ง โครงการนําร่อง การวางแผนแก้ไขปัญหาระบบประปาหมู่บ้าน ระบบแหล่งน้ําผิวดิน ระบบแหล่งน้ําใต้ดิน และ 3. โครงการปลูกฝังจิตสํานึกรักสามัคคีและส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อนํามาพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด ต่อไปสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201142721157
775
จ.เลย จัดพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 วันแรกการจัดงาน “ดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย” พร้อมนำเสนอวิถีถิ่น วิถีบ้าน สืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว
วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2565) จังหวัดเลย จัดพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเลย อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย โดยมีนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานในพิธี ซึ่งจังหวัดเลยจัดพิธีบวงสรวงแบบพราหมณ์ขึ้น เนื่องในวันแรกการจัดงาน “ดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย” ที่กําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ คณะเหล่ากาชาดจังหวัดเลย ตลอดจนพ่อค้าและประชาชน เข้าร่วมพิธี ในโอกาสนี้มีการรําบวงสรวงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคณะนางรําเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนส่วนราชการ จํานวน 90 คนจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดร้าน “วิถีถิ่น วิถีบ้าน สืบสานดอกฝ้ายบาน สร้างสรรค์ สร้างสุข” ในงานดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย ประจําปี 2565 ซึ่งสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลยจัดขึ้น โดยบูรณาการ 6 หน่วยงาน ได้แก่ สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย สํานักงานพื้นที่พิเศษเลย (อพท.5) และสภาวัฒนธรรมจังหวัดเลย นําเสนอวิถีถิ่น วิถีบ้าน สืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวจังหวัดเลย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวชุมชนอย่างสร้างสรรค์ เปิดพื้นที่ให้เยาวชนและประชาชนจําหน่ายสินค้าและส่งเสริมการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมอาเซียนทั้งนี้ กิจกรรมภายในร้านประกอบด้วย การออกร้านจําหน่ายสินค้าและบริการ จากเครือข่ายหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการ เช่น กลุ่มทอผ้าบ้านก้างปลา กลุ่มชาติพันธุ์ไทดํา ไทพวน ฯลฯ นิทรรศการมีชีวิต การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านการเสวนาทางวิชาการ การขับร้องสรภัญญะ และการประกวดเขียนหน้ากาก “แต้มสี หน้ากากผี ไทเลย” ชิงเงินรางวัลกว่า 60,000 บาท โดยจะหมุนเวียนจัดกิจกรรมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.30 น.#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201142216148
776
จ.อุบลฯ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคระบาด COVID-19ในพื้นที่อำเภอม่วงสามสิบ
ตามนโยบายของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.อบ. ภายใต้การอํานวยการของ นายชินวัต ทองปรีชา นายอําเภอม่วงสามสิบ สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ดําเนินการ ดังนี้1. บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 โดยกลุ่มเป้าหมายจากประชากรอยู่จริง จํานวน 49,185 ราย- เข็มที่ 1 ได้รับวัคซีนแล้ว จํานวน 47,961 ราย คิดเป็นร้อยละ 97.51- เข็มที่ 2 ได้รับวัคซีนแล้ว จํานวน 45,748 ราย คิดเป็นร้อยละ 93.01- เข็มที่ 3 Booster dose ได้รับวัคซีนแล้ว จํานวน 9,628 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.582. เปิดโรงพยาบาลสนาม ณ ศูนย์การคณะสงฆ์ภาค 10 เพื่อรองรับผู้ป่วย จํานวน 150 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยครองเตียง จํานวน 33 ราย 3. จัดหาเครื่องอุปโภค-บริโภค (ถุงยังชีพ) ให้แก่ผู้ที่ได้รับการรักษาครบจาก รพ./รพ.สนาม เพื่อกลับไปกักตัวต่อที่บ้านอีก 10 วันทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคระบาด COVID-19 อย่างเคร่งครัด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201152245216
777
ตำรวจภูธรลำปาง บูรณาการผู้ปกครอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียน กรณีเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มนักเรียนในพื้นที่ อ.งาว
ตํารวจภูธรจังหวัดลําปาง เปิดเผยวว่า สืบเนื่องจากมีภาพคลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของกลุ่มนักเรียนโรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 เผยแพร่ในสื่อสารทางเฟสบุ๊ค และทางสื่อมวลชนนั้น มีข้อสรุปผลการดําเนินการดังนี้ ทางกฎหมาย ผู้ปกครองนักเรียนที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาททุกคน ไม่ติดใจเอาความซึ่งกันและกัน มีมติร่วมลงขันคนละ 500 บาททุกคน เพื่อเป็นค่ารักษานักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและค่าปลอบขวัญทางระเบียบของโรงเรียน นักเรียนที่ผิดครั้งแรกและไม่ใช่ต้นเหตุ ให้มาเรียนตามปกติ และทํากิจกรรมจิตอาสาเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จํานวน 5 วัน ในส่วนนักเรียนที่ทําผิดซ้ําได้ทําบันทึกข้อตกลงกับทางโรงเรียน ให้เรียนออนไลน์หรือออนแฮนด์ที่บ้านและทํากิจกรรมจิตอาสาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 10 วัน ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ปกครองอย่างไรก็ตาม สถานีตํารวจภูธรงาวมอบหมายให้ร้อยเวร 20 สายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้ออกตรวจ กวดขัน ป้องกันเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท สถานศึกษา ห้วงเวลา 15.30 - 16.30 น. ของทุกวันที่มีการเรียนการสอน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201114227085
778
อุบลฯตรวจค้นบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ตำบลนาตาลและตำบลกองโพนจำนวน 2 เป้าหมาย
ภายใต้การอํานวยการของ นายสุระศักดิ์ ลืนภูเขียวปลัดอําเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชํานาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอําเภอนาตาลสั่งการให้นายกรณ์ บุตรพินธุ์ปลัดอําเภอกลุ่มงานความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.ร้อย อส.อ.นาตาล ที่ 23 สนธิกําลังกับเจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวน สภ.นาตาล,ชป.คทร.กกล.สุรนารี,ร้อย ตชด.227,ร้อยทพ.2302 ดําเนินการตามแผนสุรสัมพันธ์ 2/65 ในพื้นที่ อําเภอนาตาล ปิดล้อมตรวจค้นบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ตําบลนาตาลและตําบลกองโพนจํานวน 2 เป้าหมายผลการปฏิบัติ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201152140215
779
อุบลฯ เชิญชวน ชิม ช็อป แชร์ สินค้าเกษตรอินทรีย์ กระตุ้นเศรษฐกิจ ในงาน “เทศกาล ช้อปของเด่น กินของดี ที่มาระแม ครั้งที่ 1” 2 กุมภาพันธ์ นี้
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้เพิ่มช่องทางการจัดจําหน่ายสินค้า โดยจัดโครงการ เทศกาลช้อปของเด่น กินของดี ที่มาระแม ครั้งที่ 1 ในวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ณ บริเวณอาคารศาลาเรือนไทย ศาลากลางจังหวัดอุบลฯ โดยมีการนําเอาสินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าเด่นของจังหวัด สินค้าลดค่าครองชีพ ได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่างๆ เช่น สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) มูลนิธิสื่อสร้างสุข หรือโครงการกินสบายใจ และหน่วยงานราชการ สํานักงานเกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น โดยจัดกิจกรรม เพื่อเพิ่มช่องทางในการจัดจําหน่วยสินค้าเกษตรอินทรีย์ กระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งการร่วมชมนิทรรศการจากหลากหลายหน่วยงาน สําหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมสามารถสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดกิจกรรมผ่านเพจกินสบายใจ/เพจ Ubon Connect อุบลคอนเนก หรือเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201152106214
780
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่นำชาวพุทธเข้าวัด ฟังธรรม เนื่องในวันพระ ตามโครงการ “ผู้ว่าแพร่พาเข้าวัด ประชารัฐร่วมใจ ใฝ่รักษาศีล 5”
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เช้าวันนี้ (1 ก.พ.65) ซึ่งตรงกับวันพระ แรม 15 ค่ําเดือน 2 ที่วัดดงเจริญ ตําบลหัวเมือง อําเภอสอง จังหวัดแพร่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนางวันทนา พ่วงบางโพ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ ส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ร่วมทําบุญ ฟังธรรม ตามโครงการ “ผู้ว่าแพร่พาเข้าวัด ประชารัฐร่วมใจ ใฝ่รักษาศีล 5” ภายใต้การขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข จังหวัดแพร่ ประจําปี 2565 และกิจกรรมเนื่องในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนในจังหวัดแพร่ทุกภาคส่วนได้เข้าวัด สดับรับฟังคําสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นการส่งเสริมให้เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม และนําหลักศีล 5 มาปฏิบัติในชีวิตประจําวัน เพื่อสร้างสังคมมีศีล มีสุข รวมทั้งเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา และความเป็นสิริมงคลในหน่วยงาน บุคลากร และการดําเนินชีวิต โดยครั้งต่อไป คือวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันมาฆบุชา ขึ้น 15 ค่ําเดือน 3 จัดกิจกรรมที่วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ตําบลในเวียง อําเภอเมืองแพร่จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทําบุญตามโครงการ “ผู้ว่าแพร่พาเข้าวัด ประชารัฐร่วมใจ ใฝ่รักษาศีล 5” ตามวันดังกล่าว โดยให้จัดเตรียมอาหารคาวหวาน หรือข้าวสาร อาหารแห้งใส่บาตรจํานวน 9 ชุด การแต่งกาย ชุดสุภาพโทนสีขาว (เข้าวัด) #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201114445086
781
คณะทำงานฯ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำ จ.ลำปาง เสนอแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
การประชุมคณะทํางานพิจารณาวาระการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจําจังหวัดลําปาง ประจําปี 2565 ณ ห้องประชุมชั้น 2 สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลําปาง ศาลากลางจังหวัดลําปาง โดยมี นางวิลาสินี พุฒคํา รักษาราชการแทน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลําปาง เป็นประธานการประชุมสํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลําปาง ได้เสนอพิจารณาโครงการตามแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการจํานวน 2 โครงการ พิจารณาโครงการสนับสนุนศูนย์บริการคนพิการทั่วไป ประจําปี 2565 จํานวน 4 โครงการ และพิจารณาเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ จํานวน 28 ราย เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนนําเสนอให้คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจําจังหวัดลําปางพิจารณาอนุมัติต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201114635087
782
จังหวัดตรังจัดพิธีรับมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่
วันนี้ (1 ก.พ.2565) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีมอบปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ นายไพบูลย์ โอมาก และ นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ณ ห้องโถง ศาลากลางจังหวัดตรังทั้งนี้ สํานักพระราชวังได้จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ให้แก่กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุม 3 อาคารสํานักพระราชวัง โดยมี พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธาน เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยดําเนินการมอบปฏิทินหลวงฯ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด จํานวน 1 เล่ม และข้าราชการในจังหวัด จํานวน 2 เล่มสําหรับปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 เป็นสมุดปกหนังสีเหลือง อันเป็นสีประจําวันพระราชสมภพ มีตราพระปรมาภิไธยย่อ วปร. ระบุข้อความ "ปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่" รวมมีเนื้อหา อาทิ พระปฐมบรมราชโองการ ปีและศักราชทางจันทรคตินิยมอย่างไทย ประกาศสงกรานต์ วันกําหนดการ การชักและประดับธงชาติในวันสําคัญ วันพระราชสมภพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ และวันสําคัญของประเทศที่มีสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย วันสําคัญทางศาสนา วันสําคัญทางวัฒนธรรมและประเพณีจีน เป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201115824090
783
จ.นครพนม สร้างการเข้าถึงบริการ kick off ปักหมุดประสานงานคนไร้บ้าน
ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ําโขงหน้าตลาดอินโดจีน อําเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการ kick off ปักหมุดประสานงานคนไร้บ้าน ประจําปี 2565 ที่จังหวัดนครพนม โดยศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนมได้บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ที่ประกอบไปด้วย ปกครองจังหวัดนครพนม สถานีตํารวจภูธรจังหวัดนครพนม สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม สํานักงานเทศบาลเมืองนครพนม สํานักงานแรงงานจังหวัดนครพนม สมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม 2019 โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ จัดหางานจังหวัดนครพนม และหน่วยงาน ONE HOME จังหวัดนครพนม เพื่อให้บริการให้คําปรึกษาแนะนําในการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ จัดหางาน ประสานทําบัตรประชาชน ดูแลสุขอนามัย ตรวจคัดกรองโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด การสํารวจ สืบค้นข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ประสานงานนํากลุ่มเป้าหมายส่งกลับภูมิลําเนา รวมถึงประสานส่งต่อหน่วยงานอื่นเพื่อเข้ารับการบริการตามความจําเป็น การให้บริการที่พักอาศัย การพัฒนาศักยภาพร่างกาย/จิตใจ เช่น การฝึกอาชีพและการเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ ก่อนทํางานในสถานประกอบการ การสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว รวมถึงการรับแจ้งปัญหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และปล่อยขบวนเจ้าหน้าที่ออกจัดระเบียบคนไร้ที่พึ่งและคนขอทานในพื้นที่จังหวัดนครพนมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งการดําเนินงานในครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้อยู่ในสภาวะยากลําบาก คนไร้ที่พึ่งและคนขอทานได้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ ภายใต้พระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 และพระราชบัญญัติคุ้มครองการขอทาน พ.ศ.2559 ทําให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการบริการที่ดีอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ชุมชนและสังคมเกิดการยอมรับและก่อให้เกิดการแบ่งปัน การให้กําลังใจกัน ที่นําไปสู่การปรับเปลี่ยนทัศนคติของกลุ่มเป้าหมาย ให้สามารถฟื้นฟู พัฒนาสภาพร่างกายและจิตใจกลับมาดํารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ และทําให้ชุมชนมีความน่าอยู่ มีความสุขอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมปักหมุดประสานงานคนไร้บ้าน จะมีการออกทํากิจกรรมอาทิตย์ละครั้ง ในวันจันทร์หรืออังคารของสัปดาห์ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ซึ่งจะปรับเปลี่ยนจุดวนไปเรื่อย ๆ แต่จะอยู่ริมฝั่งแม่น้ําโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ประกอบไปด้วย จุดหน้าตลาดหน้าอินโดจีน จุดหน้าสถานีตํารวจภูธรจังหวัดนครพนม จุดหน้าโรงเรียนสันตยานันท์ และจุดศาลาริมน้ําแสงสิงแก้ว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201151311201
784
กศน.จังหวัดภูเก็ต จัดอบรมหลักสูตรจิตอาสา ประจำปี 2565 เพื่อให้เกิดการสร้างอุดมการณ์ สร้างจิตสำนึก สร้างระเบียบวินัย ที่พร้อมมีจิตอาสาที่จะเป็นอาสาสมัครในการช่วยเหลือประชาชน
วันนี้ (1 ก.พ.2565) ณ ห้องประชุมสํานักงาน กศน. จังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการอบรมหลักสูตรจิตอาสาของสํานักงาน กศน.จังหวัดภูเก็ต ประจําปี 2565 โดยมี นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางคนึงนิจ เกตุแก้ว ผู้อํานวยการสํานักงาน กศน.จังหวัดภูเก็ต และ นักศึกษาในสังกัดสํานักงาน กศน.จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม นางคนึงนิจ เกตุแก้ว ผู้อํานวยการสํานักงาน กศน.จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นักศึกษาในสังกัดสํานักงาน กศน. ในจังหวัดภูเก็ต มีความรู้ ความเข้าใจ มีจิตอาสาที่พร้อมอาสาสมัครในการบําเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม และร่วมปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความรักความสามัคคีแก่ประชาชน และขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริในพื้นที่ โดยกําหนดงานเป็น 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 การอบรมหลักสูตรจิตอาสา จํานวน 2 รุ่น รุ่นละ 65 คน โดยการอบรมในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนวิทยากร จากศูนย์อํานวยการจิตอาสา 904 จังหวัดภูเก็ต จํานวน 3 นาย วิทยากรจากมูลนิธิกุศลธรรม จํานวน 3 ท่าน ส่วนกิจกรรมที่ 2 การขยายผลโครงการจิตอาสา มีกิจกรรมย่อย 4 กิจกรรม ได้แก่ 1. กิจกรรมประกวดชุมชนจิตอาสา 2. กิจกรรมแข่งขันขับร้องบทเพลง พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ร.9) 3. กิจกรรมการประกวดการจัดทําโครงการจิตอาสาต้นแบบ และ 4. กิจกรรมการคัดเลือกผู้ปฏิบัติงานที่ทําคุณประโยชน์ด้านจิตอาสา นายณรงค์ วุ่นซิ้ว กล่าวว่า การจัดอบรมดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่ดีในการปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตใจที่เป็นสาธารณกุศลในการช่วยเหลือสังคม ซึ่งจะเป็นการสร้างสังคมที่ดีและมีความรักความสามัคคีของคนในสังคมซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้การจัดโครงการอบรมดังกล่าวจะส่งผลให้นักศึกษา กศน. มีความรักชาติ เกิดความสมัครสมานสามัคคี เป็นรากฐานที่เหนียวแน่น ในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญมั่นคง สามารถขยายผลให้กับประชาชนชุมชน เพื่อให้เกิดการสร้างอุดมการณ์ สร้างจิตสํานึก สร้างระเบียบวินัย ที่พร้อมมีจิตอาสาที่จะเป็นอาสาสมัครในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201123532109
785
จ.อุบลฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการพูด อ่าน เขียน ภาษาไทย ปีงบประมาณ 2565
วันที่ 31 มกราคม 2565 นายสรชาย ครองยุทธ นายอําเภอศรีเมืองใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการกิ่งกาชาดอําเภอศรีเมืองใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการพูด อ่าน เขียน ภาษาไทย ปีงบประมาณ 2565 ณ โรงเรียนบ้านดอนน้ําคํา หมู่ที่ 5 ตําบลคําไหล พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษา จํานวน 6 ทุน ถุงยังชีพ จํานวน 6 ชุด เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจให้นักเรียนดังกล่าว และได้มอบเครื่องพิมพ์ (Printer) ให้แก่โรงเรียนเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน โดยคณะกรรมการกิ่งกาชาดอําเภอ ได้ทดสอบและให้ความรู้ ซึ่งนักเรียนในโครงการมีพัฒนาการการพูด อ่าน เขียน ดีขึ้นตามลําดับ จากการสอนเสริมของครูในการใช้คู่มือส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ ชุดฝึกที่ 1-9 โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู ร่วมกิจกรรมดังกล่าวทั้งนี้ได้ดําเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201141351141
786
จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดพิธีมอบปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.30 น. ณ ห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีมอบปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ข้าราชการในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จํานวน 2 เล่ม โดยจังหวัดได้พิจารณามอบให้แก่ผู้เหมาะสม จํานวน 2 คน ได้แก่ นางทัศนีย์ ดอนเนตร์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายติราช นาถปุญโญฤทธิ์ ผู้อํานวยการสํานักพระพุทธศาสนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก สํานักพระราชวังได้จัดพิธีมอบปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ แก่กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201114810089
787
รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
รองผู้บัญชาการกองบัญชาการ ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งเป้าดึงประชาชนมีส่วนร่วมโดยยึดหลักรัฐศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาไฟป่าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ภายหลังจากที่ภาคเหนือเริ่มมีจุดความร้อนสะสมเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคเหนือตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พลตรีประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 3 นําคณะลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ โดยคณะได้เข้าพบ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สําหรับแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เบื้องต้นได้มีการระดมการแก้ไขปัญหาทุกภาคส่วน โดยนําแนวคิดการป้องกันทุกมิติ เพื่อให้แต่ละอําเภอดําเนินการสํารวจข้อมูล ปัญหา และแนวทางแก้ไข ตลอดจนแนวทางปฏิบัติ ทั้งการแบ่งพื้นที่ประสานความช่วยเหลือ การรวบรวมข้อมูล การบริหารจัดการในทุกระดับ เพื่อนําข้อมูลมาวิเคราะห์ ตลอดจนการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนเบื้องต้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการออกประกาศห้ามเผา ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 นอกจากนั้นยังมีการขอความมือ การมีส่วนร่วมในการแบ่งทื้นที่ การเผาในพื้นที่ เพื่อป้องกันและควบคุม โดยเฉพาะพื้นทีไฟป่าซ้ําซาก นอกจากนั้นยังมีการแยกพื้นทีให้ชัดเจน การชี้เป้า เพื่อบริหารจัดการ โดยให้ประชาชนจะมีส่วนร่วมโดยยึดหลักรัฐศาสตร์ รวมทั้งการสนับสนุนงบประมาณให้กับหน่วยงานต่างๆ การพัฒนาแหล่งน้ํา การต่อยอดขยายผลกิจกรรม คทช .ในพื้นทีทํากินที่เน้นประชาชนต้องดูแลรักษาป่า ตามนโยบายคนอยุ่กับป่า ส่วนปัญหาหมอกควันไม่มีพรมแดน ซึ่งต้องใช้ระดับประเทศต่อไป ในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันจะต้องฟังเสียงชาวบ้านด้วยเพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ รวมทั้งการจัดตั้งหน่วยชี้เป้าเพื่อดับไฟป่า การส่งเสริมการสร้างป่าเปียก การสร้างการรับรุ้ให้กับชาวบ้าน และจังหวัดแม่อ่องสอนได้ตั้งเป้าลดปัญหาหมอกควัน รวมทั้งการสร้างคู่มือดับไฟป่าให้ชาวบ้านและหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตอีกด้วยสําหรับสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองของจังหวัดแม่ฮ่องสอนล่าสุด พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.64 ถึง 31 ม.ค.65 จังหวัดมีจุดความร้อนสะสม จํานวน 244 จุด เปรียบเทียบกับปี 64 ห้วงเวลาเดียวกันลดลง 729 จุด คิดเป็น 74.92 % โดยส่วนใหญ่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จํานวน 155 จุด, พื้นที่ป่าสงวน 68 จุด และพื้นที่เกษตรจํานวน 11 จุด ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังไม่มีวันที่ค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.65 จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีประกาศจังหวัดเรื่องห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพื่อควบคุมการเผาอย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้จัดชุดปฏิบัติการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน กรมทหารราบที่ 7 ลงพื้นที่ในการทําแนวกันไฟ และประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าว เพื่อรณรงค์สร้างจิตสํานึกลดการเผาในชุมชน พร้อมร่วมสร้างฝายในพื้นที่ป่าเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ป่าต้นน้ําทั้งนี้กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ยังคงติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201120849093
788
เริ่มวันนี้ช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาดปี 2565 จังหวัดแพร่แก้วิกฤตหมอกควันและฝุ่นละออง
มาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่โล่งปี 2565 ของจังหวัดแพร่ เริ่มต้นวันแรกในวันนี้ (1 ก.พ.65) โดยจังหวัดประกาศให้ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์- 30 เมษายน 2565 เป็นช่วงวิกฤตหมอกควัน และกําหนดให้ทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้านในจังหวัดแพร่เป็นเขตควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง ซึ่งกําหนดการห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ริมทางหลวง พื้นที่ชุมชนและเมือง รวมถึงกิจการที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศให้งดเว้นการดําเนินงานในช่วงระยะเวลาดังกล่าว หากผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ในช่วงภัยแล้งระหว่างเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี พื้นที่จังหวัดแพร่มักประสบปัญหามลพิษจากหมอกควัน ซึ่งมีสาเหตุจากการเผาพื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร วัชพืชริมทาง และเผาขยะมูลฝอยในชุมชน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน ตลอดจนบดบังทัศนวิสัย และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอีกด้วย และในปี 2565 จังหวัดแพร่ได้กําหนดตัวชี้วัดในการจัดการไฟป่าและการเผาในที่โล่ง จะต้องเกิดจุดความร้อนหรือ Hot Spot ไม่เกินร้อยละ 30 หรือไม่เกิน 3,527 จุด หากประชาชนพบเห็นการเผาในที่โล่งทุกชนิดให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ทราบ หรือสายด่วน 191#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201121202094
789
จังหวัดแพร่ ประกาศกำหนดช่วง “วิกฤติหมอกควัน” และกำหนด “เขตควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ลงนามในประกาศจังหวัดแพร่ กําหนดช่วง “วิกฤติหมอกควัน” และกําหนด “เขตควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง” ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อควบคุมมลพิษทางอากาศ ที่จะเกิดขึ้นในห้วงดังกล่าว โดยในช่วงภัยแล้งระหว่างเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี พื้นที่จังหวัดแพร่มักประสบปัญหาฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่โล่ง ซึ่งมีสาเหตุจากการเผาฟื้นที่ป่า การเผาพื้นที่การเกษตร การเผาวัชพืชริมทาง และการเผาขยะมูลฝอยในชุมชน ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะ สภาวะอากาศที่แห้งแล้งและนิ่ง ความกดอากาศสูงแผ่เข้ามาปกคลุม ทําให้ฝุ่นละอองแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตรายต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชน เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า เป็นจํานวนมากรวมถึงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในเส้นทางต่าง ๆดังนั้น เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่โล่ง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จังหวัดแพร่จึงกําหนดให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 เป็นช่วง “วิกฤติหมอกควัน” และกําหนดให้ทุกพื้นที่ ทุกหมูบ้านในท้องที่ จังหวัดแพร่เป็น “เขตควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง” ดังนั้น จึงขอให้หน่วยงานราขการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดแพร่ ปฏิบัติดังนี้ ห้ามเผาเด็ดขาดในทุกพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ริมทางหลวง พื้นที่ชุมชนและเมือง ทั้งนี้ หากมีความจําเป็นต้องมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีการเผาในช่วงก่อนและหลังประกาศช่วงวิกฤติหมอกควัน ให้แจ้งขออนุญาตจากกํานันหรือผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองท้องที่นั้น เพื่อประสานหน่วยงานรับผิดชอบพื้นที่ ก่อนเข้าคําเนินการทุกครั้ง รวมทั้งจะต้องทําแนวกันไฟและควบคุมการเผาอย่างใกล้ชิดไม่ให้เกิดการลุกลาม ทั้งนี้จังหวัดจะพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศ ประกอบในการดําเนินการชะลอ หรือระงับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีการเผา, ผู้ประกอบกิจการที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ให้งดเว้นการดําเนินงานในช่วงระยะเวลาดังกล่าว หากค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดแพร่ เกินค่ามาตรฐานที่ 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ข้าราชการในพื้นที่ทุกคน ทุกสังกัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตําบล ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกํานัน คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการชุมชน และสมาชิกสภาท้องถิ่น ให้ถือเป็นหน้าที่ในการสอดส่อง ดูแลเอาใจใส่ และร่วมแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนจุดไฟเผาป่าหรือเผาในที่โล่งพื้นที่ต่าง ๆ มีความผิดตามกฎหมายหมายจังหวัดแพร่ ขอความร่วมมือผู้พบเห็นการเผาในที่โล่งทุกชนิด ขอให้รีบแจ้งเบาะแสหน่วยงานรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ เช่น ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนและเขตป่าไม้ให้แจ้งสายด่วน พิทักษ์ป่า 1362 หรือให้แจ้งกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือตํารวจในพื้นที่ หรือตํารวจภูธรจังหวัดแพร่ สายด่วน 191 ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ให้แจ้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเทศบาลเมืองแพร่ โทร 054-531060 ในพื้นที่ริมทางหลวง และริมทางหลวงท้องถิ่น ให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบทางหลวงนั้น หรือแจ้งสายด่วนทางหลวง 1586 สายด่วนทางหลวงชนบท 1146#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201121624095
790
Test and Go (สัญชาติไทย) ลงทะเบียน 1 ก.พ. 65
Test and Go (สัญชาติไทย) ลงทะเบียน 1 ก.พ. 65 1. ลงทะเบียน Thailand Pass ที่ https://tp.consular.go.th 2. ตรวจโควิด (ก่อนเดินทาง)3. ตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 เมื่อถึงไทย (วันที่ 1)4. ตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 (วันที่ 5)**เงื่อนไข - เดินทางมาจากทุกประเทศ/ พื้นที่- การฉีดวัคซีน- ไม่ต้องซื้อประกันภัย- มีหลักฐานชําระเงินค่าโรงแรม SHA Extra+ / AQ จํานวน 2 ครั้ง Cr # ที่มา กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศCr #ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201151206195
791
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกรายการ “ผู้ว่าฯ คุยกับประชาชน”ประเด็นการลงพื้นที่เร่งรัดผลักดันช้างป่าหลงฝูงมาจากเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด
วันนี้(1ก.พ.65) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตําบลขุนทะเล อําเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกรายการ “ผู้ว่าฯ คุยกับประชาชน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และรายการ “แหลงข่าวชาวใต้” ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (โฟนอิน)รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ ได้แก่ การลงพื้นที่เร่งรัดผลักดันช้างป่าหลงฝูงมาจากเขตอุทยานแห่งชาติน้ําตกสี่ขีด จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ามาในพื้นที่อําเภอดอนสัก ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2565 สถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ระบบการดูแลรักษาผู้ป่วย ปัจจัยที่จะก่อให้ผู้ป่วยสูงขึ้น ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี การเฝ้าระวังอัคคีภัยในช่วงตรุษจีน และ การเฝ้าระวังภัยแล้งจากกรณีมีช้างป่าหลงฝูง เข้ามาในพื้นที่อําเภอดอนสัก ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ "ช่วยเหลือช้างป่าหลงฝูง เข้าเขตป่าเลนดอนสักกลับคืนอุทยาน" ศาลาหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านห้วย ตําบลดอนสัก อําเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอําเภอดอนสัก นายวิชัย สมรูป ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 4 ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตําบลดอนสัก พร้อมเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลใต้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 4 มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมประชุมวางแผน หาแนวทางเพื่อเร่งดําเนินการผลักดันให้ช้างป่ากลับคืนถิ่นที่อยู่อาศัย จากรายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด มีชาวบ้านพบร่องรอยของช้างในพื้นที่สวนปาล์ม ใกล้กับบางโสม หมู่ที่ 9 ตําบลดอนสัก ซึ่งเป็นที่มีแหล่งน้ําจืด ก่อนหน้านี้พบร่องรอยว่าช้างป่าตัวดังกล่าว ว่ายน้ําข้ามปากคลองดอนสักมาในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีเรือวิ่งไป - มา ซึ่งทีมค้นหามีแนวทาง คือผลักดันช้างโดยวิธีต้อนกลับในทิศทางเดิมที่เข้ามา ขณะนี้ชุดปฏิบัติการผลักดันช้างของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะเข้ามาเริ่มปฏิบัติในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ต่อไปรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า การประชุมหารือกรณีไล่ต้อนช้างป่าในพื้นที่หมู่ที่ 9 ตําบลดอนสัก ซึ่งฝ่ายปกครองอําเภอดอนสัก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มปฏิบัติการไล่ต้อนช้างป่า โดยแบ่งการปฏิบัติ แบ่งกําลังจัดแนวบีบให้ช้างป่าไปตามแนวที่กําหนด ให้ชุดติดตามเดินตามรอยช้าง และไล่ต้อนช้างป่า และได้ทําการปิดถนนสาย 4142 เพื่อบังคับให้ช้างป่าข้ามถนน เมื่อช้างป่าข้ามถนนไปแล้ว ชุดติดตามได้เฝ้าประเมินผล เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน อาจเกิดอันตรายกับชุดติดตามได้ ซึ่งขณะนี้ช้างป่าได้เดินไปตามที่เจ้าหน้าที่กําหนด และซึ่งจะเร่งดําเนินการไล่ต้อนให้ช้างป่ากลับคืนสู่ถิ่นที่มาโดยไว. #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201133922122
792
เริ่มแล้ว งานนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง จ.จันทบุรี ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิด -19 อย่างเข้มงวด และจำกัดนักท่องเที่ยวเพียงวันละ 16,000 คน ไม่สามารถ Walkin ต้องจองคิวผ่านแอป QueQ เท่านั้น
นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า งานนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง เริ่มให้นักแสวงบุญ และนักท่องเที่ยว ขึ้นมนัสการตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ – 2 เมษายน 2565 หลังจากปีที่ผ่านมา ปิดเนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 โดยในปีนี้มีมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันเผยแพร่ระบาดนักท่องเที่ยว ต้องจองผ่านแอป QueQ ไม่สามารถ Walkin ได้ ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ตรวจโควิด -19 ก่อนเดินทางไม่เกิน 3 วัน และต้องแสดงผลการตรวจว่าไม่พบเชื้อ ส่วนผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด -19 ที่ได้รับการรักษาหายแล้วต้องมีเอกสารรับรองผลการรักษา และจํากัดจํานวนนักท่องเที่ยว ที่จะขึ้นเขา เพียงวันละ 4 รอบ รอบละ 4,000 คน หรือวันละไม่เกิน 16,000 คน ธงชัย มีทับทิม ทีมข่าวสวท.จันทบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201120504091
793
จ.ลำพูน เดินหน้าต่อเนื่อง แก้ไขปัญหากำจัดผักตบชวาในแม่น้ำกวง แม่น้ำสายหลักของจังหวัด ขอความร่วมมือประชาชนริม 2 ฝั่งร่วมฟื้นฟู
จังหวัดลําพูนได้มีการยกระดับการแก้ไขปัญหา และกําจัดผักตบชวาในแม่น้ํากวงเป็นวาระของจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่กระจายของผักตบชวา ตลอดจนคุณภาพน้ําให้มีความอุดมสมบูรณ์ ตามนโยบายรัฐบาลนายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน จึงได้แต่งตั้งคณะทํางานแก้ไขปัญหาและกําจัดผักตบชวาในแม่น้ํากวงขึ้น บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยล่าสุด วันที่ 31 มกราคม 2565 หลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดลําพูน ได้เร่งกําจัดผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ํากวงตลอดสาย เพื่อปรับสมดุลของระบบนิเวศน์ลดปัญหาน้ําเน่าเสียอย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนที่อาศัยอยู่ติด 2 ฝั่งแม่น้ําร่วมกันดูแลรักษา เพื่อให้ทัศนียภาพเกิดความสวยงาม และป้องกันไม่ให้สิ่งปลูกสร้างเกิดความเสียหายในฤดูน้ําหลาก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201122202098
794
จังหวัดน่าน สถานการณ์โควิด-19 น่าห่วง ติดเชื้อวันเดียวกว่า 100 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่ตลาดสดพ่อค้าแม่ค้าติดแล้ว 80 กว่าราย
สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดน่าน ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มน่าห่วง โดยล่าสุดวันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรณีโรคโควิด-19 สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน รายงานพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งจังหวัดเพิ่มขึ้น 98 ราย กระจายอยู่ในคลัสเตอร์โรงเรียน สถานศึกษา และงานเลี้ยงงานแต่งงานและล่าสุดพบคลัสเตอร์ใหม่ในตลาดสดตั้งจิตนุสรณ์ และตลาดราชพัสดุ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในเขตเทศบาลเมืองน่าน พบพ่อค้า แม่ค้า ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 84 กว่าราย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างสอบสวนโรค และเฝ้าระวังซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่าพฤติกรรมเสี่ยง มาจากกิจกรรมที่มีการรวมตัวกัน โดยมีการพบปะและเลี้ยงสังสรรค์ จากนั้นเชื้อลุกลามสู่ครอบครัวและบุตรหลานที่เป็นนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งขยายวงในชุมชน และจากการสอบสวนโรคการแพร่ระบาดในพื้นที่ตลาดขนาดใหญ่ 2 ตลาดในพื้นที่เทศบาลเมืองน่าน เกิดจากหลานของผู้ค้าตลาดได้ไปสัมผัสกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อสถานบันเทิง แล้วนํามาติดผู้ค้าในตลาด ก่อนจะนํามาแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ค้าในตลาด สาเหตุพฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดการแพร่ระบาดคือ การถอดหน้ากากอนามัยแล้วจับกลุ่มพูดคุยกัน โดย 2 ตลาดใหญ่มีผู้ค้าในตลาดมากกว่า 580 ราย พบผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว 84 ราย ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์โอมิครอนทั้งนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดน่าน พบผู้ป่วยรายใหม่ 98 ราย ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จํานวน 1,605 ราย ยังรักษาอยู่ 456 ราย อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางจังหวัดน่าน โดยทีมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคโควิด-19 สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน เร่งทําการสอบสวนโรค พร้อมประชาสัมพันธ์ เฝ้าระวัง ป้องกันตัวเอง กับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลาปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และ DMHTTA อย่างเคร่งครัด ตรวจ ATK หากสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือไปพื้นที่เสี่ยงมาหรือไม่สบายหรือมีอาการสงสัยด้าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ทางจังหวัดน่านได้เปิดจุดตรวจหาเชื้อโควิด โดยวิธี RT PCR สืบเนื่องมาจากมีการพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ค้าในตลาดตั้งจิตนุสรณ์และตลาดราชพัสดุ ซึ่งมีผู้ค้าในตลาดทั้ง 2 รวาม 500 กว่าคน ผลการตรวจผู้ค้าในตลาดตั้งจิตนุสรณ์ก่อนหน้านี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อ ยืนยันแล้ว 43 ราย และตลาดราชพัสดุ ยืนยันแล้ว 41 ราย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
น่าน
สวท.น่าน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201122905101
795
จังหวัดเพชรบุรี สานพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่งเสริมบุคลากรทางการศึกษา จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มอบเกียรติบัตรให้ผู้บริหารและครูดีเด่น โรงเรียนสุวรรณรังสฤษฎ์วิทยาลัย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (1 กุมภาพันธ์ 2565) นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พระภิกษุสงฆ์ นายกิตติพงษ์ เทพพานิช นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเพชรบุรี ผู้จัดการโรงเรียน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร และคณะครู ร่วมงานครบรอบการก่อตั้งโรงเรียนสุวรรณรังสฤษฎ์วิทยาลัย ครบรอบ 90 ปี โดยจัดพิธีศาสนกิจ ณ หอประชุม วัดมหาธาตุวรวิหาร อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี โรงเรียนสุวรรณรังสฤษฎ์วิทยาลัย เป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ บริเวณวัดมหาธาตุวรวิหาร ครั้งแรกตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการศึกษาของชาติ ช่วยเหลือให้บุตรหลานชาวเพชรบุรีอ่านออกเขียนได้ สมัยก่อนใช้ชื่อว่า “โรงเรียนวัดมหาธาตุ”เปิดสอน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2475 เปิดสอนตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก จนถึงชั้นมัธยมปีที่ 3 มุ่งส่งเสริมอนาคตทางการศึกษาให้กับนักเรียน โดย นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ประกอบพิธีเปิดกรวย ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ผู้บริหารและครูดีเด่น เนื่องในวันจัดงานครบรอบการก่อตั้งโรงเรียนสุวรรณรังสฤษฎ์วิทยาลัย ครบรอบ 90 ปีจามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201125855119
796
จังหวัดเพชรบุรี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบพิธีมอบปฏิทินหลวงพระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่ สร้างขวัญ กำลังใจให้เหล่าข้าราชการ
วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 09.10 น. นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ ,นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมพิธีมอบปฏิทินหลวง ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี โดยนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ โดยมีผู้เข้ารับมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งนี้ จํานวน 2 ราย ประกอบด้วยนายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ ,นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ด้วยความน้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อจักได้นําไปใช้ประโยชน์เป็นข้อมูลอ้างอิงการประกอบพิธี และทราบถึงกําหนดการพระราชพิธี งานพิธีประจําปี วันสําคัญของชาติ วันสําคัญต่างๆ ท่ามกลางความยินดีของหัวหน้าส่วนราชการที่ร่วมพิธี สําหรับปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 เป็นสมุดปกหนังสีเหลือง อันเป็นสีประจําวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีตราพระปรมาภิไธยย่อ วปร. ระบุข้อความ "ปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่” มีเนื้อหาข้อมูลความสําคัญ อาทิ ปฏิทินหลวง พระปฐมบรมราชโองการ พระราชดํารัส ปีและศักราชทางจันทรคตินิยมอย่างไทย วันพระราชสมภพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ และวันสําคัญทางวัฒนธรรม ฯลฯ นํามาซึ่งขวัญ กําลังใจแก่เหล่าข้าราชการเป็นที่สุด จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรีรายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201132741120
797
รับตรุษจีน อุบลฯ ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ยังเพิ่มสูง จากคลัสเตอร์โรงเรียนกีฬา และตลาด
ศูนย์ EOC COVID – 19 จังหวัดอุบลราชธานี รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 1 ก.พ.2565 ผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น มีพบผู้ติดเชื้อโควิด 174 ราย ติดเชื้อในพื้นที่ 160 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 14 ราย สําหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่มีการติดเชื้อโดยไม่ทราบปัจจัยเสี่ยง 91 ราย ใน 12 อําเภอ พบมากที่สุด อ.เมืองอุบลฯ 50 ราย รองลงมา อ.วารินชําราบ 15 ราย และที่น่าเป็นห่วงคือ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากหลายคลัสเตอร์ จํานวน 134 ราย ได้แก่ นักเรียน นักกีฬา บุคลากรในโรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี / ตลาดสันติสุข 2 บ้านปลาดุก อ.เมืองอุบลฯ / งานศพ ม.2 ต.โนนก่อ อ.สิรินธร / งานแต่งงาน ม.15 ต.คันไร่ อ.สิรินธร / งานบวช ม.2 ต.กุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร / งานศพ ม.2 ต.ท่าช้าง อ.สว่าง วีระวงศ์ และงานแต่งงาน ม.5 ต.สีวิเชียร อ.น้ํายืน ขณะที่ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 176 ราย สรุปขณะนี้ จังหวัดอุบลราชธานี มีผู้ป่วยสะสม 8,500 ราย / เสียชีวิต สะสม 12 ราย / รักษาหายสะสม 6,611 ราย และกําลังรักษา 1,765 ราย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201143255166
798
จ.แม่ฮ่องสอน วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดยืนยัน 9 ราย เข้าข่าย 26 ราย สรุปยอดเดือนแรกของปีมีผู้ป่วยโควิดสะสม 417 ราย เข้าข่าย 1,102 ราย
ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 (เวลา 11.00 น.) พบว่าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม (ตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ) จํานวนทั้งสิ้น 417 ราย เสียชีวิต 3 ราย (0.72%) รักษาหายแล้ว 317 ราย (76.02%) ยังอยู่ระหว่างรักษา 97 ราย (23.26%) มีอาการเล็กน้อย 86 ราย ปานกลาง 8 ราย และรุนแรง 3 ราย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม จํานวน 30 ราย ศูนย์แยกกักโรคชุมชน (CI) จํานวน 28 ราย และแยกกักตนเองที่บ้าน (HI) จํานวน 39 ราย ผู้ป่วยเข้าข่ายสะสม (ตรวจ ATK ผลเป็นบวก) จํานวนทั้งสิ้น 1,102 ราย รักษาหายแล้ว 787 ราย (71.42%) ยังอยู่ระหว่างรักษา 315 ราย (28.58%) รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 4 ราย รักษาอยู่ที่ศูนย์แยกกักโรคชุมชน (CI) จํานวน 114 ราย และแยกกักตนเองที่บ้าน (HI) จํานวน 197 รายวันนี้ มีผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR ทั้งหมด 131 ชุด พบเชื้อ 9 ราย อําเภอเมือง 2 ราย อําเภอขุนยวม 2 ราย อําเภอแม่สะเรียง 4 ราย อําเภอปางมะผ้า 1 ราย และตรวจด้วย ATK ทั้งหมด 424 ชุด พบเชื้อ 26 ราย อยู่ที่อําเภอเมือง 5 ราย อําเภอแม่สะเรียง 20 ราย และอําเภอสบเมย 1 รายจากข้อมูลการดําเนินการฉีดวัคนป้องกันโรค COVID-19 แก่ประชาชนในกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2565 ประชาชนได้รับการฉีดวัคชีน เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 จํานวน 166,370 คน (67.70 %) ฉีดครบ 2 เข็ม จํานวน 129,288 คน (52.61 %) และฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 จํานวน 23,375 คน (9.51 %) จึงขอเชิญชวนเยาวชนอายุ 12 - 18 ปี (ทั้งในและนอกระบบการศึกษา) ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัว หญิงตั้งครรภ์ ประชาชนทั่วไป ทุกคน ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ติดต่อ สอบถาม ณ โรงพยาบาล หรือ รพ.สต.ทุกแห่ง เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็ม 1 หรือกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและสังคม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220201134537124
799