NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
ตลาดน้ำกลางป่า น้ำตกกวางโจว เพชรบุรี ของกินอร่อย ท่ามกลางอรรถรสในดงไผ่ หนึ่งใน 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ
นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับนางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและคณะ พร้อมด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมพิธีเปิดตัว 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย ณ ตลาดน้ํากลางป่า น้ําตกกวางโจว อําเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวขอบคุณในนามประชาชนชาวจังหวัดเพชรบุรี ที่ตลาดน้ํากลางป่า น้ําตกกวางโจว เพชรบุรี ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย ของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่ตลาดน้ํา สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน สร้างความมั่งคั่งยั่งยืนให้กับชุมชน รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม มุ่งมั่นขับเคลื่อนงาน เพื่อปรับบทบาทสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ ที่จะเร่งสร้างเสริมความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน จึงได้ดําเนินโครงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้วยทุนทางวัฒนธรรม ส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน สู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ด้วยการดําเนินการพัฒนาตลาดน้ําสืบสานวัฒนธรรมไทย พร้อมเปิดตัวตลาดน้ํากลางป่า น้ําตกกวางโจว ที่เป็นหนึ่งใน 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา ที่มีอาหาร คาวหวาน พื้นบ้าน รสชาติพื้นถิ่น สินค้าพื้นเมือง เช่น แกงหัวตาล ขนมจีนทอดมัน เห็ดฟางสดทอด และข้าวห่อกะเหรี่ยงแบบดั้งเดิม สําหรับตลาดน้ํากลางป่า น้ําตกกวางโจว เดิมเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ไร้น้ําแม้สักหยดเดียว ด้วยความร่วมมือของคนในชุมชน ร่วมน้อมนําโครงการตามแนวพระราชดําริในการบริหารจัดการน้ํา มาพลิกฟื้นพื้นที่ป่าที่เสื่อมโทรม จากการบุกรุกทําลายป่า การเผาไร่เลื่อนลอย จนสามารถปรับเป็นพื้นที่ป่าไผ่ที่ร่มเย็นท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น จามรี อนุรัตน์/ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรีรายงาน
10/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230910180653300
247,175
ทบทวนมาตรการ เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จชต. หนุนธุรกิจให้เติบโต สร้างอาชีพ แก่คนในพื้นที่
ผู้แทนหน่วยงานรัฐ-เอกชน-ผู้ประกอบการ ถก มาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จชต. หนุนธุรกิจให้เติบโต สร้างงาน สร้างอาชีพ แก่คนในพื้นที่ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเวที ให้ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่มีความเกี่ยวข้องกับมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ แสดงความคิดเห็น เสนอ และทบทวนมาตรการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่เศรษฐกิจ จชต.การจัดการประชุมในครั้งนี้ ศอ.บต. เล็งเห็นถึงความจําเป็นในการรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในการทบทวนมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จชต. เพื่อจัดทําข้อมูลการขยายระยะเวลามาตรการภาษีและค่าธรรมเนียม มาตรการด้านการเงิน การประกันภัย และการสํารวจ รวบรวมข้อมูลความต้องการเกี่ยวกับมาตรการ สนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จชต. เพื่อรับข้อเสนอและข้อปรับปรุงมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ส่งไปยังสํานักเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เพื่อปรับปรุงมาตรการให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่รองรับกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวทางโครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ในพื้นที่ จชต.นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต กล่าวว่า 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่พิเศษที่ได้รับสิทธิพิเศษในการลงทุน เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดเหตุความรุนแรงด้วยเศรษฐกิจปากท้อง ตั้งแต่ปี 2557 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ทั้งนี้สถานการณ์ความไม่สงบ จชต. ในวันนี้ กับ 20 ปีที่แล้ว มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงจัดการประชุมทบทวนมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จชต. โดยสมัยก่อนมาตรการพิเศษสําหรับผู้ลงทุนในพื้นที่ รัฐช่วยเหลือป้องกันไม่ให้ประชาชนและผู้ประกอบการย้ายถิ่นฐาน มาตรการจึงจัดทําเพื่อให้ผู้ประกอบการยังคงอยู่ในพื้นที่ได้ เพื่อพัฒนาและเติบโตของธุรกิจในพื้นที่ ในเมื่อวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป สํานักเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง จึงหารือ ศอ.บต. ในการวางแนวทางส่งเสริมให้ธุรกิจที่ดําเนินการอยู่เติบโตขึ้น เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่คนในพื้นที่
11/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911095655357
247,176
ททท.สำนักงานลำปาง เยี่ยมชมร้านกาแฟบรูโน หลังคว้ารางวัลเหรียญทองระดับโลก "International Coffee tasting" ปี 2023 ณ ประเทศอิตาลี
นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผอ.ททท.สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า ได้นําทีมลงพื้นที่เยี่ยมชมและร่วมชิมกาแฟ ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองระดับโลก ณ ร้านกาแฟบรูโน อ.แจ้ห่ม จ.ลําปาง เมื่อที่ 9 กันยายน 2566 โดยมีนายบรูโน่ เจ้าของแบรนด์ “กาแฟบรูโน” ร่วมบรรยายเกี่ยวกับเรื่องกาแฟ พร้อมพาชมโรงคั่วกาแฟ วิธีการคั่วกาแฟสําหรับกาแฟบรูโนเริ่มต้นเล็กๆ แนวคิดของนายบรูโน รอสซี่ บาทหลวงชาวอิตาเลี่ยนที่มาทํางานในประเทศไทยที่อยากจะช่วยเหลือเด็กๆ ที่ยากจนและด้อยโอกาสในเขตวัดแม่พระราชินีแห่งสันติภาพ อ.แจ้ห่ม จ. ลําปาง ให้ได้รับการศึกษาที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการรับซื้อเมล็ดกาแฟจากชาวบ้านมาผลิตขายสร้างรายได้ด้วยตนเองเพื่อนํามาดูแลเด็กๆ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คุณพ่อทํากาแฟที่มีคุณภาพระดับโลกออกมาให้คอกาแฟได้ลิ้มรส จึงได้นํากาแฟเข้าร่วมแข่งขัน "International Coffee tasting" ณ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพของการคั่วกาแฟ และในปี 2014 ได้ส่งกาแฟชนิด Espresso (คั่วกลาง) เข้าประกวดจากกว่า 149 ประเทศทั่วโลก และกาแฟ Espresso ภายใต้แบรนด์กาแฟบรูโนสามารถคว้าเหรียญทองระดับโลกมาได้สําเร็จ และในปี 2023 ได้นํากาแฟบรูโนชนิด Eccellente (คั่วกลางพรีเมี่ยม) ภายใต้แบรนด์กาแฟบรูโน ในเลาดาโตซี วิสาหกิจเพื่อสังคมเข้าประกวด ณ ประเทศอิตาลีอีกครั้งหนึ่งและได้รับรางวัลเหรียญทองระดับโลกเช่นกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากาแฟบรูโนได้พัฒนาและรักษาคุณภาพของกาแฟมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าคอกาแฟทุกท่านได้ลิ้มรสกาแฟที่ดีและมีคุณภาพระดับโลกได้ในประเทศไทยทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อถามเพิ่มเติมทางหมายเลขโทรศัพท์ 081-993-7022 และ https://shop.bruno.coffee/
11/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911090802344
247,177
นายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ขับเคลื่อนโครงการพักหนี้เกษตรกร
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า จะเร่งดําเนินการตามนโยบาย แก้ปัญหาหนี้สินในภาคครัวเรือนทั้งในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน รัฐบาลจะลดภาระเกษตรกรด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการช่วยประคองภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินสําหรับภาคประชาชนที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ได้มีโอกาสในการฟื้นตัวและกลับมาดําเนินธุรกิจได้อีกครั้งนอกจากนี้รัฐบาลจะมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของกลุ่มอื่น ๆ ภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยทางการเงินและไม่ทําให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรมของผู้มีภาระหนี้สินอีกด้วย
11/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911135227434
247,178
นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยต่อการประชุมรัฐสภา ว่า การท่องเที่ยวถือเป็นการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจํานวนมาก โดยตั้งเป้าว่าจะเปิดประตูรับนักท่องเที่ยว ด้วยการอํานวยความสะดวก ปรับปรุงขั้นตอนการขอวีซ่า และการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า สําหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศเป้าหมาย รวมถึงจัดทํา Fast Track VISA สําหรับผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (MICE) และเพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปี รัฐบาลจะร่วมกับภาคธุรกิจในทุกภาคส่วนเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้า งานเทศกาลระดับโลก เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นสถานที่สําหรับการจัดงานแสดงต่างๆ ที่สําคัญอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะผลักดันการพัฒนาการบริหารจัดการทุกขั้นตอน การบริการที่เป็นประตูสู่ประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงระบบคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ํา และทางอากาศ โดยจะปรับปรุงสนามบินและจัดการเที่ยวบินของสนามบินทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มปริมาณเที่ยวบินให้สามารถนํานักท่องเที่ยวมาสู่ประเทศไทยได้มากขึ้น แก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และปราบปรามการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งการรักษาความปลอดภัยจะสร้างความมั่นใจและความประทับใจกับประเทศไทยในระยะยาว
11/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911125041404
247,179
พาณิชย์ตรัง ช่วยเกษตรกร ชวนอุดหนุน "ลางสาด" ของดีคลองนางน้อย จากกลุ่มเกษตรกร ลางสาดร้อยปี อำเภอนาโยง
วันนี้ (11 ก.ย.66) นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดพื้นที่ให้กับกลุ่มเกษตรกรจากอําเภอนาโยง จังหวัดตรัง เพื่อจําหน่ายลางสาด ของดีคลองนางน้อย อําเภอนาโยง ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งผลิตลางสาดและลองกองที่มีรสชาติหวาน หอม อร่อย ณ บริเวณหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จําหน่ายในราคากิโลกรัมละ 35 บาท 3 กิโลกรัม 100 บาทโดยจากการลงพื้นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การผลิตลางสาด และลองกอง พบว่าปีนี้มีปริมาณผลลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากสภาพอากาศเหมาะสม โดยเกษตรกรได้จําหน่ายผลผลิตหน้าสวนและตลาดภายในชุมชน ทั้งนี้ สํานักงานฯ ได้ประสานเครือข่าย จัดหาช่องทางและพื้นที่จําหน่าย เพื่อนําผลผลิตมาจําหน่ายนอกพื้นที่สร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรนอกจากนี้ ยังได้มีการนําผลผลิตมาจําหน่ายในงาน "ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย 2023 " ณ ห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ตรัง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 9 - 10 กันยายน 2566 ที่ผ่านมาอีกด้วย
11/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911132437424
247,180
ชวนชิมสุดยอดกาแฟ โกโก้แม่ฮ่องสอน (Local Coffee & Cocoa Maehongson)
วันนี้ (11 ก.ย.66) เวลา 10.30 น. ที่สวนหมอกคํารีสอร์ท อําเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดโครงการชวนชิมสุดยอดกาแฟ โกโก้แม่ฮ่องสอน (Local Coffee & Cocoa Maehongson) เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงเรื่องราวกาแฟ โกโก้ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็นที่รู้จักและรับรู้แก่นักท่องเที่ยว นักเดินทางและบุคคลทั่วไปให้รู้จักกาแฟ โกโก้แม่ฮ่องสอนมากยิ่งขึ้น โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พัฒนาการจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอทุกอําเภอ ผู้ประกอบการสถานบริการร้านค้า กาแฟ โกโก้จังหวัดแม่ฮ่องสอน เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟพื้นที่แม่ฮ่องสอน เข้าร่วมกิจกรรมกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการสุดยอดกาแฟ โกโก้ จากพื้นที่ 7 อําเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและการเสวนากาแฟ โกโก้ดอยแม่ฮ่องสอนสู่ร้านค้าและบริการในประเด็น "ก้าวต่อไปกาแฟ โกโก้ดอยแม่ฮ่องสอน" และการมอบป้ายประชาสัมพันธ์ให้กับ สถานบริการและร้านที่จําหน่ายกาแฟ โกโก้แม่ฮ่องสอน ประกอบด้วย ป้ายกาแฟ จํานวน 63 ราย และป้ายโกโก้ จํานวน 4 ราย มีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องและกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการร้านค้ากาแฟและโกโก้ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่ แม่ฮ่องสอน รวมทั้งสิ้น 80 คนผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวแสดงความยินดีกับสถานบริการ และร้านค้ากาแฟ โกโก้ที่ได้รับป้ายประชาสัมพันธ์กาแฟ โกโก้ดอยแม่ฮ่องสอนในวันนี้ และขอขอบผู้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน "แม่ฮ่องสอนเมืองกาแฟ" เป็นต้นว่า การขยายพื้นที่ปลูก การขับเคลื่อนนโยบายหนึ่งชาติพันธ์หนึ่งผลิตภัณฑ์/โครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ที่ต้องดําเนินการที่เข้มข้นมากขึ้น การสร้างเรื่องราวเพื่อเพิ่มความเป็นพิเศษของกาแฟแม่ฮ่องสอนการตลาด ตลอดจนการผลักดันให้ทุกร้านค้า สถานบริการ โรงแรม รีสอร์ท ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ใช้กาแฟ โกโก้แม่ฮ่องสอน มาต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและให้บริการแก่นักท่องเที่ยว การพัฒนาเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบของกาแฟ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกฝ่าย ทั้งภาคราชการ วิชาการ เอกชนประชาชน ประชาสังคม และสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ผลิตผู้ประกอบการ ได้ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน ในการสนับสนุน ส่งเสริม ขับเคลื่อนให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองกาแฟ โกโก้ ต่อไป
11/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911135302436
247,181
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมเปิดจำหน่ายสลาก L6 แบบดิจิทัล 21 ล้านใบ ผ่านแอปฯ เป๋าตัง งวดวันที่ 1 ต.ค. นี้ เริ่มจำหน่าย 17 ก.ย. เป็นต้นไป
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อํานวยการสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเริ่มจําหน่ายสลากแบบใหม่ หรือ L6 แบบดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2566 เป็นต้นไป จํานวนทั้งหมด 21 ล้านใบ สําหรับการออกรางวัลตั้งแต่งวดวันที่ 1 ตุลาคม 2566 โดยประชาชนสามารถซื้อ สลาก L6 แบบดิจิทัล ได้ผ่านทางแอปพลิเคชันเป๋าตังเช่นเดิม และกติกาการออกรางวัลยังคงเดิม เพียงแต่จะไม่มีการพิมพ์สลากแบบใบ แล้วนํามาสแกนเข้าระบบอีกต่อไป ซึ่งสลาก L6 แบบดิจิทัล จะมีลักษณะคล้ายกับสลากแบบใบทั่วไป และหากถูกรางวัล สามารถขึ้นรางวัลได้ทุกรางวัล ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ การโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังไปยังธนาคารต่าง ๆ หรือโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย และมาขึ้นเงินรางวัลด้วยตนเองที่สํานักงานสลากฯ โดยใช้เพียงบัตรประชาชน ทั้งนี้ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กําหนดให้ภายในสิ้นปี 2566 ต้องมีสลาก L6 ทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล จําหน่ายรวมกันไม่เกิน 110 ล้านบาท โดยสลากเป็น L6 แบบใบ จะคงไว้ที่ 80 ล้านใบตามเดิม ส่วน L6 แบบดิจิทัล จะเพิ่มไม่เกิน 30 ล้านใบ โดยเพิ่มงวดละ 1-2 ล้านใบ ตามความต้องการของผู้ซื้อพันโท หนุน กล่าวด้วยว่า การจําหน่ายสลาก L6 แบบดิจิทัล จะให้สิทธิ์กับผู้ที่ได้ลงทะเบียนร่วมโครงการจําหน่ายสลากดิจิทัลตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 และผ่านการคัดเลือกจํานวน 70,000 ราย ซึ่งปัจจุบันยังเหลือผู้ที่ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวอีกประมาณ 17,000 ราย ซึ่งเพียงพอกับจํานวนสลาก L6 แบบดิจิทัล ที่กําหนดไว้ที่ 30 ล้านใบ
11/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911143741451
247,182
ททท. ร่วมกับ Booking.com เปิดตัวคู่มือเดินทางและแผนที่อาหารถิ่นทั่วไทย “Thai Foodie Map” กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองของประเทศไทย
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ร่วมกับ บริษัทผู้นําด้านการเดินทางดิจิตอล Booking.com เปิดตัวคู่มือเดินทางและแผนที่อาหารถิ่นทั่วไทย “Thai Foodie Map” เพื่อแนะนําร้านอาหารจํานวน 40 ร้านใน 8 จังหวัด โดยได้รวบรวมร้านอาหารแนะนําในเมืองรองทั่วประเทศไทย มาให้ผู้เดินทางได้สัมผัสเอกลักษณ์ ของแต่ละจุดหมายปลายทาง ผ่านเมนูอาหารที่นําเสนอรสชาติโดดเด่นของแต่ละท้องถิ่นโดยททท. มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมและผลักดันสร้างศักยภาพของเมืองรองให้เป็นเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายรายได้ไปยังจังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจากเมืองหลัก ต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงอาหารนําไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ การท่องเที่ยวมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวของเมืองหลักมากกว่า ร้อยละ60 และอีกร้อยละ 40 มาจากเมืองรอง ที่มีมากกว่า 40-50 จังหวัด และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีการพํานักโดยเฉลี่ย 9 วันต่อทริป หากมีแคมเปญมากขึ้นจะสามารถช่วยนักท่องเที่ยวเดินทางไปทานอาหารที่เพิ่มวันพักได้มากยิ่งขึ้น
11/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911144303454
247,183
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ในราคาที่ กบน. กำหนด เพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน
นายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ที่จําหน่ายก๊าซหุงต้มในจังหวัด ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิง หรือ กบน. ที่ให้คงราคาจําหน่ายก๊าซหุงต้ม ชนิดถัง 15 กิโลกรัม ในราคา 423 บาทต่อถัง ออกไปอีก จนถึงวันที่ 30 กันยายน นี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชนนอกจากนี้ ยังเน้นย้ําให้ผู้ประกอบการจําหน่ายก๊าซหุงต้ม ปิดป้ายแสดงราคาจําหน่ายให้ชัดเจน และจําหน่ายก๊าซหุงต้มที่มีคุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบ หากตรวจพบการกระทําผิด จะดําเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
11/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911153033479
247,184
พังงา-ภาพเขียนสีโบราณราวๆ 5 พันปี บนหน้าผาเขาพระอาดเฒ่า
ครูสงัด แสงจันทร์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชนคนหินร่ม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นําผู้สื่อข่าวลงเรือเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวทะเลอ่าวพังงา ในพื้นที่ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง ที่เขาพระอาดเฒ่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลทางท่าเรือชุมชนบ้านหินร่ม นั่งเรือไปประมาณ 15 นาทีเท่านั้น เป็นจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สําคัญอีกจุดหนึ่งของอ่าวพังงา มีภาพเขียนสีโบราณอยู่บนหน้าผาด้านทิศตะวันตกของภูเขา อยู่ 4 จุด ภาพเขียนด้วยสีแดง แบบเค้าโครงรอบนอก และแบบระบายเงาทึบ บางภาพเป็นภาพสัตว์ เช่น ปลา กุ้ง บางภาพก็มีขนาดใหญ่มาก มองดูคล้ายกับภาษาโบราณ หรืออาจจะเป็นสัญลักษณ์และบางภาพก็เริ่มจะเลือนหายไปตามกาลเวลา ด้านใต้หน้าผาก็มีร่องรอยของการขุดค้นเป็นหลุมเพื่อตั้งใจจะหาของมีค่าอยู่หลายหลุม ทําให้คนในพื้นที่เกรงว่าหากปล่อยไว้ โดยไม่มีการดูแลรักษา ในอนาคตก็จะไม่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้พบเห็น ครูสงัด แสงจันทร์ กล่าวว่า เมื่อปี 2523 มีกลุ่มนักโบราณคดีจากหลายประเทศได้เข้ามาสํารวจที่เขาพระอาดเฒ่า ทําให้ชาวบ้านจึงรู้ว่ามีภาพเขียนสีโบราณนี้อยู่ ซึ่งเขาบอกว่าภาพเขียนมีอายุประมาณ 5,000 ปี และเป็นจุดที่อยู่ในแผนที่โลกโบราณ ส่วนความหมายของภาพเขียนชุดใหญ่นั้นก็ไม่สามารถแปลความหมายได้เพราะบางส่วนได้ถูกหินงอกหินย้อยปิดเอาไว้ ทําให้ภาพเขียนบนหน้าผาแห่งนี้เป็นความสวยงามที่แฝงด้วยปริศนาก็ว่าได้
11/9/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911151022469
247,185
จังหวัดเพชรบุรี เร่งจัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว ถ้ำโบ้ ให้มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
วันนี้ (11 ก.ย.66) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว "ถ้ําโบ้" (Unseen New Chapters) นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประกาศผลการคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยว (Unseen New Chapters) ปักหมุดมุมมองใหม่ เปิดไทยมุมต่าง โดย "ถ้ําโบ้" คีรีวงศ์ อําเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ได้รับคัดเลือกติดอันดับ 1 ใน 25 แหล่งท่องเที่ยว เพื่อเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและส่งเสริมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว จึงได้ร่วมกันจัดทําแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว "ถ้ําโบ้" ให้มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย สําหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ จัดทําแผนประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ เผยแพร่ภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยว ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อเป็นเครือข่ายในการดูแลรักษา และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว "ถ้ําโบ้" อย่างต่อเนื่อง มีการพิจารณา แผนระยะสั้น ปรับปรุงภูมิทัศน์ ทําป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยว ป้ายแจ้งเตือนทางขึ้นลง เป็นระยะ มากกว่า 2 ภาษา ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ระยะกลาง สร้างห้องน้ํารองรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และระยะยาว สร้างร้านค้าชุมชน สร้างกระเช้ารถรางไฟฟ้าให้เหมาะกับสถานที่ นอกจากนี้ แผนการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ เผยแพร่ภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ภาพแพลตฟอร์มออนไลน์เครือข่ายการท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ประกวดภาพถ่าย และจัดกิจกรรมประจําปีอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมพิชิตแสงแรกในวันขึ้นเป็นใหม่ ทําให้การขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยว "ถ้ําโบ้" เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
11/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911190722537
247,186
สมุทรสาครเปิดงานเทศกาลอาหารทะเล “Sakhon Seafood Festival” กระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ (8 กันยายน 2566) ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น. ที่บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร นายกองเอก อาวุธ วิเชียรฉาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดงานเทศกาลอาหารทะเล “Sakhon Seafood Festival” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานสมุทรสงคราม ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด ชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร ภาคเอกชน สื่อมวลชน และประชาชน เข้าร่วมงาน และพิเศษสุดไฮไลท์ พิธีเปิดงานฯ เป็น การสาธิตการทําเมนู ต้มยําปลาทูโบราณ ซึ่งเป็น 1 จังหวัด 1 เมนูเชิดชูอาหารถิ่น ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ...ที่หายไป The lost Test” ประจําปี 2566 นายกองเอก อาวุธ วิเชียรฉาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพทั้งด้านการประมง อุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมง เกษตรกรรม ไปจนถึงด้านการท่องเที่ยว และมีที่ตั้งเหมาะกับการลงทุนของภาคธุรกิจ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมกับการลงทุนภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยและโอกาสที่จะทําให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นศูนย์กลางการผลิตและการจําหน่ายสินค้าในภูมิภาค อีกทั้งยังมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางอาหารทะเล ระดับโลก หรือ World-class Hub of Seafood รวมถึงมีตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สําหรับ การจัดงานเทศกาลอาหารทะเล “Sakhon Seafood Festival” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 10 กันยายน 2566 ณ บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ตําบลมหาชัย อําเภอเมืองสมุทรสาคร โดยภายในงานมีการจําหน่ายอาหารทะเลสดและแปรรูป อาหารปิ้งย่าง รวมร้านอร่อยของจังหวัดกว่า 50 ร้านค้า ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งที่แสดงถึงศักยภาพอาหารทะเลของจังหวัดสมุทรสาคร และเชื่อมโยงกับการเป็นศูนย์กลางอาหารทะเล (Hub of Seafood) เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy) ซึ่งจะสามารถดึงรายได้จากการท่องเที่ยว ช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชนภายในจังหวัดสมุทรสาครให้มากยิ่งขึ้น ต่อไป
11/9/2023
ภาคตะวันตก
สมุทรสาคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911191501539
247,187
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี พร้อมคณะทำงาน ติดตาม การซืัอขายกุ้งขาวแวนนาไม ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี
นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมาย เจ้าหน้าที่สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย คณะทํางานประจําจุดซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม (เจ้าหน้าที่ ประมงอําเภอ เกษตรอําเภอ ผู้แทนหัวหน้าสํานักงานชั่งตวงวัด 0-6 เพชรบุรี และผู้แทนชมรมผู้เลี้ยงกุ้งเพชรบุรี) ลงพื้นที่ตรวจติดตาม การซืัอขายกุ้งขาวแวนนาไม ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี ณ ฟาร์มกุ้ง เสน่ห์ โตแสง ม 2 ต. แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งได้รับการจัดสรรปริมาณกุ้ง ในการเข้าร่วมโครงการฯ จํานวน 1.4 ตัน กุ้งที่จับได้ขนาด 90 ตัว/ก.ก ราคาซื้อขาย 90 บาท/ก.ก อัตราชดเชย 20/ก.ก รวมเงินชดเชย 28,000 บาท จังหวัดเพชรบุรี ได้รับงบประมาณจากกรมการค้าภายในจํานวน 175 ตัน เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 44 ราย ผู้รวบรวมกระจายกุ้ง 3 ราย ชดเชยราคาให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ก.ก.ละ 20 บาท และผู้รวบรวมฯ ก.ก.ละ 10 บาท ระยะเวลาดําเนินการตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย - 30 ก.ย 66 สรุปผลการดําเนินการตาม โครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.- 10 ก.ย. 2566 มีการซื้อขายกุ้ง ทั้งสิ้นจํานวน 11 ราย ปริมาณกุ้ง 37.812 ตัน รวมเป็นเงินชดเชยส่วนต่างราคา 756,240 บาท และได้จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกร ผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้ารวมโครงการฯ ไปแล้ว 1 ครั้ง จํานวน 5 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 416,380 บาท ทั้งนี้ คณะทํางานติดตามตรวจสอบการซื้อขายกุ้งขายแวนนาไมและอนุมัติเบิกจ่ายเงินค่าชดเชยส่วนต่างราคาและค่าบริหารจัดการ ซึ่งมีพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีเป็นประธาน มีมติให้จ่ายเงินค่าชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่มีเอกสารถูกต้อง ภายใน 15 วันหลังจากจับกุ้ง
11/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911193111548
247,188
โครงการ Business Accelerator ช่วยยกระดับขีดความสามารถ SMEs ไทย
หอการค้าไทย จัดโครงการ Business Accelerator ช่วยยกระดับขีดความสามารถ SMEs ไทย เสริมเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย ได้จัดโครงการ Business Accelerator เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการเจรจาทางการค้ากับ Modern Trade ต่าง ๆ ต่อไป โดยโครงการครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 4 ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการครั้งแรกจนถึงปัจุบัน มีผู้ประกอบการเข้ามาร่วมทั้งสิ้น 236 ราย ได้เข้าไปใน Modern Trade แล้ว 7 ราย อยู่ระหว่างเจรจา 34 ราย แต่ละรายสามารถขยายรายได้ได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งถือว่าประสบความสําเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ หอการค้าไทยมุ่งมั่นยกระดับผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยในปีนี้ เน้นการขับเคลื่อนองค์กรและเศรษฐกิจประเทศ ภายใต้แนวคิด Connect Competitive Sustainable โดยเฉพาะการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการนี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สําหรับโครงการ Business Accelerator รุ่นที่ 4 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ ทั้งสิ้น 62 บริษัท แบ่งตามระดับความพร้อมออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม A 21 บริษัท , กลุ่ม B 22 บริษัท และ กลุ่ม C 19 บริษัท โดยทั้งหมดจะผ่านการบ่มเพาะ ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ อย่างเข้มข้น ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 เดือน กระทั่งในกิจกรรมสุดท้ายที่เป็น Final Pitching มีผู้ประกอบการ 9 รายผ่านเข้าสู่รอบนี้ โดยคณะทํางานฯ ได้คัดเลือกจากผู้ประกอบการในกลุ่ม A ที่มีความพร้อมสูงสุด ผ่านการรวบรวมคะแนนจากการ Pitching Online ที่ผ่านมา ทั้งนี้ จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการได้มีการเรียนรู้วิธีการ ตลอดจนซักซ้อมการนําเสนอธุรกิจต่อผู้ค้าในอนาคต ถือเป็นการเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการเจรจาทางการค้าต่อไป
11/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911170146512
247,189
เพชรบุรี ลุยโฉม ถ้ำโบ้ หลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประกาศผล เป็น 1 ใน 25 Unseen New Chapters ประจำปีนี้ รองผู้ว่า ฯเพชรบุรี ชี้ “รู้แล้วต้องมา เที่ยวชม แค่เห็นโถงถ้ำ ช่องเขาทะลุ มองเห็นวิวทุ่งนาเบื้องล่าง” ก็คุ้มแล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 กันยายน 2566) นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ร่วมการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ถ้ําโบ้” Unseen New Chapters ณ ห้องประชุม สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ถ้ําโบ้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ้านคีรีวงศ์ อําเภอเขาย้อย นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงสภาพดั้งเดิม แหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์แห่งใหม่ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 25 แหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters จาก ททท. ใครที่ไปมาแล้ว คงตื่นตาตื่นใจ จากโถงถ้ําขนาดใหญ่ที่มีช่องเขาทะลุ ที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวทุ่งนาเบื้องล่าง ทําให้คนที่มาเที่ยวได้ภาพถ่ายกับช่องเขา รับแสงสวยที่ไม่มีที่ไหนเหมือน แค่เห็นก็คุ้มแล้ว นอกจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังกระแสข่าวทางโซเชียลและการประชาสัมพันธ์ความเป็น Unseen แห่งใหม่จากการโหวตคัดเลือกของคนไทยทุกคน ยิ่งส่งผลต่อความสนใจจากนักท่องเที่ยว ที่ต่างอยากจะมาพิสูจน์ความงามของภาพ ถ้ําโบ้ แต่เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดตัว การเดินทางยังเป็นธรรมชาติ ที่ต้อง ปีน ต้องเดินเท้า จึงต้องเร่งพัฒนาทางขึ้นให้ทุกคนขึ้นได้ง่าย จากสภาพเดิมที่เป็นทางลาดชัน ได้มีการจัดสร้างบันได เพื่อความปลอดภัย และมีการปักหมุด GPS เพื่อความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว โดย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีได้เชิญชวนนักท่องเที่ยว ไปพิสูจน์ความมหัศจรรย์ ปักหมุดมุมมองใหม่ เปิดไทยมุมต่าง ที่ ถ้ําโบ้ บ้านคีรีวงศ์ อําเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน
11/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911194634558
247,190
จังหวัดมุกดาหาร เปิดกิจกรรมวิ่งเทรล ส่งเสริมการท่องเที่ยวเขตเศรษฐกิจพิเศษ (DOPA MUK SEZ TRAIL RUN 2023)
วันนี้ (11 กันยายน 2566) เวลา 06.30 น. ที่ไร่ภาสทอง บ้านดงมัน ตําบลคําอาฮวน อําเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมวิ่งเทรล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอําเภอเมืองมุกดาหาร ภายใต้ชื่อโครงการโดปามุก เอสอีซี เทรล รัน 2023 (DOPA MUK SEZ TRAIL RUN 2023 ) จัดโดยที่ทําการปกครองอําเภอเมืองมุกดาหาร ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณดําเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้ที่ทําการปกครองอําเภอ สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ภายใต้แนวคิด “คิด Project ยังไงให้ปัง” เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่อําเภอเมืองมุกดาหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของอําเภอเมืองมุกดาหาร โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เป็นการสร้างกระแสให้กับประชาชน เยาวชน ได้เห็นความสําคัญของการออกกําลังกาย อันเป็นการสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง และยังเป็นการส่งเสริมให้สถาบันครอบครัว ตลอดจน นักเรียน นักศึกษา เยาวชนและประชาชนทั่วไป ทุกเพศทุกวัยได้ออกกําลังกายและประกอบกิจกรรมร่วมกันและสัมพันธภาพอันดีเพื่อห่างไกลจากสิ่งเสพติดและอบายมุขรวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้กิจกรรมกีฬาเป็นสื่อ Tourism and Sport ซึ่งรูปแบบกิจกรรมเป็นกิจกรรมการวิ่งผ่านจุดต่างๆ ที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงามทางธรรมชาติของชุมชนในพื้นที่ตําบลคําอาฮวน อําเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร อาทิ ไร่ภาสทอง จุดชมวิววัดป่าภูหินขัน และลานไหว้พระทันใจ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น และเป็นการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ (New Route) ในอําเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อที่จะนํารายได้เข้าสู่ชุมชน โดยกิจกรรมแบ่งการแข่งขันเป็น 2 รายการ ได้แก่ Overall ชาย /หญิง รายการละ 3 รางวัล และ ประเภทแฟนซี 5 รางวัล มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นนักวิ่งจากจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงประชาชนในพื้นที่ตําบลคําอาฮวน และตําบลดงเย็น อําเภอเมืองมุกดาหาร กว่า 300 คน
11/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911210758570
247,191
ผวจ.นครศรีธรรมราช ขอเชิญชิม ช้อป เที่ยวงาน “OTOP ทั่วไทย ร่วมใจ @นครศรีธรรมราช” มาน๊ะ มานคร มาหาศรัทธา ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3 - 5 ดาว จำนวน 154 บูธ
วันนี้ (11 กันยายน 2566) เวลา 19.00 น. ที่บริเวณเวทีจัดกิจกรรม หน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “OTOP ทั่วไทย ร่วมใจ @นครศรีธรรมราช” มาน๊ะ มานคร มาหาศรัทธา โดยมีนางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน พร้อมด้วย คณะกรรมการเครือข่าย OTOP ภาคใต้ และเครือข่าย OTOP จังหวัดนครศรีธรรมราช หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน “OTOP ทั่วไทย ร่วมใจ @นครศรีธรรมราช” มาน๊ะ มานคร มาหาศรัทธา ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 17 กันยายน 2566 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสืบสานการใช้ทรัพยากร และภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการพัฒนาสินค้า OTOP เผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่น เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น/ชุมชน สู่ตลาดระดับภาค ตลอดจนสนับสนุนและพัฒนา ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้เรียนรู้ทักษะด้านการบริหารจัดการ และการเพิ่มช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยก่อนพิธีเปิดงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมภริยา และชุดกิตติมาศักดิ์ ร่วมเดินแบบ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” อย่างสวยงาม โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวชื่นชมและขอขอบคุณ ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ร่วมมือกันสนับสนุนการจัดงาน ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสําคัญ กับการพัฒนาเศรษฐกิจระดับชุมชน เป็นฐานรากที่สําคัญของประเทศ ด้วยการสนับสนุน โครงการหนึ่งตําบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ ของผู้บริโภค ตามศักยภาพทางการตลาดในระดับต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างเทคโนโลยีและการจัดการ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านการตลาด และแสดงความชื่นชม แต่ละชุมชนที่สามารถใช้ทรัพยากร และภูมิปัญญาท้องถิ่น มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้มีคุณภาพ ซึ่งนอกเหนือจากการสร้างรายได้ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ ให้แก่พี่น้องประชาชนแล้ว ยังสร้างความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์รากฐานของแต่ละชุมชน และพี่น้องประชาชนคนไทยในภาพรวม การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ ให้มีช่องทางการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP เพิ่มมากขึ้น และเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน และยังเป็นการส่งเสริมบรรยากาศ การท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้คึกคักยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังฝากไปยังพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้เมาเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงการจัดงาน “ร้อยรักษ์ ร้อยใจ ร้อยปี” บุญสารทเดือนสิบ นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 25 กันยายน - 14 ตุลาคม 2566 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ด้วยการแต่งกายชุดไทย ชุดพื้นเมืองนครศรีธรรมราช กล่าวคําสวัสดีด้วยหน้าตายิ้มแย้มเบิกบาน สําหรับกิจกรรมภายในงาน มีการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3 - 5 ดาว จํานวน 154 บูธ ประกอบด้วย ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม จํานวน 22 บูธ ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย จํานวน 54 บูธ ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก จํานวน 23 บูธ ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จํานวน 10 บูธ ประเภทอาหารชวนชิม จํานวน 26 บูธ และ SME จํานวน 19 บูธ จากการเปิดจําหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 8-11 กันยายน 2566 รวมยอด 3 วัน มียอดจําหน่ายกว่า 4 ล้านบาท
11/9/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911212851572
247,192
การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ. จังหวัดอํานาจเจริญ)
วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ ศาลากลางจังหวัดอํานาจเจริญ ชั้น 3 นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ. จังหวัดอํานาจเจริญ) ครั้งที่ 5-6/2566 โดยมีคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดอํานาจเจริญ และรายงานความก้าวหน้าผลการดําเนินการตามมติที่ประชุม กรอ. จังหวัดอํานาจเจริญ
11/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230911213740578
247,193
พลังงานจังหวัดอำนาจเจริญ จัดกิจกรรมเปิดบ้านพลังงาน ตาม โครงการ Waste to Energy สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
วันนี้ (11 กันยายน 2566) ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 จังหวัดอํานาจเจริญ ตําบลโนนหนามแท่ง อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "เปิดบ้านพลังงาน" โครงการ Waste to Energy สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการด้านพลังงาน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ คณะครู นักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมในวันนิ้นายธนกร สอนอาจ พลังงานจังหวัดอํานาจเจริญ กล่าวถึง กิจกรรม "เปิดบ้านพลังงาน" ภายใต้โครงการ Waste to Energy สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ในวันนี้ว่า สืบเนื่องมาจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดยโสธรและจังหวัดอํานาจเจริญ ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญถึงปัญหาของขยะมูลฝอยที่นับวันจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการเพิ่มขึ้นของจํานวนประชากรและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 จึงได้อนุมัติโครงการ Waste to Energy สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้มอบหมายให้สํานักงานพลังงานจังหวัดในกลุ่มจังหวัด ทั้ง 4 จังหวัด เป็นหน่วยดําเนินการ โดยขั้นเริ่มแรกเป็นการสร้างความรู้เข้าใจ ให้กับประชาชน ทุกภาคส่วนในกลุ่มจังหวัด ได้มีความรู้ ในแนวทางการพัฒนาพลังงานจากขยะ ในการนําขยะมาเปลี่ยนรูปเป็นพลังงาน โดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เกิดการมีส่วนร่วม ลดข้อขัดแย้ง และการยอมรับของประชาชน หากจะมีการลงทุนพัฒนาโครงการ Waste to Energy ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นในอนาคต ต่อไป ซึ่งสํานักงานพลังงานจังหวัดอํานาจเจริญได้รับมอบหมายจากจังหวัดอํานาจเจริญ ให้ดําเนินโครงการ Waste to Energy สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ด้านการจัดการขยะและการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน แก่ประชาชนทุกภาค ส่วน ในจังหวัดอํานาจเจริญ โดยมีกิจกรรมหลักๆ ที่สําคัญ ประกอบด้วย 1. กิจกรรม "Knock Door" โดยการอบรมให้ความรู้ในการบริหารจัดการขยะและการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน ให้แก่แกนนํา และแกนนําไปดําเนินการถ่ายทอดส่งต่อความรู้แก่ประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ อีกจํานวน 150 ครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมไม่น้อยกว่า 1,500 คน 2. กิจกรรม "อบรมให้ความรู้แก่เยาวชนในสถานศึกษา" โดยมุ่งหวังให้เยาวชนในสถานศึกษาต่างๆ ของจังหวัดอํานาจเจริญ รวมไม่น้อยกว่า 3,000 คน ได้มีความรู้ด้านการบริหารจัดการขยะและการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน ให้มากขึ้น3. กิจกรรม "อบรมให้กับส่วนราชการและท้องถิ่น" คือการอบรมให้ความรู้แก่ส่วนราชการและท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 200 คน และกิจกรรมที่ 4. กิจกรรมเปิดบ้านพลังงาน ในวันนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย นักเรียนนักศึกษา ประชาชน และผู้แทนส่วนราชการ รวมจํานวน 150 คน โดยมีการจัดเวทีเสนวนาในประเด็นการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน และจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ด้านพลังงาน โดยศูนย์บริการวิชาการที่ 6 จังหวัดอุบลราชธานี สํานักถ่ายทอดและเผยแพร่เทคโนโลยี กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และสํานักงานพลังงานจังหวัดอํานาจเจริญ โรงเรียนอนุบาลลืออํานาจ และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 จังหวัดอํานาจเจริญ
11/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912004139606
247,194
หอการค้าโคราชจัดเวทีรับฟังเสียงสะท้อนจากสมาชิกหอการค้าที่ได้รับผลกระทบในช่วงระหว่างที่มีการก่อสร้าง 2 อุโมงค์ทางลอด (แยกบิ๊กซี และแยกประโดก)
วันนี้(11 ก.ย. 66) นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ กรรมการที่ปรึกษาหอการค้า พร้อมด้วย ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหาร,นายปราโมศวร์ ตัณฑเศณีวัฒน์ รองประธานฝ่ายกิจกรรมเครือข่ายภาคเอกชน,นายนราทร ธานินพิทักษ์ กรรมการฝ่ายโลจิสติกส์ ผังเมืองและสมาร์ทซิตี้และนายภพ ไตรบัญญัติกุล กรรมการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศและการลงทุน เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากการประชุมรับฟังข้อมูลการก่อสร้างโครงการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่ได้รับผลกระทบในช่วงระหว่างที่มีการก่อสร้าง 2 อุโมงค์ทางลอด (แยกบิ๊กซี และแยกประโดก) ให้กับสมาชิกหอการค้าโคราชที่อยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงและได้รับผลกระทบ โดยมีสมาชิกหอการค้าฯ และผู้สนใจร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูลต่สงๆ โดยมีนายทวีศักดิ์ ศักดิ์ศินานนท์ นายช่างโครงการฯ (ทางลอดนครราชสีมา) และนายอิทธิกร พรมดมทิน ผู้ช่วยนายช่างโครงการฯ (ทางลอดประโดก) เป็นวิทยากรให้ความรู้และความเข้าใจของโครงการก่อสร้าง 2 อุโมงค์ทางลอด โดยมีข้อคําถามจากผู้ร่วมรับฟังซึ่งสรุปผลกระทบที่ได้รับจากการก่อสร้าง 2 อุโมงค์ทางลอด (แยกบิ๊กซี และแยกประโดก) ดังนี้1.ปัญหาน้ําท่วมในอุโมงค์2.การจัดการเรื่องปั๊มน้ําในอุโมงค์หากเกิดไฟฟ้าดับจะทําอย่างไร3.การจัดการไฟฟ้าและแสงสว่าง4.ผลกระทบต่อร้านค้าที่อยู่บริเวณการก่อสร้าง 5.ความปลอดภัยการจราจรในช่วงฤดูฝน6.ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์แก้ปัญหาการจราจรติดขัดอย่างไรทั้งนี้หอการค้าโคราชจะได้นํา ข้อมูลปัญหาและผลกระทบ หารือและร่วมแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
11/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912004927607
247,195
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน คว้ารางวัลยอดเยี่ยม (Kinnari Gold Awards) 3 ปีซ้อน ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 (Thailand Tourism Awards 14th)
นายเทวัญ จันทร์พรหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลําปาง เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม (Kinnari Gold Awards) 3 ปีซ้อน ในประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สาขาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 (Thailand Tourism Awards 14th) ประจําปี 2566 จึงทําให้ได้รับรางวัล Hall of Fame รางวัลอันทรงเกียรติสําหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม 3 ครั้งติดต่อกันรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จัดประกวดมาอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 ปี ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้เข้าร่วมการประกวดครั้งแรกในปี 2543 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในปีแรก ในปี 2556 ปี 2560 ได้รับรางวัลดีเด่น และในปี 2562 – 2564 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เป็นรางวัลเกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในการส่งเสริมให้เกิดการยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีเกณฑ์มาตรฐาน 3 ด้าน ได้แก่ 1.Tourism Excellence (Product/Service) 2.Supporting Business & Marketing Factors และ 3.Responsibility and Safety & Health Administration ที่รับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพ และบริการที่ดี เพื่อยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยว ที่ได้มาตรฐาน “การท่องเที่ยวสีขาว” ที่มีทั้งความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งนี้ ขอขอบพระคุณคณะกรรมการผู้ตัดสิน ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสํานักงานลําปาง คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานฯ ภาคีเครือข่าย ชุมชนโดยรอบพื้นที่อุทยานฯ นักท่องเที่ยวทุกท่าน และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนทุกคน ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่มีส่วนร่วมให้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เราขอสัญญาว่าจะมุ่งมั่นตั้งใจรักษา และพัฒนาอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนในทุกๆ ด้าน ให้ดียิ่งขึ้น
12/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912084910620
247,196
ททท.ลำปาง เปิดจุดเช็คอิน "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น "ยำปลาแห้ง" ลำปาง
นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า อาหารเมนู “ยําปลาแห้ง” ของจังหวัดลําปาง ได้รับการประกาศจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ประจําปี 2566" ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย(Thailand Best Local Food:รสชาติ..ที่หายไป The Lost Taste)"ยําปลาแห้ง" เป็นเมนูที่มีสมุนไพรหลายชนิด ช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย ลดความดันโลหิตและป้องกันโรคหัวใจ ลดระดับไขมันและคอลเลสเตอรอล ลดน้ําตาลในเลือด ช่วยขับลม หัวหอมมีรสฉุน ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ช่วยย่อยและเจริญอาหาร แก้บวมน้ํา แก้อาการอักเสบต่างๆ ขับพยาธิ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น มีรสเผ็ดร้อน ทําให้ร้อนเลือดไหลเวียนดี ขับลมในลําไส้ ปลาแห้งเป็นปลาที่ชาวประมงจับมาจากเขื่อนกิ่วลม อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง นํามาทําปลาแห้งและวางขาย ณ ตลาดบ้านสา อําเภอแจ้ห่มจังหวัดลําปาง ซึ่งเป็นตลาดขายปลาที่มีชื่อเสียงของจังหวัดลําปาง นักท่องเที่ยวสามารถชิมเมนู "ยําปลาแห้ง" ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย จากร้านอาหารและตลาดในพื้นที่จังหวัดลําปาง ได้แก่ ตลาดอัศวิน ตลาดสดเทศบาล 3 รัษฎา (กาดหัวขัว) กาดเก๊าจาว ร้าน จ.หงวน ร้านวัง วิว การ์เด้น ร้านสลุงคําหลวง ร้านครัวห่มฟ้า (ไร่ห่มฟ้า) ร้านเดอะ ฮังเล และร้านหัวมุม คาราโอเกะ ลําปาง
12/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912084655618
247,197
แม่ฮ่องสอน หมอกสวยขนาดนี้...รอทำไมถึงหน้าหนาววว
ว่าที่ ร.ต. ภาณุวัฒน์ ขัดนาค (ผู้อํานวยการสํานักงาน ททท. สํานักงานแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นางชุติวรรณ ตักกะภูมิ (รองผู้อํานวยการสํานักงานฯ) ร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นํานักแสดง/Influencer จํานวน 3 ราย ได้แก่- Methapon Eakrit นักแสดงซีรีย์และ Influencer- เพจ theTripPacker- เพจ ไอ้จ้อยเดินทางลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2566 เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในรูปแบบ Unfolding Meaningful Destination ในช่วงฤดูฝนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน อาทิ จุดชมวิวกิกอคอ ดอยจิกจ้อง นานอนโฮมสเตย์ น้ําตกพอนอคี และอ่างเก็บน้ําหนองเขียวฯ ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้ทางการท่องเที่ยวในรูปแบบของการส่งมอบประสบการณ์ทรงคุณค่า "Meaningful Travel" เพื่อให้เกิดการกระจายการท่องเที่ยวนอกฤดูกาลของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังใช้โอกาสนี้ร่วมกันเสนอแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้กับหน่วยงาน/ผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยยึดหลักการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ถือเป็นหนึ่งใน Shape Supply ให้กับพื้นที่ที่สําคัญในการมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ต่อไป
12/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912090839622
247,198
กรมทางหลวง เร่งขยายสายทางรอบเกาะสมุย ให้แล้วเสร็จตามแผนรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว ควบคู่การป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดําเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และโครงข่ายทางหลวงในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ขณะนี้ กรมทางหลวง ได้เร่งดําเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4169 สายทางรอบเกาะสมุย ให้แล้วเสร็จตลอดสายระยะทาง 50 กิโลเมตร ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าประมาณร้อยละ 89.35 คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้เร่งผลักดันการดําเนินงานของโครงการ เพื่อเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงให้สมบูรณ์ตลอดสายทาง เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และส่งเสริมการท่องเที่ยว อํานวยความสะดวกนักท่องเที่ยวให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตามนโยบายของรัฐบาลสําหรับทางหลวงสายดังกล่าว เดิมชื่อถนนทวีราษฎร์ภักดี เป็นถนนวงแหวนรอบตัวเกาะสมุย ผ่านย่านชุมชนต่าง ๆ อ้อมรอบเกาะแล้วกลับมาที่จุดเดิมบริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองเกาะสมุย เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงสาย 4169 ให้สมบูรณ์ตลอดเส้นทาง ทําให้การคมนาคมขนส่งบนเกาะสมุย มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และช่วยแก้ปัญหาน้ําท่วมขังซ้ําซากได้ อีกทั้งยังรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912102226647
247,199
สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 จะเริ่มจำหน่ายได้ไม่เกินเดือนกันยายน 2567 ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา และดึงเงินเข้าระบบได้ปีละ 2 หมื่นล้านบาท
สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 จะเริ่มจําหน่ายได้ไม่เกินเดือนกันยายน 2567 ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา และดึงเงินเข้าระบบได้ปีละ 2 หมื่นล้านบาท พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อํานวยการสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยความคืบหน้า การจําหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 หลังคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในรูปแบบและประเภทแล้ว โดยคาดว่าไม่เกินเดือนมีนาคม 2567 จะสามารถสรุปรายละเอียดปลีกย่อยได้ทั้งหมด ทั้งราคาและช่องทางการจําหน่าย และจะสามารถเริ่มจําหน่ายได้ไม่เกินช่วงเดือนกันยายน 2567 สําหรับสลาก N3 ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับประชาชน ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา ดึงเม็ดเงินกลับเข้าสู่ระบบ โดยผู้ซื้อมีโอกาสถูกรางวัลถึง 4 รางวัล ภายในงวดเดียว คือ สามตัวตรง, สามตัวสลับหรือสามตัวโต๊ด , สองตัวตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจํานวนเงินรางวัล จะแปรผันขึ้นอยู่กับจํานวนผู้ซื้อในแต่ละงวด และเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด ทั้งนี้ ได้มีการทําประชาพิจารณ์ โดยกําหนดราคาสลาก N3 ไว้ไม่เกิน 50 บาท เพื่อให้แข่งกับหวยใต้ดินได้ และจะจําหน่ายผ่านทางดิจิทัลเป็นหลัก ส่วนผู้ค้าที่อยู่ในระบบเดิม จะมีโอกาสได้รับการพิจารณาให้จําหน่ายสลาก N3 ด้วย เพื่อให้มีรายได้เทียบเท่ากับค่าแรงขั้นต่ํา ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การออกสลาก N3 จะช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ รวมทั้งดึงเม็ดเงินจากหวยใต้ดิน สลากประเทศเพื่อนบ้าน และการพนันออนไลน์บางชนิด ให้กลับเข้าสู่ระบบ โดยประเมินว่าเมื่อมีการจําหน่ายสลาก N3 จะช่วยดึงเงินเข้าสู่ระบบได้ประมาณปีละ 10,000-20,000 ล้านบาท
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912181819863
247,200
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เชื่อมั่นการเติบโตของผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก จะช่วยยกระดับความเข้มแข็งการรองรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในอนาคต
นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ตามที่กฎกระทรวงฉบับที่ 4 ปี 2566 เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ทําให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก มีโอกาสดําเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในจังหวัดภูเก็ตปัจจุบันมีโรงแรมขนาดเล็กที่มีใบอนุญาตถูกต้องจํานวน 900 แห่ง และไม่มีใบอนุญาตอีกกว่า 3,700 แห่ง แต่ที่เข้าข่ายถูกต้องตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 ปี 2566 และสามารถที่จะออกใบอนุญาตได้มีประมาณ 250 แห่ง ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เชื่อมั่นว่าหากโรงแรมขนาดเล็กได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้อง จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้กว่า 2.19 ล้านคนต่อปี และจะสร้างรายได้ประมาณ 16,202 ล้านบาทต่อปี ซึ่งส่งผลให้มีเงินสะพัดไปยังกิจการอื่นๆ อีกกว่า 14,585 ล้านบาทต่อปี และเกิดการจ้างงานมากกว่า 25,000 คนอย่างไรก็ตาม หากโรงแรมขนาดเล็กมีใบอนุญาตถูกต้อง จะช่วยสร้างรายได้จากการเข้าพักได้เพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลให้จํานวนภาษีที่เป็นรายได้รวมของจังหวัดภูเก็ตและประเทศเพื่มมากขึ้นตามไปด้วย
12/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912115047682
247,201
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ตลาดเทศบาลอำเภอเมืองเพชรบุรี ผลการติดตาม สินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ลดลง จากสัปดาห์ที่ผ่านมา
สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โดยกลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ตลาดเทศบาลอําเภอเมืองเพชรบุรี ผลการติดตาม สินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ลดลง จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนี้ 1. เนื้อหมู - หมูเนื้อแดง (ตลาดสด) ก.ก ละ 170-180 บาท ราคาทรงตัว - เนื้อหมูสามชั้น (ตลาดสด) ก.ก ละ 180-190 บาท ราคาทรงตัว - หมูเนื้อแดง ( ร้าน shop) ก.ก ละ 112-115 บาท ราคาลดลง 1-2 บาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมา 113-117 บาท - เนื้อหมูสามชั้น (ร้าน shop) ก.ก ละ 155-160 บาท ราคาทรงตัว 2. เนื้อไก่ - เนื้ออกไก่ กก. ละ 69-75 บาท ราคาลดลง 2-5 บาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา 67-80 บาท -น่องติดสะโพก กก.ละ 72-75 บาท ราคาลดลง 3-5 บาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา 75-80 บาท - ไก่สดทั้งตัว ราคา 73-80 บาท ราคาลดลง 5-7 จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา 80-85 บาท 3. ไข่ไก่ - ไข่ไก่ เบอร์ 3 แผงละ 135-136 บาท หรือฟองละ 4.50-4.53 บาท ราคาทรงตัว 4. น้ํามัน - น้ํามันปาล์ม ตรามรกต 1 ลิตร ราคา 45-46 บาท ราคาทรงตัว - น้ํามันถั่วเหลือง ตราองุ่น 1ลิตร ราคา 60-65 บาท ราคาทรงตัว 5. ผัก - มะนาวเบอร์ 1-2 ลูกละ 3 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 1 บาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา 2 บาท - ต้นหอม ราคา 70-80 ราคาทรงตัว - ผักชี ราคา 150 บาท ราคาลดลงเพิ่มขึ้น 10 บาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมา 140 บาท
12/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912122445695
247,202
สิงห์บุรีเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
จังหวัดสิงห์บุรี เปิดชุมชน “ไทย-ลาวแง้ว” บ้านดงยาง ตําบลทองเอน อําเภออินทร์บุรี ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นายสุพจน์ ยศสิงห์คํา ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดโครงการ “เที่ยวชุมชน ยลของดี ไทย-ลาวแง้วทองเอน จังหวัดสิงห์บุรี” ณ บริเวณวัดดงยาง ตําบลทองเอน อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้คัดเลือกให้ชุมชนไทย-ลาวแง้วทองเอน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและองค์กรเครือข่ายที่ดําเนินกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 และอุดหนุนงบประมาณให้กับชมรมไทย-ลาวแง้วทองเอน ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการนําทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนมาเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาเยี่ยมเยือนชุมชน ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้จากสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม ส่งผลให้ชุมชนอยู่ดีมีสุขตลอดไป สําหรับชุมชนไทย-ลาวแง้วทองเอน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นชุมชนโบราณ บรรพบุรุษเป็นชนชาวลาวที่อาศัยอยู่รอบเมืองหลวงของลาว และถูกกวาดต้อนมาหลังแพ้สงครามในสมัยรัชกาลที่ 3 ของไทย ส่วนหนึ่งมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านดงยาง อําเภออินทร์บุรี ซึ่งคนในชุมชนยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีไว้ได้เป็นอย่างดี ยังคงใช้ภาษาลาวในการพูดคุยสนทนากันเอง มีการตั้งเป็นชมรม “ไทย-ลาวแง้วทองเอน” ขึ้นเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีให้ลูกหลาน คนในชุมชนประกอบอาชีพทํานา ทําสวน อาชีพจักสาน และแปรรูปผลิภัณฑ์พื้นบ้านเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ เช่น ปลาส้ม ปลาส้มฟัก กล้วยฉาบ กล้วยอบน้ําผึ้ง
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สิงห์บุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912133908732
247,203
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ด้านราคาและปริมาณสินค้า พร้อมกำชับผู้ประกอบการหากจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 12 กันยายน 2566 สํานักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ โดยกลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ด้านราคาและปริมาณสินค้า ณ ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด ร้านจําหน่ายปุ๋ย และร้านจําหน่ายก๊าซหุงต้ม ในพื้นที่อําเภอเมืองบึงกาฬจากการตรวจสอบพบว่า สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังคงทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กําชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการให้ชัดเจน และห้ามจําหน่ายในราคาที่สูงเกินสมควร หรือกักตุนสินค้าหากพบการกระทําความผิด สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบการกระทําความผิดจริงจะมีความผิดตามมาตรา 28 และ มาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า มีโทษปรับ ไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจําหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า มีโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
12/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912134439735
247,204
จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง (กรอ.จังหวัดตรัง) ครั้งที่ 12 ประจำปี 2566
วันนี้ (12 ก.ย. 2566) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง (กรอ.จังหวัดตรัง) ครั้งที่ 12/2566 ณ ห้องพระยารัษฎา ศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 5 โดยที่ประชุมติดตามผลความก้าวหน้าการดําเนินการตามมติที่ประชุม กรอ.จังหวัดตรัง และผลการดําเนินงานโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายากจังหวัดตรัง และแนวทางการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยว (มทร.) ทั้งนี้ ที่ประชุมได้นําเรื่องพิจารณา 2 ประเด็น คือ การติดตั้งป้ายแนะนําเส้นทางสําหรับแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัด งบประมาณตามแผนพัฒนาจังหวัดตรัง ปี 2567 โดยแขวงทางหลวงตรัง และปฏิทินการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง (กรอ.จังหวัดตรง) ปี 2567
12/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912143412766
247,205
จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง (กรอ.จังหวัดตรัง) ครั้งที่ 12 ประจำปี 2566
วันนี้ (12 ก.ย. 66) ที่ห้องพระยารัษฎา ศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 5 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง (กรอ.จังหวัดตรัง) ครั้งที่ 12/2566 โดยมีส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมโดยที่ประชุมได้ติดตามผลความก้าวหน้าการดําเนินการตามมติที่ประชุม กรอ.จังหวัดตรัง และผลการดําเนินงานโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายากจังหวัดตรัง และแนวทางการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยว (มทร.)ทั้งนี้ ที่ประชุมมีเรื่องสําคัญที่พิจารณาใน 2 ประเด็น คือ การติดตั้งป้ายแนะนําเส้นทางสําหรับแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัด งบประมาณตามแผนพัฒนาจังหวัดตรัง ปี 2567 โดยแขวงทางหลวงตรัง และปฏิทินการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง (กรอ.จังหวัดตรง) ปี 2567
12/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912144125770
247,206
จ.ประจวบคีรีขันธ์ เร่งขับเคลื่อนพัฒนาการท่องเที่ยว เสริมศักยภาพท่าอากาศยานหัวหิน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลในระยะเร่งด่วน
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้เตรียมพร้อมการขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในระยะเร่งด่วน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นนโยบายสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและสร้างงานสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยในส่วนของการพัฒนาการคมนาคมทางอากาศ ปัจจุบันกรมท่าอากาศยาน อยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาศักยภาพของท่าอากาศยานหัวหินให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลเพื่อรองรับการเปิดเส้นทางบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ จังหวัดประจวบฯ ได้ตั้งคณะทํางานขับเคลื่อนพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไปสู่การเป็น MICE CITY เพื่อยกระดับพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น หัวหิน ปราณบุรี ให้เป็นสถานที่สําหรับการจัดงานแสดงต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่
12/9/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912150924781
247,207
ปชส.สุราษฎร์ธานีเชิญชวนเที่ยวและผู้จัดกิจกรรม "Go Green Active กิจกรรม ดำน้ำอนุรักษ์ทำลายสถิติโลก"
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ผศ.ดร.พิทักษ์พงษ์ ชัยคช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตรังว่า จังหวัดตรัง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ร่วมกับบริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จํากัด ผู้ผลิตรายการฉันชอบเที่ยวและผู้จัดกิจกรรม "Go Green Active กิจกรรม ดําน้ําอนุรักษ์ทําลายสถิติโลก" เพื่อสร้างการรับรู้และมีจิตสํานึกอันดีในการอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติเพื่อลดสภาวะโลกร้อนอันเป็นเหตุแห่งภัยพิบัติ ตลอดจนสร้างทัศนคติในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทยต่อสาธารณชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อันจะกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่ต่าง ๆ โดยในปี 2566 นี้จะจัดขึ้น ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ณ เกาะกระดานจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นกิจกรรมรวมนักดําน้ําจํานวนมากที่สุดทําลายสถิติโลก เพื่อฟื้นฟูแนวปะการัง ณ จังหวัดตรัง โดยจะระดมนักดําน้ํานานาชาติเพื่อทํากิจกรรมฟื้นฟูแนวปะการัง และแข่ง Rally ใต้น้ําชิงถ้วยรางวัล Open Water Princess Cup กิจกรรมดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสาธารณประโยชน์ โดยการปลูกจิตสํานึกของประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดภาวะโลกร้อน อันสอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ทั้งนี้ คณะผู้จัดกิจกรรม โดยมอบหมายให้ คุณสิริรักษ์ ศิรีพรษ์ หมายเลขโทรศัพท์ 093 - 428 - 9361 และประสานงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการและกิจกรรม หรือ ดร.อัครินทร์ พงษ์พันธ์เดชา ผู้ประสานงานโครงการ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 088- 491 - 4242
12/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912155612811
247,208
คณะกรรมการสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโคราช เพื่อพิจารณาเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2029
วันนี้ (12 ก.ย.66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมลําตะคอง ชั้น 3 โรงแรมแคนทารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา คณะกรรมการสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ หรือ AIPH Sie inspection นําโดย Mr.Leonado Capitanio ประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลจากตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อพิจารณาการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.นครราชสีมา พ.ศ.2572 หรือ Korat Expo 2029 โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ และมีผู้ร่วมประชุม ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อาทิ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา, นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดนครราชสีมา, ปลัดจังหวัด, ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัด, อธิการบดีมหาวิทยาลัย 4 แห่ง (ม.เทคโนโลยีสุรานรี, ม.ราชภัฏ, มทร.อีสาน, ม.วงษ์ชวลิตกุล) สาธารณสุขจังหวัด, ที่ดินจังหวัด, เกษตรจังหวัด, โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, ชลประทานจังหวัด,พาณิชย์จังหวัด, หอการค้าจังหวัด, อบจ.นครราชสีมา, สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และภาคเอกชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ร่วมประชุม โดยคณะกรรมการสมาคมพืชสวนโลกระห่างประเทศ มีกําหนดการเดินทางมาตรวจสอบความพร้อมของ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ย.66 เพื่อนําข้อมูลไปประกอบการพิจารณาในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก พ.ศ.2572 โดยวันนี้ (12 ก.ย.66) จะเป็นการรับฟังข้อมูลจากหลายภาคส่วน วันที่ 13 ก.ย.66 จะลงพื้นที่ Expo Site ที่ อ.คง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก พ.ศ.2572 และวันที่ 14 ก.ย. จะมาสรุปเนื้อหาการลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม ที่ อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนนําไปพรีเซ้นท์รอบสุดท้ายร่วมกับประเทศต่างๆ ที่เสนอตัวจัดอีกครั้งในช่วงต้นปี 2567
12/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912153713797
247,209
ชุมชนท่องเที่ยวบ้านหินลาด เกาะสมุย ชู soft power สมุนไพร และอาหาร เป็นจุดขายการท่องเที่ยว
จากกระแสการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากสถานการณ์โรคติดต่อจากเชื้อไวรัส COVID-19 ได้คลี่คลายลงนั้น โปรแกรมท่องเที่ยวของชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านหินลาด เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสัมผัส การเรียนรู้การผลิตสมุนไพรลูกประคบ อาหารแนวสุขภาพ และ การสาธิตวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวสมุย ผ่านการ ปอก-ผ่า-ขูด-ปั้น” พร้อมการดื่มน้ําสมุนไพร ที่ปรุงจากไพลธรรมชาติจากท้องถิ่น ที่มีรสชาติ หอม หวาน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวฉบับไพล ที่มีประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพ สร้างความประทับใจ และเกิดประสบการณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากนายพิชัย มณีลาภ ผู้อํานวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ที่ผ่านมาสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ส่งเสริมโครงการ “OTOP นวัตวิถี” ที่สนับสนุนให้ประชาชน-ชุมชนลุกขึ้นมาพัฒนาศักยภาพชุมชนให้โดดเด่น ดึงอัตลักษณ์ชุมชนดั้งเดิม มาสร้างเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวประทับใจ พร้อมมีสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในชุมชน ใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างคุ้มค่า สร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวในชุมชน ร่วมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ต่อไปนางมณี อุ่ยประเสริฐ ผู้ประกอบการสวนสมุนไพรอินทรีย์วิถีไทย Honey Rose Garden & ART เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง ไม่ว่าจะเป็นกระชาย ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร รวมถึงสมุนไพรที่ใช้ในชีวิตประจําวัน เช่นลูกประคบ หรือเมี่ยงคําที่เป็นอาหารรับประทานเล่น มีการสื่อสารเพื่อให้นักท่องเที่ยวรับรู้ว่า มีการใช้สมุนไพรอะไรบ้างในการดูแลตนเองช่วงสถานการณ์ COVID-19 และมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ สามารถรับนักท่องเที่ยวได้เพียง 8 คน จนขยายมาเป็น 32 คนนางมณี ยังกล่าวต่ออีกว่า ทางสวนสมุนไพรฯ ยังมีการผลักดันให้ลูกประคบ ขี้ผึ้งน้ํามันนวด และเมี่ยงคําเป็น softpower ให้ชาวต่างชาติรู้จัก โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาทัวร์ซ้ํา เช่น หากมาทัวร์ลูกประคบแล้ว จะมาทัวร์เมี่ยงคําอีกครั้ง เนื่องจากนักท่องเที่ยวให้ความสนใจค่อนข้างมาก รวมถึงน้ํามันนวดสมุนไพร ที่ผลิตจากขี้ผึ้งและส่วนผสมจากธรรมชาติอีกด้วย
12/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สวท.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912155500810
247,210
รองผู้ว่าฯ ปทุมธานี แถลงข่าวกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy Tourism “เช็คอินที่เดียว กิน เที่ยวทั้งปทุมฯ ”
วันนี้ (12 ก.ย.66) เวลา 10.30 น. นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานการแถลงข่าวกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy Tourism จังหวัดปทุมธานี “ เช็คอินที่เดียว กินเที่ยวทั้งปทุมฯ” โดยมี นายสุทัศน์ คงแย้ม ผู้อํานวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี นายปกรณ์พัฒน์ เทพเอื้อตระกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานีและนายกสมาคมส่งเสริมการค้าธุรกิจท่องเที่ยวปทุมธานี เข้าร่วมแถลงข่าว งาน“ เช็คอินที่เดียว กินเที่ยวทั้งปทุมฯ” เป็นการรวบรวมอาหารนานาชนิดที่ขึ้นชื่อของจังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่อาหารดั้งเดิมของชนชาติไทย มอญ อิสลาม จีน อาหารพื้นบ้าน อาทิ ข้าวแช่มอญเมืองปทุมธานี ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด ข้าวยําสมุนไพร วุ้นดอกบัว เมี่ยงคําดอกบัวข้าวเกรียบมอญโบราณ ทอดมันหน่อกะลา ข้าวเกรียบกองถ่าย ปลาดุกแดดเดียว ขนมเบื้อง มาไว้ที่เดียวภายในงาน ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต กําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 24 กันยายน 2566 ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ หลังสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง และเตรียมพร้อมเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น รวมถึงสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy สร้างงานสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว รวมไปถึงเป็นการยกระดับมาตรฐานอาหารไทยจากระดับชุมชนสู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้มากขึ้น ผ่านช่องทาง social media ต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้จังหวัดปทุมธานีเป็นอย่างมาก
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ปทุมธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912151226782
247,211
จังหวัดแม่ฮ่องสอนคว้า 2 รางวัล จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards : TTA) ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานแม่ฮ่องสอน นําโดยว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท. สํานักงานแม่ฮ่องสอน แสดงความยินดีกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 14 ประจําปี 2566 ซึ่งรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เป็นรางวัลที่รับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพ และบริการที่ดี เพื่อยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยว ที่ได้มาตรฐาน “การท่องเที่ยวสีขาว” ที่มีทั้งความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าของสินค้าทางการท่องเที่ยวไทยสู่ระดับสากล รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards : TTA) ครั้งที่ 14 ประจําปี 2566 ได้มีการประกาศผลเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รับรางวัล Thailand Tourism Silver Awards คือ รางวัลประเภทดีเด่น จํานวน 2 รางวัล ได้แก่ สัปปายยะ สปา อําเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ ไทยโลคัลลิสต้า ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทรายการนําเที่ยว ในเส้นทาง DoiSter Hard Trekสําหรับสัปปายยะ สปา เป็นธุรกิจสปาและความงาม ที่ตั้งอยู่เลขที่ 412 หมู่ 8 ตําบลเวียงใต้ อําเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสัปปายยะ สปาให้บริการการนวดด้วยอโรมาออย น้ํามันเกรดพรีเมียม (Premium Essential Oils) ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากการเดินทางผ่านหลายร้อยโค้งมายังปาย เพื่อปรับสมดุลย์คืนความสดชื่นกับผู้รับบริการ ได้บําบัดและผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง ด้วยน้ํามัน 4 ธาตุ ดิน น้ํา ลม ไฟ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 081-236-6644 | FB: Sapaiya Spaส่วนไทยโลคัลลิสต้า เป็นผู้ประกอบการนําเที่ยว จดทะเบียนธุรกิจนําเที่ยว ทําเส้นทางท่องเที่ยวเดินป่า 5 วัน 4 คืน ผ่านป่า ภูเขา สายน้ํา และชุมชนปกาเกอะญอ 4 ชุมชน ในพื้นที่ตําบลห้วยปูลิง เมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยโปรแกรมทัวร์/รายการนําเที่ยว พัฒนาจากการทํางานร่วมกันของเครือข่ายชุมชน กับ REST จนมาถึง ทัวร์เมิงไต แม่ฮ่องสอน และขยับมาเป็น Thai Localista กับชื่อใหม่ ๆ เก๋ไก๋ว่า DoiSter Hard Trek ที่มีเส้นทางชมธรรมชาติแบบอนุรักษ์ และเชื่อมโยง BCG Model กับวิถีชีวิตชุมชน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 096-147-2719 | FB: Thai Localistaโดยในปีนี้จะมีพิธีพระราชทานรางวัล ในวันที่ 27 กันยายน 2566 ซึ่งตรงกับวันท่องเที่ยวโลก (World Tourism day) ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอล์ ชั้น 5 สามยานมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร
12/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912154553803
247,212
ด่วน ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา เปิดให้บริการแล้ว นักท่องเที่ยวมาใช้บริการได้ตามปรกติ
ตลาดน้ํา 4 ภาค พัทยา ได้เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นวันแรก วันที่ 12 กันยายน 2566 พบว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตลาดน้ํากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างยังทะยอยเดินทางเข้ามาซื้ออาหาร นั่งเรือชมตลาดน้ํา รวมไปถึงดูโชว์ทางศิลปวัฒนธรรมภายในตลาดน้ํา ส่วนอาคารที่ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ ทางตลาดน้ําได้นําภาพถ่ายไวนิลสวยๆ ของนักท่องเที่ยวภายในตลาดน้ํามาติดตั้งปิดกั้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุเพลิงไหม้ซึ่งอยู่ในช่วงการปรับปรุงก่อสร้างนางสาวสุมาพร ศรีเมือง ผู้จัดการทั่วไปตลาดน้ํา 4 ภาคพัทยา กล่าวว่า ขอบคุณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวตลาดน้ํา 4 ภาคพัทยา ขอบคุณพ่อค้าแม่ค้าที่ร่วมใจกันกลับมาเปิดร้านให้บริการนักท่องเที่ยว หลังจากเกิดเหตุวิกฤตอัคคีภัย เมื่อคืนวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ภายในตลาดน้ํา 4 ภาคพัทยา ปิดงดให้บริการในโซนที่เกิดอัคคีภัย (โซนภาคเหนือ) ซึ่งโครงสร้างของตลาดน้ํา 4 ภาคพัทยาไม่ได้ต่อเนื่องกัน ดังนั้น ทางตลาดน้ํายังคงเปิดให้บริการในโซนถนนสุขุมวิท ไปจนถึงถนนเลียบทางรถไฟ โดยได้จัดสรรร้านค้าที่ประสบภัยย้ายไปจําหน่ายสินค้าชั่วคราว ส่วนการเยียวยาทางตลาดน้ํา จะดําเนินตามขั้นตอนต่อไปนางสาวสุมาพร กล่าวต่ออีกว่า ต้องขอขอบคุณนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่หลั่งไหลกันเข้ามาในวันแรกอยู่ในอัตราที่ดีเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาตลาดน้ํา 4 ภาค มีทั้ง เกาหลี อินเดีย เวียดนาม และไทย ทําให้ทางตลาดน้ํารวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าชื่นใจ มีกําลังใจที่จะสู้ต่อไป หลังจากเกิดเหตุอัคคีภัย ได้มีเจ้าหน้าที่วิศวกรเข้ามาตรวจสอบ พร้อมทั้งรับรองโครงสร้างให้กับตลาดน้ํา 4 ภาค ซึ่งโซนที่ทางตลาดน้ํา 4 ภาค เปิดให้บริการไม่ได้อยู่ในโซนที่เกิดอัคคีภัย ขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจถึงความปลอดภัย โดยพื้นที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวมีมากกว่า 70 % ของพื้นที่ทั้งหมด ตลาดน้ํา 4 ภาค ได้รับความเสียหายไปประมาณ 25-30 % ขณะนี้ตลาดน้ํา 4 ภาคพัทยา พร้อมที่จะให้บริการนักท่องเที่ยว โดยมีการแสดงต่างๆ อาทิ มวยทะเล วงดนตรี และการแสดงรําไทย จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวกลับมาอุปการะตลาดน้ํา 4 ภาค พัทยา อีกครั้ง
12/9/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912161205817
247,213
จังหวัดสมุทรสงคราม จัดประชุมหารือแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบตลาดร่มหุบ อำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว
วันนี้ (12 ก.ย.66) ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานประชุมหารือแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบตลาดร่มหุบ ร่วมกับนายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือ สืบเนื่องจากกรณีปรากฏภาพข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ กรณีเกิดอุบัติเหตุมีรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนนักท่องเที่ยวบริเวณตลาดร่มหุบ ตลาดรถไฟ ตําบลแม่กลอง พร้อมทั้งมีความประสงค์ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการจัดระเบียบร้านในบริเวณดังกล่าวและกํากับดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยต้องการให้มัคคุเทศก์ของบริษัททัวร์ต่างๆ ที่พานักท่องเที่ยวมาในบริเวณตลาดร่มหุบ มีการตักเตือนและควบคุมกลุ่มนักท่องเที่ยวของตนเอง ให้มีความระมัดระวังมิให้เกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้มีการสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจจราจร สภ.เมืองสมุทรสงคราม ดําเนินการอํานวยการความสะดวกนักท่องเที่ยวและจัดระเบียบการจราจรบริเวณดังกล่าว ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสงครามลงพื้นที่บูรณาการกับตํารวจท่องเที่ยวในพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้มัคคุเทศก์ที่พานักท่องเที่ยวเข้ามาให้มีความระมัดระวังอุบัติเหตุ การเข้า-ออกของรถไฟ พร้อมทั้งขอความร่วมมือทางนายสถานีรถไฟให้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายบริเวณตลาดร่วมหุบ ซึ่งทุกหน่วยงานได้เร่งดําเนินการไปแล้วนายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า แนวทางการจัดระเบียบร้านค้าบริเวณตลาดร่มหุบ คงต้องขอความร่วมมือทางเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม และสถานีรถไฟซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่พูดคุยกับร้านค้าที่เช่าที่ของทางสถานี การบริหารจัดการความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวเพื่อมิให้เกิดอุบัติเหตุ คงต้องให้ทางท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสงครามมีมาตรการที่เข้มงวดกับทางมัคคุเทศก์ในการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงบริเวณตลาดร่มหุบไม่ใช่ถนนคนเดิน โดยผู้ขับขี่ยานพาหนะเข้ามาจุดดังกล่าวต้องเพิ่มความระมัดระวังปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งไปดําเนินการแล้วรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามทราบเพื่อกําหนดมาตรการต่อไป
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912174718857
247,214
จังหวัดพังงา ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดพังงา
วันนี้ (12 ก.ย.66) นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา มอบหมายให้นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดพังงา ครั้งที่ 6/2566 ณ ห้องประชุมภูผา ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพังงา โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมประชุมพร้อมทั้งรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจจังหวัดพังงา สืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา รายงานผลการดําเนินงานการขับเคลื่อนการจัดทําผังเมืองรวมชุมชนในพื้นที่ตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง ตําบลคึกคัก ตําบลบางม่วง และตําบลเกาะคอเขา ของอําเภอตะกั่วป่า โดยสํานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพังงา นอกจากนี้ สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพังงาได้รายงานแผนการก่อสร้างท่าเรือมาเนาะห์ และท่าเทียบเรือช่องหลาด อําเภอเกาะยาว ตามแผนปฎิบัติราชการของกรมเจ้าท่าและรายงานข้อมูลจํานวนท่าเทียบเรือในพื้นที่จังหวัดพังงา ส่วนสํานักงานเกษตรจังหวัดพังงาได้รายงานแผนงานขับเคลื่อนปาล์มน้ํามันคุณภาพให้มีคุณภาพปาล์มน้ํามัน 18 - 22% ด้านสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงารายงานถึงผลการติดตามความก้าวหน้า เรื่อง กําหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อําเภอคุระบุรี อําเภอตะกั่วป่า อําเภอท้ายเหมือง อําเภอทับปุด อําเภอเมืองพังงา อําเภอตะกั่วทุ่ง และอําเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ทั้งนี้ คลังจังหวัดพังงาได้รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจจังหวัดพังงา ซึ่งมีทิศทางไปในทางที่ดีขึ้นและ มีการรายงานข้อมูลผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่จังหวัดพังงา โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดพังงา ส่วนการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงาได้มีการรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ที่มีนักท่องเที่ยวและจํานวนเงินเพิ่มมากขึ้น โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพังงา ทางด้าน นายกัณฐัศ กุลวานิช ประธานหอการค้าจังหวัดพังงา ได้เสนอให้มีการตั้งคณะทํางานร่วมระหว่างจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนการก่อสร้างสนามบินในพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับจังหวัดพังงาอย่างยั่งยืนการประชุมในครั้งนี้เพื่อร่วมกันพิจารณาข้อเสนอโครงการ/แผนงาน/กิจกรรม ที่จะนําเสนอต่อที่ประชุม กรอ. กลุ่ม จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ในครั้งต่อไป
12/9/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912195239879
247,215
ซีพีเอฟ เดินหน้าส่งเสริมเกษตรยั่งยืน สู่ความสำเร็จ “3 หมู่บ้านเกษตรกรรม”
นายสมพร เจิมพงศ์ ผู้อํานวยการใหญ่ ธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์และซีพีเอฟมุ่งสนับสนุน อาชีพเกษตรกรรมแก่เกษตรกรรายย่อย ผ่านการส่งเสริมการรวมกลุ่มในรูปแบบ “หมู่บ้านเกษตรกรรม” มาตั้งแต่ปี 2520 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการแก่เกษตรกร ด้วยการนําขีดความสามารถของบริษัทมาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเลี้ยงสัตว์ ผสานกับการมีส่วนร่วมของเกษตรกร เพื่อเสริมสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ และพัฒนาสู่สังคมพึ่งพาตนเอง ตลอดระยะเวลา 46 ปี ที่บริษัทร่วมกับเกษตรกรไทยพัฒนาอาชีพ ไปพร้อมกับการสร้างความเข้มแข็งในชุมชน นับจากโครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมกําแพงเพชร อ.เมือง จ.กําแพงเพชร และต่อยอดสู่โครงการหมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จนถึงปัจจุบันทําให้เกษตรกรกว่า 140 รายและครอบครัว มีความมั่นคงในอาชีพ มีรายได้ที่แน่นอน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสืบทอดอาชีพเกษตรกรรมสู่ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่น มุ่งเป็นสมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) เพื่อผลักดันสู่ ’เกษตรยั่งยืน’ “ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดําเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมส่งต่อความสําเร็จสู่พี่น้องเกษตรกร ในรูปแบบหมู่บ้านเกษตรกรรม ทั้ง 3 แห่ง ที่สามารถวัดความสําเร็จได้ในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สะท้อนผ่านรายได้เกษตรกรปีละกว่า 6 แสน ถึงมากกว่า 1 ล้านบาทต่อครอบครัว ตามประเภทสุกร ปริมาณการผลิต และอาชีพเสริมของแต่ละคน พร้อมส่งเสริมการจ้างงานในชุมชนเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ และบริษัทยังร่วมกับเกษตรกรพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง นําไปสู่สังคมที่พึ่งพาตนเองได้ พร้อมต่อยอดสู่การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ตามนโยบายฟาร์มสีเขียว (green farm) ด้วยการพัฒนาพื้นที่ว่างในฟาร์มสุกรเป็นป่านิเวศในชุมชน เพื่อการอยู่ร่วมกับชุมชนรอบข้างอย่างมีความสุข สอดคล้องกับกลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ําป่าคงอยู่” นายสมพร กล่าว สําหรับ หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า เริ่มดําเนินการเมื่อปี 2520 ถือเป็นต้นแบบเกษตรผสมผสานยั่งยืน ด้วยแนวคิด 4 ประสาน คือ ภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน และเกษตรกร โดยการพลิกฟื้นผืนดินทรายที่เสื่อมสภาพ เพาะปลูกไม่ได้ผล จํานวน 1,253 ไร่ มาจัดรูปที่ดินใหม่ แบ่งเป็นแปลงละ 24 ไร่ พร้อมสร้างบ้านพัก 1 หลัง และโรงเรือนเลี้ยงสุกร 1 หลัง ให้แก่เกษตรกร 50 ครอบครัว ที่มีฐานะยากจน ไม่มีที่ดินทํากินเป็นของตนเอง โดยเลี้ยงสุกรเป็นอาชีพหลัก และมีอาชีพเสริมที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมและวิถีชุมชน อาทิ ทําสวนมะม่วง ปลูกยางพารา เลี้ยงไก่ไข่ออร์แกนิค เพาะเห็ดฟาง ปลูกผักปลอดสารพิษ ด้วยระบบการบริหารจัดการที่อาศัยกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการมีส่วนร่วม ช่วยให้ชุมชนเข้มแข็งและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีชี้วัดความสําเร็จที่เป็นรูปธรรมของหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า คือ รายได้ จากเริ่มต้นที่มีรายได้เฉลี่ย 2,000 บาทต่อครอบครัวต่อเดือน ปัจจุบันเพิ่มเป็นประมาณปีละ 960,000 – 1,800,000 บาทต่อครอบครัว และกลายเป็นชุมชนเลี้ยงสุกรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่เป็นต้นแบบด้านการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทุกคนมีที่ดิน ทรัพย์สิน มีความเป็นอยู่ที่ดี บุตรหลานมีโอกาสได้ศึกษาในระดับสูงเท่าที่ตนเองต้องการ ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังมุ่งจัดการสภาพแวดล้อมและทรัพยากรน้ําอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการป่าเชิงนิเวศเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ และโครงการธนาคารน้ําใต้ดิน ที่พัฒนาสู่แหล่งเรียนรู้เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน ส่วน หมู่บ้านเกษตรกรรมกําแพงเพชร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2522 ด้วยความมุ่งหวังที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย ด้วยการจัดสรรพื้นที่ดินกว่า 4,000 ไร่ สู่การเกษตรผสมผสานแบบทันสมัย โดยนําแนวคิด 4 ประสานมาใช้ เพื่อให้เกษตรกร 64 ครอบครัว ได้ร่วมกันพัฒนาอาชีพ นําวิชาการทางการเกษตรสมัยใหม่ นวัตกรรมเครื่องจักรกล และระบบการจัดการครบวงจรมาใช้ในกระบวนการผลิต ปัจจุบันมีเกษตรกรรวมทั้งสิ้น 81 ราย มีรายได้จากการเลี้ยงสุกรพันธุ์และสุกรขุน ซึ่งเป็นอาชีพหลักประมาณ 600,000 - 1,800,000 บาทต่อครอบครัวต่อปี และมีรายได้จากอาชีพเสริม ทั้งการเลี้ยงปลาดุก การปลูกผักกระเฉดน้ํา การปลูกผักสวนครัว และจําหน่ายปุ๋ยมูลสุกรราว 60,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมุ่งดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างกลไกความร่วมมือกับชุมชน สร้างจิตสํานึกในการอนุรักษ์ป่าไม้ ผ่านศูนย์เรียนรู้สวนป่ารักษ์นิเวศ บนพื้นที่ 30 ไร่ ปลูกต้นไม้กว่า 18,000 ต้น มีพันธุ์ไม้กว่า 220 ชนิด ช่วยอนุรักษ์พันธุ์ไม้ท้องถิ่น สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารของชุมชน และเตรียมขยายเพิ่มอีก 27 ไร่ ในพื้นที่ข้างเคียง วันนี้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเอง มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี กลายเป็น หมู่บ้านสามัคคี เทคโนโลยีทันสมัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์ เกิดขึ้นจากการตระหนักถึงความสําคัญของอาชีพตํารวจและคุณภาพชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ เครือซีพีและซีพีเอฟจึงได้ริเริ่มโครงการฯ ในปี 2549 ด้วยการจัดสรรที่ดินกว่า 230 ไร่ พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการเลี้ยงสัตว์ แก่ข้าราชการตํารวจและครอบครัว จํานวน 31 ราย เพื่อให้มีรายได้เสริมและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยอาชีพหลักคือการเลี้ยงสุกรที่มีซีพีเอฟเข้าไปบริหารจัดการ เพื่อให้มีประสิทธิภาพการผลิตที่ดี โดยมีอาชีพเสริมอื่นๆตามความถนัดของแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีการบริหารจัดการในรูปแบบ “บริษัท หมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์ จํากัด” ถือหุ้นโดยข้าราชการตํารวจทั้ง 31 ครอบครัว และเมื่อปี 2561 ทุกรายได้รับมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้ว
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912192034872
247,216
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เป็นครั้งที่ 2 สร้างความมั่นใจก่อนการเปิดให้บริการแบบ Soft Opening 28 กันยายนนี้
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อํานวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงผลการทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) เป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ (12 ก.ย.) ว่า ได้ดําเนินการทดลองสถานการณ์และรูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมทุกกระบวนการระหว่างอาคารผู้โดยสารหลักและอาคาร SAT-1 โดยเน้นการทดสอบ 7 ระบบหลัก การทดลองปฏิบัติการฯ ทุกกระบวนการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี และมีความพร้อมมากขึ้น โดยได้มีการนําข้อขัดข้องจากการทดลองครั้งที่ 1 มาปรับปรุงในทุกกระบวนการให้บริการนอกจากนี้ยังคงเหลือการทดลองฯ ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 กันยายน 2566 โดยมีสายการบินไทยเวียตเจ็ทเข้าร่วมการทดลองปฏิบัติการฯ กระบวนการผู้โดยสารขาออกในช่วงเวลากลางคืน คาดว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการก่อนเริ่มให้บริการอาคาร SAT-1 แบบ Soft Opening ในวันที่ 28 กันยายน 2566
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912213641911
247,217
จ.นครพนม ประชุมผลักดันการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนจังหวัดนครพนม
วันที่ 12 กันยายน 2566 ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) โมเดลเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนจังหวัดนครพนมครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คณะทํางาน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อติดตามการดําเนินโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดนครพนม ปีงบประมาณ 2566 และคณะทํางานนําเสนอโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง กับการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดนครพนม ในปีงบประมาณถัดไป ของคณะทํางานแต่ละด้าน 1) คณะทํางานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2) คณะทํางานด้านการขนส่ง 3) คณะทํางานด้านพลังงาน 4) คณะทํางานด้านการเกษตร 5) คณะทํางานด้านการท่องเที่ยวคณะกรรมการ ได้ร่วมกันพิจารณาการจัดทําฐานข้อมูลการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดนครพนม โดยการกําหนดแบบฟอร์มเพื่อรวบรวมข้อมูลและทิศทางการขับเคลื่อน อีกทั้งได้ร่วมกัน ปรับเพิ่มคณะทํางานอีก 1 คณะ คือคณะทํางานด้านสุขภาพและการแพทย์ เพื่อให้การทํางานครอบคลุมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
12/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912231150919
247,218
คณะทำงานจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ขับเคลื่อน สินค้าสับปะรดฉีกตาเพชรบุรี ขอขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)
นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานประชุมคณะทํางานจัดทําคําขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สินค้า “สับปะรดฉีกตาเพชรบุรี” ครั้งที่ 1/2566 มีเรื่องเพื่อรับทราบ 2 เรื่อง คือ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และข้อกําหนดมาตรฐานสินค้าที่จะขึ้นทะเบียน GI และคําสั่งจังหวัดเพชรบุรี และเรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอํานวยการและคณะทํางานจัดทําคําขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2566 จังหวัดเพชรบุรี และที่ประชุมได้มีเรื่องเพื่อพิจารณา การปรับปรุง แก้ไข และเพิ่มเติมข้อมูลคําขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้า "สับปะรดฉีกตาเพชรบุรี" ตามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้มีหนังสือแจ้งแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูล ให้ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์
13/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913091236956
247,219
จ.ประจวบคีรีขันธ์ เร่งขับเคลื่อนสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลในระยะเร่งด่วน
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้เตรียมพร้อมการขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในระยะเร่งด่วน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นนโยบายสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและสร้างงานสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยในส่วนของการพัฒนาการคมนาคมทางอากาศ ปัจจุบันกรมท่าอากาศยาน อยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาศักยภาพของท่าอากาศยานหัวหินให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลเพื่อรองรับการเปิดเส้นทางบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ จังหวัดประจวบฯ ได้ตั้งคณะทํางานขับเคลื่อนพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไปสู่การเป็น MICE CITY เพื่อยกระดับพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น หัวหิน ปราณบุรี ให้เป็นสถานที่สําหรับการจัดงานแสดงต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่
13/9/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913141804057
247,220
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต คาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนในปีหน้าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจุบันกลับมาแล้วกว่าร้อยละ 25 โดยกลุ่ม FIT เข้ามามากกว่าปี 2019 เกินกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต คาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนในปีหน้าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจุบันกลับมาแล้วกว่าร้อยละ 25 โดยกลุ่ม FIT เข้ามามากกว่าปี 2019 เกินกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังขาดรูปแบบกรุ๊ป ที่จีนมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศในระยะนี้นายธนวัต อ่องเจริญ อุปนายกฝ่ายบริการและยุทธศาสตร์ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเข้ามาของนักท่องเที่ยวตลาดจีน ที่เข้ามาเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ โดยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 25 ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่เคยเดินทางมาภูเก็ตเมื่อเทียบกับในปี 2019 หรือช่วงปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งอุปสรรคของตลาดกลุ่มนี้จะมี 2 ส่วน คือ ประเทศจีนมีนโยบายของการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยไม่มีการเพิ่มหนังสือเดินทางใหม่ และส่วนคือไทยมีการสกีนนักท่องเที่ยวด้วยระบบอีวีซ่า จึงทําให้นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มหรือกรุ๊ปทัวร์เข้ามายากขึ้น อย่างไรก็ตาม สําหรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาในช่วงนี้ เป็นกลุ่ม FIT ที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวสูงจากเดิมเกือบ 100% ถือเป็นตัวเลขที่ดีกว่าเมื่อก่อนมาก และปัจจุบันพบว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีกําลังซื้อ ทําให้จํานวนรายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 40-50 หากแต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจะต้องเรียนรู้เรื่องระบบอีวีซ่า โดยคาดว่าปีหน้านักท่องเที่ยวจีนจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรืออาจจะฟื้นกลับมาถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เป็นได้
13/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913093004960
247,221
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ติดตามการซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง
สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย คณะทํางานประจําจุดซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม (เจ้าหน้าที่ ประมงอําเภอ เกษตรอําเภอ ผู้แทนหัวหน้าสํานักงานชั่งตวงวัด 0-6 เพชรบุรี และผู้แทนชมรมผู้เลี้ยงกุ้งเพชรบุรี) ลงพื้นที่ตรวจติดตาม การซื้อขายกุ้งขาวแวนนาไม ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดเพชรบุรี ณ ฟาร์มกุ้ง กัมพลฟาร์ม ม.2 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และบุญส่งฟาร์ม ม.4 ต.หาดเจ้าสําราญ อ.เมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งได้รับการจัดสรรปริมาณกุ้ง ในการเข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 2 ฟาร์ม จํานวน 2.413 ตัน กุ้งที่จับได้ขนาด 78 ตัว/กก. ราคาซื้อขาย 95 บาท/กก. อัตราชดเชย 20/กก. รวมเงินชดเชย 48,260 บาท จังหวัดเพชรบุรี ได้รับงบประมาณจากกรมการค้าภายในจํานวน 175 ตัน เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 44 ราย ผู้รวบรวมกระจายกุ้ง 3 ราย ชดเชยราคาให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ กก.ละ 20 บาท และผู้รวบรวมฯ กก.ละ 10 บาท ระยะเวลาดําเนินการตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. - 30 ก.ย. 66 สรุปผลการดําเนินการตาม โครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. - 12 ก.ย 2566 มีการซื้อขายกุ้ง ทั้งสิ้นจํานวน 14 ราย ปริมาณกุ้ง 42.180 ตัน รวมเป็นเงินชดเชยส่วนต่างราคา 843,600 บาท และได้จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้ารวมโครงการฯ ไปแล้ว 1 ครั้ง ปริมาณกุ้ง 20.819 ตัน จํานวน 5 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 416,380 บาท โดยคณะทํางานติดตามตรวจสอบการซื้อขายกุ้งขายแวนนาไมและอนุมัติเบิกจ่ายเงินค่าชดเชยส่วนต่างราคาและค่าบริหารจัดการ ซึ่งมีพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีเป็นประธาน มีมติให้จ่ายเงินค่าชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่มีเอกสารถูกต้อง ภายใน 15 วันหลังจากจับกุ้ง
13/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913110033984
247,222
ครม. อนุมัติงบอุดหนุนเด็ก 990 ล้านบาท เตรียมเบิกจ่ายงวดแรก 18 ก.ย. นี้
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติโครงการอุดหนุนเงินเด็กแรกเกิด 600 บาท ต่อเดือน นาน 6 ปี ด้วยงบประมาณ 990 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ เลขาธิการ ครม. จะส่งเรื่องไปที่ กระทรวง พม. เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.66) เวลา 10.00 น. โดยงบประมาณทั้งหมดจะเข้าไปอยู่ในคลังของกรมบัญชีกลาง เพื่อนําไปแจกจ่ายเข้าบัญชีให้กับประชาชนงวดแรกในวันที่ 18 กันยายนนี้ เพื่อดูแลเด็กแรกเกิดจํานวน 2,245,000 ราย ซึ่งยอมรับว่า ไม่สามารถดําเนินการให้เร็วกว่านี้ได้ เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบตัวเลขให้เกิดความถูกต้อง พร้อมยืนยันว่า การจัดสรรงบปีหน้าจะไม่ให้เกิดปัญหารูปแบบนี้ขึ้นอีก
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913135124038
247,223
กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จัดประชุมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด
วันนี้ ( 13 กันยายน 2566) เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมพรินเซลริเวอร์แคว อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้การต้อนรับ นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ในการประชุมการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ได้แก่ จังหวัดราชบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันในระดับพื้นที่ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมคือสํานักงานท่องเที่ยวและกีฬาสํานักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัด สํานักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าภายในกลุ่มจังหวัดสภาอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในกลุ่มจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด (ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี) โดยในที่ประชุมการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 นั้น ได้เน้นแหล่งท่องเที่ยวและของดีของขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ของคนพื้นถิ่น อาหาร ของฝาก และกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละจังหวัดนั้นๆ จัดขึ้นโดยจะเน้นหนักไปทางกีฬาเป็นหลักเพราะปัจจุบันประชาชนหันมาสนใจดูแลสุขภาพและกิจกรรมทางกีฬาสามารถทํารายได้เพื่อกระกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีเป็นอย่างยิ่ง
13/9/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913133756032
247,224
จังหวัดสมุทรปราการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบอาคาร SAT-1 ครั้งที่ 2 ตรวจสอบความพร้อมทุกระบบ สร้างความมั่นใจก่อนเปิด Soft Opening ในวันที่ 28 กันยายน 2566 นี้
เมื่อวานนี้ 12 กันยายน 2566 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ร่วมกับสายการบิน ผู้ประกอบการให้บริการภาคพื้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1 Full - Scale Trial Operations) ครั้งที่ 2 เน้นย้ําความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในวันที่ 28 กันยายน 2566นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อํานวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า การทดลองปฏิบัติการฯ ครั้งที่ 2 ได้ดําเนินการทดลองสถานการณ์และรูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมทุกกระบวนการระหว่างอาคารผู้โดยสารหลักและอาคาร SAT-1 เช่นเดียวกับการทดลองปฏิบัติการฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 โดยเน้นการทดสอบ 7 ระบบหลัก ได้แก่ ระบบการตรวจบัตรโดยสาร สายพานลําเลียงกระเป๋าสัมภาระ การรักษาความปลอดภัย การให้บริการอุปกรณ์ภาคพื้น การทดสอบสิ่งอํานวยความสะดวก การทดสอบ Minimum Connecting Time (MCT) และการทดสอบการเชื่อมโยงระหว่าง Airport Information Management System (AIMS) กับระบบต่างๆ ของ ทสภ.ทั้งนี้ การทดลองปฏิบัติการฯ ทุกกระบวนการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดีเช่นเคย โดยครั้งนี้สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ได้ให้การสนับสนุนอากาศยานพร้อมลูกเรือและเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จํากัด (BFS) ได้ให้การสนับสนุนอุปกรณ์การให้บริการภาคพื้น คณะกรรมการดําเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ และสายการบินต่างๆ ได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าร่วมเป็นผู้โดยสารสมมติ จํานวน 178 คน ขณะที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สํานักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร สํานักงานศุลกากรตรวจสินค้า บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด ตลอดจนบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) ได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การทดลองปฏิบัติการฯนายกิตติพงศ์ กล่าวสรุปผลการทดลองปฏิบัติการฯ ครั้งที่ 2 ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความพร้อมมากขึ้น โดยได้มีการนําข้อขัดข้องจากการทดลอง ครั้งที่ 1 มาปรับปรุงในทุกกระบวนการให้บริการ นอกจากนี้ยังคงเหลือการทดลองฯ ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 กันยายน 2566 โดยมีสายการบินไทยเวียตเจ็ทเข้าร่วมการทดลองปฏิบัติการฯ กระบวนการผู้โดยสารขาออกในช่วงเวลากลางคืน ทั้งนี้ ทสภ. คาดว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการก่อนเริ่มให้บริการอาคาร SAT-1 แบบ Soft Opening ในวันที่ 28 กันยายน 2566
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913142935061
247,225
รัฐบาล มอบหมายกระทรวงการคลัง ทบทวนศึกษารายละเอียดพร้อมกำหนดเงื่อนไขการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต และแนวทางการพักชำระหนี้เกษตรกร
นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบในการกําหนดเงื่อนไขแนวทางและรายละเอียดการดําเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อแจกเงินประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท จํานวน 56 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณราว 560,000 ล้านบาท โดยนําข้อเสนอแนะ คําท้วงติง จากหลายฝ่ายที่ประชุมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายนที่ผ่านมา มาประกอบการพิจารณาศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ รัฐบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหลักในการกําหนดเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด หรือคาดว่าจะได้ข้อสรุปนําเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในสัปดาห์หน้า (19 ก.ย.) เนื่องจากประชาชนรอความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวเป็นจํานวนมากนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เร่งแต่งตั้งคณะทํางาน เพื่อดําเนินงานพักชําระหนี้เกษตรกร ทั้งแนวทางและกรอบการพักชําระหนี้ให้ชัดเจน ซึ่งต้องให้ได้ข้อสรุปภายใน 14 วันนับจากวันนี้ (13 ก.ย.)
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913135700046
247,226
สำนักงานคลังจังหวัดสตูล จัดประชุมชี้แจงการปฏิบัติงานในระบบ New GFMIS Thai ช่วงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
วันนี้ (13 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ศาลากลางจังหวัดสตูล อําเภอเมือง จังหวัดสตูล นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมชี้แจงการปฏิบัติงานในระบบ New GFMIS Thai ช่วงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีนางสาวกีรติญา ทิมเมือง คลังจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงสําหรับการประชุมดังกล่าว สํานักงานคลังจังหวัดสตูล จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติงานในระบบ New GFMIS Thai และหลักเกณฑ์หรือแนวทางการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาการเบิกจ่ายเงินได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการจัดซื้อจัดจ้าง กรณีการใช้งบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913144357070
247,227
หอการค้าไทย มอบรางวัล “สำเภา-นาวาทอง” ประจำปี 2566 ให้กับ 40 สุดยอดหน่วยงานรัฐด้านการอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ
หอการค้าไทย มอบรางวัล “สําเภา-นาวาทอง” ประจําปี 2566 ให้กับ 40 สุดยอดหน่วยงานรัฐด้านการอํานวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย จัดพิธีมอบรางวัล “สําเภา-นาวาทอง” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเชิดชูและยกย่อง แก่หน่วยงานภาครัฐ ที่ดําเนินการปรับปรุงกระบวนงานอย่างมีประสิทธิภาพ และถือเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินประสิทธิภาพหน่วยงานภาครัฐของสํานักงาน กพร. โดยในปีนี้มีหน่วยงานภาครัฐได้รับรางวัล 40 หน่วยงาน ทั้งระดับกระทรวง ระดับกรมจํานวน ระดับกระบวนงาน และระดับภูมิภาค ทั้งนี้ หอการค้าฯ มีความมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้ภาครัฐปลดล็อคกฎ ระเบียบ และกฎหมายต่าง ๆ ให้อํานวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลใหม่ ที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในการสร้างและขยายโอกาสให้กับประชาชน ผ่านโยบายการเปลี่ยนบทบาทของรัฐ ที่เคยเป็นผู้กํากับดูแลที่เต็มไปด้วยกฎ ระเบียบ และข้อบังคับ ให้เป็นผู้สนับสนุนที่ปลดล็อคข้อจํากัดของประชาชน สร้างโอกาสให้กับประชาชนในการสร้างรายได้และเจริญเติบโต เชื่อว่ารางวัลนี้ จะมีส่วนจุดประกายการทํางานระหว่างภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมบรรยาการที่ดีในการประกอบธุรกิจ นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวแสดงความชื่นชมภาคเอกชนที่ได้จัดรางวัลสําเภา-นาวาทอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการนําผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาการทํางานของหน่วยงานต่าง ๆ โดยที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นต้นแบบของการใช้ศรัทธาและหลักธรรมาภิบาลขับเคลื่อนพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ให้แก่ราษฎร เช่น การจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาตามแนวพระราชดําริทั่วประเทศ ที่ใช้แนวคิด One Stop Service บูรณาการการทํางานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้แก่ประชาชนในจุดเดียว การจัดพิธีมอบรางวัลสําเภานาวาทองฯ จึงถือว่ามีความสําคัญ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับรางวัลฯ จะต้องรักษามาตรฐานการให้บริการประชาชนและภาคเอกชน ตลอดจนขยายผลไปสู่หน่วยงานอื่น ๆ ให้มากขึ้นในอนาคต
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913185409176
247,228
คลังจังหวัดสุโขทัย แจ้งเตือนผู้สูงอายุได้รับสิทธิ์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ทำการยืนยันตัวตนและผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อรับเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุภายในวันที่ 30 กันยายนนี้
นางประภาวดี สุคันธมาลัย คลังจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ได้อนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนเมษายน - กันยายน 2566 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน โดยจะทําการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ ในวันที่ 12 – 14 กันยายนนี้ จึงขอแจ้งให้ผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) สามารถไปยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา สําหรับผู้มีสิทธิที่ไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจําตัวประชาชนได้ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ และผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) สามารถแจ้งความประสงค์ ให้โอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือเข้าบัญชีบุคคลอื่น โดยสามารถขอรับหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือเข้าบัญชีบุคคลอื่น ได้ทางเว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ( https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th/) และยื่นเอกสารได้ที่สํานักงานคลังจังหวัดสุโขทัยภายในวันที่ 30 กันยายน 2566 โดยจะได้รับเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุตามโครงการในเดือนถัดไป
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สุโขทัย
สวท.สุโขทัย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913150009080
247,229
รัฐบาล ประกาศ 10 มาตรการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก ทั้งอนุมัติวีซ่าฟรีชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เป็นเวลา 5 เดือน
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติการเร่งรัดด้านการท่องเที่ยว (Quick-Win) ของไทย ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กําชับให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งผลักดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (66) ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ให้ได้ตามเป้าหมายตลอดปีที่ 28 ล้านคน เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติตลอดปีให้ได้กว่า 2.4 ล้านล้านบาท หรืออยู่ที่ร้อยละ 80 จากปี 2562 ที่ 3 ล้านล้านบาท ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมตั้งเป้าหมายในปี 2567 ต้องมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3.1 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน ส่วนในประเทศเดินทางไม่น้อยกว่า 180 ล้านคนครั้ง รัฐบาลจึงได้ออก 10 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว เช่น อนุมัติวีซ่าฟรี ชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน เพื่ออํานวยความสะดวกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจากทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยได้ยกเว้นการทําวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยได้จํานวน 56 ประเทศ ควบคู่การออกมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ สร้างความมั่นใจในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย มาตรการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลคู่ความร่วมมือ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะทําหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปเยือนประเทศเป้าหมาย เพื่อเชิญชวนให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้งนอกจากนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นศักยภาพด้านการเดินทางด้วยการเพิ่มเที่ยวบินรองนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเมืองรองที่มีศักยภาพสูงของจีน มาตรการเร่งพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานเพื่อสร้างความแตกต่างของสินค้าและบริการ มาตรการส่งเสริมการจัดกิจกรรมสร้างจุดขายของไทยให้สามารถท่องเที่ยวได้ทั้ง 365 วัน เช่น เทศกาลลอยกระทง สงกรานต์ รัฐบาลจะยกระดับให้เป็น เวิลด์ คลาส อีเวนต์ ที่ไม่ใช่เพียงโลคอล อีเว้นท์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เป้าหมาย พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกิจกรรมความบันเทิงในเอเชีย หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ฮับ ควบคู่มาตรการจัดตั้งทีมติดตามสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับนักท่องเที่ยว หรือ ออนไลน์ ไครซิส แมเนจเม้นท์เพื่อสร้างความเข้าใจและลบภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับนักท่องเที่ยว ออนไลน์
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913153309112
247,230
จังหวัดตรัง ออกตรวจสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในแหล่งผลิตสำคัญอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
วันนี้ ( 13 กันยายน 2566 ) นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง ประธานคณะทํางานตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัด จังหวัดตรัง มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับ ผู้แทนปลัดจังหวัด ผู้แทนเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และผู้แทนประธานสภาเกษตรกรจังหวัดตรังดําเนินการตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือ ของโรงงานสกัดน้ํามันปาล์มดิบและโรงผลิตไบโอดีเซล รวม 5 แห่ง ได้แก่ 1) บจ.พิทักษ์ปาล์มออยล์ 2) บจ. เอส.พี.โอ.อะโกร 3) บมจ. ล่ําสูง (ประเทศไทย) 4) บจ. ตรังน้ํามันปาล์ม 5) บจ. พารากอนอกรีเทค สรุปผลการตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์ม ณ วันที่ 13 กันยายน 2566 ดังนี้ 1) CPO จํานวน 9,493.40 ตัน 2) CPKO จํานวน 3,648.85 ตัน 3) ไบโอดีเซล (B 100) จํานวน 170.15 ตัน 4) ราคารับซื้อผลปาล์มน้ํามัน ณ โรงงานสกัดฯ กิโลกรัมละ 5.00 – 5.20 บาท 5) ราคาจําหน่าย CPO กิโลกรัมละ 28.00 – 28.75 บาท สําหรับการออกตรวจสต็อกน้ํามันปาล์มดิบในแหล่งผลิตสําคัญ ได้ดําเนินการอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบปริมาณคงเหลือของสต๊อกน้ํามันปาล์มดิบในพื้นที่ และมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นการลักลอบนําเข้าน้ํามันปาล์มทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันการลักลอบนําเข้า หลังมีข้อกังวลเกิดขึ้นว่ายังมีการลักลอบนําเข้าน้ํามันปาล์ม จนเข้ามาสร้างปัญหากระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ
13/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913154200120
247,231
จังหวัดสตูล จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ครั้งที่ 22566 ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน
วันนี้ (13 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล อําเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นางสาวธัญรัศม์ ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดสตูล เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอํานวยการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ครั้งที่ 2/2566 ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยมีนางสายช่อ อังศุพานิช พาณิชย์จังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการฯ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงสําหรับการประชุมในครั้งนี้ จังหวัดสตูลมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยแล้ว 1 ชนิด คือจําปาดะสตูล ในปัจจุบันมีผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จํานวน 27 ราย และมีสินค้าอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนฯ 1 สินค้า คือกระท้อนนาปริกสตูล และสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล ได้รับการประสานจากหอการค้าจังหวัดสตูลเรื่องการขอขึ้นทะเบียนพริกไทยสุไหงอุเป เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดสตูล โดยสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จะเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลในการจัดทําคําขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์อีกด้วย
13/9/2023
ภาคใต้
สตูล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913160457131
247,232
หอการค้าไทย เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3 หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการหอการค้าไทย ได้ประเมินถึงมาตรการที่ ครม. มีมติออกมาในวันนี้ (12 ก.ย.66) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ได้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการทันที ในการประชุม ครม. ครั้งแรก ตามข้อเสนอเร่งด่วนของภาคเอกชน โดยประเมินว่า มาตรการลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาล จะช่วยให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการลดราคาน้ํามันดีเซล ระยะเวลาเกือบ 4 เดือน ที่จะใช้เม็ดเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากรวม 2 มาตรการดังกล่าว จะทําให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของประชาชนได้ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ มาตรการฟรีวีซ่าชั่วคราว สําหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศจีนและคาซัคสถาน ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 จะทําให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งจะช่วยให้เกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมทันที กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพิ่มเติมอีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ประกอบกับ มาตรการพักหนี้เกษตรกร-ธุรกิจขนาดเล็ก 3 ปี ที่จะช่วยลดภาระให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่กําลังฟื้นตัว ทําให้สร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยปลายปีที่จะคึกคักมากขึ้น โดยหอการค้าไทย มั่นใจว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ถึงร้อยละ 3 อย่างแน่นอน
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913190729184
247,233
นายกฯ ตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็นที่ปรึกษาฯ ทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทยและมีผลบังคับใช้แล้ว
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 กันยายน 2566 มีมติรับทราบคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ 227/2566 เรื่องแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทําหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และข้อ 4 แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. 2552 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 นายกรัฐมนตรีจึงมีคําสั่งแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทําหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913195720195
247,234
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง จับมืออุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า ลงนาม MOU จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ฯ ในพื้นที่ตรังอันดามันเกตเวย์
วันนี้ (13 ก.ย. 66) ที่อาคารบริเวณตรังอันดามันเกตเวย์ ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง จับมือ อุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือ “กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และสันทนาการในพื้นที่ตรังอันดามันเกตเวย์” โดยมี ผศ.ดร. พิทักษ์พงษ์ ชัยคช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง และนายอนันต์ ขวัญมณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า พร้อมด้วย นายจักรพงศ์ ทองนะ ปลัดอําเภอนาโยง นางสาวเพ็ญศิริรัตน์ อาจทวีกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง นางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อํานวยการ ททท.สํานักงานตรัง นายสมศักดิ์ เสือบุญทอง ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ร่วมเป็นสักขีพยานผศ.ดร. พิทักษ์พงษ์ ชัยคช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีในการเริ่มต้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในสถานที่ของรัฐ โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งบางพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ภายใต้กฎระเบียบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงมีแนวคิดว่าอยากเห็นจังหวัดตรังมีการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมทั้งทางบกและทางทะเล รวมทั้งกิจกรรมแคมป์ปิ้งที่ยังไม่มีในพื้นที่ตรังอันดามันเกตเวย์ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีสวนภูมิทัศน์ที่สวยงาม และมีการบริหารจัดการดูแลพื้นที่ ซึ่งสามารถจัดการท่องเที่ยวได้ตามระเบียบ แต่ด้วยข้อจํากัดบางประการจึงได้เช่าพื้นที่บริเวณข้างเคียงไว้ให้นักท่องเที่ยวสามารถทํากิจกรรมสังสรรค์ได้ และจะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วยภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง และอุทยานแห่งชาติเขาปู – เขาย่า ร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ ซึ่งจะมีการออกแบบกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมการจัดกิจกรรม โดยประชาสัมพันธ์การจัดงาน พร้อมทั้งจัดเตรียมบุคลากร นักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมกิจกรรม จัดเตรียมแพ็คเกจในการขายสู่นักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่องทั้งนี้ ตรังอันดามันเกตเวย์เป็นประตูสู่อันดามัน บริเวณทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงตรัง-พัทลุง บนเขาพับผ้า เทือกเขาบรรทัด ต.ช่อง อ.นาโยง เป็นเส้นทางหลักเพียงเส้นทางเดียวที่เชื่อมระหว่างภาคใต้ฝั่งอันดามันสู่ฝั่งอ่าวไทย มีศาลาทางหลวงเฉลิมพระเกียรติภาคใต้ อาคารสํานักงานบริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ํา และลานจอดรถ ประติมากรรมสร้างสรรค์ เช่น ประติมากรรมฝาผนัง ซึ่งแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเขาพับผ้า ประติมากรรมปูนปั้นซาไก (เงาะป่า) โขลงช้าง พะยูน รถตุ๊กตุ๊ก (รถสามล้อ) และภูมิทัศน์ที่สวยงาม
13/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913204015210
247,235
จังหวัดสุพรรณบุรี จัดงานผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP สุพรรณบุรี และส่งเสริมการแบรนด์น้องเหน่อให้เป็นที่รู้จัก
วันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 17.00 น. ณ ลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สุพรรณบุรี นายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในการเปิดงานผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP สุพรรณบุรี ภายใต้โครงการส่งเสริมการจัดตั้งและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป และสินค้าแบรนด์ของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี นางสาวสิริกร นิลกําแหง พัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ โดยได้รับเกียรติจาก หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอ ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สุพรรณบุรี หน่วยงานภาคีเครือข่าย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมฯนางสาวสิริกร นิลกําแหง พัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า สําหรับกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพสินค้า OTOP สินค้ากลุ่มอาชีพ สินค้าเกษตรปลอดภัยและส่งเสริมการขายศูนย์แสดงและจําหน่ายสินค้า OTOP และส่งเสริมแบรนด์น้องเหน่อ จังหวัดสุพรรณบุรี มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมแบรนด์น้องเหน่อให้เป็นที่รู้จัก เพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าเกษตรปลอดภัยของจังหวัดให้เป็นที่รู้จัก อีกทั้งเป็นนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในการส่งเสริมแบรนด์น้องเหน่อ เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของจังหวัดสุพรรณบุรี สร้างสัญลักษณ์มาตรฐานให้กับสินค้า บริการ สถานที่ท่องเทียว และมาตรฐานการดําเนินการอื่นๆเป็นลัตลักษณ์ ในการประชาสัมพันธ์สินค้า บริการ และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด มุ่งเน้นไปที่ 1) สินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน 2) ร้านบริการ นวด สปา ที่พัก โรงแรม 3) สถานที่ท่องเที่ยว โดยแบรนด์น้องเหน่อ มีที่มาจากการสํารวจของสถานศึกษา ถ้านึกถึงจังหวัดสุพรรณบุรีจะนึกถึงอะไร พบว่าประชาชนส่วนใหญ่จะนึกถึงสําเนียงเหน่อของคนสุพรรณบุรี จึงมีการพัฒนาเป็นแบรนด์น้องเหน่อ ลักษณะเป็นเด็กผมจุก หน้าตาใสซื่อ นุ่งผ้าขาวม้า เป็นการการันตีว่าสินค้านี้ มาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ถิ่นเมืองเหนือจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มอบหมายให้สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพสินค้า ตลอดจนส่งเสริมการขายสินค้า OTOP แบรนด์น้องเหน่อ โดยมีการสนับสนุนจากเครือข่าย OTOP จังหวัดสุพรรณบุรี บริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดสุพรรณบุรี และผู้ประกอบการในจังหวัดเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมการจําหน่ายสินค้า OTOP แบรนด์น้องเหน่อ จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-17 กันยายน 2566 พบกับการแสดงมากมายบนเวที เช่น การประกวดรร้องเพลงลูกทุ่งรอบชิงชนะเลิศวันที่ 16-17 กันยายน 2566 การประกวดรําวงรอบตัดสินวันที่ 15 กันยายน 2566 การจับสลากแจกทองทุกวัน กิจกรรมนาทีทองทุกวัน พบกันที่ลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สุพรรณบุรี
13/9/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913230228232
247,236
พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา(เหมืองแม่เมาะ) รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย งาน The14th Thailand Tourism Awards 2023
ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ประจําปี 2566 (The 14th Thailand Tourism Awards 2023) เพื่อคัดสรรผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ทั้งในด้านการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและยั่งยืน (Safe and Sustainable Tourism) รวมทั้งการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) เพื่อเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value and Sustainability) พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลําปาง ได้ร่วมส่งผลงานประกวดเป็นปีแรก ซึ่งได้รับเกียรติบัตร รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Certificate) ประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ในขณะที่แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดลําปางอีก 2 แห่ง ได้รางวัลเกียรติยศ Hall of Fame (ผู้ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมติดต่อกัน 3 ปีซ้อน) ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน รางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และพิพิธภัณฑ์เซรามิกธนบดี รางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้สําหรับโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยนี้แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ประกอบด้วย 1.ประเภทแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) 2.ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว (Accommodation) 3.ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism) 4.ประเภทรายการนําเที่ยว (Tour Programmes) และ 5. ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ําเพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainability)
14/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914090151248
247,237
หารือทูตการค้า 56 ประเทศ พาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัด ปรับนโยบายเชิงรุก พยุงราคาสินค้า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เดินหน้าแก้ปัญหาให้กับประชาชนทันที โดยนโยบายการพยุงราคาสินค้า หรือการทําให้ราคาสินค้าสอดรับกับค่าครองชีพของประชาชนตามหลักการของกระทรวงพาณิชย์คือ การหาความสมดุลของส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งราคาสินค้านั้นเกี่ยวข้องกับทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค ดังนั้นจะต้องมีการเจรจาพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความสมดุล ขณะที่วันนี้ (14 ก.ย.) เข้าทํางานที่กระทรวงพาณิชย์เป็นทางการครั้งแรก เพื่อมอบนโยบายให้กับข้าราชการ รวมทั้งพูดคุยกับทูตการค้าจาก 56 ประเทศและพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัด เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดําเนินนโยบายเชิงรุกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ําว่า นโยบายการค้าของกระทรวงพาณิชย์ เน้นการสร้างดุลยภาพและประโยชน์ต่อทุกส่วน
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914093923267
247,238
เปิดวันแรก พร้อมโซนใหม่ ? ตลาดน้ำ 4 ภาค เมืองพัทยา เปิดโซนช่วยเหลือผู้ประกอบการ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวนั่งเรือชมบรรยากาศวิถีไทย
ตลาดน้ํา 4 ภาคเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เปิดให้บริการโซนใหม่ด้านหลัง จากเดิมที่จะเปิดในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ เลื่อนมาเป็นวันที่ 12 กันยายน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาสัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายของตลาดที่มีเอกลักษณ์จากทั้ง 4 ภาค สามารถนั่งเรือชมทิวทัศน์ ชม ชิม ช้อป สินค้าหลากหลายชนิดในราคาเป็นกันเอง อุดหนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการ-เปิดทุกวัน จันทร์-อาทิตย์-เวลา 09.00 - 19.00 น.-คนไทยเข้าฟรี
14/9/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914100426275
247,239
การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสํารวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนสิงหาคม 2566 พบว่า ปรับตัวจากระดับ 55.6 เป็น 56.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง หลังจากเดือนที่แล้วที่ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ว่าจะจัดตั้งได้เร็วเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่มีการแต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย และเห็นว่าการเมืองไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในอนาคต จากการจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วการเมืองต่างๆ ที่มีความเห็นแตกต่างกัน โดยที่ความขัดแย้งทางการเมืองน่าจะคลี่คลายลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการอย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงมีความกังวล เกี่ยวกับค่าครองชีพที่ยังทรงตัวสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตลอดจนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลลบต่อการส่งออกของไทย ทําให้การส่งออกในช่วงนี้หดตัวลงและมีผลกระทบในเชิงลบต่อกําลังซื้อของประชาชนในทุกภูมิภาคการที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ แสดงว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มกลับมาปรับตัวดีขึ้นจากสถานการณ์การเมืองและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ ทําให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรัฐบาลใหม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วภายใต้นโยบายที่ได้หาเสียงไว้
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914110613313
247,240
จังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้จุดแข็ง เมืองผลไม้คุณภาพ เกษตรปลอดภัย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมชวนเที่ยวงานลางสาดและลองกองหวาน 15-24 กันยายนนี้
จังหวัดอุตรดิตถ์ขับเคลื่อนนโยบาย “12 เป้าหมายร่วมจังหวัดอุตรดิตถ์” เป้าหมายที่ 6 เมืองผลไม้คุณภาพ เกษตรปลอดภัย ใช้จุดแข็งจากการมีไม้ผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง นํามาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ สร้างความสามารถทางการแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศ และเป็นการเชื่อมโยงคู่ค้าธุรกิจเครือข่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย ทําให้เกษตรกรมีช่องทางการจําหน่ายสินค้าที่แน่นอนและมีรายได้เพิ่มมากขี้น หลังจากฤดูกาลทุเรียน สับปรดห้วยมุ่น หมดไป ช่วงนี้จะได้ลิ้มชิมรส ความอร่อยของลางสาดและลองกองหวาน ซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อของผลไม้อีกชนิดนึง ตามหนึ่งในคําขวัญจังหวัดที่ว่า “เมืองลางสาดหวาน” ซึ่งเป็นแหล่งปลูกลางสาดลองกองมากที่สุดในประเทศไทย เป็นลางสาดลองกองที่มีคุณภาพดี และมีรสชาติหวาน มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน-ตุลาคม ของทุกปี ดังนั้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัด จึงกําหนดจัดงานลางสาด และลองกองหวาน ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 15 - 24 กันยายน 2566 ที่บริเวณสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหักทั้งนี้ มีกิจกรรมมากมาย อาทิ ชมริ้วขบวนแห่การแสดงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตพื้นบ้านและวิถีชาวสวน การประกวดลางสาด การประกวดลองกอง การประกวดจัดกระเช้าผลไม้ ประเภทสวยงาม ชมนิทรรศการนวัตกรรมทางการเกษตร นิทรรศการและการสาธิตการทอผ้าจังหวัดอุตรดิตถ์ เลือกซื้อลางสาด ลองกองหวาน ผลไม้นานาชนิด ผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีจากทั้ง 9 อําเภอ ชมคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง สวนสนุกชุดใหญ่ทุกคืน และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
14/9/2023
ภาคเหนือ
อุตรดิตถ์
สวท.อุตรดิตถ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914113543323
247,241
การจ่ายเงินเดือนข้าราชการเดือนละ 2 ครั้ง เป็นทางเลือกใหม่ มีทั้งคนชมคนติ พร้อมรับฟังความเห็นทุกฝ่าย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมติ ครม. กําหนดจ่ายเงินเดือนข้าราชการเดือนละ 2 รอบว่า ปัจจุบันเงินเดือนนั้นจ่ายครั้งเดียว ซึ่งการจ่าย 2 ครั้ง ถือเป็นการแบ่งเบาภาระสําหรับคนที่เป็นหนี้สินสามารถไปจ่ายได้เร็วขึ้นและสามารถแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้งได้ ยืนยันไม่ใช่เป็นเพราะรัฐบาลมีปัญหากระแสเงินสด ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ แต่ให้เป็นทางเลือกมากกว่า โดยมองว่าเป็นข้อเสนอที่เสมอตัวและดีขึ้น พร้อมเข้าใจว่าการเสนอทางเลือกใหม่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ โดยรัฐบาลคํานึงถึงทุกมิติในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่เป็นภาระงบประมาณ คํานึงถึงวินัยการเงินการคลัง โดยกรมบัญชีกลางจะทําเป็นทางเลือกว่าจะเอาแบบไหนตรงนี้ขอให้ใจเย็นนิดนึงและที่ผ่านมาได้ไปสอบถามและพูดคุยกับข้าราชการทุกระดับแล้ว รวมถึงมองว่า หลายบริษัทน่าจะนําเรื่องนี้ไปเป็นทางเลือกได้ พร้อมย้ําว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นทางเลือกที่ดี หากใครไม่ชอบข้อเสนอนี้สามารถใช้แบบเดิมได้ หรือถ้าใครชอบก็แบ่งจ่ายสองงวดได้ โดยสามารถพูดคุยกับสถาบันการเงินได้ ซึ่งเชื่อว่า สถาบันการเงินรับได้ ส่วนผลตอบแทนนั้นขอให้เป็นผลระยะยาวส่วนข้อเสนอดังกล่าวมีกระแสเป็นทางลบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็จะสู้ต่อ เพราะทราบดีว่า การออกนโยบายอะไรก็มีทั้งผลดีและผลลบ โดยหลังจากนี้จะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง พร้อมย้ําว่า การประชุม ครม. นัดแรก ก็พยายามทําให้ดี ทําให้มีภาวะสมดุล เพื่อให้ทราบว่าเราทําอะไรอยู่บ้าง หากอะไรที่ไม่ครบถ้วนก็จะถูกตําหนิ ก็พยายามที่จะทําให้เกิดความสมดุลและอยากทําให้ดีที่สุด อยากทําให้ทุกคนมีความสุข มีนโยบายที่โดนใจทุกคนและพร้อมรับฟังทุกเสียง ทั้งคนติคนชม เพราะเป็นบุคคลสาธารณะแล้วก็พร้อมรับฟัง แต่ก็อยากให้ติอย่างสร้างสรรค์
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914135846372
247,242
โครงการหนึ่งใจ.....ให้ประชาชน โดยมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ขอเชิญเที่ยวงาน "เทศกาลอาหาร ไม้ดอก ไม้ประดับ เฟอร์นิเจอร์และสัตว์เลี้ยง ครั้งที่ 1" วันที่ 16-25 กันยายน 2566 ณ บริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส)
โครงการหนึ่งใจ.....ให้ประชาชน โดยมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ขอเชิญเที่ยวงาน "เทศกาลอาหาร ไม้ดอก ไม้ประดับ เฟอร์นิเจอร์และสัตว์เลี้ยงครั้งที่ 1" วันที่ 16-25 กันยายน 2566 ณ บริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส) ห้ามพลาดกับบรรยากาศแห่งความสนุกทุกค่ําคืน พบศิลปินดัง ชมฟรีวันที่ 16 ก.ย.66 ปู่จ๋าน/เคนน้อย ร้อยลีลาวันที่ 18 ก.ย.66 คอนเสิร์ตลูกทุ่งหมอลําคําผุน ร่วมมิตรวันที่ 20 ก.ย.66 บอล เชิญยิ้ม (เต็มวง)วันที่ 22 ก.ย.66 มีนตรา อินทิราวันที่ 24 ก.ย.66 โตโน่ /The Dustโซนของอาหาร รวมร้านดังจากทั่วประเทศ มีของกินมากมาย เหล่าร้านดัง TIK TOK และร้านดัง INSTAGRAMโซนสัตว์เลี้ยง รวบรวมสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่คุณหนูๆ ต้องชื่นชอบ และกิจกรรมป้อนอาหารสัตว์เลี้ยงแสนรู้นานาชนิด (stone face heart) เซียนไก่ชนไม่ควรพลาด พร้อมซื้อขายจําหน่ายไก่ชนหลากหลายสายพันธ์โซนเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ เตียง ชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ มากมายกว่า 100 ร้านค้า จําหน่ายเฟอร์นิเจอร์ราคาถูก...ออกแบบสวยงามโซนต้นไม้จําหน่ายราคาถูก ผลิตภัณฑ์จากเกษตรกร ต้นไม้หายากนานาชนิด พืชผักสวนครัว คนรักต้นไม้ไม่ควรพลาดโซนเครื่องเล่น มีเครื่องเล่นให้เล่นกว่า 20 ชนิด อาทิ ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถราง ช้างบิน ทากาด้า กิจกรรมระบายสีของน้องน้องหนูๆ ฯลฯ พิกัด : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส)อย่าลืม วันที่ 16-25 กันยายน 2566 ห้ามพลาด
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914232427545
247,243
คมนาคมยุคใหม่สนองตอบความต้องการของประชาชนที่มีต่อการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงทุกมิติ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายการดําเนินงานให้แก่ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ย้ําว่า การทํางานของกระทรวงคมนาคม จะเป็นกระทรวงยุคใหม่ที่สร้างความสุขให้แก่ประชาชนในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะนําระบบรางมาขับเคลื่อนการเดินทาง ด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล พร้อมสั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบความปลอดภัยของระบบบันไดเลื่อนและลิฟท์ในท่าอากาศยานทุกแห่ง เพื่อรองรับการเดินทางและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ควบคู่การนําระบบรถไฟฟ้ามาใช้ให้มากที่สุด เพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานของกระทรวงคมนาคมนับจากนี้ จะไม่ใช่เพียงทําหน้าที่จัดให้มีระบบการคมนาคมขนส่งเท่านั้น แต่ต้องสนองตอบความคาดหวังและความต้องการของรัฐบาลและประชาชนทั้งทางด้านการเดินทาง และการให้บริการ ที่เชื่อมโยงการให้บริการระบบคมนาคมขนส่งในทุกมิติ เป็นประตูการเดินทางและเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาครัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะรับผิดชอบงานกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) กรมท่าอากาศยาน(ทย.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน)(ทอท.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย(บวท.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ส่วนนางมนพร จะรับผิดชอบกรมเจ้าท่า (จท.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และ บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จํากัด ขณะที่นายสุรพงษ์ จะรับผิดชอบกรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จํากัด (รฟฟท.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บริษัท ขนส่ง จํากัด (บขส.) บริษัท วิทยุการบิน จํากัด และ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทที่กํากับดูแลบริหารทรัพย์สินของ รฟท.
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914133553362
247,244
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้บริการส่งเสริม SME กลุ่มผู้เลี้ยงชันโรง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืน
วันนี้ (14 ก.ย.66) นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อํานวยการสํานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ สสว. เปิดกิจกรรมพัฒนาเครือข่ายให้บริการส่งเสริม SME ภายใต้งานศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร (SME One-Stop Service Center : OSS) ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่โรงแรมตันหยง อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีกลุ่มผู้เลี้ยงชันโรงในพื้นที่ กว่า 60 คน เข้าร่วม ซึ่งมีนางปิยะธิดา อังศุพันธ์ รองผู้อํานวยการ ฝ่ายศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร กล่าวรายงาน และกลุ่มผู้เลี้ยงชันโรงในพื้นที่ กว่า 60 คน เข้าร่วม นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อํานวยการ สสว. กล่าวว่า สสว. มีบทบาทหน้าที่ในการจัดทําแผนส่งเสริม SME ของประเทศ รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน โดยผ่านศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจรทั่วประเทศ เพื่อทําหน้าที่เชื่อมโยงแผนนโยบาย โครงการและมาตรการต่าง ๆ ของ สสว. ในภูมิภาค ในส่วนของจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมฯ ขึ้น เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการกลุ่มผู้เลี้ยงชันโรงในพื้นที่ ให้สามารถดําเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืนด้าน นายกัมพล สามปรุ หัวหน้าส่วนบริหารงานภาคใต้ ฝ่ายศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร กล่าวว่า ผู้ประกอบการกลุ่มชันโรงกําลังเป็นเศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่จังหวัดนราธิวาส ชันโรงเป็นตัวธุรกิจใหม่ที่มาแรง ทาง สสว.จึงรวบรวมเครือข่ายของกลุ่มชันโรงร่วมกิจกรรม เพื่อให้คําปรึกษา คําแนะนํา ว่าจะเดินหน้าชันโรงจะมีการพัฒนาต่อยอดไปในทิศทางใด อาทิ การส่งออก โดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย ดูไบ ก็ให้ความสนใจในเรื่องชันโรง รวมถึงผลิตให้มีมาตรฐาน ลดต้นทุนการผลิต การขนส่ง ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สสว.นราธิวาส โทร. 073-530533 หรือสายด่วน สสว.สําหรับการจัดกิจกรรมฯ ประกอบด้วย การบรรยายพัฒนาศักยภาพเครือข่ายกลุ่มผู้เลี้ยงชันโรงจังหวัดนราธิวาส โดยประธานเครือข่ายฯ การถ่ายทอดประสบการณ์โดยประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ในหัวข้อ โลจิสติกส์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สินเชื่อ โดยธนาคารออมสิน ธนาคาร SME Bank ธนาคารธ.ก.ส. การแปรรูปชันโรงด้วยนวัตกรรม โดยผู้แทนมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
14/9/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914132538354
247,245
จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเปิดใช้ อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช 19 กันยายน ศกนี้ เพื่อเปิดประตูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม
ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช พร้อมทดลองใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ หรือเทอร์มินอล 2 ในวันที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและลูกหลานชาวเมืองคอนกลับบ้านในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ โดยในปี 2566 เทศกาลดังกล่าวจะมีอายุครบ 100 ปี อย่างเป็นทางการ โดยอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ของท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช หรือเทอร์มินอล 2 ที่กําลังจะเปิดนี้จะมีความหรูหรา ทันสมัย และสะอาดสะอ้าน ถือเป็นประตูด่านแรกที่พัฒนามาเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนนครศรีธรรมราชโดยเฉพาะ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,600 คนต่อชั่วโมง คิดเป็นขาเข้า 800 คน/ชม. และ ขาออก 800 คน/ชม. หรือ 4,600,000 คนต่อปี ซึ่งจากเดิมที่รองรับผู้โดยสารได้เพียง 1,600,000 คนต่อปีเท่านั้น รวมทั้งสามารถให้บริการที่จอดรถได้ถึง 1,000 คัน โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ ก.ย. ปี 2562 ใช้งบประมาณทั้งหมด 1,458 ล้านบาท เป็นการรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางสู่เมืองนครศรีธรรมราช และถือเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของการคมนาคมขนส่ง ลดความแออัดของอาคารผู้โดยสารหลังเดิม อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการค้าภายในจังหวัด ตลอดจนถึงการนําเข้าและส่งออกสินค้าให้มีความสะดวก รวดเร็ว และหลากหลายยิ่งขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลิตภัณฑ์มวลรวมการค้าและการลงทุนตลอดจนถึงรายได้ของประเทศมีความเจริญเติบโตมากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ 1 ในจุดประสงค์หลักของการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช คือส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจากท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช สามารถเดินทางไปยัง Landmark ต่าง ๆ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สะดวก สอดรับกับนโยบายของทางจังหวัดที่ว่า “มาน๊ะ มานคร มาหาศรัทธา” ที่มุ่งเน้นพัฒนาให้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจสนองตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
14/9/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สวท.นครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914143225396
247,246
ททท.สำนักงานนครนายก จัดกิจกรรมล่องแก่งปลอดภัย สุขใจไปนครนายก
วันที่ 14 กันนยายน 2566 เวลา 10.00 น. ที่บริเวณท่าเทียบเรือเขื่อนขุนด่านปราการชล ตําบลหินตั้ง อําเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก นายศราวุธ สุวรรณจูฑะ ปลัดจังหวัดนครนายก เป็นประธานจัดกิจกรรม “ล่องแก่งปลอดภัย สุขใจไปนครนายก”(Safety Rafting Nakhon Nayok) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครนายก ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย นางวันดี เผื่อนอุดม ผู้อํานวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานนครนายก กล่าวว่า ทางสํานักงาน ททท.นครนายก ได้มีความตระหนักถึงความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาสัมผัสกับธรรมชาติด้วยการล่องแก่งด้วยเรือแพยาง จึงได้ร่วมกับทางจังหวัดนครนายก สํานักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครนายก หอการค้าจังหวัดนครนายก สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดนครนายก กลุ่มบริการล่องแก่งและผจญภัย จังหวัดนครนายก และสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในวันนี้จังหวัดนครนายก จึงได้จัดกิจกรรม ”ล่องแก่งปลอดภัย สุขใจไปนครนายก”(Safety Rafting Nakhon Nayok) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครนายก ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนมีความปลอดภัยด้วยการสวมใส่เสื้อชูชีพทุกคน และนอกจากนี้ก็เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการรวมถึงนักท่องเที่ยวได้มีความตระหนักถึงความปลอดภัย ตลอดจนเพื่อเป็นการกระจายรายได้มาสู่ จังหวัดนครนายกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครนายก
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914141403383
247,247
จ.ชัยภูมิ ตรวจประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านซับสีทอง อ.เมืองชัยภูมิ
วานนี้ 13 กันยายน 2566 นางสาวอรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานการตรวจประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านซับสีทอง หมู่ที่ 5 ตําบลซับสีทอง อําเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับคณะกรรมการตรวจประเมิน เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการของโฮมสเตย์ไทย และยกระดับโฮมสเตย์ไทยสู่มาตรฐานสากล โดยมีเจ้าหน้าที่จากสํานักงานพัฒนาชุมชน ร่วมตรวจประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยของชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านซับสีทอง อําเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งมีสมาชิกสมัครขอรับการตรวจประเมิน จํานวน 9 หลังทั้งนี้ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านซับสีทอง หมู่ที่ 5 ตําบลซับสีทอง อําเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงของเทือกเขาภูแลนคา มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งพืชสมุนไพร ผัก ผลไม้ อาหารพื้นถิ่น และอากาศที่บริสุทธิ์ เหมาะสําหรับเป็นที่พักผ่อน และฟื้นฟูสภาพร่างกายด้วยวิถีธรรมชาติ และการบริการนวดแผนไทยที่ขึ้นชื่อ และเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญของจังหวัดหลายแห่ง เช่น น้ําตกตาดโตน มอหินขาว ผาหัวนาค ป่าปรงพันปี และธรรมสถานพระธาตุชัยภูมิ
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914142902393
247,248
หอการค้าไทยเยือนหอการค้าจังหวัดสกลนคร หารือการพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว
ประธานหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมหารือ พร้อมติดตามการดําเนินงานและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหอการค้าไทย และหอการค้าจังหวัดสกลนคร สานต่อการจัดงานสกลจังซั่น พัฒนาด้านเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยววันนี้ (14 ก.ย. 66) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนหอการค้าจังหวัดสกลนคร เพื่อประชุมหารือ ติดตามการดําเนินงานและสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัด โดยมีนายชานน วาสิกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ดร.กัลยารัตน์ จารุกรจินดารัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยคณะกรรมการ หอการค้าจังหวัดสกลนคร กลุ่มนักธุรกิจ รุ่นใหม่ (YEC) ร่วมให้การต้อนรับสําหรับการลงพื้นที่เยี่ยมเยือนหอการค้าจังหวัดสกลนครในครั้งนี้ มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง คณะกรรมการหอการค้าไทย หอการค้าจังหวัดสกลนคร ถึงภาพรวมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนคร และการขอรับการสนับสนุนองค์ความรู้ การเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงาน “สกลจังซั่น” โดยกิจกรรมนี้ เคยจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ประสบผลสําเร็จเป็นอย่างมากทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดร.กัลยารัตน์ จารุกรจินดารัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดสกลนครมีแผนที่จะผลักดันการจัดงาน “สกลจังซั่น”เป็นงานเทศกาลประจําปี โดยจะเป็นจุดนัดพบ หรือจุดเชื่อมต่อทุกภาคส่วนในการที่จะทําให้จังหวัดสกลนครพัฒนา อย่างยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนา การท่องเที่ยวด้านอื่น ๆ ต่อไปการไปเยือนจังหวัดสกลนคร ครั้งนี้ ประธานหอการค้าไทย ได้มอบเงินจํานวน 100,000 บาท สนับสนุนการเปิด สํานักงานหอการค้าจังหวัดสกลนครแห่งใหม่ มอบของที่ระลึก เยี่ยมชมห้องจัดแสดงสินค้าและถ่ายภาพร่วมกันด้วย
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914145526412
247,249
จังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้จุดแข็งเมืองผลไม้คุณภาพ เกษตรปลอดภัย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เชิญเที่ยวงานลางสาดและลองกองหวาน ดีเดย์ วันที่ 15-24 กันยายนนี้
จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ขับเคลื่อนนโยบาย “12 เป้าหมายร่วมจังหวัดอุตรดิตถ์” ในเป้าหมายที่ 6 เมืองแห่งผลไม้คุณภาพ เกษตรปลอดภัย ใช้จุดแข็งด้านเกษตรไม้ผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง นํามาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ สร้างความสามารถทางการแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ทําให้เกษตรกรมีช่องทางการจําหน่ายสินค้าและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น พบกับความมหัศจรรย์ ความอร่อยของลางสาดและลองกองหวานคุณภาพดี ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดอุตรดิตถ์ มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ของทุกปี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัด โดยมีกิจกรรมมากมาย อาทิ ชมริ้วขบวนแห่การแสดงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตพื้นบ้าน การประกวดลางสาดและลองกอง การประกวดจัดกระเช้าผลไม้ การออกบูธนิทรรศการนวัตกรรมทางการเกษตร เลือกซื้อลางสาด ลองกองหวาน ผลไม้นานาชนิด ผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีจากทั้ง 9 อําเภอ ชมคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง สวนสนุกชุดใหญ่ทุกคืน และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายจึงขอเชิญชวนเที่ยวงานลางสาด และลองกองหวาน ประจําปี 2566 ที่บริเวณสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหักระหว่างวันที่ 15-24 กันยายน 2566
14/9/2023
ภาคเหนือ
อุตรดิตถ์
สวท.อุตรดิตถ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914144610406
247,250
จังหวัดตราด เปิดเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราด
(14 ก.ย. 66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราด ซึ่งจังหวัดตราด โดยสํานักงานจังหวัดตราดจัดขึ้นรวม 2 วัน โดยมีหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน ด้านต่าง ๆ กว่า 65 คน เข้าร่วมที่ห้องประชุมโรงแรมตราดซิตี้ อําภเอเมืองตราดสําหรับการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราด ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อไปพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น การจัดโครงการครั้งนี้มีการให้ความรู้ในเรื่องของบทบาทและความสําคัญของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ / มาตรการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยวิทยากรจาก สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รวมทั้งการบรรยายให้ความรู้ในเรื่อง เขตพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน โดยวิทยากรจากสํานักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมไปถึงการจัด Focus Group “ทิศทาง/โอกาส การขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อีกด้วย
14/9/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914155109431
247,251
จังหวัดมุกดาหาร ประชุมร่วมรัฐ-เอกชน ติดตามความคืบหน้าโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของจังหวัดมุกดาหาร ครั้งที่ 6 ประจำปี 2566
วันนี้ (14 ก.ย.66) เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมแก่งกระเบา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดมุกดาหาร (กรอ.จ.มห.) ครั้งที่ 6/2566 โดยมีประเด็นสําคัญในการติดตามความคืบหน้าในโครงการ/การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของจังหวัดมุกดาหาร ดังนี้1. สถานการณ์ท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากสถิติท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มีจํานวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งสิ้น 1,204,231 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกัน 323,706 คน คิดเป็น 73.11% รายได้จากการท่องเที่ยวมีจํานวน 1,363.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกัน อยู่ที่ 320.05 ล้านบาท คิดเป็น 78.94%2. ความคืบหน้าตลาดอินโดจีน โดยผลการดําเนินงานก่อสร้าง (งบกลางฯ 22,072,550 บาท) แล้ววันที่ 11 กันยายน 2566 ตามแผนงานก่อสร้าง คิดเป็น 90.60 % ผลการดําเนินงานก่อสร้างจริง คิดเป็น 84.00 % โดยผู้รับจ้างได้ทําการส่งมอบงานไปแล้วจํานวน 39 งวดงาน ซึ่งอยู่ระหว่างดําเนินการงานขอบคันหินคอนกรีตพิมพ์ลายพื้นด้านบน งานปรับปรุงอาคารศาลาเรารักมุกดาหาร งานหลังคาช่องเปิด งานติดตั้งพัดลม FHC, Fire Pump และงานซ่อมโครงสร้าง Jet mix ปัจจุบันมีคนงานก่อสร้างเข้าดําเนินการเฉลี่ย 30-35 คน/วัน3. ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ซึ่งในส่วนของจังหวัดมุกดาหาร ได้มีการประชุมคณะกรรมการกําหนดราคาค่าทดแทนและประกาศราคาเรียบร้อยแล้ว โดยจังหวัดมุกดาหารมีที่ดินที่มีโฉนดต้องเวนคืน 1,204 แปลง ยื่นคําขอรังวัดไปแล้ว 1,183 แปลง รังวัดแล้ว 1,075 แปลง ใบ รว.9 ออก 431 แปลง ทําสัญญา 210 แปลง จ่ายเงินค่าทดแทน 41 แปลง และมอบพื้นที่ 29 แปลง จังหวัดมุกดาหาร ที่ดิน สปก. 156 แปลง รังวัดเรียบร้อยแล้ว ได้ทําสัญญาและจ่ายเงินค่าทดแทนแล้ว 43 แปลง ในส่วนสัญญาที่ 1 เริ่มงานตั้งแต่ วันที่ 15 มีนาคม 2566 มีผลงานก่อสร้าง 0.194% และสัญญาที่ 2 เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2566 ผลงานก่อสร้าง 0.014 % ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จในมีนาคม 2570 และคาดว่าพร้อมเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 25704. จังหวัดมุกดาหารได้กําหนดจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ ในชื่องานสัมมนาธุรกิจ Business forum ด้านการค้าการลงทุน กลุ่มจังหวัดสนุก ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการค้าชายแดนของกลุ่มจังหวัดสนุก ด้วยความร่วมมือของสํานักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหารร่วมกับภาคเอกชน อาทิกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่จังหวัดมุกดาหาร YEC หอการค้าจังหวัดมุกดาหาร สภาอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร คาดว่าจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ร้านเสริมศักยภาพเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการในการจําหน่ายสินค้าและบริการเชื่อมโยงกับเครือข่ายทางการค้ามากบนเส้นทางเศรษฐกิจ EWEC ระหว่างประเทศไทย สปป.ลาว เวียดนามและจีน
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914165524465
247,252
จ.แม่ฮ่องสอน จัดงานนิทรรศการแสดงสินค้าและการจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP และผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมชุมชน (C - POT)  พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากฯ
วันนี้ (14 ก.ย.66) เวลา 13.30 น. ณ ลานหน้าศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการแสดงสินค้าและการจัดจําหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชน โครงการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP หมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี วิสาหกิจชุมชน และ ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมชุมชน (C - POT) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน 2566 โดยมี นายปฐมพงษ์ จันทร์สว่าง พัฒนาการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวรายงาน พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ปลัดจังหวัด ผู้ประกอบการ และประชาชน ร่วมงานในครั้งนี้โดยสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน ดําเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมชุมชน (C - POT) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP จํานวน 40 ผลิตภัณฑ์ พื้นที่เป้าหมาย 3 อําเภอ 4 ตําบล ประกอบด้วย ตําบลจองคํา อําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ตําบลผาบ่อง อําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ตําบลแม่เงา อําเภอขุนยวม ตําบลปางมะผ้า อําเภอปางมะผ้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลในจังหวัดแม่ฮ่องสอนแบบบูรณาการ เกิดการพัฒนาทักษะในการเสริมสร้างอาชีพในตําบล เป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนบนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทั้ง 40 ผลิตภัณฑ์ ได้นํามาจัดแสดงนิทรรศการ จําหน่ายภายในงาน ตลอดทั้งได้มีการจัดกิจกรรมสาธิตฝึกปฏิบัติการทําพวงกุญแจตุ๊กตาชนเผ่า และ กระเป๋าสะพายชนเผ่า แก่ผู้สนใจที่เข้ามาเยี่ยมชมงาน เพื่อได้เรียนรู้และนําไปประกอบเป็นอาชีพต่อไป
14/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914170141468
247,253
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยัน สถาบันการเงินของรัฐยังคงมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ในการดูแลว่าจะช่วยเหลือประชาชนโดยไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยัน สถาบันการเงินของรัฐยังคงมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ในการดูแลว่าจะช่วยเหลือประชาชนโดยไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวงการคลัง ว่า รัฐบาลให้ความสําคัญในการบริหารระบบราชการ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ซึ่งมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ ควรได้รับการปูนบําเหน็จที่เหมาะสม โดยเฉพาะระบบการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นเกราะกําบังให้ข้าราชการทํางานด้วยความสบายใจและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้รัฐบาลเข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหาของทุกภาคส่วน ดังนั้นการกอบกู้เศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่จําเป็น เพื่อการเติบโตตัวเลขเศรษฐกิจ หรือ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจึงจําเป็นต้องมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่นนโยบายพักหนี้เกษตรกรยังต้องดําเนินการต่อเนื่อง จาก 13 ครั้งภายในระยะ 9 ปีที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้ พร้อมยืนยันในระยะเวลาอันใกล้นี้รัฐบาลจะมีมาตรการใหม่ๆออกมาช่วยเหลือประชาชนในการบรรเทาปัญหาหนี้สินส่วนสถาบันการเงินของรัฐหลายแห่งยังคงมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ในการดูแลว่าจะช่วยเหลือประชาชนโดยไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงผลการประชุมพิจารณาทบทวนวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในการจัดทํางบประมาณ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มเติม 100,000 ล้านบาทด้วย ว่า รัฐบาลมองว่า หากทําอะไรได้ก่อน ไม่อยากคอยให้ครบทุกภาคส่วนแล้วประกาศ อะไรทําได้ทําก่อน ประกาศก่อน บางภาคส่วนจะได้สบายใจ ส่วนหนี้อื่นๆ เดียวจะไปดูแล้วจะนําเสนออีกครั้ง
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914221133534
247,254
แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 ประชุมชี้แจงโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 24 ตัดทางหลวงหมายเลข 224 (แยกโชคชัย)
นายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 24 ตัดทางหลวงหมายเลข 224 (แยกโชคชัย) ณ หอประชุมที่ว่าการอําเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายไชยวิทย์ บุรสมบูรณ์ ผู้อํานวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 กล่าวรายงาน ร่วมด้วยนายอภิชา เลิศพชรกมล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 10 จังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนกรมทางหลวง หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ผู้นําชุมชน สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้รับทราบข้อมูลของโครงการดังกล่าว ซึ่งทางหลวงหมายเลข 24 และทางหลวงหมายเลข 224 มีปริมาณการจราจรหนาแน่นเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเกิดเป็นปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ตรงบริเวณทางแยกจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 24 กับทางหลวงหมายเลข 224 (แยกโชคชัย) จังหวัดนครราชสีมา เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ คาดว่าจะส่งผลทําให้การจราจรมีความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การระดมความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ จะเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการให้เหมาะสม สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน สภาพแวดล้อม และนําไปสู่การพัฒนาในภาพรวมต่อไปนายไชยวิทย์ บุรสมบูรณ์ ผู้อํานวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 กล่าวว่า ทางหลวงหมายเลข 24 เป็นเส้นทางสําคัญในการเดินทางเชื่อมต่อไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านแถบลุ่มแม่น้ําโขง ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านสังคมและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ มีการเปิดประตูการค้าเสรีระหว่างประเทศ ส่งผลทําให้เกิดการเดินทางสัญจร มีปริมาณการจราจรเพิ่มมากขึ้นทุกปี เกิดเป็นปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอย่างมากตรงบริเวณทางแยกจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 24 กับทางหลวงหมายเลข 224 (แยกโชคชัย) กรมทางหลวงได้ตระหนักและเล็งเห็นปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงได้พิจารณาดําเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรตรงบริเวณจุดตัดทางแยก โดยดําเนินการจ้างเหมาทําการก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 24 ตัดทางหลวงหมายเลข 224 (แยกโชคชัย) จังหวัดนครราชสีมาสําหรับการประชุมชี้แจงโครงการก่อสร้างในวันนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารโครงการฯ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียจากการดําเนินโครงการ ตลอดจนสาธารณชนที่สนใจได้รับรู้ข้อมูลอย่างถูกต้อง ชัดเจน และเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา อาทิ หน่วยงานราชการระดับจังหวัด ระดับอําเภอ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ ผู้แทนประชาชน และสื่อมวลชน โดยคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในปลายปี 2566 งบประมาณ 720 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สวท.นครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914233645548
247,255
พช.นครพนม ร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP ในการประชุมกรรมการบริหาร หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสัญจร
วันนี้ (14 ก.ย.66) จังหวัดนครพนมจัดประชุมคณะกรรมการบริหารหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสัญจร ครั้งที่ 5/2566 ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2566 โดยมี นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เป็นประธานในพิธี ร่วมกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายธนาพัต ทีฆธนานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม รวมทั้งประธาน เลขาธิการ YEC หอการค้าจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันในเรื่องการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยและเชื่อมโยงการทํางานของหอการค้าในส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง รวมทั้งเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC ให้เกิดความเข้มแข็งและสานพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวทาง Connect the dots ของหอการค้าไทย โดยคณะกรรมการหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศและหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครพนม เข้าร่วมกิจกรรม จํานวนกว่า 80 คนในการนี้นายชัยณรงค์ กาญจะนะกันโห พัฒนาการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นางพจนีย์ คํามุงคุณ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชํานาญการ เข้าร่วมประชุมฯและนําทัพผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดนครพนม ร่วมจัดแสดงและจําหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP แก่คณะกรรมการหอการค้าไทยที่มาร่วมกิจกรรมฯ ซึ่งได้รับความสนใจจากกรรมการหอการค้าไทยเป็นอย่างมาก โดยมียอดการจําหน่ายและสั่งจองสินค้า จํานวนกว่า 72,000 บาท
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915014842571
247,256
รองผู้ว่าฯกระบี่เปิดงานถนนวัฒนธรรมหลากล้ำอาหารสืบสานศิลปะพื้นถิ่นจังหวัดกระบี่ เพิ่มคุณค่า Soft Power
เมื่อวันนี้ 14 กันยายน 2566 เวลา 18 .00 น นายภาสกร บุญญลักษม์ มอบหมายให้นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา เป็นประธานในพิธีเปิดงานถนนวัฒนธรรมหลากล้ําอาหารสืบสานศิลปะพื้นถิ่นจังหวัดกระบี่ โดยมีนายโกมาตย์ แป้นเกิด วัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายพญอม จันทร์นิ่ม ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ นางสาวจอมสุรางค์ จอมขวัญ รองผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสํานักงานกระบี่ นางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ผู้บริหารหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ถนนวัฒนธรรม ลานเด็กยิ้ม ตลาดนัดชุมชนคนกระบี่ .โครงการถนนวัฒนธรรมหลากล้ําอาหารสืบสานศิลปะพื้นถิ่นจังหวัดกระบี่ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนศิลปวัฒนธรรมการแสดงพื้นบ้าน ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สร้างรายได้ให้กับภูมิปัญญา สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวและเชิงมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม รวมทั้ง ร่วมอนุรักษ์สืบสาน พัฒนาต่อยอดผ่านวัฒนธรรม เชิงสัญลักษณ์ 5 F และเพิ่มคุณค่า Soft Powerภายในงานจัดให้มีกิจกรรมตั้งโรงทาน มอบทุนการศึกษาแก่ครอบครัวเปราะบาง พัฒนาสาธารณะสถาน ปลูกต้นไม้ในชุมชนต้นแบบ ที่ชุมชนเขาครามชุมชนและ ชุมชนเขาดิน โดยเน้นมรดกแห่งภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อาหารท้องถิ่น ศิลปะมวยไทย และนาฎศิลป์การจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสภาวัฒนธรรมทุกระดับในการร่วมกันขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ และขอชื่นชมสภาวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์พร้อมถ่ายทอดให้เด็กเยาวชนได้สืบสานต่อเนื่องทั้งยังส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆอีกด้วยและขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานพร้อมทั้งให้การสนับสนุนพร้อมทั้งให้การส่งเสริมสนับสนุนและร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในจังหวัดกระบี่ให้คงอยู่สืบไป.โอกาสเดียวกันนี้ประธานได้ร่วมชมศิลปะแม่ไม้มวยไทยรํามโนราห์และได้พบปะทักทายและครือข่ายสภาวัฒนธรรมและผู้ประกอบการที่มีออกร้านจําหน่ายสินค้าและได้ชิมเมนูอาหาร 1 จังหวัด 1 เมนูท้องถิ่น ของจังหวัดกระบี่ คือ เมนูปลาจุกเครื่อง และมีสินค้าเกษตรจากโครงการ โคก หนองนา โมเดล ที่นํามาจําหน่ายสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจฐานราก พร้อมเรียนรู้เส้นทางวิวัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ผ่านกําแพงแห่งการเรียนรู้จากอดีตสู่ปัจจุบัน
15/9/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915093611589
247,257
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีพร้อมคณะ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการร้านค้าให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ ป้องปรามมิให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันควร สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตําบลปึกเตียน และองค์การบริหารส่วนตําบลหนองจอก อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ ณ ตําบลปึกเตียน และตําบลหนองจอก เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการร้านค้าให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ รวมถึงป้องปรามมิให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันควรตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 65 พ.ศ.2566 เรื่องการแสดงราคาสินค้าและบริการ และพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หากฝ่าฝืน จะมีความผิดตามมาตรา 28 และโทษตามมาตรา 40 โดยหากมีผู้ร้องเรียน สํานักงานฯ จะดําเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่แนะนําผู้ประกอบการร้านค้าดําเนินการจดทะเบียนพาณิชย์ ณ เทศบาลตําบล และองค์การบริหารส่วนตําบล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับร้านค้า ลูกค้ามีความมั่นใจได้ว่า ร้านนั้นมีข้อมูลอยู่ในทะเบียนของภาครัฐ
15/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915092112584
247,258
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เดินหน้าแก้ปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคา
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการแก้ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ว่า ขณะนี้ทําได้มากขึ้นแต่ยังเป็นเพียงร้อยละ 22 ของสลาก 100 ล้านใบที่ออกในแต่ละงวด หรือมีเพียง 22 ล้านใบ ส่วนใหญ่อยู่ในระบบดิจิทัล ขายผ่าน Application และร้านค้าที่ร่วมโครงการสลาก 80 บาท ที่กระจายอยู่ 1,000 จุดทั่วประเทศ ทั้งนี้ สลากออนไลน์ที่ประชาชนคุ้นเคย กําลังจะเปลี่ยนระบบเป็นสลาก L6 เริ่มจําหน่ายเต็มรูปแบบ 17 กันยายนนี้ ออกรางวัลในงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2566 และมีแผน 1 ปีข้างหน้า จะเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัลเป็น 30 ล้านใบ เมื่อประชาชนเข้าถึงและหันมาซื้อสลากในระบบ 80 บาทมากขึ้น กลไกตลาดจะดึงราคาหน้าแผงลงเป็นราคาใกล้เคียง 80 บาท ตามกําหนดนอกจากนี้ สํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ N3 รางวัลเลขท้าย ซึ่งอยู่ในขั้นการพิจารณา เรื่องราคาที่จําหน่าย โดยมองราคาอยู่ที่ 20-40 บาท เรื่องระบบการขาย ว่าจะใช้ App เป๋าตังค์ หรือจะเป็น Appใหม่ ที่เดินเร่ขายได้ด้วย เรื่องตัวแทนว่าจะให้ผู้ขาย L6 เดิมขาย N3 ได้ด้วยกับเปิดรับสมัครรายใหม่เข้ามา จํานวนเท่าไหร่ กี่หมายเลข จะเปิดรับสมัครเมื่อไหร่ อยู่ในขั้นพิจารณาภายในสิ้นปีนี้น่าจะตกผลึกได้หมดจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทางเทคนิคเลือกตัวแทน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจะสามารถดําเนินการสลาก N3 ได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915085034579
247,259
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมโรดโชว์ครั้งแรก ร่วมเปิดงานแสดงสินค้า China–ASEAN Expo ที่นครหนานหนิง 15-18 ก.ย.นี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีกําหนดการนําคณะผู้บริหารระดับสูง เดินทางเยือนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2566 เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน หรือ China–ASEAN Expo (CAEXPO 2023) ครั้งที่ 20 ที่นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งไทยได้เข้าร่วมงานมาติดต่อกันทุกปี สําหรับปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้คัดเลือกผู้ประกอบการจํานวน 76 รายใน 4 กลุ่มสินค้าเข้าร่วมจัดงานแสดงสินค้าใน Thailand Pavilion ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มแฟชั่นและเครื่องประดับ กลุ่มสุขภาพและความงาม และกลุ่มของใช้ในครัวเรือนและของตกแต่งบ้าน ส่วนของการร่วมจัดแสดงภาพลักษณ์ประเทศใน Pavilion of Cities of Charm ของปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดมนต์เสน่ห์ของไทย และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการผลิตและส่งออกผลไม้อันดับหนึ่งของไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และยังเป็นประตูสู่การค้าชายแดนกับประเทศกัมพูชาและเวียดนาม มานําเสนอการประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหารท้องถิ่นที่โดดเด่นของจังหวัดให้กับผู้เข้าร่วมงานได้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ มีกําหนดการพบปะหารือกับผู้นําจีนและผู้นําประเทศต่างๆ รวมถึงพบปะหารือกับนักธุรกิจไทย-จีน เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันและขยายตลาดสินค้าและบริการไทยเข้าสู่ตลาดจีนด้วย
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915092539585
247,260
ประชุมหารือจัดการชายแดน (BMWG) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 33
ผู้แทนส่วนราชการ 5 จังหวัดชายแดนใต้ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะทํางานด้านการจัดการชายแดน (BMGW) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทํางาน ด้านการจัดการชายแดน (BMWG) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 33 ณ โรงแรมบีพี สมิหลา บีช อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีนางสาวอัญชลี ดวงแก้ว ผู้อํานวยการกองความมั่นคง กิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธานหารือฝั่งประเทศไทย และมี MRS. AZIZAH MOHAMED (มิสซิส อาซิซ่า โมฮาเหม็ด) เป็นประธานหารือการจัดการชายแดนฝั่งมาเลเซีย โดยมีปลัดจังหวัดพื้นที่ชายแดนใต้ ผู้แทนฝ่ายความมั่นคง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับประชุมกับหน่วยงานฝั่งมาเลเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือ การสร้างสรรค์ความเข้าใจ ให้เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวางแผนในการปฏิบัติกิจกรรมที่ต้องทําร่วมกัน เพื่อมุ่งหวังให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติของแต่ละประเทศมากที่สุดคณะทํางานทั้ง 2 ประเทศ มีการหารือดําเนินงานในประเด็นที่สําคัญต่างๆ ประกอบด้วย ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการถมดินในแม่น้ําโก-ลก, การก่อสร้างสะพานตํามะลัง-ปูยู จ.สตูล, ความคืบหน้า MOU การขนส่งทางบกไทย-มาเลเซีย โดยรถโดยสารและรถบรรทุกรวมถึงหารือให้มีการสํารวจหลักอ้างอิงเขตแดนร่วมกันของกองสนามจัดทําหลักเขตแดนไทย-มาเลเซีย ทั้ง 2 ฝ่าย บริเวณจุดถมหินในแม่น้ําโก-ลก บ้านกัวลอต๊ะ จังหวัดนราธิวาสนางสาวอัญชลี ดวงแก้ว เปิดเผยว่า ทั้ง 2 ประเทศมีความร่วมมืออันดีมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นกลไกทางด้านทหาร และพลเรือน โดยมีการยกเรื่องสําคัญขึ้นมาร่วมแก้ไขปัญหา ซึ่งประเด็นเร่งด่วนตอนนี้ คือ การแก้ปัญหาการขนส่ง การจราจรผ่านด่านพรมแดนสะเดา ที่เป็นประเด็นรถติดหน้าด่าน เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ข้ามด่านพรมแดนไม่ทันเวลาทําการ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ประเทศ จะมีการกลับไปหารือกันต่อไป
15/9/2023
ภาคใต้
สงขลา
สทท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915102441619
247,261
ภาคเอกชนตอบรับนโยบาย Visa free จากรัฐบาล พร้อมมีแผนเปิดเส้นทางการบินเพิ่ม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า นโยบาย Visa free ของรัฐบาลที่จะสามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย ทําให้นักท่องเที่ยวสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ที่ยังไม่เติบโตอย่างที่คาดหวังไว้ สําหรับสายการบินมีแผนกลับมาเปิดให้บริการ เส้นทางการบินเพิ่ม 2 เส้นทางสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ เส้นทางสมุย-ฉงชิ่ง และสมุย-เฉิงตู ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติทําการบินจากทางรัฐบาลจีน คาดว่าจะเริ่มทําการบินได้ในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้เป็นต้นไป เพื่อรองรับนโยบาย Visa free ให้กับนักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาลนอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทได้ให้บริการ 16 เส้นทางบินในประเทศ และ 5 เส้นทางระหว่างประเทศ โดยเส้นทางบินเป็นที่นิยมที่ได้กลับมาเปิดให้บริการคือกรุงเทพฯ-มัลดีฟส์ ซึ่งได้เริ่มให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา จํานวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915103100624
247,262
ทอท. ขานรับนโยบาย Visa Free ชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงมาตรการรองรับนโยบายเร่งด่วนเพื่อรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวของรัฐบาลว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ออกนโยบาย Visa Free ชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน เพื่ออํานวยความสะดวกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจากทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นนั้น ขณะนี้ ทอท. อยู่ระหว่างดําเนินการจัดเตรียม Slot การบินเพิ่มเติม โดยประสานงานกับสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัด Slot การบินรองรับเที่ยวบินช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้สายการบินจีนสามารถเพิ่มเที่ยวบินสู่ประเทศไทยได้มากที่สุด ทั้งปัจจุบันมี Slot ที่ว่างจากสายการบินอื่นคืนกลับมาและ Slot ที่จัดเพิ่ม คาดว่าจะมีจํานวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 15 รวมถึงการเจรจากับกองทัพอากาศในการขอเพิ่ม Slot ด้วยทางด้าน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด (บวท.)ได้สรุปปริมาณเที่ยวบินที่ให้บริการจราจรทางอากาศในเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่า มีปริมาณเที่ยวบินที่ให้บริการรวมทั้งสิ้น 64,973 เที่ยวบิน ประกอบด้วย เที่ยวบินภายในประเทศ 26,466 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศ 31,276 เที่ยวบิน เที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้าและอื่นๆ 7,231 เที่ยวบิน สําหรับปริมาณเที่ยวบินในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ยังมีปริมาณสูงกว่าทุกแห่ง ที่ 16,730 - 26,745 เที่ยวบิน ขณะที่ส่วนภูมิภาค ท่าอากาศยานภูเก็ตยังคงมีปริมาณเที่ยวบินสูงกว่าทุกแห่งที่ 7,471 เที่ยว
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915140456718
247,263
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำร่องติดตั้งตู้เติมเงิน “กะปุก” 200 ตู้ พบมีรายได้ 3-5 หมื่นบาทต่อปี คาดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 10 ล้านบาท
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เดินหน้าเพิ่มรายได้ให้กับร้านสมาร์ทโชห่วยอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มต่าง ๆ ในการเข้ามาสนับสนุนร้านค้า ซึ่งความร่วมมือที่กรมมองว่าประสบความสําเร็จโครงการหนึ่ง ที่ได้ดําเนินการในช่วงที่ผ่านมาคือ การร่วมมือกับบริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ AWS นําตู้เติมเงิน “กะปุก” ให้ร้านโชห่วยทั่วไทย ภายใต้แนวคิด “ขยายฐานลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใกล้บ้าน” นําร่อง 200 ตู้ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางการค้า เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ และเพิ่มเครื่องมือที่ช่วยในการแข่งขัน ทั้งนี้ จากการประเมินการให้บริการตู้กะปุก 1 ตู้ จะมีรายได้ประมาณ 30,000-50,000 บาท ต่อปี โดยรายรับมาจาก 2 ทาง คือ ค่าธรรมเนียมเติมเงิน เช่น เติมเงิน 20 บาท ค่าธรรมเนียม 2 บาท เป็นต้น และเปอร์เซ็นต์จากยอดเติมเงินที่จะได้รับจากเจ้าของเครือข่ายเติมเงินประมาณ ร้อยละ 2.7-3 โดยร้านสมาร์ทโชห่วยที่ติดตั้งตู้กะปุกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 100 บาท เป็นค่าบริหารจัดการรายเดือน ซิมโทรศัพท์ 50 บาท และค่าไฟตู้กะปุกประมาณ 50 บาท แต่เมื่อหักลบยอดระหว่างรายรับและรายจ่ายแล้ว ผู้ประกอบการยังคงมีรายรับที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการตู้กะปุก ซึ่งถือเป็นรายได้เสริม โดยคาดว่าทั้ง 200 ตู้ จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 10 ล้านบาทนอกจากนี้ กรมได้เดินหน้าโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส โดยได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรร่วมกันพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย หรือโชห่วยทั่วประเทศให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ด้วยการเข้าไปเพิ่มพูนความรู้ที่จําเป็นต่อการบริหารธุรกิจ ช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านค้า ให้สวย สะอาด สว่าง สะดวก สบาย นําเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ รวมทั้งช่วยเพิ่มรายได้ เช่น การติดตั้งเติมเงิน ตู้ให้บริการแบบหยอดเหรียญ เป็นต้น
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915141031725
247,264
ททท.ลำปาง จัดกิจกรรมสุดฟินช่วงกรีนซีซั่น “ชวนท้าเตียว 5,000 ก้าว อินย่านเก่า เล่าเรื่องเมืองลำปาง ซีซั่นสอง”
นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า จากกระแสตอบรับของผู้มีใจรักสุขภาพและการท่องเที่ยว ทาง ททท. สํานักงานลําปาง จึงได้จัดกิจกรรม “ชวนท้าเตียว 5,000 steps challenge 0 Carbon Emissions” เดินเที่ยวเพิ่มภูมิต้านโรค ดูแลสุขภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อม กับกิจกรรม “เดินเที่ยวสุดฟิน อินย่านเก่า เล่าเรื่องเมืองลําปาง” โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินครบ 5,000 ก้าว พร้อมเช็คอิน หรือรีวิวจุดที่ประทับใจ ในเส้นทาง สามารถแลกรับของที่ระลึกหมวกอะเมซิ่งสุดชิค จาก ททท.สํานักงานลําปาง (First Come First Serve) กิจกรรมเริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีให้เลือกทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเดินสุดฟิน อินบ้านเก่าย่านสบตุ๋ย 5,000 ก้าว เส้นทางเดินสุดฟิน อินบ้านเก่าย่านท่ามะโอ 5,000 ก้าว และเส้นทางเดินสุดฟิน อินบ้านเก่าย่านกาดกองต้า 5,000 ก้าว โดยมีรางวัลสําหรับผู้ชนะ Challenge หมวกอะเมซิ่งสุดชิค (ของรางวัลมีจํานวนจํากัด)วิธีการร่วมสนุกกิจกรรม สามารถรับแผนที่ “ลําปาง Walking Map” ได้ที่ ททท.สํานักงานลําปาง และ 1.เดินตามแผนที่เส้นทางที่ให้เลือก 1 ใน 3 เส้นทาง จํานวนการเดิน 5,000 ก้าว พร้อมบันทึกหลักฐานการเดิน (หลักฐานการเดิน อาทิ การจับระยะผ่านทาง smart watch หรืออุปกรณ์ติดตามการเดินต่างๆ) 2.โพสต์ภาพประทับใจในเส้นทางการเดินในสื่อออนไลน์ของผู้กิจกรรม 3.นําหลักฐานกรอกในการ Scan QR-code ส่งหลักฐานการร่วมกิจกรรม หรือที่ Link : https://forms.gle/UQeeeedBWtLj1tNm6 และ 4.รับรางวัลจากทาง ททท.สํานักงานลําปาง
15/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915115142661
247,265
อีอีซี เดินหน้าผลักดันเยาวชน อีอีซี สแควร์ สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการสํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยถึงกิจกรรมค่ายเยาวชน EEC2 CAMP & CONTEST ภายใต้ โครงการเสริมศักยภาพเครือข่ายเยาวชนสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี สแควร์ ว่า ได้เน้นย้ําให้เยาวชน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ สร้างความพร้อมให้เป็นเยาวชน อีอีซี ที่มีทักษะ สอดรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เยาวชนและครู ในพื้นที่ อีอีซี ทั้ง 3 จังหวัด ได้สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนา อีอีซี สร้างพลเมืองรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมามีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว 31 โรงเรียน มีการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ เช่น โครงการกําจัดน้ํามันในรูปอิมัลชันด้วยฟองอากาศ ของโรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา โครงการ EEC Plastic Free Zero Waste school โรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมป์ ชลบุรี และโครงการมาบตาพุดพันรักษ์สุชาดา โรงเรียนมาบตาพุดพันวิทยา ระยอง เป็นต้น รวมถึงเยาวชน ยังขยายผลสร้างความเข้าใจ อีอีซี และความตระหนักด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่บุคคลในโรงเรียนและชุมชนรอบข้างได้เป็นอย่างดี สําหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ครูและเยาวชนให้ความสนใจอย่างมาก และพร้อมจะนําประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายเยาวชน ไปทําโครงการจริง ซึ่งคณะกรรมการจะไปติดตามประเมินโครงการของทุกโรงเรียน ก่อนจะมีการประกาศผลรางวัลในปลายเดือนตุลาคม 2566 ต่อไป
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915140743723
247,266
เปิดตัวร้าน Lotus’s Pick & Go by True Digital ร้านค้าอัจฉริยะแบบไร้พนักงาน
นายสงกรานต์ เพ็ชรน้ําเขียว พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยหัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน และเจ้าหน้าที่สํานักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี เข้าร่วมเปิดตัวร้าน Lotus’s Pick & Go by True Digital ร้านค้าอัจฉริยะแบบไร้พนักงาน โดยนําเทคโนโลยี RetailTech ขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล ด้วย True Virgo AI แพลตฟอร์มค้าปลีกอัจฉริยะสร้างประสบการณ์ Shopping แบบสมาร์ทในยุคดิจิทัลที่ต้องการซื้อสินค้าแบบสะดวกรวดเร็ว โดยให้บริการเป็นแห่งแรก ณ โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี โดยมี นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นเกียรติเยี่ยมชม
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915134235692
247,267
รองผวจ.สุราษฎร์ธานีประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (กรอ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ครั้งที่ 6/2566
วันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น .ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (กรอ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ครั้งที่ 6/2566 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมพิจารณาเพื่อพิจารณาการร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชน ขอให้คงไว้สายการบินไทยสมายส์/การบินไทย และการยกระดับการประชาสัมพันธ์สื่อต่างๆ จากท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานีสําหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจจังหวัดสุราษฎร์ธานีในเดือนกรกฎาคม 2566 บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจ โดยรวมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีขยายตัว เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทั้งในด้าน อุปทานและอุปสงค์ โดยด้านอุปทานขยายตัวจากภาคบริการ เป็นสําคัญ สําหรับด้านอุปสงค์ ขยายตัวจากการใช้จ่ายภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชน เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงิน เฟ้อทั่วไปสูงขึ้น จากราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับสูงขึ้น การจ้างงานเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเศรษฐกิจด้านอุปทาน (การผลิต) พบว่า ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี ก่อน สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคบริการ ขยายตัวร้อยละ 63..74 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 24.92 จากจํานวนนักท่องเที่ยวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสมุย จํานวนผู้โดยสารผ่านสนามบินและภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรม ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 113.156.82 และ 245.89 ตามการท้องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้เยี่ยมเยือนของชาวไทยส่วนด้านรายได้เกษตรกรในจังหวัด พบว่า ร้ายได้เกษตรกรในเดือนกรกฎาคม 2566 หดตัวร้อยละ -9.79 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และหดตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -7.78 สะท้อนจากดัชนีราคาผลผลิตภาคเกษตรกรรมหดตัว ร้อยละ -18.44 เป็นผลจากการลดลงของราคาสินค้าเกษตรที่สําคัญ ได้แก่ ปาล์มน้ํามันเนื่องจากปริมาณผลผลิตในประเทศออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ํามันปาล์มดิบในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลงจากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ํามันของโลกที่สูงขึ้น ยางพารา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางพารา ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องลดลง.
15/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915130752672
247,268
“บีไอจี” ก้าวสู่ผู้นำ Climate Tech ชูศักยภาพคลีนไฮโดรเจน ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่คาร์บอนต่ำ ผลักดันประเทศให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero
นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จํากัด (BIG) เปิดเผยว่า บีไอจีพร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Climate Technology เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรที่สอดรับกับเป้าหมายของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และ Net Zero ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งขณะนี้เอง บีไอจี ก็ได้ลงมือทําไปแล้วมีความก้าวหน้าในการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิจากการลดใช้ไฟฟ้าในกระบวนการผลิตของเราได้กว่าร้อยละ 20 แล้วจากเป้าหมายร้อยละ 33 ในปี ค.ศ. 2030 เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ด้วย Climate Technology ในปี 2050 ซึ่งในปัจจุบัน บีไอจี เป็นผู้ผลิตไฮโดรเจนคาร์บอนต่ําเพื่อนํามาใช้ในงานพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ มีความเชี่ยวชาญทางด้านนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับไฮโดรเจน โดยบริษัทได้ใช้เทคโนโลยีจากบริษัทแม่คือ แอร์โปรดักส์ ที่เป็นผู้ผลิตไฮโดรเจนรายใหญ่สุดของโลกซึ่งกําลังมีโครงการใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 15,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการเกี่ยวกับไฮโดรเจนสีน้ําเงิน (Blue Hydrogen) และไฮโดรเจน สีเขียว (Green Hydrogen) ปัจจุบันมีความคืบหน้าโครงการไปแล้วกว่าร้อยละ 50 แล้ว และคาดว่าจะพร้อมใช้งานเต็มรูปแบบในปี ค.ศ. 2026-2027 นอกจากนี้ บีไอจียังได้พัฒนาอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ คือ สมาร์ทแพลตฟอร์มเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิและยังสามารถทําให้เกิดการแลกเปลี่ยนซื้อขายคาร์บอนเครดิตกับภาคส่วนต่างๆ จากทุกอุตสาหกรรม
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915140628722
247,269
รมว.แรงงาน ย้ำค่าแรงขั้นต่ำต้องมากกว่าเงินเฟ้อ เตรียมเร่งหารือ 3 ฝ่าย ภายในเดือน พ.ย. 66 ก่อนเคาะเป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้ใช้แรงงาน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ถึงประเด็นด้านแรงงาน โดยเฉพาะการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ํา ว่า ในวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาไม่ได้กําหนดอย่างชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอย่างไร เหมือนช่วงหาเสียง ในฐานะกระทรวงที่ดูแลเรื่องดังกล่าว จึงเร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ทั้งลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ เพื่อหาแนวทางให้ชัดเจนขึ้น และทุกฝ่ายต้องยอมรับได้ คาดว่าภายในเดือน พ.ย. 66 น่าจะมีข้อสรุป จากนั้นจะติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทยกับ ธปท. ว่า ณ ขณะนั้นตัวเลขอยู่ที่กี่ % โดยค่าแรงขั้นต่ําจะต้องปรับขึ้นให้สูงกว่าเงินเฟ้อ เมื่อเห็นชอบตัวเลขที่เหมาะสมแล้ว จะประกาศเป็นของขวัญปีใหม่ ปี 67 ให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานช่วงใกล้สิ้นปีนี้ส่วนนโยบายค่าแรง 400 บาท/วัน ยืนยันว่าจะไม่ปรับฐานเป็นค่าแรงขั้นต่ํา ซึ่งจะกระทบนายจ้าง และยังทําให้ SMEs ลดลง แต่จะจ่ายเป็น pay by skill ให้กลุ่มแรงงานที่ผ่านการอัพสกิลแล้ว โดยจะหารือ 3 ฝ่ายอีกครั้ง เพื่อลงรายละเอียดว่าจะเป็นแรงงานในภาคส่วนใด นอกจากนี้ ยังหารือประเด็นด้านแรงงานอื่น ๆ อาทิ การผลิตบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน , การแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย และการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว และการผลิตและพัฒนากําลังคน รวมถึงเตรียมผลักดันแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการบูรณาการระหว่างภาครัฐ-เอกชน ในการขับเคลื่อนนโยบายด้านแรงงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915141222726
247,270
ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล ชี้มุมมองเศรษฐกิจในพื้นที่จะฟื้นตัวได้เร็ว ต้องเกิดความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และบริการ
นายกฤษฎา อึ้งสกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล กล่าวถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจในจังหวัดสตูลขณะนี้ว่า ภายใต้ปัจจัยที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 7 % และราคาน้ํามันเชื้อเพลิงส่งผลต่อต้นทุนปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้น หากต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ต่อไปจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่ชัดเจนมากขึ้น ถึงแม้ในส่วนของราคาสินค้าที่เริ่มทยอยปรับราคาขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนยังตรึงราคาเดิมไว้ เพราะอยู่ในช่วงที่เสมือนภาวะเงินฝืดและภาวะเงินเฟ้อที่ย้อนแย้งกัน หรือที่เรียกว่า “Stagflation” ขณะเดียวกันกลุ่มรายได้ระดับปานกลางทยอยนําเงินเก็บมาใช้จ่ายในชีวิตประจําวัน เนื่องจากรายได้ที่ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลง เช่น ยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัด ที่ประสบกับปัญหาสภาพอากาศฝนฟ้าไม่เอื้ออํานวย ไม่สามารถกรีดยางได้ ประกอบกับราคายางพาราตกต่ํา แม้ราคาปุ๋ยจะปรับลดลงแต่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง สิ่งที่ภาครัฐต้องเร่งดําเนินการคือการเสริมสร้างความรู้แก่เกษตรกรสู่เกษตรกรมืออาชีพ และสร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรภายในจังหวัด ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจจังหวัดสตูลดีขึ้นได้ นอกจากนี้ สิ่งที่สะท้อนการลดลงของรายได้ของกลุ่มคนระดับกลาง ได้แก่ บ้านว่าง/อาคารให้เช่าที่ มีมากขึ้น ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวอยู่ในช่วง Low Season หรือ Green Season สิ่งที่รัฐจะขับเคลื่อน เศรษฐกิจภายในจังหวัด คือการวางแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวบนฝั่งอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นผลเร็วที่สุดควรควบคู่กับการยกระดับเกษตรกร SME โดยส่งเสริมการ ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หรือส่งเสริมให้เกิดการลงทุนโครงการใหญ่ในจังหวัด ซึ่งจะเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ในระยะยาวได้ ซึ่งต้องมีความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และบริการ สุดท้ายกลุ่มที่ภาครัฐควรให้ความสําคัญ ได้แก่ กลุ่มผู้ใช้แรงงานซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างมาก โดยจะต้องเร่งพัฒนาทักษะที่หลากหลายรองรับรูปแบบการทํางานที่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการหารายได้ และเพื่อให้เศรษฐกิจในจังหวัดหมุนเวียนได้ดีขึ้น
15/9/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915144224747
247,271
จังหวัดแพร่จัดงาน “ท้าเที่ยวแพร่ จิบกาแฟแม่ลัว” ส่งเสริมอาชีพของราษฎรบนพื้นที่สูง ผลักดันให้ชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยว
วันนี้ (15 ก.ย.66) เวลา 09.30 น. สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ที่เขตพัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงบ้านแม่ลัว ตําบลป่าแดง อําเภอเมือง จังหวัดแพร่ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ท้าเที่ยวแพร่ จิบกาแฟแม่ลัว” ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ และศักยภาพแรงาน กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาอาชีพกลุ่มผลิตกาแฟบนพื้นที่สูง ตามแนววิถีนิวนอร์มอล ตามแผนปฎิบัติราชการประจําปีของจังหวัดแพร่ และโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมบนพื้นที่สูง โดยศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแพร่จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนอาชีพของราษฎรบนพื้นที่สูง รวมถึงการผลักดันให้ชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยอาศัยกลไกทางด้านอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต และลักษณะภูมิสังคมของชุมชน และให้ราษฎรบนพื้นที่สูงเข้ามามีส่วนร่วม มีการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในพื้นที่ และการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ําทางสังคมให้ราษฎรบนพื้นที่สูง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนบ้านแม่ลัวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ก่อน-ป่าแม่สาย มี 300 ครัวเรือน อาชีพหลักของชาวบ้านคือ การเกษตร เช่น ปลูกเมี้ยง-หมักเมี่ยง ปลูกกาแฟ โดยกาแฟของบ้านแม่ลัวจะมี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์อาราบิก้า และโรบัสต้า ความโดดเด่นของกาแฟที่นี่คือ ปลูกบนดอยที่ความสูงจากระดับน้ําทะเล 1,000-1,300 เมตร และไม่ใช้สารเคมี ไม่มียาฆ่าหญ้า ไม่มีปุ๋ยเคมี ทําให้ได้รสชาติของกาแฟที่บางเบา เป็นรสธรรมชาติของกาแฟแท้ ๆ
15/9/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915143149738
247,272
กระทรวงพลังงาน ตรึงราคาก๊าซหุงต้มไม่เกินถังละ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อไปอีก 3 เดือน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 กันยายน 2566 ให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อไปอีก 3 เดือน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 นายพีระพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชนตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิง (กบน.) บริหารราคาขายปลีกก๊าซ LPG ผ่านกลไกกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิงต่อไปนอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. ได้มีมติเห็นชอบให้คงสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ํามันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วให้เป็นน้ํามันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ต่อไปอีก 3 เดือน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ ธพ. เรื่อง กําหนดลักษณะและคุณภาพของน้ํามันดีเซล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2566 ให้สอดคล้องกับการกําหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานประสานฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ํามันแห่งชาติ (กนป.) นําเสนอการกําหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล ทั้งนี้ กบง. อาจมีการทบทวนสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ํามันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วให้มีความเหมาะสม หากสถานการณ์น้ํามันปาล์มดิบภายในประเทศปรับลดลงและสต็อกน้ํามันปาล์มดิบมีแนวโน้มสูงขึ้นภายหลัง
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915155807780
247,273
กรมทางหลวงชนบท พบเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 2 จังหวัด สามารถสัญจรผ่านได้ พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดและเข้าซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสํานักบํารุงทาง รายงานถึงสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ว่ามีถนนทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 2 จังหวัด (เชียงใหม่, กาฬสินธุ์) ซึ่งได้รับผลกระทบ 4 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ ดังนี้- ถนนสาย กส.4027 - บ้านโพนสว่าง อ.เขาวง, นาคู จ.กาฬสินธุ์ กม.ที่ 5+600 - 5+612 (ผ่านได้) น้ําไหลกัดเซาะคอสะพานชํารุดเสียหาย- ถนนสาย กส.4066 - บ้านนาไคร้ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กม.ที่ 2+425 - 2+455 (ผ่านได้) น้ําไหลกัดเซาะคอสะพานชํารุดเสียหาย- ถนนสาย กส.4001 - บ้านโคกกลาง อ.นาคู, เต่างอย จ.กาฬสินธุ์ กม.ที่ 5+600 - 5+700 (ผ่านได้) น้ํากัดเซาะคันทางทรุดตัว ปิดช่องจราจร 1 ช่องทาง- ถนนสาย ชม.3052 - บ้านสบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ กม.ที่ 25+150 - 25+300 (ผ่านได้) น้ําไหลกัดเซาะไหล่ทางชํารุดเสียหาย น้ําไหลกัดเซาะคันทางบริเวณท่อลอดเดิมปัจจุบันแขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ และแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ ได้ติดตั้งป้ายเตือนเพื่อความปลอดภัย พร้อมระดมกําลังเจ้าหน้าที่ดําเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านได้ชั่วคราวก่อนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ทช. จะติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดและจะเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915162834815
247,274