title
stringlengths
1
182
text
stringlengths
1
45.8M
source
stringclasses
5 values
__index_level_0__
int64
0
197k
ภาษาจีน/ท่าทางในการแสดงตัวเลข
เปลี่ยนทาง ภาษาจีน/ภาคผนวก/ท่าทางในการแสดงตัวเลข
thaiwikibooks
195,580
ภาษาลาว/ระบบเสียง
ຫາເມຍໃໝ່ ระบบเสียง พยัญชนะ พยัญชนะต้น พยัญชนะสะกด สระ ระบบเสียง. สระ. เสียงสระในภาษาลาวซึ่งคล้ายคลึงกับเสียงสระภาษาไทยแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ สระเดี่ยว สระประสม และสระเกิน สะกดด้วยรูปสระพื้นฐานหนึ่งตัวหรือหลายตัวร่วมกัน สระเดี่ยว หรือ สระแท้ คือสระที่เกิดจากฐานเพียงฐานเดียว มีทั้งสิ้น 18 เสียง สระประสม คือสระที่เกิดจากสระเดี่ยวสองเสียงมาประสมกัน เกิดการเลื่อนของลิ้นในระดับสูงลดลงสู่ระดับต่ำ ดังนั้นจึงสามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สระเลื่อน" มี 3 เสียงดังนี้ ເxຍ ประสมจากสระ อี และ อา ເxືອ ประสมจากสระ อือ และ อา xົວ ประสมจากสระ อู และ อา เสียงวรรณยุกต์ กลางต่ำลงขึ้น ต่ำขึ้น กลางระดับ สูงขึ้น กลางขึ้น สารบัญ ระบบเสียง ตัวอักษร สำเนียงภาษาถิ่น
thaiwikibooks
195,581
ภาษาลาว/สำเนียงท้องถิ่น
สำเนียงภาษาถิ่นของภาษาลาวสามารถแบ่งได้ 6 สำเนียงใหญ่ คือ: ภาษาลาวเวียงจันทน์ (เวียงจันทน์ บริคำไชย) ภาษาลาวเหนือ (หลวงพระบาง ไชยบุรี อุดมไชย หลวงน้ำทา) ภาษาลาวตะวันออกเฉียงเหนือ (เชียงขวาง หัวพัน) ภาษาลาวกลาง (คำม่วน สุวรรณเขต) ภาษาลาวใต้ (จำปาศักดิ์ สาละวัน เซกอง อัตปือ) ภาษาลาวตะวันตก (ไม่มีใช้ในประเทศลาว ร้อยเอ็ด) ส่วนในประเทศลาว นอกจากสำเนียงถิ่นใหญ่แล้วยังมีสำเนียงแตกออกไปอีกหลายสำเนียงย่อย เช่น ภาษาลาวใต้ถิ่นสาละวัน ภาษาลาวกลางถิ่นสุวรรณเขต สำเนียงย่อยถิ่นเมืองอาดสะพังทอง ถิ่นเมืองจำพอน ภาษาเวียงจันทน์ถิ่นเมืองปากงึม ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผู้พูดภาษาลาวใต้ถิ่นจำปาศักดิ์ในจังหวัดพระวิหาร สตึงแตรง และรัตนคีรีของประเทศกัมพูชาด้วย สารบัญ ระบบเสียง ตัวอักษร สำเนียงท้องถิ่น
thaiwikibooks
195,582
ภาษาลาว/ภาษาถิ่น
เปลี่ยนทาง ภาษาลาว/สำเนียงท้องถิ่น
thaiwikibooks
195,583
ภาษาจีน/คำศัพท์/โรงพยาบาล
ดูเพิ่ม
thaiwikibooks
195,584
ภาษาจีน/คำศัพท์/เครื่องมือช่าง
ดูเพิ่ม
thaiwikibooks
195,585
ภาษาไทย/ไวยากรณ์/ภาษาไทยเบื้องต้น
เปลี่ยนทาง ภาษาไทย/ไวยากรณ์/ตัวอักษรและการออกเสียง
thaiwikibooks
195,586
โปรแกรมประมวลคำ
ซอฟต์แวร์ประมวลคำ (Word Processing) เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้สำหรับการจัดการกับเอกสารในรูปแบบต่างๆ เช่น จดหมาย บันทึก รายงานการประชุม การจัดทำหนังสือ การทำรายงาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถจัดข้อความในลักษณะต่างๆ  ใส่ภาพประกอบ  แทรกตาราง เพื่อทำให้เอกสารน่าสนใจยิ่งขึ้น  ซึ่งนับว่าโปรแกรมประมวลคำเป็นที่นิยมนำไปใช้งานในองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย สารบัญ การใช้งาน ประโยชน์
thaiwikibooks
195,587
โปรแกรมประมวลคำ/การใช้งาน
Microsoft Word บน Windows คลิกปุ่ม Start บนแถบ Task bar เลือก Programs เลือก Microsoft Office เลือก Word หรือ Microsoft Office Word จะเปิดให้ใช้งานได้ Word Online เข้าสู่ระบบในหน้ายินดีต้อนรับ Office (หรือสมัครบัญชี ถ้ายังไม่มี) คลิกที่ Word งานของคุณจะถูกสร้างและบันทึกลงในอินเทอร์เน็ตอัตโนมัติที่โฟลเดอร์ Documents ใน Onedrive ของบัญชีของคุณ
thaiwikibooks
195,588
ภาษาจีน/คำศัพท์/คณิตศาสตร์
ดูเพิ่ม
thaiwikibooks
195,589
ภาษาจีน/คำศัพท์/อาหาร
ดูเพิ่ม
thaiwikibooks
195,590
ภาษาจีน/คำศัพท์/ของใช้สำนักงาน
ดูเพิ่ม
thaiwikibooks
195,591
ภาษาจีน/คำศัพท์/รูปร่างรูปทรง
ดูเพิ่ม
thaiwikibooks
195,592
ภาษาจีน/คำศัพท์/เครื่องปรุงรส
ดูเพิ่ม
thaiwikibooks
195,593
ภาษาอาหรับ/ตัวเลข
ตัวเลข ١ - واحد ٢ - اثنان ٣ - ثلاثة ٤ - أربعة ٥ - خمسة ٦ - ستة ٧ - سبعة ٨ - ثمانية ٩ - تسعة ١٠ - عشرة
thaiwikibooks
195,594
ภาษาฮินดี/ตัวเลข
เลข ตัวเลข ลำดับที่ เลข. ลำดับที่. ----กลับเข้าสู่ ภาษาฮินดี
thaiwikibooks
195,595
ภาษาฮินดี/สี
สี - रंग (rangë) สี - रंग (rangë). ----กลับเข้าสู่ ภาษาฮินดี
thaiwikibooks
195,596
ตำราอาหาร
เปลี่ยนทาง
thaiwikibooks
195,597
ระบอบการปกครอง
ระบอบการปกครอง (Form of Government) หมายถึง ระเบียบในการปกครองสถาบันทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลของรัฐได้จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้อำนาจในการปกครองประเทศ คำนี้ยังนิยามรวมไปถึงรัฐบาลที่ไม่ประสบความสำเร็จในการใช้อำนาจปกครองประเทศด้วยในปัจจุบันหลังความขัแแย้งรุนแรงในปี2545นั้นทำให้หลายประเทศหันมาสนใจเรื่องประชาธิปไตยในระบบของ พระมหาธรรมราชาสิทธิราช หรือการปกครองระบบราชาธิปไตยโดยมีพระมหาธรรมราชาที่ได้รับเลือกจากประเทศที่ เข้าร่วมและทรงมีบางอย่างที่คนปกติทำไม่ได้ และมีความรู้ความสามารถที่ให้คำปรึกษาในทุกประเทศพร้อมทั้งธรรมมาสิทธิราชหรือการเข้าใจและเข้าถึงสิทธิของคนทุกรูปแบบ และมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงในวิถีปฎิบัติจนเกิดความสุขใหหมู่คน ทุกที่ทั่วแผ่นดิน้ ประเภทของระบอบการปกครอง ประเภทของระบอบการปกครอง. การแบ่งประเภทของระบอบการปกครองสามารถใช้เกณฑ์ในการแบ่งได้ออกเป็น 8 เกณฑ์ด้วยกัน คือ อำนาจอธิปไตย ประมุขของรัฐ การเลือกตั้งรัฐบาล รูปแบบของรัฐบาล รูปแบบของรัฐตามประมุขของรัฐ ระบบในการปกครอง จำนวนรัฐที่ปกครอง ความเป็นเอกราชของรัฐ แบ่งตามอำนาจอธิปไตย ระบอบประชาธิปไตย แบ่งตามอำนาจอธิปไตย. ระบอบประชาธิปไตย. การปกครองระบอบประชาธิปไตย (Democracy) เป็นระบอบที่มีการบริหารอำนาจรัฐมาจากเสียงข้างมากของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย โดยประชาชนอาจใช้อำนาจของตนด้วยตนเองหรือผ่านผู้แทนที่เลือกเข้าไปใช้อำนาจแทนก็ได้ โดยการปกครองในระบอบประชาธิปไตยจะแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกัน คือ การปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยตรง (Direct Democracy) หรือ ระบอบประชาธิปไตยบริสุทธิ์ (Pure Democracy) การปกครองระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม (Liberal Democracy) การปกครองระบอบกึ่งประชาธิปไตย หรือ ระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ (Semi-democracy) การปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา (Parliamentary System) เป็นระบอบที่ประชาชนจะใช้อำนาจของตนด้วยตนเองหรือผ่านผู้แทนที่เลือกเข้าไปใช้อำนาจแทนผ่านทางรัฐสภา มีทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยประมุขของรัฐจะไม่ต้องรับผิดชอบในทางการเมือง โดยจะให้ประมุขฝ่ายบริหาร คือ นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน โดยประมุขของรัฐจะมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกัน คือ แบบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional Monarchy) โดยพระมหากษัตริย์ทรงมีฐานะเป็นประมุขของรัฐ ทรงเป็นกลางทางการเมือง การใช้พระราชอำนาจในฐานะประมุขก็ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แบบประธานาธิบดี (Parliamentary Republic) เป็นการปกครองในลักษณะสาธารณะรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน หรือการเลือกทางอ้อมของรัฐสภา แต่จะไม่ต้องรับผิดชอบในทางการเมือง เพราะจะมีนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประมุขฝ่ายบริหารทำหน้าที่รับผิดชอบทางการเมืองแทน การปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบประธานาธิบดี (Presidential System) เป็นระบอบที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐและประมุขฝ่ายบริหารในเวลาเดียวกันที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อประชาชน แต่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภา มีรัฐมนตรีเป็นผู้ช่วยในการดำเนินการด้านต่าง ๆ การปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบกึ่งประธานาธิบดีกึ่งรัฐสภา (Semi-presidential System) เป็นระบอบที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ ซึ่งจะร่วมบริหารประเทศกับคณะรัฐมนตรีในฐานะประธานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเท่ากับเป็นประมุขฝ่ายบริหารอีกตำแหน่งหนึ่ง แต่จะไม่ต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อรัฐสภา เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายทางการเมืองในด้านต่าง ๆ ให้กับคณะรัฐมนตรี ระบอบอัตตาธิปไตย การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) เป็นระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ พระจักรพรรดิ หรือ สมมติเทพ ทรงเป็นประมุขของรัฐ และมีสิทธิ์ขาดในการบริหารประเทศ โดยคำสั่งและความต้องการต่าง ๆ ของพระมหากษัตริย์ล้วนมีผลเป็นกฎหมายทั้งสิ้น พระมหากษัตริย์มีอำนาจในการปกครองแผ่นดินและประชาชนโดยอิสระ โดยไม่มีกฎหมายหรือองค์กรตามกฎหมายใด ๆ จะสามารถห้ามปรามได้ และจะมีการใช้วิธีการสืบสันตติวงศ์ เพื่อสืบทอดตำแหน่งประมุขของรัฐต่อไป การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อันทรงภูมิธรรม (Enlightened Absolutism) เป็นระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ พระจักรพรรดิ หรือ สมมติเทพ ทรงเป็นประมุขของรัฐ ซึ่งจะเรียกว่า ประมุขผู้ทรงภูมิธรรม (Enlightened despots) ซึ่งระบอบนี้เป็นระบอบที่ได้รับอิทธิพลจากยุคเรืองปัญญา โดยพระมหากษัตริย์มีแนวโน้มที่จะมีพระบรมราชานุญาตให้มีหลักขันติธรรมทางศาสนาและเสรีภาพ รวมถึงสิทธิ์ของประชาชนทั่วไปในการครอบครองทรัพย์สิน อันเป็นการช่วยสร้างความเจริญก้าวหน้าทางศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และการศึกษา การปกครองระบอบเผด็จการ (Dictatorship) เป็นรูปแบบการปกครองแบบอัตตาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลอยู่ภายใต้การบริหารของบุคคลเพียงคนเดียว หรือ ผู้เผด็จการ โดยไม่มีการสืบทอดตำแหน่งตามสายเลือด แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบ่งตามการเลือกตั้งรัฐบาล แบบประชาธิปไตย ที่มีอำนาจเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ซึ่งแบ่งเป็น 2 คือ แบบตรง ประชาชนมีสิทธิ์ลงคะแนนโหวตทุกคนทั้ง..ออกกฎหมาย บริหาร และตุลาการ โดยเรียกว่า "ลงประชามติ" เหมาะสำหรับนครรัฐที่มีประชากรไม่กี่แสนคน แบบอ้อม ประชาชนจะเลือกตัวแทนตนเอง เข้าไปทำหน้าที่ในการปกครองใน 3 อำนาจหลัก อำนาจอธิปไตย อำนาจอธิปไตย. 1. Legislative Power นิติบัญญัติ เลือกตัวแทนประชาชนเข้าไปโหวตออกกฎหมายในสภา แบ่งเป็น 1.1 สภาล่าง (Lower House) มีหน้าที่ตราร่างออกฎหมาย เรียกว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 1.2 สภาบน (Upper House) มีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย เรียกว่า วุฒิสมาชิก (ส.ว.) 2.Executive Power เลือกตัวแทนประชาชนไปบริหารเงินภาษีใช้บำรุงพัฒนาประเทศให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เรียกว่ารัฐบาล มีทั้งส่วนกลาง เช่นเลือกนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีไปเลือกคณะรัฐมนตรี และส่วนท้องถิ่น เช่นเลือกผู้ว่าราชการ และนายอำเภอ 3.Judicial Power ตุลาการ ประชาชนเลือกตัวแทนไปเป็นคณะลูกขุนมีหน้าที่ตัดสินคดีความ ส่วนศาลหรือผู้พิพากษาที่แต่งตั้งโดยรัฐมีหน้าที่ชี้แนะข้อกฎหมายแต่ไม่มีอำนาจตัดสิน ระยะเวลาหรือเทอมในการให้อำนาจตัวแทนประชาชน มีเวลาจำกัด ระหว่าง 4-5 ปี และให้ตำแหน่งฝ่ายบริหารจำกัดไม่เกิน 2 สมัย หรือมากกว่าแล้วแต่ประเทศ เพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจ 3.Socialist สังคมนิยม คือวิวัฒนาการมาจากระบอบคอมมูนิสต์ หรือยอมรับพรรคหรือความคิดแบบคอมมูนิสต์ได้ แบ่งเป็น 2 แบบคือ 3.1 สังคมนิยมเผด็จการ ปกครองด้วยพรรคเดียวเช่นพรรคคอมมูนิสต์พรรคเดียว แต่แบ่งให้เอกชนหรือประชาชนถือครองทรัพย์สินและทำธุรกิจแทนรัฐได้บางส่วน 3.2 สังคมนิยมประชาธิปไตย มีหลักปกครองเช่นเดียวกับประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง แต่รัฐถือครองหรือทำธุรกิจบางส่วน ที่เรียกว่า "รัฐวิสาหกิจ" บางส่วนให้ประชาชนประกอบธุรกิจและถือครองทรัพย์สินได้ บางประเทศยังมีพรรคคอมมูนิสต์ บางประเทศไม่มีพรรคคอมมูนิสต์เหลืออยู่ บางประเทศรัฐไม่ประประกอบธุรกิจแต่มีพรรคคอมมูนิสต์อยู่ ประเทศที่รัฐไม่ประกอบธุรกิจ..จะเรียกว่า Capitalist หรือ "ระบอบทุนนิยม" ซึ่งตรงข้ามกับ Communist ที่รัฐเท่านั้นที่ประกอบธุรกิจ ประชาชนไม่สามรถถือครองทรัพย์สินได้ แต่คอมมูนิสต์ได้ล่มสลายไปหมดแล้วส่วนใหญ่จะกลายเป็นแบบ "รัฐสังคมนิยมเผด็จการ" เช่น รัสเซีย จีน เวียดนาม การปกครองจึงแบ่งตามอำนาจที่ใช้ปกครองประเทศ และการถือครองทรัพย์สินระหว่างรัฐและเอกชน
thaiwikibooks
195,598
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์
นอกจากการแทรกข้อมูลทั้งแถวหรือทั้งคอลัมน์แล้ว เรายังสามารถแทรกข้อมูลเฉพาะบางเซลล์ได้ด้วย สำหรับตารางที่มีข้อมูลอยู่แล้ว การแทรกข้อมูลเฉพาะบางเซลล์จะต้องมีการเลื่อนข้อมูลเดิมที่อยู่ในเซลล์เหล่านั้นไปทางขวาหรือลงล่างก่อน เพื่อให้เกิดพื้นที่ว่างสำหรับป้อนข้อมูล เลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องการให้ขยับไป เพื่อให้เกิดพื้นที่สำหรับแทรกข้อมูล คลิกเมาส์ปุ่มขวาจะปรากฏเมนูให้เลือกคำสั่ง Insert (แทรก) เลือก Shift cells down (เลื่อนเซลล์ลง) ถ้าต้องการให้เซลล์ที่เลือกขยับลงล่าง หรือShift cells right (เลื่อนเซลล์ไปทางขวา) ถ้าต้องการให้เซลล์ที่เลือกขยับไปทางขวา คลิกเมาส์ปุ่ม ข้อมูลในเซลล์ที่เลือกไว้จะเลื่อนไปตามที่กำหนด ป้อนข้อมูลที่ต้องการแทรกในเซลล์ที่ว่าง ในขั้นตอนที่ 3 ถ้าเราเลือก Entire row (แถวทั้งหมด) จะเป็นการเพิ่มแถวใหม่ โดยแถวข้อมูลของเซลล์ที่เลือกจะถูกขยับลงล่าง และถ้าเราเลือก Entire column (คอลัมน์ ทั้งหมด) จะเป็นการเพิ่มคอลัมน์ใหม่โดยคอลัมน์ของเซลล์ที่เลือกจะถูกขยับไปทางขวา สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,599
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์
เมื่อเราพิมพ์ข้อมูลผิดหรือไม่ต้องการใช้ข้อมูลในบางเซลล์อีกต่อไป มีการลบข้อมูลอยู่ 2 วิธีที่สามารถทำได้ คือ การลบเฉพาะข้อมูลในเซลล์ หรือการนำข้อมูลในเซลล์ติดกันมาแทนที่ ลบเฉพาะข้อมูลในเซลล์ ลบข้อมูลในเซลล์และเลื่อนข้อมูลในเซลล์ข้างๆมาแทนที่ ลบข้อมูลในเซลล์และเลื่อนข้อมูลในเซลล์ข้างๆมาแทนที่. ลบข้อมูลทั้งแถวและให้เซลล์ที่อยู่ติดกันเลื่อนมาแทนที่ ลบข้อมูลทั้งคอลัมน์และให้เซลล์ที่อยู่ติดกันเลื่อนมาแทนที่ NOTE "ในการลบคอลัมน์ใดคอลัมน์หนึ่ง หากในคอลัมน์นั้นได้มีแถวใดแถวหนึ่งที่เราได้ทำการผสานเซลล์เอาไว้ จะทำให้ไม่สามารถลบคอลัมน์นั้นได้ หากเราจะลบคอลัมน์นั้นจริงๆ จะต้องยกเลิกการผสานเซลล์ออกก่อน จึงจะสามารถทำการลบคอลัมน์นั้นได้ ลบข้อมูลบางส่วนและให้เซลล์ที่อยู่ติดกันเลื่อนมาแทนที่" เลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องการลบ คลิกเมาส์ปุ่มขวาจะปรากฏเมนู ให้เลือก Delete (ลบ) คลิกเมาส์เลือกแนวการลบ Shift cells up (เลื่อนเซลล์ขึ้น) ถ้าต้องการให้เซลล์แถวล่างขยับมาแทนที่ คลิกเมาส์ปุ่ม ข้อมูลในเซลล์ที่เลือกจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลในเซลล์อื่น ในขั้นตอนที่ 3 ถ้าเราเลือก Delete entire row(s) จะเป็นการลบข้อมูลทั้งแถวของเซลล์ที่เราเลือกอยู่ โดยข้อมูล ในเซลล์แถวล่างทั้งแถวจะขยับมาแทนที่ Delete entire column(s) จะเป็นการลบข้อมูลทั้งคอลัมน์ของเซลล์ที่เราเลือกอยู่ โดย ข้อมูลในเซลล์คอลัมน์ขวาจะขยับมาแทนที่ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,600
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว
ปรับความกว้างของคอลัมน์ ปรับความกว้างของคอลัมน์. เมื่อเราพิมพ์ข้อความที่มีความยาวเกินขนาดความกว้างของเซลล์ จะทำให้ข้อความนั้นล้นออกมากินพื้นที่ของเซลล์ที่อยู่ติดทางขวาถ้าเซลล์ที่อยู่ทางขวานั้นว่าง แต่ถ้าเซลล์ที่อยู่ทางขวามีข้อมูลอยู่แล้ว Calc จะไม่สามารถแสดงข้อมูลที่ล้นออกมาได้ สำหรับกรณีที่ข้อมูลเป็นตัวเลข ถ้าจำนวนหลักและทศนิยมมีความยาวมากกว่าความกว้างของเซลล์ Calc จะแสดง ######## แทนตัวเลขจำนวนนั้น ที่จริงแล้วข้อมูลไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่ Calc ไม่สามารถนำมาแสดงได้ เพราะความกว้างของเซลล์นั้นน้อยเกินไป วิธีแก้คือปรับความกว้างของคอลัมน์นั้นเพิ่มขึ้น วิธีที่ 1 ปรับความกว้างของคอลัมน์โดยใช้เมาส์ เลื่อน ไปยังชื่อคอลัมน์ที่ต้องการปรับความกว้าง ตรงเส้นแบ่งคอลัมน์ทางขวา จะเปลี่ยนเป็น กดปุ่มซ้ายของเมาส์ค้างไว้ และแดรกเมาส์ไปทางขวาหรือซ้าย เพื่อปรับขนาดคอลัมน์ เมื่อได้ความกว้างที่ต้องการให้ปล่อยเมาส์ ถ้าเราต้องการให้ Calc ปรับความสูงของแถวโดยอัตโนมัติ ให้พอดีแสดงข้อความในทุกๆ เซลล์ที่อยู่ในแถวนั้น ให้ทำตามขั้นตอนที่ 1 และดับเบิลคลิกเมื่อ เปลี่ยนเป็น "ถ้าเราต้องการปรับความสูงหลายแถวทีเดียวพร้อมกัน ในขั้นตอนที่ 1 ให้คลิกเมาส์ชื่อแถวทั้งหมดที่ต้องการปรับความสูงและเลื่อน ไปที่เส้นแบ่งแถวใดที่เลือกไว้ก็ได้ เมื่อเราปรับความสูงของแถวจะมีผลกับทุกแถวที่เลือกไว้ วิธีที่ 2 กำหนดความสูงของแถวโดยการระบุค่าเจาะจง วิธีนี้เหมาะสำหรับในกรณีที่เราต้องการกำหนดความสูงของแถวอย่างเจาะจง ซึ่งการใช้เมาส์วิธีแรกทำได้ไม่สะดวก คลิกเมาส์ปุ่มขวาแถวที่ต้องการปรับความกว้างสูง แล้วเลือก Row Height (ความสูงแถว) จะเข้าหน้าต่าง Row Height (ความสูงแถว) กำหนดความสูงของแถวที่ต้องการในช่อง Height (ความสูง) คลิกเมาส์ปุ่ม สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,601
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด
หากเราใช้คำสั่งผิดก็ให้ใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกคำสั่งที่ได้กระทำไปครั้งล่าสุดได้ เช่น ถ้าเราสั่งลบข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจก็ให้คลิกเมาส์เลือก ในแถบเครื่องมือทันที ข้อมูลที่ถูกลบไปจะถูกคืนกลับมา (แต่ถ้าเราเปลี่ยนใจไม่ต้องการยกเลิกคำสั่งนั้นหลังจากที่ได้ใช้คำสั่ง Undo ไปแล้วให้คลิกเมาส์ที่ ทันทีเพื่อให้ข้อมูลกลับมาอยู่ในสภาพเดิม) ในกรณีที่เราใช้คำสั่งผิดแต่ทราบภายหลังจากที่ได้ใช้ไปแล้วอีกหลายคำสั่ง เราจะต้องยกเลิกคำสั่งทั้งหมดที่ได้ทำหลังจากคำสั่งผิดนั้นก่อนจึงจะใช้ Undo ยกเลิกคำสั่งที่ต้องการได้ ซึ่งทำได้โดยการคลิกเมาส์ปุ่มไปเรื่อยๆ (แต่ถ้าเราเปลี่ยนใจไม่ต้องการยกเลิกคำสั่งที่ได้เพิ่ง Undo เราจะต้องคลิกเมาส์ปุ่ม ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ทำซ้ำคำสั่งต่างๆ ที่เราได้สั่งยกเลิกไป) คลิกเมาส์ปุ่ม เพื่อดูรายการคำสั่งล่าสุดที่ Calc ได้บันทึกไว้ เลือกคำสั่งที่ต้องการยกเลิก คำสั่งที่เลือกไว้จะถูกยกเลิก ดังตัวอย่างเป็นการยกเลิก 2 คำสั่งล่าสุดที่เราได้สั่งไป ลักษณะการยกเลิกคำสั่งในรายการจะต้องทำเป็นลำดับ โดยนับจากคำสั่งล่าสุดเสมอ เราไม่สามารถสั่งยกเลิกเฉพาะบางคำสั่งที่ไม่ได้รวมคำสั่งล่าสุดได้ ถ้าเราไม่ต้องการยกเลิกคำสั่งที่ได้สั่ง Undo ไปทั้งหมด เราสามารถกลับไปสู่สภาพเดิมได้ทันทีโดยเลือกจากรายการที่แสดงข้างขวาปุ่ม คลิกเมาส์ปุ่ม ค้างไว้ เพื่อดูรายการคำสั่งที่เราเพิ่งสั่งยกเลิก เลื่อนเมาส์เลือกคำสั่งทั้งหมดที่ต้องการให้กลับมาทำใหม่ ดังตัวอย่างเป็นการทำซ้ำ 2 คำสั่งล่าสุดที่เราได้สั่งยกเลิกไป ล่าสุดที่เราได้สั่งยกเลิกเสมอ เราไม่สามารถทำซ้ำเฉพาะบางคำสั่งที่ไม่ได้รวมคำสั่งล่าสุดได้ลักษณะการทำซ้ำคำสั่งในรายการ จะต้องทำเป็นลำดับโดยนับจากคำสั่ง สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,602
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ
เมื่อเข้าสู่ Calc เราจะใช้แผ่นงานแรกที่มีชื่อว่า Sheet1 (แผ่นงาน1) ก่อน (ให้สังเกตจากแท็บชีตงานสีขาวที่แสดงแผ่นงานที่ใช้งานอยู่) เราสามารถเปลี่ยนแผ่นงานที่ใช้ได้โดยคลิกเมาส์เลือกแท็บชีตงานที่มีชื่อของแผ่นงานที่ต้องการใช้งาน NOTE เราสามารถสลับแผ่นงานที่ใช้งานอยู่ได้โดยกดปุ่มต่อไปนี้ได้แทนการใช้เมาส์ สลับไปใช้แผ่นงานแผ่นทางขวาจากแผ่นที่ใช้อยู่ สลับไปใช้แผ่นงานแผ่นทางซ้ายจากแผ่นที่ใช้อยู่ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,603
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน
หลังจากที่เราได้ป้อนข้อมูลในแผ่นงานแล้ว ควรเปลี่ยนชื่อแผ่นงานให้สอดคล้องกับข้อมูล เพื่อช่วยเตือนความจำของเรา และทำให้การเรียกใช้ข้อมูลในแผ่นงานนั้นสะดวกยิ่งขึ้น สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,604
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ
แผนภูมิแต่ละชนิดมีความเหมาะสมในการแสดงข้อมูลบางประเภท เพราะฉะนั้นหากเราพบว่าแผนภูมิชนิดที่ใช้ไม่เหมาะกับข้อมูลที่แสดง ก็สามารถเปลี่ยนชนิดของแผนภูมิได้โดยไม่ต้องเสียเวลาลบแผนภูมิเดิม เพื่อสร้างแผนภูมิชนิดที่ต้องการขึ้นมาใหม่ คลิกเมาส์เลือกที่แผนภูมิ คลิกเมาส์ปุ่มขวาในบริเวณพื้นที่ว่าง (Chart Area) ในแผนภูมิ แล้วเลือกคำสั่ง Chart Type (ชนิดแผนภูมิ) หรือคลิกเมาส์ปุ่ม เพื่อเข้าสู่หน้าต่างกำหนดชนิดแผนภูมิ คลิกเมาส์เลือกชนิดและรูปแบบแผนภูมิที่ต้องการ ซึ่งจะแสดงตัวอย่างของแผนภูมิที่เลือกไว้ทางด้านซ้ายมือ คลิกเมาส์ปุ่ม เพื่อสร้างแผนภูมิตามที่เรากำหนด เราจะได้ชนิดของแผนภูมิในรูปแบบใหม่ที่เราเลือกเอาไว้ เราสามารถปรับรูปแผนภูมิให้เป็นแบบ 3 มิติได้ โดยคลิกเมส์เลือกหัวข้อ 3D Look จากหน้าต่าง Chart Type ในการปรับมุมมองของแผนภูมิ เราสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยการใช้เมาส์ ดังนี้ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,605
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ
ชุดข้อมูลในแผนภูมิ คือ กลุ่มข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการวาดแผนภูมิ เมื่อใดที่เราต้องการแก้ไขแผนภูมิและคลิกเมาส์ที่แผนภูมิ Calc จะแสดงชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิให้เห็น โดยจะมีกรอบสีปรากฏล้อมรอบเซลล์ที่ใช้ ดังตัวอย่างมีชุดข้อมูลอยู่ 3 ชุดที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างแผนภูมิ นั่นคือข้อมูลยอดขายแยกตามช่องทางประจำเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม หากเราพบว่าได้มีการกำหนดชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิผิด แต่ทราบปัญหานี้หลังจากที่ได้สร้างแผนภูมิเสร็จแล้ว มีวิธีในการเพิ่มและแก้ไขรายละเอียดชุดข้อมูลในแผนภูมิได้โดยไม่ต้องลบแผนภูมิเดิมที่สร้างผิด และสร้างแผนภูมิใหม่ เพราะที่เราสามารถทำการแก้ไขรายละเอียดในแผนภูมิเดิม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง วิธีลัดในการเพิ่มชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ วิธีลัดในการเพิ่มชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ. ถ้าเราต้องการเพิ่มชุดข้อมูลหรือเปลี่ยนแปลงชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ เช่น ให้แผนภูมิแสดงยอดขายของสินค้าเพิ่มอีก 1 เดือน ให้เลือกชุดข้อมูลทั้งหมดใหม่อีกครั้ง และแดรกเมาส์ลากชุดข้อมูลนั้นไปที่แผนภูมิได้เลย คลิกเมาส์เลือกชุดข้อมูลเก่ารวมถึงชุดข้อมูลใหม่ที่เพิ่มเข้ามาด้วย แดรกเมาส์ลากชุดข้อมูลนั้นไปที่แผนภูมิ คลิกเมาส์ปุ่ม เพื่อยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เกิดขึ้น ชุดข้อมูลที่เลือกจะถูกนำไปแสดงเพิ่มในแผนภูมิ วิธีการลบชุดข้อมูลในแผนภูมิ คลิกเมาส์เลือกชุดข้อมูลในแผนภูมิที่ต้องการลบ จะเกิดแถบสีดำในชุดข้อมูล กดปุ่ม เพื่อลบชุดข้อมูล จะเห็นว่าชุดข้อมูลในแผนภูมิถูกลบไป สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,606
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ
หลังจากการสร้างแผนภูมิเสร็จสิ้น เราสามารถกลับไปปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ และส่วนประกอบย่อยของแผนภูมิได้ เช่น ถ้าแผนภูมิที่สร้างไม่มีหัวข้อหรือชื่อแกน เราสามารถกลับไปเพิ่มได้ โดยการคลิกเมาส์ในบริเวณที่ว่างในรูปแผนภูมิ (Chart Area) และคลิกที่ Format (รูปแบบ) จะแสดงตัวเลือกต่างๆ ให้เราปรับแต่งแผนภูมิได้ • Title (ชื่อ) ปรับแต่งในส่วนของชื่อหลัก • Axis (แกน) ปรับแต่งส่วนของแกนแผนภูมิ • Grid (เส้นแนว) ปรับแต่งในส่วนของเส้นตาราง • Legend (คำอธิบายแผนภูมิ) ปรับแต่งส่วนคำอธิบายแผนภูมิ ปรับแต่งในส่วนของชื่อหลัก ปรับแต่งในส่วนของชื่อหลัก. เราปรับแต่งชื่อหลักของแผนภูมิได้โดยมีแท็บต่างๆ ดังนี้ ปรับแต่งส่วนของแกนของแผนภูมิ ปรับแต่งส่วนของแกนของแผนภูมิ. เราสามารถปรับแต่งแกนของแผนภูมิทั้ง 2 แกน คือ แกน X และแกน Y ให้มีลักษณะตัวอักษร และรูปแบบอักขระที่เราต้องการได้ เพื่อความชัดเจน โดยเลือกการปรับแต่งแกนทั้งหมด ซึ่งจะสามารถปรับแต่งได้ทั้ง 2 แกนพร้อมกัน โดยเลือกคำสั่ง Format>Title>All Titles (รูปแบบ>ชื่อ>ชื่อทั้งหมด) จากนั้นเลือกปรับแต่งส่วนที่ต้องการ ปรับแต่งในส่วนของเส้นตาราง ปรับแต่งในส่วนของเส้นตาราง. เราสามารถปรับแต่งในส่วนของเส้นตารางของแผนภูมิ ให้มีลักษณะของเส้นตารางที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมีเส้นตารางให้เราเลือกหลายรูปแบบ โดยเลือกคำสั่ง Format>Grid>All Grids (รูปแบบ>แกน>แกนทั้งหมด) จากนั้นเลือกปรับแต่งส่วนที่ต้องการ ปรับแต่งส่วนของผนังแผนภูมิ ปรับแต่งส่วนของผนังแผนภูมิ. เราสามารถปรับแต่งพื้นหลังของแผนภูมิให้มีสีหรือเส้นบรรทัด ความโปร่งแสงกับส่วนที่เป็นผนังของแผนภูมิ เพื่อให้ดูโดดเด่นขึ้นได้โดยเลือก Format>Chart Wall (รูปแบบ>ผนังแผนภูมิ) และเลือกปรับแต่งส่วนที่ต้องการ ปรับแต่งในส่วนของพื้นที่แผนภูมิ ปรับแต่งในส่วนของพื้นที่แผนภูมิ. เราสามารถที่จะปรับแต่งพื้นที่แผนภูมิให้มีฉากประกอบที่สวยงามให้กับแผนภูมิได้ เช่น ใส่เส้นบรรทัด, สี และความโปร่งแสงให้กับพื้นที่แผนภูมิ โดยเลือก Format>Chart Area (รูปแบบ>พื้นที่แผนภูมิ) และเลือกปรับแต่งส่วนที่ต้องการ แสดงและกำหนดตำแหน่งจัดวางคำอธิบาย แสดงและกำหนดตำแหน่งจัดวางคำอธิบาย. Legend คือ คำอธิบายแผนภูมิ เราสามารถปรับตำแหน่ง Legend ได้โดยดับเบิ้ลคลิกที่ Legend จากนั้นไปที่แท็บ Position (ตำแหน่ง) และเลือกตำแหน่งจัดวาง Legend ที่ต้องการ การใช้ค่ากำกับข้อมูลในแผนภูมิ การใช้ค่ากำกับข้อมูลในแผนภูมิ. เรากำหนดให้แสดงค่ากำกับข้อมูลในแผนภูมิในแต่ละแผนภูมิได้ โดยดับเบิ้ล คลิกที่แท่งแผนภูมิแต่ละแท่ง เพื่อเลือกให้มีการกำหนดค่ากำกับข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้การวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลเป็นไปได้อย่างชัดเจน สำหรับตัวเลือกต่างๆ มีรายละเอียด ดังนี้ แสดงคำอธิบายแผนภูมิ แสดงคำอธิบายแผนภูมิ. เราสามารถกำหนดให้มีการแสดง หรือไม่แสดงคำอธิบายของแผนภูมิได้ โดยการคลิกเมาส์ปุ่ม ให้ยุบลงถ้าให้มีการแสดงคำอธิบายแผนภูมิ แต่หากไม่ให้มีการแสดงคำอธิบายแผนภูมิก็ให้คลิกเมาส์ปุ่ม นี้อีกครั้ง แสดงเส้นตารางแนวนอนและเส้นตารางแนวตั้ง แสดงเส้นตารางแนวนอนและเส้นตารางแนวตั้ง. หากเราต้องการให้มีเส้นตารางปรากฏขึ้นทั้งแนวนอนและแนวตั้งของแผนภูมิให้คลิกเมาส์ปุ่มเพื่อกำหนดเส้นตารางในแนวนอนและคลิกเมาส์ปุ่มเพื่อกำหนดเส้นตารางในแนวตั้งแต่หากไม่ต้องการให้มีการแสดงเส้นตารางทั้งแนวนอนและแนวตั้งก็ให้คลิกเมาส์ปุ่มทั้งสองนี้อีกครั้งหนึ่ง การย้ายตำแหน่งส่วนประกอบย่อยในรูปแผนภูมิ การย้ายตำแหน่งส่วนประกอบย่อยในรูปแผนภูมิ. เราสามารถย้ายตำแหน่งส่วนประกอบย่อยในแผนภูมิเช่นชื่อเรื่องแผนภูมิคำอธิบายหรือ Legend โดยการคลิกเมาส์เลือกส่วนประกอบนั้นจะปรากฏกรอบล้อมรอบส่วนนั้นเลื่อนไปที่เส้นขอบคลิกเมาส์ปุ่มซ้ายค้างไว้และแดรกเมาส์ไปยังตำแหน่งใหม่ที่ต้องการ สำหรับส่วนประกอบย่อยอื่นๆ ในแผนภูมิที่เราคลิกเมาส์เลือกได้มีดังนี้ สำหรับส่วนประกอบย่อยอื่นๆ ในแผนภูมิที่เราคลิกเมาส์เลือกได้มีดังนี้. TIP ในแผนภูมิที่มีส่วนประกอบย่อยมากมาย การใช้เมาส์เลือกส่วนที่เราต้องการ บางครั้งอาจทำได้ยาก ในกรณีเช่นนี้ขอแนะนำให้เลื่อน ไปอยู่เหนือส่วนที่ต้องการก่อนแต่ยังไม่คลิกเมาส์เลือกเพื่อให้ Calc แสดงชื่อส่วนประกอบนั้นให้เห็น ถ้าเป็นส่วนประกอบที่เราต้องการจึงค่อยคลิกเมาส์เลือก สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,607
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม
ในส่วนนี้ขอกล่าวถึงเทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติมที่เรานำมาใช้ เพื่อปรับแต่งแผนภูมิที่เราสร้างให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับเรามากที่สุด เพิ่มคำบรรยายในแผนภูมิ เพิ่มคำบรรยายในแผนภูมิ. เราสามารถเพิ่มคำบรรยายในแผนภูมิ เพื่อใช้สื่อสารประเด็นที่ต้องการได้โดยเลือกคำสั่ง Insert>Title (แทรก>ชื่อ) จะปรากฏหน้าต่างชื่อขึ้นมาให้คลิกเมาส์ที่หัวข้อชื่อรอง จากนั้นพิมพ์คำบรรยายเพิ่มเติมลงไปใน Subtitle (ชื่อรอง) และใช้เมาส์เลื่อนคำบรรยายไปที่ตำแหน่งในรูปแผนภูมิที่ต้องการ การแก้ไขข้อความในรูปแผนภูมิ การแก้ไขข้อความในรูปแผนภูมิ. เราสามารถแก้ไขส่วนที่เป็นข้อความในแผนภูมิ ไม่ว่าจะเป็นคำบรรยายในแผนภูมิที่เพิ่มเข้าไป ชื่อแกน หรือชื่อแผนภูมิได้ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,608
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล
ภาพที่แสดงในแผ่นงานมีความแตกต่างจากข้อมูล เพราะไม่ได้อยู่ในเซลล์ใดเซลล์หนึ่ง แต่เป็นภาพที่ถูกนำมาแปะบนแผ่นงานเท่านั้น ดังนั้นรูปภาพกับข้อมูลในตารางจะไม่เกี่ยวข้องกัน กล่าวคือเราสามารถย้ายหรือปรับแต่งภาพได้โดยไม่มีผลกับข้อมูลแต่อย่างใด และถึงแม้รูปภาพจะบดบังข้อมูลในตาราง เราก็ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งานได้ตามปกติ มีขั้นตอนสำหรับนำภาพมาแสดงในแผ่นงานดังนี้ เลือกเซลล์ที่ต้องการใช้เป็นจุดวางภาพ เลือกคำสั่ง Insert>Picture>From File...(แทรก>กราฟิก>จากแฟ้ม) ระบุตำแหน่งเก็บไฟล์ภาพที่ต้องการในกรอบ Look in คลิกเมาส์เลือกภาพที่ต้องการ คลิกเมาส์ปุ่ม เพื่อนำรูปภาพจากไฟล์ที่เลือกมาแสดงในแผ่นงาน เคลื่อนย้ายตำแหน่งภาพ และปรับขนาดภาพ เคลื่อนย้ายตำแหน่งภาพ และปรับขนาดภาพ. ถ้าต้องการปรับขนาดภาพให้คลิก เมาส์ที่ภาพจะปรากฏสัญลักษณ์ ล้อมรอบขอบภาพ ให้คลิกเมาส์ที่ และลากปรับขนาดได้ตามต้องการ เมื่อเสร็จแล้วให้กดคีย์ ก็จะเป็นการจบขั้นตอนการปรับขนาด สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,609
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์
เมื่อต้องการอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณที่มีชื่อหัวคอลัมน์ เราอาจใช้ชื่อคอลัมน์นั้นแทนตำแหน่งเซลล์ได้ เช่น ในตัวอย่างเราสามารถพิมพ์ “=จำนวน*ราคา” แทนการใช้สูตร “=D5*E5” ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้การเขียนสูตรสะดวกเพราะเราไม่ต้องจดจำชื่อเซลล์แล้วยังทำให้สูตรดูเข้าใจง่ายด้วย โดยเมื่อเราคัดลอกสูตรที่อ้างอิงชื่อคอลัมน์นี้ Calc จะเปลี่ยนเซลล์ที่อ้างอิงให้โดยอัตโนมัติทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องเสมอ คลิกเมาส์เลือกเซลล์ G5 ถึง G7 ที่จะตั้งชื่อเป็นหัวคอลัมน์แรก เลือกคำสั่ง Insert>Names>Define (แทรก>ชื่อ>กำหนด) เพื่อเข้าสู่หน้าต่างกำหนดชื่อ พิมพ์ชื่อหัวคอลัมน์แรกที่เราต้องการ ให้เป็นชื่อว่า จำนวน คลิกเมาส์ปุ่ม เพื่อตกลงการกำหนดชื่อที่ต้องการ คลิกเมาส์เลือกเซลล์ H5-H7 ที่จะตั้งชื่อเป็นหัวคอลัมน์ที่สอง เลือกคำสั่ง Insert>Names>Define (แทรก>ชื่อ>กำหนด) เพื่อเข้าสู่หน้าต่างกำหนดชื่อ พิมพ์ชื่อหัวคอลัมน์ที่สองที่เราต้องการ ให้เป็นชื่อว่า ราคา คลิกเมาส์ปุ่ม เพื่อตกลงการกำหนดชื่อที่ต้องการ ใส่สูตรคำนวณโดยนำชื่อหัวคอลัมน์ที่เรากำหนด มาใส่สูตรเป็น “=ราคา/จำนวน” แล้วคัดลอกลงมา สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,610
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน
ขอบเขตของการอ้างอิงเซลล์ในสูตรไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะในแผ่นงานใดแผ่น งานหนึ่งเท่านั้น แต่เราสามารถอ้างอิงเซลล์ที่อยู่ต่างแผ่นงาน (แต่อยู่ในสมุดงานเดียวกัน) หรืออ้างอิงเซลล์ที่อยู่ต่างสมุดงานได้ด้วย วิธีอ้างอิงเซลล์ที่อยู่ต่างแผ่นงาน วิธีอ้างอิงเซลล์ที่อยู่ต่างแผ่นงาน. การอ้างอิงเซลล์ที่อยู่ต่างแผ่นงาน สามารถทำได้โดยใช้ชื่อของแผ่นงานนำหน้าตำแหน่งของเซลล์ที่ต้องการอ้างอิงในสูตร เช่น ในตัวอย่างข้อมูลยอดขายของสินค้าแต่ละประเภทได้ถูกแยกเก็บในแผ่นงาน ชื่อ “IT Books”, “SE Books” และ “CD_ROM” ดังรูป เมื่อเราต้องการหายอดขายรวมประจำไตรมาส และต้องการบันทึกค่านั้นไว้ในแผ่นงานใหม่ เราจะต้องป้อนสูตรคำนวณที่อ้างอิงเซลล์ C10 (จำนวน) และเซลล์ E10 (จำนวนเงิน) ในแต่ละแผ่นงาน สร้างแผ่นงานใหม่# ป้อนสูตรคำนวณ =’IT Books’!C10 ในเซลล์ที่ต้องการใส่ยอดขายสินค้าประเภทหนังสือคอมพิวเตอร์ และกด Calc จะแสดงผลรวมยอดขายหนังสือในเซลล์นั้น วิธีอ้างอิงเซลล์ข้ามสมุดงาน วิธีอ้างอิงเซลล์ข้ามสมุดงาน. เราสามารถอ้างอิงเซลล์ที่อยู่ต่างสมุดงานโดยใช้รูปแบบ ดังนี้ เช่น เราอาจพิมพ์ “=’c:/My documents/BOOK1.ods’#$ SheetF1.F11” ในสูตรคำนวณ เพื่ออ้างอิงเซลล์ F11 ในแผ่นงาน “Sheet1” ของสมุดงาน “BOOK1” ที่เก็บในโฟลเดอร์ My documents ในไดรว์ C: สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,611
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด
การป้อนสูตรวิธีที่ผ่านมาทำได้ยาก เพราะเราต้องจำตำแหน่งเซลล์ในแต่ละแผ่นงาน การใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์เมื่อป้อนสูตรจะสะดวกกว่า ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน เลือกเซลล์ที่ต้องการป้อนสูตร และพิมพ์ = คลิกเมาส์แท็บชีตงานที่ต้องการอ้างอิงในสูตร เลือกเซลล์ที่ต้องการอ้างอิงในสูตร กด เซลล์ที่เลือกจะถูกนำมาใช้ในสูตรคำนวณ เราสามารถใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ที่อยู่ต่างสมุดงานได้เช่นกัน โดยเริ่มแรกเราต้องเปิดสมุดงานที่ต้องการอ้างอิงพร้อมกับสมุดงานที่เรากำลังทำงานอยู่ ซึ่งหลังจากพิมพ์ “=” ในเซลล์ที่ต้องการป้อนสูตร ให้คลิกเมาส์เลือกเซลล์ต่างสมุดงานที่เราต้องการอ้างอิงได้เลย และกด NOTE รายละเอียดการเปิดหลายสมุดงานพร้อมกันได้กล่าวไว้ในบทที่ 14 หัวข้อ “เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน” สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,612
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร
แม้การใช้ตำแหน่งอ้างอิงของเซลล์ในสูตรจะมีประโยชน์ แต่มีข้อเสียคือ เราต้องจดจำตำแหน่งของเซลล์ต่างๆ เช่น B5 หรือ D7 เป็นต้น มีวิธีที่ง่ายกว่านี้คือ การตั้งชื่อเซลล์ หรือกลุ่มเซลล์ให้มีชื่อสอดคล้องกับค่าในเซลล์เหล่านั้น และนำชื่อที่ตั้งมาใช้ในสูตร เช่น ในตัวอย่างที่แล้ว เราสามารถตั้งชื่อเซลล์ที่เก็บยอดขายสินค้าหมวด CD-ROM เป็น TOT_CDROM และใช้สูตร =TOT_CDROM เพื่ออ้างอิงค่าในเซลล์นั้นได้เลย สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,613
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น
ใน Calc มีฟังก์ชั่นมากกว่า 300 ฟังก์ชั่นสำหรับทำหน้าที่ต่างๆ อาทิเช่น การคำนวณตัวเลข การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติและการเงิน และการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งแต่ละฟังก์ชั่นจะมีรายละเอียดการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่พอสรุปส่วนประกอบของฟังก์ชั่นได้ดังนี้ สำหรับการป้อนค่า argument ในฟังก์ชั่น เราจะต้องทราบก่อนว่าฟังก์ชั่นที่เรากำลังใช้งานอยู่นั้น รับค่า argument แบบใดบ้าง ซึ่งเราอาจใส่ข้อมูลที่เป็นตัวเลขเข้าไปได้โดยตรง เช่น =sum(18700,9800,7200) เพื่อให้หาผลรวมระหว่างค่า 18700 9800 7200 หรืออาจกำหนดให้ฟังก์ชั่นอ้างอิงค่าในเซลล์ก็ได้ เช่น =sum(E5:E7) สำหรับการใช้ฟังก์ชั่นบางประเภทเราอาจต้องป้อนค่า argument ที่เป็นข้อความ เวลา หรือวันที่ โดยจะต้องอยู่ในเครื่องหมาย “” เสมอ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,614
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ
ถ้าเราพิมพ์ข้อความผิดตำแหน่งในเอกสาร ก็ไม่จำเป็นต้องลบข้อมูลและพิมพ์ใหม่อีกทีหนึ่งให้เสียเวลา แต่สามารถย้ายข้อความไปยังตำแหน่งอื่นในเอกสารได้เลย ซึ่งมี 2 วิธีที่เราสามารถเลือกใช้ได้ วิธีที่ 1 ใช้เมาส์ย้ายข้อความในระยะใกล้ๆ ถ้าข้อความที่เราต้องการย้ายกับตำแหน่งปลายทางนั้นอยู่ใกล้กัน เราอาจใช้เมาส์ย้ายข้อความได้เลย ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว ใช้เมาส์เลือกข้อความที่ต้องการย้ายและคลิกเมาส์ค้างไว้ ลากข้อความไปยังตำแหน่งที่ต้องการในเอกสาร เมื่อเราปล่อยเมาส์ ข้อมูลก็จะถูกย้ายไปที่ตำแหน่งใหม่ ถ้าเราใช้เมาส์ไม่ถนัดมีวิธีย้ายข้อมูลโดยการใช้ปุ่มคำสั่ง Cut (ตัด) และ Paste (วาง) เลือกข้อความที่ต้องการย้าย คลิกเมาส์ปุ่มขวาเลือกคำสั่ง Cut (ตัด) หรือคลิกเมาส์ปุ่ม เลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการใส่ข้อความ แล้วคลิกเมาส์ปุ่มขวาเลือกคำสั่ง Paste (วาง) หรือคลิกเมาส์ปุ่ม ข้อความจะถูกย้ายไปที่ตำแหน่งใหม่ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,615
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ
ถ้าเราต้องพิมพ์ข้อความซ้ำๆ กัน เราควรใช้วิธีคัดลอกข้อความไปยังตำแหน่งที่ต้องการในเอกสารจะเร็วกว่า ซึ่งวิธีคัดลอกข้อความจะคล้ายกับการย้ายข้อความ วิธีที่ 1 ใช้เมาส์คัดลอกข้อความ เลือกข้อความที่ต้องการคัดลอกและคลิกเมาส์ค้างไว้ กดปุ่ม ค้างไว้ และลากข้อความไปยังตำแหน่งที่ต้องการคัดลอกในเอกสาร สังเกตที่ตัวชี้เมาส์จะมีเครื่องหมายบวกอยู่ด้วย แสดงว่าเป็นการคัดลอกไม่ใช่การย้ายข้อความ เมื่อเราปล่อยเมาส์ ข้อความก็จะถูกคัดลอกไปที่ตำแหน่งใหม่ เลือกข้อความที่ต้องการย้าย คลิกเมาส์ปุ่มขวาเลือกคำสั่ง Copy (คัดลอก) หรือคลิกปุ่ม ลากเมาส์เลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการใส่ข้อความและคลิกเมาส์ปุ่มขวา เลือกคำสั่ง Paste (วาง) หรือคลิกปุ่ม แสดงข้อความก็จะถูกคัดลอกไปที่ตำแหน่งใหม่ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,616
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร
หากเราไม่ต้องการเสียเวลากำหนดฟอนต์ให้กับข้อความในเอกสาร ก็อาจกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสารได้เลย โดยเลือก Tools>Options (เครื่องมือ>ตัวเลือก) คลิกที่ OpenOffice.org Writer และกำหนดค่า ได้ที่หัวข้อ Basic Fonts (Western) (แบบอักษรพื้นฐาน (ตะวันตก)) สำหรับฟอนต์ภาษาอังกฤษ และที่หัวข้อ Basic Fonts (CTL) (แบบอักษรพื้นฐาน (ภาษาไทยและภาษาซับซ้อนอื่นๆ)) สำหรับฟอนต์ภาษาไทย โดยมีส่วนต่างๆ ได้แก่ Default (ข้อความปกติ) Heading (หัวข้อ) List (รายการ) Caption (คำบรรยาย) Index (ดัชนี) สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,617
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า
สไตล์คือรูปแบบย่อหน้าสำเร็จรูปที่เรานำมาใช้ในเอกสารของเราได้ ซึ่งแบ่งเป็นสไตล์สำหรับย่อหน้าแต่ละแบบ ตั้งแต่ หัวข้อ (Heading) ซึ่งมีหลายระดับตั้งแต่ Heading1, Heading2 ไปเรื่อยๆ รายการ (List) และข้อความ (Text body) การนำสไตล์มาใช้กำหนดรูปแบบย่อหน้าสะดวก เพราะบ่อยครั้งเนื้อหาในเอกสารนั้นมีส่วนที่คล้ายกัน ทำให้ไม่ต้องกำหนดรูปแบบแต่ละส่วนซ้ำๆ กัน กำหนดสไตล์ย่อหน้าให้กับข้อความ กำหนดสไตล์ย่อหน้าให้กับข้อความ. สำหรับการกำหนดสไตล์ให้กับหัวข้อต่างๆ ในเอกสารทำได้ โดยเลือก Format> Paragraph (รูปแบบ>ย่อหน้า) จะปรากฏหน้าต่าง Style and Formatting ที่แสดงรายการสไตล์สำเร็จรูปต่างๆ ที่นำมาใช้ได้ จากนั้นให้เราคลิกเลือกข้อความและคลิกชื่อสไตล์ที่จะใช้ ก็จะมีผลกับรูปแบบของข้อความทันที ดังตัวอย่างเรากำหนดให้หัวข้อใช้สไตล์ Heading1 ปรับสไตล์ย่อหน้า ปรับสไตล์ย่อหน้า. เราปรับแต่งสไตล์ย่อหน้าได้ โดยคลิกขวาชื่อสไตล์ที่ต้องการปรับในหน้าต่าง Style and Formatting เลือก Modify จะปรากฏหน้าต่าง Paragraph Style ซึ่งมีแท็บต่างๆ ให้เรากำหนดได้ ดังตัวอย่างที่แท็บ Font เรากำหนดรูปแบบตัวอักษรสำหรับภาษาอังกฤษ (Western text font) และภาษาไทย (CTL font) ใหม่ ดังรูป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะมีผลทันทีกับหน้าเอกสารที่เรากำหนดสไตล์นี้ไว้ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,618
โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้
ให้เราเลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบฟอนต์และคลิกเมาส์ลูกศรข้างปุ่ม แล้วเลือกรูปแบบฟอนต์ได้จากรายการ สารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/Calc ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อคัดเลือกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กราฟกับการนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อความโดยอัตโนมัติด้วย AutoText โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกรอกข้อมูลและการเลื่อนเคอร์เซอร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนด Margin ให้หน้ากระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดตำแหน่งแท็บหยุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การกำหนดฟอนต์เริ่มต้นให้กับเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขและปรับเปลี่ยนชุดข้อมูลที่ใช้สร้างแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแก้ไขสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การขีดเส้นตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเข้าสู่โปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเขียนสมการคณิตศาสตร์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาและแทนที่ข้อความในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสารด้วย Navigation โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคัดลอกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การคำนวณค่าในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดกลุ่มและการจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการกับวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดการรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ชิดซ้ายหรือชิดขวาในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดตำแหน่งวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดทำสารบัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดแนวการวางของข้อความในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงข้อความในมุมมอง Outline โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การจัดเรียงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ AutoFormat ตกแต่งตารางโดยอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Autosum โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ Bookmark และการอ้างอิงโยง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo เพื่อยกเลิกสิ่งที่ทำผิดพลาด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้คำสั่ง Undo และ Redo โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้งาน OpenOffice.org แทน Microsoft Office โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้แผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ฟังก์ชั่นนำร่องอัตโนมัติสร้างฟังก์ชั่นที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้ภาพประกอบข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้มุมมองต่างๆ ใน Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สไตล์ย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใช้สูตรกับข้อมูลที่อยู่ต่างแผ่นงานและสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การดัดแปลงวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งตารางด้วย AutoFormat โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตกแต่งสีภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตรึงแถวหรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งกั้นหน้าและกั้นหลัง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตั้งเวลาในการบรรยายสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การติดตั้ง OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การทำดัชนี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อความ และการลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกข้อมูลบางเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกภาพลงบนเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเข้าตารางจากฐานข้อมูลอื่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำสูตรไปใช้ในงานเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การนำเสนองานด้วยภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การบันทึกเอกสารเป็น PDF โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแบ่งเนื้อหาเอกสารโดยการขึ้นหน้าใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดของตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับขนาดวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับข้อมูลให้ชิดด้านบน กึ่งกลาง หรือด้านล่างช่องตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับความสว่างและความคมชัดของภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับแต่งโหมดกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปรับเปลี่ยนลำดับสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การปิดเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนชนิดและรูปแบบแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังเฉพาะพื้นที่วัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเปิดเอกสารที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การผสานช่องเซลล์และการแยกช่องเซลล์ในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ข้อความเบื้องต้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์ซองจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การพิมพ์เอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มแถวและคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเพิ่มและลบแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย่อ/ขยายมุมมอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายตำแหน่งกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การย้ายและคัดลอกสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การรวมกลุ่มและแยกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเรียงลำดับข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบแถวหรือลบคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การลบสไลด์/หัวข้อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกข้อความและการทำงานกับกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์ แถว หรือคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกตัวอักษรหรือข้อความบางส่วน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกฟอนต์ที่ใช้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การเลื่อนดูเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปร่างอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดรูปอิสระ Freeform โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดสี่เหลี่ยมหรือวงกลม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นเชื่อม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นที่มีหัวลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การวาดเส้นและลูกศร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างกราฟ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างงานพรีเซนเตชั่นชิ้นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างจดหมาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตัวเชื่อมต่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างตารางและฟิลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างบันทึกย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างสรุปภาพนิ่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การสร้างเอกสารใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การแสดงงานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความในหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อความลงในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ข้อมูลในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่เชิงอรรถ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่ลำดับเลขหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การใส่สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การหมุนวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกจากโปรแกรม OpenOffice.org Writer โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การออกแบบระบบฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/การอ้างอิงเซลล์ในสูตรคำนวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดการใช้งาน OpenOffice.org สำหรับภาษาไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความที่แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อความเป็นตัวหนา-ตัวเอนและขีดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดข้อมูลให้แสดงเป็นตัวหนา ตัวเอน และขีดเส้นใต้ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดคุณสมบัติวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อกลุ่มเซลล์และนำมาใช้ในสูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดชื่อเรื่องของสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลข โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรที่แสดงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบและขนาดตัวอักษรให้กับข้อความในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดรูปแบบหน้ากระดาษก่อนเริ่มทำงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/กำหนดให้ OpenOffice.org เซฟไฟล์งานอัตโนมัติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดโดยอัตโนมัติด้วย AutoCorrect โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอความช่วยเหลือใน OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ขอดูผลลัพธ์การคำนวณบนหน้าจอด้วย Auto Calculate โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนสูตรและฟังก์ชั่นผิด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจการใช้สูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใจรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าใช้งานโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เข้าสู่โปรแกรม Draw โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอก/การย้ายแผ่นงานข้ามสมุดงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คัดลอกสูตรอย่างรวดเร็วด้วย AutoFill โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/คู่มือติดตั้ง OpenOffice.org 2.0 โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดรูปทรงสามมิติ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดสี่เหลี่ยมและรูปทรงอิสระ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เครื่องมือวาดเส้น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรูปแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เคลื่อนย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/งานพรีเซนเตชั่นกับการพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จบการใช้ AutoFilter โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลางชิดซ้ายหรือชิดขวา โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดตำแหน่งข้อมูลในแต่ละเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อความให้ล้อมภาพในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/จัดวางข้อมูลให้อยู่กึ่งกลางแถวเพื่อใช้เป็นหัวเรื่อง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของความสัมพันธ์ (Relationships) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ช่องตารางหรือเซลล์ใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เมาส์อ้างอิงเซลล์ข้ามแผ่นงาน หรือสมุด โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใช้เส้นไกด์ช่วยในการวาดภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ดูข้อมูลในแผ่นงานแบบเต็มจอ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความด้วยสี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อความโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สี โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบการสะกดคำด้วย Spellcheck โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตรวจสอบเอกสารก่อนพิมพ์ด้วย Page Preview โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ที่ต้องใช้บ่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ตั้งชื่อแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แถบเครื่องมือวาดรูป โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ทำไมต้องใช้สูตร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เทคนิคเกี่ยวกับแผนภูมิเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกแผ่นงานเพิ่ม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกไฟล์ภาพกราฟิก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกสไลด์แผ่นใหม่ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แทรกอักษรศิลป์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/นับจำนวนคำและตัวอักษรในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนวทางเตรียมการนำเสนองานพรีเซนเตชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำโปรแกรม Base โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำฟังก์ชั่นที่สำคัญ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แนะนำส่วนประกอบของฟังก์ชั่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกงานพรีเซนเตชั่นที่สร้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกชิ้นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/บันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นไฟล์ Microsoft Excel โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งข้อความในเอกสารเป็นหลายคอลัมน์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แบ่งหน้าจอ เพื่อดูข้อมูลที่มีปริมาณมาก โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใบปะหน้าแฟกซ์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับความกว้างคอลัมน์และความสูงของแถว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งการจัดวางข้อความในย่อ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งภาพที่แสดงโดยใช้แถบเครื่องมือรูปภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรเพิ่มเติม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ปรับพื้นหลังของภาพให้โปร่งใส โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ป้อนสูตรคำนวณ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนแถบเมนูจากอังกฤษเป็นไทย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปลี่ยนพื้นหลังสไลด์ทั้งแผ่น โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดดูหลายสมุดงานบนหน้าจอในเวลาเดียวกัน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เปิดโปรแกรม Math โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/โปรแกรม Writer ทำอะไรได้บ้าง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ผลิตภัณฑ์ในชุด OpenOffice.org โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/มุมมองในโปรแกรม Impress โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เมนูคำสั่ง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ยกเลิกเส้นประที่ Calc ขีดระหว่างเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย่อ/ขยายเอกสารที่แสดงบนจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ย้ายตำแหน่งแผ่นงาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับฐานข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักกับศัพท์ที่ใช้กันหน่อย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักเครื่องมือ Selection โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/รู้จักตัวชี้เมาส์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มต้นสร้างตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เริ่มป้อนข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกกลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาใช้งาน โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรียงลำดับข้อมูล โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เรื่องของแถบเครื่องมือใน Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ลบแผ่นงานที่ไม่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกใช้แผ่นงานที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เลือกสูตร/สัญลักษณ์ที่ต้องการ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วางแนวข้อมูลในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วาดรูปลงในเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/วิธีการเลือกวัตถุ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างแผนภูมิด้วย Chart โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างรูปด้วยตัวเราเอง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของแผนภูมิ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ส่วนประกอบของหน้าต่างเอกสาร โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/เส้นบอกแนว โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงข้อมูลให้ครบในเซลล์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงสัญลักษณ์เกี่ยวกับการจัดข้อความในย่อหน้า โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงหรือซ่อนหัวข้อในสไลด์ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/แสดงเอกสารเต็มจอภาพ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่ตัวเลขแสดงลำดับหัวข้อหรือสัญลักษณ์แสดงหัวข้อ(Bullet) โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ใส่สีสันลงในตาราง โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/หมุนกล่องข้อความ โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Calc โอเพนออฟฟิศดอตอ็อก/ออกจากโปรแกรม Impress
thaiwikibooks
195,619
ประวัติศาสตร์เยอรมนี
ประวัติศาสตร์เยอรมนี ประวัติศาสตร์เยอรมนี. เยอรมนี เริ่มต้นด้วยการต้านทานการยึดครองโดยชาวโรมันของชนเจอร์มานิค ซึ่งเมื่อจักรวรรดิโรมันล่มสลายชนชาติเยอรมันก็กลายเป็นกลุ่มชนผู้มีอำนาจในยุประวัติศาสตร์โรปเข้าแทนที่ชาวโรมัน จนนำไปสู่กำเนิดจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หรือ จักรวรรดิที่ 1 ในสมัยกลาง จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ธำรงอยู่กว่าพันปีแต่ก็เป็นเพียงจักรวรรดิที่มองไม่เห็น เพราะรัฐต่าง ๆ ในเยอรมันร้อยกว่ารัฐต่างแยกตัวเป็นอิสระจากพระจักรพรรดิ จนนโปเลียนยกเลิกจักรวรรดินี้ไปกลายเป็นสมาพันธรัฐเยอรมัน เป็นกลุ่มของรัฐต่าง ๆ จนราชอาณาจักรปรัสเซียสามารถรวมประเทศเยอรมนีได้โดยการนำของบิสมาร์ก ก็กลายเป็นจักรวรรดิเยอรมัน หรือ จักรวรรดิที่ 2 แต่ด้วยการปฏิวัติล้มระบอบกษัตริย์หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทำให้เยอรมนีกลายเป็นสาธารณรัฐไวมาร์ จนถูก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำลัทธินาซีแผ่ขยายดินแดนไปทั่วยุโรปในสงครามโลกครั้งที่สอง หรือ จักรวรรดิที่ 3 จนฮิตเลอร์พ่ายแพ้เยอรมนีจึงถูกแบ่งเป็นสองส่วน คือ เยอรมนีตะวันออก และ เยอรมนีตะวันตก จนรวมกันกลายเป็นประเทศเยอรมนีอีกครั้งใน ค.ศ. 1990 ชนชาติเยอรมัน ชนชาติเยอรมัน. ประมาณ 100 ปีก่อน ค.ศ. ชนชาติเยอรมันลงใต้จากสแกนดิเนเวียและแพร่กระจายไปทั่วตั้งแต่แม่น้ำไรน์จนถึงเทือกเขาอูราล และเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายของจักรวรรดิโรมัน แม้ชาวโรมันจะพยายามจะพิชิตชาวเยอรมัน ใน ค.ศ. 9 ทัพโรมันพ่ายแพ้ชาวเยอรมันที่ป่าทอยโทบวร์ก (Teutoburg Forest) ทำให้ชาวโรมันเลิกล้มความคิดที่จะรุกรานเยอรมัน และชนชาติเยอรมันก็รุกคืบไปตั้งรกรากตามชายแดนจักรวรรดิโรมัน และแตกออกเป็นหลายเผ่า ที่มีชื่อเสียงคือ วิซิกอธ แวนดัล แฟรงก์ ฯลฯ และเข้ารีตคริสต์ศาสนานิกายอาเรียนิสม์ (Arianism) ซึ่งชาวโรมันไม่ยอมรับ แต่ในศตวรรษที่ 4 ชาวฮั่นมาจากเอเชียเป็นนักรบบนหลังม้าที่ป่าเถื่อน เข้าบุกเผาทำลายหมู่บ้านและสังหารชาวเยอรมันอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เผ่าเยอรมันต่าง ๆ ทนไม่ไหวต้องหลบหนีเข้าไปในจักรวรรดิโรมัน บ้างด้วยสันติวิธีบ้างก็บุกเข้าไป ทำให้จักรวรรดิโรมันอ่อนแอ จนใน ค.ศ. 410 โอโดอาเซอร์ (Odoacer) ผู้นำเผ่าเยอรมันเผ่าหนึ่ง ยึดกรุงโรมและปลดจักรพรรดิโรมันองค์สุดท้ายใน ค.ศ. 476 จักรวรรดิโรมันจึงล่มสลาย เมื่อจักรวรรดิโรมันล่มสลายชาวแฟรงก์ที่ตั้งรกรากในฝรั่งเศสก็เรืองอำนาจที่สุดในยุโรปภายใต้ราชวงศ์เมโรวิงเจียน ในเยอรมนี มีเผ่าต่าง ๆ ปกครองตนเองได้แก่พวกซูเอบี (Suebi) พวกธือริงเงน (Thuringen) พวกแซกซอน (Saxons) พวกบาวาเรียน (Bayern) และพวกแฟรงก์ (Franks)ซึ่งจะกลายเป็นชื่อแคว้นต่าง ๆ ในเยอรมนี (สวาเบีย ธูรินเจีย แซกโซนี บาวาเรีย และฟรังโคเนีย ตามลำดับ) แต่เผ่าเหล่านี้ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของพวกแฟรงก์ ซึ่งแผ่ขยายอำนาจมาในศตวรรษที่ 5 ถึง 8 โดยเฉพาะสงครามกับพวกแซกซอนของพระเจ้าชาร์เลอมาญ (Charlemagne) ของชาวแฟรงก์ แห่งราชวงศ์คาโรลิงเจียน ทำให้พวกแซกซอนต้องเข้ารีตศาสนาคริสต์และอยู่ภายใต้การปกครองของพวกแฟรงก์ ยังมีเผ่าเยอรมันอีกเผ่า คือ พวกลอมบาร์ด (Lombards) เข้าบุกอิตาลี ทำให้พระสันตะปาปาทรงขอให้พระเจ้าชาร์เลอมาญทรงช่วยเหลือ พระเจ้าชาร์เลอมาญทรงขับไล่พวกลอมบาร์ดได้และได้รับการสวมมงกุฎจากพระสันตะปาปาเป็นจักรพรรดิโรมัน ใน ค.ศ. 800 เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จักรวรรดิของพระเจ้าชาร์เลอมาญถูกแบ่งเป็นสามส่วนตามสนธิสัญญาแวร์ดังใน ค.ศ. 843 อาณาจักรแฟรงก์ตะวันออกจะกลายเป็นเยอรมนีในปัจจุบัน  การปฏิรูปศาสนา การปฏิรูปศาสนา. พระสันตะปาปาทรงต้องการจะหาเงินมาสร้างวิหารอันสวยงามตามสถาปัตยกรรมเรเนสซองส์ จึงทรงขายบัตรไถ่บาป (indulgences) ในเยอรมนีเพื่อหาเงินโดยอ้างว่าใครซื้อบัตรนี้จะได้รับการไถ่บาป ซึ่งแน่นอนว่าได้รับการประท้วงจากทั้งชาวบ้านขุนนางและสงฆ์ทั้งหลาย การปฏิรูปศาสนา (The Reformation)จึงเริ่มใน ค.ศ. 1517 เมื่อ มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) ตอกตะปูคำประท้วง 95 ข้อ (95 Theses) ไว้หน้าโบสถ์ในเมืองวิทเทนเบิร์ก (Wittenburg) ลูเธอร์ได้รับการสนับสนุนจากอิเล็กเตอร์แห่งแซกโซนี จักรพรรดิชาร์ลส์และพระสันตะปาปาทรงเรียกประชุมสภาเมืองวอร์มส์ (Diet of Worms) บังคับให้ลูเธอร์ขอโทษพระสันตะปาปาและถอนคำประท้วงคืน แต่ลูเธอร์ไม่ยอม นิกายลูเธอร์จึงแผ่ขยายไปทั่วเยอรมนี เป็นนิกายแรกของโปรเตสแตนต์ เพราะบรรดาเจ้าครองแคว้นต่างต้องการพ้นจากอำนาจของจักรพรรดิจึงใช่ศาสนาเป็นเครื่องมือ อิเล็กเตอร์แห่งแซกโซนีให้ลูเธอร์เก็บตัวอยู่ในปราสาทวาร์ตบูร์ก (Wartburg Castle) เพื่อความปลอกภัยและที่นั่นเองลูเธอร์แปลคัมภีร์ไบเบิลเป็นภาษาเยอรมันเป็นครั้งแรก บรรดาชาวบ้านที่เข้านับถือนิกายลูเธอร์ (Lutheranism) จึงฉวยโอกาสก่อกบฏใน ค.ศ. 1524 ต่อเจ้านครต่าง ๆ ในสงครามชาวบ้าน (Peasants' War) แต่เจ้าครองแคว้นก็ปราบปรามกบฏอย่างรวดเร็ว และขุนนางใหญ่คืออิเล็กเตอร์แห่งแซกโซนีและแลนด์กราฟแห่งฮีส (Landgrave of Hesse) ตั้งสันนิบาติชมาลคาดิค (Schmalkadic League) และชักชวนขุนนางอื่น ๆ เข้าร่วมอ้างว่าเพื่อปกป้องนิกายโปรเตสแตนต์ แต่ที่จริงเพื่อทำลายอำนาจของจักรพรรดิ จักรพรรดิชาร์ลส์ทรงง่วนอยู่กับสงครามต่างประเทศ ทำให้นิกายโปรเตสแตนต์สามารถแทรกซึมฝังรากลึกลงไปในเยอรมนี จนใน ค.ศ. 1546 ก็ทรงว่างสามารถมาปราบกบฏขุนนางโปรเตสแตนต์ เป็นสงครามชมาลคาดิค (Schmalkadic War)และปราบได้ใน ค.ศ. 1547 ใน ค.ศ. 1548 ทรงทำสันติภาพออกซ์บูร์ก (Peace of Augsburg) ยอมรับนิกายลูเธอร์ (แต่ไม่ยอมรับนิกายอื่น) และใช้คนในรัฐนั้นนับถือศาสนาตามเจ้าครองแคว้น (Cuius regio, eius regio) สมาพันธรัฐเยอรมัน สมาพันธรัฐเยอรมัน. คองเกรสแห่งเวียนนาให้แคว้นต่าง ๆ ในจักรวรรดิโรมันเดิม รวมตัวกลายเป็นสมาพันธรัฐเยอรมัน (German Confederation) มีจักรพรรดิออสเตรียเป็นประมุข มีสภาสมาพันธรัฐ (Federal Assembly) ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ตเป็นสภาหารือกิจการบ้านเมือง ทางปรัสเซียก็ได้รับการฟื้นฟูดินแดนคืน มีผลทำให้ออสเตรียและปรัสเซียเป็นสองมหาอำนาจที่แผ่อิทธิพลเข้าครอบงำเยอรมนี แม้คองเกรสแห่งเวียนนาจะพยายามบีบให้ยุโรปกลับสู่ระบอบสมบูรณายาสิทธฺราชย์สักเพียงใด แต่ก็สายไปแล้ว เพราะด้วยอิทธิพลของฝรั่งเศสและนโปเลียน ทำให้แนวความคิดเสรีนิยม (Liberalism) ฝังรากลงไปในเยอรมนี ใน ค.ศ. 1817 พวกนักศึกษาหัวก้าวหน้าจัดงานเลี้ยงที่เมืองวาร์ตบูร์กเผาทำลายหนังสือที่สนับสนุนระบอบกษัตริย์ ใน ค.ศ. 1819 นักศึกษาคนหนึ่งสังหารอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเพราะตำหนิแนวความคิดเสรีนิยมและชาตินิยม (Nationalism) ของนักเรียน ทำให้เจ้าชายเมตเตอร์นิคทรงออกกฤษฎีกาคาร์ลสบาด (Karlsbad Decrees)ให้มีการเซนเซอร์หนังสือและควบคุมมหาวิทยาลัยมิให้แนวความคิดปฏิวัติแพร่ไป รวมทั้งลงโทษพวกเสรีนิยมด้วย แต่พวกเสรีนิยมก็เก็บความเคียดแค้นไว้ เกิดนักเขียนหลายท่านตามกระแสโรแมนติค (Romanticism) ที่มีผลงานปรัชญาต่อต้านระบอบกษัตริย์ เรียกว่า สมัยฟอร์ไมซ์ (Vormärz - สมัยก่อนเดือนมีนาคม) การปฏิวัติอุตสาหกรรมเข้าสู่เยอรมนีในที่สุด สมาพันธรัฐเยอรมัน ยกเว้นออสเตรีย ทำข้อตกลงการค้าเสรีปลอดภาษีกับรัสเซีย รวมกันเป็นเขตเสรีการค้าโชลเฟอเรน (Zollverein) ใน ค.ศ. 1848 เกิดการปฏิวัติทั่วยุโรป ในเยอรมนีก็เช่นกัน เรียกว่าการปฏิวัติเดือนมีนาคม (March Revolution) ในแคว้นต่าง ๆ ทั่วเยอรมัน บรรดาเจ้าครองนครต่างเกรงว่าตนจะประสบชะตากรรมเดียวกับกษัตริย์ฝรั่งเศส จึงยอมจำนนแต่โดยดี ขณะปฏิวัติกำลังจะร่างรัฐธรรมนูญที่สภาแฟรงเฟิร์ต และมอบบัลลังก์ให้พระเจ้าเฟรเดอริค วิลเฮมที่ 4 แห่งปรัสเซียไปครอง แต่ทรงปฏิเสธ ทำให้การปฏิวัติล้มเหลวจบลงทันที เจ้าครองแคว้นก็ลุกฮือต่อต้านอีกครั้ง คณะปฏิวัติจึงสลายตัว จักรวรรดิเยอรมันและสงครามโลกครั้งที่ 1 จักรวรรดิเยอรมันและสงครามโลกครั้งที่ 1. (เยอรมัน: Deutsches Reich, หรืออย่างไม่เป็นทางการว่าDeutsches Kaiserreich ; อังกฤษ: German Empire)เป็นชื่อที่ใช้เรียกเพื่อหมายถึงรัฐเยอรมันในช่วงตั้งแต่การประกาศเป็นจักรพรรดิเยอรมันของวิลเฮล์มที่ 1 แห่งปรัสเซีย (18 มกราคม พ.ศ. 2414) ถึงการสละราชสมบัติของวิลเฮล์มที่ 2 (9พฤศจิกายน พ.ศ. 2461) รวมเวลา 47 ปี.ในสมัยนี้เยอรมนีรุ่งเรืองมากทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และอื่นๆถือว่าเป็นมหาอำนาจใหม่แห่งยุโรป มีอำนาจเทียบได้กับจักรวรรดิอังกฤษ แต่ช่วงหลังของจักรวรรดิเยอรมันได้มีปัญหากับบริเตนเรื่องการขยายอำนาจทางทะเล และ การสร้างจักรวรรดิอาณานิคมขึ้นมา จึงทำให้เกิดปัญหากับจักรวรรดิอังกฤษมหาอำนาจเดิม ปีค.ศ.1914 จักรวรรดิเยอรมนีรุ่งเรืองสุดขีด มีอาณานิคมทั่วโลก ทั้งในแอฟริกา อาทิ โตโก แคเมอรูน นามิเบีย และ แทนซาเนีย ส่วนในเอเชียก็มีบริเวณชิงเต่าของจีน และทางตอนเหนือของปาปัวนิวกินี รวมทั้งหมู่เกาะบางแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย ต่อมาจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีมีปัญหากับเซอเบียจึงเกิดสงครามขึ้นโดย จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีดึงจักรวรรดิเยอรมันเข้าร่วมสงครามในนามฝ่ายมหาอำนาจกลาง เป็นเหตุให้เยอรมันเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่1ช่วงต้นสงครามฝ่ายมหาอำนาจกลางได้เปรียบฝ่ายสัมพันธมิตรหลายอย่างทั้ง กลยุทธทางการสงคราม และความแข็งแกร่งของทหาร ระหว่างสงครามเยอรมันได้ประดิษฐ์ แก๊สพิษ ที่ทำให้ทหารฝรั่งเศสหายใจติดขัดและอาจถึงตายได้ แต่ระหว่างสงครามพระโอรสของพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 2 ได้ขอร้องพระบิดาให้ทำสนธิสัญญาสงบศึกกับฝ่ายสัมพันธมิตรแต่ไม่สำเร็จ ช่วงท้ายของสงครามหลังจากที่อเมริกาเข้าร่วมสงคราม เยอรมันก็เริ่มเสียเปรียบ พันธมิตรของเยอรมันทั้ง ออสเตรีย-ฮังการีก็ประกาศยอมแพ้ ส่วนบัลแกเรียและออตโตมันแพ้สงครามให้กับสัมพันธมิตร ทำให้เยอรมนีต้องต่อสู้กับพันธมิตรอย่างโดดเดี่ยวและได้แพ้สงครามในค.ศ.1918 และได้เป็นจุดจบของจักรวรรดิเยอรมนี มหาวิหารโคโลญ มหาวิหารโคโลญ. อาสนวิหารนักบุญเปโตร โคโลญ (อังกฤษ: Cologne Cathedral; เยอรมัน: Kolner Dom) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ในเมืองโคโลญ เป็นสถานที่ประทับของอาร์ชบิชอปแห่งโคโลญ สถานที่นี่มีชื่อเสียงในฐานะเป็นที่ศาสนสถาน นิกายเยอรมันคาทอลิก สถานที่แห่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่ประพิธีกรรมของสามมหากษัตริย์แห่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่เก็บหีบสามกษัตริย์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้ มีผู้เยี่ยมชมราวๆ 20,000 คนต่อวัน มหาวิหารโคโลญได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ และ สร้างเสร็จในปี 1880 พร้อมกับมีพีธีวางหลักหินบันทึกข้อมูลการก่อสร้าง มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกในเป็นเวลา 4 ปี ( ปี ค.ศ 1880-1884)แต่ถึงอย่างไรก็ดีปัจจุบันก็ยังคงติดอันดับสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอยู่ด้วย และปัจจุบันก็ได้ถูกจัดอันดับให้อยู่อันดับ 4 วิหารที่สูงที่สุดในโลกลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิกเป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญซีโมนเปโตรและพระนางมารีย์พรหมจารี ปัจจุบันมหาวิหารโคโลญนับจุดหมายสำคัญของเมืองโคโลญและประเทศเยอรมนี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี2536 สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน. เยอรมนีเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีบทบาททางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นอันดับสามของโลก อย่างไรก็ดี ขณะนี้เยอรมนีกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะงักงันตั้งแต่ปี 2544 อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP growth rate) ของเยอรมนีลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือเพียงร้อยละ 0.2 ในปี 2545 และร้อยละ 0 ในปี 2546นับเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2536 ในขณะที่อุปสงค์จากต่างประเทศชะลอตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจโลกและการก่อการร้ายในสหรัฐฯ อุปสงค์ภายในประเทศก็เติบโตอย่างเชื่องช้า ทำให้ภาคการลงทุนชะลอตัวลงและส่งผลให้มีอัตราการว่างงานสูงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ารัฐบาล Red-Green Coalition ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างแข็งขันมาตั้งแต่ปี2541 โดยได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปัญหาการว่างงานเชิงโครงสร้าง (structural unemployment) ซึ่งเกิดจากตลาดแรงงานที่ไม่ยืดหยุ่น (labour market rigidity) และระบบสวัสดิการสังคม (social welfare system) ที่ไม่เหมาะสมกับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปของเยอรมนี ยังคงเป็นปัญหาที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนีกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนประชากรวัยทำงาน เนื่องจากมีอัตราการเกิดต่ำมากมาอย่างต่อเนื่อง (อัตราการเพิ่มของประชากรในปี 2547 เท่ากับร้อยละ 0) ในขณะที่ประชากรมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น ส่งผลให้รัฐมีค่าใช้จ่ายในการประกันสังคม (social security) เพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี โดยในปี 2545 นับเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 55.9 (เพิ่มขึ้นจากปี2544 ร้อยละ 2.4) ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดของงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล จากการที่เยอรมนีมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตกต่ำเป็นร้อยละ 0 ในปี 2546 แต่รัฐบาลต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้นทำให้เยอรมนีขาดดุลงบประมาณถึง 82 พันล้านยูโร หรือ ร้อยละ 3.8 ของ GDP ซึ่งเกินเพดานที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญา Maastricht (ร้อยละ 3 ของ GDP) ทำให้คณะกรรมาธิการยุโรปต้องออกคำเตือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ แม้ว่าในปี 2547 เศรษฐกิจของเยอรมนีเติบโตดีขึ้น ภาคการส่งออกขยายตัวสูง (มูลค่าการส่งออกของเยอรมนีในปี 2547 สูงที่สุดในโลก) แต่การขยายตัวในภาคการลงทุนเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง อีกทั้งยังคงมีการขาดดุลงบประมาณเป็นร้อยละ 3.6ของ GDP ซึ่งเกินเพดานของสนธิสัญญา Maastricht ติดต่อกันเป็นปีที่สาม ความไม่มั่นใจของผู้บริโภคกับปัญหาการว่างงานจะยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องของเยอรมนีต่อไป สำหรับปี 2548 คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ในปี 2546 รัฐบาล Red-Green Coalition นำเสนอยุทธศาสตร์เพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมภายใต้ชื่อ "Agenda 2010" ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การปฏิรูปเศรษฐกิจและโครงสร้างทางสังคมที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเยอรมนีเมื่อวันที่ 19ธันวาคม 2546 โดยมีเป้าหมายเพื่อจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของเยอรมนีให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2010 ยุทธศาสตร์ Agenda 2010มุ่งที่จะแก้ไขปัญหาใน 3 ด้าน กล่าวคือ 1) การปฏิรูปตลาดแรงงานและระบบสวัสดิการสังคม 2) การลดงบประมาณขาดดุล เน้นดำเนินนโยบายรัดเข็มขัด ควบคุมรายจ่ายภาครัฐ และ 3) การลดอัตราภาษี ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547อย่างไรก็ดี มีผู้ไม่เห็นด้วยกับแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการปรับลดสวัสดิการสังคมลง แม้นโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจ Agenda 2010 จะยังไม่ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณของรัฐบาลเยอรมนีต่อประชาชนที่จะต้องปรับตัวต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และเยอรมนีจะต้องเร่งรีบแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เรื้อรังของตนให้ได้เพื่อที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจในระดับโลกไว้ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี. ความสัมพันธ์ทางการทูต. ความสัมพันธ์ไทย-เยอรมนี เริ่มเมื่อพ.ศ. 2405 โดยการทำสนธิสัญญาทางไมตรีและการเดินเรือระหว่างกัน เมื่อพ.ศ. 2426-2430 ดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับอัครราชทูต โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน เมื่อพ.ศ. 2430 จัดตั้งสำนักงาน ณ กรุงเบอร์ลินสำหรับเอกอัครราชทูต และจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบอนน์ และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเบอร์ลิน ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมอดีตเยอรมนีตะวันออกทั้งหมด ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2542 ได้ย้ายสถานเอกอัครราช-ทูต ณ กรุงบอนน์ไปอยู่ ณ กรุงเบอร์ลิน พร้อมกันนั้น ได้จัดตั้งสำนักงานสถานเอกอัครราชทูตสาขากรุงบอนน์ขึ้น แต่ได้ปิดทำการไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2544 และได้มีการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2545 ความสัมพันธ์ทางการเมือง ความสัมพันธ์ทางการเมือง. ดำเนินไปด้วยความราบรื่น ไทยและเยอรมนีมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ เยอรมนีสนับสนุนท่าทีต่างๆ ของไทย เช่น ท่าทีต่อปัญหากัมพูชา และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาผู้ลี้ภัย นอกจากนี้ เยอรมนียังชื่นชมและตระหนักถึงความสำคัญของไทยในฐานะที่มีบทบาทนำและเป็นแบบอย่างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเรื่องความเป็นประชาธิปไตย การรักษาสิทธิมนุษยชน เสรีภาพของสื่อมวลชน ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และความสำเร็จทางเศรษฐกิจโดยรวม เยอรมนีขอให้ไทยพิจารณาสนับสนุนเยอรมนีเข้าเป็นสมาชิกประเภทถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
thaiwikibooks
195,620
ประวัติคอมพิวเตอร์กราฟิก
ความเป็นมา ความเป็นมา. ในปี ค.ศ. 1940 คอมพิวเตอร์จะแสดงภาพกราฟิกโดยใช้เครื่องพิมพ์ โดยรูปภาพที่ได้จะเป็นภาพที่เกิดจากการใช้ตัวอักษรมาประกอบกัน  ในปี ค.ศ. 1950 สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเซสต์ (Massachusetts Institue Technology : MIT] ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหลอดภาพ CRT(Cathode Ray Tube) เป็นส่วนแสดงผลแทนเครื่องพิมพ์ เนื่องจากมีความต้องการที่จะให้การติดต่อระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มีความเร็วยิ่งขึ้น ในปี ค.ศ. 1950 ระบบ SAGE (Semi - Automatic Ground Environment) ของกองทัพอากาศ สหรัฐอเมริกาสามารถแปลงสัญญาณจากเรดาร์ให้เป็นภาพบนจอคอมพิวเตอร์ได้ ระบบนี้เป็นระบบกราฟิก เครื่องแรกที่ใช้ปากกาแสง (Light Pen : เป็นอุปกรณ์สำหรับรับข้อมูลชนิดหนึ่ง) สำหรับการเลือกสัญลักษณ์ บนจอภาพได้ ในปี ค.ศ. 1950 - 1960 มีการทำวิจัยเรื่องเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบของระบบคอมพิวเตอร์กราฟิกสมัยใหม่ ตัวอย่างเช่น ในปี ค.ศ. 1963 วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ อีวาน ซูเธอร์แลนด์ (Ivan Sutherland) เป็นการพัฒนาระบบการวาดเส้น ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดจุดบนจอภาพได้โดยตรงโดยการใช้ปากกาแสง จากนั้นระบบกราฟิกจะสามารถลากเส้นเชื่อมจุดต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน กลายเป็นภาพโครงสร้างรูปหลายเหลี่ยม ระบบนี้ได้กลายเป็นหลักการพื้นฐานของโปรแกรมช่วยในการออกแบบระบบงานต่างๆ เช่น การออกแบบระบบไฟฟ้า และการออกแบบเครื่องจักร เป็นต้น ในระบบหลอดภาพ CRT สมัยแรกนั้น เราสามารถวาดเส้นตรงระหว่างจุดสองจุดบนจอภาพได้ แต่ภาพเส้นที่วาดจะจางหายไปจากจอภาพอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีการวาดซ้ำลงที่เดิมหลายๆ ครั้งในหนึ่งวินาที เพื่อให้เราสามารถมองเห็นว่าเส้นไม่จางหายไป ซึ่งระบบแบบนี้มีราคาแพงมากในช่วงต้นปี ค.ศ. 1960 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1965 จึงมีราคาถูกลงเนื่องจากบริษัท ไอบีเอ็ม (IBM) ได้ผลิตออกมาขายเป็นจำนวนมากในราคาเครื่องละ 100,000 ดอลลาร์ จากการที่ราคาของจอภาพถูกลงมากนี่เอง ทำให้สาขาคอมพิวเตอร์กราฟิกเริ่มเป็นที่สนใจของคนทั่วไป ในปี ค.ศ. 1968 บริษัท เทคโทรนิกส์ (Tektronix) ได้ผลิตจอภาพแบบเก็บภาพไว้ได้จนกว่าต้องการจะลบ (Storage - Tube CRT) ซึ่งระบบนี้ไม่ต้องการหน่วยความจำและระบบการวาดซ้ำ จึงทำให้ราคาถูกลงมาก บริษัทตั้งราคาขายไว้เพียง 15,000 ดอลลาร์เท่านั้น จอภาพแบบนี้จึงเป็นที่นิยมกันมากในช่วงเวลา 5 ปี ต่อมา กลางปี ค.ศ. 1970 เป็นช่วงเวลาที่อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์เริ่มมีราคาลดลงมาก ทำให้ฮาร์ดแวร์ของระบบคอมพิวเตอร์กราฟิกมีราคาถูกลงตามไปด้วย ผู้ใช้ทั่วไปจึงสามารถนำมาใช้ในงานของตนได้ ทำให้การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกเริ่มแพร่หลายไปในงานด้านต่างๆ มากขึ้น สำหรับซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกก็ได้มีการพัฒนาควบคู่มากับฮาร์ดแวร์เช่นกัน ซึ่งมีการเริ่มต้นจาก อีวาน ซูเธอร์แลนด์ ผู้ซึ่งได้ออกแบบวิธีการหลักๆ รวมทั้งโครงสร้างข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์กราฟิก ต่อมาก็มี สตีเฟน คูน (Steven Coons, 1966) และ ปิแอร์ เบเซอร์ (Pierre Bazier , 1972) ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับการสร้างเส้นโค้งและภาพพื้นผิว ทำให้ปัจจุบันเราสามารถสร้างภาพ 3 มิติ ได้สมจริงสมจังมากขึ้น ในช่วง 10 ปีต่อมาได้มีการพัฒนาวิธีการสร้างภาพมากมายสำหรับใช้ในระบบคอมพิวเตอร์กราฟิก และปัจจุบันเราก็ได้เห็นผลงานที่สวยงามและแปลกตา ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาวิจัยต่างๆ ในอดีตนั่นเอง ยุคคอมพิวเตอร์กราฟิก ยุคคอมพิวเตอร์กราฟิก. จากอดีตสู่ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์กราฟิกได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านการสร้างสรรค์และการออกแบบด้วยซอฟต์แวร์ต่างๆ พร้อมกับมีการแสดงผลที่ตอบสนองต่อผู้ใช้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถแยกประวัติความเป็นมาได้ดังนี้ 1. การปฎิวัติคอมพิวเตอร์กราฟิก เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของมนุษย์โดยสิ้นเชิง เกิดจากการปฏิวัติที่สำคัญของโลก ได้แก่ การปฏิวัติเกษตรกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรม การปฏิวัติคอมพิวเตอร์ โดยมีการพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการใช้เครื่องจักรแทนพลังงานคนและสัตว์ จนมีการพัฒนาหลอดสุญญากาศ ทรานซิสเตอร์ แผนวงจรรวม และตัวซิลิกอนชิป ตามลำดับ มาใช้แทนกำลังสมองของมนุษย์ 2. คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องแรกมีชื่อว่า อินิแอก เป็นเครื่องจักรคำนวณหาความแม่นยำในการหาเป้าหมายหัวกระสุนปืนใหญ่ ต่อมาพัฒนาเป็น อีแวก และถูกพัฒนาเป็น ยูนิแวก ใช้สำหรับงานด้านธุรกิจมีความสามารถเก็บข้อมูลไว้ในดรัมแม่เหล็ก จนในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทไอบีเอ็ม ได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่น 701/702 ในเชิงอุตสาหกรรม แต่การแสดงผลยังเน้นลักษณะของอักขระและตัวเลขมาก จึงทำให้ต้องจำกัดเฉพาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์เท่านั้น 3. การวิจัยพัฒนาคอมพิวเตอร์กราฟิก เริ่มมีการพัฒนาระบบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ช่วยในการตรวจจับและเตือนภัยทางอากาศ ที่เด่นคือ ระบบแซจ เนื่องจากข้อมูลที่แซจรายงานผ่านจอภาพช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ครั้งแรก จนกลายเป็นพื้นฐานของการพัฒนาระบบประสานกับผู้ใช้กราฟิก หรือ กุย (GUI) ทำให้คอมพิวเตอร์ช่วยการออกแบบ (CAD) ได้ถูกพัฒนาขึ้นใช้สำหรับการผลิตและออกแบบในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 4. ส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ บริษัทซีรอกซ์ได้เสนอเครื่องคอมพิวเตอร์ อัลโต ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ระดับสถานีงานและได้นำเทคโนโลยีการแสดงผลแรสเตอร์บิตแมปมาใช้เป็นเครื่องแรก ได้นำไปพัฒนาระบบ LAN เชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนและใช้ทรัพยากรระบบที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้การแสดงผลบนภาพจอจะเหมือนกับสิ่งที่พิมพ์ออกมา หรือที่เรียกว่า ได้อย่างที่เห็น (WYSIWYG - วิซิวิก) เป็นสิ่งที่นำไปสู่วิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิกในปัจจุบัน คือ เมาส์ ปากกาแสง แป้นกำหนดหน้าที่ ช่วยให้ลดช่องว่างระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์อย่างมาก และมีการทำงานเรียกว่า เดสทอป ซึ่งมีสัญรูป เชื่อมโยงต่อกันในการใช้งานทำให้สามารถใช้งานซอฟแวร์ได้หลายตัวพร้อมๆ กัน 5. การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์เป็น จอภาพสวมศีรษะ (เอชเอ็มดี) ที่ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลได้เสมือนจริงที่สุด มีการสร้างภาพแสดงผลสีเอกรงค์ซึ่งแสดงผลความแตกต่างของเฉดสี ต่อมามีการนำเสนอเทคนิคพิเศษของแสงในธรรมชาติมาใช้กับการสร้างภาพกราฟิกสามมิติที่สมจริง และได้มีการนำมาใช้ในการสร้างภาพยนตร์คอมพิวเตอร์กราฟิกกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีการนำเทคนิคพิเศษมาช่วยให้เกิดการตอบสนองและความตื่นตาตื่นใจต่อผู้ชม 6. อนาคตคอมพิวเตอร์กราฟิก เป็นการพัฒนาโดยภาพรวมของการนำไปใช้ประโยชน์กับผู้ใช้ โดยมีการนำคอมพิวเตอร์กราฟิกไปทำงานได้ 2 ระบบ คือ  6.1.ระบบสื่อประสม การนำสื่อหลายอย่างๆ มาเชื่อมโยงต่อกันในการใช้งาน ซึ่งมีหัวใจหลักคือ การแปลงข้อมูลแอนะล็อกเป็นดิจิทัล คือทั้งภาพและเสียงเป็นดิจิทัล ต่อมามีการพัฒนาสื่อต่างๆให้มีการทำงานเร็วขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานในอนาคต  6.2.ระบบความเป็นจริงเสมือน การใช้คอมพิวเตอร์สร้างสิ่งแวดล้อมใหม่เพื่อให้ผู้ใช้มีความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง
thaiwikibooks
195,621
ครอสเวิร์ดเกม/สูตรบิงโก
สูตรบิงโก สูตรบิงโก. สูตรที่ 0001 AABELT C - ACTABLE D - ABLATED - DATABLE E - EATABLE H - HATABLE I - LABIATE K - TAKABLE M - TAMABLE R - RATABLE S - ABLATES T - ABETTAL U - TABLEAU X - TAXABLE สูตรที่ 0002 AACDEL D - DECADAL I - ALCAIDE L - ALCALDE N - CANALED - CANDELA - DECANAL P - PALACED R - CALDERA - CRAALED S - ALCADES - SCALADE Y - ALCAYDE สูตรที่ 0003 AACDER D - ARCADED H - CHARADE I - CARDIAE L - CALDERA - CRAALED N - DRACENA S - ARCADES - ASCARED V - CADAVER Y - DAYCARE สูตรที่ 0004 AACDIR A - ARCADIA B - CARABID C - CARDIAC E - CARDIAE F - FARADIC L - RADICAL O - ACAROID S - ACARIDS - ASCARID - CARDIAS สูตรที่ 0005 AACELN B - BALANCE D - CANALED - CANDELA - DECANAL L - CANELLA M - MANACLE P - CAPELAN S - ANLACES T - LACTEAN U - CANULAE - LACUNAE V - VALANCE สูตรที่ 0006 AACELS D - ALCADES - SCALADE G - SCALAGE J - JACALES N - ANLACES P - PALACES R - SCALARE S - CALESAS T - ACETALS - LACTASE สูตรที่ 0007 AACELT B - ACTABLE F - FALCATE H - CHAETAL L - LACTEAL N - LACTEAN P - PLACATE S - ACETALS - LACTASE T - LACTATE V - CLAVATE Y - ACYLATE สูตรที่ 0008 AACERS C - CARCASE D - ARCADES - ASCARED F - CARAFES L - SCALARE M - CAMERAS O - ROSACEA S - CAESARS T - CARATES U - CAESURA สูตรที่ 0009 AACERT B - ABREACT - BEARCAT - CABARET E - ACERATE G - CARTAGE H - TRACHEA N - CATERAN S - CARATES T - TEACART U - ARCUATE สูตรที่ 0010 AACINT D - ANTACID F - FANATIC G - AGNATIC H - ACANTHI I - ACTINIA K - KATCINA L - ACTINAL N - CANTINA P - CAPTAIN R - ANTICAR S - SATANIC สูตรที่ 0011 AACIRS A - ACRASIA D - ACARIDS - ASCARID - CARDIAS G - AGARICS N - ACRASIN - ARNICAS - CARINAS - SARCINA P - PICARAS S - ASCARIS T - CARITAS V - CAVIARS สูตรที่ 0012 AACLPS A - ALPACAS C - CALPACS E - PALACES H - PASCHAL I - APICALS - SPACIAL K - KALPACS R - CARPALS S - PASCALS U - SCAPULA สูตรที่ 0013 AACLSU C - ACCUSAL F - FAUCALS L - CLAUSAL M - CALAMUS - MACULAS N - CANULAS - LACUNAS P - SCAPULA S - CASUALS - CAUSALS V - VASCULA สูตรที่ 0014 AADELR C - CALDERA - CRAALED I - RADIALE K - KRAALED M - ALARMED N - ADRENAL T - LATERAD U - RADULAE Y - ALREADY สูตรที่ 0015 AADEMN B - BEADMAN D - DEADMAN G - MANAGED H - HEADMAN L - LEADMAN M - MANMADE O - ADENOMA S - ANADEMS - MAENADS T - MANDATE สูตรที่ 0016 AADEMS B - SAMBAED G - DAMAGES H - ASHAMED I - AMIDASE K - MEDAKAS M - MADAMES N - ANADEMS - MAENADS S - AMASSED สูตรที่ 0017 AADMRS A - ARMADAS - MADRASA - RAMADAS G - SMARAGD H - DHARMAS I - ARAMIDS M - DAMMARS N - MANSARD U - MARAUDS Z - MAZARDS สูตรที่ 0018 AAEERT C - ACERATE D - AERATED F - RATAFEE H - HETAERA M - AMREETA S - AERATES U - AUREATE W - TEAWARE สูตรที่ 0019 AAEGNT H - THANAGE K - TANKAGE M - GATEMAN - MAGENTA - MAGNATE - NAMETAG N - TANNAGE P - PAGEANT R - TANAGER S - AGNATES V - VANTAGE W - WANTAGE สูตรที่ 0020 AAEIRT D - AIRDATE - RADIATE - TIARAED H - HETAIRA M - AMIRATE P - APTERIA S - ARISTAE - ASTERIA - ATRESIA T - ARIETTA V - VARIATE W - AWAITER สูตรที่ 0021 AAELMT B - TAMABLE E - MALEATE G - GAMETAL H - HEMATAL M - LEMMATA O - OATMEAL P - PALMATE S - MALATES - MALTASE - TAMALES สูตรที่ 0022 AAELNS C - ANLACES G - ANLAGES - GALENAS - LASAGNE K - ALKANES N - ANNEALS R - ARSENAL S - ANLASES T - SEALANT Y - ANALYSE สูตรที่ 0023 AAELPR B - PARABLE C - CARPALE F - EARFLAP N - PREANAL P - APPAREL S - EARLAPS T - APTERAL V - PALAVER สูตรที่ 0024 AAELPT C - PLACATE E - PALEATE L - PATELLA M - PALMATE N - PLANATE - PLATANE P - PALPATE R - APTERAL S - PALATES T - TAPETAL U - PLATEAU Y - APETALY สูตรที่ 0025 AAEMNT D - MANDATE E - EMANATE - ENEMATA - MANATEE G - GATEMAN - MAGENTA - MAGNATE - NAMETAG I - AMENTIA - ANIMATE M - MEATMAN N - EMANANT R - RAMENTA U - MANTEAU สูตรที่ 0026 AAENST A - ANATASE C - CATENAS D - ANSATED G - AGNATES I - ENTASIA - TAENIAS L - SEALANT N - ANNATES P - ANAPEST - PEASANT R - SANTERA W - SEAWANT สูตรที่ 0027 AAERST B - ABATERS - ABREAST C - CARATES E - AERATES G - GASTREA - TEARGAS I - ARISTAE - ASTERIA - ATRESIA K - KARATES N - SANTERA O - AEROSAT R - ERRATAS สูตรที่ 0028 AAGINR A - ANGARIA B - BARGAIN E - ANERGIA R - ARRAIGN S - SANGRIA T - GRANITA U - GUARANI Z - ZINGARA สูตรที่ 0029 AAGINS B - ABASING - BISNAGA L - AGNAILS M - MAGIANS - SIAMANG N - ANGINAS O - AGNOSIA R - SANGRIA T - AGAINST - ANTISAG U - IGUANAS V - VAGINAS Y - GAINSAY สูตรที่ 0030 AAILMS B - BAALISM C - CAMAILS E - MALAISE K - KALMIAS M - MIASMAL N - ANIMALS - LAMINAS - MANILAS P - IMPALAS S - SALAMIS สูตรที่ 0031 AAILNS B - BASINAL G - AGNAILS K - KALIANS M - ANIMALS - LAMINAS - MANILAS N - ALANINS P - SALPIAN S - SALINAS T - LATINAS สูตรที่ 0032 AAILNT C - ACTINAL F - FANTAIL - TAILFAN L - LANITAL M - MATINAL O - ALATION P - PLATINA S - LATINAS V - VALIANT Y - ANALITY สูตรที่ 0033 AAIMNT A - AMANITA E - AMENTIA - ANIMATE J - ANTIJAM L - MATINAL N - ANTIMAN O - ANIMATO P - TIMPANA R - MARTIAN - TAMARIN S - STAMINA X - TAXIMAN สูตรที่ 0034 AAINPS A - PAISANA E - PAESANI L - SALPIAN O - ANOPIAS - ANOPSIA - PAISANO P - PAPAINS R - PARIANS - PIRANAS S - PAISANS T - PASTINA - PATINAS - PINATAS - TAIPANS สูตรที่ 0035 AAINRS C - ACRASIN - ARNICAS - CARINAS - SARCINA D - RADIANS F - FARINAS G - SANGRIA J - JARINAS K - KINARAS M - MARINAS P - PARIANS - PIRANAS T - ANTIARS - ARTISAN - TSARINA U - ANURIAS - SAURIAN - URANIAS V - SAVARIN สูตรที่ 0036 AAINRT C - ANTICAR D - RADIANT G - GRANITA I - ANTIAIR M - MARTIAN - TAMARIN S - ANTIARS - ARTISAN - TSARINA V - VARIANT W - ANTIWAR Z - TZARINA สูตรที่ 0037 AAINST B - ABSTAIN C - SATANIC E - ENTASIA - TAENIAS G - AGAINST - ANTISAG H - SHAITAN L - LATINAS M - STAMINA O - ATONIAS P - PASTINA - PATINAS - PINATAS - TAIPANS R - ANTIARS - ARTISAN - TSARINA T - ATTAINS สูตรที่ 0038 AAIRST B - BARISTA C - CARITAS E - ARISTAE - ASTERIA - ATRESIA L - LARIATS - LATRIAS M - AMRITAS - TAMARIS N - ANTIARS - ARTISAN - TSARINA S - ARISTAS - TARSIAS T - STRIATA สูตรที่ 0039 AALRST G - GASTRAL H - HARTALS I - LARIATS - LATRIAS O - ALASTOR S - ASTRALS - TARSALS T - STRATAL U - AUSTRAL Y - ASTYLAR สูตรที่ 0040 AALSTU B - ABLAUTS F - FLAUTAS K - TALUKAS N - SULTANA P - SPATULA R - AUSTRAL S - ASSAULT V - VALUTAS สูตรที่ 0041 AANRST E - SANTERA I - ANTIARS - ARTISAN - TSARINA K - KANTARS M - MANTRAS P - PARTANS - SPARTAN - TARPANS - TRAPANS T - RATTANS - TANTRAS - TARTANS Y - YANTRAS Z - TARZANS สูตรที่ 0042 ABBELR B - BABBLER - BLABBER - BRABBLE C - CLABBER D - DABBLER - DRABBLE - RABBLED G - GABBLER - GRABBLE L - BARBELL M - BRAMBLE O - BELABOR R - RABBLER S - BARBELS - RABBLES - SLABBER U - BARBULE W - WABBLER สูตรที่ 0043 ABBERS D - DABBERS G - GABBERS I - BARBIES - RABBIES J - JABBERS L - BARBELS - RABBLES - SLABBER N - NABBERS R - BARBERS T - BARBETS - RABBETS - STABBER W - SWABBER Y - YABBERS สูตรที่ 0044 ABBGIN C - CABBING D - DABBING G - GABBING J - JABBING N - NABBING R - BARBING S - SABBING T - TABBING U - BUBINGA Y - BABYING สูตรที่ 0045 ABCERS H - BRACHES I - ASCRIBE - CARIBES K - BACKERS L - CABLERS M - CAMBERS - CRAMBES O - BORACES R - BRACERS U - RUBACES - SUBRACE สูตรที่ 0046 ABDDER A - ABRADED B - DRABBED D - BRADDED E - BEARDED - BREADED - DEBEARD I - BRAIDED L - BLADDER N - BRANDED O - BOARDED - ROADBED W - BEDWARD สูตรที่ 0047 ABDEEL C - BELACED - DEBACLE K - LAKEBED L - LABELED M - BELDAME N - ENABLED R - BLEARED S - BEADLES T - BELATED - BLEATED Y - BELAYED - DYEABLE สูตรที่ 0048 ABDEER D - BEARDED - BREADED - DEBEARD I - BEADIER K - BERAKED L - BLEARED M - BREAMED P - BEDRAPE - PREBADE S - BEADERS - DEBASER - SABERED T - BERATED - DEBATER - REBATED - TABERED W - BEWARED Y - BEEYARD สูตรที่ 0049 ABDEET D - DEBATED J - JETBEAD L - BELATED - BLEATED M - BEDMATE R - BERATED - DEBATER - REBATED - TABERED S - BESTEAD - DEBATES T - ABETTED X - BETAXED สูตรที่ 0050 ABDEIL D - ADDIBLE H - HIDABLE I - ALIBIED P - BIPEDAL - PIEBALD R - BEDRAIL - BRAILED - RIDABLE S - BALDIES - DISABLE U - AUDIBLE Y - BEADILY สูตรที่ 0051 ABDEIR C - CARBIDE D - BRAIDED E - BEADIER G - ABRIDGE - BRIGADE L - BEDRAIL - BRAILED - RIDABLE N - BRAINED R - BRAIDER S - ABIDERS - BRAISED - DARBIES - SEABIRD - SIDEBAR T - REDBAIT - TRIBADE U - DAUBIER W - BAWDIER สูตรที่ 0052 ABDEIS A - DIABASE D - BADDIES L - BALDIES - DISABLE N - BANDIES - BASINED R - ABIDERS - BRAISED - DARBIES - SEABIRD - SIDEBAR S - BIASSED U - SUBIDEA W - BAWDIES สูตรที่ 0053 ABDELR B - DABBLER - DRABBLE - RABBLED D - BLADDER E - BLEARED G - GARBLED H - HALBERD I - BEDRAIL - BRAILED - RIDABLE M - MARBLED - RAMBLED N - BLANDER O - LABORED S - BLADERS U - DURABLE W - BRAWLED - WARBLED Y - DRYABLE
thaiwikibooks
195,622
นิติปรัชญา
นิติปรัชญา  1.   กฎหมายธรรมชาติคืออะไร  มีพัฒนาการอย่างไร กฎหมายธรรมชาติ  เป็นทฤษฎีที่เชื่อว่า  กฎหมายที่มีอยู่ตามธรรมชาติ  เป็นกฎหมายที่อยู่เหนือรัฐและใช้ได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่   ความหมายของกฎหมายธรรมชาติ โดยแยกออกเป็น  2  นัย คือ นัยแรก  เป็นหลักเกณฑ์ของกฎหมายอุดมคติที่มีค่าบังคับสูงกว่ากฎหมายที่มนุษย์บัญญัติขึ้นเอง  ดังนั้น  กฎหมายใดที่มนุษย์บัญญัติขึ้นซึ่งขัดหรือแย้งต่อหลักกฎหมายธรรมชาติก็จะไม่มีค่าบังค ับเป็นกฎหมายเลย   นัยที่สอง  ถือว่าหลักกฎหมายธรรมชาติเป็นเพียงอุดมคติของกฎหมายที่รัฐบัญญัติขึ้น  ดังนั้นการบัญญัติหรือตรากฎหมายจึงควรให้สอดคล้องกับหลักการของกฎหมายธรรมชาติ  กฎหมายที่ขัดหรือแย้งกับหลักกฎหมายธรรมชาติ อาจถือว่าเป็นกฎหมายที่ไม่มีค่าบังคับในทางกฎหมายโดยสมบูรณ์  แต่ไม่ถึงกับเป็นโมฆะ  หรือไม่มีค่าบังคับในทางกฎหมายเสียเลย  พัฒนาการของกฎหมาย พัฒนาการของกฎหมาย. 1.     ยุคกรีกโบราณและโรมัน         1.1   จุดก่อตัวของแนวคิดปรัชญากฎหมายธรรมชาติ  เกิดโดย  เฮราคลิตุส  ธรรมชาติคือความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง  แก่นสารของชีวิตคือธรรมชาติ    -   โซโฟครีส  เขียนหนังสือชื่อ  แอนโทโกนี  เป็นละครโศกนาฏกรรม(เรื่องการทำศพพี่ชาย)ที่บรรจุหลักการสำคัญในการแยกกฎหมายอันแท้จ ริงออกจากโครงสร้าง, อำนาจรัฐ  และยืนยันความเป็นโมฆะของกฎหมายแผ่นดินที่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายธรรมชาติหรือความยุติ ธรรม   เนื่องจากโซโฟครีส   เชื่อหลักความเป็นธรรมตามธรรมชาติ  -  เพลโต  สรุปว่า  กฎหมายธรรมชาติเป็นความคิดหรือแบบอันไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสำหรับใช้เป็นบรรทัดฐานต่อกฎหมายบ้านเมือง  และมีเพียงราชาปราชญ์ผู้สามารถเข้าถึง “แบบ”     1.2      พวก  Homo  mensura เป็นพวกที่ไม่เชื่อว่ากฎหมายมีอยู่ในธรรมชาติ  แต่มนุษย์เป็นผู้สร้างกฎหมายขึ้นมา    1.3     สำนักสโตอิค  มีแนวความคิดพื้นฐานว่า ในจักรวาลประกอบด้วย “เหตุผล” ซึ่งเป็นเสมือนกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่มีลักษณะแน่นอน  มนุษย์ซึ่งถูกกำหนดควบคุมโดย “เหตุผล”      1.4   จักรวรรดิโรมัน  ได้นำหลักกฎหมายธรรมชาติไปปรับใช้ในการพัฒนาระบบกฎหมายของโรมันให้มีความเหมาะสมเป็น ธรรม     2.   ยุคมืด และช่วงแรกของยุคกลาง  ยุคมืด และช่วงแรกของยุคกลาง   ศาสนจักรโรมันคาทอลิกก็เข้าครอบงำและพัฒนาเปลี่ยนแปลงปรัชญากฎหมายธรรมชาติให้สอดคล้ องกับหลักคำสอนของคริสต์ศาสนา  (เน้นว่า กฎหมายที่ขัดต่อคำสอนของศาสนาไม่เป็นกฎหมาย)โดยนำแนวคิดเรื่องบาปโดยกำเนิด (Original Sin)  เข้ามาแทนที่ “เหตุผล”    ช่วงที่สองของยุคกลาง   เซนต์ โทมัส อไควนัส ยืนยันว่ากฎหมายธรรมชาติสูงกว่ากฎหมายที่รัฐบัญญัติขึ้น (เจตจำนงของพระเจ้าคือที่มาของกฎหมาย)  และได้แบ่งกฎหมายออกเป็น  4  ประเภท คือ  1)   กฎหมายนิรันดร์          2 )   กฎหมายธรรมชาติ       3.)   กฎหมายศักดิ์สิทธิ์         4.)   กฎหมายของมนุษย์   3.   ยุคฟื้นฟู และยุคปฏิรูป  (เป็นยุคที่เกิดกฎหมายระหว่างประเทศ) เป็นยุคที่ปรัชญากฎหมายธรรมชาติแยกออกจากการครอบงำของศาสนาคริสต์  มาสู่การวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์  ฮูโก  โกรเชียส  ได้นำหลักการของกฎหมายธรรมชาติบางเรื่องไปเป็นรากฐานในการบัญญัติกฎหมายระหว่างประเทศ  จนได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาของกฎหมายระหว่างประเทศ           4.   ยุคชาติรัฐนิยม   เป็นยุคที่กฎหมายธรรมชาติมีความเสื่อมลง เพราะ      1)   กระแสสูงของลัทธิชาติรัฐนิยม  (Nationalism)     2)   ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์  และวิธีคิดเชิงประจักษ์วาทแบบแบบวิทยาศาสตร์ และภายใต้ความคิดทางแบบวิทยาศาสตร์นี้ก็ยังเป็นพื้นฐานให้เกิดลัทธิอรรถประโยชน์และทฤษฎีปฏิฐานนิยมทางกฎหมาย     5.   ยุคปัจจุบัน (ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2) มีการฟื้นตัวของกฎหมายธรรมชาติ  อันเนื่องจากองค์การสหประชาชาติ (UN)  รณรงค์ให้เคารพในสิทธิมนุษยชน (Human Rights)   ในยุคนี้ปรัชญากฎหมายธรรมชาติมีบทบาทอยู่  2  ลักษณะ     5.1)   ในแง่สนับสนุนอุดมคตินิยมทางกฎหมายเชิงจริยธรรม      5.2)   เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับสิทธิซึ่งสนับสนุนเรื่องสิทธิมนุษยชน    ในยุคนี้ทำให้เกิดกฎหมายธรรมชาติร่วมสมัย      ฟูลเลอร์  เชื่อมั่นในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายกับศีลธรรม  เน้นความสำคัญของเรื่อง “วัตถุประสงค์”  ซึ่งประกาศว่า กฎหมายจำต้องบรรจุด้วยหลักเกณฑ์ทางศีลธรรม  หรือที่เขาเรียกว่า  “The  Inner Morality of Law”      โดยต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขสำคัญ  8 ประการ       1)   กฎหมายต้องมีลักษณะทั่วไป       2)   ต้องถูกตีพิมพ์เผยแพร่ให้ปรากฏแก่สาธารณะ        3)   ต้องไม่มีผลย้อนหลัง      4)   ต้องมีลักษณะชัดแจ้ง  และสามารถเป็นที่เข้าใจได้      5)   ต้องไม่มีความขัดแย้งกัน     6)   ต้องไม่เป็นการกำหนดบังคับในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้     7)   ต้องมีความมั่นคง  แน่นอน    8)   ต้องมีความกลมกลืน     จอห์น  ฟินนีส    อธิบายทฤษฎีกฎหมายธรรมชาติ ด้วยการหาคำตอบเกี่ยวกับลักษณะของชีวิตที่มีคุณค่า โดยเริ่มจากสมมติฐานหลัก 2  ประการ  คือ     1)   รูปแบบพื้นฐานแห่งความมั่งคั่งรุ่งเรืองของมนุษย์     2)     สิ่งจำเป็นเชิงวิชาการพื้นฐานของความชอบด้วยเหตุผลเชิงปฏิบัติ      จุดอ่อน    -   ความเป็นนามธรรมอย่างสูง       -   ไม่สามารถพิสูจน์ตรวจสอบความถูกต้องได้ด้วยวิธีการทาง    -   ไม่ถูกต้องตามหลักตรรกะ    2.   ปฏิฐานนิยมทางกฎหมายคืออะไร  ฟุลเลอร์และดวอร์กิ้นได้วิจารณ์ฮาร์ทอย่างไร ทฤษฎีปฎิฐานนิยมทางกฎหมาย หรือ“กฎหมายบ้านเมือง” (กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย)  มีแนวคิดหลักว่ากฎหมายคือเจตจำนงหรือคำสั่งของรัฏฐาธิปัตย์,  ความสมบูรณ์ของกฎหมายอยู่ที่สภาพบังคับที่เด็ดขาด,  กฎหมายนั้นไม่จำต้องผูกติดสัมพันธ์กับความยุติธรรมหรือหลักจริยธรรมใด ๆ  จึงทำให้ทฤษฎีปฏิฐานนิยมทางกฎหมาย  เป็นแนวคิดที่สวนทางกลับทฤษฎีกฎหมายธรรมชาติ  ทรรศนะพื้นฐานสำคัญ 1)   ข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่เป็นอยู่จริง  (Is) หาใช่เป็นสิ่งเดียวหรือสัมพันธ์กับหลักคุณค่าบรรทัดฐานหรือสิ่งที่ควรจะเป็น (Ought) ไม่   2)   กฎหมายเป็นผลผลิตหรือเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยอำนาจปกครองในสังคม แนวคิดพื้นฐานของทฤษฎีปฏิฐานนิยมทางกฎหมาย  แบ่งออกเป็น  3  ประการ  คือ 1.    กฎหมายไม่เกี่ยวข้องกับศีลธรรม   2.    กฎหมายมาจากรัฎฐาธิปัตย์   3.    กฎหมายเป็นสิ่งที่มีสภาพบังคับหรือมีบทลงโทษ พัฒนาการทางทฤษฎีนี้เป็นผลทำให้การแยกทฤษฎีออกเป็นสองแบบฉบับ (Version)  คือ 1.   แบบฉบับดั้งเดิม  ในคริสต์ศตวรรษที่ 19    -   เบนแธม (is กับ ought แยกออกจากกัน) เป็นนักปรัชญาและนักปฏิรูปกฎหมายคนสำคัญของชาวอังกฤษ    และเป็นผู้สนับสนุนลัทธิหรือหลักอรรถประโยชน์    ซึ่งเชื่อว่า  คุณค่าของการกระทำใด ๆ ล้วนต้องพิจารณาจากผลลัพธ์ในแง่อรรถประโยชน์หรือความสุขที่เกิดขึ้น -   ออสติน  (Austin)  ทฤษฎีคำสั่งแห่งกฎหมาย   ซึ่งเรียกกันในภายหลังว่า “นิติศาสตร์เชิงวิเคราะห์”    ซึ่งจะเน้นที่ลักษณะภายนอกของสภาพบังคับกฎหมาย  หรือเน้นที่ตัวบุคคลผู้มีอำนาจออกกฎหมาย  2.   แบบฉบับซึ่งได้รับการพัฒนาแก้ไขปรับปรุง    ในคริสต์ศตวรรษที่ 20    -   ฮาร์ท   (จะเน้นประสิทธิภาพของกฎหมาย) ถือว่า   ระบบกฎหมายนั้นเป็นระบบแห่งกฎเกณฑ์ทางสังคมรูปแบบหนึ่ง  “โดยพื้นฐานแท้จริงแล้ว  การยึดมั่นของปฎิฐานนิยมทางกฎหมายในบทสรุปของแนวคิดเรื่องการแยกกฎหมายออกจากศีลธรรม นั้น   ในตัวของมันวางอยู่บนเหตุผลทางศีลธรรม”    และได้แบ่งกฎเกณฑ์ของ   “ระบบกฎหมาย”   ออกเป็น  2  ประเภท  คือ กฎปฐมภูมิและกฎทุติยภูมิ ในทรรศนะของฮาร์ท  ถือว่าเป็นกฎหลักสองประการที่เน้นประสิทธิภาพของกฎหมาย     ทำให้กฎเกณฑ์ทางกฎหมายมีความสมบูรณ์ 1)   กฎปฐมภูมิ (สารบัญญัติ) หมายถึง  กฎเกณฑ์ทั่วไปซึ่งวางบรรทัดฐานการประพฤติให้คนทั่วไปในสังคม  และก่อให้เกิดหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามในลักษณะเป็นกฎหมายเบื้องต้นทั่วไป       2)   กฎทุติยภูมิ (วิธีสบัญญัติ)  หมายถึง  กฎเกณฑ์พิเศษที่สร้างขึ้นมาเสริมความสมบูรณ์ของกฎปฐมภูมิ   เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบังคับใช้มากยิ่งขึ้น      โดยองค์ประกอบของกฎทุติยภูมิออกเป็น 3 กฎย่อย  คือ 1)   กฎที่กำหนดเกณฑ์การรับรองความเป็นกฎหมายที่สมบูรณ์   2)   กฎที่กำหนดเกณฑ์การบัญญัติและแก้ไขเปลี่ยนแปลง 3)   กฎที่กำหนดเกณฑ์การวินิจฉัยชี้ขาดตัดสิน ข้อวิจารณ์ของ   ฟูลเลอร์  (Fuller)   ที่มีต่อระบบกฎเกณฑ์ของฮาร์ท ฟูลเลอร์  เป็นนักทฤษฎีฝ่ายกฎหมายธรรมชาติ    -   ยอมรับข้อเสนอของฮาร์ทที่ว่า  “กฎหมายคือระบบของกฎเกณฑ์”     -   แต่ก็ยังยืนยันความสำคัญของเรื่องวัตถุประสงค์ภายในตัวกฎหมาย        ฟูลเลอร์  ไม่เห็นด้วยอย่างมากกับการที่ฮาร์ทสรุปว่า  กฎหมายเป็นเรื่องของกฎเกณฑ์ล้วน ๆ  และไม่จำต้องเกี่ยวข้องกับหลักศีลธรรมหรือหลักคุณค่านามธรรมเสมอไป   กล่าวคือ  ฟูลเลอร์เห็นว่า  “กฎหมายนั้นต้องสนองตอบความจำเป็นหรือวัตถุประสงค์ทางศีลธรรม  กฎหมายและศีลธรรมจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้  กฎหมายจะต้องมีสิ่งที่อาจเรียกว่า  “ศีลธรรมภายในกฎหมาย”  บรรจุอยู่เสมอ” และ ไม่เห็นด้วยกับฮาร์ทที่แยกกฎปฐมภูมิซึ่งเป็นกฎที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดพันธะหน้าที่ และกฎทุติยภูมิซึ่งเป็นกฎเกี่ยวกับการให้อำนาจด้านกฎหมาย  ออกจากกันโดยเด็ดขาด  เพราะในบางสถานการณ์กฎอันเดียวกันอาจให้ทั้งอำนาจและกำหนดหน้าที่  ไม่จำกัดบทบาทเพียงอย่างหนึ่งอย่างใด  หากแต่ต้องแปรผันไปตามสภาพแวดล้อม  ข้อวิจารณ์ของ    ดวอร์กิ้น  (Dworkin)  ที่มีต่อระบบกฎเกณฑ์ของฮาร์ท ดวอร์กิ้น  วิจารณ์แนวคิดเรื่อง”ระบบแห่งกฎเกณฑ์”  โดยเห็นว่า  การถือว่ากฎหมายเป็นเพียงเรื่องระบบแห่งกฎเกณฑ์ตามความคิดของฮาร์ทนั้น  เป็นข้อสรุปที่ไม่สมบูรณ์และคับแคบเกินไป  เพราะจริง ๆ แล้ว  “กฎเกณฑ์”  ไม่ใช่เนื้อหาสาระเดียวในกฎหมาย  การมองกฎหมายว่าเป็นเรื่องของกฎเกณฑ์เท่านั้นไม่เป็นสิ่งที่เพียงพอ  กฎเกณฑ์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกฎหมายเท่านั้น  แท้จริงแล้วยังมีเนื้อหาสาระสำคัญอื่น ๆ ซึ่งประกอบอยู่ภายในกฎหมาย  ที่สำคัญคือเนื้อหาสาระที่เป็นเรื่องของ “หลักการ” ทางศีลธรรม  หรือความเป็นธรรม ดวอร์กิ้นถือว่า “หลักการ” เป็นมาตรฐานภายในกฎหมายซึ่งต้องเคารพรักษา ซึ่ง  “หลักการ”  ต่างกับ  “กฎเกณฑ์”  ตรงที่กฎเกณฑ์มีลักษณะใช้ได้ทั่วไปมากกว่า  ขณะที่หลักการต้องเลือกปรับใช้ในบางคดี   ในจุดนี้  ดวอร์กิ้น  ได้ยกตัวอย่างที่เขาต้องการชี้ให้เห็นความแตกต่าง ระหว่าง “หลักการ” และ “กฎเกณฑ์"   เช่น  คดี Henningsen V. Bloomfield Motors   ซึ่ง มีประเด็นสำคัญว่า บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์สามารถจำกัดความรับผิดของตนในความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจา กความบกพร่องในการผลิตได้เพียงใด ในเมื่อได้ทำสัญญาโดยตกลงว่าความรับผิดของบริษัทผู้ผลิตจำกัดเพียงการซ่อมแซมส่วนที่ บกพร่องให้ดีเท่านั้น  ต่อมาเมื่อได้เกิดความเสียหายขึ้น  ผู้ซื้อโต้แย้งว่า บริษัทไม่ควรได้รับการคุ้มครองโดยข้อจำกัดของสัญญาดังกล่าว  โดยควรต้องรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ   เนื่องจากการชนกันของรถซึ่งเป็นผลจากความบกพร่องของรถยนต์  คดีนี้ ผู้ซื้อไม่สามารถอ้างกฎหมายหรือหลักนิติธรรมที่หนักแน่นใด ๆ ซึ่งห้ามบริษัทผู้ผลิตไม่ให้ทำข้อตกลงในลักษณะดังกล่าว  ศาลเห็นพ้องกับคำร้องขอของผู้ซื้อ  โดยให้เหตุผลว่า แม้หลักเรื่องเสรีภาพในการทำสัญญาจะเป็นหลักการสำคัญในกฎหมาย  แต่ก็หาใช่ว่า จะเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้    บริษัทผู้ผลิตต้องมีภาระเป็นพิเศษในเรื่องการสร้าง  การโฆษณาและการขายรถยนต์ของตน     ศาลไม่ยอมปล่อยให้อยู่ใต้บังคับของข้อตกลงต่อรองซึ่งคู่กรณีฝ่ายหนึ่งได้ฉก ฉวยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นธรรมจากอีกฝ่ายหนึ่ง (ในเรื่องคดีนี้ อาจยกตัวอย่างคดีอื่นๆ ได้) ดวอร์กิ้นเห็นว่า  มาตรฐานที่ศาลใช้เป็นเหตุผลของคำพิพากษามิใช่สิ่งที่เราเข้าใจว่าเป็นกฎเกณฑ์ทางกฎหมาย  แต่คือหลักการทางกฎหมาย    ในการมองธรรมชาติของกฎหมายว่ามิใช่เป็นเรื่องของกฎเกณฑ์หรือระบบแห่งกฎหมายเท่านั้น  แต่ยังมีสาระของเรื่องหลักการประกอบอยู่ด้วย  ความเชื่อตรงนี้ทำ ให้ดวอร์กิ้นวิพากษ์วิจารณ์ฮาร์ทอย่างมากในเรื่องการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษานอกเหน ือกฎหมาย  ในการตัดสินคดีที่ยุ่งยาก  ซับซ้อน ในลักษณะคล้ายเป็นการตรากฎหมายขึ้นใหม่  ซึ่งฮาร์ทถือว่าทำได้   แต่ดวอร์กิ้นไม่ยอมรับดุลพินิจเช่นนี้  โดยเชื่อว่าผู้พิพากษาสามารถค้นหาคำตอบได้จากหลักการภายในกฎหมายมิใช่ใช้ดุลพินิจบัญญัติกฎหมายขึ้นมาเอง 3.   กฎหมายประวัติศาสตร์คืออะไร มีหลักการสำคัญ 3 ประการอย่างไรบ้าง กฎหมายประวัติศาสตร์  หรือ สำนักกฎหมายประวัติศาสตร์ เป็นสำนักที่นำเอาการวิเคราะห์หรือองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ไปใช้ใน กฎหมาย เพื่อสร้างทฤษฎีกฎหมายในเชิงนิติปรัชญา สำนักกฎหมายประวัติศาสตร์ถือกำเนิดขึ้นโดยนักนิติศาสตร์ชาวเยอรมัน ชื่อ ฟอน ซาวิญยี่  ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของศาสตราจารย์ทีเบาท์ แห่งมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ค  ที่ให้ทำการยกร่างประมวลกฎหมายเยอรมนี ซาวิญยี่เห็นว่า  1.   มีรากเหง้าที่หยั่งลึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของประชาชาติ   2.   มีกำเนิดและเติบโตเรื่อยมาจากประสบการณ์และหลักความประพฤติทั่วไปของประชาชน   3.   ปรากฏในรูป  “จิตสำนึกร่วมกันของประชาชน”                  หลักการสำคัญของกฎหมายประวัติศาสตร์  จากความคิดพื้นฐานของซาวิญยี่  มีดังนี้ 1.   กฎหมายเป็นสิ่งที่ถูกค้นพบ  มิใช่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้น  2.   นักกฎหมายเป็นเสมือนปากเสียงของจิตสำนึกของประชาชน นักกฎหมายจึงมีความสำคัญมากกว่านักนิติปรัชญาในแง่ของการเป็นบุคคลผู้สร้างกฎหมาย 3.   กฎหมายมิใช้สิ่งที่มีความสมบูรณ์อย่างสากล  มิใช่สิ่งที่จะนำมาปรับใช้ได้ทุก ๆ แห่งเหมือนกัน                  ประเด็นสำคัญที่เสนอคือ  ถ้าจะสร้างกฎหมายหรือตรากฎหมายขึ้นมาต้องสร้างกฎหมายที่ถูกต้องสอดคล้องกับจิตวิญญาณ ของคนในชาติ หรือเจตจำนงของประชาชน   4.   นิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยาคืออะไร  รอสโคพาวน์อธิบายทฤษฎีวิศวกรรมสังคมว่าอย่างไร    นิติศาสตร์เชิงสังคม เป็นแนวความคิดหรือทฤษฎีทางนิติศาสตร์ที่เน้นบทบาทของกฎหมายต่อสังคม  อันเป็นการพิจารณาถึงบทบาทหน้าที่ของกฎหมายหรือการทำงานของกฎหมายมากกว่าการสนใจกฎหม ายในแง่ที่เป็นเนื้อหาสาระซึ่งเป็นนามธรรมลอย ๆ                       ทฤษฎีนิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยา  เป็นทฤษฎีทางกฎหมายที่ก่อตัวขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19   ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมตะวันตกอยู่ในภาวะของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม  จากสังคมประเพณีที่ไม่ซับซ้อนสู่สังคมอุตสาหกรรม  (Industrial Society)              มีกลุ่มแนวคิดทฤษฎี  2  กลุ่ม  คือ 1.   กลุ่มที่มีแนวความคิดค่อนมาทางปีกขวา หรืออนุรักษ์เสรีนิยม   เยียริ่ง                -  ต้นกำเนิดของกฎหมายวางอยู่ที่เงื่อนไขทางสังคมวิทยา              - รากฐานอันแท้จริงของ เรื่อง “สิทธิ"” อยู่ที่ “ผลประโยชน์              - ต้นเหตุสำคัญของกฎหมายอยู่ที่การเป็นเครื่องมือเพื่อสนองตอบความต้องการของสังคม                 - วัตถุประสงค์ของกฎหมายอยู่ที่การปกป้องหรือขยายการปกป้องผลประโยชน์ของสังคม                           2.    กลุ่มที่มีแนวความคิดค่อนมาทางทางปีกซ้าย หรือโอนเอียงใกล้กับความคิดแบบสังคมนิยม     ดิวกี้  เป็นผู้นำเสนอทฤษฎีความสมานฉันท์ของสังคม  (Social Solidarism) ซึ่งเน้นเรื่องประโยชน์ของสังคม  เน้นเรื่องการกระจายอำนาจของรัฐ  ปฏิเสธการแยกกฎหมายเอกชนกับกฎหมายมหาชน   ปฏิเสธการดำรงอยู่เรื่องสิทธิส่วนตัว  แกนกลางของกฎหมายอยู่ที่เรื่องหน้าที่  ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะประกันว่าแต่ละคนได้ดำเนินบทบาทของตนในการส่งเสริมความสมานฉ ันท์ในสังคม     รอสโค พาวนด์  เป็นผู้พัฒนาทฤษฎีนิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยาให้มีรายละเอียดในเชิงปฏิบัติ  เน้นการศึกษาหรือการแก้ไขปัญหาเชิงปฎิบัติ  กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับคานประโยชน์ต่าง ๆ  ในสังคมเพื่อให้เกิดความสมดุล    ซึ่งวิธีการคานประโยชน์ต่าง ๆ  นั้น  ก็ด้วยการสร้างกลไกในการคานอำนาจผลประโยชน์  เสมือนการก่อสร้างหรือวิศวกรรมสังคม  จึงเรียกว่า  ทฤษฎีวิศวกรรมสังคม  (Social  Engineering Theory)                     แบ่งอธิบายทฤษฎีของเขาเป็น  3  หัวข้อ  ได้แก่                    1.   ความหมายของผลประโยชน์  ผลประโยชน์ คือ  “ข้อเรียกร้อง  ความต้องการ  หรือความปรารถนาที่มนุษย์ต่างยืนยันเพื่อให้ได้มาอย่างแท้จริง  และเป็นภารกิจที่กฎหมายต้องกระทำการอันใดอันหนึ่ง  เพื่อสิ่งเหล่านั้นหากต้องการธำรงไว้ซึ่งสังคมอันเป็นระเบียบเรียบร้อย”   ผลประโยชน์ดังกล่าวนี้   เป็นสิ่งที่กฎหมายมีหน้าที่ต้องตอบสนอง                    2.   ประเภทของผลประโยชน์        รอสโค พาวนด์   แบ่งผลประโยชน์ออกเป็น  3  ประเภท  ได้แก่                    1.   ผลประโยชน์ของปัจเจกชน   คือ  ข้อเรียกร้อง  ความต้องการ  ความปรารถนา  และความคาดหมายในการดำรงชีวิตของปัจเจกชน  ซึ่งเกี่ยวข้องกับ -  ผลประโยชน์ด้านบุคลิกภาพส่วนตัว   -  ความสัมพันธ์ทางครอบครัว    -   ผลประโยชน์อันเป็นแก่นสาระสำคัญ   ซึ่งรวมถึงการมีทรัพย์สินส่วนบุคคล และเสรีภาพในการประกอบกิจการในด้านต่าง ๆ      2.   ผลประโยชน์ของมหาชน      3.   ผลประโยชน์ของสังคม    3.           วิธีการคานหรือถ่วงดุลผลประโยชน์              การนำเอาผลประโยชน์แต่ละประเภทมาคานกันให้เกิดการขัดแย้งน้อยที่สุดในสังคมแบบการกระ ทำวิศวกรรม  ภาระสำคัญ 6 ประการของนักนิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยา  ดังนี้   1.ต้องศึกษาถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงของสถาบันทางกฎหมายและทฤษฎีกฎหมาย   2.ต้องศึกษาเชิงสังคมวิทยาในเรื่องการตระเตรียมการนิติบัญญัติโดยเฉพาะในเรื่องของผลการนิติบัญญัติเชิงเปรียบเทียบ   3.ต้องศึกษาถึงเครื่องมือหรือกลไกที่จะทำให้กฎเกณฑ์ทางกฎหมายมีประสิทธิภาพ  ใช้ได้ผลจริง  โดยถือว่า “ความมีชีวิตของกฎหมายปรากฏอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย”   4.ต้องศึกษาประวัติศาสตร์กฎหมายเชิงสังคมวิทยา  ด้วยการตรวจพิจารณาดูว่า  ทฤษฎีกฎหมายต่าง ๆ ได้ส่งผลลัพธ์ประการใดบ้างในอดีต   5.ต้องสนับสนุนให้มีการตัดสินคดีบุคคลอย่างมีเหตุผลและยุติธรรม  ซึ่งมักอ้างเรื่องความแน่นอนขึ้นแทนที่มากเกินไป   6.ต้องพยายามทำให้การบรรลุจุดมุ่งหมายของกฎหมายมีผลมากขึ้น         5.   ความคิดมาร์กซิสต์วิจารณ์บทบาทของกฎหมายว่าอย่างไร  ทฤษฎีกฎหมายของมาร์กซิสต์  (The Marxist Theory of Law)   เป็นทฤษฎีที่วางอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดแบบนิยัตินิยมทางเศรษฐกิจ (Economic  Determinism) ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ถือว่า  เศรษฐกิจเป็นตัวกระทำฝ่ายเดียว หรือเป็นเหตุปัจจัยเดียวที่กำหนดความเป็นไปต่างๆ ในสังคม    ทฤษฎีนี้เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นระบบ    มาร์กซ  นักกฎหมายชาวยิว มองกฎหมายว่าเป็นเพียงกลไกเพื่อรับใช้ประโยชน์ของคนบางกลุ่มบางชนชั้นที่มีอำนาจในสั งคม  มิใช่เป็นกลไกที่มีความเป็นอิสระในการใช้ประนีประนอมผลประโยชน์ขัดแย้งทั้งหลาย  มาร์กซ  มีท่าทีต่อต้านทฤษฎีปฏิฐานนิยม                   นักทฤษฎีมาร์กซิสต์ได้สรุปความและวิจารณ์ธรรมชาติหรือบทบาทของกฎหมายเป็นข้อสรุปดังน ี้ 1.   กฎหมายเป็นผลผลิตหรือผลสะท้อนของโครงสร้างทางเศรษฐกิจหรือเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ 2.   กฎหมายเป็นเสมือนเครื่องมือหรืออาวุธของชนชั้นปกครองที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องอำนาจของตน กฎหมายเป็นเครื่องมือกดขี่ประชาชนของชนชั้นปกครอง 3.   สังคมคอมมิวนิสต์ที่สมบูรณ์ไม่ต้องมีกฎหมาย  กฎหมายในฐานะที่เป็นเครื่องมือของการควบคุมสังคมจะเหือดหาย  (Writering Away)   และสูญสิ้นไปในที่สุด                  6.   หลักนิติธรรมและดื้อแพ่งคืออะไร   มีหลักการสำคัญอย่างไร   หลักนิติธรรม  หมายถึง  “การเคารพเชื่อฟังต่อกฎหมาย หรือ  การที่รัฐบาลต้องปกครองด้วยกฎหมายและอยู่ภายใต้กฎหมาย” (นั่นคือ กฎหมายจะสูงสุด)  นอกจากนี้ยังมีความหมายของหลักนิติธรรมตามที่มีบุคคลต่าง ๆ ได้ให้นิยามความหมายไว้ที่สำคัญ ดังนี้ อริสโตเติ้ล  “ปัญญาที่ตัดขาดแล้วจากอารมณ์ความรู้สึก” ไดซีย์   มีนัย   3  ประการ  คือ      1.    การที่ฝ่ายบริหารไม่มีอำนาจลงโทษบุคคลใดได้ตามอำเภอใจ    2.   ไม่มีบุคคลใดอยู่เหนือกฎหมาย    3.   หลักทั่วไปของกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเป็นผลมาจากคำวินิจฉัยตัดสินของศาลหรือกฎหมายธรรมดา (เฉพาะประเทศอังกฤษ)   มิใช่เกิดจากการรับรองค้ำประกันเป็นพิเศษโดยรัฐธรรมนูญ  ดังกรณีของรัฐธรรมนูญประเทศอื่น  ไดซีย์ได้กล่าวอย่างน่าสนใจว่า  “ หลักนิติธรรมนั้นตรงกันข้ามกับรัฐบาลทุกระบบที่บุคคลผู้มีอำนาจสามารถใช้ อำนาจจับกุม คุมขังบุคคลใดได้อย่างกว้างขวางโดยพลการหรือตามดุลพินิจของตนเอง ”คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล เน้นย้ำถึงเรื่องการมีสิทธิเสรีภาพและการยอมรับในศักดิ์ศรีของมนุษย์ เชื่อว่าเป็นคุณสมบัติอันจำเป็นสำหรับความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง  โดยมีกลุ่มสิทธิ 2  ประเภทที่เน้นย้ำความสำคัญ  คือ สิทธิทางแพ่งและทางการเมืองประการหนึ่ง   และสิทธิทางเศรษฐกิจและสังคมอีกประการหนึ่ง    สำหรับประเทศไทย สิทธิมนุษยชนโดยหลักนิติธรรม  มีปรากฏใน รธน.แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540  เช่น     มาตรา 4  ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  สิทธิและเสรีภาพของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง     มาตรา 26  การใช้อำนาจโดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร  ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  สิทธิ และเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้     มาตรา  28 บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น  ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน  บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้สามารถยกบท บัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญนี้เพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้ (เวลาตอบให้ยกตัวอย่าง อองซาน ซูจี ในการถูกละเมิดสิทธิ เสรีภาพ)  การดื้อแพ่งกฎหมาย คือ  การกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายโดยสันติวิธี  เป็นการกระทำเชิงศีลธรรม  ในลักษณะของการประท้วงคัดค้านต่อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมหรือต่อการกระทำของรัฐบาลที่เห ็นว่าไม่ถูกต้อง  โดยการขัดขืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ให้ความร่วมมือ โดยต้องมีเหตุผลรองรับที่เชื่อถือได้ จึงจะสามารถยกเว้นหลักทั่วไปที่ต้องเชื่อฟังกฎหมาย   วิวาทะเรื่องการดื้อแพ่งกฎหมายของประชาชน -  ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย  ยืนยันว่า  ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายที่ทุกคนต้องเชื่อฟังโดยไม่มีข้อยกเว้นใด   -  ฝ่ายที่เห็นด้วย    ยืนยันว่า  กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมไม่ใช่กฎหมาย   รอลส์  ให้ความเห็นชอบในเรื่องการดื้อแพ่งกฎหมายของประชาชน  แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขแห่งความชอบธรรม    4  ประการ   ดังนี้  1.  ต้องเป็นการกระทำที่มีจุดประสงค์ของการสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นแก่สังคม     2.  กฎหมายที่ต่อต้านหรือดื้อแพ่งนั้น  ต้องเป็นกฎหมายที่ขาดความชอบธรรมเป็นอย่างมาก                  3.  การไม่เคารพหรือต่อต้านกฎหมายต้องเป็นการปฏิบัติการซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย     4.  การต่อต้านกฎหมายต้องกระทำโดยสันติวิธี,  โดยเปิดเผย   อ้างอิง
thaiwikibooks
195,623
กฎหมายครอบครัว
การหมั้น การหมั้น. การหมั้นจะสมบูรณ์ต่อเมื่อฝ่ายชายได้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอันเป็นของหมั้นให้แก่หญิงเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับผู้หญิง การหมั้นจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุ 17 บริบูรณ์แล้ว  ผู้เยาว์จะทำการหมั้นได้ต้องได้รับความยินยอมของบิดาและมารดา ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองแล้วแต่กรณี การหมั้นไม่เป็นเหตุที่จะร้องขอให้ศาลบังคับให้สมรสได้ กล่าวคือ เมื่อหมั้นกันแล้วฝ่ายหนึ่งไม่ยอมสมรสด้วย อีกฝ่ายหนึ่งจะฟ้องบังคับไม่ได้ แต่อาจฟ้องเรียกค่าทดแทนความเสียหายได้  กฎหมายมิได้บัญญัติว่าจะทำการสมรสได้ต่อเมื่อมีการหมั้นกันก่อน ฉะนั้นชายหญิงอาจทำการสมรสกันโดยไม่มีการหมั้นก็ได้  ของหมั้น เป็นทรัพย์สินของฝ่ายชายได้ส่งมอบหรือโอนให้แก่หญิงเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิงนั้น เมื่อหมั้นแล้วของหมั้นตกเป็นสิทธิแก่หญิง ถ้าฝ่ายหญิงผิดสัญญาหมั้นให้คืนของหมั้นแก่ฝ่ายชาย สินสอด เป็นทรัพย์สินของฝ่ายชายให้แก่บิดามารดา ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองฝ่ายหญิงแล้วแต่กรณี เพื่อตอบแทนการที่หญิงยอมสมรส ถ้าไม่มีการสมรสโดยมีเหตุสำคัญอันเกิดแก่หญิง หรือโดยมีพฤิตการณ์ซึ่งฝ่ายหญิงต้องรับผิดชอบทำให้ชายไม่สมควรหรือไม่อาจสมรสกับหญิงนั้น ฝ่ายชายเรียกสินสอดคืนได้  เงื่อนไขแห่งการสมรส เงื่อนไขแห่งการสมรส. การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์แล้ว แต่ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรศาลอาจอนุญาตให้ทำการสมรสก่อนนั้นได้ เช่น ชายหรือหญิงหรือทั้งสองคนอายุไม่ครบ 17 ปีบริบูรณ์ แต่มีความจำเป็นต้องทำการสมรสเพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศในฐานะครอบครัวที่เป็นสามีภรรยากัน ศาลอาจเห็นสมควรอนุญาตให้ทำการสมรสก่อนอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์  ข้อห้ามมิให้ทำการสมรส  1. ถ้าชายหรือหญิงเป็นบุคคลวิกลจริต หรือเป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ  2. ชายหญิงซึ่งเป็นญาติสืบสายโลหิตโดยตรงขึ้นไปหรือลงมา หรือเป็นพี่น้องร่วมบิดา มารดา หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา กรณีเช่นนี้ลูกพี่ลูกน้องแม้จะใช้ชื่อสกุลเดี่ยวกันก็อาจจะทำการสมรสกันได้ เพราะกฎหมายมิได้บัญญัติห้ามไว้  3. ชายหรือหญิงขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่แล้ว  4. ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกันไม่ได้ การสมรสจะมีผลสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนสมรสแล้วเท่านั้น ผู้เยาว์จะทำการสมรสได้จะต้องได้รับความยินยอมจากบิดาและมารดา ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองแล้วแต่กรณี การจดทะเบียนสมรส ตามปกติแล้วจะจด ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตแห่งใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่เขตที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภูมินำเลาอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา. สามีภรรยาต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดู กันตามความสามารถและฐานะของตน ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ถ้าสามีภริยาได้ทำสัญญาก่อนสมรสในเรื่องทรัพย์สินไว้เป็นพิเศษอย่างไรก็ให้เป็นไปตามนั้น ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา นอกจากที่ได้แยกไว้เป็น “สินส่วนตัว” ย่อมเป็น “สินสมรส”  สินส่วนตัว ได้แก่ ทรัพย์สินดังต่อไปนี้ ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส ที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว เครื่องแต่งกาย หรือเครื่องประดับกายตามควรแก่ฐานะ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดก หรือโดยการให้โดยเสน่หา ที่เป็นของหมั้น สินสมรส ได้แก่ ทรัพย์สินดังต่อไปนี้ ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดยการให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบถว่าเป็นสินสมรส ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส การสิ้นสุดแห่งการสมรส การสิ้นสุดแห่งการสมรส. การหย่า การหย่านั้นจะทำได้แต่โดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย หรือโดยคำพิพากษาของศาล การหย่าโดยความยินยอมต้องทำเป็นตัวหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อย 2 คน และจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนการหย่าแล้ว  เหตุฟ้องหย่าเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาให้หย่ามีหลายกรณี แต่จะยกมากล่าวเฉพาะที่สำคัญ ๆ ดังนี้ สามีอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันสามีภรรยา หรือภริยามีชู้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยาทำร้ายหรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาท หรือเหยียดหยาม อีกฝ่ายหนึ่ง หรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ถ้าเป็นการร้ายแรงอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญหรือ ไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่เป็นอยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรง อันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ 1. บุตรชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่เกิดปัญหามีเฉพาะว่าบุตรที่เกิดมาเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาหรือไม่ ซึ่งจะมีผลไปถึงอำนาจปกครองของบิดา ค่าอุปกรณ์เลี้ยงดูและการรับมรดกส่วนมรดกนั้นไม่มีปัญหา กล่าวคือ กฎหมายบัญญัติว่า เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชายให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น  บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดามีได้ 3 ประการคือ บุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่ทำการสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่มิได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ต่อมาบิดามารดาได้จดทะเบียนสมรสกันในภายหลัง บิดาจดทะเบียนว่าเป็นบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตรของบิดา 2. สิทธิ หน้าที่ ของบิดามารดาและบุตร บุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดา ในกรณีที่บิดาไม่ปรากฎ บุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุล บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของบิดามารดา อำนาจปกครองหรือสิทธิของบิดามารดา ได้แก่ ก. กำหนดที่อยู่ของบุตร ข. ทำโทษบุตรตามสมควร เพื่อว่ากล่าวสั่งสอน ค. ให้บุตรทำการงานตามสมควรแก่ความสามารถและฐานานุรูป ง. เรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่น ๆ ซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ใดจะฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญามิได้ แต่เมื่อผู้นั้นหรือญาติสนิทของผู้นั้นร้องขอ อัยการจะยกคดีขึ้นว่ากล่าวก็ได้ กล่าวคือลูก หลาน (ลูกของลูก) จะฟ้องพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และทวดของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาไม่ได้ ซึ่งแต่ก่อนเรียกคดีประเภทนี้ว่า “อุทลุม” เมื่อผู้อยู่ในบ้านย้ายที่อยู่ออกจากบ้านให้แจ้งการย้ายออกภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ผู้อยู่ในบ้านย้ายออก เมื่อมีผู้ย้ายที่อยู่เข้าอยู่บ้านให้แจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันสร้างเสร็จ เพื่อขอเลขหมายประจำบ้าน ความผิด ไม่แจ้งตามข้อ (1) (2) ภายในกำหนด มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท  สถานที่แจ้งขอเลขบ้าน กรณีสร้างบ้านใหม่และการแจ้งรื้อถอนบ้าน ในเขตเทศบาล ให้แจ้งขอเลขบ้านกรณีสร้างบ้านใหม่หรือแจ้งรื้อถอนบ้านที่สำนักงานเทศบาล นอกเขตเทศบาล ให้แจ้งขอเลขบ้านกรณีสร้างบ้านใหม่หรือแจ้งรื้อถอนบ้านที่ที่ว่าการอำเภอหรือที่ผู้ช่วยนายทะเบียนประจำหมู่บ้าน ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งขอเลขบ้านกรณีสร้างบ้านใหม่หรือแจ้งรื้อถอนบ้านที่สำนักงานเขต
thaiwikibooks
195,624
หลักวิชาชีพนักกฎหมาย
วิชาชีพกฏหมาย วิชาชีพกฏหมาย. 1. มีองค์การวิชาชีพ (ควบคุม/ส่งเสริม) 2. มีการศึกษาอบรม (ความยุติธรรม/เพื่อสังคม) 3. เจตนารมย์รับใช้ประชาชน 4. เป็นเจ้าหน้าที่ของศาล หน้าที่ของนักกฏหมาย หน้าที่ของนักกฏหมาย. 1. ให้คำปรึกษาแนะนำ 2. ดำเนินคดีและว่าความแทน 3. ส่งเสริมและปรับปรุงวิชาชีพ 4. รวบรวมมติมหาชนให้เข้ารูป 5. การดำรงตนเพื่อสาธารณะ เป้าหมายการศึกษากฏหมาย เป้าหมายการศึกษากฏหมาย. 1. มีความสุขุมรอบคอบ 2. มีความหนักแน่น 3. มีความซื้อสัตย์ สุจริต 4. มีความรู้ในสาขาวิชาอื่นอย่างกว้างขวาง 5. มีความรู้ความเชี่ยวชาญกฏหมายเฉพาะด้าน องค์การวิชาชีพนักกฏหมาย องค์การวิชาชีพนักกฏหมาย. 1. จัดทดสอบความรู้ 2. อบรมภาคปฏิบัติ 3. รับรองการศึกษา (หลักสูตร/ผู้สอน/วิธีการเรียนการสอน/ห้องสมุด/คุณภาพ) คุณธรรมนักกฏหมาย คุณธรรมนักกฏหมาย. 1. ความยุติธรรม (เหตุผล/เสมอภาค/อิสรภาพ/มั่นคง-ปลอดภัย) 2. ผู้นำมติมหาชน เมื่อกฏหมายไม่สอดคล้องกับความยุติธรรม นักกฏหมายควรปฏิบัติตนดังนี้ เมื่อกฏหมายไม่สอดคล้องกับความยุติธรรม นักกฏหมายควรปฏิบัติตนดังนี้. 1. นักกฏหมายต้องไม่ใช้วิธีการใดๆ ที่อยู่นอกตัวบบทกฏหมายเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฏหมาย เช่น ใช้กำลังข่มชืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฏหมายในแผ่นดิน ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 116 2. นักกฏหมายต้องใช้กฏหมายอย่างเป็นธรรม เท่าที่ตัวเองมีอำนาจหน้าที่ทำได้ 3. นักกฏหมายต้องดูแลให้กฏหมายเกิดความเป็นธรรม ไม่ใช่ออกกฏหมายตามอำเภอใจ หลักธรรมของทนายความ หลักธรรมของทนายความ. ห้ามประพฤติผิดข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมารยาททนายความ พ.ศ. 2529 มารยาททนายความต่อศาลและในศาล มารยาททนายความต่อศาลและในศาล. 1. ไม่รับหน้าที่ในเมื่อผู้พิพากษาขอแรงให้เป็นทนายความแก้ต่างในคดีอาญา เว้นแต่มีข้อแก้ตัวโดยสมควร 2. ไม่เคารพยำเกรงอำนาจศาล หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในศาล หรือนอกศาล อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียอำนาจศาลหรือผู้พิพากษา 3. ไม่ลวงศาล โดยกล่าวความหรือทำเอกสารเท็จ หรือกระทำการใดเพื่อทราบคำสั่งหรือ คำพิพากษาของศาลที่ยังไม่เปิดเผย 4. ไม่สมรู้ ทำพยานเท็จ เสี้ยมสอนพยานให้เบิกความเท็จ หรือโดยปกปิดซ่อนงำอำพรางพยานหลักฐานใดๆ ซึ่งควรนำมายื่นต่อศาล มารยาททนายความต่อตัวความ 1. ไม่ปลูกความ (ยุยงส่งเสริมให้ฟ้องร้องคดีกันในกรณีอันหามูลมิได้) 2. ไม่วิ่งความ 3. ไม่เปิดเผยความลับของลูกความ เว้นแต่ได้รับอนุญาติจากลูกความ หรือโดยอำนาจศาล 4. ไม่จงใจขาดนัด ทอดทิ้งคดี หรือปิดบังข้อความที่ควรบอกให้ลูกความทราบ หรือจงใจละเว้นหน้าที่ที่ควรกระทำเกี่ยวแก่การดำเนินคดีแห่งลูกความของตน 5. ไม่กินความทั้งสองฝ่าย 6. ไม่ใช้อุบายหลอกลวงหาประโยชน์นอกเหนือจากที่ลูกความได้ตกลงสัญญาให้ 7. ไม่ฉ้อโกงยักยอกหรือตระบัดสินลูกความ มารยาททนายความต่อทนายความด้วยกัน มารยาททนายความต่อทนายความด้วยกัน. 1. ไม่แย่งความ 2. ไม่ประกาศชื่อ วุฒิ ไปในทางโอ้อวด หรือประกาศอัตราค่าว่าความ 3. ไม่ประพฤติตนฝ่าฝืนศีลธรรมอันดี 4. ไม่แบ่งค่าทนายกับคนอื่นที่ไม่ใช่ทนายความ มารยาททนายความต่อตนเอง มารยาททนายความต่อตนเอง. 1. ต้องแต่งกายให้สุภาพตามที่กำหนดไว้ หลักธรรม อัยการ หลักธรรม. อัยการ. 1. ความซื่อสัตย์สุจริต 2. ความเที่ยงธรรม 3. มีสมรรถภาพทั้งในแง่ความรู้ความสามารถเชิงกฏหมายและเชิงคดี และทุ่มเทความรู้ความสามารถให้กับงาน 4. ไม่ลำเอียงด้วยอคติ 4 (ฉันทาคติ/โทสาคติ/โมหาคติ/ภยาคติ) ผู้พิพากษา ผู้พิพากษา. 1. ความเป็นอิสระ 2. กระบวนพิจารณาต้องสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม 3. กระบวนพิจารณาต้องเปิดเผย 4. คำสั่งหรือคำพิพากษาต้องแสดงเหตุผล 5. ความยุติธรรม ต้องมีราคาถูก ประมวลจริยธรรมตุลาการ ประมวลจริยธรรมตุลาการ. ประการที่ 1: อุดมการณ์ของผู้พิพากษา 1. ต้องมีความยุติธรรม  2. ความซื่อสัตย์สุจริต 3. ปฏิบัติตามกฏหมายและนิติประเพณี 4. จักต้องแสดงให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนด้วยว่า ตนปฏิบัติเช่นนี้อย่างเคร่งครัดครบถ้วน 5. ผู้พิพากษาจักต้องยึดมั่นในความเป็นอิสระของตน 6. เทิดทูนไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งสถาบันตุลาการ ประการที่ 2: หลักปฏิบัติในทางอรรถคดี 1. การนั่งพิจารณา (เป็นกลาง/ปราศจากอคติ/สำรวมตน/แต่งกายเรียบร้อย/วาจาสุภาพ/ฟังความตั้งใจ/เสมอภาค/เมตตาธรรม) 2. การแสดงความคิดเห็นต้องไม่แสดงข้อติชม 3. การถามพยานพึงกระทำด้วยความระมัดระวังมิให้คู่ความเกิดความระแวงในความเป็นกลาง 4. การบันทึกคำเบิกความไม่จำเป็นต้องบันทึกถ้อยคำทุกคำ ยกเว้นสำคัญ 5. การมีคำพิพากษาหรือคำสั่งต้องแสดงเหตุผลอ้างตัวบท 6. การถูกคัดค้าน คดีใดที่เห็นว่าอาจถูกคัดค้านต้องถอนตัวก่อนไม่ต้องรอให้ถูกคัดค้าน ประการที่ 3: การประกอบกิจการอื่น 1. ไม่เป็นกรรมการ ผู้จัดการ ที่ปรึกษา ห้างหุ้นส่วน บริษัท ห้างร้าน หรือธุรกิจเอกชน เว้นแต่ป็นกิจการที่มิได้แสวงหากำไร 2. ได้รับมอบหมายแต่งตั้งจากหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ ต้องไม่กระเทือนหน้าที่ และได้รับอนุมัติจากกระทรวงฯ 3. ไม่พึงเป็นกรรมการ สมาชิก หรือเจ้าหน้าที่ สมาคม สโมสร ชมรม หรือ องค์การใดๆ อันจะกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ 4. ไม่เป็นกรรมการ สมาชิก หรือ เจ้าหน้าที่ พรรคการเมือง หรือ กลุ่มการเมือง ประการที่ 4: การดำรงตนและครอบครัว 1. เคารพกฏหมาย/อยู่ในกรอบศีลธรรม/สันโดษ/เรียบง่าย/สุภาพ/ถือจริยธรรม/วางตนให้ศรัทธา 2. ยึดมั่นในระบบคุณธรรม 3. ไม่รับของกำนัลจากคู่ความหรือบุคคลอันเกี่ยวเนื่อง จักต้องดูแลบุคคลในครอบครัวปฏิบัติเช่นเดียวกัน หรือของขวัญ ของกำนัล หรือประโยชน์เกินกว่าจะพึงให้ตามอัธยาศัย 4. ละเว้นการคบหาสมาคมกับคู่ความ หรือบุคคลอื่นซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสีย
thaiwikibooks
195,625
ทรัพย์สิน/บทที่ 4/ส่วนที่ 2
คือ    ได้มานิติกรรมทั่วไป โดยการซื้อขาย  แลกเปลี่ยน  ให้  ซื้อฝากขายฝาก หรือ จากการไดมาโดยทางอื่นนอกจากทางนิติกรรมหรือการไดมาโดยผลของกฎหมายตามบรรพ 4 บรรพ 6 (มรดก) การไดมาโดยผลของกฎหมาย ตามบรรพ 4 การไดมาโดยผลของกฎหมาย ตามบรรพ 4. 1.  หลักส่วนควบ 1308-1317 2.  เข้าถือเอาซึ่งสังหาริมทรัพย์ไม่มีเจ้าของ 1318-1322 3.  การได้มาซึ่งของตกของหาย  ใช้ในการทำผิดและสังหาริมทรัพย์มีค่าซึ่งซ่อนหรือฝังไว้ 1323-1328 4.  การได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยสุจริตในพฤติการณ์พิเศษ1329-1332 5.  การได้มาโดยอายุความ 1333 6.  การได้มาซึ่งที่ดินรกร้างว่างเปล่า  ที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเป็นแผ่นดินโดยประการอื่นตามกฎหมายที่ดิน 1334 ๑. การไดมาโดยหลักสวนควบ 1308-1317 ๑. การไดมาโดยหลักสวนควบ 1308-1317. มาตรา 144 ผู้ใดเป็นเจ้าของทรัพย์ย่อมเป็นเจ้าของส่วนควบด้วย  ไม่ต้องคำนึงว่าส่วนควบนั้นจะเป็นทรัพย์ของผู้ใดมาก่อน                 แต่มีบางกรณีที่เจ้าของทรัพย์ประธานอาจต้องชดใช้เงินให้แก่เจ้าของทรัพย์ส่วนควบ  หรือต้องยอมให้เจ้าของส่วนควบนำส่วนควบคืนไป Ex เช่าที่ดินปลูกบ้าน ทำโรงรถ และถนนลาดยาง  ครบสัญญา  บ้านไม่ใช่ส่วนควบ  ตาม 146  แต่โรงรถและถนนเป็นส่วนควบ  รื้อไปไม่ได้ เพื่อความเป็นธรรมในหลายกรณี กม.บัญญัติไม้ให้เอาส่วนควบไม่โดยเปล่า ๆ ต้องใช้ราคาทส. ยอมให้อยู่ต่อ  รื้อถอนไป 1.1 ประเด็นเกี่ยวกับที่งอกริมตลิ่ง 1.1 ประเด็นเกี่ยวกับที่งอกริมตลิ่ง. มาตรา ๑๓๐๘ ที่ดินแปลงใด เกิดที่งอกริมตลิ่ง ที่งอก ยอมเปนทรัพยสิน ของเจาของที่ดิน แปลงนั้น ที่งอกริมตลิ่ง  หมายถึงที่ดินซึ่งงอกไปจากตลิ่ง และซึ่งเวลาน้ำขึ้นตามปกติท่วมไม่ถึง  ต้องเป็นที่งอกซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติด้วย มีที่ดินอยู่ติดพื้นน้ำแล้วมีที่ดินงอกจากผิวดินติดกับผืนน้ำ  เพราะมีซากพืชซากสัตว์ตกตะกอนแล้วโผล่พ้นเหนือน้ำ ก. ที่งอกริมตลิ่งตองเปนที่ซึ่งในฤดูน้ำตามปกติน้ำทวมไมถึง  คือพ้นจากสภาพการเป็นที่ชายตลิ่ง ตาม1302 ข. ที่งอกริมตลิ่งจะตองเปนที่งอกจากที่ดินที่เปนประธานออกไปในแมน้ำ ลักษณะของการงอกจะตองเปนการงอกโดยธรรมชาติ  ไม่ใช่งอกจากที่อืนมารวมกับชายฝั่ง ฎีกาที่ ๑๑๘๙/๒๕๓๕ โจทกมีหนาที่ดูแลรักษาที่ดินสาธารณประโยชนในเขตเทศบาล จําเลยไดปลูกสรางอาคาร รุกล้ำเขาไปในลํารางสาธารณะที่ตื้นเขินกลายสภาพเปนที่ดินสาธารณประโยชนในเขตเทศบาล เนื้อที่ ๔.๔ ตารางวา ซึ่งอยูในความดูแลรักษาของโจทกขอใหจําเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสรางดังกลาว                 ลํารางสาธารณประโยชนสําหรับระบายน้ําจากภูเขาซึ่งมีมานานแลวเปนสาธารณสมบัติของแผนดินที่ราษฎรใชประโยชนรวมกัน แมตอมาจะไมมีสภาพเปนทางระบายน้ำตอไปและไมมีราษฎรใชประโยชนเมื่อยังไมมีการตราพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนสภาพการเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน ตามมาตรา ๘ ประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ดินนั้นยังเปนสาธารณสมบัติของแผนดินอยูเชนเดิม                ที่งอกริมตลิ่ง หมายถึงที่ดินที่งอกไปจากตลิ่งตามธรรมชาติซึ่งเกิดจากการที่สายน้ําพัดพาดินจากที่อื่นมาทับถมกันริมตลิ่งจนเกิดที่งอกขึ้น มิใชงอกจากที่อื่นเขามาหาตลิ่ง โจทกมีอํานาจหนาที่ดูแลรักษาสาธารณสมบัติของแผนดินในเขตเทศบาลตามคําสั่งของกระทรวงมหาดไทย จึงมีอํานาจฟองใหจําเลยรื้อถอนอาคารสวนที่รกล้ําสาธารณสมบัติของแผนดินไดโดยไมตองบอกกลาวลวงหนา ฎีกาที่ ๖๑๑/๒๔๗๗ ที่ดินซึ่งตื้นเขินขึ้นเปนเกาะในหนองน้ำสาธารณะ แมภายหลังที่ริมฝงตื้นเขินเชื่อมติดกับที่ดินของผูอื่นที่อยูริมหนอง ก็ไมใชที่งอกริมตลิ่งเพราะไมไดงอกออกจากริมตลิ่ง คงเปนสาธารณสมบัติของแผนดินอยู ฎีกาที่ ๑๕๙/๒๕๒๓ ที่งอกริมตลิ่งหมายความถึงที่ดินที่งอกไปจากชายตลิ่ง  ไมใชหนองน้ำสาธารณะตื้นเขินขึ้นเสมอกับระดับที่ดินขอบหนอง ซึ่งถือวาเปนสาธารณสมบัติของแผนดินอยูตามเดิม ค. ที่ดินซึ่งเปนทรัพยประธานจะตองติดกับที่งอกโดยตรง โดยไมมีอะไรมากั้นขวาง  เช่นทางเดิน ลำน้ำกั้น ฎีกา  มีรางน้ำฝนกั้นอยู่ไม่เป็นที่งอกริมตลิ่ง ขอสังเกต (๑) หากที่ดินเดิมเปนที่ดินมีกรรมสิทธิ์ที่งอกก็จะเปนกรรมสิทธิ์    แตถาที่ดินเดิมเปนเพียงสิทธิครอบครองที่งอกที่เกิดจากที่ดินนั้นก็ไดเพียงสิทธิครอบครอง (๒) ที่ดินที่มีที่งอกไมจําเปนตองไปเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน เจาของที่ดินก็ไดที่งอกนั้นตามกฎหมาย  คือไม่อยู่ในบังคับของ 1299 แล้วถ้าไปยกที่ดินให้เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน  ที่งอกเป็นสาธารณะสมบัติด้วยไหม= ไม่เป็น ฎีกาที่ ๑๒๘๙/๒๕๒๓ยกให้เฉพาะที่ดินในโฉนด  ไม่ได้ยกที่ดินที่งอกให้  ที่พิพาทอยูหนาที่ดินโจทกดานริมแมน้ําและมีทางเดินเล็ก ๆ เรียบริมแมน้ําอันเปนทางเดินในที่ดินโฉนดของโจทกหรืองอกจากที่ดินของโจทก  ทางเดินนี้แมชาวบานจะอาศัยใชเปนทางสัญจรไปมาก็หาใชทางสาธารณะไม หากจะเปนก็เพียงทางภารจํายอม  ตองถือวาทางเดินดังกลาวเปนที่ดินของโจทก   ที่พิพาทติดกับทางเดินจึงเปนที่งอกจากที่ดินโจทกและเปนกรรมสิทธิ์ของโจทกเจาของที่ดินตาม มาตรา ๑๓๐๘ ถึงแมต่อมาโจทกจะอุทิศที่ดินที่เปนทางเดินใหเปนถนนสาธารณะก็หาทําใหที่พิพาทที่เปนที่งอกซึ่งเปนกรรมสิทธิ์ของโจทกแลวเปลี่ยนแปลงไปไม  และจะถือวาเปนที่งอกจากที่สาธารณะมิได ขอสังเกต ขอเท็จจริงชัดแจงวาเจตนาจะยกใหเฉพาะสวนที่อยูในโฉนดเทานั้น ที่งอกซึ่งอยูนอกโฉนดไมมีเจตนายกให จึงไมเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน แตถ้าขอเท็จจริงชัดแจงวายกใหทั้งที่อยูในโฉนดและที่งอกที่เกิดขึ้นใหม ที่ดินทั้งหมดก็เปนสาธารณสมบัติของแผนดินไป (๓) ที่งอกนั้นเกิดขึ้นโดยธรรมชาติไมไดเกิดขึ้นจากการกระทําของมนุษย จ.ชลบุรี  มีป่าชายเลยเยอะ  ถม , ฮอนแลนด์  มีการถมทะเลเยอะ, (๔) ที่ดินนาย ก. ถูกน้ำเซาะจนหมดไป   แต่อนาคต ที่ดินที่ถูกน้ำเซาะเกิดที่งอกขึ้นมาใหม่  นายก.จะได้กรรมสิทธิ์ไหม  อ้างไม่ได้  มันเชื่อมกับที่ดินของใครคนนั้นได้กรรมสิทธิ์  ฎีกาที่ ๖๗๗/๒๔๙๐ ที่ดินที่ถูกน้ำเซาะพังลงจนเปลี่ยนสภาพกลายเปนทางน้ำแลว ก็จะเปนสาธารณะสมบัติของแผนดิน ภายหลังผูใดจะไดกรรมสิทธิ์ที่ตรงนั้นตองเปนไปตามกฎหมายวาดวยการไดมาแหงกรรมสิทธิ์  เพียงแตตลิ่งพังทลายลงแมน้ำไปชั่วคราวอาจยังไมพอที่จะถือวาตรงนั้นเปนทางน้ำก็ได ตองฟงขอเท็จจริงใหแนชัดวาที่ดินที่พังลงไปนั้นเปนทางน้ำมาแลวหรือไม เปรียบเทียบฎีกาที่ ๑๔๙/๒๕๔๓ เดิมที่พิพาทเปนที่ชายตลิ่งที่น้ำทวมถึงจึงเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน มาตรา ๑๓๐๔ (๒) ที่พิพาทเพิ่งกลายเปนที่งอกหลังจากมีการสรางถนนเมื่อ ๔ ถึง ๕ ป มานี้  ดังนั้นกอนหนาที่พิพาทเปนที่งอกแมโจทกจะครอบครองมานานเทาใดก็ไมไดกรรมสิทธิ์ หลังจากที่พิพาทกลายเปนที่งอกที่เชื่อมติดกับที่ดินของจําเลยที่ ๑ ที่งอกพิพาทจึงเปนกรรมสิทธิ์ของจําเลยที่ ๑ ดวย เมื่อโจทกครอบครองยังไมถึง ๑๐ ป โจทกจึงไมไดกรรมสิทธิ์ตามมาตรา ๑๓๘๒ - ถ้ามีที่งอกเป็นทางยาวไปที่ดินหลายคน  ใช้เส้นตั้งฉากวัด 1.2 เกาะและทางน้ำตื้นเขิน file14 1.2 เกาะและทางน้ำตื้นเขิน file14. มาตรา ๑๓๐๙ เกาะที่เกิดในทะเลสาบ หรือ ในทางน้ํา หรือ ในเขตนานน้ำของประเทศ ก็ดีและ ทองทางน้ำที่เขินขึ้นก็ดี เปนทรัพยสินของแผนดิน เขตน่านน้ำของประเทศ คือทะเลอาณาเขต  = อดีต 3  ไมล์ทะเล  จากศักยภาพของอาวุธที่ใช้ยิงได้  ต่อมามีการประชุมยกร่างกฎหมายทะเล  ขึ้น เป็นที่ยอมรับ ว่า เป็น 12 ไมล์ทะเล  นอกจากนี้ยังมีทะเลอาณาเขต,ไหล่ทวีป บางประเทศมีลักษณะเว้าแหว่ง  บางประเทศเป็นหมู่เกาะ  ลากไป 12 เกิดช่องว่างเว้า  ต้องวัดโดยใช้เส้นฐานตรง  หรือเส้นฐานของรัฐหมู่เกาะ                 โดยปกติทะเลสาบ  ทางน้ำจะเป็นของรัฐ  เกาะหรือทางน้ำตื้นเขินที่เกิดก็เป็นสมบัติของแผ่นดิน                  แต่ถ้าทะเลสาบ  ทางน้ำใดเป็นของเอกชน  เกาะหรือทางน้ำตื้นเขินที่เกิดก็เป็นสมบัติของเอกชนเช่นกัน ไม่ว่าเกิดขึ้นเองหรือมนุษย์ทำขึ้น 1309  หากเกาะหรือทางน้ำที่ตื้นเขินได้ใช้เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนแล้วย่อมเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน 1.3 การสรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่น 1.3 การสรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่น. มาตรา ๑๓๑๐ บุคคลใดสรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่นโดยสุจริต  เจ้าของที่ดินเปนเจาของโรงเรือนนั้นๆ แตตองใชคาแหงที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้น เพราะสรางโรงเรือนนั้น ใหแก ผูสราง                 แตถาเจาของที่ดินสามารถแสดงไดวา มิไดมีความประมาทเลินเลอ จะบอกปดไมยอมรับโรงเรือนนั้นและเรียกใหผูสรางรื้อถอนไปและทําที่ดินใหเปนตามเดิมก็ได เวนไวแตถาการนี้ จะทําไมไดโดยใชเงินพอควร  เจาของที่ดินจะเรียกใหผู้สรางซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแตบางสวนตามราคาตลาดก็ได ขอสังเกต (๑) ตองเปนการสรางโรงเรือนทั้งหลังในที่ดินของผูอื่น หรืออยางนอยที่สุดสวนใหญของโรงเรือนที่สรางนั้นจะตองอยูในที่ดินของผู้อื่น  / ส่วนน้อย = รุกล้ำ 1312 (๒) การสรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่นไมวาจะเปนกรณีของการสรางโดยสุจริต-1310หรือไมสุจริต 1311 ผู สรางกับเจาของที่ดินจะตองไมมีนิติสัมพันธใดๆ ตอกัน หากผูสรางมีนิติสมพันธกับเจาของที่ดินก็ไมอยูในบังคับของมาตรานี้ เช่น สร้างโดยมีสิทธิที่จะปลูกได้อยู่แล้ว  (เช่า)  (๓) โรงเรือนที่สรางนั้นจะตองมีลักษณะเปนสวนควบกับที่ดินของผูอื่น  ถาวร มั่นคงรื้อออกแล้วจะทำให้เสียหาย บุบสลาย  เปลี่ยนแปลงรูปทรง   ถ้าสร้างเพีงชั่วคราวไม่ถาวร ไม่เป็นส่วนควบ ความสุจริตตามมาตรา ๑๓๑๐ นั้น หมายถึง  ผู้สร้างเข้าใจว่าตนมีสิทธิที่จะปลูกสร้างได้ จะตองมีมาโดยตลอดตั้งแตเริ่มกอสรางจนกวาจะสรางเสร็จ เช่น  เชื่อว่าเป็นที่ดินของตน  หรือเชื่อว่ามีสิทธิตามสัญญาเช่า เพราะคนที่เราเช่าไปชี้ที่ดินให้ เป็นต้น แต่ถ้าสร้างเสร็จแล้วมารู้ทีหลัง  ไม่ทำให้การกระทำที่สุจริตแต่แรกกลายเป็นไม่สุจริต eX ฎีกา  สร้างเรือนหอบนที่ดินพี่ชายคู่หมั้น  โดยพ่อแม่คู่หมั้นยินยอม  ปรากฏว่าพี่ชายไม่รู้  ถือว่าไม่สุจริต  เพราะคนยินยอมไม่ใช่เจ้าของที่ -ปลูกโดยรู้แล้วว่า  เจ้าของที่ให้อาศัยที่เท่านั้น  ไม่ได้ให้สร้างบ้าน ไม่สุจริต - ปลูกตึกในที่ดินโดยรู้อยู่ว่าที่ดินยังไม่เป็นของตนโดยสมบูรณ์  ถือว่าไม่สุจริต ผลของการสรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่นตามมาตรา ๑๓๑๐ -  เจาของที่ดินเปนเจาของโรงเรือนนั้น โดยหลักส่วนควบ  -  แตเอาเปล่าๆ ไม่ได้ จะตองใชค่าแหงที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะสรางโรงเรือนนั้นแกผูสราง                    หมายถึงราคาที่แตกต่างกันระหว่างราคาที่ดินกับโรงเรือน  และราคาที่ดินโดยไม่มีโรงเรือน เช่น  ที่ดิน  5 แสนบาท  สร้างบ้านราคา 3 แสนบาทลงไป  บ้านสวยงามมากใช้วัสดุที่เหมาะสม  แม้ราคาที่ดินจะไม่สูงนัก  ถ้าขายทั้งที่และบ้านจะได้ราคา 1 ล้านบาท  ดังนี้ราคาที่เพิ่มขึ้นคือ 5 แสนบาท                 ถ้า  สร้างบ้านราคา  3 แสนบาทลงไปแต่บ้านไม่สวย  เป็นสิ่งที่น่าเกลียด  ถ้าขายทั้งบ้านทั้งที่ ได้ 7  แสน  ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นคือ 2  แสน  ผู้สร้าง คือ ผู้รับผิดชอบในการสร้างโรงเรือน  จะสร้างเอง หรือจ้างคนมารับเหมาก็ได้  ฎีกา  ผู้รับเหมาก่อสร้างฟ้องเจ้าของที่ดิน  ให้จ่ายค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น  ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ใช่ผู้สร้างไม่มีอำนาจฟ้อง - วรรคสอง  แตถ้าเจาของที่ดินแสดงไดวาไมไดมีความประมาทเลินเลอ ก็มีสิทธิสองประการ -          ใช้สิทธิตาม1310 วรรคแรก -          ใช้สิทธิตาม 1310 วรรคสอง  ที่จะใหผูสรางรื้อถอนออกไป+ทําที่ดินใหเปนไปตามเดิมได โดยค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน  และทำที่ดินให้เป็นตามเดิมนั้น  ผู้สร้างต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าการรื้อถอนหรือทำที่ดินตามเดิม ทำให้ต้องเสียหายเกินสมควร ใช้เงินมากมาย  จะให้ผู้ปลูกสร้างซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตามราคาตลาดก็ได้ ประมาทเลินเล่อ = มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรดังเช่นวิญญูชน  ที่จะแสดงความเป็นเจ้าของที่ดินให้ผู้อื่นรู้  เช่น  ไม่ปล่อยที่ดินให้รกร้างว่างเปล่า , กั้นรั้ว ,  ปักหลักแสดงเขต                    การซื้อที่ดินนั้นถ้าที่ดินมีจำนวนไล่เลี่ยกับตัวโรงเรือนก็ย่อมจะให้ซื้อที่ดินทั้งหมดได้  แต่ถ้าที่ดินมีเนื้อที่มากกว่าตัวโรงเรือนมากย่อมจะให้ซื้อได้เฉพาะบางส่วนเท่านั้น  จะบังคับให้ซื้อที่ดินทั้งหมดโดยผู้ซื้อมิได้ยินยอมมิได้  แต่ถ้าคนปลูกจะรื้อแม้ต้องเสียหายเกินสมควร  ก็ต้องให้รื้อบังคับให้ซื้อที่ดินไม่ได้ เช่น เหลือเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวรอบบ้าน ที่ดินที่เหลือใช้ประโยชน์ไม่ได้  ต้องบังคับซื้อทั้งแปลง แต่ถ้า สร้างไปแค่นิดเดียว  ซื้อเฉพาะส่วนที่สร้าง มาตรา ๑๓๑๐ ใชกับที่ดินที่เปนของเอกชนเทานั้น ในกรณีที่ดินที่เปนสาธารณสมบัติของแผนดินจะอางมาตรา ๑๓๑๐ ไมได  อาจจะผิดบุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดินด้วยซ้ำไป 1.4.สรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่นโดยไมสุจริต 1.4.สรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่นโดยไมสุจริต. มาตรา ๑๓๑๑ “บุคคลใดสรางโรงเรือนในที่ดินของผูอื่นโดยไมสุจริตไซร ทานวาบุคคลนั้นตองทําที่ดินใหเปนไปตามเดิม  แลวสงคืนเจาของ เวนแตเจาของจะเลือกใหสงคืนตามที่เปนอยู    ในกรณีเชนนี้เจาของที่ดินตองใชราคาโรงเรือน  หรือใชคาแหงที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพราะสรางโรงเรือนนั้น แลวแตจะเลือก” ใชหลักเกณฑเดียวกันกับมาตรา ๑๓๑๐  มีทางปฏิบัติ 3 ทาง  เป็นสิทธิของเจ้าของที่แต่ผู้เดียว 1. ให้รื้อถอนและทําที่ดินใหเปนไปตามเดิม   2.  รับโรงเรือนไว้  โดยเจาของที่ดินใชราคาโรงเรือน   3. รับโรงเรือนไว้  แล้วใช้คาแหงที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพราะสรางโรงเรือนนั้น 1.5สรางโรงเรือนรุกล้ำที่ดินของผูอื่น มาตรา ๑๓๑๒ “บุคคลใดสรางโรงเรือนรุกล้ําเขาไปในที่ดินของผูอื่นโดยสุจริตไซร ทานวาบุคคลนั้นเปนเจาของโรงเรือนที่สรางขึ้น  แตตองเสียเงินใหแกเจาของที่ดินเปนคาใชที่ดินนั้น และ จดทะเบียนสิทธิเปนภาระจํายอม  ตอภายหลังถาโรงเรือนนันสลายไปทั้งหมด เจาของที่ดินจะเรียกใหเพิกถอนการจดทะเบียนเสียก็ได                 ถาบุคคลผูสรางโรงเรือนนั้น กระทําการโดยไมสุจริต ทานวาเจาของที่ดินจะเรียกใหผูสราง รื้อถอนไปและทําที่ดินใหเปนตามเดิมโดยผูสรางเปนผูออกคาใชจายก็ได” ขอสังเกต (๑) เปนการสรางโรงเรือนสวนใหญในที่ดินของผูสรางเองหรือในที่ดินที่ผูสรางมีสิทธิที่จะสรางได คงมีแตเพียงสวนนอยหรือบางสวนของโรงเรือนเทานั้นที่ไปรุกล้ำเขาไปในที่ดินของผูอื่น (๒) การรุกล้ำนั้นตองเกิดตั้งแตแรกหรือเปนการรุกล้ำมาตั้งแตขณะแรกที่ทําการสราง ถาตอนแรกไมรุกล้ำตอมามีการตอเติมรุกล้ำเขาไปในที่ดินของผูอื่น ก็ไมอยูในบังคับของมาตรา ๑๓๑๒ (๓) ความแตกตางระหวางมาตรา ๑๓๑๒ กับ ๑๓๑๔ คือ มาตรา ๑๓๑๔ ไมใชการสรางรุกล้ำแตเปนการที่เจาของอสังหาริมทรัพยทําหลังคาหรือปลูกสรางอยางอื่นมีผลทําใหน้ำฝนตกลงไปยังทรัพยสินอื่นที่ติดกัน  แตตัวสิ่งปลูกสรางหรือกอสรางนั้นไมไดรุกล้ำ สวนมาตรา ๑๓๑๒ เปนเรื่องที่บาง  สวนของตัวโรงเรือนเองหรือบางสวนของโรงเรือนรุกล้ำ คําพิพากษาฎีกาที่ ๓๔๑/๒๕๐๔ ปลูกโรงเรือนในที่ดินของตน ตัวเรือนไมไดรุกล้ําเขาไปในที่ดินของผู้อื่น  แตชายคาไดรุกล้ําเขาไปโดยสุจริต ยอมเปนการปลูกโรงเรือนล้ําเขาไปในที่ดินของผูอื่นตามมาตรา ๑๓๑๒ มิใชตามมาตรา ๑๓๔๑ (๔) กรณีเครื่องอุปกรณบางอยางหรือเครื่องอํานวยความสะดวกบางอยางมาติดตั้งประกอบกับโรงเรือน  ศาลฎีกาวินิจฉัยวา ไมถือวาสิ่งเหลานี้เปนสวนของโรงเรือนที่จะถือวาเปนการรุกล้ํา = ท่อน้ำ  , ถังส้วมซีเมนต์ ,  โรงรถ ,ปั้มน้ำ ,แท็งค์น้ำ คําพิพากษาฎีกาที่ ๖๓๓๑/๒๕๓๔ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๑๒ เฉพาะตัวโรงเรือนที่สรางรุกล้ําที่ดินของผูอื่นโดยสุจริตเพียงอยางเดียวเทานั้นที่ไดรับความคุมครอง  สิ่งอื่น ๆ ที่มิใชโรงเรือนแมจะสรางขึ้นโดยสุจริตก็หาไดรับ ความคุมครองดวยไม จําเลยจึงตองรื้อถอนรั้วพิพาทสวนที่รุกล้ํา ออก ไปจากที่ดินของโจทก คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๐๓๖/๒๕๓๙ เสากําแพงที่แยกตางหากจากเสาโรงเรือน ไมใชสวนหนึ่ง ของโรงเรือนอันจะถือเปนโรงเรือนตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๓๑๒ วรรคแรก ฉะนั้นจําเลยจะอางวากอสรางกําแพงรุกล้ําโดยสุจริตไมต้องรื้อถอนตามบทกฎหมายดังกลาวหาไดไม (๕) กรณีสรางโรงเรือนในที่ดินแลวตอมามีการแบงแยกที่ดิน แลวปรากฏวามีบางสวนรุกล้ําเขาไปในที่ดิน  ซึ่งมีแนวฎีกาวางไววาสามารถที่จะนํามาตรา ๑๓๑๒ มาใชบังคับไดโดยอาศัยมาตรา ๔ ฎีกาที่ ๑๘๔๘/๒๕๑๒ จําเลยมิไดเปนผูสรางตึกพรอมกันสาดที่พิพาทหากแตเจาของที่ดินเปนผูสรางในที่ดินของตนเองโดยชอบดวยกฎหมาย เพราะขณะสรางยังมิไดแบงแยกที่ดินออกเปนสองแปลง ดังนั้น ถาจะบังคับใหรื้อ ก็มีผลเทากับจําเลยเปนผูสราง ตามมาตรา ๑๓๑๒ วรรคสอง ยอมไมเปนธรรม เพราะแมจำเลยเปนผูสรางรุกล้ําเอง  ถาโดยสุจริต กฎหมายยังยอมใหจําเลยมีสิทธิใชที่ดินในสวนที่รุกล้ําได แลวไฉนถาจําเลยมิไดเปนผู้สรางรุกล้ําเอง แตการที่สรางนั้นเปนการสรางโดยชอบดวยกฎหมายซึ่งยิ่งกวาเปนการสรางโดยสุจริตเสียอีก แลวกลับจะถูกบังคับใหรื้อถอน เพราะไมมีสิทธิจะใช กรณีดังกลาวไมมีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได เมื่อเปนชองวางแหงกฎหมาย ดังนี้ จึงตองนําประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๔ มาใชสําหรับกรณีนี้ไมมีจารีตประเพณีแหงทองถิ่นที่จะยกมาปรับคดีไดจึงตองอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกลเคียงอยางยิ่งบทกฎหมายที่ใกลเคียงอยางยิ่งก็คือ มาตรา๑๓๑๒ วรรคแรก คือ จําเลยมีสิทธิใชสวนแหงแดนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทกเฉพาะที่กันสาดรุกล้ําเขาไปนั้นได โจทกไมมีอํานาจฟองขอใหจําเลยรื้อ แตมีสิทธิที่จะเรียกเงินเปนคาที่จำเลยใชสวนแหงแดนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทกตอไป ตลอดจนการที่จะดําเนินการจดทะเบียนสิทธิเปนภารจํายอม ผลของการสรางโรงเรือนรุกล้ําเขาไปในที่ดินของผูอื่นโดยสุจริต วรรคหนึ่ง กําหนดวาผูสรางเปนเจาของโรงเรือน  แตต้องเสียเงิน ใหแก เจาของที่ดิน เปนคาใชที่ดินนั้น และ จดทะเบียนสิทธิ เปน ภาระจํายอม                 ตอภายหลัง ถา โรงเรือนนั้น สลายไปทั้งหมด เจาของที่ดิน จะเรียกใหเพิกถอน การจดทะเบียนเสีย ก็ได เจาของโรงเรือนมีสิทธิขอใหจดทะเบียนสิทธิเปนภารจํายอมได โดยไมต้องรอจนเกิน ๑๐ ป เพราะเปนการจดทะเบียนโดยอาศัยสิทธิที่มาตรา ๑๓๑๒ ใหไว  ไมใชเปนการไดภาระจํายอมมาโดยอายุความ ๑๐ ป   ก็ไมจำเปนตองรอใหครบ ๑๐ ป กอนจึงจะไปจดทะเบียนไดมา                 ที่กฎหมายบังคับให้จดภารจำยอมเพราะจะได้เป็นทรัพยสิทธิใช้ยัน  ผู้รับโอนที่ดินคนต่อไป  หรือเพื่อประโยชน์ของผู้รับโอนโรงเรือน ถ้าเจ้าของโรงเรือนใช้ค่าที่ดินแล้วเจ้าของที่ไม่ยอมจดภาระจำยอมให้ ฟ้องได้ แต่ถ้าเจ้าของโรงเรือนไม่ยอมเสียเงิน  เจ้าของที่ก็ฟ้องให้รื้อส่วนที่รุกล้ำได้ ฎีกาที่ ๓๗๑๓/๒๕๓๔ โจทกจะบังคับใหจําเลยทั้งสามรื้อถอนระเบียงพิพาทไดก็ตอเมื่อจําเลยทั้งสามกอสรางรุกล้ำเขาไปในที่ดินของโจทกโดยไมสุจริตตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๑๒ วรรคสอง แตเมื่อจําเลยทั้งสามซื้อตึกแถวพรอมระเบียงพิพาทที่รุกล้ําที่ดินของโจทกอยูกอนแลว โดยไมปรากฏวาระเบียงไดสรางรุกล้ำโดยไมสุจริต ตองถือวาจําเลยเปนผูสืบสิทธิของผูสรางระเบียงพิพาทรุกล้ํา ที่ดินของโจทกโดยสุจริต โจทกจึงมีสิทธิเพียงแตจะไดคาใชที่ดินและยังมีหนาที่จดทะเบียนภาระจํายอมใหจําเลยทั้งสามดวย ทั้งนี้โดยนัย ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๑๒ วรรคแรก แตโจทกมิไดขอใหบังคับจําเลยใชเงินเปนคาใชที่ดินของโจทก ศาลจึงไมอาจบังคับใหจำเลยใชเงินดังกลาวได ฎีกาที่ ๕๙๐๙/๒๕๔๐  ถาตอมาโรงเรือนนั้นสลายไปทั้งหมดเจาของที่ดินจะเรียกใหเพิกถอนการจดทะเบียนภาระจํายอมก็ได  และถาสลายไปเฉพาะสวนที่รุกล้ำทั้งหมด ก็เพียงพอที่จะขอใหเพิกถอนไดเชนเดียวกัน ฎีกาที่ ๙๐๔/๒๕๑๗ ที่ดินและอาคารของโจทกและของจําเลยรวมอยูติดกันโดยตางรับซื้อมาจากบุคคลอื่นกันสาดของอาคารที่จําเลยรวมซื้อไดรุกล้ําที่ดินที่โจทกซื้ออยูกอนแลว ตอมาจําเลยรวมไดสรางหองน้ําบนกันสาดนั้น  อันเปนการใชสวนแหงแดนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทกเฉพาะที่กันสาดรุกล้ําเขาไปนั้นสืบตอจากเจาของเดิมโดยจําเลยรวมมิไดขออนุญาตตอผูใด ถือไดวาจําเลยรวมไดสรางหองน้ําขึ้นโดยสุจริตยอมไดรบความคุมครองตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๓๑๒ และ ขอเท็จจริงก็ฟงไดวาจําเลยรวมใชสิทธิโดยอํานาจปรปกษเกินกวา ๑๐ ปแลวกันสาดและหองน้ําเหนือที่ดินของโจทกยอมตกอยูในภารจํายอมโจทกจึงไมมีสิทธิที่จะฟองขอใหจําเลยรื้อหองน้ําบนกันสาดนั้น 1.5.มาตรา ๑๓๑๒ วรรคสอง เปนเรื่องของการสรางโรงเรือนรุกล้ำที่ดินของผูอื่นโดยไมสุจริต 1.5.มาตรา ๑๓๑๒ วรรคสอง เปนเรื่องของการสรางโรงเรือนรุกล้ำที่ดินของผูอื่นโดยไมสุจริต.                 เจาของที่ดินมีสิทธิ เรียกใหผูสรางโรงเรือนรุกล้ํารื้อถอนในสวนที่รุกล้ํานั้นออกไปก็ได หรือจะเรียกรองเอาคาใชที่ดินโดยยอมใหสวนที่รุกล้ํานั้นเปนภาระจํายอมของผูกอสราง 1.6 เจาของที่ดินมีเงื่อนไขสรางโรงเรือนในที่ดินนั้น 1.6 เจาของที่ดินมีเงื่อนไขสรางโรงเรือนในที่ดินนั้น. “เจาของที่ดินมีเงื่อนไข” ตามความหมายของมาตรา ๑๓๑๓ อาจแบงไดเปน ๒ ประเภท  คือ ๑. เปนเจาของที่ดินที่มีเงื่อนไขบังคับหลัง (สิ้นผลเมื่อเงื่อนไขนั้นสําเร็จ)                  เช่น ถ้า ก.หย่ากับ ข.เมื่อไรที่ดินกลับคืนเป็นของ แม่ ก. ๒. เปนเจาของที่ดินที่มีเงื่อนไขหามโอนตามมาตรา ๑๗๐๐ หรือเรียกวาขอกําหนดหามโอน ให้เอาลาภมิควรได้มาใช้คือ  ต้องคืนโรงเรือนให้คนสร้างตามสภาพเดิม  ถ้าจะเอาไว้ต้องใช้ราคาโรงเรือนตามสภาพที่เป็นอยู่ตอนรับโอน 1.7 สรางสิ่งอื่น ปลูกตนไม หรือธัญชาติในที่ดินของผูอื่น 1.7 สรางสิ่งอื่น ปลูกตนไม หรือธัญชาติในที่ดินของผูอื่น. มาตรา ๑๓๑๔ ใหใชบทบัญญัติ มาตรา ๑๓๑๐, ๑๓๑๑ และ ๑๓๑๓ บังคับตลอดถึงการกอสรางใดๆ ซึ่งติดที่ดิน และการเพาะปลูกตนไมหรือธัญชาติดวยโดยอนุโลม                 สิ่งปลูกสร้างที่ติดที่ดินนี้คือ  สิ่งที่ติดในลักษณะส่วนควบของที่ดิน (ต้นไม้ ) สะพาน อนุสาวรีย์  หอนาฬิกา  ฮวงจุ้ย                 มาตรา 1314  ไม่ให้นำ 1312  (ปลูกรุกล้ำ) มาใช้ด้วย  ดังนั้น  ถ้าสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นรุกล้ำ แม้จะสุจริตก็ขอใช้เงินชำระค่าที่ดินและให้จดทะเบียนเป็นภาระจำยอมไม่ได้  ต้องรื้อ วรรคสอง  แตขาวหรือธัญชาติ(ไม่รวมไม้ล้มลุก  ไม้ล้มลุกต้องใช้วรรคแรก) อันจะเก็บเกี่ยวรวงผลไดคราวหนึ่งหรือหลายคราวตอป เจาของที่ดินตองยอมใหบุคคลผูกระทําการโดยสุจริตหรือผูเปนเจาของที่ดินโดยมีเงื่อนไขซึ่งไดเพาะปลูกลงไวนั้น                 1.  คงครองที่ดินจนกวาจะเสร็จการเก็บเกี่ยว โดยใชเงินคํานวณตามเกณฑคาเชาที่ดินนั้น หรือ        2. เจาของที่ดินจะเขาครอบครองในทันที โดยใชคาทดแทนใหแกอีกฝายหนึ่ง (ผลประโยชน์ที่ผู้เพาะปลูกควรจะได้รับจากการเพาะปลูกนั้น) 1.8  สรางโรงเรือนหรือสิ่งกอสรางอยางอื่นหรือการเพาะปลูกตนไมหรือธัญชาติในที่ดินของตนเองดวยสัมภาระของผูอื่น 1.8  สรางโรงเรือนหรือสิ่งกอสรางอยางอื่นหรือการเพาะปลูกตนไมหรือธัญชาติในที่ดินของตนเองดวยสัมภาระของผูอื่น. มาตรา ๑๓๑๕ บุคคลใดสรางโรงเรือน หรือทําการกอสรางอยางอื่นซึ่งติดที่ดิน หรือเพาะปลูกตนไมหรือธัญชาติในที่ดินของตน ดวยสัมภาระของผูอื่น ทานวาบุคคลนั้น เปนเจาของสัมภาระแตตองใชคาสัมภาระ ขอสังเกต สัมภาระที่เอามาใชในการสรางหรือการเพาะปลูกนั้น ไมจาเปนตองเปนของใหมอาจจะเปนของที่ใชแลวก็ได ฎีกาที่ ๔๒๑/๒๔๙๖ เจาของแพไดอนุญาตใหพี่ชายรื้อถอนแพเอาไปปลูกเปนเรือนอยูในที่ดินของพี่ชายเสียนานมาแลวตอมาเจาของแพถึงแกกรรม ทายาทจึงฟองเรียกแพจากผูครอบครองเรือนนั้นดังนี้ ศาลจะบังคับใหสงแพไมไดเพราะไมมีแพอยู่เสียแลว แตการที่เอาแพของเขาไปปลูกเปนเรือนของตนเสียเชนนี้ ผูปลูกยอมเปนเจาของเรือนนั้น แตตองใชคาสัมภาระใหแกเขาดังที่บัญญัติไวใน มาตรา ๑๓๑๕ ฉะนั้น ศาลยอมบังคับใหใชราคาแพนั้นแกทายาทได 1.9 การเอาสังหาริมทรัพยมารวมเขากันจนเปนสวนควบ 1.9 การเอาสังหาริมทรัพยมารวมเขากันจนเปนสวนควบ. มาตรา ๑๓๑๖ เอาสังหาริมทรัพยของบุคคลหลายคนมารวมเขากันจนเปนสวนควบหรือแบงแยกไมได  บุคคลเหลานั้นเปนเจาของรวมแหงทรัพยที่รวมเขากัน   แตละคนมีสวน ตามคาแหงทรัพยของตนในเวลาที่รวมเขากับทรัพยอื่น                 วรรคสอง  ถาทรัพยอันหนึ่งอาจถือไดว่าเปนทรัพยประธาน  เจ้าของทรัพยนั้น                 อ้างอิง
thaiwikibooks
195,626
มรดก/บทที่ 1
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์. มาตรา ๑๕๙๙ เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาททายาทอาจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น มาตรา ๑๖๐๐ ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กองมรดกของผู้ตายได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ เว้นแต่ ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ มาตรา ๑๖๐๑ ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน มาตรา ๑๖๐๒ เมื่อบุคคลใดต้องถือว่าถึงแก่ความตายตามความในมาตรา ๖๒ แห่งประมวลกฎหมายนี้ มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท ถ้าพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ หรือตายในเวลาอื่นผิดไปจากเวลาดั่งระบุไว้ในคำสั่งที่สั่งให้เป็นคนสาบสูญ ให้ใช้บทบัญญัติมาตรา ๖๓ แห่งประมวลกฎหมายนี้บังคับแก่ทายาทของบุคคลนั้น มาตรา ๑๖๐๓ กองมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายหรือโดยพินัยกรรม ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมาย เรียกว่า “ทายาทโดยธรรม” ทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรม เรียกว่า “ผู้รับพินัยกรรม”
thaiwikibooks
195,627
ยุคสมัยของศิลปะ
ศิลปะยุคกลาง (ค.ศ. 375 – 500) ศิลปะยุคกลาง (ค.ศ. 375 – 500). เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 375 – 500  อาณาจักรโรมันอ่อนแอ  ยุโรปตกอยู่ในภาวะวุ่นวายจนได้ชื่อว่า “ยุคมืด” (Dark Ages) สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม. สถาปัตยกรรมรับอิทธิพลมาจากศิลปะโรมัน  มีอาคารเป็นแบบบาซิลิกา คือ มีกำแพงหนาทึบรูปทรงคล้ายป้อมปราการ จิตรกรรม จิตรกรรม. ในสมัยนี้มีการเก็บสะสมตำาราต่างๆรวมทั้งเขียนภาพปกคัมภีร์ การเขียนภาพมีลักษณะแบบเดียวกับสมัยโรมัน คือ เขียนแบบเร็วๆ ทิ้งรอยพู่กันแบบภาพเขียนโรมัน  นิยมเขียนภาพเซนท์แมธิว  เซนท์มาร์ค  เซนท์ลุค และเซนท์จอห์น ซึ่งต่างก็เป็นผู้เขียนประวัติ 4 เล่มของพระเยซู ประติมากรรม ประติมากรรม. งานประติมากรรม นิยมงานหล่อด้วยสำริด รูปแกะสลักไม้พระเยซูตรึงกางเขน และประติมากรรมชิ้นเล็ก ๆ เช่น  เข็มกลัด หูกระเป๋า มงกุฎของกษัตริย์และนักบวช ศิลปะคริสเตียนยุคแรก (พ.ศ.640 - 1040) สถาปัตยกรรม ศิลปะคริสเตียนยุคแรก (พ.ศ.640 - 1040). สถาปัตยกรรม. ศิลปะคริสเตียนยุคแรกรับอิทธิพลมาจากศิลปะโรมัน   อาคารในสมัยแรก จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ถูกฆ่าเรื่องศาสนา วิหาร พิธีเจิมน้ำมนต์ ผนังภายนอกอาคารจะถูกปล่อยไว้เรียบ ๆ ทื่อ ๆ ผนังภายในอาคารจะประดับด้วยเศษหินสีแวววาว ส่วนต่าง ๆ ของอาคาร เช่น เสารายแบบโรมัน เสาก่ออิฐ หลังคาทรงโค้ง แผนผังอาคารมี 2 แบบ คือ แบบชนิดตามยาว และแบบชนิดศูนย์กลาง ซึ่งมีรากฐานมาจากสถาปัตยกรรมโรมัน  อาคารที่มีแนวยาวเหมาะสำหรับขบวนพิธีการที่สง่างาม  อาคารชนิดมีศูนย์กลาง สำหรับเป็นสถูปสถานของนักบุญคนสำคัญ แต่ต่อมานิยมสร้างโบสถ์แบบมีศูนย์กลางกันมาก อาคารแบบมีศูนย์กลางอาจมี หลายรูปทรง เช่น  ทำเป็นรูปทรงไม้กางเขนแบบกรีกอยู่ภายในรูปจัตุรัส  ทำเป็นรูปทรงไม้กางเขนแบบโรมันหรือไม่ก็รูปวงกลม โบสถ์ที่มีผังชนิดมีศูนย์กลางมักทำหลังคาทรงโค้ง หรือทรงกลมด้วย อิฐหรือหิน อาคารทรงเรือนโถงขนาดใหญ่มักทำเครื่องบนหลังคาด้วยไม้ท่อน จิตรกรรม จิตรกรรม. ทำบนฝาผนังและแผงไม้ ตลอดจนทำเป็นภาพประกอบเรื่องในหนังสือเขียนด้วยสีฝุ่น สีขี้ผึ้งร้อน และสีปูนเปียกอย่างแห้ง แสดงรูปคนกำลังสวดมนต์ และภาพปาฏิหารย์ตอนสำคัญของพระผู้เป็นเจ้าที่นำมาจากพระคัมภีร์เก่าและใหม่ หนังสือในสมัยแรกๆ ทำมาจากหนังสัตว์และเป็นหนังสือม้วน ภาพประกอบเรื่องในหนังสือมีลักษณะของภาพเป็นรูปแบน ประติมากรรม ประติมากรรม. ในยุคคริสเตียนถูกลดความสำคัญ อันเนื่องมากจากบทบัญญัติในพระคัมภีร์ เกี่ยวกับรูปเคารพบูชาประติมากรรมมักจำกัดอยู่กับงานขนาดเล็กๆ ได้แก่งานแกะสลักรูปคนบนโลงศพ  ถ้วยและจานโลหะ  งาแกะ สลักงาช้าง โกศบรรจุธาตุศักดิ์สิทธิ์   ตู้เก็บพระคัมภีร์ ศิลปะไบเซนไทน์ (พ.ศ.1040 - 1996) ศิลปะไบเซนไทน์ (พ.ศ.1040 - 1996). ศิลปะไบเซนไทน์ (Byzantine Art) เป็นศิลปะที่เชื่อมโยงความคิดและลักษณะศิลปะตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล  ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นอิสตันบูล  โดยทั่วไปลักษณะศิลปะไบเซนไทน์จะมีลักษณะใหญ่โตเข้มแข็ง และมีการตกแต่งประดับประดาด้วยการใช้พื้นผิวของวัสดุหลาย ๆ อย่าง คำว่า “ไบเซนไทน์” เรียกตามชื่อ จักรวรรดิไบเซนไทน์ ที่มีกรุงคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองหลวง (ปัจจุบันคือ กรุงอิสตันบูล เมืองหลวงของประเทศตุรกี)  ลักษณะศิลปะไบเซนไทน์ มีลักษณะคาบเกี่ยวกับศิลปะคริสเตียนอยู่มาก และยังมีสืบเนื่องกันต่อมาเป็นเวลาอีกยาวนาน สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม. สถาปัตยกรรมของไบเซนไทน์  มีลักษณะพิเศษ คือ การสร้างโดม (DOME) ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่มากจึงต้องมีกำแพงหนา และใหญ่พอที่จะรับน้ำหนักได้ การสร้างโบสถ์ไบเซนไทน์ อาจจะมีโดมหลายโดม หรือ โดมอันเดียวแต่ ภายในตรงกลางจะต้องมีโดมที่เป็นประธานขนาดใหญ่ จิตรกรรม จิตรกรรม. ส่วนใหญ่เป็นจิตรกรรมเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาและประวัติพระเยซูคริสต์  นอกจากนี้มีการประดับภาพด้วยกระเบื้องเคลือบสีต่าง ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ เรียกว่า “โมเสอิค (MOSAIC)”  ซึ่งมีความงดงามและคงทนมาก ประติมากรรม ประติมากรรม. ประติมากรรมไบเซนไทน์จะแสดงเรื่องราวเกี่ยวทางศาสนา ความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้า ส่วนมากนิยมแกะเป็นรูปนักบุญทางศาสนาประดับหัวเสา  ประดับอาคารทั้งภายในและภายนอก วัสดุที่ใช้ที่มีผิวหลายๆ อย่างมาประกอบ เช่น งาช้าง  ไม้  หิน โลหะ พลอย  ศิลปะโรมาเนสก์ (พ.ศ.1540 - 1740) ศิลปะโรมาเนสก์ (พ.ศ.1540 - 1740). แหล่งกำเนิดสำคัญของศิลปะโรมาเนสก์  คือ  ศิลปะโรมัน  ศิลปะเซลโต-เยอรมนิก  ศิลปะคริสเตียนยุคแรก และศิลปะไบซันไทน์ในสมัยคาโรลิงเจียน ศิลปะโรมาเนสก์นิยมประติมากรรมขนาดเล็กเช่นเดียวกับสมัยไบซันไทน์  การฟื้นฟูประติมากรรมขนาดใหญ่เริ่มมีขึ้นในสมัยโรมาเนสก์  แต่การจัดองค์ประกอบประติมากรรมขนาดใหญ่  โดยมากยังมีมูลฐานมาจากงานแกะสลักงาช้างหรือแม้แต่จากภาพเขียนสีในหน้าหนังสือฉบับเขียนด้วย ประติมากรรม ประติมากรรม. ประติมากรรมสมัยโรมาเนสก์  มักพบเห็นได้ในบริเวณที่ต่อไปนี้1.  บริเวณประตูทางเข้าโบสถ์ คือ อยู่บริเวณที่เสากรอบประตูเรียงชิดเหลื่อมกันผายออกไป หรือที่เรียกว่า“แจมป์”   นอกจากนี้ ยังมีอยู่ที่หน้าจั่วซุ้มประตู ที่เรียกว่า “ไทพานุม”  และที่อยู่กลางประตูเสาของประตูฝาแฝด ที่เรียกว่า “ตรูมียู”  2.  บริเวณตามเสาอาคาร  เสาประดับอาคาร  เสานูนบนผนังอาคาร และที่บัวหัวเสา  3.  บริเวณตามแท่นบูชาและอ่างน้ำมนต์ในพิธีรดน้ำมนต์  4.  บริเวณสุสานที่ฝังศพเรื่องราวประติมากรรมสมัยโรมาเนสก์  เอามาจากพระคัมภีร์เก่และพระคัมภีร์ใหม่  เป็นเรื่องราวของศาสดาพยากรณ์  ชีวประวัตินักบุญ  การทำงานตามฤดูกาล  รูปเปรียบเทียบเรื่องความดีกับความชั่ว หรือเรื่องศิลปะวิทยาการต่างๆ รวมทั้งรูสัญลักษณ์จักราศี  นอกจากนี้ ยังมีรูปสัตว์ลักษณะฝันเฟื่อง  ซึ่งอาจเป็นรูปแทนความชั่วร้าย และยังมีลวดลายรูปเลขาคณิต หรือรูปดอกไม้รวมอยู่ด้วย หรือไม่ก็ทำเป็นรูปนูนต่าง สถาปัตยกรรม  สถาปัตยกรรมสมัยโรมาเนสก์เป็น “แบบลอมบาร์ด” ได้รับอิทธิพบมาจากโรมัน คือ การใช้ประตูและหลังคาโค้ง  ก่อสร้างด้วยวิธีก่ออิฐก่อหิน และเพดานทรงโค้งกากบาทของสมัยโรมาเนสก์  มีโครงเพดานให้เห็น การสร้างเพดานทรงโค้งแบบกากบาท ที่แสดงโครงเพดานคลุมเหนือห้องโถงช่วงกลางอาคารที่นับว่าเป็นผลงานชั้นนำปรากฏในตอนกลางสมัยพุทธศตวรรษที่ 17  ที่โบสถ์ดูร์ฮัมคาเทรัล (ประเทศอังกฤษ)  โบสถ์แซงต์เอเตียน (ประเทศฝรั่งเศส)  และโบสถ์ซานโตอัมโบรโจ (ประเทศอิตาลี) สถาปัตยกรรมสมัยโรมาเนสก์  มีอยู่หลากหลายลักษณะแต่ส่วนมากมีลักษณะดังนี้1.  มีความหนาเทอะทะ คล้ายป้อมปราการเมือง  2.  ใช้โครงสร้างวงโค้งแบบโรมัน  3.  มีหอสูง  2  หอ หรือมากกว่านี้  4.  มีช่องประตูและหน้าต่างผายออก คือ ทำช่องประตูหรือหน้าต่างเป็นโครงสร้างวงโค้งซ้อนเหลื่อมกันจากขนาดเล็กไปหาใหญ่  5.  มีระเบียงทางเดินประชิดผนัง คือ เป็นระเบียงทางเดินที่ติดฝาผนัง  ใช้เพื่อการตกแต่งหรือค้ำยัน6.  มีลวดลายบัง หรือลายแนวราบที่เรียกว่า “สตริงคอร์ส”  นูนยื่นจากผนัง 7.  มีหน้าต่างรูปวงล้อ คือ หน้าต่างรูปวงกลมที่ถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ด้วยเส้นรัศมีหินที่ศูนย์กลางจากวงกลม จิตรกรรม จิตรกรรม. ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17  จิตรกรรมโรมาเนสก์มีรูปร่างลักษณะแบน และแสดงเส้นเป็นระเบียบมั่นคงที่มีพลังจากการบิดเอี้ยว และวนเป็นวง ผลงานจิตรกรรมภายหลังพุทธศตวรรษที่ 17  เริ่มมีมิติทางรูปทรงอย่างงานประติมากรรมมากขึ้น  แต่ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเท่าไรนัก  อิทธิพลของศิลปะไบเซนไทน์ มักมีปรากฏอย่างชัดเจนในส่วนของเสื้อผ้าที่เป็นรอยยับจีบคล้ายรูปเลขาคณิต  การจัดวางท่าทางรูปคนให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ศิลปะโกธิค (พ.ศ. 1690 - 1940) ศิลปะโกธิค (พ.ศ. 1690 - 1940). ศิลปะโกธิคเริ่มต้นจากฝรั่งเศส ปลายพุทธศตวรรษที่ 17 และแพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ และมักลักษณะตามภูมิภาคนั้น ๆ สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม. ลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบโกธิค คือ มีผนังเปิดกว้าง มีส่วนสูงเด่นเป็นพิเศษและมีแบบที่ออกมา เป็นลายเส้นอันซับซ้อนทุกส่วนล้วนประกอบเข้าด้วยกันเป็นสัญลักษณ์นิยมทางศาสนา  โครงสร้างหลังคาเป็นโค้งแหลม ลักษณะต่างๆ เหล่านี้ จะหาดูได้จากมหาวิหารในฝรั่งเศส เช่น คือ มหาวิหารนอเตรอดาม เดอ ปารีส   มหาวิหารซานตีเอโก เด กอมโปสเตลา   มหาวิหารเซนต์เดอนิส   มหาวิหารโนยง   มหาวิหารลาออง   มหาวิหารอาเมียง  โบสถ์ ซากราดา ฟามิเลีย   พระราชวังแกรนด์เพลส (Grand Place) เป็นต้น ประติมากรรม ประติมากรรม. ประติมากรรมสมัยโกธิค  คล้ายของจริงเป็นภาพพระเยซู  นักบุญ  แม่พระที่ซ้อนความเศร้าศรัทธาภายใต้เสื้อคลุมที่หนา จิตรกรรม จิตรกรรม. จิตรกรรมสมัยโกธิค มีพื้นที่เขียนภาพบนฝาผนังน้อยลง เพราะสถาปัตยกรรม มีช่องเปิดมากดังนั้นจึงมักเน้นไปที่การออกแบบกระจกสีบานหน้าต่าง สำหรับการเขียนภาพในหนังสือเขียน  มักจะแสดงรูปคนที่สะโอดสะองในชุดเสื้อผ้าอาภรณ์ที่พลิ้ว และโค้งไหวอย่างอ่อนช้อย การประดับกระจกสี (STAIN GLASS) การประดับกระจกสี (STAIN GLASS). ศิลปะที่เด่นแทนรูปเขียน ของศิลปะโกธิค คือ การประดับกระจกสีตามช่องประตู และหน้าต่างทำเป็นลวดลายต่างๆ รวมกันอยู่ภายในกรอบ เมื่อดูภาพจากช่องที่มีแสงสว่างผ่าน ก็จะคล้ายกับรูปภาพนั้นเขียนด้วยแก้วสีทั้งหมด ศิลปะเรอเนซองส์ (พ.ศ.1940 - 2140) ศิลปะเรอเนซองส์ (พ.ศ.1940 - 2140).               คำว่า “เรอเนซองส์”  หมายถึง การเกิดใหม่ หรือ “ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ”  เป็นการระลึกถึงศิลปะกรีกและโรมันในอดีตซึ่งเคยรุ่งเรืองให้กลับมาอีก  ศิลปะเรอนเนซองส์ไม่ใช่การลอกเลียนแบบจากอดีต แต่เป็นการเน้นความสำคัญของลักษณะเฉพาะบุคคล  มีความสนใจลักษณะภายนอกของมนุษย์และธรรมชาติ  ก่อให้เกิดความกระตือรือร้นในการค้นหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการแขนงต่างๆ  สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม. ศิลปินได้นำเอาแบบอย่างศิลปะชั้นสูงในสมัยกรีกและโรมัน มาสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระเต็มที่ งานสถาปัตยกรรมมีการก่อสร้างแบบกรีกและโรมันเป็นจำนวนมาก  ลักษณะอาคารมีประตูหน้าต่างเพิ่มมากขึ้น ประดับตกแต่งภายในด้วยภาพจิตรกรรมและประติมากรรมอย่างหรูหรา สง่างาม งานสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ในสมัยเรอเนซองส์ ได้แก่ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter) ในกรุงโรม เป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก วิหารนี้มีศิลปินผู้ออกแบบควบคุมงานก่อสร้างและลงมือตกแต่งด้วยตนเอง ต่อเนื่องกันหลายคน เช่น โดนาโต บรามันโต (Donato Bramante ค.ศ. 1440 – 1514) ราฟาเอล (Raphel ค.ศ. 1483 – 1520) ไมเคิล แองเจลโล (Michel Angelo ค.ศ. 1475 – 1564) และ โจวันนิ เบอร์นินี (Giovanni Bernini ค.ศ. 1598 – 1680) จิตรกรรมและประติมากรรม จิตรกรรมและประติมากรรม. งานจิตรกรรมและประติมากรรมในสมัยเรอเนซองส์    ศิลปินสร้างสรรค์ในรูปความงามตามธรรมชาติ และความงามที่เป็นศิลปะแบบคลาสสิกที่เจริญสูงสุด  ซึ่งพัฒนาแบบใหม่จากศิลปะกรีกและโรมัน ความสำคัญของศิลปะสมัยเรอเนซองส์   มีความสำคัญต่อการสร้างสรรค์ศิลปะเกือบทุกสาขา  โดยเฉพาะเทคนิคการเขียนภาพ การใช้องค์ประกอบทางศิลปะ (Composition) หลักกายวิภาค (Anatomy) การเขียนภาพทัศนียวิทยา (Perspective Drawing)  การแสดงออกทางศิลปะมีความสำคัญในการพัฒนาชีวิต  สังคม  ศาสนาและวัฒนธรรม  จัดองค์ประกอบภาพให้มีความงาม  มีความเป็นมิติ   มีความสัมพันธ์กับการมองเห็น ใช้เทคนิคการเน้นแสงเงาให้เกิดดุลยภาพ มีระยะตื้นลึก ตัดกันและความกลมกลืน เน้นรายละเอียดได้อย่างสวยงาม                ศิลปินที่สำคัญในสมัยเรอเนซองส์ ที่สร้างสรรค์งานจิตรกรรมและประติมากรรมไว้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก  ได้แก่                เลโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ผู้เป็นอัจริยะทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ แพทย์ กวี ดนตรี จิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ผลงานที่มีชื่อเสียงของดาวินชี  ได้แก่ ภาพอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู (The last Supper) ภาพพระแม่บนก้อนหิน (The Virgin on the Rock) ภาพพระแม่กับเซนต์แอน (The Virgin and St. Anne) และภาพหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอันลึกลับ (mystic smile) ที่โด่งดังไปทั่วโลก คือ ภาพโมนาลิซา (Mona Lisa) Leonardo da Vinci. The Last Supper. c.1495-98. Tempera wall mural, Sta. Maria delle Grazie, Milan Leonardo da Vinci. Mona Lisa. c.1503-5. Oil on Panel. Louvre Museum, Paris               ไมเคิล แองเจลโล (Michel Angelo) เป็นศิลปินผู้มีความสามารถ และรอบรู้ในวิทยาการแทบทุกแขนง โดยเฉพาะรอบรู้ในด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม เป็นสถาปนิกผู้ร่วมออกแบบและควบคุมการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ งานประติมากรรมสลักหินอ่อนที่มีชื่อเสียงและเป็นผลงานชิ้นเอก ได้แก่ รูปโมเสส (Moses) ผู้รับบัญญัติสิบประการจากพระเจ้า รูปเดวิด (David) หนุ่มผู้มีเรือนร่างที่งดงาม รูปพิเอตตา (Pietta) แม่พระอุ้มศพพระเยซูอยู่บนตัก  ภาพเขียนของไมเคิล แองเจลโล ชิ้นสำคัญที่สุด เป็นภาพบนเพดานและฝาผนังของโบสถ์ซิสติน (Sistine) ในพระราชวังวาติกัน ประเทศอิตาลีในปัจจุบัน ราฟาเอล (Raphael)  เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมออกแบบ  ควบคุมการก่อสร้าง และตกแต่งมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์   มีผลงานจิตรกรรมที่สำคัญเป็นจำนวนมากที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ได้แก่ ภาพแม่พระอุ้มพระเยซู (Sistine Madonna) ภาพงานรื่นเริงของทวยเทพ (The Triumph of Galatea)                  ซานโดร  บอตติเซลลี (Sandro Botticelli)  ผลงานภาพ “กำเนิดวีนัส”  แสดงท่าทางคล้ายรูปวีนัสสลักหินอ่อน               ศิลปะสมัยเรอเนซองส์  แพร่หลายออกไปจากประเทศอิตาลีสู่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตะวันตกอย่างรวดเร็ว และมีอิทธิพลต่อศิลปะในประเทศนั้น ๆ อย่างมากมาย   ทำให้เกิดสกุลศิลปะและศิลปินที่สำคัญในท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นจำนวนมาก   ผลงานอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เรากล่าวได้ว่ามนุษยชาติเป็นหนี้บุญคุณบรรพชนแห่งสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอยู่จนปัจจุบันนี้ ศิลปะแมนเนอร์ริสม์ (พ.ศ.2063-2143) ศิลปะแมนเนอร์ริสม์ (พ.ศ.2063-2143).             คำว่าแมนเนอริสม์ (Mannerism) มาจากคำว่า มานิเอรา ในภาษาอิตาลี (Maniara) โรแมงโรลังค์ (Romain Rolland) ใช้เรียกความเคลื่อนไหวของศิลปกรรมในช่วงที่การเสียชีวิตของราฟาเอล (ค.ศ. 1520 - ค.ศ. 1600) ซึ่งเป็นช่วงว่างก่อนจะเริ่มบาโรค ลักษณะของงานจิตรกรรม ดังนี้ ลักษณะของงานจิตรกรรม ดังนี้. 1.  งานศิลปะมีจินตนาการอย่างอิสระ รูปคนจะบิดผันเกินธรรมชาติ  2.  น้ำหนักของภาพที่เกิดจากแสงและเงาจะตัดกันรุนแรง 3.  ใช้น้ำหนักเข้มเพื่อเน้นให้เกิดความลึก 4.  ใช้สีสดใส รุนแรง โดยการแตะแต้มให้เสื้อผ้าดูมันละเลื่อม 5.  สร้างบรรยากาศให้ดูสดใส ไม่ใช่ภาพในฝันซึ่งมีระเบียบแบบแผนแบบเรอเนสซองส์ 6.  สร้างงานให้เหมือนตกอยู่ในฝันร้าย โดยแสดงออกอย่างกล้าแข็ง รุนแรง เร้าอารมณ์ และระบายสี ให้ใสคล้ายแก้วเจียรนัยศิลปินที่สำคัญ ได้แก่  ปอนเตอร์โม (Jacopo Carucci Pontormo, 1494 –1557), เอล เกรคโก (El Greco, 1541–1614)ลักษณะของงานประติมากรรม ดังนี้1.  เกิดความนิยมเทคนิคการหล่อแทนการแกะสลัก ทำให้การสร้างงานอิสระมากขึ้น 2.  ประติมากรสามารถสร้างงานตามที่ต้องการให้เคลื่อนไหวได้ดีกว่าการแกะสลัก  3.  มีการบิดและเคลื่อนไหวลำตัวไปเกือบตรงกันข้ามกับทิศทางของสะโพก 4.  ยึดหลักทฤษฎีการมองที่เรียกว่าไลนีอา เซอร์เพนตินา( Linea Serpentina )หมายถึง การมองดูประติมากรรมได้รอบศิลปินที่สำคัญ ได้แก่  เชลลินี (Benvenuto Cellini,1529 – 1571), โบโลญา (Giovanni da Bologna,1529 -1608) ศิลปะบาโรก (Baroque พ.ศ.2143-2293) ศิลปะบาโรก (Baroque พ.ศ.2143-2293). ศิลปะแบบบาโรคจะเน้นหนักไปทางธรรมชาติ แสดงความอ่อนไหว มีลวดลายประดิษฐ์มาก ซับซ้อน  จัดได้ว่าเป็นยุคที่มีการสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อการแสดงออกที่เรียกร้องความสนใจมากเกินไป  มุ่งหวังความสะดุดตาราวกับจะกวักมือเรียกผู้คนให้มาสนใจศาสนา  การประดับตกแต่งมีลักษณะฟุ้งเฟ้อเกินความพอดี คำว่าบาโรกมาจากภาษาโปรตุเกสที่แปลว่า รูปร่างของไข่มุกที่มีสัณฐานเบี้ยว เป็นคำที่ใช้เรียกลักษณะงานสถาปัตยกรรม และจิตรกรรมที่มีการตกแต่งประดับประดา และให้ความรู้สึกอ่อนไหว ศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ได้แก่ รูเบนส์ (Peter Paul Rubens,1577–1640)  เรมบรานด์ท (Rembrandt Van Rijn 1606 – 1669)  โจวันนิ เบอร์นินี (Gianlorenzo Bernini , 1598 – 1680) เป็นต้น ศิลปะโรโคโค (Rococo 1700-1790A.D.) ศิลปะโรโคโค (Rococo 1700-1790A.D.). เป็นผลงานศิลปะที่สะท้อนความโอ่อ่า  หรูหรา  ประดับประดาตกแต่งที่วิจิตร  ละเอียดลออ เรื่องราวเกี่ยวกับเทพนิยายโบราณ  ความรื่นเริงยินดี  ความรัก  กามารมณ์ ศิลปินที่สำคัญ ได้แก่  อังตวน วัตโต (Antoine Watteau, 1684 – 1721) , บูเชร์ (Francoise Boucher, 1703 – 1770) , ฟราโกนาร์ด (Jean Honore Fragonard , 1732 – 1806) , ชาร์แดง (Jean Babtiste Simeon Chardin, 1699 – 1799) , โคลดีอง (Cloude Michel Clodion, 1738 – 1814) , เรย์ โนลด์ (Sir Joshua Reynolds, 1723 – 1792) , วิลเลียม โฮการ์ธ (William Hogarth 1697 – 1764) อ้างอิง ดูเพิ่ม ยุคสมัยของศิลปะ ยุคของดนตรี
thaiwikibooks
195,628
เอกลักษณ์ตรีโกณมิติ
เอกลักษณ์ตรีโกณมิติ&nbsp;คือการเท่ากันของฟังก์ชันตรีโกณมิติที่ต่างกัน และเป็นจริงสำหรับทุก ๆ ค่าของขนาดของมุม เมื่อกำหนด&nbsp;A&nbsp;เป็นขนาดของมุมใดๆ&nbsp;( 0&nbsp;<&nbsp;A&nbsp;<&nbsp;360)&nbsp;จะได้ sinA * cosecA&nbsp;= 1 cosA * secA&nbsp;= 1 tanA * cotA&nbsp;= 1 cosA * tan A&nbsp;= sinA sinA * cot A&nbsp;= cosA sin2&nbsp;A + cos2A&nbsp;= 1 sec2A – tan2A&nbsp;= 1 csc2A – cot2A&nbsp;= 1 เมื่อกำหนด&nbsp;x&nbsp;และ&nbsp;y&nbsp;เป็นขนาดของมุมใดๆ&nbsp;( 0&nbsp;<&nbsp;&nbsp;X,Y&nbsp;<&nbsp;360 )จะได้ sin ( X + Y )&nbsp;= sinX * cosY + cosX * sinY sin ( X – Y )&nbsp;= sinX * cosY - cosX * sinY cos ( X + Y )&nbsp;= cosX * cosY - sinX * sinY cos ( X – Y )&nbsp;= cosX * cosY + sinX * sinY tan ( X + Y )&nbsp;= tanX + tanY / 1 – tanX tanY tan ( X – Y )&nbsp;= tanX – tanY / 1 + tanX tanY sinX + sinY&nbsp;= 2sin [ (X + Y) /2 ] cos [ ( X – Y ) / 2] sinX - sinY&nbsp;= 2cos [ (X + Y) /2 ] sin [ ( X – Y ) / 2] cosX + cosY&nbsp;= 2cos [ (X + Y) /2 ] cos [ ( X – Y ) / 2] cosX - cosY&nbsp;= -2sin [ (X + Y) /2 ] sin [ ( X – Y ) / 2] tanX + tanY&nbsp;= [ sin ( X + Y) ] / cosX cosY tanX - tanY&nbsp;= [ sin ( X - Y) ] / cosX cosY cotX + cotY&nbsp;= [ sin ( X + Y) ] / sinX sinY cotX - cotY&nbsp;= [ -sin ( X - Y) ] / sinX sinY ดูเพิ่ม ตรีโกณมิติ
thaiwikibooks
195,629
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
ค่าประมาณ ของค่า sin cos และ tan (ทศนิยม4ตำแหน่ง) หาได้ดั้งตารางต่อไปนี้ โดยหาค่า sin cos และ tan ของมุมที่อยู่ระหว่าง 0องศา – 90องศา จะมีค่าระหว่าง 0 - 1 ตรีโกณมิติทั้ง 6 ฟังก์ชัน สามารถนิยามด้วยวงกลมหนึ่งหน่วย ซึ่งเป็นวงกลมที่มีรัศมียาว 1 หน่วย และมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่จุดกำเนิด วงกลมหนึ่งหน่วยช่วยในการคำนวณ และหาค่าฟังก์ชันตรีโกณมิติสำหรับอาร์กิวเมนต์ที่เป็นบวกและลบได้ ไม่ใช่แค่ 0 ถึง π/2 เรเดียนเท่านั้น สมการของวงกลมหนึ่งหน่วยคือ:x^2+y^2=1 จาก รูป เราจะวัดมุมในหน่วยเรเดียน โดยให้มุมเป็นบวกในทิศทวนเข็มนาฬิกา และมุมเป็นลบในทิศตามเข็มนาฬิกา ลากเส้นให้ทำมุม θกับแกน x ด้านบวก และตัดกับวงกลมหนึ่งหน่วย จะได้ว่าพิกัด x และ y ของจุดตัดนี้จะเท่ากับ cos θ และ sin θ ตามลำดับ เหตุผลเพราะว่ารูปสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นนั้น จะมีความยาวด้านตรงข้ามมุมฉาก ยาวเท่ากับรัศมีวงกลม นั่นคือยาวเท่ากับ 1 หน่วย เราจะได้ sin θ = y/1และ cos θ = x/1 วงกลมหนึ่งหน่วยช่วยให้เราหากรณีที่สามเหลี่ยมมีความสูงเป็นอนันต์ (เช่น มุม π/2 เรเดียน) โดยการเปลี่ยนความยาวของด้านประกอบมุมฉาก แต่ด้านตรงข้ามมุมฉากยังยาวเท่ากับ หน่วย เท่าเดิม ฟังก์ชั่นตรีโกณมิติที่ควรรู้จัก ดูเพิ่ม ตรีโกณมิติ
thaiwikibooks
195,630
ครอสเวิร์ดเกม/กติกาการเล่น
อุปกรณ์การเล่น อุปกรณ์การเล่น. 1. ชุดกระดานครอสเวิร์ด (กระดาน + แป้นวางตัวอักษร + ถุงตัวเบี้ย) 1 ชุด การเล่น Scrabble จะมีอุปกรณ์คือ กระดานต่อศัพท์ขนาด 15 * 15 ช่องที่ระบุตำแหน่งแต้มพิเศษต่าง ๆ และตัวศัพท์อีก 100 ตัว โดยแบ่งเป็นตัวว่างที่สามารถใช้แทนตัวอักษรตัวใดก็ได้ 2 ตัว และตัวอักษรอื่น ๆ อีก 98 ตัว แบ่งจำนวนเป็นดังนี้ ตัวอักษรแต่ละตัวจะมีคะแนนไม่เท่ากัน แบ่งเป็น 0 แต้ม – ตัวว่าง(×2) 1 แต้ม – A(×9), E(×12), I(×9), L(×4), N(×6), O(×8), R(×6), S(×4), T(×6) และ U(×4) 2 แต้ม – D(×4) และ G(×3) 3 แต้ม – B(×2), C(×2), M(×2) และ P(×2) 4 แต้ม – F(×2), H(×2), V(×2), W(×2) และ Y(×2) 5 แต้ม – K(×1) 8 แต้ม – J(×1) และ X(×1). 10 แต้ม – Q(×1) และ Z(×1) 3. นาฬิกาจับเวลา (Chess clock) เวลาในการแข่งขัน เวลาในการแข่งขัน. 1. ให้Chess clock หรือ Stop watch จับเวลาการแข่งขันโดยผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะมีเวลา 1 นาทีต่อ 1 คำ หากเกินจะหมดสิทธิ์ลงตานั้น 2. เมื่อถึงเวลาแข่งขันผู้เข้าแข่งขันมาช้ากว่าเวลาที่กำหนด 15 นาทีถือว่าสละสิทธิ์ การเริ่มต้น การเริ่มต้น. 1. ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องเตรียมอุปกรณ์การเล่นให้พร้อม ตรวจนับจำนวนอักษรให้ครบ 100 ตัว 2. ผู้เล่นจะต้องจับตัวอักษรในถุงขึ้นมาคนละ 1 ตัว เพื่อดูว่าผู้ใดจะได้เป็นผู้ที่ได้เริ่มเล่นก่อน โดยมีหลัก คือ เรียง ตามตัวอักษร ตั้งแต่ตัวว่าง (Blank) A – Z 3. ผู้เล่นจับตัวอักษรขึ้นมาคนละ 7 ตัว โดยที่ผู้เล่นที่ได้เล่นก่อน จะเป็นฝ่ายจับตัวอักษรก่อน 4. การจับตัวอักษร จะต้องจับให้อยู่ในระดับสายตา และเมื่อจับตัวอักษรขึ้นมาแล้วจะต้องวางไว้บนโต๊ะก่อน เพื่อตรวจดูว่าจับตัวขึ้นมาครบหรือจับเกินหรือไม่ถ้าเกินจะต้องให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจับตัวอักษรที่เกินออก วิธีการเล่น วิธีการเล่น. 1. ผู้เล่นคนแรกจะต้องผสมตัวอักษรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปให้เป็นคำในภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องปรากฏอยู่ในพจนานุกรมครอสเวิร์ดเกม The Standard Dictionary for Crossword Game Players (Fourth Tournament Edition) ลงบนกระดานในแนวนอนหรือแนวตั้งโดยมีตัวอักษรใดตัวหนึ่งของคาทับอยู่บนดาว กลางกระดานและคาที่ลงในครั้งแรกนี้จะได้คะแนนเป็น 2 เท่า 2. หลังจากที่ผู้เล่นคนแรกได้ลงตัวอักษรไปแล้ว ผู้เล่นต้องหยิบตัวอักษรในถุงขึ้นมาแทนตัวอักษรที่ใช้ไปในจำนวนเท่ากัน โดยต้องวางไว้บนโต๊ะก่อนเช่นกัน จากนั้นผู้เล่นอีกคนสามารถนำเอาคำที่ตัวเองผสมได้ลงเล่นบน กระดาน โดยให้มีตัวอักษรตัวใดตัวหนึ่ง หรือมากกว่าสัมผัสคำที่มีอยู่ในกระดาน และการเล่นจะดำนินต่อไป เช่นนั้นจนสิ้นสุดเกม 3. การสิ้นสุดเกมในแต่ละครั้งที่ลงบนกระดานจะเกิดขึ้นเมื่อ 1) ผู้เล่นลงคำบนกระดาน 2) ผู้เล่นขานคะแนนของคำที่ลงในรอบนั้น 3) ผู้เล่นกดเวลาเริ่มของคู่แข่งขัน 4) กรรมการจดคะแนนและขานแต้มสะสม 5) คู่แข่งขันยืนยันคะแนน การคิดคะแนนที่ได้ การคิดคะแนนที่ได้. 1. คะแนนที่ได้จะเกิดจากคำที่เกิดขึ้นใหม่ทุกคำในการลงเล่นตานั้น ซึ่งอาจจะเป็นการเปลี่ยนให้เป็นพหูพจน์โดย ใส่ S หรือทำให้เป็นขั้นกว่า หรือคำในรูปของอดีตกาล (Past tense) ย่อมถือเป็นคำเกิดขึ้นใหม่ทั้งนั้น คะแนนแต่ ละครั้งจะเท่ากับค่าตัวอักษรที่เล่นในคำที่สร้างขึ้นใหม่ประกอบกับช่องพิเศษจากตัวอักษรที่เล่นวางทับช่องนั้นๆ 2. จากช่องคะแนนพิเศษ 4 แบบ คือ ช่องสีฟ้า (คูณ 2 เฉพาะตัวอักษร) สีน้ำเงิน (คูณ 3 เฉพาะตัวอักษร) สีชมพู (คูณ 2 ทั้งคำ) สีแดง (คูณ 3 ทั้งคำ) ในกรณีที่ผู้เล่นลงคำซึ่งมีตัวอักษรใหม่ทับช่องพิเศษมากกว่า 1 ช่องแล้ว คะแนนที่ได้จะนับคะแนนพิเศษให้ตัวอักษรก่อน ค่อยนำมาวางรวมสำหรับคะแนนพิเศษของคำ ตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นลงคำว่า “CLAPS” โดยมีตัว C ซึ่งมีค่า 3 แต้ม ทับบนช่องสีน้ำเงิน (คูณ 3 เฉพาะตัวอักษร) และตัว S ซึ่งมีค่า 1 แต้มทับช่องสีชมพู (คูณ 2 ทั้งคำ) คะแนนที่คิดออกมาได้จะเท่ากับ C(3x3) + L(1) + A(1) + P(3) + S(1) = 15x2 = 30 แต้ม 3. ช่องตัวอักษรพิเศษและช่องคำพิเศษนั้น สามารถใช้ได้ในการเล่นทับลงครั้งแรกเท่านั้น ในการเล่นครั้งต่อมาให้ นับเฉพาะค่าของตัวอักษรเท่านั้น 4. เมื่อตัวอักษรนั้นตกลงทับในช่องสีชมพู / แดง ค่าของคำนั้นจะถูกคูณ 2 หรือคูณ 3 ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวแบล๊งค์ ซึ่งไม่มีคะแนนก็ตาม 5. เมื่อคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปถูกสร้างในการเล่นครั้งเดียวกัน คำทุกคำที่เกิดขึ้นใหม่นี้จะถูกคิดคะแนนรวมกัน และ หากมีตัวอักษรใดทับช่องคะแนนพิเศษและทำให้เกิดคำใหม่ขึ้นหลายคำพร้อมกัน ตัวอักษรนั้นก็จะถูกคิดคะแนน ด้วยค่าพิเศษสำหรับในแต่ละคำที่เกิดขึ้น Bonus for Bingo Bonus for Bingo. ในกรณีที่ผู้เล่นสามารถลงตัวอักษรที่ตนมีอยู่ทั้งหมด 7 ตัวในครั้งเดียว ผู้เล่นจะได้คะแนนพิเศษอีก 50 คะแนน นอกเหนือจากคะแนนปกติที่ได้จากการลงคำนั้น การขอเปลี่ยนตัวอักษร ในกรณีที่ผู้เล่นไม่ประสงค์จะลงคำ เมื่อถึงรอบของตัวเองก็สามารถบอกผ่านการเล่นของตัวเองได้โดยผู้เล่น สามารถใช้สิทธิ์ขอเปลี่ยนตัว (โดยที่ตัวอักษรในถุงจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 7 ตัว) ตามแต่ที่ตนต้องการคือ ตั้งแต่1 – 7 ถ้าตัวอักษรมีน้อยกว่า 7 ตัว สิทธิ์ขอเปลี่ยนตัวก็จะหมดไป การขอ Challenge การขอชาลเล้นจ์ (Challenge) หากคู่แข่งขันลงคำศัพท์ที่ผู้เล่นไม่แน่ใจว่าจะเป็นคำศัพท์ที่ถูกต้องหรือไม่ผู้เล่น สามารถขอชาลเล้นจ์เพื่อให้กรรมการทำการเปิดพจนานุกรมพิสูจน์ได้ ถ้าหากผลการชาลเล้นจ์ปรากฏว่าคำศัพท์ นั้นมีจริง ผู้ที่ขอชาลเล้นจ์จะเสียตาเล่น 1 ตา แต่หากคำศัพท์นั้นไม่มีอยู่ในพจนานุกรม ผู้ที่ลงคำศัพท์นั้นจะต้อง ยกตัวอักษรที่เป็นคำๆ นั้นออกจากกระดานโดยไม่ได้คะแนนและเสียตาเล่นนั้น แต่ต้องอยู่เวลา 1 นาทีเท่านั้น กรรมการสามารถแจ้งได้ “มี” หรือ “ไม่มี” เท่านั้น การสิ้นสุดเกม การสิ้นสุดเกม. 1. เกมจะสิ้นสุดเมื่อผู้เล่นคนใดคนหนึ่งใช้ตัวอักษรของตนที่มีอยู่หมด โดยจะให้แต่ละฝ่ายใช้เวลาเล่นกัน ฝ่ายละ 20 turn เท่านั้น โดยเวลาที่ใช้คิดแต่ละ turn ไม่เกิน turn ละ 1 นาที 2. ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะยังมีตัวอักษรเหลืออยู่ให้รวมคะแนนของตัวอักษร แล้วคูณด้วย 2 นำไปบวกให้กับผู้เล่นที่เป็นคนลงตัวอักษรหมดก่อน ยกเว้นตัวว่างจะไม่คิดคะแนนติดลบ 3. ในกรณีที่ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายบอกผ่านครบ 3 ครั้งติดต่อกัน (คะแนนเป็น 0 ฝ่ายละ 3 ครั้งติดต่อกัน) เกมการแข่งขันจะสิ้นสุดลง การนับคะแนนติดลบทำโดยเอาคะแนนของตัวอักษรที่เหลืออยู่ลบออกจากคะแนนของ ตนเองในขณะที่คะแนนของตัวว่างจะไม่นำไปลบคะแนน หมายเหตุ ในกรณีที่แต้มเท่ากัน ให้แต่ละฝ่ายจับขึ้นมา 7 ตัวและให้ผสมเป็นคำ ถ้าทีมใดผสมเป็นคำได้คะแนนเยอะที่สุดถือเป็นผู้ชนะ
thaiwikibooks
195,631
ครอสเวิร์ดเกม
ที่มาของเกมต่อศัพท์ภาษาอังกฤษ Scrabble หรือที่ประเทศไทยจะคุ้นเคยในชื่อของ Crossword เริ่มต้นมาจากสถาปนิกเกษียณอายุ Alfred Mosher Butts ในปี ค.ศ. 1933 โดยเกิดจากการสังเกตตลาดของการเล่นเกมในขณะนั้นที่จะแบ่งแยกออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เกมที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข เกมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว และเกมที่เกี่ยวข้องกับภาษา โดยเขาต้องการที่จะผสมผสานระหว่างเกมการเรียงตัวอักษรเป็นคำ (Anagrams) และเกมเติมศัพท์ภาษาอังกฤษ (Crossword) เข้าด้วยกัน โดยให้ชื่อในครั้งแรกว่่า Lexico หลังจากการตั้งชื่อเกมว่า Lexico Alfred จึงได้พัฒนาเกมจากการนำตัวอักษรในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ เช่น The New York Times, New York Herald Tribunes, Saturday Evening Post มานับและจัดเรียงความถี่ของตัวอักษร จากนั้นจึงเริ่มต้นการให้น้ำหนักของตัวอักษรว่าตัวอักษรใดจะมีคะแนนเท่าไหร่เมื่อลงในกระดาน และมีจุดที่ได้แต้มพิเศษที่จุดใดบ้าง และหลังจากการพัฒนาเกมออกมา 5 ปี จึงเริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี ค.ศ. 1938 และมีการเปลี่ยนชื่อเกมมาเรื่อย ๆ ได้แก่?New Anagrams, to Alph, Criss-Cross, Criss-Crosswords??ตามลำดับ ในปี ค.ศ. 1948 James Brunot ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ร่วมของเกม Criss-Crosswords ได้ปรับเปลี่ยนกฏกติกา ตำแหน่งแต้มพิเศษให้ง่ายขึ้น และเปลี่ยนชื่อเกมเป็น Scrabble โดยในปี ค.ศ. 1949 สามารถขายเกมได้ทั้งหมด 2,400 ชุด แต่ก็ยังขาดทุนอยู่ทั้งหมด 450 ดอลล่าร์สหรัฐ (เทียบมูลค่าเงินในปัจจุบันประมาณ 4,200 ดอลล่าร์สหรัฐ) ซึ่งสมัยนั้นตัวเบี้ยอักษรทำมาจากไม้เมเปิ้ลและปั้มตัวอักษรลงไป จำหน่ายในราคาชุดละ 3 ดอลล่าร์สหรัฐ มีกำลังผลิต 12 ชุดต่อชั่วโมง ชะตาของเกม Scrabble เริ่มพลิกผัน เมื่อมีการเปลี่ยนระบบการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น?เปลี่ยนตัวเบี้ยอักษรให้ใช้วัสดุเป็นพลาสติก และขายเป็นชุด Deluxe ในราคา 10 ดอลล่าร์สหรัฐ และประธานห้างสรรพสินค้า Macy หนึ่งในห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ในสหรัฐได้เห็นและซื้อเกมนี้ไปทดลองเล่นระหว่างการพักร้อนเมื่อยุคต้น ค.ศ. 1950 ได้สั่งซื้อไปวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า Macy ทั่วสหรัฐ และใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 ปีในการสร้างความนิยมในระดับที่ทุกบ้านต้องมีเกมอย่างน้อยสัก 1 ชุด และทำยอดขายได้ถึง 4 ล้านชุดในปีดังกล่าว เมื่อมีการเติบโตของเกม Scrabble และความต้องการจากทั่วประเทศ กำลังการผลิตของ James นั้นก็ไม่เพียงพอ จึงได้ขายลิขสิทธิ์การผลิตให้แก่?Selchow & Righter เพื่อวางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในปี ค.ศ. 1952 จากนั้นจึงมีการเปลี่ยนมือเจ้าของลิขสิทธิ์ในปี ค.ศ. 1986 เป็น Coleco และเป็นของ Hasbro ตั้งแต่ ค.ศ. 1989 จนถึงปัจจุบันได้วางจำหน่ายแล้วมากกว่า 150 ล้านชุดและถูกทำออกมาทั้งหมดจำนวน 29 ภาษา สำหรับสิทธิ์การจัดจำหน่ายเกม Scrabble ทั่วโลกในปัจจุบันอยู่ในมือของ Mattel ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาที่ Hasbro ถือครองสิทธิ์อยู่ และมีเกมทุกรูปแบบให้เราเล่น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกระดาน บนโทรศัพท์มือถือ แท๊บเล็ต เครื่องอ่าน E-book หรือบน Facebook เป็นต้น รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนโฉมและรูปแบบตัวอักษรที่ใช้ในกระดาน Scrabble ใหม่เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2013 ดูเพิ่ม กติกาการเล่น สูตรบิงโก
thaiwikibooks
195,632
ระบบกฎหมาย
แบ่งได้สองรูปแบบหลัก คือ ระบบ Civil Law หรือที่เรียกว่า ระบบประมวลกฎหมาย หรือระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร ใช้ในประเทศต่าง ๆ ดังนี้ ได้แก่ ไทย เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เป็นต้น ระบบ Common Law หรือที่เรียกว่า ระบบเองโกลอเมริกัน หรือระบบกฎหมายจารีตประเพณี หรือระบบกฎหมายที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ใช้ใประเทศต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ได้แก่ อังกฤษ อเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น ข้อแตกต่างระหว่างระบบ Civil Law และ ระบบ Common Law 1. ทัศนคติ ต่อกฎหมายลายลักษณ์อักษร นักกฎหมาย Civil Law เห็นว่าเป็นระบบเหตุผลที่ถูกต้องและเป็นกฎหมายทั่วไป นักกฎหมาย Common Law เห็นว่าเป็นกฎหมายที่ยกเว้นจากหลักทั่วไป (หลักทั่วไป คือ คำพิพากษาบรรทัดฐาน) 2. ทัศนคติ ต่อคำพิพากษา ระบบ Civil Law เห็นว่าเป็นเพียงคำอธิบายในการใช้ตัวบทกฎหมายในการปรับใช้แก่คดีไม่ใช่บ่อเกิดแห่งกฎกมาย และไม่ใช้ตัวบทกฎหมาย ดังนั้น คำพิพากษาใหม่อาจจะตัดสินเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิม โดยวา ระบบ Common Law เห็นว่าคำพิพากษาของศาลเป็นบ่อเกิดของกฎหมาย ดังนั้นคำพิพากษาต่อ ๆ มาในกรณีอย่างเดียวกันย่อมต้องตัดสินตามแนวคำพิพากษาก่อน ๆ นั้นเสมอ 3. ทัศนคติ ต่อขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี และศีลธรรม นักกฎหมาย Civil Law เห็นว่ากฎหมายลายลักษณ์อักษรเป็นกฎหมายที่อยู่เคียงคู่กับจารีตประเพณี และถือว่ากฎหมายเป็นสิ่งค้ำจุลศีลธรรมด้วย นักกฎหมาย Common Law มีความโน้มเอียงที่จะเห็นว่าทั้งจารีตประเพณีและศีลธรรมเป็นคนละเรื่องกัน ไม่เกี่ยวกับกฎหมายลายลักษณ์อักษร 4. การใช้การตีความกฎหมายลายลักษณ์อักษร ระบบ Civil Law  นักกฎหมายอาจตีความกฎหมายโดยนัยต่าง ๆ ได้ โดยพิจารณาตามเหตุผลในบทกฎหมายนั้น ๆ ระบบ Common Law กฎหมายลายลักษณ์อักษรที่ถูกตราขึ้นโดยรัฐสภานั้นเป็น "การตีความตามตัวอักษร" ซึ่งเป็นวิธีการตีความในระบบ Common Law โดยเฉพาะ และกฎหมายลายลักษณ์อักษรจะถูกนำมาใช้โดวิธีการเทียบเคียง (Analogy) ไม่ได้ 5. วิธีบัญญัติกฎหมายลายลักษณ์อักษร ระบบ Civil Law โดยหลักนั้นจะบัญญัติกฎหมายที่มีลักษณะเป็นหลักเกณฑ์ทั่วไป (บททั่วไป) โดยจะใช้เทคนิคในการบัญญัติเพื่อให้ครอบคลุมในกรณีปัญหาและเปิดโอกาสให้ผู้ใช้กฎหมายมีดุลยพินิจในการใช้กฎหมายนั้นให้เหมาะสมกับความเป็นธรรมในแต่ละคดี แต่ในบางบทมาตราหากไม่วางหลักเกณฑ์ทั่วไปได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะบััญญติเป็นรายละเอียด ระบบ Common Law วิธีการบัญญัตินั้นต้องเขียนให้แน่นอนชัดเจนและละเอียด ดังนั้น สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับตัวบทในประมวลกฎหมาย เมื่ออ่านกฎหมายลายลักษณ์อักษรของประเทศในระบบ Common Law จึงรู้สึกว่ากฎหมายเขียนละเอียดมากจนเกินความจำเป็น มีลักษณืคล้ายสัญญามากกว่าที่จะเป็นตัวบทกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อผูกมัดให้ผู้ตีความได้ใช้กฎหมายตามที่ฝ่ายนิติบัญญัติต้องการ ดูเพิ่ม กฎหมายลักษณะทรัพย์
thaiwikibooks
195,633
ยุคของดนตรี
ดนตรีตะวันตกแบ่งเป็น 7 สมัยใหญ่ ๆ ดังนี้           1. สมัยกลาง ( The Middle Ages ค.ศ. 850 – 1450 ) พ.ศ. 1393 – 1993 ก่อนสมัยนี้ราวศตวรรษที่ 6 ดนตรีขึ้นอยู่กับศาสนา Pope Gregorian เป็นผู้รวบรวมบทสวด เป็นทำนองเดียว ( Monophony ) โดยได้ต้นฉบับจากกรีก เป็นภาษาละติน ต่อมาจึงมี 2 ทำนอง( Polyphony ) ศตวรรษที่ 11 การศึกษาเริ่มในโบสถ์ในสมัยกลางนี้เองได้เริ่มมีการบันทึกตัวโน้ต โดยมีพระองค์หนึ่งเป็นชาวอิตาเลียนชื่อ Guido D’Arezzo ( พ.ศ. 1538 – 1593 ) ได้สังเกตเพลงสวดเก่าแก่เป็นภาษาละตินเพลงหนึ่งแต่ละประโยคจะมีเสียงค่อย ๆ สูงขึ้น จึงนำเอาเฉพาะตัวแรกของบทสวดมาเรียงกัน จึงออกเป็น Do Re Mi Fa Sol La Te Do( เว้นตัว Te เอาตัวที่ 2 ) ต่อมา ค.ศ. 1300 ( พ.ศ. 1843 ) ดนตรีก็เริ่มเกี่ยวกับศาสนาอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 2. สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ( The Renaissance Period ค.ศ. 1450 – 1600 ) ยุคนี้เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 1993 – 2143 ตรงกับสมัยโคลัมบัส และเชคสเปียร์ ดนตรีในยุคนี้มักจะเป็นการเริ่มร้องหมู่เล็ก ๆ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการร้องเพื่อสรรเสริญพระเจ้า ร้องกันในโบสถ์มี 4 แนว คือ โซปราโน อัลโต เทเนอร์ และเบส การร้องจะมีออร์แกนหรือขลุ่ยคลอ ดนตรีในสมัยนี้ยังไม่มีโน้ตอ่าน และมักเล่นตามเสียงร้อง  3. สมัยบาโรค ( BaroQue ค.ศ. 1650 – 1750 ) ยุคนี้เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2143 – 2293 และนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ได้แก่ บาค ไฮเดิล ในยุคต้นของสมัยบาโรค ( พ.ศ. 2143 – 2218 ) มีเครื่องดนตรีประมาณ 20 – 30 ชิ้นสลับกันเล่น เพื่อให้มีรสชาติในการฟังเครื่องดนตรีในการคลอเสียงร้อง เช่น ลิ้วท์ ขลุ่ย ต่อมาได้วิวัฒนาการใช้เครื่องสายมากขึ้นเพื่อประกอบการเต้นรำ รวมทั้งเครื่องลมไม้ด้วย ในสมัยนี้ผู้อำนวยเพลงจะเล่นฮาร์พซิคอร์ด 4. สมัยคลาสสิค ( Classical Period ค.ศ. 1750 – 1825 ) ตั้งแต่ พ.ศ. 2273 – 2368 สมัยนี้ตรงกับการปฏิวัติและการปฏิรูปในอเมริกา ไฮเดิลเป็นผู้ริเริ่มในการแต่งเพลงและคลาสสิค การแต่งเพลงในยุคนี้เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการของคีตกวีที่จะเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับลีลา และโอกาสตามอารมณ์ของดนตรี เช่น ดนตรีลักษณะหวานก็ใช้ไวโอลิน ถ้าแสดงความองอาจกล้าหาญ ก็ใช้แตรทรัมเปต มีการเดี่ยวเครื่องดนตรี นักดนตรีต้องศึกษาและเล่นให้ถูกต้องตามแบบแผน เพราะดนตรีในยุคนี้เริ่มเข้าร่องเข้ารอย คีตกวีในยุคที่มีไฮเดิล โมสาร์ท กลุ๊ก บีโธเฟน โดยเฉพาะบีโธเฟน เป็นคีตกวีในสมัยโรแมนติกด้วย 5. สมัยโรแมนติก ( Romantic Period ค.ศ. 1825 – 1900 ) พ.ศ. 2368 – 2443 สมัยนี้ตรงกับสมัยนโปเลียนแห่งฝรั่งเศส เพลงในสมัยนี้ ผิดไปจากเพลงในสมัยก่อน ๆ คือเมื่อก่อนเริ่มแรกเกี่ยวกับศาสนา ต่อมามีการเลือกใช้เครื่องดนตรีและในสมัยนี้ จะแต่งตามจุดประสงค์ตามความคิดฝันของคีตกวี เน้นอารมณ์เป็นสำคัญนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นมี ชูเบิร์ต เสตร้าส์ เมนโดโซน โชแปง ชูมานน์ บราหมส์ ไชคอฟสกี้ โดยเฉพาะในยุคนี้ แต่ละประเทศในยุโรปจะมีความนิยมไม่เหมือนกัน เช่น ลักษณะของเพลงร้อง เพลงประกอบละคร เพลงเต้นรำแบบวอลท์ เป็นไปตามคีตกวีและความนิยมส่วนใหญ่ 6. สมัยอิมเพรสชั่นนิสซึม ( Impressionism ค.ศ. 1850 – 1930 ) ประมาณ พ.ศ. 2393 – 2473 เป็นสมัยแห่งการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ดัดแปลงดั้งเดิมจากสมัยโรแมนติกให้แปลกออกไปตามจินตนาการของผู้แต่ง เปรียบเทียบได้กับการใช้สีสันในการเขียนรูปให้ฉูดฉาด ในด้านดนตรีผู้ประพันธ์มักสรรหาเครื่องดนตรีแปลก ๆ จากต่างประเทศ เช่น จากอินเดียมาผสมให้มีรสชาติดีขึ้น การประสานเสียงบางครั้งแปร่ง ๆ ไม่รื่นหูเหมือนสมัยก่อน ทำนองเพลงอาจนำมาจากทางเอเชียหรือประเทศใกล้เคียง แล้วมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับดุริยางค์ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นมี คลาวด์อบุชชี อิกอร์ สตราวินสกี่ อาร์โนลด์ โชนเบิร์ล            7. สมัยคอนเทมพอลารี ( Contempolary ค.ศ. 1930 – ปัจจุบัน ) หรือ Modern Music – Eletronics ตั้งแต่ พ.ศ. 2473 จนถึงปัจจุบัน ชีวิตของคนในปัจจุบันอยู่กับความก้าวหน้า ทางวิทยาศาสตร์ได้รู้ได้เห็นสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ เช่น ไอพ่น ยานอวกาศโทรทัศน์ นักแต่งเพลงปัจจุบัน จึงเปลี่ยนวิธีการของการประพันธ์เพลงให้เป็นไปในแบบปัจจุบัน ดูเพิ่ม ยุคสมัยของศิลปะ ยุคของดนตรี
thaiwikibooks
195,634
การพูด/การพูดสุนทรพจน์
สุนทรพจน์ หมายถึง คำพูดที่ดีงาม ไพเราะจับใจ การพูดสุนทรพจน์มักมีในพิธีสำคัญ เช่น พิธีต้อนรับแขกเมืองคนสำคัญ พิธีได้รับตำแหน่งสำคัญ เช่น นายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดีหรือกล่าวในงานฉลองระลึกถึงบุคคลสำคัญ วันสำคัญ ระดับชาติ หรือเป็นการกล่าวในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อสร้างสรรค์จรรโลงใจ เป็นคำพูดที่แสดงความปรารถนาดีในทางการเมือง การกล่าวสุนทรพจน์เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง มักได้รับการยกย่องว่าเป็นการพูดชั้นยอด  ลักษณะการพูดสุนทรพจน์                   ใช้ถ้อยคำไพเราะลึกซึ้งกินใจ จับใจ โน้มน้าวให้ผู้ฟังเห็นคล้อยตาม กระตุ้นผู้ฟัง มีความมั่นใจและยินดีร่วมมือ สร้างบรรยากาศให้เกิดความหรรษาและให้ความสุขแก่ผู้ฟัง  โครงสร้างทั่วไปของการพูดสุนทรพจน์                  ๑. ตอนเปิดเรื่อง กระตุ้นให้ผู้ฟังเห็นความสำคัญของเรื่องที่จะพูด        ๒. ดำเนินเรื่อง ประกอบด้วยเนื้อหาสาระลำดับความสำคัญอย่างชัดเจน       ๓. ตอนจบเรื่อง สรุปความทิ้งท้ายให้ผู้ฟังนำไปคิด หรือฝากไว้ในความทรงจำตลอดไป โครงสร้าง ขั้นตอนของสุนทรพจน์                            คำนำ หรือการเริ่มต้น (Introduction) เป็นการบอกกล่าวว่าผู้พูดเป็นใคร พูดในฐานะอะไรในโอกาสใด แล้วนำเข้าสู่เนื้อหาด้วยวิธีการที่เร้าความสนใจ เช่นใช้สุภาษิต คำคม หรือเหตุการณ์ปัจจุบันที่สอดคล้องกับเรื่องราวที่จะกล่าวต่อไป           เนื้อเรื่อง หรือสาระสำคัญของเรื่อง (Discussion) ควรแยกประเด็นเป็นข้อๆ โดยคำนึงถึงเอกภาพ คือความเป็นหนึ่งเดียวของเรื่อง สัมพันธภาพคือความเกี่ยวเนื่องกัน และสารัตถภาพ หรือการเน้นย้ำประเด็นสำคัญของเรื่อง และประเด็นต้องมีข้อมูลหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ และมีตัวอย่างประกอบให้ชัดเจน                     สรุปจบ หรือการลงท้าย (Conclusion) อาจทำได้หลายวิธี เช่น สรุปทบทวนประเด็นเนื้อหาเสนอข้อคิด หรือแนวทางการปฏิบัติเน้นประเด็นสำคัญ และแสดงความหวังว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้           "ขึ้นต้นให้ตื่นเต้น ตอนกลางให้กลมกลืน และตอนจบให้จับใจ " ดูเพิ่ม ดูเพิ่ม. การพูด
thaiwikibooks
195,635
การพูด
การพูดเป็นพฤติกรรมการสื่อสารด้วยการใช้ภาษาที่ควบคู่ไปกับการฟังกล่าวคือ เมื่อมีผู้พูดก็ต้องมีผู้ฟัง จึงจะเกิดความสมบูรณ์ จะขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้          สวนิต ยมาภัย (2525) ได้ให้ความหมายของการพูดไว้ว่า "การพูด คือการใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และอากัปกิริยา ท่าทาง เพื่อถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความรู้สึก และความต้องการของผู้พูด ให้ผู้ฟังรับรู้ และเกิดการตอบสนอง"          จากความหมายดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่า การพูดเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้ เข้าใจ โดยอาศัย การฝึกฝน มิใช่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ธรรมชาติเป็นเพียงผู้ให้อวัยวะที่ใช้สำหรับออกเสียงมาเท่านั้น คนเราถ้าอวัยวะที่ใช้สำหรับออกเสียงไม่บกพร่อง ก็สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ที่จะเปล่งเสียงออกมาให้เป็นภาษาที่สื่อสารกันเข้าใจในหมู่ชนด้วยกันนั้น ต้องอาศัยการเรียนรู้ คือเรียนรู้ถึงภาษาที่ใช้พูดจากันในหมู่เหล่า และอาศัยการฝึกฝน เพื่อให้พูดได้ดี บรรลุจุดมุ่งหมายของการพูดและใช้การพูดเป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตได้          สรุปแล้ว การพูดก็คือพฤติกรรมการสื่อสารของมนุษย์ โดยอาศัยภาษา ถ้อยคำ น้ำเสียง ตลอดจนกิริยาท่าทาง และอื่น ๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของตนแก่ผู้อื่น ให้เกิดผลตอบสนองตามที่ต้องการ ดูเพิ่ม ทักษะพื้นฐานในการพูด ความสำคัญของการพูด มารยาทการพูด การพูดสุนทรพจน์ การพูดในที่ชุมชน การกล่าวคำอวยพร
thaiwikibooks
195,636
การพูด/มารยาทการพูด
มนุษย์จำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน เพื่อถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกให้ผู้อื่นรับรู้ ทักษะหนึ่งที่ใช้ในการสื่อสาร คือ การพูด ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน จึงจำเป็นต้องอาศัยจรรยามารยาท และคุณธรรมในการพูด การพูดโดยมีจรรยามารยาทและคุณธรรมในการพูด จึงเป็นการจรรโลงสังคมได้อีกทางหนึ่ง         มารยาทในการพูด หมายถึง ผู้พูดที่มีกิริยาวาจาเรียบร้อย ท่าทางสง่างาม อ่อนโยนสุภาพ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไมใช้ท่าทางประกอบคำพูดให้มากจนเกินไป ย่อมช่วยเสริมสร้างให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อถือเลื่อมใสผู้พูดได้เป็นอันมาก  การฝึกฝนให้มีมารยาทในการพูดที่พึงปฏิบัติมีดังต่อไปนี้           ๑ ) ต้องรู้จักกล่าวคำทักทาย เมื่อมีผู้แนะนำให้ขึ้นไปพูด ควรลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงแต่เรียบร้อย เดินไปยังที่พูด หยุดเว้นระยะเล็กน้อย แล้วจึงกล่าวคำทักทายหรือคำปฏิสันถารที่เหมาะสม          ๒ ) ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี ผู้พูดที่ดีต้องเป็นคู่สนทนาที่ดี ให้เกียรติและรับฟังผู้อื่นด้วย กรณีพูดในที่ประชุมเมื่อมีเสียงปรบมือหรือเสียงหัวเราะขณะพูดควรหยุดพูดชั่วคราว รอให้เสียงนั้นเบาลงหรือหยุดจึงค่อยพูดต่อไป ถ้าเป็นระหว่างการสนทนาควรหยุดพูดตามความเหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้สนทนาบ้าง เมื่อพูดจบแล้วหยุดเว้นระยะเล็กน้อย ก้มศีรษะให้แก่ผู้ฟังแล้วกลับไปยังที่นั่ง          ๓ ) ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์และน้ำเสียง เมื่อมีผู้ฟังบางคนโห่ร้องหรือล้อเลียนระหว่างพูด อาจทำให้อารมณ์เสียได้ ผู้พูดต้องใจเย็นและควบคุมน้ำเสียงตลอดจนกิริยาวาจาของตนไว้ให้สุภาพเรียบร้อยอยู่เสมอ ทั้งต้องไม่พูดดัดเสียงให้ผิดปกติไปจากน้ำเสียงที่เคยพูดตามปกติในชีวิตประจำวัน         ๔ ) ต้องไม่พูดจาดูถูกหรือข่มขู่ผู้ฟัง เมื่อพูดต่อหน้าที่ประชุมไม่ควรพูดอวดตนหรืออวดภูมิ รวมทั้งไม่ควรใช้กิริยาวาจาเชิงดูถูก ก้าวร้าว หรือข่มขู่ผู้ฟังแต่อย่างใด         ๕ ) ต้องรู้จักใช้คำสุภาพ เมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกับผู้อื่นระหว่างการสนทนา ไม่ควรพูดจาหยาบคาย รุนแรง แต่ควรรู้จักกล่าวคำขอบคุณ ขอโทษ หรือเสียใจในโอกาสอันเหมาะสม ดูเพิ่ม ทักษะพื้นฐานในการพูด ความสำคัญของการพูด การพูดสุนทรพจน์
thaiwikibooks
195,637
การพูด/ความสำคัญของการพูด
ในชีวิตประจำวันของเรา การพูดนับเป็นพฤติกรรมการใช้ภาษาที่ใช้มากเป็นอันดับ 2 รองจากการฟัง ซึ่งเป็นกิจกรรมการใช้ภาษาที่ใช้มากที่สุด นอกจากฟังเสียงอื่น ๆ แล้วสิ่งที่ฟังก็คือเสียงพูดนั่นเอง จะเห็นได้ว่า ในแต่ละวันเราต้องใช้การพูดตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน อีกครั้งไม่น้อยเลย ถ้าจะคิดปริมาณเป็นจำนวนตัวเลขคงได้จำนวนมากมายจนน่าพิศวงตั้งแต่โบราณแล้ว การพูดช่วยให้ประสบผลสำเร็จทั้งในชีวิตประจำวันและการประกอบกิจการงานต่าง ๆ จนมีผู้เห็นความสำคัญของการพูด และได้ประมวลไว้ด้วยถ้อยคำเป็นภาษิตข้อคิด ที่คมคายมากมาย เช่น          "ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา"          "พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย" เป็นต้น  สุนทรภู่ กวีเอกของไทยก็ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพูดไว้ในนิราศภูเขาทองตอนหนึ่งว่า         "ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต  แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา"  ดูเพิ่ม ทักษะพื้นฐานในการพูด มารยาทการพูด การพูดสุนทรพจน์
thaiwikibooks
195,638
การพูด/ทักษะพื้นฐานในการพูด
การพูด เป็นการสื่อสารของมนุษย์โดยใช้ปากและกล่องเสียงเพื่อเปล่งเสียงออกมา เพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคล โดยอาศัย ภาษา เป็นตัวสื่อความหมายของสิ่งที่พูด การพูดเป็นความสามารถเฉพาะของมนุษย์ แต่ก็มีสัตว์บางประเภทสามารถเลียนเสียงพูดของมนุษย์ได้ เช่น นกแก้ว ผู้ที่พูดไม่ได้เรียกว่าเป็น คนใบ้       การพูดมีหลายรูปแบบ เช่น การพูดระหว่างบุคคล การพูดในกลุ่ม การพูดในที่ชุมชน บุคคลที่มีทักษะในการพูด สร้างแรงจูงใจให้บุคคลอื่นได้ ก็สามารถจัด ทอล์กโชว์ (talk Show) สร้างเป็นอาชีพนักวิชาการ ด้านการพูดได้  ดูเพิ่ม ความสำคัญของการพูด มารยาทการพูด การพูดสุนทรพจน์
thaiwikibooks
195,639
การพูด/การพูดในที่ชุมชน
"การพูดในที่ชุมชน" คือ การพูดในที่สาธารณะ มีผู้ฟังเป็นจำนวนมาก ผู้พูดต้องสนใจปฏิกิริยาตอบสนองผู้ฟัง ทั้งเป็นวัจนภาษาและอวัจนภาษาการพูดต่อหน้าประชุมชนเป็นการเปิดโอกาส ให้ผู้พูดได้แสดง ความสามารถเฉพาะตัวเพราะทุกคนที่ไม่เป็นใบ้ย่อมพูดได้ แต่บางคนเท่านั้นที่พูดเป็น เพราะการพูดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่จำเป็นต้องอาศัยพรสวรรค์เสมอไปแต่สามารถพูดได้ เพราะการศึกษา การ ฝึกฝน ฉะนั้นการฝึกพูดในที่ประชุมชน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งในการปรับปรุงบุคลิกภาพทั้งภายในและภายนอกเพื่อการเป็นนักพูดที่ดีวิธีการพูดในที่ชุมชน ๑. พูดแบบท่องจำ  เตรียมเรื่องพูดอย่างมีคุณค่า สาระถูกต้องเหมาะสม แล้วจำเรื่องพูดให้ได้ เวลาพูดให้เป็น ธรรมชาติ มีลีลา จังหวะ ถ่ายทอดออกมาทุกตัวอักษร        ๒. พูดแบบมีต้นฉบับ  พูดไปอ่านไป จากต้นร่างที่เตรียมมาอย่างดีแล้ว แต่ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาอ่าน เพราะไม่ใช่ ผลดีสำหรับผู้พูด        ๓. พูดจากความเข้าใจ  เตรียมเรื่องพูดไว้ล่วงหน้า ถ่ายทอดสารจากความรู้ความเข้าใจของตนเอง มีต้นฉบับ เฉพาะหัวข้อสำคัญเท่านั้น เช่น การพูด , สนทนา , อภิปราย , สัมภาษณ์        ๔. พูดแบบกะทันหัน  พูดโดยไม่มีโอกาสเตรียมตัวเลย ซึ่งผู้พูดต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบในการแก้ปัญหาฉพาะหน้า เมื่อทราบว่าตนเองต้องได้พูด ต้องเตรียมลำดับความคิด  และนำเสนออย่างฉับพลัน  การพูดทั้ง 4 แบบนี้ เป็นวิธีการนำเสนอสารต่อผู้ฟัง ผู้พูดจะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมาย เพื่ออะไร เนื้อหาสาระ โอกาส และสถานการณ์ ดูเพิ่ม ทักษะพื้นฐานในการพูด ความสำคัญของการพูด มารยาทการพูด การพูดสุนทรพจน์
thaiwikibooks
195,640
การพูด/การกล่าวคำอวยพร
การกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรส การกล่าวในงานพิธีมงคลสมรสจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที นิยมกล่าวปากเปล่า ซึ่งมีหลักการกล่าวที่ควรยึดเป็นแนวปฏิบัติดังนี้  ๑) กล่าวคำปฏิสันถาร  ๒) กล่าวถึงความรู้สึกว่าเป็นเกียรติที่ได้มาอวยพร  ๓) ความสัมพันธ์ของผู้พูดกับคู่บ่าวสาว  ๔) ให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิต และการครองรัก  ๕) อวยพรและชักชวนให้ดื่ม       การกล่าวอวยพรในวันขึ้นปีใหม่ เมื่อถึงวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี ชาวไทยทุกคนต่างก็ทำบุญตักบาตร จัดงานเลี้ยงกันอย่างเอิกเกริกในหมู่ผู้ร่วมงานเดียวกัน ในหมู่ญาติสนิทมิตรสหายการกล่าวคำอวยพรในวันขึ้นปีใหม่มักจะพูดปากเปล่า โดยมีแนวปฏิบัติในการกล่าวดังนี้  ๑) กล่าวคำปฏิสันถาร  ๒ กล่าวถึงชีวิตในปีเก่าที่ผ่านมา  ๓) กล่าวถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในปีใหม่  ๔) อวยพร  การกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิด การกล่าวอวยพรตามประเพณีนิยมนั้น มีการกล่าวอวยพรเมื่อเสร็จจากการรับประทานอาหาร และผู้รับเชิญก็จะถือเอาผู้ที่มีอาวุโสในที่ประชุมนั้น หรือบางทีก็เป็นบุตรหัวปี เป็นผู้กล่าวในการกล่าวพิธีเช่นดังกล่าวนี้ มีแนวปฏิบัติในการกล่าวดังนี้  ๑) กล่าวคำปฏิสันถาร  ๒) กล่าวรู้สึกเป็นเกียรติที่มีโอกาสกล่าวอวยพร  ๓) การสร้างคุณงามความดี หรือพูดถึงความสัมพันธ์ที่ผู้พูดมีต่อท่านผู้นั้น  ๔) การเป็นที่พึ่งของบุตรหลาน  ๕) อวยพรให้มีความสุข  ดูเพิ่ม ทักษะพื้นฐานในการพูด ความสำคัญของการพูด มารยาทการพูด การพูดสุนทรพจน์ การพูดในที่ชุมชน
thaiwikibooks
195,641
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐศาสตร์/รัฐ
ความหมาย ความหมาย.                         รัฐ คือ สมาคมของมนุษย์จำนวนหนึ่งครอบครองดินแดนแห่งหนึ่งที่มีอาณาเขตแน่นอน รวมกันอยู่ภายใต้รัฐบาลหนึ่ง ถ้าเป็นกิจการภายในเป็นองค์การแสดงออกซึ่งอธิปไตย แต่ถ้าเป็นกิจการภายนอกเป็นอิสระจากการบังคับบัญชาของรัฐบาลอื่น องค์ประกอบของรัฐ                         ประกอบด้วยลักษณะสำคัญ 4 ประการ                         1. มีประชาชนจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ จำนวน คุณภาพประชากร พลเมือง-คนต่างด้าว-ผู้อพยพ รัฐจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีอาณาเขตแน่นอน ขนาดของแผ่นดิน - พื้นน้ำ พื้นดิน พื้นอากาศ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ อำนาจอธิปไตย อำนาจอธิปไตย. แบ่งออกเป็น 2 ประการ คือ 1. อำนาจอธิปไตยภายใน เป็นอำนาจสูงสุดในการออกกฎหมาย รักษากฎหมาย และการใช้กฎหมายในเขตดินแดนของรัฐนั้น  2. อำนาจอธิปไตยภายนอก เป็นผู้ที่รัฐดำเนินความสัมพันธ์กับรัฐอื่น ๆ รวมถึงอำนาจที่จะประกาศสงครามหรือทำสัญญาสันติภาพได้อย่างอิสระโดยปราศจากการบังคับบัญชาของรัฐอื่น อำนาจอธิปไตยภายนอก คือ เอกราชของรัฐ ความหมายของ “รัฐ” กับ “ประเทศ”             รัฐ        เน้น      ด้านการปกครอง             ประเทศ  เน้น      ด้านภูมิศาสตร์ ความหมายของ “รัฐ” กับ “ชาติ”             รัฐ        เน้น     ด้านการเมือง             ชาติ       เน้น      ด้านวัฒนธรรม ความหมายของ “ชาติ” กับ “สัญชาติ”             ชาติ       เน้น      ด้านวัฒนธรรม             สัญชาติ เน้น      ด้านวัฒนธรรมและด้านการเมือง ความหมายของ “รัฐ” กับ “รัฐบาล”             รัฐ         เน้น      ด้านการเมืองมีความเด็ดขาด มีอำนาจสูงสุด ถาวร มีอิสรภาพ             รัฐบาล   เป็นองค์กรหนึ่งของรัฐ ดำเนินการแทนรัฐ เปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีอธิปไตย แต่ใช้อำนาจอธิปไตยแทนรัฐ “รัฐ” กับ “องค์การระหว่างประเทศ”                         รัฐ มีอำนาจอธิปไตย มีอำนาจเหนือองค์การในประเทศ                         องค์การระหว่างประเทศ แม้จะประกอบด้วยประเทศเอกราชเป็นสมาชิก แต่องค์การเหล่านี้ เช่น สหประชาชาติ นาโต้ อาเซียน หาได้มีอำนาจปกครอง บังคับบัญชารัฐสมาชิกไม่ รัฐสมาชิกยังคงความเป็นเอกราชและไม่ต้องอยู่ใต้บังคับบัญชา คำสั่ง/การควบคุมขององค์การระหว่างประเทศ  ความเป็นมาของรัฐ ความเป็นมาของรัฐ. มีทฤษฎีที่สำคัญ ๆ คือ             1. ทฤษฎีธรรมชาติ รัฐเกิดขึ้นจากธรรมชาติ และวิวัฒนาการของมนุษย์             2. ทฤษฎีเทวสิทธิ์ รัฐเกิดจากพระเจ้า             3. ทฤษฎีสัญญาประชาคม รัฐเกิดจากสัญญาประชาคม             4. ทฤษฎีพลกำลัง รัฐเกิดจากการใช้อำนาจยึดครอง             5. ทฤษฎีวิวัฒนาการ (Ecolutionary Theory) รัฐเกิดวิวัฒนาการหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเล็กที่สุด จนระดับใหญ่ที่สุด ได้แก่ วงศาคณาญาติ เผ่าพันธุ์ นครรัฐ จักรวรรดิ รัฐขุนนาง รัฐชาติ รัฐโลก  การรับรองรัฐ (Recognition) การรับรองรัฐ (Recognition). การรับรองรัฐ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ             1. การรับรองข้อเท็จจริงหรือโดยพฤตินัย (De Facto Recognition) เป็นการรับรองรัฐใดรัฐหนึ่งในฐานะที่รัฐนั้นเกิดขึ้นตามสภาพความเป็นจริง แต่ยังไม่อาจรับรองในรูปกฎหมาย คือการให้สัตยาบัน แม้ว่าจะมีรัฐเกิดขึ้นใหม่แต่รัฐอื่นที่สงสัยจึงไม่ยอมรับตามกฎหมาย แต่รับรองตามข้อเท็จจริงไปก่อน อาจจะยาว เช่น สหรัฐอเมริการับรองสหภาพโซเวียตรัสเซีย 1917-1933 (16 ปี)             2. การรับรองตามกฎหมายหรือรับรองโดยนิตินัย (De Jure Recognition) เป็นการรับรองตามกฎหมายหรือนิตินัย และมีผลถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการรับรองสภาพความถูกต้องของรัฐ มีลักษณะเป็นทางการ ถาวร มีความสัมพันธ์ทางการฑูตมีการให้สัตยาบันต่อกัน เช่น สหรัฐอเมริการับรองสหภาพโซเวียตรัสเซีย 1917-1933 (16 ปี) เป็นระบบ De Facto พอปี 1933 รับรองแบบ De Jure เป็นการรับรองอย่างเป็นทางการและถาวร  ปัญหาของรัฐ ปัญหาของรัฐ.             1. ปัญหาเชื้อชาติ             2. ปัญหาภาษา             3. ปัญหาศาสนา             4. ปัญหาขนบธรรมเนียมประเพณี             5. ปัญหาภูมิอากาศ             6. ปัญหาที่ตั้ง             7. ปัญหาทรัพยากร             8. ปัญหาประชากร             9. ปัญหาการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้                         รัฐต่าง ๆ ย่อมต้องประสบปัญหาไม่มากก็น้อย รัฐที่มีเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณีเดียวกัน ความสามัคคีก็มีมาก รัฐที่มีความแตกต่างกันมาก ความขัดแย้งภายในก็ย่อมมีมากรัฐใดที่อยู่ในเขตอบอุ่นที่ตั้งเหมาะสม มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ มีประชากรที่มีคุณภาพ สามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ก็มาก รัฐนั้นก็จะมีอำนาจแห่งชาติมาก ดูเพิ่ม รัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง อำนาจอธิปไตย รูปแบบการปกครอง
thaiwikibooks
195,642
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐศาสตร์
รัฐ อำนาจอธิปไตย รูปแบบการปกครอง
thaiwikibooks
195,643
รัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง
เปลี่ยนทาง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐศาสตร์
thaiwikibooks
195,644
รัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง/รัฐ
เปลี่ยนทาง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐศาสตร์/รัฐ
thaiwikibooks
195,645
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐศาสตร์/อำนาจอธิปไตย
ความหมาย ความหมาย.                         อำนาจอธิปไตยเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ(รัฐ) ทำให้รัฐมีอำนาจในการดำเนินกิจการภายในรัฐ และกิจการระหว่างประเทศได้อย่างเต็มที่ ทำให้รัฐมีอำนาจบังคับและทำให้รัฐสามารถใช้กำลังเพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับที่รัฐกำหนดขึ้น อำนาจอธิปไตย จึงแสดงออก (Manifesto) มาทางรัฐบาล โดยทั่วไปแล้วรัฐบาลได้แยกอำนาจอธิปไตยตามลักษณะหน้าที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ                         1. อำนาจนิติบัญญัติ คือ อำนาจในการออกกฎหมาย รัฐสภา (ส.ส.และ ส.ว.) ทำหน้าที่แทนปวงชนในการออกกฎหมาย เพื่อรักษาความสงบภายในและนำมาซึ่งความกินดีอยู่ดีและความมั่นคงของรัฐ                         2. อำนาจบริหาร คือ อำนาจซึ่งคณะรัฐมนตรี และข้าราชการทั้งหลายใช้ในการบริหารปกครองประเทศตามกฎหมายซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติได้ตราออกมา                         3. อำนาจตุลาการ คือ อำนาจศาล มีอำนาจตัดสินคดี ข้อขัดแย้งต่าง ๆ ระหว่างบุคคลกับบุคคลหรือบุคคลกับรัฐตามกฎหมายที่ฝ่ายนิติบัญญัติตราออกมา ข้อจำกัดการใช้อำนาจอธิปไตย ข้อจำกัดการใช้อำนาจอธิปไตย.                         ในทางทฤษฎีอำนาจอธิปไตยเป็นอำนาจสูงสุดเด็ดขาดและไม่มีข้อจำกัดการใช้ก็จริง แต่ในทางปฏิบัติมีข้อจำกัด                         1. จำกัดโดยขนบประเพณีและศีลธรรม                         2. จำกัดโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ                         3. จำกัดโดยสนธิสัญญาหรือกฎหมายระหว่างประเทศ                         การควบคุมรัฐ ไม่มีรัฐใดในโลกที่มีเอกราชสมบูรณ์ จะถูกควบคุมไม่มากก็น้อย โดยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังต่อไปนี้                         1. Capitulation สิทธิสภาพนอกอาณาเขต                         2. Colonies อาณานิคม                         3. Satellite ประเทศบริวาร                         4. Deterrence นโยบายป้องปราบ                         5. Good Will/ Popularity การแสวงหาคะแนนนิยม วิวัฒนาการของความคิดเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตย วิวัฒนาการของความคิดเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตย.                         - Aristotle ว่าในรัฐรัฐหนึ่งต้องมีอำนาจสูงสุด                         - นักกฎหมายโรมัน นักรัฐศาสตร์สมัยกลางว่าในรัฐรัฐหนึ่งจะต้องมีอำนาจสูงสุด                         - นักปราชญ์ในยุคแรก ๆ มีความเห็นว่า อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชน แต่ไม่กล้าแสดงออกเพราะกลัวกษัตริย์กับพระ                         - ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ในยุคแรก เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก และเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย                         - พระเจ้ามอบให้สันตะปาปาเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย                         - ต่อมามีอำนาจสามารถดึงอำนาจจากสันตะปาปา จึงเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย                         - “อำนาจอธิปไตย” ใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1516 โดยนักรัฐศาสตร์ชื่อ Bodin ชาวฝรั่งเศส เป็นผุ้พยายามเพิ่มอำนาจให้กษัตริย์ และลดอำนาจของ Pope                         - ศ.16-17 Thomas Hobbes ชาวอังกฤษ เป็นผู้สนับสนุนพระเจ้าชาร์ลที่ 1 Hobbes อ้างว่า การใช้อำนาจอธิปไตยนี้ไม่ต้องอยู่ใต้กฎเกณฑ์ ข้อบังคับใด ๆ และกษัตริย์เป็นผู้ใช้เจตนารมณ์ของพระองค์ในการปกครองประเทศนั้น เท่ากับเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้ผู้ใด                         - Locke ว่าไม่ควรอยู่กับกษัตริย์ แต่ควรอยู่กับผู้แทนของปวงชน                         - Rousseau ว่าอำนาจอธิปไตยอยู่ที่เจตนารมณ์ของปวงชน อำนาจอธิปไตยในปัจจุบัน อำนาจอธิปไตยในปัจจุบัน.                         - ในประเทศที่มีการปกครองแบบประชาธิปไตย ถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน                         - ในประเทศที่มีการปกครองแบบเผด็จการ ถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของผู้เผด็จการ ผู้เผด็จการจะใช้อำนาจอธิปไตยนี้ไปในทางใด ๆ ก็ได้ ลักษณะสำคัญของอำนาจอธิปไตย ลักษณะสำคัญของอำนาจอธิปไตย.             1. มีความสมบูรณ์ (Absoluteness) คือ จะไม่มีอำนาจอื่นภายในรัฐเหนือกว่าและจะไม่มีอำนาจอื่นที่มาจำกัดอำนาจการออกกฎหมายของรัฐ             2. มีลักษณะเป็นการทั่วไป (Universality) อำนาจอธิปไตยของรัฐที่มีอยู่เหนือคนทุกคน และทุกองค์การที่อยู่ภายในรัฐ ใช้ได้เป็นการทั่วไป ยกเว้นผู้แทนทางการฑูต             3. มีความถาวร (Permanence) อำนาจอธิปไตยของรัฐยังคงมีอยู่ตราบเท่าที่รัฐยังมีชีวิตอยู่ ผู้ใช้อำนาจอธิปไตยอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา เมื่อรัฐถูกทำลายเท่านั้น อธิปไตยจึงจะสูญสลายไปจากรัฐ             4. แบ่งแยกมิได้ (Indivisibility) ในรัฐหนึ่ง ๆ จะต้องมีอธิปไตยเพียงหน่วยเดียวเท่านั้น ถ้ามีการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตยก็เท่ากับเป็นการทำลายอำนาจอธิปไตย ประเภทของอำนาจอธิปไตย ประเภทของอำนาจอธิปไตย.                         นักวิชาการแบ่งประเภทของอำนาจอธิปไตยเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้                         1. อำนาจอธิปไตยทางกฎหมาย (Legal Sovereignty) คือ อำนาจสูงสุดในการออกกฎหมายและอำนาจที่จะแสดงออกในรูปของกฎหมาย ซึ่งเป็นบทบัญญัติสูงสุดของรัฐ                         2. อำนาจอธิปไตยทางการเมือง (Political Sovereignty) คือ ความเห็นหรือเจตนารมย์ของประชาชนที่จะแสดงออกในฐานะผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง ส.ส. , ส.ว. การออกกฎหมาย                         3. อำนาจอธิปไตยโดยนิตินัย (De Jure Sovereignty) คือ อำนาจอธิปไตยตามกฎหมาย อำนาจอธิปไตยจะตกอยู่กับรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย คือ รัฐบาลที่เกิดตามวิถีทางการเมือง หรือการได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน                         4. อำนาจอธิปไตยโดยพฤตินัย (De Facto Sovereignty) คือ อำนาจอธิปไตยที่ตกอยู่กับรัฐบาลที่ทำการปฏิวัติรัฐประหารซึ่งผิดกฎหมายที่มีอยู่ แต่เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดอันเกิดจากการปฏิวัติรัฐประหาร                         5. อำนาจอธิปไตยภายใน (Internal Sovereignty) คือ อำนาจอธิปไตยซึ่งรัฐบาลสามารถใช้ในการปกครองประเทศได้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากการควบคุมจากผู้อื่น                         6. อำนาจอธิปไตยภายนอก (External Sovereignty) คือ ความเป็นเอกราชของรัฐ ในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากการควบคุมจากผู้อื่น                         7. อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน (Popular Sovereignty) ประชาชนสามารถแสดงออกโดยการเลือกตั้ง การแสดงมติมหาชน การตัดสินปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง เจ้าของอำนาจอธิปไตย เจ้าของอำนาจอธิปไตย.                         1. กษัตริย์เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ศ.16 นักปราชญ์เชื่อว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของกษัตริย์ เพราะกษัตริย์ เพราะกษัตริย์เป็นผู้สถาปนาเอกราชให้รัฐ ทรงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐ                         2. ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ศ.16-17 นักปราชญ์สนับสนุนให้มีการยอมรับอำนาจอธิปไตยของปวงชน                         - Popular Sovereignty อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ซึ่งเป็นรากฐานการปกครองแบบประชาธิปไตย                         3. อำนาจที่บัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย กล่าวคือรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีอำนาจเขียนรัฐธรรมนูญจึงมีลักษณะผู้มีอำนาจสูงสุด                         4. องค์การนิติบัญญัติเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ทฤษฎีนี้เชื่อว่าองค์การนิติบัญญัติมีหน้าที่ออกกฎหมายมาใช้ในการปกครองรัฐ ได้รับส่วนแบ่งในการใช้อำนาจอธิปไตยมากกว่าองค์การอื่น คือฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ เพราะฉะนั้น ทฤษฎีนี้จึงเชื่อว่าองค์การนิติบัญญัติเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของปวงชน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของปวงชน.                         ปวงชนสามารถแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยได้ดังต่อไปนี้                         1. การออกเสียงเลือกตั้ง (Election) เป็นการแสดงออกเลือกรัฐบาล การเลือกตั้งจะต้องยุติธรรม โดยยึดหลัก One Man, Ona Vote                         2. การออกเสียงประชามติ (Referendum) เป็นการใช้ประชาชนแสดงออกซึ่งเจตนารมณ์ของปวงชนในการตัดสินปัญหาที่สำคัญ ๆ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การรวมรัฐ เป็นต้น                         3. ประชาพินิจ (Plebiscite) วิธีการให้ประชาชนตัดสินปัญหาต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไม่สามารถตัดสินปัญหาได้มักจะเป็นเรื่องของเทศบาล สุขาภิบาล หรือเรื่องของท้องถิ่น                         4. ปวงชนมีสิทธิเสนอร่างกฎหมาย (Initiative) ปกติการออกกฎหมายเป็นหน้าที่ของรับสภา แต่บางประเทศ เช่น ไทย สวิส สหรัฐอเมริกา ประชาชนมีสิทธิเสนอร่างกฎหมายได้                         5. การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ (Recall) เป็นวิธีการให้ประชาชนเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ได้โดยเฉพาะตำแหน่งที่ได้มาโดยการเลือกตั้ง                         6. การแสดงประชามติ (Public Opinion) เป็นมติมหาชนที่แสดงออกโดยไม่ใช่เป็นการออกเสียง เป็นปฏิกิริยาที่แสดงความพอใจหรือไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อการกระทำบางอย่างของรัฐบาล                         7. การประชาพิจารณ์ (Public Hearing) รัฐจะทำโครงการใหญ่ที่มีผลกระทบถึงสาธารณะต้องให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้แสดงความเห็นและประชาพิจารณ์                         8. การระงับยับยั้งการออกกฎหมายหรือโครงการของรัฐ (Veto) ดูเพิ่ม รัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง รัฐ รูปแบบการปกครอง
thaiwikibooks
195,646
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐศาสตร์/รูปแบบการปกครอง
1. การปกครองแบบคนเดียว เป็นการปกครองที่คน ๆ เดียวมีอำนาจสูงสุด เช่น กษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช             2. การปกครองแบบคนกลุ่มน้อย เป็นการปกครองที่ประกอบด้วยคนกลุ่มเดียวที่ได้อำนาจมาด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร และทำหน้าที่เป็นรัฐบาล ผูกขาดอำนาจแต่เพียงคนกลุ่มเดียว เช่น การปกครองแบบคณาธิปไตย อภิชนาธิปไตย คอมมิวนิสต์             3. การปกครองแบบกลุ่มคนจำนวนมาก เป็นการปกครองที่คนกลุ่มใหญ่มีส่วนร่วมในทางการเมือง เช่น การปกครองในระบบประชาธิปไตย การปกครองในระบอบเผด็จการ การปกครองในระบอบเผด็จการ.                         การปกครองแบบเผด็จการอำนาจนิยม คือ การปกครองแบบเผด็จการที่ยึดหลักว่าอำนาจทั้งหลายทั้งปวงในรัฐจะต้องรวมอยู่ในมือของคนกลุ่มน้อยหรือคนกลุ่มเดียวซึ่งมีการรวมอำนาจ เช่น การรวมอำนาจด้วยวิธีการปฏิวัติรัฐประหาร ผู้ที่ยึดอำนาจรัฐได้จะเป็นรัฐบาลโดยที่รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ใดโดยเฉพาะไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน เพราะเป็นฐานอำนาจมิได้มาจากประชาชน การปกครองแบบเผด็จการอำนาจนิยม ได้แก่ การปกครองแบบเผด็จการอำนาจนิยม ได้แก่. อัตตาธิปไตย (Authocracy) หรือการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช กษัตริย์ทรงไว้ซึ่งอำนาจในการปกครองโดยไม่มีขอบเขตจำกัด เช่น จักรพรรดิซีซาร์ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นต้น คณาธิปไตย (Oligarchy) เป็นการปกครองแบบเผด็จการที่ประกอบด้วยคนกลุ่มเดียว (ไม่ใช่ระบบเผด็จการโดยคน ๆ เดียว) คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองประเทศอย่างแท้จริง อำนาจการปกครองประเทศอย่างแท้จริง อำนาจการปกครองถูกผูกขาดโดยคนกลุ่มเดียว เช่น คณะปฏิวัติ                         อภิชนาธิปไตย (Aristocracy) เป็นการปกครองโดยชนกลุ่มน้อย ซึ่งตามปกติมักจะเป็นผู้มีตำแหน่งสูงในทางราชการ เช่น พวกขุนนาง หรือมิฉะนั้นก็เป็นผู้มีอำนาจในทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในอดีตบางประเทศ กลุ่มขุนนาง หรือกลุ่มอภิสิทธิ์ชน มีอำนาจเหล่านี้ จะเข้าปกครองประเทศซึ่งผลที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดรูปรัฐบาลเผด็จการ                         การปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ            เป็นระบบเผด็จการที่มีการรวมอำนาจ เช่น การปฏิวัติรัฐประหาร ผู้ยึดอำนาจได้จะเป็นรัฐบาล และไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน โดยถือว่ากิจการทุกอย่างของประชาชน รวมทั้งวิถีดำรงชีวิตทั้งปวงของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง จะต้องตกอยู่ในอำนาจของรัฐบาลแต่ผู้เดียว การปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ ได้แก่ การปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ ได้แก่. ฟาสซิส (Fascism) เป็นการปกครองแบบเผด็จการที่ประชาชนถูกจำกัดสิทธิและถูกบังคับ โดยมีความเชื่อว่า คนเกิดมาเพื่อรัฐ และจะต้องรับใช้รัฐตลอดไป รัฐที่เข้มแข็งกว่าย่อมได้สิทธิในการปกครองผู้ที่อ่อนแอกว่าต้องสละสิทธิดังกล่าว การปกครองโดยคนกลุ่มน้อย หรือคน ๆ เดียวเป็นการปกครองที่ดีที่สุด เพราะมีประสิทธิภาพช่วยช่วยให้ประเทศชาติเจริญอย่างรวดเร็ว และถือว่ารัฐเป็นเสมือนสิ่งที่มีชีวิต ย่อมต้องเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา เหมือนรัฐจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งมีการขยายดินแดน เพราะฉะนั้น สงครามจึงเป็นสิ่งที่ชอบธรรม เช่น รัฐบาลภายใต้พรรคฟาสซิสของมุสโสลินี                         ปัจจุบันผู้ที่นิยม ทหารนิยม ชาตินิยม เชื้อชาตินิยม หรือจักรวรรดินิยม ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นพวกฟาสซิส                         ฉะนั้นพวกนาซีและฟาสซิสจึงมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายดินแดน ขยายการควบคุมเข้าไปในส่วนต่าง ๆ ในโลก เพราะถือว่าเป็นสัญญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ของชาติตน โดยถือว่าการครอบครองชาติอื่นเป็นคุณธรรม เพราะยิ่งครอบครองชาติอื่นได้มากขึ้นเท่าใด ชาติของตนก็จะมีฐานะเด่นมากขึ้นเท่านั้น                         คอมมิวนิสต์ (Communism) เป็นลัทธิการเมืองและเศรษฐกิจ คิดขึ้นโดย คาร์ลมาร์กซ์ และเองเกลส์ ซึ่งต้องการให้มีรัฐบาลกลางภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์มีอำนาจ เพื่อควบคุมการเมืองและเศรษฐกิจของชาติ โดยขจัดพวกที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือการผลิต ต้องการให้มีการปฏิวัติและทำลายล้างระบบการเมืองอื่น ๆ ผู้ปกครองประเทศจะต้องเป็นคอมมิวนิสต์พวกเดียวเท่านั้น ประชาชนอื่นไม่มีสิทธิ พวกคอมมิวนิสต์ถือว่าตนมีอำนาจปกครองเพราะอ้างว่าเป็นตัวแทนของชนชั้นกรรมาชีพ เปรียบเทียบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การปกครองแบบรัฐสภา การปกครองแบบรัฐสภา.                         1. ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย                         2. ประชาชนเป็นผู้เลือกสมาชิกรัฐสภา                         3. สภาสามัญเลือกคณะรัฐบาล                         4. คณะรัฐบาลมาจากพรรคที่มีเสียงข้างมากในสภาสามัญ                         5. นายกรับมนตรีและรัฐมนตรีส่วนมากต้องมาจากสภาสามัญ 6. คณะรัฐบาลอยู่ในตำแหน่งได้นานตราบเท่าที่สภาสามัญไว้วางใจ                         7. พรรคที่มีเสียงข้างมากในสภาสามัญทำหน้าที่เป็นรัฐบาล ส่วนพรรคที่มีเสียงข้างน้อยทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน                         8. ทุกครั้งที่มีการประชุมสภาสามัญ คณะรัฐมนตรีต้องไปร่วมประชุมด้วยและมีหน้าที่ตอบกระทู้ถามของสมาชิกสภา                         9. ผู้มีสิทธิเสนอร่างกฎหมาย คือ สมาชิกสภาสามัญและสมาชิกสภาขุนนางกับคณะรัฐมนตรี                         10. คณะรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภาสามัญได้ เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ การปกครองแบบประธานาธิบดี การปกครองแบบประธานาธิบดี.                         1. อำนาจสูงสุดหรืออำนาจการปกครองเป็นของประชาชน                         2. ประชาชนเป็นผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรง และเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสโดยตรง                         3. ประธานาธิบดีและสภาคองเกรสมีระยะเวลาอยู่ในตำแหน่งแน่นอนและมั่นคง ต่างเป็นอิสระต่างหากจากกัน ไม่ขึ้นต่อกันและกัน และถอดถอนกันไม่ได้                         4. ประธานาธิบดีเป็นผู้ใช้อำนาจบริหารและเป็นประมุขของรัฐ                         5. เมื่อประธานาธิบดีถึงแก่อสัญกรรมหรือลาออกหรือไร้สมรรถภาพ รองประธานาธิบดีเข้าดำรงตำแหน่งแทน                         6. สมาชิกสภาจะเป็นรัฐมนตรีไม่ได้                         7. ประธานาธิบดีจะเข้าร่วมประชุมสภาในสภาหนึ่งหรือประชุมร่วมกันมิได้ สมาชิกจะตั้งกระทู้ถามประธานาธิบดีหรือรัฐมนตรีไม่ได้                         8. ประธานาธิบดีไม่มีสิทธิเสนอร่างกฎหมาย                         9. ร่างกฎหมายจะต้องผ่านการพิจารณาของทั้ง 2 สภา                         10. ร่างกฎหมายอาจเป็นโมฆะได้ ถ้าขัดกับรัฐธรรมนูญ                         11. ประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรีอาจสังกัดพรรคหนึ่งและเสียงข้างมาก ในสภาคองเกรสอาจเป็นของอีกพรรคหนึ่งก็ได้ การปกครองกึ่งผสมแบบรัฐสภากับแบบประธานาธิบดี การปกครองกึ่งผสมแบบรัฐสภากับแบบประธานาธิบดี.                         1. ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย                         2. ประชาชนเป็นผู้เลือกประธานาธิบดีโดยตรง และเลือกสมาชิกสภาได้โดยตรง 3. ประธานาธิบดีมีอำนาจแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และเสนอให้สภาให้ความไว้วางใจ                         4. ส.ส. เป็นรัฐมนตรีไม่ได้                         5. คณะรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งได้นานตราบเท่าที่สภาให้ความไว้วางใจ                         6. พรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในสภาทำหน้าที่สนับสนุนรัฐบาล ส่วนพรรคเสียงข้างน้อยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน                         7. ทุกครั้งมีสภามีการประชุม คณะรัฐมนตรีต้องไปร่วมประชุมเพื่อตอบกระทู้ถาม                         8. คณะรัฐมนตรีกับสมาชิกสภามีสิทธิเสนอร่างกฎหมาย                         9. ประธานาธิบดีมีอำนาจพิเศษหรืออำนาจฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีมีอำนาจ ใช้อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจตุลาการ ได้เมื่อมีเหตุการณ์อันกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ เปรียบเทียบการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์กับประชาธิปไตย เปรียบเทียบการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์กับประชาธิปไตย.                         ป. อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน                         ค. อำนาจอธิปไตยเป็นของชนชั้นกรรมาชีพ                         ป. ประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจสูงสุดในการเลือกรัฐบาล                         ค. รัฐบาลเลือกมาจากพรรคคอมมิวนิสต์                         ป. รัฐบาลโดยเสียงข้างมาก                         ค. รัฐบาลโดยพรรค                         ป. ประชาชนมีสิทธิขั้นมูลฐาน                         ค. ประชาชนต้องปฏิบัติตามแนวของรัฐบาล                         ป. คือหลักการแบ่งแยกอำนาจ                         ค. คือหลักประชาธิปไตยรวมศูนย์                         ป. มีการแข่งขันกันระหว่างกลุ่มผลประโยชน์                         ค. แข่งขันกันภายในพรรค                         ป. ยึดหลักกฎหมาย                         ค. ถือนโยบายของพรรคเป็นสำคัญ ดูเพิ่ม รัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง อำนาจอธิปไตย รัฐ
thaiwikibooks
195,647
โครงสร้างทางสังคมและลักษณะของสังคมไทย
สังคมไทยเป็นสังคมที่มีโครงสร้างทางสังคมเช่นเดียวกับโครงสร้างทางสังคมทั่วไปในเรื่องของกลุ่มสังคมและสถาบันสังคม การที่สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ทั้งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบไม่มีแบบแผนและมีแบบแผนก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสียขึ้นในสังคมไทย ในแง่ของผลเสีย พบว่า กระบวนการของความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหาในสังคมไทยมากมาย จำเป็นอย่างยิ่งที่สมาชิกทุกคนในสังคมไทยต้องให้ความร่วมมือ ในการร่วมแก้ไขปัญหา  สาระการเรียนรู้  1.โครงสร้างทางสังคม  - โครงสร้างของสังคมไทย   - ลักษณะโครงสร้างทางสังคม  - องค์ประกอบโครงสร้างทางสังคม  - สถาบันสังคมที่สำคัญ    2. การจัดระเบียบทางสังคม  - ความหมายของการจัดระเบียบสังคม  - วิธีการจัดระเบียบทางสังคม  - องค์ประกอบของการจัดระเบียบ  - การควบคุมทางสังคม
thaiwikibooks
195,648
โครงสร้างทางสังคมและลักษณะของสังคมไทย/โครงสร้างทางสังคม
สังคมมนุษย์แม้ว่าจะมีขนาดของสังคมหรือลักษณะเฉพาะของสังคมแตกต่างกัน แต่เมื่อกล่าวถึงโครงสร้างทางสังคมโดยทั่วไปหรือโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมเบื้องต้นแล้ว ทุกสังคมต่างมีองค์ประกอบสำคัญอยู่บนพื้นฐานสองประการที่สำคัญคือกลุ่มสังคมและสถาบันทางสังคม การศึกษาในเรื่องโครงสร้างทางสังคมจะช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับสังคมในแง่มุมต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง โครงสร้างทางสังคมมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ความหมายโครงสร้างทางสังคม ความหมายโครงสร้างทางสังคม. โครงสร้างทางสังคม หมายถึง ส่วนต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นระบบความสัมพันธ์ของสังคมมนุษย์ ส่วนประกอบดังกล่าวจะต้องเป็นเค้าโครงที่ปรากฏในสังคมมนุษย์ทุก ๆ สังคม แม้ว่าจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไปในแต่ละสังคมก็ตาม โครงสร้างของสังคมไทย โครงสร้างของสังคมไทย.  แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1. สังคมชนบท (กลุ่มปฐมภูมิ) 2. สังคมเมือง (กลุ่มทุติยภูมิ) โดยที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศอาศัยอยู่ในชนบท ซึ่งเป็นสังคมแบบประเพณีนำ และเป็นสังคมเกษตรกรรม ดังนั้นถ้าหากรู้จักสังคมและวัฒนธรรมไทยจะต้องพิจารณาจากโครงสร้างสังคมชนบทเป็นหลัก และ จะต้องพิจารณาถึงอิทธิพลของสังคมและวัฒนธรรม เมืองที่มีต่อสังคมและวัฒนธรรมชนบทประกอบไปพร้อมๆกัน สังคมชนบท จัดว่าเป็นโครงสร้างที่สำคัญที่สุดของสังคมไทย เพราะเท่ากับเป็นโครงสร้างของสังคมไทยทั้งหมด สังคมชนบท ได้แก่ การร่วมกลุ่มแบบอรูปนัยของกลุ่มปฐมภูมิ มีการติดต่อกันแบบตัวถึงตัว สภาพแวดล้อมของท้องถิ่นและวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิมซึ่งคล้ายคลึงกัน ทำให้สถานภาพและบทบาทของคนในสังคมชนบทไม่แตกต่างกันมาก มีการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น สมาชิกของสังคมทำหน้าที่สอดคล้องต่อเนื่องกันอย่างราบรื่น และมีค่านิยมในเรื่องคุณความดีทางศาสนาเป็นตัวควบคุมความประพฤติทางสังคมของชนบทหรือที่เราเรียกกันว่าจารีตนั่นเอง สังคมเมือง ข้อแตกต่างที่เด่นชัดระหว่างสังคมชนบทกับสังคมเมือง ได้แก่ จำนวนกลุ่มขององค์การที่มีมากในสังคมเมืองหลวง หลักเกณฑ์การพิจารณาสถานภาพทางสังคมของบุคคลในเมืองหลวง ขึ้นกับฐานะทางเศรษฐกิจ อำนาจและความเกี่ยวข้องทางการเมือง และระดับการศึกษาซึ่งผิดจากเกณฑ์ของสังคมชนบท นอกจากนั้นแล้วโครงสร้างชนชั้นทางสังคมในเมืองหลวง คือประกอบด้วยกลุ่มคนที่เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลเก่าและขุนนาง ค่านิยมของคนเมืองหลวงนั้นจะเน้นหนักเรื่องอำนาจและความมั่งคั่งมากกว่าชาวชนบท มีความต้องการยกระดับตัวเอง จากชั้นสังคมเดิมไปสู่ ชั้นที่สูงกว่า โดยอาศัยปัจจัยหลายประการ เช่น ฐานะทางการเงิน การศึกษา อำนาจทางการเมือง และสิทธิต่างๆ ลักษณะมูลฐานของสังคมซึ่งทำให้สังคมดำรงอยู่ได้ หมายถึง องค์ประกอบหลัก (เสาหลัก) ของสังคมที่เป็นตัวค้ำยันสังคมไว้ให้พยายามสัมพันธ์ของคนในสังคมดำเนินไปได้ ประกอบไปด้วย - ค่านิยม (Social Value) - บรรทัดฐานทางสังคม (Social Norm)  - สถานภาพ (Status) - บทบาท (Role) - สถาบันทางสังคม (Social Organization) - การควบคุมทางสังคม (Social Control) ลักษณะโครงสร้างทางสังคม ลักษณะโครงสร้างทางสังคม. โดยทั่วไปโครงสร้างทางสังคมโดยทั่วไป มีลักษณะที่สำคัญ ดังนี้ 1. มีการรวมกลุ่มของคนในสังคม ซึ่งแต่ละกลุ่มที่รวมกันต่างมีหน้าที่รับผิดชอบและประสิทธิภาพในการ ทำงานตามที่กลุ่มได้กำหนดเป้าหมายไว้ 2. มีแนวทางในการปฏิบัติอย่างเหมาะสมหรือมีกฎเกณฑ์ระเบียบแบบแผนเป็นแนวทางให้ยึดถือร่วมกัน โดยยึดหลักประโยชน์สูงสุดของสังคม 3. มีจุดหมายในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดีและมีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้กับสังคมนั้น 4. มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้ กล่าวคือ โครงสร้างของสังคมจะมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ของการเพิ่มขึ้นหรือลดลง ในหลายรูปแบบเช่นจำนวนคนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการเคลื่อนย้ายประชากรในสังคม หรือ รูปแบบของความสัมพันธ์ของบุคคลภายในสังคมอาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานภาพที่ปรับเปลี่ยนไปหรือแม้แต่สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ภายในสังคม เป็นต้น องค์ประกอบโครงสร้างทางสังคม องค์ประกอบโครงสร้างทางสังคม. มีองค์ประกอบ 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มสังคม (Social Groups) และสถาบันสังคม (Social Institutions) 1. กลุ่มสังคม กลุ่มสังคม หมายถึง กลุ่มคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมีความรู้สึกเป็นสมาชิกร่วมกัน มีการกระทำระหว่างกันทางสังคม เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกในกลุ่มสังคมนั้น ตามบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ลักษณะที่สำคัญของกลุ่มสังคม 1. มีการกระทำระหว่างกันทางสังคมหรือมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน (Social interaction) (=มีการปฏิบัติต่อกัน) 2. สมาชิกในกลุ่มต่างมีตำแหน่งและบทบาทหน้าที่แตกต่างกันและประสานบทบาทระหว่างกันมีแบบแผนพฤติกรรมตามบรรทัดฐานของกลุ่ม หรือที่เรียกว่า วัฒนธรรมย่อย (=มีวัฒนธรรมของกลุ่ม) 3. มีความรู้สึกเป็นสมาชิกร่วมกัน ทำให้มีความผูกพันในฐานะที่เป็นสมาชิกของกลุ่มสังคมเดียวกัน (=สนิทสนมรักใคร่กันตามระดับกลุ่ม) 4. มีวัตถุประสงค์ร่วมกันที่สำคัญ คือ เพื่อสนองความต้องการของสมาชิกแต่ละคน และความต้องการของสมาชิกของกลุ่มเป็นส่วนรวม (=มีภารกิจถาวรหรือเฉพาะกิจ) 2. สถาบันสังคม สถาบันสังคม หมายถึง รูปแบบพฤติกรรมของสมาชิกในสังคมเพื่อสนองความต้องการร่วมกันในด้านต่าง ๆ และเพื่อการคงอยู่ของสังคมโดยรวม แบบแผนพฤติกรรมต่าง ๆ เป็นไปตามบรรทัดฐานทางสังคมที่มีความชัดเจนแน่นอน และเป็นไปตามวัฒนธรรมของสังคม ลักษณะสำคัญของสถาบัน 1) สถาบันสังคมเป็นนามธรรม สถาบันสังคมไม่ใช่ตัวบุคคลหรือกลุ่มคน ไม่ใช่สิ่งของ แต่เป็นแบบแผนพฤติกรรมซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อเป็นแบบแผนในการปฏิบัติร่วมกันของสมาชิกทุกคน 2) สถาบันสังคมเกิดจากการเชื่อมโยงบรรทัดฐานต่าง ๆ ทางสังคม ซึ่งได้แก่ วิถีชาวบ้าน จารีต และกฎหมาย โดยเป็นส่วนของวัฒนธรรมในสังคม 3) สถาบันสังคมเกิดขึ้นเพื่อสนองความต้องการในด้านต่าง ๆ ร่วมกันของสมาชิกในสังคม และเพื่อการคงอยู่ของสังคม 4) สถาบันสังคมเกิดจากการยอมรับร่วมกันของสมาชิกในสังคม สถาบันสังคมจึงเป็นระเบียบแบแผน พฤติกรรมที่ชัดเจนและเปลี่ยนแปลงได้ยากเนื่องจากเกิดขึ้นโดยการยอมรับร่วมกันของสมาชิกในสังคม องค์ประกอบของสถาบันของสังคม 1) กลุ่มสังคม สถาบันสังคมประกอบไปด้วยกลุ่มสังคมต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่สนับสนุนให้การกระทำระหว่างสมาชิกบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน โดยประกอบด้วยสถานภาพหรือตำแหน่งทางสังคม และบทบาทหน้าที่ เพื่อให้แบบแผนพฤติกรรมดำเนินไปสู่วัตถุประสงค์ของกลุ่มสังคมนั้น 2) หน้าที่ของสถาบันทางสังคม หมายถึง วัตถุประสงค์ในการสนองความต้องการของสังคมในด้านต่างๆ ของสถาบันสังคมแต่ละสถาบัน 3) แบบแผนพฤติกรรมในการประพฤติปฏิบัติตนของสมาชิก เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสถาบันนั้น ได้แก่ บรรทัดฐานทางสังคม ซึ่งประกอบไปด้วยวิถีชีวิต ทำให้กิจกรรมในการดำเนินชีวิตของสมาชิกในสังคมสามารถสนองวัตถุประสงค์ของสถาบันสังคมนั้น 4) สัญลักษณ์ และค่านิยม ทำให้สมาชิกเกิดอุดมการณ์และศรัทธาต่อสถาบันสังคม เช่น ธงชาติ เป็นสัญลักษณ์ของสถาบันการเมืองการปกครอง เสรีภาพและความเสมอภาค เป็นค่านิยมของสถาบันการเมืองการปกครองในสังคมประชาธิปไตย เป็นต้น สถาบันสังคมที่สำคัญ สถาบันสังคม แยกได้ 5 สถาบัน ดังนี้ สถาบันสังคมที่สำคัญ สถาบันสังคม แยกได้ 5 สถาบัน ดังนี้. สถาบันสังคม หมายถึง สถาบันสังคมซึ่งเกี่ยวข้องกับแบบแผนการสมรส การอบรมเลี้ยงดูบุตร และแบบแผนความสัมพันธ์ระหว่างเพศ ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าถูกต้องตามสังคม 1. สถาบันครอบครัว มีองค์ประกอบ ดังนี้ กลุ่มสังคมในสถาบันครอบครัว ได้แก่ ครอบครัวซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน เช่น บิดา มารดา บุตร วงศาคณาญาติที่เกี่ยวข้องโดยสายโลหิต หรือการสมรส หรือมีบุตรบุญธรรม หน้าที่ของสถาบันครอบครัว 1. หน้าที่ผลิตสมาชิกใหม่ให้แก่สังคม เพื่อทดแทนสมาชิกของสังคมที่สิ้นชีวิตลง 2. หน้าที่เลี้ยงดูสมาชิกใหม่ให้มีชีวิตรอด เนื่องจากทารกแรกเกิดและเด็กไม่สามารถดูแลตนเองได้ 3. หน้าที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของสังคมไปสู่สมาชิกใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการขัดเกลาทางสังคมเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม 4. หน้าที่อื่น ๆ ได้แก่ การสนองความต้องการทางจิตใจ ทำหน้าที่ให้ความรักความอบอุ่นสมาชิก แบบแผนพฤติกรรมในการประพฤติปฏิบัติตนของสมาชิก สถาบันครอบครัวประกอบไปด้วยแบบแผนพฤติกรรมซึ่งเป็นบรรทัดฐานทางสังคม เช่น ประเพณีการหมั้น สมรส เป็นต้น สถาบันครอบครัวในสังคมแต่ละแห่งย่อมมีแบบแผนพฤติกรรมแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมของสังคม เช่นมีประเพณีการสมรสแตกต่างกันไป เป็นต้น สัญลักษณ์และค่านิยม สัญลักษณ์ของสถาบันครอบครัวที่สำคัญ คือ แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน เป็นต้น สถาบันครอบครัวในแต่ละสังคมย่อมมีค่านิยมต่างกันตามวัฒนธรรมของสังคม เช่น สังคมสมัยใหม่ สามีและภรรยามีค่านิยมในการหาเลี้ยงครอบครัวเท่าเทียมกัน การร่วมรับผิดชอบกิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัวอย่างเท่าเทียมกัน 2. สถาบันการศึกษา หมายถึง สถาบันสังคมซึ่งเกี่ยวข้องกับแบบแผนการขัดเกลาและการถ่ายทอดวัฒนธรรม การให้ความรู้ และการฝึกทักษะอาชีพ เพื่อความเป็นสมาชิกที่เหมาะสมของสังคม กลุ่มสังคมในสถาบันการศึกษา ได้แก่ โรงเรียน มหาวิทยาลัย กระทรวง ทบวง กรม ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา กลุ่มสังคมเหล่านี้จะประกอบไปด้วยตำแหน่ง หรือสถานภาพทางสังคม เช่น ครู อาจารย์ เป็นต้น หน้าที่ของสถาบันการศึกษา 1. ถ่ายทอดความรู้ วัฒนธรรม และทักษะ อันจำเป็นในการดำรงชีพของสมาชิกในสังคม 2. สร้างบุคลิกภาพทางสังคมให้แก่สมาชิก สามารถปรับตนในการติดต่อสัมพันธ์กับบุคคลอื่นและปฏิบัติตนให้มีคุณค่าแก่สังคม 3. การกำหนดสถานภาพทางสังคม และชนชั้นทางสังคมสถานภาพจากสถาบันการศึกษา เป็นส่วนประกอบสำคัญประการหนึ่งในการจัดช่วงชั้นทางสังคม 4. หน้าที่ในการผลิตกำลังแรงงานทางเศรษฐกิจ ตามความต้องการทางสังคม 5. หน้าที่ในการสร้างกลุ่มเพื่อนเป็นหน้าที่แฝงของสถาบันการศึกษา ซึ่งก่อให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อนเพื่อสนองความต้องการทางจิตใจของสมาชิกในสังคม แบบแผนพฤติกรรมในการประพฤติปฏิบัติตนของสมาชิก สถาบันการศึกษาประกอบไปด้วยแบบแผนพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อสนองต่อหน้าที่ต่าง ๆ ของสถาบันดังที่กล่าวมาแล้ว เช่นการจัดระบบการเรียนการสอน เป็นต้น แบบแผนพฤติกรรมดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้เหมาะสมแก่ความต้องการของสังคมปัจจุบัน สัญลักษณ์และค่านิยม สัญลักษณ์ของสถาบันการศึกษา มักปรากฏในองค์การทางการศึกษาต่าง ๆ เช่น เข็มเครื่องหมายของโรงเรียน เป็นต้น แต่ละสังคมย่อมมีปรัชญาและค่านิยมทางการศึกษาต่างกัน 3. สถาบันศาสนา หมายถึง สถาบันที่ทำหน้าที่ช่วยสนองความต้องการด้านเสริมกำลังใจให้แก่สมาชิกในสังคมเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมด้วยความปกติสุขโดยปฏิบัติตามคติความเชื่อ กลุ่มสังคมในสถาบันศาสนา ที่สำคัญได้แก่ คณะสงฆ์ และกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรม โดยมีตำแหน่งหรือสถานภาพทางสังคมต่างๆ กัน ต่างมีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันตามสถานภาพทางสังคมดังกล่าว หน้าที่ของสถาบันศาสนา 1. สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่สังคม 2. สร้างเสริมและถ่ายทอดวัฒนธรรมแก่สังคม 3. ควบคุมสมาชิกให้ปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม 4. สนองความต้องการทางจิตใจแก่สมาชิกเมื่อสมาชิกเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ แบบแผนพฤติกรรมในการประพฤติปฏิบัติตนของสมาชิก โดยทั่วไปแบบแผนพฤติกรรมในการปฏิบัติของสมาชิกในสังคม ย่อมเป็นไปตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ และเป็นไปตามประเพณีทางศาสนานั้น ๆ กิจกรรมของประเพณีทางศาสนามีความสำคัญในการสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสมาชิกในสังคม สัญลักษณ์และค่านิยม สัญลักษณ์ของสถาบันศาสนาย่อมแตกต่างกันไปตามศาสนาที่สมาชิกยอมรับนับถือ สำหรับค่านิยมของสถาบันศาสนาย่อมแตกต่างกันไปตามหลักของศาสนานั้น ๆ 4. สถาบันเศรษฐกิจ หมายถึง สถาบันสังคมที่เกี่ยวข้องกับแบบแผนการสนองความต้องการเกี่ยวกับความจำเป็นทางวัตถุ เพื่อการดำรงชีวิต เป็นแบบแผนพฤติกรรมทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับ การผลิตการกระจายสินค้าและบริการไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต กลุ่มสังคมในสถาบันเศรษฐกิจ กลุ่มสังคมในสถาบันเศรษฐกิจมีจำนวนมาก เช่น ร้านค้า โรงงานและองค์กรเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่ละกลุ่มสังคมเหล่านี้ประกอบไปด้วยตำแหน่งและบทบาทหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เช่น ผู้จัดการ พนักงาน กรรมกร เกษตรกร เป็นต้น เพื่อกระทำบทบาทและหน้าที่ดังกล่าว หน้าที่ของสถาบันเศรษฐกิจ 1. ผลิตสินค้า เพื่อสนองความต้องการของสมาชิกในสังคม ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าพื้นฐานจนถึงสินค้าอำนวยความสะดวก 2. การกระจายสินค้าที่ผลิตได้ไปสู่สมาชิกในสังคมอย่างทั่วถึง 3. การกระจายบริการต่าง ๆ ไปสู่สมาชิกในสังคม 4. การกำหนดสถานภาพทางสังคมและชนชั้นทางสังคม  5. สถาบันทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดหน้าที่สำคัญ คือ เป็นพื้นฐานอำนาจทางการเมือง  แบบแผนพฤติกรรมในการประพฤติปฏิบัติตนของสมาชิก สถาบันเศรษฐกิจประกอบด้วยแบบแผนพฤติกรรมที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตร่วมกันของสมาชิกในสังคม เช่น แบบแผนในการผลิตสินค้า แบบแผนของการประกอบอาชีพต่าง ๆ เช่น อาชีพเกษตรกรรมและอาชีพอุตสาหกรรมมีแบบแผนการประกอบอาชีพต่างกัน สัญลักษณ์และค่านิยม ส่วนใหญ่เป็นสัญลักษณ์ขององค์การของสถาบันเศรษฐกิจนั้น ๆ เช่น เครื่องหมายทางการค้า สำหรับค่านิยมและความเชื่อเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจย่อมแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมของแต่ละสังคม 5. สถาบันทางการเมืองการปกครอง หมายถึง สถาบันสังคมที่เป็นแบบแผนที่เกี่ยวข้องกับการสนองความต้องการของสมาชิกในการดำรงชีวิตตามกฎระเบียบของสังคม ควบคุมให้กลุ่มคนอยู่ในสังคมอย่างสงบสุข กลุ่มสังคมในสถาบันการเมืองการปกครอง ประกอบด้วยกลุ่มสังคมต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ กลุ่มสังคมที่มีการจัดระเบียบอย่างชัดแจ้ง ที่เรียกว่า องค์การ เช่น พรรคการเมือง กระทรวง ทบวง กรม เป็นต้น แต่ละองค์การประกอบด้วยตำแหน่งหรือสถานภาพทางสังคม เพื่อกระทำบทบาทและหน้าที่ตามสถานภาพนั้น องค์กรของสถาบันการเมืองที่สำคัญ มีดังนี้  1. ฝ่ายนิติบัญญัติ คือ องค์กรที่ทำหน้าที่ออกกฎหมาย 2. ฝ่ายบริหาร คือ องค์กรที่ทำหน้าที่ในการบริหารและการบริการให้แก่สมาชิกโดยส่วนรวม  3. ฝ่ายตุลาการ คือ องค์การที่ทำหน้าที่ตีความกฎหมายในกรณีที่สมาชิกในสังคมเกิดความขัดแย้งระหว่างกัน  4. ฝ่ายองค์กรอิสระ คือ องค์กรที่ประกอบด้วยคณะบุคคลที่ตั้งขึ้นด้วยวิธีปลอดจากอำนาจอิทธิพลของบุคคลที่มีส่วนอาจได้เสียกับกิจการอันเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระนั้น โดยเฉพาะอำนาจของข้าราชการเมืองและข้าราชการประจำ หน้าที่ของสถาบันการเมืองการปกครอง 1. สร้างระเบียบกฎเกณฑ์ให้แก่สังคม เช่น สถาบันเศรษฐกิจย่อมจะต้องมีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการเงิน 2. วินิจฉัยข้อขัดแย้งระหว่างสมาชิกในสังคม มีองค์การทางตุลาการคอยให้ความยุติธรรมแก่สมาชิกที่มีความขัดแย้งต่อกัน 3. หน้าที่ในการบริหารองค์การของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น 4. การป้องกันและรักษาความปลอดภัยทั้งภายในสังคมและจากภายนอกสังคม ลักษณะโดยทั่วไปของสถาบัน - สถาบันเป็นนามธรรม - สถาบันแต่ละสถาบันเกิดจากการรวมหน้าที่ด้านเดียวกันไว้รวมกัน - เปลี่ยนแปลงได้ยาก สารบัญ สารบัญ. 1.โครงสร้างทางสังคม  2. การจัดระเบียบทางสังคม
thaiwikibooks
195,649
โครงสร้างทางสังคมและลักษณะของสังคมไทย/การจัดระเบียบทางสังคม
สังคมเป็นที่รวมของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เมื่อมีการรวมกลุ่มของกลุ่มบุคคลเพิ่มมากขึ้นสังคมก็ยิ่งมีความแตกต่างในหลายๆ ด้านเกิดขึ้นความแตกต่างดังกล่าว หากมีการควบคุมและจัดระเบียบของกลุ่มและในสังคมที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว สังคมก็อาจสับสนวุ่นวายขึ้นได้ ความหมายของการจัดระเบียบสังคม ความหมายของการจัดระเบียบสังคม. การจัดระเบียบสังคม เป็นกระบวนการที่สมาชิกได้พัฒนาการกระทำระหว่างกันทางสังคมอย่างมีระเบียบ โดยมีสมาชิกส่วนรวมของสังคมไทยยอมรับเป็นแนวความประพฤติร่วมกันและสืบทอดจนเป็นบรรทัดฐานในการดำรงชีวิตร่วมกันของสมาชิกในสังคม สาเหตุที่ต้องมีการจัดระเบียบสังคม 1. สมาชิกในสังคมมีความแตกต่างกัน 2. แต่ละคนมุ่งแต่ผลประโยชน์ของตน จนเกิดความขัดแย้งได้ ความจำเป็นที่ต้องมีการจัดระเบียบสังคม 1. เนื่องจากสมาชิกในสังคมมีความแตกต่าง ทั้งในทางกายภาพและในทางสังคม 2. เนื่องจากสมาชิกในสังคมมีวัตถุประสงค์และมีความต้องการร่วมกันในสังคมมนุษย์ทุกๆ สังคมสมาชิกแต่ละคนย่อมมีความต้องการพื้นฐานร่วมกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำหนดระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์และความต้องการนั้น 3. เพื่อป้องการขัดแย้งระหว่างสมาชิกในสังคม ธรรมชาติของมนุษย์ คือ การต่อสู้ การใช้อำนาจ ดังนั้นจึงต้องมีกฎเกณฑ์เพื่อให้ความสัมพันธ์ของสมาชิกในสังคมราบรื่น วิธีการจัดระเบียบทางสังคม วิธีการจัดระเบียบทางสังคม. 1. บรรทัดฐาน 2. สถานภาพ – บทบาท และการจัดชั้นยศ 3. ค่านิยม 4. การขัดเกลาทางสังคม 5. การควบคุมทางสังคม องค์ประกอบของการจัดระเบียบ องค์ประกอบของการจัดระเบียบ. บรรทัดฐาน บรรทัดฐานทางสังคม หมายถึง ระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือแบบแผนของพฤติกรรมที่สังคมยอมรับเป็นแนวทางให้สมาชิกประพฤติปฏิบัติในแต่ละสถานการณ์ สรุปได้ว่า... 1. บรรทัดฐานทางสังคม เป็นระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือแบบแผนของพฤติกรรมที่สมาชิกในสังคมยอมรับร่วมกัน และได้ประพฤติสืบต่อกันม 2. บรรทัดฐานทางสังคมเป็นระเบียบ กล่าวคือ แบบแผนความประพฤติที่เห็นว่าถูกต้องในสถานการณ์หนึ่งอาจนำไปใช้ในอีกสถานการณ์หนึ่งไม่ได้ ประเภทของบรรทัดฐานทางสังคม ประเภทของบรรทัดฐานทางสังคม. 1. วิถีประชา/วิถีชาวบ้าน (Folkways) หมายถึง แบบแผนความประพฤติที่สมาชิกปฏิบัติด้วยความเคยชิน เนื่องจากได้รับการปลูกฝังถ่ายทอดมาตั้งแต่วัยเด็กจนเติบใหญ่ แม้ว่าจะไม่มีการกำหนดโทษผู้ที่ละเมิดฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด แต่อาจถูกคนอื่นเยาะเย้ย ถากถาง หรือได้รับการนินทา ทำให้สมาชิกต้องปฏิบัติตามวิถีชาวบ้าน จนเกิดความเป็นระเบียบทางสังคมในที่สุด 2. จารีต (Mores) หมายถึง แบบแผนความประพฤติที่สมาชิกปฏิบัติในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยผู้ที่ละเมิดฝ่าฝืนจะได้รับการต่อต้านจากสมาชิกในสังคมอย่างจริงจัง เนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบสัมพันธ์ของสมาชิกเป็นส่วนรวม 3. กฎหมาย (Laws) หมายถึง กฎเกณฑ์ของความประพฤติซึ่งสร้างขึ้นโดยองค์การทางการเมืองการปกครอง และโดยได้รับการรับรองจากองค์กรของรัฐ กฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ความประพฤติที่มีลักษณะสำคัญ ดังนี้ 1) เป็นกฎเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติของสมาชิกในสังคมที่บัญญัติเป็นทางการโดยองค์การของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการบัญญัติกฎหมาย 2) มีการประกาศรายละเอียดของกฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษร  3) มีองค์การที่หน้าที่ควบคุมให้สมาชิกปฏิบัติตามกฎหมาย  4) มีบทลงโทษผู้ที่ละเมิดฝ่าฝืนกฎหมาย ข้อสังเกตเกี่ยวกับบรรทัดฐาน 1. บรรทัดฐานแต่ละท้องถิ่นสอดคล้องหรือแตกต่างก็ได 2. บรรทัดฐานแต่ละท้องถิ่นสามารถเปลี่ยนแปลงได 3. สังคมชนบทมักใช้จารีตมากกว่า ส่วนสังคมเมืองมักใช้กฎหมายเป็นบรรทัดฐาน ความสัมพันธ์ของคนในสังคม ความสัมพันธ์ของคนในสังคม. สถานภาพ (Status) : ตำแหน่งที่ได้รับจากการเป็นสมาชิกของสังคมหรือฐานะทางสังคม (Social Position) ของคนในสังคมที่ถูกกำหนดไว้และดำรงอยู่  สถานภาพทางสังคม หมายถึง ตำแหน่งของบุคคลซึ่งได้มาจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มและของสังคม ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการจัดระเบียบสังคม เนื่องจากการกระทำระหว่างสมาชิกในสังคมย่อมเป็นไปตามสถานภาพที่ตนดำรงอยู่ ประเภทของสถานภาพทางสังคม 1) สถานภาพทางสังคมโดยกำเนิด (Ascribed Status) เป็นสถานภาพทางสังคมที่สมาชิกได้รับโดยกำเนิด ที่สำคัญได้แก่ เชื้อชาติ สัญชาติ เพศ (ชายหรือหญิง) อายุและสถานภาพอันเกิดจากการเป็นสมาชิกในครอบครัว เหล่านี้นับเป็นสถานภาพโดยกำเนิดทั้งสิ้น 2) สถานภาพทางสังคมโดยความสามารถของบุคคล (Achieved Status) เป็นสถานภาพทางสังคมที่เกิดจากการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสถานภาพโดยถือความสามารถตามเกณฑ์ที่สังคมกำหนด  3) ผลอันเกิดจากสถานภาพทางสังคม มีดังนี้ (1) ทำให้เกิดสิทธิและหน้าที่ (2) ทำให้เกิดเกียรติยศจากสถานภาพทางสังคมที่สมาชิกดำรงอยู่ (3) ทำให้เกิดการจัดช่วงชั้นทางสังคม ที่มาของสถานภาพ 1. สถานภาพที่ติดตัวมา เช่น อายุ, เพศ, ชาติกำเนิด, เชื้อชาติ  2. สถานภาพที่ได้มาภายหลัง เช่น สถานภาพระบบเครือญาติ, สถานภาพทางการศึกษา, อาชีพ หน้าที่ของสถานภาพ 1 . กำหนดบทบาท 2 . ใช้ในการติดต่อร่วมกันใน สังคมขนาดใหญ่ ๆ 3 . ใช้เปรียบเทียบฐานะสูง – ต่ำทางสังคม บทบาท บทบาท (Role) : หน้าที่/พฤติกรรมที่ปฏิบัติตามสถานภาพที่ได้รับ การปฏิบัติบทบาทตามสถานภาพที่เหมาะสมและถูกต้องทำให้ความสัมพันธ์ทางสังคมดำเนินไปได้ด้วยดี บทบาททางสังคม 1. บทบาททางสังคมเป็นการกระทำตามสิทธิและหน้าที่ตามที่กำหนดในสถานภาพทางสังคม บทบาทและสถานภาพทางสังคมจะทำให้การกระทำระหว่างกันทางสังคมของสมาชิกดำเนินไปอย่างสอดคล้องกลมกลืน และช่วยให้การดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมมีความราบรื่น 2. ความสำคัญของบทบาททางสังคม บทบาททางสังคมก่อให้เกิดการกระทำตามสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกในสังคมตามสถานภาพที่ตนดำรงอยู่ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนการรับและการให้ประโยชน์ระหว่างกัน หากปราศจากการกำหนดบทบาททางสังคม รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคมคงจะขาดระเบียบแลปราศจากทิศทางแน่นอน บทบาทขัดกัน สมาชิกในสังคมแต่ละคนมีบทบาทหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และการในกระทำอีกบทบาทหนึ่งอาจจะขัดกับอีกบทบาทหนึ่งก็ได้ การขัดกันในบทบาทย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ สมาชิกในสังคมต้องตัดสินใจ ตามวาระและโอกาสที่เกิดขึ้น ข้อสังเกต 1. สถานภาพ – บทบาทเป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับสังคม 2. ทุกคนย่อมมีสถานภาพของตนเองและมีหลายสถานภาพ 3. สถานภาพบางอย่างเป็นสถานภาพที่ต่อเนื่อง 4. ยิ่งสังคมซับซ้อนเพียงใด บทบาทยิ่งแตกต่างไปมากขึ้นเท่านั้น 5. โดยปกติสถานภาพจะบ่งถึงบทบาทเสมอ แต่ในบางสถานการณ์มีสถานภาพอาจไม่มีบทบาทก็ได้ 6. การมีหลายสถานภาพก่อให้เกิดหลายบทบาท บางครั้งก็อาจทำให้เกิดบทบาทที่ขัดแย้ง ค่านิยม ค่านิยม (Social Value) : สิ่งที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับและเห็นว่ามีคุณค่า เพราะว่าเป็นความสัมพันธ์ที่สังคมยอมรับ หรือเราอาจจะเรียกว่า “กระแสทางสังคม” ก็ได้  ค่านิยมมีทั้งของบุคคล และ ค่านิยมของสังคม ค่านิยมของสังคม ค่านิยมของสังคม บางทีเรียกว่า (ระบบคุณค่าของสังคม) หรือ (สัญญาประชาคม) ค่านิยมของสังคม เป็นหัวใจหรือเป้าหมายที่สังคมปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้น เช่น เสรีภาพ ความรักชาติ ความดี ความยุติธรรม การขัดเกลาทางสังคม การขัดเกลาทางสังคม (Socialization) หมายถึง การถ่ายทอดวัฒนธรรมแก่สมาชิกวิธีการขัดเกลาทางสังคม การขัดเกลาทางสังคม คือ การปลูกฝังระเบียบวินัย ความมุ่งหวังให้รู้จักบทบาทและทัศนคติ ความชำนาญหรือทักษะ ทั้งนี้ เพื่อให้สมาชิกอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ด้วยดี การขัดเกลาทางสังคมช่วยให้สมาชิกได้เรียนรู้ และปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม การอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ ครูอาจารย์ เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมอาชีพหรือสื่อมวลชนต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้การกระทำต่อผู้อื่นเป็นไปอย่างเหมาะสมรู้จักปฏิบัติตนในฐานะสมาชิกที่ดีของสังคม ซึ่งจะช่วยให้สังคมมีระเบียบเพิ่มขึ้น 1. การขัดเกลาโดยตรง : โดยการบอกว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ 2. การขัดเกลาโดยอ้อม : ไม่ได้บอกโดยตรง แต่เราเรียนรู้จากการ กระทำของคนอื่น หรือ ซึมซับจากสื่อ เช่น หนังสือพิมพ์, นิตยสาร, วิทยุ ฯลฯ การควบคมทางสังคม การควบคุมทางสังคม (Social Control) เป็นกระบวนการทางสังคมในการจัดระเบียบพฤติกรรมมนุษย์/สมาชิกในสังคมให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมทั้งการไร้ระเบียบทางสังคม (SocialDisorganization) นอกจากนี้ยังต้องรู้อีกหลายๆ เรื่อง เช่น ปรากฏการณ์ทางสังคม (Social Phenomena) ว่ามีความเป็นมาอย่างไร หรือการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (Social Change) ว่าจะมีแนวโน้มเป็นไปในทางใดและอะไรเป็นปัจจัยผลักดันเป็นต้น และที่สำคัญที่สุดของสังคมได้แก่ วัฒนธรรม=ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในสังคม อันเป็นแบบแผนของพฤติกรรมที่สังคมยอมรับและสืบทอดกันต่อๆ มา 1. การควบคุมทางสังคม หมายถึง กระบวนการต่าง ๆ ทางสังคมที่มุ่งหมายให้สมาชิกของสังคมยอมรับและปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม 2. ลักษณะของการควบคุมทางสังคม 1) การควบคุมทางสังคมโดยการจูงใจให้สมาชิกปฏิบัติตามบรรทัดฐานทางสังคม ได้แก่ การ ยกย่อง ชมเชย ให้รางวัลแก่ผู้ที่ปฏิบัติตามบรรทัดฐานทางสังคม ตามสถานภาพและบทบาททางสังคมที่ตนดำรงอยู่  2) การควบคุมทางสังคมโดยการลงโทษสมาชิกละเมิดฝ่าฝืนบรรทัดฐานทางสังคม ได้แก่ (1) ผู้ที่ละเมิดฝ่าฝืนวิถีชาวบ้าน จะได้รับปฏิกิริยาต่าง ๆ จากสมาชิกผู้อื่น ได้แก่ การถูกติเตียน นินทา (2) ผู้ที่ละเมิดฝ่าฝืนจารีต จะได้รับการต่อต้านสมาชิกผู้อื่นรุนแรงกว่าผู้ที่ละเมิดวิถีชาวบ้าน เช่น การถูกประชาทัณฑ์ หรือขับไล่ออกไปจากท้องถิ่น (3) ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะได้รับการลงโทษตามกฎหมายกำหนด โดยหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่เป็นผู้ควบคุมบทลงโทษอย่างชัดเจน สารบัญ สารบัญ. 1.โครงสร้างทางสังคม  2. การจัดระเบียบทางสังคม
thaiwikibooks
195,650
พัฒนาการสังคมไทย
สังคมมนุษย์มีลักษณะเช่นเดียวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติต่าง ๆ คือ มีการเปลี่ยนแปลง บางสังคมเปลี่ยนแปลงช้าขณะที่บางสังคมเปลี่ยนเร็ว ในอดีตสังคมส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ จนเกือบไม่มีอะไรเปลี่ยนอย่างสำคัญในรอบร้อยปี แต่ในระยะประมาณร้อยปีที่แล้วสังคมจำนวนหนึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากสภาพสังคมแบบโบราณกลายเป็นสังคมสมัยใหม่ ที่เห็นชัดเจนคือการเปลี่ยนจากสังคมแบบเกษตรกรรมมาเป็นสังคมอุตสาหกรรม จากสังคมแบบชนบทมาเป็นสังคมเมือง เป็นต้น เนื้อหาต่อไปจะเป็นการนำเสนอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมในประเด็นต่างๆ  ความหมายของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ความหมายของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม. พวงเพชร สุรัตนกวีกุล (2541) กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมว่าหมายถึง การเปลี่ยนรูปแบบของโครงสร้างทางสังคม พฤติกรรมทางสังคม การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมทั้งที่เป็นวัตถุและไม่ใช่วัตถุ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมเป็นไปได้ทั้งในทางบวกและทางลบ คือมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นหรือเพิ่มขึ้น และสิ่งที่มีอยู่เดิมสิ้นสภาพหรือถูกทำลายไป การเปลี่ยนแปลงในทางที่มีสิ่งใหม่หรือเพิ่มขึ้นที่เห็นชัด ได้แก่ สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆที่เป็นวัตถุสิ่งของและเทคนิค วิธีการ จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การขยายตัวของเมือง การสื่อสารและการคมนาคมที่รวดเร็วและสะดวก ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ปรากฏว่าสิ่งของเครื่องเครื่องใช้และวิธีการเก่า ๆ หลายอย่างถูกยกเลิกหรือน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น การใช้เกวียน การใช้วัวควายไถนา การใช้หมอตำแยทำคลอด การปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช การบวชตามประเพณี เป็นต้น  ลักษณะทั่วไปของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลงฯ มักทำให้สังคมทั้งระบบเปลี่ยนได้โดยปกติคนส่วนใหญ่ในสังคมมักเป็นผู้รับการเปลี่ยนแปลงมากกว่าเป็นผู้ริเริ่มทำการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงฯ เป็นกระบวนการปรับตัวตามธรรมชาติที่ทำให้สังคมดำรงอยู่ได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน การเปลี่ยนแปลงในส่วนต่าง ๆ ของสังคมนั้นเกิดขึ้นเร็วช้าไม่เท่ากัน การเปลี่ยนแปลงในส่วนหนึ่งของสังคมมักส่งผลกระทบถึงส่วนอื่น ซึ่งอาจเป็นผลกระทบในทางบวกหรือทางลบก็ได้ แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขนาดของสังคมต่าง ๆ โดยเฉลี่ยใหญ่ขึ้น มีการตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนถาวรและชุมชนเมืองมากขึ้น สังคมมนุษย์มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากขึ้น มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากมาย มีผลผลิตทางวัฒนธรรม (เช่น ข่าวสาร ความรู้ และบันเทิง) ผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นมากทั้งชนิดและปริมาณ การจัดระเบียบทางสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น มีความไม่เท่าเทียมภายในสังคมและระหว่างสังคมเพิ่มขึ้น แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม. แนวโน้มที่กำลังเป็นไปขณะนี้ คือ การแพร่กระจายเทคโนโลยีและระบบเศรษฐกิจจากสังคมที่ “พัฒนาแล้ว” ไปสู่สังคมที่ “ด้อยพัฒนา” หรือ “กำลังพัฒนา” ทั่วโลก หรือที่เรียกว่า “โลกาภิวัตน์” นักสังคมวิทยามองการเปลี่ยนแปลงในสังคมส่วนใหญ่รวมทั้งสังคมไทยในปัจจุบันว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงจากสภาพสังคมแบบประเพณีไปสู่สังคมแบบใหม่ เรียกกระบวนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่า “การเปลี่ยนเป็นความทันสมัย” (modernization) หรือ “ภาวะทันสมัย” ซึ่งหมายถึง “การเปลี่ยนเป็นแบบสังคมตะวันตก”  องค์ประกอบของความเป็นตะวันตกประกอบด้วย องค์ประกอบของความเป็นตะวันตกประกอบด้วย. (1) การมีระบบเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรมและระบบทุนนิยม  (2) การเป็นสังคมเมือง  (3) ความเป็นประชาธิปไตย  (4) การดำเนินชีวิตและมีทัศนะเชิงโลกีย์วิสัย (Secularization)  หลายคนมักเข้าใจว่า “ความทันสมัย” คือ “การพัฒนา” (development) แต่บางคนกลับเห็นว่า “สังคมที่ทันสมัยอาจไม่พัฒนาก็ได้” ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการให้ คำนิยามศัพท์ที่ต่างกัน ดังนั้นในที่นี่ผู้เรียบเรียงจักได้นำเสนอลักษณะของ “สังคมที่ทันสมัย” ในแง่มุมที่เป็นสังคมที่พัฒนาแล้ว ดังต่อไปนี้ เป็นสังคมอุตสาหกรรม เพราะระบบอุตสาหกรรมเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ตามมา ระบบตลาดเสรี ระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้มีการการเคลื่อนไหวทางสังคมหรือการเลื่อนชนชั้นได้โดยเสรี พลเมืองในสังคมนั้นๆ รับรู้ข่าวสารและมีส่วนร่วมทางการเมือง มีความสำนึกว่าตนเองมีความสามารถ ไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของประเพณี พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ ใจกว้าง และมีความยืดหยุ่นทางความคิด แบบแผนของระบบการเมือง บรรทัดฐานทางสังคม โครงสร้างทางชนชั้นและบุคลิกภาพของสมาชิกสังคม นอกจากนั้นสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ความทันสมัยนั้นมักพบลักษณะบางประการที่เรียกว่า “ทวิลักษณ์” (dualism) คือมีภาวะที่แตกต่างกันมากดำรงอยู่ควบคู่กัน เช่น ด้านเศรษฐกิจภาคเกษตรและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่คู่กันแค่มีความไม่เท่าเทียมกัน รายได้ระหว่างกลุ่มคนภาคเกษตรกับภาคธุรกิจการค้าอุตสาหกรรม มีความแตกต่างกันมาก รัฐบาลมักจะเอาใจใส่และเอื้อประโยชน์แก่นักธุรกิจมากกว่าเกษตรกร และนักธุรกิจมักได้รับชัยชนะเหนือเกษตรกรในการขัดแย้งเพื่อแย่งทรัพยากรน้ำ ที่ดิน ป่าไม้ ในด้านการเมืองก็มีลักษณะสองด้าน คือ ด้านหนึ่งคนเมืองและชนชั้นกลางซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจะมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องการมีส่วนร่วมมากขึ้น เสรีภาพทางการเมืองหรือระบบประชาธิปไตยเป็นกระแสหลักถูกผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อรองรับระบบธุรกิจตลาดเสรี แต่ในอีกด้านหนึ่งเกษตรกรในชนบทยังคุ้นเคยกับระบบอำนาจแบบอุปถัมภ์ และวิถีชีวิตแบบประเพณี ทำให้สังคมมีรูปแบบของระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยแต่มีพฤติกรรมทางการเมืองแบบอุปถัมภ์ มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ ฝ่ายชนบทกับฝ่ายคนเมือง เช่น กรณีการเมืองในประเทศไทยซึ่งคนชนบทกับคนเมืองมีความคาดหวังต่อนักการเมืองต่างกันจึงมักเกิดสถานการณ์ที่เรียกว่า “คนชนบทตั้งรัฐบาลแต่คนเมืองล้มรัฐบาล” อยู่เสมอ
thaiwikibooks
195,651
เวลา ศักราช วิธีการทางประวัติศาสตร์
ดูเพิ่ม ศักราช วิธีการทางประวัติศาสตร์
thaiwikibooks
195,652
เวลา ศักราช วิธีการทางประวัติศาสตร์/ศักราช
ศักราช คือ ช่วงเวลาที่จัดตั้งขึ้นตามการอ้างอิงของช่วงเวลานั้น โดยแบ่งได้ตามการอ้างอิงหรือการเรียก พุทธศักราช (พ.ศ.) – เริ่มนับเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เมื่อวันเพ็ญ เดือน 6 ปีจอ นิยมใช้ในประเทศที่นับถือพุทธศาสนา โดยเฉพาะไทย และศรีลังกา คริสต์ศักราช (ค.ศ.) – เริ่มนับตั้งแต่ พ.ศ. 543 โดยนับปีที่พระเยซูคริสต์ประสูติ เป็น ค.ศ. 1 นิยมใช้ในประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์และใช้เป็นปีอ้างอิงสากล มหาศักราช (ม.ศ.) – เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 621 พระเจ้ากนิษกะของอินเดียทรงตั้งขึ้น ใช้ในศิลาจารึกและเอกสารประวัติศาสตร์ของไทยบ้าง แต่น้อยกว่าจุลศักราช ฮิจญ์เราะหฺศักราช (ฮ.ศ.) – เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 1165 เมื่อปีที่ท่านนบีมุฮัมมัดอพยพจากเมืองเมกกะ (มักกะหฺ) ไปยังเมืองเมดีนา (มะดีนะหฺ) นิยมใช้ในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม ชาวไทยมุสลิมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันใช้ฮิจญ์เราะหฺศักราชเพื่อประกอบศาสนกิจ จุลศักราช (จ.ศ.) – เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 1181 ปี โดยนับเอาวันที่พระพม่า นามว่า “บุพโสระหัน” สึกออกมาเพื่อชิงราชบัลลังก์ นิยมใช้ในเอกสารประวัติศาสตร์ของไทยเรื่อยมาจนถึงรัตนโกสินทร์ รัตนโกสินทรศก (ร.ศ.) – เริ่มใช้ในรัชกาลที่ 5 โดย “เริ่มนับ” ตั้งแต่ พ.ศ. 2325 อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสร้างกรุงเทพมหานคร (เลิกใช้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) ศักราชจุฬามณี (ศักราชกฎหมาย) ดูเพิ่ม ศักราช วิธีการทางประวัติศาสตร์
thaiwikibooks
195,653
เวลา ศักราช วิธีการทางประวัติศาสตร์/วิธีการทางประวัติศาสตร์
วิธีการทางประวัติศาสตร์ หมายถึง กระบวนการสืบค้นเรื่องราวในอดีตของสังคมมนุษย์ เริ่มต้นที่ความอยากรู้อยากเห็นของผู้ต้องการศึกษาและต้องการสอบสวนค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเอง จากร่องรอยที่คนในอดีตได้ทำไว้และตกทอดเหลือมาถึงปัจจุบัน โดยไม่หลงเชื่อคำพูดของใครคนใดคนหนึ่ง หรืออ่านหนังสือเพียงเล่มใดเล่มหนึ่งแล้วเชื่อว่าเป็นจริง สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกของการสืบค้นอดีต เมื่อมีประเด็นที่ต้องการสืบค้นแล้ว คือการเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวางและละเอียดลออ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น สอบถามผู้รู้ ศึกษาเอกสาร เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ด้วยตนเอง ตรวจสอบข้อมูลจากหลักฐานทุกชิ้นด้วยจิตสำนึกว่า หลักฐานไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด หรือบอกความจริงเสมอไป แล้วรวบรวมข้อเท็จจริงที่ได้ จากนั้นนำเสนอผลที่ศึกษาได้พร้อมอ้างอิงหลักฐานให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้อื่นตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้าต่อไปได้ ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย. 1. การกำหนดหัวข้อเรื่องที่ต้องการศึกษาให้ชัดเจน (เรื่องอะไร ช่วงเวลาใด ที่ไหน) 2. รวบรวมข้อมูลจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้ครบถ้วน ครอบคลุม 3.  ตรวจสอบความจริงจากหลักฐาน ที่เรียกว่า การวิพากษ์วิธีทางประวัติศาสตร์ 4.  วิเคราะห์ข้อมูลและตีความเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง 5.  นำเสนอผลงานความรู้ที่ค้นพบ โดยปราศจากอคติและความลำเอียง วิธีการทางประวัติศาสตร์กับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์กับวิธีการทางวิทยาศาสตร์. วิธีการทางประวัติศาสตร์ กับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ มีบางส่วนที่คล้ายคลึงกัน และมีบทส่วนแตกต่างกันดังนี้ 1. วิธีการทางประวัติศาสตร์มีการกำหนดประเด็นปัญหา เพื่อสืบค้นหาคำตอบ เช่นเดียวกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีการสร้างสมมติฐานขึ้นแล้วทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐานนั้น 2. วิธีการทางวิทยาศาสตร์ใช้วิธีการสร้างสถานการณ์ใหม่ หรือ ทดลองเพื่อทดสอบสมมติฐานที่ตั้งขึ้น แต่นักประวัติศาสตร์ไม่สามารถสร้างสถานการณ์ขึ้นใหม่ให้เหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีตได้  เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตจะเกิดขึ้นครั้งเดียว มีลักษณะเฉพาะ และไม่สามารถสร้างซ้ำได้อีก แต่นักประวัติศาสตร์จะรวบรวมข้อมูลจากหลักฐานอย่างหลากหลาย ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของหลักฐาน จนกระทั่งได้ข้อมูลที่จะสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถอธิบายและสรุปเป็นหลักการได้ ดังนั้นแม้นักประวัติศาสตร์จะมิได้เห็นเหตุการณ์นั้นโดยตรง แต่พยายามหาข้อมูลให้มาก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้ถูกต้องตามความเป็นจริงที่น่าเป็นไปได้ แต่นักวิทยาศาสตร์จะทดสอบหรือทดลองให้ได้ผลสรุปด้วยตนเอง 3. การนำเสนอผลงานของนักวิทยาศาสตร์ และนักประวัติศาสตร์ก็อาศัยหลักการความเป็นไปได้มาคาดคะเน และสรุปผลเช่นกัน แต่ผลสรุปทางวิทยาศาสตร์ จะสามารถนำไปทดลองซ้ำๆ ก็จะได้ผลเช่นนั้นทุกครั้ง แต่ผลสรุปทางประวัติศาสตร์ไม่สามารถนำไปทดลองได้ และมีความแตกต่างที่เป็น “มิติของเวลา” เช่นเดียวกับศาสตร์ทางสังคมศาสตร์อื่นๆ ที่ไม่สามารถควบคุมปัจจัยที่เป็นตัวแปรได้ทั้งหมด 4. ประวัติศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ไม่สามารถนิยามคำเฉพาะ เพราะความหมายจะไม่ชัดเจนตายตัวในทุกกาลและเทศะ เช่น ประชาธิปไตยของท้องถิ่นหนึ่ง กับอีกท้องถิ่นหนึ่งจะมีนัยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผู้ใช้หรือผู้นิยาม  ซึ่งแตกต่างกับวิทยาศาสตร์ที่สามารถให้นิยามคำเฉพาะที่มีความหมายตายตัวไม่เปลี่ยนแปลงตามเวลา และสถานที่ คุณค่าของวิธีการทางประวัติศาสตร์ คุณค่าของวิธีการทางประวัติศาสตร์. คุณค่าของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ 1.  วิธีการทางประวัติศาสตร์เป็นวิธีการวิจัยเอกสารและหลักฐานอื่นๆ ที่เป็นร่องรอยจากอดีตอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ใหม่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมาอย่างเป็นระบบ และมีเหตุมีผล             2.  ขั้นตอนการวิพากษ์วิธีทางประวัติศาสตร์หรือการตรวจสอบความจริงจากข้อมูลและหลักฐาน ซึ่งเป็นขั้นตอนของการค้นหาความหมายที่ซุกซ่อนอยู่ในหลักฐานจะทำให้ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ระมัดระวัง และคิดพิจารณาข้อเท็จ และข้อจริงที่แฝงอยู่ในหลักฐานให้ชัดเจน             3. วิธีการทางประวัติศาสตร์เน้นการเข้าใจอดีต  คือ การให้ผู้ศึกษาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ต้องทำความเข้าใจยุคสมัยที่ตนศึกษา เพื่อให้เข้าถึงความคิดของผู้คนในยุคนั้น โดยไม่นำความคิดของปัจจุบันไปตัดสินอดีต             ดูเพิ่ม ศักราช วิธีการทางประวัติศาสตร์
thaiwikibooks
195,654
เอแม็ท
เอแม็ท (A-MATH) เป็นเกมต่อเลขคำนวณ ทักษะของการเล่นนั้นคือการต่อตัวเลขตามหลักการคำนวณคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการบวก ลบ คูณ หาร ลงบนช่องตารางให้เกิดผลดีที่สุด เมื่อจบการแข่งขันผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดเป็นผู้ชนะ คะแนนจะเกิดจากค่าประจำตัวเบี้ยแต่ละตัวในการลงเล่นแต่ละครั้งรวมกับช่องตารางต่างๆ ที่มีค่าแตกต่างกันไป ผู้เล่นอาจจะเล่นแบบฝ่ายละ 1 คน หรือจับคู่เป็นทีมแข่งกันก็ได้ ดูเพิ่ม อุปกรณ์และความหมาย วิธีเล่น การคิดและทำคะแนน การสิ้นสุดเกมส์ ส่วนพิเศษในการเล่น หลักการคำนวณเบื้องต้น
thaiwikibooks
195,655
เอแม็ท/อุปกรณ์และความหมาย
1.กระดาน ( BOARD ) กระดานจะมีทั้งสิ้น 225 ช่อง แบ่งออกเป็นช่องคะแนนธรรมดาและช่องคะแนนพิเศษต่างๆ - สีแดง ( Triple Equation 3X ) หมายถึง เบี้ยตัวใดที่ผู้เล่นลงช่องนี้ จะมีผลทำให้สมการที่มีตัวเบี้ยนี้เป็นส่วนประกอบจะได้คะแนนเป็น 3 เท่า ทั้งสมการ - สีเหลือง ( Double Equation 2X ) หมายถึง เช่นเดียวกับช่องสีแดงแต่คะแนนที่ได้เป็นเพียง 2 เท่าของสมการ - สีฟ้า ( Triple Piece 3X) หมายถึง เบี้ยตัวใดที่ทับช่องนี้ เฉพาะเบี้ยตัวนั้นจะได้คะแนนเป็น 3 เท่า - สีส้ม ( Double Piece 2X) หมายถึง เช่นเดียวกับช่องสีฟ้า แต่คะแนนที่ได้จะเป็นเพียง 2 เท่าเฉพาะเบี้ยนั้น 2.เบี้ย ( TILES ) มีทั้งสิ้น 100 ตัว จะมีค่าของตัวเลขแต่ละตัวปรากฏอยู่ตามความยากง่ายของการเล่น ดังนี้ ตัวเลข 0 มี 5 ตัว มี 1 คะแนน ตัวเลข 1 มี 6 ตัว มี 1 คะแนน ตัวเลข 2 มี 6 ตัว มี 1 คะแนน ตัวเลข 3 มี 5 ตัว มี 1 คะแนน ตัวเลข 4 มี 5 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข 5 มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข 6 มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข 7 มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข 8 มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข 9 มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข 10 มี 2 ตัว มี 3 คะแนน ตัวเลข 11 มี 1 ตัว มี 4 คะแนน ตัวเลข 12 มี 2 ตัว มี 3 คะแนน ตัวเลข 13 มี 1 ตัว มี 6 คะแนน ตัวเลข 14 มี 1 ตัว มี 4 คะแนน ตัวเลข 15 มี 1 ตัว มี 4 คะแนน ตัวเลข 16 มี 1 ตัว มี 4 คะแนน ตัวเลข 17 มี 1 ตัว มี 6 คะแนน ตัวเลข 18 มี 1 ตัว มี 4 คะแนน ตัวเลข 19 มี 1 ตัว มี 7 คะแนน ตัวเลข 20 มี 1 ตัว มี 5 คะแนน ตัวเลข + มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข - มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข +/- มี 5 ตัว มี 1 คะแนน ตัวเลข × มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข ÷ มี 4 ตัว มี 2 คะแนน ตัวเลข ×/÷ มี 4 ตัว มี 1 คะแนน ตัวเลข = มี 11 ตัว มี 1 คะแนน ตัวเลข BLANK มี 4 ตัว หมายเหตุ - เบี้ย +/- หรือ ×/÷ ให้เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อเลือกแล้วจะ เปลี่ยนแปลไม่ได้ - BLANK ใช้แทนตัวอะไรก็ได้ตั้งแต่ 0-20 รวมทั้ง +, -, ×, ÷, = เมื่อกำหนดแล้วจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดูเพิ่ม วิธีเล่น การคิดและทำคะแนน การสิ้นสุดเกมส์ ส่วนพิเศษในการเล่น หลักการคำนวณเบื้องต้น
thaiwikibooks
195,656
เอแม็ท/วิธีเล่น
1.ผู้เล่นจะต้องจับเบี้ยมาฝ่ายละ 1 ตัวเพื่อจะดูว่าฝ่ายใดได้เล่นก่อน โดยมีหลักคือเรียงตามตัวเลขจากมากไปหาน้อย เครื่องหมายทั้งหลายถือว่าต่ำกว่า 0 ทั้งหมด และตัว BLANK ถือว่าใกล้ที่สุด ใครใกล้ 20 กว่าจะได้เริ่มเล่นก่อน 2.ผู้เล่นจับตัวเบี้ยขึ้นมาฝ่ายละ 8 ตัว วางบนแป้น โดยที่ผู้เล่นก่อนจับก่อน 3.ผู้เล่นที่ได้เริ่มเล่นก่อนจะต้องจัดตัวเลขเป็นสมการในลักษณะหนึ่งลักษณะใด (เช่น 7x2 = 5+9หรือ 7*7=42+7 หรือ 6=6 ก็ได้ ) วางลงบนกระดานในแนวนอนหรือแนวตั้งเท่านั้น โดยต้องมีตัวเบี้ยตัวใดตัวหนึ่งทับบนช่องดาวกลางกระดาน ตัวเบี้ยที่ทับช่องดาวจะได้คะแนนเป็น 3 เท่า เพราะช่องดาวกลางกระดานเป็นช่องสีฟ้า 4.ผู้เล่นคนแรกจะต้องจับตัวเบี้ยในถุงขึ้นมาใหม่เท่ากับจำนวนตัวเบี้ยที่ใช้ไป จากนั้นจะเป็นตาเล่นของผู้เล่นคนที่สอง ซึ่งจะต้องต่อเบี้ยที่มีอยู่ให้เป็นสมการโดยมีตัวเบี้ยที่ลงไปใหม่อย่างน้อยหนึ่งตัวสัมผัสกับตัวเบี้ยที่มีอยู่ในกระดานแล้วอาจจะเป็นการเพิ่มจำนวนตัวเลขในสมการเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว เช่น นาย A ลง 3+4 = 7 นาย B อาจจะเล่น 9-3+4 = 7+3 ก็ถือเป็นสมการใหม่ก็ได้ ดูเพิ่ม อุปกรณ์และความหมาย การคิดและทำคะแนน การสิ้นสุดเกมส์ ส่วนพิเศษในการเล่น หลักการคำนวณเบื้องต้น
thaiwikibooks
195,657
เอแม็ท/การคิดและทำคะแนน
1.จากช่องคะแนนพิเศษทั้ง 4 แบบ คือ ช่องสีแดง (ทั้งสมการx3) ช่องสีเหลือง (ทั้งสมการx2) ช่องสีฟ้า (คูณ 3 เฉพาะตัวที่ทับช่อง) และช่องส้ม (คูณ 2 เฉพาะตัวที่ทับช่อง) หากเกิดกรณีที่ผู้เล่นลงสมการที่มีเบี้ยตัวเลขที่เล่นใหม่ทับช่องพิเศษมากกว่า 1 ช่องแล้ว คะแนนที่ได้จะนับคะแนนพิเศษเบี้ยแต่ละตัวก่อนแล้วค่อยนำมาคิดช่องพิเศษ ขอทั้งสมการ ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้เล่นเล่น 7x7 = 6x0 ตัวเลข 7 มีค่า 2 แต้ม ทับบนช่องสีฟ้า (เฉพาะตัวคูณ 3 ) เครื่องหมาย = มีค่า 1 แต้มทับช่องสีส้ม (เฉพาะตัวคูณ 2) เครื่องหมายคูณทับช่องสีเหลือง (ทั้งสมการคูณ 2) คะแนนของการเล่นครั้งนี้เท่ากับ [(2×3) +2+2+ (1×2) +2+2+1]×2=17×2=34 แต้ม 2.ช่องพิเศษต่างๆนั้น สามารถใช้ในการเล่นทับลงไปครั้งแรกเท่านั้น ในการเล่นครั้งต่อมเบี้ยที่ทับอยู่บนช่องพิเศษแล้วนั้นให้นับคะแนนเฉพาะค่าเบี้ยเท่านั้น ดูเพิ่ม อุปกรณ์และความหมาย วิธีเล่น การสิ้นสุดเกมส์ ส่วนพิเศษในการเล่น หลักการคำนวณเบื้องต้น
thaiwikibooks
195,658
เอแม็ท/การสิ้นสุดเกมส์
1.เกมจะสิ้นสุดเมื่อผู้เล่นใช้เบี้ยที่มีอยู่จนหมด (หลังจากเบี้ยในถุงหมดแล้ว) 2.ในขณะเดียวกันฝ่ายตรงข้ามยังคงมีเบี้ยเหลืออยู่ ให้หาคะแนนรวมของตัวเบี้ยนั้นแล้วคูณด้วย 2 นำไปบวกให้กับผู้เล่นที่เป็นคนลงเบี้ยหมดก่อน (ยกเว้น BLANK ไม่ต้องติดลบ) 3.ในกรณีที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ไม่สามารถเล่นตัวเบี้ยที่เหลือในแป้นของเขาทั้งสองแล้ว และบอกผ่านครบสามครั้ง ก็ถือว่าเกมการเล่นสิ้นสุดลง การนับคะแนนโดยที่เอาคะแนนของเบี้ยที่เหลืออยู่ในแป้นลบออกจากคะแนนของตนเองโดยที่ไม่ต้องคูณ 2 (คะแนนของ BLANK เท่ากับศูนย์) ดูเพิ่ม อุปกรณ์และความหมาย วิธีเล่น การคิดและทำคะแนน ส่วนพิเศษในการเล่น หลักการคำนวณเบื้องต้น
thaiwikibooks
195,659
เอแม็ท/ส่วนพิเศษในการเล่น
1.การขอเปลี่ยนตัว ผู้เล่นสามารถขอเปลี่ยนเบี้ยได้โดยต้องเสียการเล่น 1 ตา การเปลี่ยนสามารถเปลี่ยนได้ตั้งแต่ 1-8 ตัว ยกเว้นถ้าตัวเบี้ยในถุงไม่ถึง 5 ตัว ไม่สามารถเปลี่ยนเบี้ยได้อย่างเด็ดขาด 2.การทำบิงโกเอแม็ท ในระหว่างการเล่นผู้เล่นคนใดสามารถลงเบี้ยได้ครบ 8 ตัวลงบนแป้นพร้อมกันในตาเดียว ผู้เล่นคนนั้นจะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 40 คะแนน นอกเหนือจากคะแนนที่ได้จากตาเล่นปกติ 3.การขอชาเล้นจ์ (CHALLENGE) หากผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเล่นลงสมการแล้วอีฝ่ายเห็นว่าผิดพลาดผู้เล่นขอเรียกชาเล้นจ์ได้เพื่อดูว่าถูกหรือเปล่าโดยอาจใช้เครื่องคิดเลขช่วย หากถูกต้องแล้วผู้ขอตรวจจะเสียตาเล่นไปหนึ่งตา แต่หากผิด ผู้ที่ลงผิดจะต้องยกตัวเบี้ยทั้งหมดในตานนั้นออกและได้คะแนนเป็นศูนย์ 4.เวลา ควรกำหนดเวลาในการลงแต่ละครั้งเพื่อความสนุกสนานในปกติไม่เกิน 3 นาทีในการเล่นแต่ละครั้ง 5.การผสมตัวเลข การลงเบี้ยแต่ละครั้งนั้นสามารถนำเลขโดด (0-9) จำนวน 2-3 ตัวมาวางติดกันเพื่อประกอบเป็นเลข 2 หลักได้ เช่น ใช้เบี้ย 1และ 2 มาประกอบเป็นเลข 12ได้ หรือใช้เบี้ย 1,8และ5 มาต่อเป็น185 6.การเปลี่ยนค่าเป็นเลขลบ สามารถเอาเครื่องหมายลบ มาวางไว้หน้าเบี้ย 1-20 และจำนวนต่างๆที่เกิดจากข้อ 5 เพื่อให้เป็นค่าลบได้ เช่น -6 = 4-10 หรือ -5 = -5 แต่ห้ามวางเครื่องหมายบวกลบคูณหารไว้ติดกัน เช่น -7 = 6+ -3 ไม่ได้ 7.ห้ามใช้ 0 ไปต่อหน้าตัวเลขทุกจำนวน เช่น 07,012 ถือว่าใช้ไม่ได้ทั้งหมด 8.ห้ามใช้เครื่องหมาย (+) หรือเครื่องหมาย (-) เติมหน้าตัวเลข 0 9.ห้ามใช้เครื่องหมาย (+) เติมหน้าตัวเลข เช่น +7 = 5+2 ดูเพิ่ม อุปกรณ์และความหมาย วิธีเล่น การคิดและทำคะแนน การสิ้นสุดเกมส์ หลักการคำนวณเบื้องต้น
thaiwikibooks
195,660
เอแม็ท/หลักการคำนวณเบื้องต้น
1.หาก “เครื่องหมาย × และ ÷ ”หรือ เครื่องหมาย + และ – อยู่ด้วยกัน ต้องทำตามลำดับก่อนหลัง เช่น 8×3÷6 = 1+1+2 = 4 หรือ 7-4+5 = 3+5 = 8 2.ต้องกระทำเครื่องหมายคูณและหารก่อนเครื่องหมายบวกลบ เช่น 4×3+4 ต้องคิดเป็น (4×3) +4 = 12+4 = 16 4×9÷2+5 = 23 ต้องคิดเป็น (4×9÷2) +5 = 18+5 = 8 3.ห้ามนำ 0 เป็นตัวหาร แต่หากใช้เป็นตัวตั้งแล้วจะหารด้วยเลขอะไรผลลัพธ์ได้ 0 เสมอ เช่น 5÷0 = หาค่าไม่ได้ แต่ 0÷5 = 0 4.ตัวอย่างการลงตัวโดยขยายสมการที่มีอยู่แล้วเมื่อผู้เล่นไม่มีเครื่องหมาย = เช่น จาก 2×2+1 = 10×1-5 เป็น 12÷3+1×1 = 10×1-5÷1 นอกจากนี้สามารถขยายต่อไปได้อีกโดยคงให้สมการสมดุล รวมถึงการทำให้สมมูลกัน เช่น 4+5 = 3×3÷1 เป็น 4+5 = 3×3÷1 = 81÷9 5.สมการสามารถคิดเป็นเศษส่วนได้ เช่น 2÷4 = 4÷8 น้อย น้อย ดูเพิ่ม อุปกรณ์และความหมาย วิธีเล่น การคิดและทำคะแนน การสิ้นสุดเกมส์ ส่วนพิเศษในการเล่น
thaiwikibooks
195,661
การจัดการองค์ความรู้
ทฤษฎีพื้นฐานด้านการจัดการความรู้ (Theory in Knowledge Management) ศท.ดร.701(952701) บทนำ บทนำ. การจัดการความรู้และแนวคิดเกี่ยวกับความรู้ - 张宏菊(Zhang hongju) การจัดการความรู้ประกอบไปด้วยชุดของการปฏิบัติงานที่ถูกใช้โดยองค์กรต่างๆ เพื่อที่จะระบุ สร้าง แสดงและกระจายความรู้ เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้และการเรียนรู้ภายในองค์กร อันนำไปสู่การจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการธุรกิจที่ดี องค์กรขนาดใหญ่โดยส่วนมากจะมีการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการจัดการองค์ความรู้ โดยมักจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศหรือแผนกการจัดการทรัพยากรมนุษย์ กรอบแนวคิดการจัดการความรู้ ตัวอย่างแผนผังอิชิกะวะ ส่วนหัวและตา (Knowledge Vision - KV) มองว่ากำลังจะไปทางไหน ซึ่งต้องตอบให้ได้ว่า "ทำ KM ไปเพื่ออะไร" ส่วนกลางลำตัว (Knowledge Sharing - KS) ส่วนที่เป็นหัวใจให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ช่วยเหลือ เกื้อกูลกันและกัน ส่วนหาง (Knowledge Assets - KA) คือ สร้างคลังความรู้ เชื่อโยงเครือข่าย ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ "สะบัดหาง" สร้างพลังจากชุมชนแนวปฏิบัติ กรอบความคิดของ Holsapple Holsapple ได้ทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับพัฒนาการของแนวคิดของการจัดการความรู้ 10 แบบมาประมวลซึ่งแสดงถึงส่วนประกอบของการจัดการความรู้ (KM elements) เพื่อนำไปจัดระบบเป็นองค์ประกอบหลัก 3 ด้านของการจัดการความรู้ (Three-fold framework) ได้แก่ ทรัพยการด้านการจัดการความรู้ กิจกรรมการจัดการความรู้ และอิทธิพลของการจัดการความรู้ และให้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ให้ข้อคิดเห็น วิจารณ์และข้อเสนอแนะ ได้ผลออกมาเป็นกรอบความร่วมมือ (Collaborative Framework) การจัดการความรู้ หรือเคเอ็ม (KM = Knowledge Management) คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด โดยที่ความรู้มี 2 ประเภท คือ 1) ความรู้ที่ฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาติญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ หรือการคิดเชิงวิเคราะห์ บางครั้งจึงเรียกว่าเป็นความรู้แบบนามธรรม 2) ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีต่าง ๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่าง ๆ และบางครั้งเรียกว่าเป็นความรู้แบบรูปธรรม นพ.วิจารณ์ พานิช ได้ระบุว่าการจัดการความรู้สามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย 4 ประการ ได้แก่ 1) บรรลุเป้าหมายของงาน 2) บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน 3) บรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปเป็นองค์กรเรียนรู้ 4) บรรลุความเป็นชุมชน เป็นหมู่คณะ ความเอื้ออาทรระหว่างกันในที่ทำงาน การจัดการความรู้เป็นการดำเนินการอย่างน้อย 6 ประการต่อความรู้ ได้แก่: การกำหนดความรู้หลักที่จำเป็นหรือสำคัญต่องานหรือกิจกรรมของกลุ่มหรือองค์กร การเสาะหาความรู้ที่ต้องการ การปรับปรุง ดัดแปลง หรือสร้างความรู้บางส่วน ให้เหมาะต่อการใช้งานของตน การประยุกต์ใช้ความรู้ในกิจการงานของตน การนำประสบการณ์จากการทำงาน และการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสกัด “ขุมความรู้” ออกมาบันทึกไว้ การจดบันทึก “ขุมความรู้” และ “แก่นความรู้” สำหรับไว้ใช้งาน และปรับปรุงเป็นชุดความรู้ที่ครบถ้วน ลุ่มลึกและเชื่อมโยงมากขึ้น เหมาะต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น เป้าหมายของงานที่สำคัญ คือ การบรรลุผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินการตามที่กำหนดไว้ ที่เรียกว่า Operation Effectiveness และนิยามผลสัมฤทธิ์ ออกเป็น 4 ส่วน คือ 1) การสนองตอบ (Responsiveness) ซึ่งรวมทั้งการสนองตอบความต้องการของลูกค้า สนองตอบความต้องการของเจ้าของกิจการหรือผู้ถือหุ้น สนองตอบความต้องการของพนักงาน และสนองตอบความต้องการของสังคมส่วนรวม 2) การมีนวัตกรรม (Innovation) ทั้งที่เป็นนวัตกรรมในการทำงาน และนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์หรือบริการ 3) ขีดความสามารถ (Competency) ขององค์กร และของบุคลากรที่พัฒนาขึ้น ซึ่งสะท้อนสภาพการเรียนรู้ขององค์กร และ 4) ประสิทธิภาพ (Efficiency) ซึ่งหมายถึงสัดส่วนระหว่างผลลัพธ์ กับต้นทุนที่ลงไป การทำงานที่ประสิทธิภาพสูง หมายถึง การทำงานที่ลงทุนลงแรงน้อย แต่ได้ผลมากหรือคุณภาพสูง เป้าหมายสุดท้ายของการจัดการความรู้ คือ การที่กลุ่มคนที่ดำเนินการจัดการความรู้ร่วมกัน มีชุดความรู้ของตนเอง ที่ร่วมกันสร้างเอง สำหรับใช้งานของตน คนเหล่านี้จะสร้างความรู้ขึ้นใช้เองอยู่ตลอดเวลา โดยที่การสร้างนั้นเป็นการสร้างเพียงบางส่วน เป็นการสร้างผ่านการทดลองเอาความรู้จากภายนอกมาปรับปรุงให้เหมาะต่อสภาพของตน และทดลองใช้งาน จัดการความรู้ไม่ใช่กิจกรรมที่ดำเนินการเฉพาะหรือเกี่ยวกับเรื่องความรู้ แต่เป็นกิจกรรมที่แทรก/แฝง หรือในภาษาวิชาการเรียกว่า บูรณาการอยู่กับทุกกิจกรรมของการทำงาน และที่สำคัญตัวการจัดการความรู้เองก็ต้องการการจัดการด้วย ทฤษฎีและกรอบแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการความรู้ หลักสูตรการจัดการความรู้จากทฤษฎีสู่ปฏิบัติ (KM Implementation) เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการให้กับคณะทำงาน เพื่อให้เข้าใจหลักการและขั้นตอนของการจัดการความรู้ และนำความรู้ไปใช้เป็นแนวทางในการประเมินความพร้อมขององค์กร รวมทั้งกำหนดเป้าหมายและวางแผนในการดำเนินการในเรื่องการจัดการความรู้ในองค์กร ซึ่งเมื่อเข้าใจหลักการและวิธีการแล้วก็จะนำเข้าสู่การจัดทำแผนการจัดการความรู้ โดยสามารถศึกษารายละเอียดการจัดทำแผนการจัดการความรู้ได้จาก คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ด้วยตนเองในเรื่องการจัดการความรู้ จากรายละเอียดใน KM Tool Kits เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีและแนวคิดต่างๆ ทางด้านการจัดการความรู้การจัดการ (management) เป็นกระบวนการของการวางแผน การอำนวยการและ การควบคุม เพื่อให้งานนี้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ซึ่ง ชุชาติ ประชากล (2513, หน้า 4-6) ได้อธิบายว่า: ประการแรก คือ การวางแผน การตั้งนโยบายของกลุ่ม วางวัตถุประสงค์และโครงการสำหรับอนาคต ประการที่สอง คือ การจัดมอบหมายความรับผิดชอบเฉพาะอย่างให้กับแผนกต่าง ๆ และระดับต่าง ๆ ทั้งทีมผู้ทำงาน การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ประการที่สาม ได้แก่ การควบคุมงานนั้น คือ การนำทางและเป็นผู้ชี้แนะทางให้เกิดความสะดวกในการตรวจสอบการปฏิบัติงาน และโดยการควบคุมนี้ผู้จัดการสามารถ พบว่า ได้มีการทำอะไรบัางเพื่อตอบสนองต่อวัตถุประสงค์และการมอบหมายงาน การบริหาร หมายถึง ใช้ศาสตร์และศิลป์ในการนำเอาทรัพยากรการบริหาร (administrative resource) มาประกอบกันขึ้นให้เป็นไปตามกระบวนการทางการบริหาร (process of administration) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ(สมพงษ์ เกษมสิน, 2514, หน้า 13-14) จากความหมายของการบริหารดังกล่าวมาแล้ว จะเห็นว่าการบริหารมีลักษณะเด่น เป็นสากลอยู่หลายประการ การบริหารย่อมมีวัตถุประสงค์ การบริหารอาศัยปัจจัยบุคคลเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุด การบริหารฅ้องใช้ทรัพยากรทางการบริหารเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน การบริหารมีลักษณะการดำเนินงานเป็นกระบวนการ การบริหารเป็นการดำเนินงานร่วมกันของกลุ่มบุคคล การบริหารมีลักษณะเป็นการร่วมมือกันดำเนินงานอย่างมีเหตุผล การบริหารนั้นได้เจริญเติบโตควบคู่มากับการดำรงชีพของมนุษย์ และเป็นสิ่งช่วยให้มนุษย์ดำรงชีพอยู่ร่วมกันไดัอย่างผาสุก จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลทำให้องค์การต่าง ๆ ต้องขยายงานด้านการบริหารงานให้กว้างขวางยิ่งขึ้น การบริหารเป็นเครื่องมือบ่งชี้ให้ทราบถึงความเจริญก้าวหน้าของสังคม ความก้าวหน้าทางวิชาการ (technology) ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรม ทำให้การบริหารเกิดการเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น การบริหารเป็นมรรควิธีที่สำคัญในอันที่จะนำสังคมและโลกไปสู่ความเจริญก้าวหน้า การบริหารจะช่วยให้ทราบถึงแนวโน้มทั้งในด้านความเจริญและความเสื่อมของสังคมในอนาคต การบริหารมีลักษณะเป็นการทำงานร่วมกันของกลุ่มบุคคลในสังคม ฉะนั้น ความสำเร็จของการบริหารจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยสภาพแวดล้อมทางสังคมและวัฒนธรรมทางการเมือง (political socio-cultural factors environment) อยู่เป็นอันมาก การบริหารมีลักษณะต้องใช้การวินิจฉัยสั่งการเป็นเครื่องมือ ซึ๋งนักบริหาร จะต้องคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ และการวินิจฉัยสั่งการนี้เองที่เป็นเครื่องมือแสดงให้ทราบถึงความสามารถของนักบริหารและความเจริญเติบโตของการบริหาร ชีวิตประจำวันของมนุษย์ไม่ว่าในครอบครัวหรือสำนักงานย่อมมีส่วนเกี่ยวพันกับการบริหารเสมอ ดังนั้น การบริหารจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและจำเป็นต่อการที่จะดำรงชีพอย่างฉลาด การบริหารกับการเมืองเป็นสิ่งควบคู่ที่แยกกันไม่ออก ฉะนั้นการศึกษาจึงต้องคำนึงถึงสภาพทางการเมืองด้วย ปัจจัยในการบริหาร โดยทั่วไปการบริหารงานจะต้องมีปัจจัยพื้นฐาน 4 ประการ หรือเรียกว่า ทรัพยากรการบริหาร (administration resources) คือ คน (man) เงิน (money) วัสดุอุปกรณ์ (material) และการจัดการ (management) หรือเรียกสั้นๆ ว่า 4M ปัจจัยทั้ง 4 ประการ นับว่าเป็นปัจจัยพื้นฐาน ทั้งนี้เพราะว่าการบริหารทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชนก็ตาม จำเป็นต้องอาศัย เงิน วัสดุ และการจัดการองค์การ เป็นองค์ประกอบที่ขาดเสียมิได้ แต่ปัจจุบัน ได้มีพิจารณาขยายขอบเขตของปัจจัยการบริหารกว้างขวางออกไปอีก เช่น Greenwood (อ้างถึงใน มัฆวาฬ สุวรรณเรือง, 2536, หน้า 52) ได้เสนอความเห็นว่า ปัจจัยในการบริหารไม่ได้มีเพียง 4 อย่างเท่านั้น แต่อย่างน้อยควรมี 7 อย่าง คือ คน เงิน พัสดุ อุปกรณ์ อำนาจหน้าที่ เวลา กำลังใจในการทำงาน และความสะดวกต่าง ๆ เป็นการแน่นอนว่า การบริหารงานจะต้องมีปัจจัยทั้ง 4M เป็นส่วนประกอบสำคัญ เพราะการที่จะดำเนินการให้สำเร็จตามนโยบายตามแผน หรือโครงการก็ต้องอาศัย กำลังคน เงิน วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการจัดการที่ดี โดยนำปัจจัยเหล่านี้มาผสมผสานกันอย่างเหมาะสม เพราะจะเห็นได้ว่า แม้องค์การหรือบริษัทหรือส่วนราชการต่าง ๆ จะมีขนาดและปัจจัยต่าง ๆ เท่า ๆ กัน แต่ผลงานที่ได้ออกมาไม่เท่ากัน ปัญหาจึงมีว่า หัวใจของการบริหารมิได้อยู่ที่ปริมาณมากน้อยของปัจจัยการบริหารเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการจัดการ ภาวะความเป็นผู้นำ สภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่จะทำให้เกิดผลงานที่ดีทั้งปริมาณและคุณภาพ ดังนั้น การบริหารงานใด ๆ ก็ตาม การที่จะไดัผลงานออกมา (output) ก็จำเป็นจะต้องปัจจัย 3 อย่าง ที่ใส่เข้าไปในงานก่อน (input) คือ คน เงิน และวัสดุ และมีกระบวนการในการจัดการให้ input factors ต่าง ๆ ผสมกลมกลืนกันเป็นอย่างดี ผลงานจะออกมาดีมีประสิทธิภาพ (อมร รักษาสัตย์ และขัตติยา กรรณสูต, 2515, หน้า 289) บรรณานุกรม อ้างอิง อ้างอิง. สมพงษ์ เกษมสิน. (2514). การบริหาร. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เกษมสุวรรณ. อมร รักษาสัตย์และขัตติยา กรรณสูต. (2515). ทฤษฎีและแนวความคิดในการพัฒนาประเทศ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. มัฆวาฬ สุวรรณเรือง. (2536). ประสิทธิผลของการนำนโยบายป้องปรามทุจริฅเลึอกตั้ง ของโครงการ ท.ม.ก. ไปปฏิบัติ: กรณีวิจัยปฏิบัติการเขตเลือกตั้ง ค. จังหวัด นครราชสีมา. วิทยานิพนธ์พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สืบค้นเมื่อ วันที่ 7 ธันวาคม 2553 การจัดการความรู้ในองค์กร การจัดการความรู้ (KM = Knowledge Management) คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด โดยที่ความรู้มี 2 ประเภท คือ ความรู้ที่ฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาตญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ หรือการคิดเชิงวิเคราะห์ บางครั้งจึงเรียกว่าเป็นความรู้แบบนามธรรม ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีต่าง ๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่าง ๆ และบางครั้งเรียกว่าเป็นความรู้แบบรูปธรรม บรรลุเป้าหมายของงาน บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน บรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปเป็นองค์กรเรียนรู้ บรรลุความเป็นชุมชน เป็นหมู่คณะ ความเอื้ออาทรระหว่างกันในที่ทำงาน โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการจัดการความรู้ องค์ประกอบสำคัญของการจัดการความรู้ (Knowledge Process) “คน” เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นแหล่งความรู้ และเป็นผู้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ “เทคโนโลยี” เป็นเครื่องมือเพื่อให้คนสามารถค้นหา จัดเก็บ แลกเปลี่ยน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้อย่างง่าย และรวดเร็วขึ้น “กระบวนการความรู้” เป็นการบริหารจัดการ เพื่อนำความรู้จากแหล่งความรู้ไปให้ผู้ใช้ เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุง และนวัตกรรม การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง "yui_maliwan" เมื่อใดที่แต่ละหน่วยงาน มีการดำเนินการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานไม่ว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบกับบุคคลในวงแคบ หรือกว้าง ย่อมแสดงว่า การเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้วในหน่วยงานนั้น โดยทั่วไป การตอบสนองของมนุษย์ต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น สามารถแยกออกเป็น 3 รูปแบบ คือ การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง การไล่ตามการเปลี่ยนแปลง การนำการเปลี่ยนแปลงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ • is a structured approach to transitioning individuals, teams, and organizations from a current state to a desired future state • เป็นการใช้เทคนิควิธีที่เป็นระบบ เพื่อประกันว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เป็นไปตามทิศทางที่ได้วางแผนไว้ และก่อให้เกิดความคุ้มค่า และประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมทั้งบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ • ผลจากการบริหารการเปลี่ยนแปลง คือ การเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงานจากการใช้องค์ความรู้ของการบริหารการเปลี่ยนแปลง เพื่อเพิ่มศักยภาพของหน่วยงานในการประยุกต์ และรับเอาเทคนิควิธีต่างๆ เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงาน • Strategic changes • Technological changes • Structural changes • Changing the attitudes and behaviors of personnel • Defensive routine • We do not want to put others or ourselves into positions that could be threatening or embarrassing. • Do not want to change • Do not want to share Organizational defensive routines • anti-learning and overprotective • อย่างเดิมก็ดีอยู่แล้ว • เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ผู้อื่น • การเข้าพวก (informal organization) การบริหารการเปลี่ยนแปลง ความสำคัญของผู้บริหารระดับกลาง • บุคลากรในหน่วยงานจะมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดังนี้ ผู้บริหารระดับสูง มักจะเลือกใช้วิธีการ “แยกตัว” จากวงจรการเปลี่ยนแปลง เพราะถือว่า การเปลี่ยนแปลงกระทบผู้ปฏิบัติการ ไม่ใช่ตนเอง จึงมอบหมายความรับผิดชอบให้ผู้บริหารระดับกลางดำเนินการทั้งหมด แม้ว่าจะมีการเข้าร่วมในการกำหนดกลยุทธ์ และได้รับข้อมูลต่างๆ จากรายงาน ยังคงเลือกที่จะไม่พบปะพูดคุยกับบุคลากรในหน่วยงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง แต่กลับคาดหวังว่าผู้ปฏิบัติจะปฏิบัติตามแผนเมื่อมีการประกาศใช้ และจะกล่าวโทษผู้บริหารระดับกลางเมื่อมีการต่อต้านเกิดขึ้น ผู้บริหารระดับกลาง จะเป็นผู้ที่ถูกกดดันมากที่สุด เพราะต้องผลักดันการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น โดยยังขาดข้อมูลและการแนะนำจากผู้บริหารระดับสูงในการตัดสินใจกำหนดลำดับความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละประเด็น รวมทั้งยังถูกกดดันจากผู้ปฏิบัติที่มักจะระบายความไม่พอใจมายังผู้บริหารระดับกลาง ระดับผู้ปฏิบัติงาน จะรู้สึกว่าหน่วยงานไม่ยุติธรรม และไม่เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการกระทำเพื่อผลประโยชน์ของตน จึงรู้สึกต่อต้าน โกรธ ไม่พอใจ และสับสน สภาวการณ์เช่นนี้มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เพราะบุคลากรไม่กล้าตัดสินใจ ขาดความริเริ่ม และไม่ทดลองสิ่งใหม่ๆ รวมทั้งสูญเสียความสัมพันธ์ระหว่างตนกับหน่วยงาน Domain 1 การวางแผนการเปลี่ยนแปลง และดำเนินการอย่างเป็นระบบ การบริหารปฏิกิริยาตอบโต้การเปลี่ยนแปลง Change Agent : เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง องค์ความรู้ Body of Knowledge (รูปแบบวิธีการ เทคนิค เครื่องมือ ทักษะ ที่เมาะสมในการบริหารการเปลี่ยนแปลง) • ปัจจัยแห่งความสำเร็จไม่ใช่อยู่ที่กระบวนการจัดการองค์ความรู้ที่ดี แต่อยู่ที่การจัดการวิธีบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) การปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ ให้เกิดขึ้นในองค์กร กระบวนการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง Change Management Process เป็นกรอบความคิด เพื่อให้องค์กรที่ต้องการจัดการความรู้ภายในองค์กร ได้มุ่งเน้นถึงปัจจัยแวดล้อมภายในองค์กร ที่จะมีผลกระทบต่อการจัดการความรู้ เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงสู่การจัดการความรู้ในองค์กร 1. การเตรียมการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Transition & Behavior) โครงสร้างพื้นฐานขององค์กร => สร้างทีม KM เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ วางแผนการเปลี่ยนแปลงเพื่อการจัดการความรู้ • กำหนดเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลง • วางแผนให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วม (เน้นผู้บริหารระดับสูง เพื่อให้ทุกคนเห็น) • วางแผนปฏิบัติงาน • การคาดการณ์การต่อต้าน และผลกระทบ 2. การสื่อสาร (communication) เช่น กิจกรรมที่ทำให้ทุกคนเข้าใจถึงสิ่งที่องค์กรจะทำ, ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับทุกคน, แต่ละคนจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร การสื่อสารในองค์กร กระจายข้อมูลการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วที่สุด ใช้วิธีการให้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลง หลีกเลี่ยงการสร้างภาพในทางที่ผิด กำจัดข่าวลือโดยเร็ว 3. กระบวนการและเครื่องมือ (process & tools) กระบวนการจัดการความรู้ (in general) • การจัดหาความรู้ (knowledge acquisition) • การจัดเก็บและค้นคืนความรู้ (knowledge storage and retrieval) • การใช้ความรู้ (knowledge Utilization) • การเคลื่อนย้าย กระจาย แบ่งปันความรู้ (knowledge transfer, distribution, sharing) • การสร้างความรู้ใหม่ (knowledge creation) เครื่องมือการจัดการความรู้ Codified Mode • ชุมชนนักปฏิบัติ – Community of Practice : CoP • ฐานข้อมูลวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ – Best Practices Databases • ฐานความรู้บทเรียน – Lessons Learned Database • Forum Q&A • Yellow Pages • Document Management System • e-Learning • Knowledge Portal • Simulation Personalize Mode • ชุมชนนักปฏิบัติ – Community of Practice : CoP • แหล่งผู้รู้ในองค์กร – Center of Excellence • Story Telling • After Action Review • Monitoring Program • สุนทรีย์สนทนา (Dialogue) • เพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Assist) • Cross-Functional Team 4. วิธีการสำหรับการเรียนรู้ (learning methodology) เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและหลักการของการจัดการความรู้ โดยการเรียนรู้ต้องพิจารณาถึง เนื้อหา, กลุ่มเป้าหมาย, เครื่องมือ, การประเมินผลและปรับปรุง 5. การวัดผล (measurement) เพื่อให้ทราบว่าการดำเนินการได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่, – มีการนำผลของการวัดมาใช้ในการปรับปรุงแผนและการดำเนินการให้ดีขึ้น – มีการนำผลการวัดมาใช้ในการสื่อสารกับบุคลากรในทุกระดับให้เห็นประโยชน์ของการจัดการความรู้ การประเมินตามรูปแบบ CIPP Model การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation : C) – เป็นการประเมินก่อนการดำเนินการโครงการ เพื่อพิจารณาหลักการและเหตุผล ความจำเป็นที่ต้องดำเนินโครงการ ประเด็นปัญหา และความเหมาะสมของเป้าหมายโครงการ การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation : I ) การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation : P ) การประเมินผลผลิต (Product Evaluation : P ) เกณฑ์การวัดความสำเร็จ เกณฑ์ประสิทธิภาพ (Efficiency) มีตัวชี้วัด เช่น สัดส่วนของผลผลิตต่อค่าใช้จ่าย ผลิตภาพต่อหน่วยเวลา ผลิตภาพต่อกำลังคน ระยะเวลาในการให้บริการผู้ป่วย เกณฑ์ประสิทธิผล (Effectiveness) มีตัวชี้วัดเช่น ระดับการบรรลุเป้าหมาย ระดับการบรรลุตามเกณฑ์มาตรฐาน ระดับการมีส่วนร่วม เกณฑ์ความพอเพียง (Adequacy) มีตัวชี้วัด เช่น ระดับความพอเพียงของทรัพยากร เกณฑ์ความพึงพอใจ (Satisfaction) มีตัวชี้วัด เช่น ระดับความพึงพอใจ เกณฑ์ความเป็นธรรม (Equity) มีตัวชี้วัดคือ การให้โอกาสกับผู้ด้อยโอกาส ความเป็นธรรมระหว่างเพศ ระหว่างกลุ่มอาชีพ ฯลฯ เกณฑ์ความก้าวหน้า (Progress) มีตัวชี้วัด เช่น ผลผลิตเปรียบเทียบกับเป้าหมายรวมกิจกรรมที่ทำแล้วเสร็จ ทรัพยากร และเวลาที่ใช้ไป เกณฑ์ความยั่งยืน (Sustainability) ตัวชี้วัด เช่น ความอยู่รอดของโครงการด้านเศรษฐกิจสมรรถนะด้านสถาบัน ความเป็นไปได้ในด้านการขยายผลของโครงการ เกณฑ์ความเสียหายของโครงการ (Externalities) มีตัวชี้วัด เช่น ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ผลกระทบด้านสังคมและวัฒนธรรม เป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการมีส่วนร่วมของบุคลากรในทุกระดับ โดยข้อควรพิจารณาได้แก่ ค้นหาความต้องการของบุคลากร,แรงจูงใจระยะสั้นและระยะยาว, บูรณาการกับระบบที่มีอยู่, ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกิจกรรมที่ทำในแต่ละช่วงเวลา อ้างอิง อ้างอิง. อาจารย์ ดร.ปิติพงษ์ ยอดมงคล เอกสารประกอบการเรียนการสอน กระบวนวิชา 952701 : ทฤษฎีพื้นฐานด้านการจัดการความรู้ 6.การจัดการความรู้และองค์กรแห่งการเรียนรู้ "yui_maliwan" ระบบจัดการความรู้ในองค์กร KM TEAM แผนการจัดการความรู้ KM Action Plan การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) + การจัดการความรู้ Knowledge Management (Process) Knowledge as a product Transfer of knowledge and best practices Customer-focused knowledge Personal responsibility for knowledge Intellectual-asset management Can we do it? • การเปลี่ยนแปลง วัฒนธรรมขององค์กร – การเปลี่ยนแปลงค่านิยม – การเปลี่ยนแปลงความประพฤติ ของบุคลากร • Knowledge Implementation – Change – Learning – Innovation • Knowledge Evaluation – What is the valuable knowledge for Org.? ระบบการจัดการความรู้ในองค์กร: KM System Model Methodology KM-Co-ordination Process (Master Plan), KM Operation Process กระบวนการในแต่ละขั้น Input>Process>Output •Input»Input link •ข้อมูลทั่วไปขององค์กร •ความรู้ขององค์กร และการจัดการความรู้ในองค์กร มีหรือไม่ อย่างไร •การไหลเวียนของ ข้อมูลและองค์ความรู้ของในองค์กร ภายใน – ภายนอก / การเข้า – ออก ของข้อมูลและความรู้ •ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการจัดกาความรู้ในองค์กร •Process»Activities •กำหนดขอบเขตที่สามารถดำเนินการจัดการความรู้ในองค์กร •เปรียบเทียบ และตัดสินใจความเป็นไปได้ของต้นทุน ความคุ้มค่า และผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อองค์กร •คัดเลือกขอบเขตที่เหมาะสมในการจัดการความรู้ในองค์กร •Output»Product»>Output Link Product ได้ขอบเขต (แผนกหรือหน่วยงาน) ที่จะดำเนินการจัดการความรู้ (KM ทำจากเล็กไปใหญ่) Output Link แผนกหรือหน่วยงานที่จะดำเนินการจัดการความรู้ ที่จะต้องมีการปรับตัว และจะมีผลต่อกิจกรรมในหน้าที่ของแผนกหรือหน่วยงานนั้น Co-ordination Process 1 Analyze: ขั้นการวิเคราะห์ 1.1 Scope Definition (ขอบเขตองค์กร) 1.2 Generation of Knowledge Map (แผนที่ความรู้) 1.3 Analysis of Knowledge Management (การวิเคราะห์การจัดการความรู้ขององค์กร) 1.4 Analysis of Knowledge Culture (การวิเคราะห์วัฒนธรรมความรู้ขององค์กร) 1.2 Generation of k-maps การสร้างแผนที่ความรู้ • ผลจาก 1.1 ขอบเขตการดำเนินการ KM • เอกสารการปฏิบัติงาน เช่นโครงสร้างองค์กร /กระบวนการปฏิบัติงาน (workflow) /Job Description • บันทึกการทำงาน การอบรม จากหน่วย HR • เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นถึงการนำความรู้ไปทำงาน • Process»Activities •วิเคราะห์เอกสาร เพื่อบ่งชี้ ผู้มีความรู้ในงานแต่ละหน้าที่ •วิเคราะห์เอกสาร เพื่อบ่งชี้ ว่าองค์ความรู้เกิดขึ้นได้อย่างไรในแผนก หรือองค์กร •องค์ความรู้ถูกจัดเก็บไว้ที่ใด แบบใด •สร้างแผนที่ความรู้ เพื่อบ่งชี้ผู้มีความรู้ บ่งชี้การสร้างสรรค์ความรู้ หรือบ่งชี้การจัดเก็บความรู้ •เปรียบเทียบ และตัดสินใจความเป็นไปได้ของต้นทุน ความคุ้มค่า และผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อองค์กร •คัดเลือกขอบเขตที่เหมาะสมในการจัดการความรู้ในองค์กร •Output»Product»>Output Link Product ได้แผนที่ความรู้ เพื่อบ่งชี้ผู้มีความรู้ บ่งชี้การสร้างสรรค์ความรู้ หรือบ่งชี้การจัดเก็บความรู้ Output Link - แผนที่ความรู้ที่มีข้อมูลจากการวิเคราะห์ สำหรับการวิเคราะห์ในขั้น 1.3 - แผนที่ความรู้อาจสะท้องถึงช่องว่างความรู้ สำหรับการวิเคราะห์ในขั้น 1.4 Note: แหล่งความรู้ และองค์ความรู้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ 1.3 Analysis of KM องค์กรต้องสืบสำรวจว่ามีการสร้างองค์ความรู้ในองค์กร และมีการกระจายถ่ายทอดองค์ความรู้นั้นๆ อย่างไร การสืบสำรวจต้องดำเนินการทั้ง •ทางแนวดิ่ง (Vertical top-down /management to employees communication) •ทางแนวราบ (Horizontal /between employees communication) •การถ่ายทอดความรู้สู่ภายนอกหรือรับองค์ความรู้จากภายนอก •การถ่ายทอดความรู้แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ •Input»Input link - ผลจาก1.1 ขอบเขตการจัดการความรู้ - ผลจาก 1.2 แผนที่ความรู้ • Process»Activities - วิเคราะห์กระบวนการบริหารจัดการงาน แต่ละขั้นตอนต้องการองค์ความรู้อะไร - วิเคราะห์ว่าองค์ความรู้ถูกสร้างขึ้นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใคร เมื่อใด อย่างไร - สอบถามถึงปัญหาในการสื่อสารข้อมูล องค์ความรู้ขององค์กร - วิเคราะห์แผนที่ความรู้เพื่อหาช่องว่างจุดอ่อนความรู้ในโครงสร้างองค์กร •Output»Product»>Output Link Product ผลการวิเคราะห์กระบวนการและวิธีการของการหมุนเวียนองค์ความรู้ Output Link กระบวนการและวิธีการของการหมุนเวียนองค์ความรู้ สามารถนำมาใช้ในขั้นตอน 1.4 (K-Culture) และขั้นตอน 2.1 (Goals of Improvement) 4 Analysis of Knowledge Culture •ถ้าองค์กรทีพฤติกรรมเหล่านี้ คือ – การกักเก็บความรู้ใว้แต่เพียงผู้เดียว – การไม่ยอมรับว่าหน่วยงานทีปัญหา (กลัวเสียหน้า)– การทำงานแบบฉายเดี่ยว องค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรให้เหมาะสมกับการจัดการความรู้ การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรเพื่อการจัดการความรู้ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง มีแผนการที่แน่ชัด •Input»Input link •ผลจาก 1.2 แผนที่ความรู้ สามารถนำมาบ่งชี้ความผิดปกติที่อาจเป็นอุปสรรคในการจัดการความรู้ •ผลจาก 1.3 สามารถนำมาบ่งชี้ว่ากระบวนการสื่อสารในองค์กรอาจจะเป็น อุปสรรคในการจัดการความรู้ •เอกสารขององค์กร นโยบาย แนวทางการบริหารจากผู้บริหาร ระเบียบงาน •Process»Activities - วิเคราะห์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้มีหรือไม่อย่างไร[what-when-where-how] - อะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ - อะไรที่เป็นเงื่อนไขให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในองค์กร - ผู้บริหารระดับสูงมีความเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขององค์กรอย่างไร? • Output»Product»>Output Link Product ผลการวิเคราะห์กระบวนการและวิธีการของการหมุนเวียนองค์ความรู้ Output Link ผลการวิเคราะห์จะเป็นประโยชน์กับการสร้างเป้าหมายของKM ขององค์กร ขั้นตอน 2.1 (Goals of Improvement) แหล่งข้อมูลอ้างอิง อาจารย์ ดร.ปิติพงษ์ ยอดมงคล เอกสารประกอบการเรียนการสอน กระบวนวิชา 952701 : ทฤษฎีพื้นฐานด้านการจัดการความรู้ ก่อนที่Domain จะมีการจัดการความรู้จะต้องการการกำหนดองค์ความรู้ที่และ requirement ต่างๆ ที่ Domain ต้องการ 1. Indentification of need forKnowledge 2. Knowledge Pull 3. Knowledge Push 4 Creation of Knowledge 5 Knowledge Collection & Storage 6 Knowledge Update ข้อมูลความรู้เพิ่มเติม องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) »yui_maliwan» ข้อมูลความรู้เพิ่มเติม. การมีองค์การแห่งการเรียนรู้นี้จะทำให้องค์การและบุคลากร มีกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิผล โดยมีการเชื่อมโยงรูปแบบของการทำงานเป็นทีม (Team working) สร้างกระบวนการในการเรียนรู้และสร้างความเข้าใจเตรียมรับกับความเปลี่ยนแปลง เปิดโอกาสให้ทีมทำงานและมีการให้อำนาจในการตัดสินใจ (Empowerment) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศของการคิดริเริ่ม (Initiative) และการสร้างนวัตกรรม (Innovation) ซึ่งจะทำให้เกิดองค์การที่เข้มแข็ง พร้อมเผชิญกับสภาวะการแข่งขัน Learning Organization หรือ การทำให้องค์การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ เป็นคำที่ใช้เรียกการรวมชุดของความคิดที่เกิดขึ้นมาจากการศึกษาเรื่องขององค์การ Chris Argyris ได้ให้แนวคิดทางด้าน Organization Learning ร่วมกับ Donald Schon ไว้ว่า เป็นกระบวนการที่สมาชิกขององค์การให้การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก ด้วยการตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเสมอ ๆ ในองค์การ องค์ประกอบขององค์การแห่งการเรียนรู้ องค์การแห่งการเรียนรู้ คือ การพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของคนทำงานบนพื้นฐานของการเรียนรู้ (Learning Base) โดยมีกระบวนการ ดังนี้ กำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมในเชิงปฏิบัติการ คือ 1 กลยุทธ์ชี้นำ (Surge Strategy) โดยคณะผู้บริหารระดับสูงร่วมรับผิดชอบและสนับสนุน 2 กลยุทธ์ปลูกฝัง(Cultivate Strategy) โดยให้คณะทำงานในสายงานด้านทรัพยากรบุคคลเป็นผู้รับผิดชอบ 3 กลยุทธ์ปฏิรูป (Transform Strategy) โดยคณะทำงานพิเศษจากทุก ๆ หน่วยงานในองค์การมาร่วมกันรับผิดชอบดำเนินการ กำหนดแผนงานให้ชัดเจน ดังนี้ 1 ปรับโครงสร้างในการบริหารให้เป็นการทำงานแบบทีม 2 จัดทำแผนทรัพยากรบุคคลให้สอดคล้องกับโครงสร้างในการบริหารงานให้มีลักษณะเป็นหารทำงานเป็นทีม โดยวางแผนพัฒนาองค์ความรู้ โดยการฝึกอบรม และพัฒนาประสบการณ์พร้อมทักษะจากการเรียนรู้ในที่ทำงาน 3 จัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ประกอบการฝึกอบรม และการเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ เช่น ห้องฝึกอบรม ห้องประชุม โสตทัศนูปกรณ์ เป็นต้น เปิดโอกาสให้ทุกคนได้รับรู้กลไกของการพัฒนาและผลกระทบทุก ๆ ด้านที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง พัฒนาพื้นฐานสำคัญขององค์การเรียนรู้ดังนี้ 1 มุ่งสู่ความเป็นเลิศ (Personal Mastery) เพื่อให้เก่งในทุก ๆ ด้าน เก่งในการเรียนรู้ เก่งคิด เก่งทำ มีไหวพริบปฏิภาณ มีความเพียรพยายามตั้งแต่เยาว์วัยและใฝ่รู้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เพื่อให้สอดคล้องกับโลกยุคโลกาภิวัตน์ซึ่งเป็นโลกแห่งการเรียนรู้ (Knowledge-based) ที่ต้องมีการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต โดยมีการคำนึงถึงประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ •มุ่งมั่นสร้างสรรค์ (Creative Tension) มีความขยัน ใฝ่ดี มีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา •ใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจ เพื่อให้มีระบบคิด และการตัดสินใจที่ดี •ฝึกใช้จิตใต้สำนึก (Subconcious) สั่งงาน เพื่อให้กากรทำงานเป็นไปโดยอัตโนมัติ และได้ผลงานที่ดี 2 รูปแบบวิธีการคิดและมุมมองที่เปิดกว้าง (Mental Model) ซึ่งเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ที่ได้สะสมมาตั้งแต่เด็กกับพื้นฐานของวุฒิภาวะทางอารมณ์ของแต่ละบุคคล ทำให้ความคิดและความเข้าใจของแต่ละคนแตกต่างกัน และหากปล่อยให้ต่างคนต่างคิดจะกลายเป็นปัญหาใหญ่เพราะมีการยึดติด กับรูปแบบและวิธีการที่ตนเองคุ้นเคย ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัว 3 การสร้างและสานวิสัยทัศน์ (Share Value) ให้ทุกคนได้รู้ได้เข้าใจ จะได้สนับสนุนและมีส่วนร่วมในการดำเนินการให้เป็นรูปธรรม โดยมีการนำวิสัยทัศน์ที่ได้สร้างขึ้นมาเป็นเป้าหมายของการกำหนดแผนกลยุทธ์ เพื่อสานให้วิสัยทัศน์เป็นจริงด้วยแผนการปฏิบัติต่อไป 4 การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team Learn) เป็นการเน้นการทำงานเป็นทีมโดยให้ทุกคนในทีมงานใช้วิจารณญาณร่วมกันตลอดเวลาว่า กำลังทำงานอะไร จะทำให้ดีขึ้นอย่างไร เป็นการเรียนรู้ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลสามัคคี ขยันคิด ขยันเรียนรู้ และขยันทำด้วยความเชื่อว่าการเรียนรู้ในลักษณะนี้จะช่วยเสริมสร้างอัจฉริยะภาพของทีมงาน 5 ความคิดความเข้าใจเชิงระบบ (System Thinking) เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนถึงความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ทำให้มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นภาพรวม จะได้สามารถเผชิญกับภาวะวิกฤติ และการแข่งขันได้ พัฒนาพนักงานในระดับผู้นำองค์การ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าโครงการ หรือหัวหน้าทีมงาน ให้มีความเข้าใจบทบาทของผู้นำในองค์การเรียนรู้จะได้มีการปฏิบัติติให้มีคุณลักษณะเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ และเป็นผู้ให้การสนับสนุนผู้อื่นในการปฏิบัติงานให้ราบรื่น มอบหมายพันธกิจ (Mision) และกระบวนงานต่าง ๆ แก่ทีมงานเพื่อให้สามารถบริหารและรับผิดชอบด้วยตัวเองได้ เป็นการเพื่ออำนาจให้แก่พนักงาน จะได้เกิดความคล่องตัว สร้างวัฒนธรรมองค์การด้านการพัฒนา และปรับปรุงงานให้ดีขึ้นตลอดเวลา ทำการประเมินผล (Assessment) เพื่อปรับปรุงผลงานเสมอ ทฤษฎีวงจรการเรียนรู้สองระดับ Double loop learning เป็นแนวคิดในการพัฒนาองค์กรโดยเน้นการพัฒนาการเรียนรู้สภาวะของการเป็นผู้นำในองค์กร (Leadership) และ การเรียนรู้ร่วมกัน ของคนในองค์กร (Team Learning) เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และทักษะร่วมกัน และพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องทันต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขัน Chris Argyris ได้ให้แนวคิดทางด้าน Organization Learning ร่วมกับ Donald Schon ไว้ว่า เป็นกระบวนการที่สมาชิกขององค์กรให้การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก ด้วยการตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเสมอ ๆ ในองค์กร การเรียนรู้ขององค์กรที่สำคัญ Sociotechnical System (ระบบเทคนิคการเข้าสังคม) Organization Strategy (กลยุทธ์องค์กร) Production (การผลิต) Economic Development (การพัฒนาทางเศรษฐกิจ) Systems Dynamics (พลวัตของระบบต่างๆ ภายในองค์กร) Human Resources (ทรัพยากรมนุษย์) Organizational Culture (วัฒนธรรมองค์กร) Chris Argyris “Defensive Routine” Single-loop learning Organization Model I = theory-in-action or know-how เน้นการทำงาน หรือ วิธีทำ Double-loop Learning Organization Model II = Theory-in use or know-why เน้นการอธิบาย Ice Breaking Techniques การกำจัดความเย็นชาระหว่างบุคคล Balance Scorecard สร้าง Feedback Loop ในระดับองค์กร Chris Argyris และ Donald Schon ได้ให้คำนิยามการเรียนรู้สองรูปแบบที่มีความสำคัญในการสร้าง Learning Organization คือ Single Loop Learning ( First Order / Corrective Learning) หมายถึง การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นแก่องค์การเมื่อการทำงานบรรลุผลที่ต้องการลักษณะการเรียนรู้แบบที่สองเรียกว่า Double Loop Learning (Second Oder/Generative Learning)หมายถึงการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเมื่อสิ่งที่ต้องการให้บรรลุผลหรือเป้าหมายไม่สอดคล้องกับผลการกระทำ Model I Single-loop learning Organization Model I = theory-in-action or know-how เน้นการทำงาน หรือ วิธีทำ Working procedure Working Instruction Defensive Routine Model II Double-loop Learning Organization Model II = Theory-in use or know-why เน้นการอธิบาย Governing variable Ice breaking To build a Balance Score Card (BSC) Identify Vision and Missions Build a Strategy Map (Strategy Themes at four perspectives and its cause-effect links) Identified weight for each perspective and every strategic theme in the perspective Build a corporate balanced scorecard on each strategy themes(objectives, measures, targets and initiatives) Prioritize and Distribute targets to SBUs and SMUs ระดับของการเรียนรู้ขององค์การ Single Loop learning - how …..better Double Loop Learning – why….do different Triple Loop Learning – focus on propose of Org. (hardest) ความรู้เบื้องต้นเรื่ององค์กรและทุนทางปัญญาIntellectual Capital • ความแตกต่างระหว่างมูลค่าทางการตลาดและค่าทางบัญชี (James, 1997, p.92) • ผลรวมของความรู้ของสมาชิกและวิธีการปฏิบัติในการแปลความรู้ให้อยู่ในรูปของยี่ห้อ เครื่องหมายการค้า และบริการ (Roos et al., 1997, p.27) ทุนมนุษย์ บทบาทของ HR องค์การคุณภาพสูง ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ด้าน คือ - ทุนมนุษย์ คือ สิ่งที่อยู่ในตัวคน เช่น ความรู้ ทักษะ - ทุนโครงสร้าง คือ ลักษณะโครงสร้างขององค์กร - ทุนความสัมพันธ์ คือ ความสัมพันธ์เชิงสังคมที่คนมี เหตุผลที่ทำให้ทุนทางปัญญามีความสำคัญ ทุนทางปัญญา ไม่เสื่อมค่าตามเวลา และไม่เสื่อมค่าตามการใช้งาน ปัจจุบันเป็นยุกต์บริการ ซึ่งการบริการสมัยใหม่ จะเกิดจากการคิดค้นรูปแบบบริการใหม่ๆ ซึ่งเกิดจากปัญญาของคน ดังนั้น ทุนทางปัญญาจึงมีความสำคัญ คนที่มีความสามารถเป็นที่ต้องการของหลายหน่วยงาน ดังนั้นการรักษาทรัพย์ยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าจึงเป็นทุนทางปัญญาอย่างหนึ่ง ผู้บริหารมักจะไม่รู้ว่าบุคลากรที่มีความสามารถอยู่ที่ใด ดังนั้นในการไล่พนักงานออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย จึงทำให้คนที่มีความสามารถออกไปด้วย ( ทั้งนี้เนื่องจากคนที่มีความสามารถจะอยู่ทำงานที่มีอนาคต ดังนั้นหากบริษัทใดเอาพนักงานออกแสดงว่าขาดทุน คนเก่งก็จะไม่อยู่ด้วย ) คนมีความสามารถมักจะเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงและบริหารยาก ดังนั้นผู้บริหารจะไม่ชอบคนที่มีความสามารถสูง เนื่องจากควบคุมไม่ได้ ผู้บริหารมักเข้าใจผิด เรื่องทุนทางปัญญา ว่าเป็นแค่ “ ความรู้สูง “ เท่านั้น ทั้งที่ทุนทางปัญญา หมายความรวมถึง “ การเป็นคนดีของสังคมด้วย “ ( จิตสำนึกดี ) Commitment ดังนั้นในปัจจุบันจึงไม่คนเก่งจำนวนมากที่ฉ้อโกงรัฐ การเพิ่มจิตสำนึกที่ดี Commitment . ลด Demand , เพิ่ม Supplay และ เปลี่ยนปัญหาเป็นความรู้ . การลดความต้องการ ( ลด Demand ) คือ ลดความต้องการที่องค์กรอยากได้จากตัวพนักงาน ให้เหลือเท่าที่จำเป็น ตามหน้าที่ของแต่ละคน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับงานของตัวเอง และจะเกิดจิตสำนึกที่ดีตามมา b. ตั้งเป้าหมายงานของแต่ละคน ให้ตรงกับเป้าหมายขององค์กร c. ปรับโครงสร้างให้มีความเหมาะสม การเพิ่มทรัพย์ยากร คือ การเพิ่มความสามารถในการทำงานให้กับพนักงาน b. แจ้งเป้าหมายการทำงานให้ผู้ปฎิบัติงานทราบ จะได้ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน c. ให้งานที่ท้าทายความสามารถ d. การสร้างทีมเวอร์ค e. สร้างวัฒนธรรมในองค์การที่เอื้อต่อการทำงาน และสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ f. การแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเหมาะสม g. การสร้างระบบข้อมูลที่ดี มีการเผยแพร่ความรู้ h. สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ภายในองค์การ i. การใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงาน j. การอบรมและพัฒนาศักยภาพของคนในองค์การ เปลี่ยนความต้องการเป็นทรัพยากร b. การปรับตัวกับหัวหน้าที่เข้ามาใหม่ เพื่อลดความเป็นทางการในการทำงาน c. การดูและพนักงานถึงครอบครัว เช่น การรับลูกเมียของพนักงานเข้ามาทำงานด้วยกันในองค์กร d. การให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ สรุป ความสามารถ และจิตสำนึกดี เป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน เพื่อสร้างทุนทางปัญญาที่แท้จริงได้ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว ก็ไม่นับว่าเป็นทุนทางปัญญา ทุนมนุษย์ ความเป็นมาของการศึกษาเรื่องทุนมนุษย์ มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยเดิม ที่มีการปฏิวัตรอุตสาหกรรม และต่อมาก็ได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ คือ สมัยก่อน มองคนเป็น ค่าใช้จ่าย ดังนั้น การลดพนักงาน เพื่อลดต้นทุน จึงเป็นเป้าหมายของการบริหาร ปัจจุบัน มองคนเป็น สินทรัพย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่า ต้องมีการพัฒนาเพิ่มศักยภาพในการทำงาน เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ และมีปริมาณมากขึ้น อนาคต ต้องมองคนเป็น นักลงทุน เนื่องจาก การมองคนเป็นสินทรัพย์นั้น องค์กรต้องเป็นผู้พัฒนาศักยภาพของคน แต่หากคนเป็นการลงทุนแล้ว คนจะเป็นผู้แสวงหาความรู้เอง การมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ตามเงื่อนไขของการลงทุน คือ “ ผลตอบแทนที่คุ้มค่า “ เช่น การลงทุน ในการศึกษา เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอน ยกเว้น การลงทุนในลูก ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ ตัวชี้วัดของทุนมนุษย์ ดูจากความรู้ ความสามารถ ความสามารถในการเรียนรู้ ความสามารถในการตัดสินใจ แรงจูงใจในการทำงาน จิตสำนึกดี การทำงานเป็นทีม ค่านิยมของตัวผู้บริหารเอง เช่น ในเครื่องการให้ความสำคัญกับการศึกษา ทัศนคติที่มีต่อความเสี่ยง เช่น เป็นคนกล้าเสี่ยงลงทุนหรือไม่ ลักษณะของงานบังคับให้ต้องมีการลงทุน ในมนุษย์ มิเช่นนั้น จะไม่สามารถทำงานได้ อรรถประโยชน์สูงสูด คือ คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ การเปรียบเทียบว่าหาจากภายนอก (ซื้อ) จะคุ้มกว่าการลงทุน (สร้าง) หรือไม่ แนวคิดนี้ ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นผลจากการปฎิบัติ ซึ่งอธิบายได้ว่า องค์กรที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นองค์กรที่ตั้งมานาน และมีวัฒนธรรมองค์การแข็งมาก มีทั้งดีและไม่ดี ทำให้การเปลี่ยนแปลงองค์กรที่ตั้งมานานนี้เป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงมีแนวความคิดใหม่ ที่จะสร้างองค์กรขึ้นมาใหม่ โดยใช้งานของ HR เข้ามาช่วยในการจัดรูปแบบ เพื่อให้ใช้คนน้อย (ประหยัด) และงานมีคุณภาพสูง เริ่มจาก วางโครงสร้างขององค์การใหม่ ให้เหมาะสมกับงาน ตามลักษณะของงานที่แท้จริง ( Core Process) ไม่ใช่แบ่งตามจังหวัด เหมือนกับราชการ การใส่คนเข้าไปในโครงสร้างที่วางไว้ ให้มีความเหมาะสม การบวนการอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุน เช่น แผนการตลาด เทคโนโลยี ระดับกลยุทธ์ คือ กำหนดกลยุทธ ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทั้ง ภายนอก ภายใน ระดับเป้าหมาย คือ กำหนดเป้าหมายของแต่ละกลุ่ม ให้มีความสอดคล้องกัน ภายใน คือ ในการออกคำสั่ง หรือสั่งการต่างๆ ให้มีความสอดคล้องกันทั้งแนวดิ่ง และแนวราบ การจะพัฒนาองค์การให้มีประสิทธิภาพสูง ต้องเริ่มมาจากการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับวิธีการสร้างให้คนมีส่วนร่วมในองค์กร ให้คนมีความรู้ และเข้าใจในวัตถุประสงค์ขององค์กร เป็น ความรู้สึก สร้างความรักในองค์กร ( ถึงแม้จะไม่ดี ก็รัก ) เป็น จิตสำนึก การแสดงออกทางพฤติกรรม เป็น สิ่งที่แสดงออกมา เช่น การร่วมเดินขบวนต่อต้านต่างๆ การให้อำนาจตัดสินใจ โดยเฉพาะอำนาจในการตัดสินใจงานของตัวเอง เพื่อลดการถูกควบคุม มักใช้ในงานที่มีความเป็นวิชาชีพสูง เช่น หมอ ข้อมูลข่าวสาร ต้องให้ทุกคนทราบถึงข้อมูลที่จำเป็นในการทำงาน เช่น เป้าหมายขององค์การ แผนงาน ดังนั้น จึงมีการแบ่งชั้นข้อมูลเป็นระดับ เพื่อแยกความสำคัญของข้อมูลได้ การพัฒนาศักยภาพ จะก่อให้คนรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณองค์การ การให้รางวัล ที่เหมาะสมกับการทำงาน ตอบ โดยโครงสร้าง งาน HR จะเป็นผู้ใส่คนเข้าไปในงาน ดังนั้น หากจะทำให้องค์การมีคุณภาพสูง และคนในองค์การมีส่วนร่วมในการทำงานมาก มีความรักองค์การ ก็ขึ้นอยู่กับการใส่คนเข้าไปในระบบ ซึ่งก็เป็นงานของ HR โดยตรง คำถาม ทำไม่คนเก่ง ถึงไม่อยู่ในภาคราชการ ตอบ ระบบการบริหารงานบุคคลของราชการ ไม่เป็นระบบ ดังนั้นคนเก่งที่อยู่ในภาคราชการ ก็จะรู้สึกไม่ดี เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งในเรื่องค่าตอบแทน และการทำงาน จึงลาออก ส่วนคนที่จะเข้าใหม่ มองเห็นว่างานราชการไม่เป็นระบบ โอกาสก้าวหน้าที่เป็นธรรมมีน้อย เนื่องจากมีการใช้ระบบอุปถัมภ์มาก จึงไม่ยอมเข้ามารับราชการ ลักษณะของผู้ที่มีความรักในองค์การ คนรู้สึกว่า มีข้อมูลในการทำงานมาก คนมีความสามารถในการทำงานได้สำเร็จ ด้วยดี ได้ค่าตอบแทนเหมาะสมกับการทำงาน มีอำนาจตัดสินใจ ในการทำงาน มีข้อมูลในการทำงาน มีการพัฒนาความรู้ มีค่าตอบแทนที่คุ้มค่า สาเหตุที่ภาคธุรกิจสนใจที่จะวัดทุนทางปัญญา • ความต้องการสะท้อนให้เห็นคุณค่าที่แท้จริงของบริษัท • เมื่อเกิดการะบวนการในการวัด จะส่งผลให้องค์กรเกิดความเข้าใจ และผลักดันไปสู่ความยั่งยืนขององค์กร • เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการ • เพื่อการเจริญเติบโตที่มีประสิทธิผลขององค์กรในด้านการถือครองทรัพย์สินทางปัญญา • เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น • เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุน องค์กรสมัยก่อนไม่ให้ความสำคัญกับทุนทางปัญญาแต่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในสินทรัพย์มาก มาถึงปัจจุบันทุนทางปัญญามีบทบาทอย่างมากในองค์กร การเพิ่มศักยภาพของคนในองค์องค์สำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์มาก แต่ต้องเพิ่มทุนทางปัญญาให้กับบุคคลากรในองค์กร ก็จะสามารถเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทุนทางปัญญาสามารถบอกให้รู้ถึงความเสี่ยงในการดำเนินงานในอนาคตได้ คือถ้ามีทุนทางปัญญาในองค์กรมากความเสี่ยงก็น้อย กรณีความสำเร็จของการจัดการความรู้ ปัจจัยความสำเร็จในการจัดการความรู้ :ได้อ่านบทความของ คุณจุฑารัตน์ ศราวณะวงศ์ เรื่อง การสังเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการจัดการความรู้ ที่ลงพิมพ์ในวารสารวิจัย สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2551 น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะมีการสังเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการจัดการจากงานจำนวน 14 ชิ้น ซึ่งตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1996-2002 ประกอบด้วยงานของ Wiig, Davenport, De Long and Beers, Davenport and Prusak, Morey, Trussler, Finneran, Liebowitz, Manasco, Bassi, Choi, Skyrme and Amidson, Steele แล Heising โดยเน้นว่าปัจจัยเหล่านี้ คือ เป้าหมายในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันได้โดยใช้ความรู้ และเป็นองค์ประกอบที่ทำให้การดำเนินงานจัดการความรู้ประสบผลสำเร็จ โดยมีรายละเอียดของปัจจัยจำแนกตามงานเขียนของแต่ละคน ดังนี้ค่ะ •Davenport. De Long, and Beers (1998) 1. การเชื่อมโยงกับการปฏิบัติงานหรือคุณค่าขององค์กร 2. เทคนิคและโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร 3. โครงสร้างความรู้ที่เป็นมาตรฐานและยืดหยุ่น 4. วัฒนธรรมความรู้ที่มีความเป็นมิตร 5. วัตถุประสงค์และการสื่อสารที่ชัดเจน 6. การเปลี่ยนแปลงไปสู่การปฏิบัติที่สร้างแรงจูงใจ 7. ช่องทางที่หลากหลายในการส่งผ่านความรู้ 8. การสนับสนุนจากผู้บริหาร •Davenport and Prusak (1998) 1. เทคโนโลยี (เครือข่าย) 2. การสร้างและการเผยแพร่ความรู้ 3. การแบ่งปันถ่ายทอดความรู้ 4. คลังความรู้อิเล็กทรอนิกส์ 5. การฝึกอบรม วัฒนธรรม และผู้นำ 6. ประเด็นของความจริงใจ 7. โครงสร้างพื้นฐานของความรู้ •Morey (1998) 1. ความสะดวก (สะดวกในการค้นคืนความรู้) 2. ความรู้ที่ค้นคืนมีความถูกต้องแม่นยำ 3. มีประสิทธิภาพ (ความรู้ที่ค้นคืนมีประโยชน์และถูกต้อง) 4.สามารถเข้าถึงความรู้ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ •Trussler (1998) 1. โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม 2. ผู้นำและกลยุทธ์ (พันธะสัญญาในการจัดการ) 3. การสร้างแรงจูงใจในการแบ่งปันถ่ายทอด 4. การค้นหาคนและข้อมูลที่เป็นแหล่งความรู้มีความถูกต้อง 5. วัฒนธรรม 6. เทคโนโลยี (เครือข่าย) 7. สะดวกในการร่วมมือกันในการส่งผ่านความรู้ 8. การฝึกอบรมและการเรียนรู้ •Finneran (199) 1. การสร้างวัฒนธรรม 2. การแบ่งปันถ่ายทอดสารสนเทศและความรู้ 3. การสร้างความรู้ 4. ประยุกต์กับการทำงาน •Liebowitz (2002) 1. กลยุทธ์การจัดการความรู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร 2. ผู้บริหารความรู้ (Chief Knowledge Officer) 3. คลังความรู้ที่สนับสนุนการทำงานขององค์กร 4. ระบบการจัดการความรู้และเครื่องมือ (เทคโนโลยี) 5. การส่งเสริมแรงจูงใจในการแบ่งปันถ่ายทอดความรู้ 6. การสนับสนุนวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการจัดการความรู้ •Manasco (1999) 1. การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน (เทคโนโลยีที่เหมาะสม) 2. การส่งเสริมกระบวนการ (การสร้างและการแบ่งปันถ่ายทอดความรู้) •Bassi (1999) 1. คนในองค์กรมีการเรียนรู้ 2. มีการนำไปประยุกต์ใช้กับงาน 3. การแบ่งปันถ่ายทอดความรู้ •Choi (2000) 1. การอบรมบุคลากร 2. การมีส่วนร่วมของบุคลากร 3. การทำงานเป็นทีม 4. การมอบอำนาจให้แก่บุคลากร 5. ผู้บริหารระดับสูงและพันธะสัญญา 6. โครงสร้างพื้นฐานระบบสารสนเทศ •Skyrme (2000) 1. การสนับสนุนของผู้บริหารระดับสูง 2. การเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ขององค์กรที่ชัดเจน 3. มีความรู้เกี่ยวกับความรู้ 4. มีวิสัยทัศน์ที่ผลักดัน 5. ผู้บริหารความรู้ 6. กระบวนการความรู้ที่เป็นระบบ (สนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสารสนเทศ (บรรณารักษ์) รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันระหว่างผู้ใช้และผู้จัดหาสารสนเทศ) 7. โครงสร้างความรู้ที่พัฒนาอย่างดี (ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์) 8. เครื่องมือวัดที่เหมาะสม 9. การสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนนวัตกรรม การเรียนรู้ และความรู้ 10. โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิคที่สนับสนุนการทำงานด้านความรู้ •Skyrme and Amidon (1997) 1. การเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่สำคัญขององค์กร 2. มีวิสัยทัศน์ที่ผลักดัน 3. ผู้บริหารความรู้ 4. วัฒนธรรมการสร้างและแบ่งปันถ่ายทอดความรู้ 5. การเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง 6. โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี 7. กระบวนการความรู้ที่เป็นระบบ •Steele (200) 1. บุคลากรต้องเชื่อในโมเดลใหม่ 2. เส้นทางการสื่อสารต้องเปิดเผย 3. การแบ่งปันถ่ายทอดสารสนเทศ •Heising (2001) 1. การจัดเก็บประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ 2. วัฒนธรรมการส่งอีเมล์ในองค์กร (วัฒนธรรมองค์กร) 3. การสนับสนุนจากผู้บริหาร 4. เทคโนโลยีสารสนเทศ 5. การบูรณาการระหว่างกระบวนการจัดการความรู้ (การสร้าง การจัดเก็บ การเผยแพร่ การประยุกต์ความรู้) 6. งานด้านการจัดการความรู้ต้องถูกรวมเข้ากับงานประจำวันและบูรณาการอยู่ในกระบวนการทำงานประจำวันขององค์กร วัฒนธรรมองค์กร : ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดการความรู้ สำหรับการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้น วัฒนธรรมขององค์กรเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อความสำเร็จในการจัดการความรู้ในองค์กรอุปสรรคทางวัฒนธรรมในการจัดการความรู้และแนวทางแก้ไข ที่ พยัต วุฒิรงค์ ได้เรียบเรียงและสรุปไว้ใน The Competing Values Framework (CVF) ตีพิมพ์ในวารสาร Chulalongkorn Review ฉบับปีที่ 19 ฉบับที่ 75 เมษายน-มิถุนายน 2550 ดังนี้ วัฒนธรรมที่เป็นอุปสรรค ในการจัดการความรู้ แนวทางแก้ไข ขาดความไว้วางใจ สร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจด้วยการจัดประชุมแบบพบหน้ากันแบบไม่เป็นทางการ พนักงานไม่เห็นคุณค่าชอบทำงานคนเดียว เล่าเรื่องที่ประสบความสำเร็จขององค์กรสร้างให้พนักงานเกิดความร่วมมือโดยสร้างทีมและให้รางวัลสำหรับผลการทำงานโดยรวม ให้ความสำคัญเฉพาะภายในทีมงาน สร้างให้เกิดโครงสร้างการทำงานข้ามหน่วยงานและสร้างชุมชนปฏิบัติเพื่อสร้างเครือข่ายมากขึ้น วัฒนธรรมที่เป็นอุปสรรค ในการจัดการความรู้ แนวทางแก้ไข หวงความรู้ เกรงว่าหากถ่ายโอนความรู้ให้แล้ว ตนจะหมดความสำคัญ ประเมินผลงานและมอบรางวัลแก่คนที่และเปลี่ยนความรู้เป็นหลัก ไม่มีเวลาในการแลกเปลี่ยน สร้างเทคโนโลยีที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนให้ใช้เวลาน้อยที่สุด ไม่มีความตั้งใจใจการแลกเปลี่ยน สร้างเทคโนโลยีที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนให้ใช้เวลาน้อยที่สุด ความสามารถมีจำกัดในการรับรู้ พัฒนาให้พนักงานมีความยืดหยุ่น ให้เวลาในการเรียนรู้ ความเชื่อว่าความรู้เป็นอภิสิทธิ์ของคนบางกลุ่ม สร้างความเชื่อใหม่ว่าคุณค่าของความรู้สำคัญกว่าสถานะของบุคคล ไม่ยอมรับความรู้ของคนอื่น สร้างให้เกิดความเชื่อใจและไว้วางใจในสิ่งที่ทุกคนสร้างขึ้น ตำหนิผู้ทำผิด (Blame Culture) ไม่ลงโทษหรือตำหนิผู้ที่เสนอความคิดไม่ถูกต้อง และสร้างความรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด ไม่อดทนต่อความผิดพลาดหรือไม่ชอบขอความช่วยเหลือ ยอมรับและให้รางวัลแก่ความผิดพลาดที่สร้างสรรค์และการทำงานร่วมกัน ปัจจัยการจัดการความรู้ให้ประสบความสำเร็จ ปัจจัยการจัดการความรู้ให้ประสบความสำเร็จ. ประชา การมานะกิจกุล และนภาพร สุคนธวารี (2548) ศึกษาเรื่อง ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดการความรู้ภายในองค์กร: กรณีศึกษา บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) พบว่า ปัจจัยที่ทำให้การจัดการความรู้ในเครือซิเมนต์ไทยประสบผลสำเร็จ มีปัจจัยดังนี้ การสนับสนุนของผู้บริหารระดับสูง (senior management support) การได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรในด้านโครงสร้างทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) การสนับสนุนด้านงบประมาณการกำหนดวิสัยทัศน์พันธกิจและกลยุทธ์ด้านการจัดการความรู้ ไปจนถึงการดำเนินกิจกรรม (activity) การสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน ฯลฯ เป็นสิ่งที่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากผู้บริหารสูงสุดของเครือซิเมนต์ไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่จุดเริ่มต้นของโครงการจนถึงปัจจุบัน ความชัดเจนของวิสัยทัศน์และภาษา (clarity of vision and language) การนำระบบการจัดการความรู้เข้ามาใช้เป็นกลยุทธ์ (strategy) ในการพัฒนาขีดความ สามารถของเครือข่าย มีความชัดเจนด้านวิสัยทัศน์มาตั้งแต่จุดเริ่มต้นของโครงการ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญของการจัดการความรู้ คือ การประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน (productivity improvement) เพิ่มความภักดีของลูกค้า (customer loyalty) สร้างนวัตกรรม (innovation) และสนับสนุนให้การปฏิบัติงานต่าง ๆ บรรลุวัตถุประสงค์ของเครือซิเมนต์ไทยที่วางไว้ (business goals) รวมทั้งได้มีการสื่อสารให้พนักงานทราบถึงวัตถุประสงค์ดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในรูปแบบการสื่อสารที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น การจัดทำระบบกระดานข่าว (knowledge sharing board) การสื่อสารผ่านวารสารซิเมนต์ไทยสัมพันธ์ e-mail ของพนักงาน แผ่นพับ บอร์ดประชาสัมพันธ์ เสียงตามสาย เครือข่ายการทำงานตามความสัมพันธ์ของงานหรือตามลำดับชั้น เครือข่ายคณะการทำงาน การประชุม และเครือข่ายการฝึกอบรม เป็นต้น ทั้งนี้ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จด้านการจัดการความรู้ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่กำหนดทิศทาง ความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงกิจกรรมทั้งหมด ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน (alignment) และมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านอื่น ๆ ทุกด้าน ที่เครือซิเมนต์ไทยกำลังดำเนินการอยู่ ความสัมพันธ์ทางคุณค่าของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม (a link to economics and industry value) การนำระบบการจัดการความรู้เข้ามาประยุกต์ใช้ในเครือซิเมนต์ไทย เป็นการดำเนินการที่ใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงและเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยมีวัตถุประสงค์ทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ ผลของกิจกรรมทุกประเภทจะสะท้อนออกมา ในลักษณะของเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน (productivity improvement) เพิ่มความภักดีของลูกค้า (customer loyalty) สร้างนวัตกรรม (innovation) ซึ่งมีการวัดผลในทุก ๆ ด้านอย่างจริงจัง การมุ่งเน้นที่กระบวนการ (a modicum of process orientation) การนำกระบวนการจัดการความรู้เข้ามาประยุกต์ใช้ในเครือซิเมนต์ไทย เป็นการจัดการที่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงกับกระบวนการต่าง ๆ ทั้งในด้านกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ และกระบวนการการทำงานที่เป็นระบบสนับสนุน ให้สามารถผลิตสินค้าและบริการอันเป็นเลิศอย่างแท้จริง ตัวอย่างการปรับปรุงกับการกระบวนการที่สำคัญได้แก่ ระบบ e-ISC ระบบ e-HR ระบบ Enterprise Resources Planning ระบบ Supply Chain Management ระบบ Customer Relationship Management ฯลฯ เป็นต้น วัฒนธรรมที่เอื้อต่อความรู้ (a knowledge-oriented culture) วัฒนธรรมความรู้ของเครือซิเมนต์ไทย เป็นคลังที่เก็บความรู้ภูมิหลังที่ฝังอยู่ในความสัมพันธ์ทางสังคมรอบ ๆ กระบวนการกลุ่มงานเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้กระบวนการจัดการความรู้ของเครือฯ ดำเนินไปอย่างราบรื่น วัฒนธรรมความรู้ของเครือซิเมนต์ไทยมีลักษณะ ดังนี้ วัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยความริเริ่มทางความรู้ (knowledge enterprising culture) ซึ่งประกอบไปด้วยสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศของการริเริ่ม การแบ่งปันความรู้และการเรียนใหม่ (re-learning) อันเป็นหัวใจของกิจกรรมการจัดการความรู้ภายในเครือซิเมนต์ไทย วัฒนธรรมที่เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารเครือซิเมนต์ไทย ที่ได้รับการถ่ายทอดและแบ่งปัน เสมือนภาพแห่งความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วัฒนธรรมที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจของพนักงานในความเป็นเครือซีเมนต์ไทย โครงสร้างความรู้พื้นฐาน (some level of knowledge structure) การจัดการความรู้ในเครือซิเมนต์ไทยประสบความสำเร็จ และค่อนข้าได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ เนื่องจากเครือซิเมนต์ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานความรู้ที่มีอยู่เดิมอันเป็นรากฐานสำคัญในการต่อยอดความรู้ใหม่ ทำให้ระบบโครงสร้างความรู้ของเครือซิเมนต์ไทย เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง เนื่องจากมีการปรับปรุงต่อยอดฐานความรู้อยู่ตลอดเวลา เครือซิเมนต์ไทย มีการดำเนินการด้านโครงสร้างและระบบงานรองรับให้พนักงานในเครือฯ สามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างที่กล่าวถึงนี้ เป็นทั้งสิ่งที่จับต้องได้ อันได้แก่ โครงสร้างหน่วยงานและบุคลากร ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง การจัดตั้งคณะทำงานต่าง ๆ ในลักษณะข้ามฝ่าย (cross-functional team) สถานที่สำหรับดำเนินกิจกรรม เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ฯลฯ และสิ่งที่จับต้องไม่ได้ อันได้แก่โครงสร้างงานระบบงาน สภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยน แบ่งปันและใช้ประโยชน์จากความรู้ที่เกิดขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เทคโนโลยี เป็นปัจจัยหลักสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้การจัดการความรู้ของเครือซิเมนต์ไทย ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ทำให้กระบวนการจัดการความรู้ โดยเฉพาะในด้านจัดเก็บ ค้นคืนความรู้ การเคลื่อนย้าย การกระจาย หรือการแบ่งปันความรู้ของเครือ ซิเมนต์ไทย ดำเนินไปอย่างสะดวกรวดเร็ว และทั่วถึงทั้งองค์กร ทำให้เครือฯ สามารถใช้ประโยชน์จากความรู้ได้อย่างเต็มที่ การสร้างแรงจูงใจถาวร (nontrivial motivation aids) การนำระบบการจัดการความรู้เข้ามาประยุกต์ใช้ของเครือซิเมนต์ไทย มีการดำเนินงานอย่างรอบครอบ โดยคำนึงถึงความต้องการทั้งในส่วนขององค์กรและในส่วนของพนักงาน (push-pull theory) ไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนองค์กรเครือ มีการกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย วัตถุประสงค์และพันธกิจ ตลอดจนถึงการจัดการด้านโครงสร้างขององค์กร โครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศกิจกรรมและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ในส่วนของพนักงานเครือฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยการปูพื้นฐานด้านความรู้ พนักงานทุกคนจะได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง มีระบบการให้รางวัล (reward) ที่สอดคล้องกับผลงาน (performance) ผู้นำ/ผู้บริหาร เนื่องจากการที่จะให้องค์กรเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำต้องจัดกระบวนทัศน์ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต และบทบาทผู้นำมีอิทธิพลอย่างมากในการสร้างความยอมรับในองค์กร ดังนั้น ผู้นำในความคิดของบุญส่ง หาญพานิช จึงควรมีบทบาท 3 ด้าน ในการจัดการความรู้ไปสู่ความสำเร็จ คือ ผู้นำเป็นผู้ออกแบบนโยบายกลยุทธ์รวมถึงการออกแบบระบบการเรียนรู้ ผู้นำเป็นผู้ช่วยเหลือบริการโดยหาวิธีที่ดีที่สุดในการกำหนดพันธกิจที่อธิบายถึงวิสัยทัศน์แห่งตน เอาใจใส่ต่อความต้องการของบุคลากร ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ในองค์กร ผู้นำเป็นครู เป็นพี่เลี้ยงชี้แนะบุคลากรในองค์กร เพื่อพัฒนาความเข้าใจที่เป็นระบบ การสื่อสารและเทคโนโลยี ซึ่งการสื่อสารความรู้ต้องอำนวยให้บุคลากรสามารถใช้สื่อได้หลายช่องทาง โดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย กระบวนการจัดการความรู้ ซึ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุดก็คือ การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ในหน่วยงาน โดยใช้วิธีการทำงานเป็นทีมมากที่สุด ประเภทความรู้ ซึ่งผู้บริหารต้องการให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในหน่วยงาน ทั้งความรู้ที่เป็นความรู้ที่อยู่ภายในบุคคลและความรู้ที่อยู่นอกบุคคล วัฒนธรรมการไว้ใจ ซึ่งจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความรู้ สิ่งสำคัญที่ผู้บริหารต้องการ คือ ความมีคุณธรรม มีขีดความสามารถ มีความหนักแน่นมั่นคง มีความจงรักภักดี และเปิดเผยเต็มใจที่จะรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นักความรู้ซึ่งผู้บริหารต้องการให้มีในระดับมากเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือในการจัดการความรู้ วัฒนธรรมพลังร่วม ซึ่งผู้บริหารต้องการให้มีในระดับมากเพื่อให้บุคลากรเกิดความร่วมมือ ร่วมใจในการจัดการและบริหารความรู้ การสร้างระบบแรงจูงใจ การสร้างวัฒนธรรมการไว้ใจ การประเมินระดับความไว้วางใจบุคลากรในสถาบันเป็นระย ะซึ่งทั้ง 3 ประเด็นนี้เป็นสิ่งท้าทายในการบริหารจัดการความรู้ที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญ สรุปได้ว่า หลักการจัดการเรียนรู้นั้นในมุมมองของนักคิดและนักวิชาการข้างต้นพบว่า หลักของการเรียนรู้โดยทั่วไปนั้น จะประกอบด้วย 2 มุมมองหลัก ๆ คือ มุมมองด้านเทคโนโลยี และมุมมองด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ของกลุ่มและบุคคล อันจะส่งผลต่อองค์กรในการที่จะนำความรู้ที่ได้นั้นไปใช้ประโยชน์ในงานการถ่ายทอด การแลกเปลี่ยน และการแก้ปัญหาในการทำงานร่วมกัน นอกจากจะทราบถึงหลักในการจัดการความรู้แล้ว ในการศึกษายังต้องทราบถึงกระบวนการในการจัดการความรู้ หลักการต่าง ๆ นั้น มีกระบวนการหรือแนวทางในการจัดการความรู้อย่างไรบ้าง เพราะจะทำให้การดำเนินการจัดการความรู้ในกระบวนการต่าง ๆ เป็นไปอย่างถูกต้องชัดเจน เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร อ้างอิง อ้างอิง. www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=5951.0;wap2 การนำเสนอผลงานการค้นคว้าของนักศึกษา บทที่ 2 การนำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ หลักการเตรียมตัวนำเสนอ ในกรณีที่ต้องการนำเสนออย่างกะทันหัน ทำให้เรามีเวลาเตรียมตัวน้อยก็สามารถเตรียมตัวด้วยหลักการง่าย ๆ คือ 5W 1H ได้แก่ ทำไม จึงมาเสนองาน (Why) เราจะพูดว่าอะไร (What) เราจะเสนองานกับใคร (Who) เราจะพูดเมื่อไร ในช่วงเวลาไหน (When) เราจะเสนองานที่ไหน (How) ทำไม (Why) การพูดนำเสนอทุกอย่างย่อมมีจุดหมาย และจุดหมายนี้มักจะเป็นรูปแบบหนึ่งของการเกลี้ยกล่อม อะไร (What) บันทึกข้อมูลทั้งหมดที่จะเสนอไว้ เตรียมภาพประกอบ และข้อโต้แย้งที่เราอาจะต้องใช้และจดเอาไว้ อย่าเพิ่งกังวลเรื่องลำดับขั้นตอนการนำเสนอในช่วงนี้ ใคร (Who) หาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้ที่มาฟังการเสนองานให้มากที่สุด เช่น มีผู้ฟังกี่คน ชื่ออะไร ทำงานอะไร รวมทั้งควรจะรู้ว่าทำไมเขาจึงสนใจ ปัจจุบันเขาใช้วิธี / เครื่องมือ / บริการไหนอยู่ เขามีประสบการณ์ดีหรือไม่ดีอย่างไรมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องที่เราจะนำเสนอ หรือเรื่องที่เราจะชักชวนให้เขาทำ เขาจะนำอะไรมาเป็นข้อโต้แย้ง คัดค้าน หรือสอบถามเราได้บ้าง เราอาจจะต้องหาข้อเท็จจริง ข้อตอบโต้ และข้อมูลเพิ่มเติมอีกถ้าสามารถจัดหาได้ ในวันเสนองานควรหาโอกาสคุยกับผู้ฟังอย่างไม่เป็นทางการก่อน เมื่อไหร่ (When) - ระยะเวลาในการนำเสนอมีมากน้อยเพียงใด เป็นการฝึกอบรมระยะยาวต่อเนื่องกันทุกวันในช่วงเวลาเย็นเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ที่ไหน (Where) เรื่องนี้อาจจะไม่สำคัญเท่าหัวข้ออื่น ๆ แต่เราก็ควรสำรวจไว้บ้างเพื่อขจัดสิ่งแวดล้อมในห้องที่ใช้ในการนำเสนอ อันอาจจะกลายเป็นอุปสรรคในการนำเสนอไปก็ได้ เช่น ปลั๊กไฟผิดชนิด ไม่มีโต๊ะวางอุปกรณ์ อย่างไร (How) เมื่อไหร่เรารู้ว่าพูดอะไร จะพูดกับใคร ที่ไหน และทำไม และจะวางแผนการพูดอย่างไรได้บ้าง การเสนอโครงสร้างที่ดีมีโครงสร้างที่เหมือนกัน เป็นโครงสร้างที่มี 3 ส่วนง่าย ๆ คือ คำอธิบาย ส่วนที่ติดตามมา บทสรุป การกล่าวนำ (Preface) สถานภาพหรือสถานการณ์ปัจจุบัน (Position) ปัญหาที่เกิดขึ้น (Problem) ทางเลือกที่มี (Possibilities) ข้อเสนอแนะ (Proposal) สรุป (Postscript) เทคนิคการนำเสนองานอย่างมีประสิทธิภาพ การนำเสนอ การเสนองานที่ดีทำได้จากการฝึกเท่านั้น ข้อพึงระวังที่ทำให้การนำเสนองานขาดประสิทธิภาพ พูดงึมงำ การพูดดังไปนั้นดีกว่าพูดเบา ความลังเล การหยุดพูดบ่อย ๆ หรือใช้คำว่า "เอ้อ...อ้า" เข้าไปในระหว่างที่นึกคำพูดจะแสดงให้เห็นว่าผู้พูดขาดการซ้อมหรือไม่มีความมั่นใจในตัวเอง การพูดพล่ามหรือพูดคำช้ำซากบ่อย ๆ จนติดเป็นนิสัย การวางสายตาไม่เหมาะสม กิริยาซ้ำซาก ระดับเสียง ข้อเสียที่พบมากในนักพูดมือใหม่ ให้ใช้คำพูด และประโยชน์สั้นง่าย ๆ ใช้รูปประโยคตรง ๆ และคำพูดที่ระบุชัดเจนมากกว่าประโยคยอกย้อนหรือพูดลอย ๆ การพูดเรื่องทั่ว ๆ ไปให้ใช้วิธียกตัวอย่าง หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิค เตรียมคำพูดที่จะพูดมาให้มากที่สุด ใช้คำและภาษาของตัวเองแบบที่ในการสนทนาธรรมดา รายละเอียดในการนำเสนอ คือการตัดสินใจเรื่องราวการเสนอรายละเอียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำเสนองานที่มีกลุ่มผู้ฟังเป็นผู้เชี่ยวชาญ ความรู้สึกนึกคิด การยอมรับ สรุปปิดท้ายและคำถาม ไม่ควรพูดแบบเลื่อนลอยต้องมีการปิดฉากการเสนองานไว้ให้ดี การปิดฉากที่ดีไม่จำเป็นจะต้องยาวหรือซับซ้อน การขอความเห็น ขอความคิดเห็นเพื่อทดสอบข้อสมมุติฐานของเรา คำถามประเภทขอความคิดเห็น ช่วยลดช่องว่างระหว่างผู้นำเสนอและผู้ฟัง ทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม สรุปข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งหลัก ๆ เสนอข้อแนะนำสิ่งต่าง ๆ ที่จะต้องทำ ถ้าข้อเสนอได้รับความเห็นชอบ - ให้เสนอขั้นตอนต่อไปว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ อธิบายรายละเอียดของเอกสารประกอบ เชิญชวนผู้ฟังให้ซักถาม พยายามพูดให้เป็นธรรมชาติแต่ต้องพูดดังกว่าเดิม เพราะมีผู้ฟังจำนวนมาก อ้างอิง http://www.geocities.ws/powerpointsbac/unit2.html
thaiwikibooks
195,662
ปังย่า
ปังย่า คือเกมกอล์ฟแฟนตาซีออนไลน์ ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท NtreevSoft และเปิดให้บริการโดย HanbitSoft การเล่น การเล่น. ปังย่ามีระบบการเล่นที่คล้ายเกมกอล์ฟหลายเกม โดยความแรงและความแม่นยำในการตีกำหนดโดยเกจที่อยู่ด้านล่างของจอ โดยใช้การกดสามครั้ง ครั้งแรกเพื่อเริ่มตี ครั้งที่สองเพื่อกำหนดพลัง และครั้งที่สามเพื่อกำหนดความแม่นยำ โดยสามารถใช้ได้ทั้งเมาส์หรือเคาะสเปซบาร์บนคีย์บอร์ด หากผู้เล่นกดความแม่นยำสมบูรณ์แบบ ช็อตนั้นเรียกว่า "ปังย่า" หากพลาด ก็จะตีได้ระยะที่สั้นลง และทิศทางที่ผิดไปทางซ้ายหรือขวา (ฮุคหรือสไลซ์) ระบบภาพของปังย่านั้น จะมีลักษณะคล้ายการ์ตูนมากกว่าเน้นความเหมือนจริง และมีส่วนประกอบหลายอย่างที่มาจากจินตนาการ เช่น ช็อตที่เป็นไปไม่ได้ในทางฟิสิกส์ สนามกอล์ฟและอุปกรณ์ในโลกแฟนตาซี เป็นต้น ค่าเงินในเกม ค่าเงินในเกม. ค่าเงินหลักในเกมปังย่าคือ "ปัง" โดยปกติจะได้มาจากการตีจบหลุมที่พาร์หรือต่ำกว่า การตีช็อตที่ยากหรือการตีลงหลุมจากระยะไกล เงินปังสามารถใช้ในการซื้อของต่างๆในเกม พัฒนาอุปกรณ์และความสามารถของตัวละคร และค่าเงินคุกกี้ ซึ่งผู้เล่นสามารถซื้อของในเกมได้ด้วยเงินจริง อุปกรณ์ที่ใช้คุกกี้ซื้อจะมีความได้เปรียบอุปกรณ์ที่ใช้ปังซื้อเล็กน้อย ในประเทศไทยสามารถซื้อบัตรเติมเงินได้ที่ร้านซี-พลัส แฟมิลี่มาร์ท ซีเอ็ด บุ๊คเซ็นเตอร์ ฯลฯ (ซึ่งในปัจจุบันที่ 7-11 ต้องเติมเพื่อซื้อออนไลน์เท่านั้นเช่น RTB, MOL, Zest) โหมดในการเล่น Versus Mode (VS MODE) - ในโหมดนี้ ผู้เล่นผู้เล่นและคนอื่นจะแข่งขันในระบบ turn by turn ตั้งแต่ 2-4 คน และเลือกเล่น 3,6, 9 หรือ 18 หลุมต่อการแข่งขัน ชัยชนะจะกำหนดจากคะแนน ในกรณีที่ผู้เล่นมีคะแนนเท่ากันจะวัดจากเงินผู้ที่ผู้เล่นได้จากการแข่งขัน Stroke Play : เป็นการแข่งขันรูปแบบหนึ่งของ VS Mode นับจากคะแนนการตีสะสมและจำนวนเงินที่ได้รับ Match Play : แตกต่างจากโหมดแรกโดยกำหนดผู้ชนะเป็นหลุมๆไป ใครตีลงหลุมน้อยครั้งกว่าก็ชนะไป โดยจะแบ่งเป็น 2 ทีมคือทีมสีแดง และสีฟ้า หากชนะมากกว่า 2 ใน 3 ของเกม เกมจะจบลงทันที หากมีผู้เล่นในทีมออกจากเกม จะถือว่าแพ้ทันที Tournament Mode - โหมดแข่งขันโดยมีผู้เล่นตั้งแต่ 4-30 คน แข่งขันโดยเวลากลาง ไม่มีระยะเวลาในการตีต่อเทิร์น แต่เป็นการจัดอันดับแทน หากไม่สามารถเล่นได้ครบก่อนที่เวลากลางจะหมด จำนวนหลุมที่เหลือ (รวมถึงที่กำลังตีอยู่) จะถือว่ายอมแพ้ (Give Up) โดยปริยาย Regular Tournament mode : เป็นโหมดการจัดอันดับโดยถือผู้ที่ตีรวมได้ดีที่สุดเป็นผู้ชนะ นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษจากรางวัลพิเศษต่างๆ รวมถึงได้รับถ้วยรางวัลด้วย (สำหรับผู้เล่นที่ทำคะแนนดีที่สุด 1-6 อันดับแรกขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้เล่นที่เข้าร่วมการแข่งขัน) Team Tournament : ต้องการผู้เล่นอย่างน้อย 12 คน คล้ายกับโหมด Match Play ของ VS Mode แต่การตัดสินจะนับจากคผลรวมคะแนนการตีของผู้เล่นในทีม Guild Tourney : เป็นโหมดการแข่งขันระหว่างคลับหนึ่งกับอีกคลับหนึ่ง การแข่งขันเหมือนกับโหมด Team Tournament Hole in One Mode - โหมดการแข่งขันแบบพิเศษสำหรับผู้เล่น โดยเล่นตั้งแต่ 10-100 คน โดยห้องจะเปิดขึ้นมาเองในช่วงเวลาที่มีกิจกรรม และห้องจะเริ่มเองโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลา เป็นการตีในสนามพิเศษ Grand Zodiac โดยผู้เล่นแต่ละคนจะถูกกำหนดตำแหน่ง Tee ที่มีความสูง และระยะที่ต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือทำ Hole in One ให้ได้มากครั้งที่สุด สถิติ Hole in One จากโหมดนี้จะไม่ถูกนับเข้าสถิติปกติ ผู้เล่นจะได้ Power Gauge ครบตั้งแต่เริ่ม สามารถใช้ไอเทม Time Booster, Air Note และ Auto Caliper ได้ไม่จำกัด และลูกกอล์ฟจะถูกหัก 1 ลูก จากการตีปกติทุกๆ 4 ครั้ง หรือเมื่อทำ Hole in One ได้ Battle Mode - โหมดการแข่งขันรูปแบบหนึ่งของปังย่า ที่จะต้องใช้การเดิมพันเข้าแลก Pang Battle : เป็นการแข่งขันโดยเดิมพันด้วยเงินปัง ผู้ที่ชนะของหลุมนั้นจะได้เงินปังของคู่ต่อสู้ หากเสมอกันจะทบเงินไปยังหลุมถัดไป หากเล่นจนจบการแข่งขันแล้วยังเสมอกัน จะวัดจากการระยะชิพ-อินที่ใกล้หลุมที่สุดแต่ไม่ลงหลุม และระยะเวลาในการคำนวณการตี (หากระยะที่เหลือยังเท่ากันอีก) Approach Mode : เล่นตั้งแต่ 4 - 30 คน เป็นการแข่งขันตีให้ใกล้หลุม และตีให้เร็วที่สุด Special Shuffle Course Mode - เป็นโหมดที่ถูกเพิ่มขึ้นในช่วง Pangya Season 4.5 Delight โดยเล่นสลับหลุมสลับสนามทั้งหมด 17 หลุม และหลุมที่ 18 จะเป็นหลุมพิเศษที่มีเงินรางวัลสูงกว่าหลุมอื่นๆ Ghost Mode - เป็นโหมดที่เล่นกับบันทึกของมูลของผู้เล่นคนอื่น หรือของตัวเอง อัตราการยอมแพ้หรือลูกกอล์ฟจะไม่ถูกนับในโหมดนี้ แต่ไอเทม time boosters และไอเทมอื่นๆ จะถูกนับใช้และลดลงในโหมดนี้เหมือนปกติ โหมดนี้จะทำการสร้างตัวเองหลังจากที่ผู้เล่นได้เล่นครบทั้ง 18 หลุม (เล่นภายในครั้งเดียว) แล้ว Shortgame Mode - โหมดนี้เริ่มตีในShot2เลย มีให้เล่นในโหมดTournamentเท่านั้น และปังจะได้แค่ 1 ใน 3 ของปังที่ได้ Single Mode - โหมดสำหรับผู้เล่นคนเดียว การเข้าเล่นในโหมดนี้ผู้เล่นจะได้รับเงินปัง 1 ใน 3 จากที่เก็บได้ทั้งหมด โดยที่ไอเทมต่างๆ จะถูกหักตามปกติ โดยมีการแบ่งโหมดย่อยดังต่อไปนี้ Single Full Course : เล่นคนเดียวทั้งสนาม โดยกำหนดเวลาและกติกาการเล่นได้เหมือน Tournament Mode Single 1-Hole Course : เล่นเพียงคนเดียว และเล่นเพียง 1 หลุมทั้ง 18 หลุม Chip-in Course : เล่นคนเดียวในสนาม Grand Zodiac (Hole in One Mode) โดยโหมดนี้กติกาเหมือน Hole in One Mode แต่สามารถเลือกความกว้างของหลุมได้ 9 ระดับ และกำหนดแรงลมได้ตั้งแต่ต้น มีเวลาในการเล่นต่อรอบเพียง 10 นาทีเท่านั้น และโหมดนี้ไอเทม Time Booster, Air Note และ Auto Caliper สามารถใช้งานได้ไม่จำกัด Player Squares - หรือที่รู้จักกันในโหมด Chat Room เป็นโหมดห้องสนทนาในสนามที่ผู้สร้างได้สร้างขึ้น สามารถเลือกสนาม และหลุมที่ต้องการเปิดห้องสนทนาได้ รองรับผู้เล่นต่อห้องสูงสุด 30 คน โดยสามารถซื้อ-ขายไอเทมต่างๆได้ในห้องนี้ด้วยเงินปัง Grand Prix - โหมดแข่งขันสำหรับผู้เล่นตั้งแต่ 1-30 คน ห้องที่จะใช้แข่งขันในโหมดนี้ ระบบจะกำหนดขึ้นมาให้ทั้งหมด โดยผู้เล่นไม่สามารถเปลี่ยนข้อมูลของห้องแข่งขันได้ทั้งสิ้น อีกทั้งข้อมูลห้องและการแข่งขัน จะเหมือนกันในทุกเซิร์ฟเวอร์ และจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการแข่งขันใหญ่ทุกๆ สามเดือน การจะเล่นในโหมดนี้ผู้เล่นต้องมีไอเทม Grand Prix Ticket ติดตัวอยู่ก่อนเข้าแข่งขัน (ถ้าไม่มีสามารถหาได้จากการเล่นเกมปกติ) เมื่อเข้ามาที่ล็อบบี้แล้ว ห้องที่เปิดอยู่จะขึ้นมาให้เลือกเป็นลำดับแรก ถ้าสนใจก็สามารถกดเข้าร่วมเล่นได้ทันที ผู้เล่นสามารถเลือกระดับความยากได้จากด้านบน หรือจะเข้าร่วมห้องกิจกรรมเพื่อทำกิจกรรมแทนได้ แต่ละห้องจะมีเวลากำหนดตายตัว คือห้องจะเปิดก่อนเวลาเริ่ม 10 นาที และจะรันเกมทันทีเมื่อถึงเวลา (ยึดของเซิร์ฟเวอร์) โดยถ้าเมื่อถึงเวลาเล่นแล้วผู้เล่นยังไม่ครบ 30 คน ระบบจะเติมผู้เล่นอัตโนมัติเข้าไปให้จนครบ 30 คน กติกาการแข่งขันจะเหมือนกับ Tournament Mode แต่มีเวลากำหนดในการตีต่อหลุมที่ 2 นาที โดยภายใน 2 นาทีถ้าตีเสร็จก่อนก็จะถูกส่งเข้าห้องรอเพื่อรอให้ผู้เล่นทั้งหมดตีเสร็จ (ตัวผู้เล่นอัตโนมัติจะตีเสร็จทั้งหมดเองถ้าผู้เล่นจริงตีเสร็จทั้งหมด) แต่ถ้าหากตีไม่เสร็จผู้เล่นก็จะถูกปรับแพ้ในหลุมนั้นๆ และจะเสียคะแนน 5 คะแนนทันที หลักในการชนะยึดกติกาเดิมของปังย่า คือผู้เล่นที่มีคะแนนดีที่สุดจะชนะไป และสามอันดับแรกจะได้ของรางวัลพิเศษท้ายเกมด้วย ไม้กอล์ฟ ท่าตี ท่าตี. ภายในการแข่งขัน ผู้เล่นสามารถใช้ท่าตีพิเศษได้ จากการกดลูกศรเพื่อให้ตีได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น หรือควบคุมได้ดีขึ้น หากผู้เล่นกดความแม่นยำสมบูรณ์แบบ ช็อตนั้นเรียกว่า "ปังย่า" หากพลาด ก็จะตีได้ระยะที่สั้นลง หรือทิศทางที่ผิดไปทางซ้ายหรือขวา (ฮุคหรือสไลซ์) ท่าพิเศษต่างๆมีดังต่อไปนี้ Power Spin : เป็นเทคนิคที่ใช้ในการเพิ่มระยะของการตี หรือจำกัดการไหลของลูกได้ Curve : เป็นเทคนิคที่ตีโค้ง มักใช้ในการตีเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง ท่าตีเทคนิคพิเศษ (gauge) - ไม่ใช่ค่าสถานะหลัก แต่เป็นการทำให้สามารถตีท่าพิเศษต่างๆและเพิ่มระยะการตี สามารถใช้ได้เมื่อปังย่าเกจเต็ม - ใช้ 2 เกจ กด Alt ติดต่อกัน 2 ครั้ง ทำให้เพิ่มระยะการตีได้ 20 หลา (ยกเว้นใช้ไอเทมพิเศษหรือการ์ดเพิ่มค่าสถานะ) มีท่าต่อไปนี้ Super Pangya : เป็นท่าตีที่สามารถไปได้ไกลขึ้นมากกว่าการตี "ปังย่า" ธรรมดา 10-30 หลา Tomahawk : ท่าพิเศษ ที่มีลูกไฟหลังจากการตี และไม่มีการไหลต่อหากกระทบพื้นแล้ว Cobra : ท่าตีพิเศษ หลังจากตีลูกกอล์ฟจะออกไปในทิศทางระนาบ และลอยขึ้นสู่ฟ้า ก่อนจะกระทบลงมายังพื้นและไหลต่อไป ขึ้นอยู่กับความชันของพื้น Spike : ท่าตีพิเศษที่นำท่า Cobra มาผสมกับท่า Tomahawk โดยเริ่มแรกจะวิ่งไปขนานกับพื้นก่อนจะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและตกกระทบสู่พื้นดิน โดยที่ไม่กระดอนต่อหลังจากกระทบลงสู่พื้น ท่าพิเศษ Power spin : การสปินเพิ่มระยะทางของลูก (หน่วย spin 1 หน่วยเท่ากับเพิ่มระยะทางการสปิน 0.2 หลา) เลื่อนจุดกระทบลูกให้อยู่ทิศเหนือของลูก (กด Ctrl และลูกศรขึ้นค้าง) กดตี 1 ครั้ง (Space Bar)ให้เกจเลื่อนเพื่อเลือกระดับความแรงในการตี (แรงที่เลือกต้องเกิน 80% ของระยะเต็มของไม้) เมื่อเกจเลื่อนมาต่ำกว่า 50% ของระยะไม้ที่เราเลือก ให้กดปุ่มลูกศรขึ้นค้าง (ให้เป็นสีฟ้าเรืองแสง) ตีให้ติดแถบปังย่า (ทางที่ดีใช้ spin mastery ในการทำสปินให้มากขึ้นด้วยในบางกรณี) เลื่อนจุดกระทบลูกให้อยู่ทิศใต้ของลูก (กด Ctrl และลูกศรลงค้าง) กดตี 1 ครั้ง (Space Bar)ให้เกจเลื่อนเพื่อเลือกระดับความแรงในการตี (แรงที่เลือกต้องเกิน 80% ของระยะเต็มของไม้) เมื่อเกจเลื่อนมาต่ำกว่า 50% ของระยะไม้ที่เราเลือก ให้กดปุ่มลูกศรลงค้าง (ให้เป็นสีฟ้าเรืองแสง) ตีให้ติดแถบปังย่า (ทางที่ดีใช้ spin mastery ในการทำสปินให้มากขึ้นด้วยในบางกรณี) Power curve : การตีลูกเคิฟ(หักเลี้ยวโค้ง)หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางระยะทางหลุม (หน่วย curve 1 หน่วยเท่ากับการหักเลี้ยวเพิ่ม 2 หลา แต่ระยะทางจะสั้นกว่า 2 หลาเช่นกัน) เลื่อนจุดกระทบลูกให้อยู่ทิศตะวันตกของลูก (กด Ctrl และลูกศรซ้ายค้าง) กดตี 1 ครั้ง (Space Bar)ให้เกจเลื่อนเพื่อเลือกระดับความแรงในการตี (แรงที่เลือกต้องเกิน 80% ของระยะเต็มของไม้) เมื่อเกจเลื่อนมาต่ำกว่า 50% ของระยะไม้ที่เราเลือก ให้กดปุ่มลูกศรซ้ายค้าง (ให้เป็นสีฟ้าเรืองแสง) ตีให้ติดแถบปังย่า (ทางที่ดีใช้ curve mastery ในการทำลูกโค้งให้มากขึ้นด้วยในบางกรณี) เลื่อนจุดกระทบลูกให้อยู่ทิศตะวันออกของลูก (กด Ctrl และลูกศรขวาค้าง) กดตี 1 ครั้ง (Space Bar)ให้เกจเลื่อนเพื่อเลือกระดับความแรงในการตี (แรงที่เลือกต้องเกิน 80% ของระยะเต็มของไม้) เมื่อเกจเลื่อนมาต่ำกว่า 50% ของระยะไม้ที่เราเลือก ให้กดปุ่มลูกศรขวาค้าง (ให้เป็นสีฟ้าเรืองแสง) ตีให้ติดแถบปังย่า (ทางที่ดีใช้ curve mastery ในการทำลูกโค้งให้มากขึ้นด้วยในบางกรณี) ค่าสถานะ พลัง (Power) - เพิ่มพลังในการตีสูงสุดหน่วยละ 2 หลา แต่จะทำให้การควบคุม (control) และความแม่นยำ (Impact) ลดลง จะลดลงต่อเมื่อเลเวลไม่ถึง (ในฉบับ PSP Control และ Impact จะไม่ลด เมื่อเพิ่มค่า Power) การควบคุม (Control) - ความสามารถในการควบคุมในการตี (ทำให้เกจวิ่งช้าลงซึ่งเพิ่มความแม่นยำไปในตัวและเพิ่มความเร็วในกรณีที่ลูกตก Rough หรือ Bunker ซึ่งทำให้มีโอกาสตีพลาดได้มากกว่าลูกที่อยู่บน Fairway หรือ Tee-Off) ความแม่นยำ (Impact, (การกระทบหน้าไม้)) - ความสามารถในการตีลูกได้อย่างแม่นยำ (ทำให้แถบสีชมพูรอบๆแถบปังย่าใหญ่ขึ้น มีผลให้เวลาตีผิดพลาดวิถีของลูกจะเบี้ยวน้อยลง และทำให้โอกาสการตีไม่โดนน้อยลง การหมุน (spin) - ความสามารถในการหมุนของลูก (มีผลในการทำ PowerSpin หรือการปั่นลูกให้เคลื่อนไปข้างหน้าหรือหลังเล็กน้อย) การโค้ง (curve) - ความสามารถในการควบคุมลูกกอล์ฟในการโค้ง (มีผลทำให้ลูกโค้งมากขึ้นและมากขึ้นไปอีกจากการทำ PowerCurve) ตัวละครและแคดดี้ ตัวละคร นูริ (Nuri) อายุ: 15 ปี วันเกิด: 8 ตุุลาคม อาชีพ: นักเรียน งานอดิเรก: เล่นกอล์ฟ(ประสบการณ์ 1 ปี),คาราเต้,ดูหนัง,เล่นเกมส์ หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้เหล็ก เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: 2 เดือน ตัวละครและแคดดี้. ตัวละคร. จุดด้อย เนื่องจากเป็นตัวละครในระยะต้น เมื่อระยะยาวแล้ว ค่าสถานะจะยิ่งแตกต่างสำหรับผู้เล่นสาย power ในระดับ Senior ขึ้นไป หรือสาย control ในระดับ Junior ขึ้นไป ควรพิจารณา ใช้ตัวละครในแต่ละสายตัวอื่นแทน ฮานะ (Hana) อายุ: 14 ปี วันเกิด: 9 เมษายน อาชีพ: นักเรียน งานอดิเรก: เล่นกอล์ฟ(ประสบการณ์ 1 ปี),สะสมริบบิ้นติดผม,อ่านนิตยาสาร หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้เหล็ก เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: 2 เดือน จุดด้อย เนื่องจากเป็นตัวผู้หญิง ความแรงในการตี ย่อมสู้ตัวละครชายไม่ได้ ทำให้ฮานะเมื่อเลเวลอัพ ไปถึงจุดนึง จำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปใช้ ตัวละครที่มีค่าการเติบโตของตัวละครที่ดีกว่า อาเธอร์ (Arthur) อายุ: 41 ปี วันเกิด: 1 ธันวาคม อาชีพ: เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานอดิเรก: ทำงานอยู่ในสนามกอล์ฟ,ทำงาน,กิน,ดื่ม,หนังสืบสวน,ขับรถ หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้ เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: 3 เดือน จุดด้อย การที่มีพลังสปินสูง ทำให้การกะระยะเมื่อใช้ท่าพิเศษ จะแตกต่างกันออกไป จำเป็นต้องอาศัยการฝึกเล่นสาย power-spin พอสมควร อีกทั้งหากเลือกเล่นสาย power แบบเต็มที่ ก็จะทำให้เกจวิ่งเร็ว จึงควรพกไอเทมลงสนามมากกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัยในการเล่นช็อตที่เสี่ยง เซซิเลีย (Cesillia) อายุ: 27 ปี วันเกิด: 23 มิถุนายน อาชีพ: กัปตันเรือ งานอดิเรก: เล่นกอล์ฟ(ประสบการณ์ 1 ปี),อ่านหนังสือเกี่ยวกับ การเมือง,การศึกษาทางทหารและวิศวกรรม หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้ เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: 8 เดือน หน้าตาที่สวยเป็นเหตุทำให้เธอนั้น ชอบตกเป็นข่าวลือกับพวกแฟนคลับ ของเธอ จุดเด่น สาวมั่นแห่งเกาะปังย่าที่มีความแข็งแรง ของการบิดข้อมือสูงมาก ทำให้วงสวิงของเธอที่เน้น การตีโค้ง สามารถอ้อมสิ่งกีดขวาง และหลบหลีกสิ่งต่างๆ ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ ตัวละครอื่นๆ คนที่เล่นสาย control - impact จะได้เปรียบในเรื่องของการกะระยะ การตกของลูกได้ดีกว่าคนเลือสาย control - curve อย่างไรก็ดี การตีโค้งคู่กับคุม่าและไม้เบสบอล นับได้ว่า แทบไม่แตกต่างกับ การใช้ไอเทม (กล้วย) เลยเคยมีคนได้ยินเซซีเลีย คุยโวให้ฟังว่า ปราสาท Wiz Wiz เป็นแค่สนามเด็กเล่นของเธอ จุดด้อย การเติบโตของเซซิเลีย มีปัญหาเรื่องของค่า power และ spin แทบจะเรียกได้ว่า เกือบจะตรงกันข้ามกับ อาเธอร์สาย power - spin เลยทีเดียวเพราะฉะนั้นจำเป็นจะต้อง ใช้อุปกรณ์เสริมในจุดที่ด้อยให้ดี แม็กซ์ (Max) อายุ: 23 ปี วันเกิด: 17 กันยายน อาชีพ: นักเทนนิส (9 ปี) งานอดิเรก: สะสมรถยนต์,มอเตอร์ไซค์และเครื่องบินขนาดเล็ก หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้ เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: 1 เดือน จุดด้อย เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เมื่อตัดสินใจเลือกเล่นสาย power เกจก็จะวิ่งเร็ว ตัว Max เองไม่เก่งเรื่อง spin และ curve จึงต้องอาศัยอุปกรณ์เสริมในจุดนี้ให้หนักกว่าตัวละครอื่นพอสมควร คู (Kooh) อายุ: 11 ปี วันเกิด: 20 กรกฎาคม(ไทย),3 กุมภาพันธ์ อาชีพ: โจรสลัด งานอดิเรก: ล้างปืนใหญ่,กวดขันลูกเรือ,สะสมตุ๊กตาและอาวุธ หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้เหล็ก เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: รู้เรื่องเกี่ยวกับเกาะปังย่า 7 เดือน จุดด้อย ถึงแม้จะเด่นในเรื่องเกจวิ่งช้า แต่เรื่องเทคนิคต่างๆ ต้องอาศัยการปรับแต่งจากอุปกรณ์ และเสื้อผ้าที่สวมใส่พอสมควร จุดด้อยนอกจากค่า curve และ spin ที่ไม่มากแล้ว นั่นก็คือ การเลือกซื้อเสื้อผ้า และของตกแต่งซึ่งล้วนแล้วแต่มีราคาทั้งนั้น อาริน (Arin) อายุ: 20 ปี วันเกิด: 15 พฤศจิกายน อาชีพ: นักมายากล งานอดิเรก: ทำอาหาร หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้เหล็ก เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: รู้เรื่องเกี่ยวกับเกาะปังย่า 9(ไทย),11 เดือน จุดด้อย ถึงแม้ว่าชุดของอาริน +Impact ได้สูงสุดก็จริง แต่เวลาอัพจะได้ไม่เยอะเมื่อเทียบกับตัวละครตัวอื่นๆ แคซ (Kaz) อายุ: 18 ปี วันเกิด: 31 ธันวาคม อาชีพ: ผู้นำกองกำลังลู งานอดิเรก: ลับดาบ,ซ้อมรำดาบ และทำสมาธิ(ไทย), ฝึกฝนควงมีด,ฟันดาบ(12 ปี)และสวดภาวนา หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: ทุกชนิด เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: 3 เดือน จุดด้อย หากเทียบระยะของสนามใหม่ Deep Inferno ค่าพาวเวอร์ที่ให้มายังถือว่าต้องอัพเพิ่มอีกมากเลยทีเดียว แต่ไม่น่าเป็นห่วงเพราะสามารถเพิ่มได้จากชุดเสื้อผ้ารวมไปถึงหัวไม้ต่างๆ ลูเซีย (Lucia) อายุ: 17 ปี วันเกิด: 8 กรกฎาคม อาชีพ: ดารา (1 ปี) งานอดิเรก: สะสมอัญมณี หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไมโครโฟน...? เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: 1 เดือน เนล (Nell) อายุ: 8 ปี วันเกิด: 16 สิงหาคม อาชีพ: นักเรียน งานอดิเรก: เล่นกอล์ฟ(ประสบการณ์ 1 ปี),เล่นกับแมวชื่อ"เพพเพอร์" หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: หัวไม้เหล็ก(เวดจ์) เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: ? สปิก้า (Spika) อายุ: 16 ปี วันเกิด: ? อาชีพ: - งานอดิเรก: ? หัวไม้กอล์ฟที่ชำนาญ: ? เวลาที่เข้าร่วมเกาะปังย่า: ? ตัวละครเสริมบนเครื่องเล่น PSP ซิเอน (Cien) โลล่า/โลโล่ (Lola,Lolo) คูม่า (Quma) ทิกิ (Tiki) พิพพิน (Pipin) คาดี้ (Cadie) ดาร์คไททั่น (Dark Titan) ไททั่นบู (Titan Boo) มินตี้ (Minti) หมายเหตุ ตัวละครบนแพลทฟอร์ม PSP มีการนำแคดดี้บนแพลทฟอร์ม PC มาเป็นตัวละครเสริม** แคดดี้ น้องถุง (Pang Bag) พิพพิ้น (Pippin) ดอลฟินี่ (Dolphini) คุม่า (Kuma) ทิกิ (Tiki) ไททั่นบู (Titan Boo) โลโล่ (Lolo) คาดี้ (Cadie) น้องถ้วย (Cup) มินตี้ (Minty) น้องถุงใส (Trans. Bongdari) วิงเกิ้ลพิพพิ้น (Winkle Pippin) น้องถุงดำ (Black Bongdari) น้องถุงยักษ์ (Big Bongdari) ระบบช่วยเหลือผู้เล่นในสนาม Assist Mode สนาม สนาม. สนามกอล์ฟในเกมปังย่า มีการแบ่งระดับเป็นทั้งหมด 5 ระดับ คือระดับ 1-5 ดาว โดยยิ่งมีจำนวนดาวบ่งบอกมากเท่าไร ระดับความยากของสนามก็จะยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น (ใน Season ที่ 1-3 ของเกมปังย่านั้น การแบ่งระดับสนามจะแบ่งทั้งหมด 3 ระดับ คือ 1-3 ดาว) โดยสนามในเกมปังย่า มี ดังนี้ Libara Libara. สนามกอล์ฟที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลทางทิศใต้ของเกาะปังย่า ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามกับบรรยากาศริมทะเล ฟังเสียงเกลียวคลื่นซัดเข้าสู่ชายหาด และรับไออุ่นจากแสงแดดได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งที่นี่ยังมีรีสอร์ทที่งดงามที่สุดในเกาะปังย่าอีกด้วย สนาม Blue Lagoon - ★ สนามสำหรับมือใหม่ ที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้า เกลียวคลื่นและแสงแดดอันอบอุ่น ซึงอยู่ในจุด ที่มี ความสวยงามมากที่สุดในเกาะปังย่าแห่งนี้ คุณสามารถทำพาร์ได้อย่างง่ายๆ แต่ว่าระวังนะ อย่ามัวแต่ชมวิวเพลินล่ะ เดี๋ยวเวลาตีจะหมดซะก่อนนะ ^^ สนาม Blue Water - ★★★ คุณจะพบต้นปาล์มได้มากว่าในบลูลากูนและแน่นอน เมื่อมีต้นไม้มากต้องตียากกว่าเป็นของ ธรรมดา เพราะต้นปาล์มนี่แหละที่จะทำให้คุณต้องคิดถึงการวางตัวที่จะตี ในช็อตต่อไป ถ้าคุณ ไม่ได้วางแผนไว้ล่ะก็ ช็อตต่อไปตีโดนต้นปาล์มแหงมๆ >. สนาม Blue Moon - ★★★ เปลี่ยนจากน้ำทะเลสีฟ้าครามในยามกลางวันสู่บรรยากาศแห่งค่ำคืนที่แสนจะโรแมนติค แสงจันทร์สีฟ้า (เอ๊ะยังไง?? ก็มันสีฟ้าจริงๆนะ ไม่เชื่อลองสัมผัสดูสิ), หิ่งห้อยเปล่งแสงระยิบ ระยับ , แสงไฟจากประภาคาร, ดอกไม้เรืองแสง และต้นไม้ต่างๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ใน ค่ำคืนอันแสนอบอุ่น สนาม Silvia Cannon - ★★★★ เซซิเลีย ผู้ควบคุมเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีชื่อว่า "Silvia" ได้รับการอนุญาตให้นำเรือเทียบท่า เพื่อแสดงความยินดีงานฉลองของเกาะปังย่าซึ่งได้จอดที่ช่องแคบด้านทิศตะวันออก ผู้คนที่มากับเรือนั้นส่วนใหญ่เป็นชาว Mashiwa ที่ชอบเครื่องจักร และพวกเขาก็พัฒนาเครื่องจักรด้วย ตัวเอง พวกเขาเป็นห่วงว่าจะเกิดมลภาวะเป็นพิษจะตกมายังเกาะปังย่า ซึ่งตอนนี้เริ่มแพร่ขยายแล้ว พวกเขาจึงมีจุดประสงค์ที่เตรียมการเพื่อที่จะสร้าง "Silvia Canon" เพื่อให้พลังที่สะอาดบริสุทธิ์ แก่เกาะปังย่า ความยากในการตีส่วนใหญ่จะอยู่ที่ทิศทางลมของสนาม ซึ่งจะสัมพันธ์กับ "Silvia Canon" ดังนั้นทิศทางลมจึงจำเป็นต่อการเล่น ดังนั้นการเล่นที่สนามนี้ต้องใช้ความรู้สึกของตัวเองเพื่อ ระวังลมและสิ่งกีดขวาง Ventus สนาม Sepia Wind - ★★★ ไม่ต้องแปลกใจที่คุณจะเจอกับกังหันลมมากมายในสนามแห่งนี้ เนื่องจากกังหันลมเหล่านี้ เป็นตัวผลิตพลังงานให้กับเกาะแห่งนี้ ซึ่งสนามนี้ตั้งอยู่ในใจกลางของเกาะปังย่า ระดับ ความยากเท่ากับสนามบลูวอเทอร์ แต่ถ้าคุณคิดว่าจะทำสกอร์ได้ดีกว่าละก้อ จำเป็นที่จะ ต้องตีผ่าน ต้นไม้และกังหันลมพวกนี้ให้ได้แล้วหล่ะ สนาม Wind Hill - ★★★★★ เนินเขาที่สูงชัน กังหันลมและต้นไม้... วินฮิลล์ จัดได้ว่าเป็นสนามที่ยากมาก ที่ตั้งอยู่ ใจกลางของโซนอุตสาหกรรม ของเกาะปังย่า แต่มันก็มีวิธีแหละน่า ลองสังเกตดูการหมุน ของกังหันลมดูสิ จะทำให้คุณรู้ได้ว่าความเร็วและทิศทางลม สนาม Pink Wind - ★ “สายลมแผ่วพลิ้ว ~ กลีบดอกซากุระปลิวไปทั่วเกาะปังย่า...” Pink Wind สนามกอล์ฟ ความยากระดับ 1 ดาว ที่คุณจะได้ออกรอบ หวดวงสวิงในบรรยากาศแบบสบายๆ ในฤดู ใบไม้ผลิกันได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นสนามกอล์ฟแห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่ามีทิวทัศน์ ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะปังย่า รายล้อมไปด้วยกังหันลมแหล่งพลังงาน ธรรมชาติ และต้นซากุระสีชมพูที่กำลังบานสะพรั่งกระจายอยู่โดยรอบบริเวณ อีกทั้งลาย กรีนที่ง่าย ต่อการพัตต์ซึ่งคุณจะสามารถทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยมบนสนามแห่งนี้แน่นอน Maga Valley สนาม Wiz Wiz - ★★★★ Wiz Wiz เป็นโรงเรียนสอนเวทย์มนต์ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่เกาะปังย่า ที่นั่นจะเต็ม ไปด้วยนักเวทที่ต้องการฝึกหัดเกี่ยวกับการใช้เวทย์มนต์ ในปีนี้จะมีการเปิดการแข่งขันปังย่า ขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Wiz Wiz มีเมฆอยู่ตรงหุบเขาลึกจึงเป็นอุปสรรคในการตีมาก เพื่อหลบหลีก สิ่งเหล่านี้จึงจำเป็นต้องใช้หลักการควบคุมลูกเป็นอย่างมากเทพแห่งชัยชนะจะยิ้มให้กับ ทุกท่าน คุณต้องลองเดินทางไปบนเมฆดูสิ แล้วจะพบกับสิ่งมหัศจรรย์แห่งพลังเวทย์มนต์ ภูเขาสูงเฉียดฟ้า และหมอกทึบ.. สนามนี้สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ แต่แฝงไว้ด้วยความยาก เช่นกัน Wiz Wiz เป็นสนามที่มีความยากที่สุด อยู่บนยอดเขาสูง ลึกเข้าไปในกลุ่มหมอก มีสิ่ง ก่อสร้างแปลกประหลาดมากมากในหุบเหวนี้ ทั้งโรงเรียนสอนเวทมนตร์ และกังหันแปลกๆ มากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคในการตีเหมือนกันนะ ถ้าคุณกล้าพอที่จะเสี่ยงกับสนามนี้ อย่าลืม ฝึกฝนมาให้ดีล่ะ ตีพลาดนิดเดียว ได้ OB ไปกินแน่ๆ งุงิ~ สนาม White Wiz - ★★★ หลบไอร้อน แดดจ้าในเกาะปังย่ามาเย็นฉ่ำสุดขั้วกับสนาม White Wiz สนามแห่งใหม่ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของสนาม Wiz Wiz ที่ไม่ว่ามองไปทางไหนก็จะพบแต่หิมะขาวโพลน และน้ำแข็ง ปกคลุมพื้นหญ้า ถึงแม้จะไม่มีประภาคาร กังหัน และหุบเขาคอยขวางกั้นวิถีทางของลูกกอล์ฟ แต่อุณหภูมิที่เย็น ยะเยือกจนกระทั่งน้ำกลายเป็นน้ำแข็งนั้นสร้างอุปสรรค ให้กับการเล่นไม่น้อย เพราะพื้นน้ำแข็ง จะทำให้ลูกกอล์ฟของคุณกระเด็นกระดอนเลยจุดที่คุณตั้งเอาไว้ ถ้าคิดจะสะสมเงินปังจากการทำงาน OVER DRIVE จากสนามนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่น้อย แต่สำหรับผู้ที่ชอบ HOLE IN ONE นั้นคงหมดสิทธิ์ สนาม West Wiz - ★ สนามนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามยามพลบค่ำ แวดล้อมไปด้วยหุบเขา ทิวสน แมกไม้ และทะเลหมอก ภาพรวมของฉากจะคล้ายกับ WIZ WIZ แต่ไม่ยากเท่า ระดับจะพอๆ กับ BLUE LAGOON เพื่อนๆ น่าจะได้ OVER DRIVE กันเยอะๆ จากสนามนี้ล่ะ แถมมีหลุมแจ่มๆ ให้เพื่อนๆ ได้ลุ้น HOLE IN ONE อีกด้วย \(^o^)/ อาจจะมีเนินลาดชันและซอกหลืบของหุบเขาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของเพื่อนๆ อยู่แล้ว สรุปว่าถ้าใครที่ชอบเล่นระดับ 1 ดาว แต่ประทับใจฉากของ WIZ WIZ ล่ะก็ สนาม WEST WIZ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ลงตัวที่สุดนะ สนามนี้พิเศษนิดนึงตรงที่มีป้ายโฆษณา ปักอยู่ด้วยล่ะ เพื่อนๆ ลองสังเกตกันดูนะว่าในป้ายเขียนว่าอะไร อิอิ สนาม Ice Cannon - ★★ เมื่อความหนาวเย็นเข้าปกคลุมอยู่เป็นเวลานาน จนทำให้ทุกอย่างกลายเป็นน้ำแข็ง สนาม แห่งนี้อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์มากมายแม้อากาศจะหนาวเย็นสุดขั้วมากแค่ไหนก็ตาม นานมาแล้วมีเหล่านักวิจัยพยายามเดินทางเข้ามาสำรวจพื้นที่แห่งนี้ด้วยเรือ สำรวจขนาดใหญ่ และพบว่าบนพื้นที่เป็นน้ำแข็งทั่วบริเวณนี้สามารถเล่นปังย่าได้อย่างสนุกอีกด้วย Ice Cannon เป็นสนามระดับ 2 ดาว ที่คุณสามารถหวดวงสวิงได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเป็นกังวลถึงเรื่องทิศทางลม รวมถึงสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่อาจทำให้ทิศทางของลูกเปลี่ยน และที่สำคัญ คุณจะสามารถทำระยะ OVER DRIVE ได้ดีที่สุดบนสนามพื้นน้ำแข็งแห่งนี้ล่ะ สนาม Wiz City - ★★ สนาม Ice Spa - ★ อีก 1 สนามที่อยู่ในโซน Maga Valley เป็นโซนที่ประจุไปด้วยพลังเวทย์มนต์ที่แข็งแกร่ง เป็นที่ตั้งของโรงเรียน Wiz Wiz แต่สนาม Ice Spa นั้น ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโซนนี้เป็นอย่างมาก เนื่องด้วยเป็นสนามที่มี “บ่อน้ำแร่” เพื่อสุขภาพ ทำให้มีผู้คนมากมายเดินทางมาที่นี่เพื่อจะลงแช่น้ำร้อน ในส่วนของตัวสนามเองนั้นมีความยาก 1 ดาว ตีได้ง่าย แต่จะมีอุปสรรมากมายถ้าไม่รู้หลักในการตี จะทำให้ OB หรือ ตีตกน้ำได้ง่ายมาก จึงจำเป็นต้องรู้หลัก, ฝึกฝน และ จดจำ วิธีการตีให้ดีถึงจะตีสนามนี้ได้อย่างง่ายดาย สนาม Abbot Mine - ★★ Oriens สนาม Shining Sand - ★★ แสงแดดอันร้อนระอุ บนผืนทรายอันกว้างใหญ่ขนานรับกับผืนฟ้าที่ยาวไปไกลจนสุดตา สนาม Lost Seaway - ★ สนาม Eastern Valley - ★★ เป็นสนามใหม่ที่มีกลิ่นอายของโลกตะวันออกอย่างชัดเจน ถึงผู้กล้าทุกคนจะต้องออกรอบเพื่อปิดผนึกรอยแยกด้วย Aztec ที่มีอยู่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมกับความงามของสนามนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่สร้างในลักษณะแนวจีน หรือ สัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี้ก็มีความน่ารัก น่าค้นหายิ่งนัก บรรยากาศภายในสนามเป็นลักษณะแบบสบายๆ แต่ถ้าเหม่อลอยไปกับบรรยากาศแล้วอาจจะทำให้ตีพลาดได้ง่ายๆ เลยทีเดียว บางจุดในสนามนี้ก็ตีค่อนข้างยากทำให้ความยากขึ้นไปถึง 2 ดาว ต้องอาศัยความเคยชินและฝีมือด้วย ถึงจะทำสกอร์ดีๆ ได้ สนาม Mystic Ruins - ★★★ **มีเฉพาะในเซิฟเวอร์ญี่ปุ่นเท่านั้น** Narakas สนาม Deep Inferno - ★★★★★ ดินแดนอันลึกลับที่เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นาน ภายในสนามจะพบกับบรรยากาศดินแดนภูเขาไฟอันร้อนระอุ มีลาวาเหลวอันร้อนแรงไหลตามลำธารทอดยาวไป สุดตาและพร้อมที่จะประทุ ระเบิดอยู่ตลอดเวลา ด้วยความร้อนของภูเขาไฟที่แผ่ขยายออกเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ดินแดนแห่งนี้แทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลืออยู่เลย แม้แต่ต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณนี้ก็ยังต้อง เหลือแต่กิ่งก้าน เพราะทนความร้อนของภูเขาไฟไม่ไหวอีกทั้งดินแดนแห่งนี้ยังเป็นที่จองจำกักขังเหล่ามังกรไม่ให้ออกไปอาละวาดมานานนับปี ดูได้จากซากกระดูกที่วางเรียงรายอยู่ในบริเวณของสนาม และบางตัวที่ยังมีชีวิตอยูแต่กลับถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน ไม่ให้ออกไปไหนมาไหน สนาม Ice Inferno - ★★★★ เลเวลและค่าประสบการณ์ ดูเพิ่ม Final Fantasy XI King of Kings Dragon Raja Dark Story Online Mu Online Fly For Fun Lineage Ragnarok online Ran Online กรานาโด้ เอสพาดา กันบาวด์ โอทูแจม เดอะซิมส์ เมเปิลสตอรี Seal Online ทีเอสออนไลน์ อสุรา ออนไลน์ ยุทธภพครบสลึง เก็ทแอมป์ N-Age คาบาลออนไลน์ แคปคอม vs. เอสเอ็นเค 2 เดอะซิมส์ 2 ไทโกะโนะทัตสึจิน ปังย่า Crazy Arcade KartRider Special Force เทลส์รันเนอร์ Fanta Tennis RayCity Online ออดิชั่นออนไลน์ BOOMZ LaTale Online Trickster Emil Chronicle Online CSO Online Xshot Grand Chase FreeStyle Online Ghost Online Point Blank สิบสองหางออนไลน์ Yogurting Nostale Zone4 เดอะซิมส์ 3 Mabinogi Dragonica ลูน่าออนไลน์ Dragon Nest Special Force 2 Overwatch Lineage II Overwatch 2 เดอะซิมส์ 4
thaiwikibooks
195,663
สิบสองหางออนไลน์
สิบสองหางออนไลน์ เป็นเกมออนไลน์แนวแอ็คชั่นอาร์พีจีสัญชาติไทย พัฒนาโดยบริษัท Bigbug Studio เริ่มการพัฒนาเกมเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 โดยใช้เวลาพัฒนาถึง 3 ปี และมีทีมพัฒนาเกมชาวไทยเพียง 4 คนเท่านั้น โดยในปัจจุบันบริษัท ไอ ดิจิตอล คอนเนคท์ จำกัด ได้ลิขสิทธิ์เกมสำหรับการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ การเล่นเบื้องต้น ความต้องการขั้นต่ำของระบบ ซีพียู : อินเตอร์ P4 1.5 กิกะเฮิร์ซ หรือแบบอื่นในความเร็วใกล้เคียงกัน แรม : 512 เมก ฮาร์ดดิสก์ : 4 กิกะไบต์ขึ้นไป ระบบปฏิบัติการ : วินโดว์ XP/วิสตา/วินโดว์ 7 การ์ดจอ : Geforce 2 MX 400/ 64 เมกะไบต์ ไดเร็ค X : ไดเร็ค X 9.0 c อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง : 2 เมกะไบต์ ที่อยู่ในระดับสัญญาณเสถียร การเข้าสู่เกม คลิกที่ไอคอน 12TailsOnline ที่ปรากฏบนเดสทอป แล้วล็อกอินเข้าสู่เกม ทั้งนี้ 1 ไอดีสามารถสร้างได้สูงสุด 3 ตัวละคร และการสร้างตัวละครต้องใส่รายละเอียดให้ครบ วิธีแก้ปัญหาการเข้าเล่นเกมไม่ได้ แจ้งอาการ Error 260 : เกิดจากการไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต วิธีแก้อาการ : ทำการปิด Firewall แจ้งอาการ Error 266 : เกิดจากปัญหาบางโปรแกรมไม่ยอมรับระบบปฏิบัติการ วินโดว์ 7 /64 บิต วิธีแก้อาการ : การแก้แบบชั่วคราว สามารถทำได้โดยกดเมาส์คลิกขวาที่ไอคอนบนเดสทอป แล้วเลือก run as Administrator ซึ่งใช้ได้ในกรณีของ วินโดว์ 7 เท่านั้น ส่วนการแก้แบบถาวรสำหรับวินโดว์ 7 64 บิต คือ คลิกขวาที่ ICON 12TAILS แล้วเลือกหัวข้อ Compatibility จากนั้นทเลือกทำเครื่องหมายถูก ที่ Run this program in compatibility mode for: แล้วเลือก Windows Vista และกด Apply แจ้งอาการ Error 273 : เกิดจากปัญหา copy client จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ส่งผลให้เกมขาดความสมบูรณ์ สามารถแก้ปัญหาได้โดยการทำ Slove :การ install game ใหม่อีกครั้ง แจ้งอาการ Wrong Version : แยกได้เป็น 2 กรณีคือ: มี Client เวอร์ชัน 3.21 ซึ่งเป็นเวอร์ชันเก่า กรณีนี้ให้ uninstall อันเดิมออกไปก่อนแล้ว install version 4.0 จากนั้น สามารถอัพเดตได้ตามปกติ มี Client เวอร์ชัน 4.0 แต่ไม่สามารถอัพเดตได้ หากเป็นกรณีนี้ ทางทีมงานผู้สร้างได้ทำการแก้ไขอยู่ จอขาว : เกิดจากสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึงเซิร์ฟเวอร์ ส่งผลให้ทำงานได้ไม่สมบุรณ์นัก วิธีแก้อาการ : ปิดแล้วเปิด router จากนั้นลองเข้าใหม่ หรือ อาจลองปิดเกมแล้วเข้าเกมใหม่อีกครั้ง จอขาวหลังจากเลือกตัวละคร : กรณีจอขาวหลังจากเลือกตัวละคร แล้วเกิดอาการจอขาวค้างตอนเข้าเกม วิธีแก้อาการ : อาจเกิดจากโปรแกรม แอนตี้-ไวรัส ของ Bitdefender 2011 Total Security เข้ามาขวางการเชื่อมต่อในช่วงก่อนเปิด OB แต่สามารถเข้าเกมได้ตามปกติแล้วในปัจจุบัน จึงอาจสันนิษฐานได้ว่าโปรแกรม แอนตี้-ไวรัส เป็นส่วนเกี่ยวข้องที่ส่งผลให้เชื่อมต่อไม่ได้ แจ้งอาการ 0Xc0000163 : สาเหตุเกิดจากการที่เครื่องไม่มีโปรแกรม Microsoft Visual C++ runtime หรือโปรแกรมไม่อัพเต หรือโปรแกรมอาจเกิดการเสียหาย วิธีแก้อาการ : ต้องดาวน์โหลดเวอร์ชันใหม่จากเว็บของไมโครซอฟต์ โดยการเสิร์ชจากคีย์เวิร์ด: Microsoft Visual C++ 2010 Redistributable แจ้งอาการ 0Xc0000135 : สาเหตุมาจากการที่เครื่องไม่มีโปรแกรม net.framework วิธีแก้อาการ : ดาวน์โหลดเพื่อติดตั้ง โดยแนะนำให้มีทั้ง 2.0 และ 3.5 แจ้งอาการ the game crashed : สาเหตุมาจากเกมที่นำมาลงไม่สมบูรณ์ อาจเกิดจากการโหลดแล้วเกิดอาการกระตุกในการอ่านข้อมูล ทำให้ไฟล์ที่รับมาไม่สมบูรณ์ วิธีแก้อาการ : ให้โหลดเกมใหม่ ในช่วงที่มีการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตที่น้อยลงในบริเวณนั้น หรืออาจขอลงจากเพื่อนที่มีฉบับสมบูรณ์แทนได้ เข้าเกมแล้วหลุดออกมาเพราะ GameGuard (GG) : สาเหตุมาจากเครื่องมีโปรแกรมเสี่ยงสำหรับกรณีนี้ วิธีแก้อาการ : ปิดโปรแกรมต่างๆ หรือรีสตาร์ทเครื่อง เพื่อรีเซ็ท โดยปิดโปรแกรมต่างๆให้หมด กรณี OverClock เครื่องอาจได้รับผลนี้เช่นกัน ทั้งนี้อาจไม่สามารถแก้ไขได้สำหรับบางเครื่อง เพราะแต่ละเครื่องอาจมีโปรแกรม การตืดตั้ง หรือโปรแกรมเสริมต่างกัน การเล่นให้ถึงเลเวล 40 อย่างรวดเร็ว สูตรคำนวณค่า KO สูตรคำนวณค่า KO. สูตร 10 + (Def รวมทั้งหมด/3) ค่า KO จาก Def สูตรการคำนวนแบบรายละเอียด หมายเหตุ: ตัวอย่างเช่น หากมี Def 46+26 จะได้ Def รวมเท่ากับ 72 จากนั้น นำ 72 มาหาร 3 จะได้ 24 เหลือเศษเท่าใดให้ปัดออก จากนั้น นำ 24 มาบวกกับค่าแรก คือ 10 ดังนั้น 24 + 10 ค่า KO จึงได้ทั้งหมด 34 ครั้ง อ้างอิง แนะนำเกมสำหรับผู้เล่นใหม่ (วิธีเล่น 12 หางเบื้องต้น) ดูเพิ่ม Final Fantasy XI King of Kings Dragon Raja Dark Story Online Mu Online Fly For Fun Lineage Ragnarok online Ran Online กรานาโด้ เอสพาดา กันบาวด์ โอทูแจม เดอะซิมส์ เมเปิลสตอรี Seal Online ทีเอสออนไลน์ อสุรา ออนไลน์ ยุทธภพครบสลึง เก็ทแอมป์ N-Age คาบาลออนไลน์ แคปคอม vs. เอสเอ็นเค 2 เดอะซิมส์ 2 ไทโกะโนะทัตสึจิน ปังย่า Crazy Arcade KartRider Special Force เทลส์รันเนอร์ Fanta Tennis RayCity Online ออดิชั่นออนไลน์ BOOMZ LaTale Online Trickster Emil Chronicle Online CSO Online Xshot Grand Chase FreeStyle Online Ghost Online Point Blank สิบสองหางออนไลน์ Yogurting Nostale Zone4 เดอะซิมส์ 3 Mabinogi Dragonica ลูน่าออนไลน์ Dragon Nest Special Force 2 Overwatch Lineage II Overwatch 2 เดอะซิมส์ 4 แหล่งข้อมูลอื่น 12 หางออนไลน์ Exclusive เจาะใจ 'DarkGaMeR' 12tails Online Fansite: สูตรคำนวนค่า KO ของเกมส์ 12 หาง
thaiwikibooks
195,664
ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม
ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม เป็นเกมกระดานที่นำตัวละครจากการ์ตูนเรื่อง ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ซึ่งเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย โดยในปัจจุบันทางสำนักพิมพ์อีคิวพลัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตได้จัดทำออกมาเป็น 2 เวอร์ชัน คือ: ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม ตอน ผจญภัยในแดนสยาม ลา ฟลอร่า บอร์ดเกม ตอน ท่องแดนอาทิตย์อุทัย ประวัติ ประโยชน์จากเกม เสริมความรู้ด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เพื่อฝึกการคำนวณเชิงตรรกะ และการวางแผน เพื่อสร้างมนุษยสัมพันธ์ กติกา อายุผู้เล่น : 8 ปีขึ้นไป จำนวนผู้เล่น : 3 ถึง 5 คน ระยะเวลาในการเล่น : 30 ถึง 45 นาที อุปกรณ์ แผนที่การผจญภัย การ์ดรายงาน 5 สี จำนวน 34 ใบ การ์ดผจญภัย 60 ใบ ตัวเดิน มี 5 แบบ (หนึ่งแบบมี 2 ด้าน) ธง มี 45 ชิ้น (หนึ่งชิ้นมี 2 ด้าน) วิธีเล่น วางแผนที่การผจญภัยไว้กลางวงผู้เล่น สับการ์ดรายงานแล้วรวมเป็นกองเดียว วางคว่ำไว้ที่ด้านข้างของแผนที่ สับการ์ดผจญภัย แล้ววางคว่ำไว้ที่ด้านข้างของแผนที่อีกกองหนึ่ง เลือกตัวเดินที่ต้องการ 1 ตัว และรับธงคนละ 9 ชิ้น ซึ่งธงเป็นรูปเดียวกันกับตัวที่ผู้เล่นเลือก ใช้วิธีใดก็ได้เลือกผู้เล่นคนแรกขึ้นมา แจกการ์ดให้ผู้เล่นคนละ 3 ใบ โดยเริ่มจากผู้เล่นคนแรกแล้ววนไปทางซ้ายมือ แล้วแจกการ์ดรายงานให้ผู้เล่นคนละ 3 ใบ โดยทำในลักษณะเดียวกัน เมื่อได้การ์ดรายงานแล้ว ให้เลือกเก็บไว้ 1 ใบ ส่วน 2 ใบที่เหลือให้สอดคืนใต้กองการ์ดรายงาน ผู้เล่นแต่ละคนอ่านโจทย์บนการ์ดรายงานของตัวเองให้ผู้เล่นทุกคนฟัง (อ่านเฉพาะโจทย์ โดยเก็บส่วนเฉลยไว้เป็นความลับ) ถึงตอนนี้ ผู้เล่นแต่ละคนจะมีตัวเดิน ธง 9 ชิ้น, การ์ดรายงาน 1 ใบ และการ์ดผจญภัย 3 ใบ เริ่มเกม หลังจากหาผู้เล่นคนแรกได้แล้ว ให้วางตัวเดินของผู้เล่นทุกคนในจุดเริ่มต้น (โดยผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายมือของผู้เล่นคนแรกจะเป็นผู้เล่นคนถัดไป) ในหนึ่งตา (หรือหนึ่งเทิร์น) ของผู้เล่นแต่ละครั้ง ให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามรายการต่อไปนี้ โดยเมื่อทำเสร็จแล้วให้ถือว่าจบเทิร์น เลือกหยิบการ์ดรายงาน 3 ใบ แล้วให้เลือกเก็บไว้ 1 ใบ ที่เหลือคืนกองการ์ดตามปกติ แล้วจบเทิร์น หรือ เลือกหยิบการ์ดผจญภัย 2 ใบ แล้วจบเทิร์น หรือ เลือกผจญภัย (ดูหัวข้อ ชนิดการ์ด ประกอบการเล่น) เมื่อถึงเป้าหมายแล้วสามารถเลือกได้ว่าต้องการวางธงหรือไม่ หากวงกลมนี้อยู่ในรายงาน สามารถวางธงได้เพื่อจะได้คะแนน (หากไม่วางธงจะไม่ได้คะแนน) เมื่อวางธงเสร็จแล้วถือว่าจบเทิร์น ส่วนการ์ดผจญภัยที่ใช้เสร็จแล้วนั้น ให้เอาไปวางกองรวมเป็นการ์ดที่ใช้แล้ว เพื่อรอการนำการกลับมาใช้ใหม่ ส่วนการ์ดรายงานให้เก็บไว้กับตัว เมื่อจบเกม ผู้เล่นที่มีคะแนนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ชนิดการ์ด การ์ดพาหนะ แบ่งเป็น การ์ด บขส., ตุ๊กตุ๊ก และรถไฟ สามารถใช้ผจญภัยได้ตามเส้นทางที่ระบุไว้บนการ์ด ส่วนการ์ดเฮลิคอปเตอร์ สามารถใช้แทนการ์ดพาหนะอื่นได้ทุกประเภท ซึ่งการ์ดเฮลิคอปเตอร์ 1 ใบ ใช้แทนการ์ดอื่นได้ 1 ใบ การ์ดเพื่อน ใช้ในการผจญภัยได้โดยดูตามเงื่อนไขบนการ์ด จะใช้กี่ใบหรือไม่ใช้เลยก็ได้ แต่ต้องใช้ก่อนการ์ดพาหนะเท่านั้น การ์ดของฝาก ใช้ผจญภัยไม่ได้ แต่เป็นการ์ดที่หากเก็บไว้กับตัวจนจบเกม จะได้คะแนนบวกเพิ่ม การ์ดรายงาน ให้ดูการ์ดรายงานว่ามีคะแนนเท่าใด และดูเฉลยว่าต้องไปกี่ที่จึงได้จะคะแนนตามนั้น หากทำรายงานไม่สำเร็จจะโดนติดลบ โดยใช้การ์ดพาหนะตามจำนวนที่มีอยู่เป็นตัวช่วย หมายเหตุ บนจุดวงกลม หากมีตัวเดินผู้เล่นคนอื่นอยู่ก่อนย่อมสามารถยืนในจุดวงกลมเดียวกันได้ จากนั้นให้เลือกวางธง โดยในช่องสถานที่หนึ่งช่องสามารถวางธงได้ 2 ชิ้นเท่านั้น แล้วจบเทิร์น ส่วนการ์ดผจญภัยที่ใช้เสร็จแล้ว ให้เอาไปกองรวมเป็นการ์ดที่ใช้แล้วเพื่อรอการนำกลับมาใช้ใหม่ สำหรับการ์ดรายงานที่ทำเสร็จแล้ว ให้เก็บไว้กับตัวเพื่อนับคะแนนตอนจบเกม การ์ดรายงานเน้นวางช่องสีเดียวกันทุกช่องดีกว่า เพราะได้คะแนน 8 คะแนนตอนจบเกม ปกติตอนตัวเดินไปยืนอยู่บนช่องสนามบิน เราสามารถย้ายตัวเองไปยังช่องสนามบินสีอื่นๆได้ เว้นตอนอยู่บนสนามบินตอนเริ่มเทิร์น หรือในการเดินครั้งแรกของเกม เราไม่สามารถเดินไปช่องสนามบินอื่นได้นอกจากเราได้ทำการเดินออกจากช่องสนามบินก่อน โดยใช้การ์ด บขส. 1 ใบ แล้วใช้การ์ด บขส. อีก 1 ใบ เพียงเท่านี้ก็สามารถไปยังช่องสนามบินอื่นได้ จากนั้น ก็สามารถใช้การ์ดผจญภัยเดินทางไปที่อื่นต่อได้ แล้ววางธงเป็นอันจบเทิร์น หลังจากเล่นเรื่อยไปแล้ว ใครวางธงชิ้นสุดท้ายก่อนจะถือว่าเกมรอบนั้นเป็นรอบสุดท้าย แล้วจบเกม เมื่อจบเกมแล้ว ให้ทำการนับคะแนน ซึ่งวิธีนับคะแนนมีระบุที่ ช่องนับคะแนนบนแผนที่การผจญภัย ใครได้คะแนนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ทั้งนี้ ผู้เล่นสามารถศึกษาการเล่นเกมเพิ่มเติมได้ในหนังสือกติกาการเล่นเกมที่มีอยู่ อ้างอิง แหล่งข้อมูลอื่น ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ในไร้สาระนุกรม ลาฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง
thaiwikibooks
195,665
สารสนเทศศาสตร์สุขภาพ
สารสนเทศศาสตร์สุขภาพ (Health Informatics ชื่อย่อ HI) เป็นขอบเขตของงานวิชาการหรือวิชาชีพในด้าน 1) การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการแพทย์ 2) การศึกษาและทฤษฎีการพัฒนาของข้อมูล, กระบวนการความรู้และความคิดของผู้ประกอบการและผู้ใช้ ซึ่งเป็นความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมความรู้ของแพทย์, พยาบาลและผู้ใช้ทั้งหมดของอุปกรณ์สารสนเทศเหล่านี้ สารสนเทศศาสตร์สุขภาพเป็นรากฐานที่ลึกซึ้งในเวชศาสตร์ปริวรรต ซึ่งเป็นการปฏิบัติในการวิเคราะห์ชุดข้อมูลที่ได้จากบันทึกของคลินิก และข้อมูลการวิจัยทางคลินิก ตลอดจนการแปลผลไปสู่การตัดสินใจในอนาคตในหลายสาขาวิชาที่เกี่ยวกับสุขภาพ รวมทั้งการปฏิบัติทางคลินิก, การวิจัยทางคลินิก, วิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์, ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (HCI), ประชานศาสตร์, จิตวิทยาและอื่น ๆ ครอบคลุมคลื่นความถี่จากการประยุกต์ (ได้รับบางสิ่งบางอย่างในการทำงาน) กับทฤษฎี (เรียนรู้วิธีการทำงานหรือทำไมถึงไม่เป็นเช่นนั้น) มีเรื่องที่น่าสนใจพิเศษมากมายภายในสารสนเทศศาสตร์สุขภาพ ซึ่งตรงกับความเชี่ยวชาญพิเศษหลายอย่างในการแพทย์ เช่น การพยาบาล, รังสีวิทยา, ภาพวินิจฉัย, เวชศาสตร์ชันสูตร (เวชศาสตร์) เช่นเดียวกับเวชศาสตร์ฉุกเฉิน แหล่งข้อมูลอื่น AMIA Principal professional organization of general health informatics. NCEMI National Center of Emergency Medicine Informatics - Excellent Emergency Medicine stuff - eMedicine/emerg eMedicine Online Textbook of Emergency Medicine Traditional Textbook format Online Emergency Medicine Text (and many other medical texts now) authored, controlled content chapters, look like traditional textbook chapters, but online and free
thaiwikibooks
195,666
คู่มือการเป็นนักเรียนที่ดี
คู่มือการเป็นนักเรียนที่ดี เป็นคู่มือสู่การเป็นนักเรียนที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกินความสามารถ หากคุณพยายามอย่างหนักพอ คุณก็จะประสบความสำเร็จได้ บทนำ บทนำ. เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในระดับประถมศึกษา หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับปริญญาบัณฑิต ที่จะตระหนักถึงพื้นฐานของการเป็นนักเรียนที่ดี ทักษะเหล่านี้ หากทำได้ดีในโรงเรียน ย่อมสามารถนำไปใช้สู่ด้านอื่นๆในหลายส่วนของชีวิตได้เช่นกัน คู่มือนี้มีวัตถุประสงค์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาแนวทางบางประการเกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถของตน ในฐานะที่นักเรียนเป็นบุคคลหนึ่ง หากปฏิบัติตามแนวคิดเหล่านี้ในด้านวิชาการ ก็จะช่วยให้นักเรียนสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ในห้องเรียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้เรียนรู้ถึงบางสิ่งที่จะนำไปสู่การเป็นนักเรียนที่ดีและจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น บทที่ 1 - สร้างแรงจูงใจ บทที่ 1 - สร้างแรงจูงใจ. เพื่อเป็นนักเรียนที่ดี คุณต้องมีแรงจูงใจ การสร้างแรงจูงใจอาจทำได้โดยการมองสภาพของเด็กหลายคนที่ไม่มีโอกาส ที่พวกเขาไม่โชคดีพอที่ได้รับการศึกษา นี่เป็นสิ่งที่สามารถระลึกขึ้นได้ในช่วงที่คุณไม่ต้องการเข้าชั้นเรียนหรือทำการศึกษาที่บ้าน สาเหตุในการสร้างแรงจูงใจในการศึกษาคือ การที่คุณจะมีความสุขในการยกคุณภาพชีวิตในฐานะเป็นคนที่มีการศึกษา คุณสามารถไปที่เว็บการศึกษาเช่นนี้ และเข้ากลุ่มกับผู้ที่มีความสนใจ โดยไม่จำเป็นต้องบังคับตนเอง เช่นนี้จะช่วยลดความน่าเบื่อ และจะรู้สึกได้ว่าไม่เหมือนกับการเปิดหนังสือของคุณ คุณจะได้รับความรู้ด้านวิชาการเป็นจำนวนมากในหลักสูตร ลองเป็นเพื่อนกับพวกเขา หรือส่งเสริมเพื่อนในปัจจุบันของคุณให้เป็นนักเรียนที่ดีขึ้น และคุณจะได้สัมผัสถึงสภาพแวดล้อมทางวิชาการ ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกมีแรงบันดาลใจ เหนือสิ่งอื่นใด คุณต้องมั่นใจสำหรับการที่จำเป็นต้องรู้สึกว่าเราทำเพื่อตนเองมิใช่เพื่อใครอื่น ขอให้โชคดี บทที่ 2 - ตั้งใจศึกษา บทที่ 2 - ตั้งใจศึกษา. ความเอาใจใส่ต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณมีพื้นฐานด้านความตั้งใจแน่วแน่ และยังให้คำแนะนำอันเป็นการกระตุ้นด้วยการเอาใจใส่ คุณต้องเอาใจใส่ในชั้นเรียน ไม่พูดคุยเล่นกับเพื่อนเมื่อครูผู้สอนหันหลังให้กับคุณ อาจดียิ่งขึ้น หากไม่ไปข้องเกี่ยวกับคนที่ทำให้เสียสมาธิ คุณควรตระหนักว่าผู้คนในชั้นเรียนของคุณล้วนมีผลสำคัญต่อระดับความก้าวหน้าของทุกคน อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นนักเรียนที่ดีขึ้น คุณก็จะทำได้ดีกว่าและประสบความสำเร็จในเป้าหมายของคุณ เพื่อนของคุณจะมีเวลาให้กับคุณในช่วงนั้น หากพวกเขายังคงเชื่อใจ ส่วนที่บ้าน การศึกษาเล่าเรียนและทำการบ้านควรเลือกบริเวณที่ไม่ทำให้คุณนอนหลับ แนะนำให้มีตารางเรียนอยู่ที่โต๊ะ ไม่ทบทวนบทเรียนบนเตียงหรือหน้าจอโทรทัศน์, วิทยุ, สเตอริโอ หรืออื่นๆ เพราะจะไม่มีเป้าหมายสู่การศึกษาของคุณ ถ้าคุณรู้สึกมีความฟุ้งซ่าน ให้ใช้เวลาพัก 15 นาทีหรือน้อยกว่า อาจจะลองอ่านหนังสือที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ควรมุ่งเน้นกับหนังสืออื่นในระยะเวลาที่มากกว่า ทำเครื่องกั้นหน้ากระดาษและคุณจะสามารถอ่านได้ในภายหลัง นอกจากนี้คุณควรจะมีตารางเวลา/ตารางกิจวัตรประจำนำทางให้กับคุณ และคุณต้องทำตามรายการ มันอาจจะยากที่จะเริ่มต้น แต่การเริ่มต้นที่ยากมักจบลงด้วยดี หลีกเลี่ยงการทุจริตในห้องสอบ นี่จะส่งผลให้ผู้สอนของคุณยกย่อง ได้ศูนย์คะแนนดีกว่าการได้หนึ่งร้อยคะแนนจากการลอกข้อสอบ หลีกเลี่ยงการโกงข้อสอบ จงซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ หากคุณไม่ทราบคำตอบให้ข้ามไปก่อน แล้วใช้มันเป็นช่องทางที่จะเพิ่มพูนความรู้ในวิชาของคุณ โปรดจำไว้ว่าการศึกษาที่ดีในตอนนี้ จะส่งผลให้คุณได้รับโอกาสและได้รับความสนุกหลังจากบรรลุเป้าหมายของคุณ บทที่ 3 - ความประพฤติ (ความประพฤติอย่างเต็มกำลัง) บทที่ 3 - ความประพฤติ (ความประพฤติอย่างเต็มกำลัง). หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่เป็นส่วนตัดสินถึงอนาคตของบุคคลหรือเด็กคือพฤติกรรมของพวกเขา การเรียนรู้จากตำราและได้คะแนนเต็มร้อยอาจยังไม่พอ ทำให้ผู้คนควรคิดว่าคุณเท่านั้นที่มีกิริยาดีงาม เชื่อฟังผู้ปกครอง ไม่เป็นอันธพาลต่อเพื่อนร่วมชั้นของคุณที่โรงเรียน โปรดจำไว้ว่า ให้ลองจินตนาการตัวเองว่าอยู่ในสถานการณ์ของคนอื่น และคุณจะรู้ได้ว่าคุณได้ทำร้ายพวกเขามากน้อยเพียงใดจากการกระทำของคุณ กล่าวสวัสดีกับครูที่โรงเรียนเมื่อคุณพบพวกเขา ผู้คนจะได้ชื่นชมความเป็นมิตรของคุณและมอบความเป็นมิตรกลับคืนมา มีมารยาทที่ดีในชั้นเรียน รู้จักยกมือตอบคำถาม ไม่ขัดจังหวะขณะที่ใครกำลังสนทนา และหากคุณไม่มีสิ่งดีที่จะพูดคุย ก็จงอย่าคุย จากข้างต้นทั้งหมด พยายามช่วยเหลือเพื่อนของคุณในทุกสถานการณ์ และคุณจะเป็นที่จดจำในฐานะเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโรงเรียน ไม่เพียงแต่เพื่อชื่อเสียงที่ดี หากแต่เป็นเพื่ออนาคตที่ดีสำหรับคุณเอง คุณควรรู้ด้วยว่าคำพูดจากปากยังเพียงพอที่จะทำลายความสัมพันธ์หรือทำให้แย่ลง ดังนั้นอย่าทำให้เน่าเหม็น, ทำให้หมดกำลังใจ หรือใช้คำพูดดูถูก หากใครบางคนมีพฤติกรรมหยาบคาย อย่าสนับสนุนพวกเขาด้วยการหัวเราะ เพราะว่าจะทำให้พวกเขายังคงมีพฤติกรรมที่ไม่ดีอยู่อีก อย่าใช้สิ่งนี้เป็นการปราศัย หากแต่ใช้เป็นแนวทาง! พฤติกรรมควรมาเป็นอันดับแรกแล้วตามมาด้วยการเป็นนักวิชาการ แม้ว่าคุณจะทำได้ไม่ดีที่โรงเรียน แต่คุณก็จะมีชื่อเสียงในทางที่ดีในด้านพฤติกรรมของคุณ และเพื่อนที่ดีของคุณก็มีค่ามากกว่าทอง พฤติกรรมของคุณควรเป็นในลักษณะของการสร้างความประทับใจต่อผู้อื่น บทที่ 4 - การบริหารจัดการ บทที่ 4 - การบริหารจัดการ. นี่เป็นหนึ่งในหลายๆ คำถามที่เด็กถามครูของพวกเขา "คุณครู หนูไม่สามารถเรียนได้!" กรุณาไตร่ตรองในสิ่งต่อไปนี้: คุณทุ่มเทต่อการเรียนหรือไม่? หรือคุณเพียงเรียนเพื่อเอาใจพ่อแม่ของคุณ? หรือคุณโกงข้อสอบเพื่อให้ได้คะแนนที่ดี? ก็ขอให้ดูในรายการต่อไป ก่อนอื่น รายการดังข้างกล่าวต้น อาจเป็นการเรียนตามตารางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โปรดอย่าทำการศึกษาหรืออ่านในที่แสงสลัว หากคุณเริ่มเบื่อต่อการเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ให้ศึกษาสิ่งอื่นที่คุณสนใจเป็นอย่างมากแทน คุณต้องค้นหาทางเลือกที่คุณต้องการอยู่เสมอ! เราทุกคนรู้ว่า "การทำแต่งาน โดยที่ไม่มีการเล่นเลย ก็ทำให้โง่ได้" ใช่ การศึกษาตลอดทั้งคืนและไม่ได้เล่นโดยมุ่งแต่งานจะทำให้คุณลืมทุกอย่างในเช้าวันรุ่งขึ้น ออกไปเล่นข้างนอก 2 สักชั่วโมงหรือตามแต่ มันจะเป็นที่พึงพอใจเมื่อคุณออกไปเล่นในช่วงเย็น พูดคุยตอน 5 โมงเย็น การกระทำนี้จะช่วยให้คุณมีความแข็งแรงเป็นพิเศษสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำ ให้ทำตารางเวลา และนั่นคือทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง จัดตารางเวลาโดยให้วิชาที่ยากสำหรับคุณอยู่ในคอลัมน์แรก กำหนดเวลาพักในทุกช่วงหลัง 2 วิชาเพื่อไม่ให้คุณเกิดความตึงเครียด ศึกษาแต่ละวิชาประมาณหนึ่งชั่วโมง แบ่งช่วงหยุดย่อยประมาณ 10-15 นาทีระหว่างนั้น ซึ่งคุณจะได้มีการฟื้นพลัง ใช้เวลากับสิ่งที่นำมาซึ่งความคิดของคุณในสิ่งพยายามที่จะทำ และมีอาหารว่างเสริม ลองมีการนอนหลับที่ดี มนุษย์มีการนอนหลับ 8 - 10 ชั่วโมงในแต่ละวัน (มันลดลงไปตามอายุ) หากคุณไม่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ มันจะส่งผลให้เกิดการเกียจคร้าน เกิดความบกพร่องในการจำ และจิตใจของคุณจะเต็มไปด้วยความกระหายสำหรับส่วนที่ขาดหายไป บทที่ 5 - ช่วยเหลือผู้อื่นและให้คำปรึกษา บทที่ 5 - ช่วยเหลือผู้อื่นและให้คำปรึกษา. นอกเหนือจากการปรับปรุงตัวเอง ลองกระจายทักษะของคุณให้แก่ผู้อื่น นี่เป็นส่วนให้คุณมีทุกสิ่งที่จำเป็นในการใช้ร่วมกับการแบ่งปันทักษะของคุณ การร่วมทำงานจะเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อประโยชน์แก่ทุกคน มันเป็นสิ่งตรงข้ามของการแข่งขันที่ทุกคนต้องการชนะสำหรับตัวเอง การเรียนรู้ได้มากที่สุดคือการช่วยเหลือผู้อื่น ดังนั้นการเรียนรู้เพื่อร่วมมือย่อมเป็นทักษะที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน คู่คิดทางการศึกษาเป็นเครื่องมือที่น่าอัศจรรย์ พวกเขาช่วยประหยัดเวลาและเสริมสร้างต่อสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ แบ่งการอ่านออกเป็นครึ่งหนึ่ง ศึกษาในส่วนของคุณและใช้กลยุทธจดบันทึกที่คุณมีทั้งหมด (เช่น แผนภาพของเวนน์, สรุป, บัตรบันทึก, เน้นสี) เมื่อพวกคุณมีความเข้าใจจากการอ่าน ลองผลัดกันสอน/อธิบายแก่คนอื่น เมื่อคุณปรับการอธิบายแก่คู่หูของคุณ คุณจะสามารถเสริมสร้างแนวคิดสำหรับตัวคุณเอง มันได้ผลเพราะเมื่อคุณคิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะอธิบายหัวข้อ คุณต้องเข้าใจมันเสียก่อน! คุณครูต่างชอบบรรดานักเรียนที่มีความรู้พิเศษอยู่บ้าง เพื่อให้ได้ความรู้เหล่านี้ให้เข้าห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือพิเศษ หากคุณกำลังสับสนหนังสือที่คุณอ่านอยู่ให้ถามคุณครูของคุณ มันช่วยได้จริงๆ ข้อสรุป ข้อสรุป. คุณจะต้องประสบความสำเร็จในทุกชั้นเรียน และไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพูดคุยกับเพื่อน รวมทั้งให้ความสำคัญต่อกฎระเบียบของโรงเรียน คุณสามารถประสบความสำเร็จที่โดยการตั้งเป้าหมายสำหรับตัวเอง และปฏิบัติงานในเรื่องดังกล่าว ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง คุณมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่คุณต้องยอมรับ ตราบใดที่คุณพยายามอย่างหนักทุกวัน คุณจะประสบความสำเร็จ บางครั้งความสำเร็จก็คือการเข้านอนเวลากลางคืนเมื่อรู้ว่าคุณไม่สามารถทำได้ดีที่สุดอีกแล้ว นั่นคือทั้งหมดที่ใครๆก็สามารถสอบถามคุณได้ แหล่งข้อมูลอื่น concentrating while studying 18 วิธีการเป็นนักเรียนที่ดี
thaiwikibooks
195,667
เดอะซิมส์ 2/มนุษย์ต้นไม้
มนุษย์ต้นไม้ เป็นสิ่งมีชวิตชนิดใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นในเดอะซิมส์ สี่ฤดูแสบ ที่เมืองริเวอร์บลอสซั่มฮิลล์ มีมนุษย์ต้นไม้อยู่แล้วชื่อว่าโรส วิธีการเป็นมนุษย์ต้นไม้ คุณต้องซื้อต้นแอปเปิลทิพย์ มะนาวทิพย์ ส้มทิพย์ มาไว้ในบ้านของคุณซึ่งต้นไม้เหล่านี้จะป่วย(อมโรค) คุณต้องฉีดพ่นใส่ต้นไม้ ซึ่งทำได้วันละครั้ง คุณต้องฉีดพ่นไปเรื่อยๆ ประมาณ 20-30ครั้ง ต้นไม้นั้นก็จะมีชีวิต
thaiwikibooks
195,668
คู่มือการศึกษาพยาบาล
คู่มือการศึกษาพยาบาล (Nursing Study Guide) มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเพียงเพื่อเป็นคู่มือการศึกษาสำหรับพยาบาล เนื้อหามีวัตถุประสงค์สำหรับนักเรียนที่มีความประสงค์เป็นพยาบาลจดทะเบียน (Registered Nurses หรือ RN) และการลงทะเบียนเรียนพยาบาล (ใบอนุญาตประกอบการพยาบาล) โดยคัดกรองเนื้อหาสำหรับการทำความเข้าใจได้ง่ายสำหรับนักเรียนที่จะทำความเข้าใจต่อสิ่งที่อ่านนี้ คู่มือนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคู่มือการศึกษา มิได้เป็นเนื้อหาที่รวมทุกอย่าง บทเรียนต่างๆ ล้วนได้รับการจัดกลุ่มตามแบบแผนสุขภาพของกอร์ดอน บทเรียน ความสำเร็จขั้นพื้นฐาน - วิธีการสู่การประสบความสำเร็จขั้นพื้นฐานของนักเรียนพยาบาล การประเมินอาการ สัญญาณสำคัญ ความปลอดภัย สุขภาพ การบริหารยา เภสัชวิทยา/ยาปฏิชีวนะ ปัญหาทางโภชนาการ การกำจัดปัสสาวะ การกำจัดของลำไส้ ความรู้สึก การจัดการความเจ็บปวด ผิวหนังและบาดแผล การให้ออกซิเจน ของเหลวและเกลือแร่ การพยาบาลผ่าตัด สุขภาพแบบองค์รวม
thaiwikibooks
195,669
คู่มือการศึกษาพยาบาล/ความสำเร็จขั้นพื้นฐาน
วิธีที่นักเรียนในโครงการเร่งรัดสามารถประสบความสำเร็จในพื้นฐานของการพยาบาล ชั้นเรียนในโครงการเร่งรัดนั้นมีลักษณะเฉพาะ ต้องมีการปรับปรุงและปรับตัวบ้าง เราลงชื่อสมัครใช้รูปแบบนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่เบื้องหลังของแต่ละคนคือความปรารถนาที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ด้านล่างนี้คือคำแนะนำบางประการสำหรับการนำการเรียนรู้แบบเร่งรัดไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อใช้พื้นฐานของการพยาบาล ไปสู่เป้าหมายของการเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้นี้ให้สูงสุด เริ่มต้นด้วยพื้นฐาน นอนหลับสบายดีทุกคืน รับประทานอาหารเช้าที่ดีทุกเช้าก่อนเข้าเรียน มาแต่เช้าและสดชื่น เพื่อให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยจิตใจที่แจ่มใส เข้าร่วมชั้นเรียนและคลินิกตามกำหนดทั้งหมด เตรียมตัว อ่านข้อความและรู้ตารางเวลาเพื่อให้คุณสามารถศึกษาและทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อย่าทำงานที่ไม่จำเป็นใหม่ ๆ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะเริ่มต้นโปรแกรมควบคุมอาหารและออกกำลังกายใหม่ หรือมองหาความสัมพันธ์ในการออกเดทครั้งใหม่ นี่เป็นเวลาที่จะปรับปรุงด้านอื่น ๆ ในชีวิตของคุณและมุ่งเน้นไปที่การศึกษาของคุณ อย่าเพียงแค่เข้าชั้นเรียน แต่ให้เข้าชั้นเรียนด้วยความใส่ใจ จดสิ่งที่อาจารย์พูดให้มากที่สุด บางครั้งสิ่งที่ดูเหมือนในตอนแรก เช่น ความคิดเห็นหรืออารมณ์ขันที่ไม่คุ้นเคย กลับกลายเป็นว่าช่วยเพิ่มความเข้าใจในประเด็นสำคัญ ข้อสังเกตเหล่านั้นอาจช่วยให้คุณตอบคำถามทดสอบได้ ให้ภาษากายของคุณสื่อถึงความเอาใจใส่และความเคารพ หากการวางตัวและท่าทางของคุณดูเหมือนว่าคุณกำลังให้ความสนใจ มีความเป็นไปได้สูงที่จิตใจของคุณจะทำตาม และคุณจะจดจำสิ่งที่นำเสนอได้มากขึ้น ศึกษาร่วมกันหากเป็นไปได้ คนอื่น ๆ อาจมีวิธีของตนเองในการจัดกลุ่มความคิด หรือพวกเขาอาจเห็นว่าแนวคิดเข้ากันได้อย่างไรในแบบที่คุณอาจไม่เห็นในตอนแรก ขณะที่คุณกำลังเรียนรู้ ให้รวบรวมจุดแข็งของกันและกัน ผลัดกันอธิบายเนื้อหาที่คุณเพิ่งได้ยินกับนักเรียนคนอื่น และให้พวกเขาอธิบายให้คุณฟัง เปรียบเทียบบันทึกย่อของคุณกับบันทึกย่อของนักเรียนคนอื่น บางครั้งคนอื่นจะเก็บตกคะแนนที่คุณพลาดหรือในทำนองเดียวกัน บันทึกย่อส่วนรวมจะมีความครอบคลุมมากกว่าบันทึกย่อส่วนบุคคล บันทึกการบรรยายและฟังซ้ำ ๆ จัดเตรียมบันทึกย่อของคุณพร้อมกับตำราเรียนของคุณ และทบทวนในขณะที่ตรวจสอบการบันทึกเสียงของคุณ กรอกรายละเอียดที่ขาดหายไป หยุดเสียงชั่วคราวและอ่านสิ่งใด ๆ ที่ไม่ชัดเจนให้ละเอียดยิ่งขึ้น แล้วย้อนกลับไป ทำการ์ดบันทึกเพื่อพกติดตัวไปด้วย เขียนคำถามที่คุณมีและถามอาจารย์ของคุณทันทีที่คุณระบุประเด็นที่ไม่มั่นใจ หากคำตอบของอาจารย์ท่านหนึ่งยังไม่ชัดเจน ให้ถามท่านอื่น อย่าสงวนคำถามในช่วงเช้าก่อนการสอบ หากมีการเข้าสู่ระบบสำหรับแหล่งข้อมูลออนไลน์ใด ๆ ให้ไปที่เว็บไซต์โดยเร็วที่สุดและใช้เนื้อหาที่นั่น แหล่งข้อมูลออนไลน์อาจรวมถึงสื่อการสอนแบบเสียง และวิดีโอ, คำถามฝึกหัด และแบบทดสอบฝึกหัด ดู, ฟัง, ฝึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหา ดาวน์โหลดไฟล์เสียงใด ๆ ลงในเครื่องเล่นเอ็มพี3 ของคุณ และฟังเสียงบรรยายพร้อมกับไฟล์เสียงบรรยายของคุณเอง ยิ่งคุณแสดงความคิดของคุณต่อเนื้อหามากเท่าไหร่ คุณจะยิ่งเข้าใจ, นำไปใช้ และจดจำมากขึ้นเท่านั้น คำถามที่คุณสามารถคาดหวังได้ในตอนนี้และในชั้นเรียนที่จะมาถึงจะเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้และการคิดเชิงวิพากษ์ วันแห่งการกวดวิชาและการไหลทวนข้อเท็จจริงสิ้นสุดลง คุณยังคงต้องการข้อมูลดิบอยู่ แต่คุณจะต้องรู้วิธีจัดลำดับความสำคัญ, วิธีการเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด และเพื่อระบุข้อมูลที่อาจไม่ถูกต้องเพียงเล็กน้อย หรือนำไปใช้ในทางที่ผิดเล็กน้อย ตอบคำถามใด ๆ ที่ตำราเรียนเสนอ, คู่มือการเรียนรู้, ซีดี, แหล่งข้อมูลออนไลน์ของคุณที่มีให้ ซื้อตำราเรียนจากสำนักพิมพ์อื่น; ร้านหนังสือออนไลน์มีหนังสือเรียนที่ใช้แล้วจำนวนมาก ซึ่งหลายแห่งมีราคาเพียงไม่กี่ดอลลาร์ ซื้อและตอบคำถามการปฏิบัติที่มี ย้อนกลับไปดูชุดคำถามและคำตอบของคุณจนกว่าคุณจะทำถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ สร้างคำถามของคุณเองและทบทวนสิ่งเหล่านั้นด้วย ใช้เวลาในกิจกรรมประจำวันของคุณเพื่อทบทวนเนื้อหา เช่น พกกระดาษโน้ตไปตรวจตอนรถติด รวมถึงมีเสียงและการเล่นวิดีโอบรรยายอยู่เบื้องหลังขณะพับผ้าหรือเตรียมอาหาร เรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณ ในระหว่างการตรวจสอบการทดสอบ ให้สังเกตสาขาวิชาที่คุณต้องการความเข้าใจที่ดีขึ้น ย้อนกลับไปยังสาขาวิชาเหล่านี้หลังจากการทดสอบแต่ละครั้ง สังเกตคำวิจารณ์ใด ๆ ที่อาจารย์จัดให้ ไม่ว่าจะในที่เกี่ยวกับคลินิกหรือในงานที่ได้รับมอบหมายหรือด้านอื่น ๆ และนำการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาแนะนำไปใช้ แก้ไขสาขาวิชาเหล่านั้นและทำให้ดีขึ้น อยู่ข้างหน้าของงานที่ได้รับมอบหมายของคุณ เอกสารใด ๆ ที่ได้รับมอบหมายควรทำโดยเร็วที่สุดหากคุณทำงานเสร็จก่อนกำหนด ให้ถามอาจารย์ของคุณว่าเธอยินดีให้คำติชมหรือไม่ เพื่อให้คุณแก้ไขหรือปรับปรุงให้ดีล่วงหน้า ยิ่งคุณถามเร็วเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสได้รับคำแนะนำมากขึ้นเท่านั้น เพื่อที่คุณจะได้นำเสนอผลงานที่ดีที่สุดสำหรับเกรดได้ หากมีการทำซ้ำข้อเท็จจริงบางอย่างตลอดหลายงานที่ได้รับมอบหมาย เช่น จุดประสงค์ของค่าห้องปฏิบัติการ ให้พิมพ์ข้อมูลพื้นฐานตั้งแต่เนิ่น ๆ วัตถุประสงค์และความหมายเบื้องหลังค่าที่แสดงในการวิเคราะห์ปัสสาวะเป็นประจำ, การตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์ และรูปแบบการเผาผลาญขั้นพื้นฐานจะมีประโยชน์ครั้งแล้วครั้งเล่า บันทึกงานของคุณ และทำสำเนาสำรองเพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการคัดลอกและวางเมื่อคุณต้องการ จากนั้น เวลาที่คุณบันทึกแทนที่จะต้องพิมพ์ข้อมูลเดิมซ้ำ ก็สามารถนำไปเลือกถ้อยคำสำหรับส่วนอื่น ๆ ของงานได้ วางแผนที่จะศึกษาและทำงานที่ได้รับมอบหมายเป็นเวลาหลายชั่วโมงตามตารางเวลาของคุณ แต่ให้ตั้งขีดจำกัดไว้ อย่าตัดเวลานอนของคุณเพื่อใช้เวลาพิเศษในการเรียน การอดนอนมักสร้างความสับสน คุณต้องมีจิตใจที่ชัดเจนเพื่อทำการทดสอบให้ดีที่สุด และเพื่อให้การดูแลผู้ป่วยของคุณเมื่อคุณเริ่มทำการรักษา สร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อให้ผลงานของคุณสะท้อนถึงผลรวมของเวลา, จุดแข็ง และความพยายามตลอดบทต่อไป, สำหรับบทเรียนที่จะมาถึง, สำหรับการสอบรับใบอนุญาตพยาบาล (NCLEX) และสำหรับอาชีพของคุณ
thaiwikibooks
195,670
ฟุตบอลโลก 2006
ฟุตบอลโลก 2006 จัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนีในวันที่ 9 มิถุนายน ถึง 9 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 18 ทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยการเอาชนะฝรั่งเศส ในการยิงจุดโทษ 5-3 หลังเสมอกัน 1-1 ประตู อันดับสามตกเป็นของเจ้าภาพเยอรมนีหลังเอาชนะโปรตุเกส 3-1 ประตู รอบอุ่นเครื่อง จากการแยกตัวออกจากยูโกสลาเวีย, เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร ยังคงให้เซอร์เบียและมอนเตเนโกรเล่นในทีมเดียวกัน ทีมตรินิแดดและโตเบโกสามารถเข้ารอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2006 เพลงธีม (Theme Song) ของการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006 คือเพลง The Time Of Our Lives (เวลาแห่งชีวิตเรา) ขับร้องโดย อิล ดิโว่ ร่วมกับ โทนี่ แบรกซ์ตัน ส่วนอีกเพลงที่ถือว่าเป็นเพลงสดุดี (anthem) ของการแข่งขันครั้งนี้มีชื่อว่า Celebrate The Day (ฉลองให้วันนั้น) ขับร้องโดยนักร้องเยอรมัน Herbert Grönemeyer ร่วมกับนักร้องชาวแอฟริกัน Amadou & Mariam ทั้งสองเพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม Voices From The FIFA World Cup (เสียงร้องจากฟุตบอลโลก) ซึ่งเป็นอัลบั้มที่วางขายทั่วโลก โดยมีความพิเศษที่แต่ละประเทศที่วางขายก็จะมีเพลงพิเศษที่ถือว่าเป็นเพลงฟุตบอลโลกประจำประเทศนั้น โดยเพลงพิเศษของประเทศไทยมีสองเพลงคือ Give it all you got ขับร้องโดยวง Same Same และ อาภาพร นครสวรรค์ อีกเพลงหนึ่งคือ Believe in your dream ขับร้องโดย Q (วง Flure), Same Same, Mint, Lina, First (Slot Machine), Thames & Martin สัญลักษณ์ของการแข่งขันครั้งนี้คือสิงโตชื่อ Goleo VI และ Pille แหล่งข้อมูลอื่น
thaiwikibooks
195,671
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์
REDIRECT แฮร์รี่ พอตเตอร์/แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์
thaiwikibooks
195,672
เทวากับซาตาน
เทวากับซาตาน (Angels & Demons) เป็นนวนิยายแนวลึกลับ/วิทยาศาสตร์/สืบสวนของแดน บราวน์ ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) และเป็นหนึ่งในหนังสือขายดี เป็นหนังสือตอนแรกในชุด "โรเบิร์ต แลงดอน" ศาสตราจารย์ด้านศาสตร์สัญลักษณ์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นตัวละครเอกในนิยายภาคต่ออันมีชื่อเสียงโด่งดัง คือ รหัสลับดาวินชี ภาพปกใช้เทคนิคการวาดแบบ แอมบิแกรม ประดิษฐ์โดย จอห์น แลงดอน ซึ่งกลายมาเป็นนามสกุลของตัวเอกในเรื่องนี้ สารบัญ เบื้องหลัง — ข้อมูลพื้นฐานในตำนาน ซึ่งนวนิยายนี้ได้ยึดตาม ส่วนที่ต่างจากความเป็นจริง — สถานที่และวิธีดำเนินของนวนิยายที่ต่างไปจากความเป็นจริง เป้าหมายหนังสือ อ้างอิง แหล่งข้อมูลอื่น
thaiwikibooks
195,673
เดอะซิมส์ 2/ธุรกิจภัตตาคาร
ธุรกิจภัตตาคาร เป็นธุรกิจที่ มีลูกค้าเยอะ และเป็นธุรกิจที่ง่ายด้วย สามารถทำได้โดยไม่ยาก ถ้าหากคุณไม่อยากจะให้ใครมาเป็น พ่อครัว/เชฟ ให้ฝึกซิมส์คุณให้มีทักษะด้านอาหารให้เยอะๆ เพราะถ้าน้อยจะไม่สามารถทำอาหาร บางอย่างได้ และถ้าไม่อยากจ้าง บริกร ให้ฝึกซิมสืของคุณอีกคนนึงให้มีทักษะ ร่างกาย สูง ถ้าต่ำเกินไป(1-4 ขีด) จะทำให้มีการทำอาหารหกใส่ลูกค้าได้สูง และพนักงานต้อนรับถ้ามีทักษะ การแสดงออกสูง ก็ไม่ต้องห่วงแล้วแต่ตำแหน่งนี้ ใครๆก็สามารถทำได้ทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องมีทักษะ อุปกรณ์ในธุรกิจภัตตาคาร 1.โต๊ะและเก้าอี้ เพื่อให้ลูกค้านั่งทานอาหาร ควรมีเก้าอี้ 2 ตัวต่อ 1 โต๊ะ ขึ้นไป จะเป็นการพอใจกับลูกค้ามาก 2.โต๊ะปรุงอาหาร เป็นที่ปรุงอาหารของเชฟ 3.โต๊ะต้อนรับ เป็นที่สำหรับพนักงานต้อนรับ 4.สิ่งของตกแต่งต่างๆ ตำแหน่งในธุรกิจภัตตาคาร 1.เชฟ/พ่อครัวแม่ครัว 2.บริการ (ควรมี 2 คน ขึ้นไป) 3.พนักงานต้อนรับ 4.ผู้จัดการ
thaiwikibooks
195,674
หนี้
(obligation) เป็นความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป ฝ่ายหนึ่งเรียกว่า "เจ้าหนี้" มีสิทธิบังคับให้อีกฝ่ายซึ่งเรียก "ลูกหนี้" ทำหรือไม่ทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์ของฝ่ายเจ้าหนี้ได้ กฎหมายเกี่ยวกับหนี้นั้นเรียก กฎหมายลักษณะหนี้ (law of obligations) เนื่องจากหนี้เป็นความสัมพันธ์พื้นฐานอย่างหนึ่งในกฎหมายแพ่ง กฎหมายลักษณะหนี้จึงเป็นกฎหมายหลักกลุ่มหนึ่งในกฎหมายแพ่งด้วย แบ่งศึกษาตามลำดับดังนี้ บทที่ 1 บททั่วไป: ภาพรวมว่าด้วยหนี้คืออะไร เกิดขึ้นอย่างไร มีลักษณะอย่างไร มีผลอย่างไร และใครคือเจ้าหนี้กับลูกหนี้ บทที่ 2 อำนาจแห่งหนี้: เมื่อหนี้เกิดขึ้นแล้ว เจ้าหนี้ลูกหนี้มีสิทธิและหน้าที่อย่างไรบ้าง บทที่ 3 เจ้าหนี้และลูกหนี้หลายคน: เมื่อคู่กรณีฝ่ายหนึ่ง ๆ มีหลายคน คนเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ระหว่างกันและความสัมพันธ์กับคู่กรณีอีกฝ่ายเช่นไร บทที่ 4 ความระงับแห่งหนี้: หนี้สิ้นสุดลงได้อย่างไร และส่งผลเช่นไร รายละเอียดของแต่ละบทปรากฏอยู่ในกล่องท้ายหน้านี้แล้ว ตำรานี้ว่าด้วยหนี้ตามกฎหมายแพ่ง สำหรับหนี้ตามกฎหมายมหาชน ดู หนี้สาธารณะ (government debt) และหนี้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ดู พันธกรณี (obligation) อนึ่ง เพื่อประโยชน์ในการศึกษา ตำรานี้ได้แทรกศัพท์กฎหมายที่เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นไว้ด้วย ศัพท์เหล่านี้อ้างอิงประมวลกฎหมายแพ่งเยอรมัน ญี่ปุ่น หรือฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแม่แบบ ป.พ.พ. เป็นหลัก ตำรานี้ยังแทรก ฎ. บางฉบับไว้ด้วย แต่พึงทราบว่า ในระบบซีวิลลอว์ (civil law) ซึ่งเป็นระบบกฎหมายที่ใช้ในประเทศไทยนั้น คำพิพากษาไม่เป็นกฎหมาย เป็นเพียงการปรับใช้กฎหมายเป็นรายกรณีไปเท่านั้น รายการอ้างอิง ภาษาไทย สำนักงานศาลยุติธรรม. (ม.ป.ป.). คำพิพากษาศาลฎีกา (ปี 2530 ถึงปัจจุบัน). [ออนไลน์]. (เข้าถึงเมื่อ: 2556.02.14). จิ๊ด เศรษฐบุตร. (2554.07). หลักกฎหมายแพ่งลักษณะหนี้. (พิมพ์ครั้งที่ 20). กรุงเทพฯ: โครงการตำราและเอกสารประกอบการสอน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ISBN 9789744665577. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2551.03.10). ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์. [ออนไลน์]. (เข้าถึงเมื่อ: 2556.02.14). ภัทรศักดิ์ วรรณแสง. (2552). หลักกฎหมายหนี้. (พิมพ์ครั้งที่ 10, แก้ไขเพิ่มเติม). กรุงเทพฯ: วิญญูชน. ISBN 9789742887483. ราชบัณฑิตยสถาน. (2551.02.07). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. [ออนไลน์]. (เข้าถึงเมื่อ: 2556.02.14). (ม.ป.ป.). ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน. [ออนไลน์]. (เข้าถึงเมื่อ: 2556.02.14). ศาลฎีกา. (2550.01.25). ระบบสืบค้นคำพิพากษาและคำสั่งคำร้องศาลฎีกา. [ออนไลน์]. (เข้าถึงเมื่อ: 2556.02.14). สมยศ เชื้อไทย. (2554.06). ความรู้กฎหมายแพ่ง คำอธิบายวิชากฎหมายแพ่ง: หลักทั่วไป. (พิมพ์ครั้งที่ 17). กรุงเทพฯ: วิญญูชน. ISBN 9789742882623. ภาษาต่างประเทศ กฎหมาย Code civil des français: éd. originale et seule officielle. (1804). France: Bibliothèque nationale de france. [En ligne]. (Consulté: 2013.02.14). Kamol Sandhikshetrin. (2007). The Civil and Commercial Code, Books I-VI, and Glossary. (8th edition). Bangkok: Nitibannakan. ISBN 9789744473493. Langenscheidt Translation Service. (2010). Bürgerliches Gesetzbuch. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). (2011). German Civil Code. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). Legifrance. (2006.04.04). French Civil Code. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). (2005.01.01). French Commercial Code. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). (2013). Code civil. [En ligne]. (Consulté: 2013.02.14). Ministry of Justice of Japan. (2011). Japanese Civil Code. [Online]. Available: «a href="http%3A//www.japaneselawtranslation.go.jp/law/detail/%3Fft%3D2%26amp%3Bre%3D02%26amp%3Bdn%3D1%26amp%3Byo%3Dcivil%2Bcode%26amp%3Bx%3D0%26amp%3By%3D0%26amp%3Bky%3D%26amp%3Bpage%3D3">Parts 1-3 and Parts 4-5 อื่น ๆ John Bouvier. (1856). A Law Dictionary, Adapted to the Constitution and Laws of the United States. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). Natural obligation. Res perit domino. Latin-dictionary.org. (2008). Impossibilium nulla obligatio est. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). Obligation.. (2012). Dictionary.com. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). Obligation. (2012). The FreeDictionary's legal dictionary. [Online]. (Accessed: 2013.02.14). Res perit domino. (2011). Legaldictionary.org. [Online]. (Accessed: 2013.02.14).
thaiwikibooks
195,675
วัตถุแห่งหนี้
เปลี่ยนทาง หนี้/บทที่ 1#วัตถุแห่งหนี้
thaiwikibooks
195,676
กฎหมายลักษณะหนี้
เปลี่ยนทาง หนี้
thaiwikibooks
195,677
การทำสมาธิ
การทำสมาธิ ไม่ต้องคอยให้ใจสงบ สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่ถ้าต้องการความต่อเนื่องยาวนาน และให้ได้ผลการปฏิบัติที่ดีนั้น มีหลักการเบื้องต้นและขั้นตอนดังนี้ บริโภคน้ำอาหารมิให้อิ่มไป หิวไป ถ่ายท้อง แปรงฟัน อาบน้ำ เช็ดตัว ให้เรียบร้อย เตรียมร่างกายให้สะอาด นุ่งชุดที่ไม่คับตัว ผ้าเบาๆ สบายๆ หามุมสงบ ไม่เสียงดัง ไม่อึกทึก ไม่มีการรบกวนจากภายนอกได้ง่าย มีอุณหภูมิพอดี ๆ ที่นั่งที่รู้สึกสบายกับเรา เช่น อายุมากเข่าไม่ดีอาจนั่งบนเก้าอี้ก็ได้ นั่งขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย หรือวางมือตามสะดวกที่อื่นๆ จะเป็นที่หน้าตักก็ได้ บนเข่าก็ได้ ถ้าบนเข่าอาจหงายหรือคว่ำมือก็ได้ หลับตาเบาๆ ให้ขนตาชนกัน แต่อย่าเม้มตา ขยับท่าทางให้รู้สึกว่าสบาย สังเกตตัวเองว่ามีการเกร็งไหม ถ้ามีขยับผ่อนคลายความรู้สึกไม่ให้เกร็ง ทำใจให้โล่ง โปร่ง เบา สบาย ปล่อยวางสิ่งต่างๆ ในใจ ละปริโพธ หรือความกังวลต่าง ๆ ชั่วคราว อาจตั้งกำหนดเวลาในใจ ว่าจะอุทิศให้เวลาระหว่างนี้แก่การภาวนา ทำใจให้มีความสุขเพราะแค่เราอยากมีความสุข จิตเราก็จะมีความสุขทันที ทำใจให้สนุกกับการปฏิบัติธรรม เมื่อสบายดีแล้ว ให้ภาวนาในใจ จะใช้ความรู้สึกจับกับลมหายใจ หายใจเข้าสั้นก็รู้ หายใจออกสั้นก็รู้ หายใจเข้ายาวก็รู้ หายใจออกยาวก็รู้ โดยไม่ต้องใช้คำบริกรรมก็ได้ จะใช้คำบริกรรมว่า ว่า พุท เมื่อหายใจออกให้กำหนดว่า โธ ก็ได้ หรือจะใช้คำบริกรรมอื่นๆ เช่น นับ 1,2,3 .. ไปเรื่อยๆ เมื่อหายใจเข้าออกครั้งหนึ่ง หรือ นะมะ-พะธะ ก็ได้เช่นกัน (วิธีการเหล่านี้ เป็นวิธีการของโบราณจารย์) ในระหว่างการปฏิบัติธรรม อาจจะมีเรื่องฟุ้งซ่านเข้ามาเป็นระยะ อย่าสนใจ ถ้าจิตวอกแวกจนสนใจเรื่องอื่น เมื่อได้สติ ให้เริ่มภาวนาใหม่ อาจรู้สึกเมื่อย คัน ปวด ให้อดทน ถ้าทนไม่ไหวให้เปลี่ยนอิริยาบถแก้ เช่นเกาที่คัน แต่ให้ทำอย่างมีสติ เช่น ภาวนาว่า เมื่อยหนอๆ คันหนอๆ เกาหนอๆ ซึ่งถ้าจะลุกมาเดินจงกรมจนกว่าจะหายเวทนาก็ได้ เมื่อใจเริ่มสงบดีแล้ว จิตกำลังผ่านขณิกสมาธิ กำลังย่างเข้าอุปจารสมาธิ อาจจะมีความรู้สึกแปลกๆ มีอาการต่างๆกันไปตามสภาวะจิต ของแต่ละคน เช่นตัวหมุน ตัวเบา สั่น ขนลุกและอื่นๆ ก็ให้วางเฉยไปตั้งใจภาวนาเรื่อยๆ เมื่อจิตเป็นสมาธิมากขึ้น คำภาวนาจะหายไป ให้กำหนดสภาวะที่รับรู้ได้เด่นชัดในจิต แล้วให้จิตไปจับไว้แทน เช่น ลมหายใจ เมื่อจิตมีสมาธิกล้าขึ้นจิตจะนิ่งสงบเหมือนผิวน้ำที่ไร้คลื่น จิตจะกำหนดอะไรเป็นองค์ภาวนาไม่ได้ชั่วคราว เราอาจจะตกใจว่าไม่มีอะไรให้กำหนดได้อาจหลุดจากสมาธิ ให้พิจารณาว่า สภาวะที่กำหนดอะไรมิได้ เป็น ธรรมชาติ คือเป็นความจริงให้กำหนดความจริงนี้แทน เมื่อทรงอารมณ์ไว้ได้อุคคหนิมิตจะเกิดขึ้น เหมือนน้ำนิ่งจะเห็นก้นสระ จิตจะเห็นภาพสัญญาที่เก็บในภวังคจิต (จิตใต้สำนึก) คือ อารมณ์ภาวนาที่กำหนดไว้ชัดขึ้นในจิต เมื่อใจนิ่งได้ระดับนึง จะเริ่มเห็นความสว่างจากภายใน เป็นการเห็นด้วยใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อันให้เกิดความเชื่อทางพุทธศาสนาต่างๆ เช่น เห็นสิ่งลี้ลับ กายทิพย์ต่างๆ หรือมีภาพ ให้เห็นเป็นเรื่องราวต่างๆ เช่นในอดีต หรือชาติที่แล้วมา หรือเหตุการณ์ในอนาคต ให้ทำใจเฉยๆอย่างเดียว หากมีข้อสงสัย หรือมีคำถาม มีสิ่งผิดปกติอะไรก็ช่าง ก็ให้บอกตัวเองว่า คิดไปเอง เพราะเราไม่อาจทราบได้ว่านิมิตรนั้นจริงเท็จเพียงใด จงอย่าสนใจให้ทำสมาธิต่อไป เพราะแม้จะจริงก็จะทำให้เราล่าช้า ถ้าไม่จริงอาจทำเราเป็นมิจฉาทิฏฐิ หรือ อาจเสียสติได้ ถ้าคุมจิตมิได้ก็ให้แผ่เมตตาแก่เจ้ากรรมนายเวร เมื่อจิตเข้าสู่อัปปนาสมาธิจะเห็นปฏิภาคนิมิตร แต่ถ้ากำหนดอานาปานสติ และวิปัสสนา จะเห็นขันธ์ 5 เกิดดับขึ้น ให้ระวังวิปัสสนูปกิเลส ถ้าผ่านไปได้ก็จะทำลายวิปลาสต่างๆ และบรรลุฌาน (ถ้าเน้นสมถกรรมฐาน) หรือญาน (ถ้าเน้นวิปัสสนา) ตามลำดับ แหล่งข้อมูลอื่น
thaiwikibooks
195,678
ยูกิโอ
ยูกิโอ (遊☆戯☆王; Yu-Gi-Oh!) คือ การ์ดเกมที่ใช้ทักษะการเล่นและความคิดเฉพาะตัว ในการเล่นจะมีสองฝ่าย (สามารถเล่นมากกว่า 2 คนขึ้นไปได้) แต่ละฝ่ายจะมีไลฟ์พอยต์หรือค่าชีวิตคนละ 8000 จุด หรือ 4000 จุด เริ่มแรกจะมีฝ่ายไหนเริ่มก่อนก็ได้ การ์ดในมือของทุกคนจะต้องมี 5 ใบ ถ้าเราเริ่มก่อนจะจั่วการ์ดอีก 1 ใบ ถ้ามีมอนสเตอร์ระดับไม่เกิน 4 ดาว สามารถอัญเชิญ (summon) มอนเตอร์ตัวนั้นในสภาพหงายหน้าตั้งโจมตี (แนวตั้ง) หงายหน้าตั้งป้องกัน (แนวนอน) ได้หรือจะอัญเชิญในสภาพคว่ำตั้งป้องกันได้ (ถ้าเป็นมอนสเตอร์เอฟเฟกต์รีเวิร์สถ้าจะใช้เอฟเฟกต์ต้องคว่ำตั้งป้องกันเท่านั้น) และถ้ามีการ์ดกับดักอยู่บนมือจะต้องเซ็ตไว้ในโซนเวทย์กับดักก่อนส่วนเวทต้องใช้ในเทิร์นเราเท่านั้น (ต้องเป็นเวทความเร็วสูงเท่านั้นจึงจะใช้ในเทิร์นอีกฝ่ายได้) ทั้งนี้ ยูกิโอเทรดดิงการ์ดเกม ได้ทำการจำหน่ายมาแล้วกว่า 12 ปี โดยมีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการใน 45 ประเทศ รวมถึงได้รับการบันทึกกินเนสส์เวิลด์เรคอร์ดในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 ว่าเป็นการ์ดที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนกว่า 25,175 ล้านใบ กฏการอัญเชิญมอนสเตอร์ อัญเชิญมอนสเตอร์ 1-4 ดาว ไม่ต้องสังเวยมอนสเตอร์ อัญเชิญมอนสเตอร์ 5-6 ดาว ต้องสังเวยมอนสเตอร์ 1 ตัว อัญเชิญมอนสเตอร์ 7 ดาวขึ้นไป ต้องสังเวยมอนสเตอร์ 2 ตัว ดูเพิ่ม ยูกิโอ ZEXAL‎ อ้างอิง แหล่งข้อมูลอื่น
thaiwikibooks
195,679