NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
รู้จัก UCEP หลัง ครม.สั่งชะลอการยกเลิกผู้ป่วยโควิด-19 ยังรักษาฟรีได้ทุก รพ.
หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติให้ชะลอประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะยกเลิกการใช้ UCEP (ยูเซป) รักษาโควิดฟรีทุกโรงพยาบาลสําหรับกลุ่มบัตรทอง - ประกันสังคม ในกรณีวิกฤติฉุกเฉิน ทําให้ผู้ป่วยโควิดยังรักษาฟรีได้ในทุกโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนนั้นมาทําความเข้าใจ UCEP และทิศทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดของภาครัฐUCEP ย่อมาจาก Universal Coverage Emergency Patients คือ สิทธิที่รัฐบาลทําให้ประชาชนคนไทยทุกคนที่เกิดภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน หรือประสบอุบัติเหตุร้ายแรง เข้ารับบริการในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ณ จุดเกิดเหตุที่สุดได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชน สามารถรักษาฟรี โดยมีสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.ทําหน้าที่สนับสนุนทําระบบข้อมูลและการเบิกจ่ายค่าบริการรักษาพยาบาลแบบ UCEP ให้กับประชาชนทุกสิทธิการรักษา ทั้งบัตรทอง - ประกันสังคมลักษณะอาการที่เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินวิกฤตรับสิทธิ UCEP ได้แก่ หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน ชักต่อเนื่องไม่หยุด หรือมีอาการอื่นร่วม อาการอื่นที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิตที่ผ่านมาผู้ป่วยโควิด-19 ถูกจัดให้อยู่ในผู้ที่ได้สิทธิ UCEPอย่างไรก็ตาม เรื่องของการยกเลิก UCEP ผู้ป่วยโควิด-19 นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีมติให้กระทรวงสาธารณสุขกลับไปทบทวนและชะลอการประกาศออกไปก่อน เพราะจะต้องไปทําความเข้าใจ ซักซ้อมการให้บริการและปรับบริการเพื่อที่จะรับผู้ป่วยสีเขียว (ผู้ป่วยอาการเบา คล้ายไข้หวัด หรือไม่มีอาการ) เนื่องจากขณะนี้ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนทําให้มีผู้ป่วยสีเขียวค่อนข้างมาก นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้จัดทําแผนรองรับผู้ป่วยให้ชัดเจน ทั้งในส่วนของโฮมไอโซเลชัน (HI) และคอมมินิตี้ไอโซเลชัน (CI) นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องของการรับโทรศัพท์ เช่น 1330 ไม่มีผู้รับสาย ไม่สามารถติดต่อได้ จึงให้ไปเพิ่มบริการให้ดีก่อนและยืนยันว่าขณะนี้ผู้ป่วยโควิด-19 ยังรักษาฟรีอยู่ส่วนทิศทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด19 – ทิศทางกลับมายกเลิก UCEP จากการให้สัมภาษณ์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่บอกว่าการเตรียมยารักษามีความจําเป็นต้องเพิ่มยาฟ้าทะลายโจรมากขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการไม่ออกเลย ถ้ารับยาฟาวิพิราเวียร์ไปก็เหมือนกับเกินขนาด ฟ้าทะลายโจรสร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนฟาวิพิราเวียร์เป็นยาฆ่าไวรัส ถ้าผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ หลายกรณีจะใช้ฟ้าทะลายโจร ส่วนสถานการณ์เตียงไอซียูเริ่มเต็ม จากการตรวจสอบทุกวันระบบการสาธารณสุขยังสามารถให้การดูแลได้ ต้องไปดูเรื่องประเภทของคนป่วย HI/CI ที่มีกติกากําหนดไว้ว่าจะดูจากอาการของผู้ป่วย ว่าระดับไหน จะได้รับการดูแลอย่างไร ถ้าคนที่ไม่แสดงอาการก็อยู่ HI/CI ซึ่งกรณีแยกกักไม่ได้ที่บ้าน ก็มี CI ต้องผ่านเป็นขั้นตอนก่อน ขณะที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่าที่อื่นก็ยืนยันกับสาธารณสุขว่า HI/CI ไปถึง Hospitel มีความพร้อม โรงพยาบาลสนามหลายแห่งก็ยังคงไว้ส่วนเรื่องการยกเลิก UCEP นายอนุทิน ชี้แจงอีกครั้งว่า การใช้สิทธิ UCEP ยังให้ดําเนินการต่อไปเหมือนช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน ตนจึงเสนอให้มีการเลื่อนการใช้สิทธิ UCEP ออกไปก่อนอย่างไม่มีกําหนดมาถึงตรงนี้ก็พอจะสรุปได้ว่าการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ถ้าผู้ป่วยสีเขียวก็กักตัวแบบ HI/CI /Hospitel รับยาฟ้าทะลายโจร หรือยาตามหมอแนะนํา ผู้ป่วยมีอาการถึงอาการหนักก็รับยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาชนิดอื่นตามแพทย์สั่ง รวมทั้งรักษาในรูปแบบอื่นตามอาการและผู้ป่วยยังใช้สิทธิ UCEP ต่อไปได้ ส่วนจะกลับมาประกาศยกเลิก UCEP อีกหรือไม่ สถานการณ์การแพร่ระบาด แผนการดูแลรักษาผู้ป่วยและความเข้าใจของประชาชนในระยะเวลาต่อไปจะเป็นคําตอบ
24/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220224214815026
600
สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จ.ระยอง ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 600 ราย
ศูนย์โควิด-19 จังหวัดระยอง รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จ.ระยอง ประจําวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 600 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายเดินทางกลับบ้านมี จํานวน 170 ราย ทําให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 25 กุมภาพันธ์ 2565 จํานวน 10,513 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.12 ของผู้ติดเชื้อ ขณะนี้ยังเหลือผู้ป่วยอยู่ระหว่างรักษา 3,627 ราย และมีผู้อยู่ระหว่างกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ จํานวน 825 ราย และกักตัวที่บ้าน 931 ราย สําหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบในวันนี้ ประกอบด้วย - อ.เมือง 321 ราย (ต. เชิงเนิน 41,ต. ตะพง 7,ต. ทับมา 29,ต. เนินพระ 50,ต. ห้วยโป่ง 45 ,ต. มาบตาพุด 59,ต. ท่าประดู่ 13,ต. กะเฉด 1,ต.ปากน้ํา 10,ต. เพ 34,ต. น้ําคอก 1,ต. นาตาขวัญ 3,ต. บ้านแลง 7,ต. สํานักทอง 9,ต.แกลง 12) - อ.ปลวกแดง 101 ราย (ต. ตาสิทธิ์ 17,ต. ปลวกแดง 31,ต. มาบยางพร 32,ต. แม่น้ําคู้ 18,ต. ละหาร 3) - อ.นิคมพัฒนา 56 ราย ( ต. นิคมพัฒนา 7,ต. พนานิคม 13,ต. มะขามคู่ 12,ต. มาบข่า 24) - อ. บ้านฉาง 59 ราย (ต. บ้านฉาง 32,ต. สํานักท้อน 18,ต. พลา 9) - อ. บ้านค่าย 8 ราย (ต. หนองบัว 1,ต. ตาขัน 1,ต. บางบุตร 1,ต.หนองตะพาน 1,ต. หนองละลอก 4) - อ. แกลง 18 ราย (ต. ชากพง 2,ต.ทุ่งควายกิน 1,ต. ทางเกวียน 3,ต. กองดิน 3,ต. วังหว้า 2,ต. ชากโดน 1,ต.กระแสบน 3,ต. สองสลึง 2,ต. ห้วยยาง 1) - อ. วังจันทร์ 3 ราย (ต. ป่ายุบใน 2,ต.ชุมแสง 1) - อ. เขาชะเมา 6 ราย (ต.ซําฆ้อ 2,ต. ห้วยทับมอญ 2,ต. น้ําเป็น 2) - มาจากต่างจังหวัด 28 ราย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคตะวันออก
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225103119097
601
มาเป็นคู่ พ่อ - แม่จับมือ หนูน้อย นักเรียนอนุบาล ฉีดวัคซีนเด็กป้องกันโควิด-19
บรรยากาศฉีดวัคซีนเด็กเล็ก ในวันนี้(25 ก.พ 65) ที่โรงเรียนอนุบาลยะลา บรรดา พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ต่างก็คึกคัก นําเด็ก ๆ ซึ่งเป็นนักเรียนอนุบาล 3 ไปจนถึง ป.3 อายุระหว่าง 5-11 ปี ทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาส้ม สูตรสําหรับเด็ก กันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้นว่าจะมีฝนตก ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใดซึ่งวันนี้ ทางโรงพยาบาลยะลา ได้ร่วมกับเทศบาลนครยะลา เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ เด็กนักเรียน ชั้น ป.1,ป.2 ,ป.3 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตเทศบาลนครยะลา ทั้งโรงเรียนภาครัฐ และเอกชน ที่โรงเรียนอนุบาลยะลา เป็นไปตามขั้นตอนการฉีดวัคซีน และมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยผู้ปกครอง นักเรียนทุกคนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งการ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา การตรวจวัดไข้ ล้างมือ เว้นระยะห่าง โดยมี รอง ผอ.โรงเรียน เป็นผู้ชี้แจงขั้นตอนการฉีดให้กับกลุ่มผู้ปกครอง ขณะที่ผู้ปกครองเองก็ ต่างมั่นใจที่จะให้ลูก ๆ ได้ฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ส่วนเด็ก ๆ บางคนก็กลัว บางคนก็ไม่กลัวตื่นเต้นบ้าง แต่ก็วุ่นวายหน่อย สําหรับการฉีดวัคซีนเด็กเล็กครั้งนี้ โดย พ่อ แม่ ต้องยืนประกบลูกๆ ให้ฉีดวัคซีน ซึ่งหนูน้อยบางคนก็จะร้องไห้ดิ้นไปมา แต่ก็ผ่านไปด้วยดี มีทั้งผู้ปกครอง คุณครู คอยดูแล ปลอบโยนสําหรับการให้บริการฉีดวัคซีนเด็กเล็กในวันนี้ 25 ก.พ 65 ก็จะมีนักเรียนเข้าฉีดวัคซีน ทั้งเช้า และบ่ายรวม 700 คน โดยก่อนหน้านี้ ช่วงต้นสัปดาห์ วันที่ 21 ก.พ 64, 22 ก.พ 64 ก็ได้ฉีดวัคซีนให้กับเด็กไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยยอดรวมการฉีดวัคซีนเด็กสัปดาห์นี้ จะมีจํานวน ทั้งสิ้น 1,685 คน ส่วนการฉีดวัคซีนเด็ก ในสัปดาห์แรกที่ดําเนินการในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่งเป็นนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 , 5 และ 6 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีจํานวนรวมทั้งสิ้น 2,054 คน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225102223092
602
“คนล้น” รพ.ยะลา ขยายเพิ่มจุดสวอป กลุ่มสีเขียว ลดความเสี่ยงติดเชื้อ
หลังจาก ได้มีประชาชน เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ โรงพยาบาลยะลา กันเป็นจํานวนมาก ทําให้ล้น และเกิดความแออัด เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คนไม่ได้เป็นจะได้ไม่ไปปนเปื้อนกับคนที่เสี่ยงและเป็นโควิดล่าสุดทาง รพ.ยะลา ได้ขยายจุดตรวจ ATK เพิ่มแล้ว โดยใช้พื้นที่ว่างบริเวณประตูข้าง สําหรับจุดนี้ทางเจ้าหน้าที่ บอกว่า จะเป็นจุดตรวจ ATK สําหรับคนไข้กลุ่มสีเขียว ญาติเฝ้าไข้ หมอนัด นอน รพ.ให้มาสวอปก่อน รวมถึง ผู้ป่วยที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน มา ก็จะมาตรวจ ATK ที่จุดนี้ ตรวจตามขั้นตอน ถ้าพบผลบวก ก็มาคัดกรอง ไม่มีอาการ ไม่รุนแรง ก็จะรับยา กลับบ้าน ถ้ามีกลุ่ม 608 อาการรุนแรง ก็จะมีการตรวจอีกรอบเพื่อนําเข้าสู่ระบบการรักษา ของ ร.พ.ยะลา ต่อไปส่วนจุดเดิมที่อยู่บริเวณ อาคารด้านหน้าภายใน รพ. ก็จะเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วย ATK จากบ้าน เป็นบวก ตรวจมาจาก รพ.สิโรรส และอื่นๆ รู้แล้วว่าเป็น ก็จะเข้าที่จุดที่ 1 ทั้งนี้ จากข้อมูล พบว่า ตั้งแต่ก่อนสัปดาห์ที่แล้ว จนถึงขณะนี้ มีประชาชน มาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 วันละไม่ต่ํากว่า 700 คน จํานวนนี้ พบผลบวก กว่า 200 คนในแต่ละวัน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225110918116
603
จ.อุบลฯ เชิญชวนกลุ่มเป้าหมายรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอศรีเมืองใหม่
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ภายใต้การอํานวยการของนายสรชาย ครองยุทธ นายอําเภอศรีเมืองใหม่ ประสานสาธารณสุขอําเภอศรีเมืองใหม่ โรงพยาบาลศรีเมืองใหม่ ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมีกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนกลุ่มเป้าหมายเข้ารับบริการ มีผลการดําเนินการดังนี้1. จํานวนผู้มารับการฉีดวัคซีน 165 ราย- PZ เข็ม 1 = 12 ราย- PZ เข็ม 2 = 19 ราย- PZ เข็ม 3 = 78 ราย- AZ เข็ม 1 = 4 ราย- AZ เข็ม 2 = 4 ราย- AZ เข็ม 3 = 48 ราย 2. จุดให้บริการ ณ NCD รพ.ศรีเมืองใหม่/รพ.สต./นาทอย/ภูหล่น/ห้วยหมาก/หนองขุ่น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225114133136
604
ยะลา พบเพิ่ม 218 ราย รายใหม่ โควิด ด้านสาธารณสุข เปิดหน่วยบริการ- สถานพยาบาล ประชาชน แจ้งได้ทีนที หลังตรวจ ATK ด้วยตัวเอง เจอบวก
จังหวัดยะลา ยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ 25 ก.พ.65 ทางสํานักงานสาธารณสุข จ.ยะลา รายงานพบผู้ป่วยรายใหม่ 218 ราย เพิ่มขึ้น 24 ราย จากเมื่อวาน (24 ก.พ 65) ที่มียอดผู้ติดเชื้อ 194 ราย ป่วยสะสม 1,797 ราย กําลังรักษา 3,473 ราย รักษาหายแล้ว 1,417 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ สะสมรวม 13 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจ ATK พบผลบวกเพิ่ม 694 ราย สะสม 2,854 ราย สําหรับ 218 รายใหม่ พบในอําเภอเมือง 82 ราย อ.บันนังสตา 72 ราย อ.ยะหา 26 ราย อ.รามัน 8 ราย อ.เบตง 13 ราย อ.กาบัง 9 ราย อ.กรงปินัง 3 ราย และ อ.ธารโต 5 ราย โดยวันนี้ พบว่า อ.บันนังสตา มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ ผลการตรวจคัดกรองตามมาตรการด้านสาธารณสุข รวมสะสม 18,075 รายขณะที่ ทางสํานักงานสาธารณสุข จ.ยะลา ได้ แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งได้ตรวจ ATK ด้วยตัวเอง หากผลออกมาพบเชื้อ ให้แจ้งหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 16.30 น. ได้ทุกวัน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225124125151
605
ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามวัดบางคนทีนอก
นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามวัดบางคนทีนอก อําเภอบางคนที โดยมี นายวุฒิชัย ยามโคกสูง นายอําเภอบางคนที นายแพทย์เดชา มีสุข ผู้อํานวยการโรงพยาบาลนภาลัย ให้การต้อนรับและนําตรวจความพร้อมด้านต่าง ๆ ของการรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด -19ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสงคราม ได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามแล้ว จํานวน 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนามอัมพวาร่วมใจ อําเภออัมพวา สามารถรองรับผู้ป่วยได้ จํานวน 500 เตียง โรงพยาบาลวัดเกตการาม อําเภอบางคนที รองรับผู้ป่วยได้ 131 เตียง จากสถานที่ขณะนี้มีจํานวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม จังหวัดจึงเตรียมพร้อมในการเปิดระบบโรงพยาบาลสนามวัดบางคนทีนอก อําเภอบางคนที ที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 255 เตียง และโรงพยาบาลสนามหนองกระพง ตําบลเหมืองใหม่ อําเภออัมพวา รองรับผู้ป่วยได้ 100 เตียง นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมศูนย์พักคอยที่โรงเรียนบ้านรางห้าตําลึง ตําบลดอนมะโนรา อําเภอบางคนที ซึ่งได้ปิดระบบไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา สามารถรับรองได้ 250 เตียง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225131931165
606
จังหวัดสตูล รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า จำนวน 182 ราย
นายแพทย์สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ก.พ.65) มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จังหวัดสตูลจํานวนทั้งหมด 182 ราย โดยผลการสอบสวนโรค ผู้ป่วยทั้งหมด จํานวน 182 ราย เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า แยกเป็นรายอําเภอ ดังนี้อําเภอเมือง จํานวน 47 ราย ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลพิมาน ตําบลคลองขุด ตําบลควนขัน ตําบลบ้านควน ตําบลฉลุง ตําบลควนโพธิ์ ตําบลเกตรี ตําบลเจ๊ะบิลัง และตําบลเกาะสาหร่าย อําเภอควนโดน จํานวน 23 ราย ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลควนโดน ตําบลควนสตอ และตําบลย่านซื่อ อําเภอควนกาหลง จํานวน 12 ราย ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลควนกาหลง และตําบลทุ่งนุ้ย อําเภอท่าแพ จํานวน 16 ราย ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลท่าแพ ตําบลท่าเรือ ตําบลแป-ระ และตําบลสาคร อําเภอละงู จํานวน 65 ราย ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลกําแพง ตําบลละงู ตําบลเขาขาว ตําบลน้ําผุด และตําบลปากน้ํา อําเภอทุ่งหว้า จํานวน 12 ราย ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลทุ่งหว้า ตําบลนาทอน และตําบลป่าแก่บ่อหิน อําเภอมะนัง จํานวน 7 ราย ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลนิคมพัฒนา และตําบลปาล์มพัฒนาจากการติดตามสืบสวนสอบสวนค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและผู้สัมผัสร่วมบ้านของผู้ป่วยทั้ง 182 ราย ในเบื้องต้น มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จํานวน 215 ราย ได้ไปกักตัวที่บ้าน (HQ) พร้อมคําแนะนําให้ปฏิบัติตามมาตรการ มีสุขอนามัยที่ดี อยู่ในความดูแลเฝ้าสังเกตอาการโดยหมอครอบครัวนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล กล่าวอีกว่า วันนี้จังหวัดสตูลพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และมีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งมีการกักตัวตามมาตรการการควบคุมป้องกันโรคโดยคําแนะนําของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากพบผู้ติดเชื้อทีมงานสอบสวนโรคจะลงพื้นที่เพื่อสอบสวนโรคทันที และเมื่อพบผู้สัมผัสผู้ป่วยก็จะให้กักตัวทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พร้อมเน้นย้ําทีมหมอครอบครัวดูแลอย่างใกล้ชิด #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225132401166
607
อบจ.แพร่ ร่วมกับสภากาชาดไทย บริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา เข็ม 3
อบจ.แพร่ ร่วมกับสภากาชาดไทย บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โมเดอร์นา เข็ม 3 ให้กับกลุ่มเป้าหมายอําเภอเมือง จังหวัดแพร่ พร้อมให้กําลังใจบุคลากรทางการแพทย์ตามที่สภากาชาดไทยร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ จัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ มอบหมายให้ นายพิภพ ถานะวุฒิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนางสาวปาริชาติ หิรัญรัตน์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่, นางสิริดา นากิจ ผู้อํานวยการกองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ร่วมอํานวยความสะดวกให้บริการประชาชน และให้กําลังใจ ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยี่ห้อ โมเดอร์นา เข็ม 3 กลุ่มเป้าหมายอําเภอเมืองแพร่ จํานวน 690 คน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลาง วิทยาลัยเทคนิคแพร่ จังหวัดแพร่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225144420226
608
25 ก.พ.65 จ.ลำพูนพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จากผล RT-PCR 8 ราย ผลตรวจ ATK Positive 341 ราย
วันนี้ (25 ก.พ.65) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ประธานการแถลงสถานการณ์โควิด-19 ลําพูน พร้อมด้วยนายแพทย์สาริกข์ พรหมมารัตน์ นายแพทย์ชํานาญการพิเศษ โรงพยาบาลลําพูน ร่วมแถลงสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดลําพูน ประจําวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในจังหวัด 9 ราย ต่างจังหวัดอีก 0 ราย ATK Positive 341 ราย มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 12,439 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 52 ราย ผู้ป่วยยืนยันรักษาตัวทั้งหมด 129 ราย กําลังรักษา Pro.Case จํานวน 2,811 ราย แบ่งเป็น ใน รพ.รัฐ 115 ราย รพ.เอกชน 481 ราย CI 301 ราย HI 2,033 ราย รักษาหายแล้ว 5,512 ราย รักษาหาย Pro.Case จํานวน 4,110 รายในส่วนของสถิติการครองเตียงของโรงพยาบาลรัฐทุกแห่งในจังหวัดลําพูนมีทั้งหมด 188 เตียง ใช้ไป 115 เตียงหรือคิดเป็น 61.17% จึงทําให้มีเตียงเหลือรองรับผู้ป่วย 73 เตียง คิดเป็น 38.83% นอกจากนี้เตียงรองรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชนมีรองรับทั้งสิ้น 636 เตียง ใช้ไป 481 เตียง คิดเป็น 75.63% จึงทําให้มีเตียงเหลือรองรับผู้ป่วยอีก 155 เตียง คิดเป็น 24.37%สําหรับการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดลําพูน ข้อมูล ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 มียอดสะสมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว จํานวน 332,682 ราย คิดเป็น 81.76% ของผู้ประสงค์ฉีดทั้งหมด 126,648 คน จากประชากรทั้งหมด 401,408 คน คิดเป็น 82.88% ฉีดเข็มที่ 1 จํานวน 332,682 ราย เข็มที่ 2 จํานวน 316,940 ราย เข็มที่ 3 จํานวน 156,928 ราย และเข็มที่ 4 จํานวน 4,948 เข็ม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225151622241
609
จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรัง ครั้งที่ 6/2565 เพื่อติดตามสถานการณ์โรคและมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด - 19
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ร่วมเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรัง ครั้งที่ 6/2565 ณ ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ทั้งนี้ ฝ่ายปกครองได้รายงานสรุปผลบุคคลที่เข้ารับการกักกันในสถานที่กักกันของจังหวัด ผลการดําเนินงานของศูนย์รับแจ้งผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยโควิด - 19 และสถานการณ์เตียงผู้ป่วยโควิด-19 ณ โรงพยาบาลสนาม รวมถึงหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ ขณะที่ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ได้รายงานสถานการณ์โรคและมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 รวมถึงการบริหารจัดการวัคซีน โควิด 19 ของจังหวัดตรัง โดยในการประชุมมีเรื่องที่เสนอให้ที่ร่วมกันพิจารณาหลายประเด็น อาทิ การดําเนินการลดการแพร่ระบาดเพื่อป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากสถานการณ์โควิด-19/ การจัดตั้ง Community Isolation ระดับตําบล อําเภอหาดสําราญ/ แนวทางดูแลรักษาผู้ป่วย ATK ผลบวก เพื่อเข้ารับการรักษา HI และ CI/ การขอจัดซื้อชุดตรวจ ATK โดยใช้งบป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน/การหารือการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่จังหวัดตรัง/การผ่อนคลายมาตรการเปิดให้บริการร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต/ข้อมูลสถานศึกษาที่ได้อนุญาตให้เปิดเรียน On site นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรณีเปิดสถานประกอบกิจการสําหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมในจังหวัดตรัง/การขอจัดกิจกรรมแข่งขันบาสเกตบอล วันที่ 19-26 มีนาคม 2565 ณ สนามกีฬา โรงยิมพละ 2 /การขอจัดกิจกรรมจักรยานทางเรียบชิงแชมป์ภาคใต้ วันที่ 2-3 เมษายน 2565 ณ สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225154747269
610
เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับหน่วยงาน สถานประกอบการในพื้นที่เกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อประเมินรับรองตนเองตามมาตรการ COVID Free Setting
วันนี้ (25 ก.พ.65) เจ้าหน้าที่กลุ่มงานอนามัย สิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม ให้ความรู้กับหน่วยงานราชการและสถานประกอบการในพื้นที่เกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อประเมินรับรองตนเองตามมาตรการ COVID Free Setting ผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus เพื่อให้สถานประกอบการได้ดําเนินการประเมินตนเอง ตามประเภทของสถานประกอบกิจการ เมื่อสถานประกอบการผ่านการประเมินตามมาตรการฯ จะได้รับใบรับรองการประเมินรับรองตนเอง Thai Stop COVID Plus รวมทั้งสถานประกอบกิจการ ต้องทําการประเมินรับรองตนเองตามมาตรการปลอดภัยสําหรับองค์กร หรือ Thai Stop COVID 2Plus เพื่อยกระดับสถานประกอบกิจการ และเมื่อผ่านการประเมินรับรองตนเอง ผู้ประกอบการ สามารถดาวน์โหลดใบประกาศ รับรองตนเอง (Self-Certificate) “COVID-Free Setting หรือ Thai Stop COVID 2Plus” และลงนามรับรองในใบประกาศด้วยตนเอง เพื่อนําไปแสดงบริเวณ สถานประกอบการหรือบริเวณที่ผู้ใช้บริการสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ผู้ประกอบกิจการต้องทําการประเมินรับรองตนเองผ่านระบบ Thai Stop COVID Plus ทุก 14 วัน สําหรับการดําเนินการตามมาตรการ COVID -Free Setting เป็นการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อให้สถานประกอบการ ได้ประกอบกิจการ/กิจกรรมได้อย่างปลอดภัย และผู้ที่เข้ารับบริการมีความมั่นใจว่าจะปลอดภัยจากการเข้าใช้บริการ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225172039349
611
จ.ลำปางพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 627 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจําวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 09.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 627 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 613 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 14 ราย เป็นผู้ติดเชื้อยืนยันตรวจด้วยวิธี RT-PCR 80 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจด้วยวิธี ATK 547 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสม 7,312 ราย อยู่ระหว่างรักษา 3,186 ราย รักษาหายแล้วสะสม 4,118 ราย และเสียชีวิตสะสม 8 ราย ไม่นับรวมทันฑสถานบําบัดพิเศษลําปางสําหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ เวลา 09.00 น. ของวันเดียวกัน จังหวัดลําปางวัคซีนไปแล้ว 1,147,164 เข็ม จําแนกเป็นเข็มที่ 1 จํานวน 489,141 คน เข็มที่ 2 จํานวน 473,874 คน เข็มที่ 3 จํานวน 179,000 คน และเข็มที่ 4 จํานวน 5,149 คนจังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรค DMHTT ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิด-19 ลําปาง โทร. 093 140 8023 ในวันเวลาราชการ และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือสอบถามที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225160654299
612
คลัสเตอร์ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดลําปาง วันที่ 25กุมภาพันธ์ 2565 หลังพบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 คลัสเตอร์ทัณฑสถานบําบัดพิเศษลําปาง ตําบลปงยางคก อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง จํานวนผู้ป่วย 14 ราย กลุ่มเสี่ยงสูง 220 ราย เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ล่าสุดไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยสะสม 1,011 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 17 ราย รักษาหายแล้วสะสม 994 ราย ทั้งหมดดูแลตัวเองในทันฑสถานบําบัดพิเศษ ตามมาตรการ Bubble and Seal เป็นระยะเวลา 28 วัน แยกผู้ป่วยไปรักษา ณ เรือนจําโครงสร้างเบา ซึ่งเตรียมไว้เป็นโรงพยาบาลสนามให้การรักษาแบบ Home Isolation; HI ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่ป่วย แยกกักตามเรือนนอน และเฝ้าสังเกตอาการ และงดให้ญาติเยี่ยมมาก่อนแล้ว 1 เดือน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครบ 100 % และเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง เป็นระยะเวลา 10 วัน จังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชน ปรับตัวอยู่ร่วมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยวิถีชีวิตใหม่ (VUCA) คือ ฉีดวัคซีนให้ครบ (V) เพื่อลดอัตราการป่วยรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิต ป้องกันการติดเชื้อตามหลัก Universal Prevention (U) ออกจากบ้านเมื่อจําเป็น สวมแมส รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ทุกกองค์กร ทุกหน่วยงาน ดําเนินมาตรการ COVID FREE SETTING (C) การให้พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส การคัดกรองความเสี่ยงพนักงานด้วยชุดตรวจ ATK และการจัดสถานที่ทํางานให้สะอาด ปลอดภัยจากแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225161404308
613
สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 เริ่มฉีดวัคซีนให้นักเรียนในสังกัด อายุ 5-11 ปี ป้องกันโควิด-19 ในขณะที่หลายโรงเรียนงดเรียน On site ปรับตามสถานการณ์
วันนี้ (25 ก.พ.65) ที่ โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในพื้นที่อําเมืองอุตรดิตถ์ สังกัดสํางานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 (สพป.เขต1 อุตรดิตถ์) จํานวนกว่า 1,300 คน ทยอยมารับบริการการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ ไฟเซอร์ สําหรับเด็ก 5 - 11 ปี สร้างภูมิคุ้มกันให้นักเรียน ขณะที่ยอดเพิ่มติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนายมงคล รุณธาตุ ผอ.สพป.เขต 1 อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน ของโรงเรียนในสังกัด สพป. เขต 1 อุตรดิตถ์ ซึ่งดูแลโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษา 5 อําเภอของจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีนักเรียนลงทะเบียนฉีดวัคซีน 9,557 คน สําหรับการฉีดวัคซีนจะเริ่มจากระดับชั้น ป.6 ไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงระดับชั้นอนุบาล 2 หรือนักเรียนที่มีอายุครบ 5 ขวบ เร่งการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับนักเรียนอายุ 5 -11 ปี ผอ.สพป.เขต1 อุตรดิตถ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ขณะนี้มีโรงเรียนในสังกัด สพป.เขต 1 อุตรดิตถ์ หลายแห่งได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ (Online) เนื่องจากมีการระบาดในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนบางแห่งได้ปรับเป็นที่กักตัวสําหรับนักเรียนและครู เพื่อสะดวกต่อการดูแลของผู้ปกครอง ทั้งนี้ได้ย้ําให้ทุกโรงเรียนในสังกัด สพป.เขต 1 อุตรดิตถ์ เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนให้ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
อุตรดิตถ์
สวท.อุตรดิตถ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225163312323
614
สสจ.พิจิตร ตรวจ ATK เชิงรุก พระภิกษุสามเณรวัดท่าหลวง พระอารามหลวง และเจ้าหน้าที่ผู้ประกอบศาสนพิธี เตรียมพร้อมจัดสอบบาลีสนามหลวง ระหว่างวันที่ 26-28 ก.พ.นี้
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บริเวณหน้าโรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา จังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร และสํานักงานสาธารณสุขอําเภอเมืองพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ด้วย ATK พระภิกษุ สามเณร วัดท่าหลวง พระอารามหลวง และเจ้าหน้าที่ผู้ประกอบศาสนพิธี สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร และสํานักงานจังหวัดพิจิตร เพื่อเตรียมพร้อมการสอบบาลีสนามหลวง ครั้งที่ 1 ครั้งหลัง ระหว่างวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2565 ณ วัดท่าหลวง พระอารามหลวงการตรวจวันนี้มีพระภิกษุสามเณรทั้งในพื้นที่อําเภอเมือง เข้ารับการตรวจ 63 รูป เจ้าหน้าที่ศาสนพิธี 30 คน รวมจํานวน 93 คน พบพระภิกษุสามเณร ผลเป็นบวก 17 รูป ซึ่งจะเข้าระบบการรักษาและจัดสอบแยกเฉพาะกลุ่ม ส่วนพระภิกษุและสามเณรที่อยู่ต่างอําเภอเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
พิจิตร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225163518325
615
ผู้ติดเชื้อ จ.ลำปางยอดเพิ่ม สาธารณสุขเร่งตรวจเชิงรุกขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ
จังหวัดลําปาง New High! ยอดติดเชื้อใหม่พุ่งสูง แค่เพียงวันเดียวบวกเพิ่ม 627 ราย สาธารณสุขจังหวัดประเมินแนวโน้ม ยังจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอีก ขอความร่วมมือประชาชนการ์ดอย่าตก เน้นย้ําปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน วันนี้ (25 ก.พ. 65) สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง ได้สรุปสถานการณ์รายวัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดลําปางทั้ง 13 อําเภอ โดยวันนี้จังหวัดลําปางพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จํานวนมากถึง 627 ราย ซึ่งสถานการณ์การแพรระบาดของโรค มีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดลําปาง เมื่อช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดลําปางพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 300-400 รายต่อวัน แต่ยอดล่าสุดวันนี้ได้พุ่งสูงขึ้นไปจากค่าเฉลี่ยมากกว่า 200 ราย ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่พบรวม 627 รายในวันนี้ ถือเป็นยอดตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงที่สุด เป็นค่า New High นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ทางพื้นที่ได้มีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค ขณะที่ภาพรวมทั้งจังหวัดมีสถิติข้อมูลนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เป็นต้นมา ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2565 จังหวัดลําปางพบผู้ป่วยติดเชื้อรวมแล้วมีจํานวนมากถึง 7,312 ราย โดยพบผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในเขตท้องที่อําเภอเมืองลําปางมากที่สุด รวมจํานวน 4,748 ราย รองลงมาคือ อําเภอห้างฉัตร เกาะคา และอําเภอแม่ทะ ตามลําดับ นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า จากแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วงระยะนี้ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากขึ้น แน่นอนว่าน่าจะมาจากการระบาดของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ omicron เพราะมีการติดเชื้อที่รวดเร็วและไม่แสดงอาการ โดยจากสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทําให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดลําปาง ทั้ง 13 อําเภอ ได้เร่งดําเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุก รวมถึงติดตามเส้นทางการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่มีลักษณะเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งมีกรณีเกิดขึ้นอยู่ในหลายๆ พื้นที่ ขณะเดียวกันตามโรงพยาบาลหลักและหน่วยงานด้านสาธารณสุข ในท้องที่อําเภอต่างๆ ได้มีการเปิดจุดคัดกรอง ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้เข้าทําการตรวจหาเชื้อ ทั้งแบบ RT–PCR และแบบ ATK จึงเป็นเหตุผลที่ทําให้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่มากขึ้น และคาดว่าจะยังมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มต่อเนื่องต่อไปอีกในช่วงระยะนี้ โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําปาง ได้กล่าวขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนชาวลําปาง ให้เข้มงวดในการป้องกัน การ์ดอย่าตก เน้นปฏิบัติตามมาตรการ V-U-C-A ได้แก่ V = Vaccine รับการฉีดวัคซีน, U = Universal Prevention ป้องกันตัวเองสูงสุดตลอดเวลา, C = COVID Safe Living ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยง และสุดท้าย A = ATK พร้อมตรวจเสมอเมื่อสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ หรือ หากพบมีอาการผิดปกติกับระบบทางเดินหายใจ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225163903329
616
จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคพร้อมจัดตั้ง ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน 7 แห่ง เพื่อช่วยเหลือประชาชน
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอนครั้งที่ 2/2565ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการติดตามผลการดําเนินงานการกําหนดสถานที่และขับเคลื่อนการดําเนินงาน covid free setting และ covid free event ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน แผนการเฝ้าระวังเชิงรุกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน นอกจากนั้นยังไม่มีติดตามสถานการณ์และผลการดําเนินงานป้องกันควบคุมโรค covid จังหวัดแม่ฮ่องสอน แนวทางการให้บริการวัคซีน covid-19 ไฟเซอร์ ฝาสีส้ม สูตรสําหรับเด็กในอายุ 5 - 11 ปีนอกจากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้มีการพิจารณาการขอปิดสถานที่กักกันโรคท้องที่ local quarantine ทั้ง 7 อําเภอ โดยให้ความเห็นชอบการจัดตั้งศูนย์แยกกักโรคชุมชน 7 แห่งหลัง ประกอบด้วย ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน หอประชุมที่ว่าการอําเภอปางมะผ้า ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน โรงเรียนบ้านเวียงเหนือ ตําบลเวียงเหนือ อําเภอปาย ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน โรงเรียนบ้านแกงหอมม้ง ตําบลเมืองแปง อําเภอปาย ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน โรงเรียนบ้านแม่ของ ตําบลแม่นาเติง อําเภอปาย ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน เรือนจําอําเภอแม่สะเรียง ตําบลแม่สะเรียง อําเภอแม่สะเรียง ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ อําเภอเมือง ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน วัดนาจลอง ตําบลแม่นาเติง อําเภอปาย รวมทั้งเห็นชอบให้ดําเนินมาตรการองค์กรปลอดภัยจากโรคโควิด-19 หรือ COVID FREE SETTING ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบปรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่มีการเตรียมความพร้อมปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขแล้ว เป็นร้านจําหน่ายอาหารเครื่องดื่ม โดย มีสถานบันเทิงและที่เข้าข่าย แจ้งความประสงค์ จํานวน 44 แห่ง อําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 17 แห่ง และอําเภอปาย 27 แห่งขณะเดียวกันเห็นชอบใช้งบประมาณงบป้องกันยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อจัดหาชุดตรวจ ATK จํานวน 10,000 ชุด สําหรับกิจกรรมเฝ้าระวังเชิงรุก และเตรียมปิดโรงพยาบาลแห่งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225164657334
617
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เน้นย้ำทุกภาคส่วนต้องร่วมกันบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นของสายพันธุ์โอมิครอน
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรมการจังหวัดได้สั่งการเน้นย้ําให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ร่วมกันบําบัดทุกข์ บํารุงสุข ให้แก่ประชาชน เน้นการลงพื้นที่ให้การดูแลประชาชนตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นของสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียวกว่าร้อยละ 90 และรักษาตัวที่บ้านตามอาการ ทั้งนี้ จังหวัดบริหารจัดการแนวทางการรักษาและการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ได้ที่ รพ.สต. ทุกแห่ง เพื่อลดปัญหาการแออัดของโรงพยาบาลหลัก ซึ่งประชาชนที่กักตัวหรือรักษาตัวที่บ้าน อาจมีปัญหาในเรื่องของอาหารการกิน ดังนั้น ผู้นําท้องถิ่น ผู้นําชุมชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องให้การช่วยเหลือประชาชนในทุกด้านนอกจากนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานขอยาฟ้าทะลายโจร เพื่อมาแจกจ่ายให้กับประชาชน และหากประชาชนมีปัญหา สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน 1300 หรือคลินิกอุ่นใจ โทร 076-254200 หรือสายด่วนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โทร 084-1914151 อย่างไรก็ตาม ขอให้ยึดหลักบําบัดทุกข์ บํารุงสุข ให้แก่ประชาชนเป็นสิ่งสําคัญ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225174542358
618
แถลงข่าวประเด็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ
แถลงข่าวประเด็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมคณาพันธ์ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดอํานาจเจริญ นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า พ่อ แม่ พี่น้อง ชาวอํานาจเจริญ จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID -19 ระดับโลกระดับประเทศ และจังหวัดอํานาจเจริญ มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยจังหวัดอํานาจเจริญ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนถึงปัจจุบันพบผู้ป่วย จํานวน 1,556 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งอัตราการเสียชีวิตต่ํามากเพียงร้อยละ 0.06 ต่ํากว่าระดับประเทศมาก ที่อัตราตาย ร้อยละ 0.19 ผู้ที่เสียชีวิตพบว่าไม่ใด้รับวัคซีนและ เป็นผู้สูงอายุซึ่งสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตอนนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ 95% ไม่แสดงอาการหรือไม่มีอาการรุนแรง ทางจังหวัดอํานาจเจริญ จึงมีนโยบายให้ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการให้แยกผู้ป่วยรักษาที่ บ้าน(HI) และศูนย์แยกรักษาในชุมชน(C) ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการหรือผู้ป่วยที่สูงอายมากกว่า 60 ปี หรือมีโรคร่วม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องดูแลพิเศษจะรับการรักษาที่โรงพยาบาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอํานาจเจริญคงจะให้รายละเอียดต่อไป จากจํานวนผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่ไม่มีอาการ เรามั่นใจว่าเราสามารถที่จะดํารงชีวิตภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ประชาชนจะต้องร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตัว ดังนี1. ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดที่ต้องพักค้างคืน ให้รายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม.ในพื้นที่ และมีผลตรวจ ATK ภายใน 24 ชั่วโมงมายืนยัน หากได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วให้กักตัวเอง 10 วัน2. งดการสังสรรค์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์3. สถานประกอบการ ร้านค้ ร้านอาหาร หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ให้ดําเนินการ COVID Free Setting ประชาชนเลือกใช้บริการสถานที่มีป้ายแสดง COVID Free Seting4. ประชาชนออกบ้านให้ป้องกันตัวเองครอบจักรวาล โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ ลดการสัมผัสใกล้ชิด งดไปสถานที่ที่คนแออัด สถานที่เสี่ยง งดการสังสรรค์ การดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากจําเป็นต้องไปต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการอย่างเข้มข้น5. งานบุญประเพณี งานศพ งานบวช ให้ขออนุญาตนายอําเภอในพื้นที่ การจัดงานให้แยกการกิน อาหารเป็นแบบกล่อง ผู้เข้าร่วมงานต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม6. เมื่อมีความเสี่ยง โดยสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยหรือมีอาการทางเดินหายใจ ท่านสามารถตรวจ ATK ด้วยตนเองได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเราจะอยู่รอด ปลอดภัย และหากพบการระบาดเราสามารถรองรับผู้ป่วยได้ นายปฐมพงศ์ ปรุโปร่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโรค COVID -19 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยจํานวน 1,556 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.06 ต่ํากว่าระดับประเทศมาก ที่อัตราตายร้อยละ 0.19 จากการตรวจสอบสายพันธุ์ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์โอมิครอน 95% ซึ่งมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่แสดงอาการ จะแสดงอาการเพียง 5% สาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการนําเชื้อจากภายนอกพื้นที่มาติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญเริ่มพบผู้ป่วยจํานวนมากขึ้นตั้งแต่ 5 มกราคม 2565 เป็นต้นมา เฉลี่ยวันละมากกว่า 40 รายสําหรับกลุ่มวัยที่พบมากที่สุด คือวัยทํางาน ร้อยละ 50 รองลงมาคือ นักศึกษา ร้อยละ 14 วัยนักเรียนระดับประถมศึกษา ร้อยละ 10.7 วัยผู้สูงอายุ ร้อยละ 10 วัยนักเรียนมัธยมศึกษา ร้อยละ 9 และวัยเด็ก ร้อยละ 5 การรักษาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ 95% ไม่มีอาการหรือผู้ป่วยที่ ATK+ กระทรวงสาธารณสุข ได้มีแนวทางการดูแลรักษาโดยให้แยกผู้ป่วยรักษาที่บ้าน (HI) และศูนย์แยกรักษาในชุมชน(CI) ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการหรือผู้ป่วยที่สูงอายุมากกว่า 60 ปี หรือมีโรคร่วม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องดูแลพิเศษจะรับการรักษาที่โรงพยาบาล ขณะนี้มีจํานวนเตียงที่รับกรรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาล จํานวน 248 เตียง ใช้แล้ว 89 เตียง คงเหลือเตียงว่าง 159 เตียง ด้วยสถานการณ์กรระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่รุนแรงประชาชนจะต้องปรับตัวให้อยู่กับสถานการณ์ให้ได้ ทางรัฐบาลและนโยบายจังหวัดอํานาจเจริญ จึงไม่มีการปิดสถานที่หากไม่จําเป็น โดยให้ประชาชนตระหนักโดยใช้หลัก VUCA ดังนี้1.V = Vaccine การรับวัคซีนเพื่อเพื่อช่วยให้มีภูมิคุ้มกันลดอาการป่วยหนัก ลดการเสียชีวิต ประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว สามารถมารับการกระตุ้นเข็ม 3 ได้ที่หน่วยบริการสาธารณสุขทุกแห่ง2. U = Universal Prevention การป้องกันตัวเองครอบจักรวาล โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ ลดการสัมผัสใกล้ชิด งดไปสถานที่ที่คนแออัด สถานที่เสี่ยง งดการสังสรรค์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากจําเป็นต้องไปต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการอย่างเข้มข้น3. C = Covid Free Setting สถานประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่ติดต่อราชการ ต้องมีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม สะอาด ปลอดภัย ลดความแออัด พนักงานบริการและผู้รับบริการได้รับวัคซีนครบอย่างน้อย 2 เข็ม สวมใส่หน้ากากอนามัย มีการสุ่มตรวจ ATK พนักงานให้บริการทุกเดือน4. A = ATK ถ้าหากท่านมีความเสี่ยงโดยสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยหรือมีอาการทางเดินหายใจ ท่านสามารถตรวจ ATK ด้วยตนเองได้นายฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์ ปลัดจังหวัดอํานาจเจริญ กล่าวว่า เน้นย้ําให้ทุกพื้นที่ดําเนินการตามประกาศจังหวัดฉบับที่ 20 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดอํานาจเจริญหรือประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น มีความมั่นใจ และปลอดภัย เวลาที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ ไม่เป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ดังนี้1.ด้านมาตรการสถานประกอบการร้านอาหาร หากไม่ดําเนินการโดย การทําความสะอาด โต๊ะที่นั่ง การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลมีการระบายอากาศและหมุนเวียนที่เหมาะสมต่อจํานวนคนและการลักลอบดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านมีโอกาสที่จะทําให้มีการระบาดของโควิด -19 ได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้เน้นย้ําให้ผู้ประกอบการร้านอาหารดําเนินการอย่างเคร่งครัด หากไม่ดําเนินการจะมีหน่วยปกครองแต่ละอําเภอออกติดตามและดําเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ในอําเภอ ทีม ศปก.ได้ตรวจทุกวัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ได้แจ้งความดําเนินคดีกรณีฝ้าฝืนประกาศจังหวัดอํานาจเจริญ สถานประกอบการร้านอาหาร จําหน่ายและให้ดื่มเครื่องแอลกอฮอลล์2.ด้านมาตรการสําหรับผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ ในกรณีที่ไม่มีอาการ/มีอาการเล็กน้อยที่ไม่สามารถแยกกักกันที่บ้านตัวเองได้(HI) จังหวัดได้จัดเตรียมความพร้อมสถานที่ ดําเนินการจัดตั้งศูนย์แยกกัก ดูแลผู้ป่วยในชุมชน (CI) ระดับตําบล และระดับอําเภอ ทุกอําเภอ อย่างน้อยอําเภอละ 1 แห่ง ไม่น้อยกว่า 40 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยดังกล่าว โดยขณะนี้ที่อําภอเมือง บริเวณสนามกีฬา กกท. มีผู้ป่วยไม่มีอาการรักษา 50 รายดังนั้น จึงขอให้ทุกคนที่เป็นชาวจังหวัดอํานาจเจริญและประชาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ มีความมั่นใจ ในมาตรการ ของจังหวัดอํานาจเจริญ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225190942394
619
จ.นครพนม คุมเข้มโควิดต่อเนื่อง ปรับรวมกลุ่มไม่เกิน 200 คน งดดื่มในร้านถึง 15 มีนาคมนี้.
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม จังหวัดนครพนมจัดประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ครั้งที่ 10/2565 โดยนายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมฯ มีนายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พร้อมคณะฯ ร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันนี้ มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยัน จํานวน 172 ราย เป็นการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดนครพนม 158 รวมจํานวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสม จํานวน 2,843 ราย หายป่วยสะสม 1,739 ราย หายป่วยกลับบ้านวันนี้ 81 ราย กําลังรักษาอยู่ 1,167 ราย เสียชีวิตสะสม 4 รายส่วนของภาพรวมจํานวนเตียงสําหรับรองรับการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เตียงศูนย์ดูแลโควิด-19 ชุมชน (Community Isolate : CI) รวม 1,815 เตียง ใช้ไป 638 เตียง คงเหลือ 1,177 เตียง แยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation 114 เตียง จํานวนเตียงของ รพ.ทั่วไป/ รพ.ชุมชน ทั้ง 12 อําเภอ ทั้งหมด 682 เตียง ใช้รองรับผู้ป่วย 415 เตียง คงเหลือ 3267 เตียง รวมจํานวนทั้งหมด 2,497 เตียง ใช้ไป 1,053 เตียง คงเหลือ 1,444 เตียง ด้านการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีน (เข็มหนึ่ง) แล้ว 423,542 คน คิดเป็น 68.06% เทียบกับประชากรตามสิทธิ์การรักษาพยาบาล ฉีดเข็มสองแล้ว 388,037 โด้ส คิดเป็น 62.36% ฉีดเข็มสามแล้ว 83,200 โด้ส คิดเป็น 13.37% ฉีดเข็มสี่ จํานวน 5,113 โด้ส คิดเป็น 0.82% คงเหลือ (เป้าหมาย 70%) จํานวน 11,056 คนทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ครั้งที่ 10/2565 มีมติเห็นชอบ กรณีการจัดกิจกรรมหรือรวมกลุ่มของบุคคล ไม่เกิน 200 คน ให้แจ้งนายอําเภอทราบ กรณีเกิน 200 คน ให้นายอําเภอเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม เพื่อพิจารณาจัดกิจกรรม โดยกําหนดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องมีหลักฐานการสได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือผลตรวจ ATK ไม่เกิน 48 ชั่วโมง พร้อมให้งดจําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และให้งดการแสดงคอนเสิร์ต การแสดงดนตรี หมอลํา รถแห่ รําวง ขยายเวลาบังคับใช้ 1-15 มีนาคม 2565 ส่วนมาตรการเปิดเรียน On-Site ให้ยกเลิกการสุ่มตรวจ ATK ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ร้อยละ 10/เดือน โดยให้ตรวจ ATK กรณีเมื่อเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หรือมีความเสี่ยง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225191553402
620
รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.อำนาจเจริญ
รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.อํานาจเจริญ ประจําวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากขณะนี้การติดเชื้อโควิด-19 วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 50 ราย รวมยอดจํานวนที่พบเชื้อสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน 1,556 ราย และรักษาหายแล้ว 972 ราย คงเหลือกําลังรักษาอีก 583 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้ติดเชื้อ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนโควิด อํานาจเจริญ โทร 0933234686, 0866515424, 0902410098 และ 0951924903 ส่วนใหญ่เป็นชนิดโอมิครอน ซึ่งมีความรุนแรงต่ํา แต่แพร่กระจายเชื้อได้เร็วทุกพื้นที่ ทุกคนที่อยู่รอบตัวเราถือว่ามีความเสี่ยง ถ้าทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ VUCA ดังนี้ จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์1.V Vaccine รับการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยให้มีภูมิคุ้มกัน ลดอาการหนัก ลดการเสียชีวิต2.U Universal Prevention ป้องกันตัวเองครอบจักรวาล โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ ลดการสัมผัสใกล้ชิด3.C COVID-Free Setting สถานที่บริการปลอดภัย สะอาด ลดความแออัด ผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้รับวัคซีนครบ4.A ATK (Antigen test kit) ตรวจเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อ หรือมีอาการทางเดินหายใจ เพื่อวินิจฉัย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225193211411
621
ประกาศจังหวัดฉบับที่ 20 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนจังหวัดอำนาจเจริญหรือประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น
นายฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์ ปลัดจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า เน้นย้ําให้ทุกพื้นที่ดําเนินการตามประกาศจังหวัดฉบับที่ 20 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ประชาชนจังหวัดอํานาจเจริญหรือประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นมีความมั่นใจ และปลอดภัย เวลาที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ ไม่เป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้1.ด้านมาตรการสถานประกอบการร้านอาหาร หากไม่ดําเนินการโดย การทําความสะอาด โต๊ะที่นั่ง การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลมีการระบายอากาศและหมุนเวียนที่เหมาะสมต่อจํานวนคนและการลักลอบดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านมีโอกาสที่จะทําให้มีการระบาดของโควิด-19 ได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้เน้นย้ําให้ผู้ประกอบการร้านอาหารดําเนินการอย่างเคร่งครัด หากไม่ดําเนินการจะมีหน่วยปกครองแต่ละอําเภอออกติดตามและดําเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ในอําเภอ ทีม ศปก.ได้ตรวจทุกวัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ได้แจ้งความดําเนินคดีกรณีฝ้าฝืนประกาศจังหวัดอํานาจเจริญ สถานประกอบการร้านอาหาร จําหน่ายและให้ดื่มเครื่องแอลกอฮอลล์2.ด้านมาตรการสําหรับผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ ในกรณีที่ไม่มีอาการ/มีอาการเล็กน้อยที่ไม่สามารถแยกกักกันที่บ้านตัวเองได้(HI) จังหวัดได้จัดเตรียมความพร้อมสถานที่ ดําเนินการจัดตั้งศูนย์แยกกัก ดูแลผู้ป่วยในชุมชน (CI) ระดับตําบล และระดับอําเภอ ทุกอําเภอ อย่างน้อยอําเภอละ 1 แห่ง ไม่น้อยกว่า 40 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยดังกล่าว โดยขณะนี้ที่อําภอเมือง บริเวณสนามกีฬา กกท. มีผู้ป่วยไม่มีอาการรักษา 50 รายดังนั้น จึงขอให้ทุกคนที่เป็นชาวจังหวัดอํานาจเจริญและประชาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ มีความมั่นใจ ในมาตรการ ของจังหวัดอํานาจเจริญ
25/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220225194455415
622
จ.ยะลา วางมาตรการ ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 กิจกรรมดะวะห์ระดับโลก พร้อมอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย
นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายก้องสกุล จันทราช ปลัดจังหวัดยะลา นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ สสจ.ยะลา พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา นายอําเภอเมืองยะลา และเจ้าหน้าที่ ได้ เข้าเยี่ยมคาราวะ หารือร่วมกับนายอาดัม ดาเระมูซอ ประธานมูลนิธิอัรนูร มัรกัสยะลา นายอุดร น้อยทับทิม ผู้ร่วมดําเนินการจัดงานกิจกรรมดะวะห์ระดับโลก ณ มัรกัสฮิดายะห์ตุ้ลนูร ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา จ.ยะลาสําหรับกิจกรรมดังกล่าวได้มีการวางมาตรการต่างๆ มีการจัดเตรียมพื้นที่ กําหนดขอบเขตเนื้อที่ แบ่งหน้าที่ของคณะทํางานเป็นฝ่าย จัดเตรียมที่พักกับการบริการเป็นโซนแบบ จังหวัด ภาค และประเทศ จัดพื้นที่ละหมาด กิจกรรมศาสนาปราศจากความหนาแน่น รวมถึงมีการจัดการจราจรให้มีผลกระทบน้อยที่สุดทั้งนี้ นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ขอความร่วมมือจากผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมดังกล่าวให้มีการตรวจ ATK ก่อนการเข้างาน และปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัดทางด้านนายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ สสจ.ยะลา ได้เน้นย้ําผู้ที่จะเข้าร่วมงานดังกล่าวในระยะเวลา 4-5 วัน ให้มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งจะได้จัดทีม เข้ามาให้ความรู้ถึงมาตรการการป้องกันโควิด-19 อีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226045546465
623
สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดลพบุรีระลอกใหม่ 2565 มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 188 ราย มีผู้รักษาหายวันนี้ 120 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 78.63%
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดลพบุรี ระลอกใหม่ 2565 พบผู้ป่วยเพิ่ม 188 ราย (รายที่ 6,063-6,214) เป็นเพศหญิง 112 รายเพศชาย 76 ราย แยกเป็น อําเภอเมืองลพบุรี 55 ราย อําเภอบ้านหมี่ 45 ราย อําเภอหนองม่วง 17 ราย อําเภอชัยบาดาล 14 ราย อําเภอโคกสําโรง 13 ราย อําเภอท่าวุ้ง 13 ราย อําเภอท่าหลวง 10 ราย อําเภอสระโบสถ์ 9 ราย อําเภอหนองม่วง 3 ราย อําเภอลําสนธิ 6 ราย อําเภอพัฒนานิคม 3 ราย และอําเภอโคกเจริญ 3 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยยืนยัน/ผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงสูง 65 ราย (ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยในจังหวัด 23 ราย ผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด 9 ราย ผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงในจังหวัด 18 ราย และผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด 15 ราย) สะสม 3 ,133 ราย ผู้ป่วยจากสถานที่กักตัว (HQ/LQ/OQ 123 ราย สะสม 3,081ราย ในระลอกการระบาดใหม่ 2565 จํานวนผู้ป่วยโควิด-19 สูงสุดของจังหวัดลพบุรี คือ อําเภอเมืองลพบุรี 2,769 ราย รองลงมาคือ อําเภอบ้านหมี่ 665 ราย และอําเภอชัยบาดาล 596 ราย จังหวัดลพบุรีมีการตรวจหาเชื้อสะสม 25,316 ราย ไม่พบเชื้อ 18,603 ราย พบเชื้อ 6,214 ราย รอผลตรวจ 499 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหาย 120 ราย รักษาหายสะสม 3,550 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,649 ราย วันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15 รายจังหวัดลพบุรีมีผู้ได้รับวัคซีนจากการฉีดวัคซีนในจังหวัด 429,449 ราย (56.47%) และผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนจากนอกจังหวัด 168,493 ราย (22.16%) รวมมีผู้ได้รับวัคซีน 597,942 ราย คิดเป็น 78.63%#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226053832478
624
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลพบุรี เห็นชอบมาตรการเฝ้าระวัง COVID-19 เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดลพบุรี
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมทานตะวัน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลพบุรี โดยมีการสรุปสถานการณ์โรคในสัปดาห์ที่ 7 ของปี 2565 พบผู้ป่วยเพิ่ม 885 คน กระจายอยู่ทุกอําเภอของจังหวัดลพบุรี โดยอําเภอที่มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น คือ อําเภอเมืองลพบุรี อําเภอหนองม่วง อําเภอลําสนธิ อําเภอสระโบสถ์ และอําเภอท่าหลวง โดยสถานการณ์มีแนวโน้มสูงขึ้น ลักษณะการระบาดเป็นแบบกระจาย มีการติดเชื้อภายในครอบครัวและเครือญาติเป็นส่วนมาก กลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน/นักศึกษา พนักงานบริษัท/โรงงาน ลักษณะพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ/แพร่เชื้อ คือ รับประทานอาหารร่วมกัน พูดคุยกันโดยไม่ใส่แมส กลุ่มที่ยังต้องเฝ้าระวัง คือ บริษัท/โรงงาน สถานศึกษา ตลาด ชุมชน สถานที่เสี่ยงอื่นๆ ที่มีการรวมกลุ่มกันจํานวนมาก เช่น งานบวช งานแต่งงาน การแข่งขันกีฬา ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการเฝ้าระวัง COVID-19 ของจังหวัดลพบุรีใน 8 ระดับ คือ ระดับบุคคล เน้นมาตรการ Universal Prevention ระดับครอบครัว ขอให้งดการสังสรรค์ที่มีคนจํานวนมาก รักษาระยะห่าง 1.5-2 เมตร เฝ้าระวังและดูแลสมาชิกที่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก หรือคนที่มีโรคประจําตัวเป็นพิเศษ และกระตุ้นให้สมาชิกในครอบครัวให้ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ สําหรับสถานที่ทํางาน ให้เฝ้าระวังติดตาม กํากับ บุคลากรในหน่วยงานให้ปฎิบัติตามมาตรการ VUCA อย่างเคร่งครัด ส่วนในระดับชุมชน ให้ผู้นําชุมชนสื่อสาร สร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในชุมชน เพื่อให้ปฎิบัติตนให้ถูกต้อง ให้ความร่วมมือในการค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน จัดการแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนโดยเร็ว เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา จัดระบบการดูแลอย่างเหมาะสม ทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัส ผู้ป่วยที่กลับจากโรงพยาบาลและประชาชนทั่วไป สําหรับสถานศึกษา เน้นย้ําเรื่องมาตรการปลอดภัย 6-6-7 เพื่อลดความเสี่ยงโควิด โรงงานสถานประกอบการ ดําเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) เพื่อการป้องกันและควบคุมโรค ส่วนพื้นที่ตลาดนัด/ตลาดสด ขอให้ยกระดับมาตรการป้องกัน 3 ด้าน คือ การป้องกันตนเอง การป้องกันสถานที่ และการจัดระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคของผู้ค้า และรถโดยสารสาธารณะ ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กําหนดไว้อย่างเข้มงวดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้ขอให้ฝ่ายกฎหมายของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ดําเนินการตามกฎหมายทันที ในกรณีผู้ปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนให้แก่ประชาชน และย้ําว่า ศบค. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงระดับพื้นที่ (ระดับสี) แต่อย่างใด ส่วนมาตรการควบคุมทั้ง 8 ระดับ เป็นการเน้นย้ํากําหนดมาตรให้เข้มข้นขึ้น แต่ไม่มีการออกคําสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม หรือสถานที่อื่นใดนอกเหนือจากที่บังคับใช้อยู่เดิม ตามข้อกําหนดฉบับที่ 42 ออกตามความในมาตรการ 9 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่บังคับใช้สําหรับพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 44 จังหวัด ซึ่งรวมถึงจังหวัดลพบุรีด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226054424479
625
ลำปาง พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 439 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจําวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 09.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่ 439 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 429 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 10 ราย เป็นผู้ติดเชื้อยืนยันตรวจด้วยวิธี RT-PCR 52 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจด้วยวิธี ATK 387 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสม 7,723 ราย อยู่ระหว่างรักษา 3,256 ราย รักษาหายแล้วสะสม 4,459 ราย และเสียชีวิตสะสม 8 ราย ไม่นับรวมทันฑสถานบําบัดพิเศษลําปาง สําหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ เวลา 09.00 น. ของวันเดียวกัน จังหวัดลําปางวัคซีนไปแล้ว 1,150,794 เข็ม จําแนกเป็นเข็มที่ 1 จํานวน 490,914 คน เข็มที่ 2 จํานวน 474,247 คน เข็มที่ 3 จํานวน 180,359 คน และเข็มที่ 4 จํานวน 5,274 คน จังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรค D-M-H-T-T ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิด-19 ลําปาง โทร.09-3140-8023 ในวันเวลาราชการ และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือสอบถามที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน และขอเชิญชวนชาวลําปางซึ่งมีอายุ 5 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และฉีดกระตุ้นในเข็มที่ 3 ให้เร็วที่สุด
26/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226121609542
626
คลัสเตอร์ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง หายป่วยเพิ่มวันนี้ 8 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดลําปาง วันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2565 หลังพบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 คลัสเตอร์ทัณฑสถานบําบัดพิเศษลําปาง ตําบลปงยางคก อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง จํานวนผู้ป่วย 14 ราย กลุ่มเสี่ยงสูง 220 ราย เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ล่าสุด ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยสะสม 1,011 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 9 ราย รักษาหายแล้วสะสม 1,002 ราย ทั้งหมดดูแลตัวเองในทันฑสถานบําบัดพิเศษ ตามมาตรการ Bubble and Seal เป็นระยะเวลา 28 วัน แยกผู้ป่วยไปรักษา ณ เรือนจําโครงสร้างเบา ซึ่งเตรียมไว้เป็นโรงพยาบาลสนามให้การรักษาแบบ Home Isolation , HI ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่ป่วย แยกกักตามเรือนนอน และเฝ้าสังเกตอาการ และงดให้ญาติเยี่ยมมาก่อนแล้ว 1 เดือน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครบ 100% และเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง เป็นระยะเวลา 10 วัน จังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชน ปรับตัวอยู่ร่วมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยวิถีชีวิตใหม่ (VUCA) คือ ฉีดวัคซีนให้ครบ (V) เพื่อลดอัตราการป่วยรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิต ป้องกันการติดเชื้อตามหลัก Universal Prevention (U) ออกจากบ้านเมื่อจําเป็น สวมแมสก์ รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ทุกกองค์กร ทุกหน่วยงาน ดําเนินมาตรการ COVID FREE SETTING (C) การให้พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส การคัดกรองความเสี่ยงพนักงานด้วยชุดตรวจ ATK และการจัดสถานที่ทํางานให้สะอาด ปลอดภัยจากแพร่กระจายเชื้อโควิด-19
26/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226120215536
627
ยะลา พบ 211 รายใหม่ ทุกอำเภอติดโควิดเพิ่ม สะสมแล้วกว่าสองพันราย
สําหรับสถานการณ์โควิด -19 ที่ จังหวัดยะลา วันนี้(26 ก.พ 65) พบจํานวนผู้ป่วย ลดลง 7 ราย รายใหม่อยู่ที่ 211 ราย จากเมื่อวาน (25 ก.พ 65) ที่มียอดผู้ติดเชื้อ 218 ราย ป่วยสะสม 2,008 ราย กําลังรักษา 4,269 ราย รักษาหายแล้ว 1,545 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ สะสมรวม 13 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจ ATK พบผลบวกเพิ่ม 854 ราย สะสม 3,708 ราย โดย 211 รายใหม่ พบในอําเภอเมือง 59 ราย อ.บันนังสตา 62 ราย อ.ยะหา 37 ราย อ.รามัน 15 ราย อ.เบตง 17 ราย อ.กาบัง 13 ราย อ.กรงปินัง 5 ราย และ อ.ธารโต 3 ราย โดยทั้ง 8 อําเภอของ จ.ยะลา วันนี้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ ผลการตรวจคัดกรองตามมาตรการด้านสาธารณสุข รวมสะสม 18,464 ราย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
26/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226135024597
628
อุบลฯ ยังหนัก พบผู้ติดเชื้อโควิด กว่า 700 ราย วอนให้ป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล
ศูนย์ EOC COVID-19 จังหวัดอุบลราชธานี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 26 ก.พ.2565 พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มจํานวนมากถึง 739 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยัน PCR 308 ราย ผู้ป่วย ATK 431 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 687 ราย มาจากต่างจังหวัด 52 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 490 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทําให้ขณะนี้ จ.อุบลฯ มียอดผู้ติดเชื้อสะสม จํานวนกว่า 1 หมื่น 8 พันราย เสียชีวิตสะสม 37 ราย รักษาหายสะสม 1 หมื่น 2 พันรายเศษ กําลังรักษากว่า 5 หมื่นราย ศูนย์ EOC COVID-19 จังหวัดอุบลราชธานี รายงานเพิ่มเติมว่า พบการติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.อุบลฯ จํานวนมาก ขอให้ประชาชนปฏิบัติตัวเสมือนว่าคนรอบตัวอาจติดเชื้อ พื้นผิวสัมผัส อากาศรอบตัวอาจมีเชื้อปะปนอยู่ โดยเฉพาะห้องปรับอากาศหรือห้องที่อากาศไม่ถ่ายเทเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาลอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เมื่อครบกําหนด
26/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226161242658
629
จังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำ ประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 ส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ํา ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง หลังพบจํานวนผู้ติดเชื้อจากการตรวจ RT-PCR และการตรวจ ATK จํานวนมาก นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จังหวัดเชียงใหม่ ข้อมูล ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อยืนยัน 392 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย 2,580 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จํานวน 2,611 ราย รักษาตัวในระบบ Community Isolation (CI) 1,834 ราย และ Home Isolation (HI) 13,162 ราย ขอเน้นย้ํามาตรการหลักที่ต้องปฏิบัติในขณะนี้ คือ "มาตรการป้องกันโรค COVID-19 ส่วนบุคคล" คือ การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ที่มีผลการวิจัยของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ออกมาว่าสามารถป้องกันการติดรุนแรงและเสียชีวิตได้ดี รวมถึงป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 ได้ แม้ว่าจะลดลงจากปีที่ผ่านมา สําหรับการรายงานยอดผู้ป่วย COVID-19 ที่แยกเป็น 2 กลุ่ม เนื่องจากในปัจจุบันมีการตรวจหาเชื้อ COVID-19 จํานวน 2 วิธี คือ วิธี RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยํา ค่าใช้จ่ายสูง ใช้เวลาตรวจนาน แต่ละครั้งตรวจได้จํานวนน้อยและต้องใช้เครื่องตรวจ จึงจะใช้วิธีนี้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเป็นหลัก และเรียกผู้ที่มีผลบวกว่า "ผู้ป่วยยืนยัน" อีกวิธี คือ ATK เป็นวิธีที่ตรวจโดยใช้แถบตรวจสําเร็จ ความแม่นยําปานกลาง ราคาถูก รู้ผลทันที ตรวจได้ในปริมาณมาก ตรวจได้ทุกที่ ไม่ต้องใช้เครื่องตรวจ ปัจจุบันใช้ในการตรวจภาคสนาม เน้นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ไม่มีอาการ เนื่องจากมีปริมาณมากและสามารถตรวจได้ทุกที่ และเรียกผู้ที่มีผลบวกว่า "ผู้ป่วยเข้าข่าย" พร้อมให้การรักษาด้วยระบบ Home Isolation หรือ Community Isolation ได้ทันที ทั้งนี้ การติดเชื้อ COVID-19 รายวันของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ส่วนผู้เสียชีวิตมีจํานวนเฉลี่ย 0-2 คนต่อวัน ขณะที่ การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อได้ใช้ระบบ Home Isolation และ Community Isolation สําหรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว เพื่อสํารองเตียงในโรงพยาบาลหลักให้แก่ผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนัก
26/2/2022
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สวท.เชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226171652688
630
จังหวัดลำพูน พบติดเชื้อ COVID-19 จากผล RT-PCR 9 ราย ผลตรวจ ATK Positive 347 ราย
วานนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2565) สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําพูน รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ จ.ลําพูน ประจําวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในจังหวัด 8 ราย ต่างจังหวัดอีก 1 ราย ATK Positive 347 ราย มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 12,795 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 52 ราย ผู้ป่วยยืนยันรักษาตัวทั้งหมด 138 ราย กําลังรักษา Pro.Case จํานวน 3,047 ราย แบ่งเป็นใน รพ.รัฐ 117 ราย รพ.เอกชน 473 ราย CI 295 ราย HI 2,026 ราย รักษาหายแล้ว 5,337 ราย รักษาหาย Pro.Case จํานวน 4,221 ราย ในส่วนของสถิติการครองเตียงของโรงพยาบาลรัฐทุกแห่งในจังหวัดลําพูน มีทั้งหมด 188 เตียง ใช้ไป 117 เตียง หรือคิดเป็น 62.23% จึงทําให้มีเตียงเหลือรองรับผู้ป่วย 71 เตียงคิดเป็น 37.77% นอกจากนี้ เตียงรองรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชนมีรองรับทั้งสิ้น 636 เตียง ใช้ไป 473 เตียง คิดเป็น 74.37% จึงทําให้มีเตียงเหลือรองรับผู้ป่วยอีก 163 เตียง คิดเป็น 25.63% สําหรับการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดลําพูน ข้อมูล ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 มียอดสะสมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว จํานวน 332,718 ราย คิดเป็น 81.76% ของผู้ประสงค์ฉีดทั้งหมด 126,648 คน จากประชากรทั้งหมด 401,408 คนคิดเป็น 82.89% ฉีดเข็มที่ 1 จํานวน 332,718 ราย เข็มที่ 2 จํานวน 317,070 ราย เข็มที่ 3 จํานวน 157,187 ราย และเข็มที่ 4 จํานวน 4,976 เข็ม
26/2/2022
ภาคเหนือ
ลำพูน
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226170131685
631
จังหวัดมุกดาหาร มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่ง 200 คนต่อวันเป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีการแพ่ระบาดของโรคในพื้นที่
จังหวัดมุกดาหาร มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่ง 200 คนต่อวันเป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีการแพ่ระบาดของโรคในพื้นที่ วันนี้ (26 ก.พ. 65) เพจเฟซบุ๊กโควิด-19 สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ล่าสุด วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 200 คนต่อวัน มากที่สุดที่เคยระบาดในพื้นที่ เป็นการติดเชื้อนอกเขตจังหวัด 84 ราย ภายในจังหวัด 113 ราย จากคลัสเตอร์ต่าง ๆ ทั้งคลัสเตอร์ตลาดสด ภายในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร งานศพ บ่อนไก่ กระจายอยู่ครบทั้ง 7 อําเภอ โดยอําเภอเมืองมุกดาหาร มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 98 ราย (ติดเชื้อภายในจังหวัด 75 ราย นอกจังหวัด 23 ราย) อําเภอนิคมคําสร้อยติดเชื้อภายในจังหวัด 37 ราย คําชะอีติดเชื้อนอกเขตจังหวัด 3 ราย อําเภอดอนตาล 24 ราย (ติดเชื้อภายในจังหวัด 19 ราย นอกเขตจังหวัด 5 ราย) อําเภอหว้านใหญ่ 21 ราย (ติดเชื้อในจังหวัด 19 ราย นอกเขตจังหวัด 5 ราย) อําเภอหนองสูง ติดเชื้อนอกเขตจังหวัด 7 ราย อําเภอดงหลวงติดเชื้อนอกเขตจังหวัด 10 ราย รวมผู้ป่วยระลอกใหม่สะสม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นมา ถึง 26 กุมภาพันธ์ จํานวน 5,536 ราย รักษาหายสะสม 4, 170 ราย อยู่ระหว่างรักษา 1,450 ราย ไม่มีอาการหนัก ปอดอักเสบและภาวะบกพร่องออกซิเจน จํานวนเตียงคงเหลือ 1,524 เตียง มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 รายเป็นหญิงวัย 71 ปี เสียชีวิตที่บ้าน ในเขตพื้นที่ตําบลคําอาฮวน อําเภอเมืองมุกดาหาร ติดเชื้อจากคนในครอบครัวจากคลัสเตอร์สังสรรที่บ่อนไก่ ไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 สะสมมีผู้เสียชีวิต 18 ราย ด้าน นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้สั่งการณ์ให้สาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลจังหวัดมุกดาหาร และเทศบาลเมืองมุกดาหาร ได้จัดชุดสอบสวนโรค ชุดปฏิบัติการควบคุมป้องกันโรค ลงพื้นที่ตลาดเทศบาล 2 และตลาดสดที่อยู่ภายในเขตเทศบาล ตรวจคัดกรอง ค้นหาผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อาจติดเชื้อด้วย ATK อย่างต่อเนื่องและเป็นวันที่ 3 หลังจากพบมีผู้ติดเชื้อที่ตลาดตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ มาถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มากกว่า 50 ราย เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากพ่อค้า แม่ค้า ใกล้ชิดสัมผัสกับประชาชนที่ไปจ่ายตลาดจํานวนมากและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดได้ง่าย และให้กองสาธารณสุขสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองมุกดาหาร หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองมุกดาหารฉีดพ่นน้ํายาฆ่าเชื้อบริเวณตลาด เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ไปเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดดังกล่าว
26/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226175407701
632
สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดแพร่ ผู้ป่วยรายใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย
งานระบาดวิทยา กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ประจําวัน พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นจํานวน 97 ราย ทําให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,105 ราย ส่วนผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวกรายใหม่เพิ่ม 274 ราย ขณะที่ ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลมี 104 ราย อยู่ในระดับสีแดง 6 ราย สีเหลือง 30 ราย และสีเขียว 68 ราย รักษาตัวที่บ้านในระบบ Home Isolation จํานวน 2,109 ราย และรักษาตัวใน Community Isolation จํานวน 29 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่ม 193 ราย ขณะที่ มีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย นับเป็นรายที่ 4 ในปี 2565 ของจังหวัดแพร่ โดยผู้เสียชีวิตเป็นเพศหญิง อายุ 91 ปี ภูมิลําเนาอยู่ที่ ตําบลแม่พุง อําเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ซึ่งตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65 และยังไม่มีประวัติเคยได้รับวัคซีนโควิด-19 รวมผู้เสียชีวิตสะสม 21 ราย ทั้งนี้ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ยังคงเฝ้าระวังผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยเฉพาะคนใกล้ชิด หรือบุคคลในครอบครัว ให้กักกันตัวและทําการตรวจด้วย ATK 2 ครั้ง ในวันที่ 5 และวันที่ 10 หลังการสัมผัส หากผลเป็นบวกให้รีบประสาน รพ.สต. หรือศูนย์ประสานงานโควิด-19 ของแต่ละอําเภอเพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลและรักษา แบบ Home Isolation หรือ Community Isolation และเน้นย้ําว่าทุกพื้นที่ขณะนี้คือสถานที่เสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มสังสรรค์ เพื่อลดการติดเชื้อ เนื่องจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนนั้นติดง่ายและกระจายเร็ว ขอให้ประชาชนใช้มาตรการครอบจักรวาลยกระดับการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด ฉีดวัคซีนตามกําหนด และปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด
26/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226172848689
633
ยืนยันสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเพียงพอ
ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อํานวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศ ทําให้มีความต้องการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อภ. ได้มีการบริหารจัดการสํารองยาฟาวิพิราเวียร์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยขณะนี้มีการสํารอง 24 ล้านเม็ด และทําการผลิตเพิ่มเติมอีก 60 ล้านเม็ด รวมการสํารองทั้งสิ้น 84 ล้านเม็ด เพื่อกระจายสู่หน่วยบริการแม่ข่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จํานวนดังกล่าว เป็นการสํารองอยู่ที่ อภ. นอกจากนี้ ยังมีการสํารองไว้ที่หน่วยบริการต่างๆ ทั่วประเทศอีกจํานวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยาฟาวิพิราเวียร์ทั้งหมดได้จัดสรรให้กับหน่วยบริการ หรือโรงพยาบาลแม่ข่ายต่างๆ ตามการบริหารจัดการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยกลุ่มภารกิจสํารองเวชภัณฑ์และส่งกําลังบํารุง อภ. เป็นผู้ดําเนินการจัดส่งกระจายตามการจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จากนั้นหน่วยงานแม่ข่ายจะทําการบริหารจัดการและกระจายให้แก่หน่วยบริการลูกข่ายในแต่ละพื้นที่ต่อไป
26/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226194026735
634
นครพนม ห้ามดื่มเหล้าในร้าน ชะลองานบุญประเพณี สมรส งานศพ 3 วันเผา
มติ คกก.โรคติดต่อนครพนม ขยายเวลาห้ามดื่มเหล้าในร้านถึง 15 มี.ค. งานศพ 3 วันควรเผา บ่าวสาวเลื่อนแจกการ์ด แนะข้าราชการเป็นแบบอย่างที่ดี การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครพนมขยายเป็นวงกว้าง โดยก่อนที่จะมีมาตรการคลายล็อก มียอดผู้ป่วยรายวันเพียงไม่กี่ราย แต่เมื่อผ่อนคลายมาตรการบางอย่างกลับมีจํานวนผู้ป่วยปะทุขึ้นมาอย่างเร็ว เกิดคลัสเตอร์ หรือเหตุการณ์ไปทั่วทั้ง 12 อําเภอนั้น มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม (คกก.ฯ) ครั้งที่ 10/2565 ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 คือ 1.ปรับลดจํานวนคนร่วมกิจกรรมต่าง ๆ หรือรวมกลุ่มของบุคคลไม่เกิน 200 คน โดยให้แจ้ง ศปก.อําเภอ และรายงานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อทราบ กําหนดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องมีหลักฐานการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ ATK ไม่เกิน 48 ชั่วโมง มีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป 2.ให้ชะลอหรือเลื่อนการจัดกิจกรรม งานบุญประเพณี งานมงคลสมรส ฯลฯ ในระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2565 หากมีความจําเป็นต้องจัดให้แจ้ง ศปก.อําเภอ ทั้งนี้ ให้ผู้จัดหรือผู้รับผิดชอบ งดจัดให้มีการดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ขบวนแห่และมหรสพทุกชนิด และถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สําหรับกิจการประเพณีงานศพ ซึ่งต้องจัดในระหว่าง วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2565 ให้เจ้าภาพหรือผู้รับผิดชอบจัดงานถือปฏิบัติดังนี้ จํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 200 คน , ระยะเวลาในการจัดงานแล้วเสร็จไม่ควรเกิน 3 วัน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่ให้มีมหรสพทุกประเภทตลอดการจัดงาน นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ บริษัทห้างร้าน สถานประกอบการ และประชาชน งดการจัดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง หรือการรับประทานอาหารร่วมกัน ยกเว้นบุคคลในครอบครัว ในระหว่างวันที่ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2565 งดการจําหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านจําหน่ายอาหารทุกประเภท มีผลตั้งแต่วันที่ 1-15 มีนาคม 2565 (ขยายเวลาต่อเนื่องจากคําสั่งฯมาตรการปัจจุบัน ที่ห้ามฯ 22-28 ก.พ. 65)
26/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226182507711
635
นครพนม ร่วมกับ อปท. ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนปิดหมู่บ้านจากการระบาดโควิด-19
นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอําเภอเมืองนครพนม พร้อมด้วยสาธารณสุขอําเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลนาราชควาย กํานันตําบลนาราชควาย ปลัดอําเภอกลุ่มงานความมั่นคง ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ได้รับการสนับสนุนจากสํานักงานกาชาดจังหวัดนครพนม จํานวน 140 ถุง ให้กับผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่บ้านนาราชควายน้อย หมู่ที่ 5 ตําบลนาราชควาย อําเภอเมืองนครพนม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งกล่าวให้กําลังใจประชาชนที่กักตัวในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการณ์ตามจุดตรวจและจุดปิดกั้น และกําชับให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเคร่งครัด จนกว่าจะครบระยะเวลาตามคําสั่งห้ามเข้าออกสถานที่ที่กําหนดเป็นการชั่วคราว ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565
26/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226184607720
636
อำเภอวังน้อย ศูนย์พักคอย CI ณ รพ.สต.พยอม
นายสุรชัย โคตรบุตรดี นายอําเภอวังน้อย เข้าเยี่ยมและให้กําลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์พักคอย COMMUNITY ISOLATION ( CI ) ณ รพ.สต.พยอม ที่รองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID - 19 ) ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.65 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบ 119 เตียง ทั้งนี้ มีผู้ติดเชื้อที่เข้ามาพักรักษาตัว จํานวน 7 ราย แยกเป็น ชาย 5 ราย หญิง 2 ราย ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
26/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
พระนครศรีอยุธยา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226202033753
637
คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สุพรรณบุรี แจ้งจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วย COVID-19 และสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19
วันนี้ ( 26 ก.พ.65) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยข้อมูล สถานการณ์การใช้เตียงผู้ป่วย COVID-19 ประจําวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เมื่อเวลา 16.00 น. จังหวัดสุพรรณบุรี มีเตียงรับผู้ป่วยทั้งหมด 1,811 เตียง มีผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั้งหมด 1,685 คน (บางโรงพยาบาลเสริมเตียงในห้องผู้ป่วย) มีเตียงคงเหลือ 320 เตียง โดยจําแนกผู้ป่วยเป็น 5 อาการ ดังนี้ 1.ผู้ป่วยไม่แสดงอาการ จํานวน 121 คน 2.ผู้ป่วยแสดงอาการเล็กน้อย จํานวน 1,002 คน3.ผู้ป่วยอาการปานกลาง จํานวน 525 คน 4.ผู้ป่วยอาการปานกลาง ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือมีโรคร่วมสําคัญ จํานวน 29 คน 5.ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จํานวน 8 คนโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง มีเตียงรับผู้ป่วยทั้งหมด 770 เตียง มีผู้ป่วยเข้าทําการรักษา 622 คน มีเตียงคงเหลือ 191 เตียง และHome Isolation ระดับจังหวัด 10 แห่ง จํานวน 912 คน สําหรับสถานการณ์โรค COVID-19 จังหวัดสุพรรณบุรี วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 475 ราย รวมยอดจํานวนที่พบเชื้อสะสมระรอกใหม่ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน7,585.ราย และรักษาหายแล้ว 3,912 ราย คงเหลือกําลังรักษาอีก 3,650 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มวันนี้ 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 23 ราย และรักษาหายแล้วกลับบ้าน 198 คน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
26/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220226215912759
638
รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.อำนาจเจริญ
รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.อํานาจเจริญ ประจําวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากขณะนี้การติดเชื้อโควิด-19 วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 23 ราย. รวมยอดจํานวนที่พบเชื้อสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน 1,579 ราย และรักษาหายแล้ว 972 ราย คงเหลือกําลังรักษาอีก 606 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้ติดเชื้อ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนโควิด-19 อํานาจเจริญ โทร 0933234686, 0866515424, 0902410098 และ 0951924903 ส่วนใหญ่เป็นชนิดโอมิครอน ซึ่งมีความรุนแรงต่ํา แต่แพร่กระจายเชื้อได้เร็วทุกพื้นที่ ทุกคนที่อยู่รอบตัวเราถือว่ามีความเสี่ยง ถ้าทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ VUCA ดังนี้ จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์1.V Vaccine รับการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยให้มีภูมิคุ้มกัน ลดอาการหนัก ลดการเสียชีวิต2.U Universal Prevention ป้องกันตัวเองครอบจักรวาล โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ ลดการสัมผัสใกล้ชิด3.C COVID-Free Setting สถานที่บริการปลอดภัย สะอาด ลดความแออัด ผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้รับวัคซีนครบ4.A ATK (Antigen test kit) ตรวจเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อ หรือมีอาการทางเดินหายใจ เพื่อวินิจฉัย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
26/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227081008774
639
ไทยฉีดวัคซีนแล้วกว่า 123 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 10,684 ล้านโดส ใน 205 ประเทศเขตปกครอง
ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,684 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 26.8 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจํานวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 552 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 966.01 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค ร้อยละ 95 ของประชากร ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจํานวนมากที่สุดที่ 344.2 ล้านโดส สําหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 123 ล้านโดส
27/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227140802885
640
จังหวัดตรังพบผู้ป่วยโควิด 19 อีก 107 ราย อีก 2 สัปดาห์คาดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ทางเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตามสิทธิ โดยจะมีการคัดแยกผู้ป่วย แล้วให้ยารักษาตามอการ
นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษก ศบค.ตรัง เผยถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 107 ราย รวมผู้ติดเชื้อตามการระบาดระลอก 1 มกราคม 2565 จํานวน 2,515 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายเพิ่ม 97 ราย รักษาหายรวม 1,882 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทําให้มียอดเสียชีวิตสะสม 16 ราย มีผู้ป่วยยังคงรักษาใน รพ. 617 ราย ทั้งนี้ พบการติดเชื้อจากการสัมผัสในชุมชน 48 ราย คิดเป็นร้อยละ 44.86 สัมผัสร่วมบ้าน 32 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.91 สัมผัสในที่ทํางาน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.02 และพูดคุยโดยไม่สวมหน้ากากและอื่นๆ 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.21 จากการตรวจ ATK เมื่อวานนี้ตรวจไปทั้งหมด 3,529 ราย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น 1,209 ราย นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่ตรวจด้วยวิธีดังกล่าวเกินกว่า 1 พันคนต่อวัน สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในจังหวัดขณะนี้ เป็นสายพันธุ์โอมิครอนคิดเป็น 66 เปอร์เซ็นต์ในผู้ติดเชื้อ สังเกตจากกราฟสีส้มที่มีค่าอาร์อยู่ที่ 1.5 นั่นแปลว่าผู้ป่วย 1 คนจะแพร่กระจายไปได้ 1.5 คน คาดว่าใน 2 สัปดาห์ต่อ คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นและหลังจากนั้นจะมีการลดระดับลง ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการลดการแพร่ระบาดที่ดีขึ้น สําหรับแนวทางการรักษาจะยึดตามหลักที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขมีการประกาศใช้เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้วทําให้โอกาสที่จะเกิดอาการรุนแรงค่อนข้างน้อย เชื้อที่ระบาดในส่วนนี้เป็นสายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่จะติดเชื้อในโพรงจมูกและคอหอยเท่านั้น โอกาสที่จะแพร่ลงสู่หลอดลมและปอดจะค่อนข้างน้อยมักจะเกิดขึ้นในผู้สูงอายุที่เกิน 60 ปีหรือมีโรคเรื้อรังอยู่เดิมดังนั้น การจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์จะจ่ายให้ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ดังนี้ อุณหภูมิร่างกายเกินกว่า 39 องศาติดต่อกันเป็นเวลา 24 ชม. อัตราการหายใจเกินกว่า 25 ครั้งต่อนาที อัตราการอิ่มตัวของออกซิเจนต่ํากว่าร้อยละ 95 หรือผู้ที่มีอาการโรคเรื้อรังกําเริบและมีการติดเชื้อโควิด 19 ร่วมด้วย สําหรับในผู้ป่วยเด็กหากมีอาการไข้ซึมลงไม่รับประทานอาหารหรือหายใจเหนื่อยก็จะได้รับการพิจารณาให้ยาเช่นเดียวกัน ขอให้ประชาชนสบายใจในเรื่องทรัพยากรยาฟาวิพิราเวียร์ ศบค.ตรังได้บริหารจัดการให้ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยในกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อยจะได้รับยาฟ้าทะลายโจร และได้รับการประเมินรักษาอาการทุกวันโดยทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากมีอาการไม่ดีขึ้นก็จะส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลตามขั้นตอน ส่วนปัญหาการขาดยาได้เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว สาเหตุจากการที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปทางเขตสุขภาพที่ 12 เพื่อขอรับจัดสรรยาทันทีซึ่งได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ 1 แสนเม็ด จากสสจ.นราธิวาส จึงทําให้บริหารจัดการยาได้อย่างเพียงพอ ขณะเดียวกันพบว่ามีประชาชนที่ติดเชิ้อโควิด 19 บางส่วนที่มีอาการเล็กน้อยและไม่ได้รับยา ขอให้ประสานกับทางโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ถ้าอยู่ที่ รพ.สต.ยาอาจจะขาดแคลนจะต้องประสานไปทางโรงพยาบาลชุมชนต้องอาศัยเวลา 24 ชม. หรือประสานอสม.ในพื้นที่ ผู้ป่วยแม้ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ แต่ตามแนวทางของจังหวัดผู้ป่วยจะได้รับยาตามอาการและรับอาหาร 3 มื้อ โดยจะเลือกได้ว่าเป็นถุงยังชีพซึ่งเป็นอาหารแห้งตลอดทั้ง 10 วัน หรืออาหารที่ปรุงสําเร็จโดยโรงพยาบาลจะติดต่อร้านอาหารในพื้นที่ ยืนยันทุกคนที่ตรวจด้วย ATK แล้วเป็นผู้ป่วย ต้องได้รับการดูแลรักษาตามสิทธิที่จะได้รับ ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนในความล่าช้า เนื่องจากการที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันในช่วง 3 วันมานี้ อาจจะทําให้เกินกว่าศักยภาพของโรงพยาบาลชุมชน จึงทําให้มีการขาดตกบกพร่องบ้าง ตอนนี้ได้ซักซ้อมทําความเข้าใจแล้ว เพื่อการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้นตอนนี้เริ่มพบว่ามีผู้ป่วยโควิด 19 ในเด็กเพิ่มมากขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนที่เปิดสอนออนไซต์ ส่วนใหญ่ได้งดการจัดการเรียนการสอนไปแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อลดการสัมผัสในโรงเรียน จังหวัดตรังยังคงเป็นพื้นที่สีส้มขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดให้ป้องกันตัวเองให้ดีไตร่ตรองให้รอบคอบ นอกจากนี้เตรียมเพิ่มมาตรการงดทานอาหารร่วมกันในงานเลี้ยงหรือพิธีต่างๆ เพื่อลดการแพร่ระบาดในช่วงนี้ เนื่องจากการสอบสวนโรคพบว่าสาเหตุหลักคือการรับประทานอาหารร่วมกันในงานศพ งานเลี้ยง รองลงมาคือติดเชื้อมาจากจังหวัดอื่นและกลับมาระบาดในชุมชน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/2/2022
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227122007842
641
โควิดยะลาวันนี้ 192 ราย
โควิด -19 ที่ จังหวัดยะลา วันนี้(27 ก.พ 65) พบ รายใหม่ 192 ราย ลดลง 19 ราย จากเมื่อวานนี้ (26 ก.พ 65) ที่มี จํานวน 211 ราย ป่วยสะสม 2,200 ราย กําลังรักษา 4,855 ราย รักษาหายแล้ว 1,714 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ติดต่อกันหลายวัน สะสมเสียชีวิตคงที่ 13 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจ ATK พบผลบวกเพิ่ม 797 ราย สะสม 4,505 ราย สําหรับ 192 รายใหม่ พบในอําเภอเมือง 56 ราย อ.บันนังสตา 58 ราย อ.ยะหา 28 ราย อ.รามัน 15 ราย อ.เบตง 13 ราย อ.กาบัง 15 ราย อ.กรงปินัง 5 ราย และ อ.ธารโต 2 ราย โดย บางอําเภอผู้ป่วยลด ส่วนบางอําเภอเพิ่ม ขณะที่ ผลการตรวจคัดกรองตามมาตรการด้านสาธารณสุข รวมสะสม 18,771 ราย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227140127882
642
ลำปาง พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 341 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจําวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 09.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 341 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 331 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 10 ราย เป็นผู้ติดเชื้อยืนยันตรวจด้วยวิธี RT-PCR 66 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจด้วยวิธี ATK 275 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสม 8,067 ราย อยู่ระหว่างรักษา 3,212 ราย รักษาหายแล้วสะสม 4,847 ราย และเสียชีวิตสะสม 8 ราย ไม่นับรวมทันฑสถานบําบัดพิเศษลําปาง สําหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ เวลา 09.00 น. ของวันเดียวกัน จังหวัดลําปางวัคซีนไปแล้ว 1,150,794 เข็ม จําแนกเป็นเข็มที่ 1 จํานวน 490,914 คน เข็มที่ 2 จํานวน 474,247 คน เข็มที่ 3 จํานวน 180,359 คน และเข็มที่ 4 จํานวน 5,274 คน จังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรค D-M-H-T-T ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิด-19 ลําปาง โทร.09-3140-8023 ในวันเวลาราชการ และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือสอบถามที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน และขอเชิญชวนชาวลําปางซึ่งมีอายุ 5 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และฉีดกระตุ้นในเข็มที่ 3 ให้เร็วที่สุด
27/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227141513890
643
คลัสเตอร์ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง หายป่วยสะสม 1,008 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดลําปาง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 หลังพบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 คลัสเตอร์ทัณฑสถานบําบัดพิเศษลําปาง ตําบลปงยางคก อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง จํานวนผู้ป่วย 14 ราย กลุ่มเสี่ยงสูง 220 ราย เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ล่าสุด ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยสะสม 1,011 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3 ราย รักษาหายแล้วสะสม 1,008 ราย ทั้งหมดดูแลตัวเองในทันฑสถานบําบัดพิเศษ ตามมาตรการ Bubble and Seal เป็นระยะเวลา 28 วัน แยกผู้ป่วยไปรักษา ณ เรือนจําโครงสร้างเบา ซึ่งเตรียมไว้เป็นโรงพยาบาลสนามให้การรักษาแบบ Home Isolation : HI ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่ป่วย แยกกักตามเรือนนอน และเฝ้าสังเกตอาการ และงดให้ญาติเยี่ยมมาก่อนแล้ว 1 เดือน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครบ 100% และเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง เป็นระยะเวลา 10 วัน จังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชน ปรับตัวอยู่ร่วมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยวิถีชีวิตใหม่ (VUCA) คือ ฉีดวัคซีนให้ครบ (V) เพื่อลดอัตราการป่วยรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิต ป้องกันการติดเชื้อตามหลัก Universal Prevention (U) ออกจากบ้านเมื่อจําเป็น สวมแมสก์ รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ทุกกองค์กร ทุกหน่วยงาน ดําเนินมาตรการ COVID Free Setting (C) การให้พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส การคัดกรองความเสี่ยงพนักงานด้วยชุดตรวจ ATK และการจัดสถานที่ทํางานให้สะอาด ปลอดภัยจากแพร่กระจายเชื้อโควิด-19
27/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227141524892
644
สถานการณ์โควิดอุบลฯ มีผู้ป่วยด้วยปอดอักเสบ 196 ราย กำลังใส่เครื่องช่วยหายใจ 8 ราย
ศูนย์ EOC COVID-19 จังหวัดอุบลราชธานี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 27 ก.พ. 65 มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และป่วยด้วยปอดอักเสบ จํานวน 196 ราย โดยกําลังใส่เครื่องช่วยหายใจ 8 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 581 ราย รักษาหายเพิ่ม 221 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิง อายุ 67 ปี ชาวตําบลท่าช้าง อําเภอสว่างวีระวงศ์ มีโรคประจําตัวคือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง และโรคหัวใจ ทําให้ขณะนี้จังหวัดอุบลราชธานี มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 18,654 ราย เสียชีวิตสะสม 38 ราย รักษาหาย 12,933 ราย กําลังรักษา 5,683 ราย
27/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227153151918
645
คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สุพรรณบุรี แจ้งจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วย COVID-19 และสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19
วันนี้ ( 27 ก.พ.65) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยข้อมูล สถานการณ์การใช้เตียงผู้ป่วย COVID-19 ประจําวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เมื่อเวลา 16.00 น. จังหวัดสุพรรณบุรี มีเตียงรับผู้ป่วยทั้งหมด 1,878 เตียง มีผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั้งหมด 1,767 คน (บางโรงพยาบาลเสริมเตียงในห้องผู้ป่วย) มีเตียงคงเหลือ 325 เตียง โดยจําแนกผู้ป่วยเป็น 5 อาการ ดังนี้ 1.ผู้ป่วยไม่แสดงอาการ จํานวน 147 คน 2.ผู้ป่วยแสดงอาการเล็กน้อย จํานวน 1,044 คน3.ผู้ป่วยอาการปานกลาง จํานวน 542 คน 4.ผู้ป่วยอาการปานกลาง ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือมีโรคร่วมสําคัญ จํานวน 25 คน 5.ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จํานวน 9 คนโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง มีเตียงรับผู้ป่วยทั้งหมด 770 เตียง มีผู้ป่วยเข้าทําการรักษา 651 คน มีเตียงคงเหลือ 179 เตียง และHome Isolation ระดับจังหวัด 10 แห่ง จํานวน 1,101 คน สําหรับสถานการณ์โรค COVID-19 จังหวัดสุพรรณบุรี วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 337 ราย รวมยอดจํานวนที่พบเชื้อสะสมระรอกใหม่ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน 7,922 ราย และรักษาหายแล้ว 4,147 ราย คงเหลือกําลังรักษาอีก 3,752 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มวันนี้ รวมเสียชีวิตสะสม 23 ราย และรักษาหายแล้วกลับบ้าน 235 คน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227160825932
646
ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่จังหวัดแพร่ จำนวนยังคงสูง มีระดับสีแดงเพิ่มขึ้น ขณะที่ สสจ.แพร่ ย้ำ หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มสังสรรค์
งานระบาดวิทยา กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ประจําวัน พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น จํานวน 84 ราย รวมจํานวนผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,189 ราย ส่วนผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวกรายใหม่เพิ่ม 249 ราย ขณะที่ ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลมี 114 ราย ซึ่งมีระดับสีแดงเพิ่มขึ้นเป็น 10 ราย สีเหลือง 33 ราย และสีเขียว 71 ราย รักษาตัวที่บ้านในระบบ Home Isolation จํานวน 2,148 ราย และรักษาตัวใน Community Isolation จํานวน 32 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่ม 224 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จํานวนสะสม 21 ราย ทั้งนี้ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ยังคงเฝ้าระวังผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยเฉพาะคนใกล้ชิด หรือบุคคลในครอบครัว ให้กักตัวเองจนครบ 10 วัน และตรวจ ATK ด้วยตนเองในวันที่ 5 และ 10 ของการกักตัวอย่างเคร่งครัด เนื่องจากพบว่ามีผู้สัมผัสหลายราย ตรวจพบเชื้อในวันที่ 10 ของการกักตัว หากผลเป็นบวกให้รีบประสาน รพ.สต. หรือศูนย์ประสานงานโควิด-19 ของแต่ละอําเภอเพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา แบบ Home Isolation หรือ Community Isolation และเน้นย้ําว่าทุกพื้นที่ คือสถานที่เสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มสังสรรค์ เพื่อลดการติดเชื้อ เนื่องจากพบว่าผู้มีผลตรวจ ATK เป็นบวกส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ซึ่งโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนนั้นติดง่ายและกระจายเร็ว ขอให้ประชาชนใช้มาตรการครอบจักรวาลยกระดับการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด ฉีดวัคซีนตามกําหนด และปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด
27/2/2022
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227165432945
647
จังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำ ประชาชนไม่ประมาท การ์ดอย่าตก เสี่ยงสูงขอให้เคร่งครัดในการกักตัว
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ํา ประชาชนขอให้เคร่งครัดในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง รวมถึงเข้ารับการฉีดวัคซีน COVID-19 ตามกําหนดโดยเฉพาะผู้สูงอายุ , ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์ ขณะเดียวกัน ขอให้ล้างมือหลังสัมผัสพื้นผิว และก่อนสัมผัสตัวผู้สูงอายุ ผู้ป่วย สวมหน้ากากอนามัยเวลาพูดคุยทั้งในและนอกบ้าน หลีกเลี่ยงสถานที่คนแออัด และอับอากาศ ไม่นัดเจอญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงหลายคนพร้อมกัน งดการจัดงานรวมกลุ่ม ปาร์ตี้สังสรรค์ต่าง ๆ และเข้าไปในที่ชุมชน ในส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีผลการตรวจเป็นลบเคร่งครัดในการกักตัวจน ครบ 7 วัน และสังเกตอาการตนเองอีก 3 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่ม ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 จังหวัดเชียงใหม่ ข้อมูล ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 พบผู้ติดเชื้อยืนยัน จากการตรวจ RT-PCR รายใหม่เพิ่ม 258 ราย , ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากการตรวจ ATK จํานวน 2,464 ราย มีผู้ติดเชื้อที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จํานวน 2,624 ราย รักษาตัวในระบบCommunity Isolation (CI) จํานวน 1,678 ราย รักษาตัวในระบบ Home Isolation (HI) จํานวน 13,509 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สําหรับอัตราการครองเตียงในระดับสีเหลือง จํานวน 325 เตียง เตียงว่าง 335 เตียง การครองเตียงในระดับสีแดง จํานวน 33 เตียง เตียงว่าง 79 เตียง ทั้งนี้ เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เพิ่มจุดให้บริการตรวจ ATK แก่ประชาชนพร้อมจ่ายยาทันที หากผลตรวจเป็น บวก โดยในวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 65 ให้บริการที่สํานักงานแขวงเม็งราย , วันที่ 3-7 มี.ค. 65 ที่สํานักงานแขวงนครพิงค์ , วันที่ 8-10 มี.ค. 65 ที่สํานักงานแขวงศรีวิชัย และวันที่ 10-12 มี.ค. 65 ที่สุสานสันกู่เหล็ก ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.
27/2/2022
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สวท.เชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227165159944
648
โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ชนะเลิศแชมป์ภาคกลางวอลเลย์บอลยุวชน “เอสโคล่า” รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี
นางสมจิต บุญคงเสน ผู้อํานวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี นํานักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลวอลเลย์บอลยุวชน “เอสโคล่า” รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 (ปีที่ 31) ชิงถ้วยประทาน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี รอบคัดเลือกภาคกลาง ในวันอาทิตย์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ จังหวัดอ่างทอง โดยผลการแข่งขัน ทีมโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ชนะเลิศ เป็นแชมป์ภาคกลาง พร้อมรับเงินรางวัล 8,000 บาท และได้เป็นตัวแทนในการแข่งขันระดับประเทศ ต่อไปสําหรับโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- มัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน จํานวน 660 คน แบ่งเป็นเปิดสอนจํานวน 17 ชนิดกีฬา ได้แก่ กีฬากรีฑา เซปักตะกร้อ จักรยาน เทนนิส เบสบอล ฟุตบอล มวยปล้ํา มวยสากล ยกน้ําหนัก ยิมนาสติก ยิงปืน ยูโด เทควันโด คาราเต้-โด ว่ายน้ํา วอลเลย์บอล และวูซู โดยกีฬาวอลเลย์บอลรับเฉพาะผู้ชายอย่างเดียว ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลิตนักกีฬาเป็นตัวแทนทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาตินานาชาติ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยและจังหวัดสุพรรณบุรี ขานรับการเป็นเมืองกีฬา sports city suphanburiทั้งนี้ การส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทุกรายการ ทางโรงเรียนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227161449939
649
ผู้ว่าฯ ชุมพร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ อ.หลังสวน และ อ.เมืองชุมพร
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางปวีณ์ริศา เกิดสม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร, ร.ต.ต. (ญ) กุสุมา สุวรรณบูรณ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กําลังใจผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่กักตัวในพื้นที่ อําเภอหลังสวน และอําเภอเมืองชุมพร โดยได้มอบถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย สามารถกักตัวเพื่อรักษาอาการอยู่ที่บ้าน ตามคําแนะนําของคณะแพทย์ พร้อมกับการติดตามดูแลของ อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กําลังใจผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่อําเภอหลังสวน และอําเภอเมืองชุมพร พร้อมนําถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมกับติดตามดูว่ายังต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใดบ้าง พร้อมตรวจดูการกักตัวและการรักษาเป็นไปตามมาตรการที่กําหนดหรือไม่ โดยเฉพาะในพื้นที่อําเภอหลังสวน และอําเภอเมืองชุมพร มีผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 และพี่น้องประชาชนต้องกักตัวค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเป็นพื้นที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เริ่มตั้งแต่การลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุกของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และชุดเจ้าหน้าที่ของแต่ละอําเภอ และการออกกฎมาตรการในชุมชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นการกักตัวของผู้ป่วยบางคนอาจได้รับผลกระทบด้านอาหารการกินหรืออุปโภคบริโภค วันนี้จึงได้ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร ลงพื้นที่มาดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ขอความร่วมมือของพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการและประกาศของจังหวัดอย่างเคร่งครัด รวมถึงมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ให้ทุกคนทําตามมาตรการป้องกันตนเอง VUCA คือการฉีดวัคซีนครบลดป่วยหนัก ขอให้ทุกคนออกไปฉีดให้ครบทุกเข็ม (Vaccine) , การป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา ห่างไกลจากโควิด (Universal Prevention) , สถานที่บริการพร้อม ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนครบ ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ (Covid Free Setting) และ การพร้อมตรวจ ATK (Antigan test kit) เสมอเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อหรือมีอาการทางเดินหายใจ โดยขอให้ทุกคนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/2/2022
ภาคใต้
ชุมพร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220227182710973
650
การระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โคมิครอนในเด็กมากกว่า 7 หมื่นรายส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ
นายแพทย์ อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อํานวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2565 ที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน พบเด็กติดเชื้อแล้ว กว่า 7 หมื่นราย หรือร้อยละ 21 ของผู้ใหญ่ ซึ่งสูงกว่าการระบาดของสายพันธุ์เดลตากว่าร้อยละ 10 จากข้อมูลโดยร้อยละ 90 ไม่แสดงอาการและอาการน้อย ขณะที่อาการรุนแรงมีเพียงร้อยละ 1 โดยเข้าสู่การรักษาผ่านระบบของ สปชส.ทั้งการตรวจจากโรงพยาบาล หรือ คลินิกใกล้บ้าน และการตรวจผ่าน ATK ล่าสุด ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกแนวทางการรักษาโควิด-19 ในเด็ก โดยเด็กที่ไม่มีอาการให้ดูแลแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านได้ ไม่ต้องเข้าระบบบริการ Home isolation หากมีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงแนะนําให้ favipiravir เป็นเวลา 5 วัน โดยจัดให้มีช่องทางให้ผู้ป่วยติดต่อเข้ารับการประเมิน หรือรับการรักษาในโรงพยาบาลหากอาการเปลี่ยนแปลงและผู้ป่วยที่อาการรุนแรงให้เข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลซึ่งมีการครองเตียงร้อยละ 70 ยังเหลืออีกร้อยละ 30 อย่างไรก็ตาม เน้นย้ําให้ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุมากกว่า 5 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนและผู้ปกครองควรเป็นแบบอย่างการปฏิบัติตามมาตรการโควิด-19 ในครอบครัวอย่างเคร่งครัด ส่วนเด็กที่ติดเชื้อสามารถดูแลตามคําแนะนําแพทย์
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228101815060
651
ยะลา แจกไข่ไก่กระตุ้นประชาชนฉีดวัคซีน เข็ม 3
ยะลา กระตุ้นประชาชนฉีดวัคซีน เข็ม 3 ป้องกันโควิดโอมิครอน แจกไข่ไก่ ฟรี บรรยากาศคึกคัก ประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองยะลา ได้เดินทาง walk in เข้าฉีดวัคซีนเข็ม 3 กระตุ้นภูมิป้องกันโควิด-19 กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางศูนย์บริการสาธารณสุข ธนวิถี เทศบาลนครยะลา ได้เปิดให้บริการ ฉีดวัคซีน ทั้งเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 เข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 สําหรับประชาชนทั่วไป รวมถึงเด็กที่มีอายุ 5-11 ปี โดยมีวัคซีน 3 ชนิด คือ ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนฟาร์ม ที่จะให้บริการ ซึ่งมีทั้งผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ รวมถึงเด็กมาฉีดวัคซีนกันอย่างคึกคัก โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลยะลา สาธารณสุขเทศบาลนครยะลา ระดมกําลังให้บริการฉีดวัคซีนในครั้งนี้โดยตั้งเป้าผู้เข้ารับบริการ 1,000 คนประชาชนที่มาเข้ารับการฉีดวัคซีน เข็ม 3 บอกว่า เว้นระยะมา 4-6 เดือนแล้ว วันนี้ก็ได้มาฉีดเข็ม 3 เพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งในตอนนี้ ยะลาติดกันมากก็กลัวและกังวลอยู่เหมือนกัน ส่วนการป้องกันก็ยังเคร่งครัด และไม่ไปในสถานที่เสี่ยง ขณะที่ ประชาชนที่มาฉีดเข็ม 4 บอกว่า กังวลกับโควิดที่ระบาดในเมือง คนติดเยอะ พอครบกําหนดที่จะได้ฉีดเข็ม 4 ก็เลยมารับบริการทันที ส่วนมาตรการป้องกันสวมแมส เว้นระยะห่าง ล้างมือ ก็ยังคงเคร่งครัดเหมือนเดิมนอกจากนี้ สําหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนในวันนี้ ก็จะได้รับน้ําดื่ม 1 ขวด และไข่ไก่ฟรี คนละ 5 ฟอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมไว้ จํานวน 500 ชุด หากไม่เพียงพอก็อาจจะมีเพิ่มให้ด้วยสําหรับภาพรวมวัคซีนโควิด-19 จ.ยะลา ล่าสุด เมื่อ 27 ก.พ 65 ฉีดแล้วสะสม 703,010 โดส จากประชาชนรวม 547,992 คน แบ่งเป็น เข็ม 1 357,104 ร้อยละ 65.17 เข็ม 2 296,224 ร้อยละ 54.06 เข็ม 3 46,519 ร้อยละ 8.49 และ เข็ม 4 3,163 ร้อยละ 0.58 ทั้งนี้ จ.ยะลา ยังคงรณรงค์ให้ประชาชน เร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นในประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค เพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาด ตลอดจนลดความรุนแรง จากการติดเชื้อและลดการเสียชีวิต#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228101802059
652
จ.อุบลฯลงพื้นที่ พบปะพูดคุย ให้กำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ศูนย์ศึกษาพัฒนาชุมชน โรงพยาบาลสนาม ( CI จังหวัด)
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 นายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ลงพื้นที่พบปะพูดคุยให้กําลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ศูนย์ศึกษาพัฒนาชุมชน โรงพยาบาลสนาม (CI จังหวัด) ในการนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงสถานที่บริเวณหอประชุมยางนา ซึ่งเตรียมพร้อมสําหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จํานวนทั้งสิ้น 100 เตียง ซึ่งในขณะนี้ดําเนินการแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 70% คาดว่าจะเปิดดําเนินการใช้ได้ในสัปดาห์หน้า#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228105614078
653
จ.อุบลฯ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุม โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในพื้นที่อำเภอเดชอุดม
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 นายนคร ศิริปริญญานันท์ นายอําเภอเดชอุดม ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอําเภอเดชอุดม เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล กํานัน ผู้ใหญ่บ้านและ อสม. ลงพื้นที่ให้การตรวจเยี่ยมผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและกลุ่มเสี่ยงที่ถูกกักตัวในพื้นที่ จํานวน 7 ราย ได้แก่ ตําบลนาส่วง 4 ราย, ตําบลกลาง 3 ราย โดยได้ดําเนินการวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมให้คําแนะนําการปฏิบัติตัวในระหว่างการกักตัว (Home Quarantine) และไม่ให้เดินทางออกนอกหมู่บ้าน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ซึ่งผลการตรวจเยี่ยม พบว่าผู้กักกันตัวอาการทั่วไปปกติสถานการ์ผู้ป่วย COVID-19 (เฉพาะการระบาดรอบใหม่) เขตพื้นที่อําเภอเดชอุดม (1 ม.ค.65-ปัจจุบัน)- ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ จํานวน 30 ราย- ผู้ป่วยยืนยันสะสมจํานวน 1,355 ราย- กําลังรักษา 284 ราย- หายป่วยวันนี้ 40 ราย- หายป่วยสะสม จํานวน 1,108 ราย- เสียชีวิตรายใหม่ จํานวน 0 ราย- เสียชีวิตสะสม จํานวน 4 ราย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228110403080
654
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตราด ประชุมติดตามสถานการณ์โควิด – 19 พร้อมรับทราบการเตรียมความพร้อมนำแรงงานชั่วคราวเข้ามาทำงานในฤดูผลไม้ (ชั่วคราว) ตามมาตรา 64 ฯ
นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตราด ครั้งที่ 9/2565 เพื่อติดตามการดําเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดตราด ผ่านระบบ Webex โดยมีหน่วยงานหลัก เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด โดยการประชุมครั้งนี้ยังเป็นการประชุมร่วมคณะกรรมการอีก 3 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านกัมพูชา คณะกรรมการกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตราดสําหรับการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตราดในครั้งนี้ ได้มีการนําเสนอสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดตราด โดยในวันนี้ (28 ก.พ.65) มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 40 คน รักษาหาย 56 คน ทําให้ปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสม รวม 10,983 คน อยู่ระหว่างการรักษา 276 คน ยอดรวมเสียชีวิตรวม 106 คน สถานการณ์โควิดสายพันธุ์ Omicron ในพื้นที่จังหวัดตราด พบผู้ติดเชื้อ เป็นคนไทย 310 คน ต่างชาติ 83 คน รวม 393 คน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบเรื่องผลการตรวจประเมินตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ของสถานประกอบการ ตลาดนัด ตลาดสด สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในสถานศึกษาหลังการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ของสถานศึกษาในจังหวัดตราด ผลการปฏิบัติงานพื้นที่ชายแดนจังหวัดตราด รวมทั้งเรื่องของการเตรียมความพร้อมการนําแรงงานชั่วคราวเข้ามาทํางานในฤดูผลไม้ (ชั่วคราว) ตามมาตรา 64 แห่งพระราชกําหนดการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 โดยในเบื้องต้นได้มีการสํารวจระหว่างวันที่ 1 – 25 กุมภาพันธ์ 2565 มีจํานวนนายจ้างแจ้งความประสงค์ จํานวน 37 คน มีความต้องการแรงงานจํานวน 877 คน โดยไทม์ไลน์ ในการดําเนินการต่อไป ในวันที่ 1 มีนาคม 2565 จะมีการดําเนินการประสานการทํางานร่วมกันระหว่างประเทศด้านแรงงาน กับจังหวัดพระตะบองและจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งจะมีการตรวจสถานที่ใช้ในการดําเนินการ และตรวจประเมินสถานที่กักตัวของแรงงานต่างด้าว คาดว่าจะมีความพร้อมและนักแรงงานกัมพูชาเพื่อเดินทางเข้ามาทํางานและกักตัวก่อน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม เป็นต้นไปอย่างไรก็ตาม การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อในครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้ร่วมกันพิจารณาโครงการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ที่บ้าน (Home Isolation) ของสภากาชาดไทย การเปิดการเรียนการสอนแบบ On Site ในพื้นที่ และการขอรับการสนับสนุน งบประมาณเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติฉุกเฉิน กรณีฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228122212106
655
จ.ลำปางพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 378 ราย
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจําวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 09.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 378 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 364 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 14 ราย เป็นผู้ติดเชื้อยืนยันตรวจด้วยวิธี RT-PCR 47 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจด้วยวิธี ATK 331 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสม 8,445 ราย อยู่ระหว่างรักษา 3,149 ราย รักษาหายแล้วสะสม 5,228 ราย และเสียชีวิตสะสม 8 ราย ไม่นับรวมทันฑสถานบําบัดพิเศษลําปางสําหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ เวลา 09.00 น. ของวันเดียวกัน จังหวัดลําปางวัคซีนไปแล้ว 1,150,794 เข็ม จําแนกเป็นเข็มที่ 1 จํานวน 490,914 คน เข็มที่ 2 จํานวน 474,247 คน เข็มที่ 3 จํานวน 180,359 คน และเข็มที่ 4 จํานวน 5,274 คนจังหวัดลําปางขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรค DMHTT ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิด-19 ลําปาง โทร. 093 140 8023 ในวันเวลาราชการ และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือสอบถามที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน และขอเชิญชวนชาวลําปางซึ่งมีอายุ 5 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และฉีดกระตุ้นในเข็มที่ 3 ให้เร็วที่สุด #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228135032161
656
ศบค. ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในหลายจังหวัด แต่คลัสเตอร์โรงงานลดลง
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ต้องขอความร่วมมือประชาชนสงวนเตียงให้ผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจําตัว หรือผู้ตั้งครรภ์ ซึ่งแม้มีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ถ้ามีการติดเชื้อก็อาจจะโรคประจําตัวทรุดลงอย่างรวดเร็วได้ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ศปก.ศบค. ชื่นชมภาคประชาสังคมที่ทํางานช่วยเหลือภาครัฐ อาทิ กลุ่มเส้นด้าย สายไหมต้องรอด เราต้องรอด โคแคร์ ช่วยให้ความรู้ความเข้าใจให้คําแนะนําผู้ติดเชื้อเพื่อให้รับการรักษาที่บ้านและกรณีที่พบผู้ป่วยที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ ก็ยังช่วยประสานโรงพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาใน hospital โรงพยาบาลสนาม หรือ community isolationผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวเพิ่มเติมว่า นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อํานวยการสํานักพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ได้ให้ความเห็นว่า การร่วมมือของภาครัฐภาคประชาชน และ NGO ในการดึงทรัพยากรอันจํากัดของประเทศมาดูแลผู้ป่วย หรือผู้ติดเชื้อตั้งแต่ปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข ระบบสุขภาพของประเทศไทย ซึ่งโรค covid-19 ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ การมีแผนเผชิญเหตุเพียงแผนเดียวอาจไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีการติดตามสถานการณ์และปรับแผนให้เหมาะสม ส่วนการคาดการณ์ตัวเลขที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อาจทําให้ประชาชนไม่สบายใจ ขอเน้นย้ําว่ากระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานทุกส่วนมีการติดตามสถานการณ์โลก สถานการณ์เพื่อนบ้านและสถานการณ์ภายในประเทศอย่างใกล้ชิด ซึ่งนอกจากจะมีการคาดการณ์แล้ว ศบค. จะเสนอแผนเผชิญสถานการณ์เสมอส่วนมาตรการป้องกันควบคุมโรค ระดับ 4 ทุกจังหวัด ขอให้งดเข้าไปในสถานที่เสี่ยง สถานที่ปิดทึบ ที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดี มีการรวมกลุ่มของคนจํานวนมาก หนาแน่น เป็นเวลานาน ไม่มีการตรวจคัดกรองด้วย ATK ก่อนใช้บริการ โดยเฉพาะสถานบันเทิง รวมถึงการรวมกลุ่มทํากิจกรรมร่วมกัน การตั้งวงดื่มสุราและการเดินทางขอให้ชะลอก่อน ซึ่งการผ่อนคลาย กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ําเสมอว่า เพื่อให้ภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และการดําเนินชีวิตของประชาชน ยังสามารถไปต่อได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าโควิดจะจบลงแล้ว การที่ประชาชนจะทํามาค้าขาย เดินทางไปมาหาสู่ หรือทํากิจกรรมกิจการต่างๆ ยังมีความจําเป็น เราไม่สามารถล็อคดาวน์ได้อีกต่อไป แต่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่สามารถอยู่กับโรคได้อย่างปลอดภัย โดยเร็วๆนี้กระทรวงสาธารณสุข มีแผนที่จะรับมือบริหารแนวทางกําหนดให้สถานการณ์การแพร่ระบาดกลายเป็นโรคประจําถิ่นระยะต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการรักษาทางเลือกแบบผู้ป่วยนอกอยากใกล้ชิด รวมกับมาตรการส่วนบุคคล มีการให้ยาตามกลุ่มอาการ มีการติดตามการรักษาพญ.อภิสมัย กล่าวว่า มีการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา จังหวัดชลบุรี, ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี พบว่าส่วนใหญ่ติดมาจากบ้าน และมาแพร่ในโรงพยาบาล เป็นเหตุให้การดูแลรักษาผู้ป่วยต้องหยุดชะงักเพราะบุคลากรทางการแพทย์ต้องกลับตัว โรงเรียนกีฬาเทศบาลหนองหญ้าม้า จังหวัดร้อยเอ็ด/โรงเรียนเทศบาลวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร/ โรงเรียนบ้านตาดภูวง โรงเรียนบ้านขาม/โรงเรียนภูดินแดง/โรงเรียนอนุบาลเจริญศิลป์ และโรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษาโพธิ์คําอนุสรณ/ คลัสเตอร์ตลาด ตลาดสดเทศบาลตําบลโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ดตลาดชูเดชหนองบัวลําภู พิธีกรรมทางศาสนา ที่อํานาจเจริญ คลัสเตอร์งานบวช ที่หนองแมงดา งานศพ ที่จังหวัดสระแก้ว กาฬสินธุ์ สกลนคร เลย และศรีสะเกษส่วนคลัสเตอร์โรงงาน สถานประกอบการ พบว่า ลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณผู้ประกอบการ และกระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ที่รับผิดชอบ มีการเน้นย้ํามาตรการอย่างแข็งขัน ทําให้คลัสเตอร์และโรงงานค่อนข้างน้อย คลัสเตอร์สูงสุดของกรุงเทพฯ คือ โรงเรียน 18 คลัสเตอร์ สําหรับศูนย์พักคอย community isolation มี 31 แห่ง เตรียมเปิดอีก 9 แห่ง ซึ่งจะเพิ่มเตียงใน กทม.ได้อีก 970 เตียง
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228142500179
657
คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สุพรรณบุรี แจ้งจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วย COVID-19 และสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยข้อมูล สถานการณ์การใช้เตียงผู้ป่วย COVID-19 ประจําวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 เมื่อเวลา 16.00 น. จังหวัดสุพรรณบุรี มีเตียงรับผู้ป่วยทั้งหมด 1,878 เตียง มีผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั้งหมด 1,748 คน (บางโรงพยาบาลเสริมเตียงในห้องผู้ป่วย) มีเตียงคงเหลือ 315 เตียง โดยจําแนกผู้ป่วยเป็น 5 อาการ ดังนี้ 1.ผู้ป่วยไม่แสดงอาการ จํานวน 159 คน 2.ผู้ป่วยแสดงอาการเล็กน้อย จํานวน 1,043 คน 3.ผู้ป่วยอาการปานกลาง จํานวน 511 คน 4.ผู้ป่วยอาการปานกลาง ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือมีโรคร่วมสําคัญ จํานวน 26 คน 5.ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จํานวน 9 คนโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง มีเตียงรับผู้ป่วยทั้งหมด 700 เตียง มีผู้ป่วยเข้าทําการรักษา 666 คน มีเตียงคงเหลือ 251 เตียง และ Home Isolation ระดับจังหวัด 10 แห่ง จํานวน 1,266คน สําหรับสถานการณ์โรค COVID-19 จังหวัดสุพรรณบุรี วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 260 ราย รวมยอดจํานวนที่พบเชื้อสะสมระรอกใหม่ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน 8,182 ราย และรักษาหายแล้ว 4,332 ราย คงเหลือกําลังรักษาอีก 3,825 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มวันนี้ 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 25 ราย และรักษาหายแล้วกลับบ้าน 185 คน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228142314178
658
ศบค.ชุดเล็ก เตรียมเสนอมาตรการเดินทางเข้าประเทศ สำหรับคนไทย ที่ติดค้างอยู่ในประเทศยูเครน
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. รับทราบรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศยูเครน ที่มีการสู้รบและสํารวจ พบว่า มีคนไทยที่ยังติดค้างอยู่ในยูเครน ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อเดินทางกลับบ้าน 250-260 คน ซึ่งสถานทูตทั้งในประเทศยูเครนและประเทศข้างเคียง พยายามประสานติดต่อ เพื่อเตรียมการเคลื่อนย้ายคนไทยกลับบ้านด้วยเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งจะเร่งดําเนินการให้เร็วที่สุด โดยจะเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณารายละเอียดเรื่องการเดินทางเข้าประเทศแบบ test & go การเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อ เพื่อช่วยเหลือคนไทยกลับบ้านพญ.อภิสมัย กล่าวว่า การประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ ยังมีผู้แทนโรงเรียนต้นแบบ เป็นโรงเรียนแบบอย่างที่ควบคุมโรค covid -19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มารายงานผลการปฏิบัติการของโรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนมัธยมท่าแคลง, โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดชลบุรี ที่ดูแลนักเรียนบกพร่องทางการได้ยินและโรงเรียนสามมุกคริสเตียน จังหวัดชลบุรี นําเสนอนําเสนอผลการทํางานในที่ประชุม โดยโรงเรียนได้ติดตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สะท้อนให้เห็นว่า การที่โรงเรียนทํางานใกล้ชิดกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ขอความร่วมมือและทํางาน ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่อย่างแข็งขัน การลดอัตราการติดเชื้อ ทั้งในเด็กนักเรียน ครู และพนักงานโรงเรียน รวมถึงผู้ปกครอง สามารถทําได้อย่างมีประสิทธิภาพและขอให้ทุกโรงเรียนได้ศึกษารายละเอียดและนํามาตรการมาปรับใช้กับโรงเรียนของตัวเองต่อไป
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228142228177
659
ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 22,311 ราย เสียชีวิต 42 คน กทม.ยังติดเชื้อสูงสุด
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อระล่อกที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเป็นผู้ติดรายใหม่วันนี้ 22,311 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 668,492 ราย หายป่วยเพิ่ม 17,470 ราย รวมหายป่วยสะสม 486,855 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 213,645 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 980 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 280 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 42 คน รวมเสียชีวิตสะสม 1,235 คน ผู้ติดเชื้อในประเทศ 22,148 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 21,958 ราย จากการคัดกรองเชื้อโรคในชุมชน 190 ราย ในเรือนจํา 27 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 136 ราย//ส่วนผู้เสียชีวิต 42 คน เป็นชาย 23 คน หญิง 19 คน เป็นคนไทย 41 คน ออสเตรเลีย 1 คน อายุระหว่าง 2 - 102 ปี เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ร้อยละ 69 เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ร้อยละ 26 สําหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศวันนี้ สูงสุดอยู่ที่กรุงเทพฯ 2,779 ราย, ชลบุรี 1,275 ราย, นนทบุรี 1,095 รายสมุทรปราการ 1,068 ราย, นครศรีธรรมราช 957 ราย ซึ่งสิ่งที่ ศบค. เป็นห่วงคือ จังหวัดนนทบุรี ยังพบว่ามีผู้ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีน และผู้ได้รับวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ค่อนข้างต่ํา รวมถึงจังหวัดนครปฐม ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดในเรื่องนี้สําหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 435 ล้านราย เสียชีวิตสะสม 5.96 ล้านคน ผู้ติดเชื้อสูงสุดในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ได้แก่ เยอรมนี 14.7 ล้านราย, เกาหลีใต้ 3.13 ล้านราย, รัสเซีย 16.2 ล้านราย, บราซิล 28 ล้านราย, ตุรกี 14 ล้านราย
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228142126176
660
สุพรรณบุรี แถลงข่าวสถานการณ์โควิด -19 ตลอดจนแนวทางการป้องกัน พร้อมต้อนรับผู้ป่วยกลับบ้าน ตามมาตรการ เจอ แจก จบ
ที่ศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(COVID -19) สุพรรณบุรี ห้องพลายแก้ว ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานแถลงข่าวสถานการณ์โควิด -19 สุพรรณบุรี ในภาพรวมและแนวทางการบริหารจัดการป้องกันและคําสั่งจังหวัดสุพรรณบุรี โดยนายเทิดศักดิ์ จารุจารีต หัวหน้ากลุ่มงานโรคติดต่อ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์โควิด -19 สุพรรณบุรี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 200-300 ต่อ สัปดาห์ ทั้ง 10 อําเภอของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่ง โควิด -19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นสายพันธ์การแพร่เชื้อในอากาศ ทําให้เกิดการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว ส่วนคลัสเตอร์ ที่พบเป็นกลุ่มก้อน ได้แก่ สถานประกอบการ โรงงาน ร้านอาหาร โรงเรียน และอื่นๆ แต่ทุกแห่งปฏิบัติตามคําแนะนําของผู้ว่าราชการจังหวัดตลอดจนมาตรการและคําสั่งของทางจังหวัดอย่างเคร่งครัด จึงทําให้สามารถจํากัดวงของการติดไม่ให้แพร่กระจายไปยังทุกๆ คน ในสถานที่นั้นๆ ส่วนสาเหตุเกิดจากการมีกิจกรรมสังสรรค์ การเปิดแมสรับประทานอาหาร ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีนโยบาย “รัก รอ อยู่” ใครป่วย กลับบ้าน คนสุพรรณต้องมีเตียง พร้อมนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ให้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ได้เข้าถึงระบบรักษาอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว โดยกระทรวงสาธารณสุข จะเพิ่มเติมแนวทางการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบ "เจอ แจก จบ" เป็นผู้ป่วยนอกไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ควบคู่ไปกับระบบการดูแลรักษาที่บ้านหรือชุมชน (HI/CI) โดยเมื่อผู้ป่วยได้ยืนยันผลเป็นบวกด้วย ATK แล้ว และได้ทําการแจ้งขอเข้ารับการรักษาในระบบ แพทย์จะพิจารณาจ่ายยารักษา 3 สูตร ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาฟ้าทะลายโจร ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ แก้ไอ ลดน้ํามูก ตามอาการของผู้ติดเชื้อได้ด้าน นายเดชะ สิทธิสุทธิ ผอ.กลุ่มอํานวยการ รักษาราชการแทนหัวหน้าสํานักงานจังหวัดสุพรรณบุรี ฝากให้ชาวสุพรรณบุรี ปฏิบัติตามคําสั่งและประกาศของจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ /เอกชน งดใช้เครื่องปรับอากาศ งดการรับประทานอาหารร่วมกัน งดจัดอบรมสัมมนาที่รวมคนจํานวนมาก การจําหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม งดบริการที่โต๊ะนอกจากนี้ การจัดงาน อนุสรณ์ดอนเจดีย์ ประจําปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง 5 - 19 มีนาคม 2565 ถือว่าเป็นงานที่เป็นอัตลักษณ์จองจังหวัด ซึ่งผู้ที่จะเข้างานต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน อย่างน้อย 2 เข็ม/ผลตรวจ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง กลุ่มเปราะบาง 608 หากยังไม่ฉีดวัคซีนงดเข้างาน/ลดกิจกรรม เช่น คอนเสิร์ต นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจด้วยเครื่องโมบายต้องใช้โทรศัพท์สแกนคิวอาร์โค้ดเข้างาน ซึ่งอาจไม่สะดวกแก่ผู้มาเที่ยวชมงาน แต่ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสุพรรณบุรี อย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อสงสัย ขอให้ประสานไปยังท้องถิ่น หรือทางอําเภอ เพื่อขอคําปรึกษาการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อย่าประมาท การ์ดอย่าตก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228153217232
661
จังหวัดสตูล พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วย จำนวน 123 ราย
นายแพทย์สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า วันนี้ (28 ก.พ. 65) มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จังหวัดสตูล จํานวนทั้งหมด 123 ราย โดยทีมสอบสวนโรคสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูลร่วมกับหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคระดับอําเภอ ลงสอบสวนโรคในวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหา ขอบเขตการระบาดแหล่งโรค ปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ และให้คําแนะนําการป้องกันควบคุมโรคเบื้องต้นผลการสอบสวนโรค ผู้ป่วยทั้งหมด จํานวน 123 ราย แยกเป็นรายอําเภอ ดังนี้ อําเภอเมือง จํานวน 57 ราย เพศชาย จํานวน 18 ราย อายุระหว่าง 5 เดือน - 78 ปี เพศหญิง จํานวน 39 ราย อายุระหว่าง 2 - 68 ปี ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลพิมาน ตําบลฉลุง ตําบลควนขัน ตําบลคลองขุด ตําบลบ้านควน ตําบลเกตรี ตําบลเจ๊ะบิลัง ตําบลควนโพธิ์ และตําบลตันหยงโป อําเภอเมือง เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วย อําเภอควนโดน จํานวน 17 ราย เพศชาย จํานวน 8 ราย อายุระหว่าง 36 - 84 ปี เพศหญิง จํานวน 9 ราย อายุระหว่าง 5 เดือน - 78 ปีภูมิลําเนาอยู่ ตําบลควนโดน ตําบลควนสตอ และตําบลวังประจัน อําเภอควนโดน เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วย อําเภอควนกาหลง จํานวน 11 ราย เพศชาย จํานวน 2 ราย อายุ 2 และ 43 ปี เพศหญิง จํานวน 9 ราย อายุระหว่าง 23 - 56 ปี ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลควนกาหลง ตําบลอุใดเจริญ และตําบลทุ่งนุ้ย อําเภอควนกาหลง เป็นกลุ่มสัมผัสป่วย อําเภอท่าแพ จํานวน 32 ราย เพศชาย จํานวน 12 ราย อายุระหว่าง 3 เดือน 1 ปี เพศหญิง จํานวน 20 ราย อายุระหว่าง 24 - 81 ปี ภูมิลําเนาอยู่ ต่าบลท่าแพ ตําบลท่าเรือ ต่าบลแป-ระ และตําบลสาคร อําเภอท่าแพ เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วย อําเภอมะนัง จํานวน 6 ราย เพศชาย จํานวน 4 ราย อายุ 17, 26, 23 และ 42 ปี เพศหญิง จํานวน 2 ราย อายุ 26 และ 37 ปี ภูมิลําเนาอยู่ ตําบลปาล์มพัฒนา และตําบลนิคมพัฒนา อําเภอมะนัง เป็นกลุ่มสัมมัสผู้ป่วยจากการติดตามสืบสวนสอบสวนค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด และผู้สัมผัสร่วมบ้านของผู้ป่วยทั้ง 123 ราย ในเบื้องต้น มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จํานวน 152 คน ต้นรักตัวที่บ้าน (HQ) จํานวน 152 คน พร้อมคําแนะนําให้ปฏิบัติตามมาตรการ มีสุขอนามัยที่ดี อยู่ในความดูแลเฝ้าสังเกต อาการโดยหมอครอบครัว ส่วนอาคารสถานที่ต่าง ๆ ทําความสะอาดฆ่าเชื้อโดยผู้ประกอบการ เจ้าของเรียบร้อยแล้วนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล กล่าวอีกว่า วันนี้จังหวัดสตูลพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และมีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งมีการกักตัวตามมาตรการการควบคุมป้องกันโรคโดยคําแนะนําของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากพบผู้ติดเชื้อทีมงานสอบสวนโรค จะลงพื้นที่เพื่อสอบสวนโรคทันที และเมื่อพบผู้สัมผัสผู้ปวยก็จะให้กักตัวทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พร้อมเน้นย้ํา ทีมหมอครอบครัวดูแลอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังอาการเป็นหวัด รีบรักษาโดยเร็ว แต่ถึงอยางไรก็ตามการป้องกันเชื้อโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องขอความร่วมมือประชาชนในการมีสุขนามัยที่ดี ป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคใต้
สตูล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228151737219
662
อบจ.ลำปาง มอบเครื่องอุปโภคช่วยผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 พื้นที่ อ.แจ้ห่ม อ.วังเหนือ และ อ.งาว
นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง พร้อมด้วย นายลัพธวิทย์ จรรยาวิจิตร เลขานุการนายก อบจลําปาง นําเครื่องอุปโภค-บริโภค มอบแก่ผู้นําท้องถิ่น ผู้นําท้องที่ และ อสม. เพื่อส่งมอบต่อผู้ที่ต้องกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคโควิด -19 ในพื้นที่ 3 อําเภอ ได้แก่ บ้านใหม่สามัคดี ตําบลทุ่งผึ้ง อําเภอแจ้ห่ม จํานวน 69 ชุด อําเภอวังเหนือ 203 ชุด และ อบต. บ้านอ้อน อําเภองาว 40 ชุดนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง กล่าวว่า มีความห่วงใยประชาชนจึงได้นําเครื่องอุปโภคมามอบให้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่ต้องกักตัวตามมาตรการป้องกันรักษาโรคโควิด-19 และให้กําลังใจผู้นําท้องถิ่นท้องที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อสม.ที่ทํางานอย่างเหน็ดเหนื่อยต่อเนื่องยาวนานกว่า 2 ปี นับตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19นอกจากนี้ คณะได้ลงพื้นที่พร้อมกับผู้นําท้องถิ่น นายถวิล กุญชร นายกเทศมนตรีตําบลทุ่งผึ้ง อําเภอแจ้ห่ม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและสมาชิกสภา ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยในตําบลทุ่งผึ้ง เข้าตรวจสอบปัญหาถนนสายทางแจ้คอนร่องเคาะ ช่วงที่เชื่อมระหว่างบ้านทุ่งผึ้งกับทุ่งฝูง และลงพื้นที่ร่วมกับนางอําพร คิดตาโย นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านอ้อน อําเภองาว พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยสํารวจเส้นทางไปหล่มภูเขียว รวมถึงสะพานทางเชื่อมภายในพื้นที่ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228153347234
663
ยะลา พบโควิดรายใหม่ 200 ราย
สําหรับสถานการณ์ โควิด -19 จังหวัดยะลา ในวันที่ 28 ก.พ 65 วันนี้พบ รายใหม่ 200 รายเพิ่มขึ้น 8 ราย จากเมื่อวานนี้ (27 ก.พ 65) ที่มี จํานวน 192 ราย ป่วยสะสม 2,400 ราย กําลังรักษา 5,179 ราย รักษาหายแล้ว 1,910 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม สะสมเสียชีวิตคงที่ 13 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายตรวจ ATK พบผลบวกเพิ่ม 501 ราย สะสมรวม 5,006 ราย สําหรับ 192 รายใหม่ พบในอําเภอเมือง 74 ราย อ.บันนังสตา 61 ราย อ.ยะหา 15 ราย อ.รามัน 20 ราย อ.เบตง 18 ราย อ.กาบัง 2 ราย อ.กรงปินัง 5 ราย และ อ.ธารโต 5 ราย ขณะที่ ผลการตรวจคัดกรองตามมาตรการด้านสาธารณสุข รวมสะสม 19,015 ราย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228155334244
664
อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ประชุมสรุปสถานการณ์ปัจจุบัน เตรียมความพร้อมหารือมาตรการและแนวทางรับมือ และประเมินสถานการณ์ในระยะต่อไป
พ.จ.อ.ธวัช ช่วยเกตุ ปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง เป็นประธานในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอําเภอควนโดน ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ ห้องประชุมที่ว่าการอําเภอควนโดน โดยมี ผอ.รพ.ควนโดน สภ.ควนโดน ปลัดอําเภอ สสอ. ผอ.รพ.สต.ทุกแห่ง ท้องถิ่นอําเภอ อปท.ทุกแห่ง และกํานันทุกตําบล เข้าร่วมประชุมสรุปสถานการณ์ปัจจุบัน เตรียมความพร้อมหารือมาตรการและแนวทางรับมือ และประเมินสถานการณ์ในระยะต่อไป รวมทั้งหารือการบริหารจัดการศูนย์พักคอย CI และ HI ในพื้นที่อําเภอควนโดน พร้อมทั้งได้ร่วมกันวางแผนการรณรงค์ฉีดวัคซีนเชิงรุกให้แก่กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะหมู่บ้านที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในชุมชนหมู่บ้านโอกาสนี้ ส.ส.พิบูลย์ รัชกิจประการ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและพบปะให้กําลังใจแก่คณะทํางานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอําเภอควนโดน พร้อมทั้งได้ให้การสนับสนุนยาฟ้าทะลายโจร จํานวน 600 ชุด โดยมีปลัดอาวุโสและผอ.รพ.ควนโดน เป็นผู้รับมอบ ส่งต่อให้กับ รพ.ควนโดน เพื่อใช้แจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องรับการรักษาตัวต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคใต้
สตูล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228155720246
665
จ.สุราษฎร์ธานีประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 7/2565
วันนี้ (28 ก.พ. 65) ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อําเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 7/2565 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อพิจารณามาตรการทางสังคมเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เช่นการระบาดเป็นกลุ่มก้อนการลักลอบเล่นการพนัน สนามชนไก่ อําเภอพระแสง อําเภอเวียงสระ อําเภอท่าฉาง อําเภอไชยา อําเภอคีรีรัฐนิคม อําเภอท่าชนะเป็นต้นสถานการณ์โควิด 19 สถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทย พบผู้ป่วยผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกภูมิภาค ทําให้พบผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ป่วยเสียชีวิต มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง อ้วน และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เน้นสื่อสารรับการฉีดวัคซีนทุกเข็ม โดยเฉพาะ Booster dose ที่จะช่วยลดอาการป่วยหนักได้รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล UP เน้นตรวจการระบาดในลักษณะ Cluster ในกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง และสถานที่เสียงต่อการแพร่ระบาดในวงกว้าง เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ บาร์กิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 500 คนในสถานที่ปิด พูดคุยและไม่สวมหน้ากากเป็นเวลานานเสนอทุกจังหวัด ตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ใส่ท่อช่วยหายใจ update รายงานข้อมูลผู้ป่วยอาการหนักในระบบCo-Ward รวมทั้งจัดทํา Dead case conference กรณีเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุการตาย เช่น พบติดเชื้อวันที่เสียชีวิต การตรวจสอบการได้รับวัดชื่น โรคประจําตัว ลักษณะอาการเข้าได้กับ COVID-19เสนอพิจารณา ปรับกลไกการติดตามและการรายงานข้อมูลผู้ป่วยอาการหนัก ในระบบ Co-Ward ให้ทันเวลาและครบถ้วน ในระดับเขต ทั้งนี้เพื่อทราบการได้รับวัคซีน อาการป่วยจากโควิด-19/โรคเรื้อรัง-โรคประจําตัวเป็นต้นสําหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีน (COVID-19) ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 28 ก.พ.65 กลุ่ม 608 จํานวน 293,953 เข็มที่ 1 จํานวน 250,542 คิดเป็น 85.23 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 จํานวน 239,798 คิดเป็น 81.58 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 3 จํานวน 66,575 คิดเป็น 22.65 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 4 จํานวน 4,539 คิดเป็น 1.54 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ได้รับวัคซีน จํานวน 43,411 คน ประชาชนทั่วไป จํานวน 757,519 คน เข็มที่ 1 จํานวน 555,548 คิดเป็น 73.34 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 จํานวน 519,159 คิดเป็น 68.53 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 3 จํานวน 169,229 คิดเป็น 22.34 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 4 จํานวน 26,591 คิดเป็น 3.51 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ได้รับวัคซีน จํานวน 201,971 คน นักเรียน 12-17 ปี จํานวน 86,598 คน เข็มที่ 1 จํานวน 84,735 คิดเป็น 97.85 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 จํานวน 79,021 คิดเป็น 91.25 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 3 จํานวน 429 คิดเป็น 0.50 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 4 จํานวน 59 คิดเป็น 0.07 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ได้รับวัคซีน จํานวน 1,863 คน และเด็ก 5 - 11 ปี จํานวน 97,674 คน เข็มที่ 1 จํานวน 10,406 คิดเป็น 10.65 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 จํานวน 132 คิดเป็น 0.14 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 3 จํานวน 16 คิดเป็น 0.02 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 4 จํานวน 0 คิดเป็น 0 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ได้รับวัคซีน จํานวน 87,268 คน.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228162810262
666
พ่อเมืองแปดริ้ว กำชับ 3 เสือ หากตรวจพบติดเชื้อ เจอ จ่าย จบ
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยวันนี้ได้มีการปรับยุทธศาสตร์มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 เนื่องจากเชื้อไวรัสที่พบส่วนใหญ่ในช่วงนี้เป็นสายพันธุ์ โอมิครอน แม้อาการไม่รุนแรงแต่ก็ติดได้ง่าย เร่งตรวจ หากเจอ จ่าย จบ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างทันท่วงทีที่ประชุมวันนี้ จึงได้มอบหมายให้ 3 เสือ ประกอบด้วย นายอําเภอ ผอ.รพสต. และ สาธารณสุขอําเภอ หากพบผู้ติดเชื้อ ให้รีบสอบสวนโรค หากมีอากาเล็กน้อย ให้ประเมินว่าสภาพที่พักเหมาะสมแก่การกักตัวหรือไม่ หากไม่เหมาะ ต้องจัดหา ศูนย์พักคอยให้ และ เข้าระบบ มีการสั่งยา ส่งอาหาร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมกําชับ ศูนย์พักคอย ใต้ร่วมพระบารมี ให้เตรียมความพร้อมในการรองรับผู้ติดเชื้อด้วยและเนื่องจากขณะนี้ ได้มีประชาชนมักนิยมเลือกซื้อชุดตรวจ ATK มาตรวจด้วยตัวเองที่บ้าน และปัจจุบันมีการจําหน่ายชุดตรวจ ATK หลากหลายยี่ห้อ และหลายราคา มีทั้งแบบ แยงจมูก และใช้น้ําลายในการตรวจสอบ นพ.ศรีศักดิ์ ตั้งจิตธรรม นพ.สสจ. ฉะเชิงเทรา ได้แนะนําประชาชนหากประสงค์จะซื้อชุดตรวจ ATK ซึ่งเป็นแบบ Home use ควรซื้อจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรแนะนํา และดูเครื่องหมาย อย. ด้วยนอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า สําหรับประชาชนที่ซื้อชุดตรวจ ATK ไปตรวจสอบด้วยตัวเอง แล้วพบว่าติดเชื้อ ให้รีบไปที่หน่วยรักษาพยาบาล หรือ รพ.สต. ใกล้บ้าน เพื่อจะได้เข้าสู่ระบบ และรีบรักษา ซึ่งหากมีอาการไม่มากนัก จะให้พักรักษาตัวที่บ้าน แต่หากบ้านพักมีความไม่เหมาะสมในการกักตัว จะได้รีบจัดหาศูนย์พักคอยให้ใช้เวลาในการให้ยารักษา 10 วัน และกลับมากักตัวเองอีก 4 วัน โดยประมาณ และที่สําคัญทุกคนควรสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองด้วยการฉีดวัคซีน ขณะนี้ทุกท่านสามารถขอเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่ รพ.ประจําอําเภอทุกแห่ง หรือจะเดินเข้ามาขอฉีดได้ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งจะมีบริการไปจนถึงเดือนพฤษภาคมศกนี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคตะวันออก
ฉะเชิงเทรา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228170905288
667
คลัสเตอร์ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โควิด -19 จังหวัดลําปาง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 หลังพบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 คลัสเตอร์ทัณฑสถานบําบัดพิเศษลําปาง ตําบลปงยางคก อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง จํานวนผู้ป่วย 14 ราย กลุ่มเสี่ยงสูง 220 ราย เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ล่าสุด ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยสะสม 1,011 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3 ราย รักษาหายแล้วสะสม 1,008 ราย ทั้งหมดดูแลตัวเองในทันฑสถานบําบัดพิเศษ ตามมาตรการ Bubble and Seal เป็นระยะเวลา 28 วัน แยกผู้ป่วยไปรักษา ณ เรือนจําโครงสร้างเบา ซึ่งเตรียมไว้เป็นโรงพยาบาลสนามให้การรักษาแบบ Home Isolation; HI ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่ป่วย แยกกักตามเรือนนอน และเฝ้าสังเกตอาการ และงดให้ญาติเยี่ยมมาก่อนแล้ว 1 เดือน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครบ 100 % และเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง เป็นระยะเวลา 10 วัน จังหวัดลําปาง ขอความร่วมมือประชาชน ปรับตัวอยู่ร่วมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยวิถีชีวิตใหม่ (VUCA) คือ ฉีดวัคซีนให้ครบ (V) เพื่อลดอัตราการป่วยรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิต ป้องกันการติดเชื้อตามหลัก Universal Prevention (U) ออกจากบ้านเมื่อจําเป็น สวมแมส รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ทุกกองค์กร ทุกหน่วยงาน ดําเนินมาตรการ COVID FREE SETTING (C) การให้พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส การคัดกรองความเสี่ยงพนักงานด้วยชุดตรวจ ATK และการจัดสถานที่ทํางานให้สะอาด ปลอดภัยจากแพร่กระจายเชื้อโควิด-19#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228174816310
668
ชวนผู้สูงอายุ และกลุ่ม 608 รับวัคซีนป้องกันโควิดเข็มกระตุ้น ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 ล่าสุดไทยฉีดวัคซีนแล้ว 123,568,670 โดส แบ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 1 แล้ว กว่า 53 ล้านคน คิดเป็นความครอบคลุมร้อยละ 77 เข็ม 2 ได้รับแล้ว 49 ล้านคน หรือร้อยละ 71.5 เข็ม 3 ขึ้นไป 20 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 29.2 จากข้อมูลที่ผ่านมายืนยันวัคซีนทุกชนิดที่รัฐบาลนํามาบริการประชาชนมีความปลอดภัยผ่านการรับรองจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประสิทธิภาพการป้องกันโรคเป็นไปตามมาตรฐาน แม้บางตัวอาจตอบสนองกับเชื้อแต่ละสายพันธุ์ต่างกัน ซึ่งกับสายพันธุ์โอมิครอนทุกตัวตอบสนองลด จึงต้องฉีดเข็มกระตุ้นเป็นสําคัญ แต่จนถึงปัจจุบันวัคซีนทุกก็ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิต แม้โอมิครอนจะไม่รุนแรง เชื้อไม่ลงปอด ส่วนใหญ่อยู่ที่โพรงจมูก จนทําให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีอาการเด่นคือ เจ็บคอ อัตราเกิดปอดอักเสบมีเพียงร้อยละ 0.45 แต่ยังทําให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จึงขอชวนผู้สูงอายุและกลุ่ม 608 มารับวัคซีน อย่างน้อย 2 เข็ม จะช่วยลดการเสียชีวิตได้ลงได้ 6 เท่า แต่หากรับเข็มกระตุ้น เข็ม 3 ขึ้นไป จะช่วยลดการเสียชีวิตลงถึง 41 เท่าเมื่อเทียบกับวัยเดียวกันที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนส่วนที่มีความกังวลาเรื่องเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ BA.2 นั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า BA.2 แพร่เร็วกว่าสายพันธุ์ BA.1 เล็กน้อย แต่ความรุนแรงไม่ต่างกัน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคเรื้อรังถึงร้อยละ 70-80 ที่คาดจะเกิดจากตัวโรคเดิมเองเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม แม้โควิดตอนนี้จะแพร่เป็นวงกว้าง แต่สามารถชะลอได้ด้วยความร่วมมือของประชาชนช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการ VUCA หากเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ติดเชื้อ คือมีการพูดคุยในระยะ ไม่เกิน 2 เมตรเกิน 5 นาที หรืออยู่ห้องเดียวกันอากาศปิดเกิน 30 นาที แต่หากไม่ใส่หน้ากากอนามัยทั้งคู่จะถือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงทันที ซึ่งกลุ่มนี้แนะใช้สูตร 7+3 คือ ให้กักตัวเองที่บ้าน 7 วัน ตรวจ ATK ในวันที่ 5-6 หากผลเป็นลบให้ออกจากบ้านได้แต่ช่วง 3 วันให้เน้นป้องกันตัวเองสูงสุด และเลี่ยงเข้าไปในที่สาธารณะ
28/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228201556372
669
จนท.ยะลา ออกตรวจสถานประกอบการ ยื่นความประสงค์ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการคาราโอเกะย้ำเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19
วันนี้ (28 ก.พ.65) ภายใต้อํานวยการของ นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอําเภอเมืองยะลา ผอ.ศปก.อ.เมืองยะลา และ นายสมบูรณ์ พรหมณี ปลัดอาวุโส รอง ผอ.ศปก. อ.เมืองยะลา มอบหมายให้ นายพิสาน บุญแก้ว ปลัดอําเภอ และ นายรุ่งเรือง จันทร์แสงดี เจ้าหน้าที่ปกครองชํานาญงาน เป็นผู้แทนนายอําเภอ ตามคําสั่งจังหวัดยะลา ที่ 1726/2560 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติภาพยนต์และวิดีทัศน์ พ.ศ. 2551 ระดับอําเภอ ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดยะลา วัฒนธรรมอําเภอเมืองยะลา ผู้แทนสาธารณสุขอําเภอ และผู้แทนสถานีตํารวจภูธรเมืองยะลา ออกตรวจสถานประกอบการซึ่งยื่นความประสงค์ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการคาราโอเกะ แห่งพระราชบัญญัติภาพยนต์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 จํานวน 2 แห่ง ประกอบด้วย ร้านครูเรือง ถ.เวฬุวัน ต.สะเตง และ ร้านรูม 59 บาย ลาภปาก ซ.โลจายะ ถ.เมืองใหม่ ต.สะเตง ผลการตรวจ ได้แนะนําให้ผู้ประกอบการทั้งสองแห่ง ปรับปรุงสถานที่ ประกอบการขออนุญาต โดยให้ติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ทางหนีไป/ทางออกฉุกเฉิน ติดตั้งถังดับเพลิงในจุดที่สังเกตุและหยิบใช้ได้ง่าย ติดตั้งเครื่องสํารองไฟฉุกเฉินในพื้นที่สําคัญของสถานที่ นอกจากนี้ยังได้ กําชับการปฏิบัติของสถานประกอบการในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งการจัดจุดคัดกรองโรค และการคัดกรองโรค ของพนักงาน และผู้ใช้บริการเป็นประจํา การจําหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา เป็นไป ตามคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ และร้านคาราโอเกะ ยังคงปิดสถานที่ จึงให้ผู้ประกอบการงดการดําเนินใดๆ ในกิจการคาราโอเกะ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228184434337
670
ผู้ว่าฯ สตูล นำส่วนราชการ ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจผู้กักตัวสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านเอมิเรตส์ ตำบลฉลุง หลังพบผู้ติดเชื้อแล้ว 37 คน
นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล และหลายภาคส่วนร่วมลงพื้นที่เยี่ยมและให้กําลังใจนักเรียนหญิงที่สถานสงเคราะห์เด็กกําพร้าบ้านเอมิเรตส์ ตําบลฉลุง อําเภอเมือง จังหวัดสตูล จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้หลายพื้นที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีผู้ป่วยที่กําลังรักษาตัวอยู่จากการยืนยันผลตรวจด้วยวิธี RT-PCR จํานวน 1,923 ราย และผลตรวจ ATK 5,372 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 65) ในสถานพยาบาลและระบบ HI และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดให้มี CI เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อด้วย ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวนั้น นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เตรียมลงพื้นที่ให้กําลังใจผู้ติดเชื้อและผู้กักตัว ณ อําเภอต่างๆ โดยวันนี้ ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กําลังใจนักเรียนที่สถานสงเคราะห์เด็กกําพร้าบ้านเอมิเรตส์ อําเภอเมืองสตูล ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรวม 37 ราย เป็นนักเรียนหญิง 36 ราย และเจ้าหน้าที่เลี้ยงดูเด็กอีก 1 ราย ซึ่งใช้อาคารสถานสงเคราะห์ฯ จัดให้เป็น HI สําหรับดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 8 ราย จากทั้งหมด 45 ราย กักตัวอาคารอีกหลัง ในโอกาสนี้ สํานักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล มอบผ้าห่มสภากาชาดไทย จํานวน 20 ผืน , หน้ากากอนามัยตราสภากาชาดไทย จํานวน 100 ชิ้น , ปลากระป๋อง 40 กระป๋อง , ชุดสบู่ แชมพู ผงซักฟอก ถุงดํา 38 ชุด , เจลแอลกอฮอล์ 40 หลอด , ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสตูล มอบผ้าเช็ดตัว 12 ผืน , สํานักงานจังหวัดสตูลมอบน้ําดื่ม 19 แพ็ค และหน่วยงานต่างๆ ร่วมสนับสนุนสิ่งของอุปโภคบริโภคอีกหลายรายการ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228190412339
671
จังหวัดเพชรบุรี ห่วงการกำจัดขยะติดเชื้อจากโรคโควิด -19 และห่วงใยสุขภาพความปลอดภัยของชุมชนชาวบ้านโป่งลึกบางกลอย หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 มีจำนวนเพิ่มขึ้น
นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี , รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการฯ ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรี ณ ห้องประชุม สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด -19 ในพื้นที่ชุมชน ชาวบ้านโป่งลึกบางกลอย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดําเนินการจัดการป้องกันสกัดหยุดเชื้อทุกด้าน เบื้องต้นเปิดศูนย์กักตัว ฯ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยดูแลเรื่องอาหารการกิน ,การรักษาพยาบาลโดยทีมโรงพยาบาลแก่งกระจาน และที่สําคัญมีความห่วงใย เรื่องการจัดการขยะติดเชื้อ เนื่องจากบริเวณพื้นที่บ้านโป่งลึกบางกลอย เป็นแนวเขตแหล่งต้นน้ําของแม่น้ําเพชรบุรี จึงต้องระมัดระวังในการบริหารจัดการ การกําจัดขยะติดเชื้อ ไม่ให้เกิดปัญหาส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ทางด้านแพทย์หญิงอนุธิดา ประทุม ผู้อํานวยการโรงพยาบาลแก่งกระจาน กล่าวว่า โรงพยาบาลแก่งกระจาน ร่วมกับสาธารณสุขอําเภอแก่งกระจาน ให้การดูแลจัดการ การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ ชาวบ้านโป่งลึกบางกลอย กลุ่มเปราะบาง ตามแนวทางของกรมการแพทย์ ทั้งจัดการด้านยา เครื่องอุปโภคบริโภค ดูแลเรื่องอาหารการกิน เรื่องการรักษาพยาบาล ให้ผู้ป่วยปลอดภัย และหายป่วยกลับมาสู่ในสภาวะปกติได้เร็วที่สุด พร้อมทั้งมีการเฝ้าระวัง ป้องกันคนเข้าออก และคัดกรองโดยใช้ atk จะสามารถ เข้า ออกได้ต้องแสดงผลตรวจ atk อย่างชัดเจนรวมถึงผลการฉีดวัคซีน ก่อนที่จะเข้าไปในแดนของโป่งลึกบางกลอย นอกจากนั้น นายแพทย์สุทัศน์ ไชยยศ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี กล่าวเพิ่มเติมในด้านบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึง อสม. ว่า สามารถบูรณาการร่วม ในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งบุคลากรทุกคนได้รับวัคซีนครบ 4 เข็ม เกือบ 100% ถือเป็นความปลอดภัย และสนับสนุนชุด ppe หน้ากาก อุปกรณ์ต่างๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ มีความพร้อมทุกด้านในการให้ความช่วยเหลือให้ชาวบ้านโป่งลึกบางกลอยปลอดภัยจากโรคโควิด -19 จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/2/2022
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220228214238413
672
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จออกแทนพระองค์ ทรงประกอบพิธีบวงสรวง เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2565 ณ วังเทเวศร์
วันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16 นาฬิกา 3 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จออกแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ณ วังเทเวศร์ เพื่อทรงประกอบพิธีบวงสรวง เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2565 ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนที่หอพระ พร้อมกับทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนที่หอพระบ้านหม่อมหลวงสราลี กิติยากร แล้วเสด็จไปยังศาลพระภูมิ ทรงผูกผ้าสีชมพู ทรงคล้องพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนถวายสักการะ ทรงคม แล้วทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ทรงจุดประทัด จากนั้น เสด็จไปยังโต๊ะเครื่องสังเวย หน้าพระตําหนัก ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดเทียนแดงและทรงจุดธูปหางปักที่เครื่องสังเวย ทรงกราบ แล้วทรงเผากระดาษเงินกระดาษทองและทรงจุดประทัด วันตรุษจีน ถือเป็นวันสําคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน มีการประกอบพิธีตามประเพณี เพื่อสักการะเทพเจ้าและอุทิศแด่บรรพบุรุษ เพื่อความเป็นสิริมงคล ตลอดจนขอพรให้พืชผลทางการเกษตรงอกงาม อุดมสมบูรณ์ ค้าขายรุ่งเรือง มีกิน มีใช้ ตลอดทั้งปี มีการถือปฏิบัติ 3 วันคือ วันจ่าย หรือก่อนวันสิ้นปี นิยมซื้ออาหารคาวหวาน ขนมมงคล ผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ ซึ่งล้วนมีความหมาย เป็นสิริมงคลต่อชีวิต วันไหว้ หรือวันสิ้นปี มีการไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูตามคติจีนและวันขึ้นปีใหม่ หรือวันเที่ยว ที่นิยมปฏิบัติแต่สิ่งดีงาม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202162219670
673
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ดังนี้
เวลา 13 นาฬิกา 37 นาที วันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2565 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังโรงเรียนคําม่วง อําเภอคําม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อทรงเปิดอาคาร "สิริสินธุศาสตร์" โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้มีจิตศรัทธา เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อสมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร จากนั้น พระราชทานสิ่งของ แก่รองผู้อํานวยการโรงเรียนคําม่วงและตัวแทนนักเรียน พระราชทานของที่ระลึก แก่ผู้มีอุปการคุณต่อโรงเรียนคําม่วงเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ต่อจากนั้น ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายอาคารสิริสินธุศาสตร์ เป็นอาคารเรียนขนาด 4 ชั้น 24 ห้องเรียน ซึ่งทางโรงเรียนฯ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประดับ ณ อาคารฯ และอักษรพระนามาภิไธย "สธ" (สอ-ทอ) ประดับที่ป้ายชื่ออาคารฯ ด้วย สําหรับ โรงเรียนคําม่วง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน จํานวน 1,284 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 84 คน โรงเรียนสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล (World Class Standard School) บนวิถีความพอเพียง โดยได้รับรางวัลสําคัญๆ อาทิ รางวัลเหรียญทอง วงโยธวาทิตนานาชาติ Thailand World Music Championship จากสมาคมวงโยธวาทิต, รางวัลเหรียญเงิน วงโยธวาทิต ประเภทขบวนพาเหรด จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เวลา 14 นาฬิกา 47 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปยังโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฎ์อุดมวิทย์ (พระ-เทบ-ยาน-นะ-วิ-สิด-อุ-ดม-วิด) ตําบลนิคมห้วยผึ้ง อําเภอห้วยผึ้ง เพื่อทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดําริฯ โรงเรียนฯ นี้ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2535 เดิมเป็นสาขาของโรงเรียนห้วยผึ้งพิทยา ต่อมาประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียนเอกเทศชื่อ โรงเรียนนิคมหนองแก้วญาณเวที และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฏ์อุดมวิทย์ ในปี 2560 มีพระเทพญาณวิศิษฏ์ ชัยทวี คุตฺตจิตฺโต (คุด-ตะ-จิด-โต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม เป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียน ปัจจุบันมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จํานวน 234 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 20 คน ด้านการเรียนการสอน ควบคู่กับการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม โดยนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ทั้งวิชาภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ มีโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเข้าไปเป็นเครือข่ายวิชาการ ช่วยดูแล สนับสนุนด้านวิชาการ และร่วมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน สนับสนุนอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอน รวมทั้งพัฒนาครู ส่งผลให้การเรียนการสอนของโรงเรียนดีขึ้น ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ใช้พื้นที่ 3 ไร่ ส่งเสริมให้นักเรียนเลี้ยงไก่ไข่ และปลา รวมทั้งปลูกพืชผักในพื้นที่ร่มและพื้นที่กลางแจ้ง เพื่อนําผลผลิตไปใช้ประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันและเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้อาชีพการเกษตรแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการนําผลผลิตที่ได้ไปใช้ประโยชน์ ในการนี้ ทรงเปิดแพรคลุมป้าย "โครงการจัดหาน้ําสนับสนุนโรงเรียนพระเทพญาณวิศิษฎ์อุดมวิทย์" ซึ่งสํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร., กรมชลประทาน, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสนองพระราชดําริฯ ในการจัดทําโครงการนี้ ได้สร้างประโยชน์เพิ่มปริมาณน้ําดิบในการผลิตประปาในโรงเรียนฯ เป็นแหล่งน้ําสําหรับการอุปโภคบริโภคภายในโรงเรียนฯ รวมทั้งราษฎรและหมู่บ้านข้างเคียงในพื้นที่ก็ได้รับประโยชน์จากโครงการเช่นกัน โอกาสนี้ ได้พระราชทานพระราชดําริเพิ่มเติมให้กรมชลประทานและสํานักงาน กปร. ร่วมกันจัดหาระบบสูบน้ําพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมติดตั้งเสาไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์รอบบริเวณสระเก็บน้ําตามความเหมาะสมและระบบกรองน้ําดื่มสะอาดให้แก่โรงเรียนฯ จากนั้น พระเทพญาณวิศิษฎ์ นําผู้แทนครูและนักเรียนโรงเรียนท่านผู้หญิงจันทิมา พึ่งบารมี จังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยศาสตราจารย์นายแพทย์บวรศิลป์ เชาว์ชื่น ประธานกรรมการมูลนิธิตะวันฉาย เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคับทูลรายงานการรักษานักเรียนโรงเรียนท่านผู้หญิงจันทิมา พึ่งบารมี ที่มีความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ จํานวน 2 คน ขณะนี้ได้รับการผ่าตัดแล้ว 1 คน โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดําริให้ช่วยดูแลรักษาเด็กให้ดีขึ้น รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้เด็กสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานนักเรียน อาทิ ผลงานวิชาการ ได้แก่ ระบบบริหารจัดการน้ําด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ทํากิจกรรมต่างๆ เช่น การปลูกต้นไม้ การใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ นอกจากนี้ ยังมีผลงานการแกะสลักสบู่, งานร้อยมาลัย, งานใบตอง, งานพวงกุญแจจากวัสดุเหลือใช้, การทําเสื้อปักมือลายภูไทและการทํา "ธุงอีสาน" ซึ่งมีปราชญ์ชาวบ้านเข้าไปสอนนักเรียน สําหรับธุงอีสาน ใช้ประดับเมื่อมีงานบุญและเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเสด็จพระราชดําเนินกลับ ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ชุมชนของดี 4 ตําบล ที่นําสุดยอดผลิตภัณฑ์โอท็อปของแต่ละตําบลมาจัดแสดง ได้แก่ ตําบลคําบง, ตําบลนิคมห้วยผึ้ง, ตําบลไค้นุ่นและตําบลหนองอีบุตร ส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ผ้าไหมแพรวา ผ้ามัดหมี่ ผลิตภัณฑ์ที่ทําจากผ้า เช่น กระเป๋าถือ ผ้าห่ม ผ้าสไบ สินค้าทางการเกษตรต่างๆ จําหน่ายภายในชุมชนและทางออนไลน์ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202162539680
674
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ประจำปีการศึกษา 2561 และประจำปีการศึกษา 2562
วันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10 นาฬิกา 29 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ประจําปีการศึกษา 2561 และประจําปีการศึกษา 2562 ณ อาคารกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ อําเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยปีนี้ สภามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มีมติขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพืชศาสตร์ แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในด้านการพัฒนาต่างๆ โดยเฉพาะการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชและทรัพยากรของประเทศจนก่อเกิดเป็นโครงการในพระราชดําริฯ หลายโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ในการนี้ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีจากคณะเทคโนโลยีการเกษตร, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพ, คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม, คณะศิลปศาสตร์, คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา รวมจํานวน 1,382 คน โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความสําคัญตอนหนึ่ง ว่า "บัณฑิตทั้งหลายเมื่อสําเร็จการศึกษาได้รับปริญญาแล้ว ย่อมจะต้องออกไปดําเนินชีวิตในสังคม การที่จะดํารงตนอยู่ในสังคมนั้น สําคัญที่สุดคือจะต้องทํางานเลี้ยงตนเลี้ยงครอบครัวได้และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตนกับชุมชนได้ ต่อไปภายหน้า ไม่ว่าบัณฑิตจะได้ทํางานใดและอยู่อาศัย ณ ที่ใดก็ตาม จึงต้องตั้งใจประกอบอาชีพการงานด้วยความอดทนพากเพียรโดยเต็มกําลังความรู้ความสามารถ พร้อมทั้งประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดี มีน้ําใจไมตรีต่อผู้อื่นและช่วยเหลือสนับสนุนกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของชุมชนด้วยความเต็มใจยินดี ถ้าทําได้ แต่ละคนก็จะสามารถสร้างตัวสร้างฐานะและดําเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคงผาสุก" หลังจากทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรฯ ดังกล่าวแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ร่วมกับสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าไปส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยเป็นสากล อาทิ ผ้ามัดหมี่ภูไท ผ้าซิ่นแพรวาและผ้าคลุมไหล่ ของกลุ่มอาชีพสตรีทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน ผ้าห่ม ผ้าขาวม้า ตุ๊กตาไดโนเสาร์ ของกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิดบ้านด่านเหนือ โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมด นําไปจําหน่ายที่ร้านภูฟ้า ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202162806682
675
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2565
วันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 19 นาฬิกา 16 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลงบริเวณด้านหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2565 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงินและธูปที่โต๊ะเครื่องสังเวย แล้วทรงจุดธูปหาง แล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง พิธีสังเวยพระป้าย เริ่มมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระป้าย หรือที่ชาวจีนเรียกว่า "เกสิน" หมายถึงป้ายชื่อของบรรพบุรุษ บุพการี ที่ตั้งไว้สําหรับบูชาประจําบ้าน ซึ่งพระป้ายที่พระที่นั่งอัมพรสถาน มีลักษณะเป็นเทวรูปหล่อ ทรงเครื่องกษัตริยาธิราช พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายจีบเสมอพระอุระ เหมือนกับพระสยามเทวาธิราช แต่พระพักตร์มีลักษณะคล้ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช ประดิษฐานในซุ้มเรือนแก้วแบบเก๋งจีน ทําด้วยไม้จันทน์จําหลักลงรักปิดทอง จารึกพระปรมาภิไธยเป็นอักษรจีน ที่ด้านหลังซุ้มเรือนแก้ว มีฉัตรทอง 5 ชั้น 2 ข้าง ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
1/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220202163015686
676
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงานนิทรรศการแสดงผลงานของนักเรียนภายใต้กิจกรรมแบ่งปันประสบการณ์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 2
วันนี้ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14 นาฬิกา 14 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดงานนิทรรศการ แสดงผลงานของนักเรียนภายใต้กิจกรรมแบ่งปันประสบการณ์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 2 เป็นกิจกรรมต่อเนื่อง จากพระราชดําริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 และพระราชทานแนวทางให้จัดโครงการกิจกรรมแบ่งปันประสบการณ์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2563 เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้สะท้อน หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ผ่านทางกิจกรรมการวาดภาพและกิจกรรมการเขียนเรียงความ ส่งผลให้เด็กและเยาวชนได้รับโอกาสในการพัฒนาความรู้และทักษะทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบันมีสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน การจัดงานครั้งที่ 2 จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้สะท้อน หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ เพื่ออยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว โรงเรียน หรือชุมชนของตนเอง ผ่านทางกิจกรรมทักษะทางวิชาการตามความถนัดของตนเอง ได้แก่ กิจกรรมการวาดภาพ กิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาไทย และกิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ ในครั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมการประกวดและแข่งขันในระดับหน่วยงาน และระดับสังกัด ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคม 2564 มีนักเรียนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมวาดภาพ 2,051 คน กิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาไทย 1,941 คน และกิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ 204 คน รวมจํานวน 4,196 คน โดยมีผลงานที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกผ่านเกณฑ์และมีความโดดเด่นเข้ารับพระราชทานรางวัล 31 คน แบ่งเป็น ระดับดีเด่น ประเภทกิจกรรมวาดภาพ 12 คน, กิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาไทย 12 คน และกิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ 2 คน และระดับชมเชย ประเภทกิจกรรมวาดภาพ 3 คน กิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาไทย 1 คน และกิจกรรมการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ 1 คน ทั้งนี้ ผลงานที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้สะท้อนความคิดของเยาวชนและช่วยพัฒนาศักยภาพ และทักษะในด้านศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์จากภาพวาดและทักษะการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและเป็นเวทีสื่อสารสําหรับเยาวชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220203191601240
677
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 3 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2565
ประกาศสํานักพระราชวัง ด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดําเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 3 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2565 ในการเสด็จพระราชดําเนินเยือนครั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเข้าร่วมพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว คริสต์ศักราช 2022 ณ กรุงปักกิ่ง ตามคํากราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะพระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท และถวายพระกระยาหารเช้า ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2565 ณ เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะประทับเครื่องบินพระที่นั่ง ซึ่งกองทัพอากาศจัดถวาย เสด็จพระราชดําเนินออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ในวันพฤหัสบดี ที่ 3 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2565 เวลา 13 นาฬิกา 50 นาที และจะประทับเครื่องบินพระที่นั่ง ซึ่งกองทัพอากาศจัดถวาย เสด็จพระราชดําเนินกลับถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ในวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2565 เวลา 13 นาฬิกา จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สํานักพระราชวัง 1 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2565 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
2/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220203191812242
678
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงบรรยายพิเศษ เรื่อง "การเกิดโรคมะเร็ง" พระราชทานแก่นักศึกษาแพทย์และทันตแพทย์ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประจำปีการศึกษา 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) เป็นครั้งที่ 3
วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12 นาฬิกา 55 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ท้องพระโรง ตําหนักทิพย์พิมาน ตําบลโป่งตาลอง อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทรงบรรยายพิเศษ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ออนไลน์ เรื่องการเกิดโรคมะเร็ง หรือออง-โค-จี-เน-ซิส พระราชทานแก่นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 2 และนักศึกษาทันตแพทย์ ชั้นปี 1 และปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประจําปีการศึกษา 2564 จํานวน 103 คน โดยวันนี้ ทรงบรรยายในหัวข้อที่ 4 และ 5 เรื่อง อองโคยีน หรือยีนก่อมะเร็ง กับการควบคุมการเจริญของเซลล์และเรื่องยีนระงับการเกิดมะเร็ง สําหรับโรคมะเร็ง ที่มาจากการเปลี่ยนแปลงของยีนที่ควบคุมการเจริญของเซลล์ นั้น เกิดจากการกลายพันธุ์ ที่ทําให้เซลล์มีการแบ่งตัวและเจริญอย่างรวดเร็วโดยไม่สามารถควบคุมได้และกลายเป็นยีนก่อมะเร็ง ในส่วนของยีนที่ก่อมะเร็งในไวรัส ได้มีการศึกษาวิจัยพื้นฐานในระดับโมเลกุล ซึ่งยีนของไวรัสจะมีกระบวนการแทรกแซงเข้าไปในเซลล์และเข้าควบคุมการทํางานของยีนในเซลล์ปกติ ต่อมาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น คือการกลายพันธุ์ของยีน การย้ายตําแหน่งของโครโมโซมและการเพิ่มจํานวนของยีนอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ในปกติ เซลล์จะถูกควบคุมโดยกลุ่มของโปรตีน ที่ทําหน้าที่หลายระดับและมีขั้นตอนในการควบคุมให้เซลล์มีการแบ่งตัวในอัตราที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปและหากมีความผิดปกติของยีนในเซลล์ ก็จะเกิดกระบวนการต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเซลล์ที่ผิดปกติจะเข้าสู่โปรแกรมการทําลายตัวเองแบบอัตโนมัติ ดังนั้น เมื่อยีนก่อมะเร็งกลายพันธุ์ จนไม่สามารถยับยั้งหรือควบคุมการเจริญของเซลล์ได้ ก็จะทําให้เกิดโรคมะเร็งขึ้นในที่สุด ทั้งนี้ นอกจากยีนก่อมะเร็งแล้ว ยังมียีนระงับการเกิดมะเร็ง ซึ่งมีหลายชนิดและทําหน้าที่ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งต่างกัน ตัวอย่างเช่น ยีน p53 ซึ่งเป็นยีนที่มีความสําคัญและมีการศึกษากันอย่างกว้างขวางในผู้ป่วยโรคมะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งลําไส้ โดยจะทําหน้าที่สร้างโปรตีนจําเพาะในการป้องกันการเกิดเซลล์ที่ผิดปกติ คือมีบทบาทเสมือนตํารวจที่คอยตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรม ผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน และเป็นกลไกการป้องกันไม่ให้เกิดการแบ่งตัวหากมีความผิดปกติขึ้นในสารพันธุกรรมในเซลล์นั้น โดยในหัวข้อที่ 4 และ 5 ที่ทรงบรรยายในวันนี้ เป็นหนึ่งใน 7 หัวข้อหลัก ที่ทรงนําพระประสบการณ์ที่ได้จากทรงศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และวิจัย ด้านโรคมะเร็งมารวบรวมเป็นบทเรียน ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสําคัญของการพัฒนาวิธีการวินิจฉัยโรคมะเร็ง ซึ่งจะนําไปสู่การรักษาในแนวใหม่ ที่ตรงกับลักษณะของโรค การใช้ยาที่ตรงเป้าหมาย ตลอดจนการพัฒนายา เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
3/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220204114842417
679
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 3 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2565
วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12 นาฬิกา 50 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานดอนเมือง พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอํานาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจําประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 "ซิโนฟาร์ม" จํานวน 1 แสนโดส เพื่อใช้ในกิจการของสภากาชาดไทย จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง ซึ่งกองทัพอากาศจัดถวาย เที่ยวบินพิเศษที่ อาร์ทีเอเอฟ 217 เสด็จพระราชดําเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 3 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2565 มีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตํารวจ พลเรือน แม่บ้านเหล่าทัพ ผู้แทนสภากาชาดไทย และผู้แทนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เฝ้าทูลละอองพระบาท ส่งเสด็จ ในการเสด็จพระราชดําเนินเยือนครั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเข้าร่วมพิธีเปิดมหกรรมกีพาโอลิมปิกฤดูหนาว คริสต์ศักราช 2022 ณ กรุงปักกิ่ง ตามคํากราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะพระราชทานพระราชวโรกาสให้นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท และถวายพระกระยาหารเช้า ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
3/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220204115039419
680
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงแทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 1 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงแทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี นําคณะองคมนตรี และภริยา เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินและสิ่งของ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม 2564 ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงแทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี พร้อมคู่สมรส ประธานสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการ ป.ป.ช. เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ปลัดกระทรวงกลาโหม นายทหารชั้นผู้ใหญ่ นายทหารสัญญาบัตรในสังกัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนสมาคมภริยาข้าราชการสํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการสภากาชาดไทย ผู้บริหารสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คณะกรรมการมูลนิธิคุ้มเกล้าฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้บริหารบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จํากัด ผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ผู้บริหาร คณาจารย์ พยาบาลของคณะศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคําแหง คณะกรรมการสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะกรรมการมูลนิธิเกียรติร่วมมิตรเพื่อการศึกษา คณะกรรมการมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ คณะกรรมการสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ผู้บริหารและครูโรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินและสิ่งของ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม 2564 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
3/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220204115322420
681
ข้อความพระราชสาส์นทรงอำนวยพรในโอกาสวันเอกราชของสาธารณรัฐ?สังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
ด้วยวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2656 ตรงกับ วันเอกราชของสาธารณรัฐ?สังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง?พระ?กรุณา?โปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นทรงอํานวยพรไปยังประ?ธานาธิบดี?แห่งสาธารณรัฐ?สังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา? ในโอกาสวันเอกราชของสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีด้วยใจจริงและขออํานวยพรให้ท่านประธานาธิบดีมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและประสบความสุขสวัสดี ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวศรีลังกามีความร่มเย็นเป็นสุขและเจริญรุ่งเรืองสืบไป ข้าพเจ้าเชื่อมั่นอย่างแน่แท้ว่า แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจและสังคม สืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา จะพยายามอย่างเต็มกําลังในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างเสริมความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างกว้างขวางในทุกระดับ อันจะก่อเกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายเป็นอเนกประการ (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
4/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220204214128717
682
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมงานพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว คริสต์ศักราช 2022 ณ กรุงปักกิ่ง และเสด็จพระราชดำเนินกลับถึงประเทศไทยแล้ว
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมงานพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว คริสต์ศักราช 2022 ณ กรุงปักกิ่ง และเสด็จพระราชดําเนินกลับถึงประเทศไทยแล้ว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
5/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220206111750030
683
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งพระราชสาส์นแสดงความยินดี ไปยังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความในพระราชสาส์น มีดังนี้ ฝ่าพระบาท ในโอกาสการเฉลิมฉลองวาระอันเป็นประวัติศาสตร์ ที่ฝ่าพระบาททรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี หม่อมฉันและพระราชินี ในนามของประชาชนชาวไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ขอถวายพระพรชัยมงคลพร้อมทั้งความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาททรงพระเกษมสําราญและมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ดั่งแสงประทีปทั้งมวลที่สว่างโชติช่วงในวาระแห่งการเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติ รัชสมัยอันรุ่งเรืองแห่งฝ่าพระบาท เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อนานาประเทศ ในฐานะต้นแบบที่สําคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การอุทิศพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยมิทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ก่อให้เกิดศรัทธาและความเชื่อมั่นในพสกนิกรของพระองค์ นําไปสู่ความสามัคคีและความเข้มแข็งมั่นคงของชาติ ส่วนในกิจการระหว่างประเทศ นานาชาติต่างให้การยอมรับนับถือสหราชอาณาจักรในฐานะที่เป็นมหาประเทศหนึ่ง ภายใต้รัชสมัยอันเปี่ยมด้วยพระบารมีของฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาท ได้มีพระราชดํารัสไว้ว่า ความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างประเทศของเราทั้งสองนั้นเป็นสิ่งที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน ดั่งเช่นน้ําพระทัยไมตรีและความศรัทธาต่อกันระหว่างฝ่าพระบาท และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชบิดาของหม่อมฉัน การเสด็จพระราชดําเนินมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของฝ่าพระบาท และเจ้าชายฟิลิป ดุ๊กแห่งเอดินบะระ เมื่อปีพุทธศักราช 2515 และ 2539 นั้น เป็นสิ่งล้ําค่าที่สถิตอยู่ในหัวใจของประชาชนชาวไทยอย่างไม่เสื่อมคลาย และหม่อมฉันเองก็ยังมิอาจลืมพระกรุณาที่ฝ่าพระบาทพระราชทานพระราชวโรกาสให้หม่อมฉัน ในฐานะผู้แทนพระองค์ของพระราชบิดา เข้าเฝ้า ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ในโอกาสเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
6/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220207113954249
684
พระราชสาส์นแสดงความยินดี
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งพระราชสาส์นแสดงความยินดีไปยังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ดังนี้ ในโอกาสการเฉลิมฉลองวาระอันเป็นประวัติศาสตร์ ที่ฝ่าพระบาททรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 70 ปี หม่อมฉันและพระราชินี ในนามของประชาชนชาวไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะถวายพระพรชัยมงคลพร้อมทั้งความปรารถนาดี เพื่อฝ่าพระบาททรงพระเกษมสําราญและมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ดั่งแสงประทีปทั้งมวลที่สว่างโชติช่วงในวาระแห่งการเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติ รัชสมัยอันรุ่งเรืองแห่งฝ่าพระบาทเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อนานาประเทศ ในฐานะต้นแบบที่สําคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข การอุทิศพระองค์ ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยมิทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ก่อให้เกิดศรัทธาและความเชื่อมั่น ในพสกนิกรของพระองค์ นําไปสู่ความสามัคคีและความเข้มแข็งมั่นคงของชาติ ส่วนในกิจการระหว่างประเทศ นานาชาติต่างให้การยอมรับนับถือสหราชอาณาจักรในฐานะที่เป็นมหาประเทศหนึ่ง ภายใต้รัชสมัยอันเปี่ยมด้วยพระบารมีของฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทได้มีพระราชดํารัสไว้ว่า ความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างประเทศของเราทั้งสองนั้น เป็นสิ่งที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน ดั่งเช่นน้ําพระทัยไมตรีและความศรัทธาต่อกันระหว่างฝ่าพระบาท และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชบิดา ของหม่อมฉัน การเสด็จพระราชดําเนินมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของฝ่าพระบาท และเจ้าชายฟิลิป ดุ๊กแห่งเอดินบะระ เมื่อปีพุทธศักราช 2515 และ 2539 นั้น เป็นสิ่งล้ําค่าที่สถิตอยู่ ในหัวใจของประชาชนชาวไทยอย่างไม่เสื่อมคลาย และหม่อมฉันเองก็ยังมิอาจลืมพระกรุณาที่ฝ่าพระบาท พระราชทานพระราชวโรกาสให้หม่อมฉัน ในฐานะผู้แทนพระองค์ของพระราชบิดา เข้าเฝ้า ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ในโอกาสเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
6/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220206175453128
685
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 6 ถึง 9 กุมภาพันธ์ 2565
วันนี้ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 4 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปทรงตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ (หลังใหม่) วัดทัพหลวง ตําบลทัพหลวง อําเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2456 โดยเป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมต่างๆ ของประชาชนตําบลทัพหลวง รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองอําเภอบ้านไร่ ปัจจุบันมีภิกษุสงฆ์ จํานวน 5 รูป มีพระสมุห์คํามา อินทวีโร เป็นเจ้าอาวาส และมีพระโสภณพัฒนคุณ ทิน สุทินโน เจ้าอาวาสวัดพุน้อย อําเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เป็นพระอุปัฏฐาก สําหรับอุโบสถหลังใหม่นี้ คณะสงฆ์ ร่วมกับพุทธศาสนิกชน จัดสร้างขึ้นเพื่อทดแทนอุโบสถหลังเดิม โดยได้รับพระราชทานราชานุมัติให้ใช้แบบพระอุโบสถวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในการก่อสร้าง ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2556 เป็นอาคารทรงไทยสูงสองชั้น โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังก่อฉาบปูน ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 18 เมตร ชั้นบนประดิษฐานพระพุทธชินราชจําลอง ขนาดหน้าตัก 59 นิ้ว ลงรักปิดทอง ส่วนชั้นล่างใช้เป็นศาลาอเนกประสงค์ ในการปฏิบัติธรรมของภิกษุสงฆ์ และประชาชนทั่วไป แล้วเสร็จในปี 2558 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 จากนั้น ทรงหล่อพระพุทธปฏิมา "พระคู่บ้านคู่เมือง" ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านทัพหลวง โดยจําลองจากพระพุทธรูป ที่ชาวบ้านจากเมืองเวียงจันทร์ ซึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณบ้านทัพหลวง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล 3 และได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาด้วย 2 องค์คือ พระพุทธรูปองค์เล็กและองค์ใหญ่ ต่อมาพระพุทธรูปองค์เล็กได้สูญหายไป คงเหลือแต่พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ปางมารวิชัยฐานสูง มีนิ้วพระหัตถ์เสมอกัน แบบศิลปะล้านช้าง หน้าตักกว้าง 4 นิ้ว องค์พระสูง 7 นิ้ว ส่วนฐานเป็นโลหะสําริด สูง 5.5 นิ้ว อันเป็นที่เคารพสักการะบูชาของประชาชนในย่านนี้สืบมาจนปัจจุบัน ชาวบ้านทัพหลวงจึงขนานนามว่า "พระคู่บ้านคู่เมือง" โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้บริจาคทรัพย์เพื่อบํารุงวัดทัพหลวง เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานเข็มที่ระลึกอักษรพระนามาภิไธย "สธ" (สอ-ทอ) ต่อจากนั้น ได้ทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการพระราชดําริในพระพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาด้าน ต่างๆ ซึ่งได้ใช้พื้นที่ภายในวัดรอบอุโบสถจัดทําเป็น "ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง" เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านการเกษตรให้แก่ประชาชนที่สนใจ อาทิ การปลูกข้าว การสีข้าว การปลูกพืชผักสวนครัว การเลี้ยงปลา ตลอดจนการปรับปรุงคุณภาพน้ําด้วยกังหันน้ําชัยพัฒนาและการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ พร้อมกับนําหลักการมีส่วนร่วม "บ้าน วัด โรงเรียน" มาเป็นแกนหลักในการขยายผลและส่งเสริมสู่การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนต่อไป เวลา 13 นาฬิกา 29 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปยังวัดศรีอุทุมพร (วังเดื่อ) อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ทรงยกช่อฟ้าอุโบสถ ซึ่งพระครูนิทัศน์ประชานุกูล เจ้าอาวาส พร้อมคณะสงฆ์ คณะกรรมการวัดและชาวบ้านปรึกษาหารือกันดําเนินการสร้าง บูรณะ ขยาย และยกอุโบสถเป็นแบบ 2 ชั้น เมื่อปี 2550 เนื่องจากอุโบสถเดิม สร้างมาตั้งแต่ปี 2493 ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ํา มีน้ําท่วมขัง มีการขยายเขตสีมารอบอุโบสถใหม่และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 2559 ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธศรีอุทุมพรประติมากรรัตนมุนี (อ่านว่า พระ-พุด-ทะ-สี-อุ-ทุม-พอน-ประ-ติ-มา-กอน-รัด-ตะ-นะ-มุ-นี) พระประธานอุโบสถ ที่ชั้นล่าง โอกาสนี้ ทอดพระเนตรประติมากรรมปูนปั้นฝาผนังอุโบสถ ใช้รูปแบบกรรมวิธีสมัยโบราณที่เรียกว่า "ปูนตํา" ตกแต่งด้วยเครื่องเบญจรงค์ ถ่ายทอดประวัติของพระครูจ้อย จันทะสุวันโน อดีตเจ้าอาวาสรูปแรก และร่วมกับชาวบ้านดําเนินการสร้างวัด แหล่งน้ําและโรงเรียน สืบทอดวัฒนธรรมประเพณี ตลอดจนพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนบ้านวังเดื่อเรื่อยมา จนชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อจ้อย ประติมากรรมปูนปั้นฝาผนังอุโบสถ ยังจัดแสดงพุทธทํานายของพระพุทธเจ้าที่มีต่อพระสุบินนิมิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล รวม 16 ข้อ และการเสด็จพระราชดําเนินไปยังวัดนี้ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้น ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธชินสีห์ พระประธานมณฑปหอไตร แล้วทรงวางพวงมาลัยสักการะสรีระหลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ภาค 4 สร้างขึ้นเมื่อปี 2485 เรียกว่า "วัดวังเดื่อ" กรมการศาสนาประกาศให้ตั้งวัดเมื่อปี 2494 ชื่อว่า "วัดศรีอุทุมพร" มีอุโบสถ 2 ชั้น และมีพระประธานอุโบสถ ทั้ง 2 ชั้น โดยชั้นบน มีพระพุทธสุโขทัยสุขใจ เป็นพระประธาน ภายในวัดยังมีอาคารเสนาสนะต่าง ๆ ปัจจุบัน มีภิกษุสงฆ์ จํานวน 17 รูป เวลา 15 นาฬิกา 8 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปทรงเปิด "อาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ" ตั้งอยู่ถนนโกสีย์ใต้ ตําบลปากน้ําโพ อําเภอเมืองนครสวรรค์ ซึ่งศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ด้วยสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงสนับสนุนงานบริการโลหิตและเพื่อรองรับการขยายงานบริการโลหิตแบบครบวงจรในส่วนพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เป็นการเพิ่มศักยภาพงานบริการโลหิตทั้งในสถานที่และนอกพื้นที่หน่วยรับบริจาคโลหิต สามารถตรวจคัดกรองโลหิตด้วยวิธี NAT สามารถควบคุมคุณภาพโลหิตและส่วนประกอบโลหิต โดยมีพื้นที่ใช้สอย 4,226 ตารางเมตร ประกอบด้วย อาคารสํานักงาน สูง 3 ชั้น มีห้องรับบริจาคโลหิต ห้องจ่ายโลหิต ห้องเย็นเก็บรักษาโลหิตและส่วนประกอบโลหิต อาคารพัสดุและหอพัก อาคารซ่อมบํารุงและอาคารทิ้งขยะรวม สําหรับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2548 เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการโลหิตในภูมิภาค ทําหน้าที่สนับสนุนการจัดหาโลหิตให้เพียงพอแก่ความต้องการของผู้ป่วย โดยให้บริการแก่โรงพยาบาลเครือข่ายในจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ กําแพงเพชร ตาก อุทัยธานี ชัยนาท และพิจิตร ครอบคลุมการให้บริการแก่ประชากรกว่า 4 ล้านคน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
7/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220208111031650
686
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระวโรกาสให้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เฝ้า กราบทูลรายงานความคืบหน้าโครงการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม
วันนี้ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14 นาฬิกา 5 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ตําหนักทิพย์พิมาน อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายบริหาร และผู้อํานวยการสํานักองค์ประธาน นํานายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะทํางานโครงการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม เฝ้า กราบทูลรายงานความคืบหน้าการดําเนินงานบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งมีพระดําริให้ดําเนินการสํารวจพื้นที่ภายในพระราชวัง จํานวน 148 ไร่ เพื่อบูรณะโบราณสถานอันเป็นสมบัติของชาติ โดยกระทรวงมหาดไทย รับสนองพระดําริ ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง, กรมศิลปากร, มหาวิทยาลัยศิลปากร และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ดําเนินงานบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ มีกําหนดแผนเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึงสิงหาคม 2567 ส่วนระยะที่สอง เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคม 2566 ถึงมิถุนายน 2570 ทั้งนี้ การดําเนินงานจะเป็นการบูรณะอาคารต่างๆ พร้อมกับซ่อมแซมงานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม งานโครงสร้างและงานระบบต่างๆ รวมถึงงานภูมิสถาปัตย์ ในการนี้ พระราชทานพระนโยบายแก่ปลัดกระทรวงมหาดไทยและคณะทํางานเพื่อเป็นแนวทางในการเริ่มต้นการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ สําหรับพระราชวังสนามจันทร์ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2450 เพื่อเป็นสถานที่ประทับ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยขณะดํารงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้ดําเนินการจัดซื้อที่ดินและก่อสร้างพระราชวังในจังหวัดนครปฐม โดยหมู่พระที่นั่งและพระตําหนักต่างๆ ถูกออกแบบในสไตล์สถาปัตยกรรมไทยผสมผสานกับตะวันตกอย่างวิจิตรงดงาม ภายหลังจากเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ เป็นรัชกาลที่ 6 ได้เสด็จพระราชดําเนินแปรพระราชฐานไปประทับโดยตลอด พร้อมกับใช้เป็นสถานที่เสด็จออกว่าราชการและต้อนรับพระราชอาคันตุกะ รวมถึงเป็นฐานที่ตั้งกองบัญชาการและการฝึกซ้อมรบของเสือป่าเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับป้องกันประเทศในยามคับขันอีกด้วย ทั้งนี้ การดําเนินโครงการฯ ดังกล่าว ถือเป็นการรักษาและอนุรักษ์โบราณสถานที่มีอายุกว่า 115 ปี ให้กลับมางดงามดังเดิม พร้อมกับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทรงคุณค่าบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว อันจะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับอนุชนชาวไทยรุ่นหลังสืบไป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
7/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220208111305652
687
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปในการพระราชทานรางวัลชนะเลิศการแข่งขันระดับประเทศ TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONCHIP 2022
วานนี้ 6 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 18 นาฬิกา 25 นาที ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยัง MCC HALL ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานรางวัลชนะเลิศการแข่งขัน ระดับประเทศ TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONCHIP 2022 ซึ่งจัดขึ้นตามพระดําริทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ในรูปแบบแอคทีฟเทนเม้นท์ (activetainment) คือ การเรียนรู้ การสร้างสรีระร่างกายให้มีความแข็งแกร่งและมีสุขภาพจิตที่สดชื่นแข็งแรง ทําให้เด็กและเยาวชนมีความภาคภูมิใจ มีความมั่นใจ รู้จักใช้เวลาอย่างมีคุณค่า สร้างความทรงจําความประทับใจที่ยาวนาน เติมเต็มสิ่งที่ทําให้พวกเขาสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การแข่งขันแบ่งเป็น 3 รุ่นตามกลุ่มอายุ คือ รุ่นจูเนียร์ ทีมที่ชนะเลิศรางวัลที่ 1 ได้แก่ ทีม Milk Shake โรงเรียนอนุบาลไพรบึง ตัวแทนสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี รุ่นพรีทีนเอจ ทีมที่ชนะเลิศได้แก่ ทีม Thossaporn Thunder โรงเรียนทศพรวิทยา ตัวแทนสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และรุ่นทีนเอจ ทีมที่ชนะเลิศได้แก่ ทีม AWESOME ซึ่งเป็นทีมอิสระ โดยเกณฑ์ในการตัดสินพิจารณา ได้แก่ ความสามัคคี ความแข็งแรง ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์และความสนุกสนาน การใช้ท่าเต้นที่ทําให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ สอดคล้องกับจังหวัดดนตรีและการแต่งกายที่สวยงามเหมาะสมกับท่าทางการเต้น ในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมแข่งขัน จํานวน 228 ทีม ผ่านเข้าสู่การแข่งขันระดับประเทศจํานวน 42 ทีม รวมเด็กและเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันและได้รับโอกาสการพัฒนาตนเองจากกิจกรรมนี้กว่า 3,500 คน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
7/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220208111511653
688
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดอุทัยธานี
วันนี้ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 23 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม (มะ-นี-สะ-ถิด-กะ-ปิด-ตะ-ถา-ราม) พระอารามหลวง อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ทอดพระเนตรคัมภีร์ใบลานและหนังสือสมุดไทยที่พบภายในวัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า วัดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาและแหล่งเรียนรู้สายวิทยาการของเมืองอุทัยธานีในสมัยโบราณ เดิมชื่อ "วัดมณีธุดงค์สงฆ์มูลิกาวาส" หรือ "วัดทุ่งแก้ว" สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2431 ต่อมาทางราชการมีการจัดผังเมืองใหม่ จึงได้รวมวัดขวิดเข้ากับวัดทุ่งแก้วและเปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม" เมื่อปีพุทธศักราช 2481 โดยคําว่ามณี แปลว่า แก้ว หมายถึงวัดทุ่งแก้ว, กปิฏ แปลว่า มะขวิดหมายถึงวัดขวิด ทั้งนี้ มูลนิธิอนุรักษ์คัมภีร์โบราณ ได้ดําเนินการสํารวจและจัดทําบัญชีเอกสารโบราณ จํานวน 140 รายการ เก็บรักษาไว้ที่หอไตร อาทิ "คัมภีร์ใบลาน" เป็นคัมภีร์ที่จารลงบนใบลาน เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นพระธรรมคําสอนทางพระพุทธศาสนา จึงมีความสําคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นธรรมเนียมว่า ต้องเก็บรักษาไว้อย่างดีเหมือนพระพุทธรูป คัมภีร์ใบลานที่พบภายในวัด สามารถจําแนกออกเป็นหมวดต่างๆ คือ หมวดพระวินัยปิฎก คัมภีร์บันทึกคําสอนของพระพุทธเจ้าในส่วนกฎ ระเบียบ ข้อห้ามและข้อบังคับที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ หมวดพระสุตตันตปิฎก คัมภีร์บันทึกและรวบรวมคําสอนของพระพุทธเจ้าในส่วนพระธรรม หมวดพระอภิธรรมปิฎก คัมภีร์บันทึกคําสอนของพระพุทธเจ้าในส่วนที่เป็นหัวข้อธรรมล้วนๆ ไม่มีประวัติ หมวดพระสัททาวิเสส คัมภีร์ไวยากรณ์ภาษาบาลี หมวดหนังสือเทศน์ คัมภีร์พระพุทธศาสนาประเภทต่างๆ ที่แปลจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทย เพื่อนํามาใช้สําหรับเทศนาและหนังสือสวดมนต์ เป็นคัมภีร์ใบลานขนาดสั้น ซึ่งจารบทสวดมนต์และคาถาต่างๆ โดยมีคัมภีร์ใบลานที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา จารด้วยอักษรขอม และ "หนังสือสมุดไทย" สามารถจําแนกเป็นประเภทต่างๆ อาทิ สมุดพระมาลัย หรือสมุดพระมาลัยกลอนสวด เป็นวรรณกรรมพระพุทธศาสนาที่สําคัญเรื่องหนึ่งของไทย มีที่มาจากคัมภีร์พระมาลัยเถรวัตถุ กล่าวถึงพระอรหันต์นามว่า "พระมาลัย" ขึ้นสวรรค์ไปนมัสการพระจุฬามณีเจดีย์ และพบกับพระศรีอาริยเมตไตรย ได้ถามว่า ทําอย่างไรจึงได้เกิดในเวลาที่พระศรีอาริยเมตไตรยตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 พระศรีอาริยเมตไตรย ตรัสว่า ให้ฟังพระมหาเวสสันดรชาดกให้จบภายในวันเดียว จะมีอานิสงส์มาก จึงเป็นที่มาของประเพณีการเทศน์มหาชาติ และการสวดคัมภีร์พระมาลัย มีจํานวน 8 เล่ม ซึ่ง 7 ใน 8 เล่ม เขียนจิตรกรรมประกอบ เป็นเรื่องทศชาติชาดก และเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาในสมุดพระมาลัยกลอนสวด อีก 1 เล่ม เขียนพระมาลัยกลอนสวดแล้ว แต่ยังไม่ได้เขียนจิตรกรรม เว้นที่ว่าง พร้อมระบุภาพที่จะเขียนจิตรกรรม จึงเป็นหลักฐานให้เห็นกระบวนการเขียนเนื้อเรื่องก่อน จึงเขียนจิตรกรรม โดยสมุดพระมาลัยที่เก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นเมื่อปี 2405 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 นอกจากนี้ มีภาพถ่ายสมเด็จพระวันรัต เฮง เขมจารี เป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี และเป็นผู้อุปถัมภ์วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม พระอารามหลวง รวมถึงพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5, รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 ปัจจุบัน มีพระครูอุปกิตปริยัติโสภณ สุข สุมังคโล (พระ-ครู-อุป-ปะ-กิด-ปะ-ริ-ยัด-ติ-โส-พน สุก สุ-มัง-คะ-โล) เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ 40 รูป และสามเณร 20 รูป ภายในวัดฯ มีสระน้ํามนต์ศักดิ์สิทธิ์ ก่อขอบสระเป็นอิฐถือปูน เพื่อกรุอิฐเป็นสระน้ํามนต์ศักดิ์สิทธิ์ มีศิลาลงยันต์คาถาอักษรขอม ปลุกเสกอาคมบรรจุไว้ตรงกลางสระ เพื่อให้น้ําทั้งสระเป็นน้ํามนต์ ใช้ในงานพิธีมงคลของชาวบ้านในอดีต ทางราชการ ได้นําน้ํามนต์ในสระนี้ ไปรวมกับน้ําศักดิ์สิทธิ์แหล่งอื่นๆ เพื่อเป็นน้ําอภิเษก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 พุทธศักราช 2454, รัชกาลที่ 7 พุทธศักราช 2468, และรัชกาลที่ 10 พุทธศักราช 2562 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
8/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220209132142181
689
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ออนไลน์
วันนี้ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14 นาฬิกา สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ท้องพระโรง ตําหนักทิพย์พิมาน อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดําเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ครั้งที่ 1/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ออนไลน์ โดยมีระเบียบวาระการประชุมเรื่องต่างๆ ของยุทธศาสตร์ 8 ด้าน ได้แก่ การเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ การจัดการระบบศูนย์พักพิงสัตว์ การเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมและดูแลรักษาโรคพิษสุนัขบ้าในคน การขับเคลื่อนการดําเนินงานโรคพิษสุนัขบ้าในท้องถิ่น การประชาสัมพันธ์ การบูรณาการและการบริหารจัดการข้อมูลโรคพิษสุนัขบ้า การติดตามและประเมินผล และการพัฒนานวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยดําเนินงานในรูปแบบบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนตามแนวทางสุขภาพหนึ่งเดียว One Health ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึงปัจจุบัน ยังไม่พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า แต่ยังคงพบสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้าใน 7 จังหวัด ที่ประชุม จึงเร่งรัดให้แต่ละยุทธศาสตร์ ดําเนินการตามแผนที่วางไว้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการขจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย สอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลก ซึ่งแผนงานในระยะที่ 2 นี้ ระหว่างปี 2564 ถึง 2568 มุ่งเน้นการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ การบริหารจัดการประชากรสัตว์เลี้ยงอย่างเป็นระบบ ทั้งการทําหมันและฉีดป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า การสร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนและการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามแนวชายแดน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้แต่ละยุทธศาสตร์ มีข้อจํากัดในการออกปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการดําเนินการปฏิบัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและทําหมันในสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ ได้มีการปรับรูปแบบการปฏิบัติงานต่างๆ ให้เหมาะสม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน คํานึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม โอกาสนี้ พระราชทานพระนโยบายและแนวทางในการขับเคลื่อนการดําเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ แก่คณะกรรมการฯ โดยทรงเน้นย้ําเรื่องการให้ความรู้กับประชาชน การลงพื้นที่ฉีดวัคซีนและทําหมันสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัด รวมถึงการจัดเก็บวัคซีนด้วยความควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม ทั้งได้พระราชทานกําลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานทุกหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อนการดําเนินงานโครงการฯ ด้วย สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงห่วงใยในสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย ทรงตระหนักถึงความสําคัญของการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งในคนและในสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่อจากสัตว์มาสู่คน ซึ่งนับวันจะทวีความสําคัญมากขึ้นและส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชน สําหรับโรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อจากสัตว์มาสู่คนที่ร้ายแรง ไม่มียารักษา แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์และการบริหารจัดการที่ดีทั้งด้านการเลี้ยงสัตว์ การป้องกันและรักษาในคน การให้ความรู้ ตลอดจนความร่วมมือของประชาชน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
9/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220210113227557
690
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 5 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับ ดังนี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิพลังที่ยั่งยืน นําคณะกรรมการมูลนิธิฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล พลโท นายแพทย์มงคล จิวะสันติการ นํานางสาวธิดารัตน์ มั่นสินธร และนายเดเมี่ยน ดูรอง พร้อมด้วยครอบครัว เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย พลเอก เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นําคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ และคณะกรรมการจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ "ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2021" พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบใจเกินร้อย และการแข่งขันจักรยาน ปั่นเพื่อชีวิต "ไบค์ ฟอร์ ออล" (Bike 4 ALL) ประจําปี 2564 เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจัดการแข่งขันฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิ่งของ เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นําคณะผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัทในกลุ่ม เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการออกร้านงานกาชาดออนไลน์ ประจําปี 2564 เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรถยนต์นั่งไฟฟ้า เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย นางสาวราอูชัน เยสบูลาโตวา (Ms. RaushanYesbulatova) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคาซัคสถานประจําประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
10/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220211112554034
691
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์น ทรงอำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ในโอกาสวันครบรอบชัยชนะการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ซึ่งตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ ฯพณฯ อายาตุลลอฮ์ ซัยยิด อิบรอฮีม เราะอีซี ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน กรุงเตหะราน ในโอกาสวันครบรอบชัยชนะการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อพลานามัยที่สมบูรณ์และความสุขสวัสดิ์ของท่านประธานาธิบดี ทั้งเพื่อความผาสุกร่มเย็นและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวอิหร่าน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ด้วยการสนับสนุนของท่านประธานาธิบดี สัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างประเทศของเราทั้งสองจะเจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น อันก่อให้เกิดประโยชน์สุขร่วมกันต่อไปในภายภาคหน้า พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
11/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220212204731534
692
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดแพร่
วันนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 9 นาฬิกา 52 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังศูนย์การศึกษาพิเศษประจําจังหวัดแพร่ ตําบลนาจักร อําเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ทรงเปิดอาคาร "พิริยาทร" อาคารอเนกประสงค์ 3 ชั้น ได้รับจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างจากสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2562 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่ออาคารว่า "พิริยาทร" หมายถึง "อาคารที่เป็นแหล่งความช่วยเหลือ เอื้ออาทรและความเพียรกล้า" และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย "สธ" (สอ-ทอ) ประดับที่อาคารฯ ทั้งนี้ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจําจังหวัดแพร่ ได้จัดรูปแบบการใช้งานอาคาร ให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับพันธกิจ ความต้องการจําเป็นพิเศษของคนพิการที่มีความบกพร่องทุกประเภท ตั้งแต่แรกพบความพิการที่มารับบริการ ในลักษณะศูนย์บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม และเตรียมความพร้อมของคนพิการ ให้สามารถเข้าถึงประสบการณ์ ความรู้ และการบําบัดฟื้นฟูสมรรถภาพจากนักสหวิชาชีพและครูการศึกษาพิเศษ เพื่อส่งต่อเข้าสู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนเรียนร่วม โรงเรียนเฉพาะความพิการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โอกาสนี้ ทอดพระเนตรห้องงานอาชีพเด็กพิการ มีบทบาทสําคัญในการพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพให้แก่เด็กพิการ ตามความเหมาะสมและความจําเป็น เพื่อให้สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ กลุ่มเป้าหมาย คือเด็กพิการกลุ่มเตรียมส่งต่อสถานศึกษาเรียนรวมหรือชุมชน และเด็กพิการที่ให้ความสนใจ ทางศูนย์ฯ ได้ส่งเสริมทักษะการเพ้นท์สีลงบนถุงผ้าดิบและฝึกร้อยสายคล้องแมส ผลงานที่ได้ จําหน่ายในงานเทศกาล งานแสดงสินค้ากลุ่มชุมชนของจังหวัดและงานนิทรรศการของสถานศึกษา นอกจากการฝึกทักษะแล้ว ผู้ฝึกยังได้ความมั่นใจและความภาคภูมิใจในผลงานของตนอีกด้วย ส่วนชั้น 2 และ ชั้น 3 ของอาคาร เป็นห้องให้บริการนักเรียนด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพและเสริมสร้างพัฒนาการในรูปแบบการให้บริการช่วยเหลือในระยะแรกเริ่ม อาทิ ห้องกายภาพบําบัด เป็นห้องสําหรับตรวจประเมินและบําบัดเด็กที่มีความบกพร่องของร่างกายที่เกิดจากภาวะของโรค ที่ทําให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติจากระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ห้องศิลปะบําบัด ใช้ศิลปะแขนงต่างๆ ได้แก่ การวาด การปั้น การตัดปะ การระบายสี มาผสมผสานเป็นกระบวนการให้เด็กเกิดการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม ซึ่งเด็กที่เข้ารับบริการ มีพฤติกรรมไม่พึ่งประสงค์ลดลงและประสิทธิภาพในการเรียนรู้ทักษะอื่นในชีวิตประจําวันดีขึ้น ห้องดนตรีบําบัด ใช้การร้องเพลง เล่นเครื่องดนตรี การเต้นประกอบเพลง เพื่อช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสร่วมกับการเคลื่อนไหว เสริมสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ จิตใจและสติปัญญา ส่งผลให้เด็กสามารถเรียนรู้และเข้าใจวิธีจัดการกับอารมณ์และแสดงพฤติกรรมได้เหมาะสมกับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อม ห้องฝึกพูด เป็นห้องเตรียมความพร้อมในเด็กที่มีปัญหาด้านการพูดระดับรุนแรงเพื่อฝึกการควบคุมการ เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อและร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการพูด ให้พร้อมต่อการพูดต่อไป ห้องกิจกรรมบําบัด ใช้กิจกรรมการเล่นของเด็กแต่ละช่วงวัยเป็นสื่อและกระบวนการในการตรวจประเมิน ส่งเสริม และบําบัดพัฒนาการรอบด้านของเด็ก และห้องกระตุ้นพัฒนาการประสาทสัมผัส ส่งเสริมการกระตุ้นการรับความรู้สึกพื้นฐาน ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ จะแบ่งตามพฤติกรรมความบกพร่องของแต่ละคน เพื่อให้เหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลและโรงเรียนที่เป็นเครือข่ายในจังหวัดแพร่ อาทิ ศูนย์การเรียนสําหรับเด็กในโรงพยาบาลแพร่ ตั้งขึ้นเพื่อให้เด็กที่เจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปและโรคเรื้อรัง ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องตามความสามารถและความต้องการของผู้เรียน โรงเรียนบ้านปากกาง เป็นโรงเรียนคู่ขนาน ที่จัดการสอนสําหรับเด็กพิการ เรียนรวมกับนักเรียนปกติ เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้การอยู่ร่วมกันและสามารถดํารงชีวิตในสังคมได้ และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 25 สถานศึกษาที่จัดการศึกษาสําหรับเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา ในเขตพื้นที่บริการจังหวัดแพร่และจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกิดทักษะการเรียนรู้ที่หลากหลาย ศูนย์ฯ นี้ ยังเป็นหน่วยงานพัฒนาฝึกอบรมผู้ดูแลคนพิการ และบุคลากรที่จัดการเรียนการสอนแก่คนพิการในโรงเรียนเรียนร่วม ทั้งเป็นแหล่งข้อมูลสารสนเทศในเรื่องสิทธิ โอกาส ตามกฎหมาย แก่คนพิการ เพื่อให้ผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มศักยภาพและเป็นที่ยอมรับของสังคม นําไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
11/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220212205041535
693
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิจุฬาภรณ์สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ Video Conference
วันนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13 นาฬิกา 59 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ท้องพระโรง ตําหนักทิพย์พิมาน อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิจุฬาภรณ์ สามัญประจําปี ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ Video Conference โดยมีระเบียบวาระการประชุมเรื่องต่างๆ อาทิ การดําเนินกิจกรรมเพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ และการดําเนินการเรื่องสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีเป็นจํานวนสองเท่าของจํานวนเงินที่บริจาค ในการนี้ ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคสุกรอย่างใกล้ชิด ด้วยทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จึงมีพระดําริให้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ หน่วยงานภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ ประสานความร่วมมือไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีความชํานาญในการแก้ปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ โรค ASF เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคระบาดในสุกร ระหว่างนักวิชาการของทั้ง 2 ประเทศ อันจะนําไปสู่ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืน มูลนิธิจุฬาภรณ์ เป็นองค์กรที่ดําเนินงานสนองพระดําริสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานมูลนิธิจุฬาภรณ์ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทุกมิติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนมาตลอดระยะเวลา 36 ปี อีกทั้งยังสืบสานพระปณิธานด้วยการเป็นองค์กรการกุศล เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้และผู้ด้อยโอกาสทั่วทุกภูมิภาค เช่น การมอบทุนการศึกษาและอุปการะค่าเล่าเรียน การให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัยพิบัติและผู้ป่วยยากไร้ รวมถึงการจัดหาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นแก่โรงพยาบาลต่างๆ ที่ขาดแคลน นอกจากนี้ ทรงจัดตั้ง "โครงการถักร้อย-สร้อยรัก" ขึ้น ในรูปแบบการหารายได้การกุศล ด้วยการจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์จากเครื่องประดับมุก โดยสมทบทุนเข้ามูลนิธิจุฬาภรณ์ สําหรับนําไปช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
11/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220212205258536
694
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จลงแทนพระองค์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ทรงเจิมเทียนรุ่ง เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2565
วันนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17 นาฬิกา 24 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จลงแทนพระองค์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเจิมเทียนรุ่ง เนื่องในการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2565 ในการนี้ ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมเทียนรุ่ง จํานวน 14 ต้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชอุทิศไปจุดบูชาพระรัตนตรัย ในพระอารามหลวง 6 พระอาราม ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร และวัดนิเวศธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันมาฆบูชา เป็นวันสําคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง ตามปฏิทินจันทรคติของไทยนั้น ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ํา เดือน 3 แต่ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน, วันมาฆบูชา ก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ํา เดือน 4 ในปีนี้ ตรงกับที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 วันมาฆบูชา ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่ วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ํา เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ มีพระสงฆ์จํานวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" เหตุอัศจรรย์ 4 ประการดังกล่าว จึงเรียกวันมาฆบูชา อีกชื่อหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" ในวันมาฆบูชา นี้ พระพุทธเจ้า ได้ทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคําสอน สรุปเนื้อหาสําคัญได้ว่า "ทําความดี ละเว้นความชั่ว ทําจิตใจให้บริสุทธิ์" ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
11/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220212205604538
695
พระราชสาส์นทรงอำนวยพรในโอกาสวันครบรอบชัยชนะการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
ด้วยวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันครบรอบชัยชนะการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นทรงอํานวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ดังนี้ ในโอกาสวันครบรอบชัยชนะการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อพลานามัยที่สมบูรณ์และความสุขสวัสดิ์ของท่านประธานาธิบดี ทั้งเพื่อความผาสุกร่มเย็นและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวอิหร่าน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ด้วยการสนับสนุนของท่านประธานาธิบดี สัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างประเทศของเราทั้งสองจะเจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น อันก่อให้เกิดประโยชน์สุขร่วมกันต่อไปในภายภาคหน้า (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
11/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220211212257291
696
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม)
วันนี้ 13 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17 นาฬิกา 29 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม) ณ เมรุชั่วคราว วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม) มีนามเดิมว่า "เที่ยง ชูกระโทก" เกิดวันที่ 16 เมษายน 2478 ที่บ้านดอนชมพู ตําบลบิง อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา บิดาและมารดา ชื่อ นายโปย และนางสี ชูกระโทก หลังเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้บรรพชา ที่วัดสมอราย ตําบลหนองจะบก อําเภอเมืองนครราชสีมา จากนั้น เจ้าอาวาสวัดสมอรายได้ส่งไปฝากเรียนที่วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม และเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2501 ได้อุปสมบท ที่วัดบ้านดอนชมพู ตําบลบิง อําเภอโนนสูง หลังจากจําพรรษาอยู่ 2 ปี ได้กลับไปที่วัดระฆังโฆสิตาราม เพื่อศึกษาพระธรรมบาลี จนสามารถสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค โดยเป็นพระนักการศึกษา วิทยากรเผยแผ่อบรบและพระธรรมกถึก เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสํานักเรียนวัดระฆังโฆสิตาราม กรรมการตรวจบาลีสนามหลวงและธรรมสนามหลวง เป็นผู้อํานวยการอภิธรรมมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย วัดระฆังโฆสิตาราม และเป็นพระนักปกครอง ซึ่งในปี 2515 ได้รับการแต่งตั้ง เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ในปี 2536 เป็นเจ้าคณะภาค 11 และในปี 2550 เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ทั้งมีความสามารถในการเขียนกวีธรรมสาธก หรือกลอนธรรมะ มีผลงานเป็นจํานวนมากที่สร้างชื่อเสียง เป็นคติธรรมให้กับพุทธศาสนิกชน นอกจากนี้ ยังเป็นพระผู้ใหญ่ ที่ได้รับการยกย่องว่ามีจริยวัตรงดงาม ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีลูกศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เคารพนับถือจํานวนมาก พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม) มรณภาพ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 สิริอายุ 85 ปี พรรษาที่ 63 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
13/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220214110416853
697
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
วันนี้ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 8 นาฬิกา 27 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังโครงการเลี้ยงแพะพันธุ์แบล็คเบงกอล อําเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ทรงติดตามความก้าวหน้าของโครงการฯ ซึ่งมีพระราชกระแสให้มูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดําเนินการเลี้ยงแพะพันธุ์แบล็คเบงกอล เพื่อขยายพันธุ์ให้ราษฎร ทั้งนี้ เมื่อปี 2553 รัฐบาลประเทศบังกลาเทศ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแพะพันธุ์แบล็คเบงกอล เป็นเพศผู้ 1 ตัว, เพศเมีย 2 ตัว โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดําเนินการผลิตแพะพันธุ์แบล็คเบงกอลสายพันธุ์แท้ เพื่อรักษาสายพันธุ์ให้คงลักษณะประจําพันธุ์ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผลิตแพะลูกผสม เพื่อให้แพะมีความแข็งแรง ใช้ประโยชน์ได้ดีทั้งเนื้อทั้งน้ํานม และสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี โดยนําแพะพันธุ์ซาเนนและลูกผสมซาเนนพื้นเมืองมาผลิตลูกผสมสองและสามสายพันธุ์ ตั้งแต่ปี 2561 มูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับภาควิชาสรีรวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยโทโฮกุ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มการศึกษารูปร่างและอัตราการเจริญเติบโตของแพะพันธุ์แบล็คเบงกอลซึ่งเป็นแพะเนื้อ (จุดเด่น มีขนสั้นดําหรือสีน้ําตาลเข้ม มีเคราและเขา), แพะพันธุ์ซาเนนซึ่งเป็นแพะนม (จุดเด่น มีขนสีขาว อาจมีเขาหรือไม่มีเขา), และแพะลูกผสมของทั้งสองสายพันธุ์ โดยทําการศึกษาเพื่อให้มีปริมาณน้ํานมเพียงพอให้ลูกแพะพันธุ์แบล็คเบงกอลที่ปกติมีขนาดตัวเล็ก แต่มีลูกต่อครอกจํานวนมาก เพื่อให้ลูกแพะมีอัตราการรอดสูงขึ้น นอกจากนี้ ลูกผสมของทั้งสองสายพันธุ์ ยังโตเร็วกว่าพันธุ์แบล็คเบงกอล และน้ํานมน้ําเหลืองที่สร้างตอนแรกคลอด ยังมีคุณภาพดี มีสารที่เร่งการเติบโตและสารภูมิคุ้มกันสูงกว่าพันธุ์แท้ทั้งสองพันธุ์ ทําให้ลูกแพะมีความต้านทานต่อโรค โดยลูกแพะจําเป็นต้องได้รับน้ํานมน้ําเหลืองในช่วง 3 วันแรกหลังคลอด ซึ่งพบว่าส่งผลต่อการเจริญเติบโตในช่วง 1 เดือนแรกหลังคลอด สําหรับแพะลูกผสมทั้ง 2 สายพันธุ์ จะดําเนินการปรับปรุงพันธุ์ต่อไป ให้เป็นแพะท้องถิ่นที่เกษตรกรเลี้ยงได้เพื่อให้เนื้อและน้ํานม นอกจากนี้ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย เข้าไปดําเนินงานด้านสุขภาพสัตว์ในโครงการฯ มีการจัดการพืชอาหารสัตว์ เฝ้าระวังโรคที่พบบ่อย เช่น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคพยาธิในระบบทางเดินอาหาร โดยส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสุขภาพแพะเบื้องต้น จัดการปัญหาพยาธิในฟาร์มโดยสุ่มตรวจหาไข่พยาธิในแพะและฉีดวัคซีน ส่งผลให้พบโรคพยาธิลดลงในช่วง 2 ถึง 3 ปี ที่ผ่านมา ปัจจุบันโครงการฯ มีแพะทั้งหมด 388 ตัว ประกอบด้วย แพะพันธุ์แบล็คเบงกอล 262 ตัว แพะพันธุ์ซาเนน 22 ตัว แพะลูกผสม 104 ตัว ในปีที่ผ่านมาได้พระราชทานแพะให้แก่ราษฎรไปแล้ว 222 ตัว ในปี 2565 คาดว่าจะมีแพะพร้อมพระราชทานทั้งหมด 250 ตัว เป็นแพะพันธุ์แบล็คเบงกอล 170 ตัว แพะพันธุ์ซาเนน 72 ตัว และแพะลูกผสม 8 ตัว เวลา 10 นาฬิกา 17 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดําเนินงานของ "ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงราย" ตั้งอยู่ที่ตําบลโป่งผา อําเภอแม่สาย โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือรับรอง "สลัดสวยงาม" และ "มะเขือเปราะเพชร ล้านนา" ที่ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช 2518 และพระราชทานพระราชวโรกาสให้ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จํากัด เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจําหน่ายเมล็ดพันธุ์ "จันกะผัก-ศรแดง" เพื่อทรงใช้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์พระราชทานหมุนเวียนต่อไป จากนั้น ได้พระราชทานวุฒิบัตรแก่ผู้แทนทหารพันธุ์ดีและตํารวจพันธุ์ดี ที่เข้ารับการอบรม ณ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จํานวน 29 รุ่น 616 นาย แก่ผู้แทนกองทัพบก และผู้แทนตํารวจพันธุ์ดี ในสังกัดตํารวจภูธรภาค 5 ต่อจากนั้น ได้ทอดพระเนตรความก้าวหน้าด้านต่างๆ ที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ คิดพัฒนาขึ้น อาทิ การผลิตไส้เดือนฝอย ช่วยลดการแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืช เป็นแนวทางการทําเกษตรแบบปลอดสารพิษที่ได้รับคําแนะนําจากกรมวิชาการเกษตร ปัจจุบันสามารถขยายผลการผลิตไส้เดือนฝอยออกสู่สมาชิกโครงการปลูกผักปลอดภัยภายใต้มาตรฐาน GAP ที่บ้านร่องก๊อ ตําบลแม่คํา อําเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายได้แล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิชัยพัฒนา จัดตั้งศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ เมื่อปี 2552 เพื่อเป็นที่ระลึกในวาระครบ 100 ปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ มีพระราชประสงค์ให้ผลิตเมล็ดพันธุ์ผักสะสมสํารองไว้ เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์พระราชทานแก่ประชาชนทั่วไปและประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ที่ผ่านมาศูนย์พัฒนาพันธุ์ พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้ชักชวนให้ชุมชนเข้าร่วมโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" เพื่อให้ราษฎรได้มีรายได้เสริม มีโอกาสเข้าร่วมทํางานถวาย เป็นกําลังสําคัญในการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักสํารองไว้ให้เพียงพอ เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์พระราชทาน ด้านการส่งเสริมให้ราษฎรปลูกผัก ได้สนองพระราชดําริ ด้วยการจัดทําโครงการ "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" เพื่อให้ราษฎรปลูกผักบริโภคในครัวเรือน หากเหลือสามารถจําหน่ายเป็นรายได้เสริม ปัจจุบันมีสมาชิก 2,086 หมู่บ้าน 55,146 ครัวเรือน ส่วนโครงการ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" ได้พระราชทานกล้าไม้ผล เช่น มะม่วง ขนุน ฝรั่ง มะกอก มะขาม และน้อยหน่า ให้ชุมชนช่วยกันปลูกตามริมถนนและที่สาธารณะในหมู่บ้าน ด้วยมีพระราชประสงค์ให้ราษฎรมีไม้ผลไว้แบ่งปันกันบริโภค ปัจจุบันมีสมาชิก 119 หมู่บ้าน 4,936 ครัวเรือน ปลูกไม้ผลได้มากกว่า 73,000 ต้น ทั้งมีพระราชกระแสให้จัดทําโครงการปลูกผักปลอดภัยภายใต้มาตรฐาน GAP เพื่อให้ราษฎรปลูกผักด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง ไม่ใช้สารเคมี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภค และเป็นการลดต้นทุนในการผลิต เริ่มดําเนินงานปี 2563 ปัจจุบันมีสมาชิก 81 ราย ใน 14 ตําบล 3 อําเภอ ได้แก่ อําเภอแม่จัน อําเภอแม่สายและอําเภอเชียงแสน ผลิตผักสดได้ 64 ชนิด ส่งจําหน่ายในซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนําต่างๆ กิจกรรมหลักของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ คือ ผลิตเมล็ดพันธุ์ผักที่มีคุณภาพ เช่น คะน้า กวางตุ้ง ฟัก แฟง ถั่วพู มะเขือเปราะเจ้าพระยา มะเขือยาว บวบ กระเจี๊ยบเขียว ถั่วฝักยาว และพริก เป็นต้น รวมทั้งปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์พืช เพื่อให้เกษตรกรมีพืชสายพันธุ์ดีไว้เพาะปลูก ที่ผ่านมา ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปรับปรุงพัฒนาพันธุ์พืชได้ 10 สายพันธุ์ และร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ปรับปรุงพัฒนาพันธุ์พืชได้ 6 สายพันธุ์ ได้รับพระราชทานชื่อ ดังนี้ ถั่วฝักยาวสีม่วงสิรินธร เบอร์1, ถั่วแขกสีม่วงสิรินธร เบอร์1, ถั่วแขกสีเหลืองเทพรัตน์ เบอร์1, ถั่วฝักยาวลายเสือจักรพันธ์ เบอร์ 1, มะเขือเปราะพวงหยกจักรพันธ์, พริกขี้หนูปู่เมธ, พริกพัฒนฉันท์, แตงไทยหอมละมุน, สลัดช่อผกาพัฒนาเอง, ถั่วฝักยาวล้านนาชวนอร่อย, มะเขือเทศจักรพันธ์ 1, มะเขือเทศจักรพันธ์ 2, ฟักทองประกายดาวล้านนา, กวางตุ้งเหลืองล้านนา, สลัดสวยงามและมะเขือเปราะเพชรล้านนา ในปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ปรับปรุงพันธุ์ถั่วฝักยาว เป็นการผสมข้ามพันธุ์เพื่อสร้างลักษณะใหม่และทําการคัดเลือก จนสามารถสร้างพันธุ์ใหม่ได้ 4 พันธุ์ ในวันนี้ ได้พระราชทานชื่อถั่วฝักยาวทั้งสี่สายพันธุ์ว่า เสือดุ, เสือเขียว, เสือขาวและเสือลายพาดกลอน ณ โรงปรับปรุงคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน ได้ทอดพระเนตรโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน" เพื่อนช่วยเพื่อน" จังหวัดเชียงราย ที่จัดตั้งขึ้นในปี 2559 ปัจจุบันมีเกษตรกรในหมู่บ้านสันหลวงใต้ และบ้านสันบุญเรือง เข้าร่วมโครงการ 30 ราย มีพื้นที่เพาะปลูก 416 ไร่ สามารถพัฒนาและปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี มีคุณภาพ ได้ผลผลิตรวม 588.051 ตัน พร้อมแจกจ่ายให้เกษตรกร เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตที่คงคุณภาพและคงลักษณะเด่น ปลูกต่อได้ถึงรุ่นลูกและรุ่นหลาน โอกาสนี้ ทรงพระราชปฏิสันถาร กับสมาชิกกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" ตําบลเกาะช้าง ได้พระราชทานกําลังใจ พระราชทานพระราชกระแสชื่นชมสมาชิกและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ขยันขันแข็ง สามัคคีร่วมมือกัน ทําให้งานก้าวหน้าไปมากและมีพระราชดํารัสว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากลําบาก สมาชิกต้องช่วยกัน ชักชวนเพื่อนฝูง ลูกหลาน ให้ช่วยกันทําเกษตร จะได้มีความรู้ มีประสบการณ์ พึ่งพาตนเองได้ ไม่ลําบาก ไม่ตกยาก สําหรับโครงการที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ดําเนินงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มี 4 โครงการ ได้แก่ โครงการบริหารจัดการควบคุมศัตรูพืชอย่างปลอดภัย, โครงการพัฒนาพันธุ์และรักษาพันธุ์พืชผัก, โครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักและโครงการผลิตแตงกวาและมะเขือเทศให้ออกผลตลอดทั้งปี ที่โรงเรือนผลิตพันธุ์สัตว์ปีกพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" ปัจจุบันสามารถผลิตพันธุ์ไก่พื้นบ้าน ส่งมอบให้เกษตรกรนําไปเลี้ยงต่อได้แล้ว โอกาสนี้ เจ้าของฟาร์มไก่เหลืองหางขาว บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพ่อแม่พันธุ์ไก่พื้นบ้านเหลืองหางขาว จํานวน 3 ตัว เพื่อเพาะขยายพันธุ์และอนุรักษ์สายพันธุ์ดี ลักษณะเด่นคือ เป็นไก่สวยงาม ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ยังสามารถผลิตสารชีวภาพและสารชีวภัณฑ์ ทดลองใช้กับพืชผักชนิดต่างๆ ภายในโครงการ เมื่อได้ผลจึงขยายสู่ชุมชน อาทิ -ผลิตสารสกัดสมุนไพรกําจัดแมลงศัตรูพืช เช่น หางไหล ใบยาสูบ พริก ทองพันชั่ง บอระเพ็ด ไพล ข่า ตะไคร้หอม ขี้เหล็ก สะเดา กําจัดแมลงศัตรูพืช เพลี้ยอ่อน แมลงหวี่ขาว ด้วงเต่าแตงและหมัดกระโดด -ผลิตน้ําหมักชีวภาพ เช่น ฮอร์โมนไข่กระตุ้นตาดอก ฮอร์โมนหัวปลีช่วยขยายส่วยยอดและข้อต่อและจุลินทรีย์หน่อกล้วยเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน นอกจากนี้ ยังผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อทําลายหรือกินเชื้อราที่ทําให้เกิดโรคพืช เช่น โรครากเน่า โคนเน่า ซึ่งกรมวิชาการเกษตร ช่วยให้คําแนะนํา เรื่องการผลิตแบคทีเรีย เพื่อควบคุมโรคเหี่ยวเขียวและโรคใบจุด ส่วนกรมพัฒนาที่ดิน ช่วยแนะนํา เรื่องการผลิตสารเร่งซุปเปอร์ พด. ช่วยย่อยสลายวัสดุทางการเกษตร, ย่อยโปรตีนไขมัน, ควบคุมเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคพืชในดิน และใช้บําบัดน้ําเสียกําจัดกลิ่น สําหรับกิจกรรมวานิลลา ได้รับพระราชทานพันธุ์วานิลลา จํานวน 9 สายพันธุ์ ปัจจุบันเหลือ 7 สายพันธุ์ จะปลูกทําวิจัยเพื่อให้ได้กลิ่นและขยายพันธุ์ต่อไป ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จะทําการทดสอบเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้ ก่อนบรรจุซองเป็นเมล็ดพันธุ์พระราชทาน ด้วยวิธีการสุ่มเมล็ดพันธุ์ นําไปปลูก ดูการงอก ลักษณะของต้น ความแข็งแรงทนต่อโรคและแมลง ที่สําคัญคือ จะต้องมีรสชาติดี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้ง ร้านขายผักจากการทดสอบความเสถียรของเมล็ดพันธุ์ผักขึ้น เมื่อเดือนตุลาคม 2552 พระราชทานชื่อร้านว่า "จันกะผัก" ปัจจุบัน ร้านจันกะผัก จําหน่ายอาหารที่ใช้พืชผักที่ผลิตจากทั้งภายในศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ และผักปลอดภัยจากชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ มีผักสด ผักสลัด ขนม ไอศกรีม เครื่องดื่ม เปิดขายทุกวัน ที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ มูลนิธิชัยพัฒนา ยังได้จัดทําสื่อความรู้ "นิทานจันะผัก" ตอนที่ 1 การปรับปรุงพันธุ์พืช เล่าเรื่องราวของงานต่างๆ ที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ดําเนินงานสนองพระราชดําริ ในรูปแบบที่เด็กๆ และประชาชนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย และได้ทรงอัพโหลด "นิทานจันกะผัก" ตอนที่ 1 ขึ้นบนเว็บไซต์ของมูลนิธิชัยพัฒนา www.chaipat.or.th เวลา 16 นาฬิกา 21 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ํามันและพืชน้ํามัน อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น ทรงติดตามการดําเนินงานของศูนย์ฯ โดยในปี 2564 ได้รับผลผลิตเมล็ดชาจากแปลงปลูกชาน้ํามันเขตปูนะและปางมะหัน อําเภอแม่ฟ้าหลวง จํานวน 123,863.79 กิโลกรัม สามารถหีบน้ํามันเมล็ดชาได้ประมาณ 27,000 ลิตร น้ํามันเมล็ดชาที่ผลิตได้เป็นน้ํามันที่มีคุณภาพสูงประกอบด้วยโอเมก้า 3, 6 และ 9 โดยสามารถนําไปประกอบอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง ตลอดจนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ โลชั่นบํารุงผิว แฮร์โทนิค และครีมอาบน้ํา สําหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ ในปี 2564 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชานุมัติให้ปรับชื่อจากน้ํามันเมล็ดชาเป็น "น้ํามันเมล็ดคามีเลีย" เพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้น เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากขวดแก้วเหลี่ยมใสเป็นขวดแก้วกลมสีชา เพื่อป้องกันแสงที่ส่งผลกระทบต่อการเสื่อมสภาพของน้ํามัน ทําให้รักษาคุณภาพของน้ํามันได้ยาวนานขึ้น โดยวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 จะเสด็จพระราชดําเนินไปทรงเปิดงาน "เทศกาลน้ํามันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์" ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ กรุงเทพมหานคร ส่วนการปรับปรุงโรงงานและการผลิต ทางศูนย์ฯ ได้ปรับปรุงเครื่องหีบเมล็ดชาน้ํามันด้วยการแก้ไขถาดรองน้ํามันดิบ เพื่อแยกน้ํามันเมล็ดชาดิบที่ออกมาจากส่วนหน้าถึงส่วนกลางเครื่องหีบ เพื่อให้การผลิตน้ํามันมีคุณภาพดียิ่งขึ้น ทั้งยังปรับปรุงเครื่องบรรจุน้ํามันและเครื่องรีดเกลียวฝาขวดอัตโนมัติ เพื่อให้สามารถใช้งานกับขวดแก้วทรงกลมที่ใช้ในการบรรจุน้ํามันเมล็ดคามีเลีย โอกาสนี้ ทอดพระเนตรร้านค้าเมล็ดชา เป็นร้านจําหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลผลิตจากโครงการต่างๆ ของมูลนิธิชัยพัฒนากว่า 100 รายการ อาทิ น้ํามันเมล็ดคามีเลีย, ผ้าไหมย้อมสีเปลือกเมล็ดคามีเลีย, ชาสมุนไพร, เสื้อโปโล, เจลล้างมือแอลกอฮอล์ภัทรพัฒน์, สบู่เหลวน้ํามันเมล็ดคามีเลียกลิ่นดอกพีโอนีและสบู่เหลวสําหรับผิวหน้าน้ํามันเมล็ดคามีเลียกลิ่นดอกพีโอนี ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
15/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220216194750936
698
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงสดับพระปาติโมกข์ และประทานพระคติธรรมเนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2565
วันนี้ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13 นาฬิกา 12 นาที สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทรงสดับพระปาติโมกข์ การฟังพระปาฏิโมกข์ เป็นกิจของสงฆ์ที่สําคัญและเป็นสังฆกรรมเฉพาะพระภิกษุเท่านั้น เพราะว่า พระปาติโมกข์ที่ยกเอาพระวินัยขึ้นสวดนี้ เรียกว่า วินัยปาติโมกข์ ซึ่งก็คือ คัมภีร์รวมวินัยสงฆ์ 227 ข้อ แม้สามเณรก็เข้าร่วมไม่ได้ เพราะสามเณรมีศีลเพียง 10 ข้อ โดยจะมีการสวดทุก 15 วัน คือ ในวันขึ้น 15 ค่ํา และวันแรม 15 ในเดือนเต็ม หรือวันแรม 14 ค่ํา ในเดือนขาด นอกจากนั้น ยังอนุญาตให้ทําอุโบสถเป็นพิเศษในคราวที่พระภิกษุแตกความสามัคคี เมื่อพระภิกษุกลับมาสามัคคีกันอีกครั้ง แม้จะยังไม่ถึงวันปาฏิโมกข์ ก็ให้สวดพระปาฏิโมกข์ได้ เรียกว่า สามัคคีอุโบสถ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
16/2/2022
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220217153427181
699