NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจและติดตามผลการปลูกกัญชาตามแผนการปลูกและการใช้ประโยชน์
ที่อาคารวิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม ตําบลบางแก้ว อําเภอเมืองสมุทรสงคราม นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงพื้นที่ตรวจและติดตามผลการปลูกกัญชาตามแผนการปลูกและการใช้ประโยชน์จากกัญชา โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สมเดช รุ่งศรีสวัสดิ์ คณบดีวิทยาลัย สหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาและผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อม กล่าวว่า ขณะนี้กระแสการปลูกกัญชาและการทําธุรกิจกัญชากําลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งด้านการนํากัญชาไปใช้ทางการแพทย์ การเป็นพืชเศรษฐกิจ หรือนําไปเป็นส่วนผสมของยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ เครื่องสําอาง อาหาร และเครื่องดื่ม แต่เนื่องจากขณะนี้กฎหมายยังไม่เอื้ออํานวยให้ดําเนินการได้ เนื่องจากยังมีขั้นตอนและข้อปฏิบัติมากมาย อีกทั้งเกษตรกรและนักธุรกิจจํานวนมากยังไม่รู้จักวิธีการปลูก การคัดเลือกสายพันธุ์กัญชา การสกัด การผลิต ตลอดจนการนํากัญชาไปใช้รักษาโรคหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วย หรือบําบัดอาการของโรคต่างๆ ให้ทุเลาลง จําเป็นต้องมีการศึกษา ค้นคว้าและทําวิจัยทั้งในห้องปฏิบัติการทดลอง และลงมือปฏิบัติจริง ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาร่วมกับ บริษัท ธาราเธรา คอร์ปอเรชั่น จํากัด ได้เปิดหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์มาแล้ว จํานวน 3 รุ่น เพื่อศึกษาค้นคว้า วิจัย และพัฒนากัญชาจํานวน 1,000 ต้น ภายในห้องทดลองขนาด 200 ตารางเมตร ผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและแพทย์เป็นหลักโดย วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้รับใบอนุญาตที่ 22/2563 ออกให้เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 รอบเก็บเกี่ยวรอบนี้เป็นรอบที่ 3 ของปี 2564 โดยมีโครงการศึกษาฤทธิ์ของตํารับยาในผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับ ผลิตเป็นตํารับยาแผนไทย,โครงการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการลดความวิตกกังวล,ผลิตยาสมุนไพร 16 ตํารับ,โครงการพัฒนากัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสนับสนุนกัญชาแก่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเป็นต้น จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าเยี่ยมชมการปลูกกัญชาภายในห้องทดลองและเก็บเกี่ยวช่อดอกกัญชาเป็นปฐมฤกษ์อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202101610397
900
จังหวัดลพบุรี จัดพิธีรับมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุข
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. ที่ห้องโถง ชั้น 2 สํานักงานเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี(หลังใหม่) อําเภอเมืองลพบุรี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ให้แก่ข้าราชการในจังหวัดลพบุรี จํานวน 2 เล่ม โดยจังหวัดได้พิจารณามอบให้แก่ผู้เหมาะสม 2 คน ได้แก่ นายสุภกิณห์ แวงชิน และนายวชิระ เกตุพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีสําหรับปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 เป็นสมุดปกหนังสีเหลือง อันเป็นสีประจําวันพระราชสมภพ มีตราพระปรมาภิไธยย่อ วปร. ระบุข้อความ "ปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่" รวมมีเนื้อหา อาทิ พระปฐมบรมราชโองการ ปีและศักราชทางจันทรคตินิยมอย่างไทย ประกาศสงกรานต์ วันกําหนดการ การชักและประดับธงชาติไทยในวันสําคัญ วันพระราชสมภพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ และวันสําคัญของประเทศที่มีสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย วันสําคัญทางศาสนา วันสําคัญทางวัฒนธรรมและประเพณีจีนเป็นต้นทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เป็นผู้แทนรับมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสําหรับความสุขปีใหม่ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมี พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุม 3 อาคารสํานักพระราชวัง หน่วยงานราชการในพระองค์ 904 เพื่อมอบให้แก่ข้าราชการในจังหวัดต่างๆ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202103856419
901
คณะทำงานตรวจความพร้อมและความเหมาะสม ของศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานอำนาจเจริญ
นายเพชรเหล็ก ทองภูธร ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานอํานาจเจริญ พร้อมด้วยคณะทํางานตรวจความพร้อมและความเหมาะสม ของศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ดําเนินการตรวจความพร้อมสถานที่ เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ ในการขออนุญาตจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และเป็นผู้ดําเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ของโรงเรียนเอกวรรณวิชาชีพอํานาจเจริญ สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 1 โดยมี พันโทประจวบ สุรเกษ ที่ปรึกษาสถานศึกษาเครือเอกวรรณ ผู้บริหาร คณะครูของโรงเรียนฯให้การต้อนรับ และเข้าพบนายสํารวย โพธิ์ไทรย์ ผู้อํานวยการวิทยาลัยเทคนิคอํานาจเจริญ ประธานอาชีวศึกษาจังหวัดอํานาจเจริญ เพื่อหารือแนวทางการเพิ่มสาขาในการเป็นผู้ดําเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112006449
902
นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการดำเนินงานมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกฯ ร่วมประชาสัมพันธ์การจำหน่ายดอกป๊อปปี้
คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และประธานกรรมการจัดจําหน่ายดอกไม้ฯ มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมด้วยคุณหญิงทรงสมร คชเสนี กรรมการจัดการและเหรัญญิก พลตรีหญิง กุมาริกา วีระมงคล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิฯ และนางนันทวัน เมฆใหญ่ สุวรรณปิยะศิริ กรรมการอํานวยการมูลนิธิฯ และประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อมอบดอกไม้ที่ระลึกวันทหารผ่านศึก (ดอกป๊อปปี้) ซึ่งตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี และเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดจําหน่ายดอกไม้ที่ระลึกวันทหารผ่านศึก (ดอกป๊อปปี้) เพื่อนํารายได้ไปช่วยสงเคราะห์แก่ครอบครัวทหารผ่านศึกซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าร่วมด้วยนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมการดําเนินงานของมูลนิธิฯ ในการดําเนินการจัดทําดอกป๊อปปี้ ดอกไม้สัญลักษณ์ของทหารผ่านศึกและจําหน่ายเพื่อนํารายได้ไปช่วยเหลือและสงเคราะห์ครอบครัวเหล่าทหารผ่านศึกทั่วประเทศ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาปกป้องประเทศชาติ ซึ่งทหารทุกคนถือเป็นครอบครัวเดียวกันและหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บก็ยังมีอายุน้อยอยู่ จึงขอเป็นกําลังใจให้กับทุกคนในการทํางานต่อไป โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ร่วมอุดหนุนดอกป๊อปปี้กับทางมูลนิธิฯ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีนว่า ขอให้ทุกคนมีความสุข สมหวังและสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนนาน เพื่อทําประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไปคุณหญิงแสงเดือน กล่าวขอบคุณ นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้เข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดจําหน่ายดอกไม้ที่ระลึกวันทหารผ่านศึก (ดอกป๊อปปี้) ซึ่งตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เพื่อนํารายได้ไปช่วยสงเคราะห์แก่ครอบครัวทหารผ่านศึกซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ โดยปีนี้เนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทางมูลนิธิฯ จึงได้ส่งดอกป๊อปปี้ให้หน่วยงานราชการและกระทรวงต่างๆ เพื่อขอความอนุเคราะห์นําไปจําหน่ายภายในหน่วยงานด้วย ทั้งนี้ คุณหญิงแสงเดือน ยังกล่าวขอเป็นกําลังใจให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการทํางานบริหารประเทศต่อไปสําหรับการจําหน่ายดอกป๊อปปี้ ปีนี้จะเริ่มจําหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2565 มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกฯ ขอเชิญชวนประชาชนและผู้ที่สนใจสั่งซื้อดอกป๊อบปี้และผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิฯ ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 02 244 3303 , 092 750 2642 ID Line : @poppythailand , https://shop.line.me/@poppythailand โดยชําระเงินผ่านทางบัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาสนามเป้า ชื่อบัญชีมูลนิธิสงเคราะห์ครอบทหารผ่านศึก เลขที่บัญชี 029-2-30712-8
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202105459438
903
100 ปีแห่งการสถาปนา “ยุวกาชาดไทย”
สํานักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย จัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส 100 ปี แห่งการสถาปนา “ยุวกาชาดไทย” ในรูปแบบออนไลน์ โดยมี นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธาน พร้อมด้วย นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย นางสุนันทา ศรอนุสิน ผู้อํานวยสํานักงานยุวกาชาด และรักษาการในตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานอาสากาชาด และเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย ร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมศิริ สิริโยธิน ชั้น 4 อาคารเฉลิม บูรณะนนท์ สภากาชาดไทย อีกทั้งมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศภายในงานผ่านเฟซบุ๊กเพจของสภากาชาดไทย ได้แก่ เพจ : The Thai Red Cross Society เพจ : อาสายุวกาชาด สภากาชาดไทย และเพจ : สํานักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสาร อีกทั้ง ในโอกาสพิเศษนี้ ได้เปิดให้อาสายุวกาชาด สมาชิกยุวกาชาด และประชาชนทั่วประเทศ ที่รับชมการถ่ายทอดสด ได้ลงทะเบียนรับเกียรติบัตรออนไลน์ “ความทรงจําแห่งศตวรรษ 100 ปี ยุวกาชาดไทย” เป็นที่ระลึกอีกด้วยสําหรับโครงการและกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาส “100 ปี ยุวกาชาดไทย” อาทิ โครงการล้านต้นบนแผ่นดิน สืบสาน รักษา ต่อยอด 99 สู่ 100 ปี ยุวกาชาดไทย, โครงการป่าที่ภักดี, สร้างสรรค์สารคดีเชิงประวัติศาสตร์ 100 ปี ยุวกาชาด เรื่อง “หน่อศานติ”, สร้างสรรค์ผลงานเพลง “พลังอาสายุวกาชาด” ขับร้องโดย ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม, โครงการธรรมะสู่ดวงใจ ยุวกาชาดไทย 100 ปี และกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตในช่วงวิกฤตโลหิตขาดแคลน เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เป็นต้นนางสุนันทา ศรอนุสิน ผู้อํานวยการสํานักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย และรักษาการในตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย กล่าวถึงความเป็นมาของยุวกาชาดไทย ว่า “กิจการยุวกาชาด เกิดจากมติที่ประชุมสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ เมื่อปีพ.ศ. 2462 โดยที่ประชุมเสนอว่า สภากาชาดทุกชาติควรจัดตั้งกาชาดสําหรับเด็ก ซึ่งในขณะนั้น สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ดํารงตําแหน่งอุปนายกสภากาชาดสยาม ทรงเป็นผู้เข้าร่วมประชุมนั้นด้วย ภายหลังจึงทรงก่อตั้งกิจการยุวกาชาดขึ้น เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2465 โดยเมื่อแรกก่อตั้งนั้นใช้ชื่อว่า “อนุสภากาชาดสยาม” โดยมีวัตถุประสงค์ให้เด็กเป็นคนดี รู้จักรักษาสุขภาพอนามัย มีใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น และรู้จักการบําเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น โดยในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้น กิจการยุวกาชาดขึ้นกับกรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงศึกษาธิการและสภากาชาดไทยได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลรับผิดชอบร่วมกัน ต่อมาในปี พ.ศ.2546 รัฐบาลได้มีการปฏิรูประบบราชการ และมีการปรับโครงสร้างของกระทรวง ทบวง กรม มีการยุบกรมพลศึกษาเข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยุวกาชาดในส่วนของสภากาชาดไทย ได้กลับมาที่สภากาชาดไทย ชื่อว่า สํานักงานยุวกาชาด ยุวกาชาดในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้กลับไปที่กระทรวงศึกษาธิการ ชื่อว่า สํานักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียนโดยปัจจุบันกิจการยุวกาชาดไทย ได้แบ่งความรับผิดชอบออกเป็น 2 ส่วน คือ กระทรวงศึกษาธิการและสภากาชาดไทย โดยแบ่งความรับผิดชอบอย่างชัดเจน กล่าวคือ ยุวกาชาดที่มีอายุ 7-18 ปี เรียกว่า “สมาชิกยุวกาชาด” ให้สํานักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ดูแล ส่วนยุวกาชาดที่มีอายุ 15-30 ปี เรียกว่า “อาสายุวกาชาด” ให้สํานักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย เป็นผู้ดูแล โดยทั้ง 2 หน่วยงาน ได้มีการประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา” ภารกิจของสมาชิกยุวกาชาดและอาสายุวกาชาด คือการมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนเป็นคนดี รู้จักรักษาอนามัยตนเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณา ไม่เลือกชาติ ศาสนา มีความเสียสละ บําเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มีจิตอาสา พึ่งพาได้ มีคุณธรรม และเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติในอนาคตขอเชิญผู้สนใจร่วมเป็นพลังอาสายุวกาชาดร่วมกับสํานักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย เพียงโหลดแอปพลิเคชัน “อาสาสมัครกาชาด” สอบถามเพิ่มเติมที่เฟซบุ๊กเพจ : อาสายุวกาชาด สภากาชาดไทย โทร 0 2252 5002-3 กด 1 หรือ 1664#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND#100ปียุวกาชาดไทย #ยุวกาชาดไทย
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202104449424
904
สมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจติดตามและให้คำแนะนำผู้ปฏิบัติงานและผู้ประกอบการธุรกิจจำหน่ายสุกรในจังหวัดสมุทรสาคร
เมื่อเวลา 17.45 น. นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ผู้อํานวยการสํานักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง นําทีมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สํานักงานจังหวัดฯ อําเภอเมืองฯ พาณิชย์จังหวัดฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามและให้คําแนะนําผู้ปฏิบัติงานและผู้ประกอบการธุรกิจจําหน่ายสุกรในจังหวัดสมุทรสาคร โดยวันนี้ได้เข้ามาที่ บริษัท สินชัยห้องเย็น จํากัด ม.4 ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ผลการดําเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ปฏิบัติงานและผู้ประกอบการ รับทราบและถือปฏิบัติตามแนวทางตามมาตการหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทยด้าน นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็ต้องการแจ้งให้ผู้ประกอบการห้องเย็นหรือผู้ที่ครอบครองเนื้อหมูหรือที่เรียกว่าโภคภัณฑ์ตามประกาศดังกล่าว ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครได้ทราบ เพื่อให้ดําเนินการตามประกาศได้อย่างถูกต้อง โดยย้ําว่าเจ้าของเนื้อหมูยังสามารถดําเนินการจําหน่ายหรือจัดส่งสินค้าได้ตามปกติ เพียงแจ้งให้นายอําเภอตามพื้นที่นั้นทราบก่อน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันตก
สมุทรสาคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112448458
905
การฝึกอบรมฝีมือแรงงาน การจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและเพิ่มจำนวนสาขา การขอรับรองเป็นศูนย์ประเมินและรับรองความรู้ความสามารถ
สํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานอํานาจเจริญ เข้าหารือกับนายสํารวย โพธิ์ไทรย์ ผู้อํานวยการวิทยาลัยเทคนิคอํานาจเจริญประธานอาชีวศึกษาจังหวัดอํานาจเจริญ ถึงแนวทางการดําเนินงานตามนโยบายของผู้บริหารเกี่ยวกับการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน การจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและเพิ่มจํานวนสาขา การขอรับรองเป็นศูนย์ประเมินและรับรองความรู้ความสามารถ ตลอดจนการใช้เครื่องมือเครื่องจักรร่วมกันในการพัฒนาฝีมือแรงงานให้กับประชาชนในจังหวัดอํานาจเจริญ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112330454
906
จ.ลำปางพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 58 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจําวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 09.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่ 58 ราย เป็นผู้ติดเชื้อยืนยันตรวจด้วยวิธี RT-PCR 20 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจด้วยวิธี ATK 38 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสม 2,369 ราย อยู่ระหว่างรักษา 304 ราย รักษาหายกลับบ้านสะสม 2,063 ราย และเสียชีวิตสะสม 2 รายสําหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ เวลา 09.00 น. ของวันเดียวกัน จังหวัดลําปางวัคซีนไปแล้ว 1,074,196 เข็ม จําแนกเป็นเข็มที่ 1 จํานวน 477,878 คน เข็มที่ 2 จํานวน 451,396 คน เข็มที่ 3 จํานวน 140,982 คน และเข็มที่ 4 จํานวน 3,940 คนจังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรค DMHTTA ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิด-19 ลําปาง โทร. 093 140 8023 ในวันเวลาราชการ และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือสอบถามที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202110339440
907
พัฒนาฝีมือแรงงานพะเยา สืบสานวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของชาวบ้าน เร่งยกระดับฝีมือแรงงาน “การทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่” หารายได้ช่วงโควิด
สํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพะเยา จัดฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอาชีพยกระดับฝีมือสาขา การทําเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ จํานวน 18 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 1- 3 กุมภาพันธ์ 2565 ณ อาคารอเนกประสงค์บ้านเจน หมู่ที่ 8 ตําบลบ้านเจน อําเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยานายอนุชา ละอองพันธ์ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพะเยา กล่าวว่า การทําเครื่องจักสานจากไม้ไผ่เป็นงานศิลปหัตถกรรม ที่สะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน มีคุณค่าทางศิลปะ และความงดงาม จากการฝึกอบรมได้ประโยชน์จากการนําความรู้ ทักษะ ที่ได้รับ สร้างงาน สร้างรายได้ ตลอดจนสืบสานงานฝีมือที่สืบทอดกันมาสานต่อคู่ไว้ให้อยู่กับแรงงานที่มีฝีมือต่อไป ในการฝึกอบรมในสาขาดังกล่าว เป็นไปตามแผนฝึกอบรมโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจําปีของจังหวัดพะเยา ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ภายใต้การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนและสังคมวิถีคนพะเยา โดยสํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานได้จัดทําแผนการฝึกอบรมจํานวน 10 สาขา โดยกําหนดแล้วเสร็จตามโครงการภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จากการฝึกอบรมที่ผ่านมา ผู้รับการฝึกที่ผ่านตามเกณฑ์ภาคความรู้ ภาคปฏิบัติ จะได้รับวุฒิบัตรรับรองผ่านการฝึกอบรมจาก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสามารถนําความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอด นําไปประกอบอาชีพ สร้างงาน มีรายได้ ต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
พะเยา
สวท.พะเยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202111635446
908
สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ให้คำปรึกษา ITA อบต.ในพื้นที่ เพื่อติวเข้มการประเมิน ITA ทั้งให้คำปรึกษาและแนะนำในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
นายราม วสุธนภิญโญ ผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช.ประจําจังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต และผู้ช่วยนักวิจัย ลงพื้นที่ให้คําปรึกษา ITA ที่ อบต.หนองบ่อ อบต.นาโต๊ะหมิง อบต.นาโยงใต้ เพื่อติวเข้มการประเมิน ITA วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของคะแนนในปีที่ผ่านมา ทั้งให้คําปรึกษาและแนะนําในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล โดย ป.ป.ช. หวังเป็นอย่างยิ่งให้หน่วยงานรัฐ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ การลงข้อมูลในระบบ และเล็งเห็นความสําคัญของงานประเมินคุณธรรม จริยธรรมและความโปร่งใส จนสามารถยกระดับผลคะแนนในปีนี้และผ่านเกณฑ์ได้ในที่สุด ทั้งนี้ ปัญหาการทุจริตไม่เพียงสร้างผลกระทบแต่ในประเทศเท่านั้น ยังกระจายความรุนแรงไปทั่วโลก จากที่ทุกภาคส่วนของประเทศไทยพยายามแก้ปัญหาการทุจริตอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อีกทั้งการต่อต้านทุจริตยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดําเนินงานของหน่วยงานรัฐ ITA ถือเป็นมาตรการ การป้องกันทุจริตเชิงรุกที่สําคัญ เมื่อหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศมีการป้องกันการทุจริตในลักษณะดังกล่าว ก็จะทําให้การทุจริตในภาพรวมของประเทศลดลงและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการร่วมประเมิน ITA จะช่วยลดความเสี่ยง หรือเป็นช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดการทุจริต การรับสินบน ผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งจะช่วยให้สามารถยับยั้งการทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเท่าทัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112330455
909
แขวงทางหลวงชนบทตรัง ดำเนินการระวังชี้แนวเขตทางหลวงชนบท สาย ตง. 1016 บ.เขาวิเศษ เพื่อให้ได้เขตทางหลวงชนบทตามมาตรฐานชั้นทาง
นายโยธา ศรีโยธา นายช่างโยธาอาวุโส รักษาราชการแทนผู้อํานวยการแขวงทางหลวงชนบทตรัง เปิดเผยว่า แขวงทางหลวงชนบทตรัง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ฯ เข้าดําเนินการระวังชี้แนวเขตทางหลวงชนบท สาย ตง.๑๐๑๖ แยก ทล. 4 - บ.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ( ช่วง กม.ที่ 14+ 700 RT ) การระวังชี้แนวเขตและลงชื่อรับรองแนวเขต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสํานักงานที่ดิน และประชาชนร่วมสังเกตการณ์ เพื่อให้ได้เขตทางหลวงชนบทตามมาตรฐานชั้นทาง ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบท เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านงานทางการก่อสร้างทางและบํารุงรักษาทางหลวงชนบท ให้มีโครงข่ายทางหลวงชนบทที่สมบูรณ์ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งพัฒนาและเชื่อมโยงโครงข่ายทางหลวงชนบทให้สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาประเทศ ดังนั้น จึงต้องมีเขตทางหลวงและพื้นที่ที่กรมทางหลวงชนบท เป็นผู้ดูแลที่ชัดเจน และการพิสูจน์ทราบเขตทางหลวง จะทําให้เกิดความชัดเจนในเขตทางหลวง เพื่อสามารถดูแลรักษาสินทรัพย์ในความรับผิดชอบ และสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112500459
910
สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีเตือนภัยการบริโภคไส้กรอกไม่ได้มาตรฐานอาจป่วยเมทฮีโมโกลบิน
สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีเตือนภัยการบริโภคไส้กรอกไม่ได้มาตรฐานอาจป่วย "เมทฮีโมโกลบิน" โดยผู้ป่วยจะมีอาการของการขาดออกซิเจน เช่น มึนศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หายใจเร็ว ปาก ลิ้น นิ้วมือ หรืออวัยวะอื่นๆ มีสีเขียว หากรุนแรงจะมีอาการหอบเหนื่อยมาก เลือดเป็นกรด ความดันโลหิตต่ําและเสียชีวิตได้นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากกลุ่มงานระบาดวิทยาโรงพยาบาลสังขละบุรี ว่า มีผู้ป่วยภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย จํานวน 1 ราย จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยเด็กหญิง อายุ 5 ปี อยู่ที่หมู่ 6 ตําบลหนองลู อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีประวัติการป่วยดังนี้ วันที่ 20 มกราคม 2565 มารับการรักษาที่โรงพยาบาลสังขละบุรีด้วย อาการก่อนมาโรงพยาบาล 1 ชั่วโมง 30 นาที นั้น ขณะเล่นโทรศัพท์พร้อมรับประทานไส้กรอก จํานวน 4 ชิ้น ซื้อมาจากร้านขายแผงลอยที่มาจําหน่ายในพื้นที่ หลังจากนั้น มีอาการเป็นลมหน้าคว่ํา รู้สึกตัว ไม่สลบ อาเจียน 1 ครั้ง ไม่มีไข้ ญาตินํามาส่งโรงพยาบาล เด็กทานไส้กรอกที่ไม่เคยซื้อยี่ห้อนี้มาก่อน และญาติที่รับประทานด้วยมีอาการคล้ายกับเวียนศีรษะและอาเจียน แพทย์วินิจฉัยสงสัยภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย แพทย์ส่งต่อ รพ.พหลพลพยุหเสนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อไปว่า มีรายงานข่าวจากข้อมูลจากศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี ระบุสัปดาห์ที่ผ่านมาพบมีเด็กป่วยด้วยภาวะเมทฮีโมโกลบิน (Methemoglobin) จํานวน 6 ราย ใน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบุรี สระบุรี ตรัง และกาญจนบุรี โดยทั้ง 6 ราย มีประวัติกินไส้กรอกซึ่งไม่มียี่ห้อ ไม่มี อย. ไม่มีฉลากระบุที่มา หรือผู้ผลิต ซึ่งภาวะ เมทฮีโมโกลบิน เป็นภาวะที่ทําให้เม็ดเลือดแดงถูกออกซิไดช์ โดยสารออกซิแดนท์ต่างๆ กลายเป็น เมทฮีโมโกลบิน ทําให้สูญเสียความสามารถในการขนส่งออกซิเจน และสีของเม็ดเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ําตาลดํา ในเด็กจะไวต่อสารออกซิแดนท์มากกว่าผู้ใหญ่ จึงทําให้เกิดอาการได้ชัดเจน ผู้ป่วยจะมีอาการของการขาดออกซิเจน เช่น มึนศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หายใจเร็ว ปาก ลิ้น นิ้วมือ หรืออวัยวะอื่นๆ มีสีเขียว หากรุนแรงจะมีอาการหอบเหนื่อยมาก เลือดเป็นกรด ความดันโลหิตต่ําและเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีได้ประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่อําเภอสังขละบุรี และอําเภอไทรโยค สอบสวนและเฝ้าระวังด้านการดําเนินงานอาหารปลอดภัย ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สํานักงานสาธารณสุขอําเภอสังขละบุรี โรงพยาบาลสมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต และ รพ.สต.บ้านเวียคะดี้ สรุปผลการดําเนินงานดังต่อไปนี้ 1.ทีม SRRT ดําเนินการสอบสวนและเฝ้าระวังในพื้นที่ 2.ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่ 3.เฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้ตามนิยามผู้ป่วยภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย สําหรับมาตรการที่จะดําเนินการต่อไป : 1.ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่ 2 เฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้ตามนิยามผู้ป่วยภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย ซึ่งก็ได้มีการเก็บตัวอย่างอาหาร ณ สถานที่จําหน่าย(แผงจําหน่ายอาหาร) เพื่อตรวจสอบสารปนเปื้อนในอาหาร เช่น ฟอร์มาลิน บอแรกซ์ สารกันรา สารฟอกขาว และยาฆ่าแมลง เป็นต้น ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเลือกบริโภคไส้กรอกที่ผ่านมาตรฐาน บรรจุภัณฑ์มิดชิด เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม และแสดงฉลากครบถ้วน โดยฉลากต้องมีข้อมูลดังนี้ ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหาร(เลข อย.) สถานที่ผลิต วันผลิต วันหมดอายุ น้ําหนักสุทธิ และส่วนประกอบสําคัญ ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนมั่นใจ รับประทานไส้กรอกที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรรับประทานไส้กรอกในปริมาณที่เหมาะสม ปรุงให้สุกก่อนรับประทาน และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อสุขภาพที่ดี และห่างไกลโรค"#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202120847491
911
กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โควิด -19 ค่อนข้างคงตัว
กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โควิด -19 ค่อนข้างคงตัว คาดพ้นการระบาดใหญ่ภายในปีนี้ ด้วย 3 ปัจจัย คือ เชื้อกลายพันธุ์ไม่รุนแรงเพิ่มขึ้น อัตราป่วยคงที่ และคาดการณ์การระบาดได้ ส่วนจะเป็นโรคประจําถิ่น โรคติดต่อทั่วไป หรือโรคตามฤดูกาล ขึ้นกับนิยามที่แตกต่างกัน พร้อมแนะ 10 ขั้นตอนปฏิบัติดูแลตนเอง หากเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง1. ตรวจสอบอาการตนเองหรือเช็กประวัติการสัมผัสใกล้ชิด หากสัมผัสมาเกิน 10 วันถือว่าพ้นความเสี่ยง2. ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention3. กักตัวเองที่บ้าน หากไม่สามารถแยกห้องนอนได้ ให้เว้นพื้นที่นอนมากขึ้น4. ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ครั้งที่ 1 ในช่วงวันที่ 5-6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย5. หากผลเป็นลบให้กักตัวเองที่บ้านจนครบ 7 วัน6. เฝ้าระวังสังเกตอาการ 3 วัน7. ตรวจ ATK ครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 นับจากวันสุดท้ายที่สัมผัสผู้ป่วยหรือกลับจากสถานที่เสี่ยง8. หากผลเป็นลบจะจบขั้นตอนมาตรการ 7+39. หากผลตรวจ ATK เป็นบวก กรณีไม่มีอาการป่วยหรือป่วยเล็กน้อยให้โทร 1330 สปสช.10. หากมีอาการป่วย โทร.ประสานผู้ติดตามอาการ หรือประสานพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202111810448
912
พม.ลำปาง ตั้งจุดประสานคนไร้บ้าน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ รับแจ้งปัญหา พาเข้าถึงสิทธิ
นายณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อํานวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตํารวจภูธรอําเภอเมือง เจ้าหน้าที่ขนส่งลําปาง ตํารวจรถไฟลําปาง และเทศบาลนครลําปาง ร่วมดําเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมปักหมุดจุดประสานงานคนไร้บ้าน คนไร้ที่พึ่งเพื่อรับแจ้งปัญหา พาเข้าถึงสิทธิสวัสดิการจัดระเบียบคนไร้ที่พึ่ง คนขอทาน รวมถึงเพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจหน่วยงานให้ประชาชน ภาคีเครือข่ายชุมชนท้องถิ่น และหน่วยงานทั่วไป มีส่วนร่วมบูรณาการทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อน คนขอทาน และคนไร้ที่พึ่งนอกจากนี้ ได้จัดจุดประสานงานคนไร้บ้าน ณ สถานีรถไฟ ตั้งแต่แต่เวลา 08.30-12.00 น.และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลําปาง ตั้งแต่เวลา 13.00 - 15.30 น. ในเขตเทศบาลนครลําปาง อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112302453
913
สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาญจนบุรี เปิดฝึกอบรมการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อธุรกิจออนไลน์
สํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาญจนบุรี เปิดฝึกอบรมการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อธุรกิจออนไลน์ ให้ผู้สนใจเข้าร่วมอบรมฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนายวิริยะ ทองเหลือ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาญจนบุรี ได้จัดการฝึกอบรมตามโครงการเสริมสมรรถนะแรงงานด้านเทคโนโลยีรองรับการทํางานในศตวรรษที่ 21 หลักสูตรยกระดับฝีมือแรงงาน สาขาการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อธุรกิจออนไลน์ โดยวิทยากร คือ อาจารย์สุทธิพงศ์ ศรุตวิมลพงศ์ ผู้ที่ทํางานด้านการศึกษาและการตลาดมากกว่า 15 ปี อยู่เบื้องหลังความสําเร็จของหลายธุรกิจ ระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2565 ใช้เวลาอบรม จํานวน 30 ชั่วโมง ให้กับแรงงานในสถานประกอบการหรือผู้ว่างงาน จํานวน 20 คน ที่ บริษัท สแตนดาร์ด เวิล์ด จํากัด ตําบลปากแพรก อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จึงขอเชิญชวนแรงงานในสถานประกอบการ หรือ ผู้ว่างงาน ที่สนใจ สมัครเข้าร่วมฝึกอบรมในหลักสูตรสาขาการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อธุรกิจออนไลน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนผ่านทาง Link https://www.dsd.go.th/DSD/EserviceWebRegister/TrainSkillCard ภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายแผนงานและประเมินผล สํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาญจนบุรี โทร.034-510619 ในวันและเวลาราชการ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202122634507
914
รองผู้ว่าฯ พังงา ตรวจเยี่ยม? กปภ.สาขาพังงา ติดตามสถานการณ์น้ำและการให้บริการน้ำประปาหน้าแล้งนี้
นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา? ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา? ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการร์น้ํา ตลอดจนการเตรียมพร้อมสําหรับการใ้ห้บริการน้ําประปาในพื้นที่จังหวัดพังงา ณ สถานีผลิตน้ําขุมเหมือง กปภ.สาขาพังงา ตําบลนบปริง อําเภอเมืองพังงา โดยมี นางนุชนภา? พิณทอง? ผู้จัดการ? การประปาส่วนภูมิภาค? สาขาพังงา ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่?เพื่อดูปริมาณน้ําดิบคลองพังงา และสระเก็บน้ําดิบขุมเหมืองสินทอง ซึ่งปัจจุบันปริมาณความจุอยู่ที่ 260,000 ลบ.ม. ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการผลิตน้ําประปาให้บริการประชาชนในพื้นที่อําเภอเมืองพังงาและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในการมีน้ําประปาใช้อย่างเพียงพอในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงนี้ด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112932464
915
คณะลิเกโคราช ร้องกลอนลิเกสื่อสารถึงพ่อเมือง หลังไม่มีงานไม่มีรายได้จากการถูกยกเลิกงานเพราะ ศบค.อำเภอไม่อนุญาตให้แสดงลิเก พร้อมยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ให้ผู้ว่าช่วยเหลือ
ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นางสาวศุภารมย์ เย็นรัมย์ (ข้าวเหนียว)ตัวแทนกลุ่มศิลปินลิเกจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผ่านทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สมบัติ วัฒนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รับมอบหนังสือ ในการขอความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มศิลปินลิเกได้รับความเดือดร้อนไม่มีรายได้เลี้ยงชีพ เนื่องจากทางราชการสั่งห้ามแสดงหรือยกเลิกงาน ซึ่งเป็นคําสั่งที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้านางสาวศุภารมย์ เย็นรัมย์ ตัวแทนกลุ่มศิลปินลิเกจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเดิมทีมีคณะลิเก กว่า 200 คณะ หลังจากสถานการณืเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทําให้คณะลิเกได้ปิดตัวลงไป ขณะนี้เหลือเพียง ประมาณ 30 คณะ โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีเต็มของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทุกอาชีพ รวมทั้งศิลปินนักแสดงลิเกได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคโควิด ถึงแม้ที่ผ่านมานักแสดงลิเกคณะต่างๆที่มีจํานวนมากในจังหวัดนครราชสีมา จะไม่เคยออกมารวมตัวเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาเหมือนกลุ่มศิลปิน นักร้อง นักดนตรีและผู้ประกอบการสถานบันเทิงกลางคืน แต่ใช่ว่าพวกเราจะไม่เดือดร้อน ทุกคนต่างพยายามดิ้นรนหางานเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว โดยหันไปประกอบอาชีพอื่นในช่วงที่ห้ามแสดงลิเกไม่ให้มีการรวมกลุ่มป้องกันแพร่ระบาด บางครั้งจัดแสดงผ่านไลฟ์สดทางโซเชียลเพื่อหามาลัยออนไลน์ แต่รายได้ก็ไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้นตามลําดับ รัฐบาลมีการปรับมาตรการผ่อนคลาย การปรับระดับพื้นที่ มีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าโดยไม่ต้องกักตัว การอนุญาตให้นั่งดื่มในร้านอาหาร มีการเข้าชมกีฬา ตลอดจนการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆของภาครัฐ เช่น เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2565 แต่ปรากฏว่า คณะลิเกในจังหวัดนครราชสีมา กลับไม่ได้รับการผ่อนปรนหรือปลดล็อกตามไปด้วยนางสาวศุภารมย์ กล่าวอีกว่า พวกเรารู้สึกน้อยใจ ที่กิจกรรมอื่นๆสามารถจัดการแสดงได้ แต่การแสดงลิเกกลับไม่ได้รับอนุญาตจากทางอําเภอในการจัดการแสดง จนทําให้ทางเจ้าภาพจัดงานต้องยกเลิกงาน เนื่องจากไม่สามารถขออนุญาต ให้มีการแสดงลิเกได้ ผิดกับการแสดงดนตรี คอนเสริต ทําไมทางอําเภออนุญาตให้มีการแสดงได้ ทั้งนี้ ตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมและซ้ําเติมความเดือดร้อนแก่ประชาชนโดยเฉพาะคณะลิเก ซึ่งไม่เฉพาะเพียงแค่ลิเกเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อนักดนตรี เวที คนงาน เจ้าของคณะ เจ้าภาพ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าหาเช้ากินค่ําที่ต้องได้รับความเดือดร้อนไปตามๆกัน เสมือนว่ายังอยู่บรรยากาศของการล็อกดาวน์ปิดประเทศ บางพื้นที่สั่งห้ามแสดงลิเก โดยอ้างเรื่องป้องกันโควิด ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบันที่ประชาชนได้ฉีดวัคซีนจํานวนมาก ขณะนี้เริ่มกระตุ้นเข็มที่ 3-4 อีกทั้งทางรัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ได้มีนโยบายให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดําเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับมาตรการทางด้านสาธารณสุข ล่าสุด ทางศบค. ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเดินหน้า โดยอนุญาตให้พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) สามารถรวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ไม่เกิน 500 คน และพื้นที่นําร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) เฉพาะอําเภอเมืองนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.โชคชัย อ.ปากช่อง อ.พิมาย อ.วังน้ําเขียว และ อ.สีคิ้ว สามารถรวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม ดังนั้น ทางกลุ่มนักแสดงลิเกจังหวัดนครราชสีมา ขอความอนุเคราะห์และเห็นใจกลุ่มศิลปินเหล่านี้ จึงอยากเสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เร่งช่วยเหลือในเบื้องต้นดังนี้ 1.ขอให้ทางจังหวัดนครราชสีมา ผ่อนปรนให้เปิดการแสดงลิเกทุกคณะโดยทั่วไปได้เร็วที่สุด นอกจากช่วยสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าแล้ว ยังสืบสานวัฒนธรรมไทย ต่อลมหายใจศิลปะพื้นบ้านที่กําลังจะใกล้ตายอีกด้วย เนื่องจากลิเกสามารถทําการแสดงได้จนถึงช่วงเดือนเมษายน และจะหยุดพักในช่วงหน้าฝน ไม่สามารถแสดงในสถานที่เปิดโล่งได้ หากไม่อนุญาตให้จัดการแสดงในช่วง 3 เดือนนี้ก็จะทําให้สูญเสียรายได้ยาวต่อเนื่องถึงปลายปี โดยมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ดังที่ได้กล่าวไว้ 2.ขอให้มีนโยบายชัดเจน โดยยึดตามมาตรการ ศบค.ที่อนุญาตให้พื้นที่สีส้มสามารถรวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ไม่เกิน 500 คน และพื้นที่สีฟ้า รวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นการเยียวยาประชาชนโดยไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐแต่อย่างใด 3.กําชับส่วนราชการต่างๆโดยเฉพาะทางอําเภอ ได้รับทราบถึงปัญหาและข้อเรียกร้องของกลุ่มนักแสดงลิเก เพื่อไม่ให้เกิดการสั่งห้ามหรือยกเลิกกะทันหัน พร้อมกับเปิดช่องทางรับแจ้งเรื่องร้องเรียนกรณีนี้โดยเฉพาะ นางสาวศุภารมย์ กล่าวทั้งนี้ภายหลังจากยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะตัวแทนลิเกจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันร้องกลอนลิเก เพื่อวิงวอนและสื่อสารไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้ดําเนินการช่วยเหลือกลุ่มคณะลิเกในพื้นที่ที่กําลังได้รับผลกระทบจากการที่ไม่มีงานไม่มีรายได้เลี้ยงชีพและครอบครัวด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112536460
916
จังหวัดยโสธร ติวเข้มฝึกอบรมวินัยการเงินการคลังและเทคนิกการเบิกจ่ายเงิน เพื่อป้องกันความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่สำหรับผู้บริหาร เสริมความรู้ให้กับผู้บริหารหน่วยงาน
วันนี้ (2 ก.พ. 65) นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมวินัยการเงินการคลังและเทคนิกการเบิกจ่ายเงิน เพื่อป้องกันความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่สําหรับผู้บริหาร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และหัวหน้างานการเงินของหน่วยงานราชการ เข้าร่วมอบรม จํานวน 69 คน ที่โรงแรมเดอะกรีนปาร์ค อําเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ทั้งนี้ จังหวัดยโสธร โดยสํานักงานคลังจังหวัดยโสธร ได้จัดฝึกอบรม ดังกล่าว เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ งานการเงินการคลังภาครัฐให้กับผู้บริหารหน่วยงาน พร้อมทั้งพัฒนาการบริหารการเงินการคลัง การติดตามการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับทางราชการ ตลอดทั้งหลักเกณฑ์ แนวทางปฏิบัติที่หน่วยงานกําหนด ข้อยกเว้นต่างๆ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์จากการทํางานด้านการเงินการคลัง ซึ่งจะทําให้การดําเนินงานด้านการเงินมีประสิทธิภาพและมีการดําเนินงานที่โปร่งใสการฝึกอบรมมีการให้ความรู้เรื่อง เทคนิกการเบิกจ่ายเงินเพื่อป้องกันความรับผิดทางละเมิด ,พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐและ พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่, มาตรฐานการควบคุมภายในและการตรวจสอบภายในสําหรับหน่วยงานของรัฐ, แนวทางปฎิบัติตามกฎกระทรวงกําหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉวับที่ 2) พ.ศ.2563, หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างในสถานการณ์โควิด-19 และการเตรียมการจัดซื้อจัดจัางตามระเบียบกระทรวงการคลัง,สรุประเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง พร้อมนี้มีการยกกรณีตัวอย่างการทําความผิดด้านการเงิน เพื่อให้มีความตระหนักในการติดตาม กํากับดูแลการเวิกจ่ายเงินการฝึกอบรม ดังกล่าวจัดอบรม 2 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 วันที่ 2 ก.พ.65 สําหรับส่วนราชการและรุ่นที่ 2 วันที่ 3 ก.พ.65 สําหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202111659447
917
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกประกาศเขตห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2565 หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อํานวยการจังหวัด ออกประกาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน กําหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน/ตําบล/อําเภอ ในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็น "เขตห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด" ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันไฟป่า หรือเหตุจําเป็นอื่น ซึ่งดําเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 รวมถึงแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ที่ได้รับความเห็นชอบจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองระดับอําเภอ และได้รับอนุมัติจากศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยได้กําหนดแนวทางปฏิบัติ "เขตห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด" ดังนี้ ในเขตพื้นที่ชุมชน ยกเว้น การบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่สาธารณะ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชุมชน ที่ไม่ใช่การเผาขยะ ต้องจัดทําโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ และได้รับความเห็นชอบจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน การแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองระดับอําเภอ และอนุมัติจากศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า ตามลําดับ ในเขตพื้นที่ทางเกษตร เมื่อมีความจําเป็นต้องเผาวัสดุเหลือใช้ทางกรเกษตร ในพื้นที่เกษตรกรรม ให้ราษฎรแจ้งความประสงค์ เพื่อขออนุญาต ในพื้นที่ป่าที่ไม่ใช่พื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิง ชุดปฏิบัติการต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่า กรณีที่ทางราชการร้องขอและหากพบเห็นไฟบริเวณใด ให้ดําเนินการดับเสียแต่ต้น เพื่อไม่ให้ไฟป่าขยายออกเป็นวงกว้าง หากไฟป่ารุนแรงไม่สามารถดับได้ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมไฟป่าที่อยู่ใกล้ที่สุดในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเข้าระงับไฟป่าทันทีหากฝ่าฝืนประกาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉบับนี้มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ นอกจากนี้ การจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่า จะมีความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202112808463
918
จังหวัดแพร่ รับมอบสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคสุกร ในพื้นที่จังหวัดแพร่ จํานวน 100 ราย เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร โดยมีนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย นางวันทนา พ่วงบางโพ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด อําเภอ เข้ารับมอบสิ่งของพระราชทาน ที่หอประชุมที่ว่าการอําเภอสอง จังหวัดแพร่ทั้งนี้ จังหวัดแพร่มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรขึ้นทะเบียนไว้ จํานวน 1,340 ราย รวมสุกรในพื้นที่ 42,409 ตัว ในปี 2564 พื้นที่จังหวัดแพร่มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 291 ราย จํานวนสุกรที่ถูกทําลาย 5,586 ตัว ซึ่งสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดแพร่ได้ติดตามเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มงวด และพบว่าจังหวัดแพร่สามารถควบคุมโรคสุกรได้และอยู่ในสภาวะปกติแล้วการจัดกิจกรรมดังกล่าวเน้นมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202113009466
919
ผู้ว่าฯ ตราด มอบนโยบายด้านการศึกษาให้กับผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สพป.ตราด
(2 ก.พ. 65) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในการมอบนโยบายด้านการศึกษาให้กับผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด (สพป.ตราด) โดยมี นางช่อชะบา ชื่นบาน ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด นําคณะผู้อํานวยการสถานศึกษาในระดับประถมศึกษาทุกแห่งในจังหวัดตราด เข้ารับมอบนโยบายในครั้งนี้ ที่ห้องประชุมทรัพย์เจริญ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด ตําบลวังกระแจะ อําเภอเมืองตราดผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ในการจัดการศึกษาขอให้เน้นมุ่งไปที่ตัวของเด็กนักเรียนเป็นที่ตั้ง โดยเด็กที่จบออกไปหลังจากเข้ารับการศึกษาแล้วในอนาคตจะต้องกลับออกไปแบบผลสัมฤทธิ์ คือ มีรายได้ มีงานทํา สามารถใช้ชีวิตได้ย่างมีความสุข หรือสุขกาย และสุขใจ เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ นอกจากนี้เนื่องจากโรงเรียนแต่ละแห่งมีความหลากหลาย ขอเน้นในเรื่องของการยืดหยุ่น การปรับการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบทและพื้นที่ เพื่อให้เป็นการเรียนที่นักเรียนได้ประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตามในการจัดการศึกษาในสถานการณ์โควิด -19 โดยเฉพาะโรงเรียนส่วนใหญ่ที่เปิดเรียนแบบ On Site จะต้องเน้นในเรื่องความปลอดภัยทางด้านโควิด-19 ก่อนเป็นอันดับแรก โดยดําเนินการตามมาตรการของ ศบค. เป็นสําคัญ อีกด้วย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202113252470
920
เกษตรกรแบ่งปันแจกจ่ายผักปลอดสารพิษ ตามโครงการ “ผักปันสุข” จากใจเกษตรกรแม่ฮ่องสอน สู่ ชาวแม่ฮ่องสอน
วันนี้ (2 ก.พ.65) เวลา 08.30 น. หน้าสํานักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรยั่งยืนเพื่อการท่องเที่ยว (บ้านห้วยมะเขือส้ม ตําบลหมอกจําแป่) จํานวน 6 ราย และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรปลอดภัยบ้านนาป่าแปก จํานวน 13 ราย ร่วมแบ่งปันแจกจ่ายผักกะหล่ําปลี และผักกาดขาวปลี ให้กับประชาชนชาวแม่ฮ่องสอน จํานวน 250 ถุง ถุงละประมาณ 10 กิโลกรัม นอกจากนี้ได้นําไปแบ่งปันให้กับสถานพินิจ จํานวน 30 ถุง สํานักสงฆ์ธรรมคีรี จํานวน 30 ถุง และวัดป่าถ้ําวัว จํานวน 30 ถุงเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรยั่งยืนเพื่อการท่องเที่ยว (บ้านห้วยมะเขือส้ม ต.หมอกจําแป่) บอกว่าได้ดําเนินการตามโครงการ “ผักปันสุข” จากใจเกษตรกรแม่ฮ่องสอน สู่ ชาวแม่ฮ่องสอน โดยการสนับสนุนของสํานักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว เป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และในช่วงนี้ผลผลิตออกเป็นจํานวนมาก ทั้งผักกะหล่ําปลี ผักกาดขาวปลี คะน้า กวางตุ้ง ผักสลัด จึงอยากแบ่งปันให้กับชาวแม่ฮ่องสอนได้ทานผักปลอดสารพิษ ที่ดีต่อสุขภาพ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202113316471
921
ครม. เคาะลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65 คาดกลุ่มเป้าหมาย 20 ล้านคน สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการแห่งรัฐอย่างครบวงจร
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และเห็นชอบร่างประกาศ คกก.ฯ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการดําเนินงาน และความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการ ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการฯ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยเหลือกลุ่มตกหล่นให้สามารถเข้าถึงโครงการฯ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 20 ล้านคน (ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เดิมและผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิรายใหม่) คาดสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 โดยมีกรอบวงเงิน 564.455 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจ้างเหมาบริการระบบลงทะเบียน และการยืนยันตัวตน 164.274 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายสําหรับการรับลงทะเบียน ของหน่วยรับลงทะเบียน 400.181 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบฯ ของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วสําหรับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน มีดังนีผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ต้องไม่เป็นภิกษุ ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐ รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี และรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี และผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ เช่น วงเงินกู้สําหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้สําหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ คกกฯกําหนด นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้กําหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ได้บัตรสวัสดิการฯ และปัญหาผู้มีบัตรฯ ที่ไม่ควรได้รับสิทธิ ทั้งนี้จะมีการ เปิดรับลงทะเบียน ตามโครงการฯ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และ จะมีการดําเนินการตรวจสอบ คุณสมบัติและตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อีกด้วยสําหรับผู้ได้รับสิทธิจากโครงการฯ ปี 2565 จะใช้บัตรประจําตัวประชาชนแทนบัตร สวัสดิการฯ เนื่องจากบัตรสวัสดิการฯ ที่ได้เริ่มใช้งานตั้งแต่เดือน ต.ค. 2560 มีอายุการใช้งาน 5 ปี และจะหมดอายุในเดือน ก.ย. 2565 ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิตบัตรสวัสดิการฯ ใหม่ ประมาณ 1,258 ล้านบาท อีกทั้งลดปัญหาเรื่องการสวมสิทธิบัตรประจําตัวประชาชนหรือการนําบัตรประจําตัวประชาชนของบุคคลอื่นไปใช้ สิทธิแทน และช่วยลดการทุจริต เช่น กรณีร้านค้าเก็บบัตรสวัสดิการฯ ไว้เอง เป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202121615499
922
ตรวจการแผ่นดินจัดงานสัมมนาโครงการ “ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรพบประชาชน ครั้งที่ 45 จังหวัดน่าน
วันนี้ (2 ก.พ.65) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธาน จัดงานสัมมนาโครงการ “ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรพบประชาชน ครั้งที่ 45” ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในจังหวัดน่าน เพื่อบูรณาการแนวทางการดําเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและประชาชน โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้เกียรติกล่าวต้อนรับผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้เข้าร่วมสัมมนา มีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นําท้องถิ่น นักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนจากจังหวัดน่านกว่า 400 คน เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมบอลรูม โรงแรมน่านกรีนเลควิว รีสอร์ท อําเภอเมือง จังหวัดน่านนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอํานาจในการแสวงหาข้อเท็จจริงจากคําร้องเรียนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ และจากการหยิบยกเรื่องที่เห็นว่าส่งผลกระทบต่อสาธารณชนมาพิจารณาหาแนวทางแก้ไข เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่อาจได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรือความไม่เป็นธรรมจากการกระทําของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงเป็นหน่วยกลางในการเชื่อมประสานความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐการลงพื้นที่จัดสัมมนาผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรพบประชาชนในครั้งนี้ มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจถึงหน้าที่และอํานาจของผู้ตรวจการแผ่นดินแก่ผู้แทนส่วนราชการ ผู้นําท้องถิ่น สื่อมวลชน และประชาชน ในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยเฉพาะผู้นําท้องถิ่นที่จะสามารถเป็นกระบอกเสียงแก่คนในพื้นที่ เพื่อใช้สิทธิที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต กล่าวเพิ่มเติมว่า เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้าร่วมสัมมนาให้สามารถต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่พี่น้องประชาชน และเป็นแนวทางในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีได้ สําหรับพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถมาใช้บริการยื่นเรื่องร้องเรียนได้ในกิจกรรมครั้งนี้ ก็สามารถส่งเรื่องร้องเรียนมายังช่องทางต่าง ๆ ของสํานักงานได้ ทั้งทางไปรษณีย์ถึงสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1676 (โทรฟรีทั่วประเทศ) ทางอินเทอร์เน็ตที่ www.ombudsman.go.th ทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” และแอปพลิเคชันไลน์ (ID Line : @ombudsman) ซึ่งการร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
น่าน
สวท.น่าน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202114545481
923
รอง ผวจ.ยะลา มอบเงินเยียวยาแก่ตำรวจได้รับผลกระทบจากเหตุไม่สงบฯในพื้นที่ อ.รามัน
วันที่ 2 กพ.65 ที่ห้องประชุม สภ.จะกว๊ะ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผวจ.ยะลา เป็นประประธานมอบเงินเยียวยาเพิ่มเติมอีกจํานวน 450,000 บาทแก่ ด.ต.เศกสันต์ ชายมัน เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยมีนายวีรวัฒน์ ศิริกุลพิพัฒน์ ปภ.ยะลา นายชาคร คงเสรีกุล ป้องกันจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการเยียวยาฯ จังหวัดยะลา เข้าร่วมนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผวจ.ยะลา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 10.20 น.ได้รับแจ้งจากชุดคุ้มครองตําบลเกะรอ ว่าคนร้ายไม่ทราบชื่อและจํานวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.จะกว๊ะ ซึ่งเดินทางกลับจากการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ด่านตรวจรอยต่อจังหวัดยะลา ตามมาตรการโควิด 19 ซึ่งตั้งอยู่บ้านปูลามอง หมู่ที่ 6 ตําบลเกะรอ (รอยต่ออําเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี) เป็นเหตุให้ ด.ต.เศกสันต์ ชายมัน อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 2 ตําบลโคกโพธิ์ อําเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี บาดเจ็บสาหัส ได้รับความช่วยเหลือ จํานวนเงิน 50,000 บาทไปแล้ว ต่อมาแพทย์มีความเห็นว่าพิการ/ทุพพลภาพ (ระดับ 5) จึงขออนุมัติเพิ่มเติมจํานวนเงิน 450,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 และตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2555 ได้กําหนดหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ รวมเป็นเงินจํานวนทั้งสิ้น 500,000 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202115746486
924
ผู้ว่าฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชวนประชาชนสวมใส่ผ้าไทย ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก เสน่ห์ผ้าไทย เสน่ห์แม่ฮ่องสอน”
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชิญชวนบุคลากรหน่วยงานภาครัฐ เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการสร้างการรับรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบาย เรื่อง การรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองแก่บุคลากร และภาคีเครือข่ายในสังกัดผ่านกิจกรรม หรือผ่านสื่อ เช่น แผ่นพับ ป้ายนิทรรศการสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ร่วมแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย ผ้าชาติพันธุ์ ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และตามโอกาสที่เหมาะสม ยกเว้นในวันที่มีการแต่งกายด้วยเครื่องแบบราชการ หรือยกเว้นวันที่กําหนดให้สวมเครื่องแบบตามสังกัดฯ ตามประกาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกิจกรรมการรณรงค์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก เสน่ห์ผ้า เสน่ห์แม่ฮ่องสอน” เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และเชิญชวนให้องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ด้วยการแชร์ภาพถ่ายกิจกรรมผ่านสื่อออนไลน์ โดยติดแฮชแท็ก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND #ผ้าไทยใส่ให้สนุก #เสน่ห์ผ้าไทยเสน่ห์แม่ฮ่องสอน #ผ้าไทยใส่ได้ทุกวัน #สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าไทยดํารงไว้ในแผ่นดิน
2/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202115146483
925
ป.ป.ช.สกลนคร ปลุกกระแสสังคมไม่ทนต่อการทุจริต จับมือสื่อมวลชนท้องถิ่น สื่อพื้นบ้าน อป.มช. สร้างเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นในระดับพื้นที่
ที่ห้องพระธาตุเชิงุชม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสกลนคร (หลังใหม่) นายสุกฤษฎิ์ เทียงเเก้ว ผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสกลนคร เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการรณรงค์สร้างกระแสต่อต้านการทุจริต กิจกรรมสัมมนาเครือข่ายสื่อมวลชนท้องถิ่น สื่อพื้นบ้าน เครือข่ายอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจําชุมชน (อป.มช.) และต้านทุจริตจังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 2 ซึ่งสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสกลนคร จัดขึ้น เพื่อสร้างเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นในระดับพื้นที่ เกิดการบูรณาการของเครือข่ายและภาคีทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการสร้างกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต อย่างจริงจังและต่อเนื่องผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตไม่ว่าจะเป็นในระดับในพื้นที่หรือระดับประเทศ ก็เป็นปัญหาซึ่งก่อให้เกิดความเสียต่อประเทศชาติ ทางสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดสกลนคร หรือ สํานักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง ก็มีนโยบายที่จะร่วมป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้น จึงจัดโครงการอบรมสื่อท้องถิ่น หรือ สื่อพื้นบ้าน เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยสอดส่องดูแลในการป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ที่ตนเองอยู่หรือพื้นที่บริเวณใกล้เคียงว่า มีการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทางราชการหรือไม่ มีการรั่วไหลหรือไม่อย่างไร และอยากให้สื่อสารภารกิจที่เกิดจากการปราบปราม การชี้มูลความผิด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบว่า การทุจริตนอกจากจะกระทบต่อสภาพสังคมแล้ว ยังกระทบต่อตัวผู้กระทําการทุจริตเอง ซึ่งต้องได้รับการลงโทษ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้สําหรับกิจกรรมในวันนี้มีการบรรยายในหัวข้อ “กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ต้านโกง” และงานสื่อสารเพื่อต้านโกง โดยวิทยากรจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสกลนคร ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย เครือข่ายสื่อมวลชนท้องถิ่น สื่อพื้นบ้าน เครือข่ายอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจําชุมชน (อป.มช.) จํานวน 50 คน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202121858503
926
จ.นครศรีธรรมราช ประกอบพิธีเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคสุกร
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี พระราชทานสิ่งของพระราชทาน มอบแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคสุกรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้ (2 ก.พ.65) ที่สํานักงานเทศบาลเมืองปากพูน อําเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี โปรดให้ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคสุกรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอําเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 4 อําเภอ คืออําเภอเมืองนครศรีธรรมราช ร่อนพิบูลย์ สิชลและพรหมคีรี จํานวน 30 คน เข้าร่วมในพิธี ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัดทั้งนี้ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคสุกร จํานวน 135 ราย จากจํานวนเกษตรผู้เลี้ยงสุกรทั้งสิ้น 2,900 ราย โดยจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 เป็นต้นมา มีสุกรได้รับผลกระทบจากการระบาดจํานวน 192 ตัว รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 แสนบาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202191454760
927
คลัง เตรียมเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่)
นางสุภาภรณ์ จุลละสุภา คลังจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และการดําเนินการที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียด ดังนี้1.โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการสังคมของภาครัฐให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเริ่มดําเนินการโครงการฯ ในปี 2565 โดยครั้งนี้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนและครอบครัวของผู้ลงทะเบียนด้วย โดยมีรายละเอียด ดังนี้คุณสมบัติผู้ลงทะเบียน1) มีสัญชาติไทย2) มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป3) ไม่เป็นบุคคลดังต่อไปนี้ ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบําเหน็จรายเดือน ผู้รับบํานาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา4) รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง (การคํานวณรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคํานวณได้จากการรวมรายได้ของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจํานวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)5) ทรัพย์สินทางการเงินได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ ของผู้ลงทะเบียนต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง (การคํานวณทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคํานวณได้จากการรวมมูลค่าทรัพย์สินทางการเงินของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจํานวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)6) อสังหาริมทรัพย์ ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้6.1) กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว1) ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)1.1) กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว- บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา- ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร1.2) กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่2) ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย2.1 ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่2.2 ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่6.2) กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว1) ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)1.1) กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว1.1.1) กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดิน ที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวากรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา1.1.2) กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตรกรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร1.2) กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่2) ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย2.1) ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่2.2) ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่7) ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีบัตรเครดิต ณ เวลาใดเวลาหนึ่งผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ คือ วงเงินกู้สําหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้สําหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาทการดําเนินโครงการช่วงเวลาการเริ่มลงทะเบียนประมาณกลางปี 2565 โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มสวัสดิการใหม่ให้แก่ผู้ผ่านสิทธิช่วงปลายปี 2565 ซึ่งจะเป็นการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้ รายละเอียดการดําเนินโครงการฯ ต่าง ๆ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเป็นผู้กําหนด ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป2.ร่างประกาศคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการดําเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการ (ร่างประกาศฯ)คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศฯ ซึ่งเป็นการดําเนินการตามมาตรา 8 (5) แห่งพระราชบัญญัติการจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. 2562 โดยสาระสําคัญคือการให้มีการประเมินผลการดําเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง พร้อมทั้งรายงานผลการประเมินดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมกําหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สํานักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 0-2126-5800 ต่อ 2680 สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร.08-5842-7102 ถึง 7109 (เวลาทําการ 08.30 – 16.30 น.) และสํานักงานคลังจังหวัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202120646489
928
ผู้ว่าฯ ชลบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมชมและให้กำลังใจ กลุ่มสมุนไพรแปรรูปบ้านตม
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางอําไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปราจีนบุรี รักษาราชการแทน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี นางกชพร ไกยสุทธิ ผู้อํานวยการกลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล รักษาราชการแทน หัวหน้าสํานักงานจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมชมและให้กําลังใจ กลุ่มสมุนไพรแปรรูปบ้านตม อําเภอพนัสนิคม ณ บ้านเลขที่ 46/5 หมู่ 6 พระรถซอย 9 กลุ่มสมุนไพรแปรรูปบ้านตม ตําบลสระสี่เหลี่ยม อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยมีนางอาภรณ์ ใหม่มงคล นายอําเภอพนัสนิคม สมาชิกกลุ่มสมุนไพรแปรรูปบ้านตม ผู้นําท้องถิ่น และผู้นําชุมชน ให้การต้อนรับนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมชมและให้กําลังใจ กลุ่มสมุนไพรแปรรูปบ้านตม อําเภอพนัสนิคม ซึ่งมีอัตลักษณ์ของชุมชนที่เด่นชัด เช่นการนําเกษตรอินทรีย์มาใช้ในการปลูกพืชในชุมชน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยังดําเนินชีวิตในการทําเกษตรแบบพอเพียง ทํานาปลูกข้าว ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ไว้กินเอง นําผลิตผลที่ได้ไปขายในตลาดนัดชุมชนใกล้บ้าน มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น โบราณสถานสระสี่เหลี่ยม ที่มีอายุเก่าแก่ยาวนานกว่าพันปี ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้ เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นจนถึงปัจจุบัน เช่น การจักสานเครื่องใช้สอยต่างๆ มีการปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้าน และนํามาใช้ประกอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามของกลุ่มสมุนไพรบ้านตม ซึ่งสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในระดับประเทศนอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงยังมีวัดที่สวยงาม มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั่วไปได้มากราบไหว้บูชา คนในชุมชนส่วนใหญ่มีการดําเนินชีวิต ตามแนวเศรษฐกิจ พอเพียง สามารถยกมาศึกษาเป็นกรณีตัวอย่างได้ สภาพแวดล้อมในชุมชนยังมีอากาศบริสุทธิ์ของทุ่งนา แหล่งนํ้าธรรมชาติของบ่อลูกรังเก่าที่สวยงาม และมีส่วนประกอบปลีกย่อยอื่นๆ เหมาะแก่การพักผ่อน ท่องเที่ยวศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ชุมชนบ้านตมจึงได้เปิดโฮมสเตย์เพื่อสนับสนุนกิจการท่องเที่ยวชุมชนให้คนต่างถิ่นที่สนใจได้มาสัมผัสชีวิตที่เป็นธรรมชาติของคนบ้านตม เพื่อเปิดโอกาสการสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนสําหรับผลิตภัณฑ์จากกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรบ้านตม ตําบลสระสี่เหลี่ยม อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี สมุนไพรพื้นบ้านที่มีคุณประโยชน์หลากหลายที่นํามาแปรรูปเป็นสินค้า และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนชาวบ้านตม ตําบลสระสี่เหลี่ยม อาทิเช่น สบู่ เกลือขัดผิว เกลือแช่เท้า เจลล้างหน้า เป็นต้นปริญญา ข่าว/ภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202131544543
929
จ.มหาสารคาม KICK OFF ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีนในเด็กอายุ 5 – 11 ขวบ
วันนี้ (2 ก.พ.2565 ) เวลา 08.30 น. ที่หอประชุม เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม KICK OFF ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีนในเด็กอายุ 5 – 11 ปี จังหวัดมหาสารคาม “เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ห่างไกลจากโรคโควิด-19” โดยมีนายแพทย์ สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย ผู้อํานวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม คณะผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วม สําหรับวัคซีนที่ใช้สําหรับเด็ก ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย คือ วัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้มสูตรสําหรับเด็ก ฉีดในปริมาตร 0.2 ซีซี จํานวน 2 ครั้ง ระยะห่าง 8 สัปดาห์ โดยกลุ่มเป้าหมายที่รับวัคซีนในวันนี้ ประกอบด้วย นักเรียนอายุ 5 – 11 ขวบ โรงเรียนอนุบาลกิติยา และดําเนินการฉีดวัคซีนโดยหน่วยบริการวัคซีนโรงพยาบาลมหาสารคามนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และเร่งรัดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยในระยะแรกได้ให้วัคซีนโควิด-19 ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และมีการขยายกลุ่มเป้าหมายสําหรับเด็กอายุ 5 – 11 ขวบ โดยกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน มีดังนี้ 1) เด็กที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค 2) เด็กที่เป็นนักเรียนในระบบสถานศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 3) เด็กที่เรียนในระบบ Home School 4) เด็กที่ศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษาที่อยู่นอกระบบการศึกษา หรือ เด็กที่ตกค้างและยังไม่ได้รับวัคซีน ความสําคัญที่ต้องฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก เนื่องจากกลุ่มเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่มีอาการ แต่หลังจาก 1 เดือน ให้หลังเด็กอาจมีอาการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งอาจรุนแรงได้ ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ได้รับวัคซีน จํานวน 3,410 โดส(จัดสรรครั้งที่ 1) พื้นที่ดําเนินการ บริการการฉีดวัคซีน ในโรงพยาบาลทุกอําเภอ จํานวน 13 อําเภอในจังหวัดมหาสารคาม และโรงพยาบาลสุทธาเวช อําเภอเมืองมหาสารคาม อีก 1 แห่ง รวมจํานวนทั้งสิ้น 14 แห่ง กําหนดการให้วัคซีน ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป จังหวัดมหาสารคาม จึงขอเชิญชวนทุกท่านนําบุตรหลาน เข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่จุดบริการตามโรงพยาบาล เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับจังหวัดมหาสารคามต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาสารคาม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202121748501
930
ประชาชนเริ่มทยอยใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเฟส 4 หลังกดรับสิทธิ์ในวันแรก
ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติกรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท สําหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 หรือ คนละครึ่ง เฟส 4 ระยะเวลาในการดําเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2565 จํานวน 29 ล้านสิทธิ์ โดยมีประชาชนเข้าไปยืนยันสิทธิ "คนละครึ่งเฟส 4" เพื่อขอรับสิทธิ 1,200 บาท เพื่อการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50% หรือสูงสุดวันละ 150 บาท หากในแต่ละวันเกิดใช้ไม่หมด ระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้ทบยอดรวมของผู้ได้รับสิทธิและจะคํานวณสิทธิใหม่ให้ในเวลา 06.00 น. ของทุกวัน โดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น. กับร้านค้าที่ร่วมโครงการด้าน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า "คนละครึ่งเฟส 4" จะเริ่มให้ผู้ที่เคยได้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 3 หรือกลุ่มคนเดิม จํานวน 27.98 ล้านคน ยืนยันสิทธิร่วมคนละครึ่งเฟส 4 ในวันที่ 1 ก.พ. 65 เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ทันทีหลังกดยืนยันสิทธิเรียบร้อยแล้ว โดยจะได้รับสนับสนุนวงเงินค่าสินค้า-บริการในอัตรา 50% หรือไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกินคนละ 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ช่วงวันที่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย. 65สําหรับจังหวัดชลบุรี ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ร้านขายของชําแห่งหนึ่งในเมืองศรีราชา มีประชาชนเดินทางมาจับจ่ายซื้อของโดยใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ที่ทางรัฐบาลโอนเข้าแอปเป๋าตังเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด -19 เป็นจํานวนเงิน 1200 บาท ในวันแรก ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจับจ่ายซื้อของใช้ที่จําเป็นในชีวิตประจําวัน ซึ่งทางภาครัฐจะช่วยจ่ายครึ่งหนึ่งของยอดใช้จ่ายต่อวันรวมไม่เกิน 300 บาท และสามารถใช้สิทธิ์นี้ได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565โดยทางร้าน กล่าวว่า ในวันนี้เริ่มมีผู้ที่ได้รับเงินจากโครงการคนละครึ่ง เริ่มทยอยมาใช้สิทธิ์ มากพอสมควร และอีกส่วนยังมีผู้ที่มาใช้สิทธิ์บัตรประชารัฐด้วย ซึ่งในช่วงแรกก็มีปัญหาระบบสแกนคิวอาร์โค้ดบ้างแต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็สามารถสแกนได้เป็นปกติ ซึ่งทางร้านก็ได้มีการจัดเตรียมสั่งสินค้าที่จําเป็นในชีวิตประจําวันไว้ล่วงหน้า เพราะมั่นใจว่าจะมีลูกค้ามาใช้สิทธิ์ดังกล่าวเป็นจํานวนมากแน่นอนปริญญา ข่าว/ภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202133011545
931
ศรีราชาผุดไอเดีย แลนด์มาร์คแห่งใหม่
นายกเมืองศรีราชาผุดไอเดีย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ช่วงเทศกาลตรุษจีนและวาเลนไทน์นางสาวกรวรรณ เตมียศร รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา เปิดเผยว่า ทางเทศบาลเมืองศรีราชาได้นําหญ้าขัดมอญย้อมสีสันต่างๆ มาประดับเป็นทุ่งกว้าง บริเวณหน้าเวทีกลางสวนสุขภาพเทศบาลเมืองศรีราชา เพื่อสร้างความสวยงามให้เกิดแลนด์มาร์คใหม่ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเดินชมความงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังสร้างความสวยงามให้กับผู้ที่มาออกกําลังกายภายในสวนสุขถาพแห่งนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลตรุษจีนและวาเลนไทน์ รวมถึงทางเทศบาลยังได้จัดกิจกรรมให้ประชาชนได้ร่วมสนุกด้วยการถ่ายภาพสวนหญ้ามอญย้อมสี พร้อมแคปชั่นต่างๆ ติดแฮทแท็ค ศรีราชาเมืองน่าอยู่ ศรีราชาเมืองน่าเที่ยว ส่งเข้าที่เพจประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองศรีราชา ทางเทศบาลก็จะมีของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ มอบให้กับผู้ร่วมสนุกในครั้งนี้ด้วย พร้อมยังฝากถึงผู้ที่เข้ามาชมสวนแห่งนี้อย่าเด็ดหรือหักต้นหญ้ามอญย้อมสี เพื่อให้ยังเกิดความสวยงามให้อีกหลายคนได้ร่วมชื่นชมต่อไปปริญญา ข่าว/ภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202133747550
932
คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการ
คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ร่วมกับ สํานักบริการวิชาการ จัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย โดยมี รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา และ ดร.ประณม ถาวรเวช ผู้อํานวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการร่วมกัน ณ ห้องประชุม ทวี หอมชง สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี มีคณะอาจารย์ร่วมเป็นสักขีพยาน จากนั้นเป็นพิธีมอบประกาศนียบัตร ผู้ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย รวม 11 คนการลงนามความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา และพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย มุ่งหวังที่จะดําเนินกิจกรรมร่วมกันในด้านการพัฒนาบุคลิกภาพให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนพัฒนากระบวนการในการฝึกฝนและพัฒนาตนเองทั้งเรื่องของแนวคิดและบุคลิกภาพที่เหมาะสม เพื่อการดําเนินชีวิตและประกอบอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพให้เข้ากับบุคลากรและนิสิตของมหาวิทยาลัย ตลอดจนผู้สนใจทั่วไปสําหรับการลงนามในครั้งนี้ เป็นการผนึกกําลังและศักยภาพทั้งสองหน่วยงานในการขับเคลื่อนผลักดันการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการดํารงชีวิตตลอดจนทํางานร่วมกับผู้อื่นในสังคม รองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากคุณภาพของบุคลากรเป็นหัวใจสําคัญในการขับเคลื่อนองค์กร และหน่วยงานธุรกิจ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจและสังคมอีกด้วยปริญญา ข่าว/ภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202141919577
933
สาธารณสุขระยอง ยันผลสุ่มตรวจไม่พบสารปนเปื้อนจากคราบน้ำมันในสัตว์น้ำ พร้อมเตรียมจัดทีมเจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจตลาดสัตว์น้ำต่อเนื่อง
นายแพทย์สาธารณสุขระยอง ยันผลสุ่มตรวจไม่พบสารปนเปื้อนจากคราบน้ํามันในสัตว์น้ํา พร้อมเตรียมจัดทีมเจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจตลาดสัตว์น้ําต่อเนื่อง ฝากเตือนห้ามนําสัตว์น้ําที่มีคราบน้ํามันติดมาบริโภคเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 ก.พ.65 นายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง พร้อมด้วยนายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ได้เดินทางไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบน้ํามันรั่วไหลกลางทะเล ที่หมู่บ้านสบายสบาย รีสอร์ท ริมหาดแม่รําพึง อ.เมือง จ.ระยองนายสุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า หลังจากได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตัวอย่างตรวจสอบอาหารทะเลตามตลาดสดต่างๆ ของ จ.ระยอง ผลการตรวจยังไม่พบว่า มีสารปนเปื้อนจากคราบน้ํามันในอาหารทะเลที่วางจําหน่ายอยู่แต่อย่างใด ซึ่งจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามอยากจะฝากเตือนไปยังผู้บริโภคว่า หากพบสัตว์น้ําที่ตาย และผู้ที่จับสัตว์น้ําที่มีคราบน้ํามันติดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อนําไปตรวจสอบหาสารปนเปื้อนทันที อย่าเพิ่งนําไปบริโภคด้าน นายอนันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า หลังจากที่เปิดศูนย์ฯ มาเป็นวันที่ 4 ยังคงมีผู้ได้รับผลกระทบทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งตลอด โดยมียอดรวมขณะนี้ประมาณ 700 รายแล้ว คาดว่ายอดคงจะเพิ่มขึ้นอีกมาก พร้อมฝากแจ้งว่าศูนย์ฯ แห่งนี้ยังคงเปิดต่อไป ยังไม่มีการปิดรับแจ้งจนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130258529
934
จ.ลำพูน ชี้แจงการบังคับใช้ทางกฎหมาย แก่ทุกอำเภอ ป้องกันปัญหาการกักตุนสินค้า ในช่วง COVID19 ระบาด
วันนี้ (2 ก.พ.65) ที่ห้องประชุมหริภุญชัย ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ประชุมชี้แจงนายอําเภอทุกอําเภอ ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล ถึงแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ. สํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 เพื่อชี้แจงอํานาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันปัญหาการกักตุนสินค้าในช่วงที่มี COVID-19 ระบาด ในกรณีที่ที่พบปัญหาการกักตุนโภคภัณฑ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน และนายอําเภอ สามารถดําเนินการได้ รวมทั้งยังสามารถ สั่งให้ผู้ครอบครองแจ้งจํานวน หรือสั่งให้ขายทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทางจังหวัดยังได้กําชับให้นายอําเภอทุกพื้นที่หมั่นดําเนินการสอดส่อง หากพบปัญหาให้รีบแจ้งมายังจังหวัดทันที นอกจากนี้ หากประชาชนพบปัญหาการกักตุนโภคภัณฑ์ สามารถแจ้งมาที่ศูนย์ดํารงธรรมอําเภอ หรือศูนย์ดํารงธรรมจังหวัด เพื่อเป็นข้อมูลให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202120850492
935
ปกครอง จ.ลำพูน ตรวจติดตามร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการระบาด COVID-19 ตามมาตรการของจังหวัด
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลําพูน พร้อมด้วย สถานีตํารวจภูธรเมืองลําพูน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมออกตรวจตราร้านจําหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่อําเภอเมืองลําพูน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการระบาด COVID-19 จํานวน 6 ร้าน ที่ได้รับอนุญาตให้จําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สถานที่เพื่อการจําหน่ายหรือบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านตามคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลําพูนที่ 12/2565จากการตรวจสอบผู้ประกอบการ ได้รับรองการดําเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขในระดับ SHA PLUS หรือผ่านการตรวจตามมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ Thai Stop Covid 2 Plus และมีเอกสารผลการตรวจติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบบ ลพ.02 ที่ทาง ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอําเภอ หรือศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตําบล ได้พิจารณาอนุญาตไว้พร้อมกันนี้ในแต่ละสถานประกอบการ ยังได้มีการจัดสถานที่ให้ดื่มกินเป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเท และมีการเว้นระยะห่างระหว่างกัน ตามมาตรการสาธารณสุข ส่วนในโซนห้องปรับอากาศ สถานที่ปิด ทางร้านยังไม่เปิดให้ใช้บริการ อีกทั้งทุกร้านยังได้ปฏิบัติตามมาตรการของทางจังหวัดโดยทําการปิดให้บริการก่อนเวลา 23.00 น. ในทุกคืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202121155495
936
จังหวัดสมุทรสงคราม จัดกิจกรรม “MOBILE สัมมาชีพชุมชน คนแม่กลอง” เพิ่มช่องทางการตลาด และสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในพื้นที่
วันนี้ (2 ก.พ.65) นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นางชยาณี มัจฉาเดช พัฒนาการจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการ เยี่ยมชมการจัดกิจกรรม “MOBILE สัมมาชีพชุมชน คนแม่กลอง ณ บริเวณลานด้านข้างหอประชุมศูนย์วัฒนธรรมอําเภอเมืองสมุทรสงคราม โดยมีสมาชิกกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ประกอบด้วย กลุ่มสัมมาชีพ สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จํานวน 15 กลุ่ม มีการสาธิตอาชีพทําไม้กวาดทางมะพร้าว สาธิตอาชีพทํากระทงใบตองแห้ง สาธิตอาชีพการเพาะต้นอ่อนผักบุ้ง/ต้นอ่อนทานตะวัน สาธิตอาชีพการทําสลัดโร สาธิตอาชีพการเลี้ยงผึ้งจิ๋วชันโรง พร้อมทั้งมอบเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว และไข่ไก่ ให้กับครัวเรือนยากจนพัฒนาการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า การจัดกิจกรรม“MOBILE สัมมาชีพชุมชน คนแม่กลอง” เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสมาชิกกลุ่มอาชีพต่าง ๆ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับครัวเรือนยากจนที่สามารถพัฒนาได้ (ข้อมูลจาก TPMAP) “แก้ตรงจุด หลุดพ้นความจน” นอกจากนั้น ยังสามารถแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือนร้อนหรือผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อีกช่องทางหนึ่งด้าน นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวด้วยว่า เนื่องด้วยปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบให้เกิดภาวะค่าครองชีพสูงขึ้นกระทรวงมหาดไทยจึงมอบหมายให้ทุกจังหวัดบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมยกระดับรายได้ให้กับครัวเรือนยากจนได้มีการประกอบอาชีพที่ยั่งยืน โดยการเชิญชวนกลุ่มและสมาชิกของกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มสัมมาชีพตามโครงการสร้างสัมมาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มอาชีพที่กู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และภาคีเครือข่ายร่วมจัดอบรมหรือฝึกสอนวิชาชีพ เช่น การทําอาหาร การจําหน่ายพืชผักสวนครัว และการใช้วัสดุพื้นถิ่นมาสร้างอาชีพเป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202125636520
937
นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช มอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานหารณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อุทกภัย
วันนี้ (2 ก.พ.65) บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 2 ตําบลมะม่วงสองต้น อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช นางอนุรี วิศิษฎ์วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานมอบเงินสงเคราะห์ จํานวน 10,000 บาท แก่นางปรานอม รอดภัย มารดาของนายศักดิ์ณรงค์ รอดภัย อายุ 37 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุสถานการณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ในพื้นที่อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ตามระเบียบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามประกาศจังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่อง เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช) ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2564 และระเบียบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสํารองจ่ายจังหวัด ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติกรณีต่างๆ พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ จากหย่อมความกดอากาศต่ํากําลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ตอนกลาง ได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามัน ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้น้ําท่วมฉับพลันหลายตําบลในพื้นที่อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช และจากสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จํานวน 1 ราย คือ นายศักดิ์ณรงค์ รอดภัย อายุ 37 ปี สถานภาพโสด ที่อยู่บ้านเลขที่ 54/6 หมู่ที่ 2 ตําบลมะม่วงสองต้น อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยเหตุเกิดจากการออกไปหาปลาบริเวณบ้านในช่วงอุทกภัยแล้วจมน้ําเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2564#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202191841761
938
ผวจ.ลำปาง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการแหล่งน้ำ “ห้วยแม่นึง” ร่วมหารือพัฒนาพื้นที่เชิงเกษตร
ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมหัวหน้าหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดําเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริในพื้นที่อําเภอเมืองปาน "โครงการอ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง" ร่วมประชุมหารือแนวทางการต่อยอดพัฒนาพื้นที่เชิงเกษตร มุ่งเป้าขับเคลื่อนส่งเสริมวิถีเกษตรแบบแปลงใหญ่นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางลงพื้นที่ไปยังสถานที่ก่อสร้าง โครงการอ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง อันเนื่องมาจากพระราชดําริในเขตท้องที่ตําบลทุ่งกว๋าว อําเภอเมืองปาน เพื่อตรวจเยี่ยมดูสภาพพื้นที่และติดตามความคืบหน้าการดําเนินงานโครงการฯ หลังจากที่ "อ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง" ได้ทําการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ พร้อมพบปะกับกลุ่มตัวแทนเกษตรกรในเขตพื้นที่โครงการฯ ร่วมประชุมหารือวางแนวทางการต่อยอดโครงการฯ เพื่อพัฒนาพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานให้เกิดความเหมาะสมและยั่งยืน ซึ่งได้เตรียมแผนที่จะดําเนินการพัฒนาพื้นที่รับประโยชน์กว่า 6,500 ไร่ ขับเคลื่อนส่งเสริมการทําการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง พร้อมเตรียมสนับสนุนการรวมกลุ่มให้เกษตรกรในพื้นที่โครงการฯ ได้มีการบริหารจัดการร่วมกันตั้งแต่กระบวนการผลิต การลดต้นทุน และด้านการตลาด ภายใต้วิถีการทําการเกษตรแบบอินทรีย์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการขับเคลื่อนแผน จัดเตรียมแนวทางการบริหารจัดการภาคการเกษตรในเขตพื้นที่โครงการฯ ให้มีการดําเนินงานที่เป็นรูปธรรมในระยะต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้การดําเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ได้เกิดประโยชน์สูงสุดช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน เสริมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในด้านอาชีพให้แก่คนรากหญ้าในเขตพื้นที่โครงการฯทั้งนี้สําหรับโครงการอ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ โดยทางสํานักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 2 กรมชลประทาน ได้มีการดําเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ําขึ้น ตรงบริเวณพื้นที่จุดพิกัด 47 QNA 536-459 อยู่ในเขตบริเวณพื้นที่ตําบลทุ่งกว๋าว อําเภอเมืองปาน จังหวัดลําปาง โดยเป็นโครงการอ่างเก็บน้ําขนาดกลาง มีขนาดความจุน้ําที่ระดับกักเก็บ 9.19 ล้าน ลบ.ม. เป็นอ่างกักเก็บน้ําลักษณะเขื่อนดินแบบแบ่งโซน (Zone Type) มีแกนกลางเป็นดินเหนียว ขนาดสันเขื่อนกว้าง 8 เมตร ยาว 290 เมตร สูง 57.50 เมตร มีอาคารควบคุมระดับน้ําล้น พร้อมระบบส่งน้ําด้วยท่อ สําหรับจัดส่งน้ําไปยังพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรในเขตพื้นที่ ปัจจุบันโครงการอ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ได้ดําเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยขณะนี้มีระดับน้ํากักเก็บภายในอ่างอยู่ที่ประมาณ 8.125 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 88.41 ของความจุอ่าง ซึ่งอ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง อันเนื่องมาจากพระราชดําริแห่งนี้ สามารถที่จะส่งน้ําสนับสนุนพื้นที่ทําการเกษตรได้มากกว่า 6,550 ไร่ ในฤดูฝน และอีกกว่า 2,200 ไร่ ในช่วงหน้าแล้ง ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 5 หมู่บ้าน ในตําบลทุ่งกว๋าว ช่วยให้ราษฎรในพื้นที่ลุ่มน้ํา สามารถที่จะทําการเกษตรปลูกพืชหมุนเวียนได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งยังสามารถที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ําสําหรับเพื่อการอุปโภค-บริโภค ของราษฎรในเขตโครงการฯ และสามารถที่จะช่วยบรรเทาความเสียหายอันเนื่องมาจากอุทกภัยในบริเวณพื้นที่ท้ายน้ําที่มักเกิดขึ้นเป็นประจําทุกปี ทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ําจืดของชุมชน ให้ราษฎรในเขตพื้นที่โครงการฯ ได้มีแหล่งอาหารโปรตีนไว้บริโภคและสร้างอาชีพทางการประมง ตลอดจนสามารถที่จะช่วยลดปริมาณตะกอนดินที่ไหลลงสู่แหล่งน้ําตอนล่าง ทําให้พื้นที่ลุ่มน้ํามีประสิทธิภาพกักเก็บน้ําได้ดีขึ้น และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอ่างเก็บน้ําและฝายขนาดเล็กต่างๆ ตามแนวเขตลุ่มน้ํา โดยหากในอนาคตชุมชนพื้นที่ได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ตามแนวทางการดําเนินงานที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือร่วมกัน ก็จะช่วยให้ชุมชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากอ่างเก็บน้ําห้วยแม่นึง อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ซึ่งจะเป็นได้ทั้งแหล่งน้ําต้นทุนเพื่อใช้ในการอุปโภค-บริโภค ประกอบอาชีพ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ ทําให้ราษฎรในชุมชนได้รับการพัฒนามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202121448496
939
เกษตร จ.แพร่ เคาะเอกภาพลำไยจังหวัดแพร่ ครั้งที่ 1 ปี 2565
สํานักงานเกษตรจังหวัดแพร่ สัมมนาเชิงปฏิบัติการจัดทําข้อมูลเอกภาพและสัมมนาบูรณาการแผนบริหารจัดการผลไม้ในระดับภาค ครั้งที่ 1/2565นางสาวกรณ์สิรี อภิสิริรัชฎ์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานไม้ผล ร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการจัดทําข้อมูลเอกภาพและสัมมนาบูรณาการแผนบริหารจัดการผลไม้ในระดับภาค ครั้งที่ 1 ปี 2565 เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตไม้ผลสําคัญ ได้แก่ ลิ้นจี่ และลําไย จัดทําข้อมูลเอกภาพและจัดทําแผนบริหารจัดการผลไม้ระดับภาคโดยมีผู้แทนเกษตรกรผู้ปลูกลําไย และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานไม้ผลระดับระดับอําเภอร่วมสัมมนา ณ ห้องประชุมพิรุณ 2 สํานักงานเกษตรจังหวัดแพร่ และมีนางอังคณา พุทธศรี ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการสัมมนาผ่านระบบออนไลน์ แอปพลิเคชัน Zoom Cloud Meeting ณ ห้องประชุมสํานักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่สําหรับข้อมูลเอกภาพลําไยจังหวัดแพร่ ปี 2565 มีเนื้อที่ยืนต้น 3,736 ไร่ เนื้อที่ 3,721 ไร่ ผลผลิต 1,429 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 384 กิโลกรัม #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202121640500
940
ตำรวจ แจ้ง 3 ข้อหา หนุ่มขับรถชนเจ้าหน้าที่การทางพิเศษดับบนทางด่วน พฐ.ตรวจความเร็วเอาผิดเพิ่ม
พลตํารวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุชายอายุ 22 ปี ขับขี่รถชนเจ้าหน้าที่การทางพิเศษขณะซ่อมบํารุงทาง เสียชีวิตบนทางด่วน กลางดึกคืนวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ว่า ผู้ขับขี่ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 1 เรียบร้อยแล้ว โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ไป 3 ข้อหา ซึ่งผู้ขับขี่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหานอกจาก 3 ข้อกล่าวหาเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จะตรวจสอบอีกหนึ่งประเด็นที่อยู่ระหว่างการพิจารณาวิเคราะห์ว่า เข้าข่ายมีความผิดหรือไม่ คือข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกําหนด หากผลการตรวจวิเคราะห์ความเร็วพบว่า ขับขี่มาเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะเรียกตัวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดนี้เพิ่มเติม
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202121759502
941
บีม ศรัณยู เข้ารับทราบข้อหา และเสียค่าปรับ กรณีเคี้ยวใบกระท่อม ขับรถขับเรือลักษณะประมาทหวาดเสียว
พลตํารวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตํารวจนครบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดําเนินคดี บีม ศรัณยู ประชากริช กรณีไลฟ์เฟซบุ๊ก เคี้ยวใบกระท่อม ขับรถและขับเรือในลักษณะประมาทหวาดเสียว ว่า จากการตรวจสอบ พบการกระทําความผิดใน 2 ท้องที่ คือ สถานีตํารวจนครบาลบางยี่ขัน และบางพลัด โดยในพื้นที่บางยี่ขัน กรณีขี่รถจักรยานยนต์ ดําเนินคดี 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกตัว บีม ศรัณยู มารับทราบข้อหา และให้เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาทแล้ว ในส่วนของสถานีตํารวจนครบาลบางพลัด ก่อเหตุ 2 คดี คดีแรกคือ กรณีขับรถจิ๊ป ดําเนินคดี 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกตัว บีม ศรัณยู มารับทราบข้อหา และให้เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาทแล้วเช่นกัน คดีที่ 2 คือ กรณีขับรถโกลคาร์ทก็ได้ยึดรถ พร้อมกับดําเนินคดี 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน, ขับรถโดยไม่คํานึงถึงความเดือดร้อนหรือความปลอดภัยของผู้อื่น และนํารถที่ไม่ได้จดเลขทะเบียนและเสียภาษีมาใช้ในทาง ซึ่งคดีนี้ และมีการเปรียบเทียบปรับไป1,000 บาท ในความผิดข้อหาขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน ส่วนอีก 2 ข้อหา ได้นัดส่งฟ้องศาลอาญาตลิ่งชัน ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.65)
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202140652568
942
สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลานรับประทานไส้กรอกไม่มีคุณภาพ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
สํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลานรับประทานไส้กรอกไม่มีคุณภาพ ระบุแหล่งผลิตไม่ชัดเจน เสี่ยงเด็กป่วยด้วยภาวะเมธฮีโมโกลบิน(Methemoglobin) อันตรายถึงชีวิตภาวะเมธฮีโมโกลบินในเลือด (Methemoglobin) เป็นภาวะที่ “ฮีโมโกลบิน” ในเม็ดเลือดแดงทําปฏิกิริยากับสารเคมีกลายเป็น “เมธฮีโมโกลบิน” ซึ่งในภาวะปกติฮีโมโกลบินจะทําหน้าที่จับกับออกซิเจน เมื่อ กลายเป็นเมธฮีโมโกลบินจะไม่สามารถจับกับออกซิเจนได้ ทําให้ร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจน และสีเม็ด เลือดเปลี่ยนเป็นสีน้ําตาลดํา ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะมีอาการของการขาดออกซิเจน เช่น มึนศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หายใจเร็ว ปลาย มือปลายเท้าเขียว และปากเขียว หากรุนแรงจะมีอาการหอบเหนื่อยมาก เลือดเป็นกรด ความดันโลหิตต่ําและ เสียชีวิตได้ นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อํานวยการสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึง สถานการณ์ผู้ป่วยที่มีภาวะเมธฮีโมโกลบิน ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 พบเด็กป่วยด้วยภาวะเมธ ฮีโมโกลบิน ในจังหวัดตรัง จํานวน 3 ราย จากรายงานการลงพื้นที่สอบสวนโรคของหน่วยงานในพื้นที่ พบว่า หลังผู้ป่วยรับประทานไส้กรอกภายในระยะเวลา 30 นาที มีอาการเวียนศีรษะ รู้สึกแขนขาอ่อนแรง ล้มลง หน้าซีด ปลายมือปลายเท้าเขียว ง่วงนอน โดยชนิดของไส้กรอกที่รับประทานเป็นไส้กรอกแบบหลายสี บรรจุในถุงพลาสติกใส ไม่ระบุยี่ห้อ และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ไม่มีเลขทะเบียน อย.กํากับ สคร.12 สงขลา เน้นย้ําผู้ปกครอง เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่มีคุณภาพ ระบุฉลากรายเอียดแหล่งที่มาชัดเจน สถานที่ผลิต วันหมดอายุ และมีมาตรฐานการรับรองที่เชื่อที่ถือ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202125446518
943
พ่อเมืองฯศรีสะเกษ หารือการยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ และการขับเคลื่อนผ้าทอศรีสะเกษ “ผ้าเบ็ญจศรี”
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะทํางานระดับจังหวัด หารือการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ และการขับเคลื่อนผ้าทอศรีสะเกษ “ผ้าเบ็ญจศรี”ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting ร่วมกับผู้บริหารสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้แก่ นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ รองผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฯ และคณะ โดยมีประเด็นสําคัญในการหารือประกอบด้วย การพัฒนาผ้าทอศรีสะเกษด้วยนวัตกรรมการเคลือบผ้านาโน “กลิ่นดอกลําดวน” การวางแผนการลงพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนในมิติทางการเกษตร เช่น กลุ่มข้าวและหอมแดง มิติทางวัฒนธรรม เช่น การท่องเที่ยววัดสระกําแพงใหญ่ กลุ่มผ้าทอศรีสะเกษ การจัดนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ รวมทั้งการเตรียมการจัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ด้วย ทั้งนี้ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าสํานักงานจังหวัด พัฒนาการจังหวัด ผู้แทนเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ผู้แทนเกษตรจังหวัด ผู้แทนผู้อํานวยการศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัด คณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202123110509
944
จังหวัดตราด เดินหน้าพิจารณาเป้าหมายและแผนบูรณาการตรวจคุ้มครองแรงงานประมงทะเลปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
(2 ก.พ. 65) นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดตราด ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งจังหวัดตราดโดยสํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตราด ในฐานะคณะทํางานและเลขานุการของศูนย์ฯ จัดขึ้นโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 11 หน่วยงาน เข้าร่วมที่ห้องประชุมบานชื่น ศาลากลางจังหวัดตราดทั้งนี้ ตามที่จังหวัดตราดได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดตราด ขึ้นเพื่อให้หน่วยงานทั้ง 11 หน่วยงาน ร่วมกันจัดทําแผนประสานความร่วมมือการตรวจคุ้มครองแรงงาน เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ด้านกิจการประมงทะเล โดยดําเนินการตรวจ รับคําร้อง มีคําสั่ง ดําเนินคดี กํากับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายในเรือประมงทะเลโดยเคร่งครัด รวมทั้งส่งต่อประสานความช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จึงได้จัดให้มีการประชุมศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดตราด ในครั้งนี้ขึ้น โดยได้มีการนําเสนอผลการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมา รวมทั้งการนําเสนอผลการดําเนินการตามข้อกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งนี้ที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาเป้าหมายและแผนบูรณาการตรวจคุ้มครองแรงงานประมงทะเลปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งจะมีการบูรณาการตรวจคุ้มครองแรงงานในเรือประมง บูรณาการตรวจเรือประมงทะเลหรือท่าเทียบเรือ ตรวจสถานประกอบกิจการแปรรูปสัตว์น้ํา รวมทั้งการตรวจสถานประกอบกิจการกลุ่มเสี่ยง อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202123938511
945
รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่เพื่อเตรียมการจัดเสวนาโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 256 - นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายชาญชัย ดารารัตติกาล ผู้อํานวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด สํานักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับที่ทําการปกครองอําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน องค์การบริหารส่วนตําบลหมอกจําแป่ รพ.สต.บ้านรักไทย ผู้ใหญ่บ้านรักไทย และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมดําเนินการตรวจพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมการลงพื้นที่ และการจัดเสวนาโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 9 - 11 กุมภาพันธ์ 2565 ณ บ้านรักไทย ตําบลหมอกจําแป่ อําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจความพร้อมสถานที่ที่ใช้จัดเสวนาโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะมีการเสวนา สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน สัญจร ประชาชนได้อะไร สําหรับการจัดเสวนาโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนฯ จังหวัดเตรียมนําเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา ผลผลิตกระเทียมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน พื้นที่ทํากินและที่อยู่อาศัยของประชาชนตามรูปแบบแม่ฮ่องสอนโมเดล การค้าชายแดน การนําเข้าและส่งออกสินค้า การท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและ การคมนาคมในจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130920539
946
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยราชการในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 - นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยราชการในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการติดตามผลการดําเนินงานด้านต่างๆของหน่วยงานในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่อํานวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพตลอดจนรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการดําเนินงาน พร้อมตรวจเยี่ยมให้กําลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการทํางานในพื้นที่จังหวัดชายแดนอีกด้วย สําหรับหน่วยงานที่มีการตรวจเยี่ยมในวันนี้ ได้แก่ สํานักงานประกันสังคมจังหวัด แขวงทางหลวงชนบท โครงการชลประทาน สํานักงานพลังงานจังหวัด สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตํารวจภูธรจังหวัด เรือนจําจังหวัด มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ สาขาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชิญชวนให้หน่วยงานราชการทุกแห่ง ได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อสร้างความสวยงามตามนโยบาย หน้าบ้านหน้ามอง ให้สมกับเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งการรักษาความสะอาดภายในสถานที่ราชการ การจัดระเบียบความสวยงาม และความสะอาด เพื่อสร้างสุขภาวะอนามัยที่ดีในหน่วยราชการอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202131025541
947
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ประจำปีการศึกษา 2561-2562 และปฏิบัติพระราชกรณียกิจในจังหวัดกาฬสินธุ์
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.29 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ประจําปีการศึกษา 2561 – 2562 ณ อาคารกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ อําเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ในการนี้ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ถวายปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพืชศาสตร์ แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ตระหนักถึงพระเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางด้านการพัฒนาต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการอนุรักษ์ การพัฒนาทรัพยากรพันธุกรรมพืชและทรัพยากรของประเทศ เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้า มั่นคง และประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจากนั้น รองศาสตราจารย์จิระพันธ์ ห้วยแสน อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กราบบังคมทูลเบิกพระสงฆ์ผู้สําเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระดําเนินพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษาผู้พิการ สร้างความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์มีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จํานวนทั้งสิ้น 1,382 คน ประกอบด้วย ระดับปริญญาโท 32 คน และปริญญาตรี 1,350คน จากทั้งหมด 6 คณะในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ประจําปี การศึกษา 2561-2562 ความตอนหนึ่งว่า“ขอชื่นชมบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสําเร็จ เมื่อสําเร็จการศึกษาแล้ว ย่อมต้องออกไปดําเนินชีวิต การที่จะดํารงตนอยู่ในสังคมนั้น สําคัญที่สุดคือจะต้องทํางานเลี้ยงตน เลี้ยงครอบครัวได้และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตนกับชุมชนได้ ต่อไปภายหน้าไม่ว่าบัณฑิตจะได้ทํางานใดและอยู่อาศัย ณ ที่ใดก็ตาม จึงต้องตั้งใจประกอบอาชีพการงานด้วยความอดทนพากเพียร โดยเต็มกําลังความรู้ ความสามารถ พร้อมทั้งประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดี มีน้ําใจไมตรีต่อผู้อื่นฯ ”จากนั้น เวลา 13.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จไปยังโรงเรียนคําม่วง อําเภอคําม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อทรงเปิดอาคาร “สิริสินธุศาสตร์” โดยมีนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวถวายรายงาน ในการนี้ทรงพระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณและผู้มีจิตศรัทธาถวายเงินเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา จํานวน 5 ราย และเสด็จทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย อาคารสิริสินธุศาสตร์ ก่อนจะทรงปลูกต้นมะหาด เสด็จพระราชดําเนินทรงทอดพระเนตร วงดนตรีโปงลางโรงเรียนคําม่วง และทรงมีพระราชปฏิสันถารแก่ พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปสิทธิโก วัดผาสุกประสิทธิการามใบบุญ ผู้เป็นที่ปรึกษาของโรงเรียนคําม่วง และในการนี้ พสกนิกรชาวอําเภอคําม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ทูลเกล้าผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น แก่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โรงเรียนคําม่วง เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 มีนักเรียน จํานวน 1,392 คนได้รับความเมตตาจากพระเทพญาณวิศิษฎ์ วัดปุทวนารามและพระอาจารย์ประสิทธิ์ ปสิทธิโก วัดผาสุกประสิทธิการามใบบุญ เป็นที่ปรึกษาโรงเรียนและเป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนตลอดมาจนถึงปัจจุบัน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 84 คน โรงเรียนสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล (World Class Standard School) บนวิถีความพอเพียง โดยมีผลงานได้รับรางวัลสําคัญ อาทิ รางวัลนักเรียนพระราชทาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจําปีการศึกษา 2563 รางวัลเหรียญทอง วงโยธวาทิตนานาชาติ Thailand World Music Championship จากสมาคมวงโยธวาทิต รางวัลเหรียญเงินวงโยธวาทิต ประเภทขบวนพาเหรด จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรางวัลชนะเลิศระดับชาติ การประกวดโครงงานคณิตศาสตร์ประเภทบูรณาการความรู้ในคณิตศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 เป็นต้นจากนั้น เวลา14.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จไปยังโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฏ์อุดมวิทย์ อําเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ ทรงพระราชทานสิ่งของแก่ผู้อํานวยการโรงเรียน และผู้แทนนักเรียน ในการนี้ทรงพระราชทานพันธ์ไม้ผล มะม่วงพันธุ์มหาชนจากนั้น นายสมเกียรติ คุ้มนายอ ผู้อํานวยการโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฏ์อุดมวิทย์ กราบบังคมทูลรายงานผลการดําเนินงานของโรงเรียน ความก้าวหน้าของโครงการตามพระราชดําริ โดยได้ตั้งเป้าในการพัฒนา 8 เป้าหมาย เสริมสร้างสุขภาพเด็กตั้งแต่ในครรภ์มารดา เพิ่มโอกาสทางการศึกษา เสริมสร้างวิชาการและจริยธรรม จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม “หนึ่งใจ ให้ธรรมะ” เสริมสร้างวิชาชีพ เลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผักตามฤดูกลาล กิจกรรมสหกรณ์เพื่อฝึกฝนทักษะในการทํางานร่วมกันของนักเรียน เสริมสร้างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นและของชาติไทย ขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน พัฒนาสถานศึกษาเป็นศูนย์บริการความรู้ โรงเรียนได้จัดกิจกรรมเปิดบ้านวิชาการเพื่อให้ครูและนักเรียนเผยแพร่ผลงานตามกลุ่มสาระการเรียนรู้จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จไปทอดพระเนตรโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน และทรงปลูกต้นสมพง ในการนี้ทรง เปิดแพรคลุมป้าย “โครงการจัดหาน้ําสนับสนุนโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฎ์อุดมวิทย์” ทรงทอดพระเนตรการดําเนินงานโครงการจัดหาน้ําสนับสนุนโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฎ์อุดมวิทย์ ซึ่งมีลักษณะโครงการเป็นงานขุดลอกสระน้ําเพื่อการเกษตร มีความลึกเฉลี่ยจากดินเดิม 3.00เมตร ปริมาตรเก็บกัก 3,675 ลบ.ม. ทําการปรับปรุงระบบเก็บกักด้วยการปูแผ่นดินเหนียวสังเคราะห์ ความหนา 0.50ม. ปริมาณงาน 2,411ตร.ม. งานขุดลอกสระเพื่อการผลิตน้าประปา มีความลึกเฉลี่ยจากดินเดิม 3.50เมตร มีปริมาตรเก็บกัก 13,700 ลบ.ม. ปรับปรุงระบบเก็บกักด้วยการปูแผ่นดินเหนียวสังเคราะห์ ความหนา 0.50 ม.ปริมาณงาน 4,808 ตร.ม. และงานก่อสร้างระบบประปาผิวดิน แบบผิวดินขนาดกลางบริเวณโครงการฯ ซึ่งโครงการจัดหาน้ําสนับสนุนโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฎ์อุดมวิทย์ สร้างประโยชน์เพิ่มปริมาณน้ําดิบในการผลิตประปาในโรงเรียนฯ เป็นแหล่งน้ําสําหรับการอุปโภค-บริโภค ภายในโรงเรียนฯ จํานวนนักเรียน และบุคลากร 143 คน อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ําสําหรับการอุปโภค-บริโภคสําหรับราษฎรและหมู่บ้านข้างเคียงในพื้นที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จไปทอดพระเนตร นิทรรศการผลงานนักเรียน ผลงานวิชาการ การบูรณาการน้ําสู่อาชีพ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรงทอดพระเนตรผลงานนักเรียน ในการแกะสลัก ร้อยมาลัย งานใบตอง งานพวงกุญแจจากวัสดุเหลือใช้ การทําเสื้อปักมือลายภูไท การทําธุงอิสาน ทรงทอดพระเนตรกิจกรรมห้องสมุด กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ผลิตภัณฑ์ชุมชนของดี 4 ตําบล#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กาฬสินธุ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130107526
948
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี โปรดให้ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่เกษตรกร
วันนี้ (2 ก.พ.65) ที่สํานักงานเทศบาลเมืองปากพูน อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี โปรดให้ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคสุกรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอําเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 4 อําเภอ คืออําเภอเมืองนครศรีธรรมราช ร่อนพิบูลย์ สิชลและพรหมคีรี จํานวน 30 คน เข้าร่วมในพิธี ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัดทั้งนี้ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคสุกร จํานวน 135 ราย จากจํานวนเกษตรผู้เลี้ยงสุกรทั้งสิ้น 2,900 ราย โดยจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565เป็นต้นมา มีสุกรได้รับผลกระทบจากการระบาดจํานวน 192 ตัว รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 แสนบาทอุไรวรรณ/ข่าว พรรณี-จุรีรัตน์/ภาพ2 กุมภาพันธ์ 2565สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202125217512
949
เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอวังวิเศษ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวังวิเศษ ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลูกชิ้น ไส้กรอก ร้านหนึ่งภายในตลาดคลองชี อ.วังวิเศษ จ.ตรัง
เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มงานควบคุมโรค สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอําเภอวังวิเศษ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวังวิเศษ ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจําหน่ายผลิตภัณฑ์ลูกชิ้น ไส้กรอก ร้านหนึ่งภายในตลาดคลองชี อ.วังวิเศษ จ.ตรัง หลังได้รับการข้อมูลจากผู้ปกครองของเด็กชาย – หญิง 2 พี่น้อง อายุ 8 และ 9 ขวบ ที่ป่วยด้วยภาวะเมทฮีโมโกลบิน เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ว่าซื้อไส้กรอกหลากสี ไม่มียี่ห้อ และเลขทะเบียน อย.จากร้านดังกล่าวมารับประทาน จนส่งผลให้ลูกทั้ง 2 คน เกิดอาการป่วยเฉียบพลันด้วยภาวะเมทฮีโมโกลบินดังกล่าว จากข้อมูลพบว่า ร้านดังกล่าวรับไส้กรอกชนิดดังกล่าวมาทั้งหมด 30 แพ็ค จากตัวแทนจําหน่ายจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ และจําหน่ายไปทั้งหมดแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไส้กรอกจากผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คน เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา จากนั้นได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรัง ทําให้ขณะลงพื้นที่ไปตรวจสอบในวันนี้ไม่มีไส้กรอกชนิดดังกล่าววางจําหน่ายที่แผงแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้กวดขันในการซื้อสินค้ามาจําหน่าย จะต้องซื้อสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องได้รับการขึ้นทะเบียน อย.เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ขณะเดียวกันได้เดินแจงเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์แก่พ่อค้า แม่ค้า รวมทั้งประชาชนที่เดินทางไปจับจ่ายสินค้าในตลาด เพื่อประชาสัมพันธ์ถึงกรณีพบเด็ก 3 คน ป่วยด้วยภาวะเมทฮีโมโกลบินอย่างเฉียบพลัน ซึ่งเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ทั้งนี้ ได้ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ประชาชนเลือกซื้อสินค้าเฉพาะที่มียี่ห้อ เลขทะเบียน อย.กํากับ ระบุชื่อบริษัท แหล่งผลิต ปริมาณ และวันเวลาหมดอายุเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ไส้กรอกยี่ห้อดังกล่าว เข้ามาในจังหวัดตรัง ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2565 เป็นต้นมา รวมทั้งหมด 80 แพ็ค โดยพบว่า 2 ราย ในอําเภอสิเกา และห้วยยอด ได้มีตัวแทนจากอําเภอทุ่งสง นําสินค้ามาส่งให้จําหน่ายโดยตรง ส่วนที่อําเภอวังวิเศษ ไปรับสินค้าจากอําเภอทุ่งสง เพื่อนํามาจําหน่ายเอง และจําหน่ายไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งร้านค้าแห่งหนึ่งในอ.สิเกา รับมาทั้งหมด 10 แพ็ค จําหน่ายไป 5 แพ็ค เจ้าหน้าที่เก็บจํานวน 5 แพ็ค ,ส่วนร้านค้าใน อ.ห้วยยอด จํานวน 40 แพ็ค ทางร้านยังไม่ได้จําหน่าย จึงเก็บส่งคืนบริษัท ทางสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง จึงได้สั่งเฝ้าระวังเด็กเป็นพิเศษใน 3 อําเภอดังกล่าว ที่เด็กอาจจะป่วย จากการซื้อไปรับประทานก่อนหน้านี้ ต่อไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202125720521
950
ส่งมอบบ้านกาชาดจังหวัดพัทลุง อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง
พิธีเปิดและส่งมอบ “บ้านกาชาดจังหวัดพัทลุง” ประจําปี 2565 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 66 พรรษาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.30 น. ณ บ้านเลขที่ 250 ตําบลคลองเฉลิม อําเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง จัดโครงการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ประธานในพิธีเปิดและส่งมอบ “บ้านกาชาดจังหวัดพัทลุง” พร้อมด้วยนางมะลิ วงศ์กระพันธุ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง นายเขมพล อุ้ยตยะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา และว่าที่นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง ปลัดจังหวัดพัทลุงเดินทางไปที่านเลขที่ 250 ตําบลคลองเฉลิม อําเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ร่วมกันส่งมอบ “บ้านกาชาดจังหวัดพัทลุง” เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 66 พรรษา ให้แก่ นายก่อ เจริญฤทธิ์ อายุ 49 ปี มีโรคประจําตัวคือกล้ามเนื้ออ่อนแรง และปัจจุบันไม่มีอาชีพ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน ช่วยเหลือราษฎรผู้ยากไร้และด้อยโอกาส ได้ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรง เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับราษฎรที่ยากจน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อส่งเสริมคนดีที่ขยันอดทนและมีฐานะยากจนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้มากขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้คนประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม ซึ่งนายก่อ เจริญฤทธิ์ นางสาวส่ากี่หนะ เส็นบัตร(ภรรยา) และเด็กหญิงปทิตตา เจริญฤทธิ์(บุตรสาว) จํานวน 3 คน อาศัยอยู่ในบ้านที่ชํารุดทรุดโทรม ทําให้ไม่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุงได้กําหนดเป้าหมายสร้างบ้านให้ราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่ มาจากการพิจารณาคัดเลือกของอําเภอ จํานวน 11 อําเภอ โดยเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุงสนับสนุนงบประมาณ ให้หลังละ 100,000 บาท ใช้งบประมาณทั้งสิ้นจํานวน 1,100,000 บาท นอกจากนี้ทางนายอําเภอในพื้นที่ และบริษัทห้างร้านวัสดุก่อสร้างต่างๆในพื้นที่ ได้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและแรงงาน และพิจารณาคัดกรองและคัดเลือกราษฎรที่มีฐานะยากจนและมีความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย ผ่านการประชาคมของหมู่บ้านจนได้บุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และได้รับมอบบ้านในโครงการฯ สร้างความดีใจให้และความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณกับนายก่อ เจริญฤทธิ์ และครอบครัว เป็นอย่างมากสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง 074612404#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
พัทลุง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130021523
951
ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เชิญชวนน้องเยาวชนเข้าร่วมโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจน ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินขอเชิญชวนน้องเยาวชนเข้าร่วมโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจน ที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) ประจําปีงบประมาณ 2565 ซึ่งเป็นโครงการขยายโอกาสทางการศึกษา เพื่อจะต่อยอดอนาคตพัฒนาเด็กไทยให้มีทักษะฝีมือด้านอาชีพก่อนการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นการดําเนินงานร่วมกัน ของ 4 กระทรวงหลัก ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อจะฝึกทักษะด้านอาชีพให้แก่นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ด้วยหลักสูตรระยะสั้น 4 - 6 เดือน ซึ่งจะช่วยให้เด็กเยาวชนกลุ่มดังกล่าวมีทักษะ สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานในฐานะ “แรงงานมีฝีมือ” ซึ่งช่วงระยะการฝึกอบรม 4-6 เดือน จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย มีที่พักอาศัย และอาหารฟรี นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้เงินสนับสนุนครอบครัวระหว่างฝึกอบรม โอกาสรับทุนหลังจบหลักสูตร(ประกอบอาชีพอิสระ) ใบรับรองผ่านการฝึกอบรม ค่าแรงสูง การรันตีมีงานทํา สมัครได้เข้ารับการฝึกอบรมได้แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ครูแนะแนวประจําโรงเรียน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานทุกจังหวัด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130248528
952
มทบ.25 และ ภาคเอกชนจังหวัดสุรินทร์ เดินทางเยี่ยมมอบสิ่งของทหารผ่านศึก
บริษัท น้ําตาลสุรินทร์ จํากัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จํากัด โดยนายยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมการผู้จัดการ มอบหมายให้ นายสุดเขต เขียวอุไร ผู้จัดการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์และกิจกรรมเพื่อสังคม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์และกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นตัวแทนของพนักงานเข้าร่วมกิจกรรม เข้าเยี่ยมทหารที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม มอบสิ่งของและตรวจเยี่ยม โดยคณะแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน มทบ.25 เนื่องในโอกาสกิจกรรมวันทหารผ่านศึก ประจําปี 2565 โดยมีนางสิริภัทร เพียรสมผล รองหัวหน้าสํานักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตสุรินทร์ นําคณะจิตอาสาของหน่วยฝึก พันเอก ธีรพงษ์ โอวาท เสนาธิการทหารบก มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิ (มทบ.25) - พันโท ก้องภพศ์ ศิริเมฆ ผู้บังคับหน่วยฝึก มทบ.25 พันเอกสุดใจ แพงพรมมา หัวหน้าฝ่ายสรรพกําลัง มทบ.25 และ. ผู้นําชุมชน นายกองค์การบริหารส่วนตําบล เข้าร่วมมอบสิ่งของ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130344533
953
ผู้ว่าสุราษฎร์ฯ วางมาตรการเข้ม นำทีม ติดตั้งกล้องวงจรปิด บนสะพานศรีสุราษฎร์เพื่อแก้ปัญหาการฆ่าตัวตายและโจรขโมยตัดสายไฟ พร้อมเปิดสายด่วน 1323 และ1330 ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (2 ก.พ. 65) เวลา09.00น. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายปริญญา วีรระจิตต์ ผู้อํานวยการแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 พ.ต.ท.สุรินทร์ ใจแน่ รอง ผกก.จร.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกุศลศรัทธา ผู้นําท้องที่ ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ในการติดตั้ง กล้อง CCTV จํานวน 4 จุด บนสะพานศรีสุราษฎร์ เพื่อแก้ปัญหาการฆ่าตัวตายของผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต และปัญหาทางสังคม รวมถึงการลดปัญหามิจฉาชีพตัดสายไฟบนสะพานศรีสุราษฎร์ไปขายเนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลจากบ้านเรือนของประชาชนและอยู่ในเขตอุตสาหกรรม อีกทั้งเป็นพื้นที่เสี่ยงในช่วงเวลาค่ําคืนนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากกรณีที่มีประชาชนใช้สะพานศรีสุราษฎรที่ผิดวัตถุประสงค์ ในการกระโดดเพื่อฆ่าตัวตาย ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงได้วางมาตรการเข้มเพิ่มเติม ในการติดตั้ง กล้องCCTVจํานวน 4 จุด บนสะพาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อมีการแจ้งเหตุว่ามีคนกระโดดสะพานศรีสุราษฎร์ อีกทั้งเพื่อเป็นการยืนยันว่ามีเหตุขึ้นจริงและลดภาระงานของเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกุศลศรัทธาเนื่องการดํานําค้นหาร่างผู้ที่กระโดดน้ําในแต่ละครั้งค่อนข้างอันตราย เนื่องจากปริมาณน้ําในพื้นที่ดังกล่าว ค่อนข้างลึกและไหลเชี่ยวแรง เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อีกทางนึง นอกจากปัญหาในเรื่องของการกระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตายแล้ว ยังพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพ แอบขโมยตัดสายไฟบริเวณสะพาน เพื่อนําไปขาย คาดว่าการติดตั้งกล้อง CCTV จะเป็นตัวช่วยในการติดตามและจับกุมคนร้ายที่แอบตัดสายไฟไปขายได้อีกหนึ่งช่องทางโดยที่ผ่านมาได้รับความเสียหายหลายแสนบาท ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เอาผิดตามและดําเนินคดีให้ถึงที่สุดแก่ผู้ที่ลักขโมยจนทําให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหายทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังกล่าวอีกว่า สําหรับผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต หรือ ปัญหาทางสังคม จนคิดอยากฆ่าตัวตาย ขอให้ทุกท่านคิดถึงคนในครอบครัว หรือคนที่คุณรัก เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ อย่าได้ด่วนสรุปตัดสินใจว่าไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ อย่างน้อยหน่วยงานภาครัฐไม่เคยทอดทิ้งประชาชน พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเสมอเมื่อทุกคนมีปัญหา สามารถติดต่อขอรับคําปรึกษาได้ตลอด24ชั่วโมง ตามสายด่วนดังต่อไปนี้ หากมีปัญหาสุขภาพจิต โทรได้ที่หมายเลข 1323 หรือมีปัญหาทางสังคม โทรได้ที่ หมายเลข 1330 #ผู้ว่าฯพร้อมอยู่เคียงข้างเมื่อทุกคนมีปัญหา #ทุกปัญหามีทางออกขอให้บอกเรา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130555536
954
จ.สุรินทร์ เตรียมรับมือภัยแล้ง แนะชาวสุรินทร์สำรองน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง
นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่หน้าร้อน ฝนจะทิ้งช่วง ปริมาณการใช้น้ําอุปโภคบริโภค มีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะอากาศร้อน ขณะนี้ปริมาณน้ําในอ่างเก็บน้ําในจังหวัดสุรินทร์เริ่มลดลง แต่ยังอยู่ในปริมาณที่ยังรับได้ เช่น อ่างเก็บน้ําห้วยเสนง ซึ่งผลิตน้ําประปาให้ชุมชนเมือง และเพื่อการเกษตรในพื้นที่ใกล้เคียง มีปริมาณการกักเก็บขณะนี้ร้อยละ 65 ส่วนอ่างเก็บน้ําอําปึลประมาณร้อยละ 90 เป็นต้น แต่เพื่อความไม่ประมาท ขอให้ช่วยกันใช้น้ําอย่างประหยัด เพื่อให้ถึงหน้าฝน และป้องกันปัญหาฝนทิ้งช่วง ส่วนการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน โดยสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ ได้ดําเนินการโครงการสูบส่งน้ํากักเก็บสําหรับฤดูร้อน ด้วยรถสูบน้ําระยะไกล 10 กิโลเมตร ที่แล้วเสร็จไปเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เช่น ที่อําเภอสนม อําเภอสังขะ และหากพื้นที่ใดต้องการกักเก็บน้ําเพิ่มเติม ให้ประสานสํานักงาน ปภ. หรือฝ่ายปกครองใกล้บ้านได้ทันที เพื่อให้จังหวัดได้ดําเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202130901538
955
ผู้ว่าฯสุรินทร์ ออกตรวจติดตามราคาของแพงต่อเนื่อง พบหมูแพงเริ่มลดลง แนะชาวสุรินทร์หันมาบริโภคไก่สุรินทร์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา สินค้าบริโภคบางชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้น อาทิเนื้อหมู ส่วนหนึ่งเกิดจากการเกิดโรคติดต่อ อหิวาต์แอฟริกา ทําให้มีปริมาณสุกรมีชีวิตลดลง จังหวัดสุรินทร์โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกติดตามตรวจสอบราคา พร้อมสต๊อกที่จัดเก็บ ปริมาณที่กระจายไปยังผู้จําหน่ายทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาด หรือร้านค้าปลีก พบว่า ราคาหมูยังเป็นไปตามกลไกของตลาด และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการไม่มีการกักตุนสินค้าไว้เกินกว่าปริมาณที่กําหนด ส่วนไข่ไก่ น้ํามันปาล์ม น้ํามันถั่วเหลือง และสินค้าอื่นๆ ยังไม่พบความปกติ โดยช่วงวันที่ 17-31 ส่วนโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จําหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ของกระทรวงพาณิชย์ นั้นได้รับความสนใจจากชาวสุรินทร์อย่างมาก และช่วงที่ราคาเนื้อหมูยังแพงอยู่ อยากแนะนําให้บริโภคเนื้อไก่ที่ผลิตในสุรินทร์แทน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202131012540
956
ปัตตานี-ประชุมกรรมการจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชงและกัญชา
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานประชุมคณะกรรมการจังหวัดปัตตานี เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชงและกัญชา ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมแหลมตาชี ชั้น 4 อาคาร 3 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี โดยจังหวัดปัตตานี ได้มีคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจังหวัดปัตตานี เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชงและกัญชา ตามคําสั่งจังหวัดปัตตานี ที่ 1199/2565 ลงวันที่ 11 มกราคม 2565 มีองค์ประกอบ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน และคณะกรรมการ ประกอบด้วย เกษตรจังหวัดปัตตานี, ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดปัตตานี, ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 เป็นกรรมการ ,นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เป็นกรรมการและเลขานุการ หัวหน้าศูนย์อํานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดปัตตานีและหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการฯมีหน้าที่1) เสนอความเห็นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ด้านต่างๆเกี่ยวกับกัญชงและกัญชา รวมทั้งเสนอความเห็นประกอบการอนุญาตและมาตรการหรือแนวทางการกํากับดูแลกัญชงและกัญชาในจังหวัดปัตตานี2) วางแนวทางการกํากับดูแลการอนุญาตเกี่ยวกับกัญชงและกัญชาในจังหวัดปัตตานีทั้งระบบในพื้นที่จังหวัดปัตตานีทั้งในด้านการขออนุญาตในระดับพื้นที่ การปลูก การเก็บ การขนย้าย และการทําลาย3) จัดตั้งคณะทํางาน หรือคณะอนุกรรมการตรวจสอบการดําเนินงานระดับจังหวัด ของจังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการของคณะกรรมการ ขณะนี้ ทางสํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลรูสะมิแล) ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนสมุนไพร เพื่อการแพทย์ตําบลรูสะมิแล ได้ยื่นคําขอรับอนุญาตผลิตซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา เพื่อขออนุญาตปลูกกัญชาสําหรับนําไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มีสถานที่จะขออนุญาตปลูกอยู่ที่วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเพื่อการแพทย์ตําบลรูสะมิแล เลขที่ 99 หมู่ที่ 1 ตําบลรูสะมิแล อําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
null
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202131646544
957
ยอดผู้สมัครทหารแบบออนไลน์ปีนี้ 11,002 คน มีสิทธิได้รับโควตาเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก
พันโทหญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบก เปิดรับสมัครทหารกองเกินอายุ 18-20 ปี และอายุ 22-29 ปี สมัครเป็นทหารกองประจําการ กรณีพิเศษด้วยระบบออนไลน์ ประจําปี 2565 จํานวน 14,411 อัตรา ผลปรากฏว่ามีชายไทยยื่นความประสงค์สมัครด้วยระบบออนไลน์เป็นจํานวนมากถึง 11,002 นาย คิดเป็นร้อยละ 76 ของจํานวนที่เปิดรับ โดยในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 4 มียอดผู้สนใจสมัครสูงถึงร้อยละ 118 และร้อยละ 135 ตามลําดับรายชื่อผู้สมัครทั้งหมด หน่วยทหารจะนําไปตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ในวันคัดเลือกที่จะดําเนินการพร้อมกัน ณ 35 มณฑลทหารบกทั่วประเทศ ในวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากนี้ผู้ที่สมัครต้องเตรียมความพร้อมและไปรายงานตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก ตามวัน เวลาและสถานที่ที่ระบุไว้ใน “เอกสารตอบรับการสมัคร” พร้อมนําเอกสาร อาทิ ใบสําคัญแบบ สด.9, ใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43), บัตรประจําตัวประชาชน, ทะเบียนบ้าน, หลักฐานการศึกษา, ใบรับรองแพทย์สําหรับคณะกรรมการคัดเลือก จะมีผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ร่วมในการคัดเลือกด้วย โดยมีเกณฑ์ผ่านเหมือนการคัดเลือกทหารตามปกติ ดําเนินการภายใต้มาตรการป้องกันโควิดของสาธารณสุขและกําหนดให้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกได้เป็นทหารกองประจําการผลัด 1/65 ให้ไปรายงานตัวเข้าประจําการในหน่วยทหาร ในวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2565ทหารกองประจําการที่ผ่านการคัดเลือกตามโครงการนี้ สามารถเลือกหน่วยทหารประจําการใกล้บ้านได้ ใช้วุฒิการศึกษาลดเวลารับราชการตามที่กฎหมายกําหนด, ได้รับสิทธิเป็นค่าตอบแทนและสวัสดิการเหมือนทหารกองประจําการทุกประการ รวมทั้งเมื่อเป็นทหารครบ 2 ปี อายุน้อยกว่า 25 ปี สามารถขอรับราชการต่อคราวละ 1 ปี มีสิทธิได้รับโควตาเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก ร้อยละ 80 ของยอดรับแต่ละปี รวมทั้งได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 15 ในการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการในกองทัพบก
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202150733605
958
ประสาน ปปง. และ DSI สอบทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ 1697 ล้านบาท
ผวจ.พัทลุงประสาน ปปง. และ DSI เข้ามาช่วยเหลืองานสืบสวนสอบสวนการทุจริตเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ตํารวจพัทลุง ประมาณ 1,697 ล้านบาทจากกรณีที่ พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข อดีต ผบก.ภ.จว.สตูล และคณะ ได้นําหนังสือร้องทุกข์และขอความเป็นธรรมต่อ “ บิ๊กโจ๊ก” หลังพบการทุจริตในสหกรณ์ฯประมาณ 1,697 ล้านบาท เมื่อตอนเย็นวัน 24 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมตํารวจภูธรพัทลุงที่ผ่านมา ซึ่งทาง พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อดําเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทําความผิด และนําเงินมาคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ห้องประชุมแพรทอง ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ตัวแทนของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตํารวจพัทลุงภายใต้การนําของ พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข อดีต ผบก.ภ.จว.สตูล และคณะ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุงเพื่อขอให้ดําเนินการตาม พรบ.สหกรณ์ 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 22 ในการออกคําสั่งให้คณะกรรมการดําเนินการสหกรณ์พ้นจากตําแหน่ง และขอให้นายทะเบียนสหกรณ์แจ้งให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญภายในไม่เกิน 30 วันทางด้านนายสวัสดิ์ อ่อนประชู สหกรณ์จังหวัดพัทลุง กล่าวในที่ประชุมว่าการแก้ปัญหาการทุจริตดังกล่าวจะต้องดําเนินการในหลายประเด็น ประกอบด้วย (1) สหกรณ์ฯต้องดําเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทําความผิด (2) จะต้องมีการตรวจสอบจํานวนเงินการทุจริตที่แท้จริงในครั้งนี้ที่มีมากกว่า 1,500 ล้านบาทให้รวดเร็ว ซึ่งมี 3 ส่วน คือ เงินฝาก ลูกหนี้เงินกู้ และเงินที่ถอนจากบัญชี ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าท่อใหญ่ที่ดูดเงินทุจริตก็คือการแต่งบัญชียอดหนี้เงินกู้จากสหกรณ์ฯไปประมาณ 50 – 100 ล้านบาท แต่ไม่ได้จ่ายเงินกู้ให้กับสมาชิกแต่อย่างใด (3) จะต้องเร่งตรวจสอบข้อมูล หลักฐาน ซึ่งในขณะนี้ทาง จนท.ตรวจสอบของสํานักงานสหกรณ์จังหวัดฯมีข้อมูลส่วนตัวบางส่วนแล้ว (4) หากพบความเสียหายของเงินที่แน่นอนตนจะแจ้งให้ ผวจ.พัทลุงได้รับทราบ เพื่อจะได้ประสานไปยัง ปปง. และ DSI เข้ามามีส่วนร่วมที่สําคัญในการคลี่คลายคดีดังกล่าว และจะมีการนําฐานข้อมูลการทุจริตที่สหกรณ์คลองจั่น และสหกรณ์ตํารวจ เพื่อนํามาเปรียบเทียบและประยุกต์ใช้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ตํารวจพัทลุงด้วยทางด้านสมาชิกฯรายหนึ่ง กล่าวว่า การที่พวกตนมีหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร นั้น เนื่องจากมีการกระทําความผิดเป็นกระบวนการและทํากันยาวนาน มีการทําลายเอกสาร หลักฐาน มีการล็อคข้อมูล จนทําให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดต่างๆได้ นอกจากนั้นยังมีการลบข้อมูลเงินฝาก ข้อมูลการให้สินเชื่อ และข้อมูลพื้นฐานของสมาชิกอีกด้วย ล่าสุดมีการข่มขู่ จนท.สหกรณ์ออมทรัพย์ฯอีกด้วยทางด้านนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า การตรวจสอบการทุจริตเงินสหกรณ์ฯในครั้งนี้จะต้องละเอียด รัดกุม เนื่องจากในเบื้องต้นพบว่ามีการทุจริตเงินสหกรณ์มากกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งทางจังหวัดฯจะได้ประสานงานไปยัง ปปง. และ DSI ได้เข้ามามีส่วนร่วมที่สําคัญในการคลี่คลายคดีดังกล่าว ซึ่งทางจังหวัดฯจะเข้าไปดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสํานักงานสหกรณ์จังหวัดฯนั้น จะเป็นผู้ประสานงาน กํากับดูแลความคืบหน้าของดีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง 074 612404#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
พัทลุง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202133232547
959
จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวชาวกรีกเก็บเงิน 4,900 ยูโร กว่า 1.8 แสนบาทไว้ในรถจอดหน้าคอนโดหรูริมหาดกะรนหาย กว่า 5 วันเข้าพบตำรวจเพื่อให้ติดตามคนร้าย
วันนี้( 2 ก.พ. 65 )ที่ สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายดาวู๊ด สุมาลี หรือ ดอน และนายแอ่น คําแก้ว หรือ เบียร์ เจ้าของเฟซบุ๊ก khamkaew beer พร้อมด้วยนาย Alexandros Alexiadis อายุ 35 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติกรีกและครอบครัว ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีลักทรัพย์ หลังจากที่นาย Alexandros ได้เก็บเงินสดจํานวน 4,900 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1.8 แสนบาทไว้ภายในรถเก๋งนิสสันสีขาว ทะเบียน กม 9186 นครศรีธรรมราช ที่จอดไว้บริเวณลานจอดรถกะตะโอเชี่ยนวิว คอนโดมิเนียม เฟส 3 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ระหว่างเวลา 20.00 น.วันที่ 25 ม.ค.65 ถึงเวลา 14.30 น.วันที่ 26 ม.ค.65 และเงินจํานวนดังกล่าวได้หายไป จึงเข้าแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.ภูวดล ไล่คง รอง สว.(สอบสวน) สภ.กะรน เมื่อเวลา 17.10 น.วันที่ 26 ม.ค.65 แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยผู้เสียหายต้องการเงินจํานวนดังกล่าวคืนและจะไม่เอาเรื่องกับผู้ที่หยิบเงินไป ทั้งนี้ สืบเนื่องผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "khamkaew beer" โพสต์ข้อความและภาพผ่านโซเชียล ถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถูกคนร้ายขโมยเงินไปเกือบ 2 แสนบาท โดยระบุ "สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน เพื่อนคนนี้ชื่อ อเล็กซ์ เป็นชาวกรีก มาเที่ยวที่ภูเก็ตบ่อยมาก รู้จักกันมา 10 กว่าปี ตอนนี้มีลูกมีครอบครัวอย่างที่เห็นในภาพ แต่การมาพักผ่อนครั้งนี้ไม่ได้มีความสุขอย่างที่หวังไว้ เพิ่งมาภูเก็ตยังไม่ถึงเดือน แต่ก็โดนขโมยเงินไป 4900 ยูโร ซึ่งตีเป็นเงินไทยก็เกือบ 2 แสน คือเรื่องมีอยู่ว่า อเล็กซ์ได้นําเงินออกจากห้องมาไว้ในรถเพื่อความสบายใจของเค้า เพราะมีแม่บ้านเข้าไปทําความสะอาด อีกอย่างตู้เซฟที่พักใช้ไม่ได้เพราะเจ้าของห้องเอากุญแจตู้เซฟไปด้วย แต่ด้วยความประมาทของเค้าเอง เค้ากลับลืมล็อครถ พอกลับมาจะเอาเงินอีกที ประตูรถเปิดอยู่ เค้าตกใจมากรีบเข้าไปดูเงิน แต่มันก็สายไปแล้ว เงินทั้งหมด 4900 ยูโร รวมทั้งเหรียญต่างๆ ก็เอาไปด้วย เค้าช็อคและตกใจมาก จึงไปแจ้งเจ้าของที่พัก ตํารวจ และขอดูกล้องวงจรปิด แต่มันก็ยังไม่คืบหน้า ผ่านมา 2 วัน เค้าจึงส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือ เพราะเค้ามีเพื่อนคนไทยไม่มากที่นี้ ผมไม่รู้ว่าจะทํายังไง น่าจะมีแต่โลกของโซเชียลที่อาจจะช่วยกันแชร์ข้อมูล ให้ถึงคนที่เอาเงินไป ว่าตอนนี้ครอบครัวเค้าเดือดร้อนแค่ไหน เงินที่ทํางานหนัก เพื่อที่จะมาเที่ยวที่ภูเก็ตกลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ลองคิดดูว่าทํางานเก็บเงินเพื่อพาครอบครัวมาเที่ยวแต่กลับไม่มีความสุข คิดถึงใจเค้าใจเรา ถ้าเอามาคืน เค้าจะให้เงิน 1000 ยูโร พร้อมกับไม่ดําเนินคดี แต่ถ้าตํารวจจับได้เมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นเค้าจะช่วยไม่ได้ ตอนนี้ตํารวจกําลังตามตัวและหาเบาะแสอยู่ ขอให้รีบๆ เอามาคืน เงินตัวเองก็ไม่ใช่ มาเอาของเค้าไป... ตอนนี้ทั้งครอบครัวรู้สึกเศร้ามาก ไม่คิดว่าจะมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ แผนที่วางไว้ก็พังหมด ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง ได้ไปคุยกับเค้าแล้วสงสารจริงๆ อเล็กซ์เป็นคนนิสัยดี เค้าไม่ได้ร่ํารวยอะไร ก็เป็นธรรมดาทํางานเหมือนคนทั่วไป ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน ช่วยกันแชร์ให้หน่อยนะครับ สงสารเค้าจริงๆ ขอบคุณมากๆครับ" นายแอ่น ผู้ประสานงานกล่าวว่า ความจริงแล้ว นักท่องเที่ยวต้องการเงินคืน ไม่ต้องการให้เป็นคดีความ ถ้าคนที่หยิบเงินในรถคันดังกล่าวไป ขอให้นํามาคืนและจะไม่เอาเรื่อง โดยเงินจํานวนดังกล่าวมีความจําเป็นต้องใช้ในชีวิตประจําวันขณะที่อยู่ใน จ.ภูเก็ต ซึ่งตนรู้จักกับผู้เสียหายมานาน สงสารเค้าและครอบครัวเป็นอย่างมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตํารวจติดตามคนร้าย เพื่อต้องการเงินคืน ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านโซเชียลเพื่อให้เพื่อนช่วยติดตาม แต่ขณะนี้ก็ยังไร้วี่แววทั้งเงินและคนร้าย ด้าน พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.กะรนกล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อติดตามคนร้ายแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตํารวจไม่ได้นิ่งเฉย เพราะการติดตามคนร้ายต้องอาศัยหลักฐานต่างๆ เบื้องต้นจากการสืบสวนทราบว่าผู้เสียหายไม่ได้เก็บเงินดังกล่าวไว้ในห้อง โดยอ้างว่าตู้เซฟในห้องพักเสีย จึงนําเงินมาเก็บไว้ในรถ และรถที่จอดขณะเก็บเงินไว้ไม่ได้ล๊อคประตูรถ ทําให้รถไม่พบร่องรอยการงัดแงะจากคนร้าย ซึ่งง่ายในการเปิดประตูรถแล้วค้นหาของมีค่าภายในรถไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามคนร้ายมาดําเนินคดี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202135306558
960
รองนายกฯ อนุทิน เผย ศุกร์นี้ อย. เตรียมพิจารณาอนุมัติวัคซีนซิโนแวคฉีดในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปหากอนุมัติเดินหน้าฉีดได้ทันทีมีพอไม่ต้องซื้อเพิ่ม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าก่ารกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีวัคซีนซิโนแวค สําหรับเด็กอายุ 3-17 ปี ว่า เรื่องนี้สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะพิจารณาในวันศุกร์นี้ หากอนุมัติขึ้นทะเบียนก็สามารถเดินหน้าฉีดให้เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปไดทันที โดยไม่ต้องรอซื้อใหม่ เพราะข้อดีของซิโนแวคคือการขึ้นทะเบียนวัคซีนเดิมเพียงแต่ขยายช่วงอายุ ซึ่งวัคซีนซิโนแวคไทยมีอยู่แล้ว ส่วนกรณีหากซิโนแวคได้ขึ้นทะเบียนฉีดเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปได้ จะมีกลุ่มเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไปที่จะมีวัควีนให้เลือกฉีดได้ทั้งไฟเซอร์ และและซิโนแวค แล้วควรฉีดตัวไหน ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ปกครองพร้อมขอสงวนสิทธิ์ให้แพทย์ใช้ดุลยพินิจว่าเด็กควรได้รับวัคซีนตัวไหนจึงเหมาะสมด้วยโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กป่วย 7 กลุ่มโรค ส่วนกรณีที่มีบางส่วนวิพากษ์วิจารย์ว่าการจะนําวัคซีนมาฉีดในเด็กเพื่อเป็นการระบายสต็อกว่า เรื่องการจะนําวัคซีนตัวไหนมาใช้ในกลุ่มไหนเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันวัคซีน ที่ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญมีความรู้ประสบการณ์แพทย์มากพอที่จะแนะนําแนวทางการใช้วัคซีนแต่ละตัวอย่างปลอดภัยที่สุดด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในกลุ่มเด็กกรมควบคุมโรคพยาบาลจัดสูตรให้ยืดหยุ่นที่สุด จะฉีดสูตร ไฟเซอร์ 2 เข็ม , ซิโนแวค 2 เข็ม หรือจะฉีดซิโนแวค ตามด้วยไฟเซอร์ ซึ่งเลือกได้โดยมีหมอเด็กเป็นผู้พิจารณาร่วมกับผู้ปกครอง สําหรับวัคซีนซิโนแวค ที่ไทยมีขณะนี้จากที่จีนบริจาคให้ 2 ล้าน รวมกับที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ มีราว 4-6 ล้านโดส หาก อย.อนุมัติให้ฉีดในเด็ก 3 ปีขึ้นไปก็เดินหน้าฉีดได้ทันทีไม่หมดอายุ จํานวนมีเพียงพอไม่น่าต้องซื้อเพิ่ม ทั้งนี้มั่นใจวัคซีนที่ฉีดในเด็กกรณีไฟเซอร์ ไทยฉีดตามอเมริกาและสิงคโปร์ ขณะนี้วัคซีนซิโนแวคในเด็กเล็ก ไทยฉีดตามจีนที่มีการฉ๊ดในเด็กไปแล้ว กว่า 230 ล้านโดส ซึ่งข้อมูลที่ได้มั่นใจว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202134727554
961
อ.แก้งคร้อ บูรณาการลงพื้นที่ตำบลโคกกุง ตรวจเยี่ยมครัวเรือนเป้าหมาย "1 ตำบล 1 case study"
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวสุกัญญา กุลสุวรรณ์ นายอําเภอแก้งคร้อ พร้อมด้วย พัฒนาการอําเภอแก้งคร้อ ท้องถิ่นอําเภอแก้งคร้อ ผู้นําท้องที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ทีมพี่เลี้ยง และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตําบลโคกกุง ลงพื้นที่ตําบลโคกกุง อําเภอแก้งคร้อ เพื่อติดตามและตรวจเยี่ยมครัวเรือนเป้าหมาย "1 ตําบล 1 case study" ณ บ้านกรุงสามัคคี หมู่ที่ 12 "1 ครัวเรือน 1 หมู่บ้าน" จํานวน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโคกกุง หมู่ที่ 1, บ้านกรุงเจริญ หมู่ที่ 8, บ้านกรุงพัฒนา หมู่ที่ 10, บ้านกรุงกลาง หมู่ที่ 11 และบ้านกรุงบูรพา หมู่ที่ 13ทั้งนี้ นางสาวสุกัญญา กุลสุวรรณ์ นายอําเภอแก้งคร้อ ได้เน้นย้ําให้ชุมชน ผู้นําชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตครัวเรือนยากจนเชิงบูรณาการในทุกครัวเรือนที่ประสบปัญหาความยากจนจริงและสมควรได้รับการช่วยเหลือ สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนในประเด็นต่างๆ ได้แก่ 1. มิติด้านที่อยู่อาศัย/ความเป็นอยู่ ให้ปรับปรุงพื้นที่ และบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบบ้านให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด 2. มิติด้านอาชีพและรายได้ โดยให้ครัวเรือนเกิดรายได้และพึ่งพาตนเองได้ 3. มิติด้านสุขภาพ ตรวจสุขภาพสมาชิกครัวเรือนทุกมิติ 4. มิติด้านสวัสดิการภาครัฐ 5. ด้านหนี้สิน การบริหารจัดการเงินในครัวเรือน ผ่านบัญชีรายรับและรายจ่าย รวมถึงเงินออม 6. ด้านการศึกษา ทักษะอาชีพที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและคนทุกช่วงวัย 7. ด้านอํานวยและความเป็นธรรมซึ่งเป็นสาเหตุความยากจน ที่มาจากปัจจัยภายในตัวบุคคล คือ สิ่งที่ประชาชนต้องสัมผัสในวิถีชีวิตประจําวัน เช่น ค่านิยมปัญหาการว่างงาน การขาดที่ดินทํากิน รวมถึงการไม่รู้ช่องทางในการจัดจําหน่ายสินค้า หรือปัจจัยภายนอกตัวบุคคล ที่เกิดจากระบบโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ทําให้เกิดช่องว่างทางรายได้ และให้ชุมชน ผู้นําชุมชน ทีมพี่เลี้ยง และทีมปฏิบัติการ ฯ ทุกระดับ ใช้หลัก 4ท : ทัศนคติ ทรัพยกร ทักษะ ทางออก และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้อุดมการณ์ “พัฒนาคุณภาพชีวิต พิชิตความยากจน พัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202135756561
962
พ่อเมืองศรีสะเกษ เป็นประธานมอบทุนการศึกษา ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสตรีสิริเกศ
ที่โรงเรียนสตรีสิริเกศ อําเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสตรีสิริเกศ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมสร้างขวัญกําลังใจให้นักเรียนเป็นผู้มีความประพฤติดี อีกทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีอุปการะคุณได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการศึกษาเล่าเรียนของเด็ก และได้ให้โอวาทแก่นักเรียนที่เข้ารับทุนการศึกษา มอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้มีอุปการะคุณ และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุนเรียนดี จํานวน 84 ราย โดยการดําเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) อย่างเคร่งครัดโดยมี นายภูมิภัทร มาลี ผู้อํานวยการโรงเรียนสตรีสิริเกศ ผู้แทนผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัด ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสตรีสิริเกศ ผู้แทนผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ศรีสะเกษ ยโสธร ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และนักเรียนโรงเรียนสตรีสิริเกศ เข้าร่วมพิธี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202135620559
963
จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมวางแนวทางการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย แก้ไขปัญหาสถานการณ์ราคาเนื้อหมูและโภคภัณฑ์บางชนิดที่มีการปรับตัวสูงขึ้น
วันนี้ (2 ก.พ.65) ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมรับฟังการชี้แจงแนวทางการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล(VCS) เพื่อรับทราบนโยบายและแนวทางปฏิบัติจากผู้บริหารส่วนกลาง เกี่ยวกับ พ.ร.บ.สํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 รวมทั้งนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการแก้ไขสถานการณ์ราคาเนื้อหมูและโภคภัณฑ์บางชนิดที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นโดยแนวทางปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 เน้นย้ําให้พนักงานที่ดําเนินการตามคําสั่ง ประกาศ และ พ.ร.บ. สํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ 2497 อย่างเคร่งครัด และสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองโภคภัณฑ์ที่กักตุนสินค้าถึงความเสียหายต่อสังคมส่วนรวม กรณีประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่ ศูนย์ดํารงธรรมกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดํารงธรรมจังหวัด/ศูนย์ดํารงธรรมอําเภอ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1567 ทั้งนี้หากพบการกักตุนโภคภัณฑ์ ให้ดําเนินการตาม พ.ร.บ.สํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ 2497 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องทุกฉบับทั้งนี้ จากรายงานในที่ประชุมพบว่า ได้มีการสํารวจผู้ประกอบการเลี้ยงสุกร และจํานวนสุกรมีชีวิต ตาม พ.ร.บ.สํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 ทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 มกราคม 2565 จํานวน 21 จังหวัด ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกร จํานวน 14,386 ราย มีสุกรที่พร้อมจําหน่ายจํานวน 1,113,491 ตัว สุกรที่ยังไม่พร้อมจําหน่าย 1,156,646 ตัว รวมสุกรที่เลี้ยงจํานวนทั้งสิ้น 2,270,137 ตัว #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202142043578
964
จ.ร้อยเอ็ด ร่วมประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS)
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด , นายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.สํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference System) ของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนําไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกันตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ได้มีหนังสือสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดําเนินการออกประกาศเพื่อกําหนดให้เนื้อสุกรและโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น ไข่ไก่ น้ํามันพืช เป็นตัน ซึ่งมีปัญหาการกักตุนหรือเกิดภาวะการขาดแคลนโภคภัณฑ์ในท้องตลาดอย่าง เพื่อให้การบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กําชับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตท้องที่ทุกอําเภอดําเนินการสํารวจ ตรวจสอบการกักตุนสินค้าและสิ่งจําเป็นต่อการดํารงชีวิต ซึ่งจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนและซ้ําเติมประชาชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากพบเจอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดําเนินการ ตามอํานาจหน้าที่อย่างเข้มงวดและเด็ดขาด ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202140026563
965
ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ย้ำความโปร่งใส จับสลากคัดเลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากของจังหวัดปทุมธานี ในปีนี้ (2565) เพื่อขึ้นบัญชีไว้รวม 200 ราย ก่อนส่งรายชื่อให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลตรวจทานตรวจสอบคุณสมบัติให้จังหวัดปทุมธานีดำเนินการต่อไป
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.30 น. ที่ อาคารศาลารักษ์ปทุม ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวในโอกาสการจับสลากคัดเลือกผู้มีสิทธิ์เป็นตัวแทนจําหน่าย ในโครงการการจัดทําบัญชีสํารองเป็นตัวแทนจําหน่ายสลากของจังหวัดปทุมธานี ประจําปี พ.ศ. 2565 จังหวัดปทุมธานีได้มีประกาศจังหวัดปทุมธานีรับสมัครประชาชนจังหวัดปทุมธานี เป็นตัวแทนจําหน่ายสลากของจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีผู้ประสงค์ขึ้นบัญชีสํารองเป็นตัวแทนจําหน่าย รวมทั้งสิ้น 4,308 ราย ซึ่งมีคุณสมบัติและมีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกโดยวิธีจับสลาก โดยสลากทั้งหมดถูกนําไปบรรจุอยู่ในภาชนะที่แข็งแรง และโปร่งใส ตลอดขั้นตอนการจับสลาก เรียงตามลําดับก่อน-หลัง ดังลําดับรายชื่อผู้มีคุณสมบัติและสิทธิ์จับสลากเป็นตัวแทนจําหน่ายสลากของจังหวัดปทุมธานี ที่ประกาศออกมา ณ วันที่ 27 มกราคม 2565 (4,308 ราย) สําหรับการดําเนินการคัดเลือกโดยวิธีจับสลาก ประกอบด้วย บัญชีสํารองของจังหวัดปทุมธานี จํานวน 100 ราย และบัญชีสํารองของสํานักงานคลังจังหวัดปทุมธานี จํานวน 100 ราย ซึ่งจะประกาศรายชื่อและส่งรายชื่อที่ขึ้นบัญชีไปยังที่ว่าการอําเภอทุกอําเภอของจังหวัดปทุมธานี และประกาศบนช่องทางสื่อออนไลน์เมื่อขั้นตอนสิ้นสุดและแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ สามารถติดตามผลการดําเนินการคัดเลือกโดยวิธีจับสลากผู้เป็นตัวแทนจําหน่ายสลากของจังหวัดปทุมธานี ขึ้นบัญชีสํารองของจังหวัดปทุมธานีแบบสะดวก รวดเร็ว ลดการเดินทางและสัมผัสในช่วงโควิด -19 ได้ทาง Facebook Page สํานักงานคลังจังหวัดปทุมธานี และ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี https://www.facebook.com/pr.pathumthani2017/ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการติดตามความเคลื่อนไหวในจังหวัดปทุมธานีอย่างไรก็ตาม หากปรากฏภายหลังว่าผู้ยื่นความประสงค์รายใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศจังหวัดปทุมธานี หรือใช้เอกสารอันเป็นเท็จจะถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกและจะถูกดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
ปทุมธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202140301565
966
อ.บัวเชด พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยจากเงินกองทุนเจ้าพ่อหมื่นขุนวัง กรณีไฟไหม้ยุ้งฉางข้าวชาวบ้าน
ที่ห้องประชุมอําเภอบัวเชดชั้น 2 อําเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอําเภอบัวเชด และคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยส่วนภูมิภาคอําเภอบัวเชด ครั้งที่ 2/ 2565 เพื่อแจ้งข้อราชการที่ได้รับจากการประชุมประจําเดือนของกรมการจังหวัดและนโยบายของข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายพิศาล เค้ากล้า นายอําเภอบัวเชด เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ประชุมพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยจากเงินกองทุนเจ้าพ่อหมื่นขุนวัง กรณีไฟไหม้ยุ้งฉางข้าวของชาวบัวเชด #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202140239564
967
นายอำเภอรัตนบุรี ร่วมให้กำลังใจ พร้อมติดตามช่วยเหลือ ผู้พ้นโทษที่ผ่านการอบรม "โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์" โครงการพระราชทาน คืนคนดีสู่สังคม
ที่เรือนจําอําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอําเภอรัตนบุรี ร่วมกับ นายวิรัตน์ แดงเถิน ผู้บัญชาการเรือนจําอําเภอรัตนบุรี ร่วมให้กําลังใจผู้ผ่านการอบรมตามโครงการ “โคกหนองนาแห่งน้ําใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ซึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยทุกคนได้รับความรู้จากการอบรมในหลักสูตรปรับเปลี่ยนพื้นฐานแนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติและแก้ปัญหาจริง จึงสามารถนําองค์ความรู้ ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปปรับใช้ในการดํารงชีวิต ควบคู่กับการพัฒนากระบวนการการคิด พัฒนาจิตใจ ให้มีวินัย มีความรักต่อตนเองและผู้อื่น มีความสามัคคี และ ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน ซึ่งผู้ผ่านการอบรมต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพร้อมที่จะเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและประเทศชาติต่อไปทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน อาจทําให้การใช้ชีวิตของผู้ผ่านการอบรมโครงการ “โคกหนองนาแห่งน้ําใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” เป็นไปด้วยความยากลําบาก ดังนั้น ศูนย์อํานวยการจิตอาสาพระราชทานอําเภอรัตนบุรี จึงบูรณาการหน่วยงาน วางแผนร่วมติดตาม และ ให้ความชวยเหลือ พัฒนาด้านอาชีพ เพื่อให้มีอาชีพ มีรายได้ เลี้ยงชีพตนเอง และครอบครัว สามารถดําเนินชีวิตใหม่ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202140703569
968
ปราชญ์ มาลัยข้าวตอก ชาวมหาชนะชัย จ.ยโสธร เลี้ยงชีพอย่างพอเพียงด้วยการเลี้ยงไก่อารมณ์ดี การทำเกษตรแบบผสมผสาน สร้างรายได้สู้โควิด-19
นางสุวรรณา ศิลาพล อายุ 59 ปี ปราชญ์มาลัยข้าวตอก และยังเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงฟ้าหยาดพัฒนา อําเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร นอกจากงานสืบสานมาลัยงานข้าวตอกแล้ว นางสุวรรณา ยังเป็นแบบอย่างด้านความพอเพียง โดยแบ่งพื้นที่นา 8 ไร่ ให้มีสระน้ํา มีพื้นที่ปลูกข้าว ไม้ยืนต้นและผลไม้ทั้งกล้วย มะพร้าว มะม่วง ฝรั่ง เป็นต้น มีพืชสมุนไพร เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด ไก่อารมณ์ดี ที่เก็บไข่ขายได้ตลอดปี มีชาวบ้านและคนในชุมชนมารับหา ราคาแผงละ 100 บาท อยากกินอะไรก็ลงชายทุ่ง ชีวิตพออยู่ พอกิน ตามศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทําให้มีความสุขทั้งกายและใจ เพราะพึ่งพาตนเองได้ บนพื้นที่ฐานความมั่นคงทางอาหาร พร้อมจะฝ่าฟันวิกฤติทั้งเศรษฐกิจ และโควิด-19 ด้วย ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202140632566
969
ตั้งสถานีแก้ไขปัญหาหนี้ครูประจำเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้ติดตามการเดินหน้านโยบายการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ําทางการศึกษาด้วยโรงเรียนคุณภาพระดับชุมชนและโครงการส่งเสริมโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา “พาน้องกลับมาเรียน” เพราะขณะนี้ใกล้จะปิดภาคเรียนที่ 2 ในเดือนมีนาคม 2565 เบื้องต้นต้องการทราบจํานวนเด็กที่หลุดระบบการศึกษา เพราะขณะนี้สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พร้อมดําเนินการตามโครงการพาน้องกลับมาเรียนรองรับผู้ที่หลุดจากระบบการศึกษา ประมาณ 8,000 คน ซึ่งได้เร่งสํานักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)และสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ดําเนินการสํารวจจํานวนตัวเลขเด็กตกหล่นแล้ว เนื่องจากโครงการนี้อาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เพื่อส่งต่อเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการเดินหน้าโรงเรียนคุณภาพระดับชุมชนที่ผ่านมาได้จัดสรรงบประมาณลงไปดําเนินการแล้วและจะต้องมาติดตามการดําเนินการสร้างโรงเรียนคุณภาพชุมชนถึงปัญหาหรืออุปสรรค รวมถึงการส่งต่อเด็กจากโรงเรียนขนาดเล็กโดยรอบและจะต้องเห็นผลสําเร็จของการเป็นโรงเรียนคุณภาพระดับชุมชนให้ได้ภายในปี 2565 นี้ นอกจากนี้ ติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบ เนื่องจากขณะนี้ได้มอบให้สพฐ.จัดตั้งศูนย์แม่ข่ายสถานีแก้หนี้ครูแล้ว โดยสถานีแก้หนี้ครูจะประจําอยู่ที่สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อคอยดูแลปัญหาหนี้ครูและการติดตามข้อมูลต่างๆของครู พร้อมประชุมวางแนวทางแก้ปัญหาหนี้ครูระยะยาวอีกครั้ง แม้ก่อนหน้านี้ ศธ.จะทําความร่วมมือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูและมาตรการลดดอกเบี้ยต่างๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะหนี้ครูส่วนใหญ่มาจากแหล่งเงินกู้สหกรณ์ ดังนั้นปัญหาหนี้ครูจากกลุ่มสหกรณ์จึงมีความหลากหลายและซับซ้อน
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202150248598
970
ผู้ว่าฯเลย นำพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตักบาตร ตามโครงการทำบุญตักบาตรทุกเช้าวันพุธและร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูสนับสนุน ส่งเสริม สืบสานเอกลักษณ์ประจำชาติไทย
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 06.19 น. นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนางขนิษฐา พินิจพานิชย์ รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย, นางสาวณัณธิญาจ์ มังคละคีรี วัฒนธรรมจังหวัดเลย, หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย ทําบุญตักบาตร ตามโครงการทําบุญตักบาตรทุกเช้าวันพุธและร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูสนับสนุน ส่งเสริม สืบสานเอกลักษณ์ประจําชาติไทย ส่งเสริม ให้ประชาชนตระหนักในคุณค่าและรักวัฒนธรรมไทย ตลอดจน มีส่วนร่วมอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมการ แต่งกายด้วยผ้าไทยให้คงอยู่สืบไป พร้อมมีมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ณ บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ถนนเจริญรัฐ ตําบลกุดป่อง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลยนายนที พรมภักดี นายอําเภอด่านซ้าย มอบหมายให้นายปรีชา หมื่นฤทธิ์ ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยปศุสัตว์อําเภอ,สรรพากรอําเภอ,เจ้าหน้าที่พัฒนากร,เจ้าหน้าที่ อบต.นาดี,กํานัน ผู้ใหญ่บ้านตําบลด่านซ้าย และประชาชน ร่วมทําบุญตักบาตรทุกวันพุธ ณ ริมถนนหน้าลานวัฒนธรรมอําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยทั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่งเสริมเมืองคุณธรรม ตามวาระการขับเคลื่อนจังหวัดเลย (THAI LOEI 4.0) "Integrity" (เลย เมืองแห่งคุณธรรม) และเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาอําเภอด่านซ้าย เมืองคุณธรรม และเป็นการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีลห้า ในการปฏิบัติบูชา ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตของท้องถิ่นอีกทั้ง เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน และจรรโลงไว้ในการปฏิบัติกิจของสงฆ์ ซึ่งเป็นตามแนวทางการขับเคลื่อนจังหวัดเลย ข้อที่ 6 Open Town to Arts and Culture (เลยเมืองแห่งศิลปะ และวัฒนธรรม) และเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาอําเภอด่านซ้าย "เมืองคุณธรรม ประเพณีวัฒนธรรมที่ล้ําค่า" ซึ่งได้ปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่องทุกวันพุธตลอดทั้งปี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202141421575
971
จังหวัดลำพูน จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือตามโครงการจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (ATK) เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ในพื้นที่จังหวัดลำพูน
วันที่ 2 ก.พ.65 - นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําพูน และนายเสริมชัย ลี้เขียววงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือตามโครงการจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (Antigen Test Kit : ATK) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลําพูน เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ในพื้นที่จังหวัดลําพูนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน ได้ดําเนินการจัดหาชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (Antigen Test Kit) ตามโครงการจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (Antigen Test Kit) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลําพูน ครั้งที่ 50/2564 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 และมติที่ประชุมครั้งที่ 51/2564 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 โดยมอบหมายให้สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําพูน ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลําพูน เป็นผู้รวบรวมข้อมูลของแต่ละอําเภอ เพื่อขอรับการสนับสนุนชุดตรวจ Antigen Test Kit ในการตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ในพื้นที่จังหวัดลําพูน จํานวน 36,656 ชุด และรายงานผลการดําเนินการฯ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดําเนินโครงการฯ ทุกเดือนจนกว่าจะครบตามจํานวนที่ขอรับการสนับสนุน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202143122580
972
จัดหางานลำพูน ลงพื้นที่สำรวจแรงงานต่างด้าว ป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และเฝ้าระวัง COVID-19
นางสาวธัญญา สังข์ทอง จัดหางานจังหวัดแพร่ รักษาราชการแทน จัดหางานจังหวัดลําพูน มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สํานักงานจัดหางานจังหวัดลําพูน ร่วมกับ สํานักงานแรงงานจังหวัดลําพูน สํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลําพูน สํานักงานประกันสังคมจังหวัดลําพูน และกอ.รมน. จังหวัดลําพูน ออกตรวจสอบแรงงานต่างด้าว นายจ้าง สถานประกอบการ ตามคําสั่งจังหวัดลําพูน ที่ 2626/2564 เรื่องคณะทํางานตรวจสอบการทํางานของคนต่างด้าวและนายจ้าง/สถานประกอบการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อตรวจสอบ ปราบปราม และดําเนินคดีคนต่างด้าวลักลอบทํางานโดยผิดกฎหมาย เพื่อสนับสนุนการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเขตพื้นที่อําเภอแม่ทาผลการตรวจสอบนายจ้าง สถานประกอบการ จํานวน 4 แห่ง พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา รวมจํานวน 19 คน ได้รับอนุญาตทํางานถูกต้อง ไม่พบการกระทําผิดตามพระราชกําหนดการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 แต่อย่างใด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202143644582
973
พ่อเมืองกรุงเก่า น้อมนำแนวพระราชดำริฯ เปิดจวนฯ “ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” เสริมภูมิคุ้มกันในภาวะวิกฤติโรคโควิด-19
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 07.30 น. ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขับเคลื่อนการน้อมนําแนวพระราชดําริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ปฏิบัติการ 90 วัน "ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร" ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี นายประจัญ จันทร์เนตร์ พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พัฒนาการอําเภอพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ ร่วมกิจกรรม นายวีระชัย นาคมาศ เปิดเผยว่า ขอเชิญชวนให้ทุกครัวเรือนปลูกพืชผักสวนครัวอย่างต่อเนื่อง เพราะความต่อเนื่อง คือ พลัง ในการพึ่งพาตนเอง ทําให้เกิดเป็นชุมชนเกื้อกูลสามัคคี อีกทั้งช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพสูง ความเดือดร้อนจากวิกฤตการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปัจจุบันนี้ โดยผลผลิตที่ได้จากการขยายพันธุ์ถั่วฝักยาวสีม่วง สิรินธร เบอร์ 1 นี้ เพื่อจะนําไปขยายผลสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือนและชุมชน ให้มีความยั่งยืนตามลําดับต่อไป ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เว็บไซต์ : https://ayutthaya.prd.go.th/#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
พระนครศรีอยุธยา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202144000583
974
รองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนการจัดตั้งหมู่บ้านหรือชุมชนสีฟ้าในพื้นที่ของ กอ.รมน.ภาค 1
วันนี้ (2 ก.พ.65) ที่ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดฯ นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย พันเอก จิระโรจน์ กองวารี รอง ผอ.รมน.จังหวัดสมุทรสงคราม และคณะ ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ (zoom) แนวทางการขับเคลื่อนตามโครงการจัดตั้งหมู่บ้านสีฟ้า (ชุมชน/หมู่บ้านปลอดโควิด – 19) ในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง โดยมี พลโท สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาค 1 ผอ.รมน.ภาค 1 เป็นประธาน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ชุมชน และตําบลให้มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19 ) และสร้างความร่วมมือจากผู้นําชุมชน ผู้ปกครองท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้าน ชุมชน ตําบล และอําเภอให้สามารถเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19 ) ในระดับพื้นที่ โดยให้ชุมชน หมู่บ้าน ตําบล อําเภอ จังหวัดภาคกลางของประเทศปลอดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อย่างยั่งยืนและให้ประชาชนสามารถดํารงชีวิตแบบ New Normal ได้อย่างปลอดภัยลดการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ และงบประมาณของรัฐ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202144449586
975
2 ก.พ.65 จ.ลำพูน พบติดเชื้อ COVID-19 จากผล RT-PCR 28 ราย ผลตรวจ ATK Positive 116 ราย เสียชีวิต 1 ราย
วันนี้ (2 ก.พ.65) ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน พร้อมด้วยนายแพทย์สุกิจ สุขประเสริฐ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําพูน ร่วมแถลงสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดลําพูนพบผู้ติดเชื้อเพิ่มในจังหวัด 27 ราย ต่างจังหวัดอีก 1 ราย ATK Positive 50 ราย เสียชีวิต 1 ราย มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 7,346 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 47 ราย ผู้ป่วยยืนยันรักษาตัวทั้งหมด 188 ราย กําลังรักษา Pro.Case จํานวน 844 ราย แบ่งเป็น ใน รพ.รัฐ 250 ราย รพ.เอกชน 221 ราย HI 278 ราย รักษาหายแล้ว 4,929 ราย รักษาหาย Pro.Case จํานวน 1,338 รายในส่วนของสถิติการครองเตียงของโรงพยาบาลรัฐทุกแห่งในจังหวัดลําพูนมีทั้งหมด 540 เตียง ใช้ไป 250 เตียง หรือคิดเป็น 46.30% จึงทําให้มีเตียงเหลือรองรับผู้ป่วย 290 เตียงคิดเป็น 53.70% นอกจากนี้เตียงรองรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชนมีรองรับทั้งสิ้น 586 เตียง ใช้ไป 221 เตียง คิดเป็น 37.71% จึงทําให้มีเตียงเหลือรองรับผู้ป่วยอีก 365 เตียง คิดเป็น 62.29%สําหรับการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดลําพูน ข้อมูล ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 มียอดสะสมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว จํานวน 325,731 ราย คิดเป็น 79.81% ของผู้ประสงค์ฉีดทั้งหมด 123,341 คน จากประชากรทั้งหมด 401,408 คนคิดเป็น 81.10% ฉีดเข็มที่ 1 จํานวน 325,731 ราย เข็มที่ 2 จํานวน 305,865 ราย เข็มที่ 3 จํานวน 128,124 ราย และเข็มที่ 4 จํานวน 3,221 เข็ม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202145143588
976
จ.หนองคายพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
วันนี้ (2 ก.พ.65) นายไพโรจน์ โสภาพร พัฒนาการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า จังหวัดหนองคายได้ดําเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนและยกระดับมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมที่ 7 ออกแบบและพัฒนาของที่ระลึกจังหวัดหนองคาย เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน สวยงามและคงทน อีกทั้งเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์สินค้าของที่ระลึกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวชมและซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าของที่ระลึกที่มีคุณภาพดังนั้น หากผู้ประกอบการ ร้านค้า หรือประชาชนในจังหวัดหนองคายที่สนใจ อยากจะนําตราสัญลักษณ์ หรือโลโก้ ต้นแบบ ซึ่งเป็นรูปพญานาคสีเขียว พร้อมตัวหนังสือ Nong Khai souvenir นําไปผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเป็นของฝากของที่ระลึกสําหรับจําหน่ายสร้างรายได้ สามารถติดต่อได้ที่สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน โทร. 042 - 411182#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองคาย
สวท.หนองคาย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202160619663
977
อ.จัตุรัส สร้างสะพานจุดชมวิวชมบัวแดงบึงละหาน รองรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล
นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอําเภอจัตุรัส นําทีมบูรณาการขับเคลื่อนการดําเนินงานพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญในพื้นที่ ตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ โดยการสร้างสะพานจุดชมวิวชมบัวแดงบึงละหาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล โดยได้มีการจัดการ ดังนี้1.อํานวยการและจัดเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตําบล สมาชิก อส. รับและคุมทะเบียนไม้ที่หมู่บ้าน/ตําบล นํามาส่ง พร้อมทั้งเร่งรัดหมู่บ้าน ตําบลต่างๆ ในพื้นที่ให้ระดมและรวบรวมไม้จากการบริจาค/สนับสนุน จากวัด ชุมชน ฯลฯ เพื่อจะได้เคลื่อนย้ายมาเก็บรักษา ณ จุดกองอํานวยการ (วัดโนนหัวช้างฯ)2.ตรวจเยี่ยมให้กําลังใจกลุ่มเรือรับจ้างในการซ่อมแซมทาสีเรือ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวในห้วง “เทศกาลชมทุ่งบัวแดงบึงละหาน จังหวัดชัยภูมิ”3. รับรายงานจากหมู่บ้านดอนละนาม หมู่ที่ 11 ตําบลละหาน ซึ่งได้ประสานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงละหานร่วมกันทําความสะอาด ปรับภูมิทัศน์ ร้านขายอาหาร/จุดจอดรถ บริเวณจุดชมวิวบ้านดอนละนาม เพื่อเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาในห้วงเทศกาลฯ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202160829664
978
ผู้ว่าฯ ลำปาง นำทีมเข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายตาม พรบ. สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497
วันนี้ (2 ก.พ.65) นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อชี้แจงแนวทางการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายตาม พรบ. สํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 ที่ห้องประชุมเวียงละกอน ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลําปาง ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลสืบเนื่องจากปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด-19 ทําให้บุคคลบางกลุ่มถือโอกาสกักตุนโภคภัณฑ์ที่จําเป็นต่อการเฝ้าระวังและควบคุมติดตาม การแพร่ระบาด การป้องกัน และการรักษาโรค ตลอดจนการกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งจําเป็นต่อการดํารงชีวิตประจําวันของประชาชน เพื่อประสงค์ให้โภคภัณฑ์ดังกล่าวขาดแคลนในท้องตลาด ราคาจะได้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการกระทําที่เอารัดเอาเปรียบและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและสังคม จึงมีความจําเป็นต้องบังคับใช้พระราชบัญญัติสํารวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 อย่างจริงจังทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ําให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อดําเนินการกับบุคคลบางกลุ่มที่ฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ด้วยการกักตุนสินค้า เพื่อให้เกิดผลดีต่อประชาชนและประโยชน์สาธารณะต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202145906594
979
รองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ประชุมคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดสมุทรสงครามคัดเลือกกรรมการตำแหน่งที่ว่างลง
วันนี้ (2 ก.พ.65) ห้องประชุม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัด นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพนักงานส่วนตําบลจังหวัดสมุทรสงคราม ตามที่คณะกรรมการพนักงานส่วน มีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการพนักงานส่วนตําบลจังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามจึงได้ประกาศกําหนด วัน เวลา สถานที่ประชุม เพื่อคัดเลือกกรรมการผู้แทนพนักงานส่วนตําบลในจังหวัดสมุทรสงคราม จํานวน 1 ราย ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มาตรา 7 กรรมการ ซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับคัดเลือกอีกได้ถ้ากรรมการซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่างลงให้ดําเนินการคัดเลือกกรรมการแทนตําแหน่งที่ว่างโดยเร็ว ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในมาตรา 5 และให้กรรมการซึ่งได้รับการคัดเลือกมีวาระอยู่ในตําแหน่งเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทนในระหว่างที่ยังมิได้คัดเลือกกรรมการแทนตําแหน่งที่ว่างตามวรรคสองและยังมีกรรมการเหลืออยู่เกินกึ่งหนึ่ง ให้กรรมการที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202191056758
980
พม.จังหวัดอุทัยธานี เปิดอบรมโครงการส่งเสริมให้รัฐและเอกชนปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการในสถานประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
วันนี้ (2 ก.พ. 65) ณ ห้องประชุมศูนย์ OTOP เมืองพระชนกจักรี อําเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี มอบหมายให้นายพีระพล ตัณฑโอภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานเปิดอบรม “โครงการส่งเสริมให้รัฐและเอกชนปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการในสถานประกอบการและหน่วยงานภาครัฐจังหวัดอุทัยธานี ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565” พร้อมด้วย นางศรีสุดา เถาเมืองใจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานีและ ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายด้านความมั่นคงของชีวิตและสังคม โดยการเสริมสร้างให้คนพิการและผู้ด้อยโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการจัดสิ่งอํานวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ การให้การสงเคราะห์ การจัดการศึกษา การจัดสวัสดิการ รวมถึงบริการด้วยอาชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาสคนพิการหรือทุพพลภาพ ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้กําหนดให้บุคคล ซึ่งพิการหรือผู้ทุพพลภาพมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสวัสดิการ สิ่งอํานวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะและความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐซึ่งการจัดอบรมในครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ จํานวน 70 คน ประกอบด้วย สถานประกอบการในจังหวัดอุทัยธานี หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายคนพิการ เพื่อให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ อีกทั้งเพื่อให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ หน่วยงานของรัฐ ได้ทราบและปฏิบัติในการรับคนพิการเข้าทํางานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกําหนด เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อคนพิการและสังคม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
อุทัยธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202150430601
981
มทร.ศรีวิชัย ทุ่งใหญ่ เตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเรียน On Site รับการตรวจระดับอำเภอ เสนอ สสจ.นครศรีธรรมราช
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช พื้นที่ทุ่งใหญ่ นําโดย ผศ.สมคิด ชัยเพชร รองอธิบดีประจําวิทยาเขตนครศรีธรรมราช นางพิชามญชุ์ วัฒนสุข ผู้อํานวยการสํานักงานวิทยาเขตนครศรีธรรมราช พร้อมหัวหน้างานบริการการศึกษา หัวหน้างานบริหารกิจการทั่วไป และบุคลากร รับฟังผลการประเมินตนเอง 44 ข้อ ในการติดตามผลการดําเนินงานด้านสุขอนามัยในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออําเภอทุ่งใหญ่ โดยมี นายสุธรรม บํารุงภักดิ์ สาธารณสุขอําเภอทุ่งใหญ่ นางกรรณิการ์ มั่นคง ผู้ช่วยสาธารณสุขอําเภอทุ่งใหญ่ นางประภิญญา จีนฉิ้ม นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ และนางสาวนิลเนตร รามจันทร์ นักวิชาการสาธารณสุข ลงพื้นที่ มทร.ศรีวิชัย พื้นที่ทุ่งใหญ่ เข้าตรวจประเมินอาคารสถานที่ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย สําหรับการเตรียมความพร้อมเปิดการเรียนการสอน ภายในมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษา ตามที่กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ,จังหวัดนครศรีธรรมราช และมหาวิทยาลัยกําหนด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและนักศึกษาในการเปิดการเรียนการสอนแบบ On Site#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สวท.นครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202150811608
982
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เข้ารับวัคซีนเข็มสาม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของจังหวัดตรัง ล่าสุด(ข้อมูล ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.00 น. ) จังหวัดตรัง มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จํานวน 492,133 ราย จากเป้าหมาย 631,755 ราย คิดเป็นร้อยละ 77.90 ผู้ได้รับวัคซีน 2 เข็ม จํานวน 469,162 ราย คิดเป็นร้อยละ 631,755 ราย คิดเป็นร้อยละ 74.26 และผู้ได้รับวัคซีน 3 เข็ม จํานวน 116,672 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.47 ทั้งนี้ หากดูจํานวนการฉีดวัคซีนเข็มสาม จํานวน 18.74 % ถือว่ายังมีจํานวนค่อนข้างน้อย จึงจําเป็นต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มสาม ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จึงเน้นย้ําให้ทุกภาคส่วน เร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เข้ารับวัคซีนเข็มสาม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และหากมีผู้ป่วยติดเตียง สูงอายุ เดินทางลําบาก ขอความร่วมมือติดต่อไปยังสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน จะมีการให้บริการหน่วยเชิงรุก บริการฉีดให้ถึงบ้าน โดยการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ระดับภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนไม่สูงมากนัก แต่ยังสามารถป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 ค่าภูมิคุ้มกันจะสูงขึ้นอย่างมาก ช่วยลดการติดเชื้อ แพร่เชื้อ และลดเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้มากขึ้น จังหวัดตรัง จึงขอเชิญชวนผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้ลงทะเบียนรับวัคซีนเข็ม 3 ตามที่กําหนด และเมื่อประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น มีภูมิคุ้มกันมากขึ้น ร่วมกับปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ก็จะทําให้สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
null
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202151442613
983
กรมบัญชีกลางแจงการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก.พ.-เม.ย.65
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 รับทราบและอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกําหนดให้อํานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 โดยเห็นชอบโครงการ ดังต่อไปนี้ (1) โครงการเพิ่มกําลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 (2) โครงการเพิ่มกําลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และ (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โดยโครงการเพิ่มกําลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 จะช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จํานวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 นั้นกรมบัญชีกลางจึงขอชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565 ดังนี้ ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)- วงเงินซื้อสินค้า 400/500 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกําลังซื้อ 200 บาท)- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วยค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน/ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน/ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สําหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล) ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)- เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สําหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)- เงินคืนค่าน้ําประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สําหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ําประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ําประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชําระเอง)ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สําหรับผู้ถือบัตรฯ ที่มีบัตรประจําตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)สําหรับโครงการเพิ่มกําลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของ COVID-19 แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สิน และผู้ต้องการความช่วยเหลือ ตลอดจนรักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565 ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง โทร.02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202154554648
984
จังหวัดนครศรีธรรมราช มอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(อุทกภัย)
วันนี้ (2 ก.พ.65) ที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 2 ตําบลมะม่วงสองต้น อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช นางอนุรี วิศิษฎ์วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานมอบเงินสงเคราะห์ จํานวน 10,000 บาท แก่นางปรานอม รอดภัย มารดาของนายศักดิ์ณรงค์ รอดภัย อายุ 37 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุสถานการณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ในพื้นที่อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ตามระเบียบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามประกาศจังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่อง เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช) ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2564 และระเบียบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสํารองจ่ายจังหวัด ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติกรณีต่างๆ พ.ศ. 2564ทั้งนี้ จากหย่อมความกดอากาศต่ํากําลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ตอนกลาง ได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามัน ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้น้ําท่วมฉับพลันหลายตําบลในพื้นที่อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช และจากสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จํานวน 1 ราย คือ นายศักดิ์ณรงค์ รอดภัย อายุ 37 ปี สถานภาพโสด ที่อยู่บ้านเลขที่ 54/6หมู่ที่ 2 ตําบลมะม่วงสองต้น อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยเหตุเกิดจากการออกไปหาปลาบริเวณบ้านในช่วงอุทกภัยแล้วจมน้ําเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2564#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202151231610
985
ร่วมรับฟังการขี้แจงข้อมูลของระบบริหารจัดการงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านระบบทางไกลออนไลน์ Application Zoom
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.30 -12.00 น. ณ ห้องประชุมสํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ ศาลากลาง ชั้น 3 นายชาญวิทย์ ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ พร้อมด้วยนายวราพล นามภิไชย เจ้าพนักงานธุรการชํานาญงาน นางสาวอุมาภรณ์ มงคลนํา พนักงานการเงินและบัญชี ปฏิบัติงาน และนางสาวพรนิภา การินทอง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน เข้าร่วมอบรมการใช้งานระบบบริหารจัดการงบประมาณของสํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (M-BUD) ผ่านระบบทางไกลออนไลน์ Application Zoom เพื่อที่จะได้นําความรู้ที่ได้มาใช้ในการบริหารงานด้านงบประมาณของสํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ ให้มีความสะดวกรวดเร็ว และเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ(M-BUD) เป็นระบบที่ใช้ในการบริหารจัดการงบประมาณของหน่วยงานทั้งในระดับหน่วยปฏิบัติงาน และในภาพรวมของสํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง จะเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้งานกับระบบเครือข่าย อีเมลล์ สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสามารถตรวจสอบการเข้าใช้งานระบบของผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งมีหน่วยงานในสังกัดสํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202154824650
986
รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.อำนาจเจริญ
รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.อํานาจเจริญ ระลอกมกราคม 2565 ประจําวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากขณะนี้การติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดอํานาจเจริญส่วนใหญ่เป็นชนิดโอมิครอน ซึ่งมีความรุนแรงต่ํา แต่แพร่กระจายเชื้อได้เร็วทุกพื้นที่ ทุกคนที่อยู่รอบตัวเราถือว่ามีความเสี่ยง ถ้าทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ VUCA ดังนี้ จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธ์ุ1.V Vaccine รับการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยให้มีภูมิคุ้มกัน ลดอาการหนัก ลดการเสียชีวิต2.U Universal Preventionป้องกันตัวเองครอบจักรวาล โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ ลดการสัมผัสใกล้ชิด3.C COVID-Free Settingสถานที่บริการปลอดภัย สะอาด ลดความแออัด ผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้รับวัคซีนครบ4.A ATK (Antigen test kit)ตรวจเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อ หรือมีอาการทางเดินหายใจ เพื่อวินิจฉัย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202155104652
987
ผบ.นสศ. เป็นประธานนำกำลังพลนักรบพิเศษ วิ่งปิดโครงการ “รบพิเศษรวมใจก้าวไกลหนึ่งล้านโล” ด้วยการทะลุเป้าหมายส่วนรวมไปถึงเกือบ 1,700,000 กิโลเมตร
ที่สนามหน้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.ลพบุรี พลโท ณัฐวุฒิ นาคะนคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นประธานนําเพื่อนทหารนักรบพิเศษ จากหน่วยขึ้นตรงในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ร่วมวิ่ง ปิดโครงการ "รบพิเศษรวมใจก้าวไกลหนึ่งล้านโล ครั้งที่ 1" หรือ Special Forces Virtual Run Challenge 1,000,000 KM. โดยใช้ระทางในการวิ่งครั้งสุดท้าย รวม 5 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางต่างๆ ภายในค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี สําหรับ โครงการ "รบพิเศษรวมใจก้าวไกลหนึ่งล้านโล ครั้งที่ 1" ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้ริเริ่มขึ้น เพื่อมุ่งเน้นส่งเสริมให้กําลังพลของหน่วยรบพิเศษทั่วประเทศ ได้มีใจรักในการออกกําลังกาย อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างให้กําลังพลของหน่วย มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจที่เข้มแข็งพร้อมรับภารกิจต่างๆ ตามนโยบายของกองทัพบก ซึ่งรูปแบบของกิจกรรม เป็นการวิ่งสะสมระยะทางของกําลังพลทุกนาย อย่างน้อยคนละ 200 กิโลเมตร ภายในกรอบระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 - 31 ม.ค. 2565 เพื่อสะสมผลรวมให้ได้ครบระยะทาง 1,000,000 กิโลเมตร ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าภาคภูมิใจอย่างหนึ่งในหน่วยรบพิเศษ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก คือการที่กําลังพลในสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทุกคน ได้ออกมาแสดงพลังในตัวเองด้วยการวิ่งและเดิน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะทางส่วนรวม 1 ล้านกิโลเมตร เป้าหมายส่วนบุคคลคนละ 200 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ ระยะเวลาของโครงการได้สิ้นสุดลงแล้ว ด้วยพลังแห่งความสามัคคี ทําให้ผลการวิ่งทะลุเป้าหมายส่วนรวมไปถึง เกือบ 1,700,000 กิโลเมตร และสามารถบรรลุเป้าหมายส่วนบุคคลถึงกว่า 5,000 นาย นับเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจและแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะ และแรงผลักดันที่มีในตัวกําลังพลทุกนาย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสําคัญที่จะทําให้สามารถ ฝ่าฟันอุปสรรคและสร้างหน่วยรบพิเศษสู่ความเป็นมืออาชีพได้สําเร็จ ทั้งนี้ พลโท ณัฐวุฒิ นาคะนคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณกําลังพลทุกนาย และขอให้กําลังพลทุกคน นําพลังและแรงผลักดันที่เกิดจากการเข้าร่วมโครงการ "รบพิเศษรวมใจก้าวไกลหนึ่งล้านโล" ในครั้งนี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และต่อการปฏิบัติภารกิจของหน่วยในอนาคต ซึ่งผลของการดําเนินโครงการ ถือได้ว่าเป็นไปตามเป้าหมาย และเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจของกําลังพลทุกคน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ยังกล่าวอีกด้วยว่า จริงๆ แล้ว ความสําเร็จของโครงการนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะทาง ที่ถูกกําหนดไว้เป็นเป้าหมาย แต่ความสําเร็จเกิดขึ้นจากการที่กําลังพลทุกคนมีทัศนคติที่ดี ต่อการออกกําลังกาย กําลังพลเกิดสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งถือเป็นผลสําเร็จที่จะติดตัวกับทุกคนอย่างยาวนาน ซึ่งท่านหวังว่า ความสําเร็จในครั้งนี้ จะเป็นพื้นฐานให้กับกําลังพลของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นหน่วยรบพิเศษที่มีความสง่างาม และเป็นนักรบพิเศษมืออาชีพได้อย่างแท้จริง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202152710623
988
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เข้ารับวัคซีนเข็มสาม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
วันนี้ (2 ก.พ.65) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจังหวัดตรัง ล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.00 น.) จังหวัดตรังมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จํานวน 492,133 ราย จากเป้าหมาย 631,755 ราย คิดเป็นร้อยละ 77.90 ผู้ได้รับวัคซีน 2 เข็ม จํานวน 469,162 ราย คิดเป็นร้อยละ 631,755 ราย คิดเป็นร้อยละ 74.26 และผู้ได้รับวัคซีน 3 เข็ม จํานวน 116,672 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.47ทั้งนี้ หากดูจํานวนการฉีดวัคซีนเข็มสาม จํานวน 18.74 % ถือว่ายังมีจํานวนค่อนข้างน้อย จึงจําเป็นต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มสาม ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จึงเน้นย้ําให้ทุกภาคส่วน เร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เข้ารับวัคซีนเข็มสาม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และหากมีผู้ป่วยติดเตียง สูงอายุ เดินทางลําบาก ขอความร่วมมือติดต่อไปยังสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน จะมีการให้บริการหน่วยเชิงรุก บริการฉีดให้ถึงบ้าน โดยการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ระดับภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนไม่สูงมากนัก แต่ยังสามารถป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 ค่าภูมิคุ้มกันจะสูงขึ้นอย่างมาก ช่วยลดการติดเชื้อ แพร่เชื้อ และลดเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้มากขึ้น จังหวัดตรังจึงขอเชิญชวนผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้ลงทะเบียนรับวัคซีนเข็ม 3 ตามที่กําหนด และเมื่อประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น มีภูมิคุ้มกันมากขึ้น ร่วมกับปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ก็จะทําให้สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202152301618
989
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนด้านสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อชีวิตบนเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เน้น 4 ปัญหาเร่งด่วน
วันนี้ (2 ก.พ.65) นายสิริ ชาวเพ็ชรดี ผู้อํานวยการสํานักสอบสวน 3 สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาโครงการร้องเรียนเชิงระบบ กรณีโครงการการดําเนินการจัดการให้มีสาธารณูปโภคที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิตบนเกาะหลีเป๊ะอย่างยั่งยืน ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ร่วมประชุม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงผู้อํานวยการสํานักสอบสวน 3 สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวในที่ประชุมว่าการลงพื้นที่จังหวัดสตูลเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสาธารณูปโภคที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิตบนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งคณะได้ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะไปแล้วในห้วง 2 วันนี้ และได้พูดคุยกับประชาชนบนเกาะร่วมถึงนักท่องเที่ยวถึงสภาพปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนด้านสาธารณูปโภค 4 ด้าน ได้แก่ ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้า, ปัญหาการขาดแคลนน้ําจืดเพื่อการบริโภคและอุปโภค, ปัญหาด้านสาธารณสุข ปัญหาการบริหารจัดการขยะบนเกาะหลีเป๊ะ และการบริหารจัดการเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน และยังส่งผลดีทั้งการดํารงชีวิตของประชาชนบนเกาะและนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกาะหลีเป๊ะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสําคัญและเป็นที่นิยมอีกแห่งของประเทศไทยนายณัฐพล โชติไพรัตน์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล กล่าวถึงการแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าของประชาชนบนเกาะหลีเป๊ะ โดยส่วนใหญ่จะใช้แหล่งพลังงานจากระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และเครื่องปั่นไฟเอกชน โดยบางช่วงประชาชนจะต้องมีการซื้อไฟฟ้าจากเอกชนมาใช้ ซึ่งมีราคาสูง ส่งผลต่อค่าครองชีพของชาวเกาะและนักท่องเที่ยวที่ต้องสูงตามไปด้วย และเชื่อมโยงไปถึงระบบไฟฟ้าของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลบ้านเกาะหลีเป๊ะด้วย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล ได้จัดสรรงบประมาณในการศึกษาแหล่งผลิตไฟฟ้าไว้แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลต่อการลงพื้นที่ของทีมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บางส่วนอยู่ระหว่างข้อพิพาทส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการดําเนินการสร้างโรงไฟฟ้าให้แก่ประชาชนบนเกาะด้านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยานได้มีการจัดพื้นที่ไว้เพื่อใช้สําหรับตั้งจุดหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานเริ่มที่จะขอพื้นที่เพื่อสร้างอาคารสํานักงานแล้ว โดยการไฟฟ้าอาจขอเปลี่ยนจุดสํารวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและเปลี่ยนที่ตั้งอาจหลีกเลี่ยงจากที่ดินพิพาทและสามารถดําเนินการจัดตั้งแหล่งผลิตไฟฟ้าให้แก่ประชาชนได้เร็วขึ้นสําหรับปัญหาที่ต้องเร่งแก้ปัญหาอีกเรื่อง คือ การจัดการขยะ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอให้มีการลดการนําขยะจากบนฝั่งลงเกาะหลีเป๊ะ เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ หรืออาจเป็นการลดราคาสินค้าบนเกาะไม่ให้มีราคาสูงเกินไป นักท่องเที่ยวก็จะลดการนําสิ่งของลงเกาะ จะช่วยลดปริมาณขยะอีกทาง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202152701622
990
ฝ่ายความมั่นคงเมืองชัยภูมิ ขยายผลเข้าตรวจค้นเป้าหมายพบซุกยาบ้ากว่า 300 เม็ด
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นายอนุชา เจริญรักษ์ นายอําเภอเมืองชัยภูมิ มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคง นําโดยนายณรงค์ ชํานิพงษ์ ปลัดอําเภอ นํากําลังสมาชิก อส. ในสังกัดและนายเอนก สิมาชัย ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 ตรวจสอบ/ตรวจค้นบุคคลที่มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจําหน่าย/เสพยาเสพติดจากการร้องเรียนของราษฎรในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจได้พบวัยรุ่น 2 คน ที่กระท่อมปลายนาบ้านไทรงาม หมู่ที่ 3 ตําบลนาเสียว อําเภอเมือง โดยสามารถจับตัวได้ 1 คน คือนายบอล (อีก 1 คน วิ่งหนีไปได้) พร้อมยาบ้าจํานวน 128 เม็ด และนายบอลยอมรับว่ายาเสพติดเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ทําการขยายผลด้วยการเข้าตรวจค้นบ้านของนายบอลโดยอาศัยอํานาจหน้าที่ตามบัตร เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.หมายเลข 591682 ณ บ้านเลขที่ 17/1 ม.3 บ้านไทรงาม ตําบลนาเสียว อําเภอเมืองชัยภูมิ พบยาบ้าอีกจํานวน 234 เม็ด ซึ่งนายบอลยอมรับว่ายาบ้าเป็นของตนเองจริง รวมยาบ้าที่จับกุมได้จํานวนทั้งสิ้น 362 เม็ด ชุดจับกุมจึงได้นําตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.เมืองชัยภูมิ ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ขณะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202153433633
991
ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เด็กอายุ 5-11 ปี กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง
แนวทางฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปี ?การวัคซีนไฟเซอร์สําหรับเด็กจะมีฝาสีส้ม 1 ขวด บรรจุ 1.3 มิลลิลิตร เมื่อผสมกับน้ําเกลือจะมีขนาด 2.6 มิลลิลิตร ทําให้วัคซีน 1 ขวด สามารถฉีดให้กับเด็กได้ถึง 10 คน คนละ 0.2 มิลลิลิตร ซึ่งทางบริษัทได้พัฒนาให้วัคซีนสามารถเก็บรักษาได้นานหลังผสมน้ําเกลือในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ จากเดิม 4 สัปดาห์ กระทรวงสาธารณสุข แนะนําการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม สูตรสําหรับเด็กอายุ 5-11 ปี คือ ระยะห่างระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 เป็นเวลา 8 สัปดาห์ สูตรสําหรับฉีดผู้ใหญ่และเด็กมีความแตกต่างกัน ในแต่ละสถานพยาบาล ควรแยกจุดฉีดหรือโต๊ะฉีด สําหรับขวดฝาม่วงและฝาส้มให้ชัดเจนทั้งนี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ระบุเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.64 ว่า การศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนไฟเซอร์ขนาด 10 ไมโครกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 โดส ห่างกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์ในระยะ 2 ใน 3 ในเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี จํานวน 1,517 รายที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวจํานวนสองเข็มในระยะเวลาห่างกัน 21 วันเทียบกับกลุ่มที่ได้ placebo จํานวน 751 ราย พบว่า มีประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีอาการและมีผลการตรวจยืนยันการติดเชื้อภายหลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มในระยะเวลาตั้งแต่ 7 วันเป็นต้นไป 90.7% (95% CI 67.7 ถึง 98.3) ระดับ geometric mean titer (GMT) ของ 50% ที่ระยะเวลาหนึ่งเดือนภายหลังการได้รับวัคชีนครบ 2 เข็มในเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปีวัคซีนไฟเซอร์มีความปลอดภัย แต่ทุกวัคซีนย่อมมีอาการข้างเคียง ซึ่งอาการข้างเคียงของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กจากการศึกษาดังกล่าวมักมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง พบอาการเจ็บบริเวณที่ฉีดวัคซีนบ่อยที่สุด (71-74%) อาการอ่อนเพลีย (0.9%) และอาการปวดศีรษะ(0.3%) บ่อยที่สุดคําแนะนําการรับวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ว่า หากเด็กได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech สูตรสําหรับเด็กอายุ5-<12 ปี (ขนาด 10 ไมโครกรัม) และมีอายุครบ 12 ปีหลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 1 แนะนําให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ด้วยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech สูตรสําหรับผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุ 212 ปี (ขนาด 30 ไมโครกรัม) อย่างไรก็ตาม หากได้รับเข็มที่ 2 ขนาด 10 ไมโครกรัม ถือว่าผู้นั้นได้รับวัคซีนครบถ้วนไม่ต้องฉีดซ้ําสําหรับเด็กที่เคยมีการติดโรคโควิด-19 มาแล้ว แนะนําให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพียงหนึ่งเข็ม โดยเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน เมื่อหายดีจากโรคโควิด-19 ส่วนผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปที่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย ไม่ว่าจะเป็นซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ครบแล้ว 2 เข็ม แนะนําให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ที่ได้รับการรับรองตามช่วงอายุอีก 1 เข็ม โดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 4 สัปดาห์ภายหลังการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202164624704
992
จังหวัดตรัง แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 40 ราย สะสม 1,095 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย
วันนี้ (2 ก.พ.65) นายแพทย์ ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชํานาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง พร้อมด้วยแพทย์หญิงทิพย์ลดา บุญชัย นายแพทย์ชํานาญการ โรงพยาบาลตรัง ในฐานะรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง ร่วมแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ ศูนย์แถลงข่าวศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส 2019 จังหวัดตรัง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยในวันนี้ (2 ก.พ.65) ผู้ติดเชื้อตามการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 จํานวน 1,095 ราย โดยนับเฉพาะจังหวัดตรังผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันจะเป็น 26 รายต่อวัน หากนับรวมผู้ที่มารักษาจากจังหวัดอื่น ผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วัน 31.1 รายต่อวัน ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันในวันนี้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบโดยวิธี RT-PCR เพิ่มขึ้นเป็น 40 รายในวันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 หายป่วย 27 ราย ทําให้การหายป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 793 ราย คิดเป็นการรักษาหายร้อยละ 72.42 เป็นวันแรกที่ผู้รักษาหายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เกินกว่าร้อยละ 70 ทั้งนี้ยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รักษาอยู่ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามของจังหวัดตรัง จํานวน 294 ราย เป็นผู้ติดเชื้อไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย 246 ราย เป็นผู้มีอาการปานกลาง 42 ราย ให้ออกซิเจน 2 ราย ให้ออกซิเจนแรงดันสูง 2 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 2 ราย ในวันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม จํานวน 1 ราย รวมผู้เสียชีวิต 8 รายผลการตรวจด้วย RT-PCR อยู่ใน 8 อําเภอ มากที่สุดที่อําเภอเมืองตรัง 20 ราย รองลงมาอําเภอย่านตาขาว 4 ราย อําเภอวังวิเศษ 3 ราย อําเภอห้วยยอด 2 ราย อําเภอกันตัง 2 ราย อําเภอนาโยง 2 ราย อําเภอปะเหลียน 1 ราย อําเภอรัษฎา 1 ราย ที่เหลือได้แก่ อําเภอสิเกา และอําเภอหาญสําราญ จํานวน 2 อําเภอไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่
2/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202153133626
993
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สนับสนุนยาพาวิพิราเวียร์ 10,000 เม็ด ให้สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี รักษาผู้ป่วยโควิด-19
วันนี้ (2 ก.พ. 65) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายพิริยะ ธานีรณานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านสวยกรุ๊ป (สุราษฎร์ธานี) จํากัด (มหาชน) เป็นผู้แทนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการนํายาฟาวิพิราเวียร์(Favipiravir) จํานวน 10,000 เม็ด ส่งมอบให้กับนายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อจัดสรรให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สําหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาตัวหลักที่สําคัญที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ด้านนายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานียังคงมีผู้ป่วยที่จะต้องรักษาอีกกว่าพันคน ดังนั้นยาฟาวิพีเวียร์จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างแน่นอน ซึ่งการบริหารสต๊อคยาของจังหวัดสุราษฎร์ธานีบริหารโดยภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงสาธารณสุข ในเขตจังหวัดภาคใต้ตอนบนมีการระบาดค่อนข้างสูงในจังหวัดภูเก็ต ดังนั้นการสต๊อคยาบางส่วนจะไปอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งกรณีที่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้นํายาฟาวิพิราเวียร์มาในครั้งนี้ ก็เป็นการเสริมสต๊อคยาและยังมีการประสานงานกันอีกว่าหากยาในสุราษฎร์ธานีขาดสต๊อค ก็สามารถที่จะขอไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เพิ่มเติมได้อีกด้วยขณะที่สถานการณ์ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 106 ราย ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน จํานวน 3,548 ราย รักษาหายกลับบ้านวันนี้ 322 ราย อยู่ระหว่างการรักษาสะสม 1,730 ราย.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202152913625
994
แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ตีเส้นทางม้าลายใหม่ พร้อมเพิ่มเส้นห้ามเปลี่ยนเลนก่อนถึงทางม้าลาย
จากประเด็นร้อนที่เป็นข่าว กรณี รถจักรยานยนต์ชนคนที่ทางม้าลาย วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2565) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ ถนนเอกชัย หน้าโรงพยาบาลเอกชัย ที่ทางสํานักงานแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้ดําเนินการตีเส้นทางม้าลายใหม่เพื่อให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น และการเพิ่มเส้น optical speed bar สําหรับตีเส้นเพื่อควบคุมผู้ขับขี่ขับอยู่ในช่องทางของตนเอง และทําให้มองดูแล้วถนนแคบลง ผู้ขับขี่จะลดความเร็วลงโดยอัตโนมัติ ก่อนจะถึงทางม้าลายประมาณ 100 เมตร เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้ง 2 ฝั่งทั้งขาเข้าและขาออก จากการลงพื้นที่ พบว่า มีเส้นทางม้าลายได้ตีเส้นใหม่เห็นชัดเจน มีเส้น optical speed bar สําหรับตีเส้นเพื่อควบคุมผู้ขับขี่ขับอยู่ในช่องทางของตนเอง แต่รถบางคันก็ไม่หยุดให้ประชาชนได้ข้ามถนนบนทางม้าลาย ประชาชนต้องรอให้รถหมด หรือ ระยะรถห่างจากทางม้าลายถึงข้ามได้ สําหรับ การตีเส้น optical speed bar เพื่อให้รถอยู่ในเลนตัวเองนั้นก็พบว่ายังมีรถบางคันเปลี่ยนเลนอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่อยู่ในเลนตัวเอง สําหรับ บทลงโทษ หากไม่ยอมหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย มาตรา 152 กําหนดชัดเจนว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 22 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทในเบื้องต้น สํานักงานแขวงทางหลวงสมุทรสาคร จะดําเนินการตีเส้นม้าลายใหม่ จํานวน 5 จุดก่อน ได้แก่ คือ 1.หน้าโรงพยาบาลเอกชัย 2.หน้าโรงพยาบาลมหาชัย 3.บิ๊กซีคลองครุ 4.วัดราษฎร์รังสรรค์ แถวบิ๊กซ้ง และจุดที่ 5 คือ เทศบาลตําบลนาดีการตีเส้นทางม้าลายใหม่ การเพิ่มเส้นห้ามเปลี่ยนเลนจะเป็นประโยชน์เลย ถ้าคนใช้รถใช้ถนนขาดจิตสํานึกและการเคารพกฎจราจร#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันตก
สมุทรสาคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202155103651
995
ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ลงพื้นที่มอบถังยังชีพ และสร้างขวัญกำลังใจแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัย บ้านเรือนเสียหาย 24 ครัวเรือน
วันนี้ (2 ก.พ.65) เวลา 13.30 น. ที่ ศาลากลางหมู่บ้าน บ้านหนองกุฏิ หมู่ที่ 7 ตําบลพลับพลาไชย อําเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย คณะทํางานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุพรรณบุรี หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่มอบถังยังชีพ จาก บริษัทเบเยอร์ ให้แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากวาตภัย จํานวน 24 ครัวเรือนและเยี่ยมเยียน เพื่อเป็นขวัญกําลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรผู้ประสบวาตภัย โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมกล่าวว่า การมอบถังยังชีพเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ส่วนการซ่อมแซม ขณะนี้กําลังสํารวจ และจะดําเนินการโดยเร็ว ซึ่งความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกๆ ภัยอย่าท้อใจ ชีวิตมีขึ้นมีลง ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ว่า ทางจังหวัด และท้องถิ่น มีความตั้งใจจริงในการสร้างขวัญกําลังใจและช่วยเหลืออย่างเต็มศักยภาพด้าน นายปภินวิช ละอองแก้ว หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุวาตภัยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. ทําให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่อําเภอเมืองสุพรรณบุรี อําเภออู่ทอง อําเภอหนองหญ้าไซ และอําเภอเดิมบางนางบวช จํานวน 4 อําเภอ 9 ตําบล 21 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจํานวน 145 ครัวเรือน 459 คน ในส่วนตําบลพลับพลาไชยมีราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน จํานวน 24 ครัวเรือน ส่วนการให้ความช่วยเหลือ อําเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานันผู้ใหญ่บ้าน ได้ออกเยี่ยมให้กําลังใจผู้ประสบภัย และเร่งสํารวจความเสียหายพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้วอย่างไรก็ตาม ขอฝากประชาชนเฝ้าระวังเหตุอัคคีภัยด้วยเนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทั้งจากการเฝ้าขยะ/ไร่อ้อย นอกจากนี้ยังเป็นการลดฝุ่นละออง PN2.5 อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202160105657
996
สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ประชุมเตรียมความพร้อม “ โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ” ในพื้นที่ตำบลเนินขาม อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท
วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมเทศบาลตําบลเนินขาม อําเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการดําเนินงานโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ ให้ได้รับบริการตรวจรักษาและผ่าตัดผู้ป่วยโรคตาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นรูปแบบการผ่าตัดบนรถผ่าตัดเคลื่อนที่ โดยมี แพทย์หญิงอุไรวัลย์ ตินนังวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ นายแพทย์ 9 จักษุแพทย์ สํานักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท เลขานุการเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท รักษาราชการแทนท้องถิ่นจังหวัดชัยนาท ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท นายอําเภอเนินขาม ผู้อํานวยการโรงพยาบาลเนินขาม ผู้อํานวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลเนินขาม นายกเทศมนตรีตําบลเนินขาม กํานันและผู้ใหญ่บ้านตําบลเนินขาม เข้าร่วมประชุม การประชุมวันนี้เป็นการเตรียมความพร้อม โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งการออกแบบปฏิบัติงานของ “โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” ในครั้งนี้ โดยตรวจรักษา และผ่าตัดตาให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาส ในพื้นที่ของตําบลเนินขาม อําเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม 2565 โดยให้บริการรักษาโรคตาแก่ผู้ป่วยนอก 1 ตําบล จํานวน 250 ราย โดยให้บริการตรวจรักษา ผ่าตัดโรคต้อกระจก และทําการผ่าตัดโรคตาอื่น ๆ เช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน และโรคของเปลือกตาในผู้ป่วยทุกรายที่จําเป็นต้องรักษาต่อไป ทั้งนี้ สํานักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เป็นหน่วยงานหนึ่งของสภากาชาดไทย มีหน้าที่ช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทยในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นหนึ่งในโครงการที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มดําเนินการ ใน ปี พ.ศ.2538 โดยให้บริการตรวจรักษาและผ่าตัดผู้ป่วยโรคตาโดยผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ณ สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศเฉลิมพระเกียรติฯ และให้บริการเชิงรุกด้วยการออกปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลอําเภอในถิ่นทุรกันดาร ส.ปชส.ชัยนาท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202154132643
997
กองทัพภาคที่ 2 โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 มอบทุนการศึกษาตามโครงการพี่ทหารสานฝันที่จังหวัดหนองคาย
กองทัพภาคที่ 2 จัดทําโครงการพี่ทหารสานฝัน เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของนักเรียน และเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร อย่างเท่าเทียมกันทั้งในเมืองและชนบท เพื่อให้มีความพร้อมในการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพที่โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร พันโทพีรพัฒน์ พันสาน ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 เป็นผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานมอบทุนการศึกษา ให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนทางด้านภาษาอังกฤษ ในระดับดี จํานวน 20 ทุน โดยผู้ที่ได้รับทุนจะเป็นนักเรียนที่เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และเตรียมเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีโครงการพี่ทหารสานฝันของกองทัพภาคที่ 2 นั้น จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของนักเรียนและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารพื้นที่ห่างไกล ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างเท่าเทียมกันทั้งในเมืองและชนบท ให้มีความพร้อมในการสอบเข้าศึกษาต่อ ระดับอุดมศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ เปิดโลกทัศน์ให้นักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน สร้างแรงบันดาลในในการศึกษาพัฒนาตนเอง และให้เยาวชนมีความรักเทิดทูนในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยในปี พ.ศ. 2565 ได้มีการสานต่อโครงการพี่ทหารสานฝันโดยต่อเนื่อง มีการดําเนินงาน ได้แก่ โครงการมอบทุนการศึกษาพี่ทหารสานฝัน พี่ทหารสานฝัน Inspiration talk และพี่ทหารสานฝันทําเนียบรัฐบาลสําหรับการจัดโครงการมอบทุนพี่ทหารสานฝันในครั้งนี้ หน่วยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ได้มอบทุนให้นักเรียน ระดับดับมัธยมศึกษาตอนปลายในพื้นที่อําเภอเมืองหนองคาย เพื่อรับทุนการศึกษาตามโครงการพี่ทหารสานฝัน กองทัพภาคที่ 2 ประจําปี 2565 เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงวิทยาการการศึกษาเรียนรู้ให้กับนักเรียน ได้มีโอกาสเตรียมความพร้อม ในการวางแผนการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ลักษณะกิจกรรมจะเป็นการสนับสนุน คอร์สเรียน “ภาษาอังกฤษครูนะ” แบบออนไลน์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองคาย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202153848638
998
จังหวัดตรัง ติดตามสถานการณ์และราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมอนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน
วันนี้ (2 ก.พ.2565) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรัง ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ทั้งเนื้อหมู ไก่ ไข่ไก่ และสินค้าต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ประกาศรายการสินค้าและบริการควบคุม จํานวนทั้งสิ้น 56 รายการ จากเดิม 51 รายการ เช่น ไข่ไก่ หมูและเนื้อหมู แชมพู ผงซักฟอก ข้าวสาร กระเทียม อาหารกึ่งสําเร็จรูป เครื่องแบบนักเรียน ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น ทั้งนี้ มาตรการทางกฎหมาย ออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการ โดยเฉพาะเนื้อหมู ขอให้ผู้ครอบครองสุกรมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัว แจ้งปริมาณการครอบครองทุก 7 วัน เพื่อทราบสต๊อกการครอบครองของสุกรมีชีวิตทั้งประเทศ รวมถึงการครอบครองเนื้อสุกรแช่เย็นตั้งแต่ 5 พันกิโลกรัมขึ้นไป ต้องแจ้งให้ทราบด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า ขณะที่ ผู้เลี้ยงไก่ที่มีปริมาณการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป และโรงชําแหละไก่ที่มีกําลังการผลิตมากกว่า 4,000 ตัวต่อวัน ต้องแจ้งปริมาณ สต็อก และต้นทุนราคาจําหน่ายทุกเดือน ซึ่งได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดจังหวัดตรัง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมตรวจสอบการติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน หากไม่ปฏิบัติตามต้องดําเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม จังหวัดตรังได้อนุมัติงบประมาณจํานวน 353,600 บาท ให้กับทางสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 จําหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดํารงชีวิตประจําวัน ใน 10 อําเภอ อําเภอละ 2 วัน เพื่อเป็นทางเลือกของพี่น้องประชาชนในการจับจ่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยสินค้าที่นํามาจําหน่าย อาทิ ไข่ไก่เบอร์ 2 จํานวน 300 แผงต่อวัน ปกติราคา 108-110 บาท จําหน่ายเพียง 65 บาทเท่านั้น น้ํามันพืชปาล์มขนาด 1 ลิตร วันละ 180 ขวด ปกติราคา 57-60 บาท จําหน่ายเพียง 45 บาท ทั้งนี้ ให้สิทธิ์ผู้ซื้อไข่ไก่คนละ 1 แผง น้ํามันพืชคนละ 1 ขวด นอกจากนี้ ยังจําหน่ายเนื้อหมูชําแหละ อาทิ หมูเนื้อแดง (ไหล่/สะโพก/ขาหน้า/คอ) ราคาตลาด 180-200 บาท จําหน่ายเพียง 150 บาท สามชั้น 180-220 บาท จําหน่าย 170 บาท เนื้อสันใน ราคา 180-200 บาท จําหน่ายเพียง 170 บาท ซี่โครง ราคา 170-180 บาทจําหน่าย 160 บาท เครื่องใน (ตับ/หัวใจ) ราคา 130-140 บาทจําหน่าย 100 บาท ขา-หัว ราคา 120-130 บาท จําหน่าย 100 บาท กระดูกสัน ราคา 110-120 บาท จําหน่าย 100 บาท เครื่องในรวม จําหน่าย 50-70 บาท จําหน่าย 50 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202154019642
999