NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
วิป 3 ฝ่าย มีมติกำหนดวันประชุมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา 30 ชั่วโมง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยผลการประชุมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้านและวิปวุฒิสภา โดยที่ประชุมมีมติกําหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายนนี้ ตั้งแต่ 09.00 น. ถึง 24.00 น. ของแต่ละวัน โดยกําหนดกรอบเวลาการอภิปราย 30 ชั่วโมง แบ่งเป็นประธานรัฐสภา 1 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล วุฒิสภา ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 14 ชั่วโมง ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ทําหน้าที่ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ทุกฝ่ายเห็นตรงกันตามกรอบเวลาที่กําหนด ข้อมูลที่พรรคก้าวไกลเตรียมไว้เป็นการสอบถาม ตั้งข้อสงสัยและให้ข้อเสนอแนะ รวมถึงเรียกร้องสิ่งที่พรรครัฐบาลได้หาเสียงไว้ โดยเฉพาะเรื่องเศษรฐกิจปากท้อง สังคม การจัดสรรอํานาจและที่สําคัญทิ้งไม่ได้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาล ขอให้เป็นการแสดงความคิดเห็นไม่ใช่อภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขอยืนยัน ว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้ตรวจสอบทุกวาระ หากฝ่ายรัฐบาลเคลียร์ได้ทุกประเด็น ก็จะคลายความกังวล เรื่องการบริหารแผ่นดินให้กับประชาชนได้
7/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907132656532
245,622
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
นายรอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก (Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจําประเทศไทย เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ในโอกาสที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยในโอกาสนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้ด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูต ที่ร่วมแสดงความยินดี ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน ขณะที่ เอกอัครราชทูตฯ สหรัฐฯ มุ่งหวังว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคี ที่มีมาอย่างแน่นแฟ้นยาวนาน ตามที่ครบรอบ 190 ปี สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน จะต่อเนื่องทวีความมั่นคงต่อไปนายกรัฐมนตรี หวังจะได้พบประธานาธิบดีไบเดน ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) และหวังว่าจะได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีไบเดนที่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนการทํางานร่วมกันในทุกมิติ ที่จะทําให้เกิดประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้า การลงทุนและความท้าทายระดับโลก อาทิ วิกฤตสภาพภูมิอากาศ
7/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907150718576
245,623
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยเป้าหมายปี 67 มุ่งพัฒนาเมืองต่อยอดโครงการที่ทำอยู่อย่างต่อเนื่อง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 9 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ว่า การประชุมหัวหน้าหน่วยงานฯ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2566 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดําเนินงานในเรื่อง ต่างๆ โดยเรื่องสําคัญคือ การตั้งเป้าหมายการดําเนินงานในปี 2567 ประมาณ 22 – 23 เรื่อง ที่เป็นโครงการต่อเนื่องที่ทําอยู่ ซึ่งจะเน้นที่สํานักงานเขตเป็นหลัก อาทิ การพัฒนาถนนสวยระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร ในแต่ละเขต ปลูกต้นไม้เพิ่มอีกประมาณ 153,000 ต้น เพิ่มสวน 15 นาที 153 แห่ง ปรับปรุงทางเท้ากว่า 1,000 กิโลเมตร ติดตั้ง/ซ่อมไฟฟ้าส่องสว่างให้ได้ 71,878 ดวง ติดตั้ง/ซ่อมไฟฟ้าส่องสว่างริมคลอง 9,078 ดวง ยุบรวม/ยกเลิกพื้นที่หาบเร่แผงลอยนอกจุดผ่อนผัน 107 แห่ง แก้ไขจุดเสี่ยงน้ําท่วม 212 จุด ขุดลอกท่อกว่า 3,100 กิโลเมตร ขุดลอกคลองและเปิดทางน้ําไหล 3,600 กิโลเมตร แก้จุดจราจรฝืด 145 แห่ง แก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ 139 แห่ง แก้ไขจุดเสี่ยงอาชญากรรม 95 แห่ง ส่งเสริมการใช้งบประมาณ 200,000 บาท ต่อชุมชน โดยมีเป้าหมายมูลค่าเงินที่เบิกจ่าย 274,376,000 บาท ฯลฯ เป็นต้นการตั้งเป้าหมายเช่นนี้จะทําให้เขตทํางานได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมาหากไม่กําหนดเป้าหมาย เวลาจะผ่านไปเร็วแล้วจะไม่มีผลเชิงรูปธรรม ดังนั้น จึงมีการกําหนดอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร ส่วนวิธีการทําให้ถึงเป้าหมาย แต่ละเขตจะดําเนินการแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาทําได้ค่อนข้างดี
7/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907161845631
245,624
กรุงเทพมหานครเล็งชวนภาคเอกชนทำ Pilot Project ห้องเรียนปลอดฝุ่น
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีถูกที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ลงมติตัดงบโครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นว่า จะมีการกลับมาดูรายละเอียดโครงการใหม่ สําหรับงบที่ถูกตัดเป็นขั้นตอนของการแปรญัตติจึงไม่ได้มีขั้นตอนของการชี้แจง ซึ่งรายละเอียดที่แสดงจะมีส่วนหนึ่งที่เป็นค่าก่อผนัง 20 ตารางเมตร ขนาดห้องจริงคือ 49-64 ตารางเมตร จึงจําเป็นต้องใช้แอร์ 2 ตัว จากนี้จะมีการกลับไปทบทวนเรื่องการเอาโซลาเซลล์ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ตามคําแนะนําของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครมาปรับใช้และยื่นของบประมาณอีกครั้งด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร งบประมาณปี 2567 ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ถูกตัดไป 300 ล้านบาท ถือว่าไม่เยอะ ก็คงต้องปรับปรุงกระบวนการ อะไรที่เป็น Pilot Project ทําได้ก็ทําไปก่อน อาจหาเงินจากเอกชนมาซัพพอร์ตสักห้องเรียนหนึ่งแล้วเก็บข้อมูลเรื่องการใช้ไฟ ประโยชน์ที่ได้รับ เป็นหลักฐาน ให้เห็นประโยชน์หรือข้อเสียที่ชัดเจน ซึ่งบางโรงเรียนก็มีห้องเรียนแอร์อยู่บ้าง อาจทําให้การเสนอของบประมาณในครั้งหน้าคือปี 2568 ทําให้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครพิจารณาง่ายขึ้น
7/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907162158635
245,625
กทม. หาแนวทางให้ความรู้ขั้นตอนเผชิญเหตุเพลิงไหม้สารลิเทียมไอออนกับเจ้าหน้าที่ กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมสั่งการให้เตรียมความพร้อมรับมือเหตุดังกล่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงเหตุเพลิงไหม้โกดังภายในซอยวิภาวดีรังสิต 22 เมื่อคืน (6 ก.ย. 66 เวลาประมาณเวลา 23.45 น.) ที่ผ่านมา ว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นเป็นกรณีเพลิงไหม้แบตเตอรี่ต่าง ๆ การดับเพลิงจะไม่เหมือนรูปแบบปกติ และในอนาคตจะมีการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ฉะนั้น หลังจากนี้กรุงเทพมหานครจะมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของประสิทธิภาพในการดับเพลิงประเภทดังกล่าว และการให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งเจ้าหน้าที่ของกรุงทพมหานคร และที่เป็นอาสาสมัคร เพื่อให้สามารถเข้าเผชิญเหตุได้ถูกต้อง และเข้าใจกระบวนการจัดเก็บแบตเตอรี่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวรับมือให้พร้อม นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ ผู้อํานวยการเขตจตุจักร ไปดูในเรื่องของการเก็บแบตเตอรี่ว่าถูกต้องตามการใช้งานอาคารหรือไม่ เป็นไปตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ในการจัดเก็บวัตถุอันตราย หรือไม่ หรือเป็นไปตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงจะต้องขยายผลไปในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีการจัดเก็บแบตเตอรี่และจําหน่ายรถไฟฟ้าด้วยด้านนายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อํานวยการสํานักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเสริมว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารคอนกรีต 4 ชั้น ประกอบกิจการโกดังเก็บสินค้า ด้านหน้าเป็นลักษณะโชว์รูมขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 4 เก็บจักรยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ซึ่งประกอบด้วยสารลิเทียมไอออนที่ใช้กับรถจักรยานยนต์ ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 เก็บอาหารเสริม ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นชั้นที่ 1 เพลิงลุกไหม้ทั้งหมดและลุกลามบ้านข้างเคียงเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตสําหรับสารลิเทียมไอออนจะเหมือนกับถ่านไฟฉายจํานวนมากซึ่งมีการเชื่อมต่อระบบไว้ การใช้น้ําในการควบคุมเพลิงไหม้ จะทําให้อุณภูมิลดลง แต่เมื่อหยุดใช้น้ํากระแสไฟฟ้ายังคงแอคทีฟอยู่ ก็จะเกิดความร้อนขึ้นมาอีก และจุดติดขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุนี้จึงทําให้การดับเพลิงเป็นไปได้ยากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสํานักป้องกันและบรรเทาสารธารณภัยได้มีการจัดอบรมทบทวนการเผชิญเหตุ รวมถึงมีการให้ความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในบ้านเรือนและเรื่องของรถไฟฟ้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยมากที่สุดอยู่เสมอ
7/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907175524669
245,626
นครพนม จับมือ แขวงคำม่วน วาง 8 กรอบความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-ลาว
วันที่ 7 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) อําเภอเมืองนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นายวันไซ พองสะหวัน เจ้าแขวงคําม่วน สปป.ลาว เป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย - ลาว (จังหวัดนครพนม – แขวงคําม่วน) ครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นการทบทวนความร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย - ลาว ในพื้นที่จังหวัดนครพนมและแขวงคําม่วน ที่ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทําร่วมกันมาและเล็งเห็นว่ากลไกความร่วมมือดังกล่าว เป็นพื้นฐานที่ดีในการแก้ไขปัญหาร่วมกันในระดับจังหวัดและแขวง ตั้งอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องสอดคล้องตามนโยบายของ 2 รัฐบาล (ไทย – ลาว) เป็นการมีส่วนร่วมในการรักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามชายแดนไทย – ลาว ทําให้ชายแดนระหว่าง 2 ประเทศเป็นชายแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความสามัคคี ทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในฐานะบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดี จึงได้มีการลงนามความร่วมมือกันอีกครั้ง โดยมี นายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ แห่งราชอาณาจักรไทย ณ แขวงสะหวันนะเขต และท่านสมลัก วิไลทอน กงสุลใหญ่ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจําจังหวัดขอนแก่น ร่วมการประชุมโดยในครั้งที่ 13 นี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงที่จะปฏิบัติตามกรอบความร่วมมือ 8 ด้าน คือ ความร่วมมือในการรักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามชายแดน ไทย – ลาว ที่เป็นการปฏิบัติเกี่ยวกับการลาดตระเวน กรณีการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติภัยตามลําแม่น้ําโขงตามหลักมนุษยธรรม กรณีเกิดมีการกระทบกระทั่งกันตามบริเวณชายแดน กรณีบุคคลสองสัญชาติ กรณีเกี่ยวกับปัญหาบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงไทย – ลาว รวมถึงการรับทราบต่อการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อดูแลพลเมืองที่ประกอบอาชีพสุจริตของตน ตลอดจนการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติด การจัดระเบียบเรือ การเดินเรือตามแม่น้ําโขง การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พบปะหารือร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมตามชายแดน การร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน การประชุมอนุกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนในระดับอําเภอกับเมือง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยให้ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ความร่วมมือด้านต่อมาคือความร่วมมือในการรักษาชายแดน ไทย - ลาว (จังหวัดนครพนม - แขวงคําม่วน) ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือและอํานวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - ลาว ในการสํารวจและจัดทําหลักเขตแดนทางน้ํา ที่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบ ในระยะที่รัฐบาลไทย และรัฐบาลลาว ยังอยู่ระหว่างการเจรจาสํารวจและปักปันหลักเขตแดนในแม่น้ําโขง ประชาสัมพันธ์ให้พลเมืองของตนที่อาศัยอยู่่ตามบริเวณชายแดนประกอบอาชีพอยู่ในเขตแดนของตน ความร่วมมือในการอํานวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้า – ออกเมืองตามจุดผ่านแดน ไทย – ลาว ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามชายแดน ไทย – ลาว ความร่วมมือในการรักษาและป้องกันการกัดเซาะตลิ่งและการแก้ไขปัญหาการดูดทรายตามแม่น้ําโขง ความร่วมมือกรณีบุคคลของแต่ละฝ่ายถูกจับกุม คุมขัง ที่เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติด้วยความยุติธรรม โดยปราศจากการใช้ความรุนแรงต่อร่างกายและจิตใจ หลังจากนั้นต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบภายใน 7 วันทําการ นับตั้งแต่วันที่ถูกกักตัว สําหรับบุคคลที่ถูกดําเนินคดีเห็นชอบอนุญาตให้ญาติพี่น้องเดินทางเข้าเยี่ยมตามความเหมาะสม บนพื้นฐานระเบียบและกฎหมายของแต่ละประเทศ ส่วนการส่ง – มอบบุคคลสัญชาติไทยหรือบุคคลสัญชาติลาวที่พ้นโทษกลับประเทศหรือเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการประสานงานให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าก่อนมีการส่งตัว โดยให้ส่งตัวภายใน 7 วันทําการ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองของจุดผ่านแดนถาวรหรือด่านสากลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ความร่วมมือด้านแรงงานให้ปฏิบัติตามข้อ 6.10 ของบันทึกการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดน ไทย - ลาว ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 26 - 28 กันยายน 2560 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างจังหวัดนครพนมและแขวงคําม่วน ที่จะมีการปฏิบัติตามและขยายผลความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Strategic Partnership for Growth and Sustainable Development) ตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2565 - 2569) ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับ สปป.ลาว ที่จัดทําขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2565นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งคณะเลขานุการประสานงานระดับจังหวัด – แขวง ฝ่ายละ 7 คน และระดับอําเภอ – เมือง ฝ่ายละ 5 คน เพื่อสร้างกลไกประสานงาน รวมถึงการกําหนดเวลาและสถานที่จัดการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งแขวงคําม่วนรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
7/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230907232814760
245,627
ภาคเอกชน พร้อมนำเสนอข้อมูลกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายต่าง ๆ หลังรัฐบาลชุดใหม่แถลงนโยบายเสร็จสิ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ที่ผ่านมา ภาคเอกชน ได้นําเสนอปัญหาต่างๆ ที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่เร่งแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับปากท้องของประชาชน ทั้งเรื่องลดค่าไฟฟ้า หากปรับลดอีก 20 สตางค์ จะเพิ่มสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนได้ถึง 12,400 ล้านบาท ขณะที่ ในส่วนการท่องเที่ยวปีนี้ ตั้งเป้ามีจํานวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจีน 5 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเพียง 2 ล้านคน เกิดจากปัญหาเปลี่ยนระบบมาใช้ e-visa ทําให้ไม่ได้รับความสะดวก รัฐบาลได้รับทราบปัญหาแล้ว จะเร่งแก้ไขยกเว้นวีซ่า หรือฟรีวีซ่า ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป รวมทั้งจะไปเจรจาเพิ่มเที่ยวบินจากจีนมาไทย นอกจากนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังมีแผนจะเดินทางไปจีน ดึงดูดผู้ประกอบการและนักลงทุนให้มาลงทุนในไทยมากขึ้น เป็นส่วนสําคัญทําให้ภาคท่องเที่ยว-ภาคบริการฟื้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 และ 12 กันยายนนี้ เป็นวันแถลงนโยบายของรัฐบาล หลังจากได้รับฟังความชัดเจนภาคเอกชน 3 สถาบัน จะจัดประชุมและเตรียมนําเสนอข้อมูลการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายอื่นๆ ต่อรัฐบาลชุดใหม่อีกครั้งประธานกรรมการหอการค้าไทยฯ ยังกล่าวว่า ขณะนี้มีความพร้อมขับเคลื่อนงานทุกเรื่อง หลังจากรับฟังการแถลงนโยบายจากรัฐบาล โดยเฉพาะการปรับค่าแรงขั้นต่ําจํานวน 600 บาทเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน จะมาที่หอการค้าไทย เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหาแรงงาน โดยหอการค้าไทยได้เตรียมเสนอ 4 ประเด็นได้แก่ การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ํา การขาดแคลนแรงาน แรงงานต้างด้าว และการพัฒนาทักษะแรงงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเทคโนโลยีที่นํามาใช้จึงจําเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการพัฒนาคน ตลอดจนการแก้ปัญหาน้ําท่วม - ภัยแล้ง
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908093331790
245,628
รองแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมหารือเพิ่มศักยภาพชุดคุ้มครองตำบลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานการประชุมผลการปฏิบัติงานประจําเดือนกันยายน 2566 เพื่อชี้แจงถึงผลการปฏิบัติงานของชุดคุ้มครองตําบล และหารือดําเนินการแก้ไขข้อบกพร่อง พร้อมมอบมอบรางวัลให้แก่ชุดคุ้มครองตําบลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นประจําเดือน จังหวัดละ 1 ชุดคุ้มครองตําบล และรางวัลชุดคุ้มครองตําบลที่มีผลตรวจประเมินเตรียมการดีเด่น โดยมี ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่, ผู้แทนกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหาร ตํารวจ เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ห้องประชุมไทยต้องเป็นไทย ศูนย์ฝึกอบรมกองกําลังประจําถิ่นท่าสาป อําเภอเมือง จังหวัดยะลาพลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า "ขอแสดงความยินดีกับชุดคุ้มครองตําบลทั้ง 12 ชุดคุ้มครองตําบล ที่ได้รับรางวัลจากการตรวจประเมินทั้ง 5 ด้านของคณะกรรมการระดับจังหวัดในรอบ 6 เดือนหลัง ครั้งนี้ก็จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมาการประเมินชุดคุ้มครองตําบลถือว่าเป็นตัวบ่งชี้ถึงความพยายามของแต่ละชุด ช่วงก่อนหน้านี้อาจจะมีคะแนนที่ไม่ดีเราก็พยายามที่จะปรับปรุงแก้ไขก็ต้องขอชื่นชมในการได้รับรางวัล ถือว่าเป็นตัวบ่งชี้ถึงขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้น ขอเป็นกําลังใจให้กับชุดคุ้มครองตําบลอื่น ๆ ที่อาจจะไม่ได้รับรางวัลในวันนี้ด้วย ในปีต่อ ๆ ไป รวมไปถึงปีงบประมาณหน้า ก็ยังคงมีการมอบรางวัล เพื่อเป็นแรงจูงใจเหมือนเดิม ก็ขอให้ทุกชุดคุ้มครองตําบลได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามนโยบายของ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ในการดูแลชุมชน พี่น้องประชาชนตลอดจนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในกิจกรรมต่าง ๆ แม้ว่าชุดคุ้มครองตําบลยังไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณเป็นของตนเอง แต่ก็ได้ปฏิบัติภารกิจมวลชนกันอย่างเต็มที่ ซึ่งในปีนี้แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 อยากให้ทุกคนได้ปฏิบัติงานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น จึงได้มอบเงินสนับสนุนให้แต่ละชุดคุ้มครองตําบล อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าจากการที่หลาย ๆ ฝ่ายพยายามช่วยผลักดัน ซึ่งได้ทราบว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กระทรวงมหาดไทยก็ได้ตั้งงบประมาณ เพื่อให้ชุดคุ้มครองตําบลทุกชุด ได้มีงบประมาณเป็นของตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่ คือสิ่งที่ทุกคนเล็งเห็นถึงความสําคัญของชุดคุ้มครองตําบล ในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับพี่น้องประชาชน ในฐานะรองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หลังจากที่เข้ามาดูแลชุดคุ้มครองตําบล ตลอดระยะเวลา 2 ปี มั่นใจว่าสมาชิกทุกคนมีความพร้อมและขีดความสามารถที่สูงขึ้น จึงเป็นที่มาของการถอนกําลังเจ้าหน้าที่โครงเพิ่มในอนาคต หลังจากนี้ขอให้ทุกคนเสนอแนะข้อคิดเห็น รวบรวมปัญหาในการปฏิบัติงานที่ผ่านมา เพื่อจะได้นํามาแก้ปัญหาให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป"
8/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908093306786
245,629
นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อติดตามสถานการณ์แก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสาน โดยลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดแรก ทันทีที่นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาถึง นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และตัวแทนส่วนราชการ สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยและอดีตผู้สมัคร สส.รวมถึงสมาคมสตรีชาวอีสาน 20 จังหวัด ที่สวมเสื้อแดงมารอให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมผูกผ้าขาวม้าตั้งแต่เอวสูงถึงหน้าอก พูดคุยถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิดและเข้าไปกอดให้กําลังใจอย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งตะโกนว่า “นายกฯ เศรษฐาจะพาประชาชนเป็นเศรษฐี”จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ไปเยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนที่อยู่ทั้งในพื้นที่ชลประทานและในพื้นที่นอกชลประทาน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ พื้นที่ทํากินและการบริหารจัดการน้ํา ส่วนราชการถึงสถานการณ์น้ําและมาตรการรับมือภัยแล้ง หลังพบว่าปริมาณน้ําในเขื่อนของปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาถึงครึ่งหนึ่งขณะที่กําหนดการนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อเข้ารับฟังความคืบหน้าโครงการมหกรรมพืชสวนโลก ที่อําเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908101658801
245,630
รัฐบาลเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 11 กันยายน 2566 ภายใต้ “1 กระตุ้น 4 เร่ง 3 สร้าง” หลังจากนั้นจะขับเคลื่อนนโยบายอย่างเต็มที่
วันที่ 5 กันยายน 2566 สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นําคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ จํานวน 34 คน เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตําแหน่งหน้าที่แล้วนั้น ขั้นตอนต่อไป คือการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้การจัดทํานโยบายของรัฐบาลได้จัดทําเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงแค่ขั้นตอนการพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่ม และจากนี้จะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง โดยการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 11 กันยายน 2566 จะเป็นการจัดทํานโยบายร่วมกันจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งนําโดยพรรคเพื่อไทย โดยสามารถแบ่งเป็น “1 กระตุ้น 4 เร่ง 3 สร้าง” ดังนี้ 1 กระตุ้น คือ การการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet 4 เร่ง คือ จะเร่งแก้ปัญหาหนี้สินทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน, เร่งปรับลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน, เร่งผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องรัฐธรรมนูญ 3 สร้าง คือ สร้างรายได้ โดยใช้การทูตเจรจาเศรษฐกิจเชิงรุกเปิดตลาดใหม่ พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจใหม่และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, สร้างโอกาสให้ประชาชน สามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ เช่น ที่ดินมาสร้างรายได้ สร้างอาชีพ พร้อมผลักดันการกระจายอํานาจ (ผู้ว่า CEO) และส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Soft Power) และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในมิติความมั่นคง ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และระบบสาธารณสุขทั้งนี้ รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในอนาคต และรัฐบาลนําโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกําหนดลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย ในระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2566 และจะนัดประชุม ครม.นัดแรกวันที่ 12 กันยายน 2566 วันที่ 18-23 กันยายน 2566 ร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78
8/9/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908103325808
245,631
นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญและการบริหารจัดการน้ํา โดยนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ปริมาณฝนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ย สถานการณ์น้ําในเขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ําใช้การได้ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อสิ้นฤดูฝนจะมีน้ําเพิ่มขึ้นใช้ได้การประมาณ 709 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมชลประทานเตรียมแผนรองรับและบริหารจัดการน้ํา จัดสรรน้ําเพื่อการอุปโภคและบริโภค อุตส่าหกรรม รักษาระบบนิเวศและสํารองไว้สําหรับทําการเกษตร ทั้งนี้จัดหาแหล่งน้ําสํารองและจ้างงานในพื้นที่ เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชน นายกรัฐมนตรี กําชับว่า ได้ขอกําลังเสริมจากกองทัพในพื้นที่ ให้ช่วยสนับสนุนการการขุดลอกแหล่งน้ําต่างๆ ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ รองรับสถานการณ์ภัยแล้งภายหลังรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้พบปะประชาชน รับฟังการสะท้อนปัญหาในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มารับฟังข้อมูลและเตรียมพร้อมบริหารราชการแผ่นดินต่อไป
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908144421917
245,632
จังหวัดลำพูน ร่วมรับฟังความคิดเห็นในโครงการจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน เวทีที่ 1 เพื่อเป็นแนวทางป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง เนื่องจากจังหวัดลำพูน เป็นพื้นที่สำคัญในการรองรับน้ำจากจังหวัดเชียงใหม่
วันนี้ (8 ก.ย.66) ณ โรงแรมเมอร์เคียว อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน มอบหมายให้ นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นโครงการจัดทําผังน้ําลุ่มน้ําปิง วัง ยม น่าน เวทีที่ 1 โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานจัดโดยสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา เพื่อแจ้งผังน้ําโซนน้ําท่วมและจัดทําร่างเพื่อนําเสนอระดับชาติต่อไป รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การแก้ปัญหาน้ําท่วมน้ําแล้งในลําน้ําปิงต้องบูรณาการร่วมกัน โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ําปิง จังหวัดลําพูนจะที่เป็นพื้นที่สําคัญในการรองรับน้ําจากจังหวัดเชียงใหม่ หากเกิดปัญหาน้ําท่วมจะได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้น ต้องให้ความสําคัญกับการกําจัดสิ่งกีดขวางทางน้ําที่เป็นปัญหา ดูพื้นที่ทางน้ําหลาก และขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมเวทีในครั้งนี้ ได้นําเสนอข้อมูลและสะท้อนแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพราะมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด จะสะท้อนปัญหาในพื้นที่ได้ดีที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สําหรับประโยชน์ในการจัดทําผังน้ํา ได้แก่ 1) ผังน้ําช่วยกําหนดขอบเขตระบบเส้นทางน้ําในลุ่มน้ํา ตั้งแต่ต้นน้ําจนถึงปลายน้ํา 2) ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จากการแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบถึงพื้นที่เสี่ยงภัยอุทกภัยระดับต่างๆ 3) เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตผังน้ํา โดยไม่กีดขวางทางน้ํา 4) เป็นแนวทางการใช้ประโยชน์จากเส้นทางน้ํา ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเส้นทางน้ําเดิม 5) เป็นแนวทางในการสงวน รักษา และอนุรักษ์พื้นที่ต้นน้ําและแหล่งน้ําตามธรรมชาติ 6) เกิดเป็นแนวทางการบริหารจัดการน้ําในลุ่มน้ําทั้งฤดูน้ําหลากและฤดูแล้ง 7) เป็นมาตรฐานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนําไปใช้อย่างสอดคล้องเชื่อมโยงกัน และ 8) ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสําคัญของผังน้ําและหลีกเลี่ยงการรุกล้ําเส้นทางน้ํา ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
8/9/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908105351815
245,633
ชาวขอนแก่น กว่า 2,000 คน รอต้อนรับนายกรัฐมตรี ที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
วันนี้ (8 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยมีชาวบ้านเดินทางมารอรับกันตั้งแต่เช้า ทั้งจากจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ กว่า 2,000 คน เพื่อสะท้อนปัญหาเรื่องการใช้น้ําในพื้นที่การเกษตร และปัญหาหนี้สินเกษตรกรภายหลังจากรับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการบริหารจัดการน้ํา และแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อพี่น้องประชาชน นายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยกับประชาชน และรับฟังปัญหา ที่สะท้อนจากเกษตรกร ประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ นายกรัมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจแรกๆ ของรัฐบาล ที่ได้ดําเนินการ โดยรัฐบาลให้ความสําคัญกับการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.นัดแรก จะมีการนําปัญหาหนี้สิน การพักหนี้เกษตรกร เข้าสู่การประชุมเป็นวาระเร่งด่วนส่วนในเรื่องของปุ๋ย จะมีมาตรการในการบรรเทาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และจะมีการให้ความรู้ด้านการเกษตร ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ มาตรการบรรเทา ราคาน้ํามันดีเซลและราคาไฟฟ้า โดยปัญหาหนี้สินการพักหนี้เกษตรกรนั้น จะเน้นการเพิ่มรายได้ พักรายจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการลงพื้นที่พบปะพูดคุยในครั้งนี้ จะนําเอาประเด็นปัญหา เข้าสู่การแก้ไขโดยจะลงมือทําทันที ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลทํางานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
8/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908115931845
245,634
ขอความร่วมมือจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล ควบคุมการครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวดมากขึ้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทางจังหวัดนครปฐมแล้วว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอให้กํานันนกให้มามอบตัวและคงจะมีการสั่งออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งเราก็ต้องจับตาดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ ว่าจะไปคุกคามประชาชนแบบนี้ไม่ได้ต้องดําเนินการอย่างเด็ดขาดและต้องขอความร่วมมือให้ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดทําบัญชีผู้มีอิทธิพล เพื่อเป็นตัวช่วยคัดกรองคนที่จะมาดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แม้จะมีบุคลิกเป็นผู้นําจะต้องมีคุณธรรมด้วย ไม่ใช้อิทธิพลในการดูแลปกครองประชาชน แต่หากเป็นผู้มีอิทธิพลแล้วมาปกครองบ้านเมือง ก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นที่จังหวัดนครปฐมขึ้นอีกได้ และหลังจากนี้คงต้องหารือเพิ่มเรื่องการขึ้นทะเบียนปืนว่าจะให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ใบอนุญาตการมีปืนต้องห้ามบรรจุกระสุนและพกพาไปในที่สาธารณะ ต้องเพิ่มข้อห้ามมากมาย เพื่อไม่ให้ผู้ที่มีใบอนุญาตพกพาแล้วใช้ได้ตามสะดวก ต้องอยู่ภายใต้ข้อจํากัดนอกจากนี้ นายอนุทิน ได้ย้ําว่าการทํางานของกระทรวงมหาดไทย ต้องไม่มีระบบเส้นสาย หรือเรื่องทางการเมือง ตนเองเชื่อมั่นว่าหากให้ความเป็นธรรมกับคนทุกคนได้ คําว่าเส้นสายจะเปลี่ยนไปเป็นผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่บําบัดทุกข์บํารุงสุขให้กับประชาชน ความสามารถ ประสบการณ์ ความตั้งใจ จะทําให้ประชาชนมีความสุข ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด “ไม่ใช่นโยบายในส่วนของตนเอง ที่ให้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้”
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908141058892
245,635
มุ่งปลูกฝังค่านิยมอันดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงแนวทางปกป้องสถาบัน เป็นความภาคภูมิใจที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะให้สถาบันกษัตริย์ถูกลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ ส่วนเรื่องการศึกษาต้องให้เยาวชนของชาติ ต้องภูมิใจในสถาบันหลักของชาติ ที่เป็นมาโดยช้านาน แก้ไขวิกฤตการณ์ของชาติมามากมาย ตนเองเล่าเรียนมาจึงรู้สึกหวงแหน และภูมิใจที่เรามีสถาบันอันเป็นที่รักของชาติอยู่ หลังจากนี้คงจะต้องมีการสังคายนาและปลูกฝังค่านิยมที่ดีเหล่านี้ต่อไป พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908140712888
245,636
เร่งส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 หากไม่ทันสามารถใช้งบประจำไปก่อน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ 2567 ซึ่งอาจจะพิจารณาไม่ทันปีงบประมาณว่า หากไม่ทันสามารถใช้งบประมาณที่มีอยู่ โดยยึดตามงบประมาณปี 2566 ซึ่งสามารถดําเนินการได้ เพราะกว่าจะได้พิจารณางบประมาณปี 2567 ต้องใช้เวลา ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะเร่งดําเนินการ ทั้งนี้เชื่อว่าวันที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ตนเองจะได้พบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หรือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งรัดเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ 2567 เพราะขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าฝ่ายค้านและรัฐบาลเป็นพรรคใด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะดําเนินการได้เร็ว เพราะรัฐบาลต้องการงบประมาณไปใช้โดยเร็วเช่นกันประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงงบประมาณในส่วนของเบี้ยประชุมกรรมาธิการว่า เบี้ยประชุมกรรมาธิการต่างๆ ถือเป็นเรื่องงานที่ต้องทําเหมือนกับงบประจําที่มีอยู่แล้ว
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908141335895
245,637
ประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียมนัดทุกฝ่ายหารือปัญหาอาหาร สส. แพงและเหลือ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อวิจารณ์เรื่องอาหารรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันประชุมที่ใช้งบประมาณจํานวนมากและเหลือ ว่า ได้เรียกนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มาหารือถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว และหลังแถลงนโยบายของรัฐบาลจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องให้มาพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพราะได้รับข้อมูลมาหลายด้าน ซึ่งต้องยอมรับว่ามีปัญหาอยู่บ้าง เชื่อว่าไม่เกินกลางเดือนกันยายนนี้จะเรียบร้อย ซึ่งมีนโยบายว่า สส. ต้องได้รับการบริการอาหารอย่างทั่วถึงและไม่เหลือ รวมทั้งต้องยึดความเหมาะสมไม่ฟุ่มเฟือย ขณะเดียวกันสมาชิกต้องได้รับการบริการที่ดีด้วย ส่วนจะปรับลดงบประมาณค่าอาหารลงหรือไม่ที่ค่าอาหารเฉลี่ยปีละประมาณ 100 ล้านบาท นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า ยังไม่เห็นตัวเลขทั้งหมดขอดูรายละเอียดก่อนเชิญรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 2 คน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ความคิดเห็นซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงต่อไป ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่ายังไม่ทราบกรณีอาหารเหลือตลอด ซึ่งบางครั้งต้องเห็นใจผู้จัด เพราะหากจัดไม่ครบจะมีปัญหา ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อหาสมดุลให้ได้ ส่วนที่อาหารที่เหลือนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รายงานว่าจะนําไปบริจาคต่อสถานเด็กกําพร้า หรือบ้านคนจน รวมถึงคนไร้บ้าน โดยไม่ได้เหลือทิ้ง ส่วนหาก สส. ไม่ได้รับประทานอาหารในห้องและต้องการกลับเร็ว จึงนํากลับไปต้องพิจารณาให้เหมาะสม
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908201127034
245,638
ศอ.บต.ขับเคลื่อนการอำนวยความยุติธรรม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ศอ.บต ดึงนักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม ภาคประชาชน นักศึกษา ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและลดช่องว่างทางสังคมวันนี้ (8 กันยายน 2566) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อําเภอเมือง จังหวัดยะลา ส่วนงานยุติธรรม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ได้จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรวบรวมปัญหาในมุมมองของประชาชนด้านกระบวนการยุติธรรมที่ยังมีอยู่และคาดว่าจะมีขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนํามาวิเคราะห์ กําหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย นักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม ภาคประชาชน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 100 คน เข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลประเด็นกรอบการดําเนินงานระดับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สําหรับกิจกรรมมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ และจัดเสวนาในหัวข้อ ภาพรวม ทิศทาง และกลไกในกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจัดกระบวนการกลุ่มในประเด็นปัญหาด้านเด็กและสตรี ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านยุติธรรมทางเลือก และด้านการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของเด็กและสตรี และผลกระทบต่อเด็กและสตรีจากกระบวนการยุติธรรม จชต. ตลอดจนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเด็ก สตรี และการช่วยเหลือเยียวยา มาให้ความรู้ในครั้งนี้นายบุญพาศ รักนุ้ย รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า คนที่จะสามารถแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแท้จริง คือ คนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากปัญหาในพื้นที่เริ่มจากการบังคับใช้กฎหมาย ที่คนบางกลุ่มนําเอากระบวนการทางกฎหมาย เงื่อนไขต่าง ๆ มาสร้างกระบวนการทางความคิดเพื่อมาต่อสู้กัน ถ้าจะเดินไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน คําตอบสุดท้ายก็คือการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อําเภอของจังหวัดสงขลา ใช้กฎหมายพิเศษ ดังนั้น ผู้บังคับใช้กฎหมายจึงมีบทบาทที่สําคัญในการแก้ไขและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กลับสู่สภาวะปกติและเกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืน
8/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908141318894
245,639
การประปาส่วนภูมิภาค จัดงานวันประปาวิวัฒน์ ประจำปี 2566 เสริมศักยภาพบุคลากร เพื่อยกระดับการให้บริการสาธารณูปโภคด้านน้ำประปาแก่ประชาชน
การประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ. จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ วันประปาวิวัฒน์ ประจําปี 2566 ภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่องค์กรที่เป็นเลิศและยั่งยืน” ณ กปภ. สํานักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะกรุงเทพฯ โดย นายจักรพงศ์ คําจันทร์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 2) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นช่องทางให้หน่วยงานส่วนกลางและภูมิภาค ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องได้สื่อสาร แลกเปลี่ยน ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านกิจการประปาระหว่างกัน อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้รอบด้าน เพื่อยกระดับการให้บริการสาธารณูปโภคด้านน้ําประปา ให้ประชาชนมีน้ําสะอาดอุปโภคบริโภคอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมชมงาน ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่นกิจกรรมขับเคลื่อนวัฒนธรรม STRIVER สู่ความยั่งยืน // การบรรยายในหัวข้อ “นวัตกรรมนําองค์กรสู่ความยั่งยืน” การเสวนาหัวข้อ “การบริหารจัดการน้ําสูญเสียในระบบประปา” การมอบรางวัลประปาวิวัฒน์ให้แก่บุคลากรที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการปรับปรุงกระบวนการทํางานนําไปสู่การสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับองค์กร และ นิทรรศแสดงผลงานนวัตกรรมของบุคลากรและบูธนิทรรศการความรู้จากคู่ค้า-คู่ร่วมมือของ กปภ.
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908141850900
245,640
กทม. มุ่งแก้ปัญหา คนไร้บ้านด้วยโครงการ “สดชื่นสถาน” เสริมสร้างการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐานในการดำรงชีวิต
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังร่วมกิจกรรมเปิด “สดชื่นสถาน” ว่า กรุงเทพมหานครมีแนวคิดที่อยากให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สําหรับทุกคน ซึ่งคนไร้บ้านก็ถือว่าเป็นประชากรกรุงเทพ ฯ เช่นกัน ดังนั้นจะทิ้งให้คนกลุ่มนี้ลําบากเพียงกลุ่มเดียวไม่ได้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นกลุ่มเปราะบางกลุ่มหนึ่ง ที่กรุงเทพฯ ต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็น คนไร้บ้าน คนพิการ เด็กอ่อน เด็กต่าง ๆ ที่ ขาดทรัพยากรพื้นฐานในการดํารงชีวิต ซึ่งคนไร้บ้านไม่ใช่เรื่องถาวร เป็นแค่จังหวะในชีวิต เรียกว่าโชคร้าย ถ้าโอบกอดเขา ให้โอกาส คิดว่าคนกลุ่มนี้จะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ไม่ยาก แต่หากปล่อยให้เขาอยู่แบบไร้บ้านต่อไปจะยิ่งลําบาก และเพิ่มจํานวนมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องง่าย ๆ เช่น มีห้องน้ํา ที่ซักผ้า อาหาร สิทธิประโยชน์ การดูแลรักษา การมีบัตรประชาชน สิ่งเหล่านี้จะทําให้หลุดจากวงจรได้ รวมทั้งต้องให้เขามีงานทํา สร้างรายได้ คนกลุ่มนี้ก็จะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ด้วย ซึ่งกรุงเทพมหานครเต็มที่กับเรื่องนี้สําหรับ"สดชื่นสถาน" เป็นสถานที่สําหรับปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้คนไร้บ้านเข้าถึงความสะอาดและการรักษาสุขอนามัยได้โดยง่าย สามารถเข้าถึงห้องน้ํา ห้องสุขา ซึ่งแบ่งออกเป็นห้องสุขาแยกชายหญิงจํานวนอย่างละ 2 ห้อง และห้องอาบน้ําแยกชายหญิงอย่างละ2 ห้อง รวมจํานวนทั้งสิ้น 8 ห้อง ได้อย่างปลอดภัย ถูกสุขภาวะ ลดผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาว โดยกิจกรรมในวันนี้ มีผู้บริหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มคนไรบ้านจํานวนมากกว่า 50 คน ร่วมกิจกรรม ณ บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งถนนพระอาทิตย์
8/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230908141738899
245,641
กทม. มุ่งแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ผู้ป่วยจากการคัดกรองถึง 8,261 ราย
นางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการประชุมแนวดิ่งด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดกรุงเทพมหานคร ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง โดยที่ประชุมรายงานว่าในปี 2566 มีคดียาเสพติดที่ถูกจับกุมถึง 6,601 ครั้ง มีผู้ต้องหาจํานวน 6,959 ราย ส่งผลให้การคัดกรองและบําบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดในปีนี้มีจํานวนผู้ป่วยจากการคัดกรองถึง 8,261 ราย โดยมีผู้เข้ารับการบําบัดอยู่ที่ 6,109 ราย และยังคงรอการรักษาอยู่ที่ 2,152 ราย ส่วนยาเสพติดที่พบมากที่สุดคือ ยาบ้า รองลงมาคือ ไอซ์ เฮโรอีน เคตามีน และกัญชา โดยส่วนใหญ่เกิดจากการอยากลองและเพื่อนชักชวน ซึ่งเขตหนองแขมและเขตดินแดงมีจํานวนผู้เข้ารับการบําบัดมากที่สุดในปี 2564-2566 โดยมี 891 รายและ 852 รายตามลําดับส่วนการผลการดําเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เรื่อง การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเขต การดําเนินการดูแลผู้มีปัญหายาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง ของสํานักอนามัย และผลการดําเนินงานโครงการชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ของกองบัญชาการตํารวจนครบาล มีการคัดกรองและเข้ารับการบําบัดในชุมชน 245 ราย และการคัดกรองในชุมชนอีก 43,085 ราย เข้ารับการบําบัดโดยชุมชนแล้ว 1,343 ราย
12/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230912213519910
245,692
นายกฯ กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่เข้าร่วมการอภิปรายนโยบายรัฐบาลในวันนี้ รัฐบาลจะน้อมรับความคิดเห็นจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่เข้าร่วมการอภิปรายนโยบายรัฐบาลในวันนี้ ซึ่งเสร็จสิ้นลงในเวลา 0.30 น. ของวันที่ 13 กันยายน 2566 โดยขอบคุณทุกความคิดเห็น และขอความเห็นใจจากสมาชิกรัฐสภาทุกท่านซึ่งเป็นตัวแทนจากประชาชน และขอให้ทุกท่านเสนอสิ่งที่เป็นผลดีต่อประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะน้อมรับความคิดเห็นจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เพื่อนําไปปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมถึงให้ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะจัดทํารายละเอียดแผนปฏิบัติการของทุกกระทรวงอย่างละเอียด ซึ่งจะต้องขอเวลาในการดําเนินการก่อน และขอให้ 4 ปีนับจากนี้ เป็นช่วงเวลาของการทํางานหนัก เพื่อให้คุ้มค่าเงินภาษีของประชาชนทั้งนี้ ในการอภิปรายวันนี้ นโยบายที่ถูกหยิบยกมาอภิปรายในช่วงท้ายการประชุม ทั้งด้านความมั่นคงและกองทัพนั้น ยืนยันว่าการด้อยค่ากันไม่ส่งผลให้เกิดผลดี การดําเนินการร่วมกันจะต้องให้เกียรติซึ่้งกันและกันทั้งภาคการเมืองและกองทัพ ทั้งในด้านการปฏิรูปกองทัพ การเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ และจําเป็นต้องเกิดการดําเนินการไปก่อนระยะหนึ่ง จึงจะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงนโยบายด้านสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมของประชาชนรวมถึงประเด็นปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรีเน้นย้ําอย่างชัดเจนว่าแม้พรรคเพื่้อไทยจะไม่ได้มี ส.ส. ในภาคใต้ แต่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องให้ความเป็นธรรม ความเสมอภาค และความเท่าเทียมกับประชาชนคนไทยทุกคน ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหาต้องเข้าใจถึงความลึกของปัญหาหลัก และหาวิธีการที่จะปฏิบัติต่อไปในอนาคต
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913104717980
245,693
นายกฯ สวมชุดผ้าไทย นำประชุม ครม. เต็มคณะชุดแรก
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเต็มคณะนัดแรก ได้เดินทางถึงทําเนียบรัฐบาลในเวลา 08.22 น. มีนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ ว่าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรีมารอต้อนรับวันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สวมชุดผ้าไทยสีน้ําเงินเข้ม สวมถุงเท้าสีแดง ซึ่งเป็นสีที่ชอบใส่เป็นประจํา ลงจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทักทายสื่อมวลชน พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าได้พักผ่อน 4 ชั่วโมง ก่อนยกมือชูนิ้วโป้ง ให้สื่อ เป็นสัญลักษณ์ว่าพร้อมเข้าประชุม ก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานการประชุม
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913101637967
245,694
รมว.พลังงาน ยืนยัน การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ จะได้ความขัดเจนการปรับลดราคาพลังงาน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงความคาดหวังของประชาชนต่อการลดราคาพลังงานว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น และเชื่อว่าประชาชนน่าจะพึงพอใจส่วนการปรับลดราคาค่าไฟฟ้า ยืนยันว่า จะพิจารณาปรับลดให้ได้มากที่สุด แต่กรอบระยะเวลาที่จะดําเนินการต้องให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913100330965
245,695
ครม.พิจารณาวีซ่าฟรีให้จีน คาซัคสถาน ลดค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีการพิจารณาเรื่องวีซ่าฟรีชั่วคราว ในการเดินทางเข้าประเทศไทยของประเทศจีนและคาซัคสถาน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นการยกเว้นชั่วคราว หลังจากวานนี้ได้พูดคุยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรองรับพร้อมกันนี้ ยังย้ําว่า ได้ตระหนักเรื่องกระแสเงินสดเป็นเรื่องสําคัญ จึงให้มีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดือนละหนึ่งรอบ เป็นเดือนละสองรอบ คาดว่า มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อย ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน รวมทั้งยังมีมติลดค่าไฟฟ้า จาก 4.45 บาท เหลือ 4.10 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จะเริ่มในรอบบิลเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกับราคาน้ํามันดีเซล ลดให้ราคาต่ํากว่า 30 บาทต่อลิตร จะเริ่มได้ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ขณะที่ในส่วนของน้ํามันเบนซินได้มีการพูดคุยกัน แต่ต้องดูรายละเอียดให้ดีในกลุ่มที่มีความเดือดร้อนจริง ซึ่งจะมีมาตรการออกมาภายหลังนอกจากนี้ ยังมีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ ดึงศักยภาพเสริมสร้างรายได้ เพิ่มโอกาสให้กับประชาชน รวมถึงจะมีการพักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็ก เป็นระยะเวลา 3 ปี
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913190113178
245,696
ครม.เห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและทำประชามติ
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ส่วนจะแก้ไขอย่างไรนั้นให้เป็นไปตามคําสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและต้องรับฟังเสียงประชาชนก่อนคือ การทําประชามติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งเมื่อได้แนวทางแล้วก็จะจัดทําประชามติเพื่อนําไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป แต่หลักการที่สําคัญคือ ไม่แก้ไขหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งคณะกรรมการและเชิญชวนให้ประชาชน มาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทําเร็วที่สุด แต่ยังไม่ได้กําหนดกรอบไว้ชัดเจน ขณะที่ข้อเสนอจากไอลอว์ หรือคณะกรรมการต่างๆ ที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้ ก็พร้อมรับฟังเพื่อมาประกอบการพิจารณานอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้มีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ว่าด้วย Soft Power เพื่อกําหนดยุทธศาสตร์ต่างๆ ของประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและมีนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร เป็นรองประธาน และมีนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นกรรมการขณะเดียวกันยังมีประเด็นการเปลี่ยนแปลงบทบาทของภาครัฐ ซึ่งนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกกระทรวงไปสํารวจว่าที่ผ่านมามีมติคณะรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการใดบ้าง ซึ่งพบว่ามีทั้งหมด 178 คณะ ดังนั้นภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ ต้องสํารวจให้แล้วเสร็จ หากคณะกรรมการใดมีความคุ้มค่าและเหมาะสมที่จะดําเนินการต่อไป ให้เสนอมา พร้อมเหตุผลประกอบ แต่หากเห็นว่าไม่คุ้มค่า ก็ให้ยกเลิกคณะกรรมการนั้นๆ ทันที รวมถึงกรณีคําสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้ไปทบทวนทั้งหมด แล้วเสนอมาภายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ หากไม่มีการเสนอมา หรือไม่มีเหตุผลเพียงพอและไม่มีความจําเป็นต้องคงไว้ ก็ให้ยกเลิกทั้งหมดเช่นกัน
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913170143156
245,697
นายสุทิน คลังแสง ถือฤกษ์ดีเข้ากระทรวงกลาโหม 13 ก.ย. 13.13 น.
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สักการะศาลหลักเมือง เนื่องในโอกาสเข้ารับตําแหน่งและปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีพลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ว่าที่ ผบ.ทหารสูงสุด, พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ว่าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วยพลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา ว่าที่ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ว่าที่เลขานุการ รมว.กลาโหม ตลอดจนคณะทํางาน จากนั้นได้ถือฤกษ์ วันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 13.13 น. เข้ากระทรวงกลาโหม สักการะเจ้าพ่อหอกลอง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจํากระทรวงกลาโหม ก่อนที่จะเข้าพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ ณ ลานอเนกประสงค์ภายในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเป็นพลเรือนคนแรกที่ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ได้รับการตรวจแถวกองเกียรติยศ ก่อนจะเข้าประชุมมอบนโนบายการทํางานให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโห และเหล่าทัพ ทั้งนีั การที่นายสุทินถือฤกษ์เลข 13 เป็นเลขมงคลชีวิต เนื่องจากเข้ารับราชการครูวันแรกในวันที่ 13 เป็น สส. สมัยแรก ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ในวันที่ 13 รวมถึงหลายเหตุการณ์ในชีวิตก็ตรงกับเลข 13 จึงเป็นที่มาของการถือฤกษ์วันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 13.13 น.เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นวันแรก
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913201802204
245,698
นายกรัฐมนตรี สั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งทีมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งทีมงานกวาดล้างผู้มีอิทธิพล ทั้งเรื่องส่วยและการซื้อตําแหน่ง และให้ถือเป็น KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตํารวจในจังหวัดนั้นๆ และ กอ.รมน.จังหวัด ที่ต้อง บูรณาการแก้ไขปัญหาเรื่องของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และปัญหายาเสพติดได้อย่างราบคาบและรวดเร็ว ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้บุคคลตามตําแหน่งนี้ ต้องรับผิดชอบ
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913170332160
245,699
ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงครามปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล”
ที่บริเวณภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ภายใต้แผนยุทธการ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล” ในการระดมการกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อเป็นการรักษาความศักดิ์สิทธิ์แห่งกฎหมายมิให้อยู่ใต้อิทธิพลเถื่อนของผู้ใด ส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและความเชื่อมั่นของประชาชนโดยเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนและยาเสพติดเป็นการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกับการปฏิบัติ อาสาสมัครตํารวจบ้านและกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจในสังกัดตํารวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสํานักงานตํารวจแห่งชาติกําหนดให้ตํารวจภูธรภาค 7 และตํารวจภูธรจังหวัดในสังกัด เร่งปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนโดยให้ทําการระดมการกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2566 ถึง 18 กันยายน 2566 เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมภายใต้ยุทธการ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล” ตํารวจภูธรจังหวัดสมุทรสงครามและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงได้จัดให้มีการปล่อยแถวระดมการกวาดล้างอาชญากรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ต้องปรามเหตุรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913151028093
245,700
นายกรัฐมนตรีหารือประธานสหภาพรัฐสภา เสริมสร้างความสัมพันธ์ในมิติ ต่างๆ ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายดูอาร์เต ปาเชโก ประธานสหภาพรัฐสภา เข้าเยี่ยมคารวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทําเนียบรัฐบาล ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐสภา นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับประธานสหภาพรัฐสภา เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะแขกของรัฐสภา พร้อมขอบคุณสหภาพรัฐสภาที่ให้การสนับสนุนกิจการของรัฐสภาไทยมาตลอดช่วงการดํารงตําแหน่ง พร้อมหวังที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ไทยพร้อมที่จะมีบทบาทและส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันเผชิญความท้าทายและแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนด้านประธานสหภาพรัฐสภา แสดงความยินดีกับการเข้ารับตําแหน่งของนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าแม้ในการทํางานอาจจะพบกับความท้าทาย แต่ด้วยประสบการณ์จะประสบความสําเร็จได้อย่างดีโอกาสนี้ ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพรัฐสภาสตรีและกรรมการบริหารสหภาพรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาเม็กซิโก ได้กล่าวชื่นชมประเทศไทย ที่ให้ความสําคัญกับการส่งเสริมบทบาทสตรีและคนรุ่นใหม่ในรัฐสภา ไทยถือเป็นประเทศที่สตรีมีบทบาททํางานทางการเมืองมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ถือเป็นตัวอย่างของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีได้เป็นอย่างดี
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913190434182
245,701
รมว.กลาโหม มอบนโยบายต่อเหล่าทัพและหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม มุ่งสู่การเป็นกองทัพที่ทันสมัย
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงถึงการปฏิบัติหน้าที่ รมว.กลาโหม เป็นวันแรก รวมถึงการมอบนโยบายต่อเหล่าทัพและหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้พูดคุยกันถึงแนวทางการทํางานว่าเป้าหมายคือ การทําให้เกิดกองทัพที่ทันสมัย มีขีดความสามารถหรือสมรรถนะที่แข็งแกร่ง ไม่แพ้ประเทศอื่น มีขนาดของกองทัพที่ลดลงจนพอเหมาะ สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของสังคม แต่ว่าศักยภาพต้องไม่ลดลง และกองทัพจะต้องทบทวนภารกิจให้สอดคล้องกับยุคสมัยเพื่อรับมือกับภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ โดยรัฐบาลขอให้กองทัพเพิ่มเติมภารกิจด้านภัยความยากจน โดยจะต้องสนับสนุนกระทรวง ทบวง กรม อื่นๆ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยอาศัยความรู้ความสามารถกําลังพลของกองทัพมาช่วยเหลือสังคมผ่านการพัฒนา ซึ่งนโยบายหลายเรื่องที่ได้มอบไป กองทัพได้ดําเนินการอยู่แล้ว เพียงแต่จะต้องทําให้มากขึ้นและเป็นระบบมากขึ้น มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนมากขึ้น นายสุทิน กล่าวว่า ปัจจัยหนึ่งที่กองทัพ จะนํามาใช้แก้ไขปัญหาความยากจนคือ เรื่องที่ดิน เช่น อาจมีการทําที่ดินของกองทัพเป็นแหล่งน้ําสําหรับช่วยประชาชน หรือพัฒนาสถานที่ว่างเปล่าทําฟาร์มโซล่าเซลล์ผลิตพลังงานช่วยชุมชน ทําแหล่งท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งเป็นที่ดินทํากิน ซึ่งกองทัพได้ขานรับนโยบายนี้และจะเร่งสํารวจว่าที่ดินบริเวณใด สามารถดําเนินการตามนโยบายดังกล่าวได้ หากเกิดการติดขัดจะต้องหารือกับกรมธนารักษ์ รัฐบาลก็จะช่วยดําเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913200217196
245,702
นายกรัฐมนตรีนัดวันประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมีวาระแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 27 กันยายนนี้
มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ หรือ ก.ตร.ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. โดยในการประชุมดังกล่าวมีวาระเพื่อพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติคนที่ 14 แทน พลตํารวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติคนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะพิจารณาและเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมต่อที่ประชุม ก.ตร. จากรายชื่อรองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ 4 นาย โดยเรียงลําดับอาวุโสคือ พลตํารวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และพลตํารวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมลทั้งนี้ ในการประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมีมติให้ถอนวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติออกจากระเบียบวาระการประชุมตามที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. เสนอ เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลโดยให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการตํารวจที่จะดํารงตําแหน่งผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติคนใหม่แทน
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913195602194
245,703
นครพนมยาบ้าทะลักชายโขง 258,000 เม็ด อาศัยช่วงวันที่ฝนตกน้ำโชงขึ้นสูงและไหลเชี่ยว
วันที่ 13 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกําลังสุรศักดิ์มนตรี โดย พันเอกสุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21/ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ําโขง อําเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม มีความพยายามจะนํายาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เข้ามาเพื่อลําเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ตามใบสั่งของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด โดยอาศัยช่วงวันที่ฝนตกและช่วงเวลาของแม่น้ําโขงที่มีระดับขึ้นสูงและไหลเชี่ยว สั่งการให้ ร้อยโทวันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกําลังสุรศักดิ์มนตรี จัดกําลังพลปฏิบัติการซีลชายแดนซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่เพ่งเล็งตามริมแม่น้ําโขง ในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณทุ่งนา บ้านแพงใต้ หมู่ที่ 11 ตําบลบ้านแพง อําเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม กําลังพลของหน่วยที่ทําการซุ่มเฝ้าตรวจอยู่ได้สังเกตุเห็น กลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติด จํานวน 3 คน แบกสิ่งของเดินมาตามเส้นทางในภูมิประเทศ เมื่อชายกลุ่มดังกล่าวเดินมาใกล้กับจุดที่กําลังพลของหน่วยทําการซุ่มเฝ้าตรวจอยู่ จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบสิ่งของที่แบกมา เมื่อชายกลุ่มดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่จึงตกใจและได้ทิ้งสิ่งของที่แบกมา แล้วรีบวิ่งหลบหนีไปโดยอาศัยความชํานาญในพื้นที่และความมืดหลบหนี เจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าทําการตรวจสอบพื้นที่ ตรวจพบสิ่งของต้องสงสัย จํานวน 2 กระสอบ จึงได้ทําการตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัย ผลการตรวจสอบ พบเป็นยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ภายใน จึงได้ทําการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว มายังกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 เพื่อทําการตรวจนับอย่างละเอียด พบเป็นของกลาง ยาบ้า 129 มัด จํานวน 258,000 เม็ด พร้อมทั้งได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมบูรณาการแถลงข่าวการตรวจยึด และส่งมอบของกลางทั้งหมดให้ พนักงานสอบสวน สถานีตํารวจภูธรอําเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป
13/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913185817177
245,704
รมว.กลาโหม ย้ำชัดไม่ควรเลิกเกณฑ์ทหารด้วยวิธีหักหาญ แต่จะต้องสร้างแรงจูงใจ
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า นโยบายของกองทัพคือ การเดินหน้าไปสู่การยกเลิกเกณฑ์ทหารอยู่แล้ว โดยทําได้ 2 วิธีคือ การสร้างแรงจูงใจให้มีผู้มาสมัครใจเป็นทหารจํานวนมาก จนถึงจํานวนที่กองทัพต้องการ ซึ่งเป็นวิธีที่นุ่มนวล อีกวิธีคือ บังคับเลิกเกณฑ์ทหารโดยทันที ผ่านการออกกฎหมายรัฐธรรมนูญที่อาจเกิดปัญหาตามมา ผ่านการศึกษากรณีตัวอย่างของหลายๆ ประเทศในยุโรปที่เคยยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แต่ในที่สุดต้องนําวิธีการเกณฑ์ทหารกลับมาบังคับใช้ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว มองว่าทางที่ดีที่สุดคือ ยังคงการเกณฑ์ทหารไว้และเสริมแรงสร้างแรงกระตุ้นให้คนมาสมัครเป็นทหารจํานวนมาก หากได้จํานวนทหารเกณฑ์ครบตามที่กองทัพต้องการ ก็ไม่ต้องมีการบังคับเกณฑ์อีก ซึ่งกองทัพได้ให้ความร่วมมืออยู่แล้ว รวมทั้งได้ดําเนินการต่อเนื่องมาหลายปี แต่จะเสริมแรงกระตุ้นโดยการสร้างแรงจูงใจพิเศษ รวมทั้งได้มอบหมายให้กองทัพพิจารณาลดจํานวนทหารเกณฑ์ลงจากเดิมนอกจากนี้ นายสุทิน กล่าวว่าผลดีของการลดจํานวนกําลังพล จะทําให้กองทัพสามารถจ่ายค่าตอบแทนทหารเกณฑ์ต่อหัวได้มากขึ้นด้วย โดยตั้งเป้าว่า จะให้ทหารเกณฑ์ทุกคนได้เงินเดือนเต็มที่ 10,000 บาท รวมทั้งสร้างแรงจูงใจด้านความก้าวหน้าในอาชีพ เปลี่ยนมุมมองของทหารเกณฑ์ ว่าการได้มาเป็นทหารคือ เป็นโอกาสใหม่ของชีวิต ได้มาเพิ่มศักยภาพของตนเอง สามารถมีความ ก้าวหน้าในสายอาชีพ โดยวางแนวทางให้ค่ายทหารเกณฑ์เป็นเหมือนโรงเรียนเตรียมนายทหาร สามารถเติบโตและก้าวหน้าในสายอาชีพได้ และมองว่าอาจเกณฑ์เด็กซึ่งติดยาเสพติดมาฝึกเป็นทหาร ซึ่งนอกจากจะช่วยบําบัดให้หายจากการติดยาเสพติดแล้ว ยังได้รับเงินเดือน รวมถึงมีอนาคตที่ดี ซึ่งหากทําได้ตามแนวทางที่วางไว้ การยกเลิกเกณฑ์ทหารจะไปเป็นไปโดยธรรมชาติและกองทัพก็จะมีกําลังพลเพียงพอสําหรับยามจําเป็นด้วย
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913195130192
245,705
รมว.กลาโหม ย้ำรอความชัดเจนหลังจากนายกรัฐมนตรีหารือกับทางเยอรมนี
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความชัดเจนกรณีเรือดําน้ําล่าสุด ซึ่งกองทัพเรือสรุปว่าจะเดินหน้าการจัดซื้อจัดจ้างต่อไปและยังคงมีการสํารวจข้อมูล รวมทั้งหารือกันอยู่อีกหลายฝ่าย โดยนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้และกําลังจะมองหาทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้ สส. พรรคเพื่อไทยจะเคยคัดค้านเรื่องเรือดําน้ํา แต่ก็เป็นไปด้วยความต้องการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติคือ กองทัพไม่เสียโอกาส ประเทศชาติต้องไม่เสียประโยชน์และไม่เกิดความบาดหมางกับชาติมหามิตร ส่วนกระแสข่าวที่เยอรมนียกเลิกการผลิต เครื่องยนต์เรือดําน้ํารุ่นที่กองทัพเรือต้องการแล้วนั้น จะต้องติดตามข้อเท็จจริงหลังจากที่นายกรัฐมนตรี ไปร่วมการประชุม UNGA โดยกระทรวงกลาโหมจะรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายให้มากที่สุดและต้องรับฟังกองทัพในด้านเทคโนโลยีเช่นกัน ว่าสมรรถนะเครื่องยนต์เรือดําน้ําจีน สามารถสู้กับเครื่องยนต์เรือดําน้ําของเยอรมนีได้หรือไม่ รวมทั้งพิจารณาเรื่องผลประโยชน์และความคุ้มค่าควบคู่กันไปด้วย โดยกล่าวว่าเรื่องเรือดําน้ําเป็นเรื่องใหญ่ จะต้องเอาความสุจริตเป็นที่ตั้ง เป็นเกราะกําบังในการดําเนินการให้ลุล่วง
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913195359193
245,706
คณะรัฐมนตรี แต่งตั้งข้าราชการการเมืองหลายกระทรวง
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในกรณีที่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการต่างประเทศ) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายธนรัช จงสุทธานามณี ให้ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงคมนาคม) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายสรวุฒิ เนื่องจํานงค์ ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จํานวน 2 ราย นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายวัลลภ รุจิรากร ดํารงตําแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงพาณิชย์) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จํานวน 4 ราย นายกองตรี พิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล ให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายปัญญา ชวนบุญ ให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนภินทร ศรีสรรพางค์) นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ให้ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ให้ดํารงตําแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนภินทร ศรีสรรพางค์)]การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงมหาดไทย) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ให้ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงแรงงาน) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการแต่งตั้ง นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ เป็นข้าราชการการเมือง ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงสาธารณสุข) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นาวาอากาศตรี พลเทพ สุนทโร ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้งบุคคลให้ดํารงตําแหน่งข้าราชการการเมือง จํานวน 4 ราย นายสมคิด เชื้อคง ดํารงตําแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ดํารงตําแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ดํารงตําแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายชัย วัชรงค์ ดํารงตําแหน่งโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการคลัง) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จํานวน 3 ราย นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายณัฏฐ์พัฒน์ รัฐผไท ดํารงตําแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง คือ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการคลัง) คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอเลื่อน นายลวรณ แสงสนิท อธิบดี (นักบริหารสูง) กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ให้ดํารงตําแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง แทนตําแหน่งที่ว่าง เนื่องจากผู้ครองตําแหน่งอยู่เดิมได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพลังงาน) คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดี (ตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้ดํารงตําแหน่งปลัดกระทรวง (ตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง) สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เพื่อทดแทนตําแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นางสาวเพชรดาว โต๊ะมีนา ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงกลาโหม) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอการแต่งตั้ง พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา ให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ให้ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จํานวน 2 ราย นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายกิตติ เชาวน์ดี ดํารงตําแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงศึกษาธิการ) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จํานวน 4 ราย นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิศรุต ปู่เพ็ง ตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนพ ชีวานันท์ ตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายพิษณุ พลธี ตําแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลําดับ ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลําดับ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายสมศักดิ์ เทพสุทินนายปานปรีย์ พหิทธานุกร นายอนุทิน ชาญวีรกูล พลตํารวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคในระหว่างการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนข้างต้น จะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอํานาจของนายกรัฐมนตรีได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน
13/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230913172218165
245,707
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเข้าปฏิบัติหน้าที่ ระบุจะตั้งใจทำงาน สร้างความยุติธรรมให้กับสังคมไทย
ช่วงเช้าวันนี้ พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงยุติธรรม ณ อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร อย่างเป็นทางการวันแรก โดยมีนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นําคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ โดยในเวลา 8.00 น.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้นําคณะผู้บริหารกระทรวงไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจํากระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้ได้มาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจํากระทรวงตามหลักทางศาสนาที่ได้มอบที่ดินแห่งนี้และช่วยดูแลรักษา พร้อมทั้งระลึกถึงคุณงามความดี โดยตนเองตั้งใจจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับสังคมไทย และในช่วงบ่ายวันนี้ (13.30 น.) จะมีการประชุมร่วมกับข้าราชการเพื่อมอบนโยบายให้กับข้าราชการในสังกัดและหารือในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ภายหลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมร่วมกับข้าราชการสังกัดเสร็จสิ้น จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเวลา 15.00 น.
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914090828253
245,708
นายกรัฐมนตรี ถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระสังฆราช ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถือฤกษ์วันพระ แรม 14 ค่ํา เดือน 9 ปีเถาะ เดินทางมายังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยเมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรี ได้วางพวงมาลัยถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บริเวณด้านข้างพระอุโบสถ ก่อนที่จะเดินเข้าสู่พระตําหนักอรุณ เพื่อกราบนมัสการ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกนายกรัฐมนตรี กล่าวคําถวายเครื่องสักการะ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายธูปเทียนแพ พานดอกบัว ผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม ซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระดํารัส ก่อนที่นายกฯ จะกราบทูลลา จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังวัดไตรมิตรวิทยาราม เพื่อถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี โดยเมื่อเดินทางถึง เข้าสู่กุฏิสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กราบนมัสการถวายเครื่องสักการะ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายธูปเทียนแพ พานดอกบัว ผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม โดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี สนทนาธรรม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีกราบลา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี และเดินทางกลับทําเนียบรัฐบาล
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914090235250
245,709
เดินหน้าทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง ย้ำการทำงานของกระทรวงมหาดไทยยุคนี้จะไม่ทำงานอย่างหวือหวาแต่มุ่งหวังที่ผลสำเร็จ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า หลังจากประชุม ครม. เมื่อวานที่ผ่านมา ได้รับคําสั่งโดยตรงจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการจัดตั้งคณะทํางานกํากับดูแลผู้มีอิทธิพลทั่วทุกพื้นที่โดยมีตนเองเป็นหนึ่งในคณะทํางานด้วย สําหรับความคืบหน้าการจัดทําบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล ส่วนราชการท้องถิ่นได้เริ่มดําเนินการจัดทํากันแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีบัญชีรายชื่ออยู่แล้วแต่อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลอาจต้องใช้เวลาในการทํางานสักระยะหนึ่ง การทํางานของกระทรวงมหาดไทยในยุคนี้จะไม่ใช่การทํางานที่หวือหวา แต่เป็นการทํางานที่มุ่งหวังผลสําเร็จส่วนกรณีคดีกํานันนกที่เกิดขึ้น นายชาดา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การกระทําดังกล่าวเป็นการกระทําที่ท้าทายต่ออํานาจรัฐ ซึ่งจะต้องมีการจัดการให้เด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้อื่น
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914111111315
245,710
นายกรัฐมนตรี เตรียมหารือกฤษฎีกายกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ไม่ได้ใช้แล้ว และเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยกเลิกคําสั่ง คสช. ว่า ต้องปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่ไม่ใช้แล้วและเป็นอุปสรรคในการดํารงชีวิตอยู่และปฎิบัติหน้าที่ แต่ฉบับไหนที่ไม่สามารถยกเลิกได้ก็ต้องนํากลับมาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งการดําเนินการทุกอย่างจะไม่ขัดกับหลักนิติธรรมในการบริหารงานโดยรวมนายเศรษฐา ระบุด้วยว่า ขณะนี้ส่วนตัวดูแลงานด้านความมั่นคงทั้งหมด เพราะงานด้านความมั่นคงเป็นงานที่สําคัญ ไทยเป็นประเทศที่อยู่บนเอกราชมาโดยตลอด แต่ทั่วโลกยังมีความขัดแย้งสูงจึงจะมีการพูดคุยกับหลายประเทศ ในการที่จะเดินทางไปประชุมยูเอ็นสัปดาห์หน้า ซึ่งถือว่าเป็นความมั่นคงนอกประเทศและความมั่นคงทางการค้า เพราะความมั่นคงภายในมีความพร้อมอยู่แล้ว ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงกับพี่น้องประชาชนก็ถือเป็นสิ่งสําคัญเช่นกัน ซึ่งในอดีตมีการพูดคุยกันที่รุนแรงไป ก็จะมีการลดช่องว่างระหว่างสถาบันทหารกับประชาชน การสื่อสารที่ดีและจะมีการทํากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนไม่ว่าการสมัครใจเกณฑ์ทหารบางส่วน การนําพื้นที่ทหารให้ประชาชนทําการเกษตร หรือให้ทหารมาช่วยเรื่องภัยพิบัติดูแลไม่ท่วมไม่แล้ง ซึ่งมีหลายมิติที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถทําได้แต่ขอใช้เวลาในการพูดคุยกัน ถ้าพร้อมจะประกาศให้ทราบ ยืนยันไม่เกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์นายเศรษฐา ยังระบุด้วยว่า การดึงนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร มาช่วยงานด้านซอฟพาวเวอร์ ซึ่งไม่ใช่แค่นางสาวแพทองธาร คนเดียว แต่มีการดึงจากหลายภาคส่วนเข้ามาช่วยกันให้ครบทุกมิติ เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น ส่วนกรณีนายภูมิธรรมได้กํากับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แทนที่จะเป็น พลตํารวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นั้น ส่วนตัวไม่อยากให้มองว่าเป็นพรรคไหนพวกใครแต่ต้องมองว่ากระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ต้องดําเนินการควบคู่กันไป
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914134740366
245,711
บุกรุกโค่นป่า ตัดไม้ใหญ่ เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากาบัง ต้นน้ำแม่น้ำเทพา
ภายใต้การสั่งการอํานวยการของ ผอ.รมน.ภาค 4, พล.ต.ต.สมกูล กาณจนอุดมการณ์ ผบ.ก.ตชด.ภาค 4, พ.ต.อ.มานิตย์ นาโควงศ์ ผกก.ตชด.44 และ ผบ.ฉก.ทพ.47 สั่งการให้ ร.ต.อ.เลิศ ธรรมพร หน.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4401 กก.ตชด.44 ร่วมกับ ร้อย ทพ.4709 โดย จ.ส.อ.ยาลี ดาเด๊ะ และ จนท.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน.ร่วมกันตรวจสอบ พิสูจน์ทราบ ตามที่ได้รับแจ้งว่า ได้มีกลุ่มบุคคล การบุกรุกป่า แผ้วถางป่าในเขตป่าสงวนป่ากาบัง จํานวนหลายแปลง บริเวณท้องที่ กลุ่มบ้านคลองเตร็ง ม.6 บ้านใหม่ ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา ตามที่ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 12 ก.ย.66คณะเจ้าหน้าที่ ใช้รถ จยย.จากริมคลองเทพา ไปในป่าประมาณ 30 นาที ถึงกลางป่า แล้วเดินเท้าต่อไปในป่าสมบูรณ์ ตรวจพบการลักลอบตัดไม้ทําลายป่า แผ้วถาง ตัดไม้ แล้วจํานวน 4 จุด ดังนี้ ตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ถูกทําลาย แปลงที่ 1 ขณะที่ จนท.เดินไปในป่า มองเห็นพื้นที่ป่าไม้กําลังถูกทําลาย จึงเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงคนกําลังตัดไม้ จึงจัดกําลังเข้าตรวจสอบพบ ชายจํานวน 1 คน กําลังใช้มีดพร้าตัดฟันต้นไม้ขนาดเล็กอยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ขอตรวจสอบ ชายดังกล่าวหยุดตัดต้นไม้ วางมีดพร้าลง ต่อมาทราบชื่อว่า นายดือนัน อยู่ที่ ม.2 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ้างว่ามาซื้อที่บริเวณนี้นานแล้วเพื่อปลูกยางพาราและปลูกทุเรียนพื้นที่ป่า จนท.ถามว่า ที่ดินนี้มีเอกสารหรือไม่ ตอบว่าไม่มี แปลงนี้เป็นมีการตัดโค่นไม้ขนาดใหญ่และแผ้วถางป่าเก่าหลายปีแล้ว นายดือนัน ฯ แจ้งว่า เพิ่งขึ้นมาถางป่าใหม่ได้ประมาณ 4 ไร่ ที่ดินถูกแผ้วถางบริเวณนี้อยู่กลางป่า ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากาบัง ที่ประมาณพิกัดความสูงจากน้ําทะเลปานกลางที่ 139 เมตร คณะเจ้าหน้าที่ แจ้งแก่ นายดือนัน ฯ ว่าการตัดไม้ทําลายป่า แผ้วถางป่า เป็นการกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 นายดือนัน ฯ ยอมรับ ณ ที่เกิดเหตุ โดยทาง ร.ต.อ.เลิศ ธรรมพร หน.ชฝต.4401 พร้อม จนท.นําตัว นายดือนัน ดือราโซ๊ะ พร้อมมีดพร้าจํานวน 1 เล่ม ส่ง พงส.สภ.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป และ จนท.ได้ร่วมตรวจพื้นที่ป่าไม้ถูกทําลายต่อไป พบพื้นที่ป่าไม้ถูกทําลายแปลงที่ 2 พื้นที่ป่าไม้ถูกทําลาย มีการตัดไม้ขนาดใหญ่ในแปลงจํานวนหลายต้นและมีการลักลอบแปรรูปไม้ และกําลังสร้างที่พักยังไม่เสร็จจํานวน 1 หลัง พื้นที่ถูกทําลายตัดไม้ แผ้วถางป่า พื้นที่เสียหายประมาณ 5 ไร่ ที่ประมาณพิกัดความสูงจากน้ําทะเลปานกลางที่ 132 เมตร ยังพบร่องรอยการเข้ามาทําอย่างต่อเนื่อง มีการปลูกต้นทุเรียน พื้นที่ป่าไม้ถูกทําลาย แปลงที่ 3 พื้นที่ป่าไม้ถูกทําลาย มีการตัดไม้ขนาดใหญ่ในแปลงจํานวนหลายต้นและมีการลักลอบแปรรูปไม้ และกําลังสร้างที่พักยังไม่เสร็จจํานวน 1 หลัง พื้นที่ถูกทําลายตัดไม้ แผ้วถางป่า พื้นที่เสียหายประมาณ 6 ไร่ ที่ประมาณพิกัดความสูงจากน้ําทะเลปานกลางที่ 142 เมตร ยังพบร่องรอยมีการเริ่มแผ้วถางป่า การเข้ามาทําอย่างต่อเนื่อง มีการปลูกต้นส้ม มะพร้าว พื้นที่ป่าไม้ถูกทําลายแปลงที่ 4 พื้นที่ป่าไม้ถูกทําลายเก่ากลางป่าสมบูรณ์ และมีการตัดไม้ขนาดใหญ่ในแปลงและที่พักเก่าจํานวน 1 หลัง พื้นที่ป่าไม้ถูกทําลาย แผ้วถางป่า พื้นที่เสียหายประมาณ 1 ไร่ ที่ประมาณพิกัดความสูงจากน้ําทะเลปานกลางที่ 143 เมตร ยังพบร่องรอยการเข้ามาทําอย่างต่อเนื่อง มีการปลูกต้นทุเรียน และถางป่าอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ป่าถูกทําลาย จํานวน 4 แปลง อยู่ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากาบัง บริเวณท้องที่ กลุ่มบ้านคลองเตร็ง ม.6 บ้านใหม่ ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา เป็นต้นน้ําคลองเตร็ง และ คลองเทพา หรือแม่น้ําเทพาการลักลอบตัดไม้ ทําลายป่า เป็นการกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ทั้งนี้ ร.ต.อ.เลิศ ธรรมพร หน.ชฝต.4401 ได้ประสานงาน หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.1 (กาบัง) สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (นราธิวาส) เป็นหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากาบัง เข้าดําเนินการ ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ถูกทําลาย 4 แปลง พื้นที่เสียหายจํานวนเท่าใด มีต้นไม้ ขนาดใหญ่ ขนาดกลางที่ถูกตัดโค่น แต่ละแปลงจํานวนเท่าใด ขนาด ปริมาตร จํานวนเท่าใด เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย และระเบียบของกรมป่าไม้ ต่อไปและเพื่อรักษาพื้นที่ป่าไม้ที่เหลืออยู่ ไม่ให้พื้นที่ป่าเสียหายมากกว่าเดิม
14/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914120612341
245,712
เพิ่มความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตการครอบครองอาวุธปืน เร่งกำกับดูแลผู้มีอิทธิพลทั่วทุกพื้นที่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประชุม ครม. เมื่อวานที่ผ่านมา มีมติจากที่ประชุมและคําสั่งจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าจะต้องเข้มงวดในการออกใบอนุญาตให้คนครอบครองอาวุธปืน หรือว่าอาวุใดๆ ที่สามารถทําร้ายผู้คนทั่วไปได้และให้ศึกษามีข้อห้ามตรงไหนบ้าง มีผลกระทบอย่างไร เพื่อกํากับใช้กฎหมายกับผู้มีอิทธิพลอย่างเหมาะสมนายอนุทิน กล่าวเสริมอีกว่า ในฐานะกระทรวงมหาดไทยต้องทําหน้าที่ในการควบคุมบุคคลเหล่านี้ไม่ให้ใช้อิทธิพลในการคุกคามประชาชนและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในการกํากับดูแลพฤติกรรมของบุคคลเหล่านี้ สําหรับผู้ที่ประพฤติดีก็น่ายกย่อง สําหรับผู้ใช้อิทธิพล หรืออํานาจในทางที่ผิดก็ต้องได้รับการลงโทษทางกฎหมายอย่างเข้มงวด
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914134958369
245,713
เตรียมตั้งคณะกรรมการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ประกอบการจัดทำ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดูแลเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องสอบถามความเห็นจากประชาชนก่อนว่าจะแก้ไขหรือไม่ รวมถึงหากแก้ไขจะใช้กระบวนการแบบใด ส่วนประเด็นหมวด 1 และ 2 ยืนยันว่า จะไม่มีการแก้ไขอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการเอื้ออํานวยต่อการบริหารประเทศและการรักษาสิทธิเสรีภาพประชาชน จึงต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อให้มีความคิดเห็นที่หลากหลายในการช่วยกันวิเคราะห์ให้กระบวนการเดินหน้าไปได้และหาจุดที่พอดี ซึ่งหากสามารถพูดคุยส่วนต่างๆ ได้ ก็จะนําไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับและจะเป็นการเปิดประตูบานแรกจนได้รัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นส่วนการทําประชามติจะใช้เวทีรัฐสภาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวทีรัฐสภา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพูดคุยกัน แล้วนําไปสู่การตัดสินของประชาชนทุกกลุ่มวิชาชีพพร้อมรวบรวมความเห็นต่างๆ มาปรับปรุงเพื่อลดช่องว่าง
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914140339376
245,714
จ.อุบลฯ ผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนติดกับแม่น้ำโขงในพื้นที่ อ.โขงเจียม
นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายอุดมศักดิ์ นวลศิริ นายอําเภอโขงเจียม นํากําลังพลฝ่ายปกครองอําเภอโขงเจียม บูรณาการร่วมกับทหารกองกําลังสุรนารี หน่วยเรือโขงเจียม (นรข.) กองกํากับการตํารวจตะเวนชายแดนที่ 22 กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 1 และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทําการเดินเท้าลาดตระเวนทางบกเลียบแม่น้ําโขงตลอดแนวชายแดน ในพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงชายแดน ที่บ้านปากลา ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม และจัดกําลังพล ตรวจตราเฝ้าระวังจุดจอดเรือ ท่าจอดเรือประจําหมู่บ้าน บ้านปากลา ต.นาโพธิ์กลาง บ้านท่าล้ง บ้านกุ่ม บ้านตามุย ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม ตามแผนยุทธการ “สกัดกั้นการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดน จังหวัดอุบลราชธานี (หลักชัย 66)” นายอําเภอโขงเจียม กล่าวว่า ตามแนวชายแดนมักมีการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงอื่นๆ เช่น การลักลอบนําเข้า-ส่งออกสินค้าหนีภาษี การค้ามนุษย์ การลักลอบขนส่งแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีนโยบายให้กวดขันเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน และฝากให้ประชาชนในพื้นที่หากพบอะไรที่ผิดสังเกต ขอให้รีบส่งข่าว แจ้งเบาะแส ให้กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ตํารวจ ทหาร ในพื้นที่ ส่วนราชการพร้อมเข้าไปช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อความสงบสุขของประชาชน
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914151215415
245,715
จ.อุบลฯ ผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนติดกับแม่น้ำโขงในพื้นที่ อ.โขงเจียม
นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายอุดมศักดิ์ นวลศิริ นายอําเภอโขงเจียม นํากําลังพลฝ่ายปกครองอําเภอโขงเจียม บูรณาการร่วมกับทหารกองกําลังสุรนารี หน่วยเรือโขงเจียม (นรข.) กองกํากับการตํารวจตะเวนชายแดนที่ 22 กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 1 และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทําการเดินเท้าลาดตระเวนทางบกเลียบแม่น้ําโขงตลอดแนวชายแดน ในพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงชายแดน ที่บ้านปากลา ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม และจัดกําลังพล ตรวจตราเฝ้าระวังจุดจอดเรือ ท่าจอดเรือประจําหมู่บ้าน บ้านปากลา ต.นาโพธิ์กลาง บ้านท่าล้ง บ้านกุ่ม บ้านตามุย ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม ตามแผนยุทธการ “สกัดกั้นการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดน จังหวัดอุบลราชธานี (หลักชัย 66)” นายอําเภอโขงเจียม กล่าวว่า ตามแนวชายแดนมักมีการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงอื่นๆ เช่น การลักลอบนําเข้า-ส่งออกสินค้าหนีภาษี การค้ามนุษย์ การลักลอบขนส่งแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีนโยบายให้กวดขันเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน และฝากให้ประชาชนในพื้นที่หากพบอะไรที่ผิดสังเกต ขอให้รีบส่งข่าว แจ้งเบาะแส ให้กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ตํารวจ ทหาร ในพื้นที่ ส่วนราชการพร้อมเข้าไปช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อความสงบสุขของประชาชน
14/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914151344416
245,716
เจ้าหน้าที่ ตชด.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่4401สนธิกำลัง ทหารพราน 4709 ตรวจสอบป่าสงวนป่ากาบัง ถูกบุกรุก 4 แปลง รวบผู้บุกรุก 1 ราย อ้างซื้อมานานแล้วแต่พึ่งมาถาง
วันที่ 14 ก.ย.66 ร.ต.อ.เลิศ ธรรมพร หน.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4401 ได้รับแจ้งมีกลุ่มบุคคล เข้าทําการบุกรุกแผ้วถางป่า ในเขตป่าสงวนป่ากาบัง บ้านคลองเตร็ง ม.6 บ้านใหม่ ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา จํานวนหลายแปลง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.มานิตย์ นาโควงศ์ ผกก.ตชด.44 รับทราบ พร้อมนํากําลังเจ้าหน้าที่ ตชด. ประสานเจ้าหน้าที่ ทหารพราน 4709 เข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ใช้รถจักรยานยนต์ ขี่จากริมคลองเทพา เข้าไปจนถึงกลางป่า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นก็เดินเท้าต่อไป ก็พบผืนป่าถูกบุกรุกจํานวน 4 จุด โดยจุดแรก สูงจากระดับน้ําทะเลปานกลาง 139 เมตร เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงคนกําลังตัดไม้ จึงได้วางกําลังล้อมจับ จนสามารถจับกุมนายดือนัน อยู่ที่ ม.2 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขณะกําลังใช้มีดพร้าตัดฟันต้นไม้ขนาดเล็กอยู่ ตรวจสอบพบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกประมาณ 4 ไร่ เจ้าหน้ที่จึงเดินสํารวจต่อ พบ จุดที่ 2 พิกัดความสูงจากน้ําทะเลปานกลางที่ 132 เมตร มีการตัดไม้ขนาดใหญ่ในแปลงจํานวนหลายต้นและมีการลักลอบแปรรูปไม้ พบร่องรอยการเข้ามาทําอย่างต่อเนื่อง ทั้งมีการปลูกต้นทุเรียน กําลังก่อสร้างที่พัก แต่ยังไม่เสร็จจํานวน 1 หลัง พื้นที่ป่าถูกบุกรุกเสียหายประมาณ 5 ไร่ แต่ไม่พบผู้ใด จุดที่ 3 พิกัดความสูงจากน้ําทะเลปานกลางที่ 142 เมตร พบมีการตัดไม้ขนาดใหญ่ในแปลงจํานวนหลายต้นและมีการลักลอบแปรรูปไม้ และกําลังสร้างที่พักยังไม่เสร็จจํานวน 1 หลัง พื้นที่ถูกทําลายตัดไม้ แผ้วถางป่า พื้นที่เสียหายประมาณ 6 ไร่ ยังพบร่องรอยมีการเริ่มแผ้วถางป่า การเข้ามาทําอย่างต่อเนื่อง มีการปลูกต้นส้ม มะพร้าว จุดที่ 4 พบพื้นที่ป่าไม้ถูกทําลายเก่ากลางป่า มีการตัดไม้ขนาดใหญ่ในแปลงและพบที่พักเก่าจํานวน 1 หลัง พื้นที่ป่าไม้ถูกทําลาย แผ้วถางป่า พื้นที่เสียหายประมาณ 1 ไร่ แต่ไม่พบผู้ใด จากการสอบถามนายดือนัน อ้างว่าซื้อที่บริเวณนี้นานแล้วเพื่อปลูกยางพาราและปลูกทุเรียนแต่พึ่งเข้ามาถาง ซึ่งที่ดินก็ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาว่าการตัดไม้ทําลายป่า แผ้วถางป่า เป็นการกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พร้อมทั้งนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบัง เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป และจะทําการประสาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.1 (กาบัง) สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (นราธิวาส) เข้าดําเนินการ ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวน ที่ถูกทําลายทั้ง 4 แปลง ว่ามีพื้นที่เสียหายจํานวนเท่าใด มีต้นไม้ ขนาดใหญ่ ขนาดกลางที่ถูกตัดโค่น แต่ละแปลงจํานวนเท่าใด ขนาด ปริมาตร จํานวนเท่าใด เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย และระเบียบของกรมป่าไม้ และเพื่อรักษาพื้นที่ป่าไม้ที่เหลืออยู่ ไม่ให้พื้นที่ป่าเสียหายมากกว่าเดิม
14/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914161603440
245,717
ปภ.เฝ้าติดตามสถานการณ์สาธารณภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมเพิ่มการพัฒนาระบบแจ้งเตือน Thai Disaster alert เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า กรมป้องป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ภัยธรรมชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) และอีกหลาย ๆ หน่วยงาน ในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนถึงผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญก่อนหน้านี้ ที่ส่งผลให้บางพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง เช่น จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดพิษณุโลก และในขณะเดียวกันบางพื้นที่ทางภาคเหนือ เช่นจังหวัด เชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงใหม่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน เช่น จังหวัดกาฬสิน จังหวัดร้อยเอ็ด มีฝนตกหนัก น้ําท่วมขัง ส่งผลให้ระดับน้ําในแม่น้ําเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้เพื่อเตรียมแผนรับมือกับทุกปัญหาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนบูรณาการข้อมูลพัฒนาระบบ Application Thai Disaster alert และ ช่องThDisaster alert เพื่อเพิ่มช่องทางในการประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ทันสมัย สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
14/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230914213434527
245,718
จ.นราธิวาส เชิญชวนร่วมชมขบวนแห่ทางบก งานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.66)
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี จังหวัดนราธิวาส ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดําเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ รวมถึงในวันที่ 18 กันยายน จะเสด็จพระราชดําเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการ กองงานวันลองกอง และพระราชทานรางวัลต่าง ๆ ในงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ซึ่งกําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน 2566 ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 อําเภอเมืองนราธิวาส พร้อมนี้ขอเชิญเฝ้ารับเสด็จฯ โดยพร้อมเพรียงกันทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.66) เวลาประมาณ 13.00 น. จะมีขบวนแห่ทางบกที่ยิ่งใหญ่สวยงามตระการตา มีขบวนช้าง 29 เชือก ขบวนม้า ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทาน รวมถึงขบวนอัตลักษณ์ วิถีชีวิต ของดีของเด่นทั้ง 13 อําเภอในพื้นที่ ผู้ร่วมขบวนจะแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง พื้นถิ่น โดยเคลื่อนขบวนจากหน้าสนามกีฬาเทศบาลเมืองนราธิวาส ไปตามเส้นทางที่กําหนด และจะมีการเปิดงานอย่างเป็นทางการ ที่เวทีกลาง บริเวณสวน ร.5 เวลาประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915162124810
245,719
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กำชับถอดบทเรียนเหตุการณ์สะพานข้ามแยกถล่ม พัฒนามาตรฐานความปลอดภัยงานก่อสร้าง
นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้สั่งการให้สํานักการโยธาเร่งปรับปรุงสภาพพื้นที่ก่อสร้างสะพานยกระดับลาดกระบัง-อ่อนนุช จากเหตุการณ์สะพานข้ามแยกทรุดตัวถล่ม เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อเปิดผิวจราจร และเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับประชาชนที่สัญจรในพื้นที่ รวมถึงกําชับให้การออกแบบโครงสร้างและวิธีการก่อสร้างที่จะดําเนินการต่อไปต้องมีความมั่นคงแข็งแรง รวมถึงต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ครบถ้วน จากการลงพื้นที่จุดก่อสร้างสะพานยกระดับลาดกระบัง-อ่อนนุช ที่เกิดปัญหาดังกล่าว พบว่า ปัจจุบันผู้รับจ้างอยู่ระหว่างดําเนินการรื้อถอนโครงสร้างที่เสียหายออกเพื่อคืนพื้นผิวจราจรฝั่งขาเข้าอีก 1 ช่องทาง คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดการจราจรได้ 2 ช่องทางในวันจันทร์ที่ 18 กันยายน เวลา 05.00 น. ส่วนการดําเนินการโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบังขึ้นใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบปรับปรุงเสริมมาตรการด้านความปลอดภัย การตรวจสอบโครงสร้าง เพื่อกําหนดแผนงานก่อสร้างในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบได้ในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนําไปพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยงานก่อสร้างในพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้นต่อไป
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915091926583
245,720
ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน มาตรการ "ฟรีวีซ่า" สำหรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 5 เดือน
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงวีซ่า ฟรี รับนักท่องเที่ยวจีน -คาซัคสถาน กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว ว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน คือ มาตรการ "ฟรีวีซ่า" สําหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งครอบคลุมช่วง "โกลเด้นวีค" หรือช่วงหยุดยาวสําคัญของตลาดจีน 2 ช่วง ได้แก่ วันชาติจีน (1 ต.ค.) กับเทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ.ปีหน้า โดยมาตรการดังกล่าวตั้งใจนํามากระตุ้นการเดินทางในช่วงวันชาติจีน ยาวไปจนถึงช่วงตรุษจีนในปีหน้า ส่วนนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน เป็นมาตรการที่นํามาใช้เพราะมองว่าคาซัคสถานเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถเพิ่มการเดินทางเข้าไทยได้โดยฟรีวีซ่า คือการที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศได้โดย ไม่ต้องขอวีซ่ามีเพียงหนังสือเดินทางอย่างเดียวเพียงพอ ซึ่งข้อดี คือ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทําวีซ่า และประหยัดเวลาในการทําเรื่องเข้าประเทศ โดยรายชื่อประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราหรือขอ วีซ่าในไทยเพื่อการท่องเที่ยวพํานักได้ไม่เกิน 30 วันนั้น มี 57 ประเทศ สําหรับนโยบายวีซ่า-ฟรีที่จะเกิดขึ้นนั้น นับเป็นปัจจัยสําคัญที่จะช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และทําให้ตัวเลข GDP เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่ามาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาลจะทําให้มีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 - 700,000 คน โดยจํานวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนี้จะทําให้มีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยปี 2566 รวมกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนี้จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จํานวนมากอย่างไรก็ตาม บางภาคส่วนได้แสดงความกังวลถึงการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่อาจเข้ามาจํานวนมากและด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ชี้แจงว่า สําหรับข้อห่วงใยปัญหาธุรกิจสีเทา ซึ่งกระทบกับภาพลักษณ์ด้านลบและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะมีการลงนามความร่วมมือแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และ กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน โดยบริหารจัดการปัญหาตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ําและปลายน้ํา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะทํางานเชิงรุกกับบูรณาการกับทุกกระทรวงและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวครั้งใหญ่
15/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915100817604
245,721
ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สมัยสามัญ สมัยที่สอง ครั้งที่ 4 ประจำปี พ.ศ. 2566
วานนี้ 14 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ได้มีการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สมัยสามัญ สมัยที่สอง ครั้งที่ 4 ประจําปี พ.ศ. 2566 โดยมี นายเดชา จันทร์เล็ก ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ทําหน้าที่เป็นประธานในการประชุมฯ พร้อมด้วย นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งสภาฯ ได้ร่วมพิจารณาญัตติร่างข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี (วาระที่ 2, 3) ญัตติขออนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําชี้แจงงบประมาณรายจ่ายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี การแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําชี้แจงงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2566 (รายการที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กรณีการก่อหนี้ผูกพัน งบประมาณรายจ่ายมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณ) และ 4.2 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําชี้แจงงบประมาณรายจ่าย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ญัตติขออนุมัติการโอนเงินงบประมาณรายจ่าย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ญัตติขอความเห็นชอบการขยายเวลาเบิกจ่ายเงินและการกันเงิน เพื่อเบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดย นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ได้แถลงขอความเห็นชอบจากสภา ซึ่งสภามีมติเห็นชอบทุกระเบียบวาระ
15/9/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915101922610
245,722
ภาพวงจรปิดบ้านกำนันนก ขัดแย้งกับคำให้การทั้งหมด เตรียมออกหมายจับเพิ่มหลายรายทั้งตำรวจและพลเรือน
พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการกู้ไฟล์ภาพจากเซิร์ฟเวอร์บ้านกํานันนกในคืนวันเกิดเหตุว่า สามารถกู้ไฟล์ภาพจากเซิร์ฟเวอร์ได้จํานวน 1 ตัว มีข้อมูลของกล้องวงจรปิด 15 ตัว กู้ภาพได้สมบูรณ์ 100% แล้วโดยภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เห็นพฤติการณ์ของผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด ซึ่งข้อเท็จจริงขัดแย้งกับคําให้การโดยสิ้นเชิง ถือว่าเป็นการให้การเท็จ ยืนยันว่าทั้งตํารวจและพลเรือนในเหตุการณ์พกปืนเกือบทุกคน และขณะเกิดเหตุตํารวจในงานไม่มีการระงับเหตุ ต่างคนต่างหนี แต่เห็นว่ามีกลุ่มที่ช่วยเหลือคนเจ็บนําส่งโรงพยาบาลกี่คน ส่วนตํารวจ 6 นายที่ถูกนําตัวส่งศาลดําเนินคดีไปก่อนหน้านี้ แทบทั้งหมดคอยคุมกันกํานันนกและพาหลบหนีจริง ซึ่งทั้ง 6 นายเป็นตํารวจอยู่ในพื้นที่มานาน และสนิทสนมกับกํานันนก พร้อมยืนยันว่านายหน่องคือ ผู้ก่อเหตุยิงสารวัตรศิวกร ซึ่งพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดสามารถเอาผิดกํานันนกได้อย่างแน่นอน หลังจากนี้ยังจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายทั้งตํารวจและพลเรือน ขณะเดียวกัน ยังได้สอบปากคําพนักงานรักษาความปลอดภัยรายหนึ่ง ที่ขณะเกิดเหตุได้หยิบปืนขึ้นมาเพื่อคุ้มกันพื้นที่ทางเข้าออก พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมนําตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรเมืองนครปฐมเพื่อฝากขังและดําเนินคดี โดยคัดค้านการประกันตัวพลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ภาพในกล้องวงจรปิด ไม่มีการตัดต่ออย่างแน่นอน เพราะเป็นผู้กํากับดูแลด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถเปิดภาพให้สื่อมวลชนดูได้เนื่องจากเป็นพยานหลักฐานสําคัญในสํานวนอาจทําให้เสียรูปคดีได้
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915145658762
245,723
รัฐบาลเน้นมาตรการลดภาระค่าครองชีพ ลดค่าไฟ 35 สตางค์หน่วย และลดค่าน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร ให้มีผลในวันที่ 20 กันยายนนี้
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ํามันดีเซลให้กับประชาชน โดยให้มีผลในวันที่ 20 กันยายน 2566 โดยมาตรการลดค่าไฟฟ้านั้น จะมีการปรับลดลงเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วย จากเดิมอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย ในรอบบิลเดือนกันยายน 2566 ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของประเทศเป็นจํานวนเงินวันละ 189 ล้านบาท จากการใช้ไฟฟ้า 540 หน่วยต่อวัน ทั้งนี้ มาตรการลดค่าไฟฟ้าจะใช้ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นปี 2566 หลังจากนั้นจะปรับแก้ในส่วนของโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้ปรัดลดราคาได้ในอนาคตส่วนมาตรการลดราคาน้ํามันดีเซลนั้น จะลดราคาน้ํามันดีเซลด้วยการลดภาษีสรรพสามิต โดยราคาน้ํามันดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ลิตรละประมาณ 32 บาท ลดลงให้เหลือ 30 บาท ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงวันละ 148 ล้านบาท จากการอัตราการใช้น้ํามันดีเซลทั้งประเทศวันละ 74 ล้านลิตร ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ส่วนการลดราคาน้ํามันเบนซินยังอยู่ระหว่างการหารือถึงกลุ่มผู้ที่เดือดร้อน ซึ่งจะมีมาตรการทยอยออกมา ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้ข้อมูลและความเห็นว่า ขณะนี้ภาคอุตสาหกรรม มีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ํามันตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทําให้ราคาน้ํามันนําเข้าของไทยแพงขึ้น และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวตามปกติ จะยิ่งกดดันราคาน้ํามันตลาดโลกขยับขึ้น โดยมีโอกาสที่ราคาน้ํามัน จะไปแตะระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเตรียมพร้อมไว้ด้านนโยบายพักหนี้เกษตรกร ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 3 ปี ควบคู่กับการพลิกฟื้นภาคเกษตรกรรมไทย ทั้งเรื่องเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ เพิ่มมูลค่า มีช่องทางการตลาด และลดต้นทุนการผลิต มาตรการพักหนี้ SME ประสบภัยโควิด 1 ปี คู่ขนานไปกับการปรับโครงสร้างหนี้แบบเฉพาะเจาะจง ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังได้อนุมัติเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด 600 บาทต่อเดือน นาน 6 ปี ด้วยงบประมาณ 990 ล้านบาท โดยจะดําเนินการโอนเข้าบัญชีให้กับประชาชนงวดแรกวันที่ 18 กันยายนนี้ เพื่อดูแลเด็กแรกเกิดจํานวน 2,245,000 ราย
15/9/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915105216634
245,724
นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งที่ปรึกษา 9 คน กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานที่ปรึกษา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ 234/2566 เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534นายรัฐมนตรี จึงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อทําหน้าที่ในการให้คําปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็น หรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษา นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ที่ปรึกษา ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษา นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษา นายชลธิศ สุรัสวดี ที่ปรึกษา นายชัย วัชรงค์ และนายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ที่ปรึกษาโดยให้ส่วนราชการสนับสนุนการดําเนินงานของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับการร้องขอและให้สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อํานวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาฯ สําหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จําเป็นต่อการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบของราชการโดยให้เบิกจ่ายจากสํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915135733711
245,725
รมช.มหาดไทย เรียกอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าพบ เร่งหาแนวทางป้องกันน้ำท่วมเร่งด่วน เพื่อเสนอเข้า ครม. นัดต่อไป
นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เรื่องเร่งด่วนที่สุด ที่ต้องเร่งจัดการในตอนนี้คือเรื่องปัญหาสถานการณ์น้ํา ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่มีระดับน้ําสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในระยะเวลาไม่เกิน 2 วันหลังจากนี้ อาจเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ในจังหวัดอุบลราชธานี เบื้องต้นได้ประสานอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้รีบเข้าพบในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อเร่งหาแนวทางรับมือ และรีบเสนอมาตรการเข้า ครม. ในการประชุมครั้งต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องที่เร่งด่วนที่สุดส่วนการเตรียมมอบนโยบายให้กรม กรุงเทพมหานคร และรัฐวิสาหกิจภายใต้การกับกําดูแลของตนเองนั้น ต้องรอเรียกหัวหน้าหน่วยงาน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาหารือในเร่งที่เร่งด่วนก่อนเช่นเดียวกัน เพื่อให้การทํางานมีประสิทธิภาพสูงสุด
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915160318783
245,726
ครม.ไฟเขียว ฟรีวีซ่า เปิดรับนักท่องเที่ยว จีน-คาซัคสถาน หวังเม็ดเงินเข้าประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน ด้วยมาตรการ “ฟรีวีซ่า” สําหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งครอบคลุมช่วงหยุดยาวสําคัญของตลาดจีน 2 ช่วง ได้แก่ วันชาติจีน (1 ต.ค.) กับเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยมาตรการ เพื่อจะมากระตุ้นการเดินทางในช่วงวันชาติจีน ยาวไปจนถึงช่วงตรุษจีน ส่วนนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน เป็นมาตรการที่นํามาใช้เพราะมองว่าคาซัคสถานเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถเพิ่มการเดินทางเข้าไทยได้สําหรับ ฟรีวีซ่า คือ การที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีเพียงหนังสือเดินทางอย่างเดียวก็เพียงพอ ซึ่งข้อดี คือ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทําวีซ่า และประหยัดเวลาในการทําเรื่องเข้าประเทศ โดยรายชื่อประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือขอวีซ่าในไทยเพื่อการท่องเที่ยวพํานักได้ไม่เกิน 30 วัน ข้อมูลจากกรมการกงสุล ณ วันที่ 8 กันยายน 2566 มี 57 ประเทศ ได้แก่ อันดอร์รา/ออสเตรเลีย/ออสเตรีย/เบลเยียม/บาห์เรน/บรูไน/แคนาดา/เช็ก/เดนมาร์ก/เอสโตเนีย/ฟินแลนด์/ฝรั่งเศส/เยอรมนี/กรีซ/ฮังการี/ไอซ์แลนด์/อินโดนีเซีย/ไอร์แลนด์/อิสราเอล/อิตาลี/ญี่ปุ่น/คูเวต/ลัตเวีย/ลิกเตนสไตน์/ลิทัวเนีย/ลักเซมเบิร์ก/มาเลเซีย/มัลดีฟส์/มอริเชียส/โมนาโก/เนเธอร์แลนด์/นิวซีแลนด์/นอร์เวย์/โอมาน/ฟิลิปปินส์/โปแลนด์/โปรตุเกส/กาตาร์/ซานมารีโน/ซาอุดีอาระเบีย(และVoA)/สิงคโปร์/สโลวัก/สโลวีเนีย/สเปน/แอฟริกาใต้/สวีเดน/สวิตเซอร์แลนด์/ตุรกี/ยูเครน/สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์/สหราชอาณาจักร/สหรัฐอเมริกา/บราซิล/เกาหลีใต้/เปรู/ฮ่องกง/และเวียดนามนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่า มาตรการฟรีวีซ่าดังกล่าว จะทําให้มีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 - 700,000 คน คาดปี 2566 จะมีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยรวมกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จํานวนมาก เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคงได้มอบหมายให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทํางานเชิงรุกเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งคนไทย เพื่อรองรับการบริหารสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว
15/9/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915115940662
245,727
ผอ.รมน.ภาค 4 พบปะกำลังพล กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ย้ำ “บุคลากรทุกคนขอให้ตั้งใจในการปฏิบัติ เพื่อประเทศชาติและประชาชน"
ผอ.รมน.ภาค 4 พบปะกําลังพลที่ปฏิบัติงานใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ย้ํา “บุคลากรทุกคนที่มาปฏิบัติงานผ่านการคัดเลือกมาแล้วว่าเป็นคนดี มีความสามารถมีความพร้อมเหมาะสม และมีความพยายาม ตั้งใจในการปฏิบัติ เพื่อประเทศชาติและประชาชน”วันนี้ 15 กันยายน 2566 พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้พบปะให้โอวาท และมอบนโยบายแก่กําลังพลที่ปฏิบัติงานในกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าในห้วงที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป ปีงบประมาณ 2567 พร้อมเน้นย้ําผู้บังคับบัญชาให้ดูแลกําลังพลเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกําลังใจที่ดีให้แก่กําลังพลในการปฏิบัติงานต่อไปเพื่อประเทศชาติ และประชาชน โดยมี ผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ข้าราชการ กําลังพล ลูกจ้าง เข้าร่วม ณ สนามฟุตซอลนาควานิช กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้มาพบปะกําลังพลที่ปฏิบัติงานในกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งบุคคลากรที่มาปฏิบัติงานได้รับการคัดเลือกมาเเล้วว่าเป็นคนดีมีความสามารถ พร้อมและเหมาะสมในการปฏิบัติงานด้วยความเสียละเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พื้นที่ตรงนี้จําเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่กําลังพลมาทํางานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ นําข้อผิดพลาดข้อบกพร่องมาปรับแก้ไขให้ดีขึ้น และขอให้มีความเพียรพยายาม จริงใจ มุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างพื้นที่เหตุ ประชาชนปลอดภัย เช่นนั้นหากยังปฏิบัติหน้าที่ในนามกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติงานให้เต็มที่ เพื่อประเทศชาติ และประชาชน พร้อมถือโอกาสมารับฟังเสียงสะท้อนจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยให้กําลังพล เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างได้เขียนข้อความปัญหา ข้อขัดข้อง หรือความต้องการต่างๆ เพื่อนําไปปรับการปฏิบัติงานให้ดีขึ้น โดยข้อความลงในกระดาษไม่ต้องลงนามเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เสนอแนะ ข้อคิดเห็นต่างๆ และข้อความทุกฉบับ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จะอ่านข้อความเสียงสะท้อนดังกล่าวทุกฉบับด้วยตนเอง และนําไปปรับแก้ไขเพื่อนําไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นต่อการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ยังได้กล่าวเน้นย้ํา กําลังพลที่มาปฏิบัติงานออกสนามครอบครัวต้องมีความสุข และไม่มีปัญหาเพราะจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทํางานไม่เต็มที่ และกําลังพลที่มาปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกคนก็ต้องความความสุขและปฏิบัติงานให้เต็มที่ หากกําลังพลไม่มีความสุข แล้วจะไปสร้างความสงบสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไร และหวังอย่างยิ่งว่าทุกเสียงสะท้อนจะนําไปสู่การแก้ไขที่ดี และเพื่อการปฏิบัติงานในปี 2567 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นไปตามที่ทุกฝ่ายต้องการ และตรงไปตามวัตถุประสงค์ของกองทัพบกและของรัฐบาล ขอบคุณตลอดระยะเวลาที่ได้ร่วมปฏิบัติงานกัน และจะร่วมกันปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกันเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
15/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915133513683
245,728
นายกรัฐมนตรี ยืนยันอีก 2 สัปดาห์ รู้แหล่งที่มาของเงินดิจิทัลวอลเล็ต ใช้แจกประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15 - 17 กันยายน 2566 โดยย้ําว่า อีก 2 สัปดาห์จะมีการชี้แจงแหล่งที่มาของเงินที่จะมาแจกจ่ายประชาชนในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ขอให้ทราบรายละเอียดแน่นอนก่อน เพื่อป้องกันการพูดไม่ตรงจะได้ไม่เกิดความสับสนส่วนกรณีที่ไปพูดกับนักศึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (วปอ.) รุ่น 65 เมื่อวานนี้(14 ก.ย.) ถึงเรื่องการใช้คอนเน็คชันของหลักสูตร วปอ. ว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน ว่า คิดว่าสถาบัน วปอ. เป็นสถาบันที่มีเกียรติ เป็นแหล่งฟูมฟักกําลังสําคัญของประเทศชาติ อยากให้ดูให้ดีไม่ใช่เป็นการมาเพื่อนําคอนเน็คชันไปใช้ประโยชน์ส่วนตน แต่อยากให้มองถึงผลประโยชน์ของประเทศ คํานึงถึงประชาชนด้วย ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น โดยการใช้ทรัพยากรของรัฐต้องใช้ให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่ามีสิทธิ์อย่างเดียว แต่ให้ดูหน้าที่ความเหมาะสมด้วย เพราะมีคนเฝ้าดูอยู่หลายคน โดยเฉพาะเยาวชน ที่อยากมีตัวอย่างผู้นําที่ดี จึงอยากฝากตรงนี้ไว้ ซึ่งเป็นความตั้งใจและความหวังดีส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ส่งเรื่อง กรณี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะตําแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กรณีเกี่ยวข้องกับคดีบอส อยู่วิทยา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่หากส่งมาก็จะขอดูเรื่องทั้งหมดก่อน ยังไม่ได้อ่านคําตัดสินและคําพิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างไร ต้องขอดูก่อน ส่วนจะมีผลกระทบหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งมาให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในเรื่องโทษของทางวินัย นายกรัฐมนตรีย้ําว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ยังไม่เห็นเอกสาร ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกร้องด้วย ก็ขอให้รอนิดนึง
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915140604719
245,729
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ ครม.เคาะวีซ่า – ฟรี รับนักท่องเที่ยวจีน - คาซัคสถาน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว
(15 ก.ย. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน คือ มาตรการ “ฟรีวีซ่า” สําหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งครอบคลุมช่วง “โกลเด้นวีค” หรือช่วงหยุดยาวสําคัญของตลาดจีน 2 ช่วง ได้แก่ วันชาติจีน (1 ต.ค.) กับเทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ.ปีหน้า โดยมาตรการดังกล่าวตั้งใจนํามากระตุ้นการเดินทางในช่วงวันชาติจีน ยาวไปจนถึงช่วงตรุษจีนในปีหน้า ส่วนนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน เป็นมาตรการที่นํามาใช้เพราะมองว่าคาซัคสถานเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถเพิ่มการเดินทาง เข้าไทยได้ ฟรีวีซ่า คืออะไร การที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีเพียงหนังสือเดินทางอย่างเดียวเพียงพอ ซึ่งข้อดี คือ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทําวีซ่า และประหยัดเวลาในการทําเรื่องเข้าประเทศ โดยรายชื่อประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราหรือขอ วีซ่าในไทยเพื่อการท่องเที่ยวพํานักได้ไม่เกิน 30 วันนั้น มี 57 ประเทศสําหรับนโยบายวีซ่า-ฟรีที่จะเกิดขึ้นนั้น นับเป็นปัจจัยสําคัญ ที่จะช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และทําให้ตัวเลข GDP เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่ามาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาลจะทําให้มีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 - 700,000 คน โดยจํานวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนี้จะทําให้มีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยปี 2566 รวมกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียง กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้ามา ของนักท่องเที่ยวจีนนี้จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จํานวนมากทั้งนี้มาตรการยกเว้นวีซ่า (ไม่ต้องขอวีซ่า) เป็นการชั่วคราว แก่นักท่องเที่ยว 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีนและคาซัคสถาน โดยตลาดจีนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปต่างประเทศ 154 ล้านคน ในตอนนั้นเศรษฐกิจจีนดี ไม่ช้าไม่นานจะทะยานไปแตะ 200 ล้านคนต่อปี ทําให้ประเทศไทยต้องเล็งประเทศจีนซึ่งมีศักยภาพสูงในการเดินทางอย่างไรก็ตาม บางภาคส่วนได้แสดงความกังวลถึงการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่อาจเข้ามาจํานวนมากและด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ชี้แจงว่า สําหรับข้อห่วงใยปัญหาธุรกิจสีเทา ซึ่งกระทบกับภาพลักษณ์ด้านลบและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะมีการลงนามความร่วมมือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน โดยบริหารจัดการปัญหาตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะทํางานเชิงรุกกับบูรณาการกับทุกกระทรวงและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวครั้งใหญ่
15/9/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915135626709
245,730
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ 4 มาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชนของรัฐบาล
(15 ก.ย. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบนําการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งประกอบด้วย การปรับลดค่าไฟให้กับประชาชนและประกาศลดราคาน้ํามันดีเซลให้ต่ําว่า 30 บาทต่อลิตร มีผลในวันที่ 20 กันยายน นี้มาตรการลดค่าไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าจะมีการปรับลดลงเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วย จากเดิมอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย ในรอบบิลเดือนกันยายนนี้ ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของประเทศเป็นจํานวนเงินวันละ 189 ล้านบาท จากการใช้ไฟฟ้า 540 หน่วยต่อวัน ทั้งนี้ มาตรการลดค่าไฟฟ้าจะใช้ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นปี 2566 หลังจากนั้นจะปรับแก้ในส่วนของโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้ปรัดลงราคาได้ในอนาคตมาตรการลดราคาน้ํามันดีเซลลดราคาน้ํามันดีเซลด้วยการลดภาษีสรรพสามิต โดยราคาน้ํามันดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ลิตรละประมาณ 32 บาท ลดลงให้เหลือ 30 บาท ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงวันละ 148 ล้านบาท จากอัตราการใช้น้ํามันดีเซลทั้งประเทศวันละ 74 ล้านลิตร ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 อย่างไรก็ตาม การลดราคาน้ํามันเบนซินยังอยู่ระหว่างการหารือถึงกลุ่มผู้ที่เดือดร้อนซึ่งจะหามาตรการทยอยออกมาสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้ข้อมูลและความเห็นว่า ขณะนี้ภาคอุตสาหกรรม มีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ํามันตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเมื่อประกอบกับค่าเงินบาท ที่อ่อนค่า ทําให้ขณะนี้ไทยต้องนําเข้าราคาน้ํามันของไทยแพงขึ้น แต่ที่น่าห่วง คือ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวตามปกติ จะยิ่งกดดันราคาน้ํามันตลาดโลกขยับขึ้น โดยมีโอกาสที่ราคาน้ํามัน จะไปแตะระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเตรียมพร้อมไว้พักหนี้เกษตรกร และธุรกิจขนาดเล็ก เป็นเวลา 3 ปีนโยบายพักหนี้เกษตรกร ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 3 ปี ควบคู่กับการพลิกฟื้นและผ่าตัดภาคเกษตรกรรมไทย ทั้งเรื่องเพิ่มผลิตภาพ เพิ่มราคาผลผลิต มีช่องทางการตลาด และลดต้นทุนการผลิต มาตรการพักหนี้ SME ประสบภัยโควิด 1 ปี คู่ขนานไปกับการปรับโครงสร้างหนี้แบบเฉพาะเจาะจง ตรงกับความต้องการของภาคเอกชนทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รับผิดชอบ โดยให้ไปแต่งตั้งคณะทํางานเพื่อดําเนินนโยบายพักหนี้ ในการหาแนวทางและกรอบการพักชําระหนี้ เป็นเวลา 14 วัน แล้วนํากลับมารายงานคณะรัฐมนตรีปลายเดือนกันยายนนี้ข้อมูลจากการสํารวจพฤติกรรมการเงินครัวเรือนเกษตรกร ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ พบว่า ครัวเรือนภาคเกษตร 42% มีรายได้เหลือจากการใช้จ่ายจําเป็นไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายสําหรับ การชําระหนี้ และอีก 27% มีรายได้ไม่เพียงพอแม้กระทั่งสําหรับรายจ่ายจําเป็นพื้นฐานเป็นสัญญาณอันตรายมากสําหรับสุขภาพการเงินของเกษตรกรไทยอนุมัติเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด 600 บาท งวดแรกวันที่ 18 กันยายนนี้มติอนุมัติโครงการอุดหนุนเงินเด็กแรกเกิด 600 บาท ต่อเดือน นาน 6 ปี ด้วยงบประมาณ 990 ล้านบาท โดยจะดําเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จในวันที่ 14 ก.ย. เพื่อนําไปแจกจ่ายเข้าบัญชีให้กับประชาชน งวดแรก วันที่ 18 กันยายนนี้ เพื่อดูแลเด็กแรกเกิดจํานวน 2,245,000 ราย
15/9/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915140614721
245,731
นายกฯ เปิดเผย การเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา จะพบปะนักลงทุนระดับชั้นนำของโลก หวังกระตุ้นการลงทุนของไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ในรายการของเพจ THE STANDARD ว่า เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องสําคัญที่สุด การจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UN General Assembly (UNGA) ครั้งที่ 78 ณ สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. นี้ จะถือโอกาสไปพบกับนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจลงทุนในไทย เช่น Microsoft ,Google ,Tesla ฯลฯ เพื่อบอกเล่าว่าประเทศไทยดีอย่างไร เหนือประเทศคู่แข่ง เพื่อดึงดูดการลงทุน พร้อมเชิญให้นานาประเทศมาลงทุนในประเทศไทยสําหรับเรื่องที่กล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก คือ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ และสามารถทําได้ทันที ก็ให้ทําไปก่อน เพราะจะเป็นการเอื้อต่อภาคเอกชนและนักลงทุน เพื่อให้เข้ามาทํางานได้ จะได้เกิดการกระตุ้นการลงทุน ซึ่งเมื่อมีการลงทุนก็มีการจ้างงาน และประชาชนก็จะได้มีงานทํา มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915161145795
245,732
นายอำเภอเมืองภูเก็ต เชิงรุกมาตรการป้องกันปราบปรามยาเสพติดจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ต่อเนื่อง
นายไพโรจน์ ศรีละมุน นายอําเภอเมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ระยะเร่งด่วน ตามเป้าหมาย 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยออกปิดล้อมตรวจค้น และกดดันผู้เสพ ผู้ค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อปราบปรามการระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ให้ลดลงและหมดไปในทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อช่วงค่ําของวันที่ 14 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดอําเภอเมืองภูเก็ต นําโดย นายวีรศักดิ์ ขําเกิด ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีภูธรฉลอง และชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ฉก.) จํานวน 7 นาย ลงพื้นที่ตรวจตราในพื้นที่หมู่บ้านชาวไทยใหม่ หมู่ที่ 2 ตําบลราไวย์ และสามารถจับกุม นายชาริน อายุ 20 ปี พร้อมของกลางยาเสพติดประเภท 1(ยาบ้า) ชนิดเม็ดสีส้มบรรจุในหลอดพลาสติกใสปิดหัวปิดท้ายด้วยความร้อน จํานวน 20 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงขาสั้น โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
15/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915213836849
245,733
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 เดินทางมาตรวจเยี่ยม ตำรวจในสังกัด ภ.จว.ชัยนาท พร้อมจัดพิธีอำลาชีวิตข้าราชการตำรวจให้กับผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 อย่างสมเกียรติ
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 เดินทางมาตรวจเยี่ยม ตํารวจในสังกัด ภ.จว.ชัยนาท พร้อมจัดพิธีอําลาชีวิตข้าราชการตํารวจให้กับผู้บัญชาการตํารวจภูธร ภาค 1 อย่างสมเกียรติ วันนี้ 15 กันยายน 2566 ที่สนามบินชั่วคราวเขื่อนเจ้าพระยา อําเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของสํานักตํารวจแห่งชาติมายังสนาม ฮ.ชั่วคราวเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท โดยมี พล.ต.ต.ธีร์ธวัต ธุระกิจ ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ได้ให้การต้อนรับ จากนั้นได้เดินทางขึ้นแท่นรับการเคารพจากตํารวจกองเกียรติยศ และตรวจแถว ลานหน้าหน้าอาคารศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาการแหล่งท่องเที่ยว สํานักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท, คณะนายตํารวจชั้นผู้ใหญ่ในสังกัด ภ.จว.ชัยนาท, กอ.รมน.ชัยนาท, อัยการจังหวัดชัยนาท, สสจ.ชัยนาท. ผู้บังคับการกองบิน 4, เสนาธิการกองบิน 4, กต.ตร.จังหวัดชัยนาท และหน่วยงานที่ฝากการบังคับบัญชา ร่วมในพิธีอย่างสมเกียรติ จากนั้นได้เข้าห้องประชุมบนตึกอาคารศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาการแหล่งท่องเที่ยว สํานักงานชลประทานที่ 12 เพื่อร่วมพิธีตรวจเยี่ยม และอําลาหน่วย พร้อมกล่าวให้โอวาทให้กับข้าราชการตํารวจในสังกัด รวมไปถึงกล่าวขอบคุณตํารวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นมืออาชีพ เต็มกําลังความสามารถ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า จิตวิญญาณของความเป็นตํารวจ ของผมจะไม่มีวันสิ้นสุดลง และผมจะคอยเป็นกําลังใจ ให้กับข้าราชการตํารวจทุกนายในการปฏิบัติหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้กับสังคมและประเทศชาติตลอดไป
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230915225922863
245,734
ผบช.ภ 1 ตรวจเยี่ยมและอำลาหน่วยตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท โอกาสเกษียณอายุราชการ
วันที่ 15 ก.ย.2566 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 1 เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ลงจอดสนามฟุตบอลเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท พล.ต.ต.ธีร์ธวัต ธุรกิจ ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ต้อนรับและรายงานตัวที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ จากนั้น ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 1 รับการเคารพจากกองเกียรติยศและตรวจแถวกองเกียรติยศ พร้อมมอบผ้ายันต์ให้กับกําลังพลกองเกียรติยศ เสร็จแล้วเดินทางไปห้องประชุม ชั้น 2 อาคารศูนย์เรียนรู้และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สํานักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ลอดซุ้มกระบี่พร้อมด้วยข้าราชการตํารวจเกษียณอายุและคู่สมรสลอดซุ้มกระบี่ โดยมี นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ประธาน กต.ตร.จังหวัดชัยนาท, นายมานพ เสือเหลือง อัยการจังหวัดชัยนาท รอง ประธาน กต.ตร.จังหวัดชัยนาท รวมทั้ง กต.ตร.จังหวัดชัยนาท น.อ.ชาคริต ศักดิ์ชัยศรี ผู้บังคับการกองบิน 4 ตาคลี น.อ.ธีรนารถ ณ บางช้าง เสนาธิการกองบิน 4 ตาคลี พ.อ.ประภาส ทิพย์ดี ผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดชัยนาท ให้การต้อนรับพล.ต.ต.ธีร์ธวัต ธุระกิจ ผบก.ภ.จว.ชัยนาท กล่าวต้อนรับและแสดงความรู้สึกว่า การจัดพิธีตรวจเยี่ยมและอําลาหน่วยในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงมุทิตาจิตและระลึกถึงคุณงามความดีของ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 1 ที่มีต่อสํานักงานตํารวจแห่งชาติ, ตํารวจภูธรจังหวัดชัยนาทและประชาชนชาวจังหวัดชัยนาท จากนั้น พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 1 กล่าวอําลาชีวิตรับราชการและมอบเงินสนับสนุนบํารุงขวัญให้กองบังคับการตํารวจภูธรจังหวัดชัยนาท พร้อมให้วิสัยทัศน์แก่ข้าราชการตํารวจไว้ยึดถือปฏิบัติ คือ “ จงรักภักดี ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา” ตํารวจที่ดีต้องยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
15/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สวท.ชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916001330901
245,735
ผอ.คุมประพฤตินครราชสีมา ร่วมประชุมการดำเนินงานการขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่สัญจร ครั้งที่ 3
ว่าที่ร้อยโทสิทธิ์ธนัตถ์ สิทธิบัวศรี ผู้อํานวยการสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมการประชุมการดําเนินงานการขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่สัญจร ครั้งที่ 3/2566 โดยมีนายชัยบุญ ชัยสิริเจริญพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจํากลางนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุม ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการอํานวยความยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้ําแก่ประชาชน โดยกระจายความยุติธรรมให้เข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกระดับ ได้รับความรู้ด้านกฎหมาย สิทธิและเสรีภาพ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
15/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916064809914
245,736
นรข.เตือนเฝ้าระวัง Happy Water ยาเสพติดตัวใหม่ เผยรอบปี 2566 ตรวจยึดของกลาง มูลค่ารวมกว่า 6,800 ล้านบาท
พลเรือตรี สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลําแม่น้ําโขง (นรข.) เปิดเผยว่า ในรอบปีงบประมาณ 2566 นรข.มีการปฏิบัติหน้าที่สกัดกั้น จับกุมยาเสพติด และตรวจยึดของกลาง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 15 กันยายน 2566 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 6,776,739,810 บาทและเพื่อเป็นขวัญกําลังใจให้กับกําลังพล จึงได้มีการจัดพิธีมอบโล่เกียรติยศให้กับหน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานยอดเยี่ยม ตาม พ.ร.บ. ต่าง ๆ รวม 5 รางวัล ประกอบไปด้วย พ.ร.บ.ยาเสพติด ประเภทสถิติการจับกุมสูงสุด 1 รางวัล ได้แก่ หน่วยเรือโพนพิสัย พ.ร.บ.ยาเสพติด ประเภทมูลค่ารวมการจับกุมสูงสุด 1 รางวัล ได้แก่ สถานีเรือบ้านแพง พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ศุลกากร ประเภทสถิติการจับกุมสูงสุด 1 รางวัล ได้แก่ สถานีเรือเขมราฐ พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ศุลกากร ประเภทมูลค่ารวมการจับกุมสูงสุด 1 รางวัล ได้แก่ สถานีเรือบึงกาฬ และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ประเภทสถิติการจับกุมสูงสุด 1 รางวัล ได้แก่ สถานีเรือเชียงแสน"อยากฝากถึงประชาชนว่าภัยของยาเสพติดที่เป็นภัยร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้มีการปรับเปลี่ยนให้มียาเสพติดตัวใหม่ ๆ ออกมา ซึ่งในช่วงนี้มีการตรวบพบ ตรวจจับได้ หรือจากการได้รับข้อมูลข่าวสารของประเทศเพื่อนบ้านและในพื้นที่ต่าง ๆ ของไทย พบมีการระบาดของยาเสพติดตัวใหม่ ที่เรียกว่า Happy Water ซึ่งจะมีรูปลักษณ์เป็นผงคล้ายคอลลาเจน ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ทําให้ง่ายต่อการนําไปผสมในน้ําหรือเครื่องดื่มชนิดต่างๆ มักพบในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืนตามงานปาร์ตี้และสถานบันเทิงต่าง โดยยาเสพติดตัวนี้มีผลร้ายแรงต่อสุขภาพตามมา หากเสพในปริมาณที่มากไปอาจทําให้เสียชีวิตได้ จึงอยากให้ทุกคนได้ระมัดระวังให้ดี ซึ่งมีความน่าเป็นห่วงที่เราทุกคนจะต้องทําให้บุตรหลานของเราได้เข้าใจ และห่างไกลจากยาเสพติด
16/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916164445009
245,737
บิ๊กโจ๊ก แถลงผลการสืบสวนคดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย อ.สิงหนคร จ.สงขลา รวบ 5 ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
วันนี้ (16 ก.ย.66) ที่ห้องประชุมสมิหลา ชั้น 2 ตํารวจภูธรจังหวัดสงขลา อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ นําแถลงผลการสืบสวนสอบสวนการดําเนินคดีอาญาบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย อําเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา โดยมี พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บังคับบัญชาตํารวจภูธรภาค 9 นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดสงขลา นายสมชัย พลายด้วง ผู้อํานวยการกองคดี 5 สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 สํานักศิลปากร ที่ 11 สงขลา ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดําเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่บุกรุกขุดหน้าดิน ในเขตโบราณสถานเขาน้อย อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อนําไปถมที่ก่อสร้างบริเวณหาดจันทร์สว่าง เนื่องจากมีการสไลด์ของหน้าดินที่อาจจะส่งผลกระทบกับเจดีย์เขาน้อย ซึ่งเป็นโบราณสถานสําคัญ อายุกว่า 1,400 ปี ที่ชาวสงขลามีความมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์และอยู่ระหว่างเสนอให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านการสืบสวนด้วยการตรวจหน้าดินโดยการนําหน้าดินที่เกิดเหตุและดินที่บริเวณการก่อสร้าง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์ดิน ยืนยันว่าเป็นดินจากพื้นที่ของเขาเจีดีย์น้อย จึงเป็นหลักฐานสําคัญที่จะตั้งตัวผู้กระทําความผิด จากการสืบสวนดําเนินคดีทั้งหมด 7 ฐานความผิด ประกอบด้วย 1.ร่วมกันบุกรุกโบราณสถาน 2.ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทําด้วยการใด ๆ อันเป็นการทําลายป่า 3.ร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่น สร้าง หรือทําด้วยประการใด หรือทําให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามฯ 4.ร่วมกันตั้งและประกอบกิจการโรงงานจําพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต 5.ร่วมกันทําการขุดดิน โดยไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น 6.ร่วมกันทําเหมือง โดยไม่รับประทานบัตรเจ้าพนักงาน และ 7.ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯซึ่งในความผิดเหล่านี้เป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน จึงได้ทําการตรวจสอบทรัพย์ สืบทรัพย์ พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาและดําเนินคดีกับผู้ต้องหา จํานวน 5 ราย ทั้งนี้ ตํารวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้ตั้งคณะทํางานสืบทรัพย์ดําเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของนางณัฏฐ์ณรัน หรือเจ้อ้อย จันทร์สว่าง กับพวกรายงานไปยังเลขาธิการ ปปง. คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.มีมติ ให้ยึดทรัพย์สิน (ที่ดิน) จํานวน 5 แปลง มูลค่าประเมินรวมประมาณ 1 ล้าน 1 แสนบาท (ทางแพ่ง) และ สภ.สิงหนคร ได้รวบรวมหลักฐานดําเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวก จํานวน 4 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน"”(1) และ (2) แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอีกส่วนหนึ่งและในวันนี้ (16 ก.ย.66) ตํารวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้ระดมกําลัง เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 12 จุด เพื่อยึดทรัพย์สินจํานวน 5 รายการและตรวจสอบเป้าหมายบุคคลเพิ่มเติมอีก 7 จุด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินซึ่งอาจเข้าข่ายในความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเติม ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร. ยังได้กล่าวอีกว่า จะดําเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทําความผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างเด็ดขาดและตรงไปตรงมา สําหรับในคดีนี้นั้นทางเจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนเพียงพอ สามารถเอาผิด และดําเนินคดีผู้กระทําความผิดได้อย่างแน่นอน
16/9/2023
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916194400044
245,738
อุบลฯประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานตามแผนแผนยุทธการ “สกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและการกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดน จังหวัดอุบลราชธานี” (หลักชัย 66)
วันนี้ (15 ก.ย.2566 ) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอําเภอโขงเจียม นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานตามแผนแผนยุทธการ “สกัดกั้นการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดน จังหวัดอุบลราชธานี” (หลักชัย 66) ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เปิดปฏิบัติการระหว่างวันที่ 16 ส.ค.- 15 ก.ย. 2566 เพื่อป้องกันการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดนด้านอําเภอเขมราฐ อําเภอนาตาล อําเภอโพธิ์ไทร อําเภอศรีเมืองใหม่ อําเภอโขงเจียมและอําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานีนายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานีมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีปัญหาการลักลอบนําเข้ายาเสพติด เป็นพื้นที่ลําเลียงทางผ่านยาเสพติด และเป็นพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติด ภายใต้ยุทธการหลักชัย 66 ได้มีการบูรณาการหน่วยกําลังในพื้นที่ทั้งทหาร ตํารวจ ฝ่ายปกครอง ผนึกกําลังเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดน ดําเนินการสกัดกั้นทุกมิติ ทั้งมาตรการด้านการข่าว การตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด การซุ่มสกัดจับขบวนการค้ายาเสพติด การลาดตระเวนทางบกในพื้นที่สุ่มเสี่ยง การควบคุมจุดจอดเรือประจําหมู่บ้าน การปิดล้อมตรวจค้นผู้มีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังป้องกันยาเสพติดตลอดห้วงยุทธการหลักชัย 66 ระหว่างวันที่ 16 ส.ค.- 15 ก.ย. 2566 มีผลการปฏิบัติ ดังนี้ คดียาเสพติด สามารถจับกุม จํานวน 18 คดี ผู้ต้องหาจํานวน 22 ราย ตรวจยึดของกลางยาบ้า จํานวน 128,465 เม็ด ยาไอซ์ จํานวน 0.60 กรัม โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทําผิด จํานวน 5 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ จํานวน 5 คัน คดีคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สามารถจับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จํานวน 3 คดี ผู้ต้องหาจํานวน 6 ราย คดีอาวุธปืน/เครื่องกระสุนปืน สามารถจับกุม จํานวน 6 คดี ผู้ต้องหาจํานวน 6 ราย ตรวจยึดของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จํานวน 6 กระบอก และกระสุนปืน จํานวน 11 นัดนอกจากนี้ สามารถตรวจยึดรถยนต์ที่บริเวณริมแม่น้ําโขง ขณะกําลังลักลอบส่งขายต่างประเทศไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ตรวจยึดรถยนต์ปิคอัป จํานวน 3 คัน รถไถแทรกเตอร์การเกษตร จํานวน 2 คัน เรือเหล็กพร้อมเครื่องยนต์ จํานวน 4 ลํา และรถจักรยานยนต์ จํานวน 1 คัน นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามแผนยุทธการ “สกัดกั้นการลักลอบนําเข้ายาเสพติดและการกระทําผิดเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดน จังหวัดอุบลราชธานี” (หลักชัย 66) ในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ และจะดําเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกัน ปราบปราม กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ตลอดจนธุรกิจผิดกฎหมายอื่นๆ ในทุกมิติ เพื่อพี่น้องประชาชนมีความผาสุกและปลอดภัย พร้อมทั้งขอบคุณกําลังพลทุกหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติภารกิจนี้จนสําเร็จลุล่วง
16/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุบลราชธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230916223544061
245,739
ตำรวจภูธรภาค 8 จัดงานวิ่งสร้างภูมิคุ้มกัน “วัคซีนไซเบอร์” ส่งเสริมสุขภาพพร้อมสร้างการรับรู้ เพื่อสร้างเครือข่ายในการขยายการรับรู้ ให้ประชาชนรู้ทันกลโกง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”
วันอาทิตย์ ที่ 17 กันยายน 2566 เวลา 05.00 น. ที่ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต นายอํานวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้การต้อนรับ พล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานวิ่งสร้างภูมิคุ้มกัน “วัคซีนไซเบอร์” ตํารวจภูธรภาค 8 โดยมี พลตํารวจโท สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐเอกชน ข้าราชการตํารวจของตํารวจภูธรภาค 8 และประชาชน เข้าร่วมพล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า "ปัจจุบันสถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้น จากระบบการรับแจ้งความออนไลน์ ของสํานักงนตํารวจแห่งชาติ มีประมาณ 800 คดี ต่อวัน โดยคดีที่มีการแจ้งความมากที่สุด คือ การหลอกซื้อสินค้าหรือบริการ รองลงมา คือคดีหลอกให้โอนเงินเพื่อทํางาน และหลอกให้กู้เงิน ตามลําดับ โดยคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูงสุด คือคดีหลอกให้ลงทุน รองลงมา คือ หลอกให้โอนเงินเพื่อทํางาน และคดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ หรือ Call Center ตามลําดับ โดยที่ผ่านมา แม้สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จะปรับกลยุทธ์ให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ใดก็ได้ เพื่อจะได้ระงับความเสียหายและดําเนินคดีต่อไป ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังคงปรากฎว่ามีประชาชนหลงเชื่อ ถูกหลอกให้โอนเงิน อยู่เป็นประจํา ทําให้จําเป็นจะต้องเสริมสร้างความรู้ ให้กับประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง เพื่อรู้ทันกลโกง จึงกําหนดให้มี “วัคซีนไซเบอร์” เป็นเสมือนวัคซีน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชน ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย โดยมีสติรู้ทันกลโกง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” ซึ่งจําเป็นจะต้องช่วยกัน เผยแพร่ให้ประชาชน ได้รับรู้อย่างแพร่หลาย ในทุกมิติ โอกาสนี้ ขอชื่นชมในแนวคิดของตํารวจภูธรภาค 8 ที่ใช้การวิ่งแข่งขัน ซึ่งนอกจากเป็นการออกกําลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีแล้วยังเป็นช่องทางในการสื่อสาร เสริมสร้างความรู้ ให้ตระหนักถืงภัยอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีเพื่อรู้ทันกลโกง ตามแนวทาง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” ผ่านการทําแบบทดสอบ ที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติกําหนด โดยทราบว่ามีผู้ผ่านการทดสอบ จํานวน 1,735 ราย ซึ่งจะเป็นเครือข่าย ในการขยายการรับรู้ เพื่อรู้ทันกลโกงต่อไป"ด้านพลตํารวจโท สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า "ตามนโยบายของท่านผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นให้ความสําคัญ ในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน ทั้งในมิติ On GROUND และ On LINE โดยเฉพาะในสังคมยุคดิจิทัล Cyber Crime อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรืออาชญากรรมออนไลน์ มีโอกาสเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว เปรียบเสมือนโรคระบาดมีประชาชนหลงเชื่อและถูกหลอก ให้โอนเงินอยู่เป็นประจํา จําเป็นต้องมีวัคซีนป้องกัน ตามแนวคิดของผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ซึ่งดําริให้มี “วัคซีนไซเบอร์” ผ่านการทําแบบทดสอบเพื่อสร้างความตระหนักรู้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายมีสติ รู้ทันกลโกง ตามแนวทาง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”ทั้งนี้ ตํารวจภูธรภาค 8 จัดทําโครงการวิ่งสร้างภูมิคุ้มกัน“วัคซีนไซเบอร์” โดยแบ่งการวิ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะ 11 กิโลเมตร/ 5 กิโลเมตร/ และ 3 กิโลเมตร โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อให้ประชาชน รู้ทันกลโกง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เสริมสร้างความรู้ ให้กับประชาชน ผ่านแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งจะต้องผ่านการทดสอบ 35 ข้อ จากจํานวน 40 ข้อ จึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมวิ่งในครั้งนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมทําแบบทอดสอบ จํานวน 1,744 ราย ผ่านการทดสอบจํานวน 1,735 ราย "
17/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917080855087
245,740
นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ โดยจะแสดงบทบาทไทยร่วมแก้ไขปัญหาความท้าทายโลกด้านสิ่งแวดล้อม
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกําหนดเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18 – 24 กันยายน 2566โดยในโอกาสการเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจนอกประเทศครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี นอกจากเป็นโอกาสให้ได้พบหารือกับผู้นําต่างประเทศ ผู้นําองค์การระหว่างประเทศ บุคคลสําคัญ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งผ่านกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ยังมีกําหนดการที่เกี่ยวข้องกับองค์การสหประชาชาติ อาทิ การกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 การกล่าว Welcoming Remarks ในกิจกรรมคู่ขนานระดับสูง ของประเทศไทยและอาเซียน ซึ่งประเทศไทยและคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสําหรับเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UNESCAP) ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ การกล่าวในกิจกรรมระดับผู้นําและการเข้าร่วมการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ําจะนําเสนอบทบาทของไทยด้านความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับความท้าทายระหว่างประเทศในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนายกรัฐมนตรี ยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะพบหารือกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของต่างประเทศและมีกําหนดพบหารือกับผู้บริหารสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกาและอาเซียน หอการค้าสหรัฐอเมริกาและภาคเอกชนสหรัฐฯ ซึ่งมีบริษัทเอกชนมาร่วมจํานวนมาก เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ยืนยันแนวทางด้านนโยบายของไทยที่สนับสนุนการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ จนส่งผลให้ภาพรวมของวิถีชีวิตประชาชนดีขึ้น
17/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917122306127
245,741
ผบ.ตร. เปิดงานวิ่งสร้างภูมิคุ้มกัน “วัคซีนไซเบอร์” ของตำรวจภูธรภาค 8 ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมสุขภาพ สร้างการรับรู้ สร้างเครือข่ายการรับรู้ รู้ทันกลโกง ประชาชน ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน
วันนี้ (17 กันยายน 2566) ที่ ปลายแหลมสะพานหิน อําเภอเมืองภูเก็ต พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานวิ่งสร้างภูมิคุ้มกัน “วัคซีนไซเบอร์” ตํารวจภูธรภาค 8 โดยมี พลตํารวจโท สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย นายอํานวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ข้าราชการตํารวจในสังกัดตํารวจภูธรภาค 8 และประชาชน เข้าร่วมจํานวนมากพล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันสถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้น จากระบบการรับแจ้งความออนไลน์ ของสํานักงนตํารวจแห่งชาติ มีประมาณ 800 คดี ต่อวัน โดยคดีที่มีการแจ้งความมากที่สุด คือ การหลอกซื้อสินค้าหรือบริการ รองลงมา คือคดีหลอกให้โอนเงินเพื่อทํางาน และหลอกให้กู้เงิน ตามลําดับ โดยคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูงสุด คือคดีหลอกให้ลงทุน รองลงมา คือ หลอกให้โอนเงินเพื่อทํางาน และคดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ หรือ Call Center ตามลําดับ โดยที่ผ่านมา แม้สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จะปรับกลยุทธ์ให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ใดก็ได้ เพื่อจะได้ระงับความเสียหายและดําเนินคดีต่อไป ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังคงปรากฎว่ามีประชาชนหลงเชื่อ ถูกหลอกให้โอนเงิน อยู่เป็นประจํา ทําให้จําเป็นจะต้องเสริมสร้างความรู้ ให้กับประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง เพื่อรู้ทันกลโกง จึงกําหนดให้มี วัคซีนไซเบอร์ เป็นเสมือนวัคซีน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของคนร้าย มีสติรู้ทันกลโกง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวต้องช่วยกันเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้อย่างแพร่หลายในทุกมิติ ซึ่งแนวคิดของตํารวจภูธรภาค 8 ที่ใช้การวิ่งแข่งขัน ซึ่งนอกจากเป็นการออกกําลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีแล้วยังเป็นช่องทางในการสื่อสาร เสริมสร้างความรู้ ให้ตระหนักถืงภัยอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีเพื่อรู้ทันกลโกง โดยการทําแบบทดสอบที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติกําหนด ซึ่งมีผู้ผ่านการทดสอบ 1,735 ราย ที่จะเป็นเครือข่ายในการขยายการรับรู้ เพื่อรู้ทันกลโกงต่อไปทางด้าน พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ตามนโยบายของผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นให้ความสําคัญ ในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน ทั้งในมิติ On GROUND และ On LINE โดยเฉพาะในสังคมยุคดิจิทัล Cyber Crime อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรืออาชญากรรมออนไลน์ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว เปรียบเสมือนโรคระบาดมีประชาชนหลงเชื่อและถูกหลอก ให้โอนเงินอยู่เป็นประจํา จึงจําเป็นต้องมีวัคซีนป้องกัน เป็น “วัคซีนไซเบอร์” ผ่านการทําแบบทดสอบเพื่อสร้างความตระหนักรู้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายมีสติ รู้ทันกลโกง ตามแนวทาง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” ตํารวจภูธรภาค 8 จึงจัดโครงการวิ่งสร้างภูมิคุ้มกัน “วัคซีนไซเบอร์” โดยแบ่งการวิ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะทาง 11 กิโลเมตร ระยะ 5 กิโลเมตร และระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อให้ประชาชน รู้ทันกลโกง “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เสริมสร้างความรู้ ให้กับประชาชน ผ่านแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งผู้ข้าร่วมจะต้องผ่านการทดสอบ 35 ข้อ จากจํานวน 40 ข้อ จึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมวิ่งในครั้งนี้ และมีผู้ร่วมทําแบบทอดสอบ 1,744 ราย และผ่านการทดสอบ 1,735 ราย ที่ร่วมเข้ากิจกรรมในวันนี้
17/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917090803096
245,742
นายกรัฐมนตรี ขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดพร้อมถกแผนแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประชุมขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ห้องประชุมสํานักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปู อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และหัวหน้าหน่วยราชการจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมประชุม นายกรัฐมนตรี เน้นย้ํานโยบายรัฐบาล ให้หน่วยงานราชการบูรณาการและเป็นเสาหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่วมกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ต้องดําเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบ ในขณะที่ผู้ค้าต้องปราบปรามอย่างเข้มข้นและยึดทรัพย์ในที่ประชุมดังกล่าว กําหนดแผนแก้ไขปัญหา แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อลดปัญหายาเสพติดในสังคมไทย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างจริงจังมีการกําหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่วัดผลได้ จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเผาทําลายยาเสพติดของกลาง ณ บริษัท อัคคีปราการ จํากัด
17/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917184350179
245,743
นายกรัฐมนตรี ผนึกกำลังถกแผนแก้ปัญหายาเสพติดเร่งด่วน พร้อมเป็นประธานเผาทำลายยาเสพติดของกลางกว่า 25 ตัน
วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติและหัวหน้าหน่วยราชการจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมประชุมนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ํานโยบายรัฐบาลให้หน่วยงานราชการบูรณาการและเป็นเสาหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่วมกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ต้องดําเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบ ในขณะที่ผู้ค้าต้องปราบปรามอย่างเข้มข้น และยึดทรัพย์ พร้อมถกแผน 3 ระยะ เพื่อลดปัญหายาเสพติดในสังคม และให้ประเทศไทยกลับมามีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง มีการกําหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่วัดผลได้จากนั้นในเวลา 14.30 ที่บริษัท อัคคีปราการ จํากัด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน ในพิธีเผาทําลายยาเสพติดของกลาง โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ จากการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมในพิธี พร้อมด้วยนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม ประชาชน จากหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน กว่า 200 ราย ร่วมเป็นสักขีพยานในการเผาทําลายยาเสพติดครั้งนี้ โดยเป็นการทําลายของกลางยาเสพติดของกลางจากคดียาเสพติด จํานวน 100 คดี เป็น ยาบ้า 12,522 กิโลกรัม ไอซ์ 11,656 กิโลกรัม เฮโรอีน 418 กิโลกรัม ฝิ่น 179 กิโลกรัม คีตามีน 704 กิโลกรัม และสารเสพติดอื่น ๆ น้ําหนักรวม 25,517 กิโลกรัม ซึ่งทําลายโดยการเผาไหม้ด้วยระบบเตาเผาอุณหภูมิสูง 2 ชุด เผาไหม้ที่ 800-1,200 องศาเซลเซียส ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง พร้อมระบบควบคุมมลพิษอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทําลายได้หมดสิ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนด้านนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงการเผาทําลายยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดที่สามารถทําได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคดีสิ้นสุดซึ่งบางคดีใช้เวลาเป็น 10 ปีซึ่งช่วยลดภาระในการเก็บรักษาได้จํานวนมากนอกจากนั้น สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งให้สํานักงาน ป.ป.ส. เป็นสถานที่เก็บรักษายาเสพติดของกลาง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 เพื่อให้การดําเนินการเก็บรักษายาเสพติดของกลางเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าด้วยการตรวจรับ การตรวจพิสูจน์ การเก็บรักษา การทําลาย การนําไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด พ.ศ. 2565 ทําให้ กระบวนการ ตรวจรับเก็บรักษาและทําลายยาเสพติด สามารถดําเนินการได้โดย สํานักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้กระบวนการทําลายยาเสพติดทําได้รวดเร็วขึ้น และลดภาระการเก็บรักษา พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ายาเสพติดที่จับมาได้นั้น จะถูกทําลายโดยเร็วหลังการตรวจพิสูจน์ ไม่มีการนํามาเวียนขายได้อีกแต่อย่างใด โดยการทําลายยาเสพติดจะต้องทําอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับการจับกุมยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่ากระบวนการมีความโปร่งใสทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้
17/9/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917155815168
245,744
นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนนครนิวยอร์กประเทศ สหรัฐอเมริกา บ่าย 18 กันยายนนี้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลา 16.00 น. วันนี้ (18 ก.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นภารกิจในเวทีต่างประเทศครั้งแรกในฐานะผู้นํารัฐบาลไทยคนใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมสําคัญหลายเวที อาทิ การประชุมระดับผู้นําว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SCG Summit) ซึ่งเป็นการประชุมของผู้นําที่จะร่วมหารือกระตุ้นให้ทุกประเทศเห็นความสําคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้บรรลุเป้าหมาย และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังมีกําหนดการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เลขาธิการสหประชาชาติ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย พร้อมเดินหน้าแสวงหาความร่วมมือสร้างโอกาสไปด้วยกัน โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนมิติของภาคธุรกิจ นายกรัฐมนตรีได้นําคณะนักธุรกิจไทย ร่วมเดินทางมายังนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อหารือกับผู้บริหารของภาคเอกชนสหรัฐอีกด้วย โดยในส่วนของไทยจะเน้นการเชื่อมโยงโมเดลเศรษฐกิจ BCG ประกอบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งกําลังจับตามอง จึงถือเป็นโอกาสอันดีของไทยที่จะมาขยายการตลาดในภูมิภาคนี้ต่อไป
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918091609205
245,745
วุฒิสภา เตรียมพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรม
การประชุมวุฒิสภา ในเวลา 09.30 น. วันนี้(18 ก.ย.66) ภายหลังประธานแจ้งต่อที่ประชุมรับทราบผลการดําเนินการของคณะรัฐมนตรีตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และรับทราบรายงานการประชุมวุฒิสภา จํานวน 3 ครั้งแล้ว จากนั้นมีวาระพิจารณาเรื่องด่วนตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทําหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ตามข้อบังคับ ข้อ 105) และรายงานผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจริยธรรมสมาชิกวุฒิสภาของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา กรณีนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 42)นอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่องระบบบริการสุขภาพสําหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ซึ่งคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขพิจารณาเสร็จแล้ว
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918092113208
245,746
มทภ.4 ยืนยัน คณะฯ สล.3 เดินหน้าขับเคลื่อนการพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต. ย้ำมิตรภาพ ความร่วมมือด้านความมั่นคงของไทย-มาเลเซีย นำสันติสุขสู่ประชาชน
พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยถึง บทบาทความสําคัญการปฏิบัติงานของคณะประสานงานระดับพื้นที่ หรือ (สล.3) ในช่วงปี 2566 ที่ช่วยหนุนเสริมการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บรรลุผลสําเร็จตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน พบว่า ประชาชนทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม ผู้นําท้องที่ ผู้นําศาสนา ต่างมีบทบาทสําคัญในการรวบรวมข้อมูล เพื่อนําไปสู่การพูดคุยเพื่อสันติสุขในครั้งต่อๆ ไป พร้อมย้ําว่าหน่วยงานความมั่นคงและผู้นําศาสนาซึ่งเป็นตัวแทนคณะฯ สล.3 ประจําพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกจังหวัด ได้ชี้แจงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความคืบหน้าของการหารือในแต่ครั้ง รวมถึงให้การสนับสนุนการทํางานร่วมกับประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกกิจกรรม ส่งผลให้ประชาชนมีความเข้าใจสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น ซึ่งภาพรวมตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาไม่พบชาวไทยพุทธอพยพย้ายถิ่นออกจากพื้นที่ ขณะที่ชาวไทยพุทธบางส่วนพร้อมกลับมายังภูมิลําเนาบ้านเกิด ส่วนความคืบหน้าการพูดคุยทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านได้หยุดชะงักไป เนื่องจากรอการจัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ ยืนยันในฐานะหัวหน้าคณะประสานงานระดับพื้นที่ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขครั้งต่อไปของรัฐบาลใหม่ในอนาคต และยังเป็นสื่อกลางเดินหน้ากระบวนการพูดคุย พร้อมย้ําว่าคณะฯ สล.3 ยังคงทําหน้าที่ร่วมกันนําเสนอทุกปัญหา สะท้อนทุกมุมมอง ในความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดําเนินงานแก้ไขปัญหา และระดมความคิดเห็น แนวทางหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บรรลุผลสําเร็จ สําหรับ การสานต่อข้อเสนอแนะภาคประชาสังคมผ่านผู้แทน ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมด 8 กลุ่ม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อําเภอของสงขลา ก็จะได้รวบรวมข้อมูลไปประกอบการหารือในที่ประชุมได้รับทราบเพื่อพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างต่อไป ขณะที่ การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-มาเลเซีย (RBC) ที่จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะประธานกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคฝ่ายไทย ยืนยันว่า กิจกรรมด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศมีความร่วมมือระหว่างกันอย่างแนบแน่น แม้ประเทศมาเลเซียมีการเปลี่ยนผู้นําเหล่าทัพ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและรักษาเสถียรภาพความมั่นคงตามแนวชายแดนให้สอดคล้องกับกรอบนโยบายของคณะกรรมการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนพัฒนาสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน รวมทั้งหนุนเสริมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อันจะนํามาซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918093301212
245,747
ครม. พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งสำคัญในกระทรวงมหาดไทย
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (18 ก.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งเป็นการประชุมก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18 – 24 กันยายน 2566 โดยมีวาระสําคัญคือ กระทรวงมหาดไทยเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในสังกัดของกระทรวงมหาดไทย อาทิ ตําแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกษียณอายุราชการ เสียชีวิตและลาออก
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918100716226
245,748
เจ้าหน้าที่สกัดจับรถหลบหนีด่านตรวจพบคนร้ายมีหมายจับคดีความมั่นคง 13 หมาย
พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยกรณีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 เวลา 13.20 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธรปะลุกาสาเมาะ อําเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส จัดตั้งจุดตรวจบนทางหลวงหมายเลข 42 บริเวณหน้าสถานีตํารวจภูธรปะลุกาสาเมาะ ได้ปรากฏรถยนต์เก๋ง จํานวน 1 คัน แสดงอาการพิรุธไม่ยอมขับเข้าจุดตรวจ แต่ได้กลับรถบริเวณกลางถนนและขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ติดตามสกัดจับ ตรวจพบบุคคลภายในรถยนต์คันดังกล่าวเป็นชายจํานวน 5 คน ประกอบด้วย นายซุฟยัน อายุ 22 ปี ภูมิลําเนา ตําบลบ้านโหนด อําเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา นายอิบรอฮิม อายุ 41 ปี ภูมิลําเนา ตําบลเปียน อําเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา นายซีฮาบุดดีน อายุ 24 ปี ภูมิลําเนา ตําบลปะลุกาสาเมาะ อําเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส นายซูฮัยมี อายุ 25 ปี ภูมิลําเนา ตําบลบ้านโหนด อําเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา นายอัซมัน อายุ 28 ปี ภูมิลําเนา ตําบลลําไพล อําเภอเทพา จังหวัดสงขลาโดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่า นาย อัซมันฯ เป็นบุคคลผู้มีหมายจับในคดีความมั่นคงจํานวน 13 หมาย ที่สําคัญได้แก่ ก่อเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ อส.ชุดคุ้มครองครูตําบลห้วยเต่า อําเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย , ก่อเหตุลอบวางระเบิดชาวบ้านหาปลาและเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ทําให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรวม 3 ราย และก่อเหตุลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้าสาย หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟตกราง ตู้สินค้าได้รับความเสียหายจํานวนมาก รวมทั้งทําให้เจ้าหน้าที่การรถไฟที่เข้าไปกู้ซ่อมรางรถไฟถูกระเบิดซ้ําลูกที่สอง เสียชีวิตจํานวน 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 4 รายนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ของคนร้ายพบหลักฐานการจดบันทึกเฝ้าสังเกตุความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่รวมทั้งธงสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจํานวนหนึ่ง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและคนร้ายไปยังศูนย์ซักถามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขยายผลต่อไปทั้งนี้ ภายหลังทราบเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กําชับให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในศูนย์ซักถามปฏิบัติต่อบุคคลที่ถูกควบคุมตัวตามหลักกฎหมายและตามหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยทุกขั้นตอนต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และต้องไม่กระทําการอันใดอันเป็นการละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนเป็นอันขาด รวมทั้ง หากพี่น้องประชาชนพบเห็นเบาะแสผู้กระทําผิด บุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถโทรแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคง หรือหมายเลขสายตรง กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรงผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 0611732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทําผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนําพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
18/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918120129264
245,749
เป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีเห็นความสำคัญ ในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ให้ความสําคัญกับการแก้ปัญหายาเสพติดว่า ในฐานะที่เคยรับผิดชอบแก้ไขปัญหายาเสพติดมาก่อน รู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรี เอาจริงเอาจังกับปัญหายาเสพติด ซึ่งส่วนตัวคิดว่าในระดับรัฐมนตรี ไม่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้สําเร็จ เพราะการปราบพลังยาเสพติด ต้องอาศัยความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานคือ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ทําหน้าที่ปราบปราม สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ทําหน้าที่ยึดทรัพย์, ตํารวจมีหน้าที่จับกลุ่มสืบสวนสอบสวนขยายผล และสรรพากรที่จะเข้ามาดําเนินการตามกฎหมายหลังจากตรวจสอบทรัพย์สินแล้วก็เข้าสู่กระบวนการของกระทรวงการคลัง ซึ่งนายกรัฐมนตรีดูแลทุกส่วนส่วนสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแนวทางการผ่อนคลายมาตรการทางกฎหมายว่า ย้อนไปสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2548 ได้ยกเลิกกฎอัยการศึกทั้งหมดและใช้พระราชกําหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแทน ปัจจุบันเหลือ 21 อําเภอ ที่คงสถานภาพเดิม ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แต่หากยกเลิกทั้งหมดก็จะใช้ พ.ร.บ.ปกติดูแลสถานการณ์แทน ซึ่งก็ต้องติดตามว่าในโอกาสข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะเกี่ยวกับภาพรวมทั้งหมด ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสร็จสิ้นจะยุบสภาเลยหรือไม่นั้น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นคนละเรื่องกับการบริหารงานของรัฐบาล คงไม่สามารถคํานวณเวลาได้ เพราะไม่อยากให้ประชาชนสับสน ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจง ในฐานะของฝ่ายบริหาร ก็ขอตอบเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ส่วนการแบ่งงานในกระทรวงที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการที่มาจากคนละพรรคการเมือง ก็มักจะมีข่าวเรื่องการแบ่งงานที่ไม่ลงตัวเป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อว่า สุดท้ายจะสามารถตกลงกันได้ ตอนนี้เพียงเป็นการเริ่มต้นของการทํางาน หากมีการพูดคุยกันก็คงจะไม่มีปัญหา
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918142435323
245,750
นายกรัฐมนตรีย้ำ นอนทำเนียบแน่นอน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างตกแต่งห้อง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เคยพูดว่าจะนอนค้างที่ทําเนียบรัฐบาล โดยยืนยันว่าจะนอนค้างที่ทําเนียบรัฐบาลแน่นอน แต่ขณะนี้ห้องยังตกแต่งไม่เสร็จ
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918135148297
245,751
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันการอนุมัติงบประมาณเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การอนุมัติงบประมาณเดินทางไปดูงานประเทศสิงคโปร์สามารถทําได้ เพราะมองว่าเป็นประโยชน์ต่อกิจการงานของสภาผู้แทนราษฎร เพราะประเทศสิงคโปร์มีสิ่งที่สามารถนํามาปรับใช้กับประเทศไทยและเป็นการไปเพียง 2 วันเท่านั้น ส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดต้องพักโรงแรมราคาแพงและนั่งเครื่องบินชั้นนักธุรกิจ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมายและตามที่สํานักงบประมาณ กรมบัญชีกลางกําหนดไว้ และเป็นการเบิกจ่ายตามจริงประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวอีกว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานต้องพิจารณางบประมาณและความเหมาะสม ซึ่งตนเองอาจจะต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายที่มีงบประมาณเพื่อไปศึกษาดูงานต่างประเทศให้ใช้ด้วยความระมัดระวังและคุ้มค่าต่องบประมาณที่เสียไป
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918135443302
245,752
มทภ.4 ยืนยัน คณะฯ สล.3 เดินหน้าขับเคลื่อนการพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต.ย้ำ ความร่วมมือไทย-มาเลเซีย แนบแน่น เพื่อนำสันติสุขกลับคืนแก่ประชาชน
พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยถึงบทบาทความสําคัญการปฏิบัติงานของคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ในห้วงปี 2566 ที่ผ่านมาว่า ได้ร่วมประชุมหารือกว่า 150 ครั้ง เพื่อขับเคลื่อนงานหนุนเสริมการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้บรรลุผลสําเร็จตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน พบว่าทั้งพี่น้องไทยพุทธ ไทยมุสลิม ผู้นําท้องที่ ผู้นําศาสนา ต่างมีบทบาทสําคัญในการรวบรวมข้อมูล เพื่อนําไปสู่การพูดคุยเพื่อสันติสุขในครั้งต่อๆ ไป พร้อมย้ําว่า หน่วยงานความมั่นคงและผู้นําศาสนา ซึ่งเป็นตัวแทนคณะฯ สล.3 ประจําพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกจังหวัด ได้ชี้แจงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความคืบหน้าของการหารือในแต่ครั้ง รวมถึงให้การสนับสนุนการทํางานร่วมกับประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกกิจกรรม ส่งผลให้ประชาชนมีความเข้าใจสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น ซึ่งภาพรวมตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาไม่พบชาวไทยพุทธอพยพย้ายถิ่นออกจากพื้นที่ ขณะที่ชาวไทยพุทธบางส่วนพร้อมกลับมายังภูมิลําเนาบ้านเกิด ส่วนความคืบหน้าการพูดคุยทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านได้หยุดชะงักไป เนื่องจากรอการจัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ ยืนยันในฐานะหัวหน้าคณะประสานงานระดับพื้นที่ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขครั้งต่อไปของรัฐบาลใหม่ในอนาคต และยังเป็นสื่อกลางเดินหน้ากระบวนการพูดคุย พร้อมย้ําว่าคณะฯ สล.3 ยังคงทําหน้าที่ร่วมกันนําเสนอทุกปัญหา สะท้อนทุกมุมมอง ในความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดําเนินงานแก้ไขปัญหา และ ระดมความคิดเห็น แนวทางหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บรรลุผลสําเร็จสําหรับการสานต่อข้อเสนอแนะภาคประชาสังคมผ่านผู้แทนและคณะทํางานของ พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมด 8 กลุ่ม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อําเภอของสงขลา โดย คณะฯ สล.3 ได้รวบรวมข้อมูลไปประกอบการหารือในที่ประชุมได้รับทราบเพื่อพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างต่อไป ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-มาเลเซีย (RBC) ที่จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะประธานกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคฝ่ายไทย ยืนยันว่า กิจกรรมด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศมีความร่วมมือระหว่างกันอย่างแนบแน่น แม้ประเทศมาเลเซียมีการเปลี่ยนผู้นําเหล่าทัพ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและรักษาเสถียรภาพความมั่นคงตามแนวชายแดนให้สอดคล้องกับกรอบนโยบายของคณะกรรมการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนพัฒนาสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน รวมทั้งหนุนเสริมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อันจะนํามาซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
18/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918131927282
245,753
ผู้ว่าฯ กทม. เตรียมหารือรัฐบาลหาแนวทางลดฝุ่น PM 2.5
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า กรุงเทพมหานครต้องเร่งศึกษาและปรับปรุงการพยากรณ์อากาศ โดยร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ และกรมอุตุนิยมวิทยา ในการบูรณาการข้อมูลเพื่อพัฒนา Application พยากรณ์อากาศและสถานการณ์ฝุ่นทั่วกรุงเทพมหานคร อีกทั้งมีการพิจารณาโครงการ Work form home เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางมาทํางานส่วนการจํากัดต้นตอของฝุ่น กรุงเทพมหานครมีการควบคุมดูแลอยู่ใน 3 ด้าน ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมในกรุงเทพมหานครมีประมาณ 5,000 แห่ง มีประมาณ 500 แห่งที่มีความเสี่ยงเนื่องจากใช้เชื้อเพลิงที่อาจเกิดฝุ่น PM2.5 ได้ จึงประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้เอาพิกัดโรงงานทั้งหมดลงจีพีเอสแล้วเข้าไปตรวจสอบข้อมูล อีกทั้งตอนนี้มีการมอนิเตอร์ 4 โรงงานที่มีความเสี่ยงมากอย่างใกล้ชิด ส่วนต่อมาคือการเปลี่ยนมาตรฐานรถยนต์และน้ํามันให้กลายเป็นมาตรฐานยูโร 5 ที่มีค่าของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และ PM 2.5 ออกมาน้อยกว่ามาตรฐานปัจจุบัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่ต้องหารือกับรัฐบาลด้วย อีกทั้งต้องประสานกับตํารวจและกรมการขนส่งทางบกในการสุ่มตรวจจับรถควันดําให้มากขึ้น และเรื่องของการเผาชีวมวลอาทิ ข้าว อ้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องหารือกับรัฐบาลเช่นกัน โดยในอนาคตอาจต้องหารือกับประเทศเพื่อนบ้านในการลดการเผาชีวมวลดังกล่าวเหล่านี้ด้วย
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918132816284
245,754
กทม. อำนวยความสะดวกกองถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ ผลักดัน Soft Power หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในกทม.
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการจัดตั้งศูนย์ประสานงานเรื่องการถ่ายทําภาพยนตร์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเพื่ออํานวยความสะดวกต่อกองถ่ายภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากสื่อประเภทภาพยนตร์นั้นเมื่อออกอากาศไปแล้วก็เสมือนการโปรโมทการท่องเที่ยวอีกทั้งเป็น Soft Power ให้กับกรุงเทพมหานครไปในตัวด้วย โดยการตั้งศูนย์ประสานงานฯ ดังกล่าว จะตั้งอยู่ที่อาคารทําการส่วนท่องเที่ยว แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร โดยจะใช้เจ้าหน้าที่ร่วมกันกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และให้ผู้อํานวยการสํานักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเป็นผู้อํานวยการศูนย์ดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งบูรณาความร่วมกันกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยในการประสานงานและอื่น ๆ อาทิ ตํารวจ ในการช่วยอํานวยความสะดวกการจัดการจราจรบริเวณที่จะถ่ายทํา เพื่อให้ผู้ขอใช้สถานที่ถ่ายทํา สามารถทํางานได้สะดวกยิ่งขึ้น
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918134728293
245,755
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมปรับแผนการดูแลบุคคลสำคัญ หากพบว่ามีขั้นตอนไม่เหมาะสม
พลตํารวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติ?ประ?ภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยระหว่างการตรวจพื้นที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารานั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ตํารวจที่นั่งอยู่บนรถยนต์นําขบวนดับเครื่องยนต์และลงมาจากรถว่า ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นต้องไปตรวจสอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไรและต้องดูแผนการทํางาน หากมีข้อผิดพลาดก็จะต้องปรับแผน ปรับยุทธวิถีในการดูแลบุคคลสําคัญ ซึ่งการดูแลบุคคลสําคัญนั้นจะมีการขั้นตอนระบุไว้อยู่แล้ว แต่หากพบว่ามีขั้นตอนที่ไม่เหมาะสมก็จะปรับให้เหมาะสมต่อไป
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918135653303
245,756
ครม. รับทราบการปรับลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย เริ่มตั้งแต่รอบบิลกันยายนนี้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบการรายงานของนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เกี่ยวกับมาตรการลดค่าไฟฟ้าว่า ผลการหารือกับคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.จะปรับลดราคาพลังงานจาก 4.10 บาทต่อหน่วย เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยให้เริ่มมีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918134745295
245,757
ยืนยันนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ยังแข็งแรง ไม่คิดลาออกจากตำแหน่ง
นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกระแสข่าวนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะลาออกจากตําแหน่งเพราะปัญหาสุขภาพ โดยยืนยันว่า นายวันมูหะมัดนอร์ ยังมีสุขภาพแข็งแรงดี โดยจะเห็นได้จากการทําหน้าที่ประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและการออกงานต่างๆ รวมถึงการลงพื้นที่ โดยย้ําว่ายังไม่มีความคิดที่จะลาออกจากตําแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918142112322
245,758
รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานวันสถาปนาศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร ครบรอบ 44 ปี พร้อมเปิดอาคารงานประติมากรรมของหน่วย
วันที่ 18 กันยายน 2566 ที่กองบัญชาการศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ ค่ายจิรวิชิตสงคราม ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี พลอากาศเอก ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเนื่องในวันสถาปนา ศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร ครบรอบ 44 ปี ของการก่อตั้งหน่วย ทั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงาน กําลังพล ครอบครัว ตลอดจนอุทิศส่วนกุศลให้แก่กําลังพลของหน่วย ที่ได้เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ในสมรภูมิต่างๆ ทั่วประเทศ ในอดีตที่ผ่านมา และในโอกาสครบรอบ 44 ปี ศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร พลอากาศเอก ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ยังได้เปิดอาคารงานประติมากรรม “กระบวนการผลิตอาวุธกระสุน” บริเวณสระบัว ด้านข้างศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร พร้อมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ลงสู่แหล่งน้ําด้านหน้า อาคารงานประติมากรรม พร้อมทั้งเยี่ยมชมนวัตกรรม จุดบริการชาร์จไฟฟ้า ด้วยโซล่าเซลล์ ซึ่งเกิดจากแนวคิดริเริ่มของหน่วย เพื่อเป็นต้นแบบของการจัดหาแหล่งพลังงานทดแทน เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่ากระแสไฟฟ้าให้แก่กําลังพลและครอบครัวของหน่วย พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมผลงานด้านการวิจัยและพัฒนาของหน่วย ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการเก็บรวบรวมองค์ความรู้ ทางด้านวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ที่มีมานานกว่า 40 ปี และเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของกําลังพลให้สามารถเพิ่มศักยภาพในด้านการผลิตของหน่วยในอนาคต และเพื่อเป็นศูนย์รวมของบุคลากรที่มีขีดความสมารถในการวิจัยและพัฒนาชั้นสูงของหน่วยมาร่วมกันพัฒนางานด้านการวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรม ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ตอบสนองความต้องการของกองทัพ ที่นอกเหนือการวิจัยและพัฒนาด้านอาวุธแล้ว ยังสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ด้วยในการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918143002325
245,759
นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุม UNGA78
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ออกเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18 – 24 กันยายน 2566 ซึ่งจะออกเดินทางในวันนี้ (18 ก.ย.) เวลา 16.00 น. ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเดินทางพร้อมกับ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) มีกําหนดเดินทางถึงนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ช่วงเช้ามืดของวันที่ 19 กันยายน 2566 (เวลาที่สหรัฐอเมริกาช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง)ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง จะเริ่มภารกิจในวันที่ 19 กันยายน 2566 และในส่วนของภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการประชุม UNGA78 ได้แก่ นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นําว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Summit) และจะร่วมกล่าวถ้อยแถลงในช่วง Leaders’ dialogue 6 “Mobilizing finance and investments and the means of implementation for SDGs achievement” และในช่วงค่ํานายกรัฐมนตรี จะร่วมงานเลี้ยงรับรอง เพื่อเป็นเกียรติแก่ประมุข/หัวหน้ารัฐบาลที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 78 และคู่สมรส
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918135828304
245,760
เช่าเหมาลำเครื่องบิน 30 ล้านบาท ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ไม่มีนักธุรกิจร่วมเดินทาง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการใช้งบประมาณในการเหมาลําเครื่องบินถึง 30 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ได้มีการแถลงไปหลายครั้งแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่แถลง ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีนักธุรกิจร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วยส่วนการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีนั้น เพื่อให้มาดูเรื่องกฎหมาย
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918141412315
245,761
สนามบินเชียงใหม่ เปิดเที่ยวบินเข้า-ออก ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่ม 1 พฤศจิกายนนี้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้(18 ก.ย.66)ว่า สืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่แล้วนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้เน้นเรื่องการท่องเที่ยว รวมถึงได้ลงพื้นที่ติดตามเพื่อให้เกิดการลงมือปฏิบัติที่จังหวัดเชียงใหม่ ในการกระตุ้นเพิ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วสามารถเดินทางกลับไปทํางานต่อได้ ซึ่งจากการเจรจากับผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานการบินเชียงใหม่ ได้ข้อสรุปว่า จะเปิดทําการให้มีเที่ยวบินเข้า-ออกได้ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ยังสอดคล้องถึงเรื่องวีซ่าฟรีด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ํากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามให้เกิดเผลและเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918140550308
245,762
ครม.มีมติแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดหลายตำแหน่ง
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบแต่งตั้งตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จํานวน 24 ราย โดยมีตําแหน่งที่สําคัญ อาทิ นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด มาดํารงตําแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ พ้นจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มาดํารงตําแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม พ้นจากตําแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาดํารงตําแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ มาดํารงตําแหน่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสุภกิณห์ แวงชิน พ้นจากตําแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย มาดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกขณะที่การโยกตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด แทนตําแหน่งของนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร หรือผู้ว่าหมูป่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ที่เสียชีวิต โดยให้นายภาสกร บุญญลักษม์ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มาดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีแทน นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา มาดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายทวี เสริมภักดีกุล พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเลย มาดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ พ้นจากตําแหน่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ มาดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายโสภณ สุวรรณรัฐ พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ มาดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มาดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918140856311
245,763
ครม. รับทราบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ปรับเพิ่มงบเป็น 3.48 ล้านล้านบาท
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2567 จากเดิมอยู่ที่ 3.35 ล้านล้านบาท เป็น 3.48 ล้านล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาล ส่วนรายละเอียดที่เพิ่มในปีงบประมาณนั้นเป็นเรื่องลงทุน แต่ทางสํานักงบประมาณจะส่งเอกสารให้กับคณะรัฐมนตรีได้รับทราบอีกครั้งอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะเน้นพบปะผู้นําประเทศต่างๆ เพื่อแสวงหาความร่วมมือและดึงดูดการค้าและลงทุน ขณะเดียวกันจะเน้นพบกับผู้นําภาคเอกชนรายใหญ่ของโลกเพื่อที่จะดึงให้บริษัทชั้นนําให้มาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนและเป็นฐานการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อส่งออกในเวทีใหญ่ โดยหลายปีที่ผ่านมาผู้นําประเทศไทยไม่ได้ไปแสดงวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรี จึงหวังว่าจะใช้เวทีสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UN นี้ ไปแสดงวิสัยทัศน์เพื่อให้นานาชาติได้มองเห็นภาพลักษณ์ของประเทศไทย ผ่านวิสัยทัศน์ของผู้นําประเทศ
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918154700354
245,764
นายกรัฐมนตรี เตรียมกล่าวถ้อยแถลงผลักดันวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้บรรลุเป้าหมาย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นําคณะ อาทิ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาแล้ว นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีจะเริ่มภารกิจเข้าร่วมประชุมระดับผู้นําว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Summit) และจะร่วมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม เพื่อให้การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) การลดโลกร้อนและการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดครั้งหน้า พร้อมย้ําถึงการเดินทางไปสหรัฐฯ ครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสสําคัญได้เข้าพบผู้นําประเทศต่างๆ และภาคธุรกิจเอกชนรายใหญ่ของโลก ทําให้ไทยเป็นฐานการลงทุนและผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ จะมีการพูดคุยเรื่องจับคู่ธุรกิจ (Business matching) เพื่อสานต่อการทํางาน ดึงดูดการลงทุนมายังประเทศไทยมากขึ้น โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มองว่าประเทศไทยมีจุดแข็งในทําเลที่ตั้ง ความพร้อมด้านโครงสร้างสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งสนามบิน ท่าเรือ กฎหมาย รัฐบาลพยายามปรับปรุงให้เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น จะเน้นย้ําให้ภาคธุรกิจเห็นถึงความพร้อมของไทยในหลายด้านทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มีกําหนดเดินทางถึงท่าอากาศยาน จอนห์ เอฟ เคนเนดี นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เวลา 02.20 น. หรือตรงกับเวลา 14.20 น.ของประเทศไทยวันนี้ (19 ก.ย.)
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919095421494
245,765
ผู้นำประเทศสมาชิกยูเอ็นทั้ง 193 ประเทศ และนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำของไทย ทยอยเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78
บรรยากาศที่ศูนย์ประชุมภายในอาคารสํานักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ได้เตรียมพร้อมต้อนรับประเทศสมาชิกเข้าร่วมการประชุม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ ทั้งสถานที่พักของผู้นํา ถนนทุกสาย รวมไปถึงที่ศูนย์ประชุมแห่งนี้ ตรวจตราบุคคลที่จะเข้า-ออก ต้องติดบัตรแสดงตนและจุดตรวจกล้อง รวมถึงจัดเตรียมเต๊นท์รองรับสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจมาร่วมทําข่าวจากทั่วโลก ทั้งนี้ ภายในสถานที่การประชุม มีการตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์ หรือโลโก้ SDGs เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 เป้าหมาย อาทิ การขจัดความยากจนในทุกรูปแบบ การขจัดความหิวโหยมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ความเท่าเทียมทางเพศ พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเผยแพร่วาระการพัฒนาระดับโลกนี้เป็นที่รู้จักและเร่งรัดให้ประเทศต่างๆ ผลักดันวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสิ่งที่จะทําในอีก 7 ปีข้างหน้าให้บรรลุเป้าหมายสําหรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเดินทางถึงในเวลา 02.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 14.20 น.ของประเทศไทย เมื่อเดินทางถึงสหรัฐอเมริกา จะปฎิบัติภารกิจแรก โดยเข้าร่วมประชุมระดับผู้นําว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG Summit และกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม โดยนายกรัฐมนตรี จะแสดงจุดยืนตามนโยบายรัฐบาลไทยในการเชื่อมโยงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) กับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ใน 3 หัวข้อหลักคือ การลดความเหลื่อมล้ํา การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919092216492
245,766
ผลักดันการปรับกฎหมายต่างๆ ให้ทันสมัย เพื่อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี หารือกับนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงแนวทางการทํางาน ที่ตึกบัญชาการ ทําเนียบรัฐบาล โดยนายปกรณ์ ได้รายงานกฎหมายที่มีทั้งหมดในประเทศไทยว่า ขณะนี้มีรัฐธรรมนูญ 1 ฉบับ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ พระราชบัญญัติ 910 ฉบับ พระราชกําหนด 39 ฉบับ ประมวลกฎหมาย 8 ฉบับ พระราชกฤษฎีกา 7,288 ฉบับ และกฎกระทรวง 7,382 ฉบับ ทั้งนี้แม้รัฐบาลไม่มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ก็ยังไม่พบปัญหาด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้ต้องช่วยกันปรับกฎหมายให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งตนเองมีความเข้าใจเรื่องการพัฒนากฎหมาย เนื่องจากขณะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้เป็นผู้ผลักดันกฎหมาย ช่วยเหลือสังคมสําเร็จไปแล้วกว่า 10 ฉบับ เช่น กฎหมายป้องกันการกระทําความผิดซ้ํา ที่เป็นการเฝ้าระวังบุคคลอันตรายไม่ให้กระทําความผิดซ้ําได้อีก ส่วนกฎหมายที่ผลักดันค้างไว้มี 2 เรื่อง ที่อยากให้ช่วยกันขับเคลื่อนต่อคือ กฎหมาย Law of Efficiency ที่จะทําให้เกิดการร้องเรียนยากขึ้น โดยต้องฟ้องอย่างมีเหตุผล เพื่อทําให้เจ้าหน้าที่กล้าทํางานมากขึ้น ไม่ต้องกลัวถูกร้องเรียน รวมถึงกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ที่จะเป็นการช่วยยกระดับเกษตรกร รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์และสนับสนุนการท่องเที่ยวขณะที่ นายปกรณ์ กล่าเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่ค้างอยู่ จะรับมาพิจารณาต่อและพร้อมผลักดันกฎหมายให้มีความทันสมัย ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการอํานวยความสะดวกประชาชน ซึ่งต้องมีทั้งปรับปรุงกฎกระทรวง ทํากฎหมายอํานวยความสะดวกทางราชการ เพื่อช่วยลดต้นทุน ลดการทุจริตและช่วยให้ประชาชนเข้าถึงกฎหมายได้ง่ายขึ้น
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919115159515
245,767
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันต่อให้เป็นพวกเดียวกันแต่เขาข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลก็ต้องตรวจสอบไม่มีการละเว้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันความโปรงใสในการจัดทําบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลว่า คําว่าผู้มีอิทธิพลต้องแบ่งเป็น 2 ฝ่ายทั้งผู้มีอิทธิพลในด้านดี ซึ่งเป็นส่วนที่ควรได้รับการยกย่อง ส่วนผู้มีอิทธิพลในด้านไม่ดี ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูง หรือนักการเมืองพวกเดียวกัน หากเข้าข่าย 1 ใน 16 พฤติการณ์ที่เขาข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลก็ต้องตรวจสอบ ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตอนนี้มีการจัดทําบัญชีรายชื่อแบบแบ่งโซนสีซึ่งส่วนที่ต้องเฝ้าระวังคือส่วนลิสต์รายชื่อที่อยู่ในบัญชีสีเหลือง หรือผู้มีอิทธิพลปานกลาง และสีแดงที่เป็นผู้มีอิทธิพลมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้มีอิทธิพลที่มากเกินไป พร้อมยืนยันหากใครใช้อํานาจในการรังแกประชาชนจะจัดการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919115726519
245,768
ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเกาะสมุย หวังลดปัญหาอาชญากรรมและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 18.00 น. ที่บริเวณลานจอดรถพรุเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยว ทําการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บ่อผุด ตํารวจจราจร ตํารวจท่องเที่ยว ตํารวจน้ํา และเจ้าหน้าที่จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานเกาะสมุย รวมกว่า 70 นายพล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยว กล่าวว่า กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยวได้รับนโยบายจากรัฐบาล และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางและการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยการบูรการในทุกภาคส่วน ทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสําคัญต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าในปลายเดือนนี้ ในวันที่ 24-25 กันยายน 2566 จะมีการเปิดวีซ่าฟรีของประเทศจีนและคาซัคสถานสามารถเข้ามาโดยไม่ต้องทําวีซ่าได้นั้น เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มเป็นจํานวนมาก ประเด็นสําคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทัพนักท่องเที่ยวที่เข้ามาว่า เมื่อเข้ามาแล้วจะได้รับการดูแลความปลอดภัยอย่างดี หรือมีปัญหาขัดข้องต่างๆ สามารถช่วยเหลือดูแลแก้ไขให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยวและสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ให้ความสําคัญ ส่วนกองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยวเรามีการระดมกําลังแก่ทุภาคส่วนตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 เป็นต้นมา มีการระดมย่อยในจุดต่างๆ ในภูมิภาค และมีช่องทางการติดต่อหมายเลข สายด่วน 1155 ซึ่งมีล่ามถึง 7 ภาษา จะสามารถช่วยรับแจ้งเหตุจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยสามารถใช้หมายเลขดังกล่าว เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือ และเมื่อได้รับแจ้งแล้วจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือในทันที ในส่วนของสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้มีการจัดตั้งศูนย์ประจําจังหวัดในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวขึ้นในทุกจังหวัด และมีจัดเก็บข้อมูลเพื่ออํานวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
19/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สวท.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919105730507
245,769
เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางทำประชามติพร้อมสอบถามประชาชนเห็นด้วยในแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการจัดทํารัฐธรรมนูญใหม่ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเองเป็นประธานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อทาบทามบุคคลที่มีความเหมาะสม โดยจะพยายามให้เป็นบุคคลที่มาจากหลายภาคส่วน รวมถึงผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายมหาชน เพราะต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วม ให้เกิดการทําประชามติ ส่วนแนวทางแก้ไขจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง แต่วันนี้สิ่งที่อยากเห็นคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด และสามารถผ่านทุกส่วนไปได้ เป็นที่พึงพอใจกับทุกฝ่าย ขณะเดียวกันรัฐบาลก็อยากให้ร่างรัฐธรรมนูญและการจัดทําประชามติ และเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีให้ผ่านได้ และยืนยันในหลักการจะไม่มีการแก้ไข ม.112 และในเบื้องต้นการทําประชามติจะมีการสอบถามประชาชนว่า จะแก้ไข หรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญและครั้งนี้ก็จะมีการหารือในส่วนของ สส.และ สว.รวมถึงภาคประชาชน โดยรวบรวมทั้งหมดมาดําเนินการและย้ําว่าจะทําประชามติโดยเร็วและการจัดทํารัฐธรรมนูญใหม่จะเสร็จภายใน 4 ปีแน่นอน ถ้าได้มีการตกลงรายละเอียดและทาบทามบุคคลก็จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง และจะเร่งทํางานทันทีเพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลอยากให้เกิดขึ้น ให้ประชาชนได้สบายใจ
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919120041521
245,770
นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว พร้อมกล่าวถ้อยแถลง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางถึงนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ตามเวลาประเทศไทยและได้เดินทางต่อมายังโรงแรมเจดับบลิว แมริออท เอสเสก เฮาส์ นิวยอร์ก ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก โดยมีนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน นายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจําสหประชาขาติ ผู้ช่วยทูตทหาร และทีมประเทศไทยให้การต้อนรับสําหรับภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรีเมื่อเดินทางถึงในวันนี้ (19 ก.ย.66) เวลา 16.45 น. หรือตรงกับเวลา 04.45 น.ตามเวลาประเทศไทย จะเข้าร่วมภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ได้แก่ เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นําว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Summit) และจะกล่าวถ้อยแถลงในช่วงผู้นํา เกี่ยวกับการระดมเงินทุนและการลงทุน และแนวทางการดําเนินงานเพื่อความสําเร็จของ SDGs” ก่อนที่ในช่วงค่ํา จะเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและภริยา จะเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองเพื่อเป็นเกียรติแก่ประมุข และหัวหน้ารัฐบาลที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 และคู่สมรสครั้งนี้
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919140431560
245,771