NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
เกษตรย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ขึ้นทะเบียนพร้อมตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวนาปี และข้าวไร่ ปีการผลิต 2566/2567 ตำบลทุ่งค่าย
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ พร้อมด้วยนายยงยุทธิ์ หมุนเวียน อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ลงพื้นที่ขึ้นทะเบียน พร้อมตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2565/2566 ของเกษตรกรหมู่ที่ 5 ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรังทั้งนี้ มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจํานวน 6 ราย เนื้อที่ประมาณ 26 ไร่ โดยพันธุ์ข้าวนาปีที่เกษตรกรปลูก คือ ข้าวพันธุ์เบายอดม่วง และเล็บนกปัตตานี และลงพื้นที่สํารวจข้าวไร่ จํานวน 2 ราย โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่แซมปาล์มน้ํามัน อายุ ระหว่าง 1-3 ปี เนื้อที่ประมาณ 14-2-0 ไร่ สําหรับพันธุ์ข้าวไร่ที่เกษตรกรปลูกคือ ดอกพะยอม และข้าวเหนียวพันธุ์พื้นเมือง
17/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017114807364
246,772
เกษตรวังวิเศษ ร่วมกับสภาเกษตรกรอำเภอวังวิเศษประชุมจัดตั้งเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ พร้อมด้วย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ ร่วมด้วย สภาเกษตรกรอําเภอวังวิเศษ จัดประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการจัดตั้งเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนอําเภอวังวิเศษ พร้อมคัดเลือกคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปลูกทุเรียนระดับอําเภอ ซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมเครือข่ายจํานวน 72 ราย และเข้าร่วมประชุมจํานวน 40 ราย สมาชิกได้พบปะ แนะนําตัว บอกเล่ากิจกรรมการเกษตรของตนเอง ร่วมเสนอปัญหา และความต้องการในการเข้าร่วมเครือข่ายทุเรียนในครั้งนี้ ณ ศาลาประชาคมอําเภอวังวิเศษ หมู่ที่ 7 ตําบลวังมะปรางเหนือ อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรังปัจจุบันจังหวัดตรังมีพื้นที่ปลูกทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้ว ยังไม่ให้ผลผลิตประมาณ 4,000 ไร่ ในปี 2566 มีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 1,582 ตัน และมีแนวโน้มที่เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนมากขึ้น การประชุมขับเคลื่อนการจัดตั้งเครือข่ายทุเรียนตรังมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ เตรียมการจัดตั้งเป็นชมรม เครือข่าย มีปฎิทินการขับเคลื่อนงานที่ชัดเจน แก้ปัญหาเรื่องการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ส่งเสริมการปลูกทุเรียนเน้นการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต และเพื่อสร้างเครือข่ายและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนจังหวัดตรังตลอดห่วงโซ่อุปทาน
17/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017114950366
246,773
เกษตรวังวิเศษ ส่งมอบตัวห้ำ แมลงหางหนีบและมวนเพชฌฆาต แก่เกษตรกรผู้ปลูกผัก หมู่ที่ 3 ตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ มอบหมายให้ นางสาวสุมนรัตน์ ตรึกตรอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญพิเศษ และนายกฤษฎา บัวทอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ส่งมอบตัวห้ํา ได้แก่ แมลงหางหนีบและมวนเพชฌฆาตแก่เกษตรกรผู้ปลูกผัก หมู่ที่ 3 ตําบลวังมะปรางเหนือ อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง แปลงของนางสุภาภรณ์ จันทฤทธิ์เกษตรกรรายดังกล่าวมีเนื้อที่ปลูกผักประมาณ 4 ไร่ ได้แก่ กระเจี๊ยบเขียว/มะเขือเปราะ/โหระพา/กะเพรา/แมงลัก/ยี่หร่า/ผักกินยอดต่างๆ ข่าแดง ถั่วพู มะระขี้นก บวบ การดูแลรักษาพืชผักใช้สารชีวภัณฑ์เป็นหลัก เช่น เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า สารควบคุมแมลงบิวเวอร์เรีย ตัวห้ํา (แมลงหางหนีบและมวนเพชฌฆาต) ที่ส่งมอบให้เกษตรกรนําไปใช้ในแปลงช่วยไปกําจัดศัตรูพืชต่างๆภายในแปลงได้ โดยตัวห้ําจะไปทําลายแมลงศัตรูพืชภายในแปลงได้ ทําให้ลดการใช้สารกําจัดศัตรูพืช ผักที่ได้จึงมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
17/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017115317367
246,774
ปศุสัตว์สุรินทร์ร่วมหารือกับฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมาย .
วานนี้ (16 ตุลาคม 2566) นายสัตวแพทย์ อภิชัย นาคีสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้ น.สพ.จรูญวิทย์ นะพรรัมย์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ เข้าหารือ พ.อ.จิตรกร จันทร์สว่าง รอง ผอ.รมน. จังหวัดสุรินทร์ (ท.) เพื่อประสานความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ บูรณาการตามนโยบายรัฐบาล ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบสินค้าปศุสัตว์ รวมถึงให้คําแนะนําหลักปฏิบัติที่ถูกต้องแก่ผู้ประกอบการในการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของเนื้อสุกรให้เป็นระบบ โดยจะดําเนินการเข้าตรวจสอบห้องเย็นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบห้องเย็นและสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ทั่วประเทศเป็นไปตามข้อสั่งการ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ย้ําให้ดําเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนําเข้า-ส่งออกสินค้าปศุสัตว์เถื่อนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคสัตว์ ปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการถูกแทรกแซงราคา ตลอดจนคุ้มครองผู้บริโภค
17/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017120425376
246,775
กรมวิชาการเกษตร พัฒนาส้มโอพันธุ์ใหม่ กวก.พิจิตร 1 ให้ผลผลิตสูง เนื้อกุ้งนิ่ม รสชาติหวาน กลิ่นหอมเฉพาะตัว
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร กรมวิชาการเกษตร ได้พัฒนาปรับปรุงพันธุ์ส้มโอเพื่อให้มีความหลากหลายในด้านของสีเนื้อและรสชาติ ทนทานต่อโรคและแมลงให้ผลผลิตสูง และมีคุณภาพดี เหมาะสําหรับส่งเสริมให้ปลูกเพื่อการค้า เพิ่มโอกาสการส่งออกในอนาคต โดยได้ทําการปรับปรุงพันธุ์ส้มโอ ซึ่งเริ่มพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2545 และใช้ชื่อพันธุ์ว่า ส้มโอพันธุ์ กวก. พิจิตร 1 ซึ่งมีลักษณะเด่น คือให้ผลผลิตสูงถึง 1,225 กิโลกรัม/ไร่ จํานวนผล 1,080 ผล/ไร่ และน้ําหนักผล 1.16 กิโลกรัม/ผล รวมทั้งมีรสชาติหวาน ลักษณะผลกลมสูง เนื้อกุ้งสีขาวอมชมพูอ่อนและฉ่ําน้ําน้อย โดยเกษตรกรควรเก็บเกี่ยวเมื่อผลมีอายุ 210 - 225 วัน นับจากเริ่มติดผลจนกระทั่งเก็บเกี่ยวซึ่งจะทําให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและรสชาติดีที่สุด เกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร สํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-5699-0035
17/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017120601377
246,776
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เชื่อมโยงเกษตรแปลงใหญ่ เพิ่มศักยภาพข้าวชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดการสัมมนาการเชื่อมโยงนโยบายเกษตรแปลงใหญ่และศักยภาพศูนย์ข้าวชุมชนสู่นโยบายด้านการผลิตข้าวของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกล่าวว่า กรมการข้าวเป็นหน่วยงานสําคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ด้วยการนํานวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามายกระดับให้เกษตรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ได้มอบนโยบายให้ทางกรมการข้าวดูแลเกษตรกรให้มีอาชีพเสริมในระหว่างก่อน-หลัง หรือระหว่าง การทํานา ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรชาวนามีรายได้ที่มากขึ้นและเป็นการเพิ่ม GDP ภาคการเกษตรต่อครัวเรือน รวมถึงเพิ่มกําลังซื้อของประชาชนอีกด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเสริมว่า ในการสร้างอาชีพเสริมแก่เกษตรกรชาวนา ด้วยการเลี้ยงปศุสัตว์เป็นอาชีพเสริมเป็นแนวทางที่น่าสนใจ ซึ่งลงทุนน้อยและให้ผลตอบแทนมาก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีเป้าหมายหลักคือ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้กินดีอยู่ดี
17/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017134559403
246,777
ปศุสัตว์สิงห์บุรีบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจห้องเย็นแช่แข็งเนื้อสัตว์
สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจความถูกต้องของห้องเย็นแช่แข็งเนื้อสัตว์ (17 ต.ค.66) นายธนยศ นงบาง ปศุสัตว์จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สํานักงานพาณิชย์จังหวัด กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ตํารวจ ลงพื้นที่ตรวจห้องเย็นแช่แข็งในพื้นที่อําเภอเมืองจังหวัดสิงห์บุรี จํานวน 4 แห่ง ประกอบด้วย ห้างหุ่นส่วนจํากัดหมูทอง บริษัทมาลัยฟู๊ด ห้างหุ่นส่วนจํากัด ก้องสยาม อินเตอร์ฟู๊ตส์ และยุพินไก่สต เพื่อตรวจความถูกต้องของการมีเนื้อสัตว์และซากสัตว์ไว้ในครอบครองร่วมถึงการนําเข้าเนื้อสัตว์และซากสัตว์จากต่างพื้นที่ว่ามีการดําเนินการถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในการตรวจสอบห้องเย็นทั้ง 4 แห่ง ไม่พบว่ามีการนําเข้าซากสัตว์ที่ผิดกฎหมายหรือลักรอบนําเข้าแต่อย่างใด นายธนยศ นงบาง ปศุสัตว์จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ในการออกมาติดตามตรวจสอบซากสัตว์แช่แข็งในครั้งนี้ พบเนื้อสัตว์แช่แข็งส่วนมากเป็นเนื้อสุกร ชิ้นส่วนไก่ อาหารทะเลบางส่วน ในการตรวจจะดูว่ามีการนําเข้ามาถูกต้องหรือไม่ สินค้าถูกสุขลักษณะไหม ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการลักลอบนําเข้าสินค้าที่พบมีแหล่งที่มาถูกต้อง และได้รับการรับรองจากบริษัทผู้ผลิตอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจังหวัดที่ไม่ใหญ่ มีประชากรไม่มาก ผู้ประกอบการห้องเย็นส่วนมากจะสั่งสินค้ามาในลักษณะซื้อมาและขายไปวันต่อวัน และห้องเย็นแต่ละแห่งในจังหวัดสิงห์บุรีจะเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีความจุไม่เกิน 10 ตัน
17/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สิงห์บุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017122418378
246,778
สถานการณ์น้ำในหลายลุ่มน้ำของประเทศเริ่มจะคลี่คลายลง หลังระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ยกเว้นบางพื้นที่ยังคงมีน้ำล้นตลิ่ง
สถานการณ์น้ําในหลายลุ่มน้ําของประเทศเริ่มจะคลี่คลายลง หลังระดับน้ําลดลงต่อเนื่อง ยกเว้นบางพื้นที่ยังคงมีน้ําล้นตลิ่ง โดยเฉพาะลุ่มน้ํามูลและลุ่มน้ําชี คาดการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์น้ําภาพรวมในหลายลุ่มน้ําของประเทศเริ่มจะคลี่คลาย แต่บางพื้นที่ยังมีปริมาณน้ํามาก จําเป็นต้องบริหารจัดการน้ําให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใน 4 ด้าน คือ น้ําในพื้นที่ น้ําเหนือ น้ําฝน และน้ําทะเลหนุน พร้อมบริหารจัดการน้ําในพื้นที่เชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ เพื่อให้การรับ-ส่งน้ําเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบที่จะเกิดได้มากที่สุด ทั้งแม่น้ําชี แม่น้ํามูล แม่น้ํายม แม่น้ําท่าจีน และแม่น้ําบางปะกงยังคงมีน้ําล้นตลิ่งในบางพื้นที่ แต่มีแนวโน้มเริ่มลดลงต่อเนื่อง เบื้องต้นกรมชลประทานได้ปรับลดการระบายน้ําตามความเหมาะสม โดยที่สถานีวัดน้ํา C.2 จังหวัดนครสวรรค์ คงการระบายน้ําอยู่ที่ 1,960 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมผันน้ําเข้าระบบชลประทานด้านซ้ายและขวาตามศักยภาพ เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนและให้เกษตรกรนําน้ําไปใช้ประโยชน์ โดยวันนี้ได้ปรับลดการระบายน้ําผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงเช่นกันเพื่อลดผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ํา ขณะที่สถานการณ์ลุ่มน้ํามูลมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการระบายน้ํามูลใน 4 เขื่อน คือ เขื่อนพิมาย เขื่อนชุมพวง เขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา ได้ช่วยหน่วงน้ําที่จะไหลลงสู่ลําน้ํามูลตอนล่าง โดยเปิดบานระบายน้ําตามความเหมาะสมกับสถานการณ์น้ําในพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ําจากแม่น้ําชีจะลดผลกระทบกับแม่น้ํามูลที่ จ.อุบลราชธานี ส่วนเขื่อนลําเซบาย เขื่อนลําเซบก และเขื่อนปากมูลได้ยกบานประตูระบายน้ําพ้นน้ํา ด้านลุ่มน้ําชียังมีปริมาณฝนตกในพื้นที่ โดยเฉพาะตอนล่าง ทําให้มีปริมาณน้ําไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ต่อเนื่อง จึงได้ปรับเพิ่มการระบายน้ํา เพื่อรักษาระดับน้ําในเขื่อนให้อยู่เกณฑ์ควบคุม ส่วนเขื่อนลําปาวปริมาณน้ําไหลเข้าเขื่อนเริ่มลดลง จึงปรับลดการระบายน้ําให้สอดคล้องกับสถานการณ์ลดผลกระทบด้านท้ายน้ํา และรองรับปริมาณน้ําจากเขื่อนอุบลรัตน์ที่จะไหลลงมาสมทบ ทั้งนี้ คาดการณ์ทั้ง 2 ลุ่มน้ําระดับน้ําจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
17/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017131528397
246,779
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยปฏิบัติงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ให้ กับสุนัข-แมว ในพื้นที่รอบบริเวณจุดเกิดโรคพิษสุนัขบ้า
วันนี้ (17 ตุลาคม 2566) นายทวีพงศ์ สาระทัศนานันท์ ปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย กล่าวว่า สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตําบลนาดี อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) บ้านหนองทุ่ม หมู่ที่ 4 ตําบลนาดี อําเภอด่านซ้าย ร่วมปฏิบัติงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ให้กับสุนัข-แมว ในพื้นที่รอบบริเวณจุดเกิดโรคพิษสุนัขบ้า บ้านหนองทุ่ม สุนัข 18 ตัว รวม 23 ตัว รวม 41 ตัว เจ้าของสัตว์ 18 ราย พร้อมให้ความรู้ในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า แก่เกษตรกรเจ้าของสัตว์ ณ บ้านหนองทุ่ม หมู่ที่ 4 ตําบลนาดี อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
17/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017162750493
246,783
สมศักดิ์ สั่งการให้ สทนช. ทบทวนมาตรการรับมือหน้าแล้งนี้ทั้ง 9 มาตรการ รวม 3 ด้าน เพื่อรับมือผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ
รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้สํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ทบทวนมาตรการรับมือหน้าแล้งนี้ทั้ง 9 มาตรการ รวม 3 ด้าน เพื่อรับมือผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมการในการบริหารจัดการน้ําปี 2566/2567 ณ ตึกบัญชาการ ทําเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้สํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวน (ร่าง) มาตรการรองรับหน้าแล้งปี 2566/2567 ทั้ง 9 มาตรการ แบ่งเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านน้ําต้นทุน คือ เฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ําสํารอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ํา และปฏิบัติการเติมน้ําอย่างมีประสิทธิภาพ // ด้านความต้องการใช้น้ํา คือ กําหนดแผนจัดสรรน้ําและพื้นที่เพาะปลูกพืชหน้าแล้ง ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปรัง สร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกร เตรียมน้ําสํารองสําหรับพื้นที่ลุ่มต่ํารับน้ํานอง , บริหารจัดการน้ําให้เป็นไปตามลําดับความสําคัญการใช้น้ําที่คณะกรรมการลุ่มน้ํากําหนด , เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ํา ประหยัดน้ํา และลดการสูญเสียน้ําในทุกภาคส่วน , เฝ้าระวังและแก้ไขคุณภาพน้ํา และสุดท้าย ด้านการบริหารจัดการ คือ เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ําของชุมชนหรือองค์กรผู้ใช้น้ํา สร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ และติดตามและประเมินผลการดําเนินงาน เพื่อให้มาตรการมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากปริมาณน้ําที่เพิ่มมากขึ้นจากฝนตกหนักช่วงปลายฤดูฝน โดยจะเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ําแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2566 ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เพื่อให้ความเห็นชอบ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ได้กําชับให้บริหารจัดการน้ําช่วงปลายฤดูฝนส่งต่อหน้าแล้งอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้มีปริมาณน้ําเพียงพอทั้งประเทศรับมือปรากฎการณ์เอลนีโญ หลังคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 - พฤศจิกายน 2567 จากนั้นจะมีกําลังอ่อนลงและต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2567 ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเตรียมพร้อมรับมือเอลนีโญช่วงหน้าแล้งนี้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักรู้ให้สาธารณชนถึงผลกระทบเอลนีโญและขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ําร่วมกัน ซึ่ง สทนช. จะจัดกิจกรรมเสวนาวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ที่เป็นประโยชน์และจัดนิทรรศการแสดงการดําเนินงานด้านการบริหารจัดการน้ําช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
17/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017170140510
246,784
ปศุสัตว์จังหวัดตราดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจห้องเย็น และสถานที่เก็บเนื้อสัตว์ และซากสัตว์
(17 ต.ค. 66) นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการลักลอบสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย ซึ่งจังหวัดตราด โดยสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดตราด เป็นเจ้าภาพโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติงานตรวจห้องเย็น และสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ ภายในจังหวัดตราด จากนั้นสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดตราด นําโดย สัตวแพทย์หญิง สุธาทิพย์ สุขสําราญ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจ ห้องเย็น และสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ ในพื้นที่อําเภอเมืองตราด รวม 5 แห่งสัตวแพทย์หญิง สุธาทิพย์ สุขสําราญ กล่าวว่า การดําเนินการออกตรวจห้องเย็น และสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ในครั้งนี้เป็นการดําเนินการตามนโยบบายในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดตราด ภายใต้การอํานวยการของ นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้สั่งการให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่ กอ.รมน.จังหวัด พาณิชย์จังหวัดด ตํารวจภูธรจังหวัด ดําเนินการออกตรวจห้องเย็น และสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ จํานวน 5 แห่ง ประกอบด้วย ห้องเย็นของ โลตัส สาขาตราด บจก.สยามแม็คโคร สาขาตราด CP เบทาโกร และฟาร์มคุณปู่ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบสินค้าเกษตรประเภทเนื้อสัตว์ ที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
17/10/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017171054515
246,785
รมช.ไชยา” นำทีมเกษตรฯ เปิดโครงการ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบประชาชน” พร้อมตรวจเยี่ยมด่านชายแดนบ้านพุร้อน จ.กาญจนบุรี
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วม ณ วิสาหกิจชุมชนบ้านตอไม้แดง จ.กาญจนบุรี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เล็งเห็นถึงความสําคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ของพี่น้องเกษตรกร เพื่อต่อยอดการประกอบอาชีพที่มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทําโครงการ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบประชาชน” เพื่อบริการความรู้ด้านวิชาการให้แก่พี่น้องเกษตรกรในด้านพืช ด้านปศุสัตว์ และด้านประมง รวมถึงเพื่อจัดทําแนวทางการขับเคลื่อนโครงการในอนาคต สําหรับในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการมากกว่า 150 คน ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบปัจจัยการผลิตให้แก่ตัวแทนเกษตรกร จํานวน 15 หมู่บ้าน ประกอบด้วย 1) พันธุ์ปลา โดย กรมประมง 2) เมล็ดพันธุ์ผัก โดย สํานักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี 3) ต้นหม่อน โดย กรมหม่อนไหม 4) น้ําหมักจุลินทรีย์ โดย กรมพัฒนาที่ดิน และ 5) ต้นส้มโอพันธุ์ทองดี โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรี “การมาเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนบ้านตอไม้แดงในวันนี้ ทําให้เห็นถึงศักยภาพของวิสาหกิจชุมชนที่มีการพัฒนาไปมากขึ้น แสดงถึงองค์ความรู้ภายในกลุ่มที่มีการพัฒนาทั้งในการผลิต พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ รวมถึงด้านการตลาด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ซึ่งตามนโยบาย “ตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ภายใต้การบริหารของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมสนับสนุนรูปแบบการดําเนินงานของวิสาหกิจชุมชน สู่รูปแบบ SME เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้พี่น้องเกษตรกรสามารถยืนบนขาของตนเองได้” รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ กล่าวต่อจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปยัง ด่านชายแดนบ้านพุร้อน เพื่อตรวจราชการตามนโยบายปราบปรามการลักลอบนําเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ซึ่งผลการปฏิบัติงานตามคําสั่งเร่งด่วน (ตรวจห้องเย็น) จํานวน 3 แห่ง ไม่พบการกระทําความผิด ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดย กรมปศุสัตว์ มีมาตรการป้องการลักลอบนําเข้าในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในการเฝ้าระวัง และตั้งจุดตรวจตามเส้นทางการเคลื่อนย้ายสินค้า บริเวณรอยต่อจังหวัดและแนวตะเข็บชายแดน
17/10/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231017182324541
246,786
ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมวางแผนการตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จากการตรวจสอบ ไม่พบการกระทำความผิด
นายสัตวแพทย์กรรัตน์ คุ้มกระ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ได้ดําเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกัน ปราบปรามการลักลอบสินค้าปศุสัตว์ จัดประชุมผู้แทนคณะกรรมการบริหารแก้ไขปัญหาการนําเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ตามคําสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการแก้ไขปัญหาการนําเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ประกอบด้วย เกษตรและสหกรณ์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ประมงจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด พาณิชย์จังหวัด กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กอ.รมน.จังหวัด ตํารวจภูธรจังหวัด และด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี เพื่อร่วมกันวางแผนการปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมายในรูปแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานในการป้องกันและควบคุมการลักลอบนําเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุมสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี อําเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี โดยมีสถานที่เก็บสินค้าเกษตร (ห้องเย็น) จํานวน 15 แห่ง ประกอบด้วย ด้านปศุสัตว์ 4 แห่ง ด้านประมง 9 แห่ง สาธารณสุข 2 แห่ง เบื้องต้นได้ดําเนินการเข้าตรวจสอบไปแล้ว จํานวน 4 แห่ง ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนําเข้า-ส่งออกสินค้าปศุสัตว์เถื่อน ได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร จํากัด (มหาชน) หมู่ 1 ตําบลหัวสะพาน อําเภอเมืองเพชรบุรี บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จํากัด (มหาชน) สาขาชะอํา ถนนนราธิป ตําบลชะอํา อําเภอชะอํา บริษัท ดีฟาร์ม ฟู้ดรีเทล ภาคใต้ จํากัด ถนนสุรินทร์ฤาไชย ตําบลท่าราบ อําเภอเมืองเพชรบุรี และ บริษัท อิมเมจ โฟกัส โฮลดิ้ง จํากัด ในส่วนโครงการสวนป่าหนองเขื่อน หมู่ 4 ตําบลไร่ใหม่พัฒนา อําเภอชะอํา เพชรบุรี ผลการตรวจสอบ ไม่พบการกระทําความผิด
18/10/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018090838595
246,787
ชาวประมงอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ยื่นขอใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำ เกือบ 800 คำขอ ประมงยกเว้นค่าธรรมเนียม บรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
นายภูวนัย ชัยศรี ประมงอําเภอบ้านแหลม นายกิตติศักดิ์ เจริญทรัพย์ เจ้าพนักงานประมงชํานาญงาน พร้อมด้วยประมงอําเภอ สํานักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี สรุปผลการดําเนินการ เปิดรับคําขอใบอนุญาตให้ทําการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําในที่จับสัตว์น้ําซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (เพาะเลี้ยงหอยทะเล) ณ สํานักงานประมงอําเภอบ้านแหลม ประจําปี พ.ศ. 2566 ผลการดําเนินงานตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 16 ตุลาคม 2566 รวม 90 วัน โดยมีผู้ยื่นคําขอ 793 คําขอ จํานวนราย 619 ราย โดยแบ่งแยกเป็นประเภทคําขอเพาะเลี้ยงหอย หอยแมลงภู่ 500 คําขอ หอยแครง 261 คําขอ หอยนางรม 27 คําขอ หอยกระปุก 5 คําขอ ผลจากการตรวจสอบและพิจารณาออกใบอนุญาต ฯ จํานวน 793 คําขอ ผลการพิจารณา ผ่าน 793 คําขอ 619 ราย ด้วยได้มีกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียม เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ําและประกอบการเกิดโรคโควิด -19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา
18/10/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018091509597
246,788
ปศุสัตว์หนองหญ้าปล้อง รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย โค กระบือ แพะ แกะ สร้างการรับรู้เรื่อง การป้องกันโรค
นายสมขิ่น หงคงคา ปศุสัตว์อําเภอหนองหญ้าปล้อง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์อําเภอหนองหญ้าปล้อง ลงพื้นที่รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย นําวัคซีนป้องกันโรค แจกจ่ายแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ชนิด โค กระบือ แพะ แกะ ในพื้นที่ พร้อมนี้เจ้าหน้าที่ได้สร้างการรับรู้เรื่อง การป้องกันโรค ขั้นตอนการฉีดวัคซีนสัตว์อย่างถูกวิธี การดูแลสุขภาพสัตว์หลังฉีดวัคซีนป้องกันโรค และปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรให้เป็นปัจจุบันด้วย
18/10/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018092023604
246,789
ปศุสัตว์อำเภอเมืองเพชรบุรี พร้อมคณะกรรมการเข้าตรวจรับรองสถานกักกันสัตว์เอกชน ชนิดโคเนื้อเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ป้องกันโรคระบาดสัตว์
นายอิสรา หล้าสุดตา ปศุสัตว์อําเภอเมืองเพชรบุรี และกลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ โดย นายสัตวแพทย์อติกัณต์ หว่านพืช นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ลงพื้นที่ร่วมกับ ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการตรวจรับรองสถานกักกันสัตว์เอกชน เข้าตรวจรับรองสถานกักกันสัตว์เอกชนเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ชนิด โคเนื้อ ณ สถานกักกันสัตว์ บ.เขียวขําเทรดดิ้ง 2019 จํากัด หมู่ 3 ตําบลหนองขนาน อําเภอเมืองเพชรบุรี ผลการตรวจสถานกักกันสัตว์เป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กรมปศุสัตว์กําหนด ทั้งนี้ ได้แนะนําการปฏิบัติที่เข้มงวดระบบการป้องกันโรค มีการพ่นน้ํายาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะที่เข้า-ออก สัตว์ที่นํามากักต้องไม่เป็นโรคระบาดสัตว์ กักสัตว์นานอย่างน้อย 28 วัน เพื่อตรวจโรคก่อนนําส่งออกไปต่างประเทศ
18/10/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018092231607
246,790
ปศุสัตว์อำเภอเขาย้อย มอบใบรับรองฟาร์มปลอดสารเร่งเนื้อแดงหรือสารกลุ่มเบต้าอะโกนิสท์ (?-Agonist) เป็นแหล่งผลิตสินค้าปศุสัตว์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
นายธนพล สิงห์โต ปศุสัตว์อําเภอเขาย้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์อําเภอเขาย้อย เข้าตรวจเยี่ยม และมอบป้ายประกาศใบรับรองฟาร์มปลอดสารเร่งเนื้อแดงหรือสารกลุ่มเบต้าอะโกนิสท์ (?-Agonist) ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ให้กับ เจริญชัยฟาร์มกรุ๊ป สาขาเขาย้อย ตําบลหนองชุมพล อําเภอเขาย้อย เพื่อแสดงว่า เป็นฟาร์มที่มีการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม และผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปลอดการใช้สารเร่งเนื้อแดงหรือสารกลุ่มเบต้าอะโกนิสท์ (?-Agonist) เป็นแหล่งผลิตสินค้าปศุสัตว์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
18/10/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018092418608
246,791
เกษตรย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2566/2567 ตำบลนาชุมเห็ด
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นายธีรภัทร์ บุญฤทธิ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ร่วมกับนางสาวนริศรา หมื่นหัสถ์ นักวิชาเกษตรปฏิบัติการ จากองค์การบริหารส่วนตําบลนาชุมเห็ด ลงพื้นที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2566/2567 ของเกษตรกรหมู่ที่ 1 และ 2 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งมีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนจํานวน 9 ราย พื้นที่การปลูกข้าวนาปีจํานวนเนื้อที่ประมาณ 44.75 ไร่ สําหรับพันธุ์ข้าวนาปีที่เกษตรกรปลูกคือ ข้าวพันธุ์เล็บนกปัตตานีทั้งนี้ การแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเป็นประจําทุกปี ข้อมูลจะมีความครบถ้วน เป็นปัจจุบันทําให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทําให้ภาครัฐสามารถวางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและจัดทําโครงการมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการที่หน่วยงานภาครัฐเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรไปใช้เป็นข้อมูลประกอบโครงการและมาตรการเพื่อให้การสนับสนุน และช่วยเหลือเกษตรกรเป็นจํานวนมาก
18/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018091905601
246,792
เขื่อนเจ้าพระยาคงการระบายน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 2 ขณะที่กรมชลประทานเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชน
เขื่อนเจ้าพระยาคงการระบายน้ําท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 2 ขณะที่กรมชลประทานเร่งระบายน้ําที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ประเทศไทย ยังคงได้รับอิทธิพลของร่องมรสุมกําลังปานกลาง ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทําให้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และช่วงวันที่ 20 - 23 ตุลาคมประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทําให้ต้องระวังน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากช่วง 1-3 วันนี้ บริเวณภาคใต้ ใน จ.นครศรีธรรมราช พังงา และระนอง พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการบริหารจัดการน้ําให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน และต้องคํานึงการเก็บกักน้ําสําหรับหน้าแล้งนี้ด้วย ขณะที่วันนี้ (18 ต.ค.66) ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยายังคงการระบายน้ําบริเวณสถานีวัดน้ํา C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังปริมาณน้ําจากตอนบนของประเทศเริ่มลดลง ส่วนภาพรวมการตัดยอดน้ําออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของลุ่มน้ําเจ้าพระยาอยู่ที่ 543 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบ่งเป็น รับน้ําฝั่งตะวันตก 377 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ําฝั่งตะวันออก 166 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สําหรับมาตรการและการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยหน่วยงานต่างๆยังคงเร่งช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างกรมชลประทาน เร่งติดตั้งเครื่องจักร- เครื่องมือและเครื่องสูบน้ําต่อเนื่องในหลายพื้นที่ พร้อมเดินเครื่องเต็มกําลังเพื่อเร่งระบายน้ําท่วมขังและหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว ทั้งนี้ ตอนบนของประเทศแนวโน้มสถานการณ์น้ําเริ่มมีฝนตกน้อยลง ส่งผลให้ระดับน้ําในแม่น้ําสายหลักต่างๆทยอยลดระดับลงต่อเนื่อง จึงเน้นย้ําให้ทุกโครงการชลประทานเก็บน้ําไว้ในแหล่งน้ําต่างๆให้ได้มากที่สุด เพื่อสํารองน้ําไว้ใช้ช่วงแล้งหน้าที่กําลังจะมาถึงนี้ ส่วนน้ําท่วมขังในที่พื้นที่ลุ่มต่ําบางแห่งเร่งระบายน้ําออกจากพื้นที่ต่อเนื่อง พร้อมเข้าไปช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018093503612
246,793
เกษตรจังหวัดแพร่ ติดตามสถานการณ์การระบาดโรคลำต้นจุดสีน้ำตาลและผลเน่าในแก้วมังกร
นางสาวอัญชลี ปัญญากวาว เกษตรจังหวัดแพร่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรจังหวัดแพร่และสํานักงานเกษตรอําเภอเมืองแพร่ ลงพื้นที่สํารวจแปลงปลูกแก้วมังกร ตําบลบ้านถิ่น อําเภอเมืองแพร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกแก้วมังกรใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยพบการระบาดของโรคลําต้นจุดสีน้ําตาลและผลเน่าในแก้วมังกร ที่มักระบาดในช่วงที่มีฝนตก ซึ่งอาการเริ่มแรกจะพบที่กิ่งหรือผลเป็นจุดสีเหลือง จากนั้นพัฒนาเป็นตุ่มนูนเล็ก สีน้ําตาลคล้ายสีสนิมเหล็ก ต่อมาแผลขยายใหญ่ พบจุดเล็กสีดําซึ่งเป็นส่วนขยายพันธุ์ของเชื้อราสาเหตุโรค เมื่ออาการรุนแรงแผลจะเน่า เนื้อเยื่อกิ่งจะเป็นแผลหลุดเห็นเป็นรูหรือเว้าแหว่ง เมื่อเกิดกับผลจะทําให้กลีบผลไหม้แห้งและเน่าในที่สุดสํานักงานเกษตรจังหวัดแพร่ ขอแนะนําให้เกษตรกรป้องกันโรคตามแนวทางของกรมวิชาการเกษตรคือ เลือกใช้ต้นพันธุ์ที่ปลอดโรค ลดการให้ปุ๋ยไนโตรเจน เนื่องจากเป็นพืชอวบน้ํา อาจทําให้พืชอ่อนแอเกิดโรคง่ายขึ้น หมั่นกําจัดวัชพืชในแปลงปลูกเพื่อลดความชื้น งดให้น้ําช่วงบ่ายหรือเย็น โดยให้เฉพาะช่วงเช้า เพื่อลดความชื้นสะสมในทรงพุ่ม ตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ําเสมอ เมื่อพบโรคให้ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคอย่างระมัดระวังให้มีแผลน้อยที่สุด ควรตัดส่วนที่เป็นรอยต่อของข้อระหว่างกิ่ง นําส่วนที่เป็นโรคไปทําลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกําจัดโรคพืช รวมถึงต้องไม่นําเครื่องมือตัดแต่งที่ใช้กับต้นเป็นโรคไปใช้ต่อกับต้นปกติและควรทําความสะอาดเครื่องมือก่อนนําไปใช้ใหม่ทุกครั้ง
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018212045998
246,794
เชิญชวนเกษตรกรรุ่นใหม่ 17-45 ปี สมัครเข้าร่วม “โครงการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น Young Smart Farmer ปี 2567
สํานักงานเกษตรจังหวัดลําพูน ขอเชิญชวนเกษตรกรรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 17-45 ปี ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้วและมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทําการเกษตรต้องการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของตนเอง สมัครเข้าร่วม “โครงการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น Young Smart Farmer ปี 2567 เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมในการสร้างคนรุ่นใหม่ด้านการเกษตร ให้มีความทันสมัยและทําการเกษตรอยู่ได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นผู้นําด้านเกษตร 4.0 และเพื่อการพัฒนาให้เป็นไปตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พึ่งพาตนเองได้ มีแนวคิดสร้างสรรค์และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการจัดการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการสมัคร (สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนและสําเนาทะเบียนเกษตรกร) ได้ที่ สํานักงานเกษตรจังหวัด และสํานักงานเกษตรอําเภอตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป – 30 พฤศจิกายน 2566
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018212150999
246,795
คพ. ระบุ การใช้ค่ามาตรฐานฝุ่นละออง PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงและปรับดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศให้เข้มขึ้น ช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพขึ้นและแจ้งเตือนได้รวดเร็วขึ้น
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ระบุ การใช้ค่ามาตรฐานฝุ่นละออง PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงและปรับดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศให้เข้มขึ้น ช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพขึ้นและแจ้งเตือนได้รวดเร็วขึ้น ภาพรวมค่าฝุ่นในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลวันนี้อยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า หลังจาก กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ปรับปรุงค่ามาตรฐานฝุ่นละออง PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มาอยู่ที่ 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากเดิม 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และปรับดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทยให้เข้มขึ้น มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5. มีประสิทธิภาพขึ้นและแจ้งเตือนได้รวดเร็วขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองและปฏิบัติตนตามคําแนะนําเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน Air4Thai โดยขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนและจะเข้าสู่ฤดูหนาว จึงมีแนวโน้มความกดอากาศที่สูงขึ้นและอากาศไม่ถ่ายเท ทําให้จะมีฝุ่นละอองสะสมมากขึ้นได้ จากการคาดการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 พบค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับสีส้มคงประมาณ 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สําหรับภาพรวมค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลวันนี้ (18 ต.ค.66) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เฉลี่ยอยู่ที่ 25.5 – 50.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018101432629
246,796
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ติดตามและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเพาะปลูก
นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อํานวยการโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา มอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งน้ําและบํารุงรักษาที่ 4 ลงพื้นที่บ้านฮ่องลี่ หมู่ที่ 5 ตําบลแจ้ห่ม อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง ประชุมร่วมกับเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ําชลประทานในพื้นที่ตําบลแจ้ห่ม เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ําของเขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมา แผนการบริหารจัดการน้ําเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูฝนข้าวนาปี ประจําปี 2566 และกําหนดพื้นที่ส่งน้ําตามรอบเวรการส่งน้ํา พร้อมรับฟังความต้องการการเพาะปลูกพืชของกลุ่มผู้ใช้น้ําชลประทาน สําหรับนําไปเป็นข้อมูลวางแผนการบริหารจัดการน้ําให้สอดคล้องกับความต้องการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรโอกาสนี้ เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ําฯ ขอความร่วมมือเกษตรกรใช้น้ําอย่างประหยัดรู้คุณค่าและใช้น้ําชลประทานตามรอบเวรการส่งน้ําอย่างเคร่งครัด และอาศัยน้ําฝนเป็นหลัก เพื่อให้การบริหารจัดการน้ําเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด ลดความเสียหายต่อผลผลิตและลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ําในฤดูแล้งต่อไป
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018212311001
246,797
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมการปลูกกาแฟ ทดแทนการนำเข้า แก้ไขปัญหา PM2.5
นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมการปลูกกาแฟเพื่อทดแทนการนําเข้าและแก้ไขปัญหา PM2.5 บนพื้นที่ภาคเหนือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอแนวทางขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการปลูกกาแฟแก้ไขปัญหา PM2.5 บนพื้นที่ภาคเหนือ ในการแก้ไขปัญหาความขาดแคลนกาแฟในประเทศและการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยผลักดันส่งเสริมให้เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เป็นการปลูกพืชแบบผสมผสานร่วมกับกาแฟให้มากยิ่งขึ้น โดยส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถทําการเกษตร ที่มีรายได้และช่วยรักษาป่าในชุมชนนําร่องพื้นที่จังหวัดน่าน เกษตรกร 30 ราย พื้นที่ 300 ไร่ ส่งเสริมการปลูกกาแฟผสมผสานภายในประเทศ ให้สามารถปลูกกาแฟในสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการ โดยเน้นให้เกษตรกรเลือกการปลูกกาแฟตามสายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเกษตรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการเผาทําลายป่าในพื้นที่ภาคเหนือ เพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018114007669
246,798
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ติดตามและวางแผนการบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทาน พื้นที่ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อํานวยการโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา มอบหมายให้นายกฤษดากร ก้อเฝือ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ําและบํารุงรักษาที่ 4 และเจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมกับเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ําชลประทาน ในเขตฝ่ายส่งน้ําและบํารุงรักษาที่ 4 พื้นที่ตําบลแจ้ห่ม อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ําของเขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมา การบริหารจัดการน้ําเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูฝนข้าวนาปี ประจําปี 2566 และกําหนดพื้นที่ส่งน้ําตามรอบเวรการส่งน้ํา พร้อมรับฟังความต้องการการเพาะปลูกพืชของกลุ่มผู้ใช้น้ําชลประทาน สําหรับนําไปเป็นข้อมูลวางแผนการบริหารจัดการน้ําให้สอดคล้องกับความต้องการเพาะปลูกพืชของเกษตรกร โอกาสนี้ เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรใช้น้ําอย่างประหยัดรู้คุณค่าและใช้น้ําชลประทานตามรอบเวรการส่งน้ําของเขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมาอย่างเคร่งครัด อาศัยน้ําฝนเป็นหลัก เพื่อให้การบริหารจัดการน้ําเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด ลดความเสียหายต่อผลผลิตและลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ําในฤดูแล้งต่อไป โดยมี นายอํานาจ แข็งแรง นายกองค์การบริหารส่วนตําบลแจ้ห่ม นายเรือง ประธงชัย รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลแจ้ห่ม นายเสกสันต์ สุรินทร์โท ผู้ใหญ่บ้านฮ่องลี่ หมู่ที่ 5 และนางบังแก้ว มีเสียง ผู้ใหญ่บ้านม่วง หมู่ที่ 11 ตําบลแจ้ห่ม อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง และเกษตรกรผู้ใช้น้ําชลประทานเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ บ้านฮ่องลี่ หมู่ที่ 5 ตําบลแจ้ห่ม อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง
18/10/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018104058640
246,799
ลำพูน ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นสำหรับเก็บรักษาเนื้อสัตว์และซากสัตว์ รวมถึงสถานประกอบการจำหน่าย
นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดลําพูน เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําพูน บูรณาการร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดลําพูน เจ้าหน้าที่ปกครองและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์และร่วมป้องกันและปราปรามการลักลอบนําเข้า-ส่งออกสินค้าปศุสัตว์เถื่อนตามนโยบายรัฐบาล โดยลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นสําหรับเก็บรักษาเนื้อสัตว์และซากสัตว์ รวมถึงสถานประกอบการการจําหน่ายเนื้อสัตว์ ในพื้นที่อําเภอเมืองลําพูน เพื่อป้องกันความเสียหาย ที่อาจจะก่อให้เกิดเชื้อโรคที่มาจากการลักลอบนําเนื้อสุกรจากต่างประเทศ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ ทั้งในด้านความปลอดภัยทางอาหารของผู้บริโภค และส่งผลต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ จากการตรวจภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัย หรือต้องการแจ้งเบาะแส หรือต้องการความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์ สามารถแจ้งได้ที่ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอ หรือสํานักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 หรือ Application DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018212954003
246,800
เกษตรจังหวัดแพร่ติดตามสถานการณ์การระบาดโรคลำต้นจุดสีน้ำตาลและผลเน่าในแก้วมังกร แนะเกษตรกรดูแลและป้องกันตามแนวทางของกรมวิชาการเกษตร
นางสาวอัญชลี ปัญญากวาว เกษตรจังหวัดแพร่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรจังหวัดแพร่และสํานักงานเกษตรอําเภอเมืองแพร่ ลงพื้นที่สํารวจแปลงปลูกแก้วมังกร ตําบลบ้านถิ่น อําเภอเมืองแพร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกแก้วมังกรใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยพบการระบาดของโรคลําต้นจุดสีน้ําตาลและผลเน่าในแก้วมังกร ที่มักระบาดในช่วงที่มีฝนตก ซึ่งอาการเริ่มแรกจะพบที่กิ่งหรือผลเป็นจุดสีเหลือง จากนั้นพัฒนาเป็นตุ่มนูนเล็ก สีน้ําตาลคล้ายสีสนิมเหล็ก ต่อมาแผลขยายใหญ่ พบจุดเล็กสีดําซึ่งเป็นส่วนขยายพันธุ์ของเชื้อราสาเหตุโรค เมื่ออาการรุนแรงแผลจะเน่า เนื้อเยื่อกิ่งจะเป็นแผลหลุดเห็นเป็นรูหรือเว้าแหว่ง เมื่อเกิดกับผลจะทําให้กลีบผลไหม้แห้งและเน่าในที่สุด ทั้งนี้ สํานักงานเกษตรจังหวัดแพร่ขอแนะนําให้เกษตรกรป้องกันโรคตามแนวทางของกรมวิชาการเกษตร คือ เลือกใช้ต้นพันธุ์ที่ปลอดโรค ลดการให้ปุ๋ยไนโตรเจน เนื่องจากเป็นพืชอวบน้ํา อาจทําให้พืชอ่อนแอเกิดโรคง่ายขึ้น หมั่นกําจัดวัชพืชในแปลงปลูกเพื่อลดความชื้น งดให้น้ําช่วงบ่ายหรือเย็น โดยให้เฉพาะช่วงเช้า เพื่อลดความชื้นสะสมในทรงพุ่ม ตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ําเสมอ เมื่อพบโรคให้ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคอย่างระมัดระวังให้มีแผลน้อยที่สุด ควรตัดส่วนที่เป็นรอยต่อของข้อระหว่างกิ่ง นําส่วนที่เป็นโรคไปทําลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกําจัดโรคพืช รวมถึงต้องไม่นําเครื่องมือตัดแต่งที่ใช้กับต้นเป็นโรคไปใช้ต่อกับต้นปกติ และควรทําความสะอาดเครื่องมือก่อนนําไปใช้ใหม่ทุกครั้ง
18/10/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018122750696
246,801
จังหวัดลำพูน ร่วมบูรณาการตรวจสอบห้องเย็นเพื่อเป็นการป้องกันการนำเข้าโรคระบาดที่สำคัญในสัตว์ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดแก่ผู้บริโภค ตามนโยบายรัฐบาล
สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้ประสบปัญหาที่กระบวนการในการลักลอบนําเข้า สินค้าผิดกฎหมาย ทั้งเนื้อวัว เนื้อกระบือและเนื้อหมู โดยให้ดําเนินการอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล วันนี้ (18 ตุลาคม 2566) เวลา 09.00 น. นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน พร้อมด้วย นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลําพูน นายสมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลําพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบ ณ ห้องเย็น บริษัท เบทาโกร ตําบลบ้านธิ อําเภอบ้านธิ (ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปสุกรลําพูน) ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบในเรื่องการขอใบอนุญาต ใบรับรองจําหน่าย รวมถึงการขออนุญาตนําเข้า สถานที่เก็บ เพื่อให้มีความเหมาะสม ถูกต้อง เพื่อปราบปรามการลักลอบนําเข้า เนื้อเถื่อน ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในการตรวจสอบดังกล่าวไม่พบการกระทําผิดแต่อย่างใด ซึ่งจังหวัดลําพูน โดยสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดลําพูน ได้จัดทําแผนการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 12 - 20 ตุลาคม 2566 ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สาธารณสุขจังหวัดลําพูน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลําพูน พาณิชย์จังหวัดลําพูน อุตสาหกรรมจังหวัดลําพูน ประมงจังหวัดลําพูน ตํารวจภูธรจังหวัดลําพูน เพื่อปราบปราบการลักลอบนําเข้าเนื้อสัตว์ และจากสัตว์ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายการดําเนินงาน ทั้งสิ้น 18 แห่ง ทั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ แก้ไขปัญหาการนําเข้าและส่งออกสินค้าด้านปศุสัตว์ที่ผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดลําพูน โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการทุกภาคส่วน สําหรับในส่วนของผู้บริโภค ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ได้แนะให้ประชาชน ควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์ ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์ Q ปศุสัตว์ OK เนื้อสัตว์ที่ผ่านการตรวจรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าสะอาดปลอดภัยจากผู้บริโภค และขอให้ผู้บริโภคอย่าซื้อเนื้อสัตว์ที่มีราคาถูกและไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งอาจมีเชื้อโรค หรือสารตกค้างที่เป็นอันตราย หากพบผู้กระทําผิดสามารถแจ้งมายัง ปศุสัตว์จังหวัดลําพูน หรือปศุสัตว์อําเภอในพื้นที่
18/10/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018123919697
246,802
ผู้ว่าฯ ลำพูน บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คุมเข้มตรวจห้องเย็นภายใต้ยุทธการปราบปรามเนื้อสัตว์เถื่อน จำนวน 18 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดลำพูน
วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่ห้องเย็นบริษัทเบทาโกร ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน พร้อมด้วย นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลําพูน นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสํานักงานจังหวัดลําพูน นายสมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลําพูน บูรณาการร่วมกับ นายอําเภอบ้านธิ สาธารณสุขจังหวัดลําพูน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลําพูน พาณิชย์จังหวัดลําพูน อุตสาหกรรมจังหวัดลําพูน ประมงจังหวัดลําพูน ประชาสัมพันธ์จังหวัดลําพูน เกษตรจังหวัดลําพูน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลําพูน ตํารวจภูธรจังหวัดลําพูน ด่านกักกันสัตว์ลําพูน สํานักงานปศุสัตว์เขต 5 ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นเพื่อเป็นการป้องกันการนําเข้าโรคระบาดที่สําคัญในสัตว์ รักษาเสถียรภาพราคาเนื้อสัตว์ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดแก่ผู้บริโภค ตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมอบหมายให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ออกคําสั่งให้ปศุสัตว์ทุกจังหวัดตรวจห้องเย็นทั่วประเทศ ต้องตรวจเอกซเรย์ทั่วประเทศเข้มข้นมากขึ้น ไม่มีละเว้นว่าใครเป็นนายทุน หรืออยู่เบื้องหลังห้องเย็นเถื่อนแม้แต่รายเดียว ปศุสัตว์จังหวัดลําพูน กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ขณะนี้ได้ประสบปัญหาที่กระบวนการในการลักลอบนําเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ทั้งเนื้อวัว เนื้อกระบือและเนื้อหมู โดยได้ดําเนินการอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหา ซึ่งสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดลําพูน ได้จัดทําแผนการลงพื้นที่ตรวจสอบเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 - 20 ตุลาคม 2566 โดยได้ขอความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบห้องเย็น จํานวน 18 แห่ง ภายใต้ยุทธการปราบปรามสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย เพื่อดําเนินคดีกับผู้ที่กระทําผิดกฎหมาย หรือเนื้อสัตว์ที่ผลิตและจําหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามระเบียบฯ และกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ด้าน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน กล่าวว่า สําหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดลําพูน เพื่อเป็นการปราบปรามการลักลอบนําเข้าเนื้อเถื่อน และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ได้มีการจัดแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการนําเข้าและส่งออกสินค้าด้านปศุสัตว์ที่ผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดลําพูน โดยได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการทุกภาคส่วน สําหรับในส่วนของผู้บริโภค ขอแนะนําให้เลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์ Q และ ปศุสัตว์ 0K ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ที่ผ่านการตรวจรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าสะอาดปลอดภัยสําหรับผู้บริโภคและขอให้ผู้บริโภคอย่าซื้อเนื้อสัตว์ที่มีราคาถูกและไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งอาจมีเชื้อโรคหรือสารตกค้างที่เป็นอันตราย หากพบผู้กระทําผิดสามารถแจ้งมายังปศุสัตว์จังหวัดลําพูน โทร.053511288 หรือปศุสัตว์อําเภอในพื้นที่ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://lamphun.prd.go.th/th/page/item/index/id/12
18/10/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018124616698
246,803
ปศุสัตว์จังหวัดแพร่บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ “ห้องเย็น” ในพื้นที่อำเภอเมืองแพร่
นายสัตวแพทย์ ดร.สมพร พรวิเศษศิริกุล ปศุสัตว์จังหวัดแพร่ นําเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พื้นที่จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจจากสถานีตํารวจภูธรเมืองแพร่ และ กอ.รมน.จังหวัดแพร่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เก็บเนื้อและซากสัตว์ “ห้องเย็น” ในพื้นที่อําเภอเมืองแพร่ จํานวน 4 แห่ง ได้แก่ ร้านทอฝันหมูสดแพร่ สาขาแพร่ ร้านซีพีเฟรชมาร์ท สาขาทุ่งโฮ้ง-แพร่ ยิ่งเจริญห้องเย็น และ บริษัท วี.ซี.มีท ดีสทริบิวชั่น จํากัด (สาขาแพร่) เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนําเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย พร้อมกํากับดูแลให้บรรลุตามนโยบายการขับเคลื่อนของกรมปศุสัตว์ ยกระดับการปฏิบัติงานการตรวจห้องเย็นทั่วประเทศ ตรวจสอบสินค้าปศุสัตว์ สกัดหมูเถื่อนโดยผลการตรวจสอบห้องเย็นทั้ง 4 แห่ง ไม่พบการกระทําความผิด ผู้ประกอบการมีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายและแหล่งที่มาอย่างถูกต้องทุกแห่ง ซึ่งการปฏิบัติการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้มีการปฏิบัติอย่างระมัดระวัง ตามข้อสั่งการ มาตรการ และแนวทางการตรวจสอบสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการอธิบายและทําความเข้าใจกับผู้ประกอบการก่อนการเข้าตรวจค้นห้องเย็น ให้ผู้ประกอบการไม่เกิดความกังวลใจ เพื่อป้องกันเหตุร้ายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
18/10/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018124915699
246,804
ปศุสัตว์ชัยนาท ร่วมปฏิบัติการตรวจห้องเย็นและสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์
(18 ต.ค.2566) เวลา 10.00 น. นายสัตวแพทย์ บุญฤทธิ์ ทองสม ปศุสัตว์จังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดชัยนาท นายธวัชชัย อยู่ทะเล หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชัยนาท ร่วมปฏิบัติการกับ เรือตรี วิทยา เกล้าวิกรณ์ นายอําเภอเมืองชัยนาท พันตํารวจโท สมนึก เสงี่ยมงาม รองผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรอําเภอเมืองชัยนาท นายสุรสิทธิ์ พูลล้น ปลัดอําเภอเมืองชัยนาท ตรวจสอบสถานประกอบการประเภทห้องเย็น และสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 จํานวน 2 แห่ง ในพื้นที่ อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท คือ 1.ห้องเย็นสุขณา ต.ในเมือง อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท 2.สิบหมื่นห้องเย็น ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท โดยได้ดําเนินการตรวจสอบใบอนุญาตทําการค้าสัตว์หรือซากสัตว์ ปริมาณเนื้อสัตว์ที่ครอบครอง แหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ เอกสารการเคลื่อนย้าย ปริมาณที่เข้า-ออก และราคาขายทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไม่พบการฝ่าฝืนแต่อย่างใด นอกจากนี้ ทีมงานที่ร่วมปฏิบัติการในการตรวจสอบได้ให้คําแนะนําด้านข้อกฎหมาย และเน้นย้ํามาตรการต่างๆ ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สวท.ชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018131642723
246,805
ก.ทรัพย์ เดินหน้ามาตรการแก้ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM 2.5 จริงจังที่เริ่มจากต้นตอ โดยเน้นประชาชนเป็นสำคัญ ควบคู่กับแก้ปัญหาภัยแล้ง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้ามาตรการแก้ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM 2.5 จริงจังที่เริ่มจากต้นตอ โดยเน้นประชาชนเป็นสําคัญ ควบคู่กับแก้ปัญหาภัยแล้ง นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การทํางานของปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปีนี้เน้นการทํางานมุ่งไปที่ประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 หมอกควัน และไฟป่า ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งจะนําเสนอแผนรับมือและแก้ปัญหาฝุ่นที่จะใช้ปีนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (บอร์ดสิ่งแวดล้อม) พิจารณา ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเน้นย้ําการแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยการทําระบบกระจายน้ําในแต่ละท้องถิ่นเพื่อช่วยประชาชนมีน้ําเพื่อการอุปโภค-บริโภคเพียงพอในหน้าแล้ง ด้าน นายนพดล พลเสน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งขึ้นมาว่า พลตํารวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธาน เป็นประธานคณะกรรมการ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานคณะกรรมการ อยู่ระหว่างหารือกรอบเวลาการพิจารณาแนวทางการดําเนินงานของคณะกรรมการชุดนี้ที่ชัดเจนออกมาและเรียกประชุมนัดแรกก่อนเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อใช้เป็นมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง และหมอกควันที่เป็นสาเหตุการเกิดฝุ่น PM 2.5 ซึ่ง เป็นความจําเป็นเร่งด่วนที่ต้องมีแผนปฏิบัติการลดความอันตรายของฝุ่น PM 2.5 ที่แก้จากต้นตอของปัญหา สิ่งสําคัญต้องร่วมมือกับทุกฝ่ายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดผลสําเร็จชัดเจน
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018143736776
246,806
กรมทรัพยากรธรณี ค้นพบซากดึกดำบรรพ์ "อัลลิเกเตอร์" สายพันธุ์ใหม่ของโลก ในพื้นที่อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา อายุประมาณกว่า 200,000 ปี
กรมทรัพยากรธรณี ค้นพบซากดึกดําบรรพ์ "อัลลิเกเตอร์" สายพันธุ์ใหม่ของโลก ในพื้นที่อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา อายุประมาณกว่า 200,000 ปี นายปรีชา สายทองผู้อํานวยการกองคุ้มครองซากดึกดําบรรพ์ กล่าวว่า กรมทรัพยากรธรณี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปขุดสํารวจในพื้นที่ของชาวบ้านสี่เหลี่ยม ตําบลใหม่ อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา หลังชาวบ้านแจ้งสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมาระหว่างกําลังขุดบ่อปลาใหม่พบชิ้นส่วนกระดูกสัตว์ในความลึก 2 เมตรตั้งแต่เดือนเมษายน 2548 โดยจากการสํารวจพบเป็นกระดูกแตกหักหลายชิ้นและชิ้นส่วนกะโหลกที่มีสภาพเกือบสมบูรณ์ จึงนํามาศึกษาพบเป็น "อัลลิเกเตอร์" ที่มีอายุในช่วงไม่เกินสมัยไพลสโตซีนตอนกลาง หรือประมาณ 230,000 ปีก่อน ทําให้นําไปศึกษาวิจัยอย่างละเอียดอีกครั้งที่ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านซากดึกดําบรรพ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อหาสายพันธุ์ที่ชัดเจนเป็นเวลาหลายปี ทั้งการนําไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่เคยศึกษามาก่อน 19 ตัวอย่าง ประกอบด้วย ตัวอย่างชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้ว 4 ชนิด และตัวอย่างในปัจจุบันอีก 2 ชนิด จนพบเป็น “อัลลิเกเตอร์” ถือเป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลกที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "อัลลิเกเตอร์ มูลเอนซิส หรือ อัลลิเกเตอร์แม่น้ํามูล โดยอ้างอิงชื่อตามแหล่งที่ค้นพบใกล้กับแม่น้ํามูล ด้าน นายกันตภณ สุระประสิทธิ์ อาจารย์ประจําภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการเปรียบเทียบชิ้นส่วนของกะโหลกอัลลิเกเตอร์สายพันธุ์ใหม่ มีความแตกต่างจากอัลลิเกเตอร์อเมริกาและอัลลิเกเตอร์จีน ซึ่งเป็น 2 ชนิดที่ยังพบได้อยู่ในปัจจุบัน แต่เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่หาได้ยากและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างมาก โดยความแตกต่างของอัลลิเกเตอร์สายพันธุ์ใหม่จะมีงอยปากกว้างและสั้นกว่า มีกะโหลกสูงกว่า ตําแหน่งรูจมูกห่างจากปลายจะงอยปาก มีเบ้าฟันขนาดใหญ่ แต่มีลักษณะใกล้เคียงกับอัลลิเกเตอร์จีน คาดว่า มีบรรพบุรุษร่วมกันระหว่างลุ่มน้ําแยงซีและลุ่มน้ําแม่โขง-เจ้าพระยา แต่การเกิดธรณีแปรสัณฐานเกิดการยกตัวของที่ราบสูงธิเบต ส่งผลให้เกิดการแยกตัวของประชากรทั้ง 2 ชนิดออกจากกัน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทําให้อัลลิเกเตอร์ในแม่น้ําโขงสูญพันธุ์ไปก่อน ขณะที่ นายฐิติพันธ์ จูจันทร์โชติ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณี ได้จัดทําแผนแม่บทการคุ้มครองซากดึกดําบรรพ์ พ.ศ. 2566-2580 ให้เป็นกรอบทิศทางการบริหารจัดการซากดึกดําบรรพ์ของประเทศ ตามกรอบพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดําบรรพ์ พ.ศ.2551 โดยตั้งเป้าให้ในอีก 15 ปีข้างหน้าจะเกิดการอนุรักษ์ซากดึกดําบรรพ์ที่สําคัญในการศึกษาวิจัย ค้นคว้าประวัติของโลก และเป็นมรดกธรรมชาติของแผ่นดิน จะช่วยสร้างศักยภาพด้านแหล่งเรียนรู้และการท่องเที่ยวให้กับท้องถิ่นและประเทศไทย
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018152301794
246,807
กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัสดุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) ร่วมลงสำรวจแม่น้ำเจ้าพระยา จากจังหวัดชัยนาท ถึงจังหวัดนนทบุรี ในกิจกรรม “แม่น้ำเจ้าพระยาน่ามอง ปราศจากขยะ”
วันนี้ 18 ตุลาคม 2566 ที่บริเวณท่าเทียบเรือตลาดโรงพักเก่าสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วย นายชูโชค ศิวะคุณากร Head of ESG & BSE โดยมีรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้แทนจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกรมเจ้าท่า ผู้แทนบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จํากัด (มหาชน) เข้าร่วมสํารวจผักตบชวา และสิ่งปฏิกูลในแม่น้ําเจ้าพระยา ด้วยการล่องเรือสํารวจทางน้ํา ตั้งแต่บริเวณเขื่อนเจ้าพระยา ตําบลบางหลาง อําเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท จนถึงบริเวณท่าเรือสะพานพระราม 7 ตําบลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่ง กระทรวงมหาดไทยได้น้อมนําพระบรมราโชบาย “แก้ไขในสิ่งผิด” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู่การขับเคลื่อนการฟื้นฟูแม่น้ําลําคลองให้สะอาด เพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชน ผ่านโครงการฟื้นฟูและพัฒนาลําน้ํา คูคลอง เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมุ่งทําให้แหล่งน้ําในพื้นที่ 76 จังหวัดกลับมาใสสะอาด และมีการปรับปรุงทัศนียภาพโดยรอบให้เหมาะสม เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ทําให้พี่น้องประชาชนมีความสุข และส่งผลทําให้เกิดพลังการมีส่วนร่วมช่วยกัน Change for Good แก่ประเทศชาติ ต่อไป
18/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018160127834
246,808
คณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม เพชรบุรี ให้ความสำคัญ “ย่านชุมชนเก่า” ชุมชนริมน้ำเพชรบุรี เป็นมรดกจังหวัด ร่วมรักษาสิ่งดีงาม อนุรักษ์จากรุ่นสู่รุ่น
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (18 ตุลาคม 2566) นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ผศ.พจนารถ บัวเขียว หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม ร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่าคณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม เพชรบุรี ให้ความสําคัญ “ย่านชุมชนเก่า” ซึ่งเป็นพื้นที่แสดงออกถึงการตั้งถิ่นฐาน ในมิติที่หลากหลาย สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยอดีต จนถึงยุคปัจจุบัน ที่โดดเด่นทั้งด้านวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ประเพณี เป็นที่ประจักษ์ มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนทั้งทางกายภาพ และสภาพทางสังคม ซึ่งชุมชนริมน้ําเพชรบุรีจะสามารถต่อยอดอดีต สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต ร่วมรักษาสิ่งดีงาม อนุรักษ์จากรุ่นสู่รุ่น และยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว เสริมความภาคภูมิใจของชุมชนริมน้ํา ในความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการได้มีมติ ให้ชุมชน หนองจอก ตําบลหนองจอก ของอําเภอท่ายาง ซึ่งเป็นแหล่งศิลปกรรมมรดกทางวัฒนธรรม ประเภทย่านชุมชนเก่า นั้น ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกจังหวัดแล้ว และหวังขับเคลื่อนให้ชุมชนริมน้ําเพชรบุรี เป็นมรดกจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งจะได้ดําเนินการสํารวจแหล่งศิลปกรรมในย่านชุมชนเก่าตลาดริมน้ําลงในฐานข้อมูลแหล่งศิลปกรรม เพื่อร่วมรักษา หวงแหน พื้นที่สําคัญของเมืองเพชรบุรี จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน
18/10/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018165338874
246,809
ปศุสัตว์จันทบุรี Kick off รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยโคนม ลดความสูญเสียแก่เกษตรกร
(18 ต.ค.66) นายสัตวแพทย์ ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ นายวรฉัตร วิรัชลาภ ปศุสัตว์เขต 2 นายวินนา ศรีสงคราม ประธานสหกรณ์โคนมสอยดาว จํากัด นายสัตวแพทย์ มนัสกิจ พลศรี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ นายชุติเทพ ภูมิพันธ์ุ รักษาราชการแทนปศุสัตว์อําเภอสอยดาว และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ลงพื้นที่ Kick off รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยโคนม รอบที่ 1/2567 ได้มอบกระติกวัคซีน กระเป๋าเวชภัณฑ์ และปล่อยขบวนเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงาน ณ สหกรณ์โคนมสอยดาว จํากัด ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว ซึ่งมีเกษตรกร 65 ราย เลี้ยงโคนมประมาณ 3,000 ตัว เนื่องจากช่วงนี้ เป็นช่วงปรับเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาวอากาศจะแปรปรวน ทําให้โคนมเกิดความเครียด อ่อนแอ ระดับภูมิคุ้มกันโรคลดต่ําลง อาจทําให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อย ที่มักเกิดการระบาดในช่วงนี้ จะสร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกร โดยทําให้แม่โคมีน้ํานมลดลง รายได้ของเกษตรกรจึงลดลง ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลสัตว์ป่วย เสียค่าน้ํายาฆ่าเชื้อโรคดังนั้น เกษตรกรต้องเข้มงวดป้องกันไม่ให้พาหะนําเชื้อโรค ได้แก่ คน ยานพาหนะ เข้ามาในบริเวณฟาร์มโดยเด็ดขาด และติดต่อขอรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยโคนม ที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป จากเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทุกอําเภอ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หากเกษตรกรพบว่าโคนมแสดงอาการ มีไข้สูง เบื่ออาหาร มีเม็ดตุ่มนํา้ใสหรือแผลเกิดขึ้นที่ริมฝีปาก ช่องปากหรือไรกีบ น้ําลายไหล เดินกะเผลก หรือมีตุ่มน้ําใส แผลที่เต้านม ขอให้รีบแจ้งปศุสัตว์อําเภอในพื้นที่ทันที เพื่อให้ความช่วยเหลือ และดําเนินการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วนต่อไป
18/10/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018185951924
246,810
จังหวัดอำนาจเจริญเข้ม ปฏิบัติการยุทธการปราบสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย(ห้องเย็น)
วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 09.00 น. นายสัตวแพทย์อภิชาติ ภะวัง ปศุสัตว์จังหวัดอํานาจเจริญ บูรณาการร่วมกับด่านกักกันสัตว์ยโสธร สํานักงานประมงจังหวัดอํานาจเจริญ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอํานาจเจริญ กอ.รมน.จังหวัดอํานาจเจริญ และตํารวจภูธรจังหวัดอํานาจเจริญ ดําเนินการเข้าตรวจสอบห้องเย็นตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการขับเคลื่อนยุทธการปราบปรามการลักลอบนําเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ในพื้นที่อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จํานวน 4 แห่ง ได้แก่1.ร้านกิติศักดิ์ไก่สด สาขาหนองมะแซว2.ร้านแชมป์โลกหมูกะทะ3.ร้านห้องเย็นอํานาจฟีซ ปลาทูมหัศจรรย์4.ร้านอิงอิง กรุ๊ป โดยพบว่า 1 ร้าน ได้แก่ ร้านอิงอิง กรุ๊ป เจ้าของร้านชี้แจงแหล่งที่มาของซากสัตว์ยังไม่ชัดเจน สารวัตรปศุสัตว์จึงทําการอายัดของกลางไว้ ได้แก่ เนื้อสุกร จํานวน 110.6 ก.ก. เครื่องในสุกร จํานวน 27 ก.ก. ชิ้นส่วนไก่ (ติดกระดูก) จํานวน 71.5 ก.ก. และเครื่องในไก่ จํานวน 12 ก.ก. รวมมูลค่า 10,400 บาท หากเจ้าของไม่สามารถนําเอกสารหลักฐานมาแสดงได้จะดําเนินการตามกฎหมายและทําลายของกลางต่อไปศูนย์อํานวยการเฉพาะกิจปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สายด่วน 063-225 -6888 หรือ Application DLD 4.0 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง“ครอบครัวปศุสัตว์อํานาจเจริญ ยินดีรับใช้ เต็มใจบริการ"Cr# สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดอํานาจเจริญ
18/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018194749937
246,811
ปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ ผ่าตัดทำหมันควบคุมประชากรสุนัขและแมว พื้นที่เคยเกิดโรคพิษสุนัขบ้า อำเภอหัวตะพาน
วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 08.30 น. นายสัตวแพทย์อภิชาติ ภะวัง ปศุสัตว์จังหวัดอํานาจเจริญ มอบหมายให้กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์และสํานักงานปศุสัตว์อําเภอหัวตะพาน ร่วมกับเทศบาลตําบลรัตนวารีศรีเจริญ ปฏิบัติงานผ่าตัดทําหมันสุนัขและแมว ในพื้นที่เคยเกิดโรคพิษสุนัขบ้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ วัดสวนสวรรค์ (บ้านโสกสว่าง - ท่าวังหิน) หมู่ 3,5 ตําบลหัวตะพาน อําเภอหัวตะพาน จังหวัดอํานาจเจริญ โดยผลการปฏิบัติงาน ได้ทําการผ่าตัดทําหมัน สุนัข 19 ตัว แมว 19 ตัว รวม 38 ตัว รักษาพยาบาลสัตว์ 3 ตัว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการควบคุมประชากรสัตว์พาหะของโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมทั้งให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า ให้ตระหนักถึงอันตรายของโรคนี้ และแนะนําการเลี้ยงสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบแก่เจ้าของสัตว์ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งได้รับความสนใจและความร่วมมือจากประชาชนเจ้าของสัตว์ด้วยดี "ครอบครัวปศุสัตว์จังหวัดอํานาจเจริญ ยินดีรับใช้ เต็มใจบริการ"Cr# กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดอํานาจเจริญ
18/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018195059940
246,812
รมช.เกษตรฯ เปิดงาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบประชาชน" ที่ จ.สุรินทร์จัดงาน มุ่งให้บริการด้านการเกษตรแก่เกษตรกรอย่างครบวงจร
วันนี้ (18 ต.ค.66) นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบประชาชน" โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ร่วมกันจัดขึ้น ที่หอประชุมที่ว่าการอําเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้บริการด้านวิชาการเกษตรนวัตกรรม และการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรแก่เกษตรกรอย่างครบวงจร พร้อมทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมออกหน่วยให้บริการประชาชนรวม 16 หน่วยงาน มีบริการที่น่าสนใจ เช่น ประชาสัมพันธ์ให้คําปรึกษา รับคําร้องกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกร บริการป้องกันควบคุมโรคระบาดในสัตว์ ผ่าตัดทําหมันสัตว์ บริการความรู้ด้านประมง ประชาสัมพันธ์บัญชีรับ-จ่าย ในครัวเรือน บริการให้ความรู้โรคแมลงและการป้องกัน มอบเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด สาธิตการทําชาใบหม่อน มอบพันธุ์ต้นหม่อน การผลิตและใช้ปุ๋ยชีวภาพ ให้คําแนะนําการเลี้ยงสัตว์และมอบผลิตภัณฑ์หญ้าพืชอาหารสัตว์ รวมทั้งมอบเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ให้แก่เกษตรกร โดยในวันนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 200 คนทั้งนี้จังหวัดสุรินทร์ มีเกษตรกร รวม 218,612 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรกรรม 4.2 ล้านไร่ เป็นนาข้าว 3.4 ล้านไร่ พืชไร่ 3.75 แสนไร่ ไม้ผล 2 แสนไร่ ไม้ดอกไม้ประดับ 1.2 หมื่น ไร่
18/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018205638989
246,813
รมช.เกษตรฯ มอบ ชป.แก้ปัญหาน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร พร้อมสร้างงาน สร้างอาชีพ เปิดพื้นที่การค้าสินค้าเกษตรชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจติดตามโครงการแก้มลิงหนองปรง ณ ศาลากลางหมู่บ้าน บ้านหนองปล้อง หมู่ที่ 18 ตําบลท่าตูม อําเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าในแต่ละปีจะเป็นพื้นที่น้ําท่วม หรือเกิดการขาดแคลนน้ํา จึงมีการขอให้จัดทําโครงการแก้มลิง เพื่อกักเก็บน้ําไว้ใช้อุปโภค-บริโภคได้ตลอดปี ซึ่งโครงการดังกล่าวเข้าสู่สภาเป็นลําดับต้น ๆ เรียบร้อยแล้วนอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ค้าชายแดนว่า จังหวัดสุรินทร์มีพรมแดนการค้าช่องจอมที่สามารถทําการค้าระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่องจอมเป็นเส้นทางข้ามแดนที่ใหญ่และสะดวกที่สุดของจังหวัดสุรินทร์ที่จะไปยังกัมพูชา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งผลักดันในการสร้างศักยภาพในพื้นที่ เพื่อให้เปิดพื้นที่การค้าสินค้าเกษตร สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ยังพบว่า จังหวัดสุรินทร์มีศักยภาพในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมากที่สุดในประเทศ โดยมีศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ เป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจ
18/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231018230747015
246,814
สำนักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าปศุสัตว์
วานนี้ (18 ต.ค.66) นางสาวชัญญานุช วัดสว่าง ประมงอําเภอเมืองเพชรบุรี ร่วมกับกลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สํานักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี ด่านตรวจสัตว์น้ําเพชรบุรี สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบุรี ตํารวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี อําเภอเมืองเพชรบุรี และกํานันตําบลนาวุ้ง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ (ห้องเย็น) เก็บสินค้าปศุสัตว์ ตามนโยบายปราบปรามการลักลอบเคลื่อนย้ายสินค้าปศุสัตว์โดยเฉพาะซากสุกรเถื่อนพร้อมกันทั่วประเทศ โดยได้เข้าตรวจสอบ บริษัทโกรวยฟู้ดส์ จํากัด เลขที่ 3/3 ม.3 ต.นาวุ้ง อําเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ผลการตรวจสถานที่(ห้องเย็น) เก็บสินค้าปศุสัตว์ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ผู้ประกอบการได้นําเอกสารใบอนุญาตนําหรือเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ภายในราชอาณาจักร และเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ครบถ้วนถูกต้อง
19/10/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019091937038
246,815
สภาพอากาศวันนี้ภาคใต้ยังคงมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มมีอากาศหนาว
ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พยากรณ์อากาศวันนี้ (19 ต.ค. 66) บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศกําลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทําให้บริเวณดังกล่าวมีฝนน้อย ในขณะที่ร่องมรสุมกําลังปานกลางพาดผ่านภาคใต้ตอนบน อ่าวไทยตอนบนและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่างและอ่าวไทย ทําให้ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ําไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ สําหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ด้านพายุโซนร้อน “ซันปา” ได้เคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือเข้าสูอ่าวตังเกี๋ย โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชน ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ที่ Facebook : กรมอุตุนิยมวิทยา เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาhttp://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
19/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019103250076
246,816
กรมปศุสัตว์ สั่งอายัดเนื้อเถื่อนล็อตใหญ่ จำนวน 86,200 กิโลกรัม ที่จังหวัดราชบุรี
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เก็บซากสัตว์ (ห้องเย็น ) ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี พบซากสัตว์ ประกอบด้วย ขาไก่ ตุรกี 31,000 กิโลกรัม ซากสุกร ประเทศบราซิล 3,000 กิโลกรัม ขาไก่กล่อง (cedal Argentina) 3,000 กิโลกรัม ซากโค ประเทศบราซิล (sadia ) 2,200 กิโลกรัม ซากสุกรเล็ก(หมูกี่) 3,000 กิโลกรัม เนื้อกระบืออินเดีย (Al-Sami) 4,000 กิโลกรัม ซากชิ้นส่วนสุกร 40,000 กิโลกรัม น้ําหนักรวมจํานวน 86,200 กก. รวมมูลค่า 11,510,000 บาท ซึ่งทั้งหมดไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงถึงแหล่งที่มาแก่เจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทําการอายัดซากสัตว์ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบและให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนําเอกสารการครอบครองและที่มาของซากมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่อายัดซากไว้ หากไม่สามารถนําหลักฐานมาแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จะดําเนินคดีต่อในความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ต่อไป
19/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019091805035
246,817
เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเล็กน้อย เพื่อเร่งระบายน้ำตอนบนที่ไหลลงมาเพิ่มในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ปรับเพิ่มการระบายน้ำเช่นกันแบบขั้นบันไดเร่งระบายน้ำจากลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล
เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ําท้ายเขื่อนเล็กน้อยอยู่ที่ 1,664 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ําตอนบนที่ไหลลงมาเพิ่มในลุ่มน้ําเจ้าพระยา ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ปรับเพิ่มการระบายน้ําเช่นกันแบบขั้นบันไดเร่งระบายน้ําจากลุ่มน้ําชีและลุ่มน้ํามูล นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า อิทธิพลของร่องมรสุมกําลังปานกลางและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทําให้ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคตะวันออกก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยช่วงวันที่ 20- 24 ตุลาคม ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองส่วนภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทําให้ต้องระวังน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากบริเวณ จ.ตาก กําแพงเพชร ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง นครศรีธรรมราช และพังงา ขณะที่วันนี้ (19 ต.ค.66) ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ําบริเวณสถานีวัดน้ํา C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เล็กน้อยอยู่ที่ 1,664 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ําตอนบนที่ไหลลงมาเพิ่มในลุ่มน้ําเจ้าพระยา แต่ภาพรวมปริมาณน้ําจากตอนบนของประเทศเริ่มลดลงต่อเนื่อง ส่วนการตัดยอดน้ําออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของลุ่มน้ําเจ้าพระยาอยู่ที่ 555 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบ่งเป็น รับน้ําฝั่งตะวันตก 392 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ําฝั่งตะวันออก 163 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้เร่งกําจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ําเตรียมรับสถานการณ์น้ําฝน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ําในคลองแสนแสบ บริเวณคลองวัดบําเพ็ญเหนือ เขตมีนบุรี // คลองสอง บริเวณชุมชนสะพานไม้ 1 เขตหลักสี่ // คลองบางซื่อ บริเวณใต้ทางด่วนถึงหลังกรมสรรพาวุธทหารบก เขตพญาไทและเขตบางซื่อ // บึงกระเทียม บริเวณซอยรามอินทรา 82 เขตมีนบุรี และคลองซอยที่สิบเอ็ด บริเวณชุมชนฮ่าซ่านัย เขตหนองจอก ขณะที่สถานการณ์น้ําในลุ่มน้ําชีและลุ่มน้ํามูล ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ําของเขื่อนอุบลรัตน์ปัจจุบันระบายน้ําอยู่ที่วันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร จะทยอยปรับเพิ่มเป็นขั้นบันไดวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ไปสูงสุดที่วันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากจะเพิ่มการระบายน้ําอีกต้องมีหนังสือขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นในฐานะประธานคณะกรรมการลุ่มน้ําชีอย่างเป็นทางการก่อน แต่ต้องระบายน้ําไม่เกินวันละ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนลําปาวให้ปรับลดการระบายน้ําลงวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรจนกว่าปริมาณน้ําในเขื่อนจะเข้าสู่สภาวะปกติ ควบคู่กับจัดการและควบคุมการระบายน้ําไม่ให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ท้ายน้ําของลุ่มน้ํามูล
19/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019094614055
246,818
พัชรวาท กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดและเจ้าหน้าที่เร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทั้งไฟป่า หมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 และพร้อมรับการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั้งทางทะเลและทางบก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กําชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดและเจ้าหน้าที่เร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทั้งไฟป่า หมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 และพร้อมรับการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั้งทางทะเลและทางบก นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ําให้ทุกหน่วยงานในสังกัดและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตยสุจริต เน้นความมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และทํางานแบบบูรณาการร่วมกัน โดยเฉพาะงานที่ต้องเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนให้หน่วยงานดําเนินการให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกําชับให้สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเป็นผู้แทนการทํางานของกระทรวงทรัพย์ฯในระดับภูมิภาคต้องดําเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย นโยบายของรัฐบาลที่กําหนด และภารกิจเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาประชาชน เช่น การแก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ําท่วม // การแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด // การเตรียมพร้อมรับการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั้งทางทะเลและทางบกที่สร้างรายได้จํานวนมากให้ประเทศ // การแก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่า // การร่วมกับประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกเขตป่า พร้อมหามาตรการหรือแนวทางเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ การจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน และการจัดการขยะต้นทาง ซึ่งต้องดําเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลสําเร็จ
19/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019105738090
246,819
ปศุสัตว์ชลบุรี บูรณาการปฏิบัติการยุทธการปราบสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา พันเอก จักรพงศ์ พันธุ์มงคล รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 และในฐานะรองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชลบุรี (ท.) พร้อมด้วย นายชวนะ ทองเย็น ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี นําเจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์เขต 2 และสํานักงานปศุสัตว์อําเภอบางละมุง ร่วมกับด่านตรวจประมงชลบุรีด่านกักกันสัตว์ชลบุรี เจ้าพนักงานตํารวจ กองกํากับการสืบสวนภาค 2 เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ชบ. จังหวัดชลบุรี ร่วมบูรณาการตรวจสอบห้องเย็นหรือสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ สินค้าเกษตร และสินค้าประมง ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 และกฎหมายระเบียบประกาศที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องปราบการกระทําผิดกฎหมาย รวมถึงคุ้มครองผู้บริโภค ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีโดยในวันนี้ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการ จํานวน 9 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท เอ-วัน ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด (สาขาพัทยา) ตําบลหนองปลาไหล อําเภอบางละมุง บริษัท ไฮแลนด์ ฟาร์มผึ้ง จํากัด ตําบลหนองปลาไหล อําเภอบางละมุง บริษัท เค.เค.ฟาร์มฟู้ด จํากัด ตําบลหนองปรือ อําเภอบางละมุง บริษัท ไพรม์ ฟู้ด เซอร์วิส จํากัด ตําบลหนองปรือ อําเภอบางละมุง บริษัท สยามแมคโคร จํากัด (มหาชน) สาขาพัทยา ตําบลหนองปรือ อําเภอบางละมุง บริษัท สยามฟูด เซอร์วิส จํากัด ตําบลหนองปรือ อําเภอบางละมุง บริษัท ช้อยซ์ ฟู้ด ประเทศไทย จํากัด ตําบลหนองปรือ อําเภอบางละมุง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จํากัด (มหาชน) สาขาพัทยาเหนือ บริษัท แฮปปี้แลนด์ มีท ซัพพลาย จํากัด (สาขาบางละมุง) ตําบลนาเกลือ อําเภอบางละมุง ซึ่งการปฏิบัติงานครั้งนี้พบผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และกฎหมายระเบียบประกาศที่เกี่ยวข้อง จํานวน 1 แห่งด้าน นายชวนะ ทองเย็น ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมปศุสัตว์ ได้มอบหมายให้ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ในการป้องปราบการกระทําผิดกฎหมาย รวมถึงคุ้มครองผู้บริโภค โดยปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2566 จํานวน 19 แห่ง ไม่พบการกระทําความผิด 18 แห่ง และพบการกระทําความผิด 1 แห่ง จึงได้ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
19/10/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019111957101
246,820
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำประชาชนร่วมปลูกต้นพร้อมเสริมความรู้ในการตัดแต่งต้นไม้ที่ถูกวิธี เนื่องในวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ
วันนี้ (19 ต.ค.66) ที่สวนรุกขชาติปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเนื่องในวันนวมินทรมหราช และวันรักต้นไม้ประจําปีของชาติ ประจําปี 2566 โดยนําประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในชุมชม เพื่อเป็นการน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย และเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้คนไทย ตระหนัก และหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ อันจะเป็นหนทางนําไปสู่การอนุรักษ์และรู้จักการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เพื่อเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไปในอนาคต ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรมการร่วมกันปลูกต้นไม้แล้วยังได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ถูกต้องและสวยงาม ให้กับประชาชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมได้รับทราบอีกด้วย เช่น การตัดแต่งเพื่อความสวยงาม ลดความแน่นทึบของทรงพุ่ม การบํารุงรักษากิ่งที่เสียหายจากโรคหรือแมลงเข้าทําลายจนกิ่งแห้งตาย การบังคับทิศทางการเจริญเติบโตของต้นไม้ และการช่วยกระตุ้นให้ออกดอกและผลตามฤดูกาล เป็นต้น
19/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019134520147
246,821
ปศุสัตว์จันทบุรี สนธิกำลัง กอ.รมน. ตำรวจ พาณิชย์ และชุดเฉพาะกิจกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบห้องเย็น ค้นหาสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย
(19 ต.ค.66) นายสัตวแพทย์ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี สนธิกําลังกับกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดจันทบุรี สารวัตรทหาร จากมณฑลทหารบกที่ 19 ตํารวจภูธรท่าใหม่ ตํารวจภูธรนายายอาม พาณิชย์จังหวัดจันทบุรีร่วมกับชุดเฉพาะกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย ประมงจังหวัดจันทบุรี ด่านกักกันสัตว์จันทบุรี ด่านกักกันพืชจันทบุรี ด่านตรวจประมงจันทบุรี นายสัตวแพทย์มนัสกิจ พลศรี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ นายวิทยา สุจิรวรกุล ปศุสัตว์อําเภอท่าใหม่ นายทยากร เพ็ชรผ่อง ปศุสัตว์อําเภอนายายอาม และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี รวม 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรท่าใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 13/6 ม.1 ถ.สุขุมวิท ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ ไม่พบสินค้าเกษตรเก็บภายใน บริษัท ที.เอ็ม.เอส. โฟรเช่น จํากัด ตั้งอยู่เลขที่ 61/8 ม. 9 ถ.สุขุมวิท ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ พบทุเรียนแช่แข็ง จํานวน 118 ตัน มูลค่าประมาณ 30,420,000 บาท และบริษัท ไทย กิตติ์รวี จํากัด ตั้งอยู่เลขที่ 19/9 ม.3 ต.นายายอาม อ.นายายอาม พบทุเรียนแช่แข็ง จํานวน 25 ตัน มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท เป็นห้องเย็นรับฝากสินค้าการเกษตร ไม่พบการเก็บสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการปฏิบัติการมาตรการป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนําเข้าเนื้อสัตว์ ตามนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สั่งการให้เอ็กซเรย์ ตรวจสอบห้องเย็นพร้อมกันทั่วประเทศ หากตรวจพบผู้ฝ่าฝืน ลักลอบเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์มาเก็บไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 กําหนดโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และมีความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 กําหนดโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
19/10/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019134146143
246,822
ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร รวมกำลังตำรวจ ทหาร และส่วนราชการ ร่วมกันตรวจสอบห้องเย็นและสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ในพื้นที่จังหวัดยโสธร
วันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 08.00 น. นายธานินทร์ จุฑาทิพย์ชาติกุล ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้ากลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์จังหวัดยโสธร ลงพื้นที่ร่วมกับ กอ.รมน. จังหวัดยโสธร เจ้าหน้าที่สถานีตํารวจภูธรอําเภอ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดยโสธร พาณิชย์จังหวัดยโสธร ประมงและจังหวัดยโสธร พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัด ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบห้องเย็น และสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ ที่ ร้านค้าในพื้นที่ อําเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ ซากสัตว์ และเพื่อเป็นการป้องกันการนําเนื้อเถื่อนเข้าพื้นที่จังหวัดยโสธร และป้องกันการนําเข้าโรคระบาดที่สําคัญในสุกร หรือที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังได้มีการให้ข้อแนะนําในการปฏิบัติที่ถูกต้องระเบียบของกรมปศุสัตว์ และกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์อีกด้วยซึ่งจากการตรวจสอบห้องเย็น และสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ครั้งนี้ ไม่พบว่า ร้านค้าที่จําหน่ายเนื้อสุกร/ เนื้อไก่/เนื้อวัว/หรืออาหารทะเลแช่แข็ง มีแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ ซากสัตว์ถูกต้อง ไม่มีที่นําเข้ามาแบบผิดกฎหมายแต่อย่างใด
19/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019140912165
246,823
กรมอุทยานฯ เร่งแก้ปัญหาการครอบครองและสถานภาพทางกฎหมายของนกปรอดหัวโขน เพื่อให้การเพาะเลี้ยงถูกต้องตามกฎหมายและลดขั้นตอนการอนุญาตครอบครองหรือเพาะพันธุ์
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งแก้ปัญหาการครอบครองและสถานภาพทางกฎหมายของนกปรอดหัวโขน เพื่อให้การเพาะเลี้ยงถูกต้องตามกฎหมายและลดขั้นตอนการอนุญาตครอบครองหรือเพาะพันธุ์ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการครอบครองและสถานภาพทางกฎหมายของนกปรอดหัวโขน เพื่อรับฟังความคิดเห็นการให้ความรู้ความเข้าใจการเลี้ยงนกปรอดหัวโขน การเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ การอนุรักษ์ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ส่งผลกระทบกับผู้เลี้ยงและนกปรอดหัวโขนที่อาศัยในธรรมชาติ จึงเป็นเรื่องสําคัญที่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ ผู้เพาะเลี้ยง ผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับนก และนักอนุรักษ์ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาข้อสรุปเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ปัจจุบันกรมอุทยานฯมีกระบวนการส่งเสริมการอนุรักษ์นกปรอดหัวโขนให้กับผู้ที่สนใจเลี้ยง สนับสนุนพ่อแม่พันธุ์ให้ภาคเอกชนครอบครอง เพาะพันธุ์ และค้าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึง ปรับลดขั้นตอนการอนุญาตครอบครองหรือเพาะพันธุ์ แต่ยังมีผู้เพาะเลี้ยงที่ไม่ได้รับอนุญาตจํานวนมาก เนื่องจากมีขั้นตอนการขออนุญาตหลายขั้นตอน ต้องใช้หลักฐานหลายอย่าง และต้องลงทุนสูง ทั้งนี้ จากข้อมูลระหว่างปี 2555 - ปัจจุบัน พบมีผู้ได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์ ค้า และครองครองนกปรอดหัวโขนและขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย 134,325 ตัว จากผู้ขอขึ้นทะเบียน 11,527 ราย ที่ผ่านมาพบผู้กระทําผิดกฎหมายเกี่ยวกับนักปลอดหัวโขนตั้งแต่ปี 2562 - 2566 รวม 183 คดี สามารถตรวจยึดนกผิดกฎหมายได้ 6,406 ตัว สําหรับ นกปรอดหัวโขน (นกกรงหัวจุก) เป็นที่นิยมเลี้ยงในภาคใต้ เนื่องจากมีเสียงร้องไพเราะและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ จึงมีกลุ่มผู้เลี้ยงสามารถเพาะพันธุ์นกได้จํานวนมากและผลักดันให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจและปลดนกปรอดหัวโขนจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ของภาคใต้ ปัจจุบันนกปรอดหัวโขนจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ป่าคุ้มครองจําพวกนก ลําดับที่ 550 ตามกฎกระทรวงกําหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 ห้ามล่า หรือจับมาจากธรรมชาติ
19/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019200014311
246,824
ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร รวมกำลังตำรวจ ทหาร และส่วนราชการ ร่วมกันตรวจสอบห้องเย็นและสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ในพื้นที่จังหวัดยโสธร
วันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 08.00 น. นายธานินทร์ จุฑาทิพย์ชาติกุล ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้ากลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์จังหวัดยโสธร ลงพื้นที่ร่วมกับ กอ.รมน. จังหวัดยโสธร เจ้าหน้าที่สถานีตํารวจภูธรอําเภอ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดยโสธร พาณิชย์จังหวัดยโสธร ประมงและจังหวัดยโสธร พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัด ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบห้องเย็น และสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ ที่ร้านค้าในพื้นที่ อําเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธรทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ ซากสัตว์ และเพื่อเป็นการป้องกันการนําเนื้อเถื่อนเข้าพื้นที่จังหวัดยโสธร และป้องกันการนําเข้าโรคระบาดที่สําคัญในสุกร หรือที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังได้มีการให้ข้อแนะนําในการปฏิบัติที่ถูกต้องระเบียบของกรมปศุสัตว์ และกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์อีกด้วยซึ่งจากการตรวจสอบห้องเย็น และสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ครั้งนี้ ไม่พบว่า ร้านค้าที่จําหน่ายเนื้อสุกร เนื้อไก่ เนื้อวัว หรืออาหารทะเลแช่แข็ง มีแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ ซากสัตว์ถูกต้อง ไม่มีที่นําเข้ามาแบบผิดกฎหมายแต่อย่างใด
19/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สวท.ยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019145519187
246,825
ปศุสัตว์ชัยภูมิ รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย โรคเฮโมรายิกเซปทิซีเมียและการทำลายเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยง
นายสัตวแพทย์อดิศร ชาติสุภาพ ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้กําหนดให้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย 1/2563 ซึ่งกําหนดให้มีการดําเนินงานในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2566 เนื่องจากการระบาดของโรคดังกล่าวดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบืออย่างมาก ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและป้องกันโรค โดยทําให้สัตว์มีระดับภูมิคุ้มกันระดับฝูงที่สามารถป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้น สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิจึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ นําสัตว์มาฉีดวันป้องกันโรคดักล่าวพร้อมกันทั้งจังหวัด โดยสามารถติดต่อขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่ปศุสัตว์จังหวัดหรือปศุสัตว์อําเภอใกล้บ้านปศุสัตว์จังหวัด กล่าวเพิ่มเดิมว่า ในช่วงระยะเวลาการรณรงค์ฉีดวัคนป้องกันโรคดังกล่าว กรมปศุสัตว์จะเน้นการดําเนินการฉีดวัคนป้องกันโรคในโคนม โคเนื้อ กระบือ แพะ และแกะ และจัดทําประวัติการฉีดวัคซีน พร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้บริการยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยง เช่น ตลาดนัดค้าสัตว์โรงฆ่าสัตว์ คอกกักสัตว์ รถบรรทุกสัตว์ และสหกรณ์หรือศูนย์รวมนม เป็นต้น อีกทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับโรคปากและเท้าเปื่อย ซึ่งเป็นโรคระบาดที่สําคัญอย่างยิ่งในโค กระบือ แพะและแกะ เพราะสามารถติดต่อระหว่างสัตว์ดังกล่าวได้ง่าย และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยโรคนี้ไม่ทําให้สัตว์ถึงตายแต่สัตว์จะสุขภาพทรุดโทรม ผลผลิตลดลงโดยเฉพาะปริมาณน้ํานมลดลงในโคนม ส่วนโรคเฮโมรายิกเซปพิซีเมียเป็นโรคระบาดรุนแรงในกระบือ ทําให้กระบือป่วยและตายอย่างเฉียบพลันได้ ซึ่งทั้งสองโรคนี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้เลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมาก แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคท้ายที่สุดนี้ ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ ขอความร่วมมือจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ให้ดูแลสัตว์สัตว์เลี้ยงของตนเองให้มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง และป้องกันสัตว์ของตนเองไมให้สัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะนําเชื้อโรคเข้าฟาร์ม ได้แก่ คน ยานพาหนะต่างๆ สัตว์ที่นําเข้ามาเลี้ยงใหม่ ถังนม อาหาร รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น หมั่นสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงของตนเองอยู่เสมอหากพบสัตว์แสดงอาการป่วยหรือตายผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อาสาปศุสัตว์ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.)/เทศบาลในพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งเหตุโรคระบาดสัตว์ได้ที่กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ โทร 044-812334 ต่อ 13 หรือ 044-811928เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรเป็นไปได้อย่างทันท่วงที
19/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019145843189
246,826
ประมงจังหวัดตรัง ลงพื้นที่อำเภอสิเกา ติดตามผลการดำเนินโครงการพัฒนาต้นแบบการเลี้ยงปูทะเลในบ่อกุ้ง งบพัฒนาจังหวัด 2566
นายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดตรัง มอบหมายให้นางกาญจนา เตี้ยวซี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง นางสาวนลินี สิงหบุญ นักวิชาการประมงปฏิบัติการ ร่วมกับนายศุภมงคล สกุลราช ประมงอําเภอสิเกา ลงพื้นที่ติดตามผลการดําเนินโครงการพัฒนาต้นแบบการเลี้ยงปูทะเลในบ่อกุ้ง งบพัฒนาจังหวัด 2566 ของนางสมจิตร สะหนิ ตําบลไม้ฝาด อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง และลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับนายบุญฤทธิ์ รําภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตําบลบ่อหิน อําเภอสิเกา จังหวัดตรังทั้งนี้ จากการติดตามพบว่าปูมีการเจริญเติบโตดี นับเป็นการฟื้นฟูบ่อกุ้งร้างที่เสื่อมโทรม ให้มีความสมบูรณ์ สามารถเป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีความยั่งยืน เพิ่มทางเลือกในการสร้างอาชีพใหม่ให้แก่เกษตรกรโดยใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สําหรับปูทะเล เป็นปูที่มีชื่อเรียกทั่วไปว่า ปูดํา ปูเขียว ปูขาว หรือ ปูทองหลาง เป็นสัตว์น้ําที่มีศักยภาพสูงมากที่จะพัฒนาเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ สําหรับรองรับการพัฒนาประเทศในอนาคต จังหวัดตรัง เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปูทะเล โดยพื้นที่นากุ้งร้างที่มีอยู่ สามารถพัฒนามาเป็นบ่อเลี้ยงปู และจากการที่ปูทะเลเป็นสัตว์น้ําที่ต้องใช้วิธีการเพาะเลี้ยงในระบบพึ่งพาธรรมชาติ ส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศชายฝั่งโดยเฉพาะบริเวณป่าชายเลนมากกว่าการทําลายป่า ซึ่งปูทะเลเป็นสัตว์น้ําเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ผู้บริโภคนิยมบริโภค ราคาดี สามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี
19/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019162241251
246,827
ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอนตรวจสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์และสถานที่เก็บซากสัตว์ 4 แห่ง ในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
วันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 09.00 น. นายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์แม่ฮ่องสอน สํานักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน สํานักงานประมงจังหวัดแม่ฮ่องสอน สํานักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดําเนินการตรวจสอบสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์และสถานที่เก็บซากสัตว์ในพื้นที่อําเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จํานวน 4 แห่ง เพื่อตรวจสอบการประกอบกิจการของผู้ประกอบการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ตามนโยบายกรมปศุสัตว์ในการป้องกันและปราบปรามการจําหน่ายเนื้อสัตว์ผิดกฎหมายนายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เน้นย้ําให้ผู้ประกอบการรักษาความสะอาดอยู่สม่ําเสมอ เพื่อให้มีมาตรฐานการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย เหมาะสมแก่การบริโภคทั้งนี้ การตรวจสอบสถานที่ทั้ง 4 แห่ง ได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์อย่างเคร่งครัดครบถ้วน และดําเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กรมปศุสัตว์กําหนด
19/10/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019155529230
246,828
เกษตรอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ร่วมประชุมตำบลสัญจร ตำบลนาหมื่นศรี เร่งรัดการขึ้นทะเบียนนาข้าวปี 2566/2567 และการปรับปรุงข้อมูลสมุดทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน
นางสาวรัชนี นิลละออ เกษตรอําเภอนาโยง มอบหมายให้ นางจรัสศรี แก้วนิลประเสริฐ และนายนิติพล มากมูล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอนาโยง ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการประจําตําบล ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจําตําบล สารวัตรกํานัน เข้าร่วมประชุมตําบลสัญจร ตําบลนาหมื่นศรี ครั้งที่ 10/2566 ณ ศาลาหมู่บ้าน หมู่ที่ 2 ตําบลนาหมื่นศรี อําเภอนาโยง จังหวัดตรัง ทั้งนี้ ได้เร่งรัดการขึ้นทะเบียนนาข้าวปี 2566/2567 และการปรับปรุงข้อมูลสมุดทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล กรณีแปลงปลูกพืชเสียหายจากการประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลัง และได้รับสิทธิต่างๆ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว ต้องปรับปรุงข้อมูลทุกครั้ง เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่หลังการเพาะปลูก 15 วัน นอกจากนี้ ยังได้ติดตามการจําหน่ายสินค้าเกษตร ตลาดเกษตรกรอําเภอนาโยง รวมถึงการรับสมัครเกษตรกรรุ่นใหม่ (YSF) ประจําปี 2567 ด้วย
19/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019160801238
246,829
เกษตรย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2566/2567 ตำบลนาชุมเห็ด
วันนี้ (19 ต.ค.66) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นายธีรภัทร์ บุญฤทธิ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ร่วมกับนางสาวนริศรา หมื่นหัสถ์ นักวิชาเกษตรปฏิบัติการ จากองค์การบริหารส่วนตําบลนาชุมเห็ด ลงพื้นที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2566/2567 ของเกษตรกรหมู่ที่ 2 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งมีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนจํานวน 5 ราย พื้นที่การปลูกข้าวนาปีจํานวนเนื้อที่ประมาณ 31.75 ไร่ สําหรับพันธุ์ข้าวนาปีที่เกษตรกรปลูกคือ ข้าวพันธุ์เล็บนกปัตตานีทั้งนี้ การแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเป็นประจําทุกปี ข้อมูลจะมีความครบถ้วน เป็นปัจจุบันทําให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทําให้ภาครัฐ สามารถวางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและจัดทําโครงการมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการที่หน่วยงานภาครัฐเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรไปใช้เป็นข้อมูลประกอบโครงการและมาตรการเพื่อให้การสนับสนุน และช่วยเหลือเกษตรกรเป็นจํานวนมาก
19/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019161355242
246,830
เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ร่วมประชุมสมาชิกแปลงใหญ่ทุเรียน ตำบลนาชุมเห็ด
วันนี้ (19 ต.ค.66) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นายธีรภัทร์ บุญฤทธิ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ร่วมกับนางสาวนริศรา หมื่นหัสถ์ นักวิชาเกษตรปฏิบัติการ จากองค์การบริหารส่วนตําบลนาชุมเห็ด ลงพื้นที่ร่วมประชุมสมาชิกแปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 7 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยการประชุมติดตามการดําเนินงานของกลุ่ม โดยนางสุวรรณา สังข์ขาว ประธานแปลงใหญ่ฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดการดําเนินกิจกรรมการจัดทําแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยแปลงใหญ่ต้องมีการบริหารจัดการปัจจัยการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด และสามารถใช้ปัจจัยการผลิตได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน การขอรับรองมาตรฐาน GAP แปลงทุเรียนของสมาชิก การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกโดยการลงพื้นที่แปลงของสมาชิกกลุ่ม และสาธิตการขยายเชื้อและวิธีการใช้ชีวภัณฑ์ Bacillus subtilis (Bs) ให้แก่สมาชิกแปลงใหญ่ทุเรียนตําบลนาชุมเห็ด ณ ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 7 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรังสําหรับคุณสมบัติของเชื้อ Bacillus subtilis (Bs) คือ สามารถเข้าทําลายโดยตรง อีกทั้งยังสามารถสร้างสารปฏิชีวนะได้หลายชนิด และสามารถแก่งแย่งธาตุอาหารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราโรคพืชได้ดีกว่าจุลินทรีย์อื่นๆ ในสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลน เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่โดยปกติมักจะพบอาศัยร่วมกับพืช โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อพืชที่อาศัยอยู่ มีความสามารถในการปรับตัวและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนและทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี อีกทั้ง Bs บางสายพันธุ์มีความสามารถในการผลิตสารพวก Toxic metabolite บางชนิดที่มีประโยชน์ในการนํามาใช้กระตุ้นการเกิดความต้านทานของพืชต่อเชื้อสาเหตุโรคพืชที่เข้าทําลาย ส่วนประโยชน์คือ ใช้ในการป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และแบคทีเรียหลายชนิด
19/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019165055262
246,831
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อมอบนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และติดตามสถานการณ์ด้านการเกษตรในจังหวัด เน้นย้ำนโยบายการเกษตรแบบ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้
วันนี้ (19 ต.ค.66) นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อมอบนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และติดตามสถานการณ์ด้านการเกษตรในจังหวัด ที่ห้องประชุมพนมรุ้ง ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีนายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย รองอธิบดีกรมหม่อนไหม ผู้ตรวจราชการ ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเอกชน และส่วนที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้มีการเน้นย้ําเรื่องภารกิจการปราบปรามสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ได้มีการขอความร่วมมือทุกจังหวัดมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ บูรณาการร่วมกับ กอ.รมน. ทหาร และส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการออกตรวจค้นห้องเย็นทั่วประเทศอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดสินค้าผิดกฎหมายไม่ให้เข้าสู่ตลาด อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อยที่ต้องขายสินค้าทางการเกษตรในราคาถูก สวนทางกับราคาต้นทุนการเกษตรที่ยังแพงอยู่ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการดีเดย์ทั่วประเทศ ในช่วงสามวันที่ผ่านมา สามารถตรวจยึดสินค้าเกษตรผิดกฎหมายได้กว่า 1 พันตัน มูลกว่ากว่าร้อยล้านบาท ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาอาหารสัตว์แพงขณะนี้ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้เป็นหัวอาหารสัตว์ในประเทศอย่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง หรือมันสําปะหลัง ยังมีปริมาณไม่เพียงพอ ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการส่งเสริมการเกษตรให้มีการสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่การเปลี่ยนวิธีคิดให้แก่เกษตรกร เป็นแนวคิด ตลาดนําการผลิต ผู้บริโภคและการผลิตต้องสอดคล้องกัน ป้องกันการขาดทุน หรือสินค้าล้นตลาด รวมถึงการส่งเสริมองค์ความรู้ต่างๆที่เกี่ยวข้องให้แก่เกษตรกร เช่น การปรับปรุงดินให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด การทําการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ให้สูงขึ้น ทําให้ราคาวัตถุดิบสําหรับทําอาหารสัตว์ลดลง ทั้งนี้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีแผนที่จะเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าด้วยกันเป็น Big data ที่ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ และสามารถนําไปใช้ในการบริหารจัดการด้านการเกษตร หรือวิเคราะห์ด้านการตลาด ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในส่วนของการแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับเกษตรกร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสําคัญเป็นอย่างมาก ขณะนี้ได้มีการนํานโยบายพักหนี้เกษตรกรมาช่วยเหลือเกษตรกรที่มีศักยภาพทั้งการเรียนรู้และชําระหนี้ ให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ ในระหว่างการปลอดหนี้ 3 ปี เกษตรกรจะได้ศึกษาเรียนรู้และพัฒนาด้านการทําการเกษตรให้สามารถสร้างรายได้มากขึ้น เติบโตขึ้นผ่านการส่งเสริมองค์ความรู้จากหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนเกษตรกรที่ไม่เข้าเกณฑ์การพักชําระหนี้ อนาคตจะมีการหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการวางขั้นตอนการช่วยเหลืออย่างชัดเจนมากขึ้น เช่น การช่วยผ่านมาตรการการปรับโครงสร้างหนี้ การขยายวงเงินหนี้เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการพักชําระหนี้ได้มากขึ้น เพื่อฟื้นฟูเกษตรกร และเสริมสร้างองค์ความรู้ ให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้เพิ่ม สามารถชําระหนี้ได้ และเป็นเกษตรกรที่มีประสิทธิภาพในอนาคต
19/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019171405269
246,832
เกษตรอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจแปลงข้าวไร่ ตำบลไม้ฝาด ซึ่งปลูกแซมในสวนปาล์มน้ำมัน สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้ในระหว่างที่พืชหลักยังไม่ให้ผลผลิต
วันนี้ (19 ต.ค.66) นางสาวจอมทอง ชัยภักดี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ปฏิบัติราชการแทน เกษตรอําเภอสิเกา มอบหมายให้ นายไพโรจน์ เพชรจํารัส นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอสิเกา ร่วมกับนายประสิทธิ์ ชัยวิเศษ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ตําบลไม้ฝาด ตรวจแปลงข้าวไร่หมู่ที่ 1 และ 2 ตําบลไม้ฝาด อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง จํานวน 7 แปลง ทั้งนี้ แปลงข้าวไร่ดังกล่าวปลูกแซมในสวนปาล์มน้ํามันที่อายุไม่เกิน 3 ปี โดยกิจกรรมข้าวไร่ดังกล่าว สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้ในระหว่างที่พืชหลักยังไม่ให้ผลผลิต โดยปาล์มน้ํามันนั้น สามารถปลูกร่วมกับพืชล้มลุกได้เฉพาะในระยะ 2-3 ปีแรก โดยไม่กระทบกับผลผลิต ซึ่งในการปลูกปาล์มจะใช้ระยะปลูก 9x9 เมตร ดังนั้นในช่วง 3-4 ปีแรก จะมีที่ว่างระหว่างต้นปาล์ม บริเวณดังกล่าวหากปล่อยทิ้งไว้จะมีวัชพืชเจริญเติบโตซึ่ง จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการกําจัด ดังนั้นหากมีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ก่อนที่จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มอย่างไรก็ตาม ในการใช้พื้นที่ระหว่างต้นปาล์ม มีข้อควรคํานึงดังนี้ ในการเตรียมพื้นที่ปลูกพืชแซม จะต้องไม่รบกวนต้นปาล์มน้ํามัน เช่น ในการไถเพื่อเตรียมปลูกจะต้องเว้นระยะห่างจากทรงพุ่มต้นปาล์มอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อไม่เป็นการทําลายรากและใบต้นปาล์ม การเลือกพืชปลูกจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของต้นปาล์ม เช่น การปลูกข้าวโพด ถั่ว ควรห่างจากแถวปาล์มประมาณ 1 เมตร แต่ถ้าเป็นมันสําปะหลัง กล้วย ควรห่างจากต้นปาล์มอย่างน้อย 2 เมตร เนื่องจากมีต้นสูง การปลูกใกล้ต้นปาล์มจะบังแสงปาล์มได้ อีกทั้งการใช้พืชตระกูลถั่วปลูก นอกจากจะเป็นการเพิ่มรายได้แล้ว ยังเป็นการปรับปรุงดินและเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับสวนปาล์ม ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับต้นปาล์มในอนาคต
19/10/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019165258263
246,833
กรมชลประทาน เร่งบริหารจัดการน้ำสะสมจากตอนบนของประเทศที่ไหลลงมาเพิ่มในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ด้วยการระบายน้ำผ่านทุ่งรับน้ำรอยต่อทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด
กรมชลประทาน เร่งบริหารจัดการน้ําสะสมจากตอนบนของประเทศที่ไหลลงมาเพิ่มในพื้นที่ลุ่มน้ําเจ้าพระยาตอนล่าง ด้วยการระบายน้ําผ่านทุ่งรับน้ํารอยต่อทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด เพื่อลดผลกระทบให้ประชาชนด้านท้ายน้ํา นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ําและแนวทางการบริหารจัดการน้ําในลุ่มน้ําเจ้าพระยาตอนล่าง บริเวณโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาผักไห่ และโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาเจ้าเจ็ด- บางยี่หน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกล่าวว่า ได้บริหารจัดการปริมาณน้ําสะสมในลุ่มน้ําทางตอนบนที่ไหลลงมาสมทบกับแม่น้ําเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยบริหารจัดการน้ําเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อควบคุมปริมาณไหลผ่านเขื่อนให้กระทบพื้นที่ด้านท้ายให้น้อยที่สุด ด้วยการผันน้ําเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ําเจ้าพระยาตามศักยภาพ เพื่อให้เกษตรกรได้นําไปใช้ประโยชน์ พร้อมบริหารจัดการน้ําระหว่างพื้นที่ให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นน้ําจนถึงปลายน้ําให้เกิดการรับ-ส่งน้ําอย่างมีระบบและเกิดประสิทธิภาพ ควบคู่กับทําประชาคมสอบถามความสมัครใจจากเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ําที่ต้องการรับน้ําเข้าพื้นที่ตามเกณฑ์และข้อตกลงร่วมกัน เพื่อเก็บกักน้ําไว้ใช้เพาะปลูกช่วงหน้าแล้ง ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ดให้ความร่วมมืออย่างดี ทําให้ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ําที่ลดลง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้
19/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019171844271
246,834
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาและจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2
วันนี้ (19 ต.ค.66) ที่ห้องประชุมชั้น 3 โรงแรมพราว ภูเก็ต ตําบลสาคู อําเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมโครงการศึกษาและจัดทํารายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 ภายใต้สัญญาจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาและจัดทํารายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นําชุมชน อิหม่าม ผู้แทนกลุ่ม/ชมรม/สมาคม และผู้สื่อข่าว เข้าร่วมทั้งนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นความสําคัญของการศึกษาและจัดทํารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการคาดการณ์และพยากรณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ เพื่อที่จะได้นําไปใช้ในการกําหนดมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่กฎหมายกําหนด อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนกับโครงการ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งองค์ประกอบที่สําคัญในการศึกษาและการดําเนินการโครงการ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสีย ผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยรอบโครงการ ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารของโครงการ ได้รับทราบ ถึงแนวทางการศึกษาและผลกระทบในด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้และเกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้งนี้ ได้เปิดการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน เพื่อจะได้นําข้อมูลที่ได้ไปประกอบการกําหนดขอบเขต และแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกด้าน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
19/10/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019204359334
246,835
จังหวัดชัยนาท ประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติตลอดจนมาตรการในการดูแลรักษาลำน้ำเจ้าพระยา และลำน้ำสาขา
วันนี้ (19 ต.ค.66) ที่ ห้องประชุมหลวงปู่ศุข 401 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดชัยนาท นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานในการประชุมประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติ พร้อมมาตรการในการดูแลรักษาลําน้ําเจ้าพระยา และลําน้ําสาขา โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารท้องถิ่น ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร สถานประกอบการ ที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ําเจ้าพระยา ในเขตพื้นที่อําเภอเมืองชัยนาท เข้าร่วมประชุมฯ ทั้งนี้ในประชุม ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และประชาชนที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ําเจ้าพระยา งดเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ําโสโครกหรือสิ่งอื่นใด ลงบนถนนหรือทางน้ํา พร้อมกําหนดมาตรการร่วมกัน ดังนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และประชาชนที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ําเจ้าพระยา ในการติดตั้งบ่อดักไขมัน ในห้วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนับจากวันประชุม และเมื่อครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว จังหวัดชัยนาทร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตามผลการดําเนินการติดตั้งบ่อดักไขมัน และจะเริ่มใช้มาตรการทางกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม, เทศบัญญัติ ข้อบัญญัติท้องถิ่น สําหรับกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไล่ระดับจากเบาไปหาหนัก นอกจากนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนสายเอเชีย และพิจารณาดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ กรณีพบการกระทําความผิด พร้อมทั้งการให้คําแนะนําจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแนวทางในการประชาสัมพันธ์ และการกํากับติดตามขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติตามอํานาจหน้าที่ รวมทั้งแนวทางในการดูแลรักษาความสะอาดบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนสายเอเชียอีกด้วย
19/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231019211506350
246,836
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมยกระดับมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนและจะเข้าฤดูหนาว มีแนวโน้มความกดอากาศที่สูงขึ้น อากาศไม่ถ่ายเท จะทําให้มีฝุ่นละอองสะสม จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 โดยข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า สถานการณ์ที่ฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) จะคงอยู่อีก 1 - 2 วัน จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสาร การรายงานคุณภาพอากาศ การคาดการณ์คุณภาพอากาศได้รวดเร็ว ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4Thai พร้อมขอให้ปฏิบัติตามคําแนะนําจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้เตรียมยกระดับมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงปี 2567 อาทิ การกําหนดพื้นที่เป้าหมายแบบมุ่งเป้าลดพื้นที่เผาไหม้ในพื้นที่เผาซ้ําซากคือ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ การจัดระเบียบควบคุมผู้ใช้ประโยชน์ การทํากติการ่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน เพิ่มประสิทธิภาพการบัญชาการสถานการณ์ไฟป่า การตั้งจุดตรวจสกัด พร้อมดึงประชาชนเข้ามาเป็นแนวร่วม เร่งนําระบบการรับรองผลผลิตทางเกษตรแบบไม่เผามาใช้ สร้างกลไกการบริหารจัดการระดับชาติและระดับจังหวัด ยกระดับการเจรจาเป็นระดับทวิภาคีและใช้เงื่อนไขทางการค้าเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยดึงภาคเอกชนร่วมลงทุนแก้ไขปัญหา
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020084347394
246,837
โครงการชลประทานแพร่ ปรับยกระดับบานพับอาคารระบายน้ำล้น เพิ่มความสามารถกักเก็บ
นายอัสนี จารุชาต ผู้อํานวยการโครงการชลประทานแพร่ เปิดเผยว่า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และปริมาณน้ําในอ่างเก็บน้ําแม่มาน ตําบลหัวฝาย อําเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ําขนาดกลาง 1 ใน 5 แห่งของจังหวัดแพร่ โดยรองรับน้ําเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในพื้นที่อําเภอสูงเม่นและอําเภอเด่นชัย โดยขณะนี้อ่างเก็บน้ําแม่มานสามารถกักเก็บน้ําได้เต็มความจุอ่างที่ 18.75 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณน้ําเข้าอ่างเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากยังคงมีฝนตกในพื้นที่โครงการชลประทานแพร่ จึงได้พิจารณาปรับยกระดับบานพับของอาคารระบายน้ําล้นขึ้นอีก ซึ่งได้มีการเสริมความสูงด้วยการสร้างฝายพับได้มาตั้งแต่ปี 2561 ทําให้ความจุกักเก็บเพิ่มขึ้นอีก 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยหลังจากที่เปิดยกระดับบานพับขึ้น อ่างเก็บน้ําแม่มานจะสามารถรับน้ําได้เกือบ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะช่วยป้องกันน้ําในลําห้วยแม่มานเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและเพิ่มการกักเก็บน้ําเพื่อทําการเกษตรให้แก่เกษตรกรอําเภอเด่นชัยและอําเภอสูงเม่น โดยคาดว่าจะทําให้พื้นที่สําหรับการปลูกพืชของอําเภอสูงเม่นและอําเภอเด่นชัยมีน้ําเพื่อการเกษตรเพียงพอในหน้าแล้งและรับมือกับสถานการณ์เอลนีโญได้
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020093901425
246,838
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี เร่งตรวจสอบห้องเย็นหรือสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสัตว์ซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 "
เมื่อวานนี้ 19 ตุลาคม 2566 กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ลพบุรี และสํานักงานปศุสัตว์อําเภอชัยบาดาล เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดลพบุรีได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นหรือสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ ในพื้นที่อําเภอชัยบาดาล เพื่อป้องกันการลักลอบนําเข้าสัตว์ซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 จํานวน 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท บี.พี.ฟู้ดส์เซนเตอร์ จํากัด ตําบลม่วงค่อม อําเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ในการตรวจสอบครั้งนี้ไม่พบการกระทําที่ผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ได้ให้คําแนะนําเน้นย้ํามาตรการตาม นโยบายของนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เกี่ยวกับการตรวจสอบหลักฐานในการรับเนื้อสัตว์และซากสัตว์เข้ามายังที่พักซาก เอกสารการเคลื่อนย้าย หรือเอกสารแหล่งที่มาของซากสัตว์ที่จะต้องนํามาแสดงเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจ เพื่อให้ผู้ประกอบการทราบและได้ปฎิบัติให้ถูกต้องต่อไป
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020090034399
246,839
จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อร่วมกันวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่
วันนี้ (20 ต.ค.66) เวลา 09.00 น. ที่ศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมกันวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาฯ ในการนี้ได้กล่าวต้อนรับพลเอก สุทัศน์ จารุมณี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ บุญแรง และคณะ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้ประกอบการ และผู้เข้าร่วมการประชุมรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีพื้นที่ราบน้อย ราษฎรที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าต่างๆ มีอาชีพหลักคือทําการเกษตรอยู่ การทําไร่หมุนเวียน/เลี้ยงสัตว์/หาของป่า ใช้พื้นที่เพื่อทําการเกษตรมากขึ้นส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทําให้ป่าไม้เสื่อมโทรมไม่สามารถกักเก็บน้ําไว้ในภัยแล้งได้ ทําให้มีอากาศแห้งแล้ง และในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีการเกิดไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากสถิติ Hotspot (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566) ในปี 2566 เกิด Hotspot จํานวน 11,522 จุด และพื้นที่ป่าเสียหาย จํานวน 1,729,490 ไร่ ทําให้เกิดปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศโดยเฉพาะทางอากาศทําให้เครื่องบินไม่สามารถขึ้น - ลงได้ ทําให้จํานวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโดยรวมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งในทุกๆ ปี ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนจะเกิดไฟป่าเป็นจํานวนมาก ทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น โดยไฟป่านั้นเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งของปัญหาหมอกควันที่เป็นปัญหาวิกฤตในพื้นที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ กิจกรรมในวันนี้ จึงเป็นการสรุปผลการถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน/การนําเสนอข้อมูล ภาพรวมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแม่ฮ่องสอนด้วย BCG Model/การนําเสนอ การใช้กัญชงเป็นพืชเรือธงแก้ไขปัญหาเชิงบูรณาการสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อร่วมกันวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป
20/10/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020100644434
246,840
จ.นครพนม มอบเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 1 ตัน ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ อุทกภัย อำเภอศรีสงคราม
นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปริมาณฝนตกในพื้นที่ที่ผ่านมา จังหวัดนครพนม เกิดมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกําลังอ่อนลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ําปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทําให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีฝนตกสะสม ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลาก ซึ่งจังหวัดนครพนมเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน ทําให้มีปริมาณน้ําหลากและเอ่อล้นจากแหล่งน้ําสาธารณะเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ทางการเกษตรของพี่น้องเกษตรกร โดยเริ่มเกิดอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ซึ่งต่อมาทางจังหวัดนครพนมได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และอุทกภัยในพื้นที่ทั้ง 12 อําเภอ ที่ประสบภัยทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ได้ดําเนินการตรวจสอบความเสียหายด้านพืช หลังจากการตรวจสอบพื้นที่ความเสียหายปรากฏว่ามีพื้นที่เสียหายสิ้นเชิง จํานวน 11 อําเภอ ยกเว้นอําเภอเรณูนครเพียงอําเภอเดียว ซึ่งมีเกษตรกรผู้ประสบภัย จํานวน 5,830 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย จํานวน 49,942.25 ไร่ และเร่งดําเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ข้อ 5.1 ด้านพืช พืชตายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง ไม่เกินรายละ 30 ไร่ และข้อ 5.1.1 ในอัตรา ข้าวไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผักไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท โดยมีวงเงินที่ขอรับความช่วยเหลือทั้งสิ้น จํานวน 67,183,125 บาทดังนั้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูและเยียวยาเกษตรกร สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม จึงได้ดําเนินการจัดงานรณรงค์ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ สํานักงานเกษตรอําเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อฟื้นฟูให้กับเกษตรกรที่ประสบภัยตามแนวทางมาตรการทางด้านการฟื้นฟู โดยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อให้การดํารงชีวิตกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะทางด้านการดํารงชีวิต เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร และจังหวัดนครพนมได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวชัยนาท 1 จํานวน 1,000 กิโลกรัม เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่อําเภอศรีสงครามปลูกในช่วงฤดูนาปรัง เพื่อให้เกิดรายได้ทดแทนนาข้าวที่ได้รับความเสียจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยได้สนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่อําเภอศรีสงครามในเบื้องต้นก่อน เนื่องจากอําเภอศรีสงครามมีพื้นที่ที่ประสบภัยมากที่สุดในจังหวัด ซึ่งมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จํานวน 2,663 ราย โดยปลัดอําเภอศรีสงคราม ร่วมกับเกษตรอําเภอ ประมงอําเภอ และปศุสัตว์อําเภอศรีสงคราม ดําเนินการมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อนําไปปลูกเพื่อสร้างรายได้ทดแทนในช่วงฤดูการทํานาปรังต่อไป
20/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020124046513
246,841
ก.ทรัพย์ฯ และ กทม. ร่วมกันคุมเข้มมาตรการฝุ่น PM 2.5 ใน กทม.และปริมาณ หลังคาดการณ์ฝุ่นปีนี้จะรุนแรงขึ้นผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ
กระทรวงทรัพยากรธรรชาติและสิ่งแวดล้อม และกรุงเทพมหานคร ร่วมกันคุมเข้มมาตรการฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมาณ หลังคาดการณ์ฝุ่นปีนี้จะรุนแรงขึ้นผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ร่วมกันเปิดแผนรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตเมืองปี 2567 ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีคําสั่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน ขึ้น เพื่อเตรียมรับมือปัญหาที่ประเทศไทยกําลังเผชิญกับปรากฎการณ์เอลนีโญและสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มีแนวโน้มรุนแรง จึงกําชับให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ภาคเอกชน และประชาชน ช่วยกันรับมือฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมรับมือไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ด้วยการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนถึงผลกระทบจากต้นกําเนิดที่ทําให้เกิดฝุ่น เช่น การตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ําเสมอ การผลักดันให้ใช้น้ํามันมาตรฐานยูโร 5 หันมาใช้รถสาธารณะมากขึ้น การขอความร่วมมือเกษตรกรไม่ให้เผาพื้นที่การเกษตร ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้ปล่อยมลพิษ ซึ่งปีนี้ภาครัฐพร้อมรับมือฝุ่นอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ภาคประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับภาครัฐบรรเทาผลกระทบจากฝุ่นที่คาดว่าจะรุนแรงในปี 2567 ด้าน นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ปีนี้ประเทซไทยได้ปรับค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็น 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทําให้ค่า AQI แสดงผลเข้มข้นขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดย คพ. ได้ทํางานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องรับมือกับฝุ่น ทั้งนี้ ต้องยอมรับแหล่งกําเนิดฝุ่นช่วงปลายปีที่เกิดใน กทม. และปริมณฑลกว่าร้อยละ 57 มาจาก โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ และรถบรรทุกใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป และช่วงต้นปีจะเกิดในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จากไฟป่าและหมอกควัน เพราะปีนี้และปีหน้ายังได้รับผลกระทบจากเอลนีโญต่อเนื่อง ทําให้สภาพอากาศแห้งและแล้งสถานการณ์ฝุ่นจึงจะกลับรุนแรงอีกครั้งในรอบ 4 - 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม. จะเร่งติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ตรวจฝุ่นทั้ง 50 เขต เพื่อใช้แจ้งเตือนประชาชนให้ครบ 1,000 จุด ปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 722 จุด ควบคู่กับเตรียมมาตรการรองรับในหลายระดับความเข้มข้นของฝุ่น PM 2.5 ใน กทม. เช่น หากอยู่ในระดับสีส้ม จะดําเนินการแจ้งเตือนประชาชน 3 ครั้งต่อวัน ปรับปรุงแอปพลิเคชั่น AIR BKK ให้มีความแม่นยํามากขึ้น และแสดงค่าฝุ่นรายเขตให้ละเอียดขึ้น // ประกาศห้ามจอดรถในเส้นทางสายหลักและสายรอง // ตั้งด่านตรวจจับควันดํา ณ แหล่งกําเนิด // ศาลเจ้างดจุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทอง ส่วนกรณีค่าฝุ่นสูงขึ้นระดับสีแดง จะปรับค่าโดยสานสาธารณะและรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายให้ลดลง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะมากขึ้น ควบคู่กับมาตรการ Work From Home ที่มีบริษัทเอกชนเข้าร่วมกว่า 50 แห่ง รวมพนักงานกว่า 40,000 คน พร้อมขยายขอความร่วมมือมากขึ้นในบริษัทอื่นๆและหน่วยงานภาครัฐด้วย
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021092248818
246,842
ก.ทรัพย์ฯ ขอเชิญประชาชนคนไทยทุกคนร่วมปลูกและบำรุงดูแลรักษาต้นไม้ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 66
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเชิญประชาชนคนไทยทุกคนร่วมปลูกและบํารุงดูแลรักษาต้นไม้ เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวันรักต้นไม้ประจําปีของชาติ ประจําปี 2566 พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นประธานเปิดงาน “วันรักต้นไม้ประจําปีของชาติ ประจําปี 2566” ตรงกับวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ณ กรมป่าไม้ เพื่อให้ประชาชนน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ที่ทรงมีต่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย พร้อมร่วมสืบสานพระราชปณิธานการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยการดูแลบํารุง พรวนดิน ใส่ปุ๋ยต้นไม้ ตัดแต่งกิ่งไม้ที่ปลูกบริเวณที่พักอาศัย สถานที่ทํางาน สถานศึกษา ศาสนสถาน และพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพื้นที่สีเขียวที่อยู่ใกล้ชิดกับการใช้ชีวิตประจําวัน ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วย โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปีนี้เน้นการบํารุงดูแลต้นพญาสัตบรรณ ซึ่งเป็นต้นไม้ทรงปลูกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2540 ด้วยการตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย รักษาโรคแมลงให้ต้นไม้บริเวณกรมป่าไม้ ด้าน นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ ยังได้จัดการสาธิตตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่โดยทีมรุกขกรกรมป่าไม้ , การใช้ยารักษาโรคแมลงและวิธีการรักษาไม้ที่เป็นโรคต่างๆ , การจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เรื่องพระราชดําริด้านงานพัฒนาป่าไม้ , การฟื้นฟูระบบนิเวศเพื่อแบ่งปันคาร์บอนเครดิต , การวิจัยและพัฒนาการป่าไม้เพื่อประชาชน , Kick off ป่าชุมชนสู่ตลาดคาร์บอนเครดิต , การแก้ปัญหาการอยู่อาศัยทํากินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และนิทรรศการเทคโนโลยีด้านการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า รวมทั้ง ได้แจกกล้าพันธุ์ไม้ให้กับประชาชนที่สนใจ เช่น ตะแบก ทองอุไร ฝาง มะค่าโมง สัก ประดู่ป่า ส่วนต่างจังหวัดประชาชนนําบัตรประชาชนไปติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ฟรีที่สถานีเพาะชํากล้าไม้ทั่วประเทศ
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021090008815
246,843
สคร.9 โคราช เตือนเกษตรกร ระวังโรคไข้ดิน หลัง 4 จวอีสานล่าง พบผู้เสียชีวิต แล้ว 6 ราย ป่วยอีก 582 ราย
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อํานวยการสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดินว่า เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เบอร์โคเดอเรีย สูโดมัลลิอาย พบได้ทั่วไปในดิน น้ํา นาข้าว ท้องไร่ แปลงผัก สวนยาง ทั่วทุกภาคในประเทศไทย เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ 1.การสัมผัสน้ําหรือดินที่มีเชื้อปนเปื้อน 2.ดื่มน้ําหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป 3.สูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป หลังติดเชื้อประมาณ 1-21 วันจะเริ่มมีอาการเจ็บป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่นๆ หลายโรค เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ อาจติดเชื้อเฉพาะที่ หรือติดเชื้อแล้วแพร่กระจายทั่วทุกอวัยวะและเสียชีวิตได้ทั้งนี้ สถานการณ์โรคเมลิออยด์ ในเขตสุขภาพที่ 9 พื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 7 ตุลาคม 2566 พบผู้ป่วยโรคเมลิออยด์ จํานวน 582 ราย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย แยกเป็น จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 336 ราย เสียชีวิต 4 ราย จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วย 93 ราย เสียชีวิต 2 ราย จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วย 106 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต และจังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วย 47 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต ส่วนอาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ เกษตรกร ร้อยละ 53.78 รองลงมาคือ รับจ้าง ร้อยละ 25.88 และเด็ก ร้อยละ 6.87 ตามลําดับ กลุ่มอายุที่พบสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 65 ปี ขึ้นไป อัตราป่วย 24.90 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 55 - 64 ปี อัตราป่วย 19.71 ต่อประชากรแสนคน และกลุ่มอายุ 45 - 54 ปี อัตราป่วย 13.20 ต่อประชากรแสนคน ตามลําดับนายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า ในการป้องกันโรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดิน ควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ําย่ําโคลนหรือแช่น้ําเป็นเวลานาน หากจําเป็นควรสวมรองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ําโดยตรง หากมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ํา และอาบน้ําชําระร่างกายทันทีหลังจากทํางานหรือลุยน้ํา รวมถึงดื่มน้ําสะอาดหรือน้ําต้มสุกทุกครั้ง หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ําให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยและรักษาทันทีตามอาการและความรุนแรงของโรค สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
20/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020130216530
246,844
จังหวัดกระบี่เร่งแก้ปัญหาโรคโคนลำต้นเน่าในปาล์มน้ำมัน โดยใช้สารชีวภัณฑ์ B-palm จากศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชชีวินทรีย์แห่งชาติ ภาคใต้ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลาในการควบคุมโรคโคนลำต้นเน่า
นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่มีพืชเศรษฐกิจที่สําคัญได้แก่ยางพาราและปาล์มน้ํามัน ปัจจุบันจังหวัดกระบี่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ํามัน 1,151,415 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว 1,106,941 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 3,166 กก./ไร่/ปี การส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ํามันและลดต้นทุนด้วยนวัตกรรมใหม่ เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้โครงการพัฒนาและขยายผลการพัฒนาการเกษตรฐานรากด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ตามรูปแบบกระบี่โมเดล แต่ขณะนี้ได้เกิดโรคลําต้นเน่าในปาล์มน้ํามัน จังหวัดกระบี่จึงได้ประสานงานกับสํานักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ลงพื้นที่เพื่อรับฟังสรุปผลในการการนําเทคโนโลยีการใช้สารชีวภัณฑ์ B-palm จากศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชชีวินทรีย์แห่งชาติ ภาคใต้ คณะทรัพยากรธรรมชาติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลาในการควบคุมโรคโคนลําต้นเน่าของบริษัท พนากิจเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม จํากัด อําเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และลงพื้นที่ศึกษาขั้นตอนวิธีการใช้สารชีวภัณฑ์ B-palm ในการควบคุมเชื้อเห็ดกาโนเดอร์มาไม่ให้เกิดการลุกลามในต้นที่พบการทําลายมากกว่า 50% และรักษาต้นที่ได้รับความเสียหายไม่เกิน 50% ผลจากการทดลองนําสารชีวภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ในแปลงตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 ที่ระบาดรุนแรงกว่า 247 ต้น พบว่าสามารถรักษาหายได้ร้อยละ 67 ต้น ที่ต้องรักษาต่อร้อยละ 26.5 และพบต้นใหม่ที่แสดงอาการ ร้อยละ 6.5 และผลจากการเก็บข้อมูลต้นที่ตายที่ได้ทําการควบคุมเชื้อด้วยสารชีวภัณฑ์ B-palm จํานวน 67 ต้นพบว่า ต้นที่ตายไม่พบเชื้อเห็ด ร้อยละ 67.7 ต้นที่ตายยังเกิดเชื้อเห็ด ร้อยละ 24.2นางเพ็ญประภา จันทร์คง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สํานักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัญหาที่สําคัญอย่างหนึ่งของการปลูกปาล์มน้ํามันคือศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชได้แก่โรคลําต้นเน่าของปาล์มน้ํามัน มีสาเหตุจากเชื้อเห็ด Ganoderma spp. ซึ่งเป็นเห็ดในตระกูลเดียวกับเห็ดหลินจือ มีรายงานพบโรค นี้ ตั้งแต่ปี 2458 และอีก 20 ปีต่อมา จึงพบว่าเชื้อเห็ดท้าความเสียหายในหลายประเทศที่ปลูกปาล์มน้ํามันเป็นการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านของเรา โดยทั่วไปเชื้อเห็ดจะเข้าท้าลายต้นปาล์มน ถ้ามันที่มีอายุ 25-30 ปี ได้รายงานถึงความเสียหายของโรคนี้ ทําให้ต้นปาล์มน้ํามันแถบชายฝั่งทะเลของมาเลเซียที่มีอายุ 25 ปี เป็นโรคล้าต้นเน่าตายถึง 85% และเมื่อทําการปลูกแทนในที่เดิมก็ทําให้ปาล์มน้ํามันที่ปลูกแทนนั้นเป็นโรค โดยแสดงอาการของโรคได้ตั้งแต่อายุ 4-5 ปี และความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้นถึง 40-50% เมื่อปาล์มน้ํามันอายุ 15 ปี ปัญหาดังกล่าวนับว่า เป็นปัญหาที่สําคัญอย่างยิ่งในการปลูกปาล์มน้ํามัน
20/10/2023
ภาคใต้
กระบี่
สวท.กระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020134540553
246,845
กรมชลประทาน ปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว เพื่อลดผลกระทบในลุ่มน้ำชีจากการปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์
กรมชลประทาน ปรับลดการระบายน้ําของเขื่อนลําปาว เพื่อลดผลกระทบในลุ่มน้ําชีจากการปรับเพิ่มการระบายน้ําของเขื่อนอุบลรัตน์ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ําในเขื่อนลําปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า ได้จัดจราจรน้ําท้ายเขื่อนลําปาวด้วยการปรับลดการระบายแบบขั้นบันไดวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิมระบายน้ําอยู่ที่วันละ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ํา หลังจากคณะกรรมการลุ่มน้ําชีได้มีมติให้โรงไฟฟ้าพลังน้ําภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ําเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น แบบขั้นบันไดวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร มาตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมเป็นต้นไปจนถึงเกณฑ์ระบายสูงสุดที่วันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากปริมาณน้ําในเขื่อนอุบลรัตน์เข้าสู่ภาวะวิกฤติระดับ 3 ปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ําในอ่างเก็บน้ํากว่า 2,785 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 115 ของความจุอ่างฯ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ด้านท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ในอําเภอน้ําพองและอําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สํานักงานชลประทานที่ 6 กรมชลประทาน ได้ควบคุมปริมาณน้ําในลําน้ําพองและลําน้ําชีไม่ให้ล้นตลิ่ง โดยลําน้ําชีในจังหวัดขอนแก่นยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก คาดว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020155405652
246,846
ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเย็นเริ่มปกคลุม ทำให้เกิดฝุ่น P.M2.5 เพิ่มมากขึ้น
ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยทวิทยา กล่าวว่า ประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคมนี้ ส่งผลกระทบให้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เพิ่มมากขึ้น จากลักษณะอากาศเย็นที่ปกคลุมและอยู่ในช่วงลมสงบทําให้ประเทศไทยมีฝนลดลง จึงก่อให้เกิดฝุ่นเพิ่มมากขึ้น จากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานแนวโน้มการระบายอากาศ บริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลวันที่ 21-28 ตุลาคม 2566 พบว่า การระบายอากาศไม่ดีถึงอ่อน อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสเกิดฝนตก จึงคาดว่าฝุ่นละอองยังคงปกคลุมพื้นที่แต่มีความเข้มข้นต่ํา ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบ แนวโน้มการระบายอากาศและอัตราฝุ่น P.M. 2.5 ได้ที่ เว็บไซต์ศูนย์โอโซนและรังสี กองบริการดิจิทัลอุตุนิยมวิทยาและเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020144216610
246,847
จัดที่ดินทำกินให้ชาวกระบี่ พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ สนับสนุนกิจกรรมของประชาชน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามโครงการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน เพื่อขับเคลื่อนการจัดที่ดินทํากินให้ประชาชนมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนายก่อพงศ์ เจ้ยแก้ว ผู้อํานวยการสํานักงานชลประทานที่ 15 กล่าวว่า การสนับสนุนน้ําในพื้นที่อําเภอเมืองกระบี่ โดยใช้น้ําต้นทุนจากอ่างเก็บน้ําคลองแห้งในการส่งน้ําเพื่อสนับสนุนทั้งด้านอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ ผลิตน้ําประปา การเกษตร และอุตสาหกรรม รวมถึงรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่ตําบลกระบี่น้อยและตําบลใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังได้ส่งน้ําให้กับพื้นที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ แปลง 602 อําเภอเหนือคลอง เพื่อสนับสนุนน้ําแก่พื้นที่การเกษตรหลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ไปยังแปลงตําบลเขาพนม พบปะเกษตรกรในพื้นที่และมอบอาคารอเนกประสงค์ให้แก่สหกรณ์การเกษตร เพื่อดําเนินโครงการในเขตปฏิรูปที่ดิน รวมทั้งมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้กับเกษตรกร จํานวน 100 ราย
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020143434598
246,848
จ.จันทบุรี สนธิกำลังสุ่มตรวจสอบห้องเย็นป้องกันสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย
วันนี้ ( 19 ต.ค.66 ) ที่สหกรณ์การเกษตรอําเภอเขาคิชฌกูฏ และห้องเย็นท่าจุ้ย อ.ท่าใหม่ นายธวัชชัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นําคณะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปศุสัตว์จังหวัด กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดจันทบุรี สารวัตรทหารจากมณฑลทหารบกที่ 19 ตํารวจภูธร พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี และชุดเฉพาะกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี 2 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่เลขที่ 62/6 ม.7 ต.ชากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ พบทุเรียนแช่แข็งประมาณ 40 ตัน มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ไม่พบซากสัตว์ และห้องเย็นท่าจุ๊ย หรือห้างหุ้นส่วนจํากัด ส.สุชีรา 46 ม.2 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ พบซากสุกรประมาณ 200 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 20,000 บาท ซากสัตว์ปีกประมาณ 500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 40,000 บาท สินค้าประมงประมาณ 10 ตัน มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท เป็นห้องเย็นที่รับฝากสินค้าการเกษตร ซึ่งเป็นการปฏิบัติการมาตรการป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนําเข้าเนื้อสัตว์ ตามนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สั่งการให้เอ็กซเรย์ ตรวจสอบห้องเย็นพร้อมกันทั่วประเทศโดยผลการปฏิบัติงานในจังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 12-19 ต.ค.66 เข้าตรวจห้องเย็นไปแล้ว 13 แห่ง พบซากสุกรประมาณ 31 ตัน ซากสัตว์ปีกประมาณ 15 ตัน ซากโค-กระบือ ประมาณ 3 ตัน รวม 50 ตัน มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท สินค้าประมงประมาณ 30 ตัน มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท สินค้าเกษตร (ผลไม้) ประมาณ 1,700 ตัน มูลค่าประมาณ 185 ล้านบาท ไม่พบการลักลอบเก็บสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ หากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนลักลอบเคลื่อนย้ายซากสัตว์มาเก็บไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 กําหนดโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 กําหนดโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
20/10/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020144317612
246,849
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินหน้า “ชัยนาทโมเดล” ตามนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมอาชีพเสริมแก่ชาวนา ย้ำเกษตรกรต้องหลุดพ้นความยากจน
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายในโอกาสร่วมประชุมคณะกรมการจังหวัดประจําจังหวัดชัยนาท พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้ให้เกษตรกร ด้วยหลักการ “ตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” สําหรับจังหวัดชัยนาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้เป็นจังหวัดนําร่อง โดยขับเคลื่อน “ชัยนาทโมเดล” ให้เป็นจังหวัดต้นแบบด้านการเกษตร เป็นพื้นที่ส่งเสริมให้เกษตรกรกว่า 100 ครอบครัว มีอาชีพเลี้ยงโคพื้นเมือง ให้องค์ความรู้สนับสนุนแหล่งเงินทุนใช้ ปัจจัยการผลิตท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตร และหาช่องทางการตลาด เป็นการสร้างแหล่งอาหารที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนที่ยั่งยืน เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มากกว่าการผลิตพืชเพียงอย่างเดียว ลดความเสี่ยงด้านการผลิตและการตลาด อีกทั้งยังทําการผลิตในรูปแบบ BCG Model เพื่อรักษาระบบนิเวศเกษตรรัฐมนตรีช่วยว่าการระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ําว่า การทําเกษตรกรรมอย่างเดียว อาจไม่สามารถทําให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจนได้ ดังนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องส่งเสริมและผลักดันอาชีพเสริมให้กับเกษตรกรได้ประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เชื่อว่าหากเกษตรกรมีอาชีพเสริม ก็จะสามารถหลุดพ้นจากความยากจน หมดหนี้สิน สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีฐานะที่มั่นคงอย่างเท่าเทียม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถเดินต่อได้
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020154149647
246,850
สถานีพัฒนาที่ดินมุกดาหาร จัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2566
นายอธิวัฒน์ สิทธิภิญญาพัฒน์ ผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินมุกดาหารพร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจําปีของชาติ พ.ศ. 2566 ณ แปลงอนุรักษ์พันธ์ุไม้ยืนต้นพื้นถิ่น ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดําริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของสถานีพัฒนาที่ดินมุกดาหาร เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความกตัญญูกตเวทิตาถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยกิจกรรมประกอบด้วย การกําจัดวัชพืช พรวนดิน ใส่ปุ๋ยหมัก บํารุงรักษาต้นไม้ สร้างจิตสํานึกให้เห็นความสําคัญของการบํารุงรักษาต้นไม้ อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทําให้สภาพแวดล้อมมีความร่มเย็น อากาศบริสุทธิ์อนึง วันรักต้นไม้ประจําปีของชาติ ถือกําเนิดขึ้นจาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีพระปณิธานอย่างแรงกล้าจะฟื้นฟูความสมดุลของธรรมชาติ ทรงปลูกและบํารุงรักษาต้นไม้ด้วยพระองค์มาตลอดพระชนม์ ทรงให้ความสําคัญในการบํารุงรักษามากกว่าการปลูก คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 26 มิถุนายน 2533 กําหนดให้วันคล้ายวันพระราชสมภพ 21 ตุลาคม ของทุกปีเป็น วันบํารุงรักษาต้นไม้ประจําปีของชาติ ต่อมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระดมความเห็นเพื่อกําหนดชื่อที่เหมาะสม และเปลี่ยนชื่อเป็น วันรักต้นไม้ประจําปีของชาติ ซึ่งเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบเมื่อ 15 ตุลาคม 2533 เพื่อบํารุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามโครงการและสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งการปลูกซ่อมต้นที่ตายให้สามารถเจริญเติบโตขึ้นปกคลุมพื้นที่โดยเร็ว
20/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020160131660
246,851
จังหวัดสตูล ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ครั้งที่ 3 ประจำปี 2566
วันนี้ (20 ต.ค.66) ที่ห้องประชุมสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ครั้งที่ 3/2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมสําหรับการประชุมดังกล่าวสืบเนื่องจากมติที่ประชุมคณะกรรมการ เพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ปี 2566 ครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 ณ ห้องประชุมสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสตูลนั้น ให้สมัครเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเพิ่มเติม 6 ราย จัดสรรปริมาณกุ้งรายละ 3,611 กิโลกรัม ซึ่งทางสํานักงานประมงจังหวัดสตูล ได้จัดส่งรายชื่อเพิ่มเติมเอกสารหลักฐานให้สํานักงานพาณิชย์จังหวัดสตูลเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในที่ประชุมฯ คณะกรรมการฯ ได้ร่วมพิจารณาเห็นชอบการเปิดรับสมัครเกษตรกรฯ และผู้รวบรวมรอบใหม่ เมื่อระหว่างวันที่ 5-11 ตุลาคม 2566 ซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯเรียบร้อยแล้ว คือ เกษตรกรฯ จํานวน 4 ราย และผู้รวบรวมฯ จํานวน 1 รายทั้งนี้ในส่วนการเบิกจ่ายเงิน คณะกรรมการฯ ได้ร่วมพิจารณาเห็นชอบการเบิกจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรฯ โครงการช่วยเหลือเกษตรผู้เลี้ยงกุ้งปี 2566 ที่เหลือนั้น มีจํานวน 8 ราย ปริมาณ 28,801.95 กิโลกรัม เป็นเงิน 576,039 บาท การเบิกจ่ายเงินค่าบริหารจัดการของผู้รวบรวมและกระจายกุ้ง จํานวน 1 ราย ปริมาณ 28,801.95 กิโลกรัม รวมถึงค่าบริหารจัดการ เป็นเงิน 288,019.50 และค่าใช้จ่ายในการดําเนินการของส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานดําเนินการ โครงการฯ กําหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินตามที่จ่ายจริง และไม่เกินร้อยละ 3 ของวงเงินดําเนินการโครงการ การดําเนินโครงการฯ ของจังหวัดสตูล มีค่าใช้จ่าย รวมทั้งสิ้น 3,209,188.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 3 ของวงเงินดําเนินการ เป็นเงิน 96,275.655 บาท
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020191102739
246,852
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายให้กับส่วนราชการ “ชัยนาทโมเดล” จังหวัดต้นแบบด้านการเกษตร
วันนี้ 20 ตุลาคม 2566 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สํานักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมอบนโยบายให้กับส่วนราชการ ประจําจังหวัดชัยนาท ในการประชุมกรมการจังหวัด โดยมี ศาล อัยการ ทหาร ตํารวจ ส่วนราชการ ผู้นําท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมรับฟังฯ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลด้านภาคการเกษตร รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร โดยใช้หลักการ “ตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้“ ด้วยการสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลิตภาพของภาคการเกษตรบูรณาการองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ําให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการน้ําในแต่ละพื้นที่ ใช้การบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วย นวัตกรรมเกษตรแม่นยํา การวิจัย พัฒนาพันธุ์ เพื่อเพิ่มผลผลิต และเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนต่อไร่ให้สูงขึ้น ตลอดจนการหาตลาดให้สินค้าเกษตรได้ขายในราคาที่เหมาะสม สนับสนุนให้เปลี่ยนแปลงการปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และเศรษฐกิจและการแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตรให้มมีมูลค่าสูงขึ้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทุกหน่วยงานจึงมีความสําคัญที่จะปฏิบัติภารกิจในการดูแลพี่น้องเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง สร้างอาชีพเสริม มีรายได้ที่มั่นคง เพื่อก่อให้เกิดศักยภาพในการแข่งขัน โดยทุกหน่วยงานต้องมุ่งเน้นการทํางานสู่การปฏิบัติ เกิดการผลักดันการแก้ไข ปัญหาในทุกมิติ ทุกส่วนราชการต้องทํางานด้วยรูปแบบบูรณาการ ทํางานแบบ Team work มุ่งมั่น ร่วงแรง ร่วมใจ มีเป้าหมายในการผลักดันให้งานสําเร็จบรรลุเป้าหมาย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร และส่งผลให้ทุกนโยบายเกิดผลเป็นรูปธรรม ที่สําคัญ จังหวัดชัยนาท จะต้องเป็น “ชัยนาทโมเดล” ซึ่งคือจังหวัดต้นแบบด้านการเกษตร
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020171924699
246,853
สุรินทร์เข้ม ลงพื้นที่บูรณาการตรวจห้องเย็นต่อเนื่อง
(20 ตุลาคม 2566) นายสัตวแพทย์ อภิชัย นาคีสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้ น.สพ.จรูญวิทย์ นะพรรัมย์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ เป็นประธานในการลงพื้นที่บูรณาการการตรวจห้องเย็นในจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ด่านกักกันสัตว์สุรินทร์ ด่านประมงสุรินทร์ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ ตํารวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ด่านตรวจพืชช่องจอม ตามนโยบายรัฐบาลในการ ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบสินค้าเกษตร ประมง ปศุสัตว์ โดยดําเนินการเข้าตรวจสอบห้องเย็นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และทั่วประเทศ ซึ่งในวันนี้ (20 ต.ค.2566) ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นทั้งหมด 15 แห่ง ได้แก่ บริษัทเบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด, ดังไก่สด, เจ้จิ้งหรีด, คณินทรฟู้ด, เจ้แต๋นหมูสดไก่สด, VC meat, บริษัทรีฟาร์มฟู๊ดรีเทล จํากัด, นายชัยสิทธิ์ อุทัยเภตรา, สุริยะ หมูอนามัย, ร้านซีพี พอร์ค ช็อป สาขาสุรินทร์-เทศบาล 3, พุทหมูสด(Shop), พุทหมูสด(ห้องเย็น), แรมโบ้หมูสด และทานตะวัน Frozen Food โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบเป็นอย่างดี และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
20/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020190107730
246,854
ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจห้องเย็น ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบสินค้าเกษตร ประมง ปศุสัตว์
นายสัตวแพทย์ อภิชัย นาคีสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ จังหวัดสุรินทร์ สํานักงานเกษตร สํานักงานเกษตรและสหกรณ์ ด่านกักกันสัตว์ ด่านประมง กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตํารวจภูธร สํานักงานอุตสาหกรรม เทศบาลเมือง สํานักงานพาณิชย์ และด่านตรวจพืชช่องจอม ลงพื้นที่ตรวจห้องเย็นในจังหวัดสุรินทร์ ตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบสินค้าเกษตร ประมง ปศุสัตว์ โดยดําเนินการเข้าตรวจสอบห้องเย็นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และทั่วประเทศ โดยลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นทั้งหมด 15 แห่ง ได้แก่ บริษัทเบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด ดังไก่สด เจ้จิ้งหรีด คณินทรฟู้ด เจ้แต๋นหมูสดไก่สด VC meat บริษัทรีฟาร์มฟู๊ดรีเทล จํากัด นายชัยสิทธิ์ อุทัยเภตรา สุริยะ หมูอนามัย ร้านซีพี พอร์ค ช็อป สาขาสุรินทร์-เทศบาล 3 พุทหมูสด(Shop) พุทหมูสด(ห้องเย็น) แรมโบ้หมูสด และทานตะวัน Frozen Food โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบเป็นอย่างดี และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
20/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020191019738
246,855
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมโรงเพาะฟักปูดำ ที่ มอ.ปัตตานี
ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมติดตามความคืบหน้าการเพาะพันธุ์ปูดําของ มอ.ปัตตานี ก่อนส่งให้เกษตรกรนําไปเลี้ยง วันที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 15.40 น. ที่โรงเพาะฟักสัตว์น้ํา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้(กพต.) ได้เดินทางมาเยี่ยมชมติดตามความคืบหน้าการขยายผลความสําเร็จในการเพาะพันธุ์ปูดํา หรือปูทะเล ของ มอ.ปัตตานี ก่อนส่งให้เกษตรกรนําไปเลี้ยง โดยมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยนายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอเมืองปัตตานี ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ มอ.ปัตตานี ร่วมให้การต้อนรับ รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม อาจารย์ประจําคณะวิทยศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวว่า อาคารโรงเพาะฟักนี้ สร้างขึ้นโดยเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยและคณะฯ ใช้งบประมาณไปแล้วประมาณ 7.6 ล้านบาท และได้รับงบประมาณสนับสนุนบางส่วนจาก ศอ.บต ซึ่งพันธุ์ปูทะเลแบ่งเป็น 4 ชนิด แต่ทาง มอ.ปัตตานี ได้ทําการเพาะพันธุ์อยู่ 2 ชนิดคือ ปูดํา กับปูขาวหรือปูทองหลาง ทําการวิจัยและพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ําถึงปลายน้ํา ซึ่งปูทะเล โดยเฉพาะปูดําต้องมีการผลิตแม่ปูขึ้นมา ที่ผ่านมา มอ.ปัตตานีได้มีการผลิตแม่ปู เพื่อจะได้ลูกปูส่งให้แก่เกษตรกรนําไปเลี้ยงต่อ และปีนี้ผลิตแม่ปูได้กว่า 100 ตัว ซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย แต่การดําเนินการยังขาดงบประมาณดําเนินการทําให้ไม่มีความต่อเนื่อง จึงได้ขอรับการสนับสนุนจากรองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน กพต.ในการให้การสนับสนุนการผลิตแม่ปู และพัฒนาสายพันธุ์ปู สนับสนุนการดําเนินงานของโรงเพาะฟักสัตว์น้ําให้มีความสมบูรณ์เพื่อให้สามารถผลิตแม่ปูและลูกปูได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้กรมประมงผลิตลูกปูและส่งเสริมการเลี้ยงปูแก่เกษตรกร สนับสนุนให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพิ่มการนําพื้นที่ป่าชายเลนมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังได้ขอให้สนับสนุนและต่อยอดการดําเนินงานธนาคารปูม้าชุมชน การกําหนดมาตรการช่วยเหลือด้านราคาของปลากะพงขาว และการสร้างระบบนิเวศทางเลือกอาชีพใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนชายฝั่งที่โยงกับฐานทรัพยากร เช่นการท่องเที่ยวรอบอ่าวปัตตานีด้วย ภายหลังจากรับฟังบรรยายสรุปการดําเนินงานแล้ว รองนายกรัฐมนตรี/ประธาน กพต.ได้เข้าเยี่ยมชมโรงเพาะฟักลูกปูดําและสอบถามถึงขั้นตอนต่างๆด้วยความสนใจ พร้อมทั้งได้รับที่จะสนับสนุนโครงการนี้ โดยขอให้นําเสนอแผนงานพัฒนา เข้าสู่การพิจารณาของ กพต.ในโอกาสต่อไป
20/10/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020194418757
246,856
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน แนะแนวทางลดต้นทุนอาหารสัตว์ให้เกษตรกรในพื้นที่ จ.สกลนคร
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ณ บ้านนาจาน จังหวัดสกลนคร โดยเกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่ทําการปศุสัตว์ (โคและสุกร) จําหน่ายได้ราคาไม่คุ้มทุน พร้อมทั้งได้รับผลกระทบด้านต้นทุนหัวอาหารสัตว์มีราคาสูง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร พร้อมกล่าวว่า ขอให้เกษตรกร มั่นใจว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะไม่ทอดทิ้ง และจะเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะการปราบปรามการนําเข้าสินค้าปศุสัตว์เถื่อน เพื่อให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด และช่วยให้เกษตรกรมีรายได้จากการจัดจําหน่ายสินค้าเกษตรมากขึ้นรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งได้ขานรับและเร่งดําเนินการแก้ไขปัญหาการนําเข้าสินค้าเกษตรเถื่อน, สนับสนุนให้เกษตรกรหรือสหกรณ์ในพื้นผลิตหัวอาหาร เพื่อจําหน่ายในพื้นที่ ลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ ลดการนําเข้า, และมอบหมายกรมปศุสัตว์ควบคุมการนําเข้าสินค้าปศุสัตว์รวมถึงพัฒนาโรงงานผลิตวัคซีนโรคระบาดสัตว์ให้ได้มาตรฐานสากลพร้อมส่งจําหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020195949766
246,857
เกษตรจังหวัดนนทบุรี เข้าร่วมโครงการสัมมนาการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตร ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมจัดแสดงผลงานรางวัลเลิศรัฐดีเด่น ปี 2566 ของจังหวัดนนทบุรี
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาภายใต้โครงการสัมมนาการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตร ประจําปี 2567 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตร ครบรอบ 56 ปี วันที่ 21 ตุลาคม 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น จังหวัดนนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี นายพีรพันธ์ คอทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะผู้บริหารกรมส่งเสริมการเกษตร นําโดย นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ด้านบริหาร นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ด้านส่งเสริมการผลิต นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ด้านพัฒนาเกษตรกร และนายมาโนช ระรวยรส นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดนนทบุรี พร้อมหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมการสัมมนา ฯภายในงานจัดให้มีนิทรรศการ “การขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ” มีการจัดแสดงผลสําเร็จของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับรางวัลเลิศรัฐ ปี 2566 ด้วยผลการดําเนินการเป็นเลิศ 25 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลระดับดีเด่น 9 รางวัล และรางวัลระดับดี 16 และสํานักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจําปี 2566 ระดับดีเด่น สาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประเภทร่วมใจแก้จน ผลงาน "ร่วมใจแก้จนวิสาหกิจชุมชน ผู้ปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ ตําบลบ้านใหม่" ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือร่วมใจของทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่ดําเนินการตามระบบส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ โดยบูรณาการการทํางานร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020200523768
246,858
เกษตรนาโยง เยี่ยมชมสวนมะละกอ ณ รอยยิ้ม บ้านสวน ม.5 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง
วันนี้ (20 ตุลาคม 2566)? นางสาวรัชนี นิลละออ เกษตรอําเภอนาโยง มอบหมายให้ นางสุมาลี เสมอเชื้อ นางจรัสศรี แก้วนิลประเสริฐ นางสาวนงลักษณ์ เงารัตนพันธิกุล และ นายนิติพล มากมูล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอนาโยง เยี่ยมชมรอยยิ้ม บ้านสวน ณ ม.5 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง ของนายจิระศักดิ์ คําดี และ นางสาวปารมี สุวรรณรัตน์ สามีภรรยาในวัยเกษียณจากงานประจํา ตัดสินใจล้มแปลงยางหลังบ้านกว่า 3 ไร่ จัดสรรพื้นที่หันมาปลูกมะละกอสายพันธุ์เรดเลดี้ และฮอลแลนด์ รวมกว่า 200 ต้น อายุประมาณ 6 เดือน เน้นการปลูกแบบปลอดภัย ใช้ปุ๋ยหมัก และใช้สารชีวภัณฑ์ เชื้อราไตรโคเดอร์มา ในการป้องกันรักษาโรครากเน่าโคนเน่า อย่างต่อเนื่อง สําหรับตลาดลูกค้าหลักนั้น คุณปารมี กล่าวว่า จําหน่ายให้แก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนในชุมชน ตลาดเกษตรกรอําเภอนาโยง ตลาดต้องชมตําบลกันตัง และตลาดสหกรณ์การเกษตรอําเภอเมืองตรัง ซึ่งผลผลิตกําลังทยอยเก็บเกี่ยว ขายปลีกกิโลกรัมละ 40 บาท สามารถสร้างรายได้เสริมได้อีกทาง สําหรับผู้ที่สนใจผลผลิตมะละกอ สั่งจองติดต่อได้ที่ คุณปารมี โทร. 086 9460535
20/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020220528794
246,859
“รายการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบเกษตรกรจังหวัดอำนาจเจริญ
วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 09.10-10.00 น. นายชาญวิทย์ ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ มอบหมาย นางสาวปิยะพร สุริโยตระกูล กลุ่มสารสนเทศการเกษตร ดําเนินรายการวิทยุ “รายการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบเกษตรกร” ร่วมกับ นายมนตรี วรรณทอง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศการปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดอํานาจเจริญ , นายดนุวัฒน์ งามดอน นักวิชาการสัตวบาล ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์อํานาจเจริญ ณ สวท. อํานาจเจริญ นําเสนอเรื่องราวข่าวสารโครงการ/กิจกรรม ดังนี้ 1. สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดอํานาจเจริญ (นายมนตรี วรรณทอง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศการปศุสัตว์ )1.1 การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ประจําปี 2566 ขอให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนเกษตรและ แจ้งปรับปรุงเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผน และเพื่อการขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ และการช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป1.2 การป้องกันโรคระบาดสัตว์ ขอให้เกษตรกรหมั่นตรวจสอบ การฉีดวัคซีนของสัตว์เพื่อป้องกันการระบาด เช่น โรคปากเท้าเปื่อย มีระยะเวลา 6 เดือน โรคลัมปีสกิน โรคคอบวม มีระยะเวลา 1 ปี1.3 การส่งเสริมด้านปศุสัตว์ เช่น การจัดตั้งกลุ่ม การรับรองมาตรฐาน เพื่อการสนับสนุน และเพื่อการรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร ได้มาตรฐาน และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐาน1.4 การตลาด เนื่องจากปัญหาราคาสินค้าด้านปศุสัตว์ ราคาตกต่ํา ซึ่งภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเจรจากับต่างประเทศ อาทิ ประเทศจีน เวียดนาม ลาว เพื่อการส่งออก ซึ่งต้องได้รับมาตรฐาน จึงขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสาร และรักษามาตรฐานคุณภาพเพื่อรอการส่งออก และได้ราคาที่ดีขึ้นต่อไป 1.5 การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งปัจจุบันศูนย์อํานวยการเฉพาะกิจปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย จังหวัดอํานาจเจริญ ได้ดําเนินการเข้าตรวจสอบห้องเย็นตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการขับเคลื่อนยุทธการปราบปรามการลักลอบนําเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ ทั้ง 7 อําเภอ การตรวจสอบได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการทุกแห่งด้วยดี และผลการตรวจสอบ ไม่พบการกระทําความผิด ทั้งนี้ได้ให้คําแนะนําและกําชับผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด 2. ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์อํานาจเจริญ (นายดนุวัฒน์ งามดอน นักวิชาการสัตวบาล ) 2.1 แจกพันธ์หญ้าเช่นแพงโกล่า 1 คน ต่อ 300 กก. เปิดแจกพันธุ์ช่วง เดือน พฤษภาคม - สิงหาคม ของทุกปี รวมถึงเจ้าหน้าที่จะเข้าไปแนะนําการทําแปลงหญ้า เพื่อการจําหน่ายของเกษตรกร2.2 ศูนย์บริการเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ด้านปศุสัตว์ (Motor Pool) เป็นการสนับสนุนเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่เกษตรกรโดยการให้ยืมใช้ในกิจกรรมการเกษตรเช่น2.2.1 เครื่องผสมอาหารสัตว์ TMR2.2.2 เครื่องอัดก้อนฟาง ซึ่งเกษตรกรสามารถยืมได้ทั้งแบบรายเดี่ยว หรือแบบกลุ่ม ตลอดทั้งปี3. ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ตามนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม สามารถแปลงนโยบาย สร้างวิธีทํางานสู่การปฏิบัติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสําเร็จตามเจตนารมณ์ที่กําหนดไว้ จึงได้จัดตั้งศูนย์บริการประชาชนภาคการเกษตรขึ้น เพื่อให้บริการประชาชนในการขอรับบริการ/ร้องเรียน/ร้องทุกข์ /ที่เกี่ยวข้องในด้านการเกษตร โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับอําเภอ ระดับจังหวัด และหน่วยงานกรมในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราชเป็นศูนย์บริการประชาชนภาคการเกษตร ซึ่งเกษตรกรสามารถขอรับบริการได้ทั้งข้อมูลด้านการเกษตรแจ้งเรื่องร้องเรียน ขอรับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรต่างๆ ผ่านระบบ web application เป็นการบูรณาการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อบริการประชาชนแบบ one stop service เพื่ออํานวยความสะดวกและให้เกิดความรวดยิ่งขึ้น ในเบื้องต้นจะเป็นการให้บริการ ณ สํานักงานเกษตรอําเภอ และจะขยายไปยังอาสาสมัครเกษตร คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ศูนย์เครือข่ายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รับเรื่องจากประชาชน เพื่อส่งต่อเรื่องให้ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ในระดับอําเภอ และมีสํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด เป็นผู้บริหารจัดการในระดับจังหวัด
20/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231020224627801
246,860
ลำปาง เข้มมาตรการตรวจสอบห้องเย็นเก็บเนื้อสัตว์และสินค้าเกษตร
นายสัตวแพทย์ศร ธีปฏิมากร ปศุสัตว์จังหวัดลําปาง บูรณาการร่วมกับ ด่านกักกันสัตว์ลําปาง สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลําปาง สํานักงานเกษตรจังหวัดลําปาง สํานักงานประมงจังหวัดลําปาง กอ.รมน.จังหวัดลําปาง และตํารวจภูธรจังหวัดลําปาง ดําเนินการตรวจสอบห้องเย็นตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการขับเคลื่อนยุทธการปราบปรามการลักลอบนําเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ในพื้นที่อําเภอเมืองลําปาง จํานวน 4 แห่ง ประกอบด้วย สมชายซีฟู้ด บริษัท ซีพี แอ๊กตร้า จํากัด (มหาชน) สาขาลําปาง บริษัท ซีพีเอฟ อโกลบอล ฟู๊ด โซลูซั่น จํากัด (มหาชน) สาขาลําปาง และ หจก.พิสิฎห้องเย็น ลําปาง ซึ่งผลการตรวจสอบ ไม่พบการกระทําที่ผิดกฎหมายทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้คําแนะนําและกําชับผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหากพบการกระทําผิด สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์อํานวยการเฉพาะกิจปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สายด่วน 063-225 -6888 หรือ Application DLD 4.0 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
21/10/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021072647811
246,861
เขื่อนเจ้าพระยายังคงปรับเพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่องอยู่ที่ 1,731 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ำสะสมจากตอนบนของประเทศผ่านด้านท้ายเขื่อน
เขื่อนเจ้าพระยายังคงปรับเพิ่มการระบายน้ําต่อเนื่องอยู่ที่ 1,731 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ําสะสมจากตอนบนของประเทศผ่านด้านท้ายเขื่อน เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาเพิ่มในบางพื้นที่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ขณะนี้ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกําลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ทําให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกถึงวันที่ 23 ตุลาคมนี้ ทําให้ต้องระวังน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากบริเวณ จ.ตรัง และยะลา ขณะที่วันนี้ (21 ต.ค.66) ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยายังคงปรับเพิ่มการระบายน้ําบริเวณสถานีวัดน้ํา C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อยู่ที่ 1,731 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ําตอนบนที่ไหลลงมาเพิ่มในลุ่มน้ําเจ้าพระยา แต่ภาพรวมปริมาณน้ําจากตอนบนของประเทศเริ่มลดลงต่อเนื่อง ส่วนการตัดยอดน้ําออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของลุ่มน้ําเจ้าพระยาอยู่ที่ 587 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบ่งเป็น รับน้ําฝั่งตะวันตก 395 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ําฝั่งตะวันออก 192 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สําหรับมาตรการและการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยหน่วยงานต่างๆยังคงเร่งช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างกรมชลประทานเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ ขนาด 8 นิ้ว บริเวณศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชาย บ้านมุทิตา ตําบลคลองโยง อําเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อช่วยเร่งระบายน้ําออกจากพื้นที่ และเร่งจัดเก็บวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ําเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา รักษาความสะอาด และลดปัญหาน้ําเน่าเสียบริเวณ คลองขุนศรี ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่สัญจรทางน้ําและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําดีขึ้น
21/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021092318819
246,862
รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กพต. เยี่ยมชมโรงเพาะฟักสัตว์น้ำ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวชื่นชมและพร้อมสนับสนุน ม.อ.ปัตตานี ขยายการเพาะพันธุ์ “ปูดำหรือปูทะเล” ให้ทันต่อความต้องการของเกษตรกร ยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนใต้
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เยี่ยมชมโรงเพาะฟักสัตว์น้ํา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และติดตามความคืบหน้าการขยายผลความสําเร็จในการเพาะพันธุ์ “ปูดําหรือปูทะเล” ให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการเพาะพันธุ์ในรูปแบบการเพาะฟักโดยแม่พันธ์ไข่นอกกระดอง โดยมี รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม อาจารย์ประจําคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวรายงานด้านงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปู ด้านศักยภาพของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สําหรับรองรับการเพาะเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่และการดําเนินงานในปัจจุบัน และข้อเสนอแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมในโอกาสนี้ มีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนจังหวัดปัตตานี ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นําโดย ผศ.ดร.มนทิรา ลีลาเกรียงศักดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาเขตปัตตานี ผศ.ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ วิทยาเขตปัตตานี อาจารย์วรัญญา เต็มรัตน์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ วิทยาเขตปัตตานี รศ.ดร.กรรณิการ์ สหกะโร คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยอาจารย์และนักวิจัยด้านการประมง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้การต้อนรับและนําชมโรงเพาะฟักสัตว์น้ํา รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม อาจารย์ประจําคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า ปูทะเลหรือเรียกกันว่าปูดําถือว่าเป็นสัตว์น้ําเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีความสําคัญเนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภค มีรสชาติที่ดีและราคาที่แพง การขาดแคลนแม่พันธุ์ปูที่มีไข่นอกกระดองเพื่อใช้ในการเพาะพันธุ์และอนุบาล เป็น pain point และคอขวดสําคัญที่ส่งผลให้การเพาะและขยายพันธุ์ปูทะเลในประเทศไทยยังประสบความสําเร็จไม่มากนัก ส่งผลต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปูทะเลของประเทศ โดยธรรมชาติการผสมพันธุ์ของปูเกิดขึ้นหลังจากตัวเมียลอกคราบใหม่ๆ ปูเพศผู้จะเข้าผสมพันธุ์และปล่อยถุงน้ําเชื้อเก็บไว้ในปูเพศเมีย เมื่อไข่พัฒนาเต็มที่ปูเพศเมียจะปล่อยไข่ออกมาผสมกับน้ําเชื้อแล้วนําไข่มาเก็บบริเวณจับปิ้งซึ่งจะเรียกว่าปูไข่นอกกระดอง การจัดหาแม่พันธุ์ปูไข่นอกกระดองจากธรรมชาติถือว่าเป็นเรื่องยาก เนื่องจากโดยปกติปูทะเลจะอาศัยบริเวณชายฝั่งป่าชายเลน แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปล่อยไข่ให้ออกไปอยู่นอกกระดอง ปูจะว่ายน้ําในช่วงที่ไข่ยังอยู่ในตัวเพื่อไปหาแหล่งที่เหมาะสมที่ระดับความลึกราว 30 -50 เมตร บริเวณนอกชายฝั่ง คณะนักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําชายฝั่งจังหวัดปัตตานี จึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีระบบการกระตุ้นแม่พันธุ์ปูทะเลให้ปล่อยไข่ออกนอกกระดองขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแม่พันธุ์ปูทะเลที่มีไข่นอกกระดองโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จนได้รับผลเป็นที่น่าพอใจนอกจากนี้ได้พัฒนาโรงเรือนสําหรับเลี้ยงแม่ปูโดยใช้หลักการจําลองสภาพแวดล้อมสมือนกับการที่ปูอาศัยอยู่บริเวณท้องทะเลตามธรรมชาติ โดยคํานึงถึงปัจจัยเกี่ยวกับแสง คุณภาพน้ํา การถ่ายเทและหมุนเวียนน้ํา อาหารและการให้อาหาร ทรายรองพื้นสําหรับปล่อยไข่ และหลีกเลี่ยงการรบกวนปู ระบบและวิธีนี้สามารถกระตุ้นให้แม่ปูที่มีไข่ในกระดองให้ปล่อยไข่ออกนอกกระดองมาเก็บไว้บริเวณส่วนจับปิ้งและฟักออกมาเป็นลูกปูระยะซูเอียได้ร้อยละ 75-85 จากการนําปูเข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ปัจจุบันแม่ปูทะเลที่มีไข่นอกกระดองหรือลูกปูระยะซูเอียที่ผลิตได้จากโครงการวิจัยฯ ได้ถูกส่งมอบให้แก่หน่วยงานที่สนใจเพื่อนําเอาลูกปูไปอนุบาลต่อไปเพื่อให้บริการแก่เกษตรกรและการเพิ่มปริมาณปูทะเลในแหล่งน้ําธรรมชาติรศ.ดร. ซุกรี หะยีสาแม ได้นําเสนอข้อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี ว่า อยากให้ภาครัฐมีการส่งเสริมและบูรณาการการทํางานต่อเนื่องเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการเพาะเลี้ยงปูทะเล โดยสนับสนุนการพัฒนาการผลิตแม่ปูและพัฒนาพันธุ์ปูของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีการสนับสนุนการดําเนินงานของโรงเพาะฟักสัตว์น้ําให้สมบูรณ์เพื่อให้สามารถพัฒนาเทคนิคและผลิตลูกปูได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้กรมประมง ผลิตลูกปูร่วมและส่งเสริมการเลี้ยงปูให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งสนับสนุนให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพิ่มการนําพื้นที่ป่าชายเลนมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ภาครัฐควรสนับสนุนและต่อยอดการดําเนินงานธนาคารปูม้าชุมชนที่ดําเนินการอย่างต่อเนื่อง (500,000 บาท/ปี) กําหนดมาตรการช่วยเหลือด้านราคาปลากะพงขาว สร้างระบบนิเวศทางเลือกอาชีพใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนชายฝั่งที่โยงกับฐานทรัพยากร เช่น การท่องเที่ยวรอบอ่าวปัตตานี ทั้งนี้เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาชุมชนชายฝั่งต่อไป
21/10/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สวท.ปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021114551857
246,863
เกษตรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมการสัมมนาขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตร ครบรอบ 56 ปี
วานนี้ (20 ต.ค. 66) ที่ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น จังหวัดนนทบุรี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานเปิด “การสัมมนาการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตร ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตร” ครบรอบ 56 ปี วันที่ 21 ตุลาคม 2566 โดยมี นายพีรพันธ์ คอทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะผู้บริหารและข้าราชการกรมส่งเสริมการเกษตร มี นายวันชัย? ประยงค์หอม? เกษตรจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนางสาวสร้อยเพชร ตันติรัตนานนท์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ “ร่วมการสัมมนาฯนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวแสดงความยินดีต่อการครบรอบ 56 ปี วันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตร และกล่าวชื่นชมถึงความทุ่มเท เสียสละของเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรในการปฏิบัติงาน เพื่อส่งเสริม พัฒนาอาชีพ ช่วยเหลือ ดูแล และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน ถึง 56 ปี สําหรับการสัมมนาในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ “การขับเคลื่อนงานภารกิจกรมส่งเสริมการเกษตร ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์”นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลสําเร็จของกรมส่งเสริมการเกษตรในปีที่ผ่านมา ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับรางวัลเลิศรัฐ ปี 2566 ด้วยผลการดําเนินการเป็นเลิศ 25 รางวัล ประกอบด้วยรางวัลระดับดีเด่น 9 รางวัล และรางวัลระดับดี 16 รางวัล ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือร่วมใจ ของทุกหน่วยงานในสังกัดของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานในพื้นที่ ที่ดําเนินการตามระบบส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ โดยบูรณาการการทํางานร่วมกับหน่วยงาน ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ
21/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021121035859
246,864
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจติดตามงานและพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดพังงา
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อติดตามงานและพบปะประชาชน ที่องค์การบริหารส่วนตําบลบางวัน หมู่ที่ 5 ตําบลบางวัน อําเภอคุระบุรี โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องประชาชน และเกษตรกรชาวจังหวัดพังงา ร่วมต้อนรับ โดยผู้แทนสํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรสหกรณ์ รายงานความสําเร็จในการขับเคลื่อนมังคุดทิพย์พังงา สู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูงภายใต้ BCG Model ฤดูกาลผลิตปี 2566 ผู้แทนกรมปศุสัตว์ รายงานผลการเข้าตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดพังงา ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานเป้าหมายการยกระดับสินค้าเกษตรและเสริมสร้างเกษตรกรแปลงใหญ่ ปาล์มน้ํามันสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูงภายใต้ BCG Model จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะเกษตรกรในพื้นที่ และได้มอบอุปกรณ์การรวบรวม/ กระจายผลผลิตมังคุด จํานวน 2,450 ใบ ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในพื้นที่จังหวัดพังงา จํานวน 7 อําเภอ ได้แก่ ตะกร้าหูเหล็ก ตะกร้า Keyway เข่งรวบรวมผลผลิต มอบเวชภัณฑ์สําหรับดูแลสุขภาพสัตว์และแร่ธาตุอาหารสัตว์ จํานวน 50 ชุด ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ มอบพันธุ์ปลาน้ําจืด ได้แก่ ปลาตะเพียนและปลาสุลต่าน ให้กับเกษตรกร จํานวน 10 ราย มอบเงินอุดหนุนสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงพื้นบ้าน ชุมชนละ 100,000 บาท จํานวน 4 ชุมชน และได้ร่วมถ่ายภาพกับพี่น้องเกษตรกร และประชาชนชาวจังหวัดพังงา อย่างอบอุ่น ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังเทศบาลตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เพื่อพบปะพี่น้องเกษตรกร และรับฟังปัญหา เป็นจุดที่ 2 ต่อไป
21/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ตะกั่วป่า จ.พังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021124008861
246,865
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจติดตามงานและพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดพังงา
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อติดตามงานและพบปะประชาชน ที่องค์การบริหารส่วนตําบลบางวัน หมู่ที่ 5 ตําบลบางวัน อําเภอคุระบุรี โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องประชาชน และเกษตรกรชาวจังหวัดพังงา ร่วมต้อนรับ โดยผู้แทนสํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานความสําเร็จในการขับเคลื่อนมังคุดทิพย์พังงา สู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูงภายใต้ BCG Model ฤดูกาลผลิตปี 2566 ผู้แทนกรมปศุสัตว์ รายงานผลการเข้าตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดพังงา ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานเป้าหมายการยกระดับสินค้าเกษตรและเสริมสร้างเกษตรกรแปลงใหญ่ ปาล์มน้ํามันสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูงภายใต้ BCG Modelจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะเกษตรกรในพื้นที่ และได้มอบอุปกรณ์การรวบรวม/ กระจายผลผลิตมังคุด จํานวน 2,450 ใบให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในพื้นที่จังหวัดพังงา จํานวน 7 อําเภอ ได้แก่ตะกร้าหูเหล็ก ตะกร้า Keyway เข่งรวบรวมผลผลิต มอบเวชภัณฑ์สําหรับดูแลสุขภาพสัตว์และแร่ธาตุอาหารสัตว์ จํานวน 50 ชุด ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อมอบพันธุ์ปลาน้ําจืด ได้แก่ ปลาตะเพียนและปลาสุลต่าน ให้กับเกษตรกรจํานวน 10 ราย มอบเงินอุดหนุนสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงพื้นบ้าน ชุมชนละ 100,000 บาท จํานวน 4 ชุมชน และได้ร่วมถ่ายภาพกับพี่น้องเกษตรกร และประชาชนชาวจังหวัดพังงา อย่างอบอุ่น ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังเทศบาลตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เพื่อพบปะพี่น้องเกษตรกร และรับฟังปัญหา เป็นจุดที่ 2 ต่อไป
21/10/2023
ภาคใต้
พังงา
สวท.ตะกั่วป่า จ.พังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021133144869
246,866
ก.ทรัพย์ฯ เพิ่มความเข้มงวดมาตรการรับมือฝุ่น PM 2.5 ช่วงปลายปีนี้ใน กทม.และปริมณฑล พร้อมคุมเข้มแหล่งกำเนิดของฝุ่นที่มาจากยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรมในเขตเมือง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มความเข้มงวดมาตรการรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ช่วงปลายปีนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมคุมเข้มแหล่งกําเนิดของฝุ่นที่มาจากยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรมในเขตเมือง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมพร้อมมาตรการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงต้นปีหน้าอย่างเข้มข้น ทั้งการควบคุมไฟในป่า การเผาในพื้นที่เกษตร และควบคุมการเกิดฝุ่นในพื้นที่เมือง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑลใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วและยังได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญต่อเนื่องถึงปีหน้า ส่งผลให้สภาพอากาศจะแล้งมากขึ้นมีผลให้เกิดฝุ่นละอองได้ง่ายขึ้น จึงจําเป็นต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมแหล่งกําเนิดของฝุ่นที่มาจากยานพาหนะ ด้วยการเข้มงวดการตรวจสอบและตรวจจับรถควันดํา ซึ่งเน้นรถยนต์ที่เข้ามาในเขตเมืองชั้นใน ควบคู่กับการตรวจสภาพรถยนต์ กวดขันวินัยจราจร ควบคุมพื้นที่ก่อสร้าง สนับสนุนให้ประชาชนเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมขอความร่วมมือให้ควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งที่มีความเสี่ยงสูงปล่อยมลพิษหรือก่อฝุ่นละออง สําหรับพื้นที่รอบนอก ขอให้กรุงเทพมหานครสนับสนุนเกษตรกรช่วยกันไม่เผาตอซังฟางข้าว ทั้งนี้ ปีนี้ยังได้ปรับปรุงค่ามาตรฐานฝุ่นละออง PM 2.5 และดัชนีคุณภาพอากาศที่มีความเข้มขึ้น เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ทําให้สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้รวดเร็ว พร้อมยกระดับมาตรการขึ้นให้มีความเข้มข้นมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยจัดทําเป็นมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปี 2567 ที่พร้อมรับมือฝุ่นละออง ทั้งการส่งเสริมน้ํามันกํามะถันต่ําช่วยให้ฝุ่นลดลง // การพัฒนาระบบตรวจสอบย้อยกลับการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่ป่า // เร่งนําระบบ GAP PM 2.5 Free มาใช้ และส่งเสริมสินค้าเกษตรปลอดการเผา ขณะที่ กรุงเทพมหานคร ได้จัดทําแผนลดฝุ่น 365 วัน ตั้งแต่การติดตามเฝ้าระวัง ทํา Riskmap เพื่อลงในแผนที่ที่จะเข้าถึงพื้นที่ได้ทันที ปรับปรุง AirBKK เพื่อให้ประชาชนวางแผนการเดินทางและการป้องกันตนเอง ลดการเผาในที่โล่ง และใช้ประชาชนเป็นแนวร่วม โดยแบ่งเงินรางวัลนําจับให้กับผู้แจ้งเหตุ กําจัดต้นตอ พร้อมตรวจควันดํา ณ แหล่งกําเนิด อู่รถเมล์ พื้นที่ก่อสร้าง ป้องกันประชาชน ด้วยการทําห้องปลอดฝุ่น ติดตั้งเครื่องฟอก และการออกมาตรการ WFH ที่ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในการพยากรณ์
21/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021143905880
246,867
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร 50 ราย ในโอกาสตรวจติดตามงานและพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดพังงา
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ตรวจติดตามงานและพบปะประชาชน ที่เทศบาลตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยมีนางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน และเกษตรกร ร่วมต้อนรับโดยมีผู้แทนกรมชลประทาน รายงานความก้าวหน้าการก่อสร้างอ่างเก็บน้ําคลองลํารูใหญ่ รองเลขาธิการ ส.ป.ก.รายงานประเด็นปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่ดินทํากินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดพังงา ผู้แทนกรมประมง รายงานประเด็นปัญหาและการแก้ไขปัญหาการทําประมงในพื้นที่จังหวัดพังงาจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ให้กับเกษตรกร จํานวน 50 ราย มอบพันธุ์ปลากะพงแดง ให้กับเกษตรกร จํานวน 10 ราย มอบพันธุ์กุ้งแชบ๊วยสําหรับปล่อยลงแหล่งน้ําชุมชน จํานวน 100,000 ตัว มอบอุปกรณ์ในการบ่มน้ําผึ้งเพื่อการผลิตน้ําผึ้งคุณภาพสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ให้กับกลุ่มแปลงใหญ่ผึ้งโพรง ตําบลลําแก่น จํานวน 3 ชุด และเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าเกษตรมูลค่าสูงอําเภอท้ายเหมือง พร้อมกับร่วมถ่ายภาพกับเกษตรกรและประชาชนร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มาวันนี้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร และพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้ มีอาชีพที่มั่นคงตลอดไป และขอบคุณทุกท่านที่ร่วมต้อนรับในครั้งนี้
21/10/2023
ภาคใต้
พังงา
สวท.ตะกั่วป่า จ.พังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021160657909
246,868
“รัฐมนตรีธรรมนัส” ลงพื้นที่จังหวัดพังงา ยกระดับสินค้าเกษตร สร้างศักยภาพเกษตรแปลงใหญ่ให้มีมูลค่าสูงภายใต้ BCG Model พร้อมรับฟังปัญหาด้านการเกษตรและที่ทำกินของเกษตรกร
วันที่ 21 ต.ค.66 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดพังงา เพื่อติดตามงานและพบปะพี่น้องเกษตรกร ณ ที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบลบางวัน อําเภอคุระบุรี โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นําชุมชน ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ร่วมต้อนรับจังหวัดพังงามีครัวเรือนที่เป็นเกษตรกร คิดเป็นร้อยละ 32.18 ของครัวเรือนทั้งหมด มีพื้นที่เกษตรกรรม 1.008 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 38.66 ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.80 ปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล มีพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ํามัน มังคุดทิพย์พังงาและทุเรียน นับเป็นรายได้หลักของเกษตรกรส่วนใหญ่จังหวัดพังงาได้ให้ความสําคัญในการส่งเสริมและพัฒนาภาคการเกษตร เช่น การขับเคลื่อนมังคุดทิพย์พังงาสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ภายใต้ BCG Model เป้าหมายการยกระดับสินค้าเกษตรและเสริมสร้างเกษตรแปลงใหญ่ปาล์มน้ํามัน สู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง รวมทั้งความก้าวหน้าการก่อสร้างอ่างเก็บน้ําคลองลํารูใหญ่ ที่ตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง ให้มีแหล่งน้ําที่เพียงพอต่อภาคการเกษตรและการอุปโภค บริโภค อีกทั้งการแก้ไขปัญหาที่ดินทํากินในเขตปฏิรูปที่ดินร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการแก้ไขปัญหาการทําประมงในพื้นที่จังหวัดพังงานอกจากนี้ ได้มอบอุปกรณ์การรวบรวมกระจายผลผลิตมังคุด จํานวน 2,450 ใบ ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในพื้นที่จังหวัดพังงา ใน 7 อําเภอ มอบเวชภัณฑ์สําหรับดูแลสุขภาพสัตว์และแร่ธาตุอาหารสัตว์ จํานวน 50 ชุด ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ มอบพันธุ์ปลาน้ําจืดให้กับเกษตรกร จํานวน 10 ราย มอบเงินอุดหนุนเสริมสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงพื้นบ้าน ชุมชนละ 100,000 บาท จํานวน 4 ชุมชนจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังเทศบาลตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง เพื่อพบปะกับพี่น้องเกษตรกรพร้อมรับฟังปัญหาและความต้องการ ก่อนที่จะมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้กับเกษตรกร จํานวน 50 ราย มอบพันธุ์ปลากะพงแดงให้กับเกษตรกร จํานวน 10 ราย มอบพันธุ์กุ้งแชบ๊วย สําหรับปล่อยลงแหล่งน้ําในชุมชน จํานวน 100,000 ตัว มอบอุปกรณ์ในการบ่มน้ําผึ้งเพื่อการผลิตน้ําผึ้งคุณภาพสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ให้กับกลุ่มแปลงใหญ่ผึ้งโพรง ตําบลลําแก่น จํานวน 3 ชุด พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าเกษตรมูลค่าสูง อําเภอท้ายเหมือง
21/10/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231021181228928
246,869
รมช.คลัง ลงพื้นที่ขับเคลื่อนมาตรการ พักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อย ในจังหวัดอุดรธานี
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ขับเคลื่อนมาตรการ พักชําระหนี้ลูกค้ารายย่อย ในจังหวัดอุดรธานี วันที่ 21 ตุลาคม 2566 เวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยการกีฬา วิทยาเขตอุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้ นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้การต้อนรับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วย นายยุวพล วัตถุ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ในโอกาสลงพื้นที่ติดตามการดําเนินงาน การรับเกษตรกร เข้าสู่มาตรการพักชําระหนี้ สําหรับลูกค้ารายย่อย ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ณ 30 กันยายน 2566 โดยมีลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการกว่า 2 ล้านราย ยอดหนี้ทั้งหมดจํานวน 283,000 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส. เปิดให้บริการตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่านแอปพลิเคชัน "BAAC Mobile" ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 - 31 มกราคม 2567 โดยติดตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ทั้งการตรวจสอบสิทธิ์ การตรวจสุขภาพหนี้ การทําเอกสารข้อตกลงต่อท้ายสัญญา และการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ ภายใต้หลักการ "ตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้"พร้อมเติมสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง ในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักชําระหนี้และป้องกันการก่อหนี้นอกระบบ โดยมีลูกค้า ธ.ก.ส. เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
21/10/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231022001220961
246,870
รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่อำเภอท้ายเหมือง มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้เกษตรกร
วันที่ 21 ตุลาคม 2566 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดพังงา เพื่อติดตามงานและพบปะเกษตรกร ณ อาคารอเนกประสงค์เทศบาลตําบลลําแก่น ตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยมี นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นําชุมชน ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ร่วมต้อนรับหลังจากพบปะประชาชน และรับฟังประเด็นปัญหา จากเกษตรกรในพื้นที่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-0-1) ให้กับเกษตรกร จํานวน 50 ราย มอบพันธุ์ปลากะพงแดงให้กับเกษตรกร จํานวน 10 ราย มอบพันธุ์กุ้งแชบ๊วยสําหรับปล่อยลงแหล่งน้ําในชุมชน จํานวน 100,000 ตัว มอบอุปกรณ์ในการบ่มน้ําผึ้งเพื่อการผลิตน้ําผึ้งคุณภาพสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ให้กับกลุ่มแปลงใหญ่ผึ้งโพรง ตําบลลําแก่น จํานวน 3 ชุดสําหรับอําเภอท้ายเหมือง แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 6 ตําบล 49 หมู่บ้าน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอย่างหาดเขาหลัก และประชากรส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรม ผลผลิตทางการเกษตรที่สําคัญ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ํามัน และยังเป็นพื้นที่ประกอบอาชีพประมงพาณิชย์ที่สําคัญของจังหวัดพังงาด้วย
22/10/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231022073256963
246,871
เขื่อนเจ้าพระยาปรับลดการระบายน้ำลงมาอยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ยังคงคุมเข้มรอรับปริมาณน้ำฝนใหม่ที่จะตกมาเพิ่มช่วงปลายฤดูฝน
เขื่อนเจ้าพระยาปรับลดการระบายน้ําลงมาอยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ยังคงคุมเข้มรอรับปริมาณน้ําฝนใหม่ที่จะตกมาเพิ่มช่วงปลายฤดูฝน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ขณะนี้ความกดอากาศสูงกําลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทําให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ด้านร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทําให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยช่วงวันที่ 24 - 27 ตุลาคมประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น ทําให้ต้องระวังน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากช่วง 1 - 3 วันนี้ บริเวณ จ.เชียงราย อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา และนราธิวาส ขณะที่วันนี้ (22 ต.ค.66) ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาปรับลดการระบายน้ําบริเวณสถานีวัดน้ํา C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มาอยู่ที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.66) อยู่ที่ 1,731 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ยังคงเร่งระบายน้ําตอนบนที่ไหลลงมาเพิ่มในลุ่มน้ําเจ้าพระยาต่อเนื่อง เพื่อพร้อมรอรับปริมาณน้ําฝนใหม่ที่จะตกมาเพิ่มช่วงปลายฤดูฝน ส่วนการตัดยอดน้ําออกทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ําเจ้าพระยาอยู่ที่ 587 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบ่งเป็น รับน้ําฝั่งตะวันตก 396 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ําฝั่งตะวันออก 191 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สําหรับมาตรการและการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยหน่วยงานต่างๆยังคงเร่งช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างโครงการซลประทานอุตรดิตถ์ สํานักงานชลประทานที่ 3 กรมชลประทาน เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ําขนาด 12 นิ้ว 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่เทศบาลตําบลน้ําปาด อําเภอน้ําปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อแก้ปัญหาน้ําท่วมขัง เร่งระบายน้ําออกจากพื้นที่การเกษตร และแหล่งน้ําเพื่อการอุปโภค - บริโภค ส่วนโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาพระยาบรรลือ สํานักงานชลประทานที่ 11 เร่งจํากัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ํา บริเวณคลองพระยาบันลือ ตําบลลาดบัวหลวง อําเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํามากขึ้น
22/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231022102546985
246,872
กรมชลประทาน พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในภาคใต้ พร้อมสร้างความรับรู้และรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ําท่วมในหลายพื้นเริ่มคลี่คลาย ซึ่งจากนี้จะเป็นการฟื้นฟูพื้นที่และเร่งเก็บกักน้ํา ไว้สํารองในช่วงฤดูแล้งที่ใกล้จะถึงนี้ สําหรับในพื้นที่ภาคใต้ ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ําอย่างใกล้ชิดและวางแผนบริหารจัดการน้ําให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตามมาตรการรับมือ ฤดูฝนปี 2566 พร้อมให้ทางกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชน เพื่อรับมือสถานการณ์และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
22/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231022152804016
246,873
กรมอุทยานฯ เปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามันและกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามันและกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ พลตํารวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน "เปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน" บริเวณอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน ถือเป็นการผลักดันสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และสร้างงานให้กับประชาชนจํานวนมากในพื้นที่ เนื่องจากอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามันของประเทศไทยหลายแห่งมีความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล จนกลายเป็นแหล่งดําน้ําลึกและแหล่งดําน้ําตื้นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้ปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามันเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึงร้อยละ 76.8 หรือเพิ่มขึ้นถึง 1,251,662 คน สําหรับอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 6 แห่ง ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง // อุทยานแห่งชาติแหลมสน // อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ // อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน // อุทยานแห่งชาติเขาลําปี - ท้ายเหมือง และอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ที่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันและอยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น ของศูนย์มรดกโลก โดยจะถูกเสนอชื่อเพื่อเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติอีกหนึ่งแหล่งของประเทศไทย ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ได้ออกมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้ทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเลได้รับความเสียหายจากการท่องเที่ยว เช่น การปิดการท่องเที่ยวเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว // การควบคุมและจํากัดจํานวนนักท่องเที่ยวตามขีดความสามารถในการรองรับได้ของแหล่งท่องเที่ยว // ควบคุมความเร็วและการใช้เสียงของยานพาหนะ // กําชับนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติในอุทยานแห่งชาติ // ตรวจสอบจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุ เฝ้าระวัง ซักซ้อมมาตรการรักษาความปลอดภัย และเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
22/10/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231022160919028
246,874