Datasets:

pythainlp

/

prd_news_30112023

like 0

เทศบาลเมืองนราธิวาส กำหนดจัดงานประชันเสียงนกเขาชวา ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 39 ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 17 – 18 กันยายน 2566

เทศบาลเมืองนราธิวาส กําหนดจัดงานประชันเสียงนกเขาชวา ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 39 ประจําปี 2566 ในงานของดีเมืองนรา โดยกําหนดจัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 17 – 18 กันยายน 2566 ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (สวน ร.5) เทศบาลเมืองนราธิวาส โดยมีรายละเอียดดังนี้วันที่ 17 กันยายน 2566 กําหนดจัดประชันเสียงนกเขาชวา 4 ประเภทเสียง ได้แก่ เสียงใหญ่ เสียงกลาง เสียงเล็กและดาวรุ่ง ชิงถ้วยพระราชทานฯ และของรางวัลวันที่ 18 กันยายน 2566 กําหนดจัดประชันเสียงนกเขาชวา 4 ประเภทเสียง ได้แก่ รวมเสียง ดาวรุ่ง เบบี้ 1 และเบบี้ 2 ชิงถ้วยเกียรติยศและของรางวัล พร้อมลุ้นรางวัลเสารอกนก 90 รางวัล บัตรเสารอกนก 400 บาท ทุกประเภทเสียงรางวัลเสารอกนก จํานวน 90 รางวัลรถจักรยานยนต์ จํานวน 11 รางวัลสร้อยคอทองคํา 1 สลึง จํานวน 10 รางวัลสร้อยคอทองคําครึ่งสลึง จํานวน 10 รางวัลเตาไมโครเวฟ จํานวน 15 รางวัลพัดลมสไลด์ ขนาด 16 นิ้ว จํานวน 44 รางวัลโดยกําหนดการซ้อมใหญ่ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2566 เวลา 06.00 น. ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (สวน ร.5) ชิงรางวัล 39 รางวัล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สํานักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส หมายเลขโทรศัพท์ 0 7351 5825 ทุกวัน ในเวลาราชการสําหรับเส้นทางเข้าสนามประชันเสียงนกเขาชวาฯ สามารถเข้าได้เพียง 1 ช่องทาง คือ ถนนชาญอุทิศ (สถานีวิทยุ 912) อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยวันแรกสามารถนํารถยนต์ไปจอดภายในสวนสาธารณะได้ตามเส้นทางที่แจ้งไว้หน้าเพจเทศบาลเมืองนราธิวาส ส่วนวันที่ 2 หลังจากเวลา 07.00 น. จะไม่สามารถเข้าสู่สนามได้

4/9/2023

ภาคใต้

นราธิวาส

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904152409705

นายก อบจ.ตรัง เตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักร ในการออกให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะอุทกภัย เนื่องจากที่จังหวัดตรัง ได้รับผลกระทบมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง และเกิดเหตุต้นเงาะล้มฟาดบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย

จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนในหลายจังหวัดจะประสบปัญหาฝนตกต่อเนื่อง อาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลาก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา และบริเวณริมฝั่งแม่น้ํา เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากมรสุมกําลังแรงพาดผ่านทางด้าน นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการเกิดอุทกภัย ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมถึงทรัพย์สินสาธารณะ พังเสียหาย และในช่วงนี้จากการที่มรสุมกําลังแรงพาดผ่าน ทําให้ในพื้นที่จังหวัดตรัง เกิดภาวะฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ได้เตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักร เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะเกิดเหตุ และเข้าฟื้นฟูหลังจากเกิดเหตุ ซึ่งมีการเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรตลอด 24 ชั่วโมง หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งได้ทันที และจากการที่เกิดฝนตกลงมาติดต่อกัน เมื่อคืนนี้ทําให้ต้นเงาะล้มฟาดใส่หลังคาบ้าน เลขที่ 76/1 ม 1 ต ควนปริง อ เมืองตรัง จ.ตรัง ทําให้ได้รับความเสียหาย ทางด้านเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตําบลควนปริง อําเภอเมืองตรัง ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว

4/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904153157707

ตรัง-โกยุก เมนูเชิดชูอาหารถิ่นตรังเอกลักษณ์ท้องถิ่นแท้จริง

โกยุก เกายุก เมนูเชิดชูอาหารถิ่น จ.ตรัง ที่ผู้คนยอมรับเอกลักษณ์ท้องถิ่นแท้จริง ปัจจุบันไม่เฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองตรังเท่านั้นที่รู้จัก แต่โกยุกเป็นเมนูอาหารขึ้นโต๊ะประจํางานเลี้ยง ทั้งงานศพ งานแต่ง และงานทั่วไป ที่เกือบทุกงานทําเลี้ยงแขก ด้านลูกค้าที่มาจากต่างจังหวัด ยอมรับว่าชอบโกยุก หรือเกายุก เมืองตรังมาก หากมารับประทานอาหารเช้าเมืองตรัง จะสั่งเมนูประจําคือ หมูย่าง เกายุก ปอเปี๊ยะหมูย่าง จึงเห็นด้วยว่า “ โกยุก” เหมาะสมที่ได้รับการประกาศเป็นเมนูเชิดชูอาหารถิ่นจ.ตรัง เพราะรสชาติไม่เหมือนที่ใด ของจ.ตรังอร่อยที่สุดตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรมประกาศรายชื่อผลคัดเลือก "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" ภายใต้โครงการการส่งเสริม และพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste ประจําปีงบประมาณ 2566 โดย “ โกยุก” หรือออกเสียงได้อีกหลายชื่อ ทั้ง เกาหยุก เค้าหยก หรือเกาหยก เป็นเมนูอาหารประจําถิ่นที่ได้รับการประกาศชื่อ เป็นเมนูเชิดชูอาหารถิ่น จ.ตรัง ประจําปีนี้ โดยเมนูอาหารชนิดนี้ เป็นภาษาที่เรียกแตกต่างกันไปของชาวไทยเชื้อสายจีน ถือเป็นอาหารที่ชาวจีนกวางตุ้งนิยมปรุงขึ้นโต๊ะในงานเลี้ยงพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานศพ งานแต่งงาน งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ งานทั่วไป ซึ่งปัจจุบันมีการทําเมนูนี้เลี้ยงแขกแทบจะทุกงาน เพราะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อ อร่อย และราคาค่อนข้างแพง โดยทําจากหมูสามชั้น ทั้งนี้ เมนูโกยุกนี้ นอกจากงานเลี้ยงต่างๆจะไม่ขาดแล้ว อีกหลายร้านในจ.ตรังก็มีการทําโกยุกขาย แต่ทั้งนี้ บอกให้รับทราบโดยทั่วกันว่า ไม่ได้หมายความว่าเข้าไปนั่งในร้านอาหารที่ จ.ตรัง แล้วจะสั่งเมนู “โกยุก”ได้ทุกร้าน เหมือนการสั่งเมนูอาหารตามสั่งทั่วไปได้ เพราะโกยุกมีขั้นตอนการทําหลายขั้นตอนกว่าจะสําเร็จยกออกเสิร์ฟหรือขายให้กับลูกค้าได้ ต้องใช้ขั้นตอนการทํานานหลายชั่วโมง หรืออาจข้ามวัน จึงสั่งได้เฉพาะร้านที่เปิดตัวว่า มีเมนู “ โกยุก” ขายเท่านั้น จึงจะสั่งได้ เพราะนั่นหมายความว่าทางร้านเตรียมเมนูนี้ไว้พร้อมสําหรับการจําหน่ายแล้วเท่านั้นโดยที่ร้านโกสุยหมู่ย่างติ๋มซําเมืองตรัง ถนนห้วยยอด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง เป็น 1 ในไม่กี่ร้านติ๋มซํายามเช้าที่มีเมนู “ โกยุก” ขาย โดยทางร้านได้ทําขายมายาวนานแล้ว ควบคู่กับเมนูอาหารเช้าแบบชาวตรัง ทั้งหมูย่าง ติ๋มซํา หมี่ ข้าวต้ม โจ๊ก ขนมจีน บะกู๊ดเต๋ ปอเปี๊ยะหมูย่าง ซาลาเปาหมูย่าง เป็นต้น โดยเฉพาะข้าวหมูย่าง, ข้าวหมูย่างแกงกะหรี่ไก่, ข้าวหมูย่างเกายุก และข้าวเกายุกแกงกะหรี่ไก่ เป็นเมนูที่ขายดีมาก ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และหลังจากปรากฏชื่อเป็น 1 ในเมนูเชิดชูถิ่น จ.ตรัง ตอนนี้ก็ยิ่งสั่งเข้ามาเยอระมาก นอกจากนั้นโกยุก ทางร้านยังส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ เช่นเดียวกับหมูย่างทั้งนี้ นายสัมพันธ์ ยิ้วเหี้ยง เจ้าของร้านหมูย่างโกสุ่ย ได้สาธิตวิธีการทําโกยุกให้ดู และยืนยันว่าสมค่า สมราคาที่ได้รับการคัดเลือก “โกยุก เป็น 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่นจ.ตรัง” เพราะขั้นตอนวิธีการทําที่ยุ่งยาก ต้องใช้เวลาเตรียมวัตถุดิบนานข้ามวัน ส่วนประกอบมีดังนี้ คือ หมูสามชั้น , เผือกหอม, เต้าหู้ยี้ เห็ดหอม หอมกระเทียมสับละเอียด เครื่องพะโล้ ขิง เครื่องปรุงต่างๆ เป็นต้น วีทําหลายขั้นตอน ตั้งแต่คัดหมูสามชั้น ตัดเป็นแผ่นขนาดใหญ่ นําไปต้มพอให้หนังเริ่มสุก ไม่ให้สุกทั้งแผ่น จากนั้นพักไว้ แล้วใช้ส้อม จิ้มลงบริเวณแผ่นหนังของหมู เพื่อเวลานําลงผัดกับเครื่องจะได้เข้าเนื้อได้ทั่วถึง หั่นออกเป็นชิ้นใหญ่ๆ สี่เหลี่ยม จากนั้นคลุกด้วยซีอิ้วดําเล็กน้อย แล้วทิ้งไว้สัก 10 นาที จังหวะนั้น นําเผือกที่หั่นเป็นแผ่นๆขนาดพอดี นําไปทอดในน้ํามันพอสุก ตักขึ้นพักไว้ แล้วนําหมูสามชั้นไปทอดในน้ํามัน พอให้สุก หนังสีเหลือง ตักขึ้น แล้วนํามาหั่นเป็นชิ้นยาวๆตามความยาวของชิ้นที่นําไปทอด เตรียมไว้ ส่วนเครื่องปรุง โดยเฉพาะเครื่องพะโล้ที่เป็นชิ้นๆ ไม้ หรือเป็นดอก ต้องนําใส่ผ้าขาวมัดให้แน่น จากนั้นนําหอมกระเทียมสับละเอียดลงไปผัดในน้ํามัน ใส่เต้าหู้ยี้ลงไปผัด จากนั้นจึงนําหมูที่หั่นชิ้นไว้ลงไปผัด เคี่ยวใช้เวลานาน เพื่อให้เนื้อหมูเข้าเครื่อง จึงจะใส่นําผ้าขาวมัดที่ภายในคือ เครื่องพะโล้ใส่ตามลงไป ตามด้วยเห็ดหอม ผัดต่อไปอีกระยะเติมเครื่องปรุงต่างๆ จากนั้นใส่เผือกหอมที่ทอดไว้ลงไปส่วนหนึ่ง ผัดต่อไปอีกสักระยะให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าเนื้อกันทั้งหมด จากนั้นปิดฝากระทะ เพื่อนึ่งต่อไปอีกประมาณ 40 นาที เพื่อให้เผือกหอมและเนื้อหมูรวมทั้งส่วนผสมทั้งหมดเข้าเนื้อกันกัน ก็จะได้เมนู โกยุกที่หอมอร่อย เก็บไว้ได้นานในตู้เย็น เมื่อจะรับประทาน หรือจะขาย ก็สามารถนํามาอุ่น เติมเผือกหอมทอดลงไปโรยหน้าด้วยผักชี ก็จะได้เมนูโกยุกชื่อดังของ จ.ตรัง นายสัมพันธ์ ยิ้วเหี้ยง เจ้าของร้านโกสุยหมูย่างติ๋มซําเมืองตรัง บอกว่า จ.ตรัง มีหมูย่างเมืองตรังซึ่งเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ที่ขึ้นชื่อของ จ.ตรังอยู่แล้ว มาครั้งนี้ดีใจและเห็นด้วยที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรมประกาศผลคัดเลือก "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" ภายใต้โครงการการส่งเสริม และพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย จ.ตรัง คือ เมนู “โกยุก “ เพราะโกยุก หรือเรียกได้หลายชื่อ เช่น เกาหยุก เกายุก เกาหยก เป็นอาหารที่น่าจะมาพร้อมกับชาวจีนสมัยก่อนที่อพยพมาอยู่จ.ตรัง ก็นําเมนูอาหารนี้มาเผยแพร่ด้วย เพราะตั้งแต่เด็กตนเองก็รู้จักเกายุกแล้ว น่าจะสืบทอดมานับ 100 ปีแล้ว สมัยก่อนนิยมแต่เฉพาะคนจีนในเมืองตรัง แต่ขณะนี้เกือบทุกงานทั้งในเมือง และตามชนบทหมู่บ้านต่างๆ งานแต่ง งานศพ งานเลี้ยงทั่วไป งานขึ้oบ้านใหม่ งานบวช ก็จะมีเกายุกด้วย และทําท่าจะโดดเด่นกว่าหมูย่าง และรสชาติของจ.ตรังยังเป็นแบบดั้งเดิม อร่อยกว่าจังหวัดอื่นที่พบเห็น ส่วนที่ร้านจะขายเป็นเมนูประจําควบคู่กับหมูย่าง แต่ละครั้งทําไว้ประมาณ 5 กก. เพื่อเอาไว้ขายที่ร้าน และขายออนไลน์ และรับทําตามออเดอร์ของลูกค้าที่สั่งเข้ามาด้วย โดยส่งขายทั่วประเทศเช่นเดียวกับหมูย่างด้วยการซีลสูญญากาศ ราคาขาย ถ้าราดข้าวเกายุกแกงกะหรี่ไก่ จานละ 60 บาท ถ้าสั่งเป็นกิโลกรัมขายกก.ละ 500 บาท หากราคาหมูลดลงก็ปรับราคาลง แต่หากขายเป็นกล่องๆละ 100,120,150 และกล่องใหญ่ 200 บาท ที่ผ่านมาส่งขายทั่วประเทศ และมีลูกค้าประจําเป็นเถ้าแก่ต่างจังหวัดเวลามีงานเลี้ยงพนักงาน ก็จะสั่งครั้งละ 5 -10 กก. ส่วนที่ร้านก็ขายดี และหลังมีชื่อเป็นเมนูเชิดชูอาหารถิ่นตรัง ปรากฏว่าออเดอร์ออนไลน์ในเมืองสั่งไม่ขาดสาย รวมทั้งคนมานั่งทานที่ร้าน ก็จะสั่งตลอด พร้อมระบุว่า โกยุก ไม่ใช่เป็นเมนูที่จะสั่งได้ตามร้านอาหารทั่วไป เพราะขั้นตอนการทํายุ่งยากหลายขั้นตอน หากใครสั่งทําให้ได้แต่รสชาติจะเป็นแบบหมูผัด ไม่ใช่เกายุก นอกจากนั้น จังหวัดตรัง ยังมีเมนูอาหารที่โดดเด่นอีกหลายชนิด เช่น หมี่หนําเหลี่ยว หรือหมี่น้ําหล่อ ก็เป็นอาหารถิ่นประจําจังหวัดตรังด้วย ส่วนผสมเส้นหมี่เหลืองลวก ก็น่าจะยกให้เป็นเมนูประจําถิ่นได้ด้วย ทั้งนี้ หากใครสนใจสั่งซื้อหมูย่าง โกยุก หรือเกายุก ติอตามสั่งได้ที่เฟสบุ๊ก Sampan Yewhieng หรือหมายเลขโทรศัพท์ 091-5288194ด้านนางเพ็ญศรี ตันติสุทธิเวทย์ ชาว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่มาพร้อมสามี โดยไปหาเพื่อนที่จ.พัทลุง พอตอนเช้ารีบมารับประทานอาหารเช้าชาวตรัง ก็แวะซื้อหมูย่าง บอกว่า ตนเองพร้อมสามี มักขับรถเที่ยวมารับประทานอาหารเช้าเมืองตรังบ่อยครั้ง เมนูที่สั่งทุกครั้งที่มาคือ หมูย่าง เกายุก ปอเปียะหมูย่าง ซึ่งเกายุกเมืองตรังไม่เหมือนที่อื่นจะอร่อยมาก เคยไปทานที่จังหวัดอื่นด้วย แต่ไม่อร่อย ของจังหวัดน่าจะเป็นของแท้ดั้งเดิม รสชาติอร่อยไม่เหมือนที่ไหน จึงชอบซื้อ เห็นด้วยที่ถูกประกาศให้เป็นเมนูเชิดชูอาหารถิ่นจ.ตรัง

4/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904160146725

จังหวัดตราด ประชาสัมพันธ์ ราคากลางกุ้งขาวแวนนาไมจังหวัดตราด ในช่วงวันที่ วันที่ 1 -15 ก.ย. 66 สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้าร่วมกิจกรรมเชื่อมโยงการจำหน่ายกุ้ง

(4 ก.ย. 66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดตราดได้ดําเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดตราด เพื่อเชื่อมโยงการจําหน่ายกุ้งให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง โดยสนับสนุนเป็นค่าชดเชยส่วนต่างราคาในอัตราไม่เกิน กิโลกรัมละ 20 บาท ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้าร่วมโครงการฯ ในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2566 ตามเป้าหมายของโครงการฯ โดยจังหวัดตราดได้ดําเนินการรับสมัครและประกาศรายชื่อเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่มีคุณสมบัติและผ่านหลักเกณฑ์ตามที่โครงการฯ กําหนด รวมทั้งกําหนดราคากลางกุ้งขาวแวนนาไม จังหวัดตราด เพื่อใช้ประกอบการดําเนินโครงการฯ ดังกล่าว เสร็จเรียบร้อยแล้ว นั้นจังหวัดตราด ขอประชาสัมพันธ์ประกาศจังหวัดตราด ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2566 เรื่อง ราคากลางกุ้งขาวแวนนาไมจังหวัดตราด สําหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้าร่วมกิจกรรมเชื่อมโยงการจําหน่ายกุ้ง ภายใต้โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดตราด เพื่อใช้สําหรับสนับสนุนค่าชดเชยส่วนต่างราคาให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้าร่วมโครงการฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 - 15 กันยายน 2566 ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบโดยทั่วกัน

4/9/2023

ภาคตะวันออก

ตราด

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904160048724

วัดเทพประทาน ( อธิพร ) อำเภอสอยดาว จังหว้ดจันทบุรี จัดงานทอดกฐินสามัคคีมหากุศล ประจำปี 2566

ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมทอดกฐินสามัคคีมหากุศล ประจําปี 2566 ณ วัดเทพประทาน ( อธิพร )อําเภอสอยดาว จังหว้ดจันทบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรวบรวมปัจจัยจัดตั้งกองทุนสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา”

4/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

หน่วยงานสำนักข่าว

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904164528747

จังหวัดกำแพงเพชรร่วมกับชมรมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2518 ปลูกต้นจามจุรี ตามโครงการรักษ์จามจุรี (ทรงปลูก)

วันนี้ (4 ก.ย.66) เวลา 11.00 น. ที่อุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร เป็นประธานพิธีปลูกต้นจามจุรี โครงการรักษ์จามจุรี (ทรงปลูก) เพื่อให้ต้นจามจุรี (ทรงปลูก) คงอยู่คู่คนไทย โดยมี นางดวงกมล ยุทธเสรี ผอ.สํานักงานศิลปากรที่ 6 สุโขทัย, นายบัณฑิต ทองอร่าม หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชร, นางสาวนุชรินทร์ภัทร์ ธีระบุญยะ วัฒนธรรมจังหวัดฯ, หัวหน้าส่วนราชการ, ชมรมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2518 และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี มีนางสาวดารุณี ธรรมโพธิ์ดล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม ชมรมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ.2518 กล่าวรายงานทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2505 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดําเนิน ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระราชทานต้นจามจุรี และทรงปลูกด้วยพระองค์เอง พร้อมทั้งมีพระราชดํารัสว่า “ ห้าต้นนี้ได้เลี้ยงตั้งแต่เกิด คือว่าปีที่แล้วไปที่หัวหินแล้วก็ปลูกต้นไม้ พวกนี้ก็เกิดมาด้วย เมื่อเกิดมาแล้วสงสารก็ต้องเลี้ยง เลี้ยงจนเติบโตพอควรก็เห็นว่าโตแล้ว ควรเข้ามหาวิทยาลัยเสียที จึงขอฝากต้นไม้ไว้ห้าต้น ให้เป็นเครื่องเตือนใจตลอดกาล”โดยชมรมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2518 ได้จัดทําโครงการ “รักษ์จามจุรีทรงปลูก” เพื่อให้ต้นจามจุรีทรงปลูก คงอยู่เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจตลอดกาล โดยการขยายพันธุ์ต้นลูกจามจุรีทรงปลูก ให้กระจายออกไปในหลายๆ พื้นที่ เพื่อสร้างความร่มเย็นทั่วไทย โดยได้ขอความร่วมมือหน่วยงาน องค์การ สถาบันการศึกษาในทุกจังหวัด ช่วยสนับสนุนการปลูกต้นจามจุรีที่เพาะเมล็ดพันธุ์ต้นทรงปลูก ให้ต้นจามจุรีงอกงามแก่ประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ทางโครงการดังกล่าว ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของอุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชร ที่เป็นแหล่งมรดกโลกที่สําคัญ จึงได้นําต้นลูกจามจุรีทรงปลูก มาขยายพันธุ์ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชร เพื่อให้ชาวกําแพงเพชรสืบไม้งาม จามจุรีทรงปลูกร่วมกันด้านนายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทาน และทรงปลูกต้นจามจุรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมสืบสานพระปณิธาน ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นแบบอย่างของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งทั่วโลกได้ตระหนักรับรู้ ดังจะเห็นได้จากองค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันดินโลก และด้วยความตระหนักในคุณค่าความสําคัญของการปลูกต้นไม้ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติต่อไป

4/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กำแพงเพชร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904170049750

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการบูรณาการระหว่างหน่วยงานของรัฐและส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือด้านจริยธรรม

วันที่ 4 กันยายน 2566 สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการบูรราการระหว่างหน่วยงานของรัฐและส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือด้านจริยธรรม โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการสัมมนา ที่โรงแรมพูลแมนขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ร้อยตํารวจโท สุทธิมา พิพัฒน์พิบูลย์ รองเลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า การสัมมนาเชิงปฏิบัติการการบูรณาการระหว่างหน่วยงานของรัฐและส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือด้านจริยธรรม ในส่วนภูมิภาคในครั้งนี้จัดที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับคณะกรรมการจริยธรรมและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมธรรมาภิบาลและการป้องกันการทุจริตประจํากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการคณะกรรมการจริยธรรมและผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มงาน คุ้มครองจริยธรรม มีรูปแบบวิธีการแนวทางในการดําเนินงาน ด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้กับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในส่วนราชการ โดยสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหัวหน้าสํานักงานจังหวัดขอนแก่นเป็นวิทยากรในการส่งเสริมจริยธรรมในพื้นที่ รวมทั้งมีการอภิปรายกลุ่มร่วมมือ รวมพลัง ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมข้าราชการไทย โดยมีวิทยากรจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายจากคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม จากส่วนท้องถิ่น ผู้อํานวยการศูนย์คุณธรรมและผู้เชี่ยวชาญจากสํานักงาน ป.ป.ช. มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคณะกรรมการจริยธรรมประจําจังหวัด การรับฟังความคิดเห็นแนวทางการขับเคลื่อนงานด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมธรรมาภิบาล การป้องกันการทุจริตประจํากลุ่มจังหวัด การจัดทําแนวทางการบูรณาการ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมธรรมาภิบาล และการป้องกันการทุจริตประจํากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเหนือ โดยการสัมมนาดังกล่าวมีหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการจริยธรรม และผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มงาน คุ้มครองจริยธรรม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมสัมมนา จํานวนกว่า 150 คน

4/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอนแก่น

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904171007753

จังหวัดปราจีนบุรี จัดพิธีมอบใบปริญญาชีวิต ตามโครงการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

วันนี้ (4 ก.ย.66) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมเทศบาลตําบลโพธิ์งาม ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจํานงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธีมอบใบปริญญาชีวิต แก่นักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตําบลโพธิ์งาม รุ่นที่ 2/2566 โดยการดําเนินการจัดโครงการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในตําบลโพธิ์งามขึ้น การดําเนินการของโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตําบลโพธิ์งามจึงเป็นการจัดการศึกษาอีกรูปแบบ ที่ต้องการให้ผู้สูงอายุมีความรู้ มีความเข้าใจในเรื่องที่มีความสําคัญต่อการดําเนินชีวิต เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

4/9/2023

ภาคตะวันออก

ปราจีนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904210433791

อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี จับมือภาคเอกชน บริษัท TCP และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมพาประชาชนโหลดแอปไทยดี แลกน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ

วันนี้ (4 ก.ย.66) เวลา 13.00 น.นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอําเภอบ้านสร้างได้เร่งทํางานเชิงรุก ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD ผ่านกลไกต่างๆ อาทิ ผู้นําท้องถิ่น ฝ่ายปกครองท้องที่ และปลัดอําเภอ ที่เดินหน้าพาประชาชนดาวน์โหลดทั้งในวัด โรงงาน โรงเรียน ชุมชน เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นายอําเภอบ้านสร้าง จึงได้ผุดไอเดีย จับมือบริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จํากัด จัดแคมเปญ "โหลดแลกน้ํา โหลดแอป ThaId แถมสุขภาพดี" เดินหน้าเชิงรุก ลุยทุกหมู่บ้าน พาประชาชนดาวน์โหลดแอปฯไทยดี พร้อมแจกเครื่องดื่มวิตามินเพื่อสุขภาพ (แมนซั่ม)โดยในช่วงบ่ายวันนี้ นายอําเภอบ้านสร้างจึงได้จูงมือผู้นําท้องที่ ท้องถิ่น สัญจรจัดเวทีประชาสัมพันธ์ข้อราชการ นโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน อาทิ การลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พร้อมพาลงทะเบียนแอปฯ ไทยดี แลกน้ําดื่มวิตามินให้ประชาชน ม.3 ต.บ้านสร้าง และจะเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง

4/9/2023

ภาคตะวันออก

ปราจีนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904210740792

พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการดำเนินการบริหารจัดการมันสำปะหลัง จังหวัดนครราชสีมา

วันนี้ (4 ก.ย.66) เวลา 13.30 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการกํากับดูแลการดําเนินการบริหารจัดการมันสําปะหลัง จังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพิจารณารับรองข้อมูลการขอชดเชยดอกเบี้ยของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสําปะหลัง ปี 2564/65 ซึ่งสํานักงานเกษตรจังหวัดได้รายงานสถานการณ์การผลิตสําปะหลังจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสใบด่างมันสําปะหลังจังหวัดนครราชสีมาการเฝ้าระวัง ป้องกัน กําจัด และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร

4/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904230613796

โคราช ปักธงจัดประกวดภาพยนตร์ Korat Film Festival 2023 สุดยิ่งใหญ่ หวังโปรโมทเมืองหญิงกล้า ผ่านสื่อภาพยนตร์ สู่สายตาเวทีระดับโลก

วันนี้ (4 ก.ย.66) ณ ห้อง Cen’za Strider ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช จังหวัดนครราชสีมา, Korat Creative Content Agency (KCCA), รุ่งสีมาภาพยนตร์, FACA RMUTI, CLASS CAF?, KMP และศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช จัดงานแถลงข่าว Korat Film Festival 2023 โครงการประกวดภาพยนตร์ โคราช ปี 2566 โดย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สมาชิกสภาผู้ราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 1 นายปิยชาติ รุจิพรวศิน สมาชิกสภาผู้ราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 2 คุณศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์ สมาชิกสภาผู้ราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 3 คุณมารุต ชุ่มขุนทด CEO แบรนด์ร้านกาแฟ Class Caf? คุณกานต์พิชชา พงศ์กุลพัฒน์ ผู้ดูแลโครงการ KCCA - KFF คณะกรรมการจัดงาน และคุณนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติ ผู้ที่สนใจในการสร้างภาพยนตร์ นักเรียน นักศึกษา รวมถึงสื่อมวลชนจากทุกแขนงให้ความสนใจในครั้งนี้เป็นจํานวนมาก Korat Film Festival 2023 โครงการประกวดภาพยนตร์ โคราช ปี 2566 เป็นกิจกรรมที่ทาง Korat Creative Content Agency (KCCA) เดินหน้าส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ ผ่านการบอกเล่าภาพเคลื่อนไหวในสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือว่าแต่ละสถานที่ของเมืองโคราชมีเสน่ห์ที่บ่งบอกถึงความเป็น อัตลักษณ์เฉพาะ แสดงถึงบริบทวิถีวิถีชีวิตของชาวบ้านอาหารท้องถิ่นมีเอกลักษณ์มากมาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดผ่านโครงการประกวดภาพยนตร์ ในรูปแบบต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ ต่อยอดจากชุมชน อําเภอ จังหวัด ประเทศ และสู่สายตาในระดับเวทีโลก World Film และเวทีนอกประเทศอื่นๆ ต่อไปทั้งนี้ Korat Creative Content Agency (KCCA) ยังเป็นจุดแรกที่ส่งเสริมในเรื่องของการ สร้างภาพยนตร์สู่อาชีพได้อย่างยั่งยืน การประกวดครั้งนี้หวังที่จะสร้างคนครีเอทีฟ นักคิด นักเขียน นักถ่ายทอดรวมถึงเป็นการสนับสนุนน้องๆ ครูอาจารย์นักศึกษาโดยเริ่มจาก 4 มหาวิทยาลัยเมืองโคราช อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน, มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี สุรนารี และมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลโดยเริ่มจากคนที่รักภาพยนตร์ นําเสนอผ่านหลากหลายช่องทางในยุคดิจิตอล สร้างเมืองโคราชเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ และคอนเท้นท์ต่างๆสร้างสรรค์ผ่าน Soft Power ให้ได้รับการยอมรับระดับประเทศ และสากลบนทุกแพลตฟอร์มในอนาคตอย่างยั่งยืน

4/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230904232326804

จังหวัดอุดรธานี พร้อมจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ในปี 2569

สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รับแจ้งจากนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ว่า ด้วยสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ (AIPH) มีมติตกลงตามข้อเสนอของประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2569 ณ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570 โดยใช้ชื่องานว่า “งานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ. 2569”ทางจังหวัดอุดรธานี จึงขอประชาสัมพันธ์การจัด “งานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ. 2569” ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับทราบและเตรียมตัวมาเที่ยวมาชมงานดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์พืชสวนโลก โทร. 0 4224 4394 ต่อ 124

5/9/2023

ภาคเหนือ

แพร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905100118831

พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี รับสมัครร้านอาหารธงฟ้า พร้อมตรวจเยี่ยมและสนับสนุนอุปกรณ์ให้กับร้านค้าธงฟ้า เพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการบริโภคร้านอาหารปรุงสำเร็จในราคาประหยัด

นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ลงพื้นที่รับสมัครร้านอาหารธงฟ้าในพื้นที่อําเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี คุณภาพดี ตามหลักเกณฑ์ “อร่อย คุณภาพดี สะอาด ประหยัด” สามารถช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าครองชีพได้ โดยมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาเจ๊สายพิณ ตําบลท่าตะคร้อ อําเภอหนองหญ้าปล้อง ร้านอาหารสมัครเข้าร่วมโครงการร้านอาหารธงฟ้า พร้อมตรวจเยี่ยมและสนับสนุนอุปกรณ์ให้กับร้านค้าธงฟ้าที่เคยสมัครเข้าร่วม จํานวน 4 ร้าน สําหรับร้านอาหารที่สมัครเข้าร่วมเป็นร้านอาหารธงฟ้า จะได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์และโครงการอบรมต่างๆรวมทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารที่สนใจสมัครเข้าร่วมเป็นร้านอาหารธงฟ้าได้ที่ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โทร 06-5510-1936

5/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905110954864

ผอ.สวท.อุดรธานี นำทีมงานถ่ายทอดเสียงงานแถลงข่าว การปั่นจักรยานทางไกลระดับโลก

นายกิตติพงษ์ ถวายชัย ผอ.สวท.อุดรธานี ได้นําเจ้าหน้าที่ สวท.อุดรธานี เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว ร่วมงานแถลงข่าว การปั่นจักรยานทางไกลระดับโลก หรือ L’ ETAPE UDON THANI BY TOUR DE FRANCE 202 ได้เริ่มถ่ายทอดเสียงการแถลงข่าวการปั่นจักรยานทางไกลระดับโลก ฯ ผ่านคลื่น FM. 91.25 MHz. สวท.อุดรธานี และผ่านดังกล่าวฯโดยเริ่มปั่นจาก ซุ้มประตูพระธรรมวิสุทธิมงคล (ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์) วัดป่าบ้านตาด ไปจนถึงบริเวณวัดป่าบ้านตาดเพื่อร่วมพิธีทําบุญตักบาตร และปั่นต่อไปจนถึงบริเวณพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์หลวงตามหาบัว

5/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อุดรธานี

สวท.อุดรธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905110628862

กรมเจ้าท่า กำหนดเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาเพื่อกำหนดพื้นที่มีศักยภาพเหมาะสมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการขนส่งทางน้ำบริเวณแม่น้ำ ชายฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ที่จังหวัดตราด

(5 ก.ย. 66) นายสุรชัย บุรพานนทชัย ผู้อํานวยการสํานักแผนงาน กรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ตามที่กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาฯ ประกอบด้วย บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จํากัด บริษัท ทรานส์คอนซัลท์ จํากัด บริษัท เอ 21 คอนซัลแตนท์ จํากัด และบริษัท อินฟรา พลัส คอนซัลดิ้ง จํากัด ดําเนินงานโครงการศึกษาเพื่อกําหนดพื้นที่มีศักยภาพเหมาะสมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการขนส่งทางน้ําบริเวณแม่น้ํา ชายฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ซึ่งในกระบวนการศึกษาเพื่อกําหนดพื้นที่ศักยภาพเหมาะสมดังกล่าว จําเป็นต้องให้ความสําคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงจะต้องให้ความสําคัญกับการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ และนําไปสู่การสนับสนุนโครงการ จึงกําหนดให้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาเพื่อกําหนดพื้นที่มีศักยภาพเหมาะสมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการขนส่งทางน้ําบริเวณแม่น้ํา ชายฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ขึ้นในวันพุธที่ 27 กันยายน 2566 ระหว่างเวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 องค์การบริหารส่วนตําบลห้วงน้ําขาว อําเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จึงขอเชิญชวนหน่วยงาน และผู้สนใจเข้าร่วมเวทีในวันและเวลาดังกล่าว

5/9/2023

ภาคตะวันออก

ตราด

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905124925887

เทศบาลเมืองเพชรบุรี รับมอบสิ่งของเครื่องใช้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 108 ปีแห่งการสถาปนาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ภูมิภาคที่ 12 จังหวัดเพชรบุรี เปลี่ยนขยะ…เป็นบุญ เปลี่ยนสิ่งของด้อยค่าเป็นทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาส และช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง

นายกิตติพงษ์ เทพพานิช นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี มอบหมายให้ นายจรุงศักดิ์ เรืองแก้ว ปลัดเทศบาลเมืองเพชรบุรี พร้อมด้วย ผู้อํานวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เป็นตัวแทนรับมอบสิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้า จากนางสาวถนอมใจ ตีรวัฒนพงศ์ ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 12 จังหวัดเพชรบุรี ตามโครงการ แยกแลกบุญ กับเทศบาลเมืองเพชรบุรี เนื่องในโอกาสครบรอบ 108 ปีแห่งการสถาปนาสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ณ สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 12 สําหรับท่านใดสนใจร่วมกิจกรรมดีๆ “แยก แลก บุญ” เปลี่ยนขยะ...เป็นบุญ เปลี่ยนสิ่งของด้อยค่าเป็นทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาส และช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ลดปริมาณขยะแบบได้บุญ “ขยะ...ไม่ไร้ประโยชน์” สนใจร่วมกิจกรรม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 032-425820

5/9/2023

ภาคตะวันตก

เพชรบุรี

สวท.เพชรบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905125754888

จังหวัดสตูล เตือนประชาชนอย่ากดลิงก์ที่มาพร้อมกับ SMS แจ้งการอัปเดตข้อมูลแอปพลิเคชัน ThaID อาจเป็นการดักรับข้อมูลหรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ

วันนี้ (5 ก.ย.66) นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ ปลัดจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังการถูกหลอกลวงเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน ThaID หลังจากกรมการปกครองได้รับการแจ้งร้องเรียนเกี่ยวกับการได้รับ SMS จากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา โดยแจ้งเป็นข้อความว่า “ThaiD อัปเดตข้อมูลเรียบร้อยแล้วโปรดยืนยันตัวตนของคุณ” พร้อมแนบลิงก์มากับข้อความดังกล่าว หากกดลิงก์จะเป็นการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ปลอมที่ใช้ชื่อว่า “Thai ID”โดยกรมการปกครองไม่มีนโยบายในการส่ง SMS ไปยังประชาชนแต่อย่างใด หากประชาชนได้รับ SMS ในลักษณะดังกล่าวห้ามกดลิงก์ที่แนบมากับ SMS หรือกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูลหรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะการแจ้งรายละเอียดที่มาพร้อมกับข้อความในลักษณะการให้สิทธิพิเศษหรือให้อัปเดตข้อมูลหรือข้อความที่ทําให้ตกใจกลัวทั้งนี้หากประชาชนประสงค์จะเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน ThaID ให้ทําการติดตั้งผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น

5/9/2023

ภาคใต้

สตูล

สวท.สตูล

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905132151893

ปัตตานี เปิดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม ครั้งที่ 30 ภายใต้แนวคิดวัฒนธรรมเทิดพระนาม เศรษฐกิจสร้างสรรค์สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันที่ 4 กันยายน 2566 เวลา 19.00น. ที่เวทีกลาง อาคารหอศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม ครั้งที่ 30 โดยมี ผศ.ดร.อัตชัยเอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานีกล่าวต้อนรับ ผศ.ดร.พรปวีณ์ พุ่มเกิด ผู้อํานวยการสถบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วมในพิธี ผศ.ดร.พรปวีณ์ พุ่มเกิด ผู้อํานวยการสถบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้จัดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม ภายใต้แนวคิด วัฒนธรรมเทิดพระนาม : เศรษฐกิจสร้างสรรค์ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ในวาระครบรอบ 100 ปีวันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และครบรอบ 55 ปี ม.อ. ซึ่งได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 กิจกรรมประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ ชุดผลงานสะสมหอศิลป์ภาคใต้ ลานหัตถกรรมพื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์ชุมชน การสาธิตอาหารพื้นบ้าน ศิลปะการแสดงพื้นบ้านนิทรรศการทางวัฒนธรรม ณ หอวัฒนธรรมภาคใต้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสามมิติชายแดนใต้ พิพิธภัณฑ์พระเทพญาณโมลี และการออกร้านของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ห้างร้าน เอกชน บุคลากร และนักศึกษา ด้าน นางพาตีมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างน่าชื่นชมของผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และคณะดําเนินงานซึ่งพยายามช่วยกันดํารงและสืบสานวัฒนธรรมไทยให้เกิดความเข้มแข็ง และเป็นที่ประจักษ์ชัดของชาวไทย เชื่อมั่นว่าการรักษาวัฒนธรรมไทยให้ดํารงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไปไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่กลับจะทําให้คนไทยทุกคนรู้สึกรื่นรมย์ เบิกบาน และชื่นใจ นําไปสู่ความรัก ความหวงแหน ในวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และยิ่งใหญ่เอาไว้ โดยไม่มีวันที่ใครจะมาทําลายให้ดับสูญไปได้ คนไทยทุกคนจะต้องระลึก สํานึกอยู่เสมอว่า การรักษาวัฒนธรรมไทย อันเป็นสมบัติล้ําค่าของซาติ คือ การรักษาชาติ นั่นเอง ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี

5/9/2023

ภาคใต้

ปัตตานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905142119923

น่านกรมตรวจตราป่าไม้ สปป.ลาว หารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายด้านการลักลอบตัดไม้และค้าขายไม้ผิดกฎหมาย ร่วมกับจังหวัดน่าน

วันนี้ (5 ก.ย.66) ที่ห้องประชุมเจ้าอนันตวรฤทธิเดช ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดน่าน คณะกรมตรวจตราป่าไม้ สปป.ลาว นําโดยนายคําพร มูลละมัย อธิบดีกรมตรวจตราป่าไม้ สปป.ลาว พร้อมคณะเข้าพบนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เพื่อเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายด้านการลักลอบตัดไม้และค้าขายไม้ผิดกฎหมาย ของประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเพื่อเรียนรู้การจัดการป่าไม้ โดยชุมชนเป็นฐานการป้องกัน และการพัฒนาป่าไม้อย่างยั่งยืน รวมทั้งเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในความร่วมมือด้านการป้องกัน และการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ผู้อํานวยการศูนย์ป่าไม้น่าน ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ร่วมกันด้วยกรมตรวจตราป่าไม้ สปป.ลาว แจ้งว่า ได้ดําเนินการลงนาม MoU ร่วมกับกรมป่าไม้สหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการเสริมสร้างศักยภาพขององค์การในการต่อต้านการก่ออาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับการค้าไม้ผิดกฎหมายในโครงการเอเชีย-สปป.ลาว เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 และในข้อตกลงตาม MoU ดังกล่าวจะต้องดําเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนรู้ระหว่างประเทศและการเยี่ยมชมประเทศใกล้เคียง โดยประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของการดําเนินการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนรู้และแบ่งปันประสบการณ์ นโยบายระหว่างประเทศไทย-ลาว เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย การลักลอบตัดไม้และการค้าไม้ การจัดการป่าไม้โดยชุมชน การป้องกันการทําลายป่าอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะในจังหวัดน่าน และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในการปกป้องป่าและการจัดการป่าอย่างยั่งยืน ทั้งคณะได้กําหนดเดินทางมาจังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน 2566 เพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์ฯ เยี่ยมชมด่านป่าไม้ เยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติดอยภูคา พบปะและแลกเปลี่ยนความรู้กับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเรียนรู้ระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART Patrol System) อีกทั้งยังพบปะและแลกเปลี่ยนกับชุมชนบ้านน้ําหมาว-ห้วยวิน หมู่ที่ 9 ตําบลบ่อเกลือใต้ อําเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน และเยี่ยมชมจุดสกัดหรือหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคา (ที่อยู่ใกล้เคียง)

5/9/2023

ภาคเหนือ

น่าน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905140728913

เจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส แจ้งเตือนชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ช่วงวันที่ 5-6 กันยายน นี้

วันนี้ (5 ก.ย.66) นายปณัย หนูแท้ ผู้อํานวยการสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศเตือน (ฉ.19) ร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งจะมีผลกระทบถึงวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.66) สําหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรทางสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส จึงขอแจ้งเตือนไปยังชาวเรือ ดังนี้ เรือที่มีความยาวต่ํากว่า 12 เมตร ไม่ควรออกจากฝั่งหรืองดการเดินเรือ เรือที่มีความยาวมากกว่า 12 เมตร ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ ช่วงวันที่ 5-6 กันยายน นี้ พร้อมแนะนําตรวจสอบเครื่องยนต์ อุปกรณ์สื่อสารภายในเรือให้อยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานทุกครั้งก่อนออกเรือ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเรือทุกครั้ง กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินให้ติดต่อทางโทรศัพท์หมายเลข 073-532074 หรือสายด่วน 1199 ตลอด 24 ชั่วโมง

5/9/2023

ภาคใต้

นราธิวาส

สวท.นราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905135925909

มูลนิธิกาญจนบารมี จัดทำโครงการ การคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมแบบเคลื่อนที่ (Mammogram) ในกลุ่มสตรี กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มด้อยโอกาส เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

มูลนิธิกาญจนบารมี จัดทําโครงการ การคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมแบบเคลื่อนที่ (Mammogram) ในกลุ่มสตรี กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มด้อยโอกาส เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในวันพุธที่ 13 กันยายน 2566 ณ วัดเกาะเกร็ดใน ตําบลไม้เค็ด อําเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งนี้เทศบาลเมืองปราจีนบุรี จึงขอเรียนเชิญท่านผู้สนใจในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม สามารถมาลงทะเบียนเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมได้ที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

5/9/2023

ภาคตะวันออก

ปราจีนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905152102953

จังหวัดชุมพรเตรียมเปิดศึก "เรือยาวขึ้นโขนชิงธง" ชิงจ้าวสายน้ำคลองในหลวงหัววัง-พนังตัก

วันนี้ (5 ก.ย.66) เวลา 09.00 น. นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายไชยพงษ์ ทองคํา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร นายสัญชัย หนูสุด นายกเทศมนตรีตําบลนาชะอัง นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง รอง ผกก.สภ. เมืองชุมพร และ นางสาวกฤชสร ทรายแก้ว ผอ.ททท.ชุมพร ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง ประจําปี 2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร เข้าร่วมการแถลงข่าว ณ ศูนย์การเรียนรู้อาคารแปดเหลี่ยม โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดําริ จังหวัดชุมพรนายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร กล่าวว่า "ปีนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร กําหนดจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง จังหวัดชุมพร ระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน 2566 ณ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ตําบลนาชะอัง อําเภอเมือง จังหวัดชุมพร เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ผ่านมูลนิธิชัยพัฒนาให้กรมชลประทาน ดําเนินการขุดคลองในหลวงหัววัง-พนังตัก และแก้ไขปัญหาอุทกภัยในตัวเมืองของจังหวัดชุมพรอย่างยั่งยืน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม กีฬาไทย โดยในปีนี้ อบจ.ชุมพร ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ รับพระราชทานถ้วยรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรี สวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่การแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นขวัญกําลังใจให้แก่ผู้เข้าแข่งขัน ตลอดจนคณะกรรมการจัดการแข่งขัน และประชาชนชาวจังหวัดชุมพรทุกหมู่เหล่า สําหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วย การแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง ชิงถ้วยพระราชทาน โดยจัดการแข่งขันเรือยาวขึ้น 4 ประเภท ประกอบด้วย เรือยาว 32 ฝีพายผู้นํา, เรือยาว 32 ฝีพายทั่วไป, เรือยาว 16 ฝีพายทั่วไป และเรือยาว 8 ฝีพาย นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับกิจกรรมสร้างสีสันภายในงาน อาทิ การประกวดขบวนแห่เฉลิมพระเกียรติ ประกวดกองเชียร์ และสามารถรับชมการถ่ายทอดสดงานแข่งขันเรือยาวได้ทางเฟสบุ๊ค องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร และเฟสบุ๊ค Thailongboat ตลอดทั้ง 4 วันอีกด้วย

5/9/2023

ภาคใต้

ชุมพร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905152608957

ปภ.ตราด เตือนประชาชนยังคงต้องเฝ้าระวังปัญหาฝนตกหนัก ในช่วง 2 - 3 วันนี้

นายเจริญ รัตนบรรณสกุล หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกคําเตือนว่าในช่วง 2 -3 วันนี้ประเทศไทยในหลายพื้นที่มีฝนชุกมากขึ้น ทางสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ลุ่มต่ํา เฝ้าระวังปัญหา น้ําท่วมฉับพลัน นําป่าไหลหลาก หรือน้ําล้นตลิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ําเขาสมิง พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ําตราด ซึ่งจะรับมวลน้ําโดยตรงจากพื้นที่อําเภอบ่อไร่ และอําเภอเขาสมิง ก่อนที่จะระบายน้ําลงสู่ทะเลหัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของปัญหาน้ําท่วมฉับพลันในพื้นที่อําเภอเขาสมิง จํานวน 3 ตําบล และอําเภอบ่อไร่ จํานวน 4 ตําบล จากปริมาณฝนตกหนัก ถึงหนักมาก ในช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ ที่ผ่านมา สถานการณ์ปัจจุบันเริ่มคลี่คลาย หากปริมาณน้ําฝนไม่มีปริมาณมากเหมือนช่วงที่ผ่านมาคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววัน

5/9/2023

ภาคตะวันออก

ตราด

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905154730969

จ.ระยอง ชวนเที่ยวงานเชิดชูเกียรติเกษตรกรผู้ปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ มุ่งขับเคลื่อนความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ EEC เพื่อสุขภาวะคนระยอง Rayong Healthy

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ก.ย.66 ที่ห้องประชุม อบจ.ระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง นายสุทธิธรรม เลขวิวัฒน์ ประธานสมัชชาสุขภาพจังหวัดระยอง นพ.ประดิษฐ์ ปฐวีศรีสุธา รอง สสจ.ระยอง นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ ที่ปรึกษานายก อบจ.ระยอง ดร.วัฒนา บรรเทิงสุข ประธานเครือข่ายนวัตวิถีเกษตรอินทรีย์จังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวการจัดงานโครงการเชิดชูเกียรติเกษตรกรผู้ปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์จังหวัดระยอง ปี 2566 ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในจังหวัดระยอง ทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ประชาสังคม ประชาชน เครือข่ายสื่อมวลชน โดยวางเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนงาน’ความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ EEC เพื่อสุขภาวะคนระยอง Rayong Healthy’เพื่อให้คนระยองมีความมั่นคงทางอาหาร ทั้งยังเป็นการเชิดชูเกียรติเกษตรกรผู้ปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์จังหวัดระยอง เพื่อสร้างมาตรฐานอาหารปลอดภัย ที่รับรองจากส่วนราชการจังหวัดระยอง อบจ.ระยอง สสจ.ระยอง สมัชชาสุขภาพจังหวัดระยอง และวิสาหกิจชุมชนนวัตวิถีเกษตรอินทรีย์จังหวัดระยอง ให้แก่กลุ่มสมาชิกเกษตรกรปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์จังหวัดระยอง รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนชาวระยอง ได้เข้าถึงแหล่งอาหารปลอดภัย ผ่านเกษตรอินทรีย์ 8 อําเภอ ซึ่งจะมีกลุ่มสมาชิกเกษตรกรปลูกพืชเกษตรอินทรีย์จังหวัดระยอง เป็นผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน ได้ง่ายขึ้นและเพียงพอต่อความต้องการและอยู่บนพื้นฐานราคาที่ประชาชนสามารถซื้อบริโภคได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังเป็นการสานพลังความร่วมมือความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ EEC เพื่อสุขภาวะคนระยอง Rayong Healthy เน้นกระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมผ่านกลไกสมัชชาจังหวัดระยอง และบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐแต่ละภาคส่วนที่เข้ามาสนับสนุนส่งเสริม ประเด็นความมั่นคงทางอาหาร เป็นการยกระดับงานในพื้นที่สู่การจัดทําข้อเสนอเชิงนโยบายและขับเคลื่อนในปีต่อไป โดยกลไกความร่วมมือของเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อให้ข้อเสนอที่มาจากพื้นที่เกิดการขับเคลื่อน และยกระดับเข้าสู่แผนของหน่วยงานให้เกิดการขับเคลื่อนการทํางานอย่างมีทิศทาง เป้าหมาย และเกิดพลังเปลี่ยนแปลงภายใต้ยุทธศาสตร์แผนงานจังหวัดระยอง ซึ่งงานดังกล่าว จะจัดขึ้นในวันที่ 12 กันยายนนี้ ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง เป็นการโชว์ ชิม ช้อป อาหารอย่างปลอดภัย มั่นใจมาตรฐาน

5/9/2023

ภาคตะวันออก

ระยอง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905155408976

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชุมพร แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 11 เดือน

วันนี้(5 ก.ย. 66) สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดชุมพร นําโดยนายประกอบ มั่งคั่ง ผู้อํานวยการ สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดชุมพร แถลงผลการดําเนินงานในรอบ 11 เดือน (เดือนตุลาคม 2565 – เดือนสิงหาคม 2566) เกี่ยวกับผลการดําเนินงานด้านป้องกันการทุจริต ด้านปราบปรามการทุจริต และด้านตรวจสอบ-ทรัพย์สิน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต โปร่งใส รวมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นเพื่อป้องกันการทุจริต โดยมีสื่อมวลชนในพื้นที่ เครือข่ายชมรม STRONG ส่วนราชการ เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชุมพร ประเด็นแถลงผลการดําเนินการ สรุปเป็นผลงานภารกิจ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านป้องกันการทุจริต ด้านปราบปรามการทุจริต และด้านตรวจสอบทรัพย์สิน โดยภารกิจด้านป้องกันการทุจริต ดําเนินการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันการทุจริต โดยการดําเนินโครงการ STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต เพื่อผลักดันการป้องกันการทุจริตเชิงรุกด้วยการสร้างเสริมให้บุคคลและชุมชนมีจิตพอเพียงต้านทุจริตตามโมเดล STRONG เป็นเครือข่ายจนกระทั่งพัฒนาเป็นวัฒนธรรมต้านทุจริต จํานวน 7 อําเภอ และได้มีการขยายเครือข่าย STRONG เยาวชนฯ นักศึกษาจาก 4 สถาบัน ในการป้องปราม เฝ้าระวัง และขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการทุจริต ได้ดําเนินการขับเคลื่อนงานการติดตามเฝ้าระวังกรณีมีประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริต รวมทั้ง การติดตามการผลักดันมาตรการสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ได้ดําเนินการแนะนําให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องดําเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว และหากเป็นกรณีที่เกิดการทุจริตหรือประพฤติมิชอบก็ดําเนินการส่งเรื่องไปยังภารกิจปราบปรามการทุจริตเพื่อดําเนินการตามกระบวนการต่อไป ในด้านการส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐเข้าสู่การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดําเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment) หรือการประเมิน ITA ซึ่งถือเป็นเครื่องมือในเชิงบวกที่มุ่งพัฒนาระบบราชการไทยในเชิงสร้างสรรค์มากกว่ามุ่งจับผิด เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐได้รับทราบถึงสถานะและปัญหาการดําเนินงานด้านคุณธรรมและความโปร่งใสขององค์กร สําหรับการประเมิน ITA ของจังหวัดชุมพรมีหน่วยงานที่เข้าสู่การประเมินจํานวน 80 ผ่านเกณฑ์การประเมิน สําหรับภารกิจด้านการปราบปรามการทุจริต งานตรวจสอบเบื้องต้น 93 เรื่อง ดําเนินการแล้วเสร็จ 20 เรื่อง อยู่ระหว่างดําเนินการ 73 เรื่อง, งานไต่สวนเบื้องต้น 25 เรื่อง ดําเนินการแล้วเสร็จ 1 เรื่อง อยู่ระหว่างดําเนินการ 24 เรื่อง,ภารกิจด้านการตรวจสอบทรัพย์สิน ข้อมูลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดชุมพร ที่อยู่ในความรับผิดชอบจํานวน 79 แห่ง, ตําแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะต้องยื่นบัญชี จํานวน 2 บัญชี, ตําแหน่งที่ต้องประกาศเปิดเผยต่อสาธารณะ จํานวน 79 บัญชี

5/9/2023

ภาคใต้

ชุมพร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905162723008

ศอ.บต. พิจารณาการขอกลับเข้ารับเงินเยียวยาของเรือประมง 4 ลำ ขณะ ล่าสุด ทำลายเรือแล้วเสร็จ จำนวน 60 ลำ ยังคงเหลืออีก 26 ลำ

วันนี้ 5 กันยายน 2566 ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการเยียวยาตามมาตรการลดจํานวนเรือประมง เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 6/2566 โดยมีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุม ฯ พร้อมด้วย นายตรัยรัตน์ เรืองฤทธิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (สํานักงบประมาณ) นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อํานวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการเยียวยาตามมาตรการลดจํานวนเรือประมงฯ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมปัญจเพชร ชั้น 3 ศอ.บต./ผ่านระบบ Zoom Meeting ที่ประชุมได้มีการพิจารณาการขอกลับเข้ารับเงินเยียวยาตามโครงการนําเรือประมงออกนอกระบบของเรือประมงจํานวน 4 ลํา ซึ่งได้รับความจากเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพประมงตามที่ยื่นคําร้องจริง แต่ได้สละสิทธิ์รับเงินเยียวยาภายใต้โครงการนําเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน เรือชุดที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีไปแล้วโดยมติมีแนวทางไม่ให้เรือ 4 ลํา เข้าทําสัญญาขอรับเงินเยียวยาเรือประมงในโครงการนี้ แต่หากเจ้าของเรือประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐสามารถดําเนินการได้ตามนโยบาย กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าของเรือจะต้องมีคุณสมบัติ และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จะได้กําหนดไว้สําหรับโครงการนั้น ๆ ต่อไปทางด้าน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการและคณะทํางานฯ ได้ดําเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดปัญหา โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนด้วยความรอบครอบที่สุดสําหรับความคืบหน้าการดําเนินการแยกชิ้นส่วนหรือทําลายเรือประมง ณ วันที่ 4 กันยายน 2566 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้เริ่มทําลายเรือประมงเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ขณะนี้สามารถทําลายเรือประมงแล้วเสร็จ จํานวน 60 ลํา ยังคงเหลืออีก 26 ลํา

5/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สทท.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905163442011

คุมประพฤติเชียงราย นำร่องโครงการ สานสัมพันธ์ น้อง-พี่ ครั้งที่ 4 เพื่อแก้ไขฟื้นฟู สร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กลับคืนสู่สังคม

วันนี้ (5 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมกรธัช รังสินี รีสอร์ท ตําบลบ้านดู่ อําเภอเมืองเชียงราย นางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานเปิดโครงการ สานสัมพันธ์ น้อง-พี่เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 4 โดยมีนางสุรีย์ ภู่เพชร ผู้อํานวยการสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และอาสาสมัครคุมประพฤติ เข้าร่วมพิธีนางสุรีย์ ภู่เพชร ผู้อํานวยการสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตามที่กรมคุมประพฤติ โดยสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงราย ดําเนินการแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดภายใต้โครงการสานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด ซึ่งเป็นการอบรมเชิงจิตวิทยาเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และดําเนินการในลักษณะกลุ่มสัมพันธ์สันทนาการ เพื่อให้ผู้ถูกคุมความประพฤติได้สํารวจตนเอง รู้ความสามารถของตนเอง อันนําไปสู่การสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม พร้อมทั้งได้รับการเสริมสร้างทักษะการตัดสินใจ ทักษะการแก้ปัญหา ซึ่งในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยผู้ถูกคุมความประพฤติที่ศาลมีคําสั่งให้นําเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติมาใช้แทนการลงโทษตามมาตรา 166 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ผู้ถูกคุมความประพฤติในฐานความผิดคดียาเสพติดหรือมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ศาลมีคําสั่งให้คุมความประพฤติตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือผู้ถูกคุมความประพฤติที่ได้รับการปล่อยตัวพักการลงโทษ และลดวันต้องโทษในฐานความผิดคดียาเสพติด มีผลการประเมินความเสี่ยงปานกลาง จํานวน 40 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ วิทยากร และผู้สังเกตการณ์ รวม 54 คนด้านนางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่ทุกฝ่ายได้ตระหนัก และให้ความสําคัญในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทําผิด ซึ่งก็มีหลายแนวทางด้วยกัน เช่น การกล่อมเกลาจิตใจด้วยหลักธรรมคําสอนทางศาสนา การฝึกปฏิบัติเพื่อสร้างความอดทน การให้ความรู้เพื่อนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน โดยมีรูปแบบดําเนินการในลักษณะกลุ่มสัมพันธ์, สันทนาการ ที่เป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง ป้องกนการกระทําผิดซ้ําของผู้ถูกคุมความประพฤติ “การฟื้นฟูสภาพจิตใจ เพื่อทักษะความคิดให้ยอมรับสภาพความเป็นจริงของตน มีความเข้าใจตนเอง และเกิดแรงผลักดันจากภายใน อันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงมุมมอง พฤติกรรมและอารมณ์ให้มีความรู้สึกเชิงบวก ซึ่งจะเป็นสิ่งสําคัญในการพัฒนาความเข้มแข็งของชีวิต เนื่องจากความรู้สึกเชิงบวกจะสามารถเอาชนะความรู้สึกทางลบได้ ทําให้มีชีวิตสร้างสรรค์และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรืออย่างน้อยก็จะได้มีเทคนิคหรือแนวทางที่จะช่วยลดความเครียดของจนเองในการดํารงชีวิตประจําวัน ความรู้ที่ได้ในครั้งนี้จึงน่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านในที่นี้ไม่มากก็น้อย ที่จะได้นําไปปรับใช้ในชีวิตประจําวันต่อไป” นางภัทราวดี กล่าว

5/9/2023

ภาคเหนือ

เชียงราย

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905174912022

สทนช. เร่งบริหารแก้ปัญหาน้ำ 3 ด้าน น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำเสีย ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก พร้อมเสนอวิธีรณรงค์ประหยัดน้ำติดมิเตอร์ที่ฟักบัว หวังลดปริมาณใช้น้ำ มั่นใจเอลนีโญไม่กระทบภูเก็ต

วันนี้ (5 กันยายน 2566) เวลา 09.00 น.ณ ห้องประชุมพระพิศิษฐ์กรณีย์ เทศบาลเมืองป่าตอง อําเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายษณกร กี่สิ้น รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และข้าราชการเจ้าหน้าที่ เทศบาลเมืองป่าตองให้การต้อนรับ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ ในโอกาสเดินทางมาติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ําและการจัดการคุณภาพน้ํา ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2566 ณ พื้นที่โครงการสร้างฝายชะลอน้ําเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดิน พื้นที่ตอนบนของป่าชุมชนน้ําตกกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และโรงปรับปรุงคุณภาพน้ํา เทศบาลเมืองป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นการบูรณาการการดําเนินกิจกรรมในพื้นที่ต้นน้ํา ที่เชื่อมโยงไปสู่พื้นที่กลางน้ําและปลายน้ําอย่างเป็นระบบโอกาสนี้ รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง (นายษณกร กี่สิ้น) กล่าวรายงานข้อมูล แนวทางการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ําและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ําโดยการปรับปรุงคุณภาพน้ํา ว่า เทศบาลเมืองป่าตองให้ความสําคัญในการบริหารจัดการน้ําอย่างบูรณาการเพราะป่าตองมีชายหาดที่สวยงาม ในแต่ละปีรองรับนักท่องเที่ยวจํานวนมาก การดําเนินการจัดการน้ําเสีย ระบบบําบัดน้ําเสียซึ่งเป็นศูนย์กลางสําหรับบําบัดน้ําเสียในพื้นที่ป่าตอง โดยระบบบําบัดน้ําเสีย เปิดใช้ระบบเมื่อปี พ.ศ. 2532 และก่อสร้างเพิ่มเติมไปพร้อมๆ กับการขยายเมืองป่าตอง ปัจจุบันโรงปรับปรุงคุณภาพน้ํา สามารถรองรับน้ําเสียได้รวม 39,000 ลูกบาศก็เมตรต่อวัน และระบบบําบัดสิ่งปฏิกูล เปิดใช้เมื่อปี พ.ศ. 2565 เนื่องจากการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ําเสีย ต้องใช้งบประมาณสูง จึงต้องทยอยขยายก่อสร้างระบบรวบรวมน้ําเสีย เพราะเทศบาลฯ ต้องพัฒนาด้านอื่นพร้อมๆ และมีแผนก่อสร้างระบบรวบรวมน้ําเสียในพื้นที่กะหลิมและควนยาง (รอรับการสนับสนุน งบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อม 109,600,000 บาท) ในส่วนของการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองป่าตอง ได้ทํางานบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 15 และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต (มอ.ภูเก็ต) ที่สนับสนุนข้อมูลด้านวิชาการและเป็นที่ปรึกษา และเทศบาลฯ มีการรณรงค์ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมเช่น รณรงค์การติดตั้งถังดักไขมัน เพื่อบําบัดน้ําเสียเบื้องต้น นอกจากนี่เทศบาลฯ ยังมีการดําเนินการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ําใช้ โดยการนําน้ําที่ผ่านการบําบัดน้ําเสียมาผลิตเป็นน้ํา RO เพื่อส่งจ่ายให้ประชาชน และสถานประกอบในพื้นที่ป่าตองด้วยด้านเลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความสําคัญทางด้านการท่องเที่ยวและอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่ด้วยสภาพพื้นที่และศักยภาพด้านทรัพยากรน้ํา ณ ปัจจุบัน ยังประสบปัญหาทั้งด้านการขาดแคลนน้ําเป็นประจําทุกปี จากภาวะฝนทิ้งช่วงหรือฤดูแล้ง มีปริมาณการขาดแคลนน้ํารายปีเฉลี่ยทุกด้านรวมกันอยู่ที่ 25.54 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ ยังมีปัญหาน้ําท่วม เกิดจากคลองส่วนใหญ่น้ําล้นตลิ่งเนื่องจากสภาพทางภูมิประเทศในบางช่วงที่เป็นลักษณะคอขวด ทําให้ระบายน้ําได้น้อยจนเกิดน้ําสะสมล้นตลิ่ง รวมถึงมีสิ่งกีดขวางทางน้ํา น้ําทะเลหนุนบริเวณชายฝั่ง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดน้ําท่วมในพื้นที่อยู่เป็นประจํา อีกทั้ง จังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจํานวนมาก ทําให้มีอัตราการขยายเมืองของจังหวัดภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการขยายที่ทํากินสู่พื้นที่ต้นน้ํา ส่งผลให้พื้นที่ป่าไม้ลดลง โดยพบว่า ตําบลศรีสุนทร มีความรุนแรงในการสูญเสียหน้าดินมากที่สุดถึง 2,082 ตัน/ไร่/ปี รองลงมาคือ ตําบลกระทู้ มีความรุนแรงของการสูญเสียหน้าดินเฉลี่ย 2,015 ตัน/ไร่/ปี ที่สําคัญยังพบปัญหาคุณภาพน้ํา น้ําเสียส่วนใหญ่เกิดจากแหล่งชุมชนและสถานบริการ โดยมีปริมาณน้ําเสียเกิดขึ้นรวม 149,917 ลบ.ม./วัน ขณะที่ระบบบําบัดน้ําเสียรวมชุมชนในจังหวัดภูเก็ต สามารถรองรับน้ําเสียได้แค่เพียง 94,961 ลบ.ม./วันดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขด้านทรัพยากรน้ําในพื้นที่ภูเก็ตบรรลุผลมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา ท้ายน้ํา สทนช. ได้ทําโครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เฉพาะ (Area based) เกาะภูเก็ต ตามแนวทางการบริหารจัดการน้ําอย่างบูรณาการ ที่ครอบคลุมตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา 20 ปี ทั้งนี้ หากโครงการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ําต้นทุนให้จังหวัดภูเก็ตได้ ประมาณ 60.53 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์จากการจัดการด้านอุทกภัย จํานวน 42,796 ไร่ และสามารถเพิ่มศักยภาพในการบําบัดน้ําเสียได้ จํานวน 4.96 ล้าน ลบ.ม./ปีเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตกําลังประสบกับปัญหาการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ตอนบน ดังนั้น การฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศทรัพยากรน้ําในพื้นที่ป่าชุมชนจึงเป็นเรื่องสําคัญที่ต้องดําเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งในโครงการเบื้องต้นที่วางแผนไว้คือ การสร้างฝายชะลอน้ําเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินพื้นที่ป่าชุมชนบ้านน้ําตกกะทู้ อําเภอกะทู้ โดยจะทําฝายชะลอน้ําเป็นฝายต้นน้ําแบบกล่องเกเบี้ยน เป็นแบบที่พัฒนามาจากฝายผสมผสานแบบหินทิ้งให้เกิดความคงทนแน่นหนา ป้องกันไม่ให้ถูกน้ําพัดพาไปได้ ด้วยการใช้กล่องตาข่ายชุบกาวาไนซ์ขนาดเหมาะสม เมื่อใส่กระสอบดินทรายแล้วมีน้ําหนักมากพอไม่ให้ความแรงของน้ําไหลพัดพาหรือยกไปได้ วางเรียงตามแนวที่จะสร้างฝาย มัดกล่องตาข่ายให้ติดกับเสาปูนอย่างมั่นคงตามความกว้างของฝาย ซึ่งคาดว่าจะช่วยป้องกันและลดการชะล้างพังทลายของดินได้ไม่ต่ํากว่า 291 ไร่“การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศพื้นที่ป่าต้นน้ํา มีความสําคัญอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นการรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากป่าต้นน้ําช่วยทําหน้าที่รองรับน้ําฝนและช่วยรักษาความสมบูรณ์ให้แหล่งน้ําในธรรมชาติ ทําให้แม่น้ํามีน้ําตลอดทั้งปี เป็นประโยชน์ต่อสัตว์ป่า นอกจากช่วยลดการชะล้างพังทลายของดิน ป้องกันตะกอนดินไหลลงสู่แหล่งน้ําสาธารณะแล้ว การปรับปรงคุณภาพน้ําก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ําในพื้นที่กลางน้ําและปลายน้ํา โดยเฉพาะผลกระทบจากน้ําเสียที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ด้วยการใช้มาตรการบําบัดน้ําเสียที่เกิดจากชุมชนและสถานประกอบการ มุ่งเน้นการบําบัดน้ําเสียและการนําน้ํากลับมาใช้ใหม่ ก็ถูกบรรจุไว้ในแผนหลักการบริหารจัดการน้ําของจังหวัดภูเก็ตด้วย” เลขาธิการ สทนช. กล่าวทั้งนี้ โรงปรับปรุงคุณภาพน้ํา เทศบาลเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต เป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบที่สามารถใช้ขยายผลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา เพื่อนําไปดําเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของตนเองได้ เนื่องจากหาดป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต แต่ละปีมีประชากรและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจํานวนมาก และมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงทําให้เกิดปัญหาความเสื่อมโทรมของมลพิษทางน้ํา เทศบาลเมืองป่าตองได้เล็งเห็นความสําคัญในการแก้ไขปัญหาน้ําเสียที่เกิดขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งโรงปรับปรุงคุณภาพน้ําเสีย เพื่อเป็นศูนย์รวมในการบําบัดน้ําเสียก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม โดยเริ่มดําเนินการตั้งปี 2532 ความสามารถในการบําบัดน้ําเสีย 2,250 ลบ.ม./วัน และได้พัฒนาปรับปรุงระบบต่างๆ เรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันสามารถรองรับน้ําเสียได้รวม 39,000 ลบ.ม./วัน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร พร้อมเสนอแนะวิธีรณรงค์ประหยัดน้ํา ด้วยการติดมิเตอร์ที่ฟักบัว หวังลดปริมาณใช้น้ํา ซึ่งวิธีนี้ได้ผลมาแล้วในต่างประเทศ พร้อมมั่นใจสถานการณ์เอลนีโญไม่กระทบภูเก็ต

5/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905194857070

อบจ.ตรัง จัด Workshop เทคนิคการถ่ายภาพโปรโมทสินค้าและบริการอย่างมืออาชีพ เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีทักษะ ความรู้ ในการบริหารจัดการงานด้านการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล

วันนี้ (5 ก.ย.2566) นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง ได้มอบหมายให้นายโชคดี คีรีกิ้น รองนายก อบจ.ตรัง เป็นประธานในพิธีเปิด “การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เทคนิคการถ่ายภาพโปรโมทสินค้าและบริการอย่างมืออาชีพ” ตามโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยมีนายกิตติเดช วรรณบวรประธานสภา อบจ.ตรัง สมาชิกสภา อบจ.ตรัง นายวิศิษฎ์ วงศ์สิริพรกุล ปลัด อบจ.ตรัง นายสมศักดิ์ เสือบุญทอง นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง หัวหน้าสํานักปลัด อบจ.ตรัง เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้บุคลากรภาครัฐ องค์กรปกครองท้องถิ่น และบุคลากรทางการท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง เช่น ผู้ประกอบการร้านค้า โรงแรม ได้รับการพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการท่องเที่ยว ให้มีทักษะความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับแนวคิดในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล ให้สามารถนําองค์ความรู้และนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน เพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางการตลาดท่องเที่ยวได้ต่อไปในอนาคต เกิดการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยว ตลอดจนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดและประสบการณ์ซึ่งกันและกันโดยการจัดโครงการครั้งนี้ กําหนดจัดจํานวน 2 รุ่น ๆ ละ 40 คน ได้รับการสนับสนุนการดําเนินงานจากสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตรัง และชมรมเมืองเก่าในจังหวัดตรัง เชิญชวนกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ และได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางนายบุญแต่ง ผุสดี และนางสาวคนึงนิจ ตู้นิ่ม จากบุญแต่งสตูดิโอ เป็นวิทยากรในการฝึกอบรมครั้งนี้

5/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905212556084

สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต บูรณาการร่วมคณะทำงาน ถอดบทเรียนร่วมกับสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการ หวังเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนในการดำเนินการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 %

วันนี้ (5 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมมุขหลังชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายธนพงศ์ อรชร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมถอดบทเรียน โครงการส่งเสริมมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ต โดยมีคณะทํางานเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตเพื่อดําเนินการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตามคําสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1593/2566 พร้อมด้วยสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการฯ เข้าร่วมประชุมถอดบทเรียนทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายในการส่งเสริมให้เกิดมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนในนิคมอุตสาหกรรมและสถานประกอบกิจการภายใต้แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดภูเก็ต จึงได้ดําเนินการรณรงค์โครงการเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตในการสร้างระเบียบวินัยให้แก่ลูกจ้าง พนักงาน เพื่อให้ทุกคนเคารพกฎจราจร จนกลายเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยต่อไปในวันนี้ (5 ก.ย. 66) สํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต จึงจัดประชุมถอดบทเรียนโครงการเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตกับคณะทํางานเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตตามคําสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1593/2566 เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเจตนารมณ์ในการดําเนินการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100%และในวันนี้ (5 ก.ย. 66) มี 6 สถานประกอบกิจการจาก 8 สถานประกอบกิจการ ซึ่งเข้าร่วมลงนามความร่วมมือในการดําเนินโครงการส่งเสริมมาตรการเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตและได้เข้าร่วมประชุมถอดบทเรียนประกอบด้วย บริษัทโตโยต้าเน็กซ์จํากัด, บริษัทหาดทิพย์ จํากัด (มหาชน) สาขาภูเก็ต, บริษัทลากูน่าภูเก็ตคลับจํากัด (โรงแรมทรายลากูน่าภูเก็ต), บริษัทดุสิตแมนเนจเม้นท์ จํากัด (โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่าภูเก็ต) ,โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จํากัด และบริษัทอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์จํากัด (มหาชน) สาขาภูเก็ต ซึ่งนอกจาก 6 สถานประกอบกิจการมีการบอกเล่าถึงผลการดําเนินโครงการฯ แล้วยังมีการรวมกลุ่มนําเสนอผลการดําเนินโครงการ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการดําเนินโครงการฯ รวมถึงบอกเล่าถึงปัจจัยที่จะทําให้การดําเนินโครงการสําเร็จในตอนท้ายของการประชุมถอดบทเรียน ทีมวิทยากรสนับสนุนการทํางานตามคําสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1593/2566 ได้ให้คําแนะนําแก่สถานประกอบกิจการที่ลงนามความร่วมมือกับโครงการฯ และเข้าร่วมประชุมถอดบทเรียนในวันนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเจตนารมณ์ในการดําเนินการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100%ทั้งนี้ คณะทํางานเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตเพื่อดําเนินการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% และกําหนดมาตรการองค์กรและมาตรการอื่น ๆ มีอํานาจหน้าที่ในการประสานความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ต, เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้สถานประกอบกิจการเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ต, ดําเนินการเข้าเยี่ยม สัมภาษณ์และประเมินสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ตตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดรวมถึงรายงานการดําเนินการตามโครงการ

5/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905195228074

สสจ.ยะลา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ สร้างการรับรู้ข้อมูลด้านสุขภาพ แก่เครือข่ายสื่อมวลชน ประจำปี 2566 ขยายผลข้อมูลข่าวสารสู่ประชาชนในพื้นที่

วันที่ 5 ก.ย.66 ที่ห้องประชุมระเบียงฟ้า สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการสื่อสารข้อมูลด้านสุขภาพ แก่เครือข่ายสื่อมวลชน ปี 2566 เพื่อสร้างการรับรู้ เข้าใจและร่วมมือปฏิบัติตนด้านสุขภาพที่ถูกต้องของประชาชน โดยมี นายสุรเชษฐ์ สุทธิกุล ประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายสุทธิพงศ์ สาครินทร์ ผู้อํานวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเบตง เครือข่ายสื่อมวลชนจังหวัดยะลา เข้าร่วมที่ประชุมได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพของจังหวัดยะลาในปัจจุบัน โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวสถานการณ์โรคติดต่อ โรคไข้เลือดออก โดยนายแพทย์วิกฤตนรากรณ์ คงแดง นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน และนายมอหะมะนอ บาโงปะแต หัวหน้าศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนําโดยแมลงที่ 12.1 ยะลา การบรรยายพิเศษเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดในสมอง (Stroke) โดยแพทย์หญิงนันทกา เทพาอมรเดช นายแพทย์ชํานาญการพิเศษ ประสาทศัลยกรรมแพทย์ โรงพยาบาลยะลา และการประชาสัมพันธ์กิจกรรมแสงนําใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 9 เฉลิมพระเกียรติ โดยนางสาวนิษา สังห์รัตน์ นักวิชาการสาธารณสุขชํานาญการ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารกิจกรรมด้านสาธารณสุขผ่านสื่อสาธารณะทุกช่องทางเพื่อให้ประชาชนรับรู้ ตื่นตัว ตระหนัก ส่งผลต่อการสร้างค่านิยม และพฤติกรรมสุขภาพที่ดีของประชาชนในจังหวัดยะลา

5/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905212807085

ขอเชิญชาวจังหวัดภูเก็ตร่วมทำบุญตักบาตร พระณฐพโล (นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯ ภูเก็ต) ในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566

ขอเชิญชาวจังหวัดภูเก็ตร่วมทําบุญตักบาตร พระณฐพโล (นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต) ในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566เส้นทางการ เดินบิณฑบาต ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.00-08.00 น.จุดเริ่มต้นจาก หน้าวัดพุทธมงคลนิมิต (ซอยรมณีย์) - ย่านเมืองเก่า - ธนาคารกรุงไทย สาขาภูเก็ต - ถนนหลวงพ่อ - ถนนสุรินทร์ - จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

5/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905195222073

จังหวัดกำแพงเพชร เปิดจุดเคาน์เตอร์บริการอำเภอยิ้มสาขาโรบินสัน ไลฟ์สไตล์กำแพงเพชร

วันที่ 5 ก.ย. 66 เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์กําแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชรเป็นประธานเปิดจุดเคาน์เตอร์บริการอําเภอยิ้ม สาขาโรบินสัน ไลฟ์สไตล์กําแพงเพชร เพื่อเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการขอรับบริการจากภาครัฐ โดยมี คุณราชพฤกษ์อุบลศรี ผู้อํานวยการภูมิภาค สายปฏิบัติการศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ , คุณเสถียร โพธิ์ศรี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์กําแพงเพชร, ประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ ,หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 6และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี และมีนายโชคชัย รักเกื้อ นายอําเภอเมืองกําแพงเพชร กล่าวรายงานทั้งนี้..จังหวัดกําแพงเพชร ร่วมกับ บริษัทโรบินสัน จํากัด (มหาชน) ร่วมมือในการจัดตั้งจุดเคาน์เตอร์บริการอําเภอยิ้ม สาขาโรบินสันไลฟ์สไตล์กําแพงเพชรเพื่อให้ประชาชนในจังหวัดกําแพงเพชรและพื้นที่ใกล้เคียงได้รับการบริการงานทะเบียนราษฎร งานบัตรประจําตัวประชาชน และงานทะเบียนทั่วไป ให้ได้รับความสะดวกในการติดต่อราชการตามแนวทางศูนย์ราชการสะดวกและเป็นการเพิ่มช่องทางการบริการของภาครัฐโดยความร่วมมือจากภาคธุรกิจเอกชนตามแนวทางประชารัฐให้ได้มาตรฐานสะดวก รวดเร็วถูกต้องและทั่วถึง ซึ่งอําเภอได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท โรบินสัน จํากัด (มหาชน)ให้ใช้พื้นที่บริเวณชั้น 2 ห้อง 208 ขนาดพื้นที่ 88.62 ตารางเมตร เพื่อจัดตั้งจุดเคาน์เตอร์บริการอําเภอยิ้มโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ อําเภอเมืองกําแพงเพชรได้เริ่มเปิดให้บริการทดสอบการให้บริการงานทะเบียนราษฎรทะเบียนบัตรประจําตัวประชาชน และงานทะเบียนทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2566โดยปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 18.00 น.ซึ่งมีผู้มาใช้บริการในด้านการทะเบียนต่าง ๆ เป็นจํานวนมากและคาดว่าในอนาคตจะมีผู้มาใช้บริการเป็นจํานวนมากขึ้นนายชาธิป รุจนเสรีผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร กล่าวว่า เคาน์เตอร์บริการอําเภอยิ้ม เป็นการให้บริการเชิงรุกเพื่ออํานวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการให้แก่ประชาชนอีกทั้งเป็นการลดความแออัดในสถานที่ราชการอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมอย่างมาก และคาดว่าเคาน์เตอร์บริการอําเภอยิ้มจะเป็นจุดให้บริการงานทะเบียนราษฎร งานทะเบียนบัตรประจําตัวประชาชนและงานทะเบียนทั่วไปสําหรับให้เพิ่มช่องทางให้ประชาชนในการเลือกใช้บริการได้อย่างแท้จริง

5/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กำแพงเพชร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230905213346087

รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง เข้าร่วมกิจกรรมต้อนรับวันชาติมาเลเซีย (Merdeka) ครั้งที่ 66

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 นายอาลี ดูดิง รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง เข้าร่วมกิจกรรมต้อนรับวันชาติมาเลเซีย (Merdeka) ครั้งที่ 66 ระดับอําเภอบาลิ่ง ประจําปี 2566 ณ ถนนเชดแชะห์ ตลาดเมืองบาลิ่ง รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซียเจะ ดอเลาะ ชาวมาเลเซีย เล่าว่า ในมาเลเซีย การเฉลิมฉลองจะเน้นไปในรูปแบบต่างๆ เช่น ขบวนพาเหรด การชักธงชาติมาเลเซียตามบ้าน ที่พักอาศัย ยานพาหนะ และสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเราจะอยู่ ณ ที่แห่งใด จิตวิญญาณของการเฉลิมฉลองเนื่องในวันชาตินี้จะอยู่คู่กับชาวมาเลเซียทุกคนตลอดไป ส่วนความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างมาเลเซียและไทยมีความสําคัญทางประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง และจะมีความสัมพันธ์ที่ดีตลอดไป สําหรับชาวมาเลเซียแล้วการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทุกปี คือการฉลองวันชาติมาเลเซียซึ่งตรงกับวันที่ 31 สิงหาคม ชาวมาเลเซียยังเรียกวันนี้ว่า วันเมอเดคา (Merdeka Day) ซึ่งแปลว่าวันแห่งอิสรภาพนั่นเอง โดยในปีนี้ตรงกับปีที่ 66 ของการเฉลิมฉลองวันชาติมาเลเซีย อย่างภาคภูมิใจ มาเลเซียได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1957 และหกปีต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน 1963 มาเลเซียก่อตั้งขึ้นโดยรวมกับรัฐซาราวักและซาบาห์

6/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สวท.เบตง จ.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906083005098

จังหวัดอุทัยธานี จัดกิจกรรม การออกกำลังกายและเล่นกีฬาจังหวัด "วัด วิว ชิลชิล เมืองอุทัย 2023"เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัยออกกำลังกายเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัดอุทัยธานี

วันนี้ (6 ก.ย. 66) เมื่อเวลา 05.30 น. ที่บริเวณหน้าอาคารสวนน้ําเฉลิมพระเกียรติ (บึงพระชนก) อําเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรม การออกกําลังกายและเล่นกีฬาจังหวัด "วัด วิว ชิลชิล เมืองอุทัย 2023" ภายใต้โครงการส่งเสริมการออกกําลังกายและกีฬาเพื่อมวลชน ประจําปี 2566 โดยมี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นางลฎาภา หิรัญวัฒนะกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุทัยธานี ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมจากนโยบายหลักของรัฐบาล ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศไทย โดยการส่งเสริมพัฒนาให้ประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และนันทนาการ มุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการกีฬา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีภารกิจหลักในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการของประเทศให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุทัยธานี จึงได้จัดกิจกรรม การออกกําลังกายและเล่นกีฬาจังหวัด "วัด วิว ชิลชิล เมืองอุทัย 2023" เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัยออกกําลังกายเล่นกีฬาอย่างสม่ําเสมอ ให้มีสุขภาวะที่ดี ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สร้างภูมิคุ้มกันโรค ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา รวมถึงสร้างกระแสให้นักกีฬาและนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดอุทัยธานีเพิ่มมากขึ้น

6/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

อุทัยธานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906085547103

จังหวัดอำนาจเจริญกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จนถึงวันที่ 6 ก.ย. 66

นายชนาส ชัชวาลวงศื ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เนื่องจากร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ทําให้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักหลายพื้นที่โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง จนถึงวันที่ 6 กันยายน 2566 จึงได้เน้นย้ําให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ําอย่างไกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ําท่วมอยู่เป็นประจํา หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ําท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน พร้อมให้เตรียมแผนรับสถานการณ์ น้ําท่วมฉับพลัน น้ําป่าไหลน้ําหลาก ดินโคลนถล่ม เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติในส่วนของประชาชนให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉัพลันและน้ําป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาไกล้ทางน้ําไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองด้วยทั้งนี้หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุได้ที่กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอํานาจเจริญ 045 523-133 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

6/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อำนาจเจริญ

สวท.อำนาจเจริญ

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906090000104

ตม.ภูเก็ต เผยสถิติต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตห้วงเดือนสิงหาคม กว่า 3 เเสนคน ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเพิ่มสูงขึ้น โดย 5 อันดับแรก คือ จีน รัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย และ มาเลเซีย

พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผู้กํากับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงสถิติการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตของชาวต่างชาติ ในห้วงเดือนสิงหาคม 2566 ระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม โดยมีชาวต่างชาติเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเปรียบเทียบกับสถิติการแจ้งที่พัก ตาม ม.38 มีจํานวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต 309,253 คน สถิตินักท่องเที่ยวแจ้งที่พัก 412,515 คน โดยสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 64,674 คน รองลงมาคือ รัสเซีย 39,209 คน ออสเตรเลีย 20,437 คน อินเดีย 18,175 คน และมาเลเซีย 16,241 คน ส่วนสถิติคนต่างด้าวเดินทางเข้าสะสมในห้วงเดียวกันมีจํานวน 11,678 คน ขณะที่ นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานภูเก็ต เปิดเผยถึงอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นช่วงโลซีซั่น ซึ่งมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 เช่นเดียวกับการเดินทางของสายการบิน นอกจากนั้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวมีการเปลี่ยนแปลง โดยบางกลุ่มมีอัตราการใช้จ่ายต่อทริปสูงถึง 2-3 ล้านบาท หรือ เฉลี่ย 2-3 แสนบาทต่อคน

6/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สวท.ภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906104217132

องค์การตลาด รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การตลาด

องค์การตลาด ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการองค์การตลาดผู้สนใจขอรับใบสมัครได้ที่ "ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาผู้อํานวยการองค์การตลาด" องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย เลขที่ 51/47 ถนนสวนผัก ซอยสวนผัก 4 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170 หมายเลขโทรศัพท์ 0 2024 9270-74 ต่อ 32ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม - 25 กันยายน 2566 ในวันทําการ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ซององค์การตลาด www.maket or ganization.or.th

6/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

หน่วยงานสำนักข่าว

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906110924140

จังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมการรับผู้แทนพระองค์มามอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ ห้วงวันที่ 25 – 28 กันยายน นี้

วันนี้ (6 ก.ย. 66) ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประชุมติดตามความก้าวหน้าการมอบหมายภารกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ ประจําปีการศึกษา 2563 - 2564 ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อําเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 25 – 28 กันยายน 2566 โดยในปีนี้มีผู้เข้ารับปริญญาบัตรรวมทั้งสิ้น จํานวน 16,643 คน ได้แก่ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี 4,789 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา 3,207 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 2,369 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 2,516 คน และมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา 3,762 คนสําหรับการประชุมในวันนี้ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ของหน่วยงานที่ได้รับมอบภารกิจ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง รวมทั้งรับทราบปัญหาอุปสรรคต่างๆ ของแต่ละหน่วยงาน เพื่อนําไปปรับปรุงแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยต่อไป.

6/9/2023

ภาคใต้

สุราษฎร์ธานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906112929147

กรมทางหลวง ประชุมสรุปผลการคัดเลือกรูปแบการพัฒนาโครงการ (สัมมนาครั้งที่ 2) รับฟังความคิดเห็นประชาชน ตามโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร สายแยกโคกเคียน - เขาสก เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งอย่างปลอดภัย

กรมทางหลวง ประชุมสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการ (สัมมนาครั้งที่ 2) รับฟังความคิดเห็นประชาชน ตามโครงการสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร สายแยกโคกเคียน - เขาสก เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งอย่างปลอดภัย โดยมีนายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ นายอําเภอตะกั่วป่า เป็นประธาน ณ ศาลาประชาคมที่อําเภอตะกั่วป่า อําเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงานายสุพัฒน์ ชุ่มมุณีรัตน์ วิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ ผู้แทนกรมทางหลวง กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ มีการนําเสนอสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการฯ จุดเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณแยกโคกเคียน อําเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา สิ้นสุดบริเวณ ตําบลคลองศก อําเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี บนถนนหลวงหมายเลข 401 รวมระยะทาง 32.50 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพังงา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งแบ่งเป็น 5 พื้นที่ ประกอบด้วย 1.พื้นที่ชุมชน 2.พื้นที่ราบสลับเนินเขา 3.พื้นที่ตันหางนกยูงควนปัก 4.พื้นที่ต้นตะแบก และ 5.พื้นที่ภูเขาสูงชันโดยการพิจารณารูปแบบถนน ได้พิจารณาสภาพภูมิประเทศและสภาพพื้นที่ของทางหลวงในปัจจุบัน พบว่า สภาพพื้นที่มีความแตกต่างกัน เช่น บางช่วงผ่านเขตชุมซน บางช่วงผ่านภูเขา เป็นต้น จึงคัดเลือกรูปแบบที่เหมาะให้สอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศและสภาพชุมชน โดยพิจารณาครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมจราจร ด้านเศรษฐกิจการลงทุน และด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมสําหรับรูปแบบการพัฒนาจุดตัดทางแยก 2 ตําแหน่ง ได้แก่ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 4 (แยกโคกเคียน) ใช้รูปแบบทางเลือกที่ 3 เป็นรูปแบบวงเวียน มีสะพานยกระดับ 1 ทิศทาง เนื่องจากมีความเหมาะสมทั้งด้านเศรษฐกิจและการเงินเพราะมีคําการลงทุนน้อย และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยกว่ารูปแบบอื่น ทําให้เกิดผลกระทบน้อยสุด จุดตัดทางหลวงหมายเลข 4090 (แยกป่าไม้) ใช้รูปแบบทางเลือกที่ 3 ซึ่งมีความเหมาะสมที่สุด มีความปลอดภัยสูงสุด ค่าลงทุนก่อสร้างถูกเพราะใช้โครงสร้างสะพานน้อยกว่าทั้งนี้ จะมีการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีกําหนดจัดการประชุมกลุ่มบ่อย ครั้งที่ 2 ประมาณเดือนธันวาคม 2566 และกําหนดจัดประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 3) ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567

6/9/2023

ภาคใต้

พังงา

สวท.ตะกั่วป่า จ.พังงา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906113753154

ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 เชิญชวนร่วมกิจกรรม หลักสูตรฝึกอบรมและศึกษาดูงาน Day Trip

ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 ขอเชิญชวนเยาวชน และประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรม "หลักสูตรฝึกอบรมและศึกษาดูงาน" Day Trip ณ ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 บางเขนโดยมีกิจกรรมดังนี้ เล่น เรียนรู้ ควบคู่ความสนุกสนาน ศึกษาดูงาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ เกษตรทฤษฎีใหม่ ฐานกิจกรรมมากมาย พร้อมได้ลงมือทําจริงฟรี !! ไม่มีค่าใช้จ่ายสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0816111809#จิตอาสา 904#ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 บางเขน#โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน

6/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

หน่วยงานสำนักข่าว

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906113727153

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสตูล

วันนี้ (6 ก.ย. 66) กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสตูล ข้อมูล ณ วันที่ 5 กันยายน 2566 สถานการณ์ปัจจุบันจังหวัดสตูลเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่อําเภอละงู ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ในพื้นที่ 5 ตําบล 34 หมู่บ้าน ผู้ได้รับผลกระทบ 2,897 คน 854 ครัวเรือน เกิดน้ําป่าไหลหลาก พัดพาวัวจมน้ํา จํานวน 2 ตัว ขณะนี้พื้นที่ได้รับผลกระทบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยกเว้น หมู่ที่ 4 บ้านตะโละใส ตําบลปากน้ํา อําเภอละงูในส่วนปริมาณน้ําฝนใน 24 ชั่วโมงของวันที่ 4 กันยายน 2566 เฉลี่ย 66.3 มิลลิเมตร น้ําขึ้นเต็มที่เวลา 02.07 น.และ 14.15 น. น้ําลงเต็มที่ เวลา 08.05 น.และ 20.09 น. ในวันที่ 5 กันยายน 2566 มีฝนตกหนัก ร้อยละ 70 ของพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ําในเขตอําเภอละงู สภาพน้ําท่า ได้แก่ ลุ่มน้ําคลองมําบัง 28.94 ม.ทรก. ต่ํากว่าตลิ่ง 4.32 ม.มรก. ต่ําว่าระดับเตือนภัย 0.27 ม.ทรก. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น , ลุ่มน้ําคลองละงู 11.67 ม.ทรก. ต่ํากว่าตลิ่ง 2.31 ม.ทรก. ต่ํากว่าระดับเตือนภัย 0.95 ม.ทรก. มีแนวโน้มลดลง และลุ่มน้ําคลองท่าแพ 15.45 ม.ทรก. ต่ํากว่าตลิ่ง 0.75 ม.ทรก. ต่ํากว่าระดับเตือนภัย 0.05 ม.ทรก. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสําหรับการดําเนินการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อําเภอละงู โดยนายธีระพงษ์ คุ่มเคี่ยม นายอําเภอละงู พร้อมด้วยปลัดอําเภอ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดสมาชิก อส.เข้าช่วยเหลือประชาชน ดูแลรักษาความปลอดภัย และสํารวจความเสียหายเบื้องต้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ให้ความช่วยเหลือด้านสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จําเป็น การขนย้ายสิ่งของ การเปิดทางระบายน้ําฯ อาสาสมัคร มูลนิธิ ในพื้นที่เข้าช่วยเหลืออพยพสิ่งของ เลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้สุงอายุ โครงการชลประทานสตูล ได้ทําการเปิดทางน้ํา บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ําคลองบาโลย หมู่ที่ 4 บ้านตะโละใส ตําบลปากน้ํา อําเภอละงู เพื่อเร่งระบายน้ํา และเดินเครื่องสูบน้ํา ขนาด 16 นิ้ว จํานวน 2 เครื่อง อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ํา อัตราการส่งน้ํา 1.15 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จํานวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ผลักดันน้ําช่วงระดับน้ําละเลลดลง ทั้งนี้ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สํานักงานเจ้าท่าสตูล สํานักงานประมงจังหวัดสตูล เทศบาลเมืองสตูล และองค์การบริหารส่วนตําบลควนขัน วางแผนติดตั้งเครื่องผลักดันน้ํา จํานวน 4 เครื่อง บริเวณคลองมําบัง (สะพานข้ามคลองมําบัง) เพื่อเร่งระบายน้ําในพื้นที่ตัวเมืองสตูลป้องกันการเกิดอุทกภัยในพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัด และสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล ได้ออกประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง ประสานงานการวางแผน และการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ พร้อมประสานการระดมทรัพยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังได้จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้ ขณะนี้ปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง น้ําทะเลเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง การระบายน้ําในพื้นที่ท่วมขังทําได้ดีขึ้น พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติ ยกเว้น หมู่ที่ 4 บ้านตะโละใส ตําบลปากน้ํา อําเภอละงู ปริมาณน้ําท่วมขังลดลงจากเมื่อวาน คาดการณ์ว่าจะสามารถระบายน้ําได้อย่างต่อเนื่อง และหากไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วัน ซึ่งจะได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดต่อไป

6/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906114738162

อำเภอเมืองขอนแก่น จัดหน่วยบริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ให้กับผู้ป่วยติดเตียง คนชรา หรือ ผู้พิการที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้

อําเภอเมืองขอนแก่น ร่วมกับศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 4 สาขาจังหวัดขอนแก่น จัดหน่วยบริการจัดทําบัตรประจําตัวประชาชนเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ออกบริการในสถานที่ต่างๆ ให้กับผู้ป่วยติดเตียง คนชรา หรือ ผู้พิการที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เจ้าหน้าที่สํานักทะเบียนอําเภอเมืองขอนแก่น นําโดยปลัดอําเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนและทีมออกหน่วยบริการจัดทําบัตรประจําตัวประชาชนเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ออกให้บริการทําบัตรประจําตัวประชาชน บริการถ่ายภาพ และออกบัตรประจําตัวประชาชนให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ในเขตอําเภอเมืองขอนแก่น ตามนโยบายกรมการปกครองที่ตระหนักถึงความสําคัญของการทําบัตรประจําตัวประชาชนของบุคคลกลุ่มดังกล่าวที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยการจัดทําบัตรประจําตัวประชาชนนอกสถานที่ เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่มีความจําเป็นต้องใช้บัตรฯ แสดงตนในกรณีเร่งด่วน โดยมีผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย ผู้พิการ 3 ราย รวมทั้งหมดจํานวน 5 ราย"กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ออกประกาศเรื่อง การทําบัตรประจําตัวประชาชน ของผู้ป่วยติดเตียง คนชรา หรือผู้พิการที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงมีนโยบายจัดทําบัตรประจําตัวประชาชนนอกสถานที่ เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยจัดหน่วยบริการจัดทําบัตรประจําตัวประชาชนเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ให้บริการ ในสถานที่ที่ผู้ขอมีบัตรพักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เช่น บ้าน โรงพยาบาล หรือสถานที่อื่นๆ ตามที่ญาติได้แจ้งความจํานงไว้ โดยเริ่มดําเนินโครงการมาแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2559 เป็นต้นมา"ทั้งนี้ ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องการทําบัตรประชาชนหมดอายุ ไม่จําเป็นต้องเดินทางไปถึงอําเภอ โดยญาติของผู้ที่จะขอรับบริการสามารถติดต่อขอรับบริการได้ในวันและเวลาราชการ ได้ที่อําเภอหรือเทศบาลตามภูมิลําเนา หรือส่วนบัตรประจําตัวประชาชน สํานักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง

6/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอนแก่น

สวท.ขอนแก่น

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906132108183

เทศบาลนครเกาะสมุย มอบอุปกรณ์จราจร สภ.บ่อผุด หวังลดอุบัติเหตุทางถนน

วันนี้( 6 ก.ย.66) ที่สถานีตํารวจภูธรบ่อผุด ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุธรรม สามทอง รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ มอบอุปกรณ์จราจร เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้กับสถานีตํารวจภูธรบ่อผุด ประกอบด้วยกรวยจราจร 200 กรวย แผงกั้นจราจร 30 แผง เสาล้มลุก 100 เสา โดยมีพันตํารวจเอก ยุทธนา ศิริสมบัติ ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรบ่อผุด เป็นตัวแทนรับมอบอุปกรณ์นายสุธรรม สามทอง รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย กล่าวว่า ภารกิจงานจราจรในอําเภอเกาะสมุย เพิ่มมากขึ้น หลังจากผ่านภาวะวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเพิมมากขึ้น เทศบาลนครเกาะสมุยเล็งเห็นถึงความสําคัญส่วนนี้จึงได้กันเงินงบประมาณเพื่อนํามาซื้ออุปกรณ์จราจรมามอบให้ สภ.บ่อผุด และจะนํามาบูรณาการร่วมกัน เพื่อใช้ในกิจการต่างๆเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทางด้านจราจรในอนาคตพันตํารวจเอก ยุทธนา ศิริสมบัติ ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรบ่อผุด กล่าวว่า ที่ผ่านมาด้วยข้อจํากัดของงบประมาณไม่เพียงพอ จึงได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลนครเกาะสมุย ซึ่งจะนําอุปกรณ์จราจรที่ได้รับเหล่านี้ ไปใช้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และการจราจรคับคั่ง รวมถึงการนําไปใช้ในอํานวยความสะดวกให้แก่ประชาชนตามสถานการณ์ต่างๆอีกด้วย

6/9/2023

ภาคใต้

สุราษฎร์ธานี

สวท.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906115405167

องค์การบริหารส่วนตำบลควนสตอ จังหวัดสตูล สร้างความตระหนักรู้การป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกแบบบูรณาการแก่ประชาชนในพื้นที่ มุ่งเน้นทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

วันนี้ (6 ก.ย.66) นายซะรี่ย์อะซีร นุ่งอาหลี นายกองค์การบริหารส่วนตําบลควนสตอ เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก และในทุก ๆ ปีมักจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ ทางองค์การบริหารส่วนตําบลควนสตอ โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ องค์การบริหารส่วนตําบลควนสตอ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ อสม.หมู่ที่ 1 (บ้านโต๊ะสะ) ดําเนินโครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกแบบบูรณาการแก่ประชาชนในพื้นที่ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจําตําบลบ้านกุบังปะโหลด ตําบลควนสตอ อําเภอควนโดน จังหวัดสตูล ทั้งนี้ เพื่อเร่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้เลือดออกแก่ประชาชน เพื่อให้มีส่วนร่วมในการป้องกัน การควบคุม และการเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งทําลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ํายุงลาย เพื่อไม่ให้ในพื้นที่มีผู้ป่วยและเกิดการเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก

6/9/2023

ภาคใต้

สตูล

สวท.สตูล

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906131554181

จังหวัดตรัง ทำพิธียกเสาเอกอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาจังหวัดตรัง

วันนี้ (6 ก.ย.2566) นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานทําพิธียกเสาเอก อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาจังหวัดตรัง ณ สนามกีฬาเทศบาลนครตรัง 2 (ทุ่งแจ้ง) ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง โดยจังหวัดตรังได้จัดสรรพื้นที่บริเวณสนามกีฬาทุ่งแจ้งให้ สํานักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดตรังใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาจังหวัดตรัง พื้นที่ขนาด 40 X 40 เมตร และการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ตั้งงบประมาณประจําปี พ.ศ. 2566 ในวงเงิน 8,000,000 บาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาจังหวัดตรัง สําหรับการก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาจังหวัดตรัง มีวัตถุประสงค์ เพื่อจะได้มีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ไว้สําหรับดูแลเรื่องสมรรถภาพทางกายนักกีฬาและพี่น้องประชาชนทั่วไป ระยะเวลาการก่อสร้าง 240 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2566 เสร็จสิ้น 4 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีบริษัท ยายบัว การช่าง จํากัด เป็นผู้รับจ้าง

6/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สวท.ตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906133446191

สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ตและการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต ขอเชิญพี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ต ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้ทัพนักกีฬาคนพิการจังหวัดภูเก็ต

สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ตและการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต ขอเชิญพี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ต ร่วมเชียร์และเป็นกําลังใจให้ทัพนักกีฬาคนพิการจังหวัดภูเก็ต ในการร่วมการแข่งขันกีฬา "กาญจนิกาเกมส์" การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 38 ณ จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 8-12 กันยายน 2566

6/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906135505212

จังหวัดเพชรบูรณ์แถลงข่าวเตรียมจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ประจำปี 2566

ที่หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ร่วมแถลงข่าว งานประเพณีอุ้มพระดําน้ําจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจําปี 2566 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน ประชาชน เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวสําหรับงานประเพณีอุ้มพระดําน้ําจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจําปี 2566 ได้กําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-19 ตุลาคม 2566 ณ บริเวณหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย วัดไตรภูมิ วัดโบสถ์ชนะมาร และพุทธอุทยานเพชบุระ จัดขึ้นเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีกําหนดการที่สําคัญประกอบด้วย - วันที่ 11 ตุลาคม 2566 กําหนดจัดพิธีรําถวายพระพุทธมหาธรรมราชา เวลา 18.00 น. ณ พุทธอุทยานเพชบุระ จํานวน 2,566 คน- วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ได้กําหนดจัดพิธีบวงสรวง เวลา 09.09 น. ณ วัดไตรภูมิ และ พิธีอัญเชิญองค์พระฯแห่รอบเมืองเพชรบูรณ์ เวลา 17.00 น. - วันที่ 13 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้กําหนดจัดกิจกรรมการแสดงดนตรีเทิดพระเกียรติ ณ เวทีกลาง และในวันที่ 14 ตุลาคม 2566 เป็นพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชา ทวนน้ําจากท่าน้ําวัดไตรภูมิ ไปประกอบพิธีอุ้มพระดําน้ําที่ท่าน้ําวัดโบสถ์ชนะมาร ในเวลา 10.39 น. โดยในปีนี้ใช้โขนหัวเรือเหมวาริน ในการประกอบพิธี ประเพณีอุ้มพระดําน้ํามีตํานานที่ถูกเล่าขานมานานเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลกของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ออกหาปลาในแม่น้ําป่าสัก แต่อยู่มาวันหนึ่งเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น โดยกระแสน้ําในบริเวณวังมะขามแฟบ มีพรายน้ําผุดขึ้นมาทีละน้อยจนแลดูคล้ายน้ําเดือด จากนั้นกลายเป็นวังวนดูดเอาองค์พระพุทธรูปองค์หนึ่งลอยขึ้นมาเหนือน้ํา ทําให้ชาวประมงต้องลงไปอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ แต่ในปีถัดมาตรงกับวันแรม 15 ค่ํา เดือน 10 วันประเพณีสารทไทย พระพุทธรูปดังกล่าวหายไป ชาวบ้านต่างพากันระงมหา สุดท้ายไปพบพระพุทธรูปกลางแม่น้ําป่าสัก บริเวณที่พบพระพุทธรูปองค์นี้ในครั้งแรกกําลังอยู่ในอาการดําผุดดําว่าย จึงได้ร่วมกันอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดไตรภูมิอีกครั้งหนึ่ง พร้อมร่วมกันถวายนามว่า "พระพุทธมหาธรรมราชา" หลังจากนั้นต่อมาในวันสารทไทย หรือวันแรม 15 ค่ําเดือน 10 เจ้าเมืองเพชรบูรณ์จะทําพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา ลงประกอบพิธีดําน้ําเป็นประจําทุกๆปี โดยเชื่อว่าจะทําให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ไพร่ฟ้าประชาชนมีความสุข บ้านเมืองปราศจากจากโรคระบาดคุกคาม จนกลายมาเป็นประเพณีอุ้มพระดําน้ําอันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน

6/9/2023

ภาคเหนือ

เพชรบูรณ์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906140909220

จังหวัดภูเก็ตขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนา บูชาแผ่นดิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ??ในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566 เวลา 18.00-20.30 น. ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ??การแต่งกาย : ชุดสุภาพ โทนสีขาว

จังหวัดภูเก็ตขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนา บูชาแผ่นดิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566 เวลา 18.00-20.30 น. ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตการแต่งกาย : ชุดสุภาพ โทนสีขาว

6/9/2023

ภาคใต้

ภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906140359216

เรือนจำจังหวัดแพร่กำหนดจัดกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิด “สานสายใยรัก เฉลิมพระเกียรติ 91 พรรษา”

สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รับแจ้งจาก นายศร ธิติธรรมพฤกษ์ ผู้บัญชาการเรือนจําจังหวัดแพร่ว่า เรือนจําจังหวัดแพร่จะจัดงานเยี่ยมญาติใกล้ชิด “สานสายใยรัก เฉลิมพระเกียรติ 91 พรรษา” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ต้องขัง และผู้ต้องกักขังที่มีความประพฤติดี อยู่ในระเบียบวินัยของเรือนจํา ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมอย่างใกล้ชิดกับญาติในลักษณะถึงตัว ไม่มีสิ่งกีดขวาง ให้สนทนาและรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นการสร้างความรัก ความเข้าใจของสมาชิกในครอบครัว และเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดี มีกําลังใจที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีของสังคม และอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างปกติสุข โดยจัดเยี่ยมญาติใกล้ชิดในวันที่ 13-14 กันยายน 2566 ที่เรือนจําจังหวัดแพร่ ทั้งนี้เรือนจําจังหวัดแพร่ได้ดําเนินการตามมาตรฐานการเยี่ยม การติดต่อกับผู้ต้องขังของบุคคลภายนอกและของฝากให้ผู้ต้องขัง และมาตรการในการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัดสําหรับผู้ต้องขังที่จะได้รับการเยี่ยมนั้น ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ชั้นดี ชั้นดีมาก และชั้นเยี่ยม, กรณีเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ต้องเหลือโทษจําคุกต่อไปไม่เกิน 10 ปี กระทําผิดครั้งแรกหรือคดีเดียว, ไม่กระทําผิดวินัยของเรือนจําภายในระยะเวลา 1 ปีนับถึงวันจองเยี่ยมญาติใกล้ชิด, ผู้ต้องกักขัง ต้องเป็นผู้ต้องกักขังที่คดีถึงที่สุด มีความประพฤติดีและไม่เคยกระทําผิดวินัย และผู้ต้องขังที่มีสิทธิพบญาติใกล้ชิดจะได้รับการเยี่ยม 1 ครั้ง ตลอดวันงานพบญาติใกล้ชิด และจะต้องกักโรคเช่นเดียวกับผู้ต้องขังเข้าใหม่เป็นเวลา 10 วันภายหลังจากเยี่ยมญาติใกล้ชิดในส่วนของญาติที่จะเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง ต้องเกี่ยวข้องเป็นญาติกับผู้ต้องขัง หมายถึง บิดา มารดา สามี ภรรยา ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา และบุตร และบุคคลดังกล่าวต้องปรากฏในรายชื่อ 10 คน ที่ผู้ต้องขังแจ้งไว้กับเรือนจํา โดยต้องมีเอกสารแสดงให้เห็นความเป็นญาติที่แท้จริง เช่น สําเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส สูติบัตรบุตร ใบสําคัญการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล เป็นต้น โดยอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ในแต่ละครั้งไม่เกิน 5 คนต่อผู้ต้องขัง 1 คน โดยญาติจะต้องแสดงบัตรประจําตัวประชาชน หรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้, ญาติที่เข้าเยี่ยมทุกคนจะต้องตรวจ ATK (ผลเป็นลบ) มาก่อนเข้าเยี่ยม 24 ชั่วโมง และนําผลมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันพบญาติใกล้ชิด, ญาติที่เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังภายในเรือนจํา จะต้องแต่งกายสุภาพ ทั้งหญิงและชาย กางเกงต้องเป็นกางเกงขายาว (ไม่อนุญาตให้ใส่เสื้อสายเดี่ยว และกางเกงขาสั้น สวมหมวกหรือผ้าคลุม), ญาติที่เข้าเยี่ยมที่มีอาการมึนเมา เมาสุรา หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะก่อความเดือดร้อนรําคาญ หรือกระทําผิดกฎหมายจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในการเข้าเยี่ยม และจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นตรวจตามระเบียบทุกคนเพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบนํายาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้ามเข้าภายในเรือนจํา และไม่อนุญาตให้นําอาหารและของอื่นใดติดตัวเข้าไปภายในเรือนจํา โดยญาติสามารถฝากสิ่งของไว้ที่จุดบริการรับฝากของภายนอกเรือนจํา และญาติต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางเรือนจําและอยู่ในพื้นที่ที่เรือนจํากําหนดเท่านั้นโดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องขังและจองเยี่ยมระหว่างวันที่ 29 สิงหาคมถึงวันที่ 6 กันยายน 2566 ประกาศรายชื่อผู้ต้องขังที่ได้รับการเยี่ยม ในวันที่ 8 กันยายน 2566 สําหรับวันเยี่ยมใกล้ชิด ผู้ต้องขังหญิง วันที่ 13 กันยายน 2566 รอบเช้า เวลา 09.30-11.30 น. ผู้ต้องขังชาย วันที่ 13 กันยายน 2566 รอบบ่ายเวลา 13.00 - 15.00 น. และวันที่ 14 กันยายน 2566นอกจากนี้การเยี่ยมญาติผู้ต้องขังอื่นๆ เปิดเยี่ยมตามปกติ คือ ผู้ต้องขังชาย วันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี และวันศุกร์ ผู้ต้องขังหญิง วันพุธ และเยี่ยมผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ตามระเบียบที่กําหนด

6/9/2023

ภาคเหนือ

แพร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906141824223

นักศึกษาสาขาเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เข้าศึกษาดูงาน ที่ NBT สงขลา เพื่อศึกษาบทบาทหน้าที่สื่อมวลชนภาครัฐ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ด้านสื่อมัลติมีเดีย

นักศึกษาและอาจารย์ จํานวนกว่า 30 คน จากสาขาเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.สงขลา เข้าศึกษาดูงานการผลิตรายการโทรทัศน์และการออกอากาศของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา เพื่อสร้างแรงจูงใจในรายวิชาเทคโนโลยีสื่อดิจิทัล การออกแบบกราฟิก และมัลติมีเดีย รวมทั้งเปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้ประสบการณ์จริง โดยมี นายปฐมพงศ์ แก้วบันดิษฐ์ ผู้อํานวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย บุคลากรและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับโอกาสนี้ ผู้อํานวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ได้กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในระดับภูมิภาค ช่อง 11 ที่ออกอากาศครอบคลุมในแต่ละภาค ซึ่งรายการและข่าวที่ออกอากาศของแต่ละสถานีจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังมีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD หรือ ช่อง 2 ที่ออกอากาศทั่วประเทศ สําหรับ NBT ภาคใต้ หรือ NBT SOUTH ออกอากาศครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานราชการ สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ สํานักนายกรัฐมนตรี ที่ทําหน้าที่เป็นสื่อหลักเผยแพร่ข่าวสารทั้งนี้ เพื่อให้นักศึกษาได้รู้จักและเข้าใจการทํางานด้านสื่อสารมวลชนของ NBT สงขลา มากยิ่งขึ้น จึงแบ่งนักศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อเข้าเยี่ยมการปฏิบัติงานออกอากาศจริงที่ไม่มีในตํารา โดยชมการออกอากาศสดรายการพิราบคาบข่าว // เยี่ยมชมห้องกํากับรายการ ห้องควบคุมภาพเสียง เพื่อทําความเข้าใจกระบวนการผลิตรายการ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ตนเอง ค้นหาความชอบ ความถนัด เพื่อเรียนได้ตรงสาขาและต่อยอดไปสู่การทํางาน

6/9/2023

ภาคใต้

สงขลา

สทท.สงขลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906142057224

จังหวัดสุราษฎร์ธานีประชาสัมพันธ์ เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนเข้าใจผิดจากมิฉาชีพที่แอบอ้างว่าเป็น สำนักงานก.ล.ต.

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยวา ศูนย์ดํารงธรรมกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่าสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีหนังสือถึงศูนย์ดํารงธรรมกระทรวงมหาดไทยว่าปัจจุบันถูกคุกคามจากการหลอกให้ลงทุนในรูปแอบอ้างใช้ชื่อและโลโก้ของสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สํานักงานก.ล.ต.หน่วยงาน/องค์กร และบุคคลที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน ทําให้เกิดความเสียหายในวงกว้างส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ ภาวะสังคม สุขภาพจิตของประชาชน รวมทั้งระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอย่างไรก็ตาม สํานักงานก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่ทําหน้าที่กํากับดูแลและพัฒนาตลาดทุน รวมทั้งให้ความรู้และคุ้มครองผู้ลงทุนและประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับกลโกงหลอกลงทุนเพื่อป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพซึ่งรวมถึงการจัดทําอินโฟกราฟิก เพื่อเตือนภัยประชาชนในเรื่องดังกล่าว โดยสํานักงาน ก.ล.ต.จึงขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานของศูนย์ดํารงธรรม กระทรวงมหาดไทย ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่อินโฟกราฟิกเตือนประชาชนระวังการแอบอ้างสํานักงาน ก.ล.ต. เพื่อหลอกลงทุน และอินโฟกราฟิก 6 ข้อ เช็คก่อนเชื่อ ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ผ่านช่องทางต่างๆของหน่วยงานเพื่อให้มีการกระจายข้อมูลไปสู่ประชาชนในวงกว้างมากยิ่งขึ้นทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ประชาชนเข้าใจผิดจากมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างว่า เป็นสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยให้สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยแพร่อินโฟกราฟิกเพื่อเตือนภัยดังกล่าว และประชาสัมพันธ์ช่องทางที่ถูกต้องในการติดต่อกับสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้กับบุคลากรในสังกัดและประชาชนรับทราบต่อไป ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่.สํานักงานจังหวัด กลุ่มงานศูนย์ดํารงธรรมจังหวัด โทร.077206683.

6/9/2023

ภาคใต้

สุราษฎร์ธานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906152301253

มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ส่งมอบลูกพันธุ์หอยนางรมแก่เกษตรกรต้นแบบ โครงการวิจัย “การถ่ายทอดเทคโนโลยีและระบบการเลี้ยงหอยนางรมเพื่อสร้างอาชีพทางเลือกให้กับชุมชนชายฝั่งจังหวัดตรัง”

ที่ห้องประชุมรองศาสตราจารย์ประชีพ ชูพันธ์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย นําโดยศาสตราจารย์ ดร.สุวัจน์ ธัญรส อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประธานในพิธีเปิดงานส่งมอบลูกพันธุ์หอยนางรมแก่เกษตรกรต้นแบบ โครงการวิจัย “การถ่ายทอดเทคโนโลยีและระบบการเลี้ยงหอยนางรมเพื่อสร้างอาชีพทางเลือกให้กับชุมชนชายฝั่งจังหวัดตรัง” พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ “การบริหารจัดการลูกพันธุ์หอยนางรมจากโรงเพาะฟัก ให้ประสบความสําเร็จ” แก่ผู้เข้าร่วมงาน และมี นายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดตรัง ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ “ทิศทางการเลี้ยงหอยนางรมของจังหวัดตรัง”ผศ.มาโนช ขําเจริญ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง กล่าวว่าโครงการวิจัย “การถ่ายทอดเทคโนโลยีและระบบการเลี้ยงหอยนางรมเพื่อสร้างอาชีพทางเลือกให้กับชุมชนชายฝั่งจังหวัดตรัง” ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยการขยายผลวิจัยเทคโนโลยีที่เหมาะสม (ภายใต้กรอบการวิจัย “ชุมชนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประจําปีงบประมาณ 2566 ภายใต้โครงการวิจัย “การถ่ายทอดเทคโนโลยีและระบบการเลี้ยงหอยนางรมเพื่อสร้างอาชีพทางเลือกให้กับชุมชนชายฝั่งจังหวัดตรัง” จากเดิมได้มีการถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยนางรมพบปัญหาการขาดแคลนลูกพันธุ์หอยนางรมเนื่องจากปริมาณลูกพันธุ์หอยนางรมในธรรมชาติลดลง ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ปัจจุบันราคาลูกพันธุ์หอยนางรมขยับสูงขึ้น ซึ่งการเพาะพันธุ์เพื่อผลิตลูกหอยนางรมจากโรงเพาะฟักจึงเป็นแนวทางสําคัญในการแก้ปัญหาการขาดแคลนลูกพันธุ์หอยดังกล่าว เนื่องจาก สามารถควบคุมการผลิตทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ปัจจุบันคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สามารถผลิตลูกพันธุ์หอยนางรมจากโรงเพาะฟักได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้ง ยังสามารถถ่ายทอดรูปแบบและวิธีการผลิตสู่เกษตรกรต้นแบบ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยงหอยนางรม และ พัฒนาทักษะเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยนางรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จึงจัดกิจกรรมส่งมอบลูกพันธุ์หอยนางรมแก่เกษตรกรต้นแบบ โดยส่งมอบลูกพันธุ์หอยนางรมจากโรงเพาะฟักขนาด 3 - 5 เซนติเมตร แก่เกษตรกรในพื้นที่ชุมชนชายฝั่งของจังหวัดตรัง เพื่อให้เกษตรกรสามารถนําไปเลี้ยงต่อในรูปแบบต่าง ๆ ตามบริบทของพื้นที่สําหรับจําหน่ายต่อไปการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นเกษตรกรและตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตําบลจากชุมชนชายฝั่ง จํานวน 6 ชุมชน 5 ตําบล ได้แก่ ชุมชนบ้านเกาะลิบง ตําบลเกาะลิบง ชุมชนบ้านแหลม ตําบลวังวน อําเภอกันตัง ชุมชนบ้านทอนหาร ชุมชนบ้านหยงสตาร์ ตําบลท่าข้าม อําเภอปะเหลียน ชุมชนตะเสะ ตําบลตะเสะ อําเภอหาดสําราญ และชุมชนบางค้างคาว ตําบลเขาไม้แก้ว อําเภอสิเกา จํานวนทั้งสิ้น 65 คน นอกจากนั้น ยังมีการจัดนิทรรศการ นวัตกรรมการเลี้ยงหอยนางรม และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง

6/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สวท.ตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906153416262

เทศบาลเมืองกระบี่ เร่งนำกระสอบทราย มาวางเป็นแนวป้องกันน้ำจากคลองกระบี่ใหญ่ ป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลังจังหวัดกระบี่ ประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัย 5 อำเภอ

วันที่ 6 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่สํานักงานเทศบาลเมืองกระบี่ นํากระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกันน้ําจากคลองกระบี่ใหญ่ ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บริเวณชุมชนเมืองเก่าพัฒนา เทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ําก่อนไหลสู่ทะเล หลังจากมีฝนตนต่อเนื่องในพื้นที่ พร้อมแจ้งเตือนประชาชน เฝ้าระวัง เตรียมขนย้ายทรัพย์สิน ไว้ที่ปลอดภัย ขณะที่ชาวบ้านชุมชนบ้านหาดถั่ว ตําบลปลายพระยา อําเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ช่วยกัน ซ่อมแซมสะพานไม้ทางเบี่ยงข้ามคลองอิปัน ระยะทางประมาณ 40 เมตร ที่ถูกกระแสน้ําพัดได้รับความเสียหายเมื่อสองวันที่ผ่านมา ทําให้ชาวบ้านกว่า 50 ครอบครัวต้องใช้เส้นทางอ้อมเป็นระยะทาง กว่า 10 กิโลเมตร ชาวบ้านช่วยกันซ่อมให้รถจักรยานยนต์และคนในหมู่บ้านสามารถเดินเท้าผ่านได้ชั่วคราว หลังจากนี้ ฝ่ายปกครอง ได้ประสาน เจ้าหน้าที่ทหาร ช่าง เพื่อนําสะพานเหล็กมาติดตั้ง อํานวยความสะดวกแก่ชาวบ้าน โดยจังหวัดกระบี่ได้มีประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณอําเภอเกาะลันตา คลองท่อม เมืองกระบี่ เหนือคลอง และอําเภออ่าวลึก เฝ้าระวังอันตรายจาก ฝนตกหนัก อาจเกิดน้ําป่าไหลหลาก น้ําท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม เรือขนาดเล็กงดออกจากฝั่ง ในระยะ นี้

6/9/2023

ภาคใต้

กระบี่

สวท.กระบี่

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906162206289

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่ รวมทั้งการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง

วันที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่ รวมทั้งการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ฯลฯ ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สํานักงานพาณิชย์จังหวัดปราจีนบุรี ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี

6/9/2023

ภาคตะวันออก

ปราจีนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906161755285

จังหวัดมุกดาหาร ประชุมเตรียมงาน "ปั่นข้ามโขง เชื่อมโยงวัฒนธรรม เพื่อการท่องเที่ยว มุกดาหาร-สะหวันนะเขต ปี 2"

ที่ห้องประชุมดอกช้างน้าว ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมเตรียมงาน "ปั่นข้ามโขง เชื่อมโยงวัฒนธรรม เพื่อการท่องเที่ยว มุกดาหาร - สะหวันนะเขต ปี 2" (CULTURAL TOURISM OF MUKDAHAN-SAVANNAKHET SEASON 2) โดยมีนายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ท่านโพสีส้อย กุทิลาด หัวหน้าแผนกแถลงข่าววัฒนธรรมและท่องเที่ยวแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว และคณะทํางานเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยการจัดงาน "ปั่นข้ามโขง เชื่อมโยงวัฒนธรรม เพื่อการท่องเที่ยว มุกดาหาร-สะหวันนะเขต ปี 2" (CULTURAL TOURISM OF MUKDAHAN-SAVANNAKHET SEASON 2) จะกําหนดจากขึ้นในระหว่างวันที่ 4-5 พฤศจิกายน 2566 โดยจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับ สมาคมการค้าท่องเที่ยวมุกดาหาร ที่จะชวนนักท่องเที่ยว นักปั่นมาสัมผัส Unseen new chapters ยลเสน่ห์เมืองไกสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต ภายใต้ธีมงาน "Crossing (โคตรซิ่ง) Amazing ยิ่งกว่า" ดื่มด่ําบรรยากาศริมสองฝั่งโขงยามค่ําคืน สุดแสนโรแมนติก Crossing Amazing ยิ่งกว่าเดิม กับการแสดงต้อนรับด้วยศิลปวัฒนธรรมวิถีชีวิตสองฝั่งโขง สนุก มันส์ โคตรซิ่งและชิลล์ริมโขงผู้สนใจร่วมกิจกรรม สมัครประเภท ปั่นค้างคืน 2 วัน 1 คืน ค่าโปรแกรม 1,990 บาท รับเสื้อ ค่าผ่านแดน ค่าธรรมเนียม ค่ารถขนส่ง ค่าร่วมกิจกรรม ค่าที่พัก(เตียงคู่) อาหารและเครื่องดื่ม 4 มื้อ และประกันอุบัติเหตุ ส่วนประเภทปั่นค้างคืน 1 วัน ค่าโปรแกรม 990 บาท รับเสื้อ ค่าผ่านแดน ค่าธรรมเนียม ค่ารถขนส่ง ค่าร่วมกิจกรรม อาหารและเครื่องดื่ม 2 มื้อและ ประกันอุบัติเหตุ เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม - 2 ตุลาคม 2566 ที่ https://events.thaimtb.com หรือสมาคมการค้าท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร โทร. 088-5522554

6/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มุกดาหาร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906165901299

จังหวัดสงขลา แถลงข่าวการจัดงานสงขลาไบค์วีค ประจำปี 2566 และการแข่งขันจักรยานชิงชนะเลิศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายนนี้

วันนี้ (6 ก.ย. 66) ที่บริเวณศาลาไทย (หาดสมิหลา) อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายไพเจน มากสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายคงฤทธิ์ คงพรม เลขานุการจัดงานสงขลาไบค์วีค นายไพศาล กชกรจารุพงศ์ เลขานุการชมรมกีฬาจักรยานจังหวัดสงขลา พันตํารวจเอก บรรเทิง เหล่าเจริญ ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรเมืองสงขลา นายสุรเชษฐ์ บินเด็น รองนายกเทศมนตรีตําบลปาดังเบซาร์ และนายพิทักษ์ สุวรรณวงศ์ ตัวแทนจากสํานักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานสงขลาไบค์วีค ในวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ณ โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา สงขลา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การจัดโครงการสงขลาไบค์วีค เป็นกิจกรรมการรวมกลุ่มของผู้รักการขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Big bike) กว่า 1,000 คัน ในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ภาคใต้ เพื่อมาร่วมสัมผัสบรรยากาศการขับขี่ท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง การดูแลรถ และร่วมจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ โดยกิจกรรมภายในงานจะมีการแปรอักษร WE LOVE THE KING เทิดพระเกียรติ ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ฮาเล่ การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง มอส ปฏิภาณ และศรีเผือก คนด่านเกวียน ตลอดจนการประมูลและแลกเปลี่ยนของที่ระลึก เป็นต้นนอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ ที่ 17 กันยายน 2566 เป็นกิจกรรมการแข่งขันจักรยานชิงชนะเลิศ จังหวัดสงขลา ตามโครงการพัฒนาเมืองกีฬา (Songkhla Sports City) ประจําปีงบประมาณ 2566 ณ เทศบาลตําบลปาดังเบซาร์ อําเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น พร้อมแสดงศักยภาพความพร้อมในการจัดการแข่งขันทุกด้าน เพื่อยกระดับสู่การขับเคลื่อนนโยบายสงขลาเมืองกีฬา และรองรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี พ.ศ. 2568สําหรับการแข่งขันฯ จะเริ่มต้นจากเทศบาลตําบลปาดังเบซาร์ และสิ้นสุดที่คลองเขาแก้ว เทศบาลตําบลปาดังเบซาร์ รวมระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ซึ่งในการจัดการแข่งขันจะมีเจ้าหน้าที่ตํารวจคอยอํานวยความสะดวก และดูแลเรื่องความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักกีฬาและผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จากนั้น ในเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป เป็นกิจกรรมคอนเสิร์ตจัดหารายได้เพื่อนักกีฬาชมรมจักรยานจังหวัดสงขลา โดยมีศิลปินที่มีชื่อเสียง ประกอบด้วย เสก โลโซ และเต๋า สมชาย และศิลปินอีกมากมาย ณ โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา สงขลา

6/9/2023

ภาคใต้

สงขลา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906175102317

จังหวัดลพบุรีจัดงาน “ตลาดเกษตรกร (Farmer Market) จังหวัดลพบุรี สาขาสระโบสถ์” เพิ่มช่องทางการตลาดให้เกษตรกรขายตรงถึงผู้บริโภค

วันนี้ (6 ก.ย.66) ที่ลานอเนกประสงค์หน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หมู่ที่ 10 ตําบลสระโบสถ์ อําเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี นางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดงาน “ตลาดเกษตรกร (Farmer Market) จังหวัดลพบุรี สาขาสระโบสถ์” โดยมี นายศรัทธา ศรีทิพงศ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลพบุรี ว่าที่ร้อยตรี ดร.ภาณุพงศ์ ศิริ นายอําเภอสระโบสถ์ พร้อมด้วย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรเข้าร่วมพิธีเปิดงานสําหรับการจัดงาน “ตลาดเกษตรกร (Farmer Market) จังหวัดลพบุรี สาขาสระโบสถ์” ครั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด ให้เกษตรกรที่ผลิตสินค้าคุณภาพแก่ผู้บริโภคแบบขายตรง (Direct Sale) ตามนโยบายตลาดนําการผลิต เพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าคุณภาพ ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชน ได้ให้ความสําคัญในการดูแลสุขภาพของตนเองเป็นหลัก จากการบริโภคสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยไร้สารพิษ มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นการรวบรวมผลผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานของเกษตรกรในพื้นที่มาจําหน่าย เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้แก่เกษตรกร มีช่องทางการตลาดเป็นของตนเอง และเป็นการลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร โดยไม่ต้องนําผลผลิตซึ่งมีจํานวนน้อยไปหาตลาดที่มีระยะทางไกลจากแหล่งผลิต ซึ่งทําให้มีต้นทุนการขนส่งสูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปได้หันมาใส่ใจสุขภาพ ให้ความสําคัญในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นและยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้บริโภคสินค้าที่ปลอดภัยไร้สารพิษ โดยปัจจุบันมีการบูรณาการเพื่อจัดตลาดเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลพบุรีไปแล้ว จํานวน 10 อําเภอ 13 แห่ง ทั้งนี้ การเปิดตลาดเกษตรกร สาขาอําเภอสระโบสถ์ ทําให้มีตลาดเกษตรกรครบทั้ง 11 อําเภอ สําหรับตลาดเกษตรกรอําเภอสระโบสถ์จัด ณ ลานอเนกประสงค์หน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตําบลสระโบสถ์ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จัดตลาดเกษตรกรจากเทศบาลตําบลสระโบสถ์ ให้จําหน่ายเป็นประจําทุกวันพุธ ระหว่างเวลา 14.00-18.00 น. โดยวันนี้มีร้านค้ามาร่วมจําหน่ายสินค้าเพื่อเปิดตลาด จํานวน 30 ร้าน

6/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

ลพบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906195614348

ผู้ว่าฯ อยุธยา เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมพื้นที่สำหรับรับองคมนตรีและคณะอนุกรรมการฯ ในการติดตามผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมพื้นที่สําหรับรับองคมนตรีและคณะอนุกรรมการฯ ในการติดตามผลการดําเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รอง ผอ.รมน.จ.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งจากสํานักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (กปร.) ว่า พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริพื้นที่ภาคกลาง พร้อมด้วย พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานฯ และคณะอนุกรรมการฯ มีกําหนดการติดตามผลการดําเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดลพบุรี โดยกําหนดลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 14 กันยายน 2566 ณ โครงการสระเก็บน้ําพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย (ทุ่งมะขามหย่อง) แปลงนาส่วนพระองค์ ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา และเขื่อนพระรามหก ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

6/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

พระนครศรีอยุธยา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906201532364

อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง จัดงาน "ลางสาด 100 ปี และของดีนาโยง" เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ให้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป ยกระดับและเพิ่มมูลค่า เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชน

นายอดุลย์ หมื่นลึก นายอําเภอนาโยง เป็นประธานกล่าวเปิดงาน "ลางสาด 100 ปี และของดีนาโยง" ณ ลานกิจกรรมวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตําบลนาข้าวเสีย ม.4 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง โดยมี นายสุวิทย์ โพชสาลี ประธาน ศบกต. กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และมีนางสาวรัชนี นิลละออ เกษตรอําเภอนาโยง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอนาโยง เจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สํานักงานเกษตรจังหวัดตรังร่วมกับศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจําตําบลนาข้าวเสีย เข้าร่วมจัดกิจกรรมทั้งนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ให้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป ยกระดับและเพิ่มมูลค่า เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชน และช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตให้แก่เกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ สําหรับกิจกรรมภายในงาน มอบเกียรติบัตรให้แก่เกษตรกรที่มีการบริหารจัดการสวนลางสาดดีเด่น การเสวนา "ลางสาด 100 ปี กับวิถีชีวิตคลองนางน้อย" และการออกบูธนิทรรศการลางสาด 100 ปี ของดีคลองนางน้อย สมาชิกกลุ่มลางสาดร่วมกันจําหน่ายลางสาด กิโลกรัมละ 35 บาท และชวนชิมอาหารเมนูจากลางสาด ในโอกาสนี้ นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง ได้พบปะเยี่ยมชมบูธสินค้าผลิตภัณฑ์เด่นทั้ง 6 ตําบล ของอําเภอนาโยงด้วย สนใจผลผลิตลางสาดและต้นพันธุ์ ติดต่อ คุณสุวิทย์ โพชสาลี 094-886-2953 หรือคุณสถิตย์ รัมนา 087-2700409

6/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สวท.ตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906201422363

เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและติดตามผลการดำเนินกิจกรรมของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน ตำบลทุ่งค่าย

วันนี้ (6 ก.ย.66) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและติดตามผลการดําเนินกิจกรรมของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน หมู่ที่ 1 ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งศูนย์ฯ ดําเนินการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อย่างต่อเนือง มีกําลังการผลิตเดือนละประมาณ 5 ตัน รายได้เฉลี่ยเดือนละ 40,000 บาท โดยจําหน่ายกระสอบละ 200 บาท (25 กิโลกรัม/กระสอบ) สนใจสั่งซื้อปุ๋ยอินทรีย์ได้ที่คุณระบิล คล้ายนอง โทรศัพท์ 089-2913990ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ได้สอบถามความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีในพื้นที่ เพื่อดําเนินการขับเคลื่อนการซื้อปุ๋ยเคมีโดยตรงจากโรงงานผลิตปุ๋ยเคมี ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตภาคการเกษตรให้แก่เกษตรกรสมาชิกศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน ซึ่งมีปัจจัยการผลิตที่มีราคาถูกกว่าต้องตลาด เกษตรกรในพื้นที่อําเภอย่านตาขาวท่านใดที่มีความต้องการปุ๋ยเคมี ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด โดยการรวมกลุ่มกันซื้อ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง หรือโทร. 075-281241

6/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สวท.ตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906200511355

อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี จัดโครงการ อบรมเกษตรกร เพื่อสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ลดรายจ่าย พัฒนาหมู่บ้านอย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

วันที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่สํานักงานเกษตรอําเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี นายสุรเดช สร้อยอุทา นายอําเภอหนองม่วง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการอบรมเกษตรกร เพื่อสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ลดรายจ่าย พัฒนาหมู่บ้านอย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดําริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนายยศวิน บํารุงเวช ปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายกองค์การบริหารส่วนตําบลชอนสมบูรณ์กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรในพื้นที่ตําบลชอนสมบูรณ์ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จํานวน 80 คน สําหรับโครงการอบรมเกษตรกรฯ จัดขึ้นเพื่อให้เกษตรกรในชุมชนมีทักษะ ความรู้ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านเกษตรยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ให้กับชุมชนและประชาชนทั่วไปมาเรียนรู้ รวมถึงให้ชุมชนมีพืชผักอินทรีย์บริโภค ลดรายจ่ายครัวเรือน สร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างสุขภาวะและสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยกิจกรรมในการดําเนินการอบรมครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ฐานอาชีพ ประกอบด้วย ฐานที่ 1 กลุ่มอาชีพปุ๋ยจากมูลไส้เดือน นําโดยวิทยากรจากปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลชอนสมบูรณ์ ผู้อํานวยการกองช่างองค์การบริหารส่วนตําบลชอนสารเดช ฐานที่ 2 กลุ่มอาชีพการทําปุ๋ยหมัก น้ําหมักชีวภาพ วิทยากรนําโดย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1, 4 ตําบลชอนสมบูรณ์ ฐานที่ 3 กลุ่มอาชีพการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า นําโดยวิทยากรจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดลพบุรี และฐานที่ 4 กลุ่มอาชีพการทําผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน นําโดยวิทยากรจากศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อําเภอหนองม่วง (สกร.)

6/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

ลพบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906201825368

ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา นำบุคลากรร่วมบริจาคโลหิตสำรองคงคลังให้กับผู้ป่วย ให้กับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5

พญ.ทิพา ไกรลาศ ผู้อํานวยการศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา นําบุคลากรร่วมบริจาคโลหิตสํารองคงคลังให้กับผู้ป่วย ให้กับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย ณ ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา โอกาสนี้ผู้บริจาคโลหิตที่ลงทะเบียนอาสาสมัครผู้บริจาคเสต็มเซลล์ ยังได้รับเสื้อยืด "Stem Cells in Thailand" เป็นที่ระลึกด้วยทน.พญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย เชิญประชาชนร่วมทําบุญกับสภากาชาดไทย เพียงสนับสนุนทําบุญซื้อเสื้อ “RUN FOR BLOOD” (สีเขียว) ราคา 300 บาท เท่านั้น ชาวโคราช ซื้อได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น.วันเสาร์- อาทิตย์ เวลา 09.00-15.30 น. ที่ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ชั้น LG เทอร์มินอล 21 โคราช วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-17.30 น.และห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. สอบถาม โทร.044-938938 ต่อ 1303

6/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230906233627391

พอ.สว.วันที่ 7 กันยายน 2566 ออกให้บริการประชาชน

วันนี้ 7 กันยายน 2566 มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. จะออกให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่หมู่ 5 วัดเฉลิมลาภ ตําบลหนองเสือช้าง อําเภอหนองใหญ่จังหวัดสุรินทร์ ที่หมู่ 5 องค์การบริหารส่วนตําบลตรวจ ตําบลตรวจ อําเภอศรีณรงค์จังหวัดสงขลา ที่หมู่ 6 วัดโคกกอ ตําบล คลองหลา อําเภอคลองหอยโข่งจังหวัดเพชรบุรี ที่หมู่ 3 บ้านท่าลิงลม ตําบลสองพี่น้อง อําเภอแก่งกระจานจังหวัดสุโขทัย ที่หมู่ 12 องค์การบริหารส่วนตําบลหนองจิก ตําบลหนองจิก อําเภอคีรีมาศจังหวัดปัตตานี ที่หมู่ 4 โรงเรียนบ้านระแว้ง ตําบลระแว้ง อําเภอยะรังจังหวัดอุบลราชธานี ที่หมู่ 2 บ้านนาทราย ตําบลพะลาน อําเภอนาตาลขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

7/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907091026425

บริษัท ซีอาร์ซีไทวัสดุ จำกัด เปิดสาขาใหม่ (สาขาจังหวัดยโสธร) มีความประสงค์จะรับสมัครงานมากกว่า 200 อัตรา

บริษัท ซีอาร์ซีไทวัสดุ จํากัด เปิดสาขาใหม่ (สาขาจังหวัดยโสธร) มีความประสงค์จะรับสมัครงานมากกว่า 200 อัตรา ขอให้ผู้ที่สนใจจะสมัครงานมาลงทะเบียนที่สํานักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร เพื่อเข้ารับสัมภาษณ์งานวันที่ 16-17 กันยายน 2566 ณ หอประชุมพะยอม 1 อาคารอํานวยการ วิทยาลัยเทคนิคยโสธร ที่อยู่ 96 ม.1 ต.สําราญ อ.เมือง จ.ยโสธร ผู้สมัครที่สนใจจะต้องกรอกลงทะเบียนผ่านลิ้งเพื่อลงทะเบียนสมัครงาน https://forms.gle/wzp4ju4ZA5K1sB5A9 ผู้ที่สนใจสมัครต้องกรองใบสมัคร ณ สํานักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร คุณสมบัติ อายุ 20 ปีขึ้นไป, วุฒิม.3 ขึ้นไป เพศชายต้องผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว ผู้สมัครต้องสามารถไปฝึกงานที่ไทวัสดุ สาขาร้อยเอ็ด ประมาณ 1 เดือน หรือตามความเหมาะสมได้ (ช่วงฝึกงานมีที่พักฟรี และรถรับส่งให้ฟรี) นับอายุงานตั้งแต่เริ่มฝึกงาน สวัสดิการดี 1.ค่ารักษาพยาบาล 40,000 บาท/ปี (รวมค่าทันตกรรม 2,000 บาท)2.วันหยุดพักผ่อนประจําปี3.กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ4.สหกรณ์ออมทรัพย์5.ทุนการศึกษาบุตร6.ส่วนลดในการซื้อของในเครือ Central7.กู้ซื้อบ้านกับ ธ.อาคารสงเคราะห์ และอื่นๆ อีกมากมายผู้สนใจสามารถโทรสอบถามได้ที่ สํานักงานจัดหางานจังหวัดยโสธร โทร 045-580220 , 045580216-7

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ยโสธร

สวท.ยโสธร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907111321483

สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตราด ออกประกาศให้ระมัดระวังการเดินเรือ

(7 ก.ย. 66) นายมานพ เหลืองอ่อน ผู้อํานวยการสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตราด กล่าวว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พยากรณ์อากาศ ในช่วงวันที่ 6 – 8 กันยายน 2566 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกําลังอ่อนลง ทําให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกําลังปานกลาง ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 กันยายน 2566 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกําลังแรงขึ้น ทําให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในภาคตะวันออก คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนเริ่มมีกําลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางน้ํา สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตราด จึงขอประกาศแจ้งเตือนให้ เจ้าของเรือ ผู้ควบคุมเรือ หรือ ผู้ประกอบการเดินเรือ เพิ่มความระมัดระวัง ในการเดินเรือ ควรงดการเดินเรือในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นลมแรง และสําหรับเรือเล็กที่มีขนาดความยาวเรือ น้อยกว่า 6 เมตร ควรงดออกจากฝั่งจนกว่าสภาพอากาศจะเอื้ออํานวยและเหมาะสมต่อการเดินเรือ โดยให้ปฏิบัติตาม ประกาศกรมเจ้าท่าที่ 243/2564 เรื่องการออกเดินเรือในทะเลตามความเหมาะสมของความยาวเรือและสภาพคลื่นลม และให้ติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อไป

7/9/2023

ภาคตะวันออก

ตราด

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907112850492

ทน.ยะลา จับมือกรมวิชาการเกษตร จัดงาน “Yala เกษตร Fair”

เทศบาลนครยะลา จับมือกรมวิชาการเกษตร จัดงาน “Yala เกษตร Fair” หนุนศักยภาพการผลิตพืชผลทางการเกษตร เชื่อมโยงการผลิต การตลาด ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรวันนี้ (7 ก.ย.66) ที่ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์เมืองยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดโครงการการประชุมวิชาการเกษตร “Yala เกษตร Fair” ครั้งที่ 4 เทศบาลนครยะลา ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 กันยายน 2566 โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วยผู้อํานวยการสถาบันวิจัยพืชสวนยะลา เกษตรจังหวัดยะลา ส่วนราชการ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง วิทยากร และประชาชนเข้าร่วมเป็นจํานวนมากจังหวัดยะลามีพื้นที่ในการทําสวนผลไม้รองลงมาจากการปลูกยางพารา ส่วนใหญ่ปลูกเป็นสวนแบบผสม มีผลไม้หลายชนิด เนื่องด้วยราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ํา ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรลดลง การจับจ่ายใช้สอย และการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจเมืองยะลาลดลงด้วย เทศบาลนครยะลาได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชน ควบคู่กับการนําเทคโนโลยี นวัตกรรมมาเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการเกษตร พัฒนาคุณภาพผลผลิตรวมไปถึงการวางแผนการตลาด เพิ่มช่องทางการตลาดรูปแบบใหม่ เพิ่มมูลค่าให้พืชผลทางการเกษตร เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ที่ยั่งยืน เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป และสร้างความรู้ความเข้าใจในการเพิ่มศักยภาพด้านการเกษตร การปลูกพืชเศรษฐกิจ พืชทางเลือก และพืชท้องถิ่น พัฒนาผลผลิตและการตลาดของสินค้าเกษตร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทิศทางด้านการตลาด การบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ สามารถนําไปประยุกต์ใช้และขยายผล เกิดการสร้างเครือข่าย ความร่วมมือทางการเกษตรและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เผยว่า จ.ยะลา เป็นจังหวัดที่มีพืชเศรษฐกิจที่สําคัญรองรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ทั้งยางพารา ปาล์มน้ํามัน ผลไม้เศรษฐกิจที่สําคัญ เช่น ทุเรียน ส้มโชกุน โดยเฉพาะทุเรียนในปี 2566 ยะลา มีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดประมาณ 76,000 ตัน ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ทุเรียนสะเด็ดน้ํา ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว ซึ่งการจัดประชุมวิชาการเกษตรในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตพืชผลทางการเกษตร เชื่อมโยงการผลิต การตลาด ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตร รวมถึงแลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการการผลิตที่มีคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานและต่อยอดสินค้าทางการเกษตรในท้องถิ่นให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร มีรายได้ และสามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งนี้ภายในงานกิจกรรมมากมาย อาทิ การแสดงของน้องๆ เยาวชน นิทรรศการการเกษตร กิจกรรมWork shop และการเสวนาหัวข้อเสวนาที่น่าสนใจ เรื่องพืชเศรษฐกิจภาคใต้พรหมแดน การขยายพันธุ์พืชเศรษฐกิจ เช่น กาแฟ โรบัสต้า ทุเรียน รวมไปถึงพืชทางเลือกและพืชท้องถิ่น

7/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สทท.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907114058498

ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กำชับ 10 อำเภอ และทุกองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนตกสะสม

กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงเนื่องจากในพื้นที่จังหวัดตรังมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขณะที่คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกําลังค่อนข้างแรง ดังนั้น จังหวัดตรัง จึงได้เตรียมความพร้อมป้องกันรับมือและลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวด้านนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้กําชับ 10 อําเภอ และทุกองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนตกสะสม ซึ่งอาจทําให้เกิดอุทกภัยได้ สําหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ําเล ถ้ําลอด น้ําตก หากมีฝนตกหนักและมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ําท่วมขัง ขอให้ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ในกรณีที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันที

7/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สวท.ตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907122013504

จ.นราธิวาส แถลงข่าวการจัดงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ประจำปี 2566 พร้อมเชิญชวนร่วมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ร่วมใจภักดิ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด ศาสตร์พระราชา ชาวนราเปี่ยมสุข”

วันนี้ (7 ก.ย.66) นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง อาทิ คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอําเภอเมืองนราธิวาส นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ร่วมแถลงข่าวการจัดงานของดีเมืองนราครั้งที่ 46 ประจําปี 2566 ที่บริเวณหาดนราทัศน์ อําเภอเมืองนราธิวาส การจัดงานของดีเมืองนรา ในปีนี้กําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งในงานมีกองงานวันลองกอง ภายใต้หัวข้อ “ร่วมใจภักดิ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด ศาสตร์พระราชา ชาวนราเปี่ยมสุข” โดย 27 หน่วยงาน 5 โซน นําเสนอนิทรรศการผลงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริและโครงการสําคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ การพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของพสกนิกรอย่างต่อเนื่อง กองงานศิลปาชีพและงานวันกระจูด กองงานประชันเสียงนกเขาชวา ชิงถ้วยพระราชทาน วันที่ 17-18 กันยายน 2566 กองงานแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง วันที่ 22-24 กันยายน 2566 ในแม่น้ําบางนรา เขื่อนท่าพระยาสาย อําเภอเมืองนราธิวาสขณะที่กองงานฝ่ายพิธีการและขบวนแห่ทางบก ในวันที่ 16 กันยายน 2566 จะมีขบวนแห่ที่สวยงามตระการตา แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของดีในพื้นที่ รวมถึงอัตลักษณ์ วิถีชีวิตการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม ที่สําคัญจะมีขบวนม้า ขบวนช้าง 29 เชือก ร่วมเดินในขบวนด้วย ทั้งนี้ ขอเชิญชวนเที่ยวชมงานของดีเมืองนรา ช่วงวันที่ 16-25 กันยายน นี้ (โอกาสนี้ สวท.นราธิวาส ถ่ายทอดเสียงฯ ผ่านไลฟ์เพจ สวท. นราธิวาส และ สวท.สุไหงโก-ลก ร่วมไลฟ์เพจ สวท.สุไหงโก-ลก)

7/9/2023

ภาคใต้

นราธิวาส

สวท.นราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907132728535

กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมชีวภาพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ จังหวัดตรัง

วันนี้ (7 ก.ย. 2566) ดร. เกรียงยุทธ ผิวอ่อน วิศวกรชํานาญการพิเศษ กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมชีวภาพ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมี นายชัยวัฒน์ โภคาวัฒนา นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ํามันจังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับ และมี รองศาสตราจารย์ ดร.สิงหะ ฉวีสุข หัวหน้าโครงการ กล่าวรายงาน ณ โรงแรมวัฒนา พาร์ค จังหวัดตรัง ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ประเด็นอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต แผนย่อยอุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า BCG Economy Model ซึ่งจะช่วยต่อยอดจุดแข็งของประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยอาศัยกลไกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง และเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจาก “ทํามากแต่ได้น้อย” ไปสู่ “ทําน้อย แต่ได้มาก”ทั้งนี้ BCG โมเดล ประกอบด้วย 3 ระบบเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ B - Bio Economy คือระบบเศรษฐกิจชีวภาพ มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า เชื่อมโยงกับ C - Circular Economy ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่คํานึงถึงการนําวัสดุกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และ G - Green Economy คือระบบเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้จัดทําโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยมุ่งเน้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงสามารถขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ พร้อมช่วยส่งเสริมยกระดับตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา (Value Chain) ให้เกิดการเสริมสร้างความเข้มแข็งและมีศักยภาพ เพิ่มผลิตภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งผลดีต่อประเทศตลอดจนสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป โดยกิจกรรมภายใต้โครงการ ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือต่อยอดงานวิจัยเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบอุตสาหกรรมปาล์มน้ํามันและน้ํามันปาล์ม เคมีชีวภาพและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (จํานวน 4 ผลิตภัณฑ์) กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือต่อยอดงานวิจัยเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบอุตสาหกรรมปาล์มน้ํามันและน้ํามันปาล์ม เคมีชีวภาพและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (จํานวน 2 ต้นแบบ) ดังนั้น วันนี้จึงจัดงานเผยแพร่กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือต่อยอดงานวิจัยเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบอุตสาหกรรมปาล์มน้ํามันและน้ํามันปาล์มแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและสนใจ จํานวน 200 คน

7/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907145543570

กิ่งกาชาดอำเภอเบตง ร่วมกับ โรงพยาบาลเบตง โรงพยาบาลยะลา ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตตามโครงการ Plus 1 เพิ่มจำนวนครั้งเพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต (Plus One Blood Donation, More Blood More Live) นำโลหิตที่ได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ประสบอุบัติเหตุตามโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่

วันที่ 7 กันยายน 2566 ที่หอประชุมที่ว่าการอําเภอเบตง อําเภอเบตง จังหวัดยะลา สมาชิกกิ่งกาชาดอําเภอเบตง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยะลา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตง ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตตามโครงการ Plus 1 เพิ่มจํานวนครั้งเพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต (Plus One Blood Donation, More Blood More Live) เพื่อนําโลหิตที่ได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ประสบอุบัติเหตุตามโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่ นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง พร้อมด้วย นางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดอําเภอเบตง เยี่ยมให้กําลังใจและขอขอบคุณประชาชนและเจ้าหน้าที่ ที่มีส่วนร่วมการสนับสนุนการรับบริจาคโลหิตในครั้งนี้ โดยมีมีผู้บริจาคโลหิตจํานวน 115 ราย ได้โลหิต 51,750 ซีซี มีผู้แสดงความจําน บริจาคดวงตา 17 ราย และผู้แสดงความจํานงบริจาคอวัยวะ 12 รายนางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดอําเภอเบตง กล่าวว่า โลหิต เป็นสิ่งที่จําเป็นและสําคัญในการรักษาผู้ป่วย ทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ที่สามารถคิดค้นสิ่งใดมาใช้ทดแทนโลหิตได้อย่างสมบูรณ์ จึงจําเป็นต้องมีการบริจาคโลหิต เพื่อนําไปช่วยชีวิตผู้ป่วย และการบริจาคโลหิต เป็นการสละโลหิตส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยมีเกณฑ์กําหนดให้บริจาคโลหิตได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของปริมาณโลหิตในร่างกาย หรือปริมาณ 350-450 มิลลิลิตร (ซีซี) ซึ่งไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อสุขภาพของผู้บริจาค เมื่อบริจาคโลหิตแล้วไขกระดูกจะสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน โดยปกติเม็ดเลือดแดงจะมีอายุประมาณ 120 วัน หากไม่ได้บริจาคโลหิตเมื่อเม็ดเลือดแดงหมดอายุ จะถูกกําจัดออกไปโดยกลไกของร่างกาย โดยการบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง สามารถปั่นแยกเป็นส่วนประกอบโลหิต ได้มากกว่า 3 ส่วน ช่วยชีวิตได้มากกว่า 3 ชีวิต และผลิตเป็นผลิตภัณฑ์โลหิตได้อีกมากมาย เพื่อนําไปรักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ ร้อยละ 77 ใช้กับผู้ป่วยที่เกิดภาวะสูญเสียโลหิตเฉียบพลัน เช่น อุบัติเหตุ การผ่าตัด ตกเลือดหลังคลอดบุตร เลือดออกในทางเดินอาหาร เป็นต้น และร้อยละ 23 ใช้กับผู้ป่วยโรคเลือดที่ต้องรักษาด้วยการรับโลหิตต่อเนื่องตลอดชีวิต เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคโลหิตจางจากสาเหตุอื่น ๆ โรคเกล็ดเลือดต่ํา โรคขาดปัจจัยการแข็งตัวของเลือด หรือ โรคฮีโมฟีเลีย เป็นต้น

7/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สวท.เบตง จ.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907152807585

เทศบาลนครเกาะสมุย จัดอบรมหมอหมู่บ้านในพระราชประสงค์ ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประจำปี 2566

วันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย นางสาวพนิดา พาหุกาญจน์ รองปลัดเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดการอบรมหมอหมู่บ้านในพระราชประสงค์ตามแนวพระราชดําริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประจําปี 2566 โดยมี นางนาฎน้อย ศรีแสง กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ผู้เข้าอบรม และพนักงานเทศบาลกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนทีมวิทยากรจากโรงพยาบาลเกาะสมุย ได้แก่ พญ.อัญญา ไชยสุวรรณ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน นางสาวกัลย์สุดา นามมูลนาค พยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน นางสาวอรวรรณ ชื่นหอมทิพย์ พยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน นางสาวชัชญาพร นนสีไพร นักฉุกเฉินการแพทย์ และนายสํารอง ชิณวรรณ นักฉุกเฉินการแพทย์ปัจจุบันการเจ็บป่วยฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในครัวเรือน มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากอุบัติเหตุและจากเจ็บป่วยฉุกเฉินด้วยโรคอันตราย หรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคเบาหวาน ที่อาจจําเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุอย่างทันท่วงที เพื่อนําส่งสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ จากความสําคัญดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าแต่ละชุมชนจําเป็นต้องมีผู้ที่มีความรู้ ความสามารถที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉินได้ในทุกครัวเรือน ซึ่งเป็นความคาดหวังในอนาคตสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.) สนับสนุนและริเริ่มพัฒนาให้ประชาชนทั่วไป หรือผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้รับการฝึกอบรมหรือให้ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินเบื้องต้น โดยสมัครร่วมเป็น "อาสาฉุกเฉินชุมชน (อฉช.) เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในชุมชนเบื้องต้น เทศบาลนครเกาะสมุย ได้จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาฉุกเฉินชุมชน(อฉช.) เบื้องตัน ตามโครงการอบรมหมอหมู่บ้านในพระราชประสงค์ ตามแนวพระราชดําริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานและการใช้เครื่อง AED ได้อย่างถูกวิธี รวมถึงได้รับรู้และเข้าใจเรื่องการปฐมพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินเบื้องต้น และการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน สามารถนําความรู้ไปปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี ตลอดจนถึงสื่อสารแจ้งข่าวให้คนในชุมชนสามารถป้องกันตัวเองและคนใกล้ตัวจากอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินได้อย่างถูกต้องทันท่วงทีต่อไป

7/9/2023

ภาคใต้

สุราษฎร์ธานี

สวท.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907154701597

จังหวัดนราธิวาส เชิญชวนเที่ยวงานของดีเมืองนรา ประจำปี 2566 ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 นี้ ด้านผู้ว่าฯนราธิวาส เผย ปีนี้ทุกกองงานพร้อมใจเผยแพร่ของดีเมืองนราธิวาส เชิดชูอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้แพร่หลาย คาดการณ์เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

วันนี้ (7 ก. ย. 66) เวลา 09.00 น. ที่สวนสนชายหาดนราทัศน์ อําเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงานของดีเมืองนรา ประจําปี 2566 โดยมีนายทศพล สวัสดิสุข นายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พันตํารวจเอก สิทธิพงษ์ หัสรังสี รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นางลัดดาวัลย์ จันทิตย์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริม และพัฒนาการผลิต สํานักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอําเภอเมืองนราธิวาส ร่วมแถลงข่าวฯ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ งานของดีเมืองนราปีนี้ กําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อําเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ภายในงานประกอบด้วย กองงานริ้วขบวนแห่ทางบก พร้อมรับชมขบวนม้า และขบวนช้าง 29 เชือก จากพื้นที่ 13 อําเภอ นําโดยขบวนพหุวัฒนธรรม ตามด้วยขบวนช้าง นําโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และภริยา และผู้มีเกียรติตามลําดับ ซึ่งครั้งนี้มีการประกวดขบวนแห่ทางบกงานของดีเมืองนรา ประจําปี 2566 ประเภทสวยงาม จํานวน 3 รางวัล พร้อมรับชมพิธีเปิดงานของดีเมืองนรา ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 16 กันยายน 2566 ในปีนี้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ กองงานวันลองกอง จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 ภายใต้หัวข้อ “ร่วมใจภักดิ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด ศาสตร์พระราชา ชาวนราเปี่ยมสุข” ผ่านการแสดงนิทรรศการทางวิชาการของหน่วยงานราชการและเอกชน ของ 27 หน่วยงาน 5 โซน รวมถึงการประกวดผลผลิตทางการเกษตร 29 ประเภท การประกวดประเภทผลิตภัณฑ์ 3 ประเภท ประเภทบอนสี 5 ประเภท โรงเรียนในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน 1 ประเภท ได้แก่บอนเดี่ยวใบไทย ประชาชนทั่วไป 4 ประเภท ได้แก่ บอนเดี่ยวใบไทย บอนเดี่ยวใบยาว บอนเดี่ยวใบกลม และบอนกอ และกิจกรรมการแข่งขัน 4 ประเภท อาทิ แข่งขันจัดกระเช้าผลิตภัณฑ์จังหวัดนราธิวาส แข่งขันการเสียบยอดลองกองของยุวเกษตรกร การแข่งขันตอบปัญหาด้านวิชาการเกษตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา อีกประการหนึ่งที่นับเป็นเรื่องน่าปิติยินดียิ่งสําหรับพสกนิกรในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดําเนินพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลิตผลทางการเกษตรและทอดพระเนตรการจัดนิทรรศการในงานวันลองกอง ในวันที่ 18 กันยายน 2566 ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรชาวจังหวัดนราธิวาสเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เข้าเฝ้ารับเสด็จ กองงานประชันเสียงนกเชาชวาชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 39 โดยเทศบาลเมืองนราธิวาส กําหนดจัดงานฯในวันที่ 18 กันยายน 2566 จัดขึ้น 2 วัน ในระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2566 บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อําเภอเมืองนราธิวาส โดยแบ่งการประชันเสียง ดังนี้ ในวันที่ 17 กันยายน 2566 กําหนดจัดประชันเสียงนกเขาชวา 4 ประเภทเสียง ได้แก่ เสียงใหญ่ เสียงกลาง เสียงเล็กและดาวรุ่ง ชิงถ้วยพระราชทานฯ และของรางวัล และวันที่ 18 กันยายน 2566 กําหนดจัดประชันเสียงนกเขาชวา 4 ประเภทเสียง ได้แก่ รวมเสียง ดาวรุ่ง เบบี้ 1 และเบบี้ 2 ชิงถ้วยเกียรติยศและของรางวัล พร้อมลุ้นรางวัลเสารอกนก 90 รางวัล บัตรเสารอกนก ๔๐๐ บาท ทุกประเภทเสียง โดยกําหนดการซ้อมใหญ่ ในวันพฤหัสบดี ที่ 14 กันยายน 2566 เวลา 06.00 น. ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (สวน ร.5 ) ชิงรางวัล 39 รางวัล “กองงานศิลปาชีพและงานกระจูด” กําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อําเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจัดนิทรรศการและการแสดงผลิตภัณฑ์กระจูดและศิลปาชีพ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สืบสานพระราชปณิธาน ศิลปาชีพสร้างคุณค่า นรายั่งยืน” ซึ่งมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวนราธิวาส พระราชกรณียกิจการส่งเสริมศิลปาชีพ นิทรรศการศิลปาชีพและงานกระจูด กิจกรรมจัดแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ รวมถึงกิจกรรมการสาธิตผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ 9 ประเภท กิจกรรมการประกวด 7 ประเภท อาทิ การประกวดผลิตภัณฑ์ซองกระจูด การประกวดผลิตภัณฑ์กล่องใบลาน การประกวดผลิตภัณฑ์ตูมูปาหนัน ฯลฯ และแข่งขันผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ 1 ประเภท การแข่งขันสานเสื่อกระจูด นอกจากนี้ มีการฝึกอาชีพระยะสั้น ฝึกอาชีพ 4 หลักสูตร ระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 นี้ และในวันที่ 17 กันยายน 2566 นี้จะมีพิธีเปิดนิทรรศการ และการประกวด/แข่งขันศิลปาชีพ ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา เวลา 09.30 น. กองงานแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 45 ปีที่ 49 ในระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 ณ บริเวณพลับพลาเฉลิมพระเกียรติ สิริราชสมบัติ ครบรอบ 50 ปี ริมเขื่อนท่าพระยาสาย แม่น้ําบางนรา อําเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ในปีนี้จะมีการแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งมีทีมเรือจากสหพันธรัฐมาเลเซีย และทีมเรือจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชน และเชิญรับชมขบวนแห่ทางน้ําที่สวยงามตระการตา ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศด้วย สําหรับการแข่งขันเรือฯ ในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2566 ซึ่งเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์มอบถ้วยพระราชทานแก่ทีมเรือที่ชนะเลิศ ทางด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในปีนี้จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาชมงานจะได้รับความรู้จากนิทรรศการต่างๆ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่มีชีวิต นอกจากนี้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดนราธิวาส ได้อีกด้วย ในส่วนของความปลอดภัยนั้น เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตลอดทั้งการจัดงานฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวงาน

7/9/2023

ภาคใต้

นราธิวาส

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907160549616

ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการและพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2566 โดยจังหวัดตรังได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขารางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้ง 2 สาขา

วันนี้ (7 ก.ย.2566) ที่ ห้อง Grand Diamond Ballroom ชั้น 2 อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ศาสตราจารย์กิตติคุณ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจําปี 2566 โดยมี นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร.กล่าวรายงานซึ่งจังหวัดตรังได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขารางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้ง 2 สาขา คือ รางวัลเลิศรัฐ รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 ประเภท คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ประจําปี 2566 รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 ประเภท หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนําไปสู่การปฏิบัติ โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางสาวณัฐยาน์ ทวีวงศ์ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดตรัง ได้เข้ารับมอบรางวัลเลิศรัฐ ดังกล่าว ซึ่งในการจัดพิธีมอบรางวัลฯ ในครั้งนี้ ได้มีการจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่หน่วยงาน ที่ได้รับรางวัล มันจะเป็นการส่งเสริม กระตุ้นให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้พัฒนาคุณภาพการทุจริต และระบบการบริหารงานภายในงานให้มีประสิทธิภาพ ยั่งยืนเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัล ต้นแบบก็จะเป็นสิ่งที่หน่วยงานอื่นอื่นสามารถนําไปเรียนต่อเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัล ต้นแบบ ก็จะเป็น สิ่งที่หน่วยงานอื่น ๆ สามารถนําไปขยายต่อ การมอบรางวัลเลิศรัฐให้แก่หน่วยงานของรัฐในปีนี้ มีหน่วยงานที่สมัครเข้ามาทั้งสิ้น 1,946 ผลงาน และผ่านการพิจารณาให้ได้รับรางวัลดังกล่าว จํานวนทั้งสิ้น 238 ผลงาน ประกอบด้วย 1.รางวัลเกียรติยศเลิศรัฐ สําหรับหน่วยงานที่มี ความโดดเด่น โดยได้รับ รางวัลเลิศรัฐมาอย่างต่อเนื่อง สามารถเป็นองค์กรต้นแบบที่สร้างคุณค่าต่อสังคมและประเทศจํานวน 3 รางวัล รางวัลเลิศรัฐสาขาบริการภาครัฐจํานวน 1 รางวัล และรางวัลเลิศรัฐสาขาบริหารราชการแผ่นดินแบบมี ส่วนร่วมอีก 1รางวัล 2.รางวัลบริการภาครัฐระดับดีเด่นจํานวน 17 รางวัลและระดับปีอีก 70 รางวัล 3.รางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมระดับดีเด่น 37 รางวัล และระดับดี 57 รางวัล 4.รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ โดยเป็นรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐดีเด่น 1 รางวัล รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ รายหมวด 18 รางวัล และรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 อีก 33 รางวัล จากผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการและบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับรางวัลเลิศรัฐ จะทําให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม ทัดเทียมมาตรฐานสากลและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง สํานักงาน ก.พ.ร. จะได้เผยแพร่ผลงานของหน่วยงาน ต้นแบบ เพื่อจะขยายผลไปยังให้หน่วยงานต่าง ๆ นําไป เป็นแนวทางในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ และการบริหารงาน และผลักดันให้ประโยชน์นั้นไปสู่ ประชาชนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ในช่วง 2-3 ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ได้มีการใช้ชีวิตแบบ new normal ทําให้การจัดรูปแบบวิธีการมอบรางวัลนี้ผ่านทางระบบ อิเล็กทรอนิกส์มาอีก 2 ปี แต่ก็ยังสามารถชมบรรยากาศที่สนุกสนานแล้วก็สร้างกําลังใจให้กับหน่วยงานได้ ซึ่งในวันนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้สามารถกลับมาจัดงานในลักษณะ onside สามารถเชิญหน่วยงานได้เข้ามาแสดงความภาคภูมิใจ ที่เขาได้รับรางวัล ในวันนี้ และอันจะเป็นแรงบันดาลใจในการต่อยอด พัฒนางานต่อไป

7/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907161031623

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการ “ก้าวสู่ระบบสุขภาพปฐมภูมิที่มีคุณภาพ ภายใต้รูปแบบใหม่ระบบสุขภาพระดับอำเภอ ประจำปี 2566 ที่จังหวัดเชียงราย

ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สมาคมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ร่วมกับสภาการสาธารณสุขชุมชน สถานบันพระบรมราชชนก สมาคมหมออนามัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายและภาคีเครือข่าย จัดการประชุมวิชาการ “ก้าวสู่ระบบสุขภาพปฐมภูมิที่มีคุณภาพ ภายใต้รูปแบบใหม่ระบบสุขภาพระดับอําเภอ ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายวันนี้ (7 ก.ย.66) ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการสมาคมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ประจําปี 2566 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอําเภอ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล และภาคีเครือข่ายชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย 77 จังหวัด การประชุมวิชาการสมาคมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ประจําปี 2566 เป็นเวทีวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุข สู่ระบบสุขภาพปฐมภูมิตามพระราชบัญญัติสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 ให้มีคุณภาพภายใต้รูปแบบใหม่ในระดับอําเภอ ร่วมกําหนดรูปแบบการดําเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมทั้งการเชิดชูเกียรติบุคลากรสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน ณ สํานักงานธารณสุขอําเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลและสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี ที่มีผลงานวิชาการหรือผลงานดีเด่นทุกระดับ นอกจากการจัดประชุมวิชาการแล้ว มีการจัดบูธแสดงผลงานเด่นและการประกวดคัดเลือกผลงานวิชาการ ประเภทงานวิจัย R2R CQI นวัตกรรมและการเล่าเรื่องด้วยภาพ การบรรยายวิชาการ การมอบโล่รางวัลผลการประเมินคัดเลือกสํานักงานสาธารณสุขอําเภอ ดีเด่น ระดับเขต ระดับภาค ระดับประเทศ การมอบโล่เชิดชูเกียรติบุคลากรที่มีผลงานเด่น ระดับประเทศประจําปี 2566 ด้วย

7/9/2023

ภาคเหนือ

เชียงราย

สวท.เชียงราย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907161057624

กกต.กาญจนบุรี แจ้งเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี แทนตำแหน่งที่ว่าง ระหว่างวันที่ 11-15 กันยายน นี้

นายศรัณยู อาทิตยศรัณยากร ผอ.กกต.ประจําจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า กกต.กาญจนบุรี และ อบจ.กาญจนบุรี เตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี แทนตําแหน่งที่ว่าง กรณีที่นายก อบจ.กาญจนบุรี จะลาออกจากตําแหน่ง เพื่อไปดํารงตําแหน่งทางการเมืองระดับชาติ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กกต.กาญจนบุรี ได้กําหนดเปิดสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ที่ว่าง ระหว่างวันที่ 11-15 กันยายน 2566 เวลา 08.30-16.30น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่เปิดรับสมัคร และกําหนดวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566

7/9/2023

ภาคตะวันตก

กาญจนบุรี

สวท.กาญจนบุรี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907170337647

องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ร่วมกับภาคีเครือข่าย แถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรม วันพบปะมุสลีมะห์ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2566

วันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน พร้อมด้วย นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ผู้แทนสมาคมสตรีไทยมุสลิมปัตตานี ผู้แทนฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันแถลงข่าว การจัดกิจกรรมวันพบปะมุสลีมะห์ ครั้งที่ 16 ประจําปี 2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรม นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า วันพบปะมุสลีมะห์ จัดขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพครอบครัวมุสลิมจังหวัดปัตตานี ปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ"ครอบครัวของฉัน สวรรค์ของฉันกับความท้าทายในโลกยุคดิจิทัล โดยกําหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน 2566 ณ ปัตตานีบาซาร์ อําเภอเมืองปัตตานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สตรีมุสลิมนําองค์ความรู้ ประสบการณ์มาปรับใช้ และถ่ายทอดให้กับกลุ่มสมาชิกเครือข่ายและบุคคลในครอบครัว ภายใต้กรอบคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้สตรีมุสลิมได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มสตรี ส่งเสริมให้สตรีมุสลิมมีบทบาทในการพัฒนาสถาบันครอบครัวและสร้างสังคมให้สงบสุข รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ และสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาชน โดยกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าจะมีสตรีมุสลิมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1หมื่นคน กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยการบรรยาย เสวนา จากวิทยากรในประเทศ และต่างประเทศ Talk Show ปาฐกถาพิเศษ และนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย

7/9/2023

ภาคใต้

ปัตตานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907162533639

จังหวัดสุรินทร์เตรียมฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วม เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์

นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดทําแผนเผชิญเหตุอุทกภัย และจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดสุรินทร์ ปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2566 และเพื่อให้การดําเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในระดับจังหวัดในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย จึงกําหนดให้มีการจัดการฝึกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสุรินทร์ ประจําปีงบประมาณ 2566 กรณีอุทกภัยในรูปแบบการฝึกซ้อมบนโต๊ะ ในวันที่ 15 กันยายน 2566 ณ ห้องประชุมช้างใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ศูนย์ราชการจังหวัดสุรินทร์ โดยใช้แผนเผชิญเหตุอุทกภัยจังหวัดสุรินทร์ ปี 2566 และโครงสร้างศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดสุรินทร์ ปี 2566 เป็นแนวทางในการฝึก โดยกําหนดพิธีเปิดงาน เวลา 09.00 น. วันที่ 15 กันยายน 2566 จากนั้นเป็นการให้ความรู้การปรับพื้นฐานการฝึกแผนเผชิญเหตุอุทกภัยจังหวัดสุรินทร์ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด กรอบแนวคิดในการฝึกและจัดการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะโดยทีมวิทยากรจากสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเพื่อถอดบทเรียนและสรุปผลการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะดังกล่าว

7/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สวท.สุรินทร์

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907181046679

จ.พระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรมพิธีเปิดตัวตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย "ตลาดน้ำกรุงเก่าวัดท่าการ้อง" วันเสาร์ที่ 9 ก.ย. นี้

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กําหนดจัดกิจกรรมพิธีเปิดตัวตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย "ตลาดน้ํากรุงเก่าวัดท่าการ้อง" ณ ตลาดน้ํากรุงเก่าวัดท่าการ้อง ตําบลบ้านป้อม อําเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชนจากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม ตามโครงการเพิ่มมูลค่าทุนทางเศรษฐกิจด้วยทุนทางวัฒนธรรม "การส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน อัตลักษณ์ไทย สู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม : 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย" ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ซึ่งได้คัดเลือกตลาดบก ตลาดน้ําที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการพัฒนาเป็นตลาดสืบสานวัฒนธรรมไทยทั้งนี้ ขอเชิญชวนร่วมงานพิธีเปิดตัวตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย "ตลาดน้ํากรุงเก่าวัดท่าการ้อง" ณ วัดท่าการ้อง ตําบลบ้านป้อม อําเภอพระนครศรีอยุธยา ในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป และขอเชิญทุกท่านมาท่องเที่ยว ทําบุญ ชม ชิม ช้อป ของดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ แกงเหงาหงอด ขนมหินฝนทอง และพบกับการแสดงทางวัฒนธรรม เพลงเรือ ลิเก ดนตรีร่วมสมัย นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์สินค้าทางวัฒนธรรมอีกมากมาย

7/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

พระนครศรีอยุธยา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907171258654

ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการและพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2566 โดยจังหวัดตรังได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขารางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้ง 2 สาขา

วันนี้ (7 ก.ย. 2566) ที่ห้อง Grand Diamond Ballroom ชั้น 2 อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ศาสตราจารย์กิตติคุณ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจําปี 2566 โดยมี นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร.กล่าวรายงาน ซึ่งจังหวัดตรังได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขารางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้ง 2 สาขา คือ รางวัลเลิศรัฐ รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 ประเภท คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ประจําปี 2566 รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 ประเภท หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนําไปสู่การปฏิบัติ โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางสาวณัฐยาน์ ทวีวงศ์ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดตรัง ได้เข้ารับมอบรางวัลเลิศรัฐ ดังกล่าวซึ่งในการจัดพิธีมอบรางวัลฯ ในครั้งนี้ ได้มีการจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่หน่วยงาน ที่ได้รับรางวัล มันจะเป็นการส่งเสริม กระตุ้นให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้พัฒนาคุณภาพการทุจริต และระบบการบริหารงานภายในงานให้มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัล ต้นแบบก็จะเป็นสิ่งที่หน่วยงานอื่นอื่นสามารถนําไปเรียนต่อเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัล ต้นแบบ ก็จะเป็น สิ่งที่หน่วยงานอื่น ๆ สามารถนําไปขยายต่อ การมอบรางวัลเลิศรัฐให้แก่หน่วยงานของรัฐในปีนี้ มีหน่วยงานที่สมัครเข้ามาทั้งสิ้น 1,946 ผลงาน และผ่านการพิจารณาให้ได้รับรางวัลดังกล่าว จํานวนทั้งสิ้น 238 ผลงาน ประกอบด้วย1.รางวัลเกียรติยศเลิศรัฐ สําหรับหน่วยงานที่มี ความโดดเด่น โดยได้รับ รางวัลเลิศรัฐมาอย่างต่อเนื่อง สามารถเป็นองค์กรต้นแบบที่สร้างคุณค่าต่อสังคมและประเทศจํานวน 3 รางวัล รางวัลเลิศรัฐสาขาบริการภาครัฐจํานวน 1 รางวัล และรางวัลเลิศรัฐสาขาบริหารราชการแผ่นดินแบบมี ส่วนร่วมอีก 1รางวัล2.รางวัลบริการภาครัฐระดับดีเด่นจํานวน 17 รางวัลและระดับปีอีก 70 รางวัล3.รางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมระดับดีเด่น 37 รางวัล และระดับดี 57 รางวัล4.รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ โดยเป็นรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐดีเด่น 1 รางวัล รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ รายหมวด 18รางวัล และรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 อีก 33 รางวัล จากผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการและบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับรางวัลเลิศรัฐ จะทําให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม ทัดเทียมมาตรฐานสากลและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริงสํานักงาน ก.พ.ร. จะได้เผยแพร่ผลงานของหน่วยงาน ต้นแบบ เพื่อจะขยายผลไปยังให้หน่วยงานต่าง ๆ นําไป เป็นแนวทางในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ และการบริหารงาน และผลักดันให้ประโยชน์นั้นไปสู่ ประชาชนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ในช่วง 2-3 ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ได้มีการใช้ชีวิตแบบ new normal ทําให้การจัดรูปแบบวิธีการมอบรางวัลนี้ผ่านทางระบบ อิเล็กทรอนิกส์มาอีก 2 ปี แต่ก็ยังสามารถชมบรรยากาศที่สนุกสนานแล้วก็สร้างกําลังใจให้กับหน่วยงานได้ ซึ่งในวันนี้ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้สามารถกลับมาจัดงานในลักษณะ onside สามารถเชิญหน่วยงานได้เข้ามาแสดงความภาคภูมิใจ ที่เขาได้รับรางวัล ในวันนี้ และอันจะเป็นแรงบันดาลใจในการต่อยอด พัฒนางานต่อไป

7/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สวท.ตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907170722648

ยโสธร ชวนชิมเมนู “อั่วกบยัดไส้”  1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น

วันที่ 6 กันยายน 2566 นางวาสนา ไชยพรรณนา วัฒนธรรมจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอําเภอมหาชนะชัย นายทรงสิทธิ์ พจน์ชนะชัย กรรมการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเครือข่ายทางวัฒนธรรม พร้อมด้วยสื่อมวลชน ลงพื้นที่ไปที่ ตลาดสดเทศบาลตําฟ้าหยาด อําเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เพื่อไปชมชิม เมนู 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ของจังหวัดยโสธร นั้นคือ เมนู “อั่วกบ” หรือ “กบยัดไส้” ที่หารับประทานได้ยากและเป็นเมนูที่กําลังเลือนหายไป โดย นางสาววาสนา ไชยพรรณนา วัฒนธรรมจังหวัดยโสธร กล่าวว่า จากการที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกประกาศเรื่อง ผลการคัดเลือกกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และคัดเลือกให้ “อั่วกบ” (กบยัดไส้) เป็น “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ของจังหวัดยโสธร ซึ่งสามารถพัฒนา ต่อยอดอาหารถิ่นของจังหวัดให้มีความหลากหลายและคงความเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดยโสธร เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดยโสธรด้านนายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอําเภอมหาชนะชัย กล่าวว่า เมนูอั่วกบนั้น เป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่ดั่งเดิม หาทานได้ยากแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจซบเซา จึงมีลูกหลานชาวมหาชนะชัยหลายคนที่กลับมาบ้านเกิด จึงได้คิดหาอาชีพที่จะสร้างรายได้ จนพบว่ามีเมนู “อั่วกบ” ที่เคยได้รับการถ่ายทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย มาถึงรุ่นพ่อแม่ จึงได้ฟื้นฟูกลับมาทํา “อั่วกบ” หรือ “กบยัดไส้” หารายได้เลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว ส่วนทางด้านนางปทุมรัตน์ ยืนยงค์ ชาวตําบลฟ้าหยาด อําเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เจ้าของเมนู อั่วกบ หรือ กบยัดไส้ กล่าวว่า เมนูนี้ทําตั้งแต่ตั้งบรรพบุรุษ ถ่ายทอดกันมา ทํายากและต้องใช้ความประณีต ละเอียด อดทนต้องใส่ใจอย่างมาก โดยมีวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่เป็นสมุนไพร มีทั้งเนื้อกบ หอมแดง ใบมะกรูด พริกแห้ง พริกแกง ตะไคร้ และผงปรุงรส ให้นําวัตถุดิบและเครื่องปรุงมาผสมกันคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นยัดใส่ในตัวกบแล้วนําไปย่างไฟอ่อนๆ จนสุก รับประทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ เป็นอาหารถิ่นที่ทํายากแต่ราคาย่อมเยา สนนราคาเพียงไม้ละ 50 บาทเท่านั้น และมีขายส่งออนไลน์ด้วยการซีนถุงอย่างดี ทางเฟสบุ๊ค : อั่วกบ แม่อิ๋ว หมายเลขโทรศัพท์ 081-5473441 นอกจากนั้นยังจําหน่ายที่ร้านเมืองยศของฝาก อําเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร หมายเลขโทรศัพท์ 098-1012529 จึงขอเชิญชวนทุกท่านได้มาลองชิมเมนู “อั่วกบ” (กบยัดไส้) ของอําเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร อร่อย ดีต่อสุขภาพ และกระจายรายได้สู่ชุมชน

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ยโสธร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907181722684

จังหวัดสุรินทร์เตรียมจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 16-27 พฤศจิกายน 2566

นายสันทัด แสนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กําหนดจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 16-27 พฤศจิกายน 2566 ที่สนามกีฬาศรีณรงค์และสนามแสดงช้าง อําเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ และที่ปราสาทศีขรภูมิ อําเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดงาน ประกอบด้วย คณะกรรมการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ โดยมีฝ่ายต่างๆ ร่วมดําเนินการ เช่น ฝ่ายการเงิน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบรรเทาทุกข์และปฐมพยาบาล ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยและจราจร ฝ่ายประดับตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับและฝ่ายรักษาความสะอาด ฝ่ายรักษาความสะอาด ฝ่ายติดตั้งไฟฟ้าและแสงสว่างในงาน ฝ่ายติดตั้งระบบประปา ฝ่ายกํากับดูแลรักษาความสะอาดห้องน้ํา ห้องสุขา นอกจากนั้น ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานช้างแฟร์ ซึ่งประกอบ ด้วยฝ่ายวางผังบริเวณการจัดงานช้างแฟร์ ฝ่ายจัดแสดงผ้าไหมสุรินทร์และหัตถกรรมต่างๆ ฝ่ายจัดแสดงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ฝ่ายจัดแสดงบ้านโบราณ ฝ่ายจัดกิจกรรมเวทีกลาง ฝ่ายจัดพิมพ์และจําหน่ายสลากการกุศล ฝ่ายการเงิน การจําหน่ายสลากการกุศล ฝ่ายพิธีเปิดงานมหัศจรรย์งานงานช้างสุรินทร์ ฝ่ายควบคุมการเล่นการพนัน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฝ่ายควบคุมราคาสินค้าและอาหาร และฝ่ายควบคุมเครื่องเล่นสวนสนุก เป็นต้น โดยจังหวัดสุรินทร์กําหนดจัดประชุมคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมการดําเนินการจัดงานในวันที่ 11 กันยายน 2561 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมรวยปราสาท ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ สําหรับกิจกรรมภายในงานงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ประจําปี 2566 ประกอบด้วย การเลี้ยงอาหารช้างหรือการเลี้ยงโต๊ะจีนช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นในวันก่อนที่จะมีการแสดงช้าง เพื่อจัดอาหารช้างและให้ควาญช้างทุกเชือกพาช้างเข้ามากินพืชผักที่มีอย่างอุดมสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังมีการแสดงของช้าง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงาน รายการแสดงของช้าง ประกอบด้วยรายการต่างๆ ได้แก่ขบวนช้างพาเหรด ช้างปฏิบัติตามคําสั่ง ช้างแสนรู้ ช้างวิ่งเร็ว ช้างวิ่งข้ามคน ช้างเตะฟุตบอล และขบวนช้างศึก ซึ่งการแสดงช้างจะจัด 2 วันในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์

7/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สวท.สุรินทร์

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907182505691

รายงานสถานการณ์น้ำโครงการชลประทานอำนาจเจริญ

รายงานสถานการณ์น้ําโครงการชลประทานอํานาจเจริญ ณ วันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 07.00 น.ปริมาณน้ํา 4 อ่าง 1 เขื่อน* อ่างเก็บน้ําพุทธอุทยาน- ความจุ 19.325 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 15.368 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 79.52 % ใช้การได้ 14.477 ล้าน ลบ.ม.* อ่างเก็บน้ําห้วยโพธิ์- ความจุ 7.438 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 4.630 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 62.25 % ใช้การได้ 4.086 ล้าน ลบ.ม.* อ่างเก็บน้ําร่องน้ําซับ- ความจุ 0.426 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 0.430 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 100.93 % ใช้การได้ 0.312 ล้าน ลบ.ม.* อ่างเก็บน้ําห้วยสีโท- ความจุ 10.600 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 5.941 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 56.04 % ใช้การได้ 5.541 ล้าน ลบ.ม.* เขื่อนลําเซบาย- ความจุ 12.200 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 10.748 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 88.10 % ใช้การได้ 10.648 ล้าน ลบ.ม.สถานการณ์น้ําท่า- แม่น้ําโขง วัดที่สถานีชานุมาน ระดับน้ํา 4.26 เมตร ต่ํากว่าระดับตลิ่ง 8.74 เมตร สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์น้ําปกติ แนวโน้มทรงตัว- ลําเซบาย วัดที่เขื่อนลําเซบายอํานาจเจริญ ระดับน้ําหน้าเขื่อน +120.53 ม.รทก. ต่ํากว่าระดับพนัง 2.97 เมตร (บริเวณพื้นที่หัวงาน) ระดับท้ายเขื่อน +116.65 ม.รทก. สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์น้ํามาก แนวโน้มเพิ่มขึ้น- ลําเซบก วัดที่อําเภอลืออํานาจ สะพานข้ามลําเซบก ระดับน้ําอยู่ที่ 5.10 เมตร ต่ํากว่าระดับตลิ่ง 0.10 เมตร สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์น้ํามากเฝ้าระวัง แนวโน้มเพิ่มขึ้นติดตามสถานการณ์น้ํา โครงการชลประทานจังหวัดอํานาจเจริญ 0 4545 1554 ต่อ 101

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อำนาจเจริญ

สวท.อำนาจเจริญ

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907182726692

จ.นครพนม เจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว (จังหวัดนครพนม-แขวงคำม่วน) ครั้งที่ 13 อย่างเป็นทางการ ณ จังหวัดนครพนม ราชอาณาจักรไทย

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) อําเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว (จังหวัดนครพนม-แขวงคําม่วน) ครั้งที่ 13 ขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ จังหวัดนครพนม ราชอาณาจักรไทย โดยคณะผู้แทนจังหวัดนครพนม นําโดย นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนจังหวัดนครพนม เป็นประธานร่วมฝ่ายจังหวัดนครพนม และคณะผู้แทนแขวงคําม่วน นําโดย นายวันไซ พองสะหวัน เจ้าแขวง แขวงคําม่วน ประธานคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนแขวงคําม่วน เป็นประธานร่วมฝ่ายแขวงคําม่วน โดยมีนายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ แห่งราชอาณาจักรไทย ณ แขวงสะหวันนะเขต และท่านสมลัก วิไลทอน กงสุลใหญ่ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจําจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการแขวงคําม่วน คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดนครพนม ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย - ลาว (จังหวัดนครพนม ราชอาณาจักรไทย - แขวงคําม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) ครั้งที่ 13 ณ จังหวัดนครพนม ราชอาณาจักรไทย จังหวัดนครพนมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว (จังหวัดนครพนม-แขวงคําม่วน) ครั้งที่ 13 ณ จังหวัดนครพนม ราชอาณาจักรไทย ในครั้งนี้ เพื่อประชุมหารือพิจารณาข้อตกลงความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย - ลาว ในพื้นที่จังหวัดนครพนมและแขวงคําม่วน สานสัมพันธ์สร้างความปรองดอง เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมเป็นการขับเคลื่อนงานตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยที่ให้ความสําคัญกับการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย มีวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของประชาชนที่คล้ายคลึงกันกับประเทศไทย อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนตามพันธกิจ “บําบัดทุกข์ บํารุงสุข” พี่น้องประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยอาศัยการบูรณาการความร่วมมือและการมีส่วนร่วมระหว่างประชาชนคนไทยและประชาชน สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างคนในพื้นที่ นําไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและของทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้นได้ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการขจัดความยากจน ความเสมอภาคและความเท่าเทียม ความมั่นคงด้านอาหาร การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือด้านความร่วมมือของพันธมิตร (Partnership) ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์การพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนร่วมกับองค์การสหประชาชาติประจําประเทศไทย ตามบันทึกข้อตกลงสัญญา (MOU) “76 จังหวัด 76 คํามั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน”ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ดําเนินการปรึกษาหารือและให้ความเห็นชอบร่วมกันเพื่อนําไปสู่การปฏิบัติในหัวข้อประเด็นความร่วมมือใน การรักษาความสงบเรียบร้อยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามชายแดนไทย - ลาว การรักษาชายแดนไทย - ลาว (จังหวัดนครพนม - แขวงคําม่วน) การอํานวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้า - ออกเมืองตามจุดผ่านแดนไทย - ลาว การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย - ลาว การรักษาและป้องกันการกัดเซาะตลิ่งและการแก้ไขปัญหาการดูดทรายตามแม่น้ําโขง ความร่วมมือกรณีบุคคลของแต่ละฝ่ายถูกจับกุมขัง ความร่วมมือด้านแรงงาน และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างจังหวัดนครพนมและแขวงคําม่วน

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครพนม

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907184323700

กอ.รมน.จังหวัด อ.จ. จัดประชุมเพื่อสรุปความเสียหายและเตรียมเข้าสืบสภาพพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุก ในรอบปีที่ผ่านมา

วันที่ 7 กันยายน 2566 นาย ชนาส ชัชวาลวงศ์ ผวจ.อ.จ./ผอ.รมน.จังหวัดอํานาจเจริญ จัดประชุมเพื่อสรุปความเสียหายและเตรียมเข้าสืบสภาพพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุก ในรอบปีที่ผ่านมา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงที่ประชุม โดยในส่วนของ กอ.รมน.จังหวัด อ.จ.ชี้แจงกรณีแหล่งข่าวแจ้งให้ทราบว่ามีการลักลอบตัดไม้พยุงที่ ม.รามคําแหง บ.ไก่คํา ต.ไก่คํา อ.เมือง จว.อ.จ.เเละต่อจากนั้นเมื่อ 7 ก.ย.66 เวลา 13.00 น. พ.อ.ชัยภัทร เงินดีเจริญ รอง ผอ.รมน.จว.อ.จ.,ชรต.218, สืบสวน สภ.เมืองอํานาจเจริญ และจนท.กอ.รมน.จว.อ.จ.เข้าร่วมตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว พบไม้พยุงถูกลักลอบตัด จํานวน 2 ต้น และอีก 1 ต้น ถูกเลื่อยแต่ยังไม่ขาด พ.อ.ชัยภัทรฯได้ชี้แจงให้ หน.รปภ.และ รปภ.ม.รามคําแหงเพิ่มการกวดขันการ รปภ.เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ที่จะไม่เกิดขึ้นอีก การดําเนินงาน ดังกล่าว เป็นการขยายผลจากการที่ได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัยได้ที่ อ ชานุมาน และให้ข้อมูล นํามาซึ่งการขยายผลต่อการดําเนินการดังกล่าว

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อำนาจเจริญ

สวท.อำนาจเจริญ

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907184439702

อร่อยบอกต่อ ชาวลำพูน ห้ามพลาด เชิญชวนชิมและอุดหนุน "ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา" สินค้า GI ส่งตรงจากยะลา ณ กาดลำพูนจตุจักร ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 กันยายน 2566

วันนี้ (7 กันยายน 2566) เวลา 16.30 น. นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน มอบหมายให้ นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เยี่ยมให้กําลังใจเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงผลไม้จังหวัดยะลา ปี 2566 โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําพูน ร่วมกับ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา และกาดลําพูนจตุจักร จัดโครงการเชื่อมโยงผลไม้ จากจังหวัดยะลา ส่งตรงจากสวนถึงผู้บริโภค จําหน่าย "ทุเรียนสะเด็ดน้ํายะลา" สินค้า GI จากจังหวัดยะลา มาจําหน่ายให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดลําพูน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยจําหน่ายระหว่างวันที่ 6 - 9 กันยายน 2566 ที่จุดหน่าย กาดลําพูนจตุจักร อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูนโดยราคาจําหน่าย มีดังนี้ ทุเรียนหมอนทอง กก.ละ 150 บาท ทุเรียนก้านยาว กก.ละ 130 บาท ทุเรียนชะนี กก.ละ 100 บาทสําหรับ “ทุเรียนสะเด็ดน้ํายะลา” กรมทรัพย์สินทางปัญญาขึ้นทะเบียน เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตัวใหม่ของจังหวัดยะลา เป็นทุเรียนที่ปลูกบนพื้นที่ภูเขา มีคุณภาพ ปลอดสารเคมี ราคาสูงกิโลกรัมละ 190 บาท สร้างรายได้ให้เกษตรกรยะลามากถึง 2,800 ล้านบาทต่อปี ซึ่ง“ทุเรียนสะเด็ดน้ํายะลา” เป็นการนําทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆ ของจังหวัดยะลาไปปลูกในพื้นที่ตามไหล่เขา สูงจากระดับน้ําทะเลปานกลางตั้งแต่ 100 เมตรขึ้นไป ซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะทุเรียนคุณภาพ ปลอดสารเคมี ทําให้ทุเรียนมีความโดดเด่นด้วยรสชาติหวานมัน มีกลิ่นเฉพาะตัว เนื้อเเห้งละเอียด เส้นใยน้อย และเนื้อมีสีเหลืองอ่อนหรือเข้มตามแต่ละสายพันธุ์ที่ปลูก โดยสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.ของทุกปี และจากความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ได้ร่วมกันพัฒนาคุณภาพสินค้าและบรรจุภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับ “ทุเรียนสะเด็ดน้ํายะลา” ทําให้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนและมาเลเซียได้อย่างดีจึงขอเชิญชวนชาวลําพูน ชิมและอุดหนุน “ทุเรียนสะเด็ดน้ํายะลา” ส่งตรงจากยะลาสู่ผู้บริโภคจังหวัดลําพูนได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 กันยายน 2566 ณ กาดลําพูนจตุจักร

7/9/2023

ภาคเหนือ

ลำพูน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907180806677

บัณฑิต ม.ราชภัฏศรีสะเกษ และ ม.ราชภัฏสุรินทร์ เข้ารับปริญญาบัตร บรรยากาศอบอุ่น

บัณฑิต ม.ราชภัฏศรีสะเกษ และ ม.ราชภัฏสุรินทร์ เข้ารับปริญญาบัตร บรรยากาศอบอุ่น โดยมีชุดแพทย์เดินเท้าจิตอาสาพระราชทาน ให้บริการด้านการแพทย์ และอาหารพระราชทาน แก่บัณฑิต และญาติ รับประทานฟรี 6-14 กันยายน 2566 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร วันนี้ (7 ก.ย. 66) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจําปีการศึกษา 2563-2564 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 14 กันยายน 2566 ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร อําเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร โดยวันนี้ เป็นวันที่สอง ในช่วงเช้ามีผู้สําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี โท และเอก จากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จํานวน 562 คน และช่วงบ่ายจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จํานวน 530 คน รวม 1,092 คน โดยมี พ่อ -แม่ ผู้ปกครอง ญาติ และเพื่อนบัณฑิต ต่างร่วมถ่ายภาพและแสดงความยินดี บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานอาหาร ให้กับบัณฑิต และญาติบัณฑิตทุกคน ได้รับประทานฟรี ตั้งแต่วันที่ 6-14 กันยายน 2566 เมนูอาหารหลากหลายเมนู อาทิเช่น ข้าวไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่เกี๊ยว อย่างละ 450 ชุด เปิดบริการมื้อเที่ยงตั้งแต่เวลา 11.30 น. เป็นต้นไป จนกว่าอาหารจะหมด โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในส่วนนี้ เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับบัณฑิตและญาติบัณฑิตทุกวัน ยังความปลื้มปีติและสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้นอกจากนี้ ยังได้จัดชุดแพทย์เดินเท้าจิตอาสาพระราชทาน รพ.ค่ายกฤษณ์สีวะรา ออกให้บริการด้านการแพทย์ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น แก่บัณฑิต ญาติ และประชาชน ที่มาร่วมพิธีภายในบริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ระหว่างวันที่ 6-14 กันยายน 2566

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สกลนคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907202121719

สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เยี่ยมเยียนประชาชน พร้อมผลักดันการศึกษา ภูมิปัญญา และทักษะการทางอาชีพสู่เยาวชนทุกกลุ่ม

วันนี้ (7 ก.ย. 66) คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง นําโดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กําลังใจผู้ประกอบการโอทอปกลุ่มทอเสื่อกกยกลายคนพิการ บ้านโคกเมือง ตําบลจระเข้มาก อําเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมรับชมผลิตภัณฑ์คุณภาพทั้ง เสื่อกกยกลายขันหมากเศรษฐี, ลายขอโบราณ, ลายดอกแก้วกัลยา, ลายผักกูด, ลายหัวใจขุนแผน,ลายนกกระเรียนคู่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนระดับ 4 ดาว จากนั้น ในช่วงบ่าย คณะได้ลงพื้นที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 51 อ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เยี่ยมเยียนคณะครูและนักเรียน ทํากิจกรรมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พร้อมรับฟังแนวทางการจัดการศึกษาที่โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รวมถึงระดับ ปวช. และเด็กด้อยโอกาส 10 ประเภท โดยใช้หลักการเรียนการสอนหลักสูตรสามัญ ควบคู่กับการฝึกทักษะอาชีพ และทักษะการดํารงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เรียนให้สามารถพึ่งตนเองได้และเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติในอนาคต นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง รองประธานกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนล่าง) คนที่สาม เปิดเผยว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ให้กําลังใจกลุ่มทอเสื่อกกยกลายคนพิการในครั้งนี้ รู้สึกประทับใจกับศักยภาพของคนพิการที่ลุกขึ้นมาพัฒนาตนเองจนสามารถหารายได้ และประสบความสําเร็จด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านการสนับสนุนจากส่วนท้องถิ่น ภาครัฐและเอกชน สําหรับการเยี่ยมเยือนในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการฯ จะนําไปเป็นตัวอย่างการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมภาคการศึกษา ให้มีการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่คนรุ่นใหม่ กระตุ้นให้เกิดการผลักดันเรื่องการศึกษาที่มีการประยุกต์ด้านทักษะการใช้ชีวิตให้เข้าถึงเยาวชนทุกกลุ่มต่อไป

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

บุรีรัมย์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907185556705

จังหวัดตรังเปิดกิจกรรม “ตรัง ยุทธจักรอาหารอร่อย” (Trang Local Food Fesfival)

วันนี้ (7 ก.ย.2566) ที่ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าโรบินสันตรัง อ.เมืองตรัง นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ตรัง ยุทธจักรอาหารอร่อย” (Trang Local Food Fesfival) โดยมี นางสาวเพ็ญศิริรัตน์ อาจทวีกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง กล่าวรายงานจังหวัดตรัง มีวิถีชีวิต วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากเป็นเมืองท่าค้าขาย กับต่างประเทศและเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ํา ที่สําคัญในอดีตมีทรัพยากรธรรมชาติที่คงความสมบูรณ์ โดดเด่น แปลกตา มีอาหารและขนมพื้นเมืองที่อร่อย เป็นเอกลักษณ์ จึงทําให้จังหวัดตรังเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุด ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อนํามาเป็นต้นทุนทางการท่องเที่ยวเป็นสิ่งจําเป็น ซึ่งจังหวัดตรังมีจุดเด่น เรื่องอาหารมีรสชาติอร่อย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตัดสินใจเดินทางมายังจังหวัดตรัง เพราะต้องการลิ้มลองรสชาติอาหารพื้นถิ่น และการจัดงานครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าในจังหวัดตรัง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารให้แก่จังหวัด สร้างความรับรู้แก่นักท่องเที่ยวและชาวตรัง เตรียมพร้อมเข้ารับการคัดเลือกเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจาก UNESCOทั้งนี้ จังหวัดตรัง ได้มอบหมายให้ สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง ดําเนินโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารจังหวัดตรัง กิจกรรม “ตรัง ยุทธจักรอาหารอร่อย” (Trang Local Food Festival) โดยร่วมกับ หอการค้าจังหวัดตรัง และกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC- Trang) โดยกําหนดจัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ 6 – 10 กันยายน 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารให้แก่จังหวัดตรัง เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง และ เพื่อสร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยวและชาวตรัง เตรียมพร้อมเข้ารับการคัดเลือกเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจาก UNESCO ตลอดจนเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว ให้ตรัง เป็นเมืองคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจําหน่ายสินค้าและอาหารขึ้นชื่อของเมืองตรัง จํานวน 100 คูหา (ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่เป็นเครื่องบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI ของจังหวัดตรัง เช่น หมูย่าง พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ข้าวเบายอดม่วง) นอกจากนี้ยังมี ขนมเค้กเมืองตรัง ขนมเปี๊ยะ ซอย 9 อาหารทะเลเผา ผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารและเครื่องดื่มทั่วไป, มีการสาธิต การทําอาหารจากเชฟชื่อดัง ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ซึ่งใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น โดยการรังสรรค์เมนูแปลกใหม่, การแสดงศิลปวัฒนธรรม, การแสดงแสง เสียง ที่มาของ “ตรัง ยุทธจักรอาหารอร่อย”, การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังของเมืองไทย, การประกวดทําอาหารพื้นบ้าน ชิงเงินรางวัลกว่า 6.000 บาท ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวฯ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดตรัง รวมถึงการเชื่อมโยงในตลาดภูมิภาค การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า ขณะที่ผู้ประกอบการมีเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ และคาดว่าจะช่วยสร้างการจับจ่ายใช้สอยของจังหวัดตรัง ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น

7/9/2023

ภาคใต้

ตรัง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907194221716

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครคุมประพฤติ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด

ว่าที่ร้อยโทสิทธิ์ธนัตถ์ สิทธิบัวศรี ผู้อํานวยการสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีปิดและมอบเกียรติบัตรให้แก่อาสาสมัครคุมประพฤติผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครคุมประพฤติ ณ โรงแรมสตาร์เวลล์บาหลี อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด" ประจําปีงบประมาณ 2566 โดยกิจกรรมในภาคเช้ามี นางสาววรรณา ทรัพย์เจริญมาก ตําแหน่งพยาบาลวิชาชีพชํานาญการ สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ "การดูแลผู้มีปัญหาสุขภาพจิต/จิตเวช และผู้ใช้สารเสพติด" และร้อยตํารวจโทพลกฤต สงวนศักดิ์ ตําแหน่งรองสวป.สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ "วิธีการป้องกันตัวขั้นพื้นฐาน" ซึ่งมีอาสาสมัครคุมประพฤติผู้เข้าร่วมโครงการ จํานวนทั้งสิ้น 35 คน

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907202657723

มทส. ร่วมมือ กลุ่ม GPSC เปิดโครงการนวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะ เพื่อการพัฒนาและใช้พลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน

วันนี้ (7 กันยายน 2566) รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทิพย์วรรณ ฟังสุวรรณรักษ์ ที่ปรึกษาโครงการวิจัยและพัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) ให้การต้อนรับ ดร.รสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ และคณะผู้บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) หรือ GPSC คณะผู้บริหาร บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จํากัด (CHPP) และคณะผู้บริหาร บริษัท นูออโว พลัส จํากัด (NUOVO) ในพิธีเปิดโครงการนวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะ ณ ห้องวิศวพัฒน์ 1 อาคารสิรินธรวิศวพัฒน์ พร้อมเยี่ยมชมพื้นที่ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดลอยน้ํา ณ อ่างสุระ 1 และระบบกักเก็บพลังงาน ณ หอพักสุรนิเวศ 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาทั้งนี้ มทส. โดย โครงการวิจัยและพัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) ร่วมกับ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จํากัด ในเครือบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนําในการดําเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. ได้ร่วมมือวิจัยและพัฒนาการใช้พลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งเสริมการพัฒนาพลังงานสะอาด เพื่อลดและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน โดยใช้บริเวณมหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ดําเนินโครงการ ขนาดกําลังไฟฟ้ารวมไม่น้อยกว่า 5.99 เมกกะวัตต์ (5.99 MWp(DC)) มีการติดตั้ง 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1 คือ Solar rooftop ณ อาคารสุรเริงไชย อาคารเรียนรวม 1 หลังคาที่จอดรถอาคารเรียนรวม 1 อาคารเครื่องมือ 10 อาคารเครื่องมือ 12 และหอพักสุรนิเวศ 5 รูปแบบที่ 2 คือ Solar Floating ณ อ่างสุระ 1 ซึ่งดําเนินการติดตั้งโครงการแล้วเสร็จและเริ่มใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โครงการฯ นี้จะทําให้มหาวิทยาลัยสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากระบบพลังงานแสงอาทิตย์ได้กว่า 8.5 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี หรือคิดเป็นจํานวนเงินที่ประหยัดได้ประมาณ 510 ล้านบาท ตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึงประมาณ 115,000 ตัน ในส่วนของ Solar Floating ยังช่วยลดการระเหยน้ําในอ่างเก็บน้ํามากกว่า 30,000 ลูกบาศก์อีกด้วย

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907203710725

จังหวัดกำแพงเพชรจัดการฝึกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด กรณีอุทกภัย ในรูปแบบการฝึกซ้อมบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX)

วันที่ 7 ก.ย. 66 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมใหญ่ ศาลากลางจังหวัดกําแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร มอบหมายให้ นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร เป็นประธานเปิดการฝึกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด กรณีอุทกภัย ในรูปแบบการฝึกซ้อมบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) เพื่อให้หน่วยปฏิบัติสามารถเผชิญเหตุและจัดการในภาวะฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที โดยมี นายนิรุทธ์ สาธุวงษ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ , นายรัชพงษ์ ศิริมี ป้องกันจังหวัดฯ , หัวหน้าส่วนราชการ , หัวหน้าหน่วยงาน และผู้เข้าร่วมการฝึกฯ เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวนางสาวสุพัตรา คล้ายทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร กล่าวว่า จังหวัดกําแพงเพชรมีพื้นที่บางส่วนในแต่ละอําเภอมักจะประสบกับปัญหาอุทกภัยทุกปี โดยมีบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร รวมถึงสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับผลกระทบเป็นจํานวนมาก ทั้งนี้ การฝึกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ต้องการเพิ่มศักยภาพและเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถบริหารจัดการและปฏิบัติการตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการบูรณาการอําเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน โดยมุ่งเน้นการซักซ้อมให้หน่วยปฏิบัติสามารถเผชิญเหตุและจัดการในภาวะฉุกเฉินได้อย่างดี ตามแนวทางของแผนเผชิญเหตุของจังหวัด ภายใต้การจําลองสถานการณ์การฝึกที่สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยและความรุนแรงของสถานการณ์ภัยของพื้นที่

7/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กำแพงเพชร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907203918727

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกำแพงเพชร จัดโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค สมาคมสภาสงเคราะห์ฯ ประจำปี 2566

วันที่ 7 ก.ย. 66 เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์การศึกษาประจําจังหวัดกําแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการน้ําพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค สมาคมสภาสงเคราะห์ฯ ประจําปี 2566 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 66 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 ส.ค. 66 โดยมี นางกาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกําแพงเพชร กล่าวรายงานฯ พร้อมด้วย พันเอกเสมอ แจ่มใส รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดฯ , ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดฯ , รอง ผอ.ศูนย์การศึกษาพิเศษประจําจังหวัดกําแพงเพชร , สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ , หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีดังกล่าวโครงการน้ําพระทัยพระราชทาน เกิดขึ้นจากน้ําพระทัยอันเปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงกรุณาโปรดโปรดกระหม่อม มีพระราชเสาวนีย์ ให้จัดตั้งกองทุนอาหารกลางวันเลี้ยงผู้ตกงาน และผู้ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน และทางสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยได้ร่วมกับจังหวัดกําแพงเพชร และชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกําแพงเพชร จัดกิจกรรมโครงการน้ําพระทัยพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นักเรียนศูนย์การศึกษาพิเศษประจําจังหวัดกําแพงเพชร โดยเป็นการแบ่งปันอาหารที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโตอย่างมีพัฒนาการในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา

7/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กำแพงเพชร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907204228728

จังหวัดกำแพงเพชรจัดกิจกรรมเวที ตลาดสมัชชาสวัสดิการชุมชน สานพลัง เชื่อมโยงเครือข่ายบูรณาการความร่วมมือสร้างความเข้มแข็ง

วันพฤหัสบดี ที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 10.10 น. ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดกําแพงเพชร อาคารสํานักงาน ชั้น 1 นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร มอบหมายให้นายบุญช่วย หอมยามเย็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร เป็นประธานเปิดกิจกรรมเวที ตลาดสมัชชาสวัสดิการชุมชน สานพลัง เชื่อมโยงเครือข่ายบูรณาการความร่วมมือสร้างความเข้มแข็งจังหวัดกําแพงเพชร เพื่อพัฒนาคุณภาพโดยสวัสดิการและพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพของผู้นําคนรุ่นใหม่ โดยมี นางสาววิมลรัตน์ รัชชุกูล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกําแพงเพชร, องค์การบริหารส่วนจังหวัดกําแพงเพชร, มหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร,สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน,เครือข่ายสวัสดิการชุมชนจังหวัดกําแพงเพชร,หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโครงการ และมีนายอนงค์ ขุนหาญ ประธานเครือข่ายสวัสดิการชุมชนจังหวัดกําแพงเพชร กล่าวรายงานฯในการขับเคลื่อนงานกองทุนสวัสดิการชุมชน ในพื้นที่จังหวัดกําแพงเพชร ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญในการเสริมสร้าง สนับสนุนเพิ่มความรู้ความสามารถขยายเครือข่ายความร่วมมือ สร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา โดยการกระตุ้นและสร้างกระบวนการทํางานแบบมีส่วนร่วม รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมให้ชุมชนร่วมกันคิดร่วมกันทําและมีการเรียนรู้เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ที่จะนําไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

7/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กำแพงเพชร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907204519729

อุดรธานี มอบเกียรติบัตรและโล่การประกวดคัดลายมือภาษาอังกฤษ-ไทย-จีน

สํานักงานจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ ชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปราจีนบุรี ยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและจีนของเด็กนักเรียนไทย จัดประกวดคัดลายมือภาษาอังกฤษ-ไทย-จีน ประจําปีการศึกษา 2565วันที่ 7 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 5 อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและโล่ การประกวดคัดลายมือภาษาอังกฤษ ไทย จีน ครั้งที่ 5/22022 (ปีการศึกษา 2565 ) โดยมีคณะผู้บริหาร ครูและนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการร่วมพิธีนายสมชาย เข็มเศรษฐ ที่ปรึกษาชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปราจีนบุรี ในฐานะผู้ดําเนินโครงการยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและจีนของเด็กนักเรียนไทย ซึ่งเป็นโครงการให้เปล่า ภายใต้ชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปราจีนบุรี ที่ให้บริการนักเรียนทั่วไป ทุกระดับ-ทุกสังกัด มาตั้งแต่ พ.ศ. 2552 กล่าวว่าเนื่องด้วยในการประกวดคัดลายมือภาษาอังกฤษ-ไทย-จีน ครั้งที่ 5/2022 ประจําปีการศึกพา 2565 ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ของกิจกรรมหลัก ชมรมฯ ได้นําบทความต่างๆ ซึ่งเป็นบทความมุ่งวิชาการ บทความที่เน้นความกตัญญูต่อบุพการี บทความที่ชี้ให้เห็นความสําคัญของสถาบันครอบครัว บทความให้รู้รับผิดชอบต่อสังคมและประทศซาติ รวมทั้งบทพระคติธรรมสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่ขี้นําให้ยาวชนเข้าใจลึกซึ้งในแก่นธรรม สาระคุณธรรมในพงนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ 2542 ฉบับเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และ บทความพิเศษท่านประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ในฐานะนักการเมืองตัวอย่าง ที่ชี้นํายาวชนให้มุ่งเรียนเพื่อเป็นคนดีและรับผิดชอบบ้านเมือง โดยจัดทําเป็นสามกาษา อังกฤษ-ไทย-จีน มาให้นักเรียน เลือกคัดประกวด ปรากฏมีนักเรียนทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรม รวม 9,525 ชิ้นงาน มีโรงเรียนในจังหวัดอุดรธานี 11 แห่ง ส่งผลงานนักเรียนเช้าร่วมกิจกรรมรวม 232 ชิ้นงาน เป็นผลงานระดับมาตรฐานระดับสูง ระดับดีเยี่ยม ถึงดีเลิศ 47 ราย เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจตลอดจนเป็นเกียรติประวัติแก่ผู้เกี่ยวข้อง เป็นรางวัลสําหรับความตั้งใจมุ่งมั่นในการเรียน และเป็นตัวอย่างที่จะส่งผลกระทบเชิงบวกแก่เยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไป ให้ประพฤติเอาอย่างมุ่งทางวิชาการ สํานักงานจังหวัดอุดรธานี จึงกําหนดจัดพิธีมอบเกียรติบัตร ให้แก่นักเรียน ครู และผู้บริหารสถานศึกษาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมจัดพิธีมอบโล่ แก่ โรงเรียนวังสามหมอวิทยาคาร ที่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการที่ปรึกษาชมรมนิสิตเก่าฯ ให้เป็น 1 ใน 47 โรงเรียน เป็น "โรงเรียนที่บุคลากรทางการศึกษาเห็นความสําคัญของการพัฒนาภาษาเเป็นมหภาค"

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อุดรธานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907231742757

อุดรธานีหารือสิทธิประโยชน์ผู้สนับสนุนและสิ่งสนับสนุนจากเมืองเจ้าภาพ L’Etape

อุดรธานี หารือเครือข่ายพันธมิตร รับทราบและพิจารณาสิทธิประโยชน์ผู้สนับสนุน และแนวทางการกําหนดสิ่งสนับสนุนจากเมืองเจ้าภาพ สําหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลระดับโลก L’Etape Udon Thani by Tour de France 2023วันที่ 7 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมคําชะโนด ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานกาประชุมหารือสิทธิประโยชน์ผู้สนับสนุนและสิ่งสนับสนุนจากเมืองเจ้าภาพ (City Package) สําหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลระดับโลก L’Etape Udon Thani by Tour de France 2023 นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานี ได้รับการยืนยันการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลระดับโลก L’Etape Udon Thani by Tour de France 2023 - 2025 จากสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TEFA) เจ้าของลิขสิทธิ์ L’Etape Thailand by Tour de France ในประเทศไทย ซึ่งในปี 2023 กําหนดจัดการแข่งขันในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ณ จังหวัดอุดรธานี คาดว่าจะมีผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน 1,500 คน ขึ้นไป ซึ่งยังไม่รวมผู้ติดตาม ผู้เข้าร่วมซมและเชียร์ ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ไม่ว่าจะเป็นด้านที่พัก โรงแรม ร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมและร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้ จังหวัดอุดรธานี จึงจัดให้มีการประชุมเพื่อรับทราบและพิจารณาสิทธิประโยชน์ผู้สนับสนุน และร่วมกันหารือแนวทางในการกําหนดสิ่งสนับสนุนจากเมืองเจ้าภาพ (City Package) สําหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลระดับโลก L’Etape Udon Thani by Tour de France 2023

7/9/2023

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อุดรธานี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907231919758

พอ.สว.ประจำวันที่ 8 กันยายน 2566 ออกให้บริการประชาชน

วันนี้ 8 กันยายน 2566 มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ที่หมู่ 8 โรงเรียนบ้านอุ่มจาน ตําบลอุ่มจาน อําเภอประจักษ์ศิลปาคมจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่หมู่ 3 บ้านพิตํา ตําบลกรุงชิง อําเภอนบพิตํา ขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

8/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908090342772

มรย. จัดนิทรรศการ งานขอบคุณสื่อมวลชน YRU Thank Press Party

มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ได้จัดงานขอบคุณสื่อมวลชน YRU Thank Press Party ภายใต้หัวข้อ “YRU Partner Together 2023” โดยชูวิสัยทัศน์ มหาวิทยาลัยคลังปัญญาแห่งชายแดนใต้ เป็นเลิศในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืนสู่สากล โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย นามบุรี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวเปิดงาน ร่วมกับคณะผู้บริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ซึ่งมีสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่ จ.ยะลา เข้าร่วมงานเป็นจํานวนมากสําหรับงานขอบคุณสื่อมวลชน ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ได้จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความร่วมมือ ตลอดจนสร้างเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารความคิดเห็นเกี่ยวกับการดําเนินงานและการพัฒนามหาวิทยาลัยตามเอกลักษณ์อุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ภายนอก และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของส่วนราชการต่างๆ ในมหาวิทยาลัย และเพื่อขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนง นักประชาสัมพันธ์ และเครือข่ายประชาสัมพันธ์ที่เป็นสื่อกลางในการนําเสนอข่าวสาร และสนับสนุนมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลามาโดยตลอดภายในงานมีการรับประทานอาหารร่วมกันในรูปแบบเป็นกันเอง การมอบเกียรติบัตรให้กับสื่อมวลชน กิจกรรมการแสดงบนเวที นอกจากนี้ยังมีการโชว์ผลงานผ่านบูธนิทรรศการแบบมีชีวิตตามพันธกิจและโครงการสําคัญของมหาวิทยาลัย ราชภัฎยะลา

8/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สทท.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908092505783

แม่ร่ำไห้สูญเสียลูก พลัดตกบ่อน้ำซีเมนต์ กู้ภัยฯ ฝากอุทาหรณ์ครอบครัว สังคม

จากเหตุการณ์ เมื่อช่วงค่ําของวันที่ 7 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ได้มีเด็ก 2 ราย พลัดตกลงไปในบ่อน้ําซีเมนต์ บริเวณหน้ามัสยิดปูโป๊ะ หมู่ที่ 4 บ้านสาคอ ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ขึ้นมาสําเร็จ โดยทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา และกู้ภัยแม่ทับทิมยะลา ได้นําร่างของเด็กทั้ง 2 ราย มาตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต ที่โรงพยาบาลยะลา พร้อมทั้งนําแม่ของเด็กที่เสียชีวิต และญาติ เพื่อทําการปฐมพยาบาล ดูแลสภาพจิตใจเบื้องต้นที่โรงพยาบาล ยะลานางสาวกูฮานีสะห์ กูจิ แม่ของ เด็กชาย ข. อายุ 12 ปี ได้เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มีชาวบ้านมาบอกว่า ลูกของตนเองอยู่ในบ่อฝาบ่อซีเมนต์หักและแตกล่วงลงไปในก้นบ่อ ความรู้สึกในตอนนี้เสียใจมาก ร้องไห้หนักมาก ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยะลา ต้องคอยปฐมพยาบาลใกล้ๆ ตลอดเวลา สําหรับลูกชายวัย 12 ขวบ กําลังศึกษาอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านสาคอ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ขณะที่แม่ของ เด็กชาย ก. อายุ 8 ปี ยังเป็นลมหมดสติอยู่ในห้องฉุกเฉิน แพทย์ต้องทําการปฐมพยาบาลและดูแลอย่างใกล้ชิดนายธวัชชัย ศรีนวล เจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ชีพกู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา เปิดเผยว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ทางกู้ภัยได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของทางเทศบาลนครยะลา ขอชุดนักประดาน้ําสนับสนุนในการช่วยเหลือ พร้อมทีมโรยตัว เข้าดําเนินการ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง สามารถนําผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ขึ้นมาได้ สภาพของน้องทั้ง 2 ไม่มีบาดแผล เนื่องจากจมน้ําลงไป ความลึกของน้ําประมาณ 5 เมตร ระดับความสูงของบ่อลงไปอยู่ที่ประมาณ 10 เมตร ลักษณะอากาศไม่ถ่ายเท เป็นจุดมุมอับของอากาศ สําหรับบ่อดังกล่าว เป็นบ่อที่มีการปิดฝาบ่อด้วยซีเมนต์ ในลักษณะไม่ใช้งาน ทําให้เด็กๆที่ไม่รู้ว่าคืออะไร อาศัยความซุกซน กระโดดโลดเต้น ด้วยความสนุก จนกระทั่งเกิดการชํารุด ฝาซีเมนต์เกิดแตก ญาติของครอบครัวทั้ง 2 ราย รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่เสียใจ และหดหู่ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากฝากผู้ปกครองช่วยดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะทํากิจกรรม หรือเล่นในที่ต่างๆ ควรอยู่ในสายตา สําหรับบ่อน้ํา ที่ไม่ได้ใช้งาน พยายามปกปิดให้มิดชิด หรือมีการล้อมรั้วกั้น หรือป้ายสัญลักษณ์แสดง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดการอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน นํามาซึ่งความสูญเสีย

8/9/2023

ภาคใต้

ยะลา

สทท.ยะลา

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908092819784

สำนักงานสถิติจังหวัดสตูล กำหนดลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลสถิติโครงการต่าง ๆ ขอความร่วมมือหน่วยตัวอย่างให้ข้อมูลที่เป็นจริง

วันนี้ (8 ก.ย. 66) นายธเนส สุวัตถิกุล สถิติจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า สํานักงานงานสถิติจังหวัดสตูล จะดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติโครงการสํารวจภาวะการทํางานของประชากร พ.ศ.2566 ผนวกกับโครงการสํารวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ.2566 โดยเจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของ ครัวเรือน จํานวนผู้มีงานทํา ผู้ไม่มีงานทํา ทั้งที่กําลังหางานทําและไม่มีงานทําแต่พร้อมที่จะทํางาน รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน ค่าจ้างแรงงาน ผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้จากการทํางานของลูกจ้าง จํานวนผู้อาศัยในแต่ละบ้าน มีภูมิลําเนาอยู่ที่ไหน สถานที่เดิมอยู่ที่ใด มีสัญชาติอะไร การใช้อินเตอร์เน็ต การใช้โทรศัพท์มือถือ การมีคอมพิวเตอร์ ตลอดจนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของครัวเรือน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลพื้นฐานสําคัญ สําหรับใช้ในการวางนโยบาย แก้ไขปัญหาการว่างงาน การนําแรงงานมาใช้อย่างเต็มที่ ทราบถึงจํานวนประชากรที่อาศัยอยู่จริงและประชากรแฝง เพื่อนําไปกําหนดนโยบายในการพัฒนาประเทศด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามเป้าหมายได้อย่างตรงจุด และเป็นฐานข้อมูลสําหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้สําหรับติดตามประเมินผลด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงประกอบการวางแผนจัดทํานโยบาย ทั้งนี้กําหนดเก็บรวบรวมข้อมูลภายในวันที่ 12 กันยายน 2566 สํานักงานสถิติจังหวัดสตูล จึงขอความร่วมมือจากครัวเรือน/สถานประกอบการที่ตกเป็นตัวอย่างของการสํารวจ ให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับเจ้าหน้าที่ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มปฏิบัติการสถิติ โทรศัพท์ 0 7471 1161

8/9/2023

ภาคกลางและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

สวท.สตูล

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908103731809