NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
จังหวัดพะเยา สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมช่วยเหลือและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน รับมือน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 17-21 ก.ย.นี้
นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ตามที่ กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา ได้ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ ได้มีประกาศ ฉบับที่ 18/2556 ลงวันที่15 กันยายน 2556 พบว่าร่องมรสุมจะเลื่อนกลับลงมา พาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ําปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทําให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคเหนือ กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ํา ด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ําหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ํา จากกรมทรัพยากรน้ําและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย น้ําท่วมฉับพลัน น้ําป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 17-21 กันยายน 2556 บริเวณภาคเหนือในหลายพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดพะเยา ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ รวมทั้งลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดับ ดําเนินการดังนี้ 1.ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ําอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ําท่วมอยู่เป็นประจํา หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ําท่วมขัง ไม่สามารถระบายได้ทัน 2.เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ําหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กําจัดสิ่งกีดขวางทางน้ํา ลอกท่อระบายน้ํา และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที 3.หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พลเรือนทหาร ตํารวจ เครือข่ายอาสาสมัคร จิตอาสา ร่วมปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติต่อไป พร้อมทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานและสถานการณ์ ให้กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทราบ ทางโทรศัพท์หมายเลข 054-449644 หรือทางกลุ่มไลน์ ฝ่ายปกครอง
17/9/2023
ภาคเหนือ
พะเยา
สวท.พะเยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917112243117
246,272
ยะลา เปิดงาน“กล้วย กล้วย ใจกลาง เมือง เนสตา กับงานมหกรรมกล้วยหิน และของดีอำเภอบันนังสตา
วันนี้ 17 กย.66 ที่บริเวณหอนาฬิกา หลังที่ว่าการอําเภอบันนังสตา จ.ยะลา นายอํานาจ ชูทอง รอง ผวจ.ยะลา เป็นประธานเปิดงาน“มหกรรมงานกล้วยหินและของดีอําเภอบันนังสตา ประจําปี 2566” ซึ่งทางอําเภอบันนังสตาได้จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี ร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นของดีในพื้นที่ให้รู้จักแพร่หลาย เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป อีกทั้งเป็นการขยายฐานตลาดของเกษตรกรผู้ผลิตให้มีความหลากหลายอันนําไปสู่สภาพเศรษฐกิจที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งปีนี้กําหนดจัดขึ้นวันอาทิตย์ ที่ 17 กันยายน 2566 ระหว่าง เวลา 8.30-21.30 ณ บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา หลังที่ว่าการอําเภอบันนังสตา นายมนตรี เสฏฐปัญโญ นายอําเภอบันนังสตา เปิดเผยว่า ชาวอําเภอบันนังสตา มีความภาคภูมิใจที่มีกล้วยหินเป็นของดีของอําเภอบันนังสตา ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยหิน มีคุณค่าทางโภชนาการที่ได้มีการยอมรับและพิสูจน์แล้ว อีกทั้งมีหลักฐานว่า ต้นกําเนิดของกล้วยหิน ได้มีการปลูกในพื้นที่อําเภอบันนังสตา เป็นแห่งแรก ซึ่งขณะนี้ กรมวิชาการเกษตรได้จดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้วการจัดงาน “มหกรรมงานกล้วยหินและของดีอําเภอบันนังสตาประจําปี 2566” ในวันนี้ มีกิจกรรมต่างๆ ในงาน ประกอบด้วย ขบวนแห่ของพลังมวลชน ทั้งส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ และกิจกรรมการประกวดผลผลิตทางการเกษตร เช่น กล้วยหิน ทุเรียน สะตอดาน ลองกอง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยหิน กิจกรรมการแสดงบนเวที การจําหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าของกลุ่มแม่บ้าน การจําหน่ายสินค้า OTOP และการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆนอกจากนี้ ยังมีการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “สังคมพหุวัฒนธรรม” โดย นายเจะหมีน หะแหละ ตลอดจนการเสวนาวิชาการในหัวข้อ "ปัญหากล้วย ใครว่ากล้วย" โดย นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 3 , ผศ.ดร.อิสมะแอ เจ๊ะหลง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร , นายสุทธิพงศ์ ทองบุญ เกษตรอําเภอบันนังสตา โดยมีนายอิดเร๊ะ สอรี เกษตรกรและปราชญ์ชุมชน และนายกริยา มูซอ เป็นผู้ดําเนินรายการ กิจกรรมการแสดงบนเวทีกลางตลอดทั้งงาน อาทิ การแสดงชุดพิเศษ จากนักเรียนศูนย์การศึกษาอิสลามประจํามัสยิด (ตาดีกา)อัลดะวะห์ตุลอิสลาเมียะห์ บันนังสตา การแสดงการขับร้องประสานเสียงด้วยกลองกมปัง โดย วง Al-Waton การแสดง และการแสดงชุดพิเศษ จากนักเรียนโรงเรียนบันนังสตาวิทยานุสรณ์ เป็นต้น“ งาน กล้วย กล้วย ใจกลาง เมือง เนสตา” กับงานมหกรรมกล้วยหิน และของดีอําเภอบันนังสตาที่จะพาทุกท่านไปสัมผัส และรู้จักเรื่องราวของกล้วย และของดีเมืองบันนังสตา ผ่านนิทรรศการ วงเสวนาอีกทั้งเต็มอิ่มไปกับ กิจกรรมมากมาย และร้านค้าต่างๆ ที่คัดสรรมาให้ในงานนี้โดยเฉพาะ" นายมนตรี กล่าวในตอนท้าย
17/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917115731120
246,273
องค์การบริหารนักศึกษา มรย. จัดโครงการมหกรรมวิชาการ "จุดประกายความคิด ยกระดับศาสตร์วิชา สู่การวาดฝันสันติภาพ"
วันนี้ (17 ก.ย. 66) เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา องค์การบริหารนักศึกษา ภาคปกติ ประจําปีการศึกษา 2566 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จัดโครงการมหกรรมวิชาการ "จุดประกายความคิด ยกระดับศาสตร์วิชา สู่การวาดฝันสันติภาพ" เป็นโครงการที่ดีที่จะพัฒนาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ ตระหนักถึงความสําคัญของการทํากิจกรรมควบคู่กับการเรียนและให้นักศึกษาได้ร่วมทํากิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความสามารถของตนเองในด้านต่าง ๆ ทางด้านวิชาการ เพราะนอกจากการเรียนแล้ว การเข้าร่วมกิจกรรมเป็นปัจจัยหนึ่งของนักศึกษาที่จะนําพาให้ประสบความสําเร็จได้ในอนาคต โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย นามบุรี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมร่วมพูดคุย ให้ความรู้ แนะแนวทักษะต่าง ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ความสําคัญกับการพัฒนานักศึกษา ให้เป็นไปตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย และให้การสนับสนุนกิจกรรมพัฒนานักศึกษาอย่างต่อเนื่อง เน้นการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติที่มีคุณภาพเป็นเลิศ เพื่อการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
17/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917125431138
246,274
รมต. "พวงเพ็ชร ชุนละเอียด" ห่วงใย ปชช.ไทยพุทธในจชต. มอบหมายศอ.บต. ยกระดับแผนส่งเสริมวิถีชาวไทยพุทธและพระสงฆ์
รมต. "พวงเพ็ชร ชุนละเอียด" ห่วงใย ปชช.ไทยพุทธในจชต. มอบหมายศอ.บต. ยกระดับแผนส่งเสริมวิถีชาวไทยพุทธและพระสงฆ์ หนุนกิจกรรมที่สอดรับการเรียนรู้ สร้างจิตสํานึก และความรู้สึกรักบ้านเกิดนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่งผลให้ราษฎรไทยและพระสงฆ์เกิดความคับข้องใจในการดําเนินชีวิต จึงได้มีการนําเสนอภาพสะท้อนการดํารงชีวิตความเป็นอยู่ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล เพื่อให้มาดูแลและช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ สมาคมเพื่อความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพุทธสมาคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเครือข่ายชาวไทยพุทธ 4 องค์กรหลัก ได้สํารวจชุมชนไทยพุทธในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่ามีชุมชนไทยพุทธ จํานวน 771 ชุมชน ประชากร 306,246 คน คิดเป็น ร้อยละ 17 ของประชากรทั้งหมด (1,808,344 คน)ศอ.บต. ได้ดําเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกศาสนิกสามารถดํารงชีพอยู่ใน "สังคมพหุวัฒนธรรม” สอดคล้องและมีความสุขสามารถแสดงออกซึ่งอัตลักษณ์แต่ละศาสนาได้อย่างมีอิสรภาพ จึงได้จัดทําร่างแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิถีไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (2565 - 2570) และนําเสนอต่อนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ณ ทําเนียบรัฐบาล ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งท่านมีความห่วงใยและปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมากต่อการใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบฯ โดยให้นํากรอบแนวทางในการบูรณาการทํางานของหน่วยงาน ภาครัฐทั้งในระดับนโยบายและในระดับพื้นที่ต่อการแก้ไขปัญหาให้กับพระสงฆ์และชาวไทยพุทธให้มีความต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรมรองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวต่ออีกว่า สําหรับแผนการขับเคลื่อนงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิถีไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระยะต่อไป ศอ.บต. จะมีการฝึกอบรมพิธีกรที่จะนํามาใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้ได้มาตรฐานโดยในวันที่ กันยายน 2566 ผ่านกิจกรรมอบรมยุวศาสนพิธีกรน้อย เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนระดับประถมศึกษาได้ศึกษาและปฏิบัติศาสนพิธีตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง เกิดความภูมิใจที่ได้รักษาสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามด้านศาสนพิธี รวมถึงสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาได้ร่วมกันเผยแพร่ หลักศาสนพิธีทาง พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักเรียน โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาในอําเภอนาทวี จังหวัดสงขลาจํานวน 126 คน และครูผู้ควบคุม จํานวน 30 คน รวมทั้งสิ้น 156 คน กิจกรรมการฟื้นฟูชุมชนไทยพุทธที่อยู่โดดเดี่ยวห่างไกลจํานวน 26 ชุมชน ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไทยพุทธ ในด้านต่างๆ เช่น การส่งเสริมอาชีพ การซ่อมแซมบ้านพักที่อยู่อาศัย การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้มี ความพร้อม ฯลฯ ผลักดันการฟื้นฟูและบูรณะปฏิสังขรณ์วัดและโบราณสถานทางพระพุทธศาสนานพื้นที่ จชต. ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ร่วมกับกรมศิลปากร และสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดการประชุมคณะอนุกรรมการการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริม วิถีไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายในเดือน กันยายน 2566 ส่งเสริมการขับเคลื่อนการเรียนการสอนในโรงเรียนศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เพื่อให้วัดสามารถ ดําเนินการเผยแพร่พระธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและเยาวชน และบูรณาการการทํางานของหน่วยงานภาครัฐทั้งในระดับนโยบายและในระดับพื้นที่ร่วมกับเครือข่ายองค์กร ขับเคลื่อนงานด้านศาสนา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยพุทธและพระสงฆ์ให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน
17/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917130509140
246,275
มรภ.สงขลา เฟ้นหาตัวแทนออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่นแข่งระดับประเทศ “ผลิตภัณฑ์ไซรัปกล้วย-เจลลี่พร้อมดื่ม” กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนวัตกรรมชุมชนคลองสายยู ต.รำแดง อ.สิงหนคร คว้ารางวัลชนะเลิศ
มรภ.สงขลา ผนึกธนาคารออมสิน เฟ้นหาตัวแทนนักศึกษาโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ปี 66 ผลิตภัณฑ์ไซรัปกล้วยและเจลลี่พร้อมดื่ม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนวัตกรรมชุมชนคลองสายยู ต.รําแดง อ.สิงหนคร คว้ารางวัลชนะเลิศ เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันระดับประเทศ วันที่ 15 กันยายน 2566 ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ร่วมกับธนาคารออมสินนําเสนอผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ประจําปี 2566 เพื่อคัดเลือกตัวแทนของมหาวิทยาลัยไปแข่งขันในระดับประเทศ โดยมี รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดี เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย ดร.นราวดี บัวขวัญ รองอธิการบดี อ.พุฒิธร ตุกเตียน ผู้อํานวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา ทีมคณาจารย์ นักศึกษา และคณะกรรมการพิจาณาตัวแทนจากธนาคารออมสิน และ มรภ.สงขลา เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ผลการพิจารณาจากผู้เข้าร่วมประกวดจํานวน 5 ทีม ปรากฏว่า รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนนวัตกรรมชุมชนคลองสายยู ต.รําแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา พัฒนาผลิตภัณฑ์ไซรัปกล้วย และเจลลี่กล้วยพร้อมดื่ม รับเงินรางวัล 10,000 บาท และเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยสู่รอบระดับประเทศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงชันโรงบ้านคลองต่อ ต.กําแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พัฒนาเซรั่มบํารุงผิวหน้าพรอพอลิส จากชันโรง รับเงินรางวัล 5,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมวิสาหกิจ ชุมชน Ecotourism Songkhla Thailand พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ชุมชนหัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา รับเงินรางวัล 3,500 บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล รับเงินรางวัลทีมละ 2,000 บาท ได้แก่ ทีมกลุ่มเครื่องแกงชุมชนบ้านม่วงใหญ่ พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องแกงและบรรจุภัณฑ์เครื่องแกงบ้านม่วงใหญ่ ต.กําแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และทีมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสวนเทพหยา พัฒนาชุดข้าวยําสวนเทพหยา ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร จ.สงขลารศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดี มรภ.สงขลา กล่าวว่า การแก้ปัญหาความยากจนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของประเทศไทยที่รัฐบาลให้ความสําคัญ และกําหนดให้ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องผนึกกําลังร่วมกันในการแก้ไขปัญหาความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนบนพื้นฐานของความพอดีภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในการดําเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจนนั้น รัฐบาลมีนโยบายสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก สนับสนุนให้มีการจัดตั้งกิจการที่เป็นประโยชน์แก่คนในชุมชน เพื่อผลิตสินค้าหรือให้บริการ ส่งเสริมการจ้างงาน โดยไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อสร้างกําไรอย่างเดียว แต่เพื่อแก้ปัญหา พัฒนาชุมชน สังคม หรือสิ่งแวดล้อมด้วยมรภ.สงขลา จึงร่วมกับธนาคารออมสิน ดําเนินโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ประจําปี 2566 เพื่อส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มวิสาหกิจ ทั้งด้านการบริหารจัดการกลุ่ม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถเข้าสู่ตลาด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สร้างงานสร้างอาชีพให้แก่กลุ่มชุมชน โดยการนําองค์ความรู้ นวัตกรรมสมัยใหม่ของสถาบันอุดมศึกษา มาพัฒนายกระดับคุณภาพภูมิปัญญาและทรัพยากรในท้องถิ่นให้มีศักยภาพ มีมูลค่าเพิ่ม สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโดยการทํางานร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้การทํางานเป็นกลุ่ม ก่อให้เกิดประสบการณ์ด้านพัฒนาศักยภาพของนักศึกษา สนับสนุนและเสริมสร้างประสบการณ์ให้นักศึกษาได้ตระหนักถึงการรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เมื่อออกสู่ตลาดแรงงาน นําไปสู่การสร้างความมั่นคงของรากฐานสังคมจากพื้นฐานความเข้าใจของคนรุ่นใหม่
17/9/2023
ภาคใต้
สงขลา
สวท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917135107149
246,276
จังหวัดนนทบุรี อำเภอไทรน้อย สืบสานตำนานโชคเก้าชั้น & หน้าวัวใบ บอนสีไทรน้อยจัดงานประกวดบอนสี เดอะ เลเจนด์ ออฟ คาลาเดียม ไทรน้อย ครั้งที่ 2THE LEGEND SAINOI OF CALADIUM II
ที่สหกรณ์การเกษตรไทรน้อย อําเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ีอําเภอไทรน้อย ร่วมกับสหกรณ์เกษตรไทรน้อย และสวนพลอยชนก ร่วมกันจัดการประกวดขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับสมาชิกผู้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับและบอนสี โดยมีการสนับสนุนเงินทุน ให้ความรู้ด้านการผลิต และส่งเสริมในด้านการตลาดให้กับสมาชิก เพื่อมุ่งหวังเป็นการสร้างรายได้ให้กับสมาชิก พร้อมทั้งมีพัฒนาอาชีพการปลูกบอนสี และไม้ดอกไม้ประดับให้กับเกษตรกรผู้ปลูกบอนสี ไม้ดอกไม้ประดับ มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับสมาชิก ตลอดจนส่งเสริมตลาดโชคเก้าชั้น & หน้าวัวใบ บอนสี ไม้ดอกไม้ประดับของอําเภอไทรน้อย ให้เป็นที่รู้จักสู่ตลาดสากล คุณฉลวย ขันจํานงค์ เจ้าของสวนพลอยชนก กล่าวว่า โชคเก้าชั้นด่าง & หน้าวัวใบ เป็นไม้มงคลที่สร้างเงินแสนเงินล้าน เป็นไม้มงคลที่ให้โชคหลายชั้นแก่ผู้ปลูก เสริมสิริมงคลและนําแต่ความโชคดีมาสู่ผู้ปลูก รวมไปถึงบ้านที่พักอาศัย ทําให้ค้าขายดี ร่ํารวย ทํามาค้าขึ้น และนิยมนําไปเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ สําหรับการประกวดโชคเก้าชั้น & หน้าวัวใบ บอนสี เดอะ เลเจนด์ ออฟ คาลาเดียม ไทรน้อย ครั้งที่ 2THE LEGEND SAINOI OF CALADIUM II ในครั้งนี้ สวนพลอยชนก รางวัลยอดเยี่ยมไปครอง
17/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917143519156
246,277
รองผู้ว่าฯยะลา เปิดงานมหกรรมวันกล้วยหินและของดีอำเภอบันนังสตา ประจำปี 2566 พืชเศรษฐกิจจังหวัดยะลา
วันนี้ 17 ก.ย.66 ที่บริเวณหอนาฬิกา หลังที่ว่าการอําเภอบันนังสตา จ.ยะลา นายอํานาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานเปิดงาน“มหกรรมงานกล้วยหินและของดีอําเภอบันนังสตา ประจําปี 2566”ซึ่งทางอําเภอบันนังสตาได้จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี ร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นของดีในพื้นที่ให้รู้จักแพร่หลาย เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป อีกทั้งเป็นการขยายฐานตลาดของเกษตรกรผู้ผลิตให้มีความหลากหลายอันนําไปสู่สภาพเศรษฐกิจที่ดีมีคุณภาพ โดยมีนายมนตรี เสฏฐปัญโญ นายอําเภอบันนังสตา เกษตรอําเภอบันนังสตา พัฒนสการอําเภอ เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์กล้วยหินบันนังสตา เกษตรกร และประชาชนในพิ้นที่ เข้าร่วมนายมนตรี เสฏฐปัญโญ นายอําเภอบันนังสตา เปิดเผยว่า ชาวอําเภอบันนังสตา มีความภาคภูมิใจที่มีกล้วยหินเป็นของดีของอําเภอบันนังสตา ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยหิน มีคุณค่าทางโภชนาการที่ได้มีการยอมรับและพิสูจน์แล้ว อีกทั้งมีหลักฐานว่า ต้นกําเนิดของกล้วยหิน ได้มีการปลูกในพื้นที่อําเภอบันนังสตา เป็นแห่งแรก ซึ่งขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้จดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI กับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย ขบวนแห่ของพลังมวลชน ทั้งส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ และกิจกรรมการประกวดผลผลิตทางการเกษตร เช่น กล้วยหิน ทุเรียน สะตอดาน ลองกอง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยหิน กิจกรรมการแสดงบนเวที การจําหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าของกลุ่มแม่บ้าน การจําหน่ายสินค้า OTOP และการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “สังคมพหุวัฒนธรรม” โดย นายเจะหมีน หะแหละ ตลอดจนการเสวนาวิชาการในหัวข้อ "ปัญหากล้วย ใครว่ากล้วย" โดย นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 3 , ผศ.ดร.อิสมะแอ เจ๊ะหลง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร , นายสุทธิพงศ์ ทองบุญ เกษตรอําเภอบันนังสตา โดยมีนายอิดเร๊ะ สอรี เกษตรกรและปราชญ์ชุมชน และนายกริยา มูซอ เป็นผู้ดําเนินรายการ กิจกรรมการแสดงบนเวทีกลางตลอดทั้งงาน อาทิ การแสดงชุดพิเศษ จากนักเรียนศูนย์การศึกษาอิสลามประจํามัสยิด (ตาดีกา)อัลดะวะห์ตุลอิสลาเมียะห์ บันนังสตา การแสดงการขับร้องประสานเสียงด้วยกลองกมปัง โดย วง Al-Waton การแสดง และการแสดงชุดพิเศษ จากนักเรียนโรงเรียนบันนังสตาวิทยานุสรณ์ “ งาน กล้วย กล้วย ใจกลาง เมือง เนสตา” กับงานมหกรรมกล้วยหิน และของดีอําเภอบันนังสตาที่จะพาทุกท่านไปสัมผัส และรู้จักเรื่องราวของกล้วย และของดีเมืองบันนังสตา ผ่านนิทรรศการ วงเสวนาอีกทั้งเต็มอิ่มไปกับ กิจกรรมมากมาย และร้านค้าต่างๆ ที่คัดสรรมาให้ในงานนี้โดยเฉพาะ"
17/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917165154171
246,278
โรบินสันไลฟ์สไตล์ ร้อยเอ็ด จัดประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ
วันนี้ (17 ก.ย. 66) เวลา 13.00 น. โรบินสันไลฟ์สไตล์ ร้อยเอ็ด จัดประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทํานองสรภัญญะ ประเภททีม 5-7 คน (รุ่นประชาชนทั่วไป) ชิงเงินรางวัลรวม กว่า 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และโล่รางวัล ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ร้อยเอ็ด ซึ่งมีผู้สมัครเข้าแข่งขัน จํานวน 4 ทีม พร้อมด้วย คณะกรรมการตัดสิน ผู้บริหารศูนย์การค้าฯ และพี่น้องประชาชน ร่วมชมเชียร์ให้กําลังใจจํานวนมากสําหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไป เป็นคนเก่ง คนดี และได้ใกล้ชิดหลักธรรมคําสอนทางพระพุทธศาสนาและหลักคุณธรรม 5 ประการ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา กตัญญู เป็นการปลูกฝังให้เยาวชนของชาติมีจิตใจอ่อนโยนและยังเป็นเวทีส่งเสริมให้เยาวชนได้แสดงออกถึงขันติธรรม สามัคคีธรรม มีความรับผิดชอบร่วมกัน เป็นเยาวชนต้นแบบที่มีความสามารถและกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ตลอดจนร่วมสืบสานพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไปโดยมีหลักเกณฑ์ แต่ละทีมจะต้องใช้เวลาในการขับร้องไม่เกิน 15 - 18 นาที และบทขับร้องต้องประกอบด้วยบทร้อง 3 บทคือ 1.บทไหว้พระรัตนตรัย หรือบทไหวัครู 2.บทร้องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีทางพุทธศาสนา หรือเกี่ยวกับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 3.บทร้องอื่นๆตามความถนัด ซึ่งการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ในส่วนหลักเกณฑ์การให้คะแนน ใช้หลักท่วงทํานอง จังหวะการขับร้อง ความไพเราะของน้ําเสียง การแต่งกายเหมาะสมกับวัฒนธรรม ความถูกต้องของอักขระ มีความชัดเจน ความถูกต้องของจังหวะ และมีเนื้อหาความหมายเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม ประเพณีทางพุทรศาสนา หรือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความพร้อมเพียงของหมู่คณะ ทั้งก่อนและหลังการขับร้อง รวมถึงการมีส่วนร่วมและแสดงถึงความพึ่งพอใจของผู้ชมผู้ฟังและการรักษาเวลาตามที่กําหนด
17/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230917193017186
246,279
ที่ประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมติอนุมัติให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (คลื่นลมแรง) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566
วันนี้ (18 กันยายน 2566) ที่ห้องประชุมศรีปราชญ์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มอบหมายให้นายสายัน กิจมะโน หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดนครศรีธรรมราช (ก.ช.ภ.จ.นศ.) ครั้งที่ 10/2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมทั้งนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม – 11 กันยายน 2566 ไปแล้วจํานวน 17 ฉบับ ประกอบด้วย อัคคีภัย จํานวน 3 ฉบับ 2 อําเภอ ได้แก่อําเภอร่อนพิบูลย์ และอําเภอขนอม ,วาตภัย จํานวน 11 ฉบับ 7 อําเภอ ได้แก่ อําเภอท่าศาลา ชะอวด เมืองนครศรีธรรมราช นบพิตํา สิชล ช้างกลางและอําเภอปากพนัง ส่วนภัยอื่น ๆ (ไฟป่า) จํานวน 3 ฉบับ 2 อําเภอ ได้แก่อําเภอชะอวด และอําเภอเชียรใหญ่ โดยอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช ได้ขออนุมัติเบิกเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (คลื่นลมแรง) กรณีผู้เสียชีวิต นายหฤทธิ์ หาญกล้า อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/16 หมู่ที่ 7 ตําบลท่าศาลา อําเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จมน้ําเสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 เวลา 22.00 น. ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช ครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว โดยอนุมัติค่าจัดการศพ รายละไม่เกิน 29,700 บาทและในกรณีผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือเป็นผู้หารายได้เลี้ยงดูครอบครัวให้พิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ครอบครัวอีกไม่เกิน 29,700 บาท ส่วนการขอรับความช่วยเหลือเหตุเรือประมง “ส. พิชิตมัจฉา” ล่มเนื่องจากประสบวาตภัย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 เจ้าของเรือคือ นายมูอัซซิน หาญกล้า อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3712 หมู่ที่ 7 ตําบลท่าศาลา อําเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ขอรับการช่วยเหลือเป็นเงิน 25,000 บาท แบ่งเป็น ค่ากู้เรือ 5,000 บาท ค่าซ่อมแซมเรือประมงและอุปกรณ์ 20,000 บาท โดยขอใช้งบประมาณจากกรมประมงโดยสํานักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งที่ประชุมก็มีมติอนุมัติด้วยเช่นกันนอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีอําเภอพิปูน รายงานเหตุด่วนสาธารณภัย เกิดเหตุช้างป่า ทําลายพืชผลและทรัพย์สินที่ใช้ในการเกษตร ในพื้นที่ หมู่ที่ 4,5 และหมู่ที่ 10 ตําบลเขาพระ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 เวลา 23.00 น. ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 50 คน 20 ครัวเรือน ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการสํารวจ เนื่องจากภัยยังไม่สิ้นสุด ยังคงมีช้างป่าเข้ามาทําลายพืชผลของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินต้องกําหนดพื้นที่และระยะเวลาของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตินั้นด้วย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกําหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ตามหนังสือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด่วนที่สุด ที่ มท 0605/ว 4325 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565
18/9/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918120539270
246,280
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดรับสมัครเลือกตั้งวันที่ 18 - 22 กันยายน 2566 เพื่อทดแทนผู้แทนเกษตรกรชุดเดิม
นายอดุลย์ แจ้งเศรษฐ พนักงานอาวุโส ปฏิบัติหน้าที่แทน หัวหน้าสํานักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2566 ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 – 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่สมาชิกเกษตรกรผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีชื่ออยู่ โดยกําหนดรับสมัครเลือกตั้งวันที่ 18 - 22 กันยายน 2566 สถานที่รับสมัคร (ภาคใต้) ณ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. เพื่อทดแทนผู้แทนเกษตรกรชุดเดิม ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ครบวาระการดํารงตําแหน่งแล้ว ทางสํานักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชาสัมพันธ์การรับสมัครและการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2566 เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรสมาชิกได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึงและกระตุ้นเตือนให้สมาชิกให้ความสําคัญในการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร พ.ศ.2566 ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้.ทางสํานักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์/โทรสาร077206247.
18/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918141915320
246,281
อำเภอเมืองอุดรธานี แจ้งเตือนประชาชน อาศัยใกล้ลำห้วย เตรียมพร้อมเก็บของมีค่าขึ้นที่สูงป้องกันความเสียหายจากการระบายน้ำ
นายวิมล สุระเสน นายอําเภอเมืองอุดรธานี ได้มีหนังสือเร่งด่วนแจ้งไปยังนายกเทศมนตรีตําบล นายกองค์การบริหารส่วนตําบลทุกแห่ง ผู้อํานวยการส่วนท้องถิ่น กํานันทุกตําบล ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านเรื่องการเร่งระบายน้ําจากเขื่อนห้วยหลวง ลงสู่ลําห้วยหลวงอาจจะส่งผลกระทบต่อหลายตําบล เช่น ต.โคกสะอาด ต.เชียงยืน ต.หมูม่น ต.นากว้าง ต.นาข่า ต.กุดสระ และ ต.สามพร้าว ให้พี่น้องประชาชนเก็บของมีค่าขึ้นไว้ที่สูง โดยโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาห้วยหลวงจะประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง
18/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918145628335
246,282
ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ปันรัก
บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จํากัด ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ปันรัก โดยเทพผดุงพรมะพร้าว ในวันอังคารที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 12.30 น.- 15.30 น. ณ อาคารสํานักงานใหญ่ เทพผดุงพรมะพร้าว โครงการปันรัก โดยเทพผดุงพรมะพร้าว จัดขึ้นเพื่อให้โรงเรียนในสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมนําเสนอแผนงานพัฒนาการศึกษา เพื่อรับเงินทุนสนับสนุนแห่งละ 200,000 บาท จํานวน 75 โรงเรียน รวมมูลค่า 15,000,000 บาท ผู้เข้าร่วมโครงการต้องนําส่งแผนงานเพื่อขอรับทุนสนับสนุน ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 ประกาศผลรอบแรกวันที่ 25 ตุลาคม 2566 และจะประกาศผลผู้ได้รับทุนวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.ปันรัก.com Facebook และTiktok ปันรัก หรือโทร.099-449-9912
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918153651352
246,283
สโมสรฟุตบอล พีที สตูล เอฟซี จับมือโรงเรียนสตูลวิทยา ผนึกกำลังความร่วมทางด้านการกีฬาฟุตบอล สนับสนุนด้านต่างๆ และร่วมผลักดันนักบอลเยาวชนสตูลวิทยาสู่นักฟุตบอลอาชีพในอนาคต
วันนี้ (18 ก.ย. 66) ที่หอประชุมอาคาร 100 ปี โรงเรียนสตูลวิทยา ตําบลคลองขุด อําเภอเมือง จังหวัดสตูล สโมสรฟุตบอล พีที สตูล เอฟซี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการกีฬาฟุตบอลกับโรงเรียนสตูลวิทยา เพื่อร่วมสนับสนุนนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนสตูลวิทยาและนักเรียน ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมฟุตบอลซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของจังหวัดสตูล ในเวทีไทยลีก 3 ปี 2023-2024 โดยมีนายพงศพัศ ทิ้งนุ้ย ประธานสโมสร พีที สตูล เอฟซี , นายอรุณ โต๊ะหวันหลง ผู้อํานวยการโรงเรียนสตูลวิทยา , นายพีรพัฒน์ รัชกิจประการ ผู้จัดการทีม และนายอํามาต สุปราณี ผู้แทนคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสตูลวิทยา ร่วมลงนามร่วมกันสําหรับการลงนามครั้งนี้ เพื่อร่วมกันสนับสนุนนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนสตูลวิทยา ในการส่งเข้าทําการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนรายการต่างๆ ในนามสโมสร พีที สตูล เอฟซี พร้อมทั้งทางสโมสรจะเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลโรงเรียนสตูลวิทยา และนักเรียน ได้รวมฝึกซ้อม ฝึกทักษะ และหาประสบการณ์กับทีมฟุตบอล พร้อมการเปิดโอกาสให้สโมสรได้เปิดคลีนิกฟุตบอล ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่นักฟุตบอลโรงเรียนสตูลวิทยาได้สู่นักฟุตบอลอาชีพในอนาคต นอกจากนั้นทางโรงเรียนจะร่วมสนับสนุนอํานวยความสะดวกด้านสนามกีฬาฟุตบอลเพื่อทําการฝึกซ้อมของสโมสร รวมถึงการสนับสนุนนักเรียนในการเป็นผู้จําหน่ายตั๋วเมื่อมีการแข่งขัน , บอลบอย , MC ในสนามต่อไปขณะที่ประธานสโมสร พีที สตูล เอฟซี กล่าวก่อนการลงนาม MOU ว่า การลงนามในครั้งนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้น้องๆ ซึ่งในฐานะศิษย์เก่าสตูลวิทยา ก็อยากจะเห็นน้องๆ ได้มีโอกาสด้านกีฬาฟุตบอล ด้วยเป้าหมายของการเลื่อนชั้นไปแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นจากนักฟุตบอลที่มาจากสายเลือดของชาวสตูลจริงๆ จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมมือกันด้านผู้อํานวยการโรงเรียนสตูลวิทยา กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งความฝันที่สามารถทําได้ ในฐานะเป็นอดีตนักฟุตบอลเยาวชนจังหวัดสตูลเมื่อหลายสิบปีก่อน และเมื่อเติบโตมาเป็นครูก็เป็นโค้ชดูแลนักเรียนจนเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยมีชื่อเสียงของประเทศไปหลายคน แต่อย่างไรก็ตามการกีฬาก็ต้องควบคู่กับการศึกษา ดังนั้นการลงนามบันทึกความตกลงร่วมกันครั้งนี้ก็จะเป็นการสร้างโอกาสทั้งกีฬาและการศึกษาควบคู่ไปด้วย
18/9/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918161910358
246,284
จ.ระยอง ชวนเที่ยวงาน ’ถนนท่องเที่ยว วิถีชาวเล’ ชิมช้อปอาหารถิ่น อาหารทะเล สินค้าจากชุมชนกว่า 100 ร้านค้า ชมคอนเสิร์ตนักร้องชื่อดังตลอดงาน
เวลา 17.00 น.วันนี้ (18 ก.ย.66) ที่บานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ.ระยอง นายไชยรัตน์ เอื้อตระกูล นายกเทศมนตรีตําบลปากน้ําประแส นายสนาน เพชร์ฉ่ํา นายกเทศมนตรีตําบลแกลงกะเฉด นางสุวรรณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และนางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน ’ถนนท่องเที่ยว วิถีชาวเล’ ภายใต้โครงการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดระยอง ปี 2566 โดยจัดขึ้น 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ ที่บริเวณชายหาดสวนสน อ.เมือง จ.ระยอง ภายใต้ชื่องาน’ชมวิวสวนสน ยลวิถี ชาวเล’ และครั้งที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ต.ค.นี้ ที่บริเวณอนุสรณ์เรือหลวงประแส อ.แกลง จ.ระยอง ในงานมีร้านอาหารถิ่น อาหารทะเล สินค้าชุมชน 100 ร้านค้า มาจําหน่าย มีช่วงสินค้านาทีทอง สินค้าราคาพิเศษ กิจกรรมสาธิตการทําอาหารทะเล การสาธิตวิถีชาวเล กิจกรรมเพ้นท์หน้า โดยผู้มาร่วมงานที่แต่งกายแบบชาวเล ลุ้นรับกิฟท์วอยเชอร์ มูลค่า 100 บาท 50 รางวัล เพื่อนํามาข้อป ชิม ในร้านค้าที่มาจําหน่ายในงาน นอกจากนี้ในงานยังมีการประกวดค้นหาหนุ่มสาวชาวเล และมีคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดัง เบล วริศรา เอิ๊ต ภัทรวี ตรี ชัยณรงค์ และเต๋า ภูศิลป์ ทั้งนี้งานดังกล่าวเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดระยองให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีความพร้อม และเพิ่มศักยภาพเพื่อรองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ New Nomal รวมทั้งเป็นการสนองนโยบายด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดด้านการท่องเที่ยวดําเนินไปอย่างมีทิศทาง โดยมีนักท่องเที่ยวได้เข้าสัมผัสวิถีชาวประมง หรือชาวเลอย่างแท้จริง ซึ่งจะทําให้คนในพื้นที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว มีคุณภาพชีวิตและมาตรฐานเป็นไปอย่างยั่งยืนต่อไป
18/9/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918180828405
246,285
สกต.บุรีรัมย์ ร่วมรับมอบลองกองคุณภาพจาก สกต.ตรัง จำกัด ตามโครงการเชื่อมโยงสินค้าป้องกันผลผลิตล้นตลาด พร้อมเปิดรับสั่งจองลองกองเพิ่มเติม
วันนี้ (18 ก.ย.66) ที่ สกต.บุรีรัมย์ จํากัด นางวิไล ยูฮันเซ่น สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางสาวนิตยา จันทร์ภัคดี ผู้จัดการ สกต. บุรีรัมย์ จํากัด ผู้แทนจากธนาคาร ธกส.จังหวัดบุรีรัมย์ และส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานการรับมอบลองกองจาก สกต.ตรัง จํากัด เพื่อนําส่งให้ประชาชนที่สั่งจองโดยการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ สกต.บุรีรัมย์ จํากัด ได้เชื่อมโยงลองกอง จาก สกต.ตรัง จํากัด จํานวน 289 ตะกร้าๆ ละ 8 กิโล รวมจํานวน 2,312 กิโลกรัม เป็นเงิน 83,810 บาท ขณะที่ทาง สกต.ตรัง ได้สั่งซื้อข้าวสารจาก สกต.บุรีรัมย์ จํานวน 11 ตัน มูลค่า 439,000บาท ซึ่งลองกองคุณภาพ จาก สกต.ตรัง จํากัด ยังคงเปิดให้ประชาชนสั่งซื้อได้ในราคาตะกร้าละ 8 กิโลกรัม ราคา 320 บาท รับสินค้าในวันที่ 21 ก.ย. 66 ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้ที่ สกต.บุรีรัมย์ จํากัด โทร 044-690-255, 081-966-1006สําหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตรในครั้งนี้ เป็นการดําเนินการตามกิจกรรมสินค้าเชื่อมโยงขบวนการสหกรณ์ ที่ทางสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ จํากัด (สกต. บุรีรัมย์ จํากัด) จะมีการแลกเปลี่ยนสินค้ากับทาง สกต.ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าประเภทผลไม้จะมีการเชื่อมโยงกับจังหวัดอื่นๆ ในทุกฤดูกาลผลไม้ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนผลผลิตของเกษตรกรในแต่ละจังหวัด เพื่อป้องกันสินค้าล้นตลาดและทําให้ประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์ สามารถรับประทานผลไม้ขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับประทานที่จังหวัดนั้นๆ
18/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918183633414
246,286
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จัดโครงการ วิพิธทัศนาสดุดี ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งเสริมประสบการณ์นิสิตในการวางแผนงานพร้อมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม
วันที่ 17 กันยายน 2566 ที่หอประชุมวิชาอัตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ อาจารย์ ดร.พัชนี กุลฑานันท์ คณบดีคณะครุศาสตร์ เป็นประธาน เปิดโครงการวิพิธทัศนาสดุดี ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีคณะครู อาจารย์ และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เข้าร่วมโดยการจัดงานในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างสาขาวิชานาฏศิลป์ สาขาวิชาดนตรีศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างเสริมประสบการณ์การทํางานให้แก่นักศึกษา เพื่อนําไปสู่การพัฒนาคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ เป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักกับคนรุ่นใหม่มากขึ้นในส่วนของการแสดงได้จัดให้มีการแสดงเบิกโรง ชุด ยอกรอภิวาท, การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกพรหมาศ, การแสดงพื้นเมือง 4 ภาค, การแสดงละครนอก เรื่อง ไกรทอง ตอน พ้อล่าง และการแสดงเทิดพระเกียรติ ชุด ฟ้อนเทิดพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
18/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918184621417
246,287
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลพบุรี ชี้แจงกรณี ครม.อนุมัติงบอุดหนุนเงินเด็กแรกเกิด จ่ายงวดแรก 18 กันยายน ก่อนเที่ยง สำหรับผู้มีสิทธิเงินไม่เข้าแจ้ง พมจ.โดยทันที
นางดุสิตา เชาวน์เลิศ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด จะสนับสนุนเงินให้กับครอบครัวที่มีเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี ซึ่งได้เดือนละ 600 บาท ซึ่งจังหวัดลพบุรีมีเด็กแรกเกิดประมาณ 32,000 คน ที่ขึ้นทะเบียนเด็กแรกเกิดไว้ แต่จ่ายจริงๆ จะอยู่ที่ 23,000 คน เพราะแม่เด็กบางคนก็ไม่ลงทะเบียน ไม่เข้าสิทธิ์ หรือไม่เข้าเกณฑ์ เด็กบางคนก็อายุเกินเกณฑ์คือ 6 ขวบเต็มแล้วเข้าปีที่ 7 ทั้งนี้ คนที่จะได้รับสิทธิ์เด็กแรกเกิดเมื่อคลอดออกมาก็จะต้องไปลงทะเบียนที่ อบต. หรือเทศบาล และเตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อยื่นใบคําร้อง อบต. หรือเทศบาล จะบันทึกข้อมูลพร้อมกับแนบเอกสารทั้งหมดเมื่อเสร็จก็จะมีการปิดประกาศ 15 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ ประชาชนมาคัดค้านหรือมาตรวจสอบคุณสมบัติ ถ้าเกิดว่าไม่เข้าเกณฑ์ก็จะไม่ได้แต่ว่าถ้าเกิดเข้าเกณฑ์ ก็จะส่งข้อมูลมาที่สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อยืนยันสิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง โดยส่งข้อมูลเข้าศูนย์ข้อมูลของเด็กแรกเกิดกรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อยืนยัน ซึ่งทางกรมฯ จะทําเรื่องขอรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ไปที่สํานักงบประมาณ และจะโอนเงินเข้ากับบัญชีของผู้ปกครองเด็กโดยตรง ตั้งแต่ปี 2559 ทุกคนก็จะได้เดือนละ 600 บาท แต่เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 เงินไม่เข้าทั้งนี้จะเป็นการของบประมาณล่วงหน้าใน 1 ปี บังเอิญว่าปีนี้ จํานวนเด็กที่เกิดมาใหม่มีจํานวนมากกว่าที่ตั้งงบประมาณไว้ ซึ่งจะรวบรวมทั้งหมดว่าเงินที่เราจะทําการขอมา 1 ก้อน มันยังขาดอยู่เท่าไหร่ก็จะตั้งเรื่องเข้าไปขอเป็น มติ ครม. เพื่อจะเอาเงินส่วนที่ขาดมาจัดสรร ซึ่งจากการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ครม. ก็มีมติอนุมัติ กําหนดจ่ายเงินที่ในวันที่ 18 กันยายน ก่อนเที่ยง หากท่านไปกดแล้วเงินไม่เข้า สิ่งที่ต้องเช็คอันดับ 1 คือลูกของท่านครบ 6 ปีหรือยัง เพราะบางทีพอครบ 6 ปี เงินก็ตัดไปโดยอัตโนมัติ 2. ท่านไปยื่นเรื่องที่ อบต.หรือเทศบาล ครบ 15 วันหรือยังตามที่เขาประกาศ เขาก็จะแจ้งผู้มีสิทธิ์ แต่ถ้าเกิดว่าทุกอย่างที่ท่านทําแล้ว ตรวจสอบหมดแล้ว ยังไม่ได้รับภายในเที่ยงวันของวันที่ 18 กันยายน 2566 สามารถโทรสอบถามได้ที่ สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เจ้าหน้าที่จะทําการเช็คในระบบให้ว่าติดขัดส่วนไหนเพื่อดําเนินการแก้ไข ทางด้าน น.ส.อารีวรรณ พลายอินทร์ ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ เปิดเผยว่า เงินในรอบเดือนกันยายน 2566 ได้รับแล้วเข้ามาที่บัญชีธนาคารออมสิน โดยเงินจํานวนนี้ได้รับมา 1 ปี กว่าแล้ว ก็ใช้จ่ายหลักๆ เกี่ยวกับน้อง ไม่ว่าจะเป็นค่านมค่าแพมเพิส ค่าใช้จ่ายไปหาหมอ แต่ก็ไม่เพียงพอ อยากจะฝากถึงรัฐบาลในการช่วยเหลือดูแลเด็กเกี่ยวกับการไปหาหมอที่นอกเหนือจากโรงพยาบาล เช่น คลินิกสําหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะเวลาพาเด็กไปโรงพยาบาลต้องมีขั้นตอนใช้เวลานานกว่าจะได้พบหมอ
18/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918193746419
246,288
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลผลิตทางการเกษตร และทอดพระเนตรนิทรรศการในงานวันลองกอง ในงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ประจำปี 2566
วันนี้ (18 ก.ย.66) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลผลิตทางการเกษตร และทอดพระเนตรนิทรรศการในงานวันลองกอง ในงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ประจําปี 2566 ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา หรือสวน ร.5 อําเภอเมืองนราธิวาสร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กราบบังคมทูลรายงานความเป็นและวัตถุประสงค์ของการจัดงานของดีเมืองนรา จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดที่มีการปลูกลองกองมากที่สุดในประเทศไทยและเป็นถิ่นกําเนิดลองกองคุณภาพดีที่มีชื่อเสียง คือ ลองกองตันหยงมัส เป็นผลไม้พื้นเมืองที่มีชื่อเสียงมาก คุณสมบัติเด่น คือ ผลสุกเป็นสีเหลืองทอง เปลือกไม่มียาง ล่อนออกจากเนื้อง่าย รูปทรงของผลเป็นเป็นหยดน้ํา เนื้อใส หวานกลิ่นหอม เนื้อมีเมล็ดน้อยหรือไม่มีเลย เป็นพืชไม้ผลอัตลักษณ์ของจังหวัดนราธิวาสที่สร้างรายได้ปีละมากกว่า 159 ล้านบาท จึงได้มีการส่งเสริมให้อนุรักษ์ต้นพันธุ์ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศภายในงานวันลองกอง กิจกรรมที่ประชาชนให้ความสนใจและเข้าชมมากที่สุด คือ นิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ ที่สําคัญในงานวันลองกองได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละออกพระบาททรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลผลิต และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเป็นประจําทุกปี ซึ่งเป็นขวัญและกําลังใจแก่พสกนิกรชาวจังหวัดนราธิวาส และจังหวัดใกล้เคียงโดยทั่วกันวัตถุประสงค์ในการจัดงานของดีเมืองนรา เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีอาณาประชาราษฎร์ เปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ได้แสดงผลงานโครงการอันเนื่องมากจากพระราชดําริ และโครงการสําคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์เผยแพร่สู่ประชาชน ตลอดจนเผยแพร่เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่สู่เกษตรกรให้สามารถพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ส่งเสริมให้เกษตรกร องค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนได้จําหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ รวมถึงได้เชื่อมโยงเครือข่ายด้านการตลาด นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดนราธิวาสสําหรับกิจกรรมหลักที่สําคัญ ประกอบด้วย นิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการของส่วนราชการ 28 หน่วยงาน การจําหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมของวิสาหกิจชุมชนจาก 13 อําเภอ การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การประกวดบอนสี และการประกวดผลงานของสถาบันเกษตรกรของส่วนราชการที่มาร่วมแสดงผลงานในงานวันลองกองโอกาสนี้ นายจตุรงค์ พรหมวิจิตร เกษตรจังหวัดนราธิวาส กราบบังคมทูลเบิกผู้ชนะการประกวดกิจกรรมต่าง ๆ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานรางวัล รวม 57 ประเภท 68 ราย ซึ่งในส่วนของรางวัลริ้วขบวนงานของดีเมืองนรา รางวัลที่ 1 อําเภอแว้ง รางวัลที่ 2 อําเภอเมืองนราธิวาส และรางวัลที่ 3 อําเภอศรีสาคร
18/9/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918195623426
246,289
อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี บูรณาการส่วนที่เกี่ยวข้อง ซ่อมแซมบ้านให้แก่ผู้ยากไร้เป็นผู้พิการ ที่เสื่อมสภาพเสี่ยงเกิดอันตราย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
วันที่ 18 กันยายน 2566 นายอําเภอรัชกฤต พยัคฆ์ นายอําเภอศรีมหาโพธิ พร้อมด้วย นายอลงกต เอี่ยมประไพ ปลัดอําเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ตรวจการดําเนินการซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ม.9 ต.ศรีมหาโพธิ โดยนายณัฐวุธ ผาสุขเจริญไพบูลย์ กํานันตําบลศรีมหาโพธิ น.ส.มนพร ระวังการ ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.ศรีมหาโพธิ น.ส.เบญจมาศ ศรีใย สารวัตรกํานัน แพทย์ประจําตําบล และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บูรณาการร่วมกับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จัดกําลังพลจิตอาสาประเภทช่าง ช่วยซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ที่มีสภาพเสื่อมโทรมผุพัง เสี่ยงเกิดอันตรายของ นางสาวสุรีรัตน์ พลชัย บ้านเลขที่ 24 ม.9 เป็นผู้พิการ เพื่อความเป็นอยู่ชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อวัสดุเพื่อซ่อมแซมบ้านจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าจังหวัดปราจีนบุรี 2 ปีงบประมาณ 2566 จํานวน 30,000 บาท ดําเนินการ ก่อผนังอิฐบล็อก ติดหน้าต่าง- บานประตู ทําห้องน้ํา และเดินไฟฟ้าภายในบ้าน(เป็นระยะเวลา 7 วัน) สถานที่ ณ บ้านโคกขวาง ม.9 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
18/9/2023
ภาคตะวันออก
ปราจีนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918195925428
246,290
จังหวัดมหาสารคาม จัดงาน “อาหารปลอดภัย ประชารัฐร่วมใจ สร้างรายได้สู่ชุมชน” ตามโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย สร้างรายได้ให้ชุมชน
วันนี้ (18 ก.ย.66) ที่ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์ อําเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน “อาหารปลอดภัย ประชารัฐร่วมใจ สร้างรายได้สู่ชุมชน” ตามโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ คณะมะ พัฒนาการจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเครือข่ายเกษตรปลอดภัยระดับจังหวัด กลุ่มผู้ผลิต และผู้ประกอบการ เข้าร่วมซึ่งการจัดงานแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ภายใต้งาน “อาหารปลอดภัย ประชารัฐร่วมใจ สร้างรายได้สู่ชุมชน” ตามโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัยในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดมหาสารคาม ตามแนวทางการดําเนินงาน 5 กระบวนการ ได้แก่ การเข้าถึงปัจจัยการผลิต การสร้างองค์ความรู้ การตลาด การสื่อสารสร้างการรับรู้เพื่อความยั่งยืน และการบริหารจัดการ โดยกิจกรรมนี้เป็นเรื่องของการส่งเสริมช่องทางการตลาด เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และเครือข่ายเกษตรปลอดภัยจังหวัดมหาสารคาม ได้มีโอกาสนําสินค้าที่ผ่านกระบวนการพัฒนารูปแบบ และการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานมาจําหน่ายในศูนย์การค้าชั้นนําของจังหวัดมหาสารคาม เป็นการเพิ่มรายได้ และเพิ่มโอกาสทางการตลาด รวมถึงการเผยแพร่สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า OTOP ของจังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภัณฑ์จากเครือข่ายเกษตรปลอดภัย และกิจกรรมส่งเสริมการสร้างรายได้จากกิจการอาหารปลอดภัย การจัดบูธแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ การเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างเครือข่ายเกษตรปลอดภัยกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และผู้ประกอบการชุมชน การประกวดอาหารปลอดภัย โดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบ และการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2566
18/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาสารคาม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230918201937433
246,291
พอ.สว.วันที่ 19 กันยายน 2566 ออกให้บริการประชาชน
วันนี้ 19 กันยายน 2566 มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. จะออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่หมู่ 11 โรงเรียนบ้านไสดง ตําบลไทรขึง อําเภอพระแสงจังหวัดอํานาจเจริญ ที่หมู่ 2 บ้านปลาค้าว ตําบลปลาค้าว อําเภอเมืองจังหวัดแพร่ ที่หมู่ 9 โรงเรียนบ้านป่าคาป่าม่วง ตําบลแม่พุง อําเภอวังชิ้นขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919085501467
246,292
กอ.รมน.อุดรธานีพร้อมด้วยจิตอาสา 904 นำข้าวสารอาหารแห้งมอบให้กับฝ่ายปกครองเพื่อช่วยเหลือประชาชน
พ.อ.ธนาวีร์ วิชาชัย รอง ผอ.รมน.จังหวัด อุดรธานี(ท.)และนายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา ประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการ พคบ.รุ่น 2/66 และจิตอาสา 904 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ต.เชียงยืน อ.เมือง จังหวัดอุดรธานี พร้อมกันนี้ ได้นําอาหารแห้งและน้ําดื่มมอบให้กับฝ่ายปกครองเพื่อนําไปช่วยเหลือประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในขั้นต้น โดยมี นายวิมล สุระเสน นอภ.เมืองอุดรธานี เป็นผู้รับมอบ อีกทั้งยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือต่อไป
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919091354485
246,293
ผู้แทนหอการค้าร่วมกับกอ.รมน.นำข้าวกล่องช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมอำเภอเมืองอุดรธานี
นายธนพล กองทรัพย์ไพศาลประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้นางกนกธร ธนาธันย์บดี, นายปรียะสิทธิ์ เจียรวาปี กรรมการหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และนายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา เป็นตัวแทนมอบมอบข้าวกล่อง 100 กล่อง ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ําท่วมในเขตอําเภอเมืองอุดรธานี ร่วมกับพันเอก ธนาวีร์ วิชาชัย รองผอ.รมน.จ.อุดรธานี
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919091033482
246,294
ร.ร.แชแลวิทยา อบจ.อุดรธานี 7 คว้าแชมป์ประเทศไทย การแข่งขันร่ายรำไหว้ครูมวยไทยและการแข่งขันไม้มวยไทย
นายวิรัตน์ สุทธิ ผอ.สถานศึกษาโรงเรียนแชแลวิทยา อบจ.อุดรธานี 7 เปิดเผยว่า นายวิเชียร ขาวขํา นายก อบจ.อุดรธานี ได้สนับสนุนงบประมาณมาทางกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.อุดรธานี ให้แก่โรงเรียนแชแลวิทยา อบจ.อุดรธานี 7 ในการดําเนินการเตรียมการและ ได้จัดส่ง คณะครู บุคลากร เจ้าหน้าที่ และนักเรียน เข้าร่วมการแข่งขันการประกวดไหว้ครูมวยไทยและไม้มวยไทย ภายใต้โครงการการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย 2023 ระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายน 2566 ที่หน้าอาคารนิมิตบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน โดยนักเรียนโรงเรียนแชแลวิทยา อบจ.อุดรธานี 7 โชว์ลีลาถูกใจคณะกรรมการได้รับรางวัล ถึง 5 ชนิดการแข่งขัน ดังนี้ 1.รางวัลชนะเลิศการแข่งขันร่ายรําไหว้ครูมวยไทย ประเภทบุคคลหญิง แชมป์ตกเป็นของ น.ส.เนตรนภา สีหาคําแท้ รับเงินรางวัล 12,000 บาท 2.รางวัลชนะเลิศการแข่งขันร่ายรําไหว้ครูมวยไทย ประเภทบุคคลชาย แชมป์ตกเป็นของ นายธนวัตน์ แสงนาค รับเงินรางวัล 12,000 บาท 3.รางวัลรองชนะเลิศการแข่งขันร่ายรําไหว้ครูมวยไทย ประเภทบุคคลชาย รองแชมป์ตกเป็นของ นายนัฐพล ไชยมาตย์ รับเงินรางวัล 8,000 บาท 4.รางวัลชนะเลิศการแข่งขันไม้มวยไทย ประเภทคู่ชาย แชมป์เป็นของ นายพิทยา ทิพย์ปรานี และนายธนวัตน์ แสงนาค รับเงินรางวัล 18,000 บาท 5.รางวัลชนะเลิศการแข่งขันไม้มวยไทย ประเภทคู่หญิง แชมป์ตกเป็นของ น.ส.เนตรนภา สีหาคําแท้ และ น.ส.กานต์พิชชา สรวงศิริ รับเงินรางวัล 18,000 บาท ซึ่งนักเรียนที่ได้รางวัลชนะเลิศ จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขัน ที่ประเทศตุรกี ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 ที่จะมาถึงนี้
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919091122484
246,295
จัดหางานจังหวัดตราด ประชาสัมพันธ์ การรับสมัครคนหางานเพื่อไปทำงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับนายจ้างบริษัท CROWN EMIRATES COMPANY.LTD
(19 ก.ย. 66) นางสาวธัญญา สังข์ทอง จัดหางานจังหวัดตราด เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานประกาศรับสมัครคนหางานเพื่อไปทํางานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับนายจ้างบริษัท CROWN EMIRATES COMPANY.LTD) เพศชาย อายุ 20-35 ปี รายละเอียด ดังนี้1. ตําแหน่งช่างไฟฟ้า (Electrician) จํานวน 4 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 3,000 ดีแรห์ม หรือประมาณ 28,530 บาท2. ตําแหน่งช่างกล (Machines Technician) จํานวน 6 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 2,500 ดีแรห์ม หรือประมาณ 23,775 บาท 3. ตําแหน่งพนักงานควบคุมเครื่องจักร/ช่างเครื่อง (Machines Operator/Machinist) จํานวน 2 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 2,500 ดีแรห์ม หรือประมาณ 23,775 บาท4. ตําแหน่งพนักงานฝ่ายผลิต (Operator) จํานวน 3 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 1,900 ดีแรห์ม หรือประมาณ 18,069 บาทเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 11 กันยายน – 10 ตุลาคม 2566 โดยสามารถยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์อิเล็กรทอนิกส์ (อีเมล์) [email protected] สํานักงานจัดหางานจังหวัดตราด จึงขอประชาสัมพันธ์การรับสมัครคนหางานเพื่อไปทํางานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับนายจ้างบริษัท CROWN EMIRATES COMPANY.LTD) ได้รับทราบโดยทั่วกันหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทรศัพท์ 0 2245 6708 หรือ สํานักงานจัดหางานจังหวัดตราด อาคารศาลากลางจังหวัดตราด (หลังใหม่) ชั้น 1 ถนนราษฎร์นิยม ตําบลบางพระ อําเภอเมืองตราด จังหวัดตราด หรือโทรศัพท์ 0 3951 0326 และ 06 3267 2967 2997 หรือ www.facebook/สํานักงานจัดหางานจังหวัดตราด หรือ ID Line : @720kico ในวันและเวลาราชการ
19/9/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919113128509
246,296
ชป.12 ชัยนาท แจ้งเตือน 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 2 เนื่องจากมีปริมาณฝนตกเหนือเขื่อนจำนวนมาก
วันนี้ 19 กันยายน 2566 นายวัชระ ไกรสัย ผู้อํานวยการสํานักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ําและการบริหารจัดการน้ําลุ่มน้ําเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2566 ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เรื่อง สถานการณ์น้ําและการบริหารจัดการน้ําลุ่มน้ําเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2566 คาดการณ์ว่าปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 300-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ํามีระดับน้ําเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อําเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตําบลบ้านกระทุ่ม ตําบลหัวเวียง อําเภอเสนา และตําบลท่าดินแดง อําเภอผักไท่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1.00-1.50 เมตร นั้นสืบเนื่องจาก ยังมีฝนตกและมีน้ําหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ําเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 16.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ําไหลผ่านสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 790 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาทําให้ระดับน้ําเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น อยู่ที่ระดับ +16.49 เมตร/รทก. ปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 421 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะรักษาระดับน้ําเหนือเขื่อนไม่ให้เกินระดับ +16.50 เมตร/รทก. และคาดการณ์ว่าปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ํามีระดับน้ําเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อําเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตําบลบ้านกระทุ่ม ตําบลหัวเวียง อําเภอเสนา และตําบลท่าดินแดง อําเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 1.00-1.20 เมตร โดยระดับน้ําที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวยังคงอยู่ในตลิ่งลําน้ําทั้งนี้ สํานักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายน้ําผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ําให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ําหลากเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไปสําหรับปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ํา C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ําไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 928 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ําทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.50 เมตร/รทก. และปริมาณน้ําทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 8.26 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ําห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 7.72 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ําอยู่ที่ 491 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลทําให้ที่สถานีวัดน้ํา C.3 บ้านบางพุดทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ําไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ํา สํานักงานชลประทานที่ 12 จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ําเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ําเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สวท.ชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919113729510
246,297
สมาคมแม่บ้านทหารบกอุดรธานี พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัย
นางปาริชาติ ศตะกูระมะ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 13 พร้อมด้วยคณะแม่บ้าน และกําลังพลชุดจิตอาสาพระราชทานของหน่วยฯ ลงพื้นที่จัดกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัย พื้นที่ชุมชนศรีสว่าง ตําบลพันดอน อําเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้ร่วมกันจัดทําอาหารกล่อง โดยใช้รถครัวสนามของหน่วยเพื่อนําไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประสบอุทกภัย โดยกําลังพลชุดบรรเทาสาธารณะภัยของหน่วย ได้เข้าช่วยเหลือ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันระดับน้ําคงที่ และมีแนวโน้มจะลดลง ซึ่งหน่วยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและให้กําลังใจกับประชาชน ซึ่งการดําเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย จะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายกองทัพบก ในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน เพราะ "ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส"จากการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ ทําให้ประชาชนในพื้นที่ มีความรู้สึกปลาบปลื้มใจและรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919121204525
246,298
แขวงทางหลวงชนบทตรัง ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ เตรียมรองรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ตามมาตรการของกรมทางหลวงชนบท
นางสาวชนิดา ฆังคะจิตร ผู้อํานวยการแขวงทางหลวงชนบทตรัง เปิดเผยว่า แขวงทางหลวงชนบทตรัง ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ พร้อมเตรียมอุปกรณ์ ป้ายเตือน เครื่องมือ เครื่องจักร เตรียมรองรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ตามมาตรการของกรมทางหลวงชนบท เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ และจะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกําลัง รวมถึงจัดชุดลาดตระเวนเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้วยทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์น้ําท่วมในพื้นที่ แขวงทางหลวงชนบทตรัง จะได้เร่งลงพื้นที่ติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟ และอุปกรณ์อํานวยความปลอดภัย พร้อมเฝ้าระวังบริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบ เพื่ออํานวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ในขณะเดียวกัน หากมีสายทางที่ได้รับความเสียหาย แขวงทางหลวงชนบทตรัง จะได้นําเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร และวัสดุอุปกรณ์เข้าซ่อมแซมความเสียหายในเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านได้อย่างสะดวกปลอดภัยอย่างเร่งด่วนต่อไป
19/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919125956533
246,299
เทศบาลนครตรัง จัดโครงการอบรมสัมมนาเพิ่มศักยภาพบุคลากร หลักสูตร “คดีปกครองเกี่ยวกับการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร”
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมด้วย คณะผู้บริหารฯ สมาชิกสภาเทศบาล และหัวหน้าส่วนการงาน เป็นประธานฯ และร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการอบรมสัมมนาเพิ่มศักยภาพบุคลากร หลักสูตร “คดีปกครองเกี่ยวกับการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกําหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร” ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา ตรัง โดยมี นายวัลลภ ช่วยบํารุง ปลัดเทศบาลฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในการปฏิบัติตนตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน ทั้งเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจในวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ และเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักกฏหมายปกครอง และแนวทางการปฏิบัติราชการจากคําวินิจฉัยของศาลปกครองเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ สําหรับการจัดอบรมในครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ปลัดเทศบาล รองปลัดเทศบาล ผู้อํานวยการสํานัก/กอง หัวหน้าสํานักปลัดเทศบาล ผู้อํานวยการส่วน หัวหน้าฝ่าย ผู้อํานวยการสถานศึกษา รองผู้อํานวยการสถานศึกษา หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก พนักงานเทศบาล พนักงานครูเทศบาล และพนักงานจ้างตามภารกิจ จํานวน 170 คน โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากศาลปกครองภูเก็ต นายวิชญ์ชัย ธรรมประดิษฐ์ รองอธิบดีศาลปกครองภูเก็ต มาบรรยายให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการปฎิบัติงานของหน่วยงานและบุคลากรในสังกัดเทศบาลทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจนําไปสู่ข้อพิพาททางปกครองต่อไป
19/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919130653538
246,300
เทศบาลนครตรัง จัดโครงการอบรมสัมมนาเพิ่มศักยภาพบุคลากร หลักสูตร “หลักปฏิบัติราชการที่ดีจากคำวินิจฉัยของศาลปกครองที่เกี่ยวข้องกับคดีพิพาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมด้วย คณะผู้บริหารฯ สมาชิกสภาเทศบาล และหัวหน้าส่วนการงาน เป็นประธานฯ และร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการอบรมสัมมนาเพิ่มศักยภาพบุคลากร หลักสูตร “หลักปฏิบัติราชการที่ดีจากคําวินิจฉัยของศาลปกครองที่เกี่ยวข้องกับคดีพิพาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา ตรัง โดยมี นายวัลลภ ช่วยบํารุง ปลัดเทศบาลฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับหลักปฏิบัติราชการที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ การบริหารงานบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกฎหมายปกครองที่เกี่ยวกับการปฎิบัติราชการ และลักษณะข้อพิพาทที่นํามาสู่การฟ้องคดีในศาลปกครอง อีกทั้ง เป็นการพัฒนาบุคลากรในสังกัดเทศบาลนครตรัง ให้มีทักษะความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ต่างๆ อันจะนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลผล สําหรับการจัดอบรมครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย พนักงานเทศบาล พนักงานครูเทศบาล พนักงานสถานธนานุบาล และพนักงานจ้างตามภารกิจ จํานวน 170 คน เข้าร่วมฯ โดยการอบรมได้รับเกียรติวิทยากรจาก นางสาวทัตติรัชช์ พัฒน์ชนะชัย พนักงานคดีปกครองชํานาญการพิเศษ งานช่วยตุลาการ สํานักงานศาลปกครองสงขลา และ นางสาวนพวรรณ ศักดิ์เสรีนุกูลกิจ พนักงานคดีปกครองชํานาญการพิเศษ สํานักงานศาลปกครองสงขลา มาเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรม
19/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919130821539
246,301
บูรณาการโครงการวิจัยสู่ผลงานสร้างสรรค์ เตรียมทูลเกล้าถวายฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ
วันนี้ (18 ก.ย. 66) ณ ห้องรับรองมูลนิธิ 80 ปี ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จิรภรณ์ มั่นเศรษฐวิทย์ หัวหน้าโครงการวิจัย เรื่องการพัฒนาต้นแบบนโยบายการศึกษาบนฐานกระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะเชิงสันติภาพ ที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมคณะ เข้าพบ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศิริชัย นามบุรี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เพื่อรายงานความพร้อมในการเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสเสด็จพระราชดําเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จิรภรณ์ มั่นเศรษฐวิทย์ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า ทางคณะทีมวิจัยฯ ได้เตรียมนําชุดนิทานสําหรับเด็กปฐมวัยไทยเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อการปฏิบัติที่ดีงาม ตามรอยพระยุคลบาทสืบสานศาสตร์พระราชา จํานวน14เรื่อง พร้อมด้วยหลักสูตรสันติศึกษาระดับปฐมวัย ทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเอกสารการเรียนการสอนหลักสูตรสันติศึกษาดังกล่าว อยู่ภายใต้โครงการความร่วมมือการวิจัยระหว่างสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ซึ่งมีโรงเรียนอนุบาลเบตง(สุภาพอนุสรณ์) อําเภอเบตง จังหวัดยะลา ร่วมดําเนินการวิจัยเรื่องการพัฒนาต้นแบบนโยบายการศึกษาบนฐานกระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะเชิงสันติภาพ ที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือในครั้งนี้อีกด้วยหัวหน้าโครงการวิจัยฯ ยังกล่าวต่ออีกด้วยว่า ได้มีการบูรณาการสร้างสรรค์ผลงานต่อยอดร่วมกับโครงการวิจัยชุดการพัฒนาพื้นที่วิจัยเชิงยุทธศาสตร์เพื่อขจัดความยากจนและสร้างโอกาสทางสังคม จังหวัดยะลา (SRA 2566) ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่(บพท.) ในการสร้างสรรค์ออกแบบผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากผ้าพื้นถิ่น แบรนด์ Koto Craft “คอลเล็กชั่นหนูแจ๋ว” จํานวน 2 รูปแบบ เพื่อใช้ใส่นิทานและเอกสารรายงาน โดยการนําเอาผลงานภาพวาดประกอบจากนิทานเรื่องหนูแจ่มทํานา มาประกอบการตัดเย็บ ให้ดูสวยงาม และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ซึ่งผลิตโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ Koto Craft ประกอบด้วยกลุ่มแกนนําสตรีและกลุ่มสตรีครัวเรือนยากจนในพื้นที่ตําบลกอตอตือร๊ะ อําเภอรามัน จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นการดําเนินงานภายใต้โครงการวิจัย(ย่อย) คราฟต์แก้จนเพื่อยกระดับรายได้และส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดยะลา (OM3) โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นิชาวดี ตานีเห็ง เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยดังกล่าว และมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เกสรี ลัดเลีย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยชุดการพัฒนาพื้นที่วิจัยเชิงยุทธศาสตร์เพื่อขจัดความยากจนและสร้างโอกาสทางสังคม จังหวัดยะลา (SRA 2566) เป็นที่ปรึกษาโครงการทั้งนี้ การดําเนินการดังกล่าวถือเป็นความร่วมมือในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อนําทูลเกล้าถวายเนื่องในวโรกาสทรงเสด็จเปิดศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา ณ โรงเรียนอนุบาลเบตง(สุภาพอนุสรณ์) ในวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 ต่อไป
19/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919131338540
246,302
สำนักงานพลังงานจังหวัดปัตตานี จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขี้แจงโครงการฯและซักซ้อมความเข้าใจการรายงานข้อมูลผ่านเวปไซต์ ตามโครงการลดการใช้พลังงานในภาครัฐ ประจำปี 2566
วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมพญาตานี ชั้น 4 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายสมนึก ทริทอง พลังงานจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขี้แจงโครงการฯและซักซ้อมความเข้าใจเกณฑ์การพิจารณาและวิธีการรายงานข้อมูลผ่านเวปไซต์ ตามโครงการลดการใช้พลังงานในภาครัฐ ประจําปี 2566 โดยมีผู้แทนส่วนราชการต่างๆในจังหวัดปัตตานี จํานวน 79 หน่วยงาน เข้าร่วมสัมมนา ว่าที่ร้อยตรีพิสิฐ พิทักษ์บุตร นักวิชาการพลังงานชํานาญการ กล่าวว่า โครงการลดการใช้พลังงานในภาครัฐ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2566 ส่วนที่ 2 ซึ่งจะดําเนินการภายใต้กลไกการทํางานที่ประสานความร่วมมือกันระหว่างกองตรวจราชการ สํานักงานพลังงานจังหวัด 76 จังหวัด กับ สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน เพื่อให้การลดการใช้พลังงานในภาครัฐเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อสื่อสารความเข้าใจที่ตรงกัน โดยมีเป้าหมายให้หน่วยงานราชการ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ํามันเชื้อเพลิงลงร้อยละ 20 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ซึ่งสํานักงานพลังงานจังหวัดจะรับการถ่ายทอดจากสํานักงานนโยบายและแผนพลังงานในประเด็นรายละเอียดเกณฑ์การพิจารณาและเงื่อนไขประเมินผลตัวขี้วัด ในระบบการรายงานผล ผ่านระบบ e-report เพื่อประโยชน์ในการให้คําแนะนําการใช้งานให้กับหน่วยงานในพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศโดยขอบเขตของการดําเนินโครงการ กําหนดให้มีการจัดสัมมนาให้แก่ผู้แทนคณะทํางานของแต่ละหน่วยงาน เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจเกณฑ์การพิจารณาและวิธีการรายงานข้อมูลให้กับผู้แทนคณะทํางานของหน่วยงาน ได้รับทราบและเข้าใจมาตรการลดใช้พลังงานในภาครัฐเข้าใจเกณฑ์การพิจารณา วิธีการเก็บข้อมูลการสังเกตความผิดปกติของข้อมูล จึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ให้แก่ผู้รับผิดชอบของหน่วยงานราชการ ขึ้นในวันนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถนําไปปฏิบัติใช้ในหน่วยงานตนเองได้ และสามารถลดการใช้พลังงานได้ตามนโยบายรัฐบาล ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี
19/9/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919131642543
246,303
จ.นราธิวาส เชิญชวนร่วมชมการแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง และขบวนแห่เรือบุปผชาติทางน้ำ วันที่ 24 กันยายน 2566
วันนี้ (19 ก.ย.66) นายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ตามที่จังหวัดนราธิวาส ได้กําหนดจัดงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 46 ประจําปี 2566 วันที่ 16-25 กันยายน นี้ ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 อําเภอเมืองนราธิวาส โดยภายในงานมีกิจกรรมกองงานที่สําคัญ อาทิ กองงานแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีการแข่งขันเรือ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตชาวประมงของจังหวัดนราธิวาสและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังมีขบวนแห่ทางน้ําที่สวยงามตระการตา โดยจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 ที่บริเวณพลับพลาเฉลิมพระเกียรติสิริราชสมบัตรครบรอบ 50 ปี ริมเขื่อนท่าพระยาสาย แม่น้ําบางนรา อําเภอเมืองนราธิวาสทั้งนี้ ในวันที่ 24 กันยายน เวลา 13.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการแข่งขันเรือกอและ เรือยอกอง และเรือคชสีห์ ชิงถ้วยพระราชทานหน้าพระที่นั่ง พร้อมชมการแสดง ขบวนแห่เรือบุปผชาติทางน้ํา และการแข่งขันเรือฯ ตามลําดับ จากนั้นผู้แทนเรือที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศในการแข่งขัน เข้ารับถ้วยพระราชทาน//ผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขัน 150 คน เข้ารับของที่ระลึก
19/9/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919131958546
246,304
ตรัง เอาใจสายมู ขนมหนูมูสิกะ ขนมโมทะกะ ขนมลาดู ขนมไทยบูชา “พระพิฆเนศ” ช่วงเทศกาล คเณศจตุรถี สุดปังลูกค้าแห่สั่งจองเพียบ
เนื่องในช่วงเทศกาล คเณศจตุรถี ระหว่างวันที่ 19-29 กันยายน 2566 เทศกาล คเณศจตุรถี วันคเณศจตุรถี หรือ วันเกิดพระพิฆเนศ ในปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 19 กันยายน - วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน 2566 เหล่าสาวกผู้ศรัทธามีความเชื่อว่า ในวันนี้พระพิฆเนศจะมีเมตตาเป็นพิเศษ จะเสด็จลงมาฟังคําอธิษฐานและการสวดภาวนาขอพร ซึ่ง 1 ปีมีครั้งเดียวโดยเฉพาะที่ร้านหนมไทยครูทราย ตั้งอยู่ในปั๊มปตท.นาโยงใต้ อําเภอเมือง จังหวัดตรัง นางสาวพาขวัญ (ทราย) เพ็ชรดํา อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน เกิดไอเดียทําขนมมงคลเอาใจสายมู ที่มีทั้งขนมหนูมุสิกะ ขนมลาดูมะพร้าว 9 สี ขนมลาดูถั่วทอง ขนมลาดูดั้งเดิม และแบบชุดเซ็ทประทานพรมีความเชื่อกันว่า หากใครได้นําขนมไปถวายองค์พ่อพระพิฆเนศจะสําเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ยิ่งเป็นขนมหนูมุสิกะ ความเชื่อว่าหากถวายหนูให้กับพระพิฆเนศบ่อยๆจะทําให้พระพิฆเนศมีบริวารมากและเมื่อเราขอพรอะไรไปบรรดาหนูที่เราได้ถวายไปนั้นก็จะช่วยให้พรที่เราขอสมปรารถนาหรือสําเร็จอย่างรวดเร็วขึ้นซึ่งตั้งแต่ที่ ร้านหนมไทยครูทรายเกิดไอเดียจัดทําชุดเซ็ทขนมไทยในการมูขึ้นมา ทําให้มีเหล่าบรรดาสายมู ต่างแห่สั่งจองออนไลน์ เป็นจํานวนมาก เพื่อที่จะนําไปไหว้ขอพรในวันเกิดพระพิฆเนศนี้นางสาวพาขวัญ (ทราย) เพ็ชรดํา อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า ที่ได้เกิดไอเดียในการทําขนมสายมูนั้นเนื่องจากตนเองนับถือองค์พระพิฆเนศอยู่แล้ว และจะไปไหว้ขอพรเป็นประจํา ซึ่งมีความเชื่อว่าการนําขนมไปถวาย และตั้งจิตอธิษฐานขอพรต่อองค์พระพิฆเนศ โดยขนมตนเองจะทําเองทั้งหมด ส่วนใหญ่พรที่ขอ จะขอให้ประสบความสําเร็จในด้านการทําขนมและขายขนม ขอให้ขนมขายดีให้ร้านปังๆๆ และก็ประสบความสําเร็จทุกครั้งมีลูกค้าสั่งขนมทุกวัน และก็มีเสี่ยงโชคบ้างเล็กๆน้อยๆ มีถูกลอตเตอรี่ 2 ตัวบ้าง 3 ตัวบ้าง ได้เกือบทุกงวด จากนั้นก็เลยคิดว่า หันมาทําขนมสายมูไปด้วยเลย เพราะเมื่อเราไปไหว้แล้วก็โพสต์ขนม ที่ทําเองทําให้ลูกค้า ที่นับถือพระพิฆเนศ มีเรียกร้องให้เราทําขนมแบบนี้ขึ้นมา เพื่อที่ลูกค้าจะนําไปถวายด้วยเช่นกัน จนเป็นที่มาในการทําขนมสายมูในครั้งนี้ เมื่อลูกค้ามาซื้อ ตนเองก็จะแนะนําด้วยว่าจะต้องมูแบบไหนไหว้แบบไหนเลือกแบบไหน จะมีที่ทั้งบูชาองค์พระพิฆเนศ บูชาองค์พระแม่ลักษมี หรือแม้แต่ นําอาลัวดอกบัวไปถวายเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม ก็มีลูกค้าสั่ง Order มาเช่นกัน ซึ่งในการทําขนมทุกครั้งตนเองจะพิถีพิถันและใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นขนมที่ทําไปถวายองค์พระ นอกจากลูกค้าได้บุญแล้วเราก็ได้บุญด้วย และขนมของทรายเน้นกินได้ ถวายแล้วสามารถนําขนมกลับมาทานได้ด้วย ได้บุญ อิ่มบุญ อร่อยสําหรับวิธีการทําขนมค่อนข้างทํายากเหมือนกัน เราจะเน้นปั้นมือเองด้วย และใช้แม่พิมพ์ทําด้วย ใช้เวลาในการอบขนม 2-3 ชั่วโมง ซึ่งการทําขนมมูนี้ตนเองได้ไปเรียนทําขนมมา และขนมที่ทําก็เป็นสูตรขนมที่มาจากประเทศอินเดียเลย แป้งที่ใช้ในการทําขนมจะมีแป้งถั่วเขียว แป้งเค้ก แป้งมัน นมธัญพืช ใส่กะทิ ใช้เนยกี่ เน้นรสชาติ หวานน้อยอร่อยมาก มีกลิ่นความเป็นอินเดียนิดๆ สีเหลืองจะใช้สีน้ํามะม่วง สีแดง เราจะใช้น้ําสตอเบอรี่ปั่นลงไปซึ่งเมื่อก่อนเราทําแค่ขนมลาดูและโมทากะ แต่พอไอเดียเริ่มบรรเจิด และขายดีก็เพิ่มมาเป็นลาดูมะพร้าว ลาดูถั่วทอง จัดทําเป็นเซ็ต ที่มีทั้ง โมทกะลาดูจะขายลูกละ 35 บาท 3 ลูก 100 บาท หรือจะสั่งเป็นเซต ละ 99 บาท ก็จะมีทั้งขนมโมทะกะ เทียนกํายานและธัญพืช เซตราคา 299 บาท จะเป็นขนมลาดูมะพร้าว 9 ลูก หรือโมทกะ 9 ลูก และเซตราคา 179 บาท จะมีขนมโมทะกะลาดู เทียนหอม และกํายาน ในส่วนของขนมหนูมูสิกะ ตัวละ 59 บาท สั่ง 2 ตัว 100 บาทและยังมีขนมสําหรับคนที่บูชาพระแม่ลักษมี เราก็ทําขนมนกฮูก อาลัวดอกบัว ให้ลูกค้านําไปถวายอีกด้วย เราจะเน้นแนวขนมสายมู สายเทพหมดเลยเพราะตนเองมีความเชื่อว่าพระพิฆเนศคือเทพแห่งความสําเร็จเมื่อตนเองทําขนมเสร็จ ขนมก็จะขายดีขายหมดทุกครั้ง ซึ่งขนมที่เราทําทั้งหมดวันนี้คือขนมที่ลูกค้าสั่งจองไว้หมดแล้วและเตรียมแพ็คใส่กล่องจัดส่งให้ลูกค้าในวันนี้ ซึ่งตอนนี้เราใช้แป้งทําขนมไปแล้วถึง 30 กิโลกรัม หากสนใจติดต่อสั่งขนมมูได้ ที่เพจ "หนมไทยครูทราย"
19/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919134423556
246,305
มรย. ลงนาม MOU ร่วมกับ วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา “การพัฒนาหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่(ต่อเนื่อง)”
วันนี้ (19 ก.ย. 66) เวลา 10.00 น. มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จับมือกับ วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กับ วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา “การพัฒนาหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่ (ต่อเนื่อง)” โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย นามบุรี รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นประธานเปิด และลงนามบันทึกข้อตกลง พร้อมผู้ลงนามร่วม คุณประกายแก้ว ศุภอักษร ผู้อํานวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา ตัวแทนจากวิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีลงนามซึ่งเป็นคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรจากคณะวิทยาการจัดการ และคณะจากวิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยฯ ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาด้านรองศาสตราจารย์ ดร.นันทรัตน์ นามบุรี คณบดีคณะวิทยาการจัดการ กล่าวว่า การลงนามฯ ในครั้งนี้ เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลากับวิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา ในการพัฒนาหลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่ (ต่อเนื่อง) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนงานทางด้านวิชาการ ด้านหลักสูตร การเรียนการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ และให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน รวมทั้ง การจัดทําหลักสูตรระยะสั้น และพัฒนาศักยภาพ ผู้เรียนและสถานศึกษาทั้งด้านวิชาการ งานวิจัย นวัตกรรม และการพัฒนาขีดความสามารถด้านวิชาชีพ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษา พร้อมทั้งร่วมส่งเสริมศักยภาพสถานศึกษาเครือข่ายให้ตอบโจทย์ผู้เรียน มหาวิทยาลัยฯ เล็งเห็นความสําคัญของการพัฒนาการศึกษา โดยสร้างความร่วมมือทางวิชาการ และการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกของการพัฒนาร่วมกันที่จะให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาต่อไปในอนาคต
19/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919145235595
246,306
นายก อบจ.อุดรธานีพบปะ 80 เกษตรกรผู้ปลูกไผ่ ตามโครงการไผ่อุดรสู่ไผ่โลก
นายวิเชียร ขาวขํา นายก อบจ.อุดรธานี ร่วมพบปะพูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการ สมาชิกสภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ภาคเอกชนและเกษตรกร ในภาพรวมของการอบรมปลูกไผ่เพื่อส่งเสริมพัฒนาอาชีพของประชาชนใน จ.อุดรธานี ของ อบจ.อุดรธานี ซึ่งได้ดําเนินการมาแล้วในหลายพื้นที่ ในงาน โครงการ UDON Bamboo to World Bamboo การอบรม “ไผ่อุดรสู่ไผ่โลก” ณ ห้องทุ่งศรีเมือง ชั้น 3 โรงแรมเซ็นทารา อุดรธานี โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี ประธานกล่าวเปิดงาน พ.ท.วรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี กล่าวรายงาน นายวีรพงษ์ เต็งรังสรรค์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี นายสุมนชาติ แสงปัญญา ปศุสัตว์ จ.อุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการ สมาชิกสภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภาคเอกชนและเกษตรกร เข้าร่วมโครงการฯสําหรับโครงการ UDON Bamboo to World Bamboo การอบรม “ไผ่อุดรสู่ไผ่โลก” เป็นโครงการที่ สภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ร่วมกับ จ.อุดรธานี และหน่วยงาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้จัดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อสร้างการรับรู้คุณลักษณะและประโยชน์ของไผ่ในด้านต่างๆ แนวโน้มและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมไผ่ในต่างประเทศ ข้อมูลด้านตลาดไม้ไผ่และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไผ่รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไผ่เป็นส่วนประกอบทั้งภายในและภายนอกประเทศ 2.เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมฯ ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือ โดยมีผู้เข้าร่วม จํานวน 80 ราย ในวันนี้ได้รับเกียรติจาก นายสภลท์ บุญเสริมสุข อดีต ผอ.สํานักการป่าไม้ต่างประเทศกรมป่าไม้ นางอุไรพรรณ ปรางอุดมทรัพย์ ผอ.ฝ่ายการจัดการความรู้และสร้างความตระหนัก สถาบันการจัดการเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) นางเบญจวรรณ บุ้งทอง ครูเชี่ยวชาญวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี บรรยายพิเศษเกี่ยวกับ “ไผ่อุดรสู่ไผ่โลก”
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919161303647
246,307
ปภ.อุดรธานี สรุปความช่วยเหลือและความเสียหายจากสถานณ์การฝนตกหนักระหว่างวันที่ 14 -17 กันยายน 2566
จากสถานการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับในหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทําให้เกิดสถานการณ์น้ําไหลหลาก น้ําล้นตลิ่ง และท่วมขังบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรและเส้นทางจราจรในหลายพื้นที่ เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ภายใต้การอํานวยการของ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มอบหมาย นายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี/เลขานุการ กอปภ.จ.อุดรธานี พร้อมด้วยหน่วยทหารบรรเทาทุกข์ กอ.รมน. ชลประทาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และอํานวยการให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเมื่อเวลา 13.00 น. ได้ลงพื้นที่ตําบลเชียงยืน อําเภอเมืองอุดรธานี ตําบลเชียงเพ็ง ตําบลปะโค อําเภอกุดจับ ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจากภาวะน้ําล้นตลิ่งและปริมาณฝนสะสม ซึ่ง กอปภ.อําเภอ ได้มอบอาหาร เครื่องดื่มให้ครอบครัวผู้ประสบภัย ประสานหน่วยงานนําเครื่องจักรกลสาธารณภัยอพยพคน สัตว์เลี้ยง และขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่สูง สําหรับพื้นที่ตําบลพันดอน อําเภอกุมภวาปี กอปภ.อําเภอ และ ทต.พันดอน นํากระสอบทรายแจกจ่ายให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ําสะสมในพื้นที่ และมวลน้ําจากพื้นที่อําเภอหนองแสง ท่วมขังที่อยู่อาศัยและถนนและพื้นที่ตําบลน้ําโสม อําเภอน้ําโสม ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 14 อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบความแข็งแรงของสะพานแบรี่ที่ได้ติดตั้งเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่บ้านนาเมืองไทยได้สัญจรจากเหตุน้ํากัดเซาะ พบว่ายังคงมีสภาพพร้อมใช้งาน สามารถใช้สัญจรได้อย่างปลอดภัย สําหรับสถานการณ์น้ําท่วมขังในพื้นที่ตําบลอูบมุง อําเภอหนองวัวซอ สถานการณ์คลี่คลายลงเกือบปกติ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ําให้ เจ้าหน้าที่เวรเฝ้าระวังของ สนง.ปภ.จ.อุดรธานี ติดตามสถานการณ์ ข่าวสารการแจ้งเตือน และประสานงาน กอปภ.อําเภอ อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.กุดจับ เมืองอุดรธานี พิบูลย์รักษ์ เพ็ญ สร้างคอม และ อ.บ้านดุง ท้ายเขื่อนห้วยหลวง ซึ่งได้เปิดประตูระบายน้ําต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2566 ถึงปัจจุบัน เพื่อรักษาสมดุลเขื่อน รวมถึงฝนที่อาจตกเพิ่มเติม ประกอบกับมวลน้ําที่มีอยู่ในพื้นที่ อาจเกิดขึ้นจากภาวะน้ําล้นตลิ่ง น้ําท่วมในพื้นที่เพิ่มเติมได้ สรุปพื้นที่น้ําท่วมขัง น้ําล้นตลิ่ง จากภาวะฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน 2566 เกิดเหตุในพื้นที่ 9 อําเภอ 29 ตําบล 65 หมู่บ้าน ท่วมบ้านเรือนราษฎร 49 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ความเสียหายโดยรวมอยู่ระหว่างตรวจสอบ
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919161551651
246,308
วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา เดินหน้าพัฒนา ขยายเครือข่ายอาชีวะ เพิ่มจำนวนผู้เรียนสายอาชีพ
วันนี้ (19 กันยายน 2566) นางประกายแก้ว ศุภอักษร เป็นประธานจัดโครงการพัฒนาเครือข่ายอาชีวศึกษา ประจําปีการศึกษา 2566 โดยมีนายเอกองค์ หลงราม รองผู้อํานวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา กล่าวรายงาน และผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาเครือข่ายอาชีวศึกษา ประจําปี 2566 โดยมีผู้แทนจาก 10 หน่วยงานทั้งหมด 10 หน่วยงาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมปาหนัน วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลาสําหรับโครงการพัฒนาเครือข่ายอาชีวศึกษา ประจําปี 2566 ภายใต้การดําเนินงานสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีนโยบายในการผลิตและพัฒนากําลังคนในระดับอาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะในการทํางานและการประกอบอาชีพเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยกําหนดวิสัยทัศน์ “ผลิตและพัฒนากําลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูง เพื่อพัฒนาประเทศ”ในส่วนของการดําเนินงานโครงการพัฒนาเครือข่ายอาชีวศึกษา ประจําปี 2566 จะเห็นได้ว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ มีความหลากหลาย ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่ทําให้เรียน นักศึกษาสนใจเรียนสายอาชีพ ได้มีองค์ความรู้ด้านการแนะแนวการศึกษา จึงนับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์ สมควรที่จะได้รับการสนับสนุนและดําเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจําทุกปีทางวิทยาลัยอาชีวศึกษายะลาได้จัดโครงการพัฒนาเครือข่ายอาชีวศึกษา ประจําปี 2566 เพื่อสร้างความร่วมมือและขยายเครือข่ายในการแนะแนวเยาวชน ที่สนใจเรียนสายอาชีพ พัฒนาองค์ความรู้ด้านการแนะแนวการศึกษาให้กับกลุ่ม เป้าหมายที่เป็นเครือข่าย สร้างความเข้าใจในภารกิจของสถานศึกษาและสนับสนุนด้านมวลชนสัมพันธ์และเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณผู้เรียนสายอาชีพ
19/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919161051644
246,309
ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เปิดใช้อาคารหลังใหม่รองรับนักเดินทาง 1,600 คนต่อชั่วโมง และเตรียมพร้อมสู่การเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ
วันนี้ (19 ก.ย. 66) ที่อาคารท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชหลังใหม่ บริเวณอาคารท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช และทีมผู้บริหารท้องถิ่นท้องที่ ร่วมติดตามบรรยากาศการให้บริการของอาคารอาคารท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชหลังใหม่ ซึ่งได้เปิดใช้งานเป็นครั้งแรกในวันนี้ ติดตามการอํานวยความสะดวก การให้แก่บริการนักเดินทาง รวมทั้งสิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ ภายในตัวอาคาร โดยมีนางนวพร มีวาสนา ผู้อํานวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และคณะผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชให้การต้อนรับและรายงานข้อมูลการให้บริการ สําหรับอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ของท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช หรือเทอร์มินอล 2 เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2562 รวมงบประมาณดําเนินการรวม 1,458 ล้านบาท เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการคมนาคมขนส่ง ลดความแออัดของอาคารผู้โดยสาร เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนนครศรีธรรมราช โดยอาคารหลังใหม่นี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,600 คนต่อชั่วโมง คิดเป็นขาเข้า 800 คน/ชม. และ ขาออก 800 คน/ชม. หรือ 4,600,00 คนต่อปี ซึ่งจากเดิมที่รองรับผู้โดยสารได้เพียง 1,600,000 คนต่อปี มีพื้นที่รองรับการจอดรถได้ถึง 1,000 คัน
19/9/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919164354676
246,310
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง จ.สงขลา คุมเข้ม หลังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด
จากการที่ นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับข้อสั่งการจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ําตก และแหล่งท่องเที่ยวทางน้ํา อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังเหตุน้ําป่าไหลหลาก โดยให้ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเห็นว่ามีความสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวให้ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวทันที และได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวัง ชุดกู้ภัย เพื่อสามารถเข้าระงับยับยั้งเหตุการณ์วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีแล้วทางด้านนายปณพล ชีวะเสรีชล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง จ.สงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ําที่น้ําตกโตนงาช้าง ขณะนี้ยังคงปกติ เนื่องจากฝนที่ตกไม่มากนัก แต่ได้มีการกําชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ําอย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้สัญลักษณ์ธงในการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ธงสีเขียว หมายถึง สามารถลงเล่นน้ําได้ ธงสีเหลือง หมายถึง ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการลงเล่นน้ํา และธงแดง หมายถึง บริเวณนี้เป็นเขตอันตราย ไม่ควรลงเล่นน้ําทั้งนี้ นักท่องเที่ยวยังคงเล่นน้ําได้ตามปกติ และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 074 894 804 ในวันและเวลาราชการ
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919193553727
246,311
ป.ป.ช.นครพนม ลงพื้นที่สุ่มตรวจสังเกตการณ์อาหารกลางวันนักเรียน-นมโรงเรียน ป้องกันทุจริตเชิงรุก
วันที่ 19 กันยายน 2566 ที่จังหวัดนครพนม นายสมพจน์ แพ่งประสิทธิ์ ผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดนครพนม ในฐานะหัวหน้าคณะทํางานบูรณาการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในการดําเนินโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน และอาหารกลางวันนักเรียน จังหวัดนครพนม ได้มอบหมายให้นายปริญญา ฤทธิ์ตา หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านหาดแพง (หาดแพงวิทยา) สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 อําเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อสังเกตการณ์และรับทราบข้อมูลการดําเนินโครงการอาหารกลางวันนักเรียน พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ บูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติงาน เพื่อลดความเสี่ยงของการทุจริตในพื้นที่ เป็นไปตามแนวทางการดําเนินงานแก้ไขปัญหาการทุจริตในพื้นที่ของสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดนครพนม ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่จะมีการลงพื้นที่สุ่มตรวจสังเกตการณ์เป็นประจําในพื้นที่ 12 อําเภอของจังหวัดนครพนม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนายปริญญา ฤทธิ์ตา หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบและสังเกตการณ์ในครั้งนี้ เพื่อให้คําปรึกษาหรือข้อเสนอแนะ เป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดการทุจริตในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน และอาหารกลางวันนักเรียน ในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม ไม่ได้มาจับผิดหรือกลั่นแกล้ง เป็นการลงพื้นที่สุ่มตรวจสังเกตการณ์โดยไม่ได้บอกล่วงหน้าก่อน ซึ่งจากการตรวจสังเกตการณ์ไม่พบปัญหา อาหารกลางวันนักเรียนและอาหารเสริมมีคุณภาพดีครบ 5 หมู่ รับประทานได้อย่างปลอดภัยต่อประชาชนและเป็นการขับเคลื่อนแนวทางการป้องกันการทุจริตโดยมีคณะครูโรงเรียนบ้านหาดแพง (หาดแพงวิทยา) และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวันนักเรียนให้ข้อมูลการดําเนินโครงการ และ ดร.วัชราภรณ์ ทีสุกะ ผู้อํานวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา ผู้แทนผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ร่วมลงพื้นที่สังเกตการณ์การดําเนินโครงการอาหารกลางวันในครั้งนี้ด้วย
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919164933681
246,312
ปัตตานี-มอบวุฒิบัตร พร้อมเข็มกลัด อพม.เชี่ยวชาญด้านคนพิการ
ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานวันที่ 19 กันยายน 2566 นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตร พร้อมเข็มกลัด อพม.เชี่ยวชาญด้านคนพิการ ในการอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (เชี่ยวชาญด้านคนพิการ) จังหวัดปัตตานี รุ่นที่ 3 ณ ห้องประชุมศรีนาฆารา ชั้น 3 โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี โดยศูนย์บริการคนพิการจังหวัดปัตตานี มีการขับเคลื่อนงานด้านคนพิการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2556ซึ่งได้กําหนดมาตรการและการสร้างกลไก เพื่อการคุ้มครองสิทธิคนพิการในเชิงนโยบาย ไว้ในกฎหมาย ตลอดจนให้คนพิการได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิทธิสวัสดิการ สิ่งอํานวยความสะดวก อันเป็นสาธารณะและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ งานอาสาสมัครเป็นกลไกเครือข่ายด้านคนพิการหนึ่ง ที่มีบทบาทสําคัญในการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการดังกล่าว สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี โดยศูนย์บริการคนพิการจังหวัดปัตตานี ได้ส่งเสริมบทบาทด้านอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี (อพม.) ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านคนพิการ มีบทบาทชัดเจนในการทํางานด้านคนพิการ การดูแล การส่งเสริมและสนับสนุน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในพื้นที่ ตลอดจนสามารถคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิคนพิการอย่างมีประสิทธิภาพและมีการบริหารจัดการความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ การอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (เชี่ยวชาญด้านคนพิการ) จังหวัดปัตตานี มีการดําเนินการอบรม จํานวน 5 รุ่นๆละ 200 คน ดังนี้รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน รุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน รุ่นที่ 4 ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน รุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2566รวมจํานวน อพม. ผู้เข้ารับการอบรม ทั้งสิ้น 1,000 คน
19/9/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919163830672
246,313
ทหารพัฒนา จัดกิจกรรมสนับสนุนด้านการศึกษาในทุกมิติ ส่งมอบรั้วตาข่ายสนามฟุตบอล ในการพัฒนาด้านกายภาพให้กับโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา วุฒิสภา
วันนี้ (19 ก.ย. 66) เมื่อเวลา 10.30 น. พันเอกบรรณกร วงษ์สุวรรรณ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44 (สี่สี่) เป็นผู้แทนหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกิจกรรมสนับสนุนด้านการศึกษาในทุกมิติ กระทําพิธีส่งมอบการพัฒนาด้านกายภาพให้กับโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา วุฒิสภา ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ณ โรงเรียนบ้านวังกว้าง หมู่ที่ 5 ตําบลป่าไร่ อําแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ซึ่ง พันเอกบรรณกร วงษ์สุวรรรณ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44 ได้ทําการส่งมอบงานก่อสร้างรั้วตาข่ายสนามฟุตบอล พร้อมทั้งได้มอบอุปกรณ์กีฬา และเครื่องคอมพิวเตอร์ จํานวน 10 เครื่อง ให้แก่ โรงเรียนบ้านวังกว้าง โดยมี นางนิยะเนตร จารงค์ ผู้อํานวยการโรงเรียนบ้านวังกว้าง เป็นผู้รับมอบ ทั้งนี้ยังได้เป็นการกระทําพิธีส่งมอบโดยพร้อมเพรียงกันกับโรงเรียนในกองทุนการศึกษาจํานวน 5 โรงเรียน ผ่านระบบ zoom cloud meeting โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง เป็นประธานในพิธีโดยการส่งมอบงานก่อสร้างรั้วตะข่ายสนามฟุตบอล ให้แก่ โรงเรียนบ้านวังกว้างในครั้งนี้ เป็นการสร้างรั้วตะข่ายสนามฟุตบอลความยาว 159 เมตร เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เป็นสถานที่สําหรับเล่นกีฬาฟุตบอลและทํากิจกรรมต่าง ๆ ลดปัญหาความเสียหายของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่เกิดจากลูกฟุตบอล ทั้งนี้ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44 ยังได้ให้การสนับสนุนประตูฟุตบอล และอุปกรณ์กีฬา พร้อมทั้งปรับพื้นที่บริเวณสนามฟุตบอลอีกด้วย
19/9/2023
ภาคใต้
สงขลา
สทท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919164124674
246,314
รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เน้นย้ำให้ช่วยกันผลิตงานคุณภาพ ด้วยหลัก นำ ตาม เก่ง
นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารแผนปฏิบัติราชการ (แผนงาน/โครงการ) และการจัดสรรงบประมาณ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสํานักประชาสัมพันธ์เขต 2 ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานสุรินทร์ อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ว่า หลักการทํางานหรือการผลิตชิ้นงานให้ได้คุณภาพ ที่เน้นย้ํา อยากให้ทุกหน่วยนําไปปฏิบัติให้ได้ มีอยู่ 3 คํา คําแรกคือ “นํา” หมายถึงการนําเนื้อหาหรือคอนเทนท์มาขบคิด วิเคราะห์ แยกแยะให้ได้ว่าคอนเทนท์ของงานชิ้นนั้นๆ คืออะไร โดยเฉพาะในแต่ละพื้นที่ คําที่สองคือ “ตาม” กระบวนผลิตต้องสอดคล้องกับคอนเทนต์ที่เลือกไว้ คําที่สาม คือ เก่ง หมายถึงคนหรือผู้ที่ทํางานตรงนี้ต้องมีความเข้าใจกับงาน ได้รับการพัฒนาให้สามารถทํางานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ทิ้งความถูกต้อง รวดเร็ว เชื่อถือได้ เข้าถึงง่าย ครอบคลุมได้ทั่วถึง ด้วยการตรวจสอบทุกครั้ง
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919194722734
246,315
ปศุสัตว์สุรินทร์ต้อนรับคณะของคุณกัญจนา ศิลปอาชา เยี่ยมช้างสุรินทร์
วันที่ 19 กันยายน 2566 น.สพ.อภิชัย นาคีสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย น.สพ.จรูญวิทย์ นะพรรัมย์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ นายเผ่าพันธุ์ จิรเศรษฐเมธากุล ปศุสัตว์อําเภอชุมพลบุรี และเจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอท่าตูม สํานักงานปศุสัตว์อําเภอชุมพลบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ กรมปศุสัตว์ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดสุรินทร์ นายอําเภอชุมพลบุรี ปลัดอาวุโสอําเภอท่าตูม ผู้กํากับสถานีตํารวจภูธรอําเภอชุมพลบุรี นายกรีติคุณ กรีธาพล ปฏิบัติงานแทนผู้จัดการโครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ผู้นําชุมชน ร่วมให้การต้อนรับการตรวจเยี่ยมช้างของ คุณกัญจนา ศิลปอาชา ณ บ้านช้างพลายสังคม โครงการคชอาณาจักรองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ บ้านช้างพลายทองใบโครงการคชศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และช้างพังน้ําทิพย์ ของนายสง่า บุญประสพ เลขที่ 16 หมู่ที่ 10 ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ได้มีการรับฟังปัญหาและให้คําแนะนําด้านการจัดการและสวัสดิภาพสัตว์แก่เจ้าของช้างเพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919195038736
246,316
นายอำเภอหนองม่วงนำคณะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย น้ำไหลหลาก และมอบถุงยังชีพ เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนในเบื้องต้น จังหวัดลพบุรี
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 13.00 น. นายสุรเดช สร้อยอุทา นายอําเภอหนองม่วง พร้อมด้วย นายยศวิน บํารุงเวช ปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายนิราศรพ พรมกลาง ปลัดอําเภอ พระอธิการสมศักดิ์ ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เงิน กํานันตําบลบ่อทอง นายกองค์การบริหารส่วนตําบลชอนสมบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตําบลบ่อทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 9 ตําบลชอนสมบูรณ์ สมาชิกกิ่งกาชาดอําเภอหนองม่วง สมาชิกกองอาษารักษาดินแดนอําเภอหนองม่วงที่ 11 ร่วมลงพื้นที่ประสบอุทกภัย น้ําไหลหลาก ในพื้นที่อําเภอหนองม่วง ในวันที่ 17 ก.ย. 2566 และได้มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุสาธารณภัย (อุกทกภัย)จํานวน 9 หลังคาเรือน ประกอบไปด้วย หมู่ที่ 1 ตําบลบ่อทอง จํานวน 2 ครัวเรือน หมู่ที่ 2 ตําบลชอนสมบูรณ์ จํานวน 2 ครัวเรือน และหมู่ที่ 9 ตําบลชอนสมบูรณ์ จํานวน 5 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น จํานวน 9 ครัวเรือน จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจความเสียหาย ท่อเหลี่ยมทางข้ามน้ํา ระหว่างหมู่ที่ 12 กับ หมู่ที่ 2 ตําบลชอนสมบูรณ์ จํานวน 1 แห่ง เพื่อเป็นขวัญกําลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในเบื้องต้นอีกด้วย ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919201039748
246,317
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดร้าน ปันรักษ์ สาขาค่ายนเรศวร เพชรบุรี น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาคุณภาพชีวิต ข้าราชการตำรวจและครอบครัว “ ชิม กาแฟหอมกรุ่น กลิ่นขนมกลมกล่อม ”
วันนี้ (19 กันยายน 2566) เมื่อเวลา 11.30 น.พลตํารวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พระภิกษุ ปลัดจังหวัดเพชรบุรี รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ที่ปรึกษาพิเศษ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 หัวหน้าส่วนราชการ คณะแม่บ้านตํารวจ และประชาชน ร่วมงานพิธีเปิดร้านปันรักษ์ สาขาค่ายนเรศวร ณ โครงการร่วมพัฒนาพื้นที่กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน ณ ค่ายนเรศวร อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี พลตํารวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เปิดร้านปันรักษ์ สาขาค่ายนเรศวร สร้างขวัญ กําลังใจให้ข้าราชการตํารวจ พร้อมเปิดเผยว่า ร้านปันรักษ์ สาขาค่ายนเรศวร ได้น้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ข้าราชการตํารวจและครอบครัว ด้วยการสร้างอาชีพเสริม สร้างผลิตภัณฑ์ การบริหารการจัดจําหน่าย เปิดช่องทางการกระจายสินค้า ที่จะช่วยเพิ่มรายได้เป็นสวัสดิการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของข้าราชการตํารวจให้ดีขึ้น สําหรับ ร้านปันรักษ์ คาเฟ่ สาขาค่ายนเรศวร นับเป็นสาขาที่ 6 ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และเป็นสาขาที่ 2 ของกองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน โดยสมาคมแม่บ้านตํารวจ ได้ดําเนินการโครงการปันรักษ์ เพื่อพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของข้าราชการตํารวจ ครอบครัวและชุมชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สานแนวทางการให้ความสําคัญในเรื่องสวัสดิการของข้าราชการตํารวจ ผู้สนใจ หรือนักท่องเที่ยว สามารถแวะ ร้านปันรักษ์ คาเฟ่ สาขาค่ายนเรศวร เป็นจุด Check in แห่งใหม่ ได้มีโอกาสสัมผัสรสชาติของกาแฟอาราบิก้า ซึ่งเป็นผลิตผลของโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน และหาซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ของครอบครัวตํารวจ ขนม ของขบเคี้ยว เสื้อผ้า อาหารพื้นถิ่น สินค้าพื้นเมืองของที่ระลึก ของฝากมากมาย อย่าพลาด “ ชิม กาแฟหอมกรุ่น กลิ่นขนมกลมกล่อม ” ณ ค่ายนเรศวร อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี
19/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919201236749
246,318
นายอำเภอเมืองอำนาจเจริญ พร้อมคณะ ร่วมมอบหมวกกันน็อคให้นักเรียนโรงเรียนปลาค้าววิทยานุสรณ์ ตำบลปลาค้าว อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
วันอังคารที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 07.30 น. นายธนูศักดิ์ เสมอภาค นายอําเภอเมืองอํานาจเจริญ มอบหมายให้ นางวัชราภรณ์ นาท้าว ปลัดอําเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง พร้อมด้วย นางสาวปรีดาพร ดวงจันทร์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันอุบัติภัยและความปลอดภัยทางถนน บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถอํานาจเจริญ นายธีระพงษ์ ยงยุทธ ปลัดอําเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลปลาค้าว กํานัน ผู้ใหญ่บ้านตําบลปลาค้าว ผู้อํานวยการโรงเรียน คณะครูบุคคลากร และนักเรียน โรงเรียนปลาค้าววิทยานุสรณ์ ได้ร่วมมอบหมวกกันน็อคให้นักเรียนโรงเรียนปลาค้าววิทยานุสรณ์ ตําบลปลาค้าว อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ จํานวน 150 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมในการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ เพื่อลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บบริเวณศีรษะและการเสียชีวิตให้กับนักเรียน/นักศึกษาที่มีอายุระหว่าง 15 -18 ปี และเด็กเล็กที่ผู้ปกครองใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการรับ-ส่งไปโรงเรียน
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919195539739
246,319
หอการค้าจังหวัดยโสธร ร่วมบันทึกรายการ “บอกกล่าวเล่าเรื่องเมืองยโสธร” ประชาสัมพันธ์รับรางวัลหอการค้าดีเด่น ประจำปี 2565 และเตรียมจัดงาน YASOTHON RUN 2023 season 2
วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. นายวิโรจน์ ฉัตรหิรัญ ประธานหอการค้าจังหวัดยโสธร ร่วมบันเทปรายการ “บอกกล่าวเล่าเรื่องเมืองยโสธร” เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของหอการค้าจังหวัดยโสธรที่ได้รับรางวัลดีเด่น จากหอการค้าไทย ประจําปี 2565 และ การจัดกิจกรรม YASOTHON RUN 2023 season 2 ดําเนินรายการโดย นางสาวนรีรัตน์ เจริญศิริรัตนา ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร ควบคุมการผลิตโดย นางมยุรี สงวนนาม ประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร และผลิตรายการโดยทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธรโดยการจัดกิจกรรม YASOTHON RUN 2023 season 2 นั้น เปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ทางเพจ YASOTHON RUN 2023 season 2 หรือที่หอการค้าจังหวัดยโสธร สอบถามได้ที่ผู้ประสานคุณมะยม หมายเลขโทรศัพท์ 082-1529907 และกําหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 04.30 น. ณ วิมานพญาแถนจุดแลนด์มาร์คจังหวัดยโสธร ระยะทางการวิ่ง มี 3 ระยะ ได้แก่ 5 กิโลเมตร , 10 กิโลเมตร และ 21.1 กิโลเมตร โดยผู้สมัครร่วมกิจกรรมจะได้รับเสื้อและเหรียญ หากทําเวลาได้ ลําดับ 1-5 ทุกช่วงอายุก็จะได้รับถ้วยรางวัลทั้งชาย-หญิงด้วย ทั้งนี้ 2 สอบถามได้ที่ผู้ประสานคุณมะยม หมายเลขโทรศัพท์ 082-1529907สําหรับรายการ “บอกกล่าวเล่าเรื่องเมืองยโสธร” จะออกอากาศในวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 08.00-09.00 น. ทาง สวท.ยโสธร FM 90.0 MHz และสามารถติดตามได้ทางเพจ Facebook และยูทูป สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร อีกด้วย
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919195724740
246,320
อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี บูรณาการทุกภาคส่วนลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 นายกองตรี ดร.ภาณุพงศ์ ศิริ นายอําเภอสระโบสถ์ พร้อมด้วยปลัดอําเภอ นายก อบต.ทุ่งท่าช้าง สาธารณสุขอําเภอ ท้องถิ่นอําเภอ ผอ.รพ.สต. กํานันตําบลห้วยใหญ่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกันลงพื้นที่ช่วยเหลือให้กําลังใจพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ําเอ่อล้นตลิ่ง บริเวณพื้นที่ตําบลห้วยใหญ่ โดยมอบน้ําดื่ม ยารักษาโรคน้ํากัดเท้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน อําเภอสระโบสถ์ ได้รับมวลน้ําจากอําเภอโคกเจริญ ประกอบกับฝนตกในพื้นที่ ทําให้มวลน้ําไหลสู่พื้นที่ราบลุ่มในตําบลห้วยใหญ่ บริเวณฝายชอนร่วม มีน้ําเอ่อล้นเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน กว่า 20 หลังคาเรือน ซึ่งได้มีการช่วยอพยพผู้สูงอายุออกจากบ้านไปพักในที่ปลอดภัย สําหรับเส้นทางสัญจรยังใช้ได้ปกติ ไฟฟ้าประปายังสามารถใช้การได้ โดยทางอําเภอได้ประสาน อบต.ทุ่งท่าช้าง สํารวจข้อมูลเบื้องต้นและจะให้ความช่วยเหลือต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยคาดว่าหากฝนไม่ตกมาสะสม น่าจะคลี่คลายได้ภายใน 3 วัน
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919201406750
246,321
วนอุทยานโกสัมพี ปิดการท่องเที่ยวเฉพาะพื้นที่ชั่วคราว จากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ส่วนใน โดยนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปให้อาหารลิงด้านหน้าวนอุทยานได้
วันนี้ (19 ก.ย. 66 ) ส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า รายงานสถานการณ์ประจําวันที่ 19 ก.ย.2566 ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น ) เนื่องจากสถานการณ์น้ําในแม่น้ําชิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากปริมาณน้ําฝนสะสมและการระบายของเขื่อนมหาสารคาม ทําให้น้ําชีล้นตลิ่ง และเข้าท่วมในพื้นที่วนอุทยานโกสัมพี สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น ) ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ํา ทําให้ยานพาหนะขนาดเล็กเข้าพื้นที่ไม่ได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ชุมชนใกล้เคียง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานวนอุทยานโกสัมพี จึงประกาศปิดพื้นที่ในส่วนด้านในของวนอุทยานฯ ไม่สามารถเข้าชมในส่วนดังกล่าวได้ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2566 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์น้ําจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปให้อาหารลิงบริเวณด้านหน้าวนอุทยานได้ ทั้งนี้ ทางวนอุทยานโกสัมพี ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ําอย่างใกล้ชิด โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 084-1634365
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาสารคาม
สวท.มหาสารคาม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919194053731
246,322
รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ลงพื้นที่สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารแผนปฏิบัติราชการ(แผนงานโครงการ) และการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
วันนี้ (19 กันยายน 2566) ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานสุรินทร์ (อ่างเก็บน้ําห้วยเสนง) อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารแผนปฏิบัติราชการ (แผนงาน/โครงการ) และการจัดสรรงบประมาณ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของสํานักประชาสัมพันธ์เขต 2 เพื่อสร้างความเข้าใจในแผนปฏิบัติราชการที่แต่และหน่วยต้องรับไปปฏิบัติ และระดมความคิดเห็นเพื่อการผลิตสื่อให้ได้ชิ้นงานคุณภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19 กันยายน 2566 โดยมี นายดุสิต สิงห์คีรี ผู้อํานวยการสํานักประชาสัมพันธ์เขต 2 กล่าวรายงาน มีประชาสัมพันธ์จังหวัด ผู้อํานวยการสถานีวิทยุ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัด และหัวหน้าฝ่ายที่รับผิดชอบงานแผนและงานผลิตสื่อ ในเขตพื้นที่สํานักประชาสัมพันธ์เขต 2 เข้าร่วมการประชุม 70 คนนางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารฯ จะเป็นส่วนสําคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนา ขีดความสามารถในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้การขับเคลื่อนการประชาสัมพันธ์ข่าวสารจากภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ และมีประเด็นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ส่งต่อให้เข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังในการรับรู้ข่าวสารของสาธารณชน ซึ่งจะส่งผลต่อการรับรู้ เข้าใจ และความเชื่อมั่นในข้อมูลข่าวสารของประชาชน สามารถนําข้อมูลข่าวสารไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตจากการประชาสัมพันธ์ของ กรมประชาสัมพันธ์ด้าน นายดุสิต สิงห์คีรี ผู้อํานวยการสํานักประชาสัมพันธ์เขต 2 กล่าวด้วยว่า สํานักประชาสัมพันธ์เขต 2 ได้ ส่งตัวแทน หน่วยสื่อ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และศูนย์ปฏิบัติการดิจิทัล รวมทั้งผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัด ในพื้นที่ภาค 2 เข้าร่วมการประชุมฯ ดังกล่าว เป็นการขยายผล การแบ่งกลุ่มและมอบหมายภารกิจ รวมทั้งระดมความคิดเห็นเพื่อการผลิตสื่อให้ได้ชิ้นงานคุณภาพ ไม่ช็อตฟิล รวมทั้งการรับทราบแนวทาง กระบวนการกํากับ ติดตาม และประเมินผลชิ้นงาน และการจัดส่งรายงานผลการ ดําเนินงานของหน่วยปฏิบัติในระบบ PBMS ด้วยทั้งนี้ กรมประชาสัมพันธ์มุ่งพัฒนาขีดความสามารถในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในรูปแบบต่างๆ ผ่านสื่อทุกช่องทาง และพัฒนาการนําเสนอประเด็นเนื้อหาสําคัญ ให้ตรงกับความต้องการบริโภคข่าวสารของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยมีการจัดทําแผนบริหารประเด็นการประชาสัมพันธ์ (Media Plan) เป็นเครื่องกําหนดทิศทางการสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ และใช้เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ให้มีความน่าสนใจ ส่งผลให้เกิดชิ้นงานคุณภาพ ต่อไปได้
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919200007741
246,323
การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผังเมืองรวมเมืองยะลา
สํานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดยะลา จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก่อนจัดทําร่างผังเมืองรวม ครั้งที่ 1 ผังเมืองรวมเมืองยะลา (ปรับปรุงครั้งที่ 3) โดยมีนายธราวุธ ช่วยเกิด ปลัดจังหวัดยะลาเป็นประธานในการเปิดการประชุมผังเมืองรวมเมืองยะลา จังหวัดยะลา ประกาศให้ใช้บังคับมาแล้ว 3 ฉบับ โดยกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองยะลา พ.ศ 2554 ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ประกาศเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 และได้มีการแก้ไขในรายละเอียดเพิ่มเติม และประกาศเป็นฉบับที่ 2 พ.ศ. 2558 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559ซึ่งปัจจุบันยังมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ จากการประเมินผลผังเมืองรวมเมืองยะลา พ.ศ. 2554 มีมติให้ปรับปรุงผังหรือมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสําคัญ ประกอบกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน และเพื่อให้ก้าวทันแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคต กรมโยธาธิการและผังเมือง จึงได้กําหนดให้มีการดําเนินการวางและจัดทําผังเมืองรวมเมืองยะลา (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ขึ้น โดยมอบหมายให้ บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จํากัด เป็นผู้ดําเนินการวางและปรับปรุงผังเมืองรวม โดยขยายขอบเขตครอบคลุมพื้นที่อําเภอเมืองยะลาทั้งหมด ประกอบด้วย 14 ตําบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน 15 แห่ง ขนาดพื้นที่ประมาณ 320.50 ตารางกิโลเมตรทั้งนี้ ในการวางและจัดทําผังเมืองรวมเมืองยะลา ครั้งที่ 3 ในครั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ตระหนักถึงความสําคัญของการประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นประเด็นต่าง ๆ ที่มีความสําคัญต่อการพัฒนาพื้นที่เมืองยะลา เพื่อจะได้นําข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุม ไปเป็นกรอบแนวทางในการวางและจัดทําผังเมืองรวมเมืองยะลา (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ต่อไปการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก่อนจัดทําร่างผังเมืองรวม ครั้งที่ 1 ผังเมืองรวมเมืองยะลา (ปรับปรุงครั้งที่ 3) มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ และรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับศักยภาพ ปัญหา และข้อจํากัดของพื้นที่เมืองยะลา โดย จัดให้มีการประชุมขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2566 ณ ห้องประชุมเทศบาลนครยะลา
19/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919193720728
246,324
รายงานสถานการณ์น้ำโครงการชลประทานอำนาจเจริญ
รายงานสถานการณ์น้ําโครงการชลประทานอํานาจเจริญณ วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 07.00 น.ปริมาณน้ํา 4 อ่าง 1 เขื่อนอ่างเก็บน้ําพุทธอุทยาน- ความจุ 19.325 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 20.111 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 104.06 % ใช้การได้ 19.220 ล้าน ลบ.ม.อ่างเก็บน้ําห้วยโพธิ์- ความจุ 7.438 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 7.619 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 102.43 % ใช้การได้ 7.075 ล้าน ลบ.ม.อ่างเก็บน้ําร่องน้ําซับ- ความจุ 0.426 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 0.452 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 106.10 % ใช้การได้ 0.334 ล้าน ลบ.ม.อ่างเก็บน้ําห้วยสีโท- ความจุ 10.600 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 9.760 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 92.07 % ใช้การได้ 9.360 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนลําเซบาย- ความจุ 12.200 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําวันนี้ 13.405 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 109.87 % ใช้การได้ 13.305 ล้าน ลบ.ม.สถานการณ์น้ําท่า- แม่น้ําโขง วัดที่สถานีชานุมาน ระดับน้ํา 6.80 เมตร ต่ํากว่าระดับตลิ่ง 6.20 เมตร สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์น้ําปกติ แนวโน้มลดลง- ลําเซบาย วัดที่เขื่อนลําเซบายอํานาจเจริญ ระดับน้ําหน้าเขื่อน +121.40 ม.รทก. ต่ํากว่าระดับพนัง 2.10 เมตร (บริเวณพื้นที่หัวงาน) ระดับท้ายเขื่อน +121.30 ม.รทก. สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์น้ํามากเฝ้าระวัง แนวโน้มทรงตัว- ลําเซบก วัดที่อําเภอลืออํานาจ สะพานข้ามลําเซบก ระดับน้ําอยู่ที่ 5.46 เมตร ต่ํากว่าระดับตลิ่ง 0.46 เมตร สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์น้ํามากเฝ้าระวัง แนวโน้มเพิ่มขึ้นติดตามสถานการณ์น้ํา โครงการชลประทานจังหวัดอํานาจเจริญ 0 4545 1554 ต่อ 101
19/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919222102766
246,325
เหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชรจัดพิธีมอบบ้าน ตามโครงการบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา ประจำปี 2566 (หลังที่ 5)
วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 11.00 น. ที่บ้านเลขที่ 246 ม.10 ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร มอบหมายให้ นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ ปลัดจังหวัดกําแพงเพชร เป็นประธานมอบบ้านกาชาดให้กับ นางสุดใจ บุญมา ตามโครงการบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา ประจําปี 2566 (หลังที่ 5) โดยมี เหล่ากาชาดจังหวัดฯ , นายอําเภอปางศิลาทอง , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น , เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี และมีว่าที่ ร.ต.หญิงกัญญารัตน์ เชียรธานรักษ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกําแพงเพชร กล่าวรายงานด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดกําแพงเพชรมีความประสงค์ที่จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตของครอบครัวที่ได้รับความทุกข์ยาก จึงได้จัดทําโครงการบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา ประจําปี 2566 ทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดกําแพงเพชร ได้สนับสนุนงบประมาณประจําปี 2566 เป็นจํานวนเงิน 1,980,000 บาท ให้กับอําเภอทั้ง 11 อําเภอ นําไปสร้างและซ่อมแซมบ้าน อําเภอละ 180,000 บาท ให้อําเภอดําเนินการต่อไป
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กำแพงเพชร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919222222768
246,326
สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร จัดกิจกรรมการประกวดกล้วยไข่พันธุ์ดี TO BE NUMBER ONE จังหวัดกำแพงเพชร รุ่นที่ 14 ประจำปี 2567
วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 13.30 น. นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร เป็นประธาน เปิดกิจกรรมการประกวดกล้วยไข่พันธุ์ดี TO BE NUMBER ONE จังหวัดกําแพงเพชร รุ่นที่ 14 ประจําปี 2567 ที่ ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ กําแพงเพชร โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ , คณะกรรมการตัดสิน , ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม และมี นายแพทย์ปริญญา นากปุณบุตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกําแพงเพชร กล่าววัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมด้วยจังหวัดกําแพงเพชร ดําเนินโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาตั้งแต่ปี 2546 ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลักของโครงการ คือ การรณรงค์ปลุกจิตสํานึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน และการสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE หรือ TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้โครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ต้องการแสดงให้คนทั่วไปรับรู้ว่าเยาวชน TO BE NUMBER ONE สามารถพัฒนาศักยภาพตัวเองให้เป็นทั้งคนเก่งและดี และเป็นต้นแบบแก่เพื่อนๆ สมาชิก TO BE NUMBER ONE ซึ่งมีผู้เข้าประกวดจํานวน 42 คนด้วยกัน
19/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กำแพงเพชร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230919222349769
246,327
พอ.สว. ประจำวันที่ 20 กันยายน 2566 ออกให้บริการประชาชน
วันนี้ 20 กันยายน 2566 มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่หมู่ 3 ตลาดผลไม้อําเภอวังจันทร์ ตําบลพลงตาเอี่ยม อําเภอวังจันทร์จังหวัดชัยภูมิ ที่หมู่ 2 โรงเรียนหนองไฮโคกสง่า ตําบลห้วยไร่ อําเภอคอนสวรรค์จังหวัดมหาสารคาม ที่หมู่ 2,8 โรงเรียนบ้านหนองบัวดอนโพธิ์ ตําบลเหล่าบัวบาน อําเภอเชียงยืนจังหวัดบึงกาฬ ที่หมู่บ้านคําแคน ตําบลนาแสง อําเภอศรีวิไลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่หมู่ 12 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเปร็งวิสุทธาบดี ตําบลคลองเปรง อําเภอเมืองฉะเชิงเทราขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920092717803
246,328
นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง สุดเจ๋ง ได้คะแนนสูงสุด 100 อันดับแรก โครงการ From Gen Z to be CEO
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่ (สถาบันNEA) จัดโครงการ From Gen Z to be CEO กระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ ประจําปี 2566 ณ ห้องGrand Hill ชั้น3 อาคารTrue Digital Park กรุงเทพฯ มทร.ศรีวิชัย สุดเจ๋งคว้า 3 รางวัล ได้แก่- รางวัล "สถาบันการศึกษาดีเด่นประจําปี 2566" เพื่อเชิดชูเกียรติมหาลัยที่ให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายโครงการเป็นอย่างดี-รางวัล "บุคลากรดีเด่น" ให้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ขวัญหทัย ใจเปี่ยม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย-รางวัลทําคะแนนโครงการFrom Gen Z to be CEO กระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ Top 100 จาก 23,800 ราย ที่เข้าร่วมโครงการได้แก่ นายศุภกร สุขโข นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
20/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920095313828
246,329
เจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส เตือนชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งคาดหมายลักษณะอากาศ ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ช่วงวันที่ 20-25 กันยายน นี้
วันนี้ (20 ก.ย.66) นายปณัย หนูแท้ ผู้อํานวยการสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดหมายลักษณะอากาศช่วงวันที่ 20-25 กันยายน 2566 โดยในช่วงวันนี้ (20 ก.ย.66) มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกําลังอ่อนลง ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 21-25 กันยายน 2566 ลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทําให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สําหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทางสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส จึงขอแจ้งเตือนไปยังชาวเรือ ดังนี้ เรือที่มีความยาวต่ํากว่า 12 เมตร ไม่ควรออกจากฝั่งหรืองดการเดินเรือ เรือที่มีความยาวมากกว่า 12 เมตร ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ ถึงวันที่ 18 กันยายน นี้ พร้อมแนะนําตรวจสอบเครื่องยนต์ อุปกรณ์สื่อสารภายในเรือให้อยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานทุกครั้งก่อนออกเรือ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเรือทุกครั้ง กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินให้ติดต่อทางโทรศัพท์หมายเลข 073-532074 หรือสายด่วน 1199 ตลอด 24 ชั่วโมง
20/9/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920102355842
246,330
อุตุฯ สุพรรณบุรี เตือนเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช
นายประทีป คล้ายสุบรรณ ผู้อํานวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้จะมีฝนตกหนัก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ําไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ระยะนี้ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองสําหรับการเกษตรภาคกลาง ระยะนี้จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สําหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ําไม่ควรปล่อยให้น้ําฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรง แต่ควรเก็บน้ําในบ่อพักก่อนแล้วค่อยปล่อยลงสู่บ่อเลี้ยง เพื่อป้องกันสัตว์น้ําปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ํา เพื่อป้องกันน้ําแยกชั้น และเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้แก่น้ํา ส่วนพื้นที่ซึ่งมีฝนตกและหยุดตกสลับกัน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจําพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช เช่น ใบอ่อนและยอดอ่อน ทําให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ อนึ่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานเกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ําเป็นของตนเอง ควรบูรณะแหล่งเก็บน้ําให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ เพื่อจะได้กักเก็บน้ําไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920103006846
246,331
มทบ.24 อุดรธานี จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 24 ได้จัดกําลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตําบลนากว้าง อําเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เข้าทําการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยจากการเร่งระบายน้ําออกจากเขื่อนห้วยหลวง โดยทําการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ลําเลียงรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประชาชนนอกจากนี้ ชุดหมอเดินเท้าจากโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม ได้ให้บริการทางการแพทย์เบื้องต้น ดูแลสภาวะความเครียด และให้คําปรึกษาด้านความอยู่ ปัญหาด้านสุขภาพ การดูแลตนเอง และป้องกันจากโรคติดต่ออันตรายที่มาจากน้ําท่วม และแจกจ่ายยารักษาโรค ยาสามัญประจําบ้าน ให้แก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่ ต.หมู่ม่น และ ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี
20/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920104046859
246,332
กรมการจัดหางาน รับสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านองค์กร IM Japan ปีงบประมาณ 2566 ครั้งที่ 6
กรมการจัดหางาน โดยคณะอนุกรรมการจัดส่งผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นได้มีประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านองค์กร M Japan ปีงบประมาณ 2566 ครั้งที่ 6 (เพศชาย) ณ ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร โดยกําหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 18 - 29 กันยายน 2566ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถสมัครด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซด์http://toea.doe.go.th หรือผู้สมัครสามารถตรวจสอบสถานะการสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://toea.doe. goa.th ในหัวข้อ "ดูรายการสมัครไปทํางานโดยรัฐจัดส่ง" และหากผลการพิจารณาไม่ผ่านการอนุมัติขอให้ดําเนินการแก้ไขหรือส่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน 3 วันนับจากที่ได้รับแจ้ง
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920141954945
246,333
เรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดร้านกาแฟ หับเผย by คนดี คอฟฟี่ และร้านคนดี คาร์แคร์ เพื่อส่งเสริมสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังภายหลังพ้นโทษ
วันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 08.30 น. ที่บริเวณร้านกาแฟด้านหน้าเรือนจําจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในการเปิดร้านกาแฟหับเผย by คนดี คอฟฟี่ และร้าน คนดี คาร์แคร์ เรือนจําจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นางจิราภรณ์ โมสิกรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่อ่องสอน นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมพิธีเปิดร้านกาแฟหับเผย by คนดี คอฟฟี่ และร้าน คนดี คาร์แคร์ เรือนจําจังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยร้านกาแฟ หับเผย by คนดี คอฟฟี่ ร้านแห่งนี้ได้นําผลผลิตกาแฟของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาจําหน่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ชิมกาแฟ และคนดี คาร์แคร์ เกิดจากแนวคิดในการสร้างงานสร้าง อาชีพในรูปแบบใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาดและสังคมในปัจจุบัน จึงได้นําแนวคิดการฝึกวิชาชีพให้กับ ผู้ต้องขังเรือนจําจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ภายหลังพ้นโทษตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์และการนํากิจกรรมการฝึกวิชาชีพการจําหน่ายกาแฟ การจําหน่ายขนมเบเกอร์รี่ และการฝึกวิชาชีพคาร์แคร์ ถือเป็นครั้งแรก ที่นําแนวคิด การสร้างอาชีพที่ตลาดสังคมภายนอกต้องการ สามารถนําไปประกอบอาชีพได้ภายหลังพ้นโทษ ทั้งการเป็นเจ้าของกิจการหรือลูกจ้าง ตามสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งแต่เดิมเรือนจําฯ จะฝึกวิชาชีพสายสามัญ สายอาชีพ เป็นหลักรวมทั้ง ช่างเฟอร์นิเจอร์ ช่างแกะสลัก ช่างสานเข่ง ช่างเย็บผ้า และการทําอาหารในเรือนจํานายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์ของเรือนจําจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นําแนวคิด การสร้างอาชีพที่ตลาดสังคมภายนอกต้องการ สามารถนําไปประกอบอาชีพได้ภายหลังพ้นโทษ ทั้งการเป็นเจ้าของกิจการหรือลูกจ้าง ตามสถานประกอบการต่างๆ โดยผู้ต้องขังที่ออกฝึกวิชาชีพ ร้านคนดี กาแฟ ร้านคาร์แคร์จะได้รับเงินปันผลจากการฝึกวิชาชีพที่จําหน่ายหรือบริการจากภายนอก ไม่เกินร้อยละ 70 ในแต่ละเดือนทั้งนี้แหล่งงบประมาณในการดําเนินการครั้งนี้ ทางเรือนจําฯ ได้จัดทําโครงการฝึกวิชาชีพการจําหน่ายกาแฟ พัฒนาพฤตินิสัย ไปยังสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล วงเงินประมาณ 3แสนบาท เพื่อใช้ในการจัดซื้อเครื่องชงกาแฟ และค่าใช้จ่ายในการจัดการอบรม นอกจากนี้ ยังได้ใช้เงินนอกงบประมาณด้านการฝึกวิชาชีพของเรือนจํา จํานวนหนึ่งมาสมทบในการตกแต่งสถานที่ เพื่อให้ร้านกาแฟได้มาตรฐานและมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
20/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920115720885
246,334
เชิญร่วมกิจกรรม “รู้ทันปากท้องออนทัวร์” จ. สงขลา พบกูรูตอบทุกปัญหาการเงิน 3 ต.ค. นี้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สํานักงานภาคใต้ จัดกิจกรรม “รู้ทันปากท้องออนทัวร์” อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา พบกูรูปลดหนี้ “อาแปะ” สาธิต บวรสันติสุทธิ์ นักวางแผนการเงิน CFP ให้ความรู้ “รู้ทันทุกปัญหาเรื่องเงิน ตอบทุกคําถามโดยกูรูปลดหนี้” ชวนเรียนรู้การวางแผนการเงิน เทคนิคปลดหนี้ให้หมดไว และรู้ทันมิจฉาชีพหลอกลงทุน พร้อมให้ความรู้ในหัวข้อ “ช่องทางแก้หนี้และมาตรการจัดการภัยการเงิน” โดยธนาคารแห่งประเทศไทย สํานักงานภาคใต้ขอเชิญชวนผู้สนใจใน จ. สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง มาหาคําตอบของทุกปัญหาการเงินในกิจกรรม “รู้ทันปากท้องออนทัวร์” พบกันวันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2566 เวลา 8.30-13.30 น. ณ โรงแรมบุรีศรีภู ถ. ศรีภูวนารถ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา ฟรีตลอดงาน! ลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ www.set.or.th/ruthunpakthong-ontour หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 0 2009 9999
20/9/2023
ภาคใต้
สงขลา
สทท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920125556894
246,335
อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ขยายประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวบริเวณถ้ำปลา จนถึงวันที่ 23 กันยายนนี้
นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง รายงานสถานการณ์ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่า อุทยานแห่งชาติถ้ําปลา-น้ําตกผาเสื่อขอประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวบริเวณถ้ําปลา ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 23 กันยายน 2566 เนื่องจากยังมีฝนตกและเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยอุทยานแห่งชาติถ้ําปลา-น้ําตกผาเสื่อ ได้ขยายระยะเวลาปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในแหล่งท่องเที่ยวถ้ําปลา บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ถผ.1 (ถ้ําปลา) เป็นการชั่วคราว หลังจากวันที่ 8 กันยายน 2566 พื้นที่ภายในอุทยานฯ ได้เกิดน้ําป่าไหลหลากเข้าท่วมแหล่งท่องเที่ยวถ้ําปลาส่งผลทําให้มีเศษซากต้นไม้ กิ่งไม้ วัชพืช และดินโคลนสะสมในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติถ้ําปลา-น้ําตกผาเสื่อ เร่งพัฒนาปรับปรุงทําความสะอาดเศษซากต้นไม้ กิ่งไม้ วัชพืช และดินโคลนที่สะสมในพื้นที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวถ้ําปลา หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ถผ.๑ (ถ้ําปลา) ท้องที่ตําบลห้วยผา อําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอนยังดําเนินการไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งสิ่งอํานวยความสะดวกในพื้นที่ยังไม่พร้อมสําหรับการท่องเที่ยวและพักแรม ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานพัฒนาปรับปรุงซ่อมแชมทําความสะอาดในพื้นที่ในแหล่งท่องเที่ยวถ้ําปลาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงประกาศขยายระยะเวลาปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในแหล่งท่องเที่ยวถ้ําปลา หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ถผ.1 (ถ้ําปลา) ท้องที่ตําบลห้วยผาอําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 17-23 กันยายน 2566 เป็นการชั่วคราว
20/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920133517909
246,336
นายกเทศมนตรีสุไหงโก-ลก เชิญชวนประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ทุเรียนบางนรา (สายแร่ทองคำ) หัวละ 199 บาท ที่กำหนดจัดขึ้น 29-30 กันยายน 2566 นี้ ณ ถนนคนเดิน ฟู๊ดเซ็นเตอร์ สุไหงโก-ลก
ตามมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมกับเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และหจก.รุสกีผลไม้เตรียมจัดงานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนบางนรา หรือ ทุเรียนสายแร่ทองคํา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐิจในพื้นที่ สร้างรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้คนไทยและชาวมาเลเซียได้ลิ้มรสทุเรียนบางนรารสอร่อย โดยสามารถรับประทานทุเรียนได้ไม่อั้นในราคาหัวละ 199 บาท รอบละ 1 ชั่วโมง มีกําหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 29-30 กันยายน 2566 ณ ถนนคนเดิน ฟู๊ดเซ็นเตอร์ อําเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยคูปองมีจํากัดเพียง 300 ใบนางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวว่า เนื่องจากในห้วงนี้เป็นฤดูกาลของผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนราธิวาสได้พัฒนาและยกระดับคุณภาพทุเรียนจากพื้นที่จังหวัดนราธิวาสภายใต้ชื่อทุเรียนบางนรา หรือ ทุเรียนสายแร่ทองคํา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการผลักดันให้เป็นทุเรียนเกรดพรีเมี่ยมที่จดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) ประกอบกับประชาชนในพื้นที่และชาวมาเลเซียมีความสนใจบริโภคทุเรียน ดังนั้นจึงกําหนดจัดกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ทุเรียนในพื้นที่อําเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้สนใจสําหรับรูปแบบการจัดงาน จะจําหน่ายคูปองใบละ 199 บาทล่วงหน้า สามารถติดต่อซื้อคูปองได้ที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โรงเเรมเก็นติ้ง และ หากยังมีบัตรเหลือจะนําไปจําหน่ายหน้างานที่ตลาดฟู๊ดเซ็นเตอร์ โดยขณะนี้มีผู้สนใจซื้อคูปองไปส่วนหนึ่งแล้ว สําหรับผลไม้ที่เปิดให้รับประทานไฮไลท์คือทุเรียนบางนรา พันธุ์หมอนทอง ก้านยาว และชะนีที่ปอกให้รับประทาน ข้าวเหนียวทุเรียนหวานมัน กลมกล่อม รวมทั้งมังคุดและเงาะ สามารถรับประทานได้ไม่อั้นภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมงทั้งนี้ จะเปิดเป็น 3 รอบๆละ 50ท่าน เริ่มกิจกรรมเวลา 12.00 น. และหลังจากที่ร่วมรับประทานบุฟเฟ่ต์ผลไม้แล้ว สําหรับรอบวันที่ 29 กันยายน 2566 ยังสามารถเดินเล่นต่อ ณ ถนนคนเดิน ฟู๊ดเซ็นเตอร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมถนนคนเดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีร้านเปิดบริการมากถึง 250 ร้าน จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของอําเภอสุไหงโก-ลกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่
20/9/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920134235923
246,337
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ รับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัย สายวิชาการ ตำแหน่งอาจารย์ 4 อัตรา ครั้งที่ 3/2566
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย สายวิชาการ ตําแหน่งอาจารย์ จํานวน 4 อัตราผู้ประสงค์จะสมัครสอบสามารถ Download แบบฟอร์มใบสมัครได้ที่ เว็บไซต์https://bit.ly/45lpFJ3 เมื่อผู้สมัครกรอกใบสมัครครบถ้วนแล้วให้ยื่นใบสมัครพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร เป็นไฟล์ PDF เว้นแต่หลักฐานการชําระเงินค่าธรรมเนียมสมัครซึ่งอาจจัดส่งเป็นไฟล์รูปภาพก็ได้ โดยสามารถส่งใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานได้ทางเว็บไซต์ https://bit.ly/3r961krทั้งนี้ ระบบจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 21 - 27 กันยายน 2566 ไม่เว้นวันหยุดราชการโดยระบบจะเปิดรับใบสมัครและเอกสารหลักฐานในวันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2566 เวลา 08.30 น. และปิดรับใบสมัครและส่งเอกสารหลักฐานในวันพุธที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 16.30 น.สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง Facebook Fanpage : "กองบริหารงานบุคคล มทร.สุวรรณภูมิ " (https://www.facebook.com/HRMD.RUS หรือสอบถามได้ทางอีเมลกองบริหารงานบุคคล [email protected]
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920141612943
246,338
นายก อบจ.อุดรธานี เปิดงานปลูกไผ่ มีไม้ ได้อาหาร พร้อมมอบพันธุ์ไผ่ ให้ ต.บ้านเหล่า และ ต.เตาไห อ.เพ็ญ
นายวิเชียร ขาวขํา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ให้เกียรติกล่าวพบปะและเปิดงานโครงการอบรมการปลูกไผ่เพื่อส่งเสริมพัฒนาอาชีพของประชาชนใน พื้นที่จังหวัดอุดรธานี ได้ปลูกไผ่ ซึ่งเป็นพืชที่สามารถ ทําประโยชน์ได้หลายอย่างอาทิทําเป็นไม้ในการก่อสร้าง ได้และสามารถเป็นอาหารได้ ประจําปีงบประมาณ 2566 ณ โรงเรียนบ้านเหล่าดอนเงิน ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยมี นายภูมิวรพล ปานมั่น ปลัดอาวุโส อําเภอเพ็ญ พร้อมด้วยผู้นําท้องที่ ผู้นําท้องถิ่น และประชาชนในเขตพื้นที่ อําเภอเพ็ญให้การต้อนรับ ซึ่งในวันนี้ได้รับการสนับสนุนวิทยากร จากเกษตรจังหวัดอุดรธานี นายปกภณ เครือแก้ว หน.กลุ่มส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกร สนง.เกษตร จ.อุดรธานี และคุณวิวิช พวงสวัสดิ์ พร้อมคณะ ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความชํานาญในด้านการปลูกการดูแล การใช้ประโยชน์ของไผ่ การตลาด และการขยายพันธุ์ไผ่โดยเฉพาะโครงการอบรมการปลูกไผ่เพื่อส่งเสริมพัฒนาอาชีพของประชาชนใน จ.อุดรธานีปลูกไผ่ มีไม้ ได้อาหาร ประจําปีงบประมาณ 2566 จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจในการปลูก ดูแลรักษาไผ่ การขยายพันธุ์ไผ่ , เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีความรู้ ความเข้าใจด้านการเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง , เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) , ส่งเสริมการประกอบอาชีพของประชาชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
20/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920152245983
246,339
จังหวัดน่านจัดพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินประจำปี 2566
วันนี้ (20 ก.ย.66) ที่ห้องประชุมสโมสรนายทหารค่ายสุริยพงษ์ อําเภอเมือง จังหวัดน่าน นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจําปี 2566 และบรมพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้กับผู้แทนหมู่บ้าน ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน โดยมีนายชํานาญ บุดาสา พัฒนาการจังหวัดน่าน กล่าวรายงาน โดยในวันนี้มีหัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอ คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดน่าน ประธานหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดินจาก 15 อําเภอของจังหวัดน่านเข้าร่วมพิธีสําหรับจังหวัดน่าน มีหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน ได้รับมอบเงินขวัญถุงพระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจําปี 2566 จํานวน 18 กองทุน ในปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ประธานในงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจําปี 2566 และพระราชทานเงินขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ให้กับหมู่บ้าน/ชุมชนต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับมอบ เพื่อเป็นการรวมพลังมวลชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จังหวัดน่านจึงได้จัดพิธีมอบเงินขวัญถุงพระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชนต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจําปี 2566 ทั้งนี้ การพระราชทานทุนดังกล่าว เป็นเงินขวัญถุงให้แก่หมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านของตน โดยสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดน่าน ได้จัดพิธีมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจําปี 2566 ขึ้น ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชน กองทุนแม่ของแผ่นดิน กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การมอบเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจําปี 2566 การมอบบรมพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นิทรรศการกองทุนแม่ของแผ่นดิน และการปล่อยขบวนรถอัญเชิญเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน
20/9/2023
ภาคเหนือ
น่าน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920145156956
246,340
ประธานรัฐสภา ส่งสารแสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวโมร็อกโก
สารแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในราชอาณาจักรโมร็อกโกกราบเรียน ประธานสภาผู้แทนราษฎรราชอาณาจักรโมร็อกโก ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินครั้งใหญ่อันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในจังหวัดมาร์ราเกซและบริเวณเทือกเขาแอตลาส ราชอาณาจักรโมร็อกโก เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 ในนามของรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย และในนามของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรราชอาณาจักรโมร็อกโก และผ่านไปยังรัฐบาล พร้อมด้วยประชาชนชาวโมร็อกโก ตลอดจนครอบครัวของผู้วายชนม์ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในครั้งนี้ ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความพยายามในการช่วยเหลือและการฟื้นฟูสถานการณ์ ของรัฐบาลจะช่วยบรรเทาความเสียหายของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่นี้ได้ในเร็ววัน ขอแสดงความนับถืออย่างสูง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร
20/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920154346005
246,341
ปชส.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า สถาบันวิทยาลัยชุมชนจะเปิดรับสมัครและการเสนอชื่อสรรหาผู้อำนวยการสถาบันวิทยาลัยชุมชนตั้งแต่บัดนี้จนถึง 6 ตุลาคม 2566
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ด้วยสถาบันวิทยาลัยชุมชน คณะกรรมการสรรหาผู้อํานวยการสถาบันวิทยาลัยชุมชน จะดําเนินการการรับสมัครและการเสนอชื่อ โดยมีคุณสมบัติครบ สามารถยื่นใบสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 6 ตุลาคม 2566 โดยผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1. ยืนด้วยตนเอง ที่สถาบันวิทยาลัยชุมชน กองบริหารทรัพยากรบุคคล อาคารรัชมังคลาภิเษก 2 ชั้น 10 กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ 022800091 ต่อ 4147 โทรสาร 02284162 (ในวันและเวลาราชการ) 2.ทางไปรษณีย์ไทย ไปยัง "สถาบันวิทยาลัยชุมชน เลขที่ 219 อาคารรัชมังคลาภิเษก 2 ชั้น 10 กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดําเนินนอก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 (โดยถือวันประทับตราไปรษณีย์ต้นทางเป็นสําคัญ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่.กองบริหารทรัพยากรบุคคลโทร.022800091-6 ต่อ 4147 โทรสาร 022804162.
20/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920165148057
246,342
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566
วันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมบึงพระราม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกํากับและติดตามปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 /2566 โดยมี นางสุชานันท์ ศุภราช พลังงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมนายธีรศักดิ์ โฉมศิริ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าของโครงการท่อส่งก๊าซบนบกเส้นที่ 5 ในการปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่พาดผ่าน 5 อําเภอ ประกอบด้วย อําเภอวังน้อย อําเภอบางปะอิน อําเภอบางไทร อําเภอลาดบัวหลวง และอําเภอเสนา รวม 27 ตําบล รวมระยะทางประมาณ 68 กิโลเมตร โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 วิธีการ ได้แก่ การขุดเปิด 49.5 กิโลเมตร การดันลอด 42 จุด และการเจาะลอด 20 จุด ซึ่งมีแผนการก่อสร้างเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 - ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ มีความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการฯ เป็น 2 ส่วน ได้แก่ ลงพื้นที่หน้างานปัจจุบันประมาณ 68 กิโลเมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 65 กิโลเมตร ซึ่งโครงการได้ปฏิบัติตามมาตรการ EIA ครบถ้วน ในด้านต่าง ๆ อาทิ มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอากาศ เสียง ทรัพยากรดินและการชะล้างพังทลายของดิน คุณภาพน้ําและนิเวศวิทยาทางน้ํา ด้านการคมนาคมขนส่ง ด้านการระบายน้ําและการป้องกันน้ําท่วม ด้านการจัดการน้ําเสีย ด้านศิลปกรรมและโบราณคดี ด้านสังคมและการมีส่วนร่วมของประชาชน และด้านสาธารณสุข อาชีวอนามัย ความปลอดภัย อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนที่ยังอยู่ในขั้นตอนดําเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในบริเวณโดยรอบพื้นการก่อสร้าง ทั้งนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและรับเรื่องร้องเรียน โครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 (ส่วนที่ 2) เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร.037 611 092 (เวลาทําการ) โทรศัพท์ 092 284 5731 (24 ชม.) หรือติดต่อทาง E-mail : [email protected]
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
พระนครศรีอยุธยา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920172331085
246,343
หอการค้าอุดรธานีลงนามข้อตกลงกับภาคเอกชนของสปป.ลาวในการพัฒนาโครงการ Smart Mobility เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
เช้าวันนี้ (20 ก.ย.66) นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาโครงการ Smart Mobility ระหว่างหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กับ บริษัท ลาว สมาร์ท โมบิลิตี้ จํากัด ในเครือโคลาว กรุ๊ป โดยมี นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี Mr.Tae Won Han ประธานกรรมการบริหาร CEO บริษัท ลาว สมาร์ท โมบิลิตี้ จํากัด CEO KOLAO GROUP (Lao Smart Mobility Co., Ltd.) ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงฯ มี ผู้แทนเทศบาลนครอุดรธานี คณะกรรมการหอการค้า คณะผู้บริหารบริษัท ลาว สมาร์ท โมบิลิตี้ จํากัด และสื่อมวลชนร่วมงานที่ โรงแรมเดอปริ้นท์เซส อุดรธานีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาโครงการ Smart Mobility ระหว่างหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กับ บริษัท ลาว สมาร์ท โมบิลิตี้ จํากัด ในเครือโคลาว กรุ๊ป เป็นการพัฒนาโครงการ Smart Mobility ประกอบด้วย การพัฒนาแอปพลิเคชัน KOKKOK MOVE จัดทําข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดอุดรธานี เช่น ที่พัก, ร้านอาหาร, แหล่งบันเทิง, สถานที่เที่ยวที่สําคัญ, งานกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เป็นต้น โดยแอปพลิเคชันจะต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานอยู่ภายใต้กฎหมายของไทย การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ โดยการนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เช่น ระบบเรียกรถโดยสาร รถเช่า รถประจําทาง ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดมลพิษทางอากาศ โดยการใช้พลังงานไฟฟ้า การพัฒนาระบบการคมนาคมและขนส่งที่เชื่อมโยงกันทั้งภายในจังหวัด การสร้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผลักดันให้เกิดเป็นโครงการ SANDBOX นําร่อง การขับเคลื่อนอัจฉริยะ ภาคบริการ ในพื้นที่อีสาน โดยเฉพาะการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ให้สามารถทําได้จริง และขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต การสนับสนุนการสร้างเป็นพื้นที่ที่ผ่อนปรนกฎระเบียบหรือข้อกฎหมายต่างๆ รูปแบบธุรกิจหรือการพัฒนานวัตกรรม โดยมีหน่วยงานรัฐกํากับดูแล และอํานวยความสะดวกรอบด้าน ซึ่งจะเป็นก้าวสําคัญในการพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะในประเทศไทย และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในวงกว้าง โดยการใช้งานแอปพลิเคชัน KOKKOK MOVE และการให้บริการ EV Tuktuks Service ส่งเสริมการเดินทางระหว่างไทยและ สปป.ลาว สะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจาก แอพ KOKKOK MOVE มีการใช้งานในฝั่งลาวด้วย ทําให้สามารถใช้ได้ทั้งในจังหวัดอุดรธานี และนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
20/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920170248067
246,344
หอการค้าอุดรธานี ประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมและต่อยอดช่องทางการตลาด จากงานเกษตรแฟร์ลุ่มน้ำโขง
วันนี้ (20 ก.ย.66) เวลา 14.00 น. นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในการส่งเสริมเกษตรกร ต่อยอดช่องทางการตลาด ต่อเนื่องจากงานเกษตรแฟร์ลุ่มน้ําโขง ทั้ง 2 ครั้ง โดยมี นางขนิษฐา โกวิทยากร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี นายพนม สิงห์สาย พัฒนาการจังหวัดอุดรธานี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุม ที่ห้องประชุมชั้น 2 หอการค้าจังหวัดอุดรธานีการประชุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากหอการค้าจังหวัดอุดรธานี จัดงานเกษตรแฟร์ลุ่มน้ําโขง @Udon ทั้ง 2 ครั้ง เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนด้านการเกษตร เกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร เพื่อเป็นการต่อยอด การเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกรจังหวัดอุดรธานี จึงได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ในการระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ การนําตู้จําหน่ายผลิตภัณฑ์แบบหยอดเหรียญ เข้ามาให้บริการในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยภายในตู้จะมีผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร พืช ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านท้องถิ่น เช่น ผ้า หมวก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น เบื้องต้นตั้งเป้าหมายพื้นที่วางจําหน่ายคือ งานเกษตรแฟร์ลุ่มน้ําโขง @Udon 2024 และบริเวณท่าอากาศยานอุดรธานี โดยในที่ประชุมได้มีการเสนอแนะข้อคิดเห็น เช่น สินค้าที่บรรจุในตู้จําหน่ายผลิตภัณฑ์แบบหยอดเหรียญ จะต้องมีฉลากผลิตภัณฑ์ ต้องมี อย. ตู้ควรมีหลากหลายภาษาเช่น ไทย จีน อังกฤษ เพื่อรองรับงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี โดยจะมีการแต่งตั้งคณะทํางานในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะบรรจุในผลิตภัณฑ์
20/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920170356069
246,345
อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี บูรณาการภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ร่วมคิด ร่วมป้องกันปัญหาน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร อาจส่งกระทบต่อเกษตรกรที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว
วันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอําเภอบ้านสร้าง จึงได้ระดมทีมภาคีเครือข่ายทั้งในระดับจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ผู้แทนจากสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปราจีนบุรี, ผู้แทนจากสํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี และผู้แทนจากกรมทรัพยากรน้ํา ตลอดจนทีมอําเภอ ทั้งเกษตรอําเภอบ้านสร้าง ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตําบลบางแตน, ผู้แทนจากศูนย์วิจัยข้าว ลงพื้นที่ ม.4 ต.บางแตน ร่วมประชุมหารือและสังเกตการณ์สถานการณ์น้ําในพื้นที่ เพื่อบูรณาการวางแผนป้องกันปัญหาอุทกภัยทั้งในระยะเฉพาะหน้า และระยะยาว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องเกษตรกร และประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
20/9/2023
ภาคตะวันออก
ปราจีนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920192950119
246,346
จังหวัดปราจีนบุรี ประชุมคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดปราจีนบุรี ติดตามผลการดำเนินการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และขับเคลื่อนการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ปี 2567
วันนี้ (20 ก.ย.66) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้ นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจํานงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดปราจีนบุรี ครั้งที่ 2/2566 โดยประชุมพิจารณารายงานผลการดําเนินการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนของ อปท. เตรียมทวนสอบโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ของ อปท.จ.ปจ การพิจารณาร่างแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ประจําปี 2567 การปิดบ่อขยะของ อบต.วังตะเคียน และชุมชนท่าหิน อ.กบินทร์บุรี ร่วมกับ ปตท จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการขยะพลาสติกที่ชุมชนท่าหิน ทต.กบินทร์บุรี
20/9/2023
ภาคตะวันออก
ปราจีนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920193432121
246,347
คณะกรรมการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนจังหวัดลพบุรี ติดตามการขับเคลื่อนแผนงานโครงการกิจกรรมภายใต้แผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal :SDGs) ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี
วันนี้ (20 ก.ย.66) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมทานตะวัน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นายอําพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนายั่งยืนจังหวัดลพบุรี ครั้งที่ 3/2566 โดยมีพระครูมนูญธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวาสนวราราม เจ้าคณะตําบลโคกตูม เขต 2 พร้อมด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ภาคประชาชน ภาคสื่อมวลชนและภาคผู้นําศาสนาเข้าร่วมประชุม การประชุมในครั้งนี้ เพื่อติดตามการขับเคลื่อนแผนงานโครงการกิจกรรมภายใต้แผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ใน 5 มิติ 17 เป้าหมาย ตามที่กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสหประชาชาติประจําประเทศไทยได้ลงนามประกาศเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในมิติต่างๆ ในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมและให้จังหวัดลพบุรีขยายผลการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัดให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมากที่สุดภายใต้วาระการพัฒนาใน 5 มิติประกอบไปด้วย การพัฒนาคน เศรษฐกิจและความมั่งคั่ง สิ่งแวดล้อม สันติภาพและความยุติธรรม และหุ้นส่วนการพัฒนา นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ภายใต้แผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจําปีงบประมาณ 2567 จังหวัดลพบุรี โดยมอบหมายให้ทุกส่วนราชการนําแผนงาน โครงการ กิจกรรม งบฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับ5 มิติ 17 เป้าหมาย เข้าในแผนปี 2567 ด้วย พร้อมทั้งรายงานผลไตรมาสละ 1 ครั้ง เพื่อนําเสนอผู้บริหารระดับสูงต่อไป
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230920204640135
246,348
จังหวัดลพบุรี เปิดโครงการวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ ดู คลอง แห่งชาติ ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยต่อการอนุรักษ์ และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง
จังหวัดลพบุรี เปิดโครงการวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ํา ดูคลอง แห่งชาติ ประจําปี 2566 เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยต่อการอนุรักษ์ และพัฒนาแม่น้ํา คู คลอง วันที่ 20 กันยายน 2566 ที่วัดญาณเสน ตําบลโก่งธนู อําเภอเมือง จังหวัดลพบุรี นายวชิระ เกตุพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ํา คู คลอง แห่งชาติ ประจําปี 2566 ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2544 ได้มีมติกําหนดให้ วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็น “ วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ํา คูคลอง แห่งชาติ ”เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยต่อการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ํา คู คลอง ซึ่งถือว่า มีความสําคัญต่อวิถีชีวิตของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งทางด้านอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การคมนาคม ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน โดยมีกรมทรัพยากรน้ํา ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา สํานักงานทรัพยากรน้ําที่ 2 จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตําบลโก่งธนู และหน่วยงานภายใต้สังกัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันจัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อให้แม่น้ํา คู คลอง คงสภาพดีอยู่เสมอ โดยเน้นการมีส่วนร่วมขององค์กรทุกภาคส่วนและประชาชน ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา การดูแลอนุรักษ์ พัฒนาแม่น้ํา คูคลอง และการสร้างจิตสํานึกให้องค์กรทุกภาคส่วนและประชาชน มีความตระหนักถึงความสําคัญและคุณค่าของแม่น้ํา คู คลอง เพื่อทําให้ทรัพยากรน้ําในพื้นที่ดีขึ้นในอนาคต โดยผู้ร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ กําจัดผักตบชวา และปล่อยพันธุ์ปลา ลงสู่แม่น้ําลพบุรี ตลอดจน เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยต่อการอนุรักษ์ และพัฒนาแม่น้ํา คู คลอง อย่างพร้อมเพรียงกัน
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921010303174
246,349
องคมนตรีตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ดูโครงการพัฒนา Soft Skill ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม
วันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมดาวเรือง ชั้น 9 อาคารเรียนรวมและอํานวยการ (อาคาร 14) มหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร เพื่อติดตามการขับเคลื่อนการดําเนินงานยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2575) ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาท้องถิ่น ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริหารจัดการ และโครงการพัฒนา Soft Skill ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม โดยมี นายชาธิป รุจเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกําแพงเพชร, รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร ผู้บังคับการตํารวจภูธรกําแพงเพชร, ผู้แทน รอง ผอ.รมน.จังหวัดฯ, พร้อมด้วยส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ จากนั้นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรียานุช พรหมภาสิต รักษาราชการแทนอธิการบดี และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาลี ตระกูล รองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชากรและกิจการพิเศษ นําเสนอการขับเคลื่อนการดําเนินงานโครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ขวัญดาว แจ่มแจ้ง รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนพัฒนาและประกันคุณภาพการศึกษา นําเสนอการขับเคลื่อนการบริหารจัดการมหาวิทยาลัย และการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาท้องถิ่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กมลวัฒน์ ภูวิชิต คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วนัสนันท์ ศิริรัตนะ ผู้อํานวยการมหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร นําเสนอการขับเคลื่อนการดําเนินงานของคณะพลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี รับฟังการนําเสนอโครงการพัฒนา Soft Skill ด้วยวิศวกรสังคม โดยนักศึกษาคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากนั้นพบผู้แทนนักศึกษาที่อาคารกองพัฒนานักศึกษา และเดินทางไปยังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสวนพ่อพอเพียง ตําบลสักงาม อําเภอคลองลาน จังหวัดกําแพงเพชร เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาท้องถิ่นของมหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร ซึ่ง มหาวิทยาลัยได้นําโครงการที่โดดเด่นมาจัดแสดงนิทรรศการ ประกอบด้วย โครงการยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตจากอ้อยด้วยหลัก BCG Model เพื่อนําไปสู่การสร้างต้นแบบกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกอ้อยแบบครบวงจรที่พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนโครงการนวัตกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรมูลค่าสูง โดยภาคีเครือข่ายแบบจตุรภาคี โครงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยและถ่ายทอดสู่โรงเรียนและชุมชน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG โครงการยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาโรงเรียนเครือข่ายขนาดเล็ก และโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนต้นแบบ อําเภอคลองลาน จังหวัดกําแพงเพชรสําหรับประเด็นยุทธศาสตร์ที่ท่านองคมนตรีได้มาตรวจเยี่ยมในปีนี้ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การขับเคลื่อนและผลการดําเนินโครงการเด่นในการพัฒนาท้องถิ่น และยุทธศาสตร์ 4 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยนั้น สภามหาวิทยาลัยได้มีแนวนโยบายเพื่อเป็นแนวทางสําคัญในการดําเนินงานของมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายใน เช่น สร้างความเข้มแข็งของหลักสูตรเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากําลังคนของพื้นที่ ทั้งหลักสูตรระดับปริญญา (Degree) และหลักสูตรแบบไม่เน้นปริญญา (Non Degree) เพื่อสนับสนุนการศึกษาตลอดชีวิต (Lifelong Learning) รวมถึง การพัฒนาหลักสูตรวิชาโทเพื่อเป็นแนวทางเลือกอาชีพที่สองให้แก่บัณฑิต และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อให้มีขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อการพัฒนาหลักสูตร ผลิตบัณฑิต งานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ตลอดจนร่วมให้การสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยสร้างเครือข่ายการพัฒนา ทั้งในส่วนของมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยในพื้นที่ หน่วยงานในระดับกระทรวง ส่วนราชการระดับจังหวัดและท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชน เพื่อให้การทํางานเกิดผลที่สร้างแรงขับเคลื่อนแบบองคาพยพในทุกพันธกิจ รวมถึงสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยส่งเสริมการพัฒนาทักษะ Soft skill ของนักศึกษาด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม รวมถึงให้ทุกหลักสูตรจัดการเรียนการสอนที่ให้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีจิตอาสา มีความรู้ ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงาน และสามารถนําความรู้ไปพัฒนาท้องถิ่นได้
20/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กำแพงเพชร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921005726172
246,350
พอ.สว. ประจำวันที่ 21 กันยายน 2566 ออกให้บริการประชาชน
วันนี้ 21 กันยายน 2566 มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ที่หมู่ 10 บ้านวังข้าวสาร ตําบลกลัดหลวง อําเภอท่ายางจังหวัดอุบลราชธานี ที่หมู่ 4 บ้านหนองขาด ตําบลคําเขื่อนแก้ว อําเภอสิรินธรจังหวัดขอนแก่น ที่หมู่ 1 โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม ตําบลบ้านโนน อําเภอซําสูงจังหวัดสิงห์บุรี ที่หมู่ 12 วัดดงยาง ตําบลทองเอน อําเภออินทร์บุรีจังหวัดชัยนาท ที่หมู่ 10 โรงเรียนบ้านเขาราวเทียนทอง ตําบลเนินขาม อําเภอเนินขามจังหวัดกําแพงเพชร ที่หมู่ 8 วัดยางเลียงใต้ ตําบลคลองแม่ลาย อําเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา ที่หมู่ 11 วัดหลุ่งประดู่ ตําบลหลุ่มประดู่ อําเภอห้วยแถลงจังหวัดหนองบัวลําภู ที่หมู่ 6 บ้านหนองเม็ก ตําบลกุดดู่ อําเภอโนนสังจังหวัดร้อยเอ็ด ที่หมู่ 4 โรงเรียนชุมชนบ้านสว่าง ตําบลสว่าง อําเภอโนนทองขอเชิญชวนประชาชน ในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921093317198
246,351
ศอ.บต. เดินหน้า ตรวจ DNA คนไทยไร้สัญชาติที่ตกหล่น ใน จชต. และประเทศมาเลเซีย ปี 67
จากปัญหาคนไทยไร้สัญชาติ หรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ศอ.บต. ได้ให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิของคนไทยที่ตกหล่นทางทะเบียนราษฎร เพื่อให้สามารถเข้าถึง สิทธิ เสรีภาพ และการบริการขั้นพื้นฐานต่าง ๆ จากรัฐอย่างเท่าเทียมกับประชาชนที่มีสัญชาติไทย นําไปสู่การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและอํานวยความยุติธรรมให้กับประชาชนได้อย่างเท่าเทียมที่ผ่านมา ศอ.บต. ได้ทําการช่วยเหลือโดยครอบคลุมและเป็นธรรม ภายใต้โครงการ “การแก้ไขปัญหาคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร” โดยได้ช่วยเหลือคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 2560-2566 จํานวน 353 คน และคนไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จํานวน 2,018 คน พร้อมทั้งทําการสํารวจอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ และเดินหน้าแก้ปัญหาในเชิงรุก ศอ.บต.ได้ดําเนินการศึกษาวิจัยและสํารวจข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งพบว่ามีคนไทยที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรตกหล่นอีกเป็นจํานวนมาก ทั้งนี้ได้บูรณาการความร่วมมือกับสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู จัดกิจกรรมกงสุลสัญจร ณ พื้นที่ห่างไกลในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พบว่ามีคนไทยที่ยังไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรอีกจํานวนหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2 กรณี ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนสําหรับการอํานวยความสะดวกด้านการออกบัตรประจําตัวประชาชนให้แก่คนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ที่สามารถยืนยันความเป็นคนไทยได้แล้ว ศอ.บต. ได้ดําเนินงานร่วมกับกรมการปกครอง และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู จัดมหกรรมการเข้าถึงบริการภาครัฐสัญจร โดยใช้สํานักทะเบียนอําเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เป็นจุดบริการ one stop service ดําเนินการออกบัตรประจําตัวประชาชนให้แล้วเสร็จ ภายใน 1 วัน โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วม ทั้งสิ้น 72 คนผลการดําเนินงานที่ผ่านมา ส่งผลให้ ศอ.บต. ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประเภทพัฒนาการบริการ ระดับดี ประจําปี พ.ศ. 2566 จากสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในหัวข้อผลงาน “คนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ไม่ไร้ความหวังสู่ทะเบียนราษฎรชนชาติไทยในขณะที่ ปี พ.ศ. 2567 ศอ.บต จะเร่งให้การช่วยเหลือคนไทย ที่ตกหล่นทางทะเบียนราษฎร ด้วยการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคนไทยในประเทศมาเลเซีย พร้อมทั้งจัดมหกรรมการเข้าถึงบริการภาครัฐสัญจร “เราไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง” และกําหนดแผนการดําเนินงานเชิงรุกร่วมกับสถานกงสุลไทย ณ เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย ด้วย
21/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921091427185
246,352
เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี รับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อจัดจ้างเป็นลูกจ้างเหมาบริการตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ จำนวน 1 อัตรา
นายวิชาญ ศรีวิเศษ ผู้บัญชาการเรือนจํากลางสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เรือนจํากลางสุราษฎร์ธานี มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อจัดจ้างเป็นลูกจ้างเหมาบริการของเรือนจํากลางสุราษฎร์ธานี ในตําแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ จํานวน 1 อัตรา เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 26 กันยายน 2566 และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบในวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่เว็บไซต์ www.corrcct.go.th และประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดสรรในวันที่ 29 กันยายน 2566 ที่เว็บไซต์ www.corrcct.go.th ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่.ฝ่ายบริหารทั่วไป งานพัสดุและอาคารสถานที่ โทร. 077272145 ต่อ 104 โทรสาร 077283773.
21/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921112513273
246,353
กระทรวงแรงงาน รับสมัครคนไปทำงานมาเก๊า จำนวน 34 อัตรา เงินเดือนสูงสุด 78,840 บาท
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครคนไทยไปทํางานในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า กับนายจ้าง บริษัท Galaxy Entertainment Group ซึ่งประกอบกิจการโรงแรม คาสิโน และร้านอาหาร จํานวน 7 ตําแหน่ง รวม 34 อัตรา ได้แก่ พนักงานต้อนรับลูกค้าวีไอพี กัปตัน พนักงานเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์/บาร์แอทเทนแดน พนักงานฝ่ายต้อนรับวีไอพี พนักงานนวดสปา และพนักงานนวดฝ่าเท้า เงินเดือนระหว่าง 50,370 - 78,840 บาท โดยนายจ้างจะจ่ายค่าโดยสารเครื่องบินไป - กลับเมื่อทํางานสิ้นสุดสัญญาจ้าง และยังช่วยจ่ายค่าที่พักเดือนละ 500 เหรียญมาเก๊า หรือประมาณ 2,200 บาท อีกทั้งยังจัดอาหารในช่วงเวลาทํางาน ทําประกันสุขภาพ และสวัสดิการอื่นๆ ตามกฎหมายแรงงานมาเก๊ากําหนด ซึ่งการรับสมัครในครั้งนี้เป็นการดําเนินการเพื่อจัดส่งคนหางานไปทํางานต่างประเทศโดยวิธีรัฐจัดส่ง คนหางานไม่เสียค่าสมัครหรือค่าบริการใดๆทั้งสิ้น ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะจ่ายเพียงค่าใช้จ่ายที่จําเป็น ได้แก่ ค่าถ่ายรูป ค่าทําหนังสือเดินทาง (กรณียังไม่มี) ค่าตรวจสุขภาพ ค่าตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และค่าสมัครสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทํางานในต่างประเทศ รวมค่าใช้จ่าย ประมาณ 5,500 บาท สําหรับตําแหน่งงานและคุณสมบัติที่นายจ้างบริษัท Galaxy Entertainment Group ต้องการ จะต้องเชี่ยวชาญการสื่อสารภาษาไทยและจีนกลาง สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี มีใจรักการบริการ สามารถทํางานเป็นกะได้และมีประสบการณ์การทํางานในตําแหน่งที่สมัคร ผู้สนใจศึกษารายละเอียดการสมัครสอบ และดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่ เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th/overseas หัวข้อ “ข่าวประกาศรับสมัคร” โดยยื่นใบสมัครทางอีเมล ตั้งแต่วันที่ 21 - 27 กันยายน 2566 ไม่เว้นวันหยุดราชการ
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921105444249
246,354
สภาวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรีร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี จัดโครงการแหล่งเรียนรู้เมืองแห่งดินสอพอง ภายใต้แนวคิด “ถนนใหญ่ถิ่นไทยพวน หอมหวนกลิ่นดินสอพอง”
สภาวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรีร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี จัดโครงการแหล่งเรียนรู้เมืองแห่งดินสอพอง ภายใต้แนวคิด “ถนนใหญ่ถิ่นไทยพวน หอมหวนกลิ่นดินสอพอง” นายอํานวย จั่นเงิน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สภาวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรีร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี จัดกิจกรรมโครงการจัดแหล่งเรียนรู้เมืองแห่งดินสอพอง "ถนนใหญ่ถิ่นไทยพวน หอมหวนกลิ่นดินสอพอง" โดยภายในงานจะมีกิจกรรมประกอบไปด้วย การตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์จํานวน 9 รูป การไหว้ศาลประจําหมู่บ้านถนนใหญ่ ชมโบสถ์มหาอุตม์วัดถนนใหญ่ ชมนิทรรศการดินสอพอง ลานสาธิต/ลานจัดจําหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม และการแสดงทางวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวนถนนใหญ่/ระบําดินสอพอ จากวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี/ระบําลพบุรี จากโรงเรียนพลร่มอนุสรณ์ มิตรภาพที่ 50 และการแสดงดนตรีลูกทุ่งนักเรียนโรงเรียนวัดถนนแค ขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมงานได้ในวันที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 07.30 น. ณ บริเวณลานเอนกประสงค์วัดถนนใหญ่ ตําบลถนนใหญ่ อําเภอเมือง จังหวัดลพบุรี สําหรับการแต่งกายชุดผ้าไทย/ชุดผ้าพื้นถิ่น
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921101340227
246,355
ประชาสัมพันธ์การประกาศประมูลให้เช่าทรัพย์สินของเทศบาลเมืองยโสธร
เทศบาลเมืองยโสธร ได้ประกาศประมูลให้เช่าทรัพย์สินของเทศบาลเมืองยโสธร ห้องน้ําตลาดสดเทศบาล 1 ณ บริวณตลาดสดเทศบาล 1 ถนนวิทยะธํารงค์ ตําบลในเมือง อําเภอเมืองผู้ยื่นชองประมูลราคา จะซื้อใบเสนอราคาประมูลได้ที่ งานผลประโยชน์ฯ กองคลังเทศบาลเมืองยโสธร ในราคาชุดละ 100 บาท (หนึ่งร้อยบาทถ้วน) ภายในวันที่ 11 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 21 กันยายน 2566 ในเวลาราชการ กําหนดยื่นชองประมูล ในวันที่ 22 กันยายน 2566เวลา 09.00 น. ถึงเวลา 16.30 น. ณ งานผลประโยชน์ฯ กองคลังเทศบาลเมืองยโสธร โดยถือเวลาตามนาฬิกาของเทศบาลเป็นมาตรฐาน และจะเปิดซองต่อหน้าผู้ประมูลทั้งหลาย ในวันที่ 25 กันยายน 2566 เวลา 10.30 น. ณ กองคสัง เทศบาล
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สวท.ยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921110931259
246,356
ปัตตานี-เปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์
ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานวันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมน้ําพราว 2 โรงแรม ซี เอส จังหวัดปัตตานี นางชุติมา หาญเผชิญ ผู้อํานวยการกอง 2 สํานักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง สํานักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ นายไชยพร นิยมแก้ว ปลัดจังหวัดปัตตานี กล่าวให้การต้อนรับ โดยมีผู้อํานวยการสํานักสันติวิธี และธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ผู้แทนสถาบันวิจัยและให้คําปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้แทนสํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิ เครือข่ายภาคประชาสังคม ผู้นําชุมชน เข้าร่วมเวทีรับฟังความเห็นต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์โครงการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดอง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ เพื่อเปิดพื้นที่รับฟัง สร้างการมีส่วนร่วม สร้างความรับรู้เกี่ยวกับการสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในระดับพื้นที่ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม และประชาชน ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมตั้งแต่ต้นน้ํา และการร่วมกันแสดงทัศนคติต่อแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมซึ่งจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่โดดเด่นในภาคใต้ตอนล่าง เติบโตทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เป็นเมืองที่มีศักยภาพในการพัฒนาเมือง โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่มาช่วยในการแก้ไขปัญหา การเปิดพื้นที่เพื่อรับฟังความเห็นต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ เป็นกิจกรรมที่จังหวัดปัตตานีให้ความสําคัญ และนับเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่มในจังหวัดปัตตานี จะได้มีส่วนร่วมกันแสดงความคิดเห็นของตนเองต่อ(ร่าง) แผนปฏิบัติการระดับชาติ สร้างกระบวนการเรียนรู้ระหว่างประชาชนกับประชาชน และประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ และนําไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เน้นการตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างยั่งยืน อีกทั้งได้เกิดเครือข่ายการทํางานร่วมกันต่อไปในอนาคต
21/9/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921112356272
246,357
ผู้ว่าฯอยุธยา เป็นประธานการประชุมสัญจร กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 6 จังหวัด เพื่อวางกลยุทธ์ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ
วันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมดาหลา ชั้น 2 โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ อําเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน จัดประชุมสัญจร ครั้งที่ 6/2566 โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายศรณ์จักร์ชัย ชูวาพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท หัวหน้าหน่วยงานราชการ ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในพื้นที่กลุ่มภาคกลางตอนบนทั้ง 6 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดชัยนาท เข้าร่วมประชุมฯ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดําเนินงานที่ผ่านมานอกจากนี้ มีประเด็นสําคัญที่ร่วมกันพิจารณาวางกลยุทธ์ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สําคัญ อาทิ การบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ภาคกลาง สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ซึ่งจากข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวม ( GPP) ในปีที่ผ่านมา ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน จํานวน 843,468 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.4 ของประเทศ และคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 - 4.0 มีปัจจัยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบนที่สําคัญ คือ จํานวนนักท่องเที่ยว การใช้จ่ายของภาครัฐที่ก่อให้เกิดการจ้างงาน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดขายจากธุรกิจค้าส่งค้าปลีก การให้สินเชื่อเพื่อการลงทุน และราคาสินค้าเกษตร เป็นต้น
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
พระนครศรีอยุธยา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921115541282
246,358
เทศบาลตำบลหัวทะเลขอเชิญร่วมกิจกรรม “เทศกาลหนังเมืองโค (Korat movie festival 2023)"
นายเอกภพ โตมรศักดิ์ นายกเทศมนตรีตําบลหัวทะเล เปิดเผยว่า เทศบาลตําบลหัวทะเลขอเชิญร่วมกิจกรรม “เทศกาลหนังเมืองโค (Korat movie festival 2023)” ในวันที่ 22 - 24 กันยายน 2566 เพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา และเป็นการประชาสัมพันธ์ตลาดน้ําบึงหัวทะเล ชมรมหนังกลางแปลงจังหวัดนครราชสีมา จึงได้รวมกลุ่มกันจัดฉายภาพยนตร์ให้เป็นเทศกาล โดยมีการจัดฉายภาพยนตร์ประเภทต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ไทยร่วมสมัย ภาพยนตร์ไทยที่ทรงคุณค่า ภาพยนตร์ต่างประเทศ ภาพยนตร์สั้น ภาพยนตร์สารคดี พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆ ในงาน เช่น การเสวนาโคราชเมืองหนัง การแสดงของศิลปินดารา การเสวนาผู้สร้าง ผู้กํากับและนักแสดงภาพยนตร์ทั้งระดับประเทศและภูมิภาค การจัดแสดงนิทรรศการภาพยนตร์ การออกร้านจําหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าต่างๆ กิจกรรมสวนสนุก โดยมีพิธีเปิดในวันที่ 23 กันยายน 2566 เวลา 20.00 - 21.00 น. ณ ตลาดน้ําบึงหัวทะเล ตําบลหัวทะเล อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาสําหรับชื่อภาพยนตร์ที่จะฉายแต่ละวันมีดังนี้ วันที่ 22 กันยายนวิ่งควบฟัดโดเรม่อนบัวผันฟันยับlove เลยร้อยเอ็ดRRR(ภาพยนตร์อินเดีย)คางคุใบ(ภาพยนตร์อินเดีย)ท่าแร่ยูไนเต็ดยองบางนักร้องนักเลงมนต์รักลูกทุ่งวันที่ 23 กันยายน 2566ภาพยนตร์ฟิล์มเรื่ององค์บากภาพยนตร์ฟิล์มเรื่องส้มตําวานรคู่ฟัดคิตตี้ killer อีหนูอันตรายนางนากแผลเก่าทิดน้อย5 หัวใจฮีโร่สาวลับใช้วันที่ 24 กันยายน 2566บึงกาฬแรงทะลุกระสุนซิ่งทะลุโลกfast 9พยัคฆ์ทมิฬมหาศึกบาฮูบาลีจึงขอเชิญผู้สนใจร่วมชมภาพยนตร์ได้ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 ที่ตลาดน้ําบึงหัวทะเล ตําบลหัวทะเล อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921120206284
246,359
เริ่มแล้ว กงสุลสัญจร "แม่ฮ่องสอน" ทำพาสปอร์ตสัญจรที่แม่ฮ่องสอน 21-25 กันยายน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ตามนโยบาย "การทูตเพื่อประชาชน"
วันนี้ (21 กันยายน 2566) ที่ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน จํานวนมากทยอยเดินทางไปติดต่อ เพื่อทําหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ซึ่งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางมาเปิดให้บริการทําหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เคลื่อนที่ เป็นวันแรก โดยกําหนดให้บริการระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2566 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. นอกจากนี้ กรมการกงสุล ยังให้บริการในการให้คําปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หรือ ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมการกงสุล Call Center 02-572-8442 และ Walk-in ได้เลยไม่ต้องจองคิว (จํากัด 1,000 คิว/วัน)ทั้งนี้ กรมการกงสุล เปิดให้บริการทําหนังสือเดินทางสัญจร โดยโครงการดังกล่าว กรมการกงสุลได้ออกหน่วยเคลื่อนที่สัญจรไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับประชาชนในการให้บริการทําหนังสือเดินทางในจังหวัดที่ไม่มีสํานักงานหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตสําหรับค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางแบบด่วน เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1.หนังสือเดินทาง เล่ม 5 ปี ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท 2.หนังสือเดินทาง เล่ม 10 ปี ค่าธรรมเนียม 1,500 บาท และงดบริการทําหนังสือเดินทางทูต/ราชการ/ฮัจญ์/พระภิกษุ
21/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921131104294
246,360
จังหวัดลพบุรี แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการบริเวณริมคลองชัยนาท - ป่าสัก แม่น้ำลพบุรี เฝ้าระวังระดับน้ำสูงขึ้น
นายวชิระ เกตุพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดลพบุรีได้รับแจ้งจากกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางว่ากรมชลประทานจะระบายน้ําที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ําสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.60 – 0.80 เมตร ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2566 เป็นต้นไป ประกอบกับ มีหนังสือมีประกาศแจ้งเตือนจากกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) ลงวันที่ 20 กันยายน 2566 ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังระดับน้ําบริเวณแม่น้ําเจ้าพระยา หลังติดตามสถานการณ์น้ําพบว่ามีฝนตกหนักและตกสะสมในภาคเหนือและภาคกลาง คาดการณ์จะมีปริมาณน้ําไหลผ่านสถานีวัดน้ําจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 900-1,200 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที และมีน้ําจากแม่น้ําสะแกกรังและลําน้ําสาขาไหลมารวมกับแม่น้ําเจ้าพระยา ซึ่งจะทําให้มีปริมาณน้ําไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาเป็นจํานวนมาก ดังนั้น จึงต้องมีการระบายน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 700-1,000 ลบ.ม./วินาที โดยจะส่งผลให้ระดับน้ําบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ํานอกคันกั้นน้ํา จังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 0.60-0.80 เมตร ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย.66 อีกด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีเน้นย้ําให้บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการบริเวณริมคลองชัยนาท - ป่าสัก แม่น้ําลพบุรี และประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยง ขอให้เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ําจากทางราชการอย่างใกล้ชิดด้วย
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921131541296
246,361
จังหวัดปัตตานี จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนการปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ โครงการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ ด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์
วันที่ 21 กันยายน 2566 นายไชยพร นิยมแก้ว ปลัดจังหวัดปัตตานี กล่าวต้อนรับ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนการปฏิบัติการด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ โครงการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ ด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ ณ โรงแรม ซีเอส ปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยมี ผู้อํานวยการสํานักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ผู้อํานวยการ 2 สํานักงานขับเคลื่อนการปฏิรูป ยุทธศาสตร์และกาสร้างความสามัคคีปรองดอง ผู้อํานวยการสํานักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถานบันพระปกเกล้า ผู้แทนสถาบันวิจัยและให้คําปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้แทนสํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายภาคประชาสัมคม และผู้นําชุมชนในจังหวัดปัตตานีเข้าร่วมการรับฟังภายในงานมีการเสวนา มิติการสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการ ด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ของประเทศ ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในระดับพื้นที่ ร่วมกันแสดงทัศนคติต่อแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม สร้างการทํางานของเครือข่ายที่ทํางานร่วมกันต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ จังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่โดดเด่นในภาคใต้ตอนล่าง เติบโตทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เป็นเมืองที่มีศักยภาพในการพัฒนาเมือง โดยอาศัยส่วนร่วมของคนในพื้นที่มาช่วยในการแก้ไขปัญหา การเปิดพื้นที่เพื่อรับฟังในครั้งนี้ จึงเป็นกิจกรรมที่จังหวัดปัตตานีให้ความสําคัญ และนับเป็นกิจกรรมที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม จะได้มีส่วรร่วมกันแสดงความคิดเห็นของตนเอง ต่อเจ้าหน้าที่รัฐและนําไปสู่การแก้ไขความขัดแย้ง ที่เน้นการตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป
21/9/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สวท.ปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921135759312
246,362
กงสุลสัญจร "แม่ฮ่องสอน" ทำพาสปอร์ตสัญจรที่แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ตามนโยบาย "การทูตเพื่อประชาชน" ระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2566
วันนี้ (21 ก.ย.66) ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเวลา 13.30 น. ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนกว่า 100 คน ทยอยเดินทางไปติดต่อทําหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ซึ่งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางมาเปิดให้บริการทําหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เคลื่อนที่เป็นวันแรก โดยกําหนดให้บริการระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2566 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. นอกจากนี้ กรมการกงสุลยังให้บริการในการให้คําปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หรือประชาชนสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมการกงสุล Call Center 02-572-8442 Walk-in ได้เลยไม่ต้องจองคิว (จํากัด 1,000 คิว/วัน)สําหรับค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางแบบด่วน เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1.หนังสือเดินทาง เล่ม 5 ปี ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท2.หนังสือเดินทาง เล่ม 10 ปี ค่าธรรมเนียม 1,500 บาท และงดบริการทําหนังสือเดินทางทูต/ราชการ/ฮัจญ์/พระภิกษุ
21/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921141026320
246,363
จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดการประชุมและแถลงแผนรักษาความปลอดภัยองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และมีความปลอดภัยสูงสุด
วันนี้ (21 ต.ค.66) เวลา 13.30 น. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ อาคารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมการถวายความปลอดภัย นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ ประจําปีการศึกษา 2563-2564 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี ในวันจันทร์ ที่ 25 กันยายน ถึงวันพฤหัสบดีที่ 28กันยายน2566โดยมีพลตรีทวนทอง ทองสุภา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 พ.ต.อ.สุริยา รัตนกาญจนพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นายกล้าณรงค์ ยุติธรรม หัวหน้าสํานักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทหาร ตํารวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมดังนั้น เพื่อให้การพระราชทานปริญญาบัตร ในวันและเวลาดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และมีความปลอดภัยสูงสุด ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงต้องมีการประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อการดําเนินการของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
21/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921163200413
246,364
ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จ.พิจิตร เตรียมพร้อมจัด “โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ” ครั้งที่ 9 วันที่ 29 ตุลาคมนี้
วันที่ 21 กันยายน 2566 นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมคณะกรรมการและคณะทํางานโครงการแสงนําใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 9 เฉลิมพระเกียรติ (ครั้งที่ 3/2566) ณ ห้องประชุม สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ซึ่งศูนย์หลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประจําทุกปี ซึ่งในปี 2566 จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ภายใต้หัวข้อ “คนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนไทยไร้สโตรค” (NO STROKE for all Thais by NEW GEN) ในการประชุม มีการติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมทั้งด้านสถานที่ การรักษาความปลอดภัยและการจราจร อาหารเครื่องดื่ม และการปฐมพยาบาล สําหรับกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติฯ กําหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 พร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนจังหวัดพิจิตร กําหนดจัดกิจกรรม ณ บึงสีไฟ เวลา 05.00-07.30 น. ประกอบด้วย การเดินระยะทาง 3 กิโลเมตร การวิ่งระยะทาง 5 และ 10 กิโลเมตร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นดั่งแสงนําใจและเป็นแบบอย่างของประชาชนในการรักษาสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อแสดงความจงรักภักดี กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อสร้างความตระหนักถึงอาการและแนวทางปฏิบัติตนเมื่อเกิดอาการ รวมทั้ง เป็นการรณรงค์เชิญชวนคนไทยหันมาออกกําลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรง
21/9/2023
ภาคเหนือ
พิจิตร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921163431416
246,365
สำนักงานนวัตกรรมแห่งช่าติ ร่วมกับมหาวิทยาลัยสิลปากร จัดแสดง 22 ผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์และนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ในพื้นที่ภาคใต้ชายแดน ที่ปัตตานี
วันที่ 21 กันยายน 2566 ที่อาคารมลายู ลีฟวิ่ง ถนนปัตตานีภิรมย์ อําเภอเมืองปัตตานี นางอัมพิกา คงเหมียน พาณิชย์จังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดการจัดตลาดนวัตกรรม ภายใต้กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการสําหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ของพื้นที่ภาคใต้ชายแดน โดยมี นายภคพงศ์ พรมนุชาธิป ผู้จัดการพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ สํานักงานนวัตกรรมแห่งช่าติ(องค์การมหาชน) เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม นายภคพงศ์ พรมนุชาธิป ผู้จัดการพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นการดําเนินงานเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ความสําคัญกับการเชื่อมโยงต่อการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ด้วยการใช้องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนสร้างจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้เกิดความน่าสนใจแก่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหนึ่งในแนวทางดังกล่าวคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่สามารถสื่อสารถึงอัตลักษณ์ วัฒนธรรมและวิถีชุมชนของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติจึงได้จัดกิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวขึ้นในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการรับรู้ สร้างโอกาสทางด้านธุรกิจ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการขยายผลสู่เชิงพาริชย์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดําเนินการมาต่อเนื่องปีที่ 3 แล้ว และประสบความสําเร็จ ได้รับการตอบรับของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในปีนี้ ได้มีการคัดเลือกผู้ประกอบการจากกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีทั้งประเภทของใช้ อาหาร เครื่องดื่ม รวม 22 ราย เข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การพัฒนาการตลาด การทําตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นต้น และหลังจากเสร็จสิ้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จะมีการทดสอบตลาดโดยนําผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมาจัดแสดง ผ่านกิจกรรมตลาดนวัตกรรม โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนี้
21/9/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921171220433
246,366
ได้ฤกษ์ เปิดวัง จังหวัดลพบุรี กำหนดจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจำปี 2567 ระหว่างวันศุกร์ที่ 9 ถึงวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 นี้
จังหวัดลพบุรี กําหนดจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจําปี 2567 ระหว่างวันศุกร์ที่ 9 ถึงวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ รวมระยะเวลา 10 วัน 10 คืน ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ และโบราณสถานใกล้เคียง และได้ร่วมกันกําหนดรูปแบบการจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์หาราช ประจําปี 2567 โดยกิจกรรมภายในงาน อาทิ การสักการะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขบวนแห่ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์จินตนาการ ลานวัฒนธรรม หมากรุกคน ละครลิง ทหารวังเปลี่ยนเวร แต่งไทยจดทะเบียนสมรส ตํารับโอสถพระนารายณ์ นิทรรศการสมเด็จพระนารายมหาราช ลานวิถีไทย ตลาดย้อนยุค/ตลาดต้องชม การประดับไฟโบราณสถานสวยงามตระการตา และการแสดงจากเวทีกลางตลอดทั้ง 10 คืน โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า การจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจําปี 2567 ในปีนี้จะปรับเปลี่ยนรูปแบบให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ยิ่งใหญ่ตระกาลตากว่าที่เคย เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประจําปี 2567
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921174913447
246,367
เทศบาลนครภูเก็ต จัดการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟอาคารสำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อเรียนรู้วิธีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีเหตุอัคคีภัยเกิดขึ้นในอาคาร
เทศบาลนครภูเก็ต จัดการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟอาคารสํานักงานเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อเรียนรู้วิธีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีเหตุอัคคีภัยเกิดขึ้นในอาคาร วันนี้ (21 กันยายน 2566) นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการจัดการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟอาคารสํานักงานเทศบาลนครภูเก็ต ภายใต้โครงการฝึกอบรมและฝึกซ้อมการปฏิบัติตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจําปีงบประมาณ 2566 เพื่อให้ผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาลและประชาชนได้เข้าร่วมการฝึกซ้อมและเรียนรู้วิธีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีเหตุอัคคีภัยเกิดขึ้นในอาคาร ทั้งนี้ อาคารสํานักงานเทศบาลมีผู้ใช้บริการในแต่ละวันเป็นจํานวนมาก ตลอดจนผู้บริหาร พนักงานเทศบาล ที่ปฏิบัติงานในสํานักงาน หากเกิดเหตุอัคคีภัยภายในอาคารถ้าขาดการเตรียมการและไม่เคยผ่านการฝึกอบรมด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัยขั้นต้น รวมถึงการอพยพหนีไฟ อาจก่อให้เกิดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน เทศบาลนครภูเก็ต ได้ตระหนักเล็งเห็นความสําคัญ ของการป้องกันและระงับอัคคีภัย จึงได้ดําเนินการจัดให้มีการฝึกซ้อมดับเพลิง และอพยพหนีไฟ ณ อาคารสํานักงานเทศบาลนครภูเก็ตในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรม โดยคณะวิทยากรครูฝึกงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด้านทฤษฎีการเกิดไฟ การใช้เครื่องดับเพลิงขั้นต้น จิตวิทยาเมื่อเกิดเพลิงไหม้ การฝึกช้อมการอพยพหนีไฟตามลําดับเหตุการณ์และขั้นตอนการฝึกซ้อมที่กําหนดฝึกช้อมการอพยพหนีไฟ ซึ่งการจัดฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในอาคารในครั้งนี้ นับเป็นผลดึอย่างยิ่ง สําหรับหน่วยงานและประชาชน ให้สามารถปฏิบัติตนได้ถูกต้อง และนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองต่อไป
21/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921175223449
246,368
รถพ่วง 18 ล้อ หางหลุดพลิกคว่ำ ขี้ยางเกลื่อนถนน โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ
วันนี้ 21 กันยายน 2566 เวลา 13.45 น. ที่จังหวัดยะลา ได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งบรรทุกขี้ยาง(ยางก้อน) มาเต็มคันรถ จาก จ.เลย เพื่อจะนํามาส่งในตัวเมืองยะลา ตัวพ่วงเกิดหลุด ทําให้พลิกคว่ําเทกระจาดขี้ยางเกลื่อนถนนสาย 418 (ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา - บ้านคลองขุด อ.หนองจิก จ.ปัตตานี) บริเวณวงเวียนบ้านบ่อเจ็ดลูก หมู่ที่ 6 ต.ยุโป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งเป็นทางเข้าตัวเมืองยะลา ทําให้รถติดยาวนานเป็นชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้ เร่งเข้าเคลียร์พื้นถนน เกรงเกิดอุบัติเหตุซ้ําซ้อนสําหรับที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตัวหัวลาก จอดอยู่ริมถนน ในกระบะบรรทุกขี้ยาง(ยางก้อน)มาเต็มคันรถ ห่างประมาณ 30 เมตร พบตัวพ่วง พลิกตะแคงขวางถนน ปิดกั้นช่องทางจราจรทั้ง 2 เลน พบขี้ยางเกลื่อนผิวถนน เจ้าหน้าที่ตํารวจ จึงได้ปิดกั้นการจราจรชั่วคราว ใช้รถแทรกเตอร์เคลียร์พื้นที่ เพื่อตักขี้ยางให้พ้นผิวถนน เพื่อทําการยกรถตัวพ่วงขึ้นต่อมา ทางตํารวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงยะลา ได้นํารถน้ําของ อบต.ยุโป มาล้างพื้นผิดถนน เพื่อเร่งเปิดเส้นทางการจราจร กระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. สามารถเปิดเดินรถได้ตามปกติเบื้องต้น พ.ต.ต.ภูมินทร์ เทียมเศวต สวป.สภ.ตาเซะ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ได้ให้ข้อมูลว่า คนขับรถ คือ นายกิตติศักดิ์ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุก มาจากในพื้นที่ จ.เลย เพื่อนําขี้ยาง (ยางก้อน) ไปส่งที่ บริษัท ยางไทยปักษ์ใต้ จํากัด สาขายะลา ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เมื่อขับรถมาถึงบริเวณวงเวียนบ้านบ่อเจ็ดลูก รถส่วนหางมีปัญหามีลักษณะสะบัดเหวี่ยง จนทําให้สะบัดตัวพ่วงหลุดจากลําโพงท้ายรถ ส่งผลทําให้ส่วนหางพลิกตะแคงขวางถนน ขี้ยางเกลื่อนผิวถนน โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.ตาเซะ จะได้เชิญตัวคนขับไปสอบสวนและทําการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป
21/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921184128454
246,369
ครูและนักเรียนโรงเรียนปากช่องร่วมบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย
วันนี้ (21 ก.ย.66) คุณธนวัฒน์ สุขเกษม ผู้อํานวยการโรงเรียนปากช่อง สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครรราชสีมา มอบหมายครูและนักเรียนบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย ณ หอประชุมตะโกราย โรงเรียนปากช่อง โอกาสนี้ ดร.กัญญารัตน์ ทัศนานุกลกิจ (เฮียเค็งจิตอาสา) ,คุณจีราพร ชัยประภา รองนายกกิ่งกาชาดอําเภอปากช่อง และคุณพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยววังน้ําเขียว ได้มาร่วมให้กําลังใจผู้บริจาคโลหิต พร้อมนําอาหาร และไอศครีม มาให้กับเจ้าหน้าที่และผู้บริจาคโลหิตด้วยทั้งนี้ ขอเชิญประชาชนร่วมทําบุญกับสภากาชาดไทย เพียงสนับสนุนทําบุญ ซื้อเสื้อ “RUN FOR BLOOD” (สีเขียว)ราคา 300 บาท เท่านั้น ชาวโคราช ซื้อได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. เสาร์ อาทิตย์ เวลา 09.00-15.30 น. ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ชั้น LG เทอร์มินอล 21 โคราช จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-18.30 น. เสาร์ อาทิตย์ เวลา 11.00-17.30 น. ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. สอบถาม โทร.044-938938 ต่อ 1303
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921184136455
246,370
กำลังพล กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบริจาคโลหิต ณ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา
วันนี้ (21 ก.ย.66) กําลังพล กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบริจาคโลหิต ณ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย ต.หนองบัวศาลา จ.นครราชสีมา เพื่อให้มีโลหิตเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยทั้งนี้ ขอเชิญประชาชนร่วมทําบุญกับสภากาชาดไทย เพียงสนับสนุนทําบุญ ซื้อเสื้อ “RUN FOR BLOOD” (สีเขียว)ราคา 300 บาท เท่านั้น ชาวโคราช ซื้อได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. เสาร์ อาทิตย์ เวลา 09.00-15.30 น.ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ชั้น LG เทอร์มินอล 21 โคราช จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-18.30 น. เสาร์ อาทิตย์ เวลา 11.00-17.30 น.ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. สอบถาม โทร.044-938938 ต่อ 1303
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921191407478
246,371