txt
stringlengths
202
53.1k
# Meta เปิดตัวโครงการ Velox ตัวปรับแต่งประสิทธิภาพฐานข้อมูล รองรับ Spark, Presto, PyTorch เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Meta เปิดตัวโครงการ Velox เป็น unified execution engine กลางสำหรับฐานข้อมูลหรือระบบจัดการข้อมูลหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ระดับโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทใหญ่ระดับ Meta ที่ต้องใช้ฐานข้อมูลหลากหลาย และซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ Velox จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดระเบียบวิธีการเก็บและเรียกใช้ข้อมูลที่แตกต่างกัน ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการพัฒนา และรีดประสิทธิภาพของการเก็บข้อมูลให้ดีขึ้น แก้ปัญหาเอนจินแต่ละตัวมีวิธี optimized ที่แตกต่างกัน เบื้องต้น Velox รองรับฐานข้อมูล 3 รูปแบบ ได้แก่ Apache Spark, Presto, PyTorch สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งทั้ง 3 แบบเป็นระบบที่ใช้บ่อยภายในบริษัท Meta สิ่งที่ Velox ทำคือปรับแต่งเอนจินข้อมูลเหล่านี้ตอนรันไทม์ เช่น การเรียงลำดับข้อมูล ทำฟิลเตอร์ข้อมูล ทำ normalization ของอาร์เรย์ ฯลฯ โดยคำนึงถึงรูปแบบงานที่พบบ่อยในการประมวลผลยุคใหม่ ตัวอย่างเบนช์มาร์คของ Meta กับฐานข้อมูล Presto พบว่าการคิวรีข้อมูลเร็วขึ้นได้ถึง 6-7 เท่าเลยทีเดียว (ในหน้า GitHub ของโครงการให้นิยามว่าตัวเองเป็น database acceleration library) โครงการ Velox เปิดเป็นโอเพนซอร์สบน GitHub และมีบริษัทอื่นเข้ามาช่วยพัฒนาแล้ว เช่น อินเทลมาทำตัวเชื่อมต่อกับ Spark ในชื่อโครงการ Gluten เนื่องจาก Velox ไม่ได้ยุ่งกับระดับชั้นบนๆ ของฐานข้อมูล เช่น ตัวอ่านคำสั่ง SQL, ตัวปรับแต่งคิวรี จึงไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้งานฐานข้อมูล แต่ออกแบบมาเพื่อนักพัฒนาใช้ปรับแต่งประสิทธิภาพของฐานข้อมูลที่ใช้งานอยู่ได้ ที่มา - Meta Engineering
# Telegram ออกอัพเดต แชร์ Chat Folders ได้, ปรับแต่ง Wallpapers ได้มากขึ้น Telegram ออกอัพเดตฟีเจอร์ใหม่หลายรายการดังนี้ แชร์ Chat Folders ก่อนหน้านี้ผู้ใช้งานสามารถจัดกลุ่มแชตเป็นโฟลเดอร์ได้ ตอนนี้ยังสามารถแชร์โฟลเดอร์ทั้งกลุ่ม ให้กับเพื่อน เพื่อเข้าร่วมกลุ่มทั้งหมดในคราวเดียวได้ Custom Wallpapers สามารถปรับแต่งพื้นหลังในแต่ละแชต ด้วยรูปภาพของตนเอง และปรับธีมสีได้ด้วย แชตบอท สามารถโฮสต์เว็บแอปได้แล้ว ทำให้เว็บแอปสามารถทำงานได้ในแชต นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น เช่น บอตสามารถสร้าง username โดยไม่ต้องมี -bot, เลื่อนดูหน้า Shared Media ได้เร็วขึ้น และอื่น ๆ ที่มา: Telegram
# Redbox ธุรกิจเช่า DVD รายใหญ่ สนใจซื้อกิจการเช่า DVD ของ Netflix จากข่าวก่อนหน้านี้ที่ Netflix ประกาศเตรียมปิดธุรกิจเช่าดีวีดี ซึ่งเป็นธุรกิจเริ่มต้นของบริษัท เนื่องจากความนิยมที่ลดลง ล่าสุด Bill Rouhana ซีอีโอของบริษัทแม่ที่เป็นเจ้าของ Redbox ผู้ให้บริการเช่าดีวีดีรายใหญ่ในอเมริกา บอกว่าสนใจซื้อกิจการนี้จาก Netflix ทั้งนี้ Redbox เป็นผู้ให้บริการเช่าดีวีดีผ่านตู้อัตโนมัติที่วางอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 32,000 จุด และมีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่กว่าธุรกิจดีวีดีของ Netflix Rouhana บอกว่าจริง ๆ บริษัทติดต่อขอซื้อกิจการจาก Netflix มาแล้ว 3-4 ครั้ง เมื่อ Netflix ประกาศปิดธุรกิจเองแบบนี้ เขาก็สนใจจะเปิดการเจรจาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตัวแทนของ Netflix ของยืนยันว่าบริษัทไม่มีแผนที่จะขายกิจการส่วนนี้ Bill Rouhana ให้ความเห็นต่อธุรกิจเช่าดีวีดี โดยมองว่าดีวีดีจะยังคงมีอยู่ต่อไป เหมือนกับสื่อรูปแบบเก่าหลายอย่างที่ยังมีการใช้อยู่ นอกจากนี้การปรับไทม์ไลน์ของค่ายภาพยนตร์ ที่จะเริ่มลดการฉายหนังแบบลงพร้อมสตรีมมิ่ง มาเป็นเว้นช่วงระยะเวลาหนึ่งเหมือนในอดีต ยังมีผลทำให้ธุรกิจดีวีดีจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งด้วย ที่มา: The Hollywood Reporter ภาพ Wikimedia
# Acer เปิดตัวเดสก์ท็อปเกมมิ่ง Predator Orion X, โน้ตบุ๊กเกมมิ่งตัวท็อป Predator Triton 17 X Acer เปิดตัวสินค้ากลุ่มเกมมิ่งแบรนด์ Predator ของปี 2023 หลายรุ่น ทั้งเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊ก สินค้าเด่นฝั่งเดสก์ท็อปคือ Predator Orion X ที่จัดสเปกเครื่องแรงที่สุดเท่าที่ทำได้ตอนนี้ ซีพียู 13th Gen Intel Core i9-13900KS และจีพียู GeForce RTX 4090 รุ่นพิเศษ ระบายความร้อนด้วยของเหลว ตัวเคสเป็นเคสทรงเตี้ย มีแนวคิดแบ่งโซนตามประเภทอุปกรณ์ 3 โซน (ตามเลข 01-03 ในภาพ) ปรับแต่งชิ้นส่วนได้ง่าย ฝาด้านบนมีที่แขวนหูฟังแบบพับได้ Predator Orion X ราคาเริ่มต้น 2,999.99 ดอลลาร์ เริ่มวางขายเดือนกันยายน สินค้าฝั่งโน้ตบุ๊กเป็น Predator Triton 17 X โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่สเปกแรงที่สุดของ Acer ในตอนนี้ สเปกคือซีพียู 13th Gen Intel Core i9-13900HX, GeForce RTX 4090, แรมสูงสุด 64GB DDR5, SSD 4TB ต่อ RAID 0 ตัวเครื่องหนา 1 นิ้ว ใช้ระบบระบายความร้อน Vortex Flow พัดลม 3 ตัว และ heat pipe แยกเฉพาะสำหรับระบายความร้อนซีพียู หน้าจอขนาด 17 นิ้ว มีจอประเภท mini-LED (AmLED) อัตรารีเฟรช 250 Hz ให้เลือก ความสว่าง 1,000 nits, คีย์บอร์ด RGB แบบแยกคีย์, ตัวอ่านลายนิ้วมือ, ทัชแพดกระจก Predator Triton 17 X ราคาเริ่มต้นที่ 3,799 ดอลลาร์ เริ่มวางขายเดือนพฤษภาคม เกมมิ่งโน้ตบุ๊กรุ่นรองๆ ลงมาที่เปิดตัวพร้อมกัน Predator Helios Neo 16 วางตัวเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊กหน้าจอ 16" ราคาระดับกลาง (midrange price) ซีพียู 13th Gen Core HX, จีพียูสูงสุด GeForce RTX 4070 ราคาเริ่มต้น 1,199 ดอลลาร์ Predator Triton 14 เกมมิ้งโน้ตบุ๊กหน้าจอ 14" สเปกแรง ซีพียูสูงสุด 13th Gen Intel Core i7-13700H, จีพียู GeForce RTX 4070/4050, หน้าจอสูงสุด Mini LED 250Hz ราคาเริ่มต้น 1,499 ดอลลาร์ Predator Helios 3D 15 SpatialLabs Edition โน้ตบุ๊กหน้าจอ 3D stereoscopic แบรนด์ SpatialLabs ที่ Acer ยังไม่ยอมแพ้และผลักดันต่อไป สเปกคือ 13th Gen Intel Core i9-13900HX, GeForce RTXTM 4080, ฟีเจอร์ตรวจจับนัยน์ตา, ราคาเริ่มต้น 3,499 ดอลลาร์ ที่มา - Acer (Desktop), Acer (Notebook)
# Xbox และ Game Bar ของวินโดวส์ หยุดรองรับการโพสต์คลิปเกมลง Twitter แล้ว เราเพิ่งเห็นข่าว Microsoft Advertising หยุดรองรับการโพสต์ลง Twitter ด้วยเหตุผลว่า API ใหม่ของ Twitter มีราคาแพงมาก นอกจาก Microsoft Advertising แล้ว ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นของไมโครซอฟท์ก็หยุดรองรับการโพสต์ลง Twitter เช่นกัน ได้แก่ ฟีเจอร์โพสต์คลิปลงโซเชียลจากคอนโซล Xbox และ Game Bar ของวินโดวส์ บัญชี @xbox ไปตอบความเห็นของผู้ใช้รายหนึ่งที่ค้นพบว่าฟีเจอร์นี้หายไป ว่าจำเป็นต้องปิดการใช้งาน (we have had to) อย่างไรก็ตาม การแชร์คลิปเล่นเกมลง Twitter ยังสามารถทำได้อยู่ผ่านแอพ Xbox บนมือถือ Android/iOS ซึ่งคาดว่าเป็นการโพสต์ผ่านแอพ Twitter อีกที ไม่ใช่การเรียกผ่าน API ภาพ Game Bar จากไมโครซอฟท์ ที่มา - Windows Central
# Node.js ออกเวอร์ชัน 20 เริ่มรองรับการจำกัดสิทธิเข้าถึงทรัพยากร Node.js ออกเวอร์ชัน 20 ตามแนวทางการออกรุ่นใหม่ทุก 6 เดือน (ทุกเดือนเมษายน-ตุลาคม) ของใหม่เวอร์ชันนี้คือ Permission Model เป็นฟีเจอร์การจำกัดสิทธิตอนรัน Node.js เพื่อไม่ให้เข้าถึงสิทธิบางอย่างของเครื่อง เช่น ระบบไฟล์ เธร็ด โพรเซส เพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น แล้วอนุญาตการเข้าถึงสิทธิบางอย่างทีละตัวแทน --allow-fs-read / --allow-fs-write --allow-child-process --allow-worker ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในสถานะทดลอง (experimental) โดยต้องรันแบบ --experimental-permission ก่อนถึงเริ่มจำกัดสิทธิ ของใหม่อย่างอื่นคืออัพเดตเอนจิน V8 เป็นเวอร์ชัน 11.3 (ตาม Chromium 113), โมดูล test_runner สำหรับการรันเทสต์เข้าสถานะเสถียร, รองรับสถาปัตยกรรม ARM64 Windows อย่างเป็นทางการ, ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยเฉพาะตอน fetch URL และการเรียก EventTarget เป็นต้น ที่มา - Node.js
# Ubuntu 23.04 ออกแล้ว เป็นดิสโทรลินุกซ์ตัวแรกที่รองรับ Azure AD ในตัว Ubuntu ออกเวอร์ชัน 23.04 โค้ดเนม Lunar Lobster กุ้งมังกรแห่งดวงจันทร์ มีของใหม่ดังนี้ ตัวติดตั้ง Subiquity Installer ใช้งานกับฝั่งเดสก์ท็อปแล้ว (ก่อนหน้านี้ใช้เฉพาะฝั่งเซิร์ฟเวอร์) สามารถทำ autoinstall configuration ช่วยให้การติดตั้ง Ubuntu Desktop กับพีซีจำนวนมากๆ ในองค์กรทำได้ง่ายขึ้น รองรับการล็อกอินของผู้ใช้งานผ่าน Azure Active Directory (Azure AD) ได้ในตัว สำหรับองค์กรที่ใช้ Microsoft 365 หรือ Azure อยู่แล้ว ก็นำบัญชีเหล่านี้มาล็อกอินเดสก์ท็อป Ubuntu ได้เลยทันที GNOME 44, แพ็กเกจ Snap รองรับการอัพเดตอัตโนมัติ โดยจะดาวน์โหลดไฟล์มาเบื้องหลัง และรออัพเดตหลังปิดแอพแล้ว, แอดมินสามารถสั่งหยุดการอัพเดตอัตโนมัติของแอพเป็นรายตัวได้ แพ็กเกจ Steam แบบ snap เข้าสถานะเสถียร และรวมแพ็กเกจที่จำเป็นให้รันเกมได้ โดยไม่ต้องเพิ่มแหล่งซอฟต์แวร์ PPA ภายนอก ที่มา - Ubuntu
# Google ระงับการก่อสร้างแคมปัสแห่งใหม่ในเมือง San José ออกไปไม่มีกำหนด มีรายงานว่ากูเกิลได้สั่งระงับโครงการก่อสร้างพื้นที่สำนักงานใหม่ ที่มีชื่อเรียกว่าแคมปัส Downtown West ตั้งอยู่ในเมือง San José รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 202 ไร่ (80 เอเคอร์) ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โครงการดังกล่าวเป็นการสร้างเมืองใหม่ของกูเกิล โดยมีพื้นที่อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ บ้านพัก 4,000 ยูนิต พื้นที่ร้านค้า พื้นที่สาธารณะสำหรับทำกิจกรรม และสวนสาธารณะอีก 38 ไร่ โดยในขั้นตอนการนำเสนอแผนต่อเมือง San José กูเกิลบอกว่าโครงการนี้จะสร้างมูลค่ามากกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ และสร้างงานมากกว่า 20,000 ตำแหน่ง โครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติให้ดำเนินงานในปี 2021 ตัวแทนของกูเกิลชี้แจงต่อรายงานข่าวนี้ว่าผลจากการทำงานแบบไฮบริด ทำให้บริษัทจำเป็นต้องปรับแผนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ให้มีความเหมาะสมกับธุรกิจมากขึ้น โดยยืนยันว่ายังคงการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในเมือง San José ที่มา: The Verge
# Google Slides เพิ่มความสามารถ Co-present ลดการบอกให้เปิดสไลด์ถัดไป Google Slides เพิ่มความสามารถใหม่ในการทำงานร่วมกับ Google Meet โดยระหว่างการนำเสนอสไลด์กับผู้ร่วมประชุม สามารถเพิ่มผู้ร่วมนำเสนอ (co-present) ได้ ผู้ร่วมนำเสนอสไลด์จะสามารถมองเห็นผู้ร่วมประชุม ไฟล์นำเสนอ และควบคุมสไลด์ได้ในหน้าต่างเดียว สามารถกำหนดการแสดงสไลด์ และเล่นหรือหยุดไฟล์สื่อที่อยู่ในสไลด์ได้ทั้งหมด ขั้นตอนการเพิ่มผู้ร่วมนำเสนอ ทำได้โดยผู้นำเสนอหลักกด Add co-presenter ในรายชื่อผู้ร่วมประชุม เพื่อให้มีสิทธิควบคุมสไลด์ได้ กูเกิลบอกว่าการเพิ่มผู้ร่วมนำเสนอนี้ เพื่อลดปัญหาที่พบบ่อยเวลานำเสนอและผู้พูดกับคนแชร์หน้าจอเป็นคนละคน ทำให้ต้องพูดคำว่าเปิดสไลด์ถัดไปเป็นระยะ ช่วยให้การนำเสนอลื่นไหลมากขึ้น คุณสมบัตินี้รองรับเฉพาะการทำงานกับเบราว์เซอร์ Chrome รองรับกับผู้ใช้งาน Google Workspace Business Standard, Business Plus, Enterprise Essentials, Enterprise Standard, Enterprise Plus, Education Plus, กลุ่ม Teaching and Learning Upgrade และลูกค้าองค์กร Nonprofits กลุ่มอื่นนอกเหนือจากนี้ รวมทั้งกูเกิลบัญชีทั่วไป จะไม่รองรับ ที่มา: กูเกิล
# Google Bard เพิ่มฟีเจอร์เขียนโปรแกรม ส่งโค้ดไปรันใน Colab ได้ทันที กูเกิลอัพเดตฟีเจอร์ของ Google Bard ด้านการเขียนโปรแกรมได้ดีขึ้น โดยรองรับภาษามากกว่า 20 ภาษา และเมื่อได้โค้ดแล้วสามารถส่งโค้ดไปรันบน Google Colab ได้ทันที Google Bard สามารถเขียนโค้ดได้ตั้งแต่แรก แต่หน้าจอ UI นั้นก็ไม่ได้อำนวยความสะดวกในการนำโค้ดออกไปใช้งาน มีเพียงกรอบแสดงว่าส่วนไหนเป็นโค้ดเท่านั้น ขณะที่ ChatGPT มีปุ่ม Copy เพื่อให้นำโค้ดไปใช้งานได้สะดวก รอบนี้กูเกิลเพิ่มทั้งปุ่ม Copy และ Export to Colab พร้อมกัน นอกจากการสร้างโค้ดแล้ว Bard ยังสามารถช่วยแก้บั๊กในโค้ดได้บางส่วน หรือบางครั้งก็ช่วยออปติไมซ์ความเร็วขึ้นด้วย กูเกิลระบุว่า Bard รองรับภาษามากกว่า 20 ภาษา แต่ไม่บอกรายชื่อทั้งหมด แต่ภาษายอดนิยม เช่น C++, Go, Java, JavaScript, Python, และ TypeScript นั้นก็รองรับแต่แรก (ผมลอง Rust ก็ยังทำงานได้ แม้โค้ดจะผิดพลาด) สำหรับผู้ใช้กูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดตเรื่อยๆ อาจจะต้อง refresh หน้าเว็บสักทีจึงได้เวอร์ชั่นใหม่ ที่มา - Google Blog
# Twitter จำกัดเฉพาะ Twitter Blue เท่านั้นที่สามารถยิงโฆษณา ได้ Twitter ประกาศว่าหลังจากนี้บัญชีที่เครื่องหมาย Twitter Blue หรือบัญชีธุรกิจที่มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีทองมียอดใช้จ่ายเกิน 1000 เหรียญสหรัฐต่อเดือนเท่านั้น ที่จะสามารถซื้อโฆษณาบน Twitter ต่อไปได้ ซึ่งในประกาศยังบอกอีกว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับคุณภาพของเนื้อหาและเพื่อลดบัญชีปลอมใน Twitter โดยเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านทาง Twitter ได้ทำการลบเครื่องหมาย Verified แบบเก่า ในบัญชีคนดังและนักธุรกิจจำนวนมากเช่น Justin Bieber, Kim Kardashian, Lady Gaga, Selena Gomez, Beyonce และ Kylie Jenner เป็นต้น จึงนำมาซึ่งความกังวลใจในการแยกแยะบัญชีจริงและบัญชีปลอม เพราะมีหลายคนได้ออกมาประกาศว่าจะไม่สมัคร Twitter Blue
# Rockman EXE ผงาด ครองชาร์ตในญี่ปุ่น แม้เป็นเกม Remastered เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2023 ทาง Capcom ได้วางจำหน่ายเกมเวอร์ชั่น Remastered ของ Mega Man Battle Network ทั้ง 6 ภาค ชื่อ Mega Man Battle Network Legacy Collection (หรือในชื่อญี่ปุ่น Rockman EXE Advanced Collection) แม้จะเป็นเกม Remaster แต่ก็ซึ่งทำยอดขายได้สูงสุดในชาร์ตของ Famitsu ประจำวันที่ 10 เมษายน - 16 เมษายน 2023 โดยทำยอดขายได้ทั้งหมด 60,246 ชุด โดยแบ่งเป็น 52,375 ชุดใน Switch และ 7,871 ชุดใน PS4 ตามลำดับ Famitsu เป็นนิตยสารเกมเก่าแก่ในญี่ปุ่นที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1986 และยังได้รับความนิยมอย่างสูงในทุกวันนี้ นอกจากนั้นยอดขายเครื่องเกมในญี่ปุ่นของสัปดาห์นี้ Switch เก็บยอดขายเครื่องทั้งหมดไปได้ถึง 48,794 เครื่อง , PS5 ขายได้ 47,040 เครื่อง , PS4 ขายได้ 1,356 เครื่อง และปิดท้ายด้วย XBOX Series ที่เก็บยอดขายไปได้ 296 เครื่อง ยอดขายเกมทั้ง 30 อันดับจาก Famitsu 01. [NSW] Mega Man Battle Network Legacy Collection (Capcom) - 52,375 / NEW 02. [NSW] Kirby's Return to Dream Land Deluxe (Nintendo) - 11,372 / 384,987 03. [NSW] Pokemon Scarlet / Violet (Pokemon Co.) - 9,499 / 4,991,374 04. [NSW] Mario Kart 8 Deluxe (Nintendo) - 9.071 / 5,243,555 05. [PS4] Mega Man Battle Network Legacy Collection (Capcom) - 7,871 / NEW 06. [NSW] Minecraft (Microsoft Game Studios) - 7,307 / 3,106,167 07. [PS4] Resident Evil 4 (Capcom) - 7,189 / 120,636 08. [NSW] Splatoon 3 (Nintendo) - 7,147 / 3,985,494 09. [NSW] Nintendo Switch Sports (Nintendo) - 5,564 / 1,056,390 10. [NSW] Dokapon Kingdom: Connect (Compile Heart) - 5,411 / NEW 11. [PS4] Atomic Heart (Beep Japan) - 4,817 / NEW 12. [PS5] Resident Evil 4 (Capcom) - 4.747 / 121,220 13.. [NSW] Super Smash Bros. Ultimate (Nintendo) - 4,743 / 5,165,341 14. [NSW] Mario Party Superstars (Nintendo) - 3,320 / 1,211,354 15. [NSW] Puyo Puyo Tetris 2 [Special Price] (Sega) - 3,019 / 52,661 16. [NSW] Ring Fit Adventure (Nintendo) - 2,929 / 3,375,673 17. [NSW] Mega Man Battle Network Legacy Collection Vol.2 |DL| (Download Card) (Capcom) - 2,828 / NEW 18. [NSW] The Legend of Zelda: Breath of the Wild (Nintendo) - 2,763 / 2,161,267 19. [NSW] Animal Crossing: New Horizons (Nintendo) - 2,345 / 7,455,792 20. [NSW] Mega Man Battle Network Legacy Collection Vol.1 |DL| (Download Card) (Capcom) - 2,293 / NEW 21. [PS5] Hogwarts Legacy (WB Games) - 2,231 / 166,580 22. [NSW] Ark: Survival Evolved (Spike Chunsoft) - 2,141 / 39,844 23. [NSW] Momotaro Dentetsu: Showa, Heisei, Reiwa mo Teiban! (Konami) - 2,114 / 2,865,826 24. [NSW] Clubhouse Games: 51 Worldwide Classics (Nintendo) - 2,112 / 1,109,843 25. [NSW] Castle of Shikigami II (Alfa System) - 2,046 / NEW 26. [NSW] Taiko no Tatsujin: Rhythm Festival (Bandai Namco Entertainment) - 1,737 / 168,698 27. [NSW] Winning Post 10 (Koei Tecmo) - 1,584 / 18,195 28. [NSW] Octopath Traveler II (Square Enix) - 1,519 / 89,852 29. [NSW] Senjou no Waltz for Nintendo Switch (Idea Factory) - 1,440 / NEW 30. [NSW] Kirby and the Forgotten Land (Nintendo) - 1,393 / 1,016,632 ที่มา - gematsu
# Stack Overflow เตรียมคิดเงินผู้พัฒนา AI หากต้องการใช้ข้อมูลไปเทรน Prashanth Chandrasekar ซีอีโอ Stack Overflow กล่าวว่าบริษัทเตรียมคิดเงินบริษัทผู้พัฒนา AI ขนาดใหญ่ ภายในช่วงกลางปีนี้ หากต้องการเข้าถึงข้อมูลคำถาม-คำตอบในแพลตฟอร์ม ที่มีมากกว่า 50 ล้านคำถาม ทั้งนี้ Stack Overflow มีผู้ใช้งานลงทะเบียนปัจจุบันมากกว่า 20 ล้านบัญชี แนวทางของ Stack Overflow นี้ ออกมาเหมือนกับ Reddit ที่ประกาศก่อนหน้านี้ ว่าหากผู้พัฒนา AI ต้องการข้อมูลจำนวนมากไปเทรนโมเดล จะต้องจ่ายเงินให้แพลตฟอร์มด้วย ซึ่ง Chandrasekar ก็บอกเพิ่มเติมว่าเนื้อหาในชุมชนออนไลน์ สามารถสร้างคุณค่าให้กับ AI แบบ LLM บริษัทก็ควรได้ผลตอบแทนเพื่อมาลงทุนเพิ่มเติมเช่นกัน ที่มา: Wired
# Twitter เอาจริง ลบเครื่องหมายติ๊กถูกบัญชีคนดังทิ้ง หลังไม่จ่าย Twitter Blue แต่บางคนก็ได้ฟรีจาก Elon Musk หลังจาก Elon Musk ได้ประกาศว่า Twitter จะทำการลบเครื่องหมายติ๊กถูกแบบเก่าในวันที่ 1 เมษายน และเปิดให้ผู้ใช้สมัคร Twitter Blue เก็บค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 8 เหรียญสหรัฐต่อเดือน นำมาซึ่งกระแสวิจารณ์เชิงลบจำนวนมากในกลุ่มคนดังและแบรนด์ ก่อนหน้านี้สำนักข่าว The New York Times ได้ประกาศว่าจะไม่จ่ายเงินซื้อ Twitter Blue ต่อมาทาง Twitter จึงทำการลบเครื่องหมาย Verified ของบัญชี NYT ทิ้ง เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาทาง Twitter ได้ลบเครื่องหมาย Verified แบบเก่าทิ้ง โดยมีบัญชีของเหล่าเซเลบอย่าง Justin Bieber, Kim Kardashian, Lady Gaga, Selena Gomez, Beyonce และ Kylie Jenner รวมไปถึงผู้บริหารอย่าง Bill Gates, Reid Hoffman ผู้ก่อตั้ง Linkedin ต่างก็ถูกลบเครื่องหมายติ๊กถูกแบบเก่าทิ้ง ในมุมธุรกิจการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายยืนยันตัวตนที่เปิดให้คนเข้ามาซื้อถือเป็นทิศทางที่ Twitter ต้องการสร้างกำไรให้กับบริษัท แต่อีกมุมหนึ่งหลายคนก็ออกมาบอกว่าเป็นการสร้างอำนาจในทางที่ผิด เพราะไม่สามารถแยกแยะระหว่างบัญชีจริงกับบัญชีปลอมได้ ถ้าไม่ได้ทำการสมัคร Twitter Blue ก็จะไม่มีเครื่องหมายติ๊กถูก สิ่งเดียวที่สามารถดูได้ตอนนี้คือ ยอดจำนวนผู้ติดตาม ที่ช่วยทำให้แยกความแตกต่างระหว่างบัญชีจริงกับบัญชีปลอมได้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังมีการลบเครื่องหมาย Verified แบบเก่าทิ้ง ก็เกิดบัญชีปลอมของ Hillary Clinton ที่ใช้รูปโปรไฟล์เดียวกันได้ประกาศว่า “เธอจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง” แต่บัญชีนั้นก็ได้ถูกลบไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนว่าการที่มีบัญชีปลอมเกิดขึ้นและการปล่อยให้คนมีเครื่องหมาย Twitter Blue ง่ายขึ้น อาจนำไปสู่การแพร่กระจายข้อมูลที่ผิดพลาดและผลกระทบที่ตามมาอาจทำให้ขาดความน่าเชื่อถือจากแพลตฟอร์มและไม่เป็นที่น่าสนใจสำหรับคนที่ลงโฆษณา ไม่ใช่ทุกคนที่โดนถอดเครื่องหมาย Verified แบบเก่า เพราะบางคนก็ยังมีอยู่ The Verge ได้รายงานว่า พนักงานของ Twitter ได้ส่งอีเมลหา LeBron Raymone James นักบาสเกตบอล ซึ่งเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะไม่จ่ายเงินสมัครสมาชิก Twitter Blue แต่ทาง Twitter “ได้ขยายสิทธิ์สมัคร Twitter Blue ฟรีให้กับบัญชีของ James (@kingjames) ในนามของ Elon Musk” Elon Musk ทวีตว่า เขาจ่ายเงินสำหรับ "สมัครฟรีบางอัน" ในนามตัวเอง เช่นเดียวกับ Stephen King ที่ได้รับเครื่องหมาย Twitter Blue แม้ไม่ได้สมัครซึ่งเขาได้ทวีตว่า ไม่ได้สมัคร Twitter Blue หรือให้หมายเลขโทรศัพท์เลย แต่ Elon Musk ได้ตอบกลับทวีตว่า You’re welcome namaste หรือประมาณว่า เขายินดีจ่ายให้ ที่มา: insider BBC theverge
# MediaTek เปิดตัวแพลตฟอร์มชิปสำหรับรถยนต์ Dimensity Auto MediaTek เปิดตัวแพลตฟอร์มชิปสำหรับรถยนต์ Dimensity Auto ที่ประกอบด้วยแบรนด์ชิปย่อยสำหรับงาน 4 ประเภท Dimensity Auto Cockpit สำหรับหน้าจอ cockpit/infotainment บอกว่าใช้ชิปเกรดเดียวกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม พลังประมวลผลสูง รองรับจอละเอียด 8K 120Hz HDR, ใช้กระบวนการผลิต 3nm Dimensity Auto Connect ชิปสำหรับเครือข่าย รองรับเครือข่ายหลากหลาย 4G, 5G, Wi-Fi, Bluetooth, ดาวเทียมแบบ NTN (Non-Terrestrial Network) Dimensity Auto Drive ชิปสำหรับระบบช่วยขับขี่ ADAS เน้นฟีเจอร์ด้าน AI Dimensity Auto Components ชิปสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ในรถยนต์ เช่น ระบบจัดการแบตเตอรี่, ระบบจัดการหน้าจอ OLED ในรถยนต์, ระบบนำทางหรือระบุพิกัดในอุโมงค์ ลานจอดรถใต้ดิน บริเวณที่ไม่มีสัญญาณ คู่แข่งของ Dimensity Auto ย่อมเป็นเพื่อนร่วมวงการหน้าเดิมๆ อย่าง Qualcomm Snapdragon Digital Chassis , NVIDIA Drive, Intel Mobileye EyeQ ที่มา - MediaTek
# รู้จัก Unrecord เกมยิง FPS ที่สไตล์ภาพสมจริงมาก จนหลายคนคิดว่าเป็นเกมปลอม มีเกมใหม่ที่ถูกพูดถึงช่วงนี้คือ Unrecord เกมยิง FPS ที่มีภาพสมจริงมาก จนหลายคนนึกว่าเป็นฟุตเตจวิดีโอจริงๆ และเป็นเกมปลอม Unrecord เป็นเกมจากทีมนักพัฒนาอินดี้ชื่อ Drama จากฝรั่งเศส ใช้เอนจิน Unreal Engine 5 แนวคิดคือให้เราเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ก่อการร้าย และผู้เล่นมองภาพในเกมจากกล้องที่ติดกับตัวตำรวจ (body camera) สิ่งที่ทำให้คนสนใจคือภาพสไตล์สมจริง เหมือนกับเป็นภาพถ่ายจริงๆ หลังจากคลิปโปรโมทเกม Unrecord ถูกเผยแพร่ ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นเกมปลอม จนทำให้ Alexandre Spindler นักพัฒนาเกมนี้ต้องออกมาโพสต์คลิปการสร้างเกมในเอนจิน Unreal ยืนยันว่าเป็นเกมจริงๆ เกมยังไม่มีกำหนดวางขาย แต่มีหน้าเว็บบน Steam แล้ว ที่มา - Neowin
# Reddit ปรับเงื่อนไขการใช้งาน API หากต้องการข้อมูลเยอะๆ ไปเทรน AI ต้องจ่ายเงินแล้ว Reddit ประกาศปรับเงื่อนไขการใช้งาน API เรียกข้อมูล การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือบริษัทใหญ่ๆ ที่ต้องการดึงข้อมูลจาก Reddit ในปริมาณมากๆ (เช่น นำคลังกระทู้และคอมเมนต์ไปเทรน AI) จะต้องจ่ายค่าใช้งานแล้ว เงื่อนไขแบบใหม่ของ Reddit จะมีข้อตกลง Developer Terms เป็นพื้นฐาน จากนั้นแยกย่อยตามรูปแบบการใช้งานต่างๆ เช่น Data API Terms, Reddit Embeds Terms, Ads API Terms โดยเงื่อนไขเกือบทั้งหมดยังเหมือนของเดิม ยกเว้น Data API ที่เพิ่ม premium tier เข้ามา แต่ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องราคา Steve Huffman ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Reddit ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลบน Reddit เป็นสิ่งที่มีค่ามาก ดังนั้นถ้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีรายได้มหาศาลก็ควรต้องจ่ายเงินค่าใช้งาน แต่บริษัทยังเปิดให้นักพัฒนา นักวิจัย โครงการที่ไม่ใช้เชิงพาณิชย์ ใช้งานฟรีเช่นเดิม โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) หลายตัว เช่น ChatGPT, Bard ล้วนแต่ใช้ Reddit เป็นแหล่งข้อมูลในการเทรนโมเดล กรณีของ Stable Diffusion แม้ไม่ได้ระบุตรงๆ แต่ก็มีคนวิเคราะห์ว่าน่าจะใช้เนื้อหาจาก "user-generated content platforms" ที่มีรูปภาพจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปได้สูงว่ามี Reddit รวมอยู่ด้วย ที่มา - Reddit, Ars Technica
# ASUS เปิดตัว Zenbook S 13 OLED โน้ตบุ๊กจอ OLED ที่บางที่สุดในโลก ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล Zenbook ตัวใหม่อย่าง Zenbook S 13 OLED ซึ่งเคลมว่าเป็น Laptop จอ 13.3 นิ้ว ที่บางที่สุดในโลก ด้วยความหนาของเครื่องที่มีขนาดเพียง 1 เซนติเมตร (10.9 มิลลิเมตร) และน้ำหนักเครื่องที่หนักเพียง 1 กิโลกรัม ที่มีพอร์ตครบครันไม่ว่าเป็น HDMI 2.0, USB 3.2 Gen 2 Type A, USB-C (Thunderbolt 4) ถึง 2 port และ 3.5 mm audio jack นอกจากบางเบาแล้ว Zenbook S OLED ยังมาพร้อมกับหน้าจอแบบ OLED ที่ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800 Ratio 16:10) รองรับ Dolby Vision , DisplayHDR 500 True Black และ DCI-P3 100% ด้วยเทคโนโลยี ASUS Lumina OLED ที่มีความบางเพีนง 3.5 มิลลิเมตรเท่านั้น (บางกว่ารุ่นที่แล้ว 30%) ทางด้านสเปคของเครื่องก็จัดเต็มไม่แคร์ความบางด้วย CPU Intel Gen 13 ที่มีให้สูงสุดถึง Core i7-1355U การ์ดจอ Intel Iris X แรมแบบ LPDDR5 ที่คอนฟิกได้สุงสุดถึง 32GB , SSD แบบ PCle Gen 4 ที่เลือกได้สูงสุดถึง 1TB และระบบเสียงที่ได้รับการรับรองจาก Harman Kardon ตัวเครื่อง Zenbook S 13 OLED มีให้เลือก 2 สีได้แก่ Basalt Gray และ Ponder Blue อีกทั้งยังเป็นโน้ตบุ๊กที่ eco-friendly ด้วยวัสดุที่ได้รับการรับรองรับมาตรฐาน 100% FSC Mix packaging ตัว Zenbook S 13 OLED จะวางขายในไตรมาสนี้ในอังกฤษ ในราคาเริ่มต้น £1,499 หรือประมาณ 65,000 บาท ส่วนประเทศอื่นรอติดตามจากทาง Asus ในภายหลัง ที่มา - asus , xda-developers
# รัฐบาลดิจิทัลไทย หน่วยงาน 46.8% ยังขอสำเนาบัตร แอพของรัฐ 299 ตัว แอพจำนวนมากใช้งานไม่ได้ เว็บไซต์ The101.World และ 101 PUB หน่วยวิจัยนโยบายสาธารณะ รวบรวมสถิติของนโยบาย "รัฐบาลดิจิทัล" ของประเทศไทยในช่วง 8 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ การออกคำสั่งให้หน่วยงานรัฐทำแอพ (คำสั่งปี 2564) ทำให้เกิดแอพของรัฐแล้วอย่างน้อย 299 ตัว แต่เจอปัญหาหลายอย่าง เช่น ทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันเอง (มีแอพเช็คฝุ่น 5 ตัว แต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์), มีแอพที่ใช้งานไม่ได้หรือไม่อัพเดต 62 ตัว, แอพบางตัวต้องลงทะเบียนใหม่ แม้ลงทะเบียนกับแอพอื่นแล้ว, แอพหลัก "ทางรัฐ" ของ DGA หวังจะเป็นแอพเดียวครบจบในตัว มีบริการ 51 อย่าง แต่ส่วนใหญ่ก็ให้ข้อมูลอย่างเดียว เช่น ตรวจสิทธิเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดได้ แต่การลงทะเบียนต้องใช้แอพอีกตัว บริการออนไลน์ยังแยกส่วนกันมาก ตัวอย่างการเปิดร้านออนไลน์ขายเครื่องสำอางนำเข้า ผู้ประกอบการต้องจดทะเบียน 5 ใบกับหน่วยงานรัฐ 5 หน่วย ผ่าน 4 เว็บไซต์ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กรมสรรพากร, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) เหตุผลที่เป็น 4 เว็บไซต์ เพราะการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์โดยต้องเดินทางไปสำนักงานเขตหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเท่านั้น ทำผ่านเว็บไม่ได้ ส่วน อย. ต้องไปลงทะเบียนที่สำนักงานก่อนถึงจะออนไลน์ได้ กระบวนการบางอย่างยังต้องไปที่สำนักงานด้วยตัวเอง เช่น การเปลี่ยนคำนำหน้าหรือชื่อ-นามสกุล, การยกเลิกทะเบียนพาณิชย์ (จดออนไลน์ได้ เลิกต้องทำออฟไลน์) ถึงแม้มีระเบียบห้ามขอสำเนาเอกสารจากประชาชนในปี 2560 แต่ยังมีหน่วยงานต้องขอสำเนาบัตรประชาชนอยู่ดี การสำรวจจาก DGA เมื่อปี 2565 ยังมีหน่วยงานระดับจังหวัด 46.8% ขอสำเนาบัตรประชาชน (ทั้งที่ให้ประชาชนนำมาเอง หรือมีบริการถ่ายสำเนาให้), 43.75% ขอสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาโฉนดที่ดินเป็นเอกสารที่ยังต้องขอสำเนาเยอะมาก เกือบ 100% ของหน่วยงานที่ต้องใช้งาน รายละเอียดอ่านได้จากบทความฉบับเต็ม The101.World
# Lego ทำของเล่นชุด Sonic the Hedgehog วิ่งวนเป็นวงกลมได้จริงเหมือนในเกม Lego และ Sega ประกาศทำของเล่นชุด Sonic the Hedgehog ซีรีส์ใหม่จำนวน 4 ชุด Lego เคยทำชุดบล็อค Sonic มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2021 (Sonic the Hedgehog – Green Hill Zone) แต่รอบนี้ปรับปรุงใหม่ให้ Sonic สามารถวิ่งเร็วได้จริงๆ เหมือนในเกม โดยมีอุปกรณ์วงกลมใส (Speed Sphere) ที่เอาตัว Sonic ไปใส่ไว้ในนั้น แล้วมีกลไกกดเพื่อดีดวงกลมให้วิ่งไปหมุนไปตามทางโค้ง เหมือนกับการกลิ้งของ Sonic ที่เราเห็นกันในเกม นอกจากชุดทางวิ่งของ Sonic 2 ขนาด ยังมีชุด Tails' Workshop ที่มีเครื่องบินสีแดง และชุด Amy's Animal Rescue Island รวมตัวละครสัตว์ด้วย สินค้าชุดนี้จะวางขายช่วงเดือนสิงหาคม 2023 ที่มา - Lego
# โซนี่ซื้อ Firewalk Studios บริษัทเกมของอดีตทีม Destiny ที่กำลังสร้างเกมมัลติเพลเยอร์ Sony Interactive Entertainment ประกาศซื้อกิจการ Firewalk Studios สตูดิโอเกมสัญชาติอเมริกัน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ PlayStation Studios (นับเป็นสตูดิโอลำดับที่ 20) Firewalk Studios เป็นสตูดิโอใหม่ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2018 และยังไม่เคยมีผลงานเกมออกมาเลย บริษัทกำลังพัฒนาเกมมัลติเพลเยอร์ระดับ AAA โดยมีสัญญาจัดจำหน่ายกับโซนี่เมื่อปี 2021 เกมยังไม่ทันเปิดตัวก็โดนโซนี่ซื้อกิจการมาก่อนแล้ว ทีมผู้ก่อตั้ง Firewalk คือ Tony Hsu และ Ryan Ellis ต่างเคยทำงานกับเกม Destiny มาก่อน โดย Hsu เคยอยู่กับ Activision ช่วงที่เป็นผู้จัดจำหน่ายเกม Destiny (ก่อนแยกทางกับ Bungie ในปี 2019) และ Ellis เคยทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ Bungie โดยตรงก่อนออกมาเปิด Firewalk ทิศทางของโซนี่เองก็ประกาศชัดว่าต้องการทำเกม live service ที่เป็นอนาคตของวงการเกม สัญญาณที่ชัดที่สุดคือการซื้อ Bungie ในปี 2022 และการซื้อสตูดิโอ Haven ของ Jade Raymond ที่ทำเกมมัลติเพลเยอร์เช่นกัน ที่มา - PlayStation Blog, Eurogamer
# Proton เปิดตัวบริการใหม่ Proton Pass สำหรับจัดการรหัสผ่าน Proton ผู้ให้บริการออนไลน์แบบเข้ารหัส ที่เป็นที่รู้จักจาก Proton Mail เปิดตัวบริการใหม่โปรแกรมจัดการรหัสผ่าน Proton Pass ซึ่ง Andy Yen ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Proton บอกว่า เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้งานร้องขอให้ทำมากที่สุดตั้งแต่มี Proton Mail Proton Pass มีจุดขายคือการเข้ารหัสทั้งหมดแบบ end-to-end ซึ่งบอกว่าสูงกว่ามาตรฐานโปรแกรมจัดการรหัสผ่านอื่นในตลาด ทั้งนี้บริการ Proton Pass ยังมีสถานะเบต้า โดยคาดว่าจะเปิดตัวให้ใช้งานได้ทุกคนภายในปีนี้ ในเบื้องต้นมีให้ใช้งานแบบแอปใน iOS และ Android ส่วนบนเดสก์ท็อปมีส่วนขยายใน Brave และ Chrome ขณะที่ Firefox อยู่ในขั้นตอนการอนุมัติ Andy บอกว่าการพัฒนา Proton Pass อยู่ในแผนงานมาระยะหนึ่งแล้ว แต่สามารถทำออกมาได้เร็วมากขึ้นหลังบริษัทซื้อกิจการ SimpleLogin ผู้ให้บริการสร้าง alias สำหรับอีเมลเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ได้ทีมนักพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ที่มา: Proton
# Atari ซื้อสิทธิในเกมพีซีและคอนโซล ยุค 80s 90s รวมกว่า 100 เกม Atari ประกาศซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของเกมทั้งในพีซีและคอนโซล ซึ่งเป็นเกมจากยุค 1980s และ 1990s รวมมากกว่า 100 เกม โดยมีเกมเด่นเช่น Bubsy, Hardball, ซีรี่ส์ในชุด Demolition Racer โดย Atari มีแผนต่อยอดการจัดจำหน่ายเกมคลาสสิกเหล่านี้ในช่องทางต่าง ๆ ตลอดจนผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ Atari ยังซื้อสิทธิในเครื่องหมายการค้าของ Accolade และ GTI ซึ่ง Accolade เป็นผู้จัดจำหน่ายเกมดังกล่าวในช่วงเวลานั้นด้วย Atari บอกว่าการซื้อเกมเพิ่มเข้ามาชุดใหญ่นี้ เป็นไปตามแผนงานระยะเวลาหลายปีเพื่อกลับสู่ธุรกิจวิดีโอเกม ผ่านการนำเสนอเกมคลาสสิก และเกมที่ถูกปรับปรุงคุณภาพ-เนื้อหา ที่มา: Atari
# SpaceX ปล่อยจรวด Starship สำเร็จแล้ว แต่พบปัญหาการแยกของยานจึงระเบิดกลางอากาศ SpaceX ได้ปล่อยจรวด Super Heavy และจรวด Starship ออกจากฐานยิงที่ Boca Chica รัฐ Texas เรียบร้อยแล้วเมื่อคืนนี้ หลังจากเลื่อนแผนมาครั้งหนึ่งจากคืนวันจันทร์ ที่พบปัญหาระบบวาล์ว Pressurant แข็งตัว อย่างไรก็ตามการทดสอบจรวดรูปแบบใหม่นี้ ยังไม่สามารถทำได้ครบตามแผนที่วางไว้ โดยหลังจากจรวดออกจากฐานยิงได้ 3 นาที Starship พบปัญหาการแยกตัวของยานที่ไม่เป็นไปตามแผน ทำให้ยานระเบิดกลางอากาศ จึงไม่สามารถเดินทางขึ้นไปทดสอบการบินตามแนววงโคจรเป็นเวลา 90 นาที ซึ่งเป็นการทดสอบภารกิจเริ่มต้น เพื่อลำเลียงสิ่งของและคนสู่อวกาศต่อไปได้ Elon Musk ซีอีโอ SpaceX ซึ่งร่วมรับชมการปล่อยจรวดนี้จากห้องควบคุมด้วย ทวีตบอกว่าโอกาสประสบความสำเร็จตามแผนงานนั้นมีเพียง 50% เมื่อจรวดสามารถออกจากฐานยิงได้สำเร็จเขาจึงมองว่าเป็นเรื่องน่ายินดีกับทีมงานทุกคน โดยมีหลายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ และ SpaceX จะยิงจรวดทดสอบใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่มา: Business Insider
# กูเกิลรวมทีม DeepMind เข้ากับ Google Brain ในชื่อ Google DeepMind กูเกิลประกาศรวมทีมวิจัยปัญญาประดิษฐ์สองทีมสำคัญ คือ Google Brain และ DeepMind เข้าเป็นทีมเดียวในชื่อ Google DeepMind โดยหวังว่าจะเร่งความเร็วในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในบริษัทให้เร็วยิ่งขึ้น Google Brain เป็นทีมภายใต้ Google Research ที่เป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนา Tensorflow และเทคโนโลยีเบื้องหลังปัญญาประดิษฐ์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทุกวันนี้ เช่น Transformer และ BERT โดยทีมนี้ก่อตั้งโดย Jeff Dean, Greg Corrado, และ Andrew Ng ส่วน DeepMind เป็นบริษัทอังกฤษที่กูเกิลไปซื้อมาเมื่อปี 2014 และมีผลงานสำคัญคือการสร้างปัญญาประดิษฐ์เล่น Go ที่เอาชนะ Lee Sedol ในปี 2016 การปรับโครงสร้างครั้งนี้ ทำให้ Jeff Dean ปรับตำแหน่งไปเป็น Google’s Chief Scientist ดูแลทั้ง Google Research และ Google DeepMind ขณะที่ Demis Hassabis ซีอีโอ DeepMind จะเป็นผู้ดูแล Google DeepMind และถูกกำกับโดย Scientific Board ที่เป็นกรรมการจากตัวแทนฝ่ายต่างๆ ในกูเกิล เพื่อดูแลความคืบหน้างานวิจัยและทิศทางงานวิจัย ที่มา - Google Blog, DeepMind
# Imgur ประกาศเปลี่ยนข้อตกลงใช้งาน - ห้ามอัปโหลดรูปโป๊ - จะลบรูปเก่าที่ไม่ผูกบัญชี Imgur บริการฝากไฟล์รูปภาพ ประกาศเปลี่ยนข้อตกลงในการให้บริการ โดยตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2023 เป็นต้นไป Imgur จะลบคอนเทนต์เก่า หรือไม่มีการใช้งาน หรือไม่มีความเคลื่อนไหว ที่ไม่ได้อัปโหลดแบบผูกกับบัญชีผู้ใช้งาน นอกจากนี้ Imgur จะลบคอนเทนต์ที่มีภาพเปลือยหรือมีเนื้อหาทางเพศทั้งหมด โดยไม่จำเป็นว่าภาพนั้นอัปโหลดแบบมีบัญชีผู้ใช้งานหรือไม่ ทั้งนี้ภาพเปลือยที่เป็นศิลปะจะยังอัปโหลดได้ แต่ระบบอัตโนมัติอาจตรวจจับก่อน ซึ่งต้องใช้คนตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง ที่มา: Engadget
# Meta เปิดซอร์ส DINOv2 วิธีเทรนโมเดลภาพ Vision แบบ Self-Supervised ที่แม่นยำสูง Meta เปิดซอร์สโค้ด DINOv2 วิธีการเทรนโมเดลปัญญาประดิษฐ์ด้านภาพ (computer vision models) แบบ self-supervision ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำงานได้โดยไม่ต้องปรับจูน (fine-tuning) สำหรับงานเฉพาะทาง มีความยืดหยุ่นสูงนำไปใช้ต่อกับงานได้หลากหลายรูปแบบ DINOv2 ออกแบบมาแก้ข้อจำกัดของโมเดลด้านภาพ ที่ใช้เทคนิค image-text pretraining การเทรนข้อมูลภาพแบบมีป้ายกำกับ (captions/labels) ซึ่งมีจุดอ่อนคือข้อความในป้ายกำกับอาจไม่ครอบคลุมรายละเอียดทั้งหมดในภาพ, ภาพบางประเภทไม่สามารถทำป้ายกำกับได้ (เช่น ภาพถ่ายเซลล์สิ่งมีชีวิต) และหากภาพมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์ก็ไม่สามารถสร้างป้ายกำกับได้ครบถ้วนอยู่ดี เรียกได้ว่าคอขวดของการพัฒนากลับไปอยู่ที่มนุษย์ซะเอง Meta ยังอธิบายว่าวงการปัญญาประดิษฐ์ด้านภาพก็เริ่มถึงข้อจำกัดแล้ว หากเอาเบนช์มาร์คจากความแม่นยำของโมเดลในการทายภาพจากฐานข้อมูล ImageNet ในช่วงปี 2019-2021 สามารถเพิ่มความแม่นยำได้ 10% แต่หลังปี 2021 เป็นต้นมา ความแม่นยำเพิ่มเพียง 1% เท่านั้น โลก AI จึงต้องมองหาแนวทางใหม่ๆ แทน ทางออกของ DINOv2 คือเทรนแต่ภาพล้วนๆ ไม่ต้องมีป้ายกำกับ (self-supervised) เพื่อทำลายข้อจำกัดของการเทรนแบบเดิม แก้ปัญหาเรื่องการสเกล แล้วเพิ่มด้วยเทคนิคอีกหลายอย่าง ช่วยให้ประสิทธิภาพของโมเดลดีขึ้น ฐานข้อมูลภาพขนาดใหญ่ 142 ล้านภาพ ใช้ที่มาจากหลายแหล่ง และมีเทคนิคการเลือกภาพตั้งต้น (seed images) แล้วคัดเลือกภาพคล้ายๆ กัน เพื่อให้ได้ภาพที่หลากหลาย ครอบคลุมภาพหลายรูปแบบจริงๆ ใช้เทคนิค regularization เพื่อให้อัลกอริทึมเสถียร และเทคนิค mixed-precision กับ distributed training ของ PyTorch 2 ที่เพิ่งออกใหม่ เพื่อให้เทรนโมเดลขนาดใหญ่ได้เร็วและมีประสิทธิภาพดีขึ้น ผลคือโค้ดรันเร็วขึ้น 2 เท่า ใช้หน่วยความจำเพียง 1/3 บนฮาร์ดแวร์เดิม ใช้เทคนิค model distillation บีบอัดโมเดลให้มีขนาดเล็กลงมาก แต่ความแม่นยำลดลงไม่มาก อยู่ในระดับที่พอรับได้ ผลที่ได้คือ DINOv2 สามารถทำคะแนน ImageNet ได้ดีเกือบเท่าโมเดลอื่นๆ ที่ปรับจูนมาแล้ว แต่ DINOv2 ไม่ต้องปรับจูนเพิ่มเติมเลย ตัวอย่างการใช้งาน DINOv2 คือนำไปวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อดูว่าต้นไม้แต่ละต้นมีความสูงของพุ่มยอดไม้ (canopy height) เท่าไรบ้าง ซึ่งช่วยให้การประเมินผลกระทบของการชดเชยการปล่อยคาร์บอนทำได้แม่นยำขึ้นมาก Meta ยังมีตัวอย่างสาธิตการใช้งาน DINOv2 อีกหลายอย่าง เช่น วัดระยะลึกของวัตถุในภาพ (depth estimaton), การแยกแยะส่วนต่างๆ ในภาพออกจากกัน (semantic segmentation) ผู้สนใจสามารถลองเล่นได้จาก หน้ารวมเดโม Meta บอกว่าทีมงานเตรียมนำ DINOv2 ไปใช้งานร่วมกับระบบ AI อื่นๆ เช่น โมเดลด้านภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อสร้างระบบ AI ที่ซับซ้อนมากขึ้น และเข้าใจความหมายของภาพได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งข้อความกำกับ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของโมเดลภาษาตระกูล LLM ในปัจจุบัน ตัวซอร์สโค้ดเผยแพร่บน GitHub ที่มา - Meta AI Blog
# Apple เพิ่มหน้าอัปเดตการชำระเงินในแอป หากเกิดปัญหาการจ่าย subscription ผ่าน App Store Apple อัปเดตการเปลี่ยนแปลงเรื่องการแจ้งเตือนการชำระเงินสำหรับคนที่สมัครสมาชิกบนแอปฯ iPhone และ iPad สามารถแก้ไขปัญหาโดยการเรียกเก็บเงินโดยตรงจากในแอปฯ หากเกิดข้อผิดพลาดในการต่ออายุการใช้งาน ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องจัดการปัญหาการชำระเงินผ่านการตั้งค่าของ Apple ID ใน Setting Apple ได้ประกาศไว้หน้าเว็บไซต์ ว่าหากการสมัครต่ออายุไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเกิดปัญหาการเรียกเก็บเงิน ผู้ใช้ก็จะเห็นข้อความแจ้งเตือนโดยตรงในแอปพลิเคชัน พร้อมหน้าให้อัปเดตการชำระเงินของ Apple ID ในแอปทันที ข้อความที่ขึ้นมามีเพื่อให้ระบบแจ้งเตือนให้ผู้ใช้อัปเดตวิธีการชำระเงินสำหรับ Apple ID ของตนเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ใช้งานและผู้พัฒนาแอปฯ แต่จะรองรับเฉพาะ iOS16.4 และ iPadOS 16.4 ขึ้นไปเท่านั้น คาดว่าจะอัปเดตช่วงกลางปีนี้ ที่มา: 9to5mac
# Twitter แก้ไขนโยบายการใช้งาน ยกเลิกการห้ามใช้คำโจมตี LGBTQ Twitter ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อเรื่องการเปิดเสรีทางเพศให้ผู้ใช้งานมาตลอด ก่อนหน้านี้ในนโยบายของ Twitter ระบุไว้ชัดเจนว่า “ห้ามโจมตีผู้อื่นด้วยคำหยาบคาย เหยียดหยามหรือเนื้อหาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์, ลดตัวหรือสร้างภาพลักษณ์ผู้อื่นในเชิงลบหรือเป็นอันตราย รวมไปถึงการเปลี่ยนเพศเป้าหมายหรือการใช้ชื่อเก่าของบุคคลข้ามเพศ (การใช้ชื่อเก่า หมายถึง เรียกคนข้ามเพศด้วยชื่อเดิม)” แต่ในวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เนื้อหาของนโยบายดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยถูกตัดข้อความบรรทัดสุดท้าย ในส่วนที่เป็นความคุ้มครองบุคคลข้ามเพศโดยเฉพาะออกไป Sarah Kate Ellis ประธานเจ้าหน้าที่ CEO of the Gay & Lesbian Alliance Against Defamation (GLAAD) ได้บอกว่าการปรับปรุงนโยบายนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลข้อมูลที่ผิดและสร้างความเกลียดชังกับบุคคลข้ามเพศจากสื่อ นักการเมือง และกลุ่มหัวรุนแรง” ยังกล่าวอีกว่าการตัดสินใจทำเช่นนี้ของ Twitter เป็นการลดความไว้วางใจให้ผู้ใช้และคนที่จะลงโฆษณา โดยก่อนหน้านี้ยอดการลงโฆษณาบน Twitter น้อยลง ถึงแม้ว่า Elon Musk บอกว่าแผนคือ การให้ความสำคัญกับ ตรงกลางที่เหมาะสม โดยที่ Twitter ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ให้คุณค่าสำหรับแบรนด์ โดยจำกัดการเข้าถึงคำพูดที่แสดงความเกลียดชังแทนที่จะลบออก ซึ่ง Elon Musk ยังกล่าวอีกว่า “หากมีคนพูดแสดงความเกลียดชัง ไม่ได้หมายความว่าคุณควรส่งโทรโข่งให้ประกาศ” แต่เราจะไม่แนะนำเนื้อหาที่แสดงความเกลียดชังให้กับผู้อื่น การเปลี่ยนแปลงของนโยบายคุ้มครอง LGBTQ เป็นแค่ส่วนหนึ่งหลังจาก Elon Musk เข้ามาเป็น CEO ของ Twitter เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสเรื่อง Twitter ที่ต่างประเทศมีการปิดกันแสดงพรีวิวลิงก์เว็บที่มีคำว่า “trans, transgender, gay, lesbian, queer, bisexual, และ intersex” ที่มา: arstechnica
# [ลือ] ไมโครซอฟท์จะออก Surface Go 4 ซีพียู Arm, Surface Pro 10 มีรุ่นหน้าจอ 11" เว็บไซต์ Windows Central รายงานข่าวว่าไมโครซอฟท์จะออก Surface Go 4 รุ่นราคาถูกที่ใช้ซีพียู Arm ภายในปีนี้ ไมโครซอฟท์มีอุปกรณ์ Surface ที่ใช้ซีพียู Arm มาก่อนหน้านี้แล้วคือ Surface Pro X และ Surface Pro 9 ที่มีทั้ง x86/Arm ให้เลือก โดยทั้งสองรุ่นใช้ซีพียู Qualcomm รุ่นปรับแต่งพิเศษ กรณีของ Surface Go 4 มีข่าวว่าจะใช้ Snapdragon 7c รุ่นปรับแต่งเช่นกัน (น่าจะเป็น 7c+ Gen 3 ที่ออกในปี 2021) ตามข่าวบอกว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะคล้ายกับ Surface Go 3 ขนาดบอดี้เท่าๆ เดิม อาจมีปรับแต่งรายละเอียดเล็กๆ น้อย สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ Surface Go 4 จะรองรับ 5G ในตัวเป็นครั้งแรกของซีรีส์ Surface Go ด้วย คาดว่าเราจะได้เห็น Surface Go 4 มีทั้งซีพียู Intel และ Arm ลักษณะเดียวกับ Surface Pro 9 นอกจากนี้ยังมีข่าวลือของ Surface Pro 10 ที่จะมีสองขนาดหน้าจอคือ 13 นิ้วแบบเดิม และของใหม่ 11 นิ้วที่ขนาดเล็กลงจนใกล้เคียงกับ Surface Go แต่ใช้ชิปที่แรงกว่า มีฟีเจอร์ดีกว่าอย่างหน้าจอ 120Hz ที่มา - Windows Central ภาพ Surface Go 3
# Epic Games ซื้อสตูดิโอเกมบราซิล Aquiris เปลี่ยนชื่อเป็น Epic Games Brasil Epic Games ซื้อกิจการ Aquiris สตูดิโอเกมจากบราซิล ที่เคยมีผลงานเกมแข่งรถซีรีส์ Horizon Chase, Wonderbox: The Adventure Maker, Looney Tunes World of Mayhem ซึ่งทั้งหมดเป็นเกมบนมือถือ หลังการซื้อกิจการครั้งนี้ Aquiris จะเปลี่ยนชื่อเป็น Epic Games Brasil ซึ่งถือเป็นสตูดิโอเกมแห่งแรกของ Epic ในละตินอเมริกา และจะเข้ามารับงานช่วยผลิตเนื้อหาให้เกม Fortnite ต่อไป Aquiris ก่อตั้งเมื่อปี 2007 และถือเป็นหนึ่งในสตูดิโอแถวหน้าของบราซิล โดย Mauricio Longoni ซีอีโอของบริษัทจะกลายมาเป็นหัวหน้าสตูดิโอ Epic Games Brasil ด้วยเลย ก่อนหน้านี้ในปี 2021 Epic Games เคยซื้อสตูดิโอ Harmonix ผู้สร้างเกม Rock Band และดึงบางส่วนของทีมมาช่วยทำเกม Fortnite แบบเดียวกับดีลของ Aquiris ที่มา - Epic Games, Eurogamer
# Google Fi บริการเครือข่ายมือถือ MVNO ประกาศรีแบรนด์เป็น Google Fi Wireless Google Fi บริการเครือข่ายไร้สายแบบเสมือน (MVNO) ของกูเกิล ประกาศรีแบรนด์ใหม่อีกครั้งในชื่อ Google Fi Wireless ทั้งนี้กูเกิลเริ่มให้บริการเครือข่าย MVNO ในสหรัฐมาตั้งแต่ปี 2015 ในชื่อ Project Fi และเปลี่ยนเป็น Google Fi ในปี 2018 ในประกาศชื่อบริการใหม่นี้ Google Fi Wireless ยังเพิ่มบริการใหม่หลายอย่าง ได้แก่ เพิ่มการเชื่อมต่อของสมาร์ทวอทช์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รองรับ Pixel Watch และสมาร์ทวอทช์ของซัมซุง นอกจากนี้ Google Fi Wireless ยังเพิ่มทางเลือกให้ทดลองใช้งานฟรีเป็นเวลา 7 วัน โดยเปิดการใช้งานผ่าน eSIM และสามารถยกเลิกได้ตลอด และสุดท้ายบริการยังเพิ่มแอปสำหรับให้ครอบครัวตรวจสอบและควบคุมการใช้งานของสมาชิกได้ ตอนนี้รองรับเฉพาะ Android ที่มา: กูเกิล
# แพลตฟอร์มโฆษณาไมโครซอฟท์หยุดรองรับ Twitter, Elon Musk ขู่ฟ้องละเมิดการใช้ข้อมูล Microsoft Advertising แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ของไมโครซอฟท์ ประกาศหยุดรองรับบริการจัดการโพสต์บน Twitter โดยจะมีผลในวันที่ 25 เมษายน 2023 โดยยังสามารถใช้เชื่อมต่อโซเชียลตัวอื่นๆ อย่าง Facebook, Instagram, LinkedIn ได้ตามปกติ ไมโครซอฟท์ไม่ได้อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่คาดว่าสาเหตุมาจากแพ็กเกจราคา Twitter API แบบใหม่ ที่แพงขึ้นจากเดิมมาก ราคาแบบ enterprise เริ่มต้นที่ 42,000 ดอลลาร์ต่อเดือน และส่งผลให้บริการโซเชียลลักษณะเดียวกันหลายๆ ตัวเลือกหยุดรองรับ Twitter เช่นกัน หลังข่าวนี้เผยแพร่ในสื่อ Elon Musk ได้มาตอบความเห็นว่า "they" (หมายถึงไมโครซอฟท์และน่าจะรวมถึง OpenAI) นำข้อมูล Twitter ไปเทรน AI แบบผิดกฎหมาย และได้เวลาที่เขาจะฟ้องแล้ว ที่มา - Microsoft, Mashable
# Stability AI เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ LLM ให้ใช้ฟรี เตรียมเปิดชุดข้อมูลด้วย Stability AI ผู้สร้างโมเดล Stable Diffusion ปัญญาประดิษฐ์สร้างภาพ ประกาศเปิดตัว StableLM โมเดลปัญญาประดิษฐ์ด้านภาษา โดยมีขุดแข็งคือบริษัทเปิดให้ใช้งานทั้งสำหรับงานวิจัยและใช้งานเชิงการค้า โมเดล StableLM มีขนาดเริ่มต้น 3 พันล้านและ 7 พันล้านพารามิเตอร์ และเตรียมจะปล่อยโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นที่ 15 พันล้าน และ 65 พันล้านพารามิเตอร์ต่อไป ชุดข้อมูลที่ใช้ฝึกปัญญาประดิษฐ์พัฒนาจาก The Pile ที่มีขนาด 825GiB แต่ทาง Stability AI ขยายชุดข้อมูลจนมีขนาด 1.5 ล้านล้านโทเค็น และทางบริษัทเตรียมจะเปิดชุดข้อมูลให้ภายนอกใช้งานด้วย ตัว StableLM เป็นเพียงโมเดลฐานใช้สร้างข้อความ แบบเดียวกับ GPT-3 การที่ปัญญาประดิษฐ์จะถามตอบได้มีคุณภาพต้องอาศัยการฝึกถามตอบเพิ่มเติมจนเป็น ChatGPT รอบนี้ทาง Stability AI ปล่อยโมเดลที่ฝึกถามตอบคำถามมาแล้วด้วย แต่ระบุไลเซนส์แบบห้ามใช้งานเชิงการค้า ต่างจากโมเดลฐาน ความนิยมของ ChatGPT ทำให้มีโครงการจำนวนมากพยายามพัฒนาให้ความสามารถใกล้เคียงกัน โครงการจำนวนมากแม้จะเปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานแต่จำกัดการใช้งานให้ใช้เพื่องานวิจัยเท่านั้น แต่ก็มีหลายโครงการ เช่น Dolly ที่เปิดให้ใช้งานเชิงการค้าได้เต็มรูปแบบ ที่มา - Stability AI ตัวอย่างข้อความจาก StableLM ที่ฝึกแบบ fine-tune เพื่อการถามตอบคำถามแล้ว
# Paramount ทำซีรีส์ Knuckles แยกจากภาพยนตร์ Sonic, ฉายทาง Paramount+ สตูดิโอ Paramount Pictures ประกาศทำซีรีส์ Knuckles ภาคแยกจากภาพยนตร์ Sonic the Hedgehog ฉบับคนร่วมแสดงที่ออกฉายในปี 2020 และภาคสองปี 2022 โดยจะฉายทางสตรีมมิ่ง Paramount+ Knuckles เป็นคาแรกเตอร์ตัวกินมด (Echidna) สีแดง ที่ปรากฏตัวครั้งแรกใน Sonic the Hedgehog 3 ในฐานะคู่แข่งของ Sonic ส่วนในฉบับภาพยนตร์เริ่มโผล่มาในภาคสอง พากย์เสียงโดยดาราดัง Idris Elba ซึ่งจะมาพากย์เสียงในฉบับซีรีส์ด้วย ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอื่นของซีรีส์ Knuckles ไม่ว่าจะเป็นจำนวนตอนหรือวันเริ่มฉาย มีแค่ภาพโปรโมทเพียงภาพเดียวว่าเริ่มถ่ายทำแล้ว แต่เราจะได้เห็นภาพยนตร์ภาคต่อคือ Sonic the Hedgehog 3 เข้าฉายช่วงปลายปี 2024 ที่มา - Variety
# Oracle เปิดให้คนทั่วไปโหลด Java 8 Enterprise Performance Pack มาใช้ส่วนตัวได้ฟรี เมื่อปีที่แล้ว Oracle ออก Java Enterprise Performance Pack ที่เป็นการพอร์ตฟีเจอร์ของ Java 17 (LTS ตัวล่าสุด) กลับไปให้ Java 8 เวอร์ชันยอดนิยมตลอดกาล (ออกปี 2014 ปีหน้าครบสิบปีแล้ว) เพื่อให้ Java 8 มีประสิทธิภาพดีขึ้น ตอนแรก Java Enterprise Performance Pack เปิดให้ใช้งานเฉพาะลูกค้าที่จ่ายค่า subscription เท่านั้น แต่ล่าสุด Oracle เปิดให้คนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดมาใช้กันได้แล้ว การใช้งาน Java Enterprise Performance Pack ยังจำกัดเฉพาะการใช้ส่วนตัว หรือใช้เฉพาะช่วงพัฒนาแอพพลิเคชันเท่านั้น การใช้งานในโปรดักชันหรือใช้เชิงพาณิชย์ยังจำเป็นต้องมีไลเซนส์ Java SE Universal Subscription หรือรันบน Oracle Cloud ที่มา - Oracle via InfoWorld
# Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาส รายได้โต 24% - Cybertruck จะเริ่มส่งมอบได้ไตรมาส 3 ปีนี้ Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2023 หลังจากรายงานตัวเลขการผลิตไปเมื่อต้นเดือน มีรายได้รวมทั้งหมด 23,329 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 2,513 ล้านดอลลาร์ ลดลง 24% และมีกระแสเงินสดอิสระ 441 ล้านดอลลาร์ Tesla ให้ข้อมูลประกอบว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากจำนวนรถยนต์ส่งมอบที่มากขึ้น ส่วนผลกระทบด้านกำไรมาจากค่าใช้จ่ายโรงงานที่สร้างใหม่ และยังใช้งานได้ไม่เต็มกำลังการผลิต ตลอดจนปัจจัยอื่น เช่น ต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้น ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ซีอีโอ Elon Musk ให้ข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการ บอกว่าความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของผู้คน เขาคาดว่าปัญหานี้จะยังอยู่ไปอีกประมาณ 12 เดือน ในมุมมองบริษัทยังคงใช้แนวทางเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น แทนที่จะลดจำนวนลงแล้วไปเพิ่มกำไรต่อหน่วย เขายังอัพเดตข้อมูลของรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ว่าตอนนี้สายการผลิตทดสอบได้เริ่มผลิตรถยนต์เวอร์ชัน Alpha ออกมาแล้ว โดยจะใช้โรงงานที่เมืองออสตินเป็นฐานการผลิตหลัก คาดว่าจะจัดงานเปิดตัวส่งมอบรถกระบะชุดแรกได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ที่มา: Tesla (pdf) และ CNBC
# IBM ไตรมาส 1/2023 รายได้รวมโตเล็กน้อย กำไรเพิ่มขึ้นมาก ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2023 มีรายได้รวม 14,252 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 927 ล้านดอลลาร์ รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจหลักเป็นดังนี้ กลุ่ม Software เพิ่มขึ้น 3% เป็น 5,921 ล้านดอลลาร์ กลุ่ม Consulting เพิ่มขึ้น 3% เป็น 4,962 ล้านดอลลาร์ และกลุ่ม Infrastructure ลดลง 4% เป็น 3,098 ล้านดอลลาร์ Arvind Krishna ซีอีโอไอบีเอ็ม ให้ข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการ พูดถึงกระแสของ AI ที่มาแรงตอนนี้ว่าเทคนิคพื้นฐานต่าง ๆ ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างโมเดล AI ได้หลายร้อยรูปแบบ จากชุดข้อมูลเดียว ไอบีเอ็มพบว่าลูกค้าที่เริ่มทดสอบใช้งานแล้ว 70% บอกว่าเพิ่มมูลค่าให้องค์กรได้รวดเร็วมากขึ้น จึงเห็นความสนใจจากลูกค้าที่ต้องการใช้ AI มาเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย ที่มา: ไอบีเอ็ม และ CNBC
# Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ ปิดกล้องผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่น เพื่อให้มีสมาธิไม่กวนสายตา กูเกิลเพิ่มความสามารถใหม่ใน Google Meet โดยบอกว่าผู้ใช้งานสามารถเลือกปิดวิดีโอที่แสดงของผู้เข้าร่วมคนอื่นได้ในระหว่างการประชุม ซึ่งมีประโยชน์หากเราต้องการโฟกัสเฉพาะสิ่งที่ผู้นำเสนอกำลังพูด โดยไม่มีภาพเคลื่อนไหวผู้เข้าร่วมคนอื่นกวนสายตาดึงความสนใจระหว่างประชุม กูเกิลบอกว่าเมื่อเรากำหนดค่าดังกล่าว ผู้เข้าร่วมคนอื่น (ที่ถูกจับปิดกล้องแสดงผล) จะไม่ถูกแจ้งเตือน หรือเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในฝั่งนั้น โดยฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้งานได้ทั้ง Google Meet บนเว็บและในอุปกรณ์มือถือ นอกจากนี้ Google Meet เวอร์ชันแอปมือถือยังเพิ่มคำสั่ง Audio Only เพื่อปิดการแสดงหน้าจอวิดีโอทั้งหมด ยกเว้นจอที่ผู้นำเสนอกำลังแชร์หน้าจอเนื้อหาอยู่ ฟีเจอร์ใหม่นี้เริ่มทยอยปล่อยให้ผู้ใช้งาน Google Workspace ตลอดจน G Suite Basic และ Business แบบเดิม ที่มา: กูเกิล
# UOB ปิดระบบโมบายล์แบงค์กิ้ง ศุกร์ 21 เวลา 5 ทุ่ม ถึงเสาร์ 22 เวลา 9 โมงเช้าเ เพื่อปรับปรุงระบบ ธนาคาร UOB ประกาศปิดระบบธุรกรรมออนไลน์ของธนาคารเพื่อปรับปรุงระบบ แบ่งเป็น 2 ระบบ 2 ช่วงดังนี้ Internet Banking และ Mobile Banking ตั้งแต่ศุกร์ที่ 21 เมษายน เวลา 5 ทุ่ม จนถึง 22 เมษายนเวลา 9 โมงเช้า Business Internet Banking ตั้งแต่เสาร์ที่ 22 เมษายน เวลา 3 ทุ่ม จนถึง อาทิตย์ที่ 23 เมษายน เวลา 7 โมงเช้า ที่มา - UOB
# Facebook, Instagram เริ่มใช้ codec เสียงแบบใหม่ xHE-AAC ควบคุมระดับความดังได้ Meta เล่าเบื้องหลังการใช้ codec เสียง xHE-AAC ให้กับวิดีโอในบริการของตัวเอง ทั้ง Facebook และ Instagram (Reels, Stories) xHE-AAC เป็น codec เสียงรุ่นล่าสุดของจักรวาล AAC ของกลุ่มมาตรฐาน MPEG และพัฒนาโดยสถาบัน Fraunhofer IIS ออกเป็นมาตรฐานตั้งแต่ปี 2012 (คู่แข่งคือ Opus Audio ที่เป็นมาตรฐานแบบไม่คิดค่าไลเซนส์) xHE-AAC เป็นการต่อยอดจากสเปก AAC และ HE-AAC ของเดิม โดยเพิ่มฟีเจอร์สำคัญสองอย่างสำหรับยุคสตรีมมิ่งคือ adaptive bitrate (ABR) ปรับได้ตามคุณภาพของเครือข่าย (ตั้งแต่ 12 kbps จนถึง 500 kbps) และฟีเจอร์ควบคุมระดับความดังของเสียง (loudness control) โดยฝัง metadata บอกระดับความดังไว้ในไฟล์ เพื่อให้ฝั่งไคลเอนต์ที่ใช้เล่นเสียงสามารถควบคุมระดับความดังให้สม่ำเสมอในอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน (เช่น หูฟัง กับ ลำโพง) ได้ ก่อนหน้านี้มีบริษัทใหญ่อย่าง Netflix ที่รองรับ xHE-AAC ในบริการสตรีมมิ่งของตัวเองแล้ว ฝั่งไคลเอนต์ที่รองรับมีตั้งแต่ Android 9 Pie, iOS 13 และ Windows 11 Meta เล่าเบื้องหลังการใช้งาน xHE-AAC ว่าใช้ตัว encoder ของ Fraunhofer เข้ารหัสไฟล์เสียงแบบ 2-pass โดยรอบแรกเป็นการวัดระดับความดัง และรอบที่สองเป็นการบีบอัดตัวไฟล์เสียงจริงๆ เมื่อได้ไฟล์ที่เข้ารหัสแล้วก็ส่งไปยังไคลเอนต์ โดยปรับบิตเรตตามแบนด์วิดท์ในขณะนั้น ตอนนี้ xHE-AAC เปิดให้ใช้งานแล้วในแอพ Facebook/Instagram บนสมาร์ทโฟน Android/iOS ที่มา - Meta Engineering Blog
# มาผิดจังหวะ อินเทลเลิกทำธุรกิจชิป ASIC สำหรับขุดเหมืองคริปโต หลังออกขายแค่รุ่นเดียว ปีที่แล้ว อินเทลตั้งทีมทำชิป ASIC สำหรับขุดเหมืองคริปโต ใช้ชื่อว่า Blockscale โดยชูจุดเด่นเรื่องการปรับแต่ง ASIC มาเพื่อการแฮชตามอัลกอริทึม SHA-256 สำหรับงาน proof-of-work อย่างไรก็ตาม ชิป Blockscale ออกขายเพียงซีรีส์เดียวคือ Blockscale 1000 (มีสินค้าย่อยทั้งหมด 4 ตัว) และล่าสุดอินเทลยืนยันว่าไม่ทำธุรกิจนี้ต่อแล้ว โดยให้เหตุผลว่าต้องการโฟกัสกับยุทธศาสตร์ IDM 2.0 ที่รับจ้างผลิตชิปให้ลูกค้าภายนอกแทน เว็บไซต์ Tom's Hardware ประเมินว่าจังหวะเวลาของ Blockscale มาในช่วงตลาดคริปโตขาลงช่วยปลายปี 2022 พอดี บวกกับอินเทลช่วงหลังก็ประสบปัญหารายได้ลดลง ต้องปรับลดโครงสร้างธุรกิจหลายอย่าง เช่น Optane, NAND/SSD, อุปกรณ์เครือข่าย Tofino รวมถึง ลดค่าตอบแทนผู้บริหารและซีอีโอ ที่มา - Tom's Hardware, Ars Technica
# ผู้คิดค้น Hashtag ประกาศเลิกใช้ Twitter แล้ว ข่าวบุคคลมีชื่อเสียงและหลายองค์กรใหญ่ ประกาศเลิกใช้งาน Twitter หลังการเปลี่ยนระบบเครื่องหมาย Verified มาเป็น Twitter Blue ที่ต้องจ่ายเงิน 8 ดอลลาร์ต่อเดือน อาจมีมาเรื่อย ๆ แต่กรณีนี้อาจสะท้อนอีกมุมของผู้ใช้งานรุ่นบุกเบิกได้เพิ่มเติม เมื่อ Chris Messina ผู้คิดค้นและเริ่มใช้งานแฮชแท็กบน Twitter คนแรก เลิกใช้งาน Twitter ด้วยอีกคนแล้ว โดยเขาเปลี่ยนบัญชีเป็นแบบส่วนตัว อัพเดต Bio ว่า Goodbye. 👋🏻 พร้อมใช้รูปปกเป็นทวีตของ Elon Musk ที่บอกว่าตัวเขาเกลียดแฮชแท็ก Messina เป็นผู้คิดค้นแฮชแท็กคนแรก โดยนำเสนอไอเดียนี้กับ Twitter เมื่อปี 2007 ได้แรงบันดาลใจจากวิธีการแยกหมวดใน IRC จึงอยากนำมาใช้แยกหมวดหัวเรื่องสนทนาบน Twitter ด้วย โดยลองทวีตแบบใส่แฮชแท็กครั้งแรกในงาน Barcamp จากนั้น Twitter ก็เริ่มรองรับการค้นหาด้วยแฮชแท็กตั้งแต่ปี 2009 และแฮชแท็กก็เป็นเครื่องมือจัดหมวดหมู่หัวข้อ ที่นิยมของแพลตฟอร์มโซเชียลทุกแห่งนับตั้งแต่นั้นมา ที่มา: International Business Times
# Google Bard เปิดให้สมัครในไทยแล้ว Google เปิดให้ผู้ใช้ในไทยสมัครใช้งาน Bard ปัญญาประดิษฐ์แบบแชตบอท หลังจากเปิดให้สมัครเฉพาะในสหรัฐฯ และอังกฤษเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้จะเปิดให้ใช้งานแต่ผู้ใช้ก็ต้องลงชื่อขอรอคิวเข้าใช้งาน ผู้ใช้บางส่วนอาจจะได้ใช้งานในเวลาไม่นานนัก ผมทดลองใช้งานพบว่า Bard นั้นตอบค่อนข้างเร็วมาก เมื่อเทียบกับ ChatGPT การตอบมักตอบมาทั้งชุดทันทีไม่ต้องรอค่อยๆ พิมพ์ อย่างไรก็ดี ​Bard ไม่ยอมตอบภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษ ทำให้การใช้งานอาจจะจำกัดพอสมควร ที่มา - bard.google.com
# Xiaomi 13 Ultra เปิดตัว, กล้องหลัง 50MP 4 ตัว, เลนส์ Leica Summicron 8 ชิ้น Xiaomi เปิดตัว Xiaomi 13 Ultra มือถือเรือธงประจำปี 2023 โดยยังคงเป็นความร่วมมือด้านกล้องกับ Leica เช่นเดิม สเปกของ Xiaomi 13 Ultra คือ หน้าจอ 6.73" AMOLED WQHD+ อัตรารีเฟรช 1-120Hz ความสว่างสูงสุด 2600 nits กระจก Gorilla Glass Victus หน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 พร้อมระบบระบายความร้อน Loop LiquidCool แรม 12/16GB LPDDR5X, สตอเรจ UFS 4.0 ขนาด 256GB/512GB/1TB แบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 90W ชาร์จเร็วไร้สาย 50W มีชิปสำหรับชาร์จ Xiaomi Surge P2, ชิปจัดการแบตเตอรี่ Surge G1 MIUI 14 บน Android 13 ตัวกล้องที่เป็นจุดขายหลัก มีทั้งหมด 4 ตัว ทุกตัวความละเอียด 50MP รองรับการถ่าย 4 ระยะคือ 12mm หรือ 0.5x (ultra-wide angle), 23mm (wide angle), 75mm (telephoto), 120mm (super-telephoto) และซูมเพิ่มได้สูงสุด 240nm (10x) กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX989 ขนาด 1" 23mm f/1.9, f/4.0, HyperOIS กล้องอัลตร้าไวด์ เซ็นเซอร์ Sony IMX858 12mm f/1.8, 122° FOV มาโคร 5cm กล้องเทเล เซ็นเซอร์ Sony IMX858 75mm f/1.8, OIS กล้องซูเปอร์เทเล เซ็นเซอร์ Sony IMX858 75mm f/3.0, OIS อีกฟีเจอร์ที่ร่วมพัฒนากับ Leica คือกระจกเลนส์ Summicron ที่โด่งดังของ Leica แบบ 8 ชิ้น ให้อิสระและความยืดหยุ่นของทางวิ่งแสง ในขณะเดียวกันก็ลดขนาดของเลนส์ลง ฟีเจอร์อื่นคือการถ่าย Ultra RAW แบบ 14-bit, ถ่ายวิดีโอ 10-bit LOG, ฟิลเตอร์ถ่ายภาพสไตล์ Leica 2 แบบ Authentic Look & Vibrant Look Xiaomi 13 Ultra จะเริ่มวางขายในจีน 21 เมษายน 2023 ราคาเริ่มต้น 5,999 หยวน หรือประมาณ 30,000 บาท (12GB/256GB), 6,499 หยวน (16GB/512GB), 7,299 หยวน (16GB/1TB) ส่วนการวางขายนอกประเทศจีนต้องรอกันอีกหน่อยเหมือนเดิม ที่มา - Xiaomi
# Fedora 38 ออกแล้ว ใช้ GNOME 44, ฟอนต์ไทยเปลี่ยนมาใช้ Noto Fedora ออกเวอร์ชัน 38 โดยเวอร์ชัน Workstation อัพเกรดมาใช้ GNOME 44 ตามรอบปกติทุก 6 เดือน, รองรับการติดตั้งซอฟต์แวร์จาก repository ภายนอกคือ Flathub, ปรับลดเวลา timeout ของเซอร์วิสตอนสั่งปิดเครื่อง ทำให้ปิดเครื่องเร็วขึ้น เวอร์ชันแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ใช้งานคือ kernel 6.2, gcc 13, Golang 1.20, LLVM 16, Ruby 3.2, TeXLive2022, PHP 8.2, dnf5 ของใหม่อีกอย่างสำหรับผู้ใช้ชาวไทยคือ Fedora 38 เปลี่ยนมาใช้ฟอนต์ Noto เป็นดีฟอลต์สำหรับภาษาไทยและภาษาเขมรแล้ว ที่มา - Fedora, Fedora Workstation
# Hunger เป็นภาพยนตร์คนดูทั่วโลกอันดับ 1 บน Netflix สัปดาห์ 10-16 เมษายน 2023 Netflix ประกาศอันดับคอนเทนต์ยอดนิยมประจำสัปดาห์ทั่วโลกระหว่างวันที่ 10 เมษายน ถึง 16 เมษายน 2023 โดยมีประเด็นน่าสนใจคือ "Hunger คนหิว เกมกระหาย" ภาพยนตร์ออริจินัลของ Netflix จากประเทศไทย มีจำนวนชั่วโมงการรับชมรวม 43.58 ล้านชั่วโมง สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภาพยนตร์ทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม ทั้งนี้การจัดอันดับ Top 10 ของ Netflix จะวัดจำนวนชั่วโมงรวมในการรับชม แบ่งออกเป็นทั่วโลก และระดับประเทศ แยกคอนเทนต์เป็นภาพยนตร์กับรายการโทรทัศน์ ภาษาอังกฤษและที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ซึ่ง Hunger เป็นอันดับ 1 ในสัปดาห์ที่ผ่านมาของกลุ่มภาพยนตร์ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ขณะที่อันดับ 1 ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษคือ The Last Kingdom: Seven Kings Must Die มีจำนวนชั่วโมงรับชม 35.5 ล้านชั่วโมง Hunger เริ่มฉายบน Netflix ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2023 โดยมีจำนวนชั่วโมงรวมกับตัวเลขในสัปดาห์ที่แล้วที่ฉาย 2 วัน เป็น 54.81 ล้านชั่วโมง ที่มา: Netflix
# Netflix เตรียมปิดบริการเช่า DVD ในปีนี้ หลังให้บริการมา 25 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ถึงแม้ Netflix จะมีธุรกิจหลักตอนนี้คือบริการสตรีมมิ่ง แต่ธุรกิจเช่า DVD ซึ่งเป็นธุรกิจเริ่มต้นของบริษัทก็ยังคงมีให้บริการอยู่จนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม Netflix ก็ได้ตัดสินใจยุติบริการนี้แล้ว โดย Netflix ประกาศว่าธุรกิจเช่า DVD ผ่านเว็บไซต์ DVD.com จะจัดส่ง DVD แผ่นสุดท้ายในวันที่ 29 กันยายน 2023 และบริการนี้จะปิดตัวลง หลังจากให้บริการมาเป็นเวลา 25 ปี จัดส่ง DVD ไปมากกว่า 5 พันล้านแผ่นทั่วอเมริกา Netflix ให้เหตุผลว่าเป้าหมายบริษัทคือการส่งมอบบริการดีที่สุดให้กับสมาชิก แต่ธุรกิจเช่า DVD มีแนวโน้มรายได้ลดลงโดยตลอด จึงเป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับบริษัทที่จะรักษามาตรฐานนี้ไว้ต่อไป นำมาสู่การตัดสินใจปิดธุรกิจดังกล่าว บริการเช่า DVD ของ Netflix สมาชิกสามารถเลือกสมัครได้ 3 รูปแบบราคา แตกต่างกันที่จำนวนแผ่นที่จะจัดส่งแต่ละครั้ง มีเอกลักษณ์คือซองจดหมายที่ส่งเป็นซองสีแดง และ Netflix ก็เริ่มเข้าสู่ธุรกิจผลิตคอนเทนต์ออริจินัลตั้งแต่ยังให้บริการ DVD โดยรวมลงทุนผลิตภาพยนตร์ในชื่อ Red Envelope Entertainment เวลานั้น ที่มา: Netflix
# [ลือ] ไมโครซอฟท์ทำชิป AI ออกแบบเอง โค้ดเนม Athena ใช้ร่วมกับ OpenAI เว็บไซต์ข่าว The Information รายงานว่าไมโครซอฟท์มีชิปประมวลผล AI ที่ออกแบบเองชื่อ Athena ซึ่งเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2019 และตอนนี้เริ่มทดสอบเป็นการภายในกับพนักงานกลุ่มเล็กๆ รวมถึงฝั่ง OpenAI ด้วย เป้าหมายของไมโครซอฟท์ในการออกแบบชิปเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายของการซื้อจีพียูหรือชิป AI ของบริษัทอื่นซึ่งมีราคาแพง ในบทความมีความเห็นจากนักวิเคราะห์ SemiAnalysis ที่ประเมินว่า Athena จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้ราว 1/3 เมื่อเทียบกับจีพียู NVIDIA ไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นบริษัทแรกที่หันมาออกแบบชิป AI เอง ก่อนหน้านี้เราเห็นกูเกิลทำ TPU ออกมาหลายรุ่นแล้ว (ล่าสุดคือ TPU v4), Amazon มีชิป Graviton, Facebook ทำชิปคัดกรองเนื้อหาเอง เป็นต้น ที่มา - The Information, Tom's Hardware ภาพโดย Gryffindor จาก Wikipedia
# แข่งกับ Linktree? - Instagram สามารถใส่ Link ในหน้า Bio ได้สูงสุด 5 ลิงก์แล้ว Instagram ประกาศปรับปรุงฟีเจอร์ที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta บอกว่า เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ใช้งานเรียกร้องมามากที่สุดอันหนึ่ง โดยผู้ใช้งานสามารถใส่ลิงก์ใน Bio ได้สูงสุด 5 ลิงก์แล้ว ทั้งนี้ในหน้า Bio จะแสดงเฉพาะลิงก์ลำดับแรก แต่เมื่อกดเข้าไปจะแสดงลิงก์อื่นเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ Instagram จำกัดการใส่ลิงก์ได้เพียงลิงก์เดียว ทำให้ผู้ใช้งานที่ต้องการเผยแพร่ช่องทางติดตามอื่น ๆ หากมีหลายช่องทาง ก็จะใช้บริการรวมลิงก์อย่างเช่น Linktree ซึ่งใส่มากกว่า 5 ลิงก์ของ Instagram ตอนนี้ด้วย แม้ Instagram จะเปิดกว้างมากขึ้นในการใส่ลิงก์ไปยังภายนอก แต่ตอนนี้การโพสต์ในฟีดก็ยังคงไม่รองรับลิงก์ ทำได้เฉพาะในสตอรี่เท่านั้น ที่มา: 9to5Mac
# [ไม่ยืนยัน] Google เตรียมขายมือถือจอพับ Pixel Fold มิถุนายนนี้ ราคาเริ่มต้น 1,700 ดอลลาร์ CNBC อ้างเอกสารภายในและรูปภาพที่ได้รับมา ว่ากูเกิลเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับตัวแรก Pixel Fold เริ่มขายเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะเปิดตัวในงาน Google I/O เดือนหน้า ซึ่งตรงกับข้อมูลหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ CNBC ได้มา ระบุว่าราคาขาย Pixel Fold จะอยู่ราว 1,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 58,000 บาท) เป็นสมาร์ทโฟนแพงที่สุดเท่าที่กูเกิลเคยขาย ชูจุดเด่นเป็นมือถือจอพับ ที่มีส่วนพับทนทานที่สุดในตลาด รายละเอียดสเป็กตามเอกสาร จอด้านหน้าขนาด 5.8 นิ้ว จอหลัก 7.6 นิ้ว แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 24 ชั่วโมง ใช้ชิป Tensor G2 รุ่นเดียวกับ Pixel 7 ที่มา: CNBC
# Netflix ไตรมาส 1/2023 รายได้โต 3.7% - เลื่อนใช้ระบบป้องกันหารบัญชีเป็นภายในไตรมาส 2 Netflix รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2023 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 8,162 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 1,305 ล้านดอลลาร์ จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 1.75 ล้านราย รวมเป็น 232.50 ล้านราย ก่อนหน้านี้ Netflix ประกาศแผนเปิดใช้ระบบป้องกันการหารบัญชี โดยบอกจะมีผลทั่วโลกภายในเดือนมีนาคม แต่ผู้ใช้งานหลายประเทศ รวมทั้งในไทยก็คงเห็นว่ายังไม่ได้เริ่มมีผล ซึ่ง Netflix ก็บอกว่าในไตรมาสที่ผ่านมาได้ขยายไปอีก 4 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา นิวซีแลนด์ สเปน และโปรตุเกส ส่วนแผนขยายประเทศเพิ่มเติมรวมทั้งอเมริกา จะเกิดขึ้นในไตรมาส 2 หรือไตรมาสปัจจุบัน Netflix บอกว่าสิ่งที่พบในประเทศที่ขยายระบบป้องกันหารบัญชีช่วงที่ผ่านมา คืออัตรายกเลิกสมาชิกเพิ่มสูงทันทีช่วงแรกที่มีผล แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีการสมาชิกแบบพ่วงบัญชีหลักเพิ่มเติมขึ้นมามาก กรณีแคนาดา ตอนนี้มีฐานจำนวนสมาชิกก็เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนใช้ระบบหารบัญชีแล้ว ทำให้ Netflix ตัดสินใจชะลอการบังคับใช้ออกไป เพื่อปรับหาแนวทางที่เหมาะสมขึ้นจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มา Netflix พูดถึงแพ็คเกจแบบมีโฆษณาซึ่งเพิ่มเป็นทางเลือกในบางประเทศ บอกว่าได้รับผลตอบรับที่ดี และจะปรับปรุงให้รองรับความละเอียดเป็น 1080p จากเดิมสูงสุด 720p คอนเทนต์เด่นในไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ The Night Agent ซึ่งตอนนี้เป็นรายการโทรทัศน์ยอดนิยมตลอดกาลอันดับ 6 ของแพลตฟอร์มแล้ว ส่วน The Glory ก็เป็นรายการโทรทัศน์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษยอดนิยมตลอดกาลอันดับ 5 ที่มา: Netflix (pdf)
# Joseph Staten หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟ Halo ย้ายไปอยู่ Netflix และประกาศทำเกมระดับ AAA Joseph Staten อดีตทีมงาน Halo ตั้งแต่ภาคแรก และหัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ Halo Infinite ภาคล่าสุด) ลาออกจาก 343 Industries ในเครือไมโครซอฟท์ ย้ายไปอยู่กับ Netflix และประกาศชัดเจนว่าเขามาเพื่อทำเกมใหม่ระดับ AAA Netflix เริ่มหันมาทำธุรกิจเกมได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยระยะแรกเน้นที่เกมแคชวลและเกมที่ดัดแปลงจากซีรีส์ของตัวเองเท่านั้น แต่ช่วงหลังก็เริ่มซื้อสตูดิโอเกมเข้ามาในสังกัดมากขึ้น รวมถึงทำระบบคลาวด์เกมมิ่งของตัวเอง สิ่งที่ขาดไปคงเหลือแค่การมีเกม AAA ระดับแม่เหล็กเพื่อดึงดูดผู้เล่น ซึ่งชื่อชั้นของ Joseph Staten น่าจะตอบโจทย์ของ Netflix ได้เป็นอย่างดี ที่มา - GamesRadar
# True เปิดตัวแอป TrueX แพลตฟอร์มรวมโซลูชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต True เดินหน้าสู่เทคคอมปานีเต็มรูปแบบ ประกาศเปิดตัวแบรนด์ใหม่ทรูเอ็กซ์ (TrueX) เป็นแพลตฟอร์มแอปที่ True บอกว่านำเสนอเทคโนโลยีการใช้ชีวิตอัจฉริยะที่จะยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยด้วย Digital infrastucture โดยเชื่อมโยงการทำงานของ AI, Cloud รวมอุปกรณ์ IoT ผสานเข้ากับเครือข่าย 5G แอปพลิเคชัน TrueX มาพร้อมคอนเซปต์ “LifeOS เทคโนโลยีเพื่อชีวิตอัจฉริยะ” แอปฯ เดียวตอบโจทย์ทุกการบริการและตอบโจทย์ทุกด้านการใช้ชีวิต โดยรวมโซลูชัน 6 ด้านสำหรับการใช้ชีวิต ตั้งแต่บ้าน (สมาร์ตโฮม), สุขภาพ, การเรียนออนไลน์, พลังงาน, ช็อปปิ้งและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ดังนี้ -X Home: โซลูชันและแพ็กเกจดูแลบ้าน เทคโนโลยีควบคุมบ้านอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ภายในบ้านได้จากทุกที่ ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงและระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เพื่อความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง -X Health: โซลูชันและแพ็กเกจเพื่อสุขภาพ ปรึกษาหมอผ่านแอปฯ MorDee (หมอดี) พร้อมบริการจัดส่งยาถึงบ้าน -X Learning: โซลูชันและแพ็กเกจเพื่อการเรียนรู้ ผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ VCourse ครอบคลุมทุกทักษะในอนาคต การตลาดออนไลน์ ทักษะด้านภาษา เทคโนโลยี การเงิน การลงทุนเป็นต้น -X Utility & Energy: โซลูชันและแพ็กเกจประหยัดพลังงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะสามารถตั้งค่าและอ่านผลกรองน้ำผ่านแอปฯ, Solar Rooftop และ EV Charger ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่และปริมาณการใช้ไฟฟ้าของแต่ละบ้าน -X Shopping: โซลูชันและแพ็กเกจช้อปคุ้ม ดีลพิเศษทั้งสินค้า IT, อุปโภคและบริโภคผ่านร้านค้าชั้นนำภายในแอปฯ เดียว -X Entertainment: โซลูชันและแพ็กเกจความบันเทิง เชื่อมต่อ True5G VR TrueX จะให้บริการแบบ All in one ครบวงจรตั้งแต่ติดตั้งไปจนถึงหลังการขาย มีบริการเปลี่ยนเครื่องหรืออุปกรณ์ให้ใหม่เมื่อชำรุด พร้อมผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง TrueX เปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานได้แล้วทั้งระบบAndroid และ iOS
# Vivaldi ออกเวอร์ชัน 6.0 ปรับแต่งไอคอนได้อิสระ, เพิ่ม Workspace จัดหมวดการทำงาน เว็บเบราว์เซอร์ Vivaldi ออกเวอร์ชัน 6.0 ยังเดินหน้าแนวทาง "ปรับแต่งได้สุดๆ" แบบในยุค Opera เดิม ของใหม่ที่สำคัญของเวอร์ชันนี้คือการเปลี่ยนไอคอนของทุกปุ่มได้อย่างอิสระ (Custom Icons) ต่อยอดจากระบบธีมของ Vivaldi 5.0 ที่ปรับแต่งได้ละเอียดเช่นกัน ฟีเจอร์อย่างที่สองคือ Workspace เป็นขั้นกว่าของการจัดกลุ่มแท็บ แนวคิดคล้าย virtual desktop ของ OS แต่อยู่ในเบราว์เซอร์เลย ผู้ใช้สามารถสร้าง Workspace สำหรับงานแต่ละประเภท เช่น Studies, Works, Personal โดยสลับไปมาได้ จัดธีมสีและไอคอนของแต่ละ Workspace ได้เอง โดย Workspace สามารถใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Tab Stacks (tab group) ของ Vivaldi ที่มีอยู่แล้วได้ด้วย ที่มา - Vivaldi ตัวอย่างชุดธีมไอคอนย้อนยุค รายชื่อหมวดของ Workspace
# เตรียมตัวออกล่าแย้ Niantic เปิดตัวเกม Monster Hunter Now เปิดให้บริการเดือนกันยายนปีนี้ Niantic บริษัทพัฒนาเกม AR ชื่อดังจับมือกับ Capcom เปิดตัว Monster Hunter Now บนมือถือเกม AR แนว Pokemon Go ที่นำมอนสเตอร์จากซีรีย์นี้มาผสานบนสภาพแวดล้อมจริงและพานักล่าไปออกล่า เปิดลงทะเบียนรอบเบต้าแล้ววันนี้ และจะให้เล่นทั่วไปเดือนกันยายนปี 2566 Monster Hunter Now จะจำลองผู้เล่นเป็นนักล่าออกเดินทางตามหามอนสเตอร์ และวัตถุดิบบนโลกและสภาพแวดล้อมจริงโดยใช้มือถือเป็นตัวเล่นและนำทาง สามารถรวมทีมกับพ้องเพื่อน หรือคนอื่นเพื่อออกล่ามอนสเตอร์และสร้างอาวุธและอุปกรณ์ได้ ระบบการต่อสู้ของเกมจะเป็นแตะและปัดเพื่อโจมตีหรือเก็บของ มีไอเท็ม paintball ที่สามารถโจมตีและติดตามมอนสเตอร์ในระหว่างที่อยู่บ้านหรืออยู่นอกพื้นที่ได้ และมีแมวนักล่าอย่าง Palico ที่สามารถช่วยล่าได้แม้จะปิดแอปไปแล้วก็ตาม โดยรอบการต่อสู้จะสูงสุด 75 วินาที สามารถเล่นได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน และคาดอาจยังไม่มีระบบกิลด์ในช่วงแรกแต่ทางผู้พัฒนาบอกขอให้ติดตามกันต่อไป ทาง Niantic เปิดรอบ Close Beta ให้กับผู้ที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมแล้วตั้งแต่วันนี้บนเว็บของ Monster Hunter Now (กดลิงก์ลงทะเบียนได้จากที่มาของข่าว) เปิดรับผู้เล่นเบต้าประมาณ 10,000 คน จะสามารถเข้าเล่นรอบเบต้าได้ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2566 และจะเปิดบริการให้เล่นทุกคนในเดือนกันยายนปี 2566 ทั้งบนระบบ Android และ iOS ที่มา - Polygon และ Monster Hunter Now
# Diablo IV พัฒนาเสร็จแล้ว เตรียมวางขาย 6 มิถุนายน 2023 ตามกำหนด Blizzard ประกาศว่าเกม Diablo IV พัฒนาเสร็จเรียบร้อย เข้าสถานะ gone gold นำไฟล์ไปปั๊มใส่แผ่น เตรียมวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มิถุนายน 2023 ตามกำหนด ถึงแม้สถานะ gone gold ในยุคนี้ไม่ค่อยสำคัญมากแล้ว เพราะเกมยังต้องมีออกแพตช์อัพเดต แก้บั๊ก ปรับสมดุลอยู่เรื่อยๆ อีกทั้ง Blizzard ก็ประกาศชัดว่าจะมีอัพเดตเนื้อเรื่องให้ทุก 3 เดือน ตามแนวทางเกม live service ยุคใหม่ แต่การที่ Diablo IV สามารถปิดงานได้ตามแผน หลังจากต้องเลื่อนมาแล้วรอบหนึ่งในปี 2021 ก็น่าจะเป็นสัญญาณอันดีต่อแฟนๆ เกมค่ายนี้ว่า Blizzard เริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยบ้างแล้ว
# Databricks เปิด Dolly 2.0 ใช้พนักงานของตัวเองฝึกถามตอบ นำไปใช้งานเชิงการค้าได้ฟรี Databricks เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Dolly 2.0 ที่ใช้โมเดล EleutherAI ขนาด 12 พันล้านพารามิเตอร์เป็นฐาน พร้อมกับฝึกเพิ่มเติมด้วยชุดคำถามตอบจำนวน 15,000 คำถามเพื่อให้ทำงานคล้าย ChatGPT มากขึ้น ทาง Databricks ให้พนักงาน 5,000 คนช่วยกันสร้างคำถามและคำตอบออกมาเป็นชุดข้อมูล databricks-dolly-15k ที่ใช้สัญญาอนุญาตแบบ Creative Commons (BY-SA) ทำให้องค์กรอื่นๆ สามารถนำชุดข้อมูลนี้ไปพัฒนาต่อได้ แนวทางการพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานได้คล้าย ChatGPT มีหลายแนวทางในตอนนี้ โดยโครงการส่วนมากใช้โมเดลฐานเป็น LLaMA ของ Meta ซึ่งตัวโมเดลห้ามไม่ให้ใช้เชิงการค้า ขณะที่อีกหลายโครงการใช้ชุดคำถามตอบเพื่อฝึกด้วยชุดข้อมูล ShareGPT ที่นำคำถามคำตอบมาจาก ChatGPT แต่ข้อตกลงการใช้งานของ OpenAI นั้นห้ามนำข้อมูลที่ได้ไปฝึกปัญญาประดิษฐ์แข่งกับ OpenAI เอง การที่ Dolly 2.0 ใช้ทั้งโมเดลฐานที่เปิดกว้าง และชุดคำถามตอบที่สร้างเองจึงทำให้นำโมเดลที่ได้ไปใช้งานต่อได้อิสระ ที่มา - Databricks
# จีนทดสอบลูกปืนใหญ่มีปัญญาประดิษฐ์ในตัว แม่นยำสูงแม้ยิงไกล 16 กิโลเมตร กองทัพจีนร่วมกับ Beijing Institute of Technology พัฒนาลูกปืนใหญ่อัจฉริยะที่สามารถปรับทิศทางระหว่างที่ถูกยิงไปยังเป้าหมายได้ ทำให้ลูกปืนใหญ่มีความแม่นยำสูง เข้ายิงเข้าเป้าขนาดเท่าคนได้ในระยะ 16 กิโลเมตรเมื่อใช้เลเซอร์ชี้เป้า แม้ว่าช่วงหลังการใช้ปัญญาประดิษฐ์มักถูกพูดถึงระบบขนาดใหญ่ที่ต้องการพลังประมวลผลสูงมาก แต่การใช้งานโมเดลขนาดเล็กมากในชิปไมโครคอนโทรลเลอร์ก็มากขึ้นเรื่อยๆ โครงการอย่าง tinyML นำเสนอการใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดเล็กประมาณ 100kB ทำงานบนหน่วยประมวลผลขนาดเล็กที่กินไฟในระดับมิลลิวัตต์เท่านั้น และมีการใช้งานในอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ นักวิจัยเก็บข้อมูลจากการทดลองและการยิงปืนใหญ่จริงมาสร้างโมเดลปรับทิศทางของปืนใหญ่เพื่อให้ความแม่นยำสูงขึ้นแทนที่การคำนวณจากอินพุตทั้งหมดซึ่งต้องใช้พลังประมวลผลสูง ก่อนหน้านี้กองทัพจีนเคยระบุว่าสามารถยิงปืนครกด้วยลูกปืนอัจฉริยะที่ความแม่นยำระดับเซนติเมตรได้สำเร็จ ที่มา - SCMP
# Elon Musk บอกกำลังสร้าง TruthGPT แสวงหาความจริงแท้ ธรรมชาติของจักรวาล Elon Musk ไปออกทีวีรายการ Tucker Carlson ทางช่อง Fox News เล่าว่าเขากำลังพัฒนา TruthGPT เป็นบริการลักษณะเดียวกับ ChatGPT แต่ "สนใจความจริงมากกว่า" (maximum truth-seeking AI) เขาบอกว่าเป้าหมายของ TruthGPT คือเข้าใจธรรมชาติของจักรวาล (understand the nature of the universe) และเขามองว่าวิธีการเข้าใจความจริงเหล่านี้ คือวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างความปลอดภัยของ AI เพราะว่า AI จะไม่สนใจทำลายมนุษยชาติ Musk ยังมองว่า TruthGPT คือเส้นทางที่ OpenAI ควรจะเป็น หลังจากเขาแตกหักกับ OpenAI ในปี 2018 เพราะทิศทางของ OpenAI ไปทางหวังผลกำไรแทน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Musk เพิ่งจดทะเบียนตั้งบริษัท X.AI และมีข่าวว่าดึงตัวบุคลากรสายวิจัยเข้าร่วม ที่มา - Fox News, The Verge
# Google เปิดโครงการให้ช่วยกันปรับปรุงข้อมูลเสียง เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศแนวปะการัง Google Arts & Culture เปิดตัวโครงการใหม่ Calling In Our Corals เพื่อให้คนช่วยพัฒนาชุดข้อมูลสำหรับการเทรนโมเดล AI สำหรับการปรับปรุงระบบนิเวศใต้ท้องทะเล โดยเฉพาะแนวปะการัง ที่ปัจจุบันได้รับความเสียหายมากขึ้น จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป และกิจกรรมของมนุษย์ โครงการนี้กูเกิลใช้ข้อมูลเสียงที่บันทึกคุณภาพสูงตามแนวปะการัง ในท้องทะเล 10 แห่งทั่วโลก ซึ่งภายใต้เสียงนั้นจะได้ยินเสียงของปลาหรือกุ้ง ส่งเสียงเพื่อสื่อสารกันระหว่างสิ่งมีชีวิตในนั้น ซึ่งตามปกติเสียงดังกล่าวมนุษย์ไม่สามารถได้ยิน แต่มีการปรับปรุงเสียงเพื่อจับสัญญาณดังกล่าวออกมา งานที่กูเกิลต้องการอาสาสมัครมาช่วยกันทำ คือการฟังเสียงที่บันทึก และคลิกเมื่อได้ยินจังหวะที่มีเสียงของปลา กุ้ง หรือสิ่งมีชีวิต เพื่อระบุตำแหน่งในไฟล์เสียงนั้น จากนั้นกูเกิลจะนำมาพัฒนาเป็นชุดไฟล์เสียง เพื่อเปิดตามแนวปะการังที่ถูกทำลาย ซึ่งเสียงสมมติที่ออกมานี้ จะทำให้สัตว์ทะเลสนใจและเข้ามาอาศัยในบริเวณ พร้อมร่วมปรับปรุงฟื้นฟูระบบนิเวศ ซึ่งอาจมีการสร้างแนวปะการังขึ้นมาทดแทนนั่นเอง ผู้สนใจสามารถร่วมปรับปรุงชุดข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของโครงการ ที่มา: Engadget
# SpaceX เลื่อนกำหนดปล่อยจรวด Starship สู่วงโคจรอวกาศ เป็นคืนวันพฤหัสบดี SpaceX ประกาศเลื่อนกำหนดการปล่อยจรวด Super Heavy และจรวด Starship ออกไปจากเดิม ที่มีแผนปล่อยจรวดเมื่อคืนนี้ตามเวลาในไทย โดยกำหนดการใหม่อยู่ในช่วงกรอบเวลาของวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2023 ระหว่าง 8:28น. ถึง 9:30น. ตามเวลาท้องถิ่น CDT หรือตรงกับ 20:28-21:30น. ตามเวลาในไทย Elon Musk ซีอีโอ SpaceX ทวีตว่าพบปัญหาระบบวาล์ว Pressurant แข็งตัว จึงต้องเลื่อนกำหนดปล่อยจรวด หลังทีมงานประเมินสถานการณ์ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในการทดสอบจรวดแบบใหม่ ตามแผนงานนั้นจรวด Super Heavy จะขึ้นสู่ท้องฟ้า และเมื่อแยกจรวด Starship ออกมา จรวดก็จะกลับสู่มหาสมุทร ส่วน Starship จะบินตามแนววงโคจรในอวกาศเป็นเวลา 90 นาที และกลับลงสู่โลกในพื้นที่ใกล้กับฮาวาย Starship เป็นแผนงานสำคัญของ NASA ที่จะใช้ในภารกิจลำเลียงสิ่งของและคนสู่อวกาศ โดยมีภารกิจในระยะใกล้คือโครงการ Artemis ที่จะนำนักบินอวกาศเดินทางสู่ดวงจันทร์ ที่มา: CNN
# Adobe เปิดตัว Firefly เครื่องมือ AI สร้างคลิปวิดีโอ พิมพ์คำสั่งแล้วเสกวิดีโอมาเลย Adobe เปิดตัว Firefly for Video เครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย generative AI พิมพ์สั่งว่าต้องการวิดีโอแบบไหนยังไง แล้วเสกออกมาเป็นคลิปให้ได้เลย ก่อนหน้านี้ Adobe เพิ่งเปิดตัว Firefly เวอร์ชันภาพนิ่ง โดยสร้างได้เฉพาะภาพนิ่งและข้อความ โมเดลเทรนมาจากคลังภาพของ Adobe Stock ทำให้ไม่มีปัญหาลิขสิทธิ์เหมือนกับโมเดลสร้างภาพตัวอื่นๆ คราวนี้ Firefly เวอร์ชันวิดีโอทำงานลักษณะเดียวกัน คือ ค้นหาคลิปจากคลังวิดีโอของ Adobe Stock มาใส่ข้อความแอนิเมชัน เอฟเฟคต์ ปรับแต่งสี ใส่เสียงประกอบ ฯลฯ ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์สั่งที่ prompt ให้เปลี่ยนโทนสีของคลิป (change it to golden hour) หรือเลือกเพลงประกอบในโทนสดใสได้ เท่านั้นยังไม่พอ Firefly สามารถอ่านสคริปต์แล้วสร้างเป็นสตอรี่บอร์ดแบบคร่าวๆ ให้ดูตัวอย่างวิดีโอก่อนได้ด้วย Adobe บอกว่าจะเริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์บางส่วนของ Firefly เข้ามายังแอพในชุด Creative Cloud ภายในปีนี้ ที่มา - Adobe
# Twitter จะแปะป้ายให้ทวีตที่ทำผิดกฎ จำกัดการมองเห็นข้อความ แทนการแบนบัญชีแบบเดิม Twitter ประกาศว่าจะแปะป้ายเตือนและจำกัดการมองเห็นข้อความทวีตที่ผิดกฎการใช้งาน เช่น มีเนื้อหาแสดงความเกลียดชัง แทนแนวทางเดิมที่เลือกแบนบัญชี Elon Musk เคยประกาศไว้ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการแบน Donald Trump และคืนบัญชีกลับมาให้ Trump ในประกาศของ Twitter ระบุว่าแนวทางนี้จะรักษา Freedom of Speech, not Freedom of Reach นั่นคือตัวข้อความไม่ถูกลบหรือแบน แต่การมองเห็นจะลดน้อยลงแทน (visibility filtering) และรอบนี้จะเพิ่มป้ายเตือนว่าข้อความนี้ทำผิดกฎ จึงถูกจำกัดการมองเห็น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสของแพลตฟอร์มมากขึ้น ที่มา - Twitter
# เปิดตัวเกม Harry Potter: Quidditch Champions แข่งควิดดิชแบบมัลติเพลเยอร์ Warner Bros. เปิดตัวเกม Harry Potter: Quidditch Champions เกมแข่งกีฬาควิดดิชแบบมัลติเพลเยอร์ ที่เป็นภาคแยกของ Hogwarts Legacy และเล่นได้โดยไม่ต้องมีเกมภาคหลัก เกม Quidditch Champions พัฒนาโดยสตูดิโอในเครืออีกแห่งคือ Unbroken Studios ที่กำลังช่วยพัฒนาเกม Suicide Squad: Kill the Justice League อยู่ในตอนนี้ เกมระบุว่าจะลงพีซีและคอนโซล (ยังไม่ระบุรุ่น) และยังไม่ประกาศวันวางขาย ข้อมูลอื่นของเกมตอนนี้ยังมีน้อยมาก บอกเพียงว่ารองรับการคัสตอมตัวละคร และเปิดลงทะเบียนให้เล่นทดสอบแล้ว ที่มา - Quidditch Champions, IGN
# Netflix ยกเลิกรายการถ่ายทอดสด Love Is Blind คาดพบปัญหาทางเทคนิค เมื่อวานนี้ Netflix กำหนดถ่ายทอดสดรายการ Love Is Blind: The Live Reunion ออกอากาศพร้อมกันทั่วโลก โดยตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 17 เมษายน เวลา 7:00น. ตามเวลาในประเทศไทย อย่างไรก็ตามเมื่อถึงกำหนดเวลา Netflix ก็ประกาศผ่านบัญชี Twitter ว่าเลื่อนเวลาออกอากาศออกไป 15 นาที แต่รายการก็ยังไม่เริ่มต้น จากนั้น 1 ชั่วโมงผ่านไป Netflix จึงประกาศขอโทษผู้ชม และยกเลิกรายการถ่ายทอดสด โดยบันทึกเทปและเผยแพร่อีกครั้ง ตั้งแต่ 2:00น. เมื่อคืนนี้ Love Is Blind เป็นรายการเรียลลิตี้ จำลองสถานการณ์นำชาย-หญิงจำนวนหนึ่ง มาเรียนรู้และทำความรู้จักเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ โดยมีจุดขายคือต่างฝ่ายจะทำความรู้จักพูดคุยแบบไม่เห็นหน้าตากันมาก่อน โดยตอนที่ออกอากาศสดเป็นรายการแบบรียูเนียน ที่นำผู้ร่วมรายการมาพบปะพูดคุยกันอีกครั้ง และผู้ชมสามารถส่งคำถามระหว่างดำเนินรายการได้ Netflix ไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่ยกเลิกรายการ แต่คาดว่าเป็นปัญหาทางเทคนิค เนื่องจากรายการสามารถบันทึกเทปเพื่อเผยแพร่ภายหลังได้ ที่ผ่านมา Netflix แสดงความสนใจพัฒนารายการประเภทถ่ายทอดสดมากขึ้น โดยรายการแรกที่ทดลองทำคือเดี่ยวไมโครโฟน Chris Rock: Selective Outrange เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งสามารถถ่ายทอดสดได้ราบรื่น ไม่มีรายงานปัญหา ทั้งนี้ Netflix จะมีรายการถ่ายทอดสดเพิ่มเติมอีกในอนาคต ซึ่งที่ประกาศไปแล้วล่วงหน้าคืองานประกาศรางวัล Screen Actors Guild Awards ในปี 2024 ที่มา: The Verge
# ซีอีโอ OpenAI ชี้หลังจากนี้ไม่ต้องแข่งการสร้างโมเดลขนาดใหญ่ แต่ต้องหาทางพัฒนาอื่น Sam Altman พูดในงานสัมมนาของ MIT ระบุถึงการพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ว่าการแข่งขันให้โมเดลมีขนาดใหญ่ยักษณ์นั้นน่าจะจบลงแล้ว และต่อจากนี้ต้องหาทางอื่นเพื่อให้โมเดลปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้น โมเดลปัญญาประดิษฐ์ด้านภาษานั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถ้านับเฉพาะผลงานของ OpenAI เอง GPT-1 (2018) มีขนาดเพียง 117 ล้านพารามิเตอร์, GPT-2 (2019) มีขนาด 1,500 ล้านพารามิเตอร์, GPT-3 (2020) มีขนาด 175,000 ล้านพารามิเตอร์ ส่วน GPT-4 นั้นไม่ระบุขนาดแต่ก็คาดกันว่าจะใหญ่กว่า GPT-3 มาก แม้ขนาดโมเดลจะใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การพัฒนาจาก GPT-3 มาเป็น ChatGPT นั้นอาศัยการฝึกโมเดลในรูปแบบใหม่ที่อาศัยมนุษย์เข้ามาดูคำตอบและให้คะแนนเพื่อฝึกให้ตอบดีขึ้นเรื่อยๆ และปรากฎว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถตอบโต้ได้เป็นอย่างดีแม้จะใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์พื้นฐานขนาดเล็กก็ตาม โมเดลขนาดใหญ่นั้นมีผลทำให้ค่าใช้จ่ายในการฝึกโมเดลนั้นมีราคาแพงไปด้วย โดยคาดกันว่า GPT-4 นั้นใช้ต้นทุนการฝึกมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,400 ล้านบาท และต้นทุนในการให้บริการก็แพงขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ทุกวันนี้ผู้ใช้ ChatGPT ที่จ่ายเงินเท่านั้นจึงใช้ GPT-4 ได้ หรือหากเป็นค่าใช้ API ก็มีราคาแพงกว่า GPT-3.5 มาก ที่มา - Wired
# Apple Card เปิดให้ใช้งานบริการ Cash Back เข้าบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงแล้ว แอปเปิลประกาศว่าบริการเสริมของ Apple Card บัตรเครดิตของแอปเปิล ที่ยังไม่มีในไทย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถนำเครดิตเงินคืน (Cash Back) เข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ซึ่งแอปเปิลเปิดตัวไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ผู้ใช้งาน Apple Card ทุกคนสามารถเริ่มเปิดใช้งานได้แล้ว บัญชีเงินฝากดังกล่าวเป็นบริการจากธนาคาร Goldman Sachs โดยให้อัตราผลตอบแทนเงินฝากสูงถึง 4.15% ต่อปี คำนวณแบบ APY ซึ่งเงินฝากส่วนนี้ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีขั้นต่ำ แต่จำกัดวงเงินฝากสูงสุดที่ 250,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราคุ้มครองสูงสุดตามเงื่อนไขของ FDIC หน่วยงานคุ้มครองเงินฝากในอเมริกา บริการ Apple Card ตอนนี้ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้งานในอเมริกาที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป ที่มา: แอปเปิล
# Vivo จะต้องยุติการขายมือถือในเยอรมนี หลังตกลงสัญญาสิทธิบัตร 5G กับ Nokia ไม่ได้ Vivo เตรียมต้องหยุดทำธุรกิจสมาร์ทโฟนในประเทศเยอรมนี หลังจากตกลงต่อสัญญาไลเซนส์สิทธิบัตรจาก Nokia กันไม่ได้ เมื่อปี 2022 สมาร์ทโฟนของ Oppo และ OnePlus (ซึ่งอยู่ในเครือ BBK Electronics เหมือนกัน) ถูกศาลเยอรมนีสั่งห้ามขาย เพราะละเมิดสิทธิบัตร 5G ของ Nokia และไม่สามารถตกลงเรื่องค่าไลเซนส์กันได้ ส่วน Vivo มีสัญญาไลเซนส์กับ Nokia มาตั้งแต่ปี 2021 เลยรอด แต่เมื่อสัญญาหมด ก็ไม่สามารถตกลงสัญญาฉบับใหม่กันได้ ทำให้ศาลเยอรมนีตัดสินว่า Vivo ต้องยุติการขายโทรศัพท์ในเยอรมนีด้วยเช่นกัน Vivo ประกาศบนหน้าเว็บสาขาเยอรมนีว่า Nokia ไม่ยอมขายไลเซนส์ในราคาที่เป็นธรรม (FRAND หรือ fair, reasonable and non-discriminatory) แต่เมื่อศาลมีคำตัดสินก็ต้องปฏิบัติตาม โดยบริษัทจะยังพยายามยื่นอุทธรณ์อีกรอบด้วย ที่มา - Vivo via 9to5google
# กูเกิลรีดประสิทธิภาพ Chrome รันเบนช์มาร์คเร็วขึ้น 10%, บน Android เร็วขึ้น 30% กูเกิลเล่าผลงานการปรับแต่ง Chrome ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ความเร็วในการประมวลผลหน้าเว็บสูงขึ้นในช่วงหลังๆ โดยทำหลายอย่างประกอบกัน ปรับแต่งฟังก์ชันจาวาสคริปต์ที่ใช้บ่อย Object.prototype.toString และ Array.prototype.join โดยใช้วิธีการ parse แบบพิเศษกับ innerHTML ซึ่งเป็นสิ่งที่พบบ่อยเวลาอัพเดต DOM ส่งผลให้เบราว์เซอร์เร็วขึ้น เทคนิคนี้ยังถูกนำไปใช้กับ WebKit/Safari ด้วย ซึ่งกูเกิลบอกว่ายินดี ถ้าเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ ปรับแต่งวิธีการบีบอัด pointer ในเอนจิน V8 และ Oilpan (garbage collector ของ DOM objects) โดยไม่บีบอัดฟิลด์บางตัวที่ใช้บ่อยๆ รวมถึงย้ายวัตถุประเภท undefined ที่พบบ่อยๆ ไปอยู่ตำแหน่งต้นๆ ของหน่วยความจำ ผลคือเบนช์มาร์ค Speedometer 2.1 ได้เร็วขึ้น 10% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ปรับวิธีคอมไพล์ Chrome for Android ให้เน้นเรื่องความเร็ว แทนขนาดของไบนารี ช่วยให้เบนช์มาร์ค Speedometer เร็วขึ้น 30% ที่มา - Chromium Blog
# Ford ยืนยัน ไม่ทิ้งระบบ CarPlay, Android Auto แบบเดียวกับ GM จากข่าว GM ประกาศเลิกสนับสนุน CarPlay/Android Auto, เปลี่ยนไปใช้ Android Automotive ทำให้เว็บไซต์ 9to5mac สอบถามไปยังคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติ Ford ว่ามีนโยบายนี้อย่างไร คำตอบของ Ford คือจะยังสนับสนุน Apple CarPlay และ Android Auto ต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า EV เนื่องจากรถ EV บางยี่ห้อไม่มีฟีเจอร์นี้ ฝั่งของ Ford เองมีผู้บริหาร Doug Field ดูแลด้าน Advanced Technology และ Embedded Systems ซึ่งเขาเคยเป็นหัวหน้าโครงการรถยนต์ของแอปเปิลมาก่อน แต่ย้ายมาอยู่ Ford ในปี 2021 นอกจากนี้ Ford มีสัญญากับกูเกิล และมีชื่อปรากฏอยู่ในกลุ่มผู้ใช้งาน Android Automotive ด้วย แม้ตัวรถยนต์ที่ใช้ Android Automotive ยังไม่ออกสู่ตลาดในตอนนี้ก็ตาม ที่มา - 9to5mac
# Sega ประกาศซื้อกิจการ Rovio เจ้าของเกม Angry Birds อย่างเป็นทางการแล้ว มูลค่าดีล 2.66 หมื่นล้านบาท Sega รายงานว่าที่ประชุมบอร์ดบริหาร มีมติให้ทำคำสั่งเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ Rovio Entertainment บริษัทเกมและสื่อบันเทิงจากฟินแลนด์ เจ้าของแฟรนไชส์ Angry Birds โดยการยื่นข้อเสนอนี้ได้มีการคุยและทำข้อตกลงเบื้องต้นแล้ว ผ่านบริษัทแม่ของ Sega คือ Sega Sammy ตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ เนื่องจาก Rovio เป็นบริษัทในตลาดหุ้นฟินแลนด์ Sega จะทำคำสั่งซื้อหุ้นทั้งหมดที่ราคา 9.25 ยูโรต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ากิจการรวม 706 ล้านยูโร หรือประมาณ 2.66 หมื่นล้านบาท น้อยกว่าตัวเลขที่รายงานมาก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้คาดว่าดีลทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 Sega ให้เหตุผลของดีลดังกล่าว โดยมองว่าตลาดเกมมือถือยังมีการเติบโตที่รวดเร็ว และเพื่อให้บริษัทมีความแข็งแกร่งในธุรกิจส่วนนี้จึงตัดสินใจซื้อ Rovio อีกทั้งแฟรนไชส์ Angry Birds ก็มีฐานแฟนทั่วโลก ซึ่ง Sega ก็มี Sonic the Hedgehog เป็นสัญลักษณ์อยู่เช่นกัน จึงสามารถนำมาต่อยอดแบรนด์ได้ทิศทางที่คล้ายกัน ที่มา: Sega
# [ลือ] กูเกิลทำโครงการ Magi ลูกผสม Search/Chat แบบเดียวกับ Bing, ซัมซุงอาจย้ายไปใช้ Bing The New York Times รายงานข่าวลือเกี่ยวกับบริการ search ของกูเกิลหลายอย่างดังนี้ กูเกิลกำลังทำโครงการชื่อ Magi เป็นการรวม search/chat เข้าด้วยกัน แบบเดียวกับ New Bing ของไมโครซอฟท์ ซึ่งแตกต่างจาก Bard ที่เป็น chat เพียงอย่างเดียว โครงการนี้มีพนักงานเข้ามาร่วมทำ 160 คนแล้ว และยังไม่มีกำหนดแน่ชัดว่าจะต้องเสร็จเมื่อไร แต่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Google I/O 2023 เดือนพฤษภาคม และเปิดทดสอบเฉพาะในสหรัฐอเมริกาก่อนอีกเหมือนเคย ถัดจาก Magi แล้ว กูเกิลยังสร้าง search engine ตัวใหม่พลัง AI ที่เรียนรู้ได้ว่าผู้ใช้ต้องการหาอะไร รูปแบบการใช้งานจะเหมือนการนั่งคุยกับคนที่ฉลาดๆ มากกว่า search แบบดั้งเดิม ซัมซุง ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของกูเกิลในโลก Android มายาวนาน กำลังพิจารณาเปลี่ยน search engine ในมือถือตัวเองเป็น Bing แทน ซึ่งตอนนี้กูเกิลกับซัมซุงกำลังเจรจากันอยู่ และฟีเจอร์ของ Magi น่าจะดึงดูดให้ซัมซุงอยู่กับกูเกิลต่อไปได้ ที่มา - The New York Times ภาพจาก evageeks.org
# กูเกิลเผยสถิติ Kotlin ภายในบริษัท ใช้ฝั่งเซิร์ฟเวอร์เยอะ, เริ่มสร้างแอพ iOS ด้วย Kotlin ตัวแทนกูเกิลไปขึ้นเวทีงาน KotlinConf '23 เล่าสถิติการใช้งานภาษา Kotlin ในหมู่นักพัฒนาสาย Android และสถิติภายในของกูเกิลเอง แวดวง Android ในแอพยอดนิยม 1,000 ตัวแรกของ Android มี 95% ที่ใช้ Kotlin, 23% ใช้ Jetpack Compose นักพัฒนา Android ระดับมืออาชีพ 50% เลือกใช้ภาษา Kotlin เป็นหลัก, 25% เลือกใช้ Java Android Studio เวอร์ชันหน้า Giraffe จะเปลี่ยนมาใช้ Kotlin แทน Groovy ใน Gradle ภายในบริษัทกูเกิล แอพ Android ของกูเกิลส่วนใหญ่เป็น Kotlin แล้ว ตัวเลขที่ระบุคือมากกว่า 70 ตัว การย้ายมาใช้ Kotlin ช่วยแก้ปัญหาในการพัฒนาได้เยอะ เช่น แอพ Google Home พบว่ามี NullPointerExceptions ลดลง 33% ส่งผลให้แครชน้อยลง ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้น การเขียน Kotlin ฝั่งเซิร์ฟเวอร์เป็นสิ่งที่นิยมในกูเกิล โดย 45% ของวิศวกรที่เขียนภาษา Kotlin บอกว่าใช้กับงานฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ตอนนี้กูเกิลมีโค้ด Kotlin รวมกัน 15 ล้านบรรทัด เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว และมีทีมภายในทำเครื่องมือ Kotlin ให้เข้ากับระบบภายในของกูเกิลด้วย กำลังทดลองใช้ Kotlin Multiplatform สร้างแอพ iOS โดยตอนนี้ทีม Google Workspace ลองเขียนตัว business logic ของ Google Docs บน iOS ด้วย Kotlin ที่มา - Google
# JetBrains ออก Compose เฟรมเวิร์คสร้าง UI เวอร์ชัน iOS, สถานะยังเป็น Alpha Compose Multiplatform เฟรมเวิร์คสำหรับเขียน UI ของภาษา Kotlin ที่พัฒนาโดย JetBrains และออกเวอร์ชันแรกในปี 2021 รากเหง้าของ Compose มาจาก Jetpack Compose ที่กูเกิลสร้างขึ้นเพื่อเขียน UI บน Android โดย JetBrains นำมาพัฒนาต่อให้รองรับแพลตฟอร์มอื่นๆ คือบนเดสก์ท็อป (Windows, macOS, Linux) ล่าสุด JetBrains เปิดตัว Compose Multiplatform สำหรับ iOS แล้ว สถานะยังเป็นรุ่นทดสอบแบบ Alpha และจำเป็นต้องใช้ Xcode บน macOS ช่วยคอมไพล์ออกมาเป็นแอพบน iOS ให้ เป้าหมายสำคัญคือช่วยให้การพอร์ตแอพฝั่ง Android ที่เขียนด้วย Jetpack Compose มาเป็น iOS/Compose ได้บ้างแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ ตัวแพลตฟอร์ม Kotlin รองรับ iOS แบบไม่มี Compose แล้ว ความฝันในการเขียนแอพมือถือด้วย Kotlin ล้วนๆ จึงใกล้เป็นจริงมากขึ้น นอกจาก iOS แล้ว Compose ยังรองรับการเขียนเว็บ (Compose for Web) โดยรันอยู่บน WebAssembly (Kotlin/Wasm) อีกทีหนึ่ง สถานะของโครงการยังเป็น Experimental คือยิ่งกว่า Alpha ดังนั้นคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ ถึงได้เห็นรุ่นเสถียรกัน ที่มา - JetBrains
# [ลือ] WWDC ปีนี้ เน้นไปที่ Mixed Reality - อาจเปิดตัว MacBook ใหม่เพิ่มเติม 2-3 รุ่น Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสินค้าใหม่แอปเปิล ในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดยครั้งนี้พูดถึงสิ่งที่แอปเปิลน่าจะประกาศในงานสัมมนา WWDC เดือนมิถุนายนนี้ เขาบอกว่าเนื้อหาหลักของงานจะพูดถึงเฮดเซต Mixed Reality ที่มีข่าวมานาน รวมทั้งรายละเอียดของระบบปฏิบัติการ xrOS และเครื่องมือที่ให้นักพัฒนาใช้สร้างสรรค์กับเฮดเซตดังกล่าว ในงานจะมีเซสชันสำหรับเรื่องนี้หลายหัวข้อ โดยแอปเปิลหวังว่าเฮดเซตจะทันวางขายภายในปีนี้ สินค้าใหม่ที่อาจเปิดตัวในงานจะเป็นตระกูล MacBook แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะรุ่นไหนบ้าง ทั้งนี้รายงาน Mac รุ่นใหม่ที่แอปเปิลกำลังพัฒนาอยู่มีทั้ง MacBook Air จอ 15 นิ้ว, จอ 13 นิ้ว, MacBook Pro 13 นิ้ว, iMac 24 นิ้ว, Mac Pro ชิป Apple Silicon สุดท้ายเป็นเรื่องระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ซึ่งเป็นหัวข้อประจำของงาน WWDC อยู่แล้ว Gurman ให้ข้อมูลดังนี้ watchOS 10 มีการปรับปรุงอินเทอร์เฟซครั้งใหญ่ในรอบหลายปี iPadOS 17 รายละเอียดซอฟต์แวร์จะบอกใบ้ว่า iPad Pro รุ่นใหม่มาพร้อมหน้าจอ OLED iOS 17 มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่อาจพูดเรื่อง sideload แอป เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของ EU ที่มา: Bloomberg
# Gradle 8.2 เปลี่ยนภาษาดีฟอลต์จาก Groovy มาเป็น Kotlin Gradle ซอฟต์แวร์ build automation ชื่อดัง เดิมทีต้องใช้ภาษา Groovy เขียนสคริปต์คอนฟิกวิธีการ build แต่ล่าสุดเปลี่ยนมาใช้ภาษา Kotlin เป็นดีฟอลต์แทนแล้ว Gradle เริ่มสร้างในปี 2008 โดยตอนนั้นยังรองรับเฉพาะ Groovy เป็นภาษาแบบ domain-specific language (DSL) เพื่อเป็น build script แต่ในปี 2016 ก็เพิ่ม Kotlin DSL เข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ในเวอร์ชันหน้า Gradle 8.2 จะเปลี่ยนมาใช้ Kotlin เป็นค่าดีฟอลต์แทน Groovy แล้ว โดยการสั่ง "gradle init" เพื่อเริ่ม build ใหม่จะเปลี่ยนมาใช้ Kotlin แทน ส่วนโปรเจคเก่าที่เป็น Groovy ก็ยังใช้งานได้เช่นเดิม เปลี่ยนแค่ค่าดีฟอลต์เท่านั้น โครงการ Gradle บอกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นความร่วมมือกับ JetBrains และกูเกิล หลังจากพัฒนา Kotlin DSL มาระยะหนึ่งจนเสถียรพอ และมีเครื่องมือรองรับครบถ้วน ที่มา - Gradle, JetBrains
# IBM ซื้อกิจการ Ahana บริษัทพัฒนา Presto ซอฟต์แวร์คิวรี SQL ขนาดใหญ่ IBM ซื้อกิจการบริษัท Ahana ซึ่งทำซอฟต์แวร์คิวรี Presto โดยไม่เปิดเผยมูลค่า Presto เป็นซอฟต์แวร์คิวรี SQL engine ที่ทำงานกับฐานข้อมูลได้หลากหลาย (ทั้ง MySQL, Hadoop, Cassandra, MongoDB, Amazon S3) แนวคิดของมันคือการทำงานแบบกระจายศูนย์เพื่อให้สเกลรองรับโหลดจำนวนมากได้ ซอฟต์แวร์ถูกนำไปใช้ในบริษัทไอทีใหญ่ๆ หลายแห่ง เช่น Netflix, Uber และ AWS นำไปให้บริการชื่อ Amazon Athena ที่มาของ Presto เป็นโครงการภายในของ Facebook ที่โอเพนซอร์สในปี 2013 โดยสร้างขึ้นมาทดแทน Apache Hive ที่มีข้อจำกัดเรื่องการสเกล ภายหลัง Facebook ยกโครงการให้มูลนิธิ Presto Foundtion ใต้สังกัด Linux Foundation ดูแลต่อในปี 2019 บริษัท Ahana ก่อตั้งเมื่อปี 2020 โดยอดีตพนักงาน Couchbase สองคนคือ Steven Mih และ Dipti Borkar เป้าหมายคือทำ Presto ในเชิงพาณิชย์ ก่อนหน้านี้ Ahana เคยได้รับเงินลงทุนจาก GV บริษัทลงทุนของกูเกิล โครงการ Presto ยังแยก (fork) เป็นอีกสายโดยอดีตพนักงาน Facebook ที่ริเริ่มพัฒนา Presto หันไปทำโครงการชื่อ PrestoSQL ที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Trino ด้วยเหตุผลเรื่องเครื่องหมายการค้าที่ Facebook/Meta เป็นเจ้าของ ปัจจุบัน Trino มีบริษัทอีกแห่งคือ Starburst (แยกตัวมาจาก Teradata) ให้บริการในเชิงพาณิชย์ รายละเอียดเรื่องการแยกโครงการอ่านได้จาก ZDNet ที่มา - Presto
# KeePassXC ออกรายงานตรวจสอบความปลอดภัยโค้ด พบส่วนใหญ่ทำได้ดี มีข้อแนะนำปรับปรุงบางส่วน KeePassXC โปรแกรมจัดการรหัสผ่านโอเพนซอร์สเปิดเผยรายงานตรวจสอบความปลอดภัยโค้ด ที่ตรวจสอบโดย Zaur Molotnikov ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย การตรวจสอบเน้นเฉพาะระบบการอ่านและเขียนฐานข้อมูลรหัสผ่าน โดยไม่ได้ตรวจสอบส่วนอื่นๆ เช่น เช่น ระบบการสุ่มรหัสผ่าน KeePassXC เป็นโครงการโอเพนซอร์สที่พัฒนาโปรแกรมโดยใช้ฐานข้อมูลร่วมกับโปรแกรม KeePass ได้ แม้จะใช้ฐานข้อมูลแบบเดียวกัน แต่ KeePass นั้นพัฒนาด้วยภาษา C# และต้องการ .NET ขณะที่ KeePassXC ใช้ภาษา C++ และพัฒนาด้วย Qt สำหรับโปรแกรม KeePass เองนั้นเคยถูกตรวจสอบโดยสหภาพยุโรปเป็นผู้ให้ทุน แม้ไม่มีช่องโหว่ร้ายแรง แต่รายงานก็ระบุว่าไฟล์ KDBX4 นั้นปลอดภัยกว่าไฟล์ฟอร์แมตเดิมมาก Molotnikov แนะนำให้ทางโครงการเตือนผู้ใช้เมื่อเปิดไฟล์ในฟอร์แมตเก่า และพยายามผลักดันให้ผู้ใช้ย้ายไปฟอร์แมตใหม่ และยังมีกระบวนการจัดการหน่วยความจำที่สามารถปรับปรุงเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรหัสผ่านที่ไม่ได้เข้ารหัสหลงเหลืออยู่ กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยโค้ดโดยหน่วยงานภายนอกเป็นแนวทางสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยซอฟต์แวร์ แต่กระบวนการนี้ก็มีข้อจำกัด เพราะการตรวจสอบคุณภาพมีค่าใช้จ่ายสูง และมักมีการจำกัดขอบเขตการทำงานไว้ชัดเจน รวมถึงการตรวจสอบก็ตรวจสอบที่เวอร์ชั่นที่ระบุเท่านั้น หลังการตรวจสอบแล้วโค้ดที่มีการพัฒนาเพิ่มเติมก็จะต้องรอการตรวจสอบรอบต่อไป ที่มา - KeePassXC
# AMD เปิดตัวจีพียูเวิร์คสเตชัน Radeon Pro W7900 สถาปัตยกรรม RDNA 3, แรม 48GB AMD เปิดตัวจีพียูเวิร์คสเตชันใหม่สองตัวคือ Radeon Pro W7900 และ W7800 ซึ่งเป็นการ์ดจอกลุ่มโปรชุดแรกที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3 แบบเดียวกับการ์ดซีรีส์ Radeon RX 7000 จุดเด่นของการ์ดซีรีส์นี้นอกเหนือจากฟีเจอร์มาตรฐานสถาปัตยกรรม RDNA 3 (Chiplet, Ray Tracing, AV1) คือ W7900 ใช้แรมมากถึง 48GB (W7800 ให้ 32GB) จึงรองรับเวิร์คโหลดที่มีขนาดใหญ่มากๆ ตัวเลขประสิทธิภาพตามสเปกคือ 61 TFLOPS (W7900) และ 45 TFLOPS (W7800) นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐาน DisplayPort 2.1 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ตัวการ์ดมาพร้อมพอร์ตขนาดเต็ม 3 พอร์ต และแบบมินิอีก 1 พอร์ต ราคาขายตัวละ 3,999 ดอลลาร์ (W7900) และ 2,499 ดอลลาร์ (W7800) เริ่มวางขายปลีกตัวการ์ดช่วงไตรมาส 2 และสินค้ากลุ่มพีซีเวิร์คสเตชันจะตามมาในช่วงครึ่งหลังของปี คู่แข่งของฝั่ง NVIDIA คือสินค้ากลุ่ม Quadro เดิม ที่ปัจจุบันเรียกชื่อ RTX เฉยๆ โดยรุ่นท็อปของเจนล่าสุดคือ RTX 6000 Ada Lovelace ก็ให้แรม 48GB เช่นกัน ที่มา - AMD
# ส.ว.สหรัฐ ส่งจดหมายถึงโซนี่ ขอให้โปร่งใส เปิดเผยเอกสาร Exclusive กับค่ายเกมต่างๆ สงครามแย่งชิง Activision Blizzard ระหว่างไมโครซอฟท์-โซนี่ กลายเป็นประเด็นการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ-ญี่ปุ่น หลังนักการเมืองอเมริกันหลายรายมองว่าโซนี่ใช้ท่า exclusive กีดกันการแข่งขันจาก Xbox ล่าสุดมี ส.ว. อเมริกันอีกรายคือ Kevin Cramer จากรัฐนอร์ทดาโคตา (North Dakota) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง Kenichiro Yoshida ซีอีโอของโซนี่ ขอให้เปิดเผยข้อตกลง exclusive ทั้งหมดกับค่ายเกมอื่นๆ รวมถึงเอกสารภายในของโซนี่ที่เกี่ยวกับการซื้อ Bungie ด้วย จดหมายของ Cramer ให้เหตุผลว่าเป็นกังวล (concern) ว่าโซนี่ใช้อิทธิพลของตัวเองในฐานะผู้นำตลาดคอนโซล กีดกันคู่แข่งไม่ให้เข้ามาแข่งขันได้ง่ายนัก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทางเลือกของผู้บริโภคชาวอเมริกัน เขาจึงต้องเรียกร้องให้โซนี่เพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกิจ และขอดูเอกสารชุดข้างต้นแบบไม่ตัดทอนหรือถมดำ ถึงแม้จดหมายของ Cramer เป็นการส่งในฐานะ ส.ว. เพียงคนเดียว และไม่มีผลบังคับให้โซนี่ต้องเปิดเผยเอกสารเหล่านี้ แต่ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความกดดันจากภาคการเมืองในดีล Activision Blizzard มากขึ้นเรื่อยๆ ที่มา - VGC, จดหมายฉบับเต็ม
# File Explorer ของ Windows 11 เพิ่มมุมมองแบบ Gallery ดูภาพตาม Timeline Windows 11 Insider Build 23435 (Dev Channel) เพิ่มของใหม่ให้ File Explorer คือมุมมองแบบ Gallery เอาไว้ดูไฟล์รูปภาพจำนวนมากๆ โดยแสดง thumbnail ต่อๆ กันตามลำดับ timeline มีช่วงเวลากำกับที่ขอบด้านขวามือของหน้าจอ ไมโครซอฟท์บอกชัดเจนว่าฟีเจอร์นี้เป็นการยกมุมมอง All Photos จากแอพ Photos ในปัจจุบันมาเลย ซึ่งหากเชื่อมกับฟีเจอร์ Camera Roll Backup ของ OneDrive ก็จะแสดงภาพล่าสุดที่ถ่ายจากสมาร์ทโฟนให้ด้วยเช่นกัน มุมมอง Gallery ไม่ได้มีเฉพาะในแอพ File Explorer หลักเท่านั้น โดยหน้าต่างเลือกไฟล์ (File Picking Dialog) ของโปรแกรมต่างๆ ยังสามารถแสดงมุมมองแบบ Gallery ได้ด้วย ของใหม่อีกอย่างใน Build 23435 คือ Settings เพิ่มตัวเลือกหมวด Presence Sensing สำหรับพีซีรุ่นใหม่ๆ ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับว่ามีมนุษย์นั่งอยู่หน้าเครื่องจริงๆ ก็สามารถกำหนดสิทธิการเข้าถึงเซ็นเซอร์นี้ของแอพต่างๆ ในระบบได้ ที่มา - Microsoft
# Chrome ออกอัพเดตฉุกเฉิน แก้ไขช่องโหว่ Zero-Day แนะนำอัพเดตทันที กูเกิลออกอัพเดตฉุกเฉิน Chrome เวอร์ชัน 112.0.5615.121 สำหรับเดสก์ท็อปทั้งบน Windows, Mac และ Linux แก้ไขช่องโหว่ความรุนแรงระดับ High จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที ช่องโหว่ที่แก้ไขคือ CVE-2023-2033 ซึ่งเกี่ยวกับเอ็นจิน Chrome V8 JavaScript โดยกูเกิลบอกว่ามีรายงานการโจมตีแล้ว แต่จะเปิดเผยรายละเอียดของบั๊ก เมื่อผู้ใช้งานส่วนใหญ่ได้อัพเดตเบราว์เซอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว นอกจากนี้อัพเดตเวอร์ชัน 112.0.5615.121 ยังแก้ไขปัญหาทั่วไปที่ตรวจสอบพบเพิ่มเติมภายในด้วย ที่มา: กูเกิล ผ่าน Bleeping Computer
# ซีอีโอ OpenAI ตอบประเด็นเรียกร้องให้หยุดเทรน AI ขนาดใหญ่ บอกการเพิ่มความปลอดภัยสำคัญที่สุด Sam Altman ซีอีโอ OpenAI กล่าวในงานสัมมนาที่ MIT เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผ่านวิดีโอคอล โดยตอนหนึ่งเขาถูกถามถึงประเด็นที่นักธุรกิจ นักวิชาการ เรียกร้องให้หยุดเทรนโมเดล AI ขนาดใหญ่เป็นเวลา 6 เดือน Altman ยอมรับว่าเขาเห็นด้วยกับบางส่วนของจดหมายเปิดผนึกนี้ แต่ข้อเรียกร้องนี้ก็ขาดรายละเอียดทางเทคนิคว่าทำไมจึงควรหยุดเทรน สิ่งสำคัญจริง ๆ คือการขยับไปข้างหน้าต่อเนื่องอย่างระมัดระวัง และเพิ่มความปลอดภัยให้กับ AI เขาจึงมองว่าสิ่งที่จดหมายเปิดผนึกนี้เรียกร้อง ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องนัก ส่วนประเด็นว่าตอนนี้ OpenAI กำลังเทรนโมเดล AI ตัวใหม่เช่น GPT-5 หรือไม่ Altman บอกว่ายังไม่ได้ทำ และยังไม่มีแผนทำในสักระยะเวลาหนึ่ง (for some time) โดยที่ทำอยู่คือการปรับปรุงความปลอดภัยให้กับ GPT-4 คำตอบของ Altman ที่ออกมา คล้ายกับความเห็นของ Andrew Ng ผู้เชี่ยวชาญ Deep Learning รุ่นบุกเบิก ที่มองว่าการหยุดพัฒนาทำไม่ได้จริง แต่ควรกำกับดูแลความปลอดภัยมากกว่า ที่มา: The Verge
# Advice ยื่นไฟลิ่งแล้ว เตรียมขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) เจ้าของร้านจัดจำหน่ายสินค้าไอที Advice ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน (ไอพีโอ) โดยยังไม่ได้กำหนดวันขายหุ้น และนำบริษัทซื้อขายในตลาดหุ้น ข้อมูล ณ สิ้นปี 2565 Advice มีสาขาทั้งหมด 337 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่เป็นเจ้าของเอง 112 แห่ง สาขาแฟรนไชส์ 225 แห่ง และเป็นสาขาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 23 แห่ง ผลการดำเนินงานในปี 2565 Advice มีรายได้รวม 14,395.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 205.7 ล้านบาท รายส่วนใหญ่ 65% มาจากการขายปลีกผ่านหน้าร้านและออนไลน์ ที่เหลือ 35% มาจากการขายส่งให้สาขาแฟรนไชส์และตัวแทนจำหน่าย สัดส่วนสินค้าที่จำหน่าย 38.2% เป็นคอมพิวเตอร์ประกอบ และ 28.7% เป็นโน้ตบุ๊ค ส่วนเครื่องพิมพ์ และเดสก์ท็อป อยู่ที่ 9.5% และ 9.1% ตามลำดับ ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
# โรงพิมพ์ธนบัตรรายใหญ่ของโลกเผย ความต้องการใช้ธนบัตรลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี De La Rue บริษัทผู้พิมพ์ธนบัตรรายใหญ่ของโลกจากอังกฤษ เปิดเผยว่าความต้องการใช้ธนบัตรในโลกลดลงต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 20 ปี เนื่องจากความนิยมในการใช้การจ่ายเงินผ่านบัตรหรือแอปมือถือเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการสำรองเงินที่สูงขึ้นจากธนาคารกลาง ที่เป็นผลต่อเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้มีธนบัตรหมุนเวียนออกมาน้อยลง De La Rue เป็นบริษัทรับพิมพ์ธนบัตรให้กับอังกฤษและหลายประเทศทั่วโลก โดยธนบัตรของประเทศไทยแบบแรก ในปีพ.ศ. 2445 ก็จัดพิมพ์โดย De La Rue และสั่งพิมพ์อีกหลายแบบ จนกระทั่งธนาคารแห่งประเทศได้จัดตั้งโรงพิมพ์ธนบัตรแห่งแรกในประเทศเองในปีพ.ศ. 2512 (ที่มา) ข้อมูลในอังกฤษ ประชาชนนิยมซื้อสินค้า และจ่ายเงินด้วยวิธีการผ่านบัตรเดบิตมากที่สุด จ่ายด้วยเงินสดเพียง 15% เทียบกับตัวเลขเมื่อสิบปีที่แล้วซึ่งการจ่ายด้วยเงินสดอยู่ที่ 60% ส่วนประเทศไทย แนวโน้มการจ่ายเงินแบบดิจิทัลหรือ e-Payment ยังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นทุกปี แต่การใช้เงินสดก็ยังเป็นที่นิยมอยู่มาก (ข้อมูล: สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์) ที่มา: The Guardian ภาพ PxHere
# ทำไมต้อง AI? คุยกับพรรคก้าวไกลถึงนโยบาย AI ปราบโกง - 15 เมษายน 20.00 น. Blognone สัมภาษณ์ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (@teng_mfp) รองเลขาธิการ ฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูลและดิจิทัล พรรคก้าวไกล ลงลึกถึงรายละเอียดทางเทคนิคของนโยบาย AI ปราบโกง ทำได้จริงแค่ไหน วันนี้ 15 เมษายน 2566 เวลา 20.00 น. ทาง Twitter Spaces อัพเดต ฟังรายการย้อนหลัง
# Zoom ซื้อกิจการ Workvivo สตาร์ทอัพแพลตฟอร์ม Employee Experience จากไอร์แลนด์ Zoom ประกาศซื้อกิจการ Workvivo สตาร์ทอัพจากไอร์แลนด์ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสาร พัฒนาประสบการณ์ และสร้างความสัมพันธ์ของพนักงานภายในองค์กร โดยดีลดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยมูลค่าที่เข้าซื้อ Kelly Steckelberg ซีเอฟโอของ Zoom พูดถึงดีลดังกล่าวว่า Zoom เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันของพนักงาน ในยุคของการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งการได้ Workvivo มาร่วมทีม ทำให้ร่วมพัฒนาประสบการณ์ ความผูกพันของพนักงานในองค์กรได้เพิ่มมากขึ้น โดยหลังดีลเสร็จสิ้น เครื่องมือของ Workvivo จะรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Zoom Workvivo มีการเติบโตในระดับเปอร์เซ็นต์สามหลักตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีองค์กรที่เป็นลูกค้าหลายร้อยแห่งทั่วโลก ที่มา: Zoom
# Reels เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แสดงเพลง-แฮชแท็ก ที่กำลังติดเทรนด์ ให้ครีเอเตอร์เลือกใช้ Instagram อัพเดตฟีเจอร์ใหม่หลายรายการให้กับ Reels แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นในแอป มีรายละเอียดดังนี้ Reels Trends แสดงรายการเพลงที่กำลังเป็นกระแสใน Reels เพื่อให้ครีเอเตอร์เลือกใช้เพลงได้ในตามความนิยมล่าสุด รวมทั้งแสดงแฮชแท็กที่กำลังเป็นที่นิยมด้วย (ฟีเจอร์นี้มีใน TikTok) Editor ปรับปรุงเครื่องมือตัดต่อคลิป โดยรวมวิดีโอ เสียง สติกเกอร์ ข้อความ ไว้ในหน้าเดียว Reels Insights ปรับปรุงรายงานข้อมูล Reels แต่ละคลิป เพิ่มระยะเวลาที่คนดูคลิปรวม และค่าเฉลี่ยเวลาที่รับชม นอกจากนี้ Reels ยังขยายฟีเจอร์ให้ของขวัญ Gifts กับครีเอเตอร์ รองรับเพิ่มเติมใน ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เม็กซิโก นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ที่มา: Meta
# Elon Musk ตั้งบริษัท X.AI แข่ง OpenAI แล้ว ดึงพนักงานจาก DeepMind, ใช้ทรัพยากร Twitter/Tesla จากข่าวลือว่า Elon Musk ตั้งทีมพัฒนาแชทบ็อทแนวเดียวกับ ChatGPT ของ OpenAI ล่าสุดมีคนค้นพบการจดทะเบียนตั้งบริษัท X.AI ในรัฐเนวาดา ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม โดยมีชื่อ Musk เป็นกรรมการบริษัทเพียงคนเดียว Financial Times รายงานข้อมูลโดยอ้างแหล่งข่าวว่า Musk กำลังสร้างทีมพัฒนา AI โดยดึงวิศวกรและนักวิจัยจำนวนหนึ่งเข้ามาทำงานด้วย ที่ระบุชื่อคือ Igor Babuschkin อดีตพนักงานของ DeepMind และชักชวนนักลงทุนบางรายใน SpaceX และ Tesla ให้มาร่วมลงทุนในบริษัทใหม่แห่งนี้ นอกจากนี้ เขายังสั่งซื้อจีพียูจาก NVIDIA เป็นหลักหลายพันตัว (thousands) เพื่อใช้เทรนโมเดล และอาจใช้ทรัพยากรประมวลผลจาก Tesla กับปริมาณข้อมูลของ Twitter มาช่วยในการเทรนโมเดลด้วย โดย Tesla ก็มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชื่อ Dojo ใช้เทรนโมเดลของตัวเองเช่นกัน Musk เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 แต่ลาออกในปี 2018 โดยมีรายงานข่าวว่าเขาแตกหักกับผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นใน OpenAI เพราะมุมมองไม่ตรงกัน ทำให้ X.AI น่าจะเป็นบริษัท AI แบบที่เขาต้องการจริงๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท Twitter Inc. เพิ่งถูกควบรวมเข้ากับบริษัท X Corp. จึงเป็นไปได้สูงว่า X.AI จะเป็นส่วนหนึ่งของ X Corp. ภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ Everything App ด้วย ที่มา - Financial Times
# รัฐแรกในอเมริกา สภารัฐมอนแทนาผ่านกฎหมายแบนการใช้งาน TikTok ทั้งรัฐ รัฐมอนแทนา (Montana) กลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านกฎหมายการแบนห้ามใช้ TikTok ในระดับทั้งรัฐ (ไม่จำกัดเฉพาะบุคลากรของภาครัฐเหมือนข่าวก่อนๆ หน้านี้) หลังสภาของรัฐโหวตผ่านกฎหมายด้วยคะแนน 54-43 เนื้อหาในร่างกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้สโตร์มือถือต้องแบน TikTok จากการดาวน์โหลดในรัฐมอนแทนา และตัวบริษัท TikTok ก็ต้องห้ามให้บริการกับคนในรัฐด้วย หากละเมิดจะโดนค่าปรับวันละ 10,000 ดอลลาร์ ส่วนผู้ที่ยังใช้งาน TikTok อยู่จะไม่มีโทษตามกฎหมายนี้ ขั้นต่อไปคือร่างกฎหมายจะถูกส่งไปที่ผู้ว่าการรัฐ Greg Gianforte ลงนามเพื่อให้มีผล หาก Gianforte ลงนาม กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2024 แม้ในทางทฤษฎี Gianforte อาจเลือกไม่ลงนาม ตามหลักการคานอำนาจระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ก่อนหน้านี้ เขาเคยออกคำสั่งผู้ว่าการรัฐให้แบน TikTok ในอุปกรณ์ของภาครัฐมาแล้ว จึงมีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ตัวแทนของ TikTok ออกแถลงการณ์คัดค้านกฎหมายฉบับนี้ โดยบอกว่าเป็นกฎหมายที่พยายามเซ็นเซอร์การแสดงความเห็นของคนอเมริกัน และจะต่อสู้กับกฎหมายนี้ในชั้นศาลต่อไป ที่มา - ร่างกฎหมายฉบับเต็ม, CNN
# PyThaiNLP 4.0 ออกแล้ว เน้นปรับปรุงประสิทธิภาพ กับเพิ่มบทกวี วันนี้ทาง PyThaiNLP ได้ปล่อย PyThaiNLP รุ่น 4.0 (Real) เป็นที่เรียบร้อย โดย PyThaiNLP เป็นชุดคำสั่งสำหรับงานประมวลผลภาษาไทย เพื่อใช้งานในการวิเคราะห์ข้อมูลภาษาไทย สำหรับรุ่น 4.0 นี้เน้นไปเรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นหลัก ปรับปรุงการตัดคำ แก้ไขปัญหาด้านโมเดล ส่วนความสามารถใหม่กับโมเดลใหม่ของ PyThaiNLP 4.0 มีดังนี้ - Thai NER v2.0 - โมเดลระบุนามเฉพาะ ที่ช่วยระบุชื่อคน สถานที่ ในข้อความภาษาไทย ได้พัฒนาขึ้นรุ่นใหม่ พร้อมกับจำนวนข้อมูลที่มากกว่าเดิม - เพิ่มความสามารถในการแปลงรูปแบบการแสดงวันเวลาของไทย ให้กลายเป็น datetime แบบง่าย ๆ - เพิ่มความสามารถใหม่ในด้านการวิเคราะห์ภาษาไทยสำหรับงานด้านบทกวี วรรณกรรม ของภาษาไทย khavee เช่น ตรวจสอบกลอน 8 หรือกลอน 4 ตามหลักฉันทลักษณ์, ตรวจสอบความถูกต้องการสัมผัสระหว่างคำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงเครื่องมือตัดคำค่าเริ่มต้น ให้สามารถตัดคำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น และปรับปรุงการโหลดโมดูลให้สามารถเรียกใช้งานได้ไวยิ่งขึ้น ที่มา: PyThaiNLP 4.0 Released!| PyThaiNLP GitHub
# [ลือ] Sega ใกล้ปิดดีลซื้อกิจการ Rovio Entertainment เจ้าของ Angry Birds The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า Sega Sammy บริษัทโฮลดิ้งที่เป็นบริษัทแม่ของ Sega ใกล้ปิดดีลเพื่อซื้อกิจการทั้งหมดของ Rovio Entertainment โดยคาดมูลค่าดีลอยู่ที่ราว 1 พันล้านดอลลาร์ จะประกาศเป็นทางการในสัปดาห์หน้า Rovio เป็นบริษัทจากฟินแลนด์ ซึ่งมีเกมหลักคือ Angry Birds ที่ครั้งหนึ่งเป็นเกมมือถือยอดนิยมทั่วโลก บริษัทสามารถต่อยอดคาแรกเตอร์นี้ได้ทั้งจากการ์ตูนทีวี และภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามความนิยมก็ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป รายงานบอกว่า Rovio เคยเจรจาขายกิจการให้ Playtika บริษัทเกมจากอิสราเอล อย่างไรก็ตามดีลไม่สามารถตกลงกันได้ และยุติการเจรจาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ที่มา: The Wall Street Journal
# Spotify ประกาศปิด Heardle เกมทายเพลงในสไตล์ Wordle ที่ซื้อกิจการมาเมื่อปีที่แล้ว Spotify ประกาศปิดให้บริการ Heardle เกมทายเพลงในสไตล์ Wordle โดยจะปิดตัวในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ Spotify ซื้อกิจการ Heardle มาเมื่อกรกฎาคมปีที่แล้ว ตามกระแสนิยมของเกมทายคำ Wordle ในช่วงเวลานั้น โดยรูปแบบของ Heardle ให้ผู้เล่นทายเพลงใน 6 ครั้ง และคำใบ้จะเผยรายละเอียดมากขึ้นเรื่อย ๆ จบลงที่ให้ลิงก์ไปฟังเพลงนี้แบบเต็ม ๆ ใน Spotify ทั้งนี้เกม Heardle ไม่ได้ให้บริการทั่วโลก แต่จำกัดเฉพาะบางประเทศเท่านั้น และ Spotify ก็ไม่ได้นำฟีเจอร์ทายเพลงมาใส่ในแอปหลักด้วย ตัวแทนของ Spotify ชี้แจงสาเหตุของการปิด Heardle ว่าเพื่อโฟกัสในการสร้างฟีเจอร์สำหรับการค้นพบเพลงใหม่ ๆ รูปแบบอื่น ที่มา: The Verge
# WhatsApp ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัย ป้องกันการถูกขโมยบัญชี WhatsApp ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันการถูกขโมยบัญชีใช้งาน โดยเมื่อผู้ใช้งานต้องการสลับบัญชี WhatsApp ไปใช้บนอุปกรณ์ใหม่ จะต้องยืนยันการย้ายบัญชีในอุปกรณ์เก่าเครื่องเดิม ว่าต้องการดำเนินการย้ายบัญชีจริง ๆ WhatsApp บอกว่าการเพิ่มเงื่อนไขยืนยันอุปกรณ์นี้ จะทำให้บัญชีมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยผู้ใช้งานไม่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม และช่วยป้องกันบัญชีได้หากอุปกรณ์ตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้ WhatsApp ยังเพิ่มเครื่องมือให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบคู่สนทนาได้ว่าการสนทนาได้รับการเข้ารหัสถูกต้อง โดยคลิกที่แถบ Encryption ในหน้าข้อมูลผู้ติดต่อ ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้จะทยอยเปิดให้กับผู้ใช้งาน WhatsApp ทุกคนในไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนการป้องกันบัญชีในปัจจุบัน WhatsApp ให้ผู้ใช้งานเปิดการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน และทำแบ็คอัพแบบเข้ารหัส ที่มา: WhatsApp
# Adobe Premiere Pro เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ตัดต่อวิดีโอได้โดยดูจากข้อความบรรยายที่ AI สร้างจากวิดีโอ Adobe ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro โดยบอกว่าช่วยให้การตัดต่อแบบหยาบหรือ Rough Cut ทำได้ง่ายขึ้น เหมือนการคัดลอกตัดวางข้อความ ขั้นตอนการทำงานก็ดูจะเป็นแบบที่ Adobe บอก โดย Premiere Pro ใช้ AI ของ Adobe Sensei สร้างคำบรรยายขึ้นมาจากวิดีโอเริ่มต้น จากนั้นผู้ตัดต่อที่เดิมต้องไล่ฟุตเทจและฟังเสียงหาจุดที่ต้องการ ก็สามารถสแกนข้อความคำบรรยายที่ AI สร้างขึ้น และลากตัดวางเรียงวิดีโอในเบื้องต้นได้ ช่วยลดเวลาในการทำงาน (ตัวอย่างดูจากคลิปท้ายข่าว) นอกจากนี้ Adobe ยังประกาศฟีเจอร์อื่นสำหรับงานตัดต่อวิดีโอ เช่น เครื่องมือปรับโทนสีของฟุตเทจ จากมุมกล้องที่ต่างกันให้เข้ากันอัตโนมัติ, ระบบเซฟงานอัตโนมัติ แบบทำงานเบื้องหลัง โดยฟีเจอร์เหล่านี้เปิดให้ใช้งานแล้วใน Public Beta และจะเปิดให้ใช้งานทั่วไปในเดือนพฤษภาคม ที่มา: Adobe
# Android Studio ออกเวอร์ชัน Flamingo (2022.2.1) Android Studio ออกเวอร์ชันใหม่ Flamingo (2022.2.1) ซึ่งอิงจากฐานของ IntelliJ Platform 2022.2 ของใหม่เวอร์ชันนี้มีหลายอย่าง เน้นไปที่ Jetpack Compose โปรเจคสร้างใหม่จะแนะนำให้ใช้ Jetpack Compose และ Material 3 เป็นค่าดีฟอลต์ รองรับ Live Edit สำหรับโปรเจคที่ใช้ Compose แก้โค้ดแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงของแอพทันที พรีวิวไอคอนแอพเวลาแสดงในธีมไอคอนแบบต่างๆ โดยต้องตั้ง API level 33 ขึ้นไป พรีวิวการแสดงสีแบบ dynamic color ปรับสีตามภาพพื้นหลัง Build Analyzer แยกหมวดหมู่ของงานขณะ build เช่น Manifest, Android Resources, Kotlin, Dexing เพื่อให้วิเคราะห์ข้อมูลง่ายขึ้น One-click Automated Profileable Build and Run สร้างโปรไฟล์อัตโนมัติจำลองการรันแอพแบบต่างๆ Android Gradle Plugin 8.0.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหญ่ และอาจมีผลต่อพฤติกรรมของแอพได้ App Quality Insights ตัววิเคราะห์ข้อมูลการแครช เพิ่มการฟิลเตอร์สัญญาณประเภทต่างๆ Network Inspector แสดงไทม์ไลน์ทั้งหมดของทราฟฟิกในแอพเป็นดีฟอลต์ และกำหนด rule สำหรับดักทราฟฟิกได้ ส่วน Android Studio เวอร์ชันหน้าจะชื่อ Giraffe (2022.3.1) ตอนนี้อยู่ในขั้นทดสอบแบบ Beta ที่มา - Android Developers
# เผย Universal Music Group แจ้งผู้ให้บริการฟังเพลงสตรีมมิ่ง บล็อก AI ในการเข้าถึงข้อมูล มีรายงานว่า Universal Music Group หรือ UMG หนึ่งในค่ายเพลงรายใหญ่ของโลก ได้ติดต่อไปยังผู้ให้บริการฟังเพลงสตรีมมิ่ง เช่น Spotify หรือ Apple Music ให้บล็อก AI ในการเข้าถึงเพลงบนแพลตฟอร์ม เพื่อไม่ให้ AI เทรนข้อมูลเพลงและอาจพัฒนาเพลงขึ้นมาเองในอนาคต เนื้อหาในอีเมลบอกว่า บริษัทไม่ต้องการรีรอในการป้องกันปัญหาลิขสิทธิ์ ที่อาจเกิดขึ้นกับศิลปินที่ค่ายดูแลอยู่ ซึ่งอีเมลดังกล่าวระบุว่าได้ส่งไปยังผู้ให้บริการช่วงเดือนมีนาคม ปัญหาในช่วงที่ผ่านมาของ AI สร้างสรรค์เนื้อหา คือการตรวจพบว่าข้อมูลตั้งต้นที่ใช้ในการเทรน มาจากงานที่มีลิขสิทธิ์ จึงอาจถูกร้องเรียนได้ว่าผลงานที่ผลิตขึ้นมาในขั้นตอนสุดท้าย เป็นการละเมิดผลงานมีลิขสิทธิ์ แต่ก็เป็นปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้นในการพิสูจน์ว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ กรณีของ UMG จึงอาจมองได้ว่าค่ายเพลงพยายามตัดปัญหานี้ตั้งแต่ต้นให้มากที่สุดนั่นเอง ที่มา: Gizmodo
# Hidetaka Miyazaki ผู้กำกับ Elden Ring ติดอันดับ 100 ผู้ทรงอิทธิพลโลกของ TIME นิตยสาร TIME เปิดรายชื่อ 100 ผู้ทรงอิทธิพลประจำปี 2023 (TIME 100 Most Influential People of 2023) มีรายชื่อคนที่น่าสนใจจากวงการเทคโนโลยีคือ Hidetaka Miyazaki ผู้กำกับเกม Elden Ring และประธานของ FromSoftware TIME คัดเลือก Hidetaka Miyazaki จากความโดดเด่นของเกม Elden Ring ที่สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายนับตั้งแต่วางขายช่วงต้นปี 2022 โดยได้ Neil Druckmann ผู้กำกับเกม The Last of Us มาเป็นคนเขียนคำนิยมให้ด้วย บุคคลในวงการเทคโนโลยีคนอื่นๆ ที่ติดอันดับคือ Elon Musk, Sam Altman ซีอีโอ OpenAI, Robin Zeng ผู้ก่อตั้งบริษัทแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลก Contemporary Amperex Technology (CATL), Shou Zi Chew ซีอีโอของ TikTok และ Laurene Powell Jobs ภรรยาของสตีฟ จ็อบส์ ที่โดดเด่นเรื่องงานการกุศล นอกจากนี้ยังมีบุคคลในแวดวงวิทยาศาสตร์ติดอันดับด้วย ได้แก่ Andrea Kritcher ผู้ออกแบบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น และ Edward Reynolds ผู้อำนวยการโครงการ DART ของ NASA ที่ทดลองนำยานอวกาศพุ่งชนดาวเคราะห์น้อย ที่มา - TIME, รายชื่อ TIME 100
# Spotify เพิ่มเครื่องมือแปลงคอนเทนต์ จากรายการวิทยุมาเป็นพอดคาสต์ ที่สะดวกมากขึ้น Spotify ประกาศเพิ่มเครื่องมือสำหรับให้ผู้จัดรายการวิทยุ สามารถนำคอนเทนต์เสียง แปลงเป็นรายการพอดคาสต์ได้ทันที โดยสามารถใช้งานได้ผ่าน Megaphone แพลตฟอร์มจัดการเนื้อหาและโฆษณา ที่ Spotify ซื้อกิจการมาเมื่อปี 2020 Spotify อธิบายว่า กระบวนการแปลงเนื้อหารายการวิทยุมาเป็นพอดคาสต์แบบ manual นั้น มีหลายขั้นตอนที่ต้องทำ เช่น การตัดช่วงสปอตโฆษณาในรายการออกไป แทรกโฆษณาสำหรับเวอร์ชันพอดคาสต์ และการอัปโหลดลงแต่ละแพลตฟอร์ม ใช้เวลาค่อนข้างนานสำหรับพอดคาสต์หนึ่งตอน ด้วยเทคโนโลยีที่ Spotify นำมาใช้ เรียกว่า broadcast-to-podcast ได้จาก Whooshkaa แพลตฟอร์มแปลงเนื้อหาที่ซื้อกิจการมาเมื่อปี 2021 จะช่วยทุ่นเวลาตรงนี้ลงไป สุดท้าย Spotify อ้างผลการวิจัยของ Pew Research ระบุว่ากลุ่มคนเจนเนอเรชัน Z ในอเมริกามากกว่า 50% สะดวกที่จะฟังคอนเทนต์ข่าวสาร ผ่านช่องทางแบบพอดคาสต์ มากกว่าช่องทางรายการวิทยุแบบดั้งเดิม การแปลงเนื้อหารายการมาลงพอดคาสต์จึงเป็นช่องทางสำหรับรายการวิทยุที่จะขยายโอกาสเข้าถึงคนฟังรุ่นใหม่นั่นเอง ที่มา: Spotify