txt
stringlengths
202
53.1k
# [ลือ] Apple อาจเริ่มผลิต iPhone 15 บางรุ่น จากโรงงานที่อินเดียตั้งแต่วันแรก ข้อมูลนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg โดยเขาอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่าแอปเปิลยังเดินหน้าแผนลดการพึ่งพาการผลิตสินค้าจากโรงงานในประเทศจีน โดย iPhone รุ่นใหม่ของปีนี้หรือ iPhone 15 บางรุ่นย่อย จะผลิตและจัดส่งจากโรงงานที่อินเดียตั้งแต่วันแรกที่เริ่มขาย ที่ผ่านมาแอปเปิลจะสั่งผลิต iPhone รุ่นใหม่ทุกรุ่นจากโรงงานในจีนก่อน จากนั้นเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง โรงงานที่อินเดียจึงเริ่มผลิต iPhone บางรุ่นต่อ ในรายงานบอกว่า iPhone 15 จะเป็น iPhone รุ่นแรกที่เริ่มสายการผลิตในอินเดียเลย ส่วน iPhone 15‌ Plus, iPhone 15 Pro และ ‌iPhone 15 Pro‌ Max ยังคงผลิตจากโรงงานที่จีน โจทย์ท้าทายของแอปเปิลในการย้ายฐานการผลิตมาเริ่มต้นที่อินเดีย คือการย้ายซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรองรับการผลิตสินค้าใหม่ในอินเดีย ซึ่งที่ผ่านมาแอปเปิลควบคุมและเก็บความลับได้จากการผลิตในโรงงานที่จีนนั่นเอง ที่มา: MacRumors
# Miyamoto ยืนยัน สมาร์ทโฟนไม่ใช่แผนหลักสำหรับการออก Mario ภาคใหม่ Shigeru Miyamoto ผู้สร้างเกมมาริโอ้ ให้สัมภาษณ์ในโอกาสที่ภาพยนตร์แอนิเมชัน The Super Mario Bros. Movie เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว โดยเขายืนยันว่าแผนการออกเกมมาริโอ้ภาคใหม่ในอนาคต การนำลงเป็นเกมมือถือไม่ใช่แผนงานหลัก เขาบอกว่าที่ผ่านมานินเทนโดควบคุมประสบการณ์เล่นเกมได้ดี ผ่านการทำงานร่วมกันของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ จากประสบการณ์ที่นำเกมลงมือถือมา พบว่าการต้องให้เกมรองรับสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น แต่ยังให้ประสบการณ์เกมที่ดี คือเรื่องท้าทายที่สุด เกมในตระกูลมาริโอ้ที่ลงสมาร์ทโฟน ได้แก่ Dr. Mario World ที่ปิดลงหลังออกมา 2 ปี, ส่วนอีกสองเกม Super Mario Run และ Mario Kart Tour ทำเงินได้ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับเกมมาริโอ้ในคอนโซลภาคอื่น ทั้งนี้นินเทนโดมีเกมมือถือที่ประสบความสำเร็จสูงเช่นกันอย่าง Animal Crossing Pocket Camp และ Fire Emblem Heroes ที่มา: Engadget
# Samsung Electronics ลงโทษพนักงาน 3 รายหลังเอาข้อมูลผลิตชิปไปถาม ChatGPT เว็บไซต์ The Economist ในเกาหลีใต้รายงานว่า Samsung Electronics เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล 3 ครั้งหลังพนักงานนำข้อมูลสำคัญไปถาม ChatGPT แม้บริษัทจะอนุญาตให้พนักงานใช้งาน ChatGPT ในเรื่องทั่วๆ ไปได้ก็ตาม เหตุการณ์ที่พนักงานถูกลงโทษได้แก่ พนักงานส่งข้อความแสดงความผิดพลาดของโปรแกรมเข้าไปใน ChatGPT เพื่อให้ ChatGPT ช่วยแก้ปัญหาแต่ก็ทำให้ข้อมูลพื้นที่การผลิตถูกส่งไปยัง OpenAI ด้วย พนักงานเขียนโปรแกรมเกี่ยวกับอัตราการผลิตสำเร็จ (yield) ของโรงงานผลิต ทำให้ข้อมูลรั่วไหลไปยัง OpenAI พนักงานนำบันทึกประชุมแปลงเป็นข้อความ แล้วนำข้อความใส่ ChatGPT เพื่อทำบันทึกสรุปการประชุม หลังเกิดเหตุทั้งสามครั้ง ทางบริษัทแจ้งพนักงานให้ระมัดระวังในการใช้งาน และหากมีเหตุอีกก็อาจจะบล็อคไม่ให้ใช้งาน ChatGPT อีกเลย บริษัทขนาดใหญ่มักกลัวการใช้งาน ChatGPT เนื่องจากลัวว่าข้อมูลจะถูกนำไปฝึกปัญญาประดิษฐ์รุ่นต่อไปจนทำให้ข้อมูลรั่วออกไปภายนอก โดย OpenAI เองมีคำเตือนมาตลอดว่าอย่าใส่ข้อมูลสำคัญในช่องแชตของ ChatGPT ขณะที่การให้บริการผ่าน API นั้นทาง OpenAI สัญญาว่าจะไม่นำข้อมูลไปใช้งานอื่นต่อ ที่มา - Economist.co.kr
# [ลือ] Sony กำลังพัฒนา PlayStation แบบพกพา แต่เล่นผ่าน Remote Play กับ PS5 Insider Gaming รายงานอ้างอิงข้อมูลวงในว่า PlayStation กำลังพัฒนาเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่อยู่ในชื่อโค้ดเนม Q Lite โดยเป็นส่วนหนึ่งใน "เฟส 2" ของ PlayStation 5 ด้วย (มี รุ่นใหม่ที่บางลงมีช่องใส่แผ่นแยก, หูฟังไร้สาย (Project Nomad), เฮ้ดเซ็ตไร้สาย (Project Voyage) และ Q Lite) อย่างไรก็ตาม Q Lite ไม่ได้เป็นตัวแทนของ PS Vita ที่ใส่แผ่นเล่นเกมได้ในตัว หรือเป็นอุปกรณ์ Cloud Gaming แต่จะจำเป็นต้องมีเครื่อง PlayStation 5 เป็นเบสและตัว Q Lite จะเป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับเล่นผ่าน Remote Play เท่านั้น คุณภาพสูงสุด 1080p 60FPS ส่วนข้อมูลของ Q Lite ตอนนี้ จากโปรโตไทป์แรก ดีไซน์จะมาทรงเดียวกับจอย DualSense จอ LCD 8 นิ้ว มี Adaptive Trigger และรองรับ Haptic Feedback พร้อมฟังก์ชันมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์เกมพกพา เช่น ปุ่มปรับเสียง หูฟัง 3.5 ฯลฯ Inside Gaming ระบุด้วยว่า Q Lite พร้อมด้วยฮาร์ดแวร์อื่นๆ ใน "เฟส 2" จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ที่มา - Insider Gaming
# กรุงเทพมหานครเปิดตัวห้องสมุดออนไลน์ BKK X Hibrary อยู่ในเขต กทม. ยืมคืนอีบุ๊กได้ฟรี กรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท Hytexts Interactive ซึ่งเป็นบริษัททำระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ในเครือ Meb เปิดตัวห้องสมุดออนไลน์ของกรุงเทพชื่อ BKK X Hibrary ที่คนในเขตกรุงเทพสามารถมายืมหนังสืออีบุ๊กอ่านได้ฟรี ระบบ Hibrary ของ Hytexts เป็นหนังสืออีบุ๊ก (มีทั้ง PDF หรือ E-PUB) ที่มีระบบจัดการสิทธิ DRM และจำกัดจำนวนเล่มของอีบุ๊กที่ซื้อสิทธิมา ผู้ใช้บริการสามารถ "ยืม" อีบุ๊กได้ตามโควต้าที่หน่วยงานนั้นมี และมีจำกัดเวลายืมเหมือนหนังสือเล่มกระดาษจริงๆ เมื่อครบกำหนดยืมแล้ว อีบุ๊กเล่มนั้นจะกลับมาเข้าโควต้าเพื่อให้คนอื่นมีสิทธิยืมต่อไป Hytexts ทำระบบนี้ให้บริการกับหน่วยงานหลายแห่งในไทย เช่น หอสมุดแห่งชาติ สสส. รวมถึงสถาบันการศึกษา โรงเรียน บริษัทอีกหลายแห่งที่ทำระบบห้องสมุดให้บุคลากรของตัวเอง ในกรณีของกรุงเทพที่เป็นห้องสมุดประชาชน เปิดบริการแก่คนทั่วไป สามารถเข้าใช้งาน BKK x Hibrary ได้ฟรี โดยจำเป็นต้องเปิด location เพื่อยืนยันตัวตนว่าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพ (สโลแกนคือ "อีบุ๊กฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่") สามารถใช้ได้ทั้งทางเว็บไซต์ และแอพ Hibrary บนสมาร์ทโฟน
# Overwatch 2 เปิดตัวฮีโร่ใหม่ Lifeweaver เป็น Queer สายซัพพอร์ตจากประเทศไทย Overwatch 2 เปิดตัวฮีโร่คนใหม่ในเกมชื่อ Lifeweaver ซึ่งมาจากประเทศไทย (ชื่อจริงในเกมคือ Niran PruksaManee น่าจะถอดเป็นภาษาไทยว่า "นิรันดร์ พฤกษามณี") เนื้อเรื่องในเกมบอกว่าเป็นผู้รักธรรมชาติและสนใจเทคโนโลยี biolight ที่ใช้รักษาเพื่อนร่วมทีม ประเด็นสำคัญคือ Lifeweaver เป็นตัวละครที่ประกาศตัวเป็นเพศ queer มาตั้งแต่ต้น ซึ่ง Gavin Jurgens-Fyhrie ทีมออกแบบของ Blizzard บอกว่านี่เป็นความตั้งใจมาแต่แรก และได้ปรึกษากับชุมชน queer มาแล้วถึงตัดสินใจเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา Lifeweaver เป็นตัวละครสายซัพพอร์ต มีท่าหลักเรียกว่า Healing Blossom สร้างดอกไม้เรืองแสงเพื่อช่วยรักษาเพื่อนร่วมทีม ยิ่งมีเวลาชาร์จดอกไม้นานยิ่งรักษาได้เยอะ, ท่าหลักแบบที่สองคือ Thorn Volley ยิงหนามกระจายใส่ศัตรู เป้าหมายคือใช้ป้องกันแต่ก็สามารถใช้โจมตีได้เช่นกัน, ท่ารองเรียกว่า Petal Platform สร้างแพลตฟอร์มดอกไม้ลอยบนฟ้าที่ใช้ยืนหรือกระโดดให้สูงขึ้นได้, ท่าไม้ตายเรียก Tree of Life สร้างต้นไม้แสงที่ช่วยทั้งป้องกันและรักษาเพื่อนร่วมทีมไปพร้อมกัน ก่อนหน้านี้ Overwatch มีตัวละครหลากหลายเพศและเชื้อชาติ แต่ตัวละครเพศทางเลือก (ที่ไม่ใช่ชายหญิงแบบปกติ) หลายตัวไม่ได้ประกาศตัวชัดๆ ในตอนเปิดตัวครั้งแรก มักอยู่ในรูปเรื่องเล่าเพิ่มเติมในภายหลังแทน (เช่น Tracer เป็นเลสเบี้ยน, Soldier: 76 เป็นเกย์) กรณีของ Lifeweaver ถือเป็นครั้งแรกที่ Blizzard ใช้วิธีประกาศตัวให้ชัดตั้งแต่แรกเลย Lifeweaver จะเปิดให้เล่นพร้อมเนื้อหา Season 4 ในวันที่ 11 เมษายน ที่มา - Overwatch, Kotaku
# กสทช. อังกฤษสอบสวนผู้ให้บริการคลาวด์ ค่าส่งข้อมูลอออกแพงอาจมีผลเสียต่อการแข่งขัน Ofcom หรือกสทช. สหราชอาณาจักรประกาศผลการศึกษาตลาดคลาวด์ในประเทศ ที่ครองตลาดโดย AWS และ Azure โดยมี Google Cloud ตามมาห่าง และพบว่ามีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดไม่สามารถแข่งขันกันได้เต็มที่ โดยระบุถึงพฤติกรรมของผู้ให้บริการคลาวด์ 3 ประการ ได้แก่ ค่าส่งข้อมูลออก (egress fee) ค่าบริการในการส่งข้อมูลออกจากคลาวด์นั้นแพงกว่าปกติมาก โดยเฉพาะในผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ระดับ hyperscaler ส่งผลให้ลูกค้าไม่อยากย้ายไปคลาวด์เจ้าอื่น ข้อจำกัดทางเทคนิค ความไม่เข้ากันของซอฟต์แวร์ที่ทำให้การทำงานข้ามคลาวด์ทำงานได้ยากขึ้น สัญญาการใช้งานคลาวด์ ที่ผู้ให้บริการคลาวด์มักเสนอส่วนลดเมื่อลูกค้าสัญญาว่าจะใช้บริการมากขึ้นถึงระดับหนึ่ง ทำให้ลูกค้าอยากใช้งานคลาวด์เจ้าเดียวกับทุกบริการแม้จะมีบางบริการที่คลาวด์เจ้าอื่นให้บริการได้ดีกว่า Ofcom ยังระบุว่าคลาวด์รายใหญ่นั้นมีสัดส่วนกำไรสูงมากพร้อมๆ กับส่วนแบ่งตลาดที่สูง สภาพนี้ทำให้น่ากังวลว่าผู้ให้บริการรายเล็กจะแข่งขันได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้โครงการศึกษาเดินทางมาครึ่งทาง ทาง Ofcom จะเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อผลการสอบสวนครั้งนี้ และเมื่อการศึกษาเสร็จสิ้น จะออกเป็นคำแนะนำถึงมาตรการต่างๆ ต่อไป กำหนดออกคำแนะนำภายในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ที่มา - Ofcom ส่วนแบ่งตลาดคลาวด์ในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2021
# Meta เปิดระบบยืนยันตันตนก่อนโฆษณาการเมืองและเลือกตั้ง เปิดคลังโฆษณาดูข้อมูลย้อนหลังได้ 7 ปี Meta เปิดระบบให้เพจหรือผู้ใช้ที่ต้องการโฆษณาด้านการเมืองหรือการเลือกตั้งต้องขออนุญาตโฆษณาผ่านการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนหรือเอกสารที่รัฐบาลออกให้ก่อน เพื่อแสดงความโปร่งใสว่าใครเป็นสปอนเซอร์โฆษณา เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว ในโพสต์ที่มีการโฆษณาทางการเมืองและการเลือกตั้ง จะมีข้อความว่า “Sponsored, Paid for by” หรือ “ได้รับสปอนเซอร์จาก” ตามด้วยองค์กรที่มีอิทธิพลและเป็นผู้สนับสนุนโฆษณานั้น ๆ หากองค์กรที่ต้องการยืนยันตัวตนไม่ได้อยู่ในประเทศไทยจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงโฆษณาทางการเมืองเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากอิทธิพลต่างประเทศ กระบวนการในการยืนยันตัวตนสำหรับโฆษณาทางการเมืองจะใช้เวลาขออนุญาต 72 ชั่วโมง นอกจากนี้ Meta ยังสร้างคลังโฆษณา (Ad Library) ที่จัดเก็บข้อมูลโฆษณาทุกชนิด ระบุวันเวลา แพลตฟอร์มที่โพสต์ สปอนเซอร์ และบัญชีที่ยืนยันตัวตนไว้ หากเป็นโฆษณาทั่วไปจะสามารถดูข้อมูลได้เมื่อสถานะของโพสต์ยัง Active อยู่ แต่โฆษณาทางการเมืองและการเลือกตั้งสามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ 7 ปี แม้โฆษณานั้นจะไม่ Active แล้ว กระบวนการการยืนยันตัวตนเริ่มเปิดใช้เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ดังนั้น จะมีข้อมูลโฆษณาการเมืองย้อนหลังเริ่มจากวันที่เปิดใช้ระบบ ขณะนี้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดูข้อมูลในคลังโฆษณาได้แล้วที่ Ad Library ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
# Amazon ร่อนจดหมายปลดพนักงาน 100 คน ในแผนกวิดีโอเกม นับตั้งแต่มีการเปิดตัว Amazon Games ในปี 2013 มีการปล่อยเกมออกมาหลายโปรเจกต์ แต่หลังจาก Andy Jassy CEO ของ Amazon ได้มาควบคุมต้นทุนของบริษัท เมื่อเดือนที่ผ่านมาทาง Amazon ได้ประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงานอีก 9,000 คน ถ้ารวมกับรอบที่แล้วถือว่าเลิกจ้างพนักงานไปเป็นจำนวน 18,000 คน ซึ่ง 100 คน ทำงานอยู่ในแผนก Game Growth, Amazon Gaming Studio ที่ San Diego และ Prime Gaming แต่มีพนักงานบางคนได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ไปทำงานแผนกอื่นแทน นอกเหนือ Amazon Games ยังมีการเลิกจ้างพนักงานในแผนก Telehealth และ Delivery robot อีกด้วย ตั้งแต่ Amazon Games เปิดตัว ได้มีการจ้างพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญจาก Sony Online Entertainment แต่ก็ประสบปัญหาในการสร้างเกมที่ไม่ได้สำเร็จตรงตามเป้าหมาย ถึงแม้จะมีการเปิดตัว Crucible, Lost Ark และ New World ที่ประสบความสำเร็จระดับหนึ่งก็ตาม ซึ่งก่อนหน้านี้ Mike Frazzini และ John Smedley หัวเรือของ Amazon Games ได้ลาออกจากบริษัทไปก่อนหน้านี้แล้ว Christoph Hartmann รองประธานของ Amazon Games ได้เขียนจดหมายถึงพนักงาน เนื้อหาในประกาศเลิกจ้างงานส่วนหนึ่งได้ระบุว่า “ทางบริษัทจะจ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงานพร้อมยังระบุอีกว่า โปรเจกต์เกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวและเปิดตัวไปแล้วอย่าง New World จะยังคงพัฒนาต่อไป ในทีมงานที่เล็กลง” ซึ่งนอกจาก Amazon แล้วยังมี Apple, Google และ Meta ที่มีประกาศปลดพนักงานไปบางส่วนพร้อมออกมาตรการควบคุมต้นทุนบริษัทอย่างเข้มงวดแล้ว ที่มา:CNBC
# Terry Gou ผู้ก่อตั้ง Foxconn ยืนยันเตรียมลงชิง ปธน. ไต้หวันอีกรอบ Terry Gou ผู้ก่อตั้งและอดีตประธาน Foxconn เคยประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันตั้งแต่ปี 2019 พร้อมลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดของบริษัท ก่อนจะแพ้ตั้งแต่การชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคก๊กหมิ่นตั๋ง ในการชิงชัยประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 ล่าสุด Terry Gou เปิดเผยว่าเตรียมจะลงแข่งขันด้านการเมืองอีกครั้ง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า 2024 โดยจะเริ่มจากการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคก๊กหมิ่นตั๋งเช่นเดิม ก่อนจะไปแข่งกับวิลเลียม ไล (William Li) รองประธานาธิบดีไต้หวันปัจจุบัน ที่เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าในการชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศ นโยบายของ Terry Gou รวมถึงพรรคก๊กหมิ่นตั๋งในระยะหลังคือมีแนวทางประนีประนอมกับจีน ที่มา - Nikkei ภาพจาก Getty Images
# YouTube เพิ่มแท็บหัวข้อ Podcasts ในหน้าหลักของแต่ละ Channel YouTube เพิ่มความสำคัญกับคอนเทนต์พ็อดแคสต์มากขึ้น ตามที่บริษัทประกาศก่อนหน้านี้ โดยล่าสุดได้เพิ่มแท็บหัวข้อ Podcasts เข้ามาในหน้าหลักของแต่ละ Channel ซึ่งแทรกอยู่ระหว่างหัวข้อ Live กับ Playlists ซึ่งกูเกิลบอกว่าอัพเดตนี้มีผลกับครีเอเตอร์ทั่วโลกแล้ว ในแท็บ Podcasts จะแสดงเพลย์ลิสต์วิดีโอ ที่ครีเอเตอร์กำหนดค่าไว้ว่าเป็นคอนเทนต์แบบพ็อดแคสต์ ซึ่ง YouTube ได้เพิ่มเครื่องมือนี้เข้ามาใน YouTube Studio ทำให้ผู้ชม-ผู้ฟัง สามารถค้นหารายการประเภทดังกล่าวได้สะดวกมากขึ้น - ตัวอย่าง (1) (2) อัปเดตนี้มีผลกับการใช้งานในแอป YouTube หลัก และเว็บไซต์ ส่วนพ็อดแคสต์บน YouTube Music จะตามมาเร็ว ๆ นี้ ที่มา: 9to5Google
# ลาขาด Google เตรียมปิดตัว Now Launcher ทิ้งแล้ว ใครใช้อยู่ต้องเปลี่ยน launcher หากใครยังพอจำได้ สมัยที่ Google ยังทำสมาร์ทโฟน Nexus ได้เปิดตัว Now Launcher ตั้งแต่ Nexus 5 ที่มาพร้อม Google Now ฟีเจอร์ผู้ช่วยส่วนตัวที่สั่งงานด้วยเสียงก่อน Google Assistant และฟีเจอร์แสดงข้อมูลในรูปแบบ card ซึ่ง Google เลิกทำมาตั้งแต่ 2017 หลังเปิดตัว Pixel และตัว launcher ถูกนำไปรันและอัพเดตพ่วงกับแอป Google แทน ล่าสุด 9to5Google พบว่าหลังอัพเดตแอป Google เบต้าล่าสุด (น่าจะบน Nexus รุ่นเก่าๆ) Google แจ้งว่า Now Launcher จะใช้งานไม่ได้แล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป และหากใครใช้ Now Launcher เป็นหลักอยู่ จะต้องเปลี่ยน launcher เป็นตัวอื่นแทน ที่มา - 9to5Google
# พบช่องโหว่อุปกรณ์เปิดประตูโรงรถยี่ห้อ Nexx สามารถสั่งเปิดทุกประตูในโลกได้จากระยะไกล Sam Sabetan นักวิจัยความปลอดภัย เผยแพร่ข้อมูลช่องโหว่ร้ายแรงของอุปกรณ์ควบคุมประตูโรงรถ (Smart Garage Door Openers) ยี่ห้อ Nexx ซึ่งวางขายในสหรัฐ ช่องโหว่ที่ค้นพบนี้ เปิดโอกาสให้ใครก็ได้สามารถสั่งเปิดประตูโรงรถที่ใช้ระบบของ Nexx ที่ไหนก็ได้ในโลกที่ต่อเน็ตอยู่ (คาดว่ามีราว 40,000 แห่ง) สาเหตุหลักมาจากการออกแบบโปรโตคอลคุยกันระหว่างเซิร์ฟเวอร์ Nexx Cloud, แอพมือถือ Nexx Mobile และอุปกรณ์ควบคุมประตูที่เรียกได้ว่าหายนะ เพราะ Nexx ใช้รหัสผ่านตัวเดียว (universal password) กับอุปกรณ์ทั้งหมด, การกระจายข้อความสั่งงานผ่าน MQTT เป็นแบบ broadcast ส่งถึงอุปกรณ์ทั้งหมด (แม้ไม่เกี่ยวข้องกันเลย) แถมใน MQTT ยังมีชื่อผู้ใช้ อีเมล หมายเลขอุปกรณ์ แปะมาด้วยเสมอ เราจึงหารายชื่อผู้ใช้อุปกรณ์ของ Nexx ทั้งหมดได้ง่ายๆ Sabetan สามารถใช้ช่องโหว่เหล่านี้สั่งเปิดประตูโรงรถ (garageDoorOpener) และสาธิตเป็นคลิปให้เห็นเป็นตัวอย่าง ที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้น Sabetan แจ้งข้อมูลช่องโหว่นี้ไปยัง Nexx ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 ทุกวิถีทาง ทั้งส่งผ่านช่องทางในเว็บไซต์, หาอีเมลของผู้ก่อตั้ง, และประสานงานผ่านหน่วยงานภาครัฐ (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency หรือ CISA) ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security), แจ้งผ่านสำนักข่าว VICE แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ จาก Nexx ทำให้เขาและ CISA ตัดสินใจเผยแพร่ช่องโหว่นี้ต่อสาธารณะ ที่มา - Sam Sabetan
# ออสเตรเลียออกคำสั่งแบน TikTok ห้ามใช้งานในอุปกรณ์ของหน่วยงานรัฐ ออสเตรเลียเป็นประเทศล่าสุด ที่หน่วยงานรัฐบาลประกาศแบนการใช้งาน TikTok ในอุปกรณ์ของหน่วยงานรัฐ โดยบอกว่าตัดสินใจตามคำแนะนำของหน่วยงานความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาการเก็บข้อมูล คำสั่งของออสเตรเลีย ออกมาหลังจากหลายประเทศสั่งแบนการใช้ TikTok ในอุปกรณ์ของรัฐทั้ง อเมริกา คณะกรรมาธิการยุโรป อังกฤษ และล่าสุดคือนิวซีแลนด์ ทั้งนี้หน่วยงานของรัฐในออสเตรเลียยังสามารถใช้งาน TikTok เพื่อเหตุผลด้านการทำงานได้ แต่ต้องใช้อุปกรณ์แยกออกมาต่างหากโดยเฉพาะ ตัวแทนของ TikTok กล่าวถึงคำสั่งดังกล่าว ว่าบริษัทรู้สึกผิดหวังมาก โดยมองว่าเป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่าเรื่องราวจริง ๆ ระบุว่าถึงตอนนี้ก็ไม่มีหลักฐานว่า TikTok เป็นแอปที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่ถูกปฏิบัติแตกต่างไปจากแพลตฟอร์มโซเชียลตัวอื่น ที่มา: TechCrunch
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Thunderbolt 4 Dock ราคา 299 ดอลลาร์ ไมโครซอฟท์เปิดตัวอุปกรณ์เสริม Surface Thunderbolt 4 Dock ซึ่งนับเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อ Dock รุ่นที่สามของตระกูล Surface Dock ต่อจาก Surface Dock 2 ที่เปิดตัวในปี 2020 Surface Thunderbolt 4 Dock มีขนาดเล็กลงกว่า Surface Dock 2, จุดเด่นสำคัญคือรองรับการเชื่อมต่อ USB4/Thunderbolt 4 ตามชื่อสินค้า อัตราการส่งข้อมูลสูงสุด 40 Gbps, สามารถต่อจอมอนิเตอร์ 4K 60Hz ได้สองตัวพร้อมกัน พอร์ตที่มีมาให้คือ USB-C x3, USB-A x3, 3.5mm audio, 2.5G Ethernet, security lock โดยตัดพอร์ตชาร์จเฉพาะของ Surface เดิมออกไป และมีฟีเจอร์ระดับองค์กรอย่าง Firmware Update through Windows Update, Wake on LAN from Modern Standby, MAC Address Passthrough ไมโครซอฟท์แนะนำให้ใช้ร่วมกับ Surface Pro 9, Surface Pro 8, Surface Laptop Studio, Surface Laptop 5 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ Surface รุ่นใหม่ที่มี Thunderbolt 4 มาให้ในตัวแล้ว ราคาขายที่ 299 ดอลลาร์ แพงขึ้นเล็กน้อยเทียบกับ Surface Dock 2 ที่ขาย 249 ดอลลาร์ ที่มา - Microsoft
# แอป Weather บน iOS และ macOS ไม่สามารถใช้งานได้ กระทบผู้ใช้บางส่วนตั้งแต่เมื่อวานนี้ แอปเปิลรายงานปัญหาของแอป Weather แอปรายงานสภาพอากาศพื้นฐานของระบบปฏิบัติการทั้ง iOS, iPadOS, watchOS และ macOS กระทบกับผู้ใช้งานบางส่วนทั่วโลก ข้อมูลในหน้าสถานะระบบระบุว่าปัญหาพบตั้งแต่ 10.00น. เมื่อวานนี้ (4 เมษายน 2023) และแก้ไขเป็นปกติตั้งแต่ 00.31น. และเริ่มมีปัญหาอีกครั้งตั้งแต่เวลา 02.54น. ของวันนี้ (5 เมษายน 2023) โดยปัญหาที่พบอาจทำงานช้าหรือไม่สามารถใช้งานได้ อัพเดต: Weather ใช้งานได้ปกติ ตั้งแต่ 14:44น. ที่มา: MacRumors
# [ลือ] แอปเปิลเริ่มปลดพนักงานบ้างแล้ว แต่ยังเป็นจำนวนน้อยมากเทียบกับบริษัทอื่น Bloomberg รายงานข่าวว่าแอปเปิลก็เริ่มปลดพนักงานบ้างแล้วเช่นกัน (ถือเป็นครั้งแรกของแอปเปิลที่มีข่าว) แม้ยังเป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ร่วมวงการที่ปลดระดับเป็นหมื่นคน พนักงานฝ่ายที่ถูกปลดอยู่ในฝ่ายค้าปลีก (corporate retail teams) โดยเป็นทีมที่ก่อสร้างและซ่อมบำรุงร้านค้า Apple Store ส่วนจำนวนที่ถูกปลดบอกว่าน้อยมาก (a small number) และแอปเปิลไม่ได้ประกาศเรื่องการปลดคนต่อสาธารณะ Bloomberg บอกว่าแอปเปิลใช้วิธีลดค่าใช้จ่ายทางอื่นแทน เช่น เลิกจ้างพนักงานสัญญาจ้าง หรือใช้วิธีโยกพนักงานไปฝ่ายอื่นๆ ในบริษัทแทน ในช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลไม่ได้เพิ่มจำนวนพนักงานเยอะเท่ากับบริษัทอื่นๆ (ตัวเลขเมื่อปีที่แล้วมีพนักงาน 164,000 คนทั่วโลก) ทำให้ไม่จำเป็นต้องปลดพนักงานเยอะมากนัก ที่มา - Bloomberg, ภาพจาก Apple
# เว็บ Twitter เวอร์ชันหมาชิบะ ใส่ลูกเล่น พิมพ์ บน ๆ ล่าง ๆ ซ้ายขวา ๆ B-A โลโก้หมาจะหมุนหนึ่งรอบ ดูเหมือนการเปลี่ยนโลโก้ Twitter เวอร์ชันบนเว็บ มาเป็นหมาชิบะ โลโก้ของเหรียญ Dogecoin จะไม่ได้มาเล่น ๆ เมื่อมีผู้พบ Easter Egg บนหน้าเว็บไซต์ โดยเมื่อผู้ใช้งานพิมพ์คีย์ตามลำดับว่า ↑ ↑ ↓ ↓ ← → ← → B A (บนบน ล่างล่าง ซ้ายขวา ซ้ายขวา บี เอ) โลโก้หมาชิบะที่มุมบนซ้าย จะหมุนวนให้ได้ชมกันหนึ่งรอบ ถ้าอยากให้หมุนอีก ก็พิมพ์ตามลำดับข้างต้นซ้ำอีกครั้ง แพทเทิร์นดังกล่าว บางคนอาจเรียกว่าสูตรเกม Contra แต่มีคำเรียกทางการว่า Konami Code (コナミコマンド) ซึ่งใช้เป็นสูตรลัดในเกมจำนวนมากของค่าย Konami นั่นเอง ที่มา: @dogecoin
# Amazon ปิดร้านหนังสือ Book Depository Amazon ประกาศปิดร้านหนังสือ Book Depository ร้านหนังสือในอังกฤษที่ซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2011 โดยตอนนี้ยังไม่ประกาศกับลูกค้าแต่เริ่มส่งอีเมลประกาศสายส่งหนังสือและสำนักพิมพ์ต่างๆ Book Depository นั้นมีจุดเด่นที่ส่งหนังสือไปทั่วโลกโดยไม่คิดค่าส่ง ตัวบริษัทเองก่อตั้งโดย Stuart Felton และ Andrew Crawford อดีตพนักงานของ Amazon เมื่อปี 2004 และสุดท้าย Amazon ก็ซื้อบริษัทเข้ามา อีเมลจาก Book Depository ระบุว่าลูกค้าจะสั่งหนังสือได้วันสุดท้ายวันที่ 26 เมษายนนี้ ที่มา - The Guardian
# ชาวปารีสโหวตยกเลิกบริการเช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพราะอุบัติเหตุเยอะ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะยกเลิกหรือไม่ ปารีสเป็นเมืองแรกๆ ที่เปิดให้มีบริการเช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้คนในเมืองได้ใช้ในการสัญจรเดินทาง แต่ล่าสุดวันอาทิตย์ที่ผ่านมานายกเทศมนตรี Anne Hidalgo กรุงปารีสมีการทำประชามติเรื่องนี้ ก่อนที่ 89% ของผู้ลงคะแนน เห็นชอบที่ให้ยกเลิกบริการเช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะมีข้อกำหนด โดยจำกัดความเร็วไว้แค่ 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง และกำหนดพื้นที่ในการใช้งาน แต่ Anne Hidalgo ได้ให้เหตุผลว่าสกู๊ตเตอร์เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุมากมายที่เกิดขึ้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายก็แพงเกินไปอยู่ที่ประมาณ 5 ยูโร สำหรับการขับขี่ 10 นาที และยังไม่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศเท่าที่ต้องการ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเห็นด้วยกับการนำสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ในเมืองก็ตาม TechCrunch ได้ทำการสำรวจและวิเคราะห์การใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในปารีสพบว่ามีผู้คนจำนวนมากนิยมใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแทนการเดินและโดยสารด้วยรถยนต์หรือรถประจำทาง ซึ่งถึงแม้ว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้แทนรถยนต์ แต่เมื่อเทียบกับปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นแล้วถือว่าไม่ใช้ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องที่สุด ยังบอกอีกว่าเราควรลงทุนในจักรยานไฟฟ้าและพัฒนาการเดินทางเท้าให้มากขึ้น บริษัทผู้ให้บริการเช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่าง Dott, Lime และ Tier ได้บอกว่าการลงคะแนนโหวตไม่เป็นธรรมเนื่องจากมีการเปิดให้โหวตแค่บางพื้นที่เท่านั้นและไม่มีการโหวตผ่านทางออนไลน์ มีผู้ออกเสียงเพียง 103,084 คน ซึ่งคิดเป็น 7.5% ของผู้ที่ลงทะเบียน รวมไปถึงวันที่โหวตเป็นวันเดียวกับที่มีงานวิ่งมาราธอนปารีส ทำให้มีเพียงผู้อาศัยในเมืองเท่านั้นที่โหวตได้ ส่วนคนนอกเมืองไม่สามารถร่วมโหวตด้วยได้ ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการเสนอไม่คิดค่าบริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการเดินทางมาร่วมลงคะแนน และใช้เหล่าคนดังมาส่งเสริมการลงคะแนนในวัยรุ่นก็ตาม แต่ผู้ที่มาลงคะแนนส่วนมากก็ยังถือว่าอายุเยอะอยู่ดี อย่างไรก็ตาม การลงคะแนนครั้งนี้เป็นเพียงการลงประชามติ ถามความเห็นประชาชนเท่านั้น ผลโหวตไม่ได้เป็นข้อผูกมัดทางกฎหมาย ซึ่งนายกเทศมนตรีกรุงปารีสก็ยังเลือกที่จะเก็บสกู๊ตเตอร์ไว้อยู่ เนื่องจากพิจารณาว่าจำนวนผู้มีสิทธิ์ในการโหวตนั้นถือว่าต่ำอยู่ และ Lime หนึ่งในผู้ให้บริการเช่าสกู๊ตเตอร์ได้ออกเปิดเผยข้อมูลว่า ปี 2021 มีผู้ขับขี่สกู๊ตเตอร์มากถึง 1.2 ล้านคน ซึ่ง 85% เป็นชาวปารีส และมีจำนวนการใช้ถึง 10 ล้านครั้งทั้งใน Lime, Dott และ Tier นับเป็น 27,000 เที่ยวต่อวัน ถือว่าเป็นสัดส่วนที่เยอะมากเลยทีเดียว . ที่มา: https://techcrunch.com/2023/04/02/paris-votes-overwhelmingly-to-ban-shared-e-scooters/
# จีนเอาบ้าง ตรวจสอบ Micron บริษัทผลิตชิปจากสหรัฐประเด็นความมั่นคง หลังจากจีนถูกสหรัฐกดดันและปิดกั้นหลายๆ ด้านในแง่ของการแข่งขันเรื่องการพัฒนาชิปเซ็ต ไปจนถึงการตรวจสอบบริษัทสัญชาติจีนเรื่องความมั่นคง ล่าสุดหน่วยงานจัดการไซเบอร์ของจีน (CAC - The Cyberspace Administration of China) ประกาศเข้าตรวจสอบ Micron บริษัทผลิตชิปเมมโมรี่และสตอเรจสัญชาติอเมริกันในประเด็นด้านความมั่นคงด้วยเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า เพื่อปกป้องความมั่นคงด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของซัพพลายเชน และป้องกันความเสี่ยงทางไซเบอร์ ขณะที่ Micron ยืนยันว่าระบบซัพพลายเชนทุกอย่างจะไม่กระทบจากการตรวจสอบครั้งนี้ ที่มา - Bloomberg
# Musk ทวีตแซะ New York Times ว่า “ปากว่าตาขยิบ” หลังสำนักข่าว ไม่จ่าย Twitter แต่มีสมัครสมาชิก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Twitter ได้ประกาศว่าจะทำการลบเครื่องหมาย Verified แบบเก่าและเริ่มเปิดใช้ Twitter Blue โดยการให้ผู้ใช้จ่ายเงินรายเดือน ซึ่งตามมาด้วยกระแสของบุคคลที่มีชื่อเสียงไม่พึงพอใจต่อเงื่อนไขดังกล่าวจำนวนมาก และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Washington Post ได้รายงานว่า Elon Musk ได้สั่งลบเครื่องหมายติ๊กถูกของสำนักข่าว New York Times หลังจากทราบว่าสำนักข่าวดังกล่าวไม่มีแผนชำระเงิน Twitter Blue หลังจากนั้น Elon Musk ได้ทวีตโจมตี New York Times ว่า “ปากว่าตาขยิบ” (hypocritical) เพราะสำนักข่าวก็พยายามบีบให้คนไปสมัคร subscription ของตัวเอง รวมถึงโจมตีด้วยว่า propaganda ของ NYT ไม่ได้น่าสนใจ ฟีดเหมือนอุจจาระ (FYI สำนักข่าว NYT นับเป็นสื่อที่เอนไปทางก้าวหน้า เทียบกับอุดมการณ์ของ Musk ที่อนุรักษนิยม) ทั้งนี้ Musk เคยบอกว่า ตัวเองอยากให้ Twitter เป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุด ขณะเดียวกันปัญหาของติ๊กถูกสีฟ้า ที่เคยเป็นเครื่องหมาย “ยืนยันตัวตน” และสื่อถึงความน่าเชื่อถือของผู้โพสต์ข้อมูล กลายเป็นเครื่องหมายที่ถูกซื้อขายได้ และไม่ได้เป็นการยืนยันอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ที่มา: Forbes
# ธนาคารในออสเตรเลียแก้ประกาศรับสมัครงานความปลอดภัยไซเบอร์ หลังพบว่าผู้หญิงไม่สมัครหากคุณสมบัติไม่ครบ Richard Johnson CISO ของธนาคาร Westpac ในออสเตรเลียออกมาระบุว่าธนาคารจะเปลี่ยนแนวทางการเขียนประกาศรับสมัครงานเสียใหม่ หลังพบว่าการเขียนเงื่อนไขที่แน่นเกินไปกระทบกับผู้สมัครหญิงมากเป็นพิเศษ เขายกตัวอย่างการตั้งเงื่อนไขประสบการณ์ 5 ปีกับเทคโนโลยีบางตัว เมื่อผู้สมัครหญิงมีคุณสมบัติไม่ตรงก็มักจะข้ามไม่สมัครไปเลย ขณะที่ผู้สมัครชายจะลองสมัครดูก่อน โดยหลังจากนี้จะพูดถึงแนวทางการทำงานมากขึ้นแทนที่จะเน้นความสามารถทางเทคนิคบางอย่างเป็นการเฉพาะ Johnson ยังต้องการลบภาพการทำงานความปลอดภัยไซเบอร์ที่คนทั่วไปเห็นภาพชายใส่เสื้อฮู้ด มองจอดำๆ เขียวๆ แต่ในความเป็นจริง Westpac มีคนทำงานด้านนี้ที่มีพื้นฐานหลากหลายมาก ตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ, ผู้จัดการโครงการ, นักเศรษฐศาสตร์, ไปจนถึงนักบัญชี ที่มา - The Register
# จุดเริ่มต้นขาลง Twitch?: เก็บส่วนแบ่งเยอะขึ้น, สนใจสตรีมเมอร์และชุมชนน้อยลง สำหรับแพลตฟอร์มสตรีมเกม Twitch ถือเป็นยืนหนึ่งมายาวนาน แม้จะมีคู่แข่งเข้ามาอย่าง Facebook Gaming หรือ Mixer ของไมโครซอฟท์ แต่สุดท้ายทั้ง 2 รายแพ้ โดยรายแรกแม้จะยังอยู่ แต่ก็มีรายงานว่า Facebook เลิกทุ่มเงินให้สตรีมเมอร์แล้ว ส่วนรายหลังปิดตัวไปแล้ว จุดแข็งหนึ่งของ Twitch ที่มีมานานคือการสร้างชุมชนสตรีมเมอร์และคนดูที่เหนียวแน่น อย่างเมื่อก่อน ทีมงานของ Twitch จะเข้ามาร่วมแจมในแชท สร้างความใกล้ชิดกับคนดู รวมถึงสตรีมเมอร์ก็จะเข้าถึงทีมงาน เพื่อติดต่อเรื่องต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งความชุมชนนี้เองที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Mixer หรือ Facebook Gaming ล้มเหลว เช่นกรณีของ Ninja ที่ย้ายไปเซ็นสัญญาเอ็กคลูซีฟบน Mixer แต่สุดท้ายผู้ติดตามก็ไม่ได้ย้ายแพลตฟอร์มไปมากขนาดนั้น โดยส่วนที่ยังอยู่บน Twitch ก็ย้ายไปดูสตรีมของเจ้าอื่นแทน แต่ล่าสุดดูเหมือนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเกมเจ้านี้จะเริ่มเข้าสู่ขาลงแล้ว ปัจจัยหลักอันนึงก็คือ Twitch สนใจสตรีมเมอร์และชุมชนบนแพลตฟอร์มน้อยลงกว่าเมื่อก่อน อย่างน้อยที่เห็นได้ชัดคือสตรีมเมอร์รายเล็กๆ หรือกลางๆ ไม่สามารถติดต่อพนักงาน Twitch ได้ง่ายเหมือนเดิม โดย Marcus Graham อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Twitch ก็เคยบอกว่า ปัจจุบันสตรีมเมอร์แต่ละรายต้องพยายามสร้างชุมชนของตัวเองขึ้นมาแทน จากเดิมที่มีพนักงาน Twitch คอยเชื่อมและมีส่วนร่วม แต่ปัจจุบันจิ๊กซอว์ส่วนนี้หายไป อีกประเด็นคือ Twitch หันไปสนใจรายได้เป็นหลักมากขึ้น จากการปรับส่วนแบ่งรายได้จาก 70/30 เป็น 50/50 ไม่รวมรายได้จากโฆษณาที่แปะหน้าสตรีม ซึ่งสะท้อนว่าโฟกัสของ Twitch เป็นเงินมากขึ้นเรื่อยๆ พนักงานของ Twitch บอกด้วยว่าฟีเจอร์อย่าง Twitch Clips ที่แสดงผลคลิปสตรีมสั้นๆ ทำให้ผู้ใช้งานสนใจแต่ฟีด Clips และเข้าไปดูสตรีมเต็มๆ น้อยลง ขณะเดียวกัน Twitch เองก็ไม่มีเครื่องมือช่วยผลักดันการเติบโตของสตรีมเมอร์แบบออร์แกนิกแบบที่ TikTok หรือ YouTube มี แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ยังคงปฏิเสธไม่ได้ว่าจำนวนผู้ใช้งาน Twitch ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นแพลตฟอร์มรายใหญ่ที่ YouTube Gaming หรือแม้แต่ TikTok จะเอาชนะไม่ได้ง่ายๆ แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่า แนวทางปัจจุบันของ Twitch ที่เริ่มเบนออกจากจิตวิญญาณเริ่มต้น จะส่งผลอย่างไรในระยะยาว ที่มา - Digiday
# Street Fighter เตรียมถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกรอบ Legendary Picture ประกาศได้สิทธิสร้าง Street Fighter ฉบับคนแสดงจาก Capcom โดยโปรเจ็คทุกอย่างจะถูกพัฒนาร่วมกับ Capcom ซึ่งตอนนี้ภาพยนตร์จากเกมดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดใดๆ ก่อนหน้านี้ Street Fighter ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว 2 รอบคือ ปี 1994 ที่นำแสดงโดย Jean-Claude Van Damme และอีกครั้งในปี 2009 ในชื่อ Street Fighter: The Legend of Chun-Li ที่มา - IGN
# Google Drive ประกาศยกเลิกจำกัดจำนวนไฟล์ ต่อจากที่ Google ประกาศ "จำกัดจำนวนไฟล์" บน Google Drive เมื่อวันที่ 1 เมษายน ล่าสุด Google ประกาศยกเลิกฟีเจอร์ดังกล่าวแล้ว แม้ Google จะยืนยันแต่แรกว่ากระทบกับลูกค้าน้อยมาก โดยไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับ April Fool's Google บอกด้วยว่าจะลองหาทางเลือกอื่นแทน เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของลูกค้า รวมถึงจะสื่อสารให้ดีขึ้นในครั้งหน้า (รอบนี้คือไม่ได้ประกาศ แต่มีคนเจอและไประบุเงียบๆ ในหน้าซัพพอร์ต) ที่มา - @googledrive
# ไม่ใช่มุก เครื่องเล่นเกมพกพา ASUS ROG Ally เป็นสินค้าวางขายจริง ยังไม่ประกาศราคา ASUS ยืนยันว่าเครื่องเล่นเกมพกพา ROG Ally ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 เมษายน ไม่ใช่มุกแต่เป็นเครื่องเล่นเกมจริงๆ และตอนนี้มีหน้าผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ Best Buy แล้ว เพียงแต่ยังไม่เผยข้อมูลสเปกละเอียด วันวางจำหน่าย และราคา ข้อมูลของ ROG Ally ที่ประกาศไว้ในวัน April Fool's คือใช้ซีพียู AMD Ryzen แบบคัสตอม, หน้าจอ 7" Full HD, รองรับการต่อจีพียูภายนอก, รัน Windows 11 และรองรับ Game Pass ตลาดเครื่องเล่นเกมพีซีขนาดพกพามีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจาก Steam Deck ที่เปิดตัวในราคาเริ่มต้น 399 ดอลลาร์ ยังมี Logitech G Cloud ราคา 349 ดอลลาร์, Ayn Loki ราคา 299 ดอลลาร์ และ Aya Neo Air ราคา 599 ดอลลาร์ คลิปเปิดตัววัน April Fool's ที่มา - Engadget
# NASA เปิดตัวคณะนักบินอวกาศ Artemis II จำนวน 4 คน ที่จะไปดวงจันทร์ปี 2024 NASA เปิดตัวคณะนักบินอวกาศที่จะไปวนรอบดวงจันทร์ในปี 2024 กับภารกิจ Artemis II หลังจากภารกิจ Artemis I ประสบความสำเร็จ ในการส่งจรวดเปล่าไปบินวนรอบดวงจันทร์ นักบินอวกาศคณะนี้มีจำนวน 4 คน มาจาก NASA 3 คน และมาจาก CSA หน่วยงานอวกาศของแคนาดา 1 คน ได้แก่ Reid Wiseman (Commander) Victor Glover (Pilot) Christina Hammock Koch (Mission Specialist 1) Jeremy Hansen (Mission Specialist 2, ตัวแทนจาก CSA) นักบินของ NASA ทั้ง 3 คนล้วนแต่เคยไปอวกาศมาก่อนแล้วคนละหนึ่งครั้ง ได้แก่ Reid Wiseman ผู้บัญชาการของภารกิจนี้ เคยขึ้นไปอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติมาแล้วในปี 2014 เป็นเวลา 165 วัน Victor Glover เคยเป็นนักบินของภารกิจ NASA SpaceX Crew-1 ในปี 2020-2021 อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาตินาน 168 วัน Christina Hammock Koch เคยอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาตินานที่สุด 328 วัน ส่วน Jeremy Hansen ตัวแทนของแคนาดา จะไปอวกาศครั้งแรกในภารกิจ Artemis II ก่อนหน้านี้เขาเป็นนักบินของกองทัพอากาศแคนาดา ตามแผนของ NASA จะส่งมนุษย์ไปบินวนรอบดวงจันทร์ในภารกิจ Artemis II ปี 2024 เพื่อซ้อมก่อนส่งมนุษย์ลงไปเหยียบดวงจันทร์อีกรอบกับภารกิจ Artemis III ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในปี 2025 ภาพถ่ายนักบินของ Artemis II จากซ้าย hristina Hammock Koch, Reid Wiseman (นั่ง), Victor Glover, Jeremy Hansen ที่มา - NASA
# Spotify ประกาศปิดแอป Spotify Live แอปคุยเสียงแบบเดียวกับ Clubhouse Spotify ประกาศปิดแอป Spotify Live แอปไลฟ์สนทนาเสียง ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อแข่งขันกับ Clubhouse โดยจะปิดบริการส่วนที่เป็นแอปแยกออกมาจาก Spotify แอปหลัก ให้เหตุผลว่าไม่มีความจำเป็นต้องแยกแอป ทั้งนี้บริการสนทนาเสียงสด จะยังคงให้บริการต่อไปใน Spotify แต่ปรับมาเป็นฟีเจอร์ที่จำกัดเงื่อนไข เช่น ให้ศิลปินสามารถตั้งห้องสนทนากับแฟนคลับได้ Spotify Live เปิดตัวครั้งแรกด้วยแอปแยกชื่อว่า Greenroom เมื่อปี 2021 ตามกระแสความนิยมแอปสนทนาเสียง ซึ่งมี Clubhouse เป็นผู้นำตลาดเวลานั้น โดยก่อนหน้านั้นบริษัทได้ซื้อกิจการ Betty Labs ผู้พัฒนาแอปสนทนาเสียงมาก่อน ที่มา: The Verge
# Google ประกาศแผนลดค่าใช้จ่ายรอบใหม่ พนักงานที่ไม่อยู่ฝ่าย Engineering จะได้แล็ปท็อปใหม่เป็น Chromebook CNBC อ้างอีเมลภายในกูเกิลที่พบซึ่งส่งโดย Ruth Porat ซีเอฟโอถึงพนักงานทุกคน พูดถึงแผนการลดค่าใช้จ่ายบริษัท โดยบอกว่าจะเป็นแผนงานที่ทำต่อเนื่องอีกหลายปี และรวมอยู่ใน OKR ของบริษัทด้วย Porat บอกว่าการลดค่าใช้จ่ายไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ของกูเกิล บริษัทเคยควบคุมการใช้จ่ายส่วนนี้มาแล้วเมื่อปี 2008 เพื่อตัดรายการที่ไม่จำเป็นออกไป โดยเวลานั้นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเป็นอัตราที่สูงกว่ารายได้ ตัวอย่างการลดค่าใช้จ่ายในอีเมลนี้ เช่น งดการอัพเกรดแล็ปท็อปและเดสก์ท็อป ตลอดจนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยจะขยายระยะเวลาอายุการใช้งานออกไป ส่วนพนักงานที่ไม่ได้อยู่ในฝ่ายวิศวกรรม จะได้แล็ปท็อปเครื่องใหม่เป็น Chromebook จากเดิมที่สามารถเลือกรุ่น-ระบบปฏิบัติการได้ นอกจากนี้สวัสดิการในสำนักงานบางส่วนจะถูกยกเลิก เนื่องจากพนักงานมีการทำงานไฮบริดจึงเข้าสำนักงานกันน้อยลง โดยส่วนคาเฟ่อาจปิดให้บริการขนมและเครื่องดื่ม เฉพาะวันจันทร์และวันศุกร์ ส่วนคลาสฟิตเนสจะลดจำนวนลงให้เหมาะสมมากขึ้น ที่มา: CNBC
# [Counterpoint] ไทยยังครองที่ 1 ส่วนแบ่งยอดขายรถ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2022 บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint รายงานข้อมูลยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล (EV) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของปี 2022 โดยภาพรวมรถยนต์กลุ่ม EV มียอดขายคิดเป็น 2% ของรถยนต์ทั้งหมดที่ขายได้ ซึ่งมีคิดส่วนแบ่งรายประเทศ พบว่าไทยมีการซื้อรถยนต์ EV มากที่สุดถึง 58% ของรถยนต์ EV ทั้งหมด ตามด้วยอินโดนีเซียที่ 19.5% และเวียดนาม 15.8% ตัวเลขเป็นทิศทางเดียวกับรายงานก่อนหน้านี้ของไตรมาส 3/2022 ทั้งนี้นิยามรถยนต์ EV ของ Counterpoint ในการสำรวจนี้นับเฉพาะ Battery EV และ Plug-in Hybrid EV ไม่รวม Hybrid EV และรถ Fuel Cell Abhilash Gupta นักวิเคราะห์ของ Counterpoint บอกว่าแม้ความต้องการรถยนต์ EV จะเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ แต่ยอดขายก็ยังเป็นอัตราส่วนที่เล็กมากคือ 0.5% เทียบยอดขายรถ EV ทั่วโลก อย่างไรก็ตามภูมิภาคนี้เป็นเป้าหมายสำคัญของรถยนต์จากจีนในการทำตลาด และคาดว่าจะมีการตั้งโรงงานผลิตเพิ่มมากขึ้น ประเมินจากจุดแข็งทั้งไทย ที่มีโรงงานผลิตรถยนต์จำนวนมาก พร้อมอินโดนีเซียและเวียดนาม ที่มีเหมืองแร่ของวัตถุดิบที่จำเป็นในการผลิตรถ EV เพิ่มเติม: Counterpoint อธิบายว่ายอดขายนับจากจำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบ ออกมาจากโรงงานของแต่ละแบรนด์/รุ่น ที่มา: Counterpoint
# Dogecoin ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 30% หลัง Twitter ทดลองเปลี่ยนโลโก้เป็นหมาชิบะ สัญลักษณ์ของเหรียญนี้ เมื่อคืนนี้ราคา Dogecoin (DOGE) ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% หลังจาก Elon Musk ซีอีโอ Twitter ได้ทดลองเปลี่ยนโลโก้ Twitter บนเว็บไซต์ จากนกสีฟ้ามาเป็นหมาชิบะ ที่เป็นโลโก้ของ Dogecoin มีผลกับผู้ใช้งานบางส่วน ทั้งนี้ Twitter ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลที่เปลี่ยนโลโก้ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ Dogecoin เป็นเงินคริปโตที่ Elon Musk เป็นผู้สนับสนุนในการพัฒนา ทำให้ถูกคาดการณ์ว่าเขาน่าจะนำเหรียญนี้มาใช้ประโยชน์บนแพลตฟอร์มของ Twitter แบบที่สินค้าที่ระลึกบางอย่างของ Tesla ก็รับเฉพาะเงินสกุล Dogecoin นี้เท่านั้น ที่มา: CNBC ตัวอย่าง Twitter บนเว็บ ที่เปลี่ยนโลโก้
# ทวิตเตอร์ The New York Times ถูกนำเครื่องหมายถูกออกแล้ว หลังท้าทาย ประกาศไม่จ่ายเงินซื้อ Blue บัญชีทวิตเตอร์ของสื่อใหญ่อย่าง The New York Times (@nytimes) โดนถอดเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า Verified ออกแล้ว หลังพ้นกำหนดเลิกใช้งาน Verified แบบเก่า เปลี่ยนมาเป็น Twitter Blue ในวันที่ 1 เมษายน Elon Musk ได้โพสต์อธิบายเรื่องนี้ (แล้วลบข้อความทิ้งไป) ว่าบัญชี Verified แบบเก่าจะได้ใช้เครื่องหมายถูกสีฟ้าต่อไปอีกระยะหนึ่ง (grace period) เพื่อรอจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจแบบใหม่ แต่ถ้าบัญชีไหนประกาศตัวว่าจะไม่ซื้อ (ซึ่ง The New York Times ประกาศ) ก็จะนำเครื่องหมาย Verified ออกทันที ณ เวลาที่เขียนข่าวนี้ บัญชีทวิตเตอร์อื่นๆ ของเครือ The New York Times เช่น @nytimesworld, @nytimestech ยังมีเครื่องหมายถูก (ทั้งสีฟ้าแบบเดิม และสีทองสำหรับบัญชีธุรกิจ) มีเพียงบัญชีหลัก @nytimes เท่านั้นที่ถูกนำเครื่องหมายถูกออกไป ที่มา - Yahoo News
# Google Flights แสดงราคาตั๋วเครื่องบินการันตีถูกที่สุด ถ้าเจอถูกกว่า กูเกิลจ่ายส่วนต่างให้ กูเกิลมีบริการค้นหาข้อมูลเที่ยวบิน Google Flights มาตั้งแต่ปี 2011 แต่ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา มันเป็นแค่การแสดงข้อมูลเที่ยวบินพร้อมราคา และปุ่มกดซื้อตั๋วที่ส่งทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์อื่น (ทั้งเว็บของสายการบินหรือเว็บจองตั๋วออนไลน์) โดยกูเกิลไม่ได้ยุ่งกับกระบวนการซื้อตั๋วด้วย แต่ล่าสุด Google Flights เพิ่มความสามารถใหม่ แสดงราคาตั๋วที่ต่ำที่สุด พร้อมแปะป้ายการันตีราคา (price guarantee) ให้ด้วย เพื่อยืนยันว่าตั๋วราคานี้จะถูกที่สุดแล้วไม่มีปรับลงอีก และหากราคาตั๋วยังลดลงกว่าที่กดซื้อ กูเกิลยินดีจ่ายส่วนต่างคืนให้ผ่าน Google Pay ในภายหลังด้วย (ต้องเป็นการซื้อผ่านกูเกิล Book on Google เท่านั้น) ฟีเจอร์นี้ยังเปิดใช้เฉพาะในสหรัฐ และมีผลเฉพาะไฟลท์ขาออกจากสหรัฐเท่านั้น กูเกิลยังเพิ่มฟีเจอร์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอีก 2 อย่าง ได้แก่ การแสดงภาพถ่ายภายในโรงแรมในรูปแบบ Stories ตามความนิยมของยุคสมัย ฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างคือแสดงราคาตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวหรือทัวร์บางแห่งได้จาก Google Search/Maps พร้อมลิงก์กดซื้อตั๋วได้เลย ที่มา - Google
# Western Digital โดนแฮ็กระบบ คาดข้อมูลรั่วไหล, ปิดเซิร์ฟเวอร์ My Cloud ชั่วคราว Western Digital แถลงว่าโดนบุกรุกเข้าระบบเครือข่ายภายใน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2023 บริษัทระบุว่าแฮ็กเกอร์เข้าถึงระบบภายในจำนวนหนึ่ง จึงต้องนำระบบบางส่วนออฟไลน์ไปก่อน ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการสอบสวนและกำลังฟื้นระบบกลับคืนมา Western Digital คาดว่าแฮ็กเกอร์ได้ข้อมูลภายในไปด้วย แต่ยังไม่ระบุชัดว่ามีอะไรบ้าง และจะประกาศให้ทราบกันต่อไป ระบบหนึ่งของ Western Digital ที่ถูกปิดไปในช่วงนี้คือ My Cloud ระบบแบ็คอัพสำหรับลูกค้าทั่วไปของบริษัท ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยขณะที่เขียนข่าวนี้ ระบบ My Cloud ยังขึ้นสถานะเป็นออฟไลน์อยู่ ที่มา - Western Digital, The Register อัพเดต: บริการ My Cloud กลับมาใช้งานได้ปกติตั้งแต่เช้าวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา (ที่มา)
# นินเทนโดตั้งบริษัทลูก Nintendo Systems ร่วมกับ DeNA ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเกม นินเทนโดเปิดบริษัทลูกชื่อ Nintendo Systems โดยร่วมทุนกับบริษัทเกมมือถือ DeNA ของญี่ปุ่น ภารกิจของบริษัท Nintendo Systems จะให้บริการทางเทคนิค ระบบเซิร์ฟเวอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แก่เกมของนินเทนโดที่มีส่วนออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคหลัง นินเทนโดมีความร่วมมือกับ DeNA มาตั้งแต่ปี 2015 โดย DeNA เข้ามาช่วยสนับสนุนเรื่องระบบเซิร์ฟเวอร์ให้เกมมือถือของนินเทนโดหลายๆ เกม เช่น Super Mario Run, Fire Emblem Heroes, Animal Crossing: Pocket Camp, Mario Kart Tour ส่วนนินเทนโดรับผิดชอบพัฒนาตัวเกมและเนื้อหาในเกม ซึ่งเป็นสิ่งที่นินเทนโดถนัด โครงสร้างของ Nintendo Systems คือนินเทนโดถือหุ้น 80% และอีก 20% เป็นของ DeNA บริษัทมีทุนจดทะเบียน 5 พันล้านเยน และมี Tetsuya Sasaki อดีตผู้บริหารของ Nintendo EAD มานั่งเป็นซีอีโอ ที่มา - DeNA, VGC
# หลุดข้อมูลการ์ดสตอเรจ Xbox Series X|S ของ WD, ราคาขายถูกกว่ารุ่นของ Seagate คอนโซล Xbox ยุค Series X|S สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำขยายสตอเรจได้ แต่เป็นการ์ดรุ่นเฉพาะเท่านั้น (ต่างจาก PS5 ที่ใช้ SSD รุ่นไหนก็ได้) และที่ผ่านมา มีเพียงการ์ดของ Seagate ขายอยู่เพียงยี่ห้อเดียว โดยมีราคาเริ่มต้น 139.99 ดอลลาร์กับรุ่นความจุ 512GB, 219.99 ดอลลาร์กับรุ่น 1TB ราคาการ์ดที่ค่อนข้างแพงทำให้เรื่องนี้กลายเป็นจุดอ่อนของ Xbox ที่ถูกวิจารณ์อยู่เสมอ แต่ล่าสุดสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป หลังมีการ์ดของคู่แข่ง WD Black หลุดบนเว็บไซต์ Best Buy ในราคาที่ถูกกว่าด้วยคือ 179.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 1TB (ถูกกว่ากัน 40 ดอลลาร์) ก่อนข้อมูลถูกถอดจากหน้าเว็บไป ตอนนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากทั้ง WD และ Xbox รวมถึงยังไม่ชัดเจนด้วยว่าการ์ดของ Seagate จะลดราคาลงมาขายเท่ากันหรือไม่ ที่มา - The Verge
# FF14 แจกภาคเสริม Stormblood ฟรี แต่ยังต้องจ่ายรายเดือน-ซื้อเกมภาคหลัก Square Enix แจกภาคเสริมของ Final Fantasy XIV คือภาค Stormblood ที่ออกในปี 2017 ฟรี ถือเป็นการแจกเกมฟรีต่อเนื่องนับจากการแจกภาคหลัก Final Fantasy XIV Starter Edition มาครั้งหนึ่งเมื่อปี 2020 การฟรีครั้งนี้แจกเฉพาะตัวเกมภาคเสริมเท่านั้น ผู้เล่นยังจำเป็นต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนในราคาเริ่มต้น 12.99 ดอลลาร์อยู่ดี และหากยังไม่เคยเล่น FFXIV มาก่อนก็จำเป็นต้องซื้อ Starter Edition ในราคา 19.99 ดอลลาร์ด้วย ดังนั้นดีลนี้จึงเหมาะกับคนที่มี Starter Edition อยู่แล้ว ก็สามารถเล่นเนื้อหาจากภาคเสริม (ที่เก่าหน่อย) เพิ่มเติมได้ฟรี การแจก Stormblood ฟรียังจำกัดเฉพาะช่วงเวลาจนถึง 8 พฤษภาคม 2023 ที่มา - Final Fantasy XIV, Eurogamer, Kotaku
# [ลือ] Samsung เตรียมสร้างโรงงานทดสอบและแพ็กเกจชิปในญี่ปุ่น Reuters รายงานอ้างอิงแหล่งข่าว 5 รายว่า Samsung กำลังวางแผนตั้งโรงงานทดสอบและแพ็กเกจจิ้ง สำหรับธุรกิจชิปในญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเพื่อผูกสัมพันธ์การค้ากับผู้ผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่นมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่า Samsung จะลงทุนในโรงงานนี้ราว 75 ล้านดอลลาร์ แต่เม็ดเงินยังไม่ได้ข้อสรุป และคาดว่าโรงงานจะตั้งที่เมืองที่เมืองคานางาวะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาของซัมซุงอยู่แล้วและเหตุผลที่เลือกประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากเป็นประเทศที่มีเครื่องมือและวัสดุสำหรับการผลิตชิปอยู่แล้วรวมไปถึงค่าจ้างแรงงานไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับความรู้และความเชี่ยวชาญที่มี ที่มา: Reuters
# เผยอัลกอริทึม Twitter ให้คะแนนพิเศษ Elon, แยกคนตามพรรคการเมือง, ยิ่งกดไลค์คนยิ่งเห็นเยอะ หลังจาก Twitter เปิดซอร์สโค้ดอัลกอริทึมของตัวเองขึ้น GitHub เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีคนแกะโค้ดดูอย่างรวดเร็วว่าการทำงานของ Twitter ในยุค Elon เป็นอย่างไร สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นการแยกประเภทของผู้ใช้งานตามมุมมองทางการเมือง (ในสหรัฐ) มีผู้ใช้ 4 กลุ่ม ได้แก่ตัว Elon เอง (author_is_elon), กลุ่มผู้ใช้ระดับสูง (power_user), พรรคเดโมแครต (democrat) และพรรครีพับลิกัน (republican) ซึ่งจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน มีฟีเจอร์แตกต่างกันไป (ลิงก์ไปดูโค้ดส่วนนี้) กรณีของ Elon นั้นจะมีการเก็บสถิติด้วยว่าข้อความของเขาถูกมองเห็นมากแค่ไหน ซึ่งตรงตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ ว่า Elon ไม่พอใจที่ข้อความของเขามีคนเห็นน้อยกว่าที่คาด อีกประเด็นที่มีคนค้นพบคือ ค่าน้ำหนักของการคัดเลือกข้อความมาแสดงบนไทม์ไลน์ โดยจะมีค่า boost เพิ่มน้ำหนักของการถูกคัดเลือก เช่น กดไลค์มีน้ำหนัก 30X, รีทวีต 20x, มีภาพหรือวิดีโอ 2x, สมาชิก Twitter Blue 2-4x เป็นต้น ในทางกลับกัน พฤติกรรมบางประเภทจะถูกลดน้ำหนักลง เช่น ใช้แฮชแท็กเยอะจนเหมือนบ็อต, มีลิงก์ภายนอก ที่มา - Mashable, Ars Technica
# Synopsys เปิดตัวเครื่องมือใช้ AI สร้างชิปทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ออกแบบจนผลิตจริง Synopsys บริษัทผู้สร้างซอฟต์แวร์ออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (electronic design automation หรือ EDA) เปิดตัว Synopsys.ai ระบบใช้ AI ช่วยออกแบบชิปทั้งกระบวนการ ชิปในปัจจุบันมีขนาดใหญ่และซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ มีทรานซิสเตอร์ระดับหลายพันล้านตัว จึงเริ่มเป็นเรื่องเกินความสามารถของมนุษย์ในการออกแบบและตรวจสอบความถูกต้องของวงจร แม้ว่าการนำ AI มาช่วยงานบางส่วนเป็นสิ่งที่เกิดมาสักพักแล้ว แต่ Synopsys ก็คุยว่าระบบ Synopsys.ai เป็นระบบแรกที่ใช้ AI ทำได้ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ออกแบบสถาปัตยกรรม ไปจนถึงทดสอบและผลิตจริง (ใช้คำว่า First Full-Stack, AI-Driven EDA Suite) Synopsys มีซอฟต์แวร์ DSO.ai ช่วยออกแบบชิปอยู่ก่อนแล้ว (มีการใช้งานในระดับโปรดักชันแล้ว) ล่าสุดเปิดตัวซอฟต์แวร์เพิ่มครบไลน์คือ VSO.ai (functional verification) และ TSO.ai (silicon test) จึงเรียกชื่อรวมๆ ว่า Synopsys.ai Synopsys ยังบอกว่าลูกค้าของตัวเองหลายราย เช่น NVIDIA, TSMC, IBM, MediaTek, Renesas นำโซลูชันนี้ไปใช้ออกแบบชิป และช่วยลดการทำงานของมนุษย์ลงได้มาก ตัวอย่างของ Renesas ที่ทำชิปสำหรับรถยนต์ สามารถลดเวลาการทำงานลงได้หลายสัปดาห์ และมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบ (verification) เพิ่มขึ้น 30% ที่มา - Synopsys, Synopsys Blog, AnandTech
# โปรแกรมโทรศัพท์ออนไลน์ 3CX ถูกแทรกโค้ดมัลแวร์กระจายให้ลูกค้า 3CX ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ VoIP/PBX ระดับองค์กรถูกแทรกโค้ดมัลแวร์เข้าไปในแอปเวอร์ชั่นเดสก์ทอป ทำให้ลูกค้าจำนวนมากตกอยู่ในความเสี่ยงว่าจะถูกขโมยข้อมูลในองค์กร โดยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลูกค้า 3CX เริ่มรายงานว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสฟ้องว่าโปรแกรม 3CX นั้นเป็นมัลแวร์ ตัวมัลแวร์ซ่อนอยู่ในไฟล์ชื่อว่า ffmpeg.dll เมื่อรันโปรแกรม 3CX แล้วมันจะดาวน์โหลดไฟล์ icon จาก GitHub ที่ข้างในไฟล์ซ่อน URL มัลแวร์จริงๆ เอาไว้ และดาวน์โหลดโค้ดมัลแวร์มารัน ทาง 3CX ออกเวอร์ชั่นใหม่ที่ถอดโค้ดมัลแวร์ออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าโค้ดใหม่นี้ปลอดภัยจริงไหม โดยกำลังจ้าง Mandiant เข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยโค้ด ระหว่างนี้ทางบริษัทแนะนำให้ลูกค้าใช้งานเวอร์ชั่น PWA ไปก่อน ที่มา - 3CX, Sophos แผนภาพการโจมตีโดยคนร้ายแอบแทรกโค้ดเข้าระบบของ 3CX ภาพโดย Sophos
# กลุ่มบริษัทอิออนธนสินทรัพย์ เพิ่มศักยภาพธุรกิจพร้อมขับเคลื่อนสู่องค์กรดิจิทัลด้วย SAP S/4HANA จาก IT One กรุงเทพฯ – 27 มีนาคม 2566 – ไอทีวัน (IT One) ผู้ให้บริการด้านไอทีและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร ครอบคลุมทั้งด้านดิจิทัล คลาวด์ และระบบรักษาความปลอดภัย ได้รับความไว้วางใจจาก บมจ.อิออนธนสินทรัพย์ ให้เป็นที่ปรึกษาในโครงการ SAP S/4 HANA ให้แก่กลุ่มบมจ.อิออนธนสินทรัพย์ เพื่อยกระดับในระบบการบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร ด้วย SAP S/4HANA เวอร์ชั่นใหม่ที่ตอบโจทย์ในการใช้ข้อมูลเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจขององค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและขีดความสามารถในการแข่งขัน นางสาวนพนิดา สุขจิระ – เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ไอทีวัน จำกัด นางสาวนพนิดา สุขจิระ - เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ไอทีวัน จำกัด กล่าวว่า “ในยุคปัจจุบันที่ธุรกิจการเงินเข้าถึงผู้คนได้ด้วยปลายนิ้ว ข้อมูลที่ถูกต้อง มีความปลอดภัย และความรวดเร็วกลายเป็นปัจจัยที่จะช่วยสร้างแต้มต่อทางธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ตอบรับกับโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ไอทีวัน ได้นำเสนอ SAP S/4HANA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเวอร์ชั่นใหม่ให้กับ 10 บริษัทในกลุ่มของ AEON Financial Service ครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศกัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และลาว ในการเข้ามาช่วยปรับระบบการจัดการ ปรับปรุงโครงสร้างข้อมูลให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งกลุ่ม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมองเห็นภาพรวมที่ชัดเจนและวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย” สำหรับความท้าทายของโปรเจกต์นี้ คือ การปรับกระบวนการทำงานของบริษัททั้ง 10 แห่ง ให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อช่วยให้การรวบรวมข้อมูลและการประมวลผลเมื่อต้องการเห็นภาพรวมของทั้งองค์กรทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการสร้างมาตรฐานการทำงานใหม่ร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความฉับไวในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น นายพรธเนศร์ แซ่โค้ว – ผู้จัดการโครงการ บริษัท ไอทีวัน จำกัด นายพรธเนศร์ แซ่โค้ว – ผู้จัดการโครงการ บริษัท ไอทีวัน จำกัด กล่าวเสริมว่า “การพัฒนาและติดตั้งตัวระบบ SAP S/4HANA เวอร์ชั่นใหม่นี้ได้เข้ามาช่วยอัปเกรดระบบของอิออนธนสินทรัพย์ ที่จากเดิมทำงานอยู่บนระบบ ERP SAP ECC 6.0 ให้สอดคล้องกับฟังกชั่นที่ทางอิออนฯ ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วย 1.Finance โดยครอบคลุมทั้ง 3 ระบบ ได้แก่ 1. ระบบบัญชี ซึ่งดูแลในเรื่องของการบันทึกข้อมูลทางบัญชี 2. ระบบควบคุมต้นทุน ซึ่งช่วยในเรื่องของการควบคุมดูแลทั้งในแง่ของต้นทุนและผลกำไร รวมถึงการสร้างรายงานเพื่อวิเคราะห์ผลดำเนินการในมุมมองต่างๆ และ 3. ระบบงานที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลรายการทางการเงินโดยละเอียด เพื่อจัดเก็บข้อมูลการบริหารจัดการเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนการทำงานเกี่ยวกับการทำสัญญา ทั้งด้านการกู้ยืมเงิน รวมถึงธุรกรรมทางการเงินที่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย 2.Sourcing and Procurement โดยครอบคลุม ระบบจัดซื้อและจัดการวัสดุคงคลัง โดยระบบนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการจัดซื้อและการจัดการสินค้าคงคลังสำหรับของพรีเมี่ยมและอุปกรณ์สำนักงาน” Mr. Kazumasa Oshima - Chief Financial Officer & Director, AEON Thana Sinsap (Thailand) Public Co. Ltd. Mr. Kazumasa Oshima - Chief Financial Officer & Director, AEON Thana Sinsap (Thailand) Public Co. Ltd. กล่าวว่า “ความคาดหวังของลูกค้านั้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง และต้องการเลือกบริการทางการเงินที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเดินหน้าได้ต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ระบบงานส่วนหน้าที่ต้องยกระดับ แต่รวมถึงระบบงานภายในด้วย เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด และผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที ระบบ SAP S/4HANA เวอร์ชั่นใหม่จึงเป็นกุญแจในการเปลี่ยนผ่านระบบงานภายในสู่ดิจิทัล ช่วยให้องค์กรมีมุมมองเชิงวิเคราะห์ทางธุรกิจที่ชัดเจนและละเอียดมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่ง SAP S/4HANA เวอร์ชั่นใหม่นี้ไม่ได้มีแค่ขีดความสามารถที่โดดเด่น แต่เสถียรภาพของระบบก็โดดเด่นด้วย เพราะเรานำระบบนี้ไปใช้กับบริษัท 10 แห่งในประเทศต่างๆ พร้อมกัน โดยเปลี่ยนจากระบบที่ติดตั้งในองค์กรไปอยู่บนคลาวด์ ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยสนับสนุนให้องค์กรพร้อมก้าวสู่ทศวรรษใหม่ได้เป็นอย่างดี” “สิ่งสำคัญในการเลือกใช้เทคโนโลยี คือ จะต้องสามารถพัฒนาให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความท้าทายขององค์กรให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ปรับขั้นตอนการทำงาน หรืออื่นๆ ก็ตาม ซึ่งด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของไอทีวัน เราได้นำเทคโนโลยีและกระบวนการทำงาน มาประสานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับลูกค้ากลุ่ม AEON Financial Service” นางสาวนพนิดา กล่าวทิ้งท้าย
# Naughty Dog ขอโทษที่ The Last of Us Part I เวอร์ชันพีซีเต็มไปด้วยบั๊ก กำลังทำแพตช์แก้ สตูดิโอ Naughty Dog ออกมาขอโทษแฟนๆ ที่ซื้อเกม The Last of Us Part I เวอร์ชันพีซี (เพิ่งวางขายเมื่อ 28 มีนาคม) หลังผู้เล่นประสบปัญหาประสิทธิภาพและคุณภาพของเกม ปัญหาของเกมมีตั้งแต่บั๊กในการควบคุมมุมกล้อง เกมรันแล้วแครช โหลดช้า เฟรมเรตตก ซึ่งเกิดจากการปรับแต่งให้รันบนพีซีได้ไม่ดีนัก ส่งผลให้ตอนนี้ คะแนนรีวิวบน Steam อยู่ในระดับ mixed โดยมีผู้เล่นเพียง 44% ให้คะแนนรีวิวเป็นบวก Naughty Dog บอกว่าออกแพตช์แบบ hotfix แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้แล้ว และจะออกแพตช์ใหญ่ตามมาภายในสัปดาห์นี้ ทางสตูดิโอยังแนะนำให้ผู้เล่นอัพเดตไดรเวอร์กราฟิกที่ใช้ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดด้วย The Last of Us Part I เวอร์ชันพีซี พอร์ตโดยสตูดิโอ Iron Galaxy ที่เชี่ยวชาญการพอร์ตเกมลงแพลตฟอร์มอื่น และก่อนหน้านี้ก็ช่วยพอร์ตเกม Uncharted: Legacy of Thieves Collection เวอร์ชันพีซีให้ Naughty Dog มาแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้ เอกสารของโซนี่ต่อ CMA ของอังกฤษ ได้แสดงความกังวลว่าไมโครซอฟท์อาจออก Call of Duty เวอร์ชันคุณภาพต่ำ มีบั๊กให้กับแพลตฟอร์ม PlayStation ตอนนี้โซนี่สาธิตให้ดูแล้วว่าข้อกังวลแบบนี้มีอยู่จริงๆ ที่มา - Eurogamer
# [ลือ] watchOS 10 ปรับอินเทอร์เฟซใช้งานใหม่ หลังไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายปี Mark Gurman แห่ง Bloomberg ให้ข้อมูลสินค้าใหม่ของแอปเปิลในจดหมายข่าว Power On มีประเด็นใหม่เกี่ยวกับ watchOS 10 ระบบปฏิบัติการของ Apple Watch เวอร์ชันใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน WWDC เดือนมิถุนายน โดยเขาบอกว่า watchOS 10 จะมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด โดยเฉพาะส่วนของอินเทอร์เฟซ ซึ่งที่ผ่านมา watchOS แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนนี้เลย อย่างไรก็ตามเขาบอกว่า Apple Watch รุ่นใหม่ที่จะออกมาปีนี้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านฮาร์ดแวร์มากนัก ส่วนข้อมูลอื่นที่เขาพูดถึง macOS 13.4 จะเป็นระบบปฏิบัติการตั้งต้นของ Mac รุ่นใหม่ ที่เขาคาดว่าจะเปิดตัวในงาน WWDC นี้ด้วย ได้แก่ Mac Pro และ MacBook Air ตัวใหม่, ส่วนเฮดเซต Mixed Reality เขาบอกว่าแอปเปิลจะยังเปิดตัวทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และชุดซอฟต์แวร์ของนักพัฒนา ตามแผนงานเดิมในงาน WWDC ถึงแม้สัปดาห์ที่แล้ว Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำอีกราย บอกว่าแอปเปิลอาจเลื่อนเปิดตัว ที่มา: MacRumors
# Tesla รายงานตัวเลขการผลิต ไตรมาส 1/2023 ส่งมอบรถยนต์ได้ 422,875 คัน Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและการส่งมอบ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ผลิตรถยนต์ 440,808 คัน เพิ่มขึ้น 36% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และส่งมอบรถยนต์ 422,875 คัน เพิ่มขึ้น 4% Tesla ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแบบแยกกลุ่มรุ่นรถยนต์ แบ่งเป็น Model S/X ผลิตได้ 19,437 คัน ส่งมอบ 10,695 คัน ส่วนรุ่น Model 3/Y ผลิตได้ 421,371 คัน และส่งมอบ 412,180 คัน ในรายงานนี้ Tesla ยังบอกว่าบริษัทจะเพิ่มการผลิตที่หลากหลายขึ้นในแต่ละภูมิภาค ซึ่งรวมทั้งการผลิต Model S และ Model X ในภูมิภาคยุโรปและเอเชียที่มากขึ้น Tesla จะรายงานตัวเลขทางการเงินและผลประกอบการอีกครั้งในเช้าวันที่ 20 เมษายน ตามเวลาในไทย ที่มา: Tesla
# เลื่อนไปก่อน ธนาคารกรุงไทยเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมกดเงินสดไม่ใช้บัตร ออกไปไม่มีกำหนด ธนาคารกรุงไทย ประกาศเลื่อนแผนการเก็บค่าธรรมเนียมกดเงินสดแบบไม่ใช้บัตร (cardless ATM) ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังประกาศแนวทางแล้วได้รับเสียงวิจารณ์ในวงกว้าง ธนาคารกรุงไทยระบุว่าตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในชีวิตประจำวัน จึงเลื่อนแผนการเก็บเงินค่าธรรมเนียม 10 บาทต่อการกด ATM แบบไร้บัตรไปก่อน ที่มา - ธนาคารกรุงไทย
# รวมมิตรมุก April Fool's จากบริษัท Tech ในปี 2023 นี้ วันที่ 1 เมษายน หรือวัน April Fool's ได้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว แม้ช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีหลายรายจะงดเล่นแก๊กต่าง ๆ เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 โดยเฉพาะกูเกิล ที่ถือเป็นบริษัทมีไอเดีย April Fool's โดดเด่นมาตลอด โดยให้เหตุผลว่าเป็นช่วงเวลาที่ควรยกเว้น อย่างไรก็ตาม เข้าสู่ปี 2023 หลายบริษัทเทคโนโลยีเริ่มกลับมาเปิดไอเดียต้อนรับ April Fool's กันตามเดิมแล้ว สำหรับปีนี้แก๊กเท่าที่รวบรวมมาได้และน่าสนใจ มีดังนี้ Razer Razer บริษัทอุปกรณ์เกมมิ่ง Razer ล้อเลียนชื่อบริษัทตนเอง ด้วยสินค้าใหม่ เมาส์พร้อมมีดโกนหนวดในตัว เล่นสีสันด้วยเทคโนโลยี Razer Chroma RGB และสโลแกนแบบเล่นคำว่า Feel Sharp, Play Sharp ชมคลิปสาธิตสินค้าซึ่งตอนนี้เป็นสถานะเบต้าได้ที่นี่ HyperX Cloud2O ร่างกายต้องการความชุ่มชื้น HyperX เลยเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Cloud2O ที่สามารถฉีดน้ำออกมาใส่หน้าผู้เล่นได้ ฉะนั้นไม่ต้องกลัวแห้งกระหายน้ำอีกต่อไป ROG Ally Asus เปิดตัวสินค้าใหม่ตระกูลเกมมิ่ง ROG ถึงเวลาของเครื่องเล่นเกมพกพาตัวแรก ROG Ally ใช้ชิปประมวลผลรุ่นพิเศษจาก AMD รองรับประสบการณ์เล่นเกมบน Windows พร้อมหน้าจอ Full HD และระบบระบายความร้อนพัดลมคู่ ทำให้เล่นได้สบายมือ MSI Energy Drink MSI ขยายไลน์สินค้าไปสู่เครื่องดื่ม ด้วยเครื่องดื่มเพิ่มพลังงานสูตรไม่มีน้ำตาล ที่บอกว่าจะช่วยเพิ่มพลังงานให้เหล่าเกมเมอร์ได้แบบเต็มหลอด Nothing Nothing ก็ขยายมาสู่ธุรกิจเครื่องดื่มเช่นกัน ด้วยเครื่องดื่มข้าวหมัก 5.1% ผ่านการรับรองคุณภาพโดยทีมวิศวกรมาเรียบร้อยแล้ว Duolingo - Love Language Duolingo แพลตฟอร์มเรียนภาษาต่างประเทศ เปิดตัวเรียลลิตี้รายการใหม่ Love Language ฉายเฉพาะบนสตรีมมิ่ง Peacock (ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องสมมติ) ที่นำหนุ่มโสด สาวโสด มาใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกันเพื่อค้นหาความรัก ปัญหาเดียวก็คือไม่มีใครสักคนที่พูดภาษาเดียวกันเลย Tesla Cybertruck รถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ของ Tesla ปล่อยคลิปใน Twitter โดยบอกว่าเป็นคลิปทดสอบการชน แต่ปัญหาคือคลิปนี้เป็นเพียงคลิกเบตเพราะดูวนไปยังไงก็ไม่ชนสักที The Murder of Sonic the Hedgehog เกมผจญภัยเพื่อตามหาว่าใครฆ่า Sonic Pokémon โปเกม่อนปรับหน้าเพจของเกมภาค Scarlet and Violet โปรโมต กูร์ตง โปเกม่อนหมูจากภาคนี้ โดยยึดครองที่ทุกส่วน แบบที่ไปตรงไหนก็เจอกูร์ตงเต็มไปหมด LINE MAN Wongnai แอปวงใน เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ "เช่าเพื่อนกินข้าว" คุณจะไม่เหงาอีกต่อไปเมื่อหิว ส่วน LINE MAN เปิดตัว LINE MAEW แอปสั่งอาหารสำหรับแมว ที่ยังไม่มีจริง (ข้อมูลเปิดเผย: LINE MAN Wongnai เป็นบริษัทแม่ของ Blognone) เนื้อหานี้จะเพิ่มเติมหากพบแก๊กที่น่าสนใจอีก ที่มา: The Verge และ Tom's Hardware
# Google Maps ใช้โมเดล AI ตรวจจับข้อมูลปลอม, บล็อครีวิวปลอมได้ 115 ล้านรีวิว กูเกิลเผยสถิติการต่อสู้กับ "ข้อมูลปลอม" ใน Google Maps ที่เปิดให้ผู้ใช้คนไหนก็ได้สามารถอัพเดตข้อมูลสถานที่และแผนที่ได้ เทคนิคของกูเกิลต่างจาก OpenStreetMap ที่ใช้แรงคนคอยตรวจสอบ โดยใช้โมเดล machine learning เข้ามาช่วยตรวจจับด้วย ล่าสุดกูเกิลยังอัพเดตโมเดล AI ตัวใหม่ให้ตรวจจับข้อมูลปลอมเหล่านี้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม แพทเทิร์นใหม่ที่กูเกิลพบคือการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจปลอมโดยใช้โดเมน .design หรือ .top และการอัพโหลดรูปที่มีเบอร์โทรปลอมๆ ลงในรูป เพื่อล่อให้คนที่ค้นหาธุรกิจโทรไปยังเบอร์ปลอมเหล่านี้แทนเบอร์จริง ซึ่งโมเดลตัวใหม่ของกูเกิลตรวจจับได้ สถิติการตรวจจับของปี 2022 มีดังนี้ บล็อครีวิวที่ผิดเงื่อนไขการใช้งานได้ 115 ล้านรีวิว รีวิวจำนวนมากถูกดักจับได้ก่อนโผล่เข้าในระบบ และโมเดล AI ใหม่สามารถตรวจจับรีวิวปลอมได้เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับปี 2021 บล็อคหรือลบรูปภาพที่คุณภาพต่ำ เบลอ หรือผิดเงื่อนไขการใช้งาน จำนวน 200 ล้านรูป และวิดีโอ 7 ล้านคลิป บล็อคการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจปลอม 20 ล้านโปรไฟล์ เพิ่มขึ้น 8 ล้านโปรไฟล์จากปี 2021 และเพิ่มการคุ้มครองโปรไฟล์ธุรกิจ 185,000 แห่งจากความพยายามแก้ไขข้อมูลปลอม กูเกิลยังเปิดเผยว่าใช้วิธีฟ้องร้องกลุ่มคนที่ปลอมตัวเป็นพนักงานของกูเกิล และนำเสนอขายรีวิวปลอมไปยังภาคธุรกิจต่างๆ ด้วย ที่มา - Google
# กูเกิลออกแอพ Nearby Share บนวินโดวส์แล้ว แชร์ไฟล์กับอุปกรณ์ Android ได้โดยตรง กูเกิลออกแอพ Nearby Share บนวินโดวส์ เพื่อให้แชร์ไฟล์จากอุปกรณ์ Android มายังพีซีได้ง่ายๆ ฟีเจอร์ Nearby Share มีบน Android มาตั้งแต่ปี 2020 และขยายมายัง ChromeOS ในปี 2021 จากนั้นประกาศว่าจะออกแอพบนวินโดวส์ตั้งแต่ต้นปี 2022 แต่เงียบหายไปพักใหญ่ๆ ล่าสุดกูเกิลเปิดให้ดาวน์โหลด Nearby Share Beta for Windows ไปลองใช้งานกัน สามารถแชร์ไฟล์ได้ทุกประเภท ทั้งภาพ วิดีโอ เอกสาร หรือต้องการแชร์ทั้งโฟลเดอร์ก็ทำได้ ในแง่ความเป็นส่วนตัว Nearby Share สามารถตั้งค่าได้ว่าจะรับส่งไฟล์ของใครได้บ้าง มีทั้งจากเครื่องอื่นของเราเอง (บัญชี Google Account เดียวกัน), เพื่อนในรายการ Contact และจากใครก็ได้ (Everyone) ที่มา - Google, XDA
# Sony เปิดตัว ZV-E1 กล้อง Vlog ฟูลเฟรม อัดสเป็กและลูกเล่นสำหรับสายครีเอเตอร์ โซนี่เปิดตัว ZV-E1 กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้แบบฟูลเฟรมรุ่นล่าสุด ตามที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ พร้อมจุดขายการเป็นกล้อง Vlog ที่ใส่เครื่องมือและเทคโนโลยีรองรับความต้องการของ Vlogger สเป็กของ ZV-E1 ใช้เซนเซอร์ Exmor R CMOS ฟูลเฟรมเรืองแสงด้านหลัง 12.1MP ระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR ขั้นสูง พร้อมหน่วยประมวลผล AI ที่ใช้ในการรับรู้และจับภาพวัตถุได้กว้างและแม่นยำมากขึ้น กล้องมีขนาดเล็กซึ่งโซนี่บอกว่าเป็นกล้อง Vlog ฟูลเฟรมเปลี่ยนเลนส์ได้ที่น้ำหนักเบาที่สุดในโลก (เฉพาะตัวกล้องประมาณ 400 กรัม) ความสามารถด้านการถ่ายวิดีโอ รองรับที่ 4K 60p และจะออกเฟิร์มแวร์เพื่อรองรับ 4K 120p และ FullHD 240p ส่วนวิดีโอสำหรับการไลฟ์สด รองรับที่ 4K 30p หรือ FullHD 60p ผ่านการเชื่อมต่อด้วยสาย USB-C เครื่องมือที่ใส่เข้ามาสำหรับการถ่าย Vlog เช่นการตั้งค่า Cinematic Vlog เพื่อเลือกโทนสำหรับสร้างสรรค์ฟุตเทจในแบบ Cinematic ที่ต้องการ, ระบบกันสั่น 5 แกน ในโหมด Dynamic Active และมี AI แบบเรียลไทม์ที่ช่วยจับวัตถุไว้ แม้จะหลุดจากเฟรมกล้อง ZV-E1 กำหนดราคาขาย เฉพาะตัวกล้องอย่างเดียว ในอเมริการาคา 2,199.99 ดอลลาร์ และแบบตัวกล้องกับเลนส์คิท 28-60mm ราคา 2,499.99 ดอลลาร์ มีให้เลือกสองสี ส่วนราคาในไทยยังไม่ประกาศ ที่มา: Digital Camera World และ โซนี่ไทย
# Sega ออกเกมสืบสวนฆาตกร The Murder of Sonic the Hedgehog ให้เล่นฟรีบน Steam Sega กับ April Fool's ปีนี้มาอย่างเหนือชั้นด้วยการเปิดตัวเกมที่ไม่มีใครคาดคิด The Murder of Sonic the Hedgehog เกมแนวนักสืบที่ใช้ตัวละครจาก Sonic the Hedgehog โดยเป็นเกมจริงๆ ที่แจกให้เล่นกันฟรีๆ บน Steam The Murder of Sonic the Hedgehog เป็นเกมผจญภัย 2D แนว point and click ให้เรารับบทเป็นนักสืบ ตามหาฆาตรกรที่ฆ่า Sonic บนรถด่วน Mirage Express โดยต้องสอบสวนเพื่อนๆ ของ Sonic ที่เราคุ้นหน้ากันดีจากเกมในซีรีส์ โปรเจคนี้ถือเป็นการทดลองทำอะไรสนุกๆ ของ Sega และ Sonic Team โดย Sega บอกว่าเกมนี้ไม่ได้เป็น canon หรือไม่ได้เป็นเนื้อเรื่องที่เกิดจริงในจักรวาล Sonic ดังนั้นขอให้สบายใจกันได้ ไม่ต้องกลัวว่า Sonic ตายแล้วจะไม่มีเกมให้เล่นกันอีก ที่มา - Polygon
# ญี่ปุ่นออกกฎห้ามส่งออกอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ แบบเดียวกับสหรัฐ-เนเธอร์แลนด์ ประเทศญี่ปุ่นเตรียมออกกฎห้ามส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ไปยังประเทศจีน ตามข้อตกลง 3 ฝ่ายกับสหรัฐอเมริกาและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเนเธอร์แลนด์ทำไปก่อนแล้ว และกำลังยกระดับความเข้มข้นมากขึ้น Yasutoshi Nishimura รัฐมนตรีพาณิชย์ของญี่ปุ่นบอกว่า กฎห้ามส่งออกจะครอบคลุมอุปกรณ์ 6 หมวด เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2023 แต่ Nishimura ก็ย้ำว่าเป็นกฎที่บังคับใช้กับการส่งออกไปยังทุกประเทศ ไม่ได้เจาะจง "ประเทศใดประเทศหนึ่ง" ประเทศญี่ปุ่นมีบริษัทที่ทำอุปกรณ์เกี่ยวกับ lithography หลายราย เช่น Nikon และ Tokyo Electron แม้ระดับเทคโนโลยีอาจไม่ได้ก้าวหน้าเท่ากับ ASML ของเนเธอร์แลนด์ แต่ที่ผ่านมาก็เป็นทางออกของบริษัทผลิตชิปในจีนหลังโดนสหรัฐออกคำสั่งแบนในช่วงก่อนหน้านี้ ที่มา - Financial Times ตัวอย่างอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของบริษัท Tokyo Electron
# ธนาคารกรุงไทย เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินสดไม่ใช้บัตร ครั้งละ 10 บาท มีผล 1 พ.ค. 66 ธนาคารกรุงไทย ประกาศว่าจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มแบบไม่ใช้บัตร ครั้งละ 10 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป โดยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้ให้ 1 ครั้งต่อเดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม 2566 หลายปีที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ต่างยกเว้นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่อดีตเคยมีค่าธรรมเนียม ซึ่งที่เด่นชัดคือค่าธรรมเนียมการโอนเงินแบบข้ามเขต และข้ามธนาคาร ทำให้เกิดการรับ-จ่ายเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น และมีการใช้เงินสดน้อยลง ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยได้ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมมาตั้งแต่ปี 2561 หรือ 5 ปีที่แล้ว ไทยพีบีเอสอ้างอิงข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าปริมาณการถอนเงินสดของคนไทยลดลง 30.9% เมื่อเทียบตัวเลขปี 2565 กับปี 2561 ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ต่างเพิ่มบริการถอนเงินสดโดยไม่ใช้บัตร ทำให้ธุรกรรมประเภทดังกล่าวคิดเป็น 32% ของการถอนเงินสดทั้งหมด อัพเดต: ธนาคารกรุงไทยประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมนี้ออกไปก่อน ที่มา: ธนาคารกรุงไทย ผ่าน Thai PBS
# Final Fantasy XVI พัฒนาเสร็จแล้ว พร้อมวางขายตามกำหนด 22 มิ.ย. 2023 Square Enix ประกาศผ่านบัญชีทวิตเตอร์ว่ากระบวนการพัฒนา Final Fantasy XVI เสร็จสิ้นแล้ว (gone gold) ที่เหลือคือการนำไฟล์เกมเวอร์ชันสมบูรณ์ไปปั๊มลงแผ่น และงานการผลิตอื่นๆ เพื่อเตรียมขายวันที่ 22 มิถุนายน 2023 ตามกำหนด เมื่อครั้งตอน Final Fantasy XV เราเห็นปัญหาในการพัฒนาเกมอยู่บ่อยครั้ง มีกระบวนการพัฒนาที่ยืดเยื้อยาวนาน (เปิดตัวครั้งแรก 2006 ที่เป็นภาค versus XIII, วางขายจริง 2016) แต่พอมาเป็นภาค XVI ทาง Square Enix เปลี่ยนมาใช้วิธีเปิดตัวเมื่อเกมพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้เปิดตัวต่อสาธารณะปี 2020 และสามารถวางขายจริงในปี 2023 ได้ตามแผน
# Bard เพิ่มความสามารถด้านคณิตศาสตร์-ตรรกะ โดยใช้โมเดล PaLM ตัวใหม่ของกูเกิล Jack Krawczyk ทีมพัฒนา AI ของกูเกิลที่รับผิดชอบโครงการ Bard โพสต์ข้อมูลในทวิตเตอร์ว่าปรับปรุงโมเดลเบื้องหลัง Bard ให้ฉลาดขึ้นในเรื่องคณิตศาสตร์และตรรกะ โดยดึงเอาเทคโนโลยีบางอย่างจากโมเดล PaLM รุ่นล่าสุดของกูเกิลมาใช้งาน Bard เปิดตัวโดยระบุว่าใช้โมเดล LaMDA ซึ่งเป็นโมเดลรุ่นเก่ากว่า PaLM แถมยังเป็นโมเดล LaMDA รุ่น lightweight อีกต่างหาก เรื่องนี้ Sundar Pichai ซีอีโอของ Alphabet อธิบายไว้ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ The New York Times ว่าเป็นความตั้งใจของกูเกิลเอง ที่จะค่อยๆ ปล่อยโมเดลที่มีความสามารถไม่มากนักก่อน เพื่อประเมินดูว่ารับมือไหวแค่ไหน กูเกิลยังมีโมเดลความสามารถสูงกว่านั้นเตรียมเอาไว้แล้ว ซึ่งจะค่อยๆ ใส่เข้ามา เขาบอกว่าใครทำ AI สำเร็จก่อนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือทำให้มันถูกต้อง (getting it right) ต่างหาก PaLM เป็นโมเดล AI ที่ใช้สถาปัตยกรรม Pathway ตัวใหม่ โดยมีให้เลือก 3 ขนาด คือ 8 พันล้านพารามิเตอร์, 64 พันล้านพารามิเตอร์, 540 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่งกูเกิลไม่ได้เปิดเผยว่าเอาโมเดลขนาดไหนมาใช้งานกับ Bard Krawczyk ยังบอกว่าตอนนี้ Bard จะเข้าใจปัญหาคณิตศาสตร์ และคำที่ซับซ้อนมากขึ้นแล้ว ส่วนฟีเจอร์รองรับการโค้ดดิ้งกำลังตามมา เขาบอกว่าแนวทางของกูเกิลคือหาจุดสมดุลระหว่างความสามารถ (capability) กับประสิทธิผล (efficiency) ซึ่งจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่มา - 9to5google
# Lenovo เปิดตัวแบรนด์ใหม่ LOQ จับตลาดพีซีเกมมิ่งระดับเริ่มต้น ถูกกว่า Legion สัปดาห์ที่ผ่านมา Lenovo เปิดตัวแบรนด์ลูกใหม่ LOQ (อ่านว่า ล็อค เหมือน lock) สำหรับพีซีเกมมิ่งระดับเริ่มต้น Lenovo มีแบรนด์ Legion สำหรับสินค้ากลุ่มเกมมิ่งระดับบนอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ใช้แบรนด์ IdeaPad Gaming สำหรับตลาดเกมมิ่งราคาถูกลงมา ซึ่งอาจทับซ้อนกับแบรนด์ IdeaPad ที่จับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป การออกแบรนด์ย่อย LOQ เพิ่มเข้ามาอาจช่วยให้ลูกค้าของ Lenovo เข้าใจระดับของสินค้าได้ง่ายขึ้น สไตล์การออกแบบของ LOQ จะใช้เครื่องสีเทา Storm Grey ไฮไลท์สีฟ้าแบบเดียวกับ Legion ยุคหลังๆ และโลโก้ใช้ตัว O แบบแหว่งเหมือนกันด้วย สินค้าชุดแรกของแบรนด์ LOQ มีทั้งโน้ตบุ๊กเกมมิ่งและเดสก์ท็อป มีจำนวน 5 รุ่นได้แก่ Lenovo LOQ 16IRH8 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ 16" ซีพียู Intel Lenovo LOQ 15IRH8 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ 15" ซีพียู Intel Lenovo LOQ 16APH8 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ 16" ซีพียู AMD Lenovo LOQ 15APH8 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ 15" ซีพียู AMD Lenovo LOQ Tower 17IRB8 เดสก์ท็อปเกมมิ่ง ซีพียู Intel สินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊กใส่จีพียูได้สูงสุด GeForce RTX 4060 8GB ส่วนเดสก์ท็อปยังไม่ระบุรุ่นจีพียู (คาดว่าจะเป็น RTX 4060 รุ่นเดสก์ท็อปที่ยังไม่เปิดตัว) มีฟีเจอร์สำหรับชาวเกมเมอร์ เช่น หน้าจอ VRR, รองรับ G-Sync, แรมขั้นต่ำ 16GB ขยายได้เป็น 32GB, ชาร์จเร็ว Super Rapid Charge ราคาเริ่มต้นที่ 899.99 ดอลลาร์ (โน้ตบุ๊ก 15"), 1,149.99 ดอลลาร์ (โน้ตบุ๊ก 16") และ 979.99 ดอลลาร์ (เดสก์ท็อป) โดยสินค้ารุ่นแรกจะเริ่มวางขายเดือนเมษายน 2023 เป็นต้นไป ที่มา - Lenovo
# พบ Google Drive จำกัด "จำนวนไฟล์" ที่สามารถเก็บได้สูงสุด - Google ยืนยันกระทบน้อยมาก มีรายงานจากผู้ใช้งาน Google Drive บางคน พบข้อความเตือนว่าไม่สามารถสร้างไฟล์ใหม่เพิ่มได้ โดยบอกว่าบัญชีนี้สร้างไฟล์เกินจำนวนที่จำกัด 5 ล้านไฟล์แล้ว โดยแนะนำให้ลบไฟล์ออก และเคลียร์ใน Trash ต่อด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานต่อได้ เนื่องจากกูเกิลไม่เคยบอกเงื่อนไข ว่าจำนวนไฟล์ที่ผู้ใช้งานสร้างได้สูงสุดคือเท่าใด จึงมีการแจ้งปัญหาใน IssueTracker และพบว่าบัญชีที่เสียเงินเพิ่มพื้นที่ก็พบข้อความเตือนแบบนี้เช่นกัน ปัจจุบันเงื่อนไขใช้งานที่กูเกิลระบุไว้ในหน้าซัพพอร์ต มีเพียงจำนวนไฟล์ที่แชร์ โดยสามารถแชร์ไฟล์ในไดรฟ์ได้สูงสุด 4 แสนรายการ หากเกินนั้นต้องปลดการแชร์ออก ไม่มีการระบุจำนวนไฟล์ที่สามารถสร้างได้ใน 1 ไดรฟ์ ตัวแทนของกูเกิลชี้แจงปัญหานี้ โดยยืนยันว่าการจำกัดจำนวนของไฟล์นั้นไม่ใช่บั๊ก แต่เป็นระบบเพื่อป้องกันความปลอดภัย จากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม โดยจำนวนที่จำกัดนั้น คือตัวเลขที่ 1 บัญชีผู้ใช้งาน สามารถสร้างไฟล์ได้ทั้งหมดในทุกที่ ไม่ใช่จำนวนไฟล์ที่สามารถเก็บได้ใน 1 Drive นอกจากนี้กูเกิลบอกว่าข้อจำกัดนี้ไม่กระทบกับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบผู้ใช้งานที่เจอปัญหานี้เป็นจำนวนน้อยมาก ๆ ที่มา: Ars Technica
# คนดัง ดารา สื่อใหญ่ ประกาศตัวไม่ยอมจ่าย 8 ดอลลาร์ซื้อติ๊กถูก Twitter Blue ระบบใหม่ Twitter กำลังจะเปลี่ยนเครื่องหมาย Verified แบบเดิม (คนดังใช้ฟรี) มาเป็น Twitter Blue จ่ายเดือนละ 8 ดอลลาร์ในวันนี้ 1 เมษายน (ตามเวลาสหรัฐ) ทำให้เจ้าของเครื่องหมาย Verified แบบเดิมต้องตัดสินใจว่าจะยอมจ่ายเงินหรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนดัง นักกีฬา นักร้อง นักแสดง รวมถึงแบรนด์สื่อใหญ่ๆ จำนวนหนึ่งประกาศแล้วว่า "ยังไงก็ไม่จ่าย" เพราะมองว่าไม่ใช่สิ่งที่สมควรต้องจ่าย ตัวอย่างคนดังเหล่านี้ได้แก่ นักบาสเก็ตบอล LeBron James, ควอเตอร์แบ็คอเมริกันฟุตบอล Patrick Mahomes, นักแสดง William Shatner กรณีของสื่อรายใหญ่ที่ [เคย] จำเป็นต้องมี Verified เพื่อความน่าเชื่อถือ ระบุว่าได้รับข้อเสนอจาก Twitter ให้ใช้แพ็กเกจแบบ Enterprise ในราคา 1,000 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะได้ 5 บัญชีแบบ Blue พร้อมโลโก้บริษัทต่อท้ายชื่อในระบบ Twitter ด้วย เว็บข่าว BuzzFeed ติดต่อไปยังสื่อหลายแห่งและได้รับคำยืนยันว่าจะไม่จ่าย ได้แก่ The New York Times, The Washington Post, The Los Angeles Times รวมถึง BuzzFeed เอง ในขณะที่สื่อเล็กๆ บางรายบอกว่าอาจยอมจ่าย หรือทดลองดูในช่วงแรก ส่วนหน่วยงานภาครัฐอย่างทำเนียบขาว ซึ่งจะได้เครื่องหมายติ๊กถูกสีเทาแสดงว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ ระบุว่าจะไม่จ่ายเงินค่า Blue ให้กับบุคลากรของตัวเองเช่นกัน ด้วยเหตุผลว่าเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าในระบบใหม่ ไม่ได้เป็นการยืนยันตัวตนว่าเป็นบุคคลนั้นจริง แต่เป็นแค่ยืนยันว่าจ่ายเงินซื้อ Blue แล้วเท่านั้น จึงไม่เห็นประโยชน์ใดในเรื่องนี้ ที่มา - Techcrunch, BuzzFeed, Axios
# Huawei รายงานผลการดำเนินงานปี 2022 รายได้รวมเติบโตเล็กน้อย เทียบกับปี 2021 Huawei ออกรายงานประจำปี 2022 รายได้รวม 642,338 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2021 และมีกำไรสุทธิ 35,562 ล้านหยวน โดยมีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน 6.6% รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้ กลุ่มลูกค้าเครือข่ายผู้ให้บริการ เพิ่มขึ้น 0.9% เป็น 283,978 ล้านหยวน กลุ่มลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้น 30.0% เป็น 133,151 ล้านหยวน และกลุ่มลูกค้าบุคคล 214,463 ลดลง 11.9% Eric Xu ประธานตามวาระของ Huawei กล่าวว่าปี 2023 เป็นปีที่สำคัญของ Huawei ที่จะพัฒนาเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเปรียบ Huawei เหมือนกับดอกเหมย ที่ผลิบานสวยงามท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น แม้บริษัทจะได้รับแรงกดดันหลายอย่าง แต่สามารถเติบโตและแข่งขันในตลาดได้ต่อไป ที่มา: Huawei
# GM ประกาศเลิกสนับสนุน CarPlay/Android Auto, เปลี่ยนไปใช้ Android Automotive บริษัทรถยนต์เครือ GM ประกาศว่าจะเลิกสนับสนุนระบบยิงมือถือขึ้นจอภาพรถยนต์ (phone projection systems) ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ในรถยนต์รุ่นปี 2024 เพื่อไปใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่รันจากคอมพิวเตอร์ภายในรถยนต์แทน รถยนต์ในเครือ GM เริ่มใช้ Android Automotive มาได้สักพักแล้ว เช่น GMC และ Cadillac ที่เริ่มในปี 2021 แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ GM ยืนยันว่าจะเลิกรองรับ CarPlay และ Android Auto ด้วย GM ให้เหตุผลว่ายุทธศาสตร์ใหม่ของบริษัทคือการใช้คอมพิวเตอร์ในรถ และระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่บริษัทปรับแต่งเอง ใช้ชื่อแพลตฟอร์มโดยรวมว่า Ultifi โดยจะรองรับแอพยอดนิยมอย่าง Google Maps, Google Assistant, Audible, Spotify จึงตัดสินใจเลิกรองรับระบบ phone projection ที่มีความสามารถซ้ำซ้อนกัน ผู้ใช้งานมือถือยังสามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์ได้ผ่าน Bluetooth (แต่จะเป็นการส่งข้อมูลอย่างเดียว, projection ไม่ได้แล้ว) หน้าจอระบบ Ultifi ที่อิงจาก Android Automotive นโยบายนี้จะมีผลต่อรถ EV ที่วางขายใหม่เท่านั้น (รถน้ำมันที่วางขายใหม่ยังใช้ระบบเดิม) และรถยนต์ที่ขายไปแล้วทุกรุ่นจะยังใช้งาน CarPlay และ Android Auto ได้เหมือนเดิม โดยรถยนต์ใหม่รุ่นที่จะมีเฉพาะ Android Automotive เท่านั้นคือ 2024 Chevrolet Blazer EV, 2024 Chevrolet Equinox EV, 2024 Cadillac CELESTIQ, 2025 GMC Sierra EV ส่วนรถยนต์ EV ของปี 2024 บางรุ่นจะยังใช้งาน CarPlay และ Android Auto ได้ เช่น Chevrolet Silverado EV, Bolt EV, Cadillac Lyriq, GMC Hummer EV Chevrolet Blazer EV รุ่นปี 2024 (วางขายปี 2023) จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ Android Automotive อย่างเดียว ที่มา - The Verge, Ars Technica
# บริษัทยิงดาวเทียม Virgin Orbit ปลดพนักงาน 85%, หยุดดำเนินการ หลังหาเงินก้อนใหม่ไม่ได้ Virgin Orbit บริษัทยิงดาวเทียมของเครือ Virgin ที่เพิ่งมีข่าวยิงดาวเทียมขึ้นจากแผ่นดินอังกฤษ (แต่ไม่สำเร็จ) ประกาศปลดพนักงานออก 85% หลังประสบปัญหาเงินทุน บริษัท Virgin Orbit จะหยุดการดำเนินงานต่างๆ ในอนาคตระยะใกล้ จนกว่าจะสามารถหาเงินทุนก้อนใหม่ได้ การปลดพนักงานครั้งนี้กระทบพนักงานราว 675 คน โดยเงินชดเชยจะได้รับจากบริษัทลงทุนของ Richard Branson ผู้ก่อตั้ง Virgin Group ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนทางการเงินชั่วคราว Virgin Orbit เป็นบริษัทที่แยกตัวจาก Virgin Galactic ในปี 2017 เพื่อมาทำธุรกิจเรื่องส่งดาวเทียมโดยเฉพาะ ที่มา - BBC
# Twitter เริ่มโอเพนซอร์สอัลกอริทึม ระบบแนะนำทวีต (Recommendation) แล้ว Twitter ได้โอเพนซอร์สระบบคัดเลือกแนะนำทวีตสำหรับผู้ใช้งานแล้ว (Recommendation) ตามที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ โดยเผยแพร่โค้ดทาง GitHub ของ Twitter ซึ่ง Twitter บอกว่าเป็นแนวทางเปิดเผยและโปร่งใสมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ทั้งนี้มีโค้ดบางส่วนที่ไม่ได้นำมาเผยแพร่ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยผู้ใช้งาน ขณะที่ส่วนของระบบแนะนำโฆษณายังไม่ได้เผยแพร่ในรอบนี้ Twitter ยังเขียนบล็อกอธิบายกระบวนการทำงานของระบบแนะนำทวีตในภาพใหญ่ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ คัดเลือกทวีตดีที่สุดจากเครื่องมือต่าง ๆ (Candidate Sourcing) จากนั้นจัดลำดับทวีต (Rank) โดยใช้โมเดล Machine Learning และขั้นตอนสุดท้ายคือการกรองทวีตสำหรับแต่ละผู้ใช้งาน (Filters) โดยดูเงื่อนไขกำหนด เช่น ไม่ได้บล็อก, ไม่ใช่ทวีต NSFW หรือเคยเห็นทวีตนี้มาก่อนแล้ว Twitter ยังลงรายละเอียดเพิ่มเติมในบางขั้นตอน เช่น การแสดงทวีตในแท็บ For You จะเริ่มจากการคัดทวีตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานแต่ละคน 1,500 ทวีต และแบ่งทวีตที่จะแสดงเป็นสองกลุ่ม คือคนที่เราติดตาม 50% คนที่เราไม่ได้ตามอีก 50% ตัวเลขนี้อาจแตกต่างไปสำหรับผู้ใช้แต่ละคน มีของแถมจากนักแกะแอป Jane Wong ซึ่งพบว่าในโค้ดของ Twitter จะใส่ป้ายกำกับ (Label) โดยเฉพาะสำหรับทวีตของแต่ละกลุ่ม (author_is) ซึ่งตัวอย่างแสดง แยกทั้ง ทวีตจากนักการเมืองพรรค Democrat, Republican ทวีตจาก Power User (อาจหมายถึงบัญชี Verified รุ่นแรก) และแยกทวีตเฉพาะของซีอีโอ Elon Musk โดยเฉพาะด้วย ตามรายงานก่อนหน้านี้ ที่มา: The Verge และ Twitter
# Tesla เปิดสถานี Supercharger ในไทยเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 และพระราม 3 เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Tesla ได้เปิดสถานี Supercharger แห่งแรกในประเทศไทยที่ห้าง centralwOrld ล่าสุดได้เปิดเพิ่มอีก 2 แห่งแล้วที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 และเซ็นทรัลพระราม 3 จากหน้าเว็บ Tesla ระบุว่าสถานี Supercharger ที่เซ็นทรัลพระราม 3 มี 4 หัว ส่วนที่เซ็นทรัลพระราม 2 มี 8 หัวชาร์จ ทั้งสองแห่งเปิดให้บริการตามเวลาทำการของห้างคือ 10:00 - 22:00 น. ชาร์จแรงสุด 250 กิโลวัตต์ นอกจากนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน Tesla ก็ได้เปิดสถานีชาร์จแบบ Destination Charging แห่งแรกในประเทศไทยที่ห้างสยามพารากอน Tesla ระบุว่าจะเปิดสถานี Supercharger ในประเทศไทยให้ได้อย่างน้อย 13 แห่งภายในปี 2023 ที่มา - Tesla
# อิตาลีสั่งบล็อคการใช้ ChatGPT ในประเทศ ข้อหา OpenAI เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไปเทรน GPDP หน่วยงานคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของประเทศอิตาลี สั่งแบนการใช้งาน ChatGPT ในประเทศอิตาลีแล้ว ด้วยข้อหาเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในอิตาลีเพื่อไปเทรนโมเดล โดยไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว GDPR ของยุโรป GPDP จึงสั่งให้แบนการใช้งาน ChatGPT ก่อนชั่วคราว แล้วจะเข้าสอบสวนวิธีการเก็บข้อมูลของ OpenAI ต่อไปว่าถูกต้องแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ GPDP ต้องการตรวจสอบด้วยว่า OpenAI มีวิธีตรวจสอบอายุของผู้ใช้งานว่าเกิน 13 ปีจริงๆ ได้อย่างไร GPDP ยังยกกรณี ChatGPT มีบั๊กแสดงข้อมูลของบุคคลอื่น ซึ่งทาง OpenAI ชี้แจงว่าเป็นบั๊กของ Redis ฐานข้อมูลที่ใช้งาน OpenAI มีเวลาชี้แจงข้อมูลมายัง GPDP ภายใน 20 วัน และมีโทษปรับสูงสุด 20 ล้านยูโร หรือ 4% ของรายได้ทั่วโลก ที่มา - GPDP (ภาษาอิตาลี), Politico
# Nokia เตรียมส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G ขึ้นสู่ดวงจันทร์ Nokia บริษัทที่เป็นภาพจำสมาร์ตโฟนยุคบุกเบิกที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งอีกหนึ่งในธุรกิจของ Nokia คือ ให้บริการสัญญาณคมนาคม โดย CNBN ได้รายงานว่า Nokia เตรียมเปิดตัวเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G บนดวงจันทร์ภายในปีนี้ เพื่อการพัฒนาและศึกษาด้านอวกาศบนดวงจันทร์ สัญญาณเครือข่ายนี้จะได้รับพลังงานเพื่อขับเคลื่อนด้วยสถานีติดตั้งเสาอากาศที่อยู่ในยานที่จะลงจอดบนดวงจันทร์ชื่อว่า Nova-C และทาง Nokia ได้บอกว่าเทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทนต่อสภาวะอากาศโดยรอบที่รุนแรงของชั้นบรรยากาศ โดยเครือข่ายนี้จะถูกนำไปใช้ในภารกิจ Artemis 1 ของ NASA ในการพามนุษย์ไปสู่ดวงจันทร์อีกครั้ง Nokia ตั้งเป้าหมายเพื่อให้เครือข่ายนี้ใช้ในภารกิจสำรวจอวกาศในอนาคต จะช่วยให้นักบินสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมโรเวอร์จากระยะไกลได้ รวมไปถึงส่งข้อมูลและคลิปวิดีโอกลับมาสู่โลกได้ ซึ่งถ้าตรวจสอบแล้วไม่เกิดปัญหาในเรื่องของระบบฮาร์ดแวร์หรือความผิดพลาดในการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นจริงในปี 2023 อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนดวงจันทร์คือ การหาค้นหาน้ำแข็งบนดวงจันทร์ เนื่องจากในปัจจุบันพื้นผิวของดวงจันทร์แห้งแล้วก็ตาม แต่ภารกิจสำรวจดวงจันทร์ที่ผ่านมาได้ค้นพบซากน้ำแข็งบนดวงจันทร์ ซึ่งน้ำที่พบจะถูกนำมาใช้เป็นน้ำดื่ม และยังสามารถแยกเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจนเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับร็อกเก็ตได้แล้ว ก็สามารถใช้เป็นออกซิเจนให้นักบินอวกาศใช้หายใจได้ด้วยเช่นกัน นอกจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนดวงจันทร์แล้ว ยังมีบริษัท Rolls-Royce กำลังพัฒนาเกี่ยวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กไว้ใช้ในฐานปฏิบัติการบนดวงจันทร์ เพื่อผลิตพลังงานให้กับผู้ที่อาศัยบนดวงจันทร์และนักสำรวจในอนาคต ที่มา: CNBC
# ซีอีโอธนาคาร DBS ขอโทษลูกค้าและผู้ถือหุ้นหลังระบบล่มทั้งวัน ตั้งกรรมการภายนอกมาสอบสวน สัปดาห์นี้ธนาคาร DBS ในสิงคโปร์ล่มไปทั้งวันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทางธนาคารก็จัดประชุมผู้ถือหุ้นพอดีทำให้ Piyush Gupta ซีอีโอของธนาคารต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ โดยยอมรับว่าที่ธนาคารล่มครั้งใหญ่ไปสองครั้งในรอบ 16 เดือนเป็นเรื่องน่าอายและสัญญาว่าจะทำให้ดีขึ้น Gupta ไม่ได้แจ้งสาเหตุที่ระบบล่มชัดเจน แต่ระบุว่าหลังจากระบบล่มไปหลายชั่วโมงทีมงานต้องเปิดเซิร์ฟเวอร์สำรองขึ้นมาใช้งาน และพบว่ากระบวนการย้ายไปเซิร์ฟเวอร์สำรองต้องใช้เวลานานถึงสองชั่วโมง สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของการล่มครั้งนี้จะสอบสวนต่อไป โดยทางธนาคารจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนอย่างละเอียด ตัวกรรมการนี้จะมีตั้งแต่กรรมการบริษัท, ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีภายนอก, ไปจนถึงตัวแทนหน่วนงาน GovTech ของรัฐบาล พร้อมกับจะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เคยทำงานกับระบบไอทีขนาดใหญ่มาให้คำแนะนำว่าควรปรับปรุงระบบอย่างไรบ้าง ที่มา - Strait Times
# Google Doodle ฉลอง 109 ปี จันตรี ศิริบุญรอด บิดาแห่งนิยายวิทยาศาสตร์ไทย โลโก้ของ Google Search หรือที่เรียกว่า Doodle วันนี้ เป็นภาพของ จันตรี ศิริบุญรอด บิดาแห่งนิยายวิทยาศาสตร์ไทย ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ พ.ศ. 2511 โดยจันตรีเกิดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2460 หากมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้จะมีอายุครบ 109 ปี ทายาทของจันตรี ประมาณว่าผลงานทั้งหมดของเขามีประมาณ 300 ชิ้น โดยเรื่องที่มีชื่อเสียงได้แก่ ผู้ดับดวงอาทิตย์ และ ผู้พบแผ่นดิน ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในชุด 88 หนังสือดีวิทยาศาสตร์ไทย ประวัติเพิ่มเติมอ่านได้จากเว็บ อ่านเอา ที่มา - Google
# Linus Tech Tips เผย โดนมัลแวร์หลอกว่าเป็นไฟล์ PDF ขโมย session cookies แอคเคาท์ YouTube วันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ช่อง YouTube สายไอทีชื่อดังอย่าง Linus Tech Tips และช่องในเครือถูกแฮ็ก, ซ่อนวิดีโอ (unlisted) และถูกนำแชนแนลไปไลฟ์วิดีโอ Elon Musk ที่พูดเรื่องคริปโต พร้อม QR สแกมไปยังเว็บสแกมคริปโต หลังจากกู้แอคเคาท์กลับมาได้ Linus Sebastian เจ้าของแชนแนล ทำคลิปเล่าว่า ตัวแอคเคาท์มีการใช้งาน 2FA อยู่แล้ว แฮกเกอร์ก็ไม่ได้รหัสผ่านไป แต่สาเหตุที่โดนแฮ็ก เพราะทีมงานไปเปิดไฟล์ PDF ปลอมที่เป็นข้อเสนอสปอนเซอร์ ก่อนที่ตัวเครื่องจะติดมัลแวร์ และถูกขโมย session cookies ของ YouTube ไป ขณะเดียวกันช่อง The PC Security ที่ได้รับอีเมลข้อเสนอสปอนเซอร์และไฟล์ PDF คล้ายๆ กัน ทำคลิปอธิบายบอกว่าตัวไฟล์มีขนาด 770MB (เมลที่ติดต่อให้ไปดาวน์โหลดผ่าน Dropbox) เป็นไฟล์ .scr สำหรับ screensaver ซึ่งด้วยขนาดไฟล์ขนาดนี้ Antivirus ไม่น่าสแกนได้อัตโนมัติ แต่ภายในไฟล์เป็น empty space เสียเยอะ ที่มา - Linus Tech Tips, The PC Security
# [ลือ] Netflix อาจใช้ iPhone เป็นอุปกรณ์ควบคุมเกมบนจอ TV Netflix แพลตฟอร์มที่โดดเด่นในเรื่องการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ ยังมีการเตรียมพัฒนาบริการด้านเกมด้วยเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้มีประกาศเปิดตัวเกมที่สามารถเล่นได้บนสมาร์ตโฟนในระบบ iOS และ Android แต่ล่าสุดทาง Bloomberg ได้มีรายงานถึงข่าวลือจาก MacRumors ออกมาว่า Netflix กำลังวางแผนให้ใช้ iPhone เป็นอุปกรณ์ควบคุมเกมบนจอ TV ได้ ซึ่งตรงกับเป้าหมายของ Netflix ที่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้ทุกอุปกรณ์ที่มี โดยใน Twitter ได้มีการแชร์โพสต์ภาพโค้ดที่เขียนว่า “A game on your TV needs a controller to play. Do you want to use this phone as a game controller?” ในระบบของ iOS ของ Netflix ด้วย รวมไปถึงในปี 2022 ที่ผ่านมา Netflix ได้บอกว่ากำลังเริ่มศึกษาบริการรูปแบบ Cloud Gaming อย่างจริงจัง ซึ่งไม่แน่ในอนาคต เราอาจจะได้ใช้สมาร์ตโฟนที่มีอยู่เป็นอุปกรณ์ควบคุมเกมบน Cloud Gaming ได้
# กูเกิลปรับแพ็กเกจราคา BigQuery แยก 3 ระดับ ยืดหยุ่นกว่าเดิม ลดค่าใช้จ่ายรวมลงได้ 30-40% กูเกิลประกาศปรับวิธีการคิดราคา BigQuery บริการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ จากเดิมที่คิดราคาแบบ flat rate ที่ 5 ดอลลาร์ต่อปริมาณการคิวรี 1TB เปลี่ยนมาเป็นการแบ่งระดับ 3 tier เริ่มต้นที่ 0.04 ดอลลาร์ต่อสล็อต ราคาใหม่ของ BigQuery แบ่งเป็น Standard, Enterprise, Enterprise Plus ที่จับตลาดแตกต่างกัน แพ็กเกจแบบ Standard สำหรับคนที่ใช้เป็นครั้งคราว (ad hoc) ไม่ต้องการฟีเจอร์ระดับองค์กร ราคาลดลงมาเหลือ 0.04 ดอลลาร์ต่อสล็อตต่อชั่วโมง (หนึ่งชั่วโมงรันได้สูงสุด 16 สล็อต) ส่วนแพ็กเกจ Enterprise/Enterprise Plus มีฟีเจอร์ระดับสูงเพิ่มขึ้น และสามารถซื้อแบบการันตีทั้งปี โดยมีราคาถูกลงได้ กูเกิลบอกว่าราคาแบบใหม่ช่วยให้การใช้งานยืดหยุ่นขึ้น ลูกค้าสามารถเลือกแพ็กเกจตามพฤติกรรมการใช้งานของตัวเอง และประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ 30-40% นอกจากนี้ กูเกิลยังเพิ่มฟีเจอร์ autoscaler ให้ขยายปริมาณ compute ตามการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างละเอียด (ชาร์ทสีฟ้า) ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการจองปริมาณเกินความต้องการลงได้เช่นกัน ที่มา - Google Cloud Blog
# GitHub ออกส่วนขยาย GitHub Actions ให้ Visual Studio Code GitHub ออกส่วนขยาย GitHub Actions ให้กับ VS Code (เชื่อมจักรวาลไมโครซอฟท์ด้วยกันเอง) ช่วยให้นักพัฒนาสามารถจัดการเวิร์คโฟลว์ต่างๆ ได้จากตัว IDE โดยตรง GitHub Actions เป็นบริการเวิร์คโฟลว์สำหรับสั่งงานอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 และอาศัยฐานนักพัฒนาจำนวนมากของ GitHub ขยายมาสู่บริการ CI/CD ได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างการใช้งานที่พบบ่อยคือแก้โค้ด สั่ง push ขึ้น Git แล้วสั่งให้รัน unit/integration test ทุกครั้ง การออกส่วนขยาย Actions บน VS Code ซึ่งเป็น IDE ยอดนิยมของนักพัฒนาอยู่แล้ว จึงช่วยอำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาที่เก็บโค้ดบน GitHub และรันผ่าน Actions ไปอีกขั้น เพราะสามารถทำทุกอย่างได้โดยไม่ต้องออกจากหน้า IDE เลย ที่มา - GitHub Blog
# Whoscall เผยรายงาน สายโทรศัพท์จากมิจฉาชีพเพิ่ม 165% ข้อความ SMS 73% เป็นสแปม Whoscall แอปพลิเคชันระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จักเผยรายงานประจำปี 2022 ไทยยังมีปัญหามิจฉาชีพมากขึ้น ยอดสายโทรจากมิจฉาชีพในไทยเพิ่มขึ้น 165% นับเป็น 17 ล้านครั้งในปีก่อน เปรียบเทียบกับปี 2021 ที่มี 6.4 ล้านครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการรั่วไหลของเบอร์โทรศัพท์ 13.5 ล้านเบอร์ หรือกว่า 45% โดยรหัสผ่าน เบอร์โทรศัพท์ และชื่อเป็นข้อมูลที่มีการรั่วไหลมากที่สุด การรั่วไหลของข้อมูลมาจากหลายสาเหตุทั้งฐานข้อมูลองค์กรหรือรัฐบาลถูกโจมตีทางไซเบอร์ หรือผู้ใช้กรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่ง สำหรับการหลอกลวงผ่านทาง SMS พบว่า 7 ใน 10 ของข้อความที่ได้รับเป็นข้อความสแปมและมิจฉาชีพ (คิดเป็น 73% จากข้อความทั้งหมด) มิจฉาชีพมักใช้ข้อความในการติดต่อครั้งแรกและหลอกให้เหยื่อกดลิงก์เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวโดยมักเป็นเรื่องบัตรเครดิต สินเชื่อ หรือได้รับสิทธิ์ชิงโชคต่าง ๆ รายงานยังเผยว่าในประเทศไทย ผู้ใช้ Whoscall แต่ละคนเจอข้อความและสายโทรจากมิจฉาชีพเฉลี่ย 33.2 ครั้งต่อปี เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2021 ในปี 2022 สายโทรเข้าและข้อความ SMS จากมิจฉาชีพมี 405.4 ล้านครั้งทั่วโลก ถือว่าลดลงจากปี 2021 ที่มี 467 ล้านครั้ง อย่างไรก็ตาม บางประเทศอย่าง ไทย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฮ่องกงก็ยังได้รับสายโทรและข้อความจากมิจฉาชีพเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้น คาดว่าปัญหานี้จะเพิ่มขึ้นอีกจากการที่บริการออนไลน์ได้รับความนิยม ข้อมูลของ Fortune Business Insight ที่ทำการวิจัยธุรกิจเผยว่า อุตสาหกรรมต่อต้านการทุจริตจะมีมูลค่าเพิ่มถึง 129.2 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2029 เติบโต 22.8% ต่อปีจากช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการทุจริตมากขึ้นจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยี Whoscall ให้คำแนะนำว่าอย่ากดลิงก์ในข้อความ SMS จากคนที่ไม่รู้จัก อย่ากรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ที่น่าสงสัย และหากใช้แอปพลิเคชันก็ให้ช่วยกันรายงานเบอร์มิจฉาชีพให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
# เกาหลีใต้ผ่านกฎหมายเพิ่มอัตราลดหย่อนภาษี ให้กับผู้ผลิตชิปในประเทศ รัฐสภาเกาหลีใต้ ลงมติผ่านการแก้ไขกฎหมายด้านภาษีของบริษัทผู้ผลิตชิป ซึ่งเรียกกันว่ากฎหมายสนับสนุนการลงทุนของบริษัทผลิตชิปในประเทศ เพื่อให้มีต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง และสามารถแข่งขันกับบริษัทต่างประเทศได้ โดยรายละเอียดของกฎหมายนี้ ได้ปรับเพิ่มเครดิตลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทผู้ผลิตชิป สำหรับค่าใช้จ่ายจากการลงทุนวิจัยและพัฒนาด้านเซมิคอนดักเตอร์ โดยเพิ่มจาก 8% เป็น 15% สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Samsung Electronics และ SK hynix ส่วนบริษัทขนาดกลาง-เล็ก เพิ่มอัตราลดหย่อนจาก 16% เป็น 25% หน่วยงานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์ของเกาหลีใต้ประเมินว่า บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในประเทศ 10 อันดับแรก จะประหยัดค่าใช้จ่ายรวมกันได้ถึง 3.6 แสนล้านวอน ต่ออัตราลดหย่อนภาษีที่เพิ่มขึ้น 1% กฎหมายดังกล่าวที่ออกมา จึงทำให้บริษัทผู้ผลิตชิปประหยัดค่าใช้จ่ายรวมกันได้ถึง 2.5 ล้านล้านวอน ที่มา: The Korea Herald ภาพ Samsung Electronics
# [ลือ] อดีตพนักงานกูเกิลเชื่อ Bard ใช้ข้อมูลจาก ChatGPT ไปเทรน, กูเกิลปฏิเสธข่าว เว็บข่าว The Information รายงานข่าวไม่ยืนยัน โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Jacob Devlin อดีตวิศวกร AI ของกูเกิล ที่เชื่อว่าทีมพัฒนา Bard เลือกใช้ข้อมูลจาก ChatGPT มาเทรน Bard เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาในลักษณะคล้ายๆ กัน ข้อมูลของ Devlin บอกว่าในช่วงที่ ChatGPT เปิดตัวใหม่ๆ และยังจำกัดจำนวนผู้ใช้งาน ทีมพัฒนา Bard ใช้ข้อมูลจากเว็บ ShareGPT ที่มีคนนำผลลัพธ์จาก ChatGPT มาแชร์ต่อสาธารณะ โดยนำข้อมูลตรงนี้กลับไปเทรน Bard ตัวของ Devlin ไม่พอใจเรื่องนี้และนำเรื่องไปคุยกับซีอีโอ Sundar Pichai จากนั้นเขาลาออกจากกูเกิล และปัจจุบันไปทำงานกับ OpenAI เรียบร้อยแล้ว กูเกิลปฏิเสธข่าวนี้โดยให้ข้อมูลกับ The Verge ว่า Bard ไม่ได้ใช้ข้อมูลใดๆ จาก ChatGPT นอกจากนี้ ในบทความของ The Information ยังบอกว่าหลัง Bard ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่หวัง ทำให้ผู้บริหารของกูเกิลสั่งให้ทีม Google Brain และ DeepMind มาทำงานร่วมกันภายใต้โครงการชื่อ Gemini แล้ว (ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทีม Assistant ถูกดึงมาช่วยเช่นกัน) ที่มา - The Information, The Verge, 9to5google
# MFEC เตรียมเดินหน้าสร้างศูนย์ CSOC ให้ลูกค้า ด้วยเครื่องมือที่พร้อมและครบครันจาก IBM การป้องกันภัยคุกคามไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่ตัวโซลูชันเพียงอย่างเดียว แต่การป้องกันที่ดียังต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กลายเป็น Rule หรือมาตรการบางอย่างเพื่อใช้ป้องกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในองค์กรขนาดใหญ่มักจะมีห้องรวมตัวสำหรับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่คอยติดตามภาวะภัยคุกคามที่รู้จักกันในชื่อ Cybersecurity Operation Center (CSOC) โดยมีหน้าที่หลายด้านที่ช่วยบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยเช่น มอนิเตอร์และตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัย ตอบสนองเหตุภัยคุกคาม บริหารจัดการช่องโหว่และภัยคุกคาม แต่ทั้งหมดต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จากบุคลากร นอกจากประเด็นเรื่องของบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยแล้ว เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับ CSOC ก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องลงทุนสูง เช่น เครื่องมือ SIEM และ SOAR เป็นต้น อย่างไรก็ดีผู้ใช้งานก็ยังต้องสามารถปรับแต่งการใช้งานให้เข้ากับบริบทขององค์กรด้วย สุดท้ายแล้วยังคงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเช่นเคย ด้วยเหตุนี้เราถึงไม่ค่อยพบ CSOC ในองค์กรขนาดเล็ก เพราะหากลงทุนเองอาจไม่คุ้มค่ากับต้นทุนของธุรกิจ แต่ภัยคุกคามกลับเป็นหัวข้อที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้เอง MFEC จึงวางแผนในการนำเครื่องมือจาก IBM มาใช้ในศูนย์ CSOC ของลูกค้า เพื่อปิดช่องโหว่ และทำให้สามารถตอบสนองกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา SIEM คืออะไร SIEM (Security Information and Event Management) เกิดขึ้นมานานแล้วราวปี 2005 โดยเริ่มแรก SIEM พูดถึงเรื่องการรวบรวม Log จาก Application, Endpoint และ Network Device เข้าด้วยกัน แม้จะมีข้อมูลและอีเวนต์ด้าน Security ทั้งหมดแต่กลับขาดเรื่อง Incident Response และ Visualize พร้อมกับไม่สามารถตอบโจทย์การโจมตีที่ซับซ้อนได้เพราะยังขาดข้อมูลจาก Antivirus, IPS, Firewall และอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เอง SIEM รุ่นใหม่ๆจึงเริ่มเพิ่มความสามารถของ Big Data, Real-time Analysis, Machine Learning และการวิเคราะห์เชิงพฤติกรรมเข้ามาด้วยการสร้าง Based-line อย่างไรก็ดีแม้จะดูเก่งขึ้นจนสามารถลดเวลาการตรวจพบพฤติกรรมผิดปกติ จึงลดระยะเวลาที่ระบบถูกแทรกแซง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทีม SOC ก็ยังคงถูกกระหน่ำด้วยการแจ้งเตือนที่ซ้ำซ้อนและไม่แม่นยำ รวมถึงยังขาดความสามารถในการตอบสนอง incident อัตโนมัติ IBM QRadar SIEM จะเห็นได้ว่า SIEM คือโซลูชันที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่ยังจำเป็นต่อองค์กรและยิ่งมาจาก Vendor ชั้นนำอย่าง IBM โดยที่ผ่านมา IBM QRadar SIEM ยังอยู่ในกลุ่ม Leader จากการจัดอันดับของ Gartner มามากกว่า 12 ปี นั่นแสดงให้เห็นว่า IBM ได้มีการพัฒนา และ develop solutions ให้ดียิ่งๆขึ้นอย่างต่อเนือง ซึ่ง IBM ได้มีการจัดการความท้าทายหลายด้านของ SIEM ดังนี้ หลายองค์กรที่ลงทุนกับ SIEM แม้มี Threat Intelligence ก็จริงแต่ฐานข้อมูลที่มีกลับไม่ตรงกับสถานการณ์ของธุรกิจ โดยอาจต้องแสวงหาแหล่งข้อมูล Threat Intelligence เพิ่มเติม ในขณะที่ IBM X-Force มีข้อมูลจากลูกค้าระดับโลกมากมายแทบทุกประเทศ จึงสามารถให้ข้อมูลที่สอดคล้องกับธุรกิจได้ แต่หากองค์กรต้องการรับแหล่งข้อมูลใหม่เพิ่มเติมก็สามารถทำได้เช่นกัน การที่ SIEM เป็นศูนย์รวมข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์ต่างๆนานา ดังนั้นการรู้จักกับสินทรัพย์ที่ใช้งานและแหล่งข้อมูลได้อย่างหลากหลายจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยโซลูชัน QRadar รู้จักกับอุปกรณ์กว่า 450 ชนิด อีกทั้งสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของ Log ได้อย่างอัตโนมัติหรือแม้กระทั่งการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันขององค์กร รองรับข้อมูลจากแหล่งที่มาได้อย่างครอบคลุมเช่น Endpoint : Windows Event, EDR, Sysmon และอื่นๆ Network : Firewall, Gateway, Router และอื่นๆ Vulnerability : Antivirus, Vulnerability Scanner, IDS/IPS, DLP และอื่นๆ Cloud : IaaS, SaaS เช่น O365, SalesForce, AWS, Azure, Google Cloud User and Identity : AD, LDAP และอื่นๆ Application : ERP, Database, SaaS Container Activity : Kubernetes False Positive ถือเป็นหัวข้อหลักเมื่อพูดถึง SIEM แต่ด้วยเทคโนโลยี AI อย่าง IBM Watson ทำให้ผู้ปฏิบัติงานกับ QRadar สามารถได้รับคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อย่างแท้จริง และยังการช่วยจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือน ด้วยเหตุนี้จึงย่นระยะเวลาในการพุ่งเป้าสู่สาเหตุที่แท้จริงได้ เชื่อมโยงเหตุการณ์เข้ากับเทคนิคที่คนร้ายใช้ตามเครื่องมือ MITRE ATT&CK ได้ คำถามที่ตอบได้ยากขององค์กรคือจะรู้ได้อย่างไรว่าบัญชีผู้ใช้ที่เคยเป็นคนดีถูกแทรกแซงแล้ว ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้เลยหากท่านไม่เคยพิจารณาโมเดลปกติของผู้ใช้มาก่อน ทั้งนี้ IBM QRadar มีสิ่งที่เรียกว่า User Behavior Analytics ที่ช่วยวิเคราะห์ได้ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนั้นมีความเสี่ยงต่อองค์กรหรือไม่ จากเดิมเคยเป็นอย่างไรมาก่อน ทำให้รับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ การออกรายงานมักเป็นส่วนหนึ่งของงาน SIEM โดย IBM มีรูปแบบรายงานที่รองรับกับ Compliance ของอุตสาหกรรมหรือธุรกิจ เช่น HIPAA เป็นต้น SIEM ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยเหลือในแง่ของการติดตามภัยคุกคามเท่านั้น (Monitoring) แต่ยังรวมไปถึงการสืบค้นหาภัยคุกคามเมื่อเกิดการโจมตี (Forensic) หรือการใช้เพื่อตอบสนองคุกคาม (Incident Response) โดย IBM ได้เตรียม Template ในแง่มุมต่างๆเอาไว้ให้ง่ายต่อการเริ่มต้นแล้ว อย่างไรก็ดี SIEM ยังเป็นเทคโนโลยีเก่าที่จำเป็น แต่เมื่อร่วมมือกับสิ่งที่เรียกว่า SOAR การปฏิบัติงานของ CSOC ก็จะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ความหมายของ SOAR และ IBM QRadar SOAR ปี 2015 SOAR (Security Orchestration, Automate and Response) เริ่มถือกำเนิดขึ้นพร้อมความความหวังในการเพิ่มศักยภาพของ SIEM โดยแน่นอนว่าสามารถรับข้อมูลได้มากมายพร้อมตอบสนองอย่างอัตโนมัติต่อเหตุการณ์นั้นๆ แต่หัวใจสำคัญของเรื่องก็คือการผสมผสานความรู้จากคนเพื่อสร้างเป็น playbook ว่าจะปฏิบัติอย่างไรหากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ มาถึงตรงนี้ความพยายามแย่งชิงพื้นที่ของตลาดโดยผู้ให้บริการ SIEM นั้นต่างแข่งกันเพิ่มความสามารถของ SOAR เพื่อให้กลายเป็นโซลูชัน Standalone ที่จบงานได้ ในประเด็นของ SOAR มีอีกหลายความหมายที่ซ่อนอยู่ เนื่องจาก SOAR อ้างอิงมาจากซอฟต์แวร์ที่ถูกใช้โดยทีมงานด้านความมั่นคงปลอดภัย ส่วนแรกคือประเด็นของ Case and Workflow Management ที่พูดถึงแนวทางของ Best Practice ในด้านการบริหารจัดการช่องโหว่ว่าทุก Incident ต้องถูกบันทึกเป็นเอกสารประกอบกับความรู้ที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้เองโซลูชันของ SOAR จึงมักมี Workflow ที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ หรือมีช่องทางให้องค์กรสามาถรถปรับแต่งได้เองตามความต้องการ ส่วนที่สองเกี่ยวกับความหมายของ Security Orchestration ก็คือการเชื่อมโยงเครื่องมือด้านความมั่นคงปลอดภัย และระบบในมุมต่างๆ มาตอบสนองต่อ Workflow การทำงานขององค์กร ซึ่งไอทีเป็นคนกำหนดว่าโปรเซสใดควรมีระบบที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติ เมื่อใด อย่างไร และส่วนที่สามคือ Automation (Playbook) ที่ช่วยขจัดงานซ้ำเดิม มีรูปแบบ หรือที่กินเวลาของผู้ปฏิบัติงานด้าน CSOC จะเห็นได้ว่า SOAR ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือที่สร้างการตอบสนองอย่างอัตโนมัติ แต่เป็นหัวใจที่คอยประสานงานระบบต่างๆ ซึ่งพิสูจน์ได้ผ่านความสามารถของ IBM QRadar SOAR ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ SIEM ได้หลากหลายโดยเฉพาะกับ QRadar SIEM หรือจะรับข้อมูล EDR และเชื่อมต่อกับเครื่องมือ ITSM เพื่อสร้าง Workflow การทำงานได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากแค่ตอบสนองผ่าน Playbook แล้ว Ansible Platform ยังเป็นอีกช่องทางที่ช่วยให้วงจรการทำงานของ CSOC เป็นไปได้อย่างครอบคลุม Technology, Process และ People หัวใจสำคัญของ CSOC as a Service จาก MFEC Cybersecurity Operation Center (CSOC) คือศูนย์รวมของการบริหารจัดการเคสด้านความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งเต็มไปด้วยสถานการณ์ฉุกเฉินที่ควบคุมเหตุการณ์วิกฤตต่างๆทางไซเบอร์ โดยแน่นอนว่าการวางแผนลงทุนกับ เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง IBM QRadar ที่เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถมากมายเป็นเสาหลักหนึ่งในการให้บริการ CSOC Process คืออีกหนึ่งแกนหลักสำคัญเพราะการเป็น CSOC ต้องมีกระบวนการทำงานแบบ Real-Time และต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างรัดกุมตามลำดับชั้นของอำนาจ อย่างเช่นมีการติดต่อบุคคลตามลำดับความฉุกเฉิน หรือมีโปสเซสในการแก้ปัญหาหรือส่งต่อปัญหาอย่างเหมาะสมตามที่เอกสารระบุไว้ ซึ่งการมีโปรเซสที่ดีและเตรียมพร้อมไว้ก่อนจะช่วยให้ CSOC สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เมื่อต้องรับมือกับเหตุการณ์วิกฤตต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา People คือแกนหลักสำคัญที่สุดเพราะบุคลากรคือผู้กำหนดทุกสิ่ง ทั้งเรื่องการเฝ้าระวัง แจ้ง Security Concern กับลูกค้า และพัฒนาระบบ หากเรามองย้อนกลับไปที่ตัวโซลูชัน SIEM และ SOAR จะเห็นได้ชัดเจนว่าสุดท้ายแล้ว จุดชี้ขาดสำคัญคือต้องถูกใช้โดยบุคคลากรที่มีประสบการณ์สูงในด้านความมั่นคงปลอดภัยถึงจะปรับจูน วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ MFEC วางแผนที่จะสร้างศูนย์ CSOC หรือให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะมีศูนย์ CSOC เป็นของตัวเอง ด้วยเครื่องมือจาก IBM SIEM & SOAR นอกจากจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ MFEC ยืนหนึ่งในผู้เล่นที่ให้บริการ CSOC as a Service แล้ว ในอนาคตทางบริษัทยังมีแผนที่จะต่อยอดสร้างศูนย์ CSOC ให้กับลูกค้าที่ต้องการลงทุนสร้างศูนย์ของตัวเองด้วยเครื่องมือชั้นนำอย่าง IBM SIEM & SOAR และพัฒนาให้สามารถรองรับ Workflow การทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ยกระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้าน IT ให้กับธุรกิจ ผู้สนใจสามารถติดต่อทีมงานของ MFEC ได้ที่ [email protected] สนใจโซลูชัน ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) : email – [email protected] หรือ บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด email : [email protected] หรือ โทร 02-3116881 #7156,7158
# กลุ่มนักวิจัยนโยบาย AI ยื่นคำร้อง FTC ขอให้สอบสวน OpenAI ออกโมเดลที่อันตราย Center for AI and Digital Policy (CAIDP) ศูนย์ศึกษานโยบาย AI ซึ่งเป็นเครือข่ายของนักวิชาการจากหลายประเทศ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการค้าของสหรัฐ (FTC) ว่าโมเดล GPT-4 ของ OpenAI มีความเอนเอียง (biased) หลอกลวง (deceptive) และมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน CAIDP อ้างข้อมูลของ OpenAI เองที่ยอมรับว่า GPT-4 มีข้อบกพร่องดังกล่าว และขอให้ FTC เข้ามาสอบสวน OpenAI, และสั่งให้หยุดการนำ GPT-4 ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ จนกว่าจะผ่านมาตรฐานการใช้งาน AI ของ FTC ซึ่งมีแนวทางอยู่ก่อนแล้ว ที่มา - Ars Technica
# E3 2023 ประกาศยกเลิกการจัดงานแล้ว คาดเพราะบริษัทเกมจำนวนมากไม่เข้าร่วม The Entertainment Software Association หรือ ESA ประกาศว่างานนิทรรศการเกม E3 ประจำปี 2023 ได้ยกเลิกการจัดงานทั้งหมด ทั้งรูปแบบ In-person ในสถานที่จัดงาน และงานที่เป็นออนไลน์ หลังจากประกาศแผนเตรียมจัดงานในปีนี้ไปก่อนหน้า ในอีเมลที่ ESA ส่งหาสมาชิกแจ้งข่าวการยกเลิก E3 นั้น ให้เหตุผลหนึ่งว่าแม้ E3 จะยังเป็นแบรนด์การจัดงานเกมที่คนให้ความสนใจ แต่เนื่องจากจำนวนผู้ต้องการร่วมงานไม่มากพอ สำหรับการจัดงานให้ได้ขนาดที่เหมาะสมให้ดูแข็งแกร่งสำหรับอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ESA และ ReedPop ผู้จัดงาน จะทำงานร่วมกันเพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมสำหรับ E3 ในอนาคตต่อไป ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าบริษัทเกมรายใหญ่หลายรายทั้ง Xbox, โซนี่ และนินเทนโด จะไม่เข้าร่วมงาน E3 ปีนี้ และล่าสุดคือ Ubisoft โดยเปลี่ยนมาใช้การจัดงานแถลงข่าวแบบออนไลน์ของตนเองแทน ที่มา: IGN
# [ลือ] Apple สั่งเลื่อนแผนผลิตเฮดเซต Mixed Reality อีกรอบ และอาจยังไม่เปิดตัวในงาน WWDC Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำของแอปเปิล ให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเฮดเซต Mixed Reality ที่มีข่าวมานาน และคาดว่าจะเปิดตัวในงาน WWDC กลางปีนี้ โดยบอกว่าเฮดเซตนี้เลื่อนแผนการผลิตออกไปอีก เป็นช่วงปลายไตรมาสที่ 3 Kuo บอกว่าเหตุผลนั้นมาจากการประเมินภายใน ว่าการเปิดตัวเฮดเซตนี้อาจไม่สร้างความตื่นตาและเป็นที่สนใจ ในระดับเดียวกับตอนแอปเปิลเปิดตัว iPhone และการเลื่อนแผนผลิตนี้ ก็อาจทำให้เฮดเซตนี้ไม่มีการเปิดตัวในงาน WWDC ด้วย จากรายงานที่มีก่อนหน้านี้ ปัญหาที่แอปเปิลยังกังวลในสินค้าเฮดเซตนี้มีหลายอย่าง ทั้งตลาดอาจยังไม่ตอบรับมาก ปัญหาเศรษฐกิจโลก ราคาที่อาจสูงถึง 3,000 ดอลลาร์ น้ำหนักเฮดเซต ไปจนถึงปัญหาแอปและคอนเทนต์ที่มีไม่มากพอ ที่มา: MacRumors
# Midjourney ยกเลิกแผนใช้งานแบบฟรี หลังพบมีผู้สมัครมาใช้งานจำนวนมากกว่าปกติ Midjourney หนึ่งในบริการสร้างรูปภาพขึ้นจาก AI ยอดนิยม ประกาศยกเลิกแผนใช้งานแบบทดลองใช้ฟรี (Free Trial) สำหรับผู้สมัครใช้งานใหม่ โดย David Holz ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Midjourney ให้เหตุผลผ่าน Discord ว่าพบปริมาณการสมัครใหม่ เพื่อเข้ามาทดลองใช้งานสร้างรูปภาพที่ไม่เหมาะสมจำนวนมากกว่าปกติ ผู้ต้องการใช้งาน Midjourney จากนี้ต้องจ่ายเงินรายเดือนเพื่อใช้งาน เริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์ต่อเดือน จนถึงราคาสูงสุดปัจจุบัน 60 ดอลลาร์ต่อเดือน Holz ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่าสาเหตุที่มีผู้สมัครใช้งานจำนวนมากช่วงที่ผ่านมา เกิดจากคลิปไวรัลฮาวทูสอนใช้ Midjourney ในจีน ซึ่งเมื่อรวมกับปัญหา GPU ไม่พอใช้งานเป็นช่วง ๆ จึงทำให้บริษัทตัดสินใจยกเลิกแผนใช้งานฟรี เพื่อให้มีทรัพยากรเพียงพอสำหรับผู้ใช้งานที่จ่ายเงิน Midjourney กลายเป็นประเด็นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังโมเดลเวอร์ชันล่าสุด Midjourney Version 5 สามารถสร้างภาพปลอมของคนดังออกมาได้เหมือนจริงมากขึ้น โดยเวอร์ชันนี้แก้ไขปัญหามือและนิ้วมือที่ไม่สมจริงในเวอร์ชันก่อนหน้า ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบภาพจาก AI ได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อภาพมีความสมจริงมากขึ้น จึงเป็นเรื่องท้าทายที่ Midjourney พยายามควบคุมไม่ให้เกิดการใช้งานที่ไม่เหมาะสม ที่มา: The Verge
# ประเมินยอดขาย PS VR2 เดือนแรกหลังขายไม่เข้าเป้า ขายได้แค่ 270,000 ชุด Bloomberg รายงานโดยอ้างตัวเลขประเมินของบริษัทวิจัย IDC ว่ายอดขาย PS VR2 ในช่วง 1 เดือนแรกหลังวางขาย 22 กุมภาพันธ์ 2023 ออกมาแย่กว่าที่คาดมาก โดยโซนี่น่าจะขาย PSVR2 ได้เพียง 270,000 ชุดเท่านั้น เดิมทีโซนี่ตั้งเป้ายอดขาย PS VR2 ไว้สูงถึง 2 ล้านชุดใน 3 ไตรมาสแรก ก่อนปรับลดลงมาเหลือ 1 ล้านชุด แต่ถ้าตัวเลข 270,000 เป็นจริงก็ถือว่าหลุดจากเป้าไปไกล และเมื่อไม่นานมานี้ Hiroki Totoki ซีเอฟโอของโซนี่ยังมองโลกในแง่ดีกว่า PS VR2 จะมียอดขายรวมแซงหน้า PS VR1 ที่ทำไว้ 5 ล้านชุดได้ด้วย Francisco Jeronimo รองประธานของ IDC วิเคราะห์ไว้ว่าในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ผู้บริโภคคงไม่สนใจซื้อแว่น VR เท่าไรนัก (PS VR2 ยังตั้งราคา 549 ดอลลาร์ หรือราคาไทย 22,190 บาท แพงกว่าเครื่อง PS5 ด้วยซ้ำ) เขายังคาดว่าเราน่าจะได้เห็นโซนี่ลดราคาแว่นลงมาในอีกไม่ช้า ตามรอยของ Meta Quest Pro ที่หั่นราคาจาก 1,499 ดอลลาร์มาเหลือ 999 ดอลลาร์ ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ที่มา - Bloomberg, ภาพจาก PlayStation Blog
# Amazon เริ่มขึ้นป้ายเตือนสินค้า "ที่ลูกค้าขอคืนบ่อย" ให้เห็นก่อนตัดสินใจซื้อ อาจถือเป็นก้าวสำคัญของวงการอีคอมเมิร์ซ (ต่างประเทศ) ที่สามารถคืนสินค้าได้ง่าย ล่าสุด Amazon เริ่มขึ้นป้ายเตือน "Frequently returned item" ในหน้ารายการสินค้าที่มีปัญหาบ่อยๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ ป้ายเตือนของ Amazon อยู่ในหน้ารายการสินค้าเลย โดยแนะนำให้ผู้บริโภคดูข้อมูลสินค้าและรีวิวของลูกค้าคนอื่นๆ ให้ถี่ถ้วนก่อน ตัวอย่างคือ เครื่องเล่นแผ่นเสียงยี่ห้อ Pro-Ject Automat A1 ซึ่งในรีวิวมีคนพูดถึงปัญหาเครื่องพังจากการแพ็คสินค้าไม่ดี และปัญหามอเตอร์มีเสียงรบกวน เป็นต้น ที่มา - The Verge
# อินเทลเปิดตัว Xeon Scalable Gen 5 ออกปลายปี 2023, ออก Xeon รุ่น E-core ปี 2024 อินเทลประกาศแผนการออกซีพียูเซิร์ฟเวอร์ตระกูล Xeon Scalable ในอนาคต ถัดจาก 4th Gen Xeon Scalable (Sapphire Rapids) ที่เพิ่งวางขายเมื่อเดือนมกราคม 2023 Emerald Rapids ออก Q4 2023 เป็น Xeon แบบ P-core เหมือน Sapphire Rapids ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน อัพเกรดง่าย, ตอนนี้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการแล้วว่า 5th Gen Xeon Scalable ตอนนี้ส่งตัวอย่างให้ลูกค้าผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์แล้ว Sierra Forest ออก H1 2024 เป็น Xeon แบบ E-core รุ่นแรก จะมี 144 คอร์ต่อซ็อคเก็ต สำหรับงานที่ต้องการความหนาแน่นของซีพียูสูงๆ, ใช้กระบวนการผลิต Intel 3 Granite Rapids เป็น Xeon P-core ที่จะออกปี 2024 ตามหลัง Sierra Forest ไม่นานนัก ใช้เทคโนโลยีและการออกแบบร่วมกัน, ผลิตด้วย Intel 3, มี memory interface แบบใหม่ที่เรียกว่า Multiplexer Combined Rank (MCR) ส่งข้อมูลได้ 8,800 mega transfers per second เพิ่มขึ้น 80% จากปัจจุบัน Clearwater Forest เป็น Xeon E-core รุ่นที่สอง ออกปี 2025 ใช้การผลิตแบบ 18A หน้าตาชิป Emerald Rapids ของจริง แผนการออก Xeon ของอินเทล นอกจากนี้ อินเทลยังประกาศออกชิปเร่งความเร็ว AI (accelerator) รุ่นใหม่คือ Habana Gaudi 3 ต่อจาก Habana Gaudi 2 ที่เปิดตัวในปี 2022 แต่ยังไม่เผยรายละเอียด และช่วงเวลาวางขาย รวมถึงบอกว่าจะออกสินค้ากลุ่ม FGPA อีก 15 อย่างภายในปีนี้เช่นกัน ที่มา - Intel
# Ubuntu รองรับเดสก์ท็อป Cinnamon เข้าเป็น Flavours อย่างเป็นทางการ ดิสโทรลินุกซ์ยอดนิยมอย่าง Ubuntu เลือกใช้ระบบเดสก์ท็อป GNOME เป็นหลัก แต่คนที่ชอบใช้เดสก์ท็อปแบบอื่นๆ ยังมีทางเลือกเสมอ เพราะ Ubuntu มีระบบ flavours เป็นดิสโทรทางเลือกที่ติดตั้งแพ็กเกจซอฟต์แวร์อื่นๆ แทนแพ็กเกจแบบดีฟอลต์ ตัวอย่าง flavours ที่โด่งดังหน่อยคือ Kubuntu (KDE) หรือ Xubuntu (Xfce) ล่าสุด Ubuntu ประกาศรองรับเดสก์ท็อป Cinnamon ซึ่งเป็น GNOME 3 เวอร์ชันปรับแต่งให้หน้าตาเหมือนเดสก์ท็อปแบบดั้งเดิม (มีทาสก์บาร์ด้านล่าง มีปุ่มสตาร์ท) เข้าเป็น flavours ใหม่แล้ว โครงการ Cinnamon ริเริ่มพัฒนาโดยดิสโทร Linux Mint มาตั้งแต่ปี 2011 และเป็น 1 ใน 2 เดสก์ท็อปหลักของ Linux Mint เคียงคู่กับ MATE (GNOME 2 เวอร์ชันปรับแต่ง) Ubuntu Cinnamon จะเริ่มออกอย่างเป็นทางการพร้อมกับ Ubuntu 23.04 Lunar Lobster ที่จะออกช่วงปลายเดือนเมษายน แต่คนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้แล้ววันนี้ที่ Ubuntu Cinnamon ที่มา - Ubuntu, Phoronix
# สต๊อคมี เงินก็มา นักวิเคราะห์เผย PS5 ทำสถิติยอดขายและรายได้ดีสุด ตั้งแต่ต้นปีในสหรัฐ Circana บริษัทวิจัยตลาด ออกรายงานยอดขายคอนโซลในสหรัฐซึ่งเผยว่า PlayStation 5 ขึ้นแท่นอันดับ 1 ทั้งในแง่ยอดขายและจำนวนเครื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2023 (year-to-date) หลัง Sony ประกาศตอนต้นปีว่าปัญหาของขาดหมดไปแล้ว นอกจากนี้ Circana ระบุด้วยว่านับเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ PlayStation 5 ทำสถิติยอดขายสูงสุดในกลุ่มเครื่อง PlayStation ทุกรุ่น รวมถึงระบุด้วย Hogwarts Legacy เป็นเกมที่ขายดีที่สุดในสหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ และนับตั้งแต่ต้นปี ที่มา - Video Game Chronicle
# เพราะทีมคือฟันเฟืองหลัก M Intelligence จึงให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คงปฏิเสธไม่ได้สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในธุรกิจปัจจุบันคือการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (end customer) ไปจนถึงการทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นหนึ่งในสิ่งที่องค์กรให้ความสนใจอย่างมากคือมองหา vendor ที่มีประสบการ์และช่วยพัฒนาเครื่องมือด้านนี้ M Intelligence เป็นบริษัทเทคที่เชี่ยวชาญการพัฒนาเครื่องมือด้าน Customer Experience โดยเฉพาะ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี, การวิเคราะห์และเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อทำการตลาด และตอนนี้ M Intelligence กำลังเปิดรับนักพัฒนาเพิ่มอยู่ด้วย M Intelligence ให้บริการให้คำปรึกษา เพื่อตอบโจทย์องค์กรในแง่การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าให้ได้ออกมาดีที่สุด โดยเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท CRM ระดับโลกอย่าง Saleforce ด้วย ขณะที่ลูกค้าของ M Intelligence ก็ค่อนข้างหลากหลายอุตสาหกรรมและหลากหลายสเกล ที่ใหญ่ๆ ก็มีเช่นอสังหาริมทรัพย์และการเงิน อย่างประกันหรือธนาคาร คุณณัฐพล ตันตยกุล ตำแหน่ง Project Director ของ M Intelligence เล่าว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตค่อนข้างมาก ซึ่งสะท้อนออกมาได้จากจำนวนของพนักงานที่เติบโตถึง 170% และหนึ่งในความท้าทายของ M Intelligence คือการพัฒนาคนให้เติบโตไปด้วยกันกับบริษัท ซึ่ง M Intelligence เองก็มีการวาง journey ของพนักงานให้ตั้งแต่เข้ามาทำงานวันแรก คุณณัฐพล ตันตยกุล, Project Director, M Intelligence การพัฒนาคนนี้นี่แหละที่ M Intelligence ให้ความสำคัญอันดับ 1 โดยมีการวางระบบ Mentor / Mentee ให้กับพนักงานใหม่หรือน้องฝึกงาน และมีโปรแกรมบูทแคมป์ ที่ไม่ใช่แค่การ orientation แนะนำบริษัท แต่วางโปรแกรมทั้งหมด 4 สัปดาห์ สอนทั้งพื้นฐานของ Saleforce แต่ละผลิตภัณฑ์มันแตกต่างกันอย่างไร มีกระบวนการอะไรบ้าง ไปจนถึงการบริหารโปรเจ็คว่าควรทำอย่างไร ขณะที่สัปดาห์สุดท้ายของบูทแคมป์ จะเป็นการทำโจทย์ Business Case ที่ได้รับตั้งแต่วันแรก ว่าหลังจากเรียนรู้ทุกอย่างมาแล้ว จะสามารถแก้โจทย์ คิดโซลูชันและนำเสนอลูกค้า ไปจนถึงตอบคำถามลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหนในสถานการณ์จริง ซึ่งแต่ตำแหน่งก็จะมีเกณฑ์ที่แตกต่างกัน หากทำครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ให้โอกาสในการกลับมาทำรอบที่ 2 และ 3 โดยคนที่ผ่านบูทแคมป์ จะเท่ากับว่ามีศักยภาพมากพอที่จะไปเจอกับลูกค้าในสถานการณ์จริงแล้ว ส่วนในแง่การทำงาน พนักงานภายในจะมีการแบ่งกลุ่มเป็นเหมือนหมู่บ้าน ประกอบไปด้วยทีมงานจากหลากหลายฟังก์ชันหลากหลายหน้าที่ ในแต่ละหมู่บ้านจะมี leader ที่ทำหน้าที่คล้าย PM ของหมู่บ้านและคนที่มีความเป็นผู้นำก็จะได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ โดยจะทำงานกันเป็น squad ภายในหมู่บ้านของแต่ละโปรเจ็ค คนที่เป็น leader ของหมู่บ้านก็มีหน้าที่ดูแล ให้คำแนะนำหรือให้ความช่วยเหลือลูกบ้านถึงปัญหาของแต่ละโปรเจ็ค ขณะเดียวกันพนักงานแต่ละคนก็จะมี leader ที่ด้านทักษะตามตำแหน่งของตัวเองอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น Solution Consultant ก็จะมีพี่ที่เป็น Lead Solution Consultant คอยแนะนำเรื่องทักษะ ไปจนถึง career path ดังนั้นพนักงานที่นี่จะได้รับการพัฒนาทั้ง 2 แกนควบคู่กันไป ทั้งทักษะเฉพาะทาง และการทำงานจากแต่ละโปรเจ็ค ขณะที่ในทีมเทค คุณไพบูลย์ ตุ้มทองคำ ตำแหน่ง Software Development Manager เล่าว่าความท้าทายของทีมเทค คือต้องทำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด และรักษามาตรฐานให้กับลูกค้าทุกราย เพราะลูกค้ามาจากหลากหลายอุตสาหกรรม หลากหลายปัญหา รวมถึงทีมต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ค้นหา Tech Stack ใหม่ๆ เพราะเทคโนโลยีก็วิ่งไปเรื่อยๆ ไม่หยุดเช่นกัน คุณไพบูลย์ ตุ้มทองคำ Software Development Manager คุณไพบูลย์บอกว่าการพัฒนาโซลูชันที่นี่ มั่นใจได้ว่าจะสร้างความแตกต่างให้กับลูกค้าองค์กรได้จริง เพราะบริษัทมีนักการตลาดที่เชี่ยวชาญ รู้ว่าลูกค้า (end customers) ต้องการอะไร และลูกค้าองค์กรควรพัฒนาเครื่องมือให้กับคนใช้อย่างไร ในแง่เทคโนโลยีบริษัทก็ลงทุนเยอะ เพื่อทำสิ่งที่ใหญ่พอๆ กับเงินลงทุนนั้น รูปแบบการทำงานก็ตามสมัยนิยมคือเป็นระบบ Agile / Sprint ขณะที่ Tech Stack หลักๆ ก็ มี Vue.js และ React Typescipt เป็น Front End ส่วน Back End ใช้ Java และ Node JS และดาต้าเบสก็ใช้ Firebase, PostgreSQL และ Salesforce Object Query Language (SOQL) คุณไพบูลย์บอกว่าความประทับใจที่นี่ คือบริษัทผลักดันให้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ขณะที่บริษัทก็พัฒนาและโตขึ้น เห็นความเจริญเติบโตทุกด้านของบริษัท ส่วนในแง่เพื่อนร่วมงาน ก็เป็นกลุ่มคนที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนิสัยและอายุ แม้กระทั่งผู้บริหารด้วย มีเที่ยว สังสรรค์กันบ่อย ขณะที่เมื่อทำงาน ก็ลงไปลุยงานด้วยกัน สวัสดิการ Flexible Working Hour เบิกจ่ายค่าเดินทางได้ตามจริง เบิกจ่ายค่าโทรศัพท์ เงินโบนัสประจำปี Provident Fund ของ UOB Flexi Benefit เบิกอะไรก็ได้ที่ส่งเสริมการทำงาน 8,000-15,000 บาท ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ตรวจสุขภาพประจำปี วันลาพักร้อน 14 วัน ต่อปี ลาวันเกิด 1 วันในเดือนเกิด ค่าเดินทางที่เกี่ยวข้องกับการพบปะลูกค้าของบริษัท โดยคำนวณตามระเบียบของบริษัท Company Trip ค่าใช้จ่ายในการสอบใบประกาศนียบัตรตามที่บริษัทกำหนด มีปาร์ตี้แทบจะทุกอาทิตย์ มีแอลกอฮอล์อร่อยๆ ให้ดื่มเรื่อยๆ เสียงสะท้อนจากทีมงาน คุณกันทรากร โพธยานุวัตร (แชมป์) ตำแหน่ง Software Tester คุณแชมป์บอกว่าการทำงานที่นี่รู้สึกแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ ได้ทำงานกับทุกฝ่ายตั้งขั้นตอน breakdown requirement ทำให้ได้ร่วมงานกับทีมอื่นค่อนข้างมาก แล้วพอได้ใกล้ชิดกันก็พบว่า พนักงานที่ M Intelligence มีความคล้ายกันมาก ความชอบ และกิจกรรมอะไรต่างๆ ไปทางเดียวกันหมดเลย ทำให้สามารถ คุยกันได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะงานหรือนอกงาน ส่วนคนที่คิดว่าเหมาะกับการทำงานที่นี่ ต้องเป็นละเอียด เพราะ requirement ลูกค้าเยอะและหลากหลายมาก รวมถึงต้องกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าคอมเมนท์ ถ้าเห็นจุดที่ปรับปรุงหรือพัฒนาได้ในเนื้องาน คุณปวีณ์ธิดา ชวลิต น้องฝึกงานตำแหน่ง Salesforce Solution Consultant น้องปวีณ์ธิดาเล่าว่าตัวเองเรียนคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพอได้เรียน Salesforce มาบ้าง เลยอยากลองฝึกงานที่เกี่ยวกับ Salesforce ก่อนจะมาเจอที่นี่ ซึ่งตอนเข้ามาแรกๆ ก็กังวลเรื่ององค์กรความรู้ที่รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้รู้ลึกมากขนาดนั้น แต่ประทับใจการสอนของที่นี่ ตั้งแต่บูทแคมป์ที่ปูพื้นฐานและเตรียมพร้อมให้อย่างดี รวมถึงมีพี่ mentor คอยช่วยเหลือ แนะนำและสอนงานให้ตลอดทั้ง hard skills และ soft skills น้องเลยรู้สึกว่าการฝึกงานที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เพราะแม้งานจะท้าทายมากๆ แต่สนุก บรรยากาศออฟฟิศก็ดีและเอื้อให้กับการทำงานมากๆ ออฟฟิศ M Intelligence ตั้งอยู่ใจกลาง กทม. อยู่หลังตึกมหานคร ใกล้ BTS ช่องนนทรี และ BRT สาทร ดูรายละเอียดและกดสมัครงานที่สนใจได้ที่ Blognone Jobs, M Intelligence
# Android 13 QPR3 Beta 2 เพิ่มฟีเจอร์ปิดแอนิเมชันตอนกด PIN ช่วยป้องกันคนแอบดู ปัญหาโจรขโมยมือถือแล้วรีบเปลี่ยนรหัสกำลังเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยโจรจะแอบดูผู้ใช้กด PIN ปลดล็อคมือถือ จากนั้นก็หาจังหวะขโมยเครื่องแล้วรีบเปลี่ยนรหัส Google Account หรือ Apple ID ก่อนที่เจ้าของจะแก้ไขทัน และหากเหยื่อใช้ PIN เดียวกันในแอพธนาคารก็โดนขโมยเงินได้ง่ายๆ ล่าสุดกูเกิลพยายามแก้ปัญหาโจรแอบดูรหัสโดยการออกฟีเจอร์ปิดแอนิเมชันตอนกดแป้นพิมพ์รหัส เวลาแตะไปก็นิ่งๆ ไม่มีแอนิเมชันวาบขึ้นมาที่ปุ่ม โดยฟีเจอร์นี้เพิ่งมีใน Android 13 QPR3 Beta 2 ที่ปล่อยให้มือถือ Pixel เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งผู้ใช้ต้องเข้าไปเปิดที่ Settings > Security & privacy > Device lock > Screen lock > Enhanced PIN privacy สำหรับผู้ใช้มือถือรุ่นอื่น อาจต้องรอถึง Android 14 กว่าจะมีฟีเจอร์ดังกล่าวให้ใช้ เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยมีผู้ผลิตรายใดนำฟีเจอร์จาก beta เข้ามาอัพเดตให้ทันที ชมคลิปการใช้งานได้ท้ายข่าว ที่มา - XDA-Developers
# กูเกิลเปิดตัวฐานข้อมูล AlloyDB Omni เวอร์ชัน On-premise, เร็วกว่า PostgreSQL 2 เท่า กูเกิลเปิดตัวฐานข้อมูล AlloyDB Omni เวอร์ชันรันแบบ on-premise ได้ด้วย เพิ่มจากของเดิมที่มีเฉพาะเวอร์ชันคลาวด์ ปีที่แล้ว กูเกิลเปิดตัวฐานข้อมูล AlloyDB เป็นการนำ PostgreSQL มาปรับแต่งสถาปัตยกรรมหลายอย่างให้ประสิทธิภาพดีขึ้น รันบนคลาวด์ โดยยังคงความเข้ากันได้กับ PostgreSQL ทั้งหมด 100% (ลักษณะเดียวกับ Amazon Aurora) คราวนี้ กูเกิลเปิดตัว AlloyBD Omni ที่สามารถรันแบบ on-premise, edge หรือแม้แต่ในคอมพิวเตอร์ของนักพัฒนาได้ โดยชูว่ามีประสิทธิภาพดีกว่า PostgreSQL รุ่นมาตรฐานถึง 2 เท่าสำหรับงานอ่านเขียนฐานข้อมูลทั่วไป และเร็วกว่า 100 เท่าสำหรับงานวิเคราะห์ข้อมูล ของดีแบบนี้แน่นอนว่าไม่ฟรี แม้ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยราคาเพราะยังเป็นช่วง Technology Preview อยู่ โดยนักพัฒนาสามารถลงชื่อขอเวอร์ชันทดสอบมาใช้งานได้ฟรี ที่มา - Google Cloud
# ธนาคาร DBS ในสิงคโปร์ระบบล่มทั้งวัน แบงค์ชาติออกมาแสดงความไม่พอใจในวันเดียวกัน เมื่อวานนี้ธนาคาร DBS ในสิงคโปร์ระบบออนไลน์มีปัญหาตั้งแต่เช้า 7.30 นาฬิกาตามเวลาสิงคโปร์จนถึงช่วงเย็น รวมเวลาระบบล่มนานสิบชั่วโมง ทำให้กระทบผู้ใช้เป็นวงกว้างเนื่องจากไม่สามารถใช้งานได้ทั้งบริการธนาคารและบริการซื้อขายหุ้น และทางแบงค์ชาติสิงคโปร์ (MAS) ก็ออกมาแสดงท่าทีในวันเดียวกันว่าเหตุการณ์ล่มแบบนี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และจะมีมาตรการออกมาหลังจากสอบสวนเรื่องทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว DBS เคยทำระบบล่มยาวๆ เช่นนี้เมื่อปี 2021 โดยมีปัญหานานถึงสองวันเต็ม และทาง MAS ก็ลงโทษด้วยการสั่งเพิ่มเงินกองทุน ระยะเวลาจากวันเกิดเหตุถึงวันสั่งลงโทษเป็นเวลานานประมาณสองเดือน มาตรฐานของ MAS ห้ามไม่ให้ระบบออนไลน์ของธนาคารในสิงคโปร์มีปัญหาเกิน 4 ชั่วโมงในห้วง 12 เดือน เหตุการณ์ครั้งนี้ครั้งเดียวเกินมาตรฐานไปแล้ว ที่มา - Today Online
# Nokia เปิดตัวงานออกแบบ UI ใหม่ "Nokia Pure" Nokia บริษัทแม่จากฟินแลนด์ (ไม่ใช่ HMD Global ที่ทำมือถือแบรนด์ Nokia) หลังจากที่เปลี่ยนโลโก้บริษัท ก็ได้เปิดตัวงานออกแบบ UI ใหม่ชื่อ "Nokia Pure" โดยเน้นความมินิมัลลิสม์ ความสดใส และความยืดหยุ่น โดยคาดว่าจะใช้งานกับผลิตภัณฑ์ของโนเกียในอนาคต แนวทางการออกแบบจะเน้นสีน้ำเงิน และโลโก้แบบลายเส้น โดยใช้รูปทรงเรขาคณิต ทั้งนี้รองรับโทนสีแบบ Dark Mode ด้วย ถึงแม้ว่าจะเน้นการออกแบบเพื่อสมาร์ทโฟน Android เป็นหลัก แต่ก็มีการออกแบบสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย ตัวอย่าง UI ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ประเภท Smart Watch เนื่องจากเป็นการออกแบบของบริษัท Nokia ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกแบบสมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia ของ HMD Global จึงยังไม่มีการยืนยันว่าทั้ง 2 บริษัทจะตกลงใช้ Pure UI กับสมาร์ทโฟนโนเกียในอนาคตหรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยจาก Nokia ว่าจะเริ่มใช้งานออกแบบนี้เมื่อใดและใช้กับอุปกรณ์ใดบ้าง ที่มา: 1, 2, Nokia Pure
# Twitter ประกาศเงื่อนไขใช้งาน API แบบใหม่แล้ว เทียร์ฟรีจำกัด 1,500 ทวีตต่อเดือน Twitter ประกาศรายละเอียดการให้บริการ API ในเงื่อนไขใหม่ หลังจากเลื่อนประกาศมาจากเดือนที่แล้ว โดยแบ่งเป็น 3 เทียร์ ดังต่อไปนี้ Free (API v2) ทวีตและโพสต์รูปได้เท่านั้น (Write-only Access) ไม่เกิน 1,500 ทวีตต่อเดือนที่ระดับแอป และล็อกอินด้วยทวิตเตอร์ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย Basic (API v2) 3,000 ทวีตต่อเดือนที่ระดับบัญชีผู้ใช้งาน 50,000 ทวีตต่อเดือนที่ระดับแอป 10,000 ทวีตต่อเดือนสำหรับ Read ใช้งานได้ 2 ไอดี ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือน Enterprise ใช้งานและได้ซัพพอร์ตเต็มรูปแบบ ราคาคิดตามขนาดที่ต้องการใช้งาน หากเปรียบเทียบในเงื่อนไขใหม่นี้ Twitter ได้จำกัดการใช้งานมากขึ้น โดยแบบเดิมนั้นเทียร์ฟรีได้ใช้งานได้ระดับ 5 แสนถึง 2 ล้านทวีตต่อเดือน Twitter ยังแนะนำผู้ใช้งาน API แบบเดิมทุกแบบทั้ง Standard v1.1 และทุกแบบของ v2 ให้ย้ายมาใช้งานเทียร์แบบใหม่ เนื่องจากบริการเดิมจะปิดตัวใน 30 วันข้างหน้า ส่วน Ads API ยังให้บริการต่อไป ขณะที่กลุ่มนักพัฒนาภาคการศึกษาวิจัย Twitter บอกว่ากำลังดูแนวทางให้บริการต่อในอนาคต แต่ตอนนี้แนะนำให้เลือกสมัครเทียร์ใหม่ที่เหมาะกับความต้องการไปก่อน ที่มา: TechCrunch
# กสทช. มติเห็นชอบร่างประกาศยกเลิกกฎ Must Have เปิดรับฟังความเห็นก่อนประกาศจริง วันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 7/2566 ได้พิจารณาเห็นควรร่างประกาศยกเลิกประกาศของกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือประกาศ Must Have ประกาศ Must Have กำหนดให้รายการกีฬา 7 ประเภท ได้แก่ ซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ เอเชียนเกมส์ เอเชียนพาราเกมส์ โอลิมปิก พาราลิมปิก ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย หากมีการนำมาเผยแพร่ต้องเผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์ที่เป็นบริการทั่วไปก่อน แล้วจึงจะไปออกอากาศผ่านระบบดาวเทียม เคเบิล และ IPTV ได้ภายใต้กฎ Must Carry โดยในที่ประชุม มอบหมายให้กสทช. เปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศยกเลิกกฎ Must Have จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนทั่วไปก่อนออกประกาศฉบับจริง โดยเปิดรับความคิดเห็นเป็นระยะเวลา 30 วัน ที่มา - กสทช.
# Twitter ตัด “Replying to” ในหน้าตอบกลับทวีตทิ้งบนสมาร์ทโฟน แต่เบราว์เซอร์ยังมีอยู่ ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Twitter เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ Elon Musk ได้เข้ามาบริหาร ล่าสุดมีผู้ใช้งานสังเกตว่า Twitter ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของ UI ในหน้าตอบกลับข้อความ โดยตัดส่วน Replying to ที่จะบอกชื่อโปรไฟล์ของคนที่เรากำลังตอบกลับอยู่ทิ้ง ทำให้ตอนนี้เวลาที่เราตอบกลับโพสต์ของคนอื่นจะไม่แสดงชื่อ รวมไปถึงหน้าตากล่องข้อความก็ไม่เหมือนกับว่าเรากำลัง Reply ใครอยู่ แต่กลับเหมือนกำลัง Tweet โพสต์ใหม่อยู่ ซึ่งตอนนี้ถ้าใครเล่นในสมาร์ตโฟนระบบ iOS จะเห็นว่าไม่ขึ้น Replying to แล้ว แต่ถ้าเล่นในเบราว์เซอร์จะยังปรากฏอยู่ ภาพจำอีกอย่างของการ Reply คือ เส้นสีเทาที่จะเชื่อมโยงไปยัง Tweet ต้นฉบับ ถึงแม้ว่าตอนนี้เส้นสีเทายังมีอยู่ก็ตามแต่ผู้ใช้ต้องกดเลื่อนหน้าจอขึ้นเพียงเล็กน้อยเพื่อให้มันโชว์ขึ้น ซึ่งผู้ใช้บางคนได้แสดงความคิดเห็นว่าการตัด Replying to ทำให้สับสนและอาจลืมไปว่ากำลังตอบกลับโพสต์ของใครอยู่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบถึงเหตุผลที่แน่ชัดว่าเป็นเพียงแค่ข้อผิดพลาดของระบบหรือตั้งใจที่จะตัดทิ้ง โดยก่อนหน้านี้ Elon Musk ก็มีประกาศว่า โพสต์ที่ขึ้นในหน้าแท็บ For You จะแสดงแค่โพสต์ของบัญชีที่มีเครื่องหมาย Verified แล้วเท่านั้น รวมไปถึงถ้ายังไม่มีเครื่องหมายติ๊กถูกก็ไม่สามารถร่วมโหวต Poll ได้ สร้างความไม่พึ่งพอให้กับผู้ใช้ Twitter จำนวนมาก ไม่ขึ้น Replying to ในสมาร์ตโฟน (iOS) ส่วนในเบราว์เซอร์ยังคงแสดงชื่อคนที่เราตอบกลับอยู่ ที่มา: Theverge
# บริษัทวิจัยอาหารจากออสเตรเลีย เปิดตัวมีทบอลยักษ์ ผลิตจากเนื้อแมมมอธเทียม โดยอาศัยข้อมูล DNA Vow บริษัทพัฒนาและวิจัยอาหาร เปิดตัวเนื้อแมมมอธเทียม โดยบอกว่าผลิตขึ้นจากข้อมูลการเรียง DNA ของแมมมอธ และอาศัยข้อมูลเพิ่มเติมจากช้างแอฟริกามาเติมข้อมูลส่วนที่ขาดหาย ทำให้ได้สีและรสชาติของเนื้อที่เลียนแบบจากแมมมอธมากที่สุด เนื้อแมมมอธเทียมที่ได้ Vow นำมาเปิดตัวในรูปแบบของอาหารแปรรูป โดยเป็นมีทบอลยักษ์เนื้อแมมมอธนั่นเอง James Ryall หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ Vow บอกเป้าหมายจริง ๆ ที่เลือกทำเนื้อแมมมอธเทียม ด้านหนึ่งก็เพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริโภคโปรตีน โดยนำเนื้อของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วกลับมา ซึ่งไม่น่ามีใครในโลกตอนนี้เคยกิน อีกทางเพื่อดูแนวทางการผลิตซ้ำโปรตีนรูปแบบเดียวกันจากสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว อย่างไรก็ตามเนื้อสัตว์เทียมนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และนักวิจัยจาก University of Queensland ที่ร่วมการวิจัยนี้ก็มองว่าการบริโภคโปรตีนที่แตกต่างไปซึ่งไม่มีใครเคยกิน อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ได้ ที่มา: TechCrunch
# ตรวจสุขภาพความปลอดภัยระบบไอทีด้วย Microsoft Defender for Cloud ภัยไซเบอร์ทุกวันนี้คนร้ายสามารถหาจุดที่อ่อนแอที่สุดแล้วโจมตีไม่ว่าส่วนที่อ่อนแอนั้นจะเป็นส่วนที่เล็กน้อยเพียงใดก็ตาม แต่โครงสร้างไอทีที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวันนี้ องค์กรมักใช้คลาวด์จากผู้ให้บริการหลายราย รวมถึงมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในศูนย์ข้อมูลขององค์กรเอง การดูแลว่าระบบใดมีความผิดพลาดในจุดใด เช่น การเปิดพอร์ตเกินความจำเป็น หรือมีการคอนฟิกที่ผิดหลักความปลอดภัยบางประการกลายเป็นเรื่องยากที่จะดูแลได้ทั่วถึง เซิร์ฟเวอร์สักตัวอาจจะคอนฟิกผิดพลาด ไม่ทำตามหลักความปลอดภัยที่ดี หรือใช้ซอฟต์แวร์เก่าจนเกิดความเสี่ยงกับระบบโดยรวม โครงสร้างไอทีขององค์กรเองกระจายตัวมากขึ้น ทั้งที่อยู่บนคลาวด์หลายราย เช่น Microsoft Azure, AWS, GCP หรือคลาวด์ผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศอย่าง AIS Cloud X ตลอดจนคลาวด์ภายในขององค์กรเอง ช่องโหว่หรือการโจมตีอาจจะเกิดได้หลายทาง ตั้งแต่การคอนฟิกผิดพลาด เผลอเปิดสตอเรจออกอินเทอร์เน็ตโดยไม่ตั้งใจ หรือจะเป็นการใช้งานโดยขาดการบำรุงรักษา ทำให้มีซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่อยู่ในระบบ Microsoft Defender for Cloud บริการดูแลความปลอดภัยไอทีครบวงจร Microsoft Defender for Cloud เป็นแพลตฟอร์มดูแลความปลอดภัยระบบไอทีบนคลาวด์ที่ครอบคลุมตลอดอายุการใช้งานของบริการไอทีในองค์กร โดยแบ่งออกเป็นบริการ 3 ส่วน ได้แก่ DevSecOps: ดูแลการพัฒนา ตั้งแต่ระดับโค้ด และ pipeline ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ cloud security posture management (CSPM): ดูแลโครงสร้างและแนะนำถึงแนวทางการป้องกันการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต cloud workload protection platform (CWPP): ระบบดูแลความปลอดภัยของ workload เฉพาะทาง เช่น เซิร์ฟเวอร์, คอนเทนเนอร์, สตอเรจ, และฐานข้อมูล สำหรับฝ่ายไอทีที่ต้องดูแลระบบขนาดใหญ่และซับซ้อน รวมถึงการดูแลให้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ แล้ว CSPM จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยดูแลให้ระบบไอทีมีความแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างเป็นระบบ ดูแลโครงสร้างไอทีให้ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง การใช้งานคลาวด์นั้นลดภาระการดูแลให้องค์กรได้มากเนื่องจากความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยหลายส่วนนั้นผู้ให้บริการคลาวด์รับผิดชอบแทนที่องค์กรให้ อย่างไรก็ดีองค์กรผู้ใช้โครงสร้างบนคลาวด์เองก็ยังมีความรับผิดชอบของตัวเองอยู่ ผู้ให้บริการคลาวด์ไม่สามารถเข้ามาแก้ไขหากผู้ใช้ยืนยันใช้ซอฟต์แวร์ที่ไม่อัพเดต หรือเปิดบริการที่ไม่ได้เข้ารหัสอย่าง FTP เมื่อคอนฟิกแล้ว คลาวด์ทุกรายก็จะให้บริการตามที่ผู้ใช้ต้องการแม้จะมีความเสี่ยง หลายครั้งฝ่ายไอทีอาจจะดูแลระบบเป็นอย่างดีแต่แอปพลิเคชันใหม่อาจจะมีส่วนที่ไม่ปลอดภัย มีการเปิดพอร์ตอันตรายโดยไม่มีใครรู้ตัวจนเวลาผ่านไปนาน Defender CSPM เข้ามาช่วยแนะนำการใช้งาน ดูแลโครงสร้างทั้งระบบเพื่อให้ฝ่ายไอทีมองเห็นว่าสุขภาพระบบไอทีโดยรวมเป็นอย่างไร มีข้อบกพร่องส่วนใดต้องรีบเข้าไปจัดการแก้ไข โดยทั่วไปแล้วหากองค์กรมีระบบไอทีขนาดใหญ่ มีเซิร์ฟเวอร์นับร้อยหรือนับพันเครื่อง ผู้ดูแลอาจจะเจอปัญหาที่สแกนความปลอดภัยออกมาแล้วเจอรายงานปัญหาเล็กๆ น้อยๆ จนเต็มไปหมด ไม่สามารถจัดลำดับควาามสำคัญได้อย่างเหมาะสม CSPM แจ้งปัญหาและความสำคัญให้กับผู้ใช้ด้วยระบบให้คะแนน หรือ Secure Score ที่เรียงตามลำดับความสำคัญของการปรับปรุงความปลอดภัยแบบต่างๆ ไมโครซอฟท์จะแสดงคำแนะนำให้ทำอะไรบ้างเพื่อแก้ไขความเสี่ยงแต่ละข้อ และความเสี่ยงของแต่ละข้อนั้นกระทบกับทรัพยากรใดในระบบไอทีขององค์กรบ้าง โดยฟีเจอร์ Secure Score นี้อยู่ในแพ็กเกจเบื้องต้นที่ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับองค์กรที่ต้องการดูแลความเสี่ยงต่างๆ มากขึ้น ไมโครซอฟท์ยังมีฟีเจอร์ Regulatory Compliance ช่วยจัดคำแนะนำการแก้ไขความเสี่ยงต่างๆ เข้ากับมาตรฐานความปลอดภัยที่ได้รับความเชื่อถือสูงๆ เช่น SOC TSP, PCI DSS ตลอดจนมาตรฐานอื่นๆ อีกนับสิบรายการ ทำให้องค์กรที่กำลังต้องการปรับปรุงระบบไอทีให้ผ่านมาตรฐานเหล่านี้ สามารถดูจุดที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานและแก้ไขตามคำแนะนำได้ทันท่วงที การวิเคราะห์เส้นทางการโจมตีที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถโฟกัสกับการแก้ปัญหาส่วนที่มีความเสี่ยงสูงได้อย่างแม่นยำ เช่น เซิร์ฟเวอร์ที่มีสิทธิระดับสูง หรือระบบฐานข้อมูลที่มีข้อมูลสำคัญกลับเปิดรับการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง ฟีเจอร์ Attack path analysis ของ CSPM ก็สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงเหล่านี้ออกมาให้ผู้ดูแลเห็นภาพได้ทันที ดูแลครบทุกคลาวด์และในศูนย์ข้อมูล บริการตรวจสอบความปลอดภัยในคลาวด์เองไม่ใช่เรื่องใหม่นัก ผู้ให้บริการรายใหญ่มักมีบริการแบบเดียวกันเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานคลาวด์ได้อย่างปลอดภัยยิ่งๆ ขึ้น แต่บริการ Microsoft Defender for Cloud นั้นขยายขอบเขตออกไปด้วยการรองรับการดูแลความปลอดภัย ได้บน AWS, GCP, และระบบต่างๆ บนศูนย์ข้อมูลขององค์กรเองผ่านทาง Azure Arc โดยการทำงานของ Microsoft Defender for Cloud ถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำ Security Operations ที่สามารถทำงานได้ครบทั้งระบบไอที หน้าจอ dashboard เดียวสามารถมองเห็นสุขภาพโดยรวมของโครงสร้างทั้งหมด AIS Business ที่ปรึกษาที่วางใจได้สำหรับผู้สนใจ Microsoft Defender for Cloud AIS Business เป็นผู้ให้บริการไอทีที่ทำงานร่วมกับไมโครซอฟท์อย่างใกล้ชิด ทั้งการให้บริการตั้งแต่การจัดซื้อบริการของ Microsoft Azure ผ่านทาง AIS Business เพื่อให้องค์กรสามาถจัดการภาษีและบัญชีได้ง่ายขึ้น ย้ายระบบไอทีขึ้นมาอยู่กับ AIS Cloud X ที่ทำงานร่วมกับบริการต่างๆ ของ Azure ได้ใกล้เคียงกับการใช้งานบนคลาวด์เต็มรูปแบบแต่ข้อมูลยังอยู่ในประเทศ หรือจะเป็นการให้คำปรึกษาช่วยเหลือองค์กรที่ต้องการนำ Microsoft Defender for Cloud มาดูแลความปลอดภัยของระบบไอทีโดยรวมทั้งองค์กร AIS Business พร้อมให้บริการ Microsoft Azure สนใจปรึกษา หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://business.ais.co.th/solution/microsoftazure.html AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย "Your Trusted Smart Digital Partner" เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่ Email: [email protected] Website: https://business.ais.co.th
# ไมโครซอฟท์ประกาศแนวทางทำเงิน New Bing เตรียมแสดงโฆษณาในหน้าแชท ไมโครซอฟท์เริ่มเผยแนวทางการปรับอินเทอร์เฟซของ New Bing พลังแชท GPT เพื่อเพิ่มโอกาสส่งทราฟฟิก-เพิ่มพื้นที่ทำเงินให้เจ้าของเว็บไซต์มากขึ้น ทุกวันนี้หน้าแชทของ Bing แสดงลิงก์อ้างอิงข้อมูลเป็นตัวหนังสือสีน้ำเงิน แต่จะเพิ่มการนำเมาส์ไปชี้ (hover) แล้วแสดงรายละเอียดให้มากขึ้น เช่น เพิ่มลิงก์ไปยังบทความอื่นของเว็บไซต์เดียวกัน วางลิงก์บทความแบบ rich caption ของพาร์ทเนอร์ Microsoft Start ไว้ด้านข้างของคำตอบแชท และแชร์รายได้จากโฆษณาระหว่างกัน วางโฆษณาไว้ในหน้าแชทโดยตรง (ยังไม่มีภาพตัวอย่างให้ดู) ไมโครซอฟท์บอกว่าแนวทางเหล่านี้ยังเป็นการทดลองความเป็นไปได้ และรอดูผลตอบรับจากผู้ใช้งานก่อน โดยกลุ่มแบรนด์พาร์ทเนอร์ Microsoft Start จำนวน 7,500 รายจะได้ลองใช้งานก่อน ที่มา - Bing
# WordPress 6.2 ออกแล้ว ยกเครื่อง Site Editor ใหม่ WordPress ออกเวอร์ชัน 6.2 โค้ดเนม Dolphy ตามชื่อนักดนตรีแจ๊ส Eric Allan Dolphy Jr. ถือเป็นเวอร์ชันใหญ่ตัวแรกของปี 2023 ของใหม่ที่สำคัญในเวอร์ชันนี้คือ ตัวแก้ไขธีมและเลย์เอาท์ Site Editor ที่ยกเครื่องใหม่ มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง เช่น จัดการเมนูในบล็อคได้ดีขึ้น, จัดหมวดหมู่การตั้งค่าของบล็อคให้เป็นระเบียบขึ้น, รองรับการแทรกภาพจากคลังภาพ Openverse ที่ไม่มีปัญหาเรื่องไลเซนส์, ระบบ Style Book จัดการสไตล์ของบล็อคทั้งหมด, Copy & Paste สไตล์ได้, แทรก Custom CSS ได้เองแล้ว ที่มา - WordPress
# ซีอีโอ Activision Blizzard ผิดหวังท่าทีของโซนี่ ที่พูดเรื่องออก Call of Duty แบบมีบั๊ก Bobby Kotick ซีอีโอของ Activision Blizzard ส่งอีเมลถึงพนักงานอัพเดตสถานะดีลไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ ซึ่ง Activision Blizzard ก็ตั้งใจนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ของตัวเองด้วย Kotick บอกว่าดีลการควบรวมกับไมโครซอฟท์จะช่วยให้ Activision Blizzard เข้มแข็ง สามารถต่อสู้กับบริษัทเกม "ต่างชาติ" ที่มีภาครัฐช่วยคุ้มครองในประเทศตัวเอง ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเดินสายให้ข้อมูลกับหน่วยงานกำกับดูแล เช่น EC ของยุโร และ CMA ของสหราชอาณาจักร ซึ่งสัญญาณล่าสุดไปในทางบวก หน่วยงานอย่าง CMA เข้าใจสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมเกมมากขึ้น และ หน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่นก็อนุมัติดีลแล้ว เขายังชี้ประเด็นสำคัญเรื่องคำกล่าวหาของโซนี่ว่าไมโครซอฟท์อาจออก Call of Duty เวอร์ชันมีบั๊กให้ PlayStation และ การยอมรับของโซนี่เองว่าจริงๆ แล้วไม่อยากให้ดีลนี้ผ่าน ว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าผิดหวัง (disappointing behavior) ของพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกันมาเกือบ 30 ปี แต่เขาก็ยืนยันว่าเราจะไม่นำพฤติกรรมของโซนี่มาเป็นปัจจัยให้กระทบกับความสัมพันธ์ระยะยาว Kotick ยังให้ความเห็นว่าการทำเกมแบบมีบั๊กอย่างตั้งใจ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะถ้าไมโครซอฟท์ทำแบบนั้นจริงๆ กลุ่มผู้เล่นจะเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาถล่ม อีกทั้งพวกเราชาว Activision Blizzard ก็ตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้เกมออกมาคุณภาพดีที่สุดเสมอ ผลงานการออกเกมบน PlayStation ที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นสิ่งยืนยันมาโดยตลอด ที่มา - Activision Blizzard
# ต้อนรับหน้าร้อน กูเกิลเพิ่มระบบแจ้งเตือนคลื่นความร้อน, ทำแผนที่ร่มเงาต้นไม้ในเมืองใหญ่ กูเกิลประกาศแนวทางช่วยลดผลกระทบจากปัญหาอากาศร้อนรุนแรง (extreme heat) ของปี 2023 หลายอย่างดังนี้ Google Search เพิ่มการแจ้งเตือนคลื่นความร้อน (heat wave) ในแต่ละพื้นที่ โดยใช้ข้อมูลจาก Global Heat Health Information Network (GHHIN) ถ้าผู้ใช้ค้นหาด้วยคำว่า "heat wave" หรือ "extreme heat" จะได้หน้าจอแจ้งเตือนดังภาพ Google Environmental Insights Explorer ช่วยแสดงข้อมูลขอบเขตของร่มเงาจากต้นไม้ (tree canopy) ในแต่ละเมือง ช่วยให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถวางแผนการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มร่มเงาได้ดีขึ้น ตอนนี้มีข้อมูลแล้ว 350 เมืองทั่วโลก (ยังไม่มีไทย) ใครสนใจลองเล่นของ โยโกฮามา หรือ แอลเอ โครงการใหม่ของกูเกิลคือ ใช้แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมวิเคราะห์หลังคาบ้าน ว่ามีหลังคาแบบ cool roof ที่สะท้อนแสงอาทิตย์ ช่วยลดความร้อนเข้าบ้าน เป็นจำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนมาเป็นหลังคา cool roof ง่ายขึ้น เป็นทางเลือกลดความร้อนในชุมชนที่อาจไม่มีเงินซื้อเครื่องปรับอากาศ ที่มา - Google
# iTunes บน Windows อัพเดตเวอร์ชันใหม่ รองรับ HomePod 2nd Gen ถึงแม้จะไม่มีอัพเดตใหญ่มานานแล้ว แต่ iTunes บน Windows โปรแกรมสำหรับจัดการเพลง-วิดีโอของผู้ใช้งานแอปเปิล ก็ได้ออกอัพเดตเวอร์ชันล่าสุด iTunes 12.12.8 ซึ่งเป็นอัพเดตถัดจากเวอร์ชันก่อนหน้า 12.12.7 เมื่อเดือนธันวาคม ในอัพเดตนี้แอปเปิลบอกว่านอกจากปรับปรุงความปลอดภัยทั่วไป ยังรองรับอุปกรณ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม ซึ่งแอปเปิลไม่ได้ระบุว่าหมายถึงอุปกรณ์ใด แต่คาดว่าเป็น HomePod 2nd Gen ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้ผ่าน Microsoft Store หรือหน้าเว็บไซต์ของ iTunes ที่มา: MacRumors